SlideShare a Scribd company logo
1 of 59
Download to read offline
1
ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-NET วิชา ศิลปะ(ทัศนศิลป์ )
คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดไม่จัดเป็นทัศนธำตุในงำนทัศนศิลป์
1. พื้นผิว
2. พื้นที่ว่ำง
3. ปริมำตร
4. น้ำหนักอ่อน-แก่
2. ภำพวำดที่แสดงให้เห็นกำรเจริญเติบโตก้ำวหน้ำควรเป็นภำพลักษณะใด
1. วำดด้วยเส้นตรงแนวเฉียง
2. วำดด้วยเส้นโค้งของวงกลม
3. วำดด้วยเส้นฟันปลำหรือเส้นซิกแซก
4. วำดด้วยเส้นโค้งอิสระทิ้งปลำยขึ้นสูงและน้ำหนักเบำ
3. ถ้ำนักเรียนต้องวำดภำพเหมือนบุคคลควรศึกษำในเรื่องใด
1. กำรวำดดวงตำ ปำก จมูก
2. กำรวำดภำพหุ่นนิ่ง
3. กำรจัดวำงองค์ประกอบ
4. กำยวิภำคศำสตร์
4. “...ดวงตาเบิกกว้าง ลูกตาดาอยู่กลางดวงตาและใหญ่กว่าปกติ มีเส้นรอยย่นหนึ่งเส้นหรือมากกว่าที่
หน้าผาก อ้าปากกว้าง มุมปากด้านล่างตกลง...”
จำกข้อดังกล่ำวภำพนี้แสดงถึงอำรมณ์ใด
1. อำรมณ์โกรธ
2. อำรมณ์ฉุนเฉียว
3. อำรมณ์ดี หัวเรำะอย่ำงร่ำเริง
4. อำรมณ์กลัว
5. งำนศิลปะในข้อใดใช้เทคนิคน้ำหนักอ่อน-แก่ของกำรใช้สี
1. รูปปั้นในสวนสำธำรณะ
2. ลวดลำยจำกกำรทอผ้ำ
3. ภำพวำดบนฝำผนังโบสถ์
4. งำนแกะสลักงำช้ำงเป็นรูปต่ำงๆ
2
6. “ภาพตอนพระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน สีภาพโดยรวมจะดูหม่น ค่อนข้างมืด แต่มีแสงสีสดใสส่องกระทบ
กับก้อนเมฆอย่างสวยงาม”
ภำพนี้แสดงให้เห็นลักษณะของสีแบบใด
1. สีเอกรงค์ (Monochrome)
2. คุณค่ำของสี (Value)
3. สีกลำง (Neutral Colors)
4. ควำมเด่นชัดของสี (Intensity)
7. ข้อใดคือแนวคิดของกำรออกแบบที่ดี
1. มีรำคำแพงที่สุด
2. สวยงำมมำกที่สุด
3. ทันสมัยมำกที่สุด
4. ใช้ประโยชน์ได้มำกที่สุด
8. กำรออกแบบมีควำมหมำยสัมพันธ์กับข้อใด
1. กำรสร้ำงสรรค์ผลงำนที่แปลกใหม่ขึ้นมำ
2. กำรประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้น
3. กำรสร้ำงงำนทุกประเภทที่คนยอมรับ
4. กำรสร้ำงงำนทุกประเภทไม่มีขอบเขตกำหนด
9. ข้อใดไม่ใช่เกณฑ์หรือตัวชี้วัดที่แสดงถึง “ควำมพึงพอใจในกำรออกแบบ”
1. ควำมสวยงำมแปลกใหม่
2. ประโยชน์ในกำรใช้สอย
3. กำรเลียนแบบมำจำกสิ่งอื่น
4. แนวคิดในกำรออกแบบที่ดี
10.ข้อใดกล่ำวถึงควำมหมำยของศิลปะได้ถูกต้อง
1. สิ่งที่สวยงำม
2. กำรสร้ำงสรรค์
3. สิ่งที่มนุษย์สร้ำงขึ้น
4. สิ่งที่มนุษย์สร้ำงขึ้นจำกควำมพึงพอใจ
3
11. ข้อใดเป็นควำมหมำยที่ถูกต้องของกำรบรรยำยผลงำนทำงทัศน์ศิลป์
1. เป็นกระบวนกำรรับรู้ที่เกิดจำกกำรมองเห็น สังเกต และบันทึกคุณลักษณะเด่นที่พบเห็น โดยที่ไม่มี
กำรวิพำกษ์วิจำรณ์ใดๆ
2. เป็นกระบวนกำรรับรู้ที่เกิดจำกกำรปฏิบัติและบันทึกคุณลักษณะเด่นที่พบเห็น โดยที่ไม่มีกำร
วิพำกษ์วิจำรณ์ใดๆ
3. เป็นกระบวนกำรรับรู้ผลงำน เพื่อวิเครำะห์ ตีควำม และถ่ำยทอดแนวคิดในผลงำนให้ผู้อื่นเข้ำใจ
4. เป็นกระบวนกำรรับรู้ผลงำน เพื่อวิเครำะห์วิจำรณ์และแสดงควำมชื่นชม
12.ข้อใดกล่ำวถูกต้องเกี่ยวกับศิลปะนำมธรรม
1. ภำพผลงำนเกิดจำกกำรผสมผสำนกันทำงด้ำนเทคนิคที่หลำกหลำย
2. สื่อควำมหมำยด้วยกำรใช้สีหลำยสี
3. นำวัสดุอุปกรณ์ที่มีรำคำแพงมำสร้ำงชิ้นงำนให้มีควำมโดดเด่น
4. ใช้ภำษำภำพในกำรสื่อควำมหมำยด้วยรูปทรง สี และลำยเส้น
13.กำรออกแบบภำพร่ำงในทำงทัศนศิลป์ หมำยถึงวิธีกำรใด
1. กำรขึ้นรูป
2. กำรสเกตซ์ภำพ
3. กำรพิมพ์ภำพต้นแบบ
4. กำรวำงโครงสร้ำงอุปกรณ์
14.ถ้ำต้องกำรวำดภำพท้องฟ้ำควรใช้เทคนิคใดจึงจะเหมำะสมที่สุด
1. แบบเปียกบนเปียก
2. แบบเปียกบนแห้ง
3. แบบแห้งบนแห้ง
4. แบบแห้งบนเปียก
15.ข้อใดกล่ำวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับงำนศิลปะสื่อผสม
1. สร้ำงสรรค์โดยใช้สื่อวัสดุต่ำงชนิดมำประกอบกันเป็นองค์ประกอบภำพ
2. ผู้สร้ำงสรรค์ผลงำนต้องมีควำมเข้ำใจเกี่ยวกับคุณลักษณะเฉพำะของวัสดุ
3. งำนศิลปะที่แสดงออกถึงกำรผสมผสำนกันระหว่ำงแนวควำมคิดกับผลงำนได้ลงตัว
4. สร้ำงสรรค์ได้เฉพำะผู้ที่มีประสบกำรณ์ในกำรสร้ำงสรรค์งำนศิลปะมำเป็นเวลำนำนเท่ำนั้น
16.ข้อใดเป็นวิธีกำรระบำยสีน้ำที่ถูกต้องที่สุด
1. พยำยำมระบำยสีให้มีเนื้อสีมำกที่สุดจะได้ภำพที่สดใส
2. ระบำยสีให้รวดเร็วฉับไว โดยไม่ต้องรอคอยให้สีแห้ง
3. ระบำยสีให้โปร่งใส ไม่ควรทับซ้อน หรือซ้ำกันหลำยๆ ครั้ง
4. ควรใช้พู่กันกลมในกำรระบำยสีน้ำมำกกว่ำพู่กันแบน เพรำะอุ้มน้ำได้ดีกว่ำ
4
17.ข้อใดจัดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในกำรสร้ำงงำนศิลปะสื่อผสม
1. ควำมรู้พื้นฐำนด้ำนงำนศิลปะ
2. กำรเตรียมวัสดุที่จะนำมำใช้ในกำรสร้ำงผลงำน
3. ควำมคิดริเริ่มสร้ำงสรรค์และจินตนำกำร
4. ผลงำนต้นแบบที่นำมำเป็นตัวอย่ำงในกำรสร้ำงงำน
18.เทคนิคกำรเขียนภำพสีน้ำแบบเปียกบนเปียกเหมำะสำหรับกำรระบำยสีภำพในส่วนใด
1. ภำพอำคำรบ้ำนเรือน
2. ภำพต้นไม้และธรรมชำติ
3. ภำพคนและสัตว์
4. ภำพท้องฟ้ำและน้ำ
19.ผลงำนนี้สะท้อนให้เห็นสิ่งใด
1. เคลื่อนไหว
2. กลมกลืน
3. รำบรื่น
4. โน้มเอียง
20.ผลงำนชิ้นนี้ต้องกำรสื่อให้เห็นสิ่งใด
1. ควำมอ่อนช้อย
2. ควำมโดดเด่น
3. ควำมกลมกลืน
4. ควำมรักของแม่
5
21.เพรำะเหตุใดจึงนิยมใช้ทองแดงเป็นโครงสร้ำงสำหรับปั้นหุ่นขี้ผึ้งมำกกว่ำลวดเหล็ก
1. ทองแดงมีควำมยืดหยุ่นมำกกว่ำลวดเหล็ก
2. ทองแดงมีควำมสัมพันธ์กับขี้ผึ้งได้ดีกว่ำลวดเหล็ก
3. ทองแดงสำมำรถสื่อควำมร้อนได้ดีกว่ำลวดเหล็ก
4. ทองแดงมีควำมเหนียวและทนทำนกว่ำลวดเหล็ก
22.เพรำะเหตุใดจึงเรียกกำรปั้นว่ำ “กระบวนการในทางบวก”
1. เป็นกำรนำวัสดุเพิ่มเข้ำไปให้ได้รูปทรง
2. เป็นกำรบวกกันระหว่ำงดินเหนียวกับดินน้ำมัน
3. เป็นกำรบวกกันระหว่ำงกำรปั้นและแกะสลัก
4. เป็นกำรคิดในทำงบวกว่ำผลงำนจะออกมำดี
23.ข้อใดจัดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของงำนสถำปัตยกรรม
1. มีรำคำแพง สวยงำม ทันสมัย
2. ใช้วัสดุท้องถิ่น แข็งแรง ใช้สะดวก
3. ควำมงำม ควำมแข็งแรง ประโยชน์ใช้สอย
4. ประโยชน์ใช้สอย ใช้วัสดุท้องถิ่น ต้นทุนต่ำ
24.สิ่งใดต่อไปนี้ตรงกับคำว่ำ “สถาปัตยกรรม” มำกที่สุด
1. หุ่นขี้ผึ้ง
2. โบสถ์
3. พระพุทธรูป
4. พระบรมรูปทรงม้ำ
25.ข้อใดคือรูปแบบของงำนศิลปะบำศกนิยม
1. เน้นกำรใช้สีที่สดใส
2. รูปทรงแสดงให้เห็นลักษณะผันแปรจำกควำมจริง
3. นำเทคนิคใหม่มำผสมผสำนในกำรสร้ำงงำน
4. ใช้วัสดุหลำกหลำยที่หำได้ในท้องถิ่นมำสร้ำงผลงำน
26.ใช้สีสดใสและตัดกันอย่ำงรุนแรง จัดเป็นงำนศิลปะประเภทใด
1. ศิลปะบำศกนิยม
2. ศิลปะนำมธรรม
3. ศิลปะโฟวิสม์
4. ศิลปะสมัยใหม่
6
27.ข้อใดไม่ใช่เอกลักษณ์ของงำนศิลปะแบบคิวบิสต์
1. ภำพส่วนใหญ่เป็นรูปทรงเรขำคณิต
2. แสดงมิติด้วยรูปทรง ขนำด กำรซ้อนกันภำยในภำพ
3. มีลักษณะกึ่งนำมธรรม คือ มีตัวตนและไม่มีตัวตนชัดเจน
4. ส่วนประกอบของภำพจะเน้นเรื่องของแสงเป็นสำคัญ
28.กำรออกแบบงำนทัศนศิลป์นอกจำกจะต้องใช้ควำมรู้และทักษะในงำนกรำฟิกแล้วยังต้องใช้ควำมรู้
ควำมสำมำรถด้ำนใดอีกบ้ำง
1. กำรใช้เส้น
2. กำรใช้สี
3. กำรสร้ำงรูปทรง
4. กำรจัดองค์ประกอบศิลป์
29.กำรจัดภำพในลักษณะใดที่แสดงถึงกำรใช้เทคนิคด้ำนจังหวะเพื่อให้เกิดควำมงำมที่โดดเด่น
1. จัดภำพโดยใช้กำรซ้ำกันสลับไปมำอย่ำงต่อเนื่อง
2. จัดภำพโดยใช้ลักษณะของพื้นผิวเดียวกันตลอดทั้งผลงำน
3. จัดภำพโดยใช้หลักควำมสมดุลทั้งสองข้ำงของผลงำน
4. จัดภำพโดยเน้นให้เกิดกำรประสำนกันอย่ำงลงตัว
30.ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกของกำรสร้ำงสรรค์งำนกรำฟิก
1. กำรร่ำงภำพ
2. กำรกำหนดวัตถุประสงค์
3. กำรคัดเลือกภำพที่นำมำใช้
4. กำรลงมือสร้ำงชิ้นงำน
31.ข้อใด ไม่ใช่ ควำมสำคัญของกำรออกแบบ
1. เสริมสร้ำงให้เกิดค่ำนิยมทำงควำมงำม
2. ช่วยให้เกิดจินตภำพ เกิดแนวคิดในกำรสร้ำงสรรค์ผลงำน
3. ทำให้ข้อมูลที่กระจัดกระจำยมีระเบียบเพิ่มมำกขึ้น
4. รำคำสินค้ำที่ออกแบบมีรำคำสูงตำมประโยชน์ของกำรใช้สอย
32.เครื่องแขวนปลำตะเพียนของไทยเป็นงำนทัศนศิลป์แบบใด
1. ประติมำกรรม
2. สื่อผสม
3. โมบำย
4. จิตรกรรมผสมประติมำกรรม
7
33.เส้นในลักษณะใดที่ให้ควำมรู้สึกเคลื่อนไหวและคลี่คลำยไม่มีที่สิ้นสุด
1. เส้นคด
2. เส้นสลับฟันปลำ
3. เส้นโค้งก้นหอย
4. เส้นโค้งกลับหลัง
34.แฟ้มสะสมผลงำนมีประโยชน์ต่อกำรเรียนกำรสอนอย่ำงไร
1. ทำให้รู้ถึงทักษะพื้นฐำนของผู้เรียน
2. สำมำรถสะสมเป็นผลงำนของครูได้
3. ใช้ในกำรสอนรำยบุคคลได้เป็นอย่ำงดี
4. ทำให้ครูสำมำรถวำงแผนกำรเรียนกำรสอน
35.ผลงำนที่มีจำนวนมำกและจำเป็นต้องจัดเก็บชิ้นงำนเป็นกลุ่มควรจัดเก็บไว้ในรูปแบบใด
1. แฟ้มแขวน
2. สมุดงำน
3. แฟ้มสี
4. กล่อง
36.ข้อใดเป็นประโยชน์ของกำรจัดทำแฟ้มสะสมผลงำนที่ทำให้เกิดกำรพัฒนำตนเองต่อไป
1. มีที่เก็บสะสมผลงำนที่แสดงถึงควำมคิดสร้ำงสรรค์ของตนเอง
2. ได้ฝึกทักษะในกำรจัดเก็บและนำเสนอผลงำนอย่ำงเป็นระบบ
3. ทำให้ครูผู้สอนสำมำรถสรุปปัญหำและเสนอแนะแนวทำงพัฒนำศักยภำพของผู้เรียนได้
4. เก็บไว้ใช้เป็นหลักฐำนเพื่อประโยชน์อื่นๆ ในชีวิตประจำวันได้
37.กำรวิจำรณ์ศิลปะมีควำมสัมพันธ์กับข้อใด
1. ชี้ข้อบกพร่องของผลงำน
2. แสดงทัศนะต่อผลงำน
3. อธิบำยถึงผลงำนในแง่ดี
4. นำผลงำนมำประกวดกัน
38.จุดมุ่งหมำยสำคัญของกำรวิจำรณ์ศิลปะคือข้อใด
1. เพื่อประเมินค่ำผลงำนศิลปะให้เป็นมำตรฐำน
2. เพื่อตัดสินผลงำนศิลปะที่ส่งเข้ำประกวดอย่ำงยุติธรรม
3. เพื่อให้ผู้ที่สนใจงำนศิลปะรับรู้ เข้ำใจ และชื่นชมผลงำนศิลปะ
4. เพื่อให้ผลงำนศิลปะมีรำคำที่สูงขึ้นและสำมำรถจำหน่ำยได้
8
39.ทฤษฎีศิลปะข้อใดที่เน้นคุณค่ำด้ำนทัศนธำตุและองค์ประกอบศิลป์ เป็นสำคัญ
1. เลียนแบบนิยม
2. รูปทรงนิยม
3. อำรมณ์นิยม
4. เครื่องมือนิยม
40.เพรำะเหตุใดจึงต้องมีกำรวิจำรณ์งำนศิลปะ
1. เพื่อให้มีผู้ซื้องำนศิลปะมำกขึ้น
2. เพื่อให้ผู้ชมอยำกสร้ำงงำนศิลปะ
3. เพื่อให้ศิลปินสร้ำงงำนที่มีคุณภำพมำกขึ้น
4. เพื่อให้คนเข้ำมำชมนิทรรศกำรทำงศิลปะมำกขึ้น
9
ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-NET วิชา ศิลปะ(ดนตรี)
คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. กลอนบทนี้กล่ำวถึงวงมโหรีประเภทใด
“นำงขับขำนเสียงแจ้วพึงใจตำมเพลงกลอนกลในภำพพร้อง
มโหรีบรรเลงไฉนซอพำทย์ ทับกระจับปี่ก้องเร่งเร้ำรัญจวน”
1. วงมโหรีเครื่องห้ำ
2. วงมโหรีเครื่องหก
3. วงมโหรีเครื่องแปด
4. วงมโหรีเครื่องสิบ
2. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของดนตรี
1. ฝึกสมำธิ กระตุ้นควำมทรงจำ
2. สร้ำงรำยได้เพื่อเลี้ยงครอบครัวได้ดี
3. เป็นสื่อกลำงในกำรติดต่อสื่อสำรในชนเผ่ำ
4. เป็นส่วนประกอบในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน
3. กำรฟังดนตรีแบบใดที่เมื่อฟังแล้วสำมำรถที่จะประเมินคุณภำพผลงำนดนตรีได้
1. ฟังแบบผ่ำนหู
2. ฟังด้วยควำมรู้สึก
3. ฟังด้วยอำรมณ์
4. ฟังด้วยควำมซำบซึ้ง
4. กำรบรรเลงดนตรีเป็นวงจะต้องคำนึงถึงสิ่งใดเป็นสำคัญ
1. ควำมพร้อมเพรียง
2. ควำมดังของเสียงเครื่องดนตรี
3. ควำมมีระเบียบเรียบร้อยของกำรจัดวงดนตรี
4. ควำมสอดคล้องกลมกลืนกันของเสียงเครื่องดนตรีที่บรรเลง
5. เครื่องดนตรีชนิดใดได้รับอิทธิพลมำจำกประเทศอินเดีย
1. สังข์บัณเฑำะว์
2. กลองแขก ปี่ชวำ
3. ปี่มอญ แตรวิลันดำ
4. ซออู้ซอสำมสำย
10
6. ถ้ำนักเรียนจัดงำนพิธีมงคลสมรสในหอประชุม นักเรียนควรเลือกวงดนตรีไทยประเภทใดมำบรรเลง
1. วงปี่พำทย์นำงหงส์
2. วงมโหรีเครื่องคู่
3. วงเครื่องสำยไทย
4. วงมหำดุริยำงค์
7. ข้อใดไม่จัดเป็นรูปแบบของคำผญำ
1. มีสัมผัส หรือใช้คำคล้องจอง
2. มีเสียงสูง-ต่ำ และจังหวะในกำรออกเสียง
3. มีกำรบรรยำยเรื่องรำวต่ำงๆ ด้วยทำนองอันไพเรำะ
4. มีกำรสัมผัสเสียงสูง-ต่ำ และจังหวะในกำรออกเสียงประสมกัน
8. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้เกิดดนตรีพื้นบ้ำนในแต่ละท้องถิ่น
1. สภำพแวดล้อม
2. ภูมิหลังทำงประวัติศำสตร์
3. กำรทำมำหำกินของคนในชุมชน
4. จำนวนประชำกรในแต่ละชุมชน
9. ดนตรีพื้นบ้ำนให้คุณค่ำในเรื่องใดมำกที่สุด
1. ให้คติสอนใจ
2. ให้ควำมเพลิดเพลิน
3. ให้คนในท้องถิ่นเกิดควำมรักและควำมสำมัคคีกัน
4. บ่งบอกถึงวัฒนธรรมประเพณีของคนในท้องถิ่นนั้นๆ
10.กำรฟังเพลงพื้นบ้ำนในท้องถิ่นมีประโยชน์อย่ำงไร
1. ช่วยอนุรักษ์เพลงพื้นบ้ำน
2. รู้จักใช้เวลำว่ำงให้เกิดประโยชน์
3. เป็นที่รักใคร่ของผู้คนภำยในท้องถิ่น
4. ทำให้บุคลคลอื่นทรำบว่ำเรำเกิดมำจำกท้องถิ่นใด
11.ดนตรีพื้นบ้ำนหมำยถึงข้อใด
1. ดนตรีที่เกิดจำกคนในเมือง
2. ดนตรีที่เกิดในสมัยสุโขทัย
3. ดนตรีที่เกิดจำกคนในท้องถิ่น
4. ดนตรีที่เลียนเสียงธรรมชำติ
11
12.ข้อใดเป็นเครื่องดนตรีที่ไม่เข้าพวก
1. กลองตุ้ม โหวด ไหซอง
2. หมำกกั๊บแก๊บ ตรัวเอก ปี่เจรียง
3. ผ่ำงฮำด กลองยำว กลองตึ้ง
4. กลองกันตรึม ซอบั้ง แคน
13.เพรำะเหตุใดจึงกำหนดให้ทุกโรงเรียนมีกำรจัดกำรเรียนกำรสอนในวิชำดนตรีไทย
1. เพรำะต้องกำรให้นักเรียนรู้จักเครื่องดนตรีไทย
2. เพรำะต้องกำรให้นักเรียนใช้เวลำว่ำงปฏิบัติกิจกรรมที่เกิดประโยชน์
3. เพรำะต้องกำรให้รู้จักวิธีทำเครื่องดนตรี เนื่องจำกทุกโรงเรียนต้องใช้
4. เพรำะต้องกำรให้นักเรียนตระหนักถึงควำมสำคัญของดนตรีไทยที่เป็นมรดกทำงวัฒนธรรมของชำติ
14. กำรกระทำของบุคคลในข้อใดที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่ำของดนตรีไทยมำกที่สุด
1. ดำว ชอบฟังเพลงไทยเดิมจำกวิทยุ
2. จัน หัดขับร้องเพลงไทยเดิมในวันหยุดเสำร์-อำทิตย์
3. เดือน เล่นดนตรีไทยที่ตนเองสนใจและขยันฝึกซ้อมทุกวัน
4. แรม เปิดร้ำนจำหน่ำยเพลงไทยเดิมและเครื่องดนตรีไทยทุกชนิด
15.ข้อใดไม่ใช่กำรประยุกต์ดนตรีกับกำรศึกษำ
1. โรงเรียนกวดวิชำนำสูตรคณิตศำสตร์มำแต่งเป็นเพลงเพื่อช่วยในกำรจดจำ
2. วิชำภำษำอังกฤษนำเพลงสำกลมำให้นักเรียนมำหัดแปลคำศัพท์ภำษำอังกฤษ
3. วิชำภำษำไทยนำโคลงสี่สุภำพมำใส่ทำนองเพลง
4. ห้ำงสรรพสินค้ำชื่อดังแต่งเพลงเพื่อโฆษณำขำยชุดนักเรียน
16.เพรำะเหตุใดในปัจจุบันสุภำพสตรีที่มีครรภ์จึงนิยมฟังเพลง
1. ลดควำมวิตกกังวล
2. บรรเทำอำกำรปวดหลัง
3. ผ่อนคลำยควำมตึงเครียด
4. จรรโลงจิตใจให้เกิดควำมสงบ
17.ข้อใดไม่ใช่หลักในกำรขับร้องที่ถูกต้อง
1. ยืนตัวตรง
2. ทำนองและจังหวะถูกต้องชัดเจน
3. ออกอักขระควบกล้ำชัดเจน
4. ใส่อำรมณ์ควำมรู้สึกร่วมไปตำมเสียงเพลง
12
18.ถ้ำนักเรียนต้องกำรพิจำรณำควำมไพเรำะของบทเพลงไทยสำกลนักเรียนควรใช้เกณฑ์ในข้อใด
1. เป็นจังหวะที่เชื่องช้ำแบบเพลงไทยเดิม
2. บทเพลงมีควำมหมำยดี ลึกซึ้ง กินใจ
3. มีกำรนำเอำเครื่องดนตรีไทยมำบรรเลงร่วมกับเครื่องดนตรีสำกล
4. คัดเลือกศิลปินที่มีควำมเชี่ยวชำญในกำรร้องเพลงและมีชื่อเสียงโด่งดังมำร้องเพลง
19.กำรรับรู้ควำมงำมของดนตรีขึ้นอยู่กับปัจจัยใดเป็นสำคัญ
1. กำรศึกษำ
2. ค่ำนิยม
3. สังคม
4. อำรมณ์และจิตใจ
20.องค์ประกอบใดของดนตรีไทยที่ไม่นำมำพิจำรณำในเรื่องของสุนทรียศำสตร์ทำงดนตรี
1. เสียง
2. ทำนอง
3. จังหวะ
4. เสียงประสำน
21.ข้อใดจัดเป็นเครื่องดนตรีไทยในกลุ่มเดียวกันทั้งหมด
1. ซึง ฆ้อง
2. สะล้อ ระนำด
3. พิณน้ำเต้ำ กระจับปี่
4. ซอสำมสำย กลองยำว
22.จุดมุ่งหมำยสำคัญของกำรรัวประลองเสภำคือข้อใด
1. เป็นกำรซ้อมกำรบรรเลงดนตรีก่อนกำรแสดงจริง
2. เป็นกำรเตรียมควำมพร้อมของนักดนตรีก่อนเริ่มกำรแสดง
3. เป็นกำรแจ้งประกำศให้ผู้คนรับรู้ว่ำกำรแสดงกำลังจะเริ่มขึ้น
4. เป็นกำรอวดฝีมือของนักดนตรีในกำรบรรเลงเครื่องดนตรี เพื่อข่มขวัญคู่ต่อสู้
23.นักเรียนสำมำรถอนุรักษ์ดนตรีไทยให้คงอยู่สืบต่อไปได้อย่ำงไร
1. พัฒนำควำมรู้ควำมสำมำรถของศิลปิน นักแต่งเพลง นักดนตรี
2. ปลูกจิตสำนึกแก่ประชำชนที่ทำกำรค้ำขำยเกี่ยวกับเครื่องดนตรี
3. จัดกิจกรรมส่งเสริมกำรแสดงดนตรีในงำนเทศกำล หรืองำนประเพณีท้องถิ่น
4. ช่วยกันอุดหนุนหรือซื้อเครื่องดนตรีไทยโบรำณ
13
24.สิ่งสำคัญที่จะทำให้กำรขับร้องเพลงไทยเดิมมีควำมไพเรำะมำกยิ่งขึ้นคือสิ่งใด
1. เสียงของผู้ขับร้องเพลง
2. สุขภำพของผู้ขับร้องเพลง
3. กำรเอื้อนเสียงในเพลง
4. ประสบกำรณ์ของผู้ขับร้องเพลง
25.ข้อใดกล่ำว ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับหลักกำรบรรเลงเดี่ยวที่ดี
1. ต้องขยันหมั่นฝึกซ้อมทุกวันจนเกิดควำมชำนำญ
2. ตรวจสอบเครื่องดนตรีก่อนทุกครั้งก่อนกำรบรรเลง
3. มีควำมมั่นใจในตนเอง กล้ำแสดงออกต่อหน้ำสำธำรณชน
4. ลอกเลียนลีลำท่ำทำงกำรบรรเลงจำกนักดนตรีที่มีชื่อเสียง
26.กำรรับรู้ควำมงำมของดนตรีขึ้นอยู่กับปัจจัยใดเป็นสำคัญ
1. กำรศึกษำ
2. ค่ำนิยม
3. สังคม
4. อำรมณ์และจิตใจ
27. มีอัตรำจังหวะเท่ำกับข้อใด
1.
