Contenu connexe
Similaire à ข้อสอบO-net วิชาดนตรี (20)
Plus de Thaweekoon Intharachai (6)
ข้อสอบO-net วิชาดนตรี
- 10. 56. ถ้านักเรียนต้องการประพันธ์เพลงโดยการ
ผสมวงมาตรฐานที่ใช้กันมานาน
ควรเป็นวงในข้อใด
1. Violin , violin , viola , cello
2. Violin , trumpet , clarinet , horn
3. Violin , viola , cello , bassoon
4. Violin , violin , oboe , cello
- 15. 29. มารยาทในการชมการแสดงที่ดีคือข้อใด
1. พูดคุยถึงการแสดงฉากต่างๆ เรื่องราวของการแสดงนั้นๆให้กับ
เพื่อนที่ชมด้วยกันฟังตลอดเวลา
2. พยายามอ่านสูจิบัตรการแสดงในเวลาชมการแสดงเพือให้
่
เข้าใจเรื่องราว
3. ปิดเสียงโทรศัพท์และเครืองมือสื่อสารต่าง ๆ และไม่รับ
่
โทรศัพท์เด็ดขาดระหว่างชมการแสดง
4. ลุกไปเข้าห้องน้าระหว่างทีการแสดงอยู่ในช่วงที่ไม่สาคัญ
่
- 27. 68. เครื่องดนตรีในข้อใดที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกัน
3. Oboe , Flute , Saxophone
69. ปัจจุบันการผสมวงมโหรี มีเครื่องดนตรีในข้อใดที่แสดงให้เห็นว่าวงดนตรี
ดังกล่าวเป็นวงมโหรี
2. ซอสามสาย
73. เทคนิคการบรรเลงดนตรีในข้อใดที่มีลักษณะใกล้เคียงกันมากที่สุด
3. จะเข้ และ Guitar
75. เครื่องดนตรีพื้นบ้านในข้อใดที่เป็นเครื่องดนตรีในภูมิภาคเดียวกันทั้งหมด
1. ปี่ พิณ โปงลาง แคน และโหวด
77. เสียงเพลงในข้อใดที่ชาวบ้านร้องเล่นกัน โดยมีลูกคู่ร้องรับช่วงหนึ่งว่า
“เอ้า ฮ้า ไฮ้ เชี้ยบ เชี้ยบ เชี๊ยบ”
3. เพลงเรือ
- 29. 55. การผสมวงดนตรีในข้อใดที่เกิดก่อนและหลัง เรียงลาดับตามยุคสมัย
ประวัติศาสตร์ไทย
4. วงขับไม้ วงปี่พาทย์เครื่องห้า วงเครื่องสายผสมออร์แกน
56. ถ้านักเรียนต้องการประพันธ์เพลงโดยการผสมวงมาตรฐานที่ใช้กันมานาน
ควรเป็นวงในข้อใด
1. Violin , violin , viola , cello
การแสดงดนตรีคลาสสิกจะใช้เครืองดนตรี 4 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ
่
เครื่องสาย (String) แบ่งออกเป็น ไวโอลิน วิโอล่า เชลโล
57. บทเพลงในข้อใดที่มีวัตถุประสงค์ในการประพันธ์ เพื่อใช้ประกอบกิจกรรมใน
สังคมมิใช่การฟังเพื่อความไพเราะ
3. เพลงงามแสงเดือน
- 30. 58. ข้อใดไม่ได้เป็นความแตกต่างของการขับร้องเพลงไทยและเพลงสาก
4. การสร้างอารมณ์เพลงจากถ้อยคา
59. ข้อใดไม่ใช่เทคนิคการขับร้องเพลงไทย
4. การควง
การครั่น
คือ วิธีการทาให้เสียงขับร้องสั่นสะเทือนภายในลาคอ เพื่อให้เกิดความไพเราะใน
การขับร้อง
การกระทบเสียง
คือ การเอื้อนทานองสูงต่าในสองพยางค์สุดท้าย โดยใช้เสียงที่สั้นกว่าปกติหรือ
รวบทานองเอื้อน
การโหน
คือ วิธีการร้องด้วยลีลาที่ต่อเนื่องจากเสียงสูงไปหาเสียงต่า หรือเสียงต่าไปหา
เสียงสูง เพื่อช่วยให้การขับร้องมีความไพเราะนุ่มนวลยิ่งขึ้น
- 32. 29. มารยาทในการชมการแสดงที่ดีคือข้อใด
3. ปิดเสียงโทรศัพท์และเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ และไม่
รับโทรศัพท์เด็ดขาดระหว่างชมการแสดง
ปิดเสียงโทรศัพท์และเครื่องมือสื่อสารต่าง และไม่รับ
โทรศัพท์เด็ดขาดระหว่างชมการแสดง มารยาทในการชมการ
แสดงที่ดีนั้นผู้เข้าชมไม่ควรพูดคุยหรือวิจารณ์การแสดงขณะที่
มีการทาการแสดงอยู่ และควรอ่านสูจิบัตรเพื่อทาความเข้าใจ
กับรายการการแสดงก่อนการแสดงเริ่ม ไม่ควรพุดคุยโทรศัพท์
หรือลุกไปเข้าห้องน้าขณะมีการแสดงอยู่ เนื่องจากจะรบกวน
ผู้ชมรอบข้างและทาลายสมาธิของผู้แสดงซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็น
