Contenu connexe
Similaire à เศรษฐกิจพอเพียง
Similaire à เศรษฐกิจพอเพียง (20)
Plus de Jiraprapa Suwannajak
Plus de Jiraprapa Suwannajak (20)
เศรษฐกิจพอเพียง
- 2. “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็ นปรัชญาทีพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัวทรงมีพระ
่
ราชดารัสชี้แนะแนวทางการดาเนินชีวตแก่ พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่ า ๒๕
ิ
ปี ตั้งแต่ ก่อนวิกฤติการณ์ ทางเศรษฐกิจ และเมือภายหลังได้ ทรงเน้ นยาแนวทางการ
่ ้
แก้ ไขเพือให้ รอดพ้น และสามารถดารงอยู่ได้ อย่ างมันคงและยังยืนภายใต้ กระแส
่ ่ ่
โลกาภิวฒน์ และความเปลียนแปลงต่ าง ๆ
ั ่
- 3. ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง เป็ นปรัชญาชีถึงแนวการดารงอยู่และปฏิบัตตนของประชาชน
้ ิ
ในทุกระดับตั้งแต่ ระดับครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและ
บริหารประเทศให้ ดาเนินไปใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพือให้ ก้าว
่
ทันต่ อโลกยุคโลกาภิวตน์
ั
ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผลรวมถึงความจาเป็ นที่
จะต้ องมีระบบภูมค้ มกันในตัวทีดพอสมควรต่ อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการ
ิุ ่ ี
เปลียนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนีจะต้ องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และ
่ ้
ความระมัดระวังอย่ างยิง ในการนาวิชาการต่ าง ๆ มาใช้ ในการวางแผนและการดาเนินการ
่
ทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้ องเสริมสร้ างพืนฐานจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะ
้
เจ้ าหน้ าทีของรัฐนักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุกระดับให้ มสานึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์
่ ี
สุ จริตและให้ มความรอบรู้ ทเี่ หมาะสม ดาเนินชีวตด้ วยความอดทน ความเพียร มีสติ
ี ิ
ปัญญา และความรอบคอบ เพือให้ สมดุลและพร้ อมต่อการรองรับการเปลียนแปลงอย่ าง
่ ่
รวดเร็วและกว้ างขวางทั้งด้ านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้ อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้
เป็ นอย่ างดี
- 4. • กรอบแนวคิด เป็ นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็ น โดยมีพนฐานื้
มาจากวิถีชีวตดั้งเดิมของสั งคมไทย สมารถนามาประยุกต์ ใช้ ได้ตลอดเวลา และเป็ นการมองโลกเชิง
ิ
ระบบที่มีการเปลียนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้ นการรอดพ้ นจากภัย และวิกฤต เพือความมั่นคง และ
่ ่
ความยังยืน ของการพัฒนา
่
• คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนามาประยุกต์ ใช้ กับการปฏิบัติตนได้ ในทุกระดับโดยเน้ นการ
ปฏิบัติบนทางสายกลาง และการพัฒนาอย่ างเป็ นขั้นตอน
• คานิยาม ความพอเพียงจะต้ องประกอบด้วย ๓ คุณลักษณะ พร้ อม ๆ กัน ดังนี้
• ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่ น้อยเกินไปและไม่ มากเกินไปโดยไม่ เบียดเบียนตนเองและ
ผู้อน เช่ นการผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ
ื่
• ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสิ นใจเกียวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้ องเป็ นไปอย่างมีเหตุผล
่
โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกียวข้ องตลอดจนคานึงถึงผลที่คาดว่ าจะเกิดขึนจากการกระทานั้น ๆ อย่าง
่ ้
รอบคอบ
• การมีภูมิค้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้ พร้ อมรับผลกระทบและการเปลียนแปลงด้ านต่ าง ๆ
ุ ่
ที่จะเกิดขึนโดยคานึงถึงความเป็ นไปได้ของสถานการณ์ ต่ าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึนในอนาคตทั้งใกล้และ
้ ้
ไกล
- 5. เงือนไข การตัดสินใจและการดาเนินกิจกรรมต่ าง ๆ ให้ อยู่ในระดับพอเพียงนั้นต้ อง
่
อาศัยทั้งความรู้ และคุณธรรมเป็ นพืนฐาน กล่ าวคือ
้
-เงือนไขความรู้ ประกอบด้ วย ความรอบรู้ เกียวกับวิชาการต่ าง ๆ ทีเ่ กียวข้ อง
่ ่ ่
อย่ างรอบด้ าน ความรอบคอบทีจะนาความรู้ เหล่ านั้นมาพิจารณาให้ เชื่อมโยงกัน เพือ
่ ่
ประกอบการวางแผน และความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ
-เงือนไขคุณธรรม ทีจะต้ องเสริมสร้ างประกอบด้ วย มีความตระหนักใน
่ ่
คุณธรรม มีความซื่อสัตย์ สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ใช้ สติปัญญาในการ
ดาเนินชีวต ิ
แนวทางปฏิบัต/ผลทีคาดว่ าจะได้ รับ จากการนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ิ ่
มาประยุกต์ ใช้ คือ การพัฒนาทีสมดุลและยังยืน พร้ อมรับต่อการเปลียนแปลงในทุก
่ ่ ่
ด้ าน ทั้งด้ านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้ อม ความรู้ และเทคโนโลยี
- 6. หลักการนาเอาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ ในชีวตประจาวัน
ิ
การนาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ในชีวตประจาวัน คือการใช้ จ่ายในชีวตประจาวัน ไม่ ใช้
ิ ิ
จ่ ายในเรื่องทีเ่ ห็นว่ าไม่ จาเป็ น มีการจัดสรรค่ าใช้ จ่ายในแต่ ละวัน แบ่ งเงินส่ วนหนึ่งไว้ ใช้
จ่ ายในยามฉุกเฉิน รวมถึงนาเงินทีเ่ หลือทีได้ จากค่ าขนมและค่ าใช้ จ่ายในแต่ ละวันมาออมไว้
่
ทาให้ ข้าพเจ้ าไม่ ต้องรบกวนเงินของบิดามารดา อีกประการหนึ่งข้ าพเจ้ าจะใช้ สิ่งของทุกชิ้น
อย่ างรู้ คุณค่ า โดยมีการคิดคานวณก่ อนทีจะซื้อของสิ่งๆหนึ่งว่ าสิ่งของนั้นๆสามารถใช้ ได้ นาน
่
แค่ ไหน คุ้มหรือไม่ กบการซือในแต่ ละครั้ง การกระทานีนอกจากจะได้ ของใช้ ทมี
ั ้ ้ ี่
ประสิทธิภาพแล้ วยังเป็ นการประหยัดเงินและตรงตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัวภูมพลอดุลยเดชมหาราชพ่อหลวงของเราอีกด้ วย
ิ
- 7. ตัวอย่างการนาหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ ในชีวตประจาวัน
ิ
1.การไม่ ใช้ จ่ายฟุ่ มเฟื อย - ไม่ ใช้ จ่ายเงินเกินความจาเป็ น ไม่ ใช้ จ่ายสิ้นเปลือง เช่ น การ
ซื้อของทีไม่ จาเป็ น พวกสิ่งของทีไร้ ประโยชน์ หาคุณค่ าไม่ ได้ เมือเราไม่ ใช้ จ่ายฟุ่ มเฟื อย
่ ่ ่
แล้ ว เงินทีเ่ หลือฉันก็เก็บ หยอดใส่ กระปุก เพือเป็ นการประหยัดภายในครอบครัว ไม่ นา
่
เงินไปใช้ เกินวัยของตนเอง
2.การใช้ นาหรือไฟ อย่ างประหยัด - ใช้ นาให้ รู้ คุณค่ า ไม่ เปิ ดนาทิงไว้ หรือ ปิ ดนาให้ สนิท
้ ้
นาทีเ่ หลือจากการล้ างผลไม้ อาหาร จะนาไปรดต้นไม้ และไฟ ไม่ เปิ ดไฟนอน และปิ ด
เครื่องใช้ ไฟฟาให้ สนิท ด้ วยการถอดปลัก และเมือไม่ อยู่บ้าน สารวจว่ ามีเครื่องใช้ ไฟฟา
้ ๊ ่ ้
ใดบ้ างทียงไม่ ได้ ปิด จะปิ ดให้ สนิท
่ั
3.การหารายได้ เข้ าครอบครัว - ช่ วยพ่ อแม่ ทางาน เพือนาไปขาย และปลูกผักนาไปขาย
่
เพือหารายได้ เข้ าครอบครัว และเมือหารายได้ มาแล้ ว จะไม่ นาเงินไปใช้ จ่ายในสิ่งที่
่ ่
สุ ร่ ุยสุ ร่าย พร้ อมทั้งทาบัญชีรายรับ-รายจ่ าย เพือรู้ การใช้ จ่ายภายในครอบครัว เป็ นการรู้
่
ว่ าภาวะทางการเงินภายในครอบครัวของฉันนั้น เป็ นอย่ างไรบ้ างอะไรทีมนไม่ จาเป็ นหรือ
่ ั
เป็ นสิ่งทีทาให้ ครอบครัวต้ องมาสิ้นเปลือง
่
- 8. เศรษฐกิจพอเพียงสาหรับบุคคลทัวไป เศรษฐกิจพอเพียงมีประโยชน์ ต่อประชาชน
่
ทุกคนไม่ ใช่ เฉพาะแต่ เกษตรกรเท่ านั้น แต่ ประชาชนโดยทัวไปไม่ ว่านิสิต นักศึกษา นักเรียน
่
ข้ าราชการ พนักงานบริษัทก็สามารถนาหลักการเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ ใช้ ในการ
เรียน การทางาน ตลอดจนการดาเนินชีวตประจาวันได้ ซึ่งสามารถกระทาได้ ดงนี้
ิ ั
· ควรยึดหลักความประหยัด ตัดทอนค่ าใช้ จ่ายในทุกด้ าน และสละความฟุ่ มเฟื อยในการดารง
ชีพอย่ างจริงจัง
· ควรประกอบอาชีพด้ วยความสุ จริตและถูกต้ อง แม้ จะเผชิญกับภาวะขาดแคลนในการดารง
ชีพก็ตาม
· ควรลดละการแก่ งแย่ งผลประโยชน์ และการแข่ งบันทางการค้ าขาย ตลอดจนการประกอบ
อาชีพทีมการต่ อสู้ อย่ างรุนแรง
่ ี
· ควรขวนขวายใฝ่ หาความรู้ ให้ มรายได้ เพิมพูนขึนจนถึงขั้นพอเพียงในการดารงชีวตเป็ น
ี ่ ้ ิ
เป้ าหมายสาคัญ เศรษฐกิจพอเพียงสาหรับเกษตรกร แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง มีประโยชน์
ต่ อเกษตรกรเป็ นอย่ างมาก
- 9. พระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัวได้ พระราชทานแนวคิดทีเ่ รียกว่ า “การเกษตร
ทฤษฎีใหม่” เพือส่ งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรให้ มความรู้ ความเข้ าใจ ตลอดจน
่ ี
สามารถนาไปประยุกต์ ใช้ ในการประกอบอาชีพ โดยจะต้ องตั้งอยู่บนพืนฐาน ้
หลักการทฤษฎีใหม่ สาหรับเกษตรกรนั้น แนวคิดระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงตาม
แนวพระราชดาริจะตั้งอยู่บนพืนฐานหลักการ “ทฤษฎีใหม่” 3 ขึนคือ
้ ้
ขั้นทีหนึ่ง มีความพอเพียงเลียงตัวเองได้ บนพืนฐานของความประหยัด ขจัดการใช้
่ ้ ้
จ่ าย
ขั้นทีสอง รวมพลังกันในรู ปกลุ่ม เพือทาการผลิต การตลาด การจัดการ รวมทั้งด้ าน
่ ่
สวัสดิการ การศึกษา และการพัฒนาสังคม
ขั้นทีสาม สร้ างเครือข่ ายกลุ่มอาชีพและขยายกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ หลากหลาย
่
โดยประสานความร่ วมมือกับภาคธุรกิจ ภาคองค์ กรพัฒนา ภาคเอกชน และภาครัฐ
ในด้ านเงินทุน การตลาด การผลิต การจัดการและข่ าวสารข้ อมูล
- 11. เศรษฐกิจพอเพียงเกี่ยวกับคณิตศาสตร์
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับคณิตศาสตร์ การดาเนินชีวตตามแนวพระราชดาริ
ิ
พอเพียง พระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัว ทรงเข้ าใจถึงสภาพสังคมไทย ดังนั้น เมือได้
่
พระราชทานแนวพระราชดาริ หรือพระบรมราโชวาทในด้ านต่ างๆ จะทรงคานึงถึงวิถี
ชีวต สภาพสังคมของประชาชนด้ วย เพือไม่ ให้ เกิดความขัดแย้ งทางความคิด ทีอาจ
ิ ่ ่
นาไปสู่ ความขัดแย้ งในทางปฏิบัตได้ิ
แนวพระราชดาริในการดาเนินชีวตแบบพอเพียง
ิ
๑. ยึดความประหยัด ตัดทอนค่ าใช้ จ่ายในทุกด้ าน ลดละความฟุ่ มเฟื อยในการใช้ ชีวติ
๒. ยึดถือการประกอบอาชีพด้ วยความถูกต้ อง ซื่อสัตย์ สุจริต
๓. ละเลิกการแก่ งแย่ งผลประโยชน์ และแข่ งขันกันในทางการค้ าแบบต่ อสู้ กนอย่ างรุนแรง
ั
๔. ไม่หยุดนิ่งทีจะหาทางให้ ชีวตหลุดพ้ นจากความทุกข์ ยาก ด้ วยการขวนขวายใฝ่ หา
่ ิ
ความรู้ ให้ มรายได้ เพิมพูนขึน จนถึงขั้นพอเพียงเป็ นเป้ าหมายสาคัญ
ี ่ ้
๕. ปฏิบัตตนในแนวทางทีดี ลดละสิ่งชั่ว ประพฤติตนตามหลักศาสนา
ิ ่
- 12. ความสาคัญของทฤษฎีใหม่
๑. มีการบริหารและจัดแบ่ งทีดนแปลงเล็กออกเป็ นสัดส่ วนทีชัดเจน เพือประโยชน์
่ ิ ่ ่
สู งสุ ดของเกษตรกร ซึ่งไม่ เคยมีใครคิดมาก่ อน
๒. มีการคานวณโดยใช้ หลักวิชาการเกียวกับปริมาณนาทีจะกักเก็บให้ พอเพียงต่ อการ
่ ้ ่
เพาะปลูกได้ อย่ างเหมาะสมตลอดปี
๓. มีการวางแผนทีสมบูรณ์ แบบสาหรับเกษตรกรรายย่ อย โดยมีถง ๓ ขั้นตอน
่ ึ
- 13. ทฤษฎีใหม่ ข้ ันต้ น ให้ แบ่ งพืนทีออกเป็ น ๔ ส่ วน ตามอัตราส่ วน ๓๐:๓๐:๓๐:๑๐
้ ่
ซึ่งหมายถึง
พืนทีส่วนทีหนึ่ง ประมาณ ๓๐% ให้ ขุดสระเก็บกักนาเพือใช้ เก็บกักนาฝนในฤดูฝน และใช้
้ ่ ่ ้ ่ ้
เสริมการปลูกพืชในฤดูแล้ ง ตลอดจนการเลียงสัตว์ และพืชนาต่ างๆ
้ ้
พืนทีส่วนทีสอง ประมาณ ๓๐% ให้ ปลูกข้ าวในฤดูฝนเพือใช้ เป็ นอาหารประจาวันสาหรับ
้ ่ ่ ่
ครอบครัวให้ เพียงพอตลอดปี เพือตัดค่ าใช้ จ่ายและสามารถพึงตนเองได้
่ ่
พืนทีส่วนทีสาม ประมาณ ๓๐% ให้ ปลูกไม้ ผล ไม้ ยนต้ น พืชผัก พืชไร่ พืชสมุนไพร ฯลฯ
้ ่ ่ ื
เพือใช้ เป็ นอาหารประจาวัน หากเหลือบริโภคก็นาไปจาหน่ าย
่
พืนทีส่วนทีสี่ ประมาณ ๑๐% เป็ นทีอยู่อาศัย เลียงสัตว์ ถนนหนทาง และโรงเรือนอืนๆ
้ ่ ่ ่ ้ ่
ทฤษฎีใหม่ ข้นทีสอง เมือเกษตรกรเข้ าใจในหลักการและได้ ปฏิบัตในทีดนของตนจน
ั ่ ่ ิ ่ ิ
ได้ ผลแล้ ว ก็ต้องเริ่มขั้นทีสอง คือให้ เกษตรกรรวมพลังกันในรู ป กลุ่ม หรือ สหกรณ์ ร่ วม
่
แรงร่ วมใจกันดาเนินการในด้ าน
- 14. ทฤษฎีใหม่ข้นทีสอง
ั ่
เมือเกษตรกรเข้ าใจในหลักการและได้ ปฏิบัตในทีดนของตนจนได้ ผลแล้ ว ก็ต้องเริ่ม
่ ิ ่ ิ
ขั้นทีสอง คือให้ เกษตรกรรวมพลังกันในรูป กลุ่ม หรือ สหกรณ์ ร่ วมแรงร่ วมใจกัน
่
ดาเนินการในด้ านต่ างๆคือ
(๑) การผลิต (พันธุ์พช เตรียมดิน ชลประทาน ฯลฯ)
ื
- เกษตรกรจะต้ องร่ วมมือในการผลิต โดยเริ่ม ตั้งแต่ ข้นเตรียมดิน การหาพันธุ์พช
ั ื
ปุ๋ ย การจัดหานา และอืนๆ เพือการเพาะปลูก
้ ่ ่
(๒) การตลาด (ลานตากข้ าว ยุ้ง เครื่องสีข้าว การจาหน่ ายผลผลิต)
- เมือมีผลผลิตแล้ ว จะต้ องเตรียมการต่ างๆ เพือการขายผลผลิตให้ ได้ ประโยชน์
่ ่
สู งสุ ด เช่ น การเตรียมลานตากข้ าวร่ วมกัน การจัดหายุ้งรวบรวมข้ าว เตรียมหาเครื่อง
สีข้าว ตลอดจนการรวมกันขายผลผลิตให้ ได้ ราคาดีและลดค่ าใช้ จ่ายลงด้ วย
- 15. (๓) การเป็ นอยู่ (กะปิ นาปลา อาหาร เครื่องนุ่งห่ ม ฯลฯ)
้
- ในขณะเดียวกันเกษตรกรต้ องมีความเป็ นอยู่ทดพอสมควร โดยมีปัจจัยพืนฐานในการ
ี่ ี ้
ดารงชีวต เช่ น อาหารการกินต่ างๆ กะปิ นาปลา เสื้อผ้า ทีพอเพียง
ิ ้ ่
(๔) สวัสดิการ (สาธารณสุข เงินกู้)
- แต่ ละชุมชนควรมีสวัสดิภาพและบริการทีจาเป็ น เช่ น มีสถานีอนามัยเมือยามป่ วยไข้
่ ่
หรือมีกองทุนไว้ ก้ ูยมเพือประโยชน์ ในกิจกรรมต่ างๆ ของชุมชน
ื ่
(๕) การศึกษา (โรงเรียน ทุนการศึกษา)
- ชุมชนควรมีบทบาทในการส่ งเสริมการศึกษา เช่ น มีกองทุนเพือการศึกษาเล่ าเรียนให้ แก่
่
เยาวชนของชมชนเอง
(๖) สังคมและศาสนา - ชุมชนควรเป็ นทีรวมในการพัฒนาสังคมและจิตใจ โดยมีศาสนาเป็ น
่
ทียดเหนี่ยว โดยกิจกรรมทั้งหมดดังกล่ าวข้ างต้ น จะต้ องได้ รับความร่ วมมือจากทุกฝ่ ายที่
่ึ
เกียวข้ อง ไม่ ว่าส่ วนราชการ องค์ กรเอกชน ตลอดจนสมาชิกในชุมชนนั้นเป็ นสาคัญ
่
- 16. ทฤษฎีใหม่ ข้ ันทีสาม
่
เมือดาเนินการผ่านพ้นขั้นทีสองแล้ ว เกษตรกร หรือกลุ่มเกษตรกรก็ควรพัฒนาก้ าวหน้ า
่ ่
ไปสู่ ข้นทีสามต่ อไป คือติดต่ อประสานงาน เพือจัดหาทุน หรือแหล่ งเงิน เช่ น ธนาคาร
ั ่ ่
หรือบริษท ห้ างร้ านเอกชน มาช่ วยในการลงทุนและพัฒนาคุณภาพชีวต ทั้งนี้ ทั้งฝ่ าย
ั ิ
เกษตรกรและฝ่ ายธนาคาร หรือบริษัทเอกชนจะได้ รับประโยชน์ ร่วมกัน กล่ าวคือ
- เกษตรกรขายข้ าวได้ ราคาสู ง (ไม่ ถูกกดราคา)
- ธนาคารหรือบริษัทเอกชนสามารถซือข้ าวบริโภคในราคาตา (ซื้อข้ าวเปลือกตรงจาก
้ ่
เกษตรกรและมาสีเอง)
- เกษตรกรซือเครื่องอุปโภคบริโภคได้ ในราคาตา เพราะรวมกันซือเป็ นจานวนมาก
้ ่ ้
(เป็ นร้ านสหกรณ์ ราคาขายส่ ง)
- ธนาคารหรือบริษทเอกชน จะสามารถกระจายบุคลากร เพือไปดาเนินการในกิจกรรม
ั ่
ต่ างๆ ให้ เกิดผลดี
- 17. กรณีศึกษาเศรษฐกิจพอเพียงทีใช้ คณิตศาสตร์ บริหารจัดการทีดินและ
่ ่
นาเพือการเกษตรตามแนว การเกษตรทฤษฏีใหม่
้ ่
1.การบริหารจัดการทีดนและนาเพือการเกษตรตามแนว การเกษตรทฤษฏีใหม่ มีอย่ างไร
่ ิ ่
พืนทีปลูกข้ าว 30 % พืนทีปลูกพืชผักผลไม้ 30 % พืนทีเ่ ป็ นแหล่ งนา 30 %
้ ่ ้ ่ ้ ้
พืนทีเ่ ป็ นทีอยู่อาศัยและเลียงสัตว์ 10 %
้ ่ ้
2.ตามแนวการเกษตรทฤษฏีใหม่ หากเรามีทดน 40 ไร่ เราจะแบ่ งทีดนสาหรับปลูกข้ าว
ี่ ิ ่ ิ
ปลูกพืชผักผลไม้ เป็ นแหล่ งนา เป็ นทีอยู่อาศัยและเลียงสัตว์ เป็ นพืนทีอย่ างละกีไร่
้ ่ ้ ้ ่ ่
- 18. ทักษะการคิด
• การหาพืนทีปลูกข้ าว
้ ่
พืนที่ 100 ไร่ เป็ นพืนทีปลูกข้ าว 30 ไร่
้ ้ ่
พืนที่ 1 ไร่ เป็ นพืนทีปลูกข้ าว 30 ÷ 100
้ ้ ่
พืนที่ 40 ไร่ เป็ นพืนทีปลูกข้ าว 30 ÷ 100 × 40 = 12 ไร่
้ ้ ่
พืนทีปลูกข้ าว 12 ไร่
้ ่
• การหาพืนทีพชผักผลไม้ คิดเช่ นเดียวกัน
้ ่ ื
พืนทีปลูกผักผลไม้ 30 ÷ 100 × 40 = 12 ไร่
้ ่
• การหาพืนทีแหล่ งนา คิดเช่ นเดียวกัน
้ ่
พืนทีแหล่ งนา
้ ่ ้ 30 ÷ 100 × 40 = 12 ไร่
- 19. • การหาพืนทีทอยู่อาศัยและเลียงสัตว์
้ ่ ี่ ้
พืนทีทอยู่อาศัยและเลียงสัตว์ 10 ÷ 100 × 40 = 4 ไร่
้ ่ ี่ ้
รวมพืนทีท้งหมด
้ ่ ั
ปลูกข้ าว 12 ไร่
พืนทีปลูกผักผลไม้ 12 ไร่
้ ่
พืนทีแหล่ งนา 12 ไร่
้ ่ ้
พืนทีทอยู่อาศัยและเลียงสัตว์ 4 ไร่
้ ่ ี่ ้
รวมพืนทีท้งหมด 12+12+12+4=40 ไร่
้ ่ ั
- 20. คณะผู้จัดทา
ด.ช. ธัชชัย ปานทอง เลขที่ 4 ม.3/16
ด.ช. ธีรพล ธิอุด เลขที่ 5 ม.3/16
ด.ช. ลภัชพล นิมมานเกียรติกล
ุ เลขที่ 7 ม.3/16
ด.ญ. ธนพร ศรีวกล
ิุ เลขที่ 21 ม.3/16
ด.ญ. ธัญกร ชิวารักษ์ เลขที่ 23 ม.3/16
ด.ญ. ปวริศา นพรัตน์ เลขที่ 28 ม.3/16
ด.ญ. พิมพ์ สิริ เลืองฤทธิวุฒิ
่ เลขที่ 30 ม.3/16