2.
3.
4.
14
28.ข้อใดกล่ำวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่ใช้ในกำรบันทึกโน้ตสำกล
1. เส้นนอนเรียกว่ำ “บรรทัด 5 เส้น”
2. สัญลักษณ์ด้ำนซ้ำยสุด เรียกว่ำ “เครื่องหมำยแปลงเสียง”
3. เส้นแนวตั้ง 2 เส้น ด้ำนขวำสุด เรียกว่ำ “เส้นกั้นห้องคู่”
4. สัญลักษณ์รูปวงกลม เรียกว่ำ “ตัวโน้ต”
29.ข้อใดเรียงลำดับเสียงสูงไปหำเสียงต่ำได้ถูกต้อง
1. บำริโทน อัลโต เมซโซปรำโน
2. เบส บำริโทน เทเนอร์
3. เมซโซปรำโน เบส อัลโต
4. โซปรำโน เมซโซโซปรำโน อัลโต
30.ตัวโน้ตที่มีควำมยำวของเสียงมำกที่สุดมีลักษณะตรงกับข้อใด
1. โน้ตตัวกลม
2. โน้ตตัวดำ
3. โน้ตตัวขำว
4. โน้ตตัวเขบ็ต
31.เครื่องดนตรีชนิดใดมีวิธีกำรบรรเลงคล้ำยกับเปียโน
1. คอร์เน็ต
2. ฮำร์ปซิคอร์ด
3. คำบำซำ
4. คอนทรำเบส
32. เพลงที่ใช้สวดโดยนำเนื้อร้องมำจำกคัมภีร์หมำยถึงเพลงประเภทใด
1. โมเต็ต
2. ออรำทรอริโอ
3. แพสชั่น
4. รีเควี่ยม
33.ดนตรีสำกลมีลักษณะเด่นชัดอย่ำงไร
1. เป็นที่รู้จักอย่ำงแพร่หลำย
2. นักร้องขับร้องเพลงครั้งละหลำยคน
3. ได้รับอิทธิพลทำงดนตรีมำจำกกรีก
4. มีเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์เฉพำะ
15
34.ข้อใดเป็นลักษณะของบทเพลงซิมโฟนี
1. เพลงที่บรรเลงโดยวงออร์เคสตรำ
2. เพลงที่ประพันธ์จำกคีตกวีเยอรมัน
3. เพลงที่ใช้เครื่องเป่ำเป็นส่วนใหญ่
4. เพลงที่มีทำนองอ่อนหวำนปนเศร้ำ
35.กำรจะเรียกชื่อวงเชมเบอร์มิวสิกต้องยึดหลักในข้อใด
1. เรียกตำมจำนวนผู้บรรเลง
2. เรียกตำมจำนวนเครื่องดนตรี
3. เรียกตำมจำนวนเพลงที่ใช้บรรเลง
4. เรียกตำมจำนวนระยะเวลำที่ใช้ในกำรแสดง
36.วงโยธวำทิตไม่นิยมนำมำใช้บรรเลงในกิจกรรมใด
1. เดินสวนสนำม
2. เดินขบวนพำเหรด
3. เดินนำขบวนรณรงค์ต่ำงๆ
4. เดินนำขบวนแห่นำคเข้ำโบสถ์
37.ข้อใดไม่ใช่บทเพลงพระรำชนิพนธ์ในพระบำทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำเจ้ำอยู่หัว (รัชกำลที่6)
1. เพลงสยำมมำนุสติ เถำ
2. เพลงลมพัดชำยเขำ
3. เพลงพรำหมณ์เข้ำโบสถ์ เถำ
4. เพลงเขมรไทรโยค
38.วงดนตรีสำกลในข