Contenu connexe
Similaire à ดนตรีกับวิชาชีพครู (20)
Plus de Jiraprapa Suwannajak (20)
ดนตรีกับวิชาชีพครู
- 1. โดยนางสาวพิมพ์ผกา อินทะรส
ดนตรีกบวิชาชี พครู
ั
1. ดนตรีกับวิชาชีพครู มีความเหมือนกันอย่างไร
ดนตรีกับวิชาชีพครูมีความเหมือนกันอย่างยิ่งในแง่ที่เป็นอาชีพที่ต้องใช้จิตวิญญาณในการ
ปฏิบัติงาน กล่าวคือ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นครู หากสอนโดยปราศจากจิตวิญญาณของความเป็นครู จะถือว่า
เป็นเพียงผู้ที่มีอาชีพครู แต่ไม่ใช่ครูมืออาชีพ หากว่าสอนด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครูอย่างแท้จริง
ครูจะต้องฝึกฝนตนเองในด้านทักษะการสอน ตลอดจนพยายามแสวงหาความรู้ใหม่ๆ เพื่อพัฒนาการ
สอนของตนเองอยู่เสมอ รวมถึงการเอาใจใส่นักเรียนอย่างสม่่าเสมอด้วย ในท่านองเดียวกัน นักดนตรี
ที่ดีต้องอาศัยจิตวิญญาณที่จะใส่ลงไปในระหว่างที่เล่นดนตรีหรือร้องเพลง จึงจะสามารถเข้าถึงจังหวะ
และอารมณ์ของดนตรีในท่วงท่านองนั้นๆ ได้ ทั้งนี้นักดนตรีก็เช่นเดียวกับครูที่จะต้องฝึกฝนตนเองอยู่
เสมอ โดยการหมั่นฝึกซ้อมอย่างสม่่าเสมอ พร้อมกับเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ ในการพัฒนาทักษะทางด้าน
ดนตรีของตนเอง เพื่อสร้างทางเลือกใหม่ให้กับคนฟังให้มีทางเลือกด้านดนตรีที่หลากหลาย ซึ่งสิ่ง
เหล่านี้ล้วนเป็นการแสดงออกถึงความเอาใจใส่ต่อคนฟังด้วย
อนึ่ง ในขณะที่ครูสอนหน้าห้อง กับ ขณะที่นักดนตรีแสดงอยู่บนเวที ก็มีลักษณะที่
คล้ายกัน โดยครูจะต้องตั้งใจสอนและดูว่านักเรียนเข้าใจที่ตนเองสอนหรือไม่ หากนักเรียนไม่เข้าใจ
ครูจะต้องหาวิธีอธิบายให้นักเรียนเข้าใจในที่สุด เช่นเดียวกับนักดนตรีที่จะต้องตั้งใจเล่นและแสดง
อย่างสุดความสามารถ และคอยดูว่าผู้ฟังสนุกกับเสียงดนตรีของตนเองหรือไม่ หากผู้ฟังไม่มีอารมณ์
ร่วมกับเสียงดนตรี นักดนตรีก็ต้องหาวิธีการที่จะท่าให้ผู้ฟังมีความรู้สนุกกับเสียงดนตรีให้ได้ในที่สุด
จึงจะกล่าวได้ว่าเป็นนักดนตรีมืออาชีพและครูมืออาชีพ
2. ดนตรีกับวิชาชีพครู มีความต่างกันอย่างไร
ดนตรีกับวิชาชีพครู โดยทั่วไปแล้วมีความต่างกันตรงที่ลักษณะการท่างาน ที่ครูจะท่างาน
ในโรงเรียน ห้องเรียน ในขณะที่นักดนตรีจะท่างานในสตูดิโอ เวทีคอนเสิร์ต หรืออาจกล่าวได้ว่า
เครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในการท่างานก็แตกต่างกันด้วย โดยเครื่องมือที่ครูใช้ในการสอน เช่น แผนการ
จัดการเรียนรู้ สื่อการสอน เป็นต้น ในขณะที่นักดนตรีจะใช้อุปกรณ์เครื่องดนตรีเป็นหลัก เช่น กีตารื
เปียโน โน้ตเพลง เป็นต้น
ในเรื่องของศาสตร์ที่ใช้ในการท่างาน ก็ถือว่ามีความแตกต่างระหว่างครูกับนักดนตรี ซึ่ง
ครูจะใช้ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการสอน แต่นักดนตรีจะใช้ศาสตร์ที่เกี่ยวกับดนตรี การแสดง
(performance) และความบันเทิง (entertainment) นอกจากนี้ พฤติกรรมการแสดงออกของนักดนตรีกับ
ครูนั้นค่อนข้างแตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักดนตรีที่จะแตกต่างกันไปตามลักษณะแนวดนตรีนั้นๆ
เช่น ร็อค แจ๊ส ป๊อบ เป็นต้น โดยอาจแสดงออกด้วยการแต่งกายและการแสดงอารมณ์ในระหว่างที่
แสดงดนตรี เช่น นักดนตรีร็อคอาจแสดงอารมณ์ที่รุนแรงกว่านักดนตรีแจ๊ส เป็นต้น ซึ่งต่างกับครูที่
1
- 2. โดยนางสาวพิมพ์ผกา อินทะรส
จะมีรูปแบบการแสดงออกที่เป็นไปแบบเรียบๆ อาจมีบ้างที่ครูบางท่านใช้เทคนิคการสอนที่หลากหลาย
เช่น การให้นักเรียนท่ากิจกรรมด้วยตนเอง การสาธิตโดยใช้สถานการณ์จ่าลอง เป็นต้น แต่ในด้านของ
การแสดงอารมณ์ยังถือว่าน้อยกว่านักดนตรี
3. สุนทรียภาพทางดนตรีจะสอดประสานกับการจัดการเรียนการสอนอย่างไร
ในการจัดการเรียนการสอนหากสามารถน่ากิจกรรมเข้ามาสอดแทรกในระหว่างการสอน
ได้ จะท่าให้บรรยากาศของการเรียนการสอนเป็นไปอย่างสนุกสนาน ทางหนึ่งก็โดยการน่าดนตรีหรือ
เสียงเพลงเข้ามาเป็นตัวน่าให้ครูและนักเรียนเกิดความรู้สึกอยากเรียนรู้ร่วมกันมากขึ้น เช่น การสอน
ภาษาอังกฤษ ก็อาจให้นักเรียนฟังเพลง แล้วเติมค่าในช่องว่างที่เว้นไว้ของเนื้อเพลง ซึ่งนอกจากนักเรียน
จะได้เรียนรู้ศัพท์ใหม่ๆ รูปประโยคจากเนื้อเพลงแล้ว นักเรียนยังได้สัมผัสกับความไพเราะของ
เสียงดนตรี แทนที่จะสอนโครงสร้างประโยคโดยตรง ครูสามารถหยิบประโยคในเนื้อเพลงมาขยายต่อ
ได้ เป็นต้น นอกจากนี้ ในทุกๆ วิชา ระหว่างที่ให้นักเรียนท่างานอย่างอื่น ที่ไม่ใช่ขณะที่ครูอธิบายอยู่
นั้น ครูอาจเปิดเพลงเบาๆ เป็นการกล่อมให้นักเรียนรู้สึกเพลิดเพลินและท่างานชิ้นนั้นด้วยอารมณ์
สุนทรี
อนึ่ง ดนตรีสามารถสอดประสานเข้าไปทุกๆ ช่วงของการจัดการเรียนการสอน เพียง
แค่นักเรียนและครูมีดนตรีในหัวใจ เพราะเมื่อใดก็ตามที่ไม่ว่าจะเป็นครูหรือนักเรียนต้องการให้
เสียงดนตรีเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่เกิดความเครียดใน
ระหว่างการเรียนการสอน ก็เพียงแค่ ‘นึกถึง ’เสียงดนตรีที่ชอบหรือหยุดพักเพียงนิดแล้วฮัมเพลง ก็ท่า
ให้บรรยากาศในห้องเรียนที่เครียด ดูผ่อนคลายมากขึ้น
2