มารยาทสากลที่ผู้ชมการแสดงทุกท่านควรปฏิบัติ
- 33. 30. ในการแสดงงิ้ว สีของเครืองแต่งกายทีตัวละครสวมใส่ สามารถบ่ง
่
่
บอกลักษณะนิสัยได้ ดังเช่น ขุนนางที่มีคุณธรรมจะสวมชุดสีแดงหรือสี
ฟ้า แต่ถ้าเป็นขุนนางทีคดโกง จะสวมชุดสีอะไร
่
4. สีดา
สีที่ใช้ในการแสดงงิวนั้นจะบ่งบอกถึงวัยวุฒิ อุปนิสัย และตาแหน่ง
้
ของบุคคลนั้น ดังนั้นผู้ที่แสดงเป็นขุนนางผูคดโกง จึงควรแต่งกายด้วย
้
สีดา เนื่องจากสีดาเป็นสีที่แสดงถึงชายที่โหดเหี้ยม ก้าวร้าว
1. สีเขียวเข้ม หมายถึง ชายที่มีคุณธรรม
2. สีม่วง เป็นสีของตัวละครที่วาดหน้า
3. สีน้าเงิน เป็นสีของผูที่มียศสูง
้
- 34. 31. ข้อใดที่มีความสัมพันธ์กันในเชิงศิลปะการแสดง
1. The Tgar and Carpenter – จันทกินรี
The Tgar and Carpenter – จันทกินรี
ลักษณะของการแสดงต่างๆ สามารถแบ่งแยกได้ดังนี้
1. The Tgar and Carpenter ละคร – จันทกินรี เป็นละครดึกดาบรรพ์
2. The Nut Cracker คือ นาฏศิลป์ตะวันตก, บัลเลต์ - รามายณะ
(อินโดนีเซีย) เป็นการแสดงละครคล้ายโขนของไทย แบ่งเป็นตอนๆ
3. คาบูกิ คือ ละครแบบญี่ปุ่น – กถักกฬิ คือ นาฏศิลป์อินเดีย
4. วายังวอง เป็นการเชิดหุ่นมักพบในแถบประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย
– มณีปุรี เป็นนาฏศิลป์อินเดีย
ถ้าพิจารณาจากตัวเลือกทั้งหมดจะเห็นได้ว่าการแสดงในข้อต่างๆ เป็น
การแสดงที่มีความแตกต่างกันแต่มีการแสดงในตัวเลือกที่ 1 เท่านั้นที่เป็นการ
แสดงในรูปแบบเดียวกันนั่นคือ รูปแบบของละคร
- 35. 32. สมัยราชวงศ์ใดของจีนที่ละครหุ่นมีความหลากหลายและโดดเด่นเป็นอย่างมาก
4. ราชวงศ์ซ่ง
ละครหุ่นของจีน เป็นศิลปะการแสดงที่มีมาอย่างยาวนานสืบค้นได้ถึงช่วงยุค
ราชวงศ์ฮั่น (พ.ศ.337-763) แต่ในช่วงราชวงศ์ซ่ง (พ.ศ.1503-1822) หุ่นได้มี
วิวัฒนาการอย่างโดดเด่น ดังนี้
1. เนื้อเรื่องมีความหลากหลายมากขึ้นโดยแสดงประกอบผู้เล่าเรื่อง
2. หุ่นมีหลายประเภท เช่น หุ่นสาย หุ่นน้า หุ่นมนุษย์ เป็นต้น
3. ทักษะการเชิดหุ่นทาให้หุ่นมีลักษณะเหมือนกัน
4. มีการใช้เชือกและเหล็ก หรือโลหะมาประกอบการทาหุ่นเป็นครั้งแรก
ข้อ 1 สมัยราชวงศ์ฮั่นกาเนิดหุ่นเงาและพัฒนาให้เคลื่อนไหวด้วยกลไกมาก
ขึ้น กาเนิดสถาบันคีตศิลป์
ข้อ 2 สมัยราชวงศ์สุย มีการปรับปรุงละครหุ่นให้สามารถเคลื่อนไหวได้ตาม
ความต้องการของผู้เชิด มีโรงละคร
ข้อ 3 สมัยราชวงศ์ถังกาเนิดสถาบันการแสดงทั้งชายและหญิง
- 36. 33. นาฏศิลป์อินโดนีเซียแบบใดที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
4. แบบสุมาตรา
นาฏศิลป์อินโดนีเซียแบบบาหลี ก่อกาเนิดจากการผสมผสานดัดแปลง
ระหว่างความเชื่อของฮินดูแบบอินเดียกับการนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวพื้นเมือง
บาหลี หล่อล้อมขึ้นมาเป็นศาสนาฮินดูในแบบของบาหลี โดยการแสดงจะมีลีลา
ที่เร้าใจและมีชีวิตชีวา โดยการแสดงแบบทุกชุดมีความเกี่ยวข้องกับศาสนาและ
ใช้แสดงประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเป็นส่วนใหญ่
ข้อ 1 นาฏศิลป์แบบสุราการ์ตามีลักษณะแบบราชสานักคล้ายแบบยอร์ก
ยาการ์ตา ไม่นิยมใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
ข้อ 2 นาฏศิลป์แบบซุนดาคล้ายแบบยอร์กยาการ์ตา จะเน้นการใช้ผ้า ไม่
นิยมใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
ข้อ 4 นาฏศิลป์แบบสุมาตราจะเน้นการแสดงนิทานชาวบ้านและราชสานัก
ไม่นิยมใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา