Contenu connexe
Similaire à อุปกรณ์ภายนอกของคอมพิวเตอร์
Similaire à อุปกรณ์ภายนอกของคอมพิวเตอร์ (20)
อุปกรณ์ภายนอกของคอมพิวเตอร์
- 2. จอภาพ (Monitor)
จอภาพเป็นอุปกรณ์แสดงผลที่มีชื่อเรียกมากมาย
เช่น Monitor, CRT (Cathode Ray Tube) ปกติแล้ว
จอภาพสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ
- 3. 1.จอภาพสีเดียว (Monochrome Monitor)
จอภาพที่รับสัญญาณจากการ์ดควบคุม ในลักษณะของ
สัญญาณดิจิตอล คือ 0 กับ 1 โดยการกวาดลาอิเล็กตรอนไป
ตกหน้าจอ แล้วเกิดเป็นจุดเรืองแสง จะให้สญญาณว่าจุดไหน
ั
สว่าง จุดไหนดับ จอภาพสีเดียวเวลานี้ไม่มีผู้นิยมแล้ว
- 4. 2. จอภาพหลายสี (Color Monitor)
จอภาพที่รับสัญญาณดิจิตอล 4 สัญญาณ คือ
สัญญาณของสีแดง, เขียว, น้าเงิน และสัญญาณความสว่าง ทา
ให้สามารถแสดงสีได้ 16 สี ถึง 32 ล้านสี
- 5. การทางานของจอภาพ เริมจากการกระตุนอุปกรณ์หลอดภาพให้รอน เกิด
่ ้ ้
เป็ นอิเล็กตรอนขึน และถูกยิงด้วยปื นอิเล็กตรอน ให้ไปยังจุดทีตองการแสดงผล
้ ่ ้
บนจอภาพ ซึงทีจอภาพจะมีการเคลือบสารฟอสฟอรัสเรืองแสง เมื่ออิเล็กตรอน
่ ่
เหล่านี้วงไปชน ก็จะทาให้เกิดแสงสว่าง ซึงจะประกอบกันเป็ นรูปภาพ ในการยิง
ิ่ ่
ลาแสดงอิเล็กตรอน มันจะเคลื่อนทีไปตามแนวขวาง จากนันเมือกวาดภาพ มาถึง
่ ้ ่
สุดขอบด้านหนึ่ง ปื นลาแสงก็จะหยุดยิง และ ปรับปื นอิเล็กตรอนลงมา 1 line
และ เคลื่อนทีไปยังขอบอีกด้านหนึ่ง และทาการยิงใหม่ ลักษณะการยิงจึงเป็ น
่ ่
ั
แบบฟนเลื่อย
- 7. เคสของคอมพิวเตอร์ถึงแม้จะมีคุณสมบัตเิ ป็นเพียงเปลือกห่อหุ้มภายนอก แต่
ก็มีคุณสมบัติ หลายอย่างไปตามชนิดของเคส เช่น เคสแบบ ATX จะมีคุณสมบัติใน
การระบายความร้อนได้ดกว่า เคสแบบ AT และมีคุณสมบัติในการสนับสนุนระบบ
ี
เพาเวอร์ชัตดาวน์ ของระบบปฏิบัตการรุ่นใหม่ๆ ซึ่งเคสแบบ AT นั้นไม่มี เคสจะมี
ิ
สิ่งหนึ่งทีติดตั้งควบคู่มากับเคสและก็มีความสาคัญพอควร นั้นคือ เพาเวอร์ซพพลาย
่ ั
ซึ่งเป็นตัวจ่ายกระแสไฟฟ้า ให้กบอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบคอมพิวเตอร์ ในการเลือก
ั
เคส ต้องคานึงถึง ตัวเพาเวอร์ซพพลายว่ามีกาลังในการจ่ายไฟให้กบอุปกรณ์เพียงพอ
ั ั
หรือไม่ และต้องเลือกใช้กบเมนบอร์ด ให้เข้ากันด้วยคือเมนบอร์ดแบบไหนก็เคสแบบ
ั
เดียวกัน
- 8. คียบอร์ด (Keyboard)
์
คีย์บอร์ดเป็นอุปกรณ์รับข้อมูลเบื้องต้น มีลักษณะการทางานคล้าย
คีย์บอร์ดของเครื่องพิมพ์ดีด แต่ได้เพิ่มปุ่มควบคุมเฉพาะสาหรับคอมพิวเตอร์
โดยปกติจะมี 101 คีย์ ซึ่งบางรุ่นอาจจะมีน้อย หรือมากกว่าก็ได้
- 9. โดยสามารถแบ่งเป็นกลุ่มๆ ได้ดงนี้
ั
101-key Enhanced keyboard
104-key Windows keyboard
82-key Apple standard keyboard
108-key Apple Extended keyboard
Notebook & Palm keyboard
- 10. ปุ่มต่างๆ บนคีย์บอร์ดมีจานวนมาก ซึ่งสามารถแบ่งได้ 4 ส่วนหลัก คือ
Typing keys กลุ่มปุ่มพิมพ์อักขระ
Numeric keypad กลุ่มปุ่มตัวเลข และเครื่องหมายคานวณ
Function keys กลุ่มปุ่มฟังก์ชัน F1 - F12
Control keys กลุ่มปุ่มควบคุมต่างๆ เช่น ลูกศร, Ctrl, Alt เป็นต้น
ปุ่มฟังก์ชัน และปุ่มควบคุม ทางบริษัท IBM
(ค.ศ. 1986) ได้พัฒนาเพิ่มเข้ามาในคีย์บอร์ด เพื่อช่วยให้การทางานมี
ความสะดวกมากขึ้น
- 11. ์ ่ ่
การทางานของคียบอร์ด จะเกิดจากการเปลียนกลไกการกดปุม ให้เป็ น
สัญญาณทางไฟฟ้า เพื่อส่งให้คอมพิวเตอร์ โดยสัญญาณดังกล่าว จะบอก
ให้คอมพิวเตอร์ทราบว่ามีการกดคีย์อะไร การทางานทั้งหมดจะถูกควบคุม
ด้วย Microprocessor ขนาดเล็กที่บรรจุในคีย์บอร์ด และสัญญาณต่างๆ
จะส่งผ่านสายสัญญาณผ่านทางขั้วต่อ
- 12. ซึ่งแบ่งได้ 4 ประเภท คือ
5-pin DIN (Deustche Industrie Norm) connector เป็นขั้วต่อ
ขนาดใหญ่ ใช้กับคอมพิวเตอร์ในรุ่นแรก
6-pin IBM PS/2 mini-DIN connector เป็นขั้วต่อขนาดเล็ก
ปัจจุบันพบได้อย่างแพร่หลาย
4-pin USB (Universal Serial Bus) connector เป็นขั้วต่อรุ่นใหม่
internal connector เป็นขั้วต่อแบบภายใน พบได้ใน Notebook
Computer
- 14. เมาส์ (Mouse)
อุปกรณ์รับข้อมูลที่นิยมรองจากคีย์บอร์ด ได้แก่ อุปกรณ์ชี้ตาแหน่ง
ทีเ่ รียกว่า เมาส์ (Mouse) หรือ "หนูอิเล็กทรอนิกส์" เนื่องจากเป็น
อุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายหนู มีสายต่ออยู่ที่ปลายลักษณะเดียวกับหางหนู
เมาส์จะช่วยในการบ่งชี้ตาแหน่งว่าขณะนี้กาลังอยู่ ณ จุดใดบนจอภาพ
เรียกว่า "ตัวชี้ตาแหน่ง (Pointer)" ซึ่งอาศัยการเลื่อนเมาส์ แทนการกดปุ่ม
บังคับทิศทางบนคีย์บอร์ด
- 15. เมาส์พัฒนาขึ้นมาครั้งแรก ในศูนย์ค้นคว้าที่เมืองปาโลอัลโต้ ของ
บริษัทซีร็อก (Xerox Corporation's Palo Alto Research Center)
เมาส์มีหลายรูปร่าง หลายลักษณะ โดยเฉพาะเมาส์รุ่นใหม่ๆ จะออกแบบมา
อย่างสวยงาม โดยปกติปุ่มของเมาส์ จะมี 2 ปุ่มสาหรับเมาส์ของเครื่องพีซี
และปุ่มเดียวสาหรับเครื่อง Macintosh ปัจจุบันมีการพัฒนาให้เมาส์ใช้งาน
ได้ง่ายขึ้น โดยเพิ่มปุ่มเลื่อนตรงกลาง มีลักษณะคล้ายล้อ ดังรูป เรียกว่า
Intelli Mouse ซึ่งจะอานวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในการเลื่อนจอภาพเพื่อดู
ข้อมูล นอกจากนี้ยังมีเมาส์ที่ทางานด้วยสัญญาณแสง ที่เรียกว่า Infrared
หรือ Wireless Mouse
- 16. เมาส์ประกอบด้วย ลูกกลิ้งที่ติดตั้งอยูด้านล่าง และมีปุ่มกดควบคุม
่
(ตั้งแต่ 1 - 3 ปุ่ม) การใช้เมาส์จะนาเมาส์วางไว้บนพื้นราบ และเลื่อนเมาส์ไปใน
ทิศทางที่ต้องการ บนจอภาพจะปรากฏ สัญลักษณ์ชี้ตาแหน่ง เรียกว่า "Mouse
Pointer" (มักจะเป็นรูปลูกศรเฉียงซ้าย) เมื่อต้องการจะทางานใดๆ ก็ทาการกดปุ่ม
เมาส์ ตามหลักการใช้เมาส์ คอมพิวเตอร์จะรับสัญญาณ และทาการประมวลผลต่อไป
- 17. มี 3 ประเภท คือ Mechanical, Opto-Mechanical, Optical
Mechanical
เป็นกลไกการทางานที่อาศัยลูกบอลยาง ที่สามารถกลิ้งไปมาได้ เมื่อทาการ
เคลื่อนย้ายตัวเมาส์ ซึ่งลูกบอลจะกดแนบอยูกับลูกกลิ้ง โดยแกนของลูกกลิ้ง จะต่อกับจาน
่
แปลรหัส (Encoder) บนจานจะมีหน้าสัมผัสเป็นจุดๆ เมื่อจุดสัมผัสเลื่อนมาตรงแกนสัมผัส
ก็จะสร้างสัญญาณ บอกไปยังเครืองคอมพิวเตอร์ โปรแกรมควบคุมเมาส์ จะทาหน้าที่ แปล
่
เป็นคาสั่งเคลื่อนย้ายเคอร์เซอร์ บนจอภาพต่อไป
- 18. Opto-Mechanical
กลไกการทางานคล้าย Mechanical แต่ตัวรับการเคลื่อนที่ของจาน
Encoder จะมี LED อยู่อีกด้านหนึ่งของจานไว้คอยกาเนิดแสง และอีกด้าน
หนึ่ง จะมี Opto-Transistor (ทรานซิสเตอร์ไวแสง) ไว้คอยตรวจจับแสง
แทนการใช้การสัมผัส
- 19. Optical
กลไกการทางานที่อาศัยแผ่นรองชนิดพิเศษ ซึ่งมีผิวมันสะท้อนแสง
และมีตารางเส้นตามแกน X , Y โดยแกนหนึงเป็นสีน้าเงิน อีกแกนเป็นสีดา ตัด
่
กันไว้คอยตรวจจับการเคลื่อนที่ ซึ่งบนเมาส์ จะมี LED 2 ตัวให้กาเนิดแสงออกมา 2
สี คือ สีดา และสีน้าเงิน LED ที่กาเนิดแสงสีดา จะดูดกลืนแสงสีน้าเงิน LED ที่
กาเนิดแสงสีน้าเงิน จะดูดกลืนแสงสีดา ซึ่งตัวตรวจจับแสง เป็นทรานซิสเตอร์ไว
แสง สีที่ตรวจจับได้จะบอกทิศทาง ส่วนช่วงของแสงที่หายไป จะบอกถึงระยะทางการ
เคลื่อนที่
- 20. ลาโพง (Speaker)
คือ อุปกรณ์ภายนอกอีกชิ้นหนึ่ง ที่เป็นอุปกรณ์สาหรับแสดงผล ซึ่ง
แสดงผลออกมาในรูปแบบของสัญญาณเสียง คอมพิวเตอร์สามารถแทนชุด
เครื่องเสียงแบบมินิคอมโปได้ สามารถใช้งานแทนเครื่องเล่นวิดีโอและทีวีได้
หลายคนคงเคยได้ยินเช่นนั้น การจะทาให้คอมพิวเตอร์ทางานแทนแหล่งบันเทิง
เหล่านั้นได้ ต้องการฮาร์ดแวร์มัลติมีเดีย ได้แก่ ไดรฟ์ซีดีรอม ไดรฟ์ดีวีดี
การ์ดเสียง การ์ด MPEG, การถอดรหัส AC- 3 (AC-3 Decoding) การ์ด
ประมวลผลดีวีดี และนอกเหนือจากนั้นสิ่งที่มาทาให้บรรยากาศของบันเทิงบน
คอมพิวเตอร์เป็นจริงคือ ลาโพง
- 22. UPS โดยทั่วไปก็จะทาหน้าที่ สารองไฟไว้ใช้ในกรณีไฟฟ้าดับ หรือหาก
กระแสไฟฟ้า เกินหรือขาด ไปมากกว่าค่าที่กาหนดไว้ UPS ก็จะตัดเข้าจ่ายไฟจากแบตเตอรี่
ภายใน UPS เองโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมี UPS บางยี่ห้อที่เพิ่มส่วนของ ตัวควบคุม
เสถียรภาพของไฟฟ้า (Stabilizer) ซึ่งทาหน้าที่ควบคุม ให้กระแสไฟฟ้าที่จายออกจาก UPS
่
มีค่าอยู่ในช่วง 210- 230 โวลต์โดยตลอด อีกส่วนหนึ่งที่ UPS สามารถป้องกันได้ ก็คือ
ฟ้าผ่า เมื่อเกิดฟ้าผ่าไฟฟ้าสถิตย์จากฟ้าผ่าจะทาให้เกิดแรงเหนี่ยวนาภายในสายไฟฟ้า
แรงดันไฟฟ้าสูง บางทีอาจจะถึงหลายหมื่นโวลต์ และนั่นก็คืออันตรายมากที่สุดสาหรับ
เครื่องใช้ไฟฟ้า และรวมถึงคอมพิวเตอร์ด้วย
- 23. นางสาว กฤษติยา มั่นคง
นางสาว กันต์ธิมา พิเศษศิลป์
นางสาว ธนัชพร ศรีเมือง
นางสาว มณีวรรณ กัณหา
นางสาว สุนันทา ปลายตลาด
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1
โรงเรียน กระบุรวทยา จังหวัด ระนอง
ีิ