Contenu connexe
Plus de Sirin Amornsrisatja
Plus de Sirin Amornsrisatja (18)
ไลเคน
- 2. ชีวิตของไลเคน
พบไลเคนได้ที่ไหน?
ไลเคนเติบโตได้ทั่วไปตั้งแต่หนาวจัดแบบขั้วโลก เช่น ที่ทวีปแอนตาร์คติค
(Antarctic) ซึ่งตั้งอยู่ที่ละติจูด 86 องศาใต้จนถึงร้อนและแห้งแล้งแบบ
ทะเลทราย (desert) รวมถึงร้อนชื้น (humid tropic) จากชายฝั่งทะเลจนถึง
เทือกเขาสูง เช่น เอเวอเรส (Everest) ซึ่งสูงถึง 7,500 เมตร ก็พบไลเคน
แต่ไลเคนไม่สามารถเติบโตได้ในที่ๆ มีมลภาวะทางอากาศเลวร้าย
ที่เกำะอำศัย (substrate) ของไลเคน
ไลเคนอาศัยเกาะอยู่กับผิวหน้าของสิ่งต่างๆ ที่พบเสมอ คือกิ่ง ลาต้น
ของต้นไม้ ตามหิน เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบไลเคนเกาะอาศัยอยู่บน
ผิวหน้าของวัตถุต่างๆ เช่น แผ่นป้ายโลหะ ผนังคอนกรีต หลังคา
กระเบื้อง ขวดแก้ว
ไลเคนไม่ทาอันตรายต่อสิ่งที่เกาะอาศัย เนื่องจากไลเคนสร้างสาร
อินทรีย์เพื่อใช้ในการเติบโตได้เองโดยสาหร่ายใช้แร่ธาตุสารอนินทรีย์ที่
ละลายอยู่ในน้าฝน หมอก น้าค้างและคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จาก
บรรยากาศในการ สังเคราะห์แสงสร้างอาหารแล้วแบ่งอาหารให้ราใช้ใน
การเติบโต ส่วนราก็ใช้เส้นใยช่วยดูดซับน้าให้สาหร่ายและปกป้อง
สาหร่ายจากอันตรายต่าง ๆ เช่น แสงที่จัดจ้า
Trentepohlia
สำหร่ำยในไลเคน (Photobiont)
สาหร่ายในไลเคนเรียกว่า โฟโตไบออนท์ (photobionts)มีประมาณ 40
สกุล 100 ชนิด (Ischermak-Waess,1988) ส่วนใหญ่เป็นสาหร่ายสีเขียว
(Division Chlorophyta) genus ที่พบบ่อย ได้แก่
Trebouxia,Trentepohlia, Stichococcus และ Myrmecia
สาหร่ายที่พบในไลเคนสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างอิสระตามธรรมชาติ
- 3. Trebouxia sp
(free living) ยกเว้น Trebouxia sp. ที่พบเฉพาะในไลเคนเท่านั้น แทบไม่พบ
อยู่อย่างอิสระตามธรรมชาติเลย และพบว่าไลเคนประมาณร้อยละ 20-
50 มี Trebouxia เป็นโฟโตไบออนท์
Scytonema
Nostoc
ไลเคนที่มีสาหร่ายสีเขียวแกมน้าเงิน หรือ
cyanobacteria เป็นโฟโตไบออนท์มีประมาณ 8%
ซึ่งสาหร่ายที่พบ ได้แก่ Nostoc, Scytonema,
Stigonema, Gloeocapsa, Chlorococcus
เป็นต้น
ไลเคนที่มีสาหร่ายสีเขียวแกมน้าเงินเป็นโฟโตไบออนท์
ส่วนมากมีลักษณะเป็นสีเขียวเข้ม ถ้ามี Nostoc อยู่ด้วย
ไลเคนมีสีดาคล้ายเห็ดหูหนู ซึ่งลื่นเมื่อเปียกน้า จึงเรียก
ไลเคนพวกนี้ว่า gelatinous lichen
รำในไลเคน (Mycobiont)
ราอาจจาแนกออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ ราที่เติบโตอยู่กัไลเคนได้เท่านั้น เรียกว่า lichenized fungi
ราพวกนี้ ไม่พบอยู่ตามธรรมชาติ แต่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการสัมพันธ์กับสาหร่ายในไลเคนเท่านั้น
อีกกลุ่มหนึ่ง ได้แก่ ราที่ไม่ได้สัมพันธ์อยู่กับไลเคน แต่เติบโตอยู่ได้ทั่วๆ ไปเรียกว่า non-lichenized
fungi ราทั้งหมดที่พบแล้วในโลกนี้มีประมาณ 64,200 ชนิด เป็นราที่ก่อให้เกิดไลเคนถึง 13,500
ชนิดหรือประมาณ 21% โดยเป็นราใน Class Ascomycetes เกือบทั้งหมด มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่
เป็นราใน Class Basidiomycetes และ Deuteromycetes พบว่าราใน Class Ascomycetes มีประมาณ
28,000 ชนิด ครึ่งหนึ่งของราใน Class นี้เป็น lichenized fungi (Hawksworth 1985 from Tehler 1996)
- 4. รูปร่ำงลักษณะของไลเคน
(Morphology of Lichen Thallus)
ครัสโตส
(Crustose)
โฟลิโอส (Foliose)
ฟรุทติโคส
(Fruticose)
เมื่อราและสาหร่ายมาสัมพันธ์กันเกิดเป็นไลเคนซึ่งเป็นสิ่งมี
ชีวิตใหม่ที่มีรูปร่างลักษณะแตกต่างจากต้นกาเนิดโดย
สิ้นเชิง
รูปร่างลักษณะไลเคนอาจจาแนกได้เป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 3
กลุ่ม คือ
ครัสโตส (Crustose) ลักษณะเป็นฝุ่นผงติดแน่น
อยู่กับพื้นที่เกาะอาศัย (substrate)
โฟลิโอส (Foliose) ลักษณะเป็นแผ่นเกาะอยู่กับ
ที่อาศัยหลวมๆ อาจเลาะให้หลุดออกมาจากพื้นที่
เกาะอาศัย ได้ไม่ยากนัก
ฟรุทติโคส (Fruticose) เป็นพุ่มหรือเส้นสาย
อาจมีโฮลด์ฟาสยึดติดกับที่อาศัยด้วยโฮลด์ฟาส มี
ส่วนอื่นๆ สัมผัสอากาศเต็มที่
- 5. นอกจากนี้ยังมีโครงสร้างบางอย่างที่ไม่เหมือนกับทั้ง 3 ลักษณะข้างต้น แต่อาจจะ
ประกอบด้วยลักษณะที่ผสมผสานกันของลักษณะต่างๆ โครงสร้างเหล่านี้ ได้แก่
สแควมูล
(squamule)
พลำคอย
(Placoid)
สแควมูล (squamule) ลักษณะ
เป็นเกล็ดคล้ายใบไม้ขนาดจิ๋ว
พลำคอย (Placoid) มี
ส่วนกลางที่คล้ายครัสโตส
โดยติดกับพื้นที่เกาะอาศัย
แนบแน่น ส่วนด้านขอบยกนูน
คล้ายแผ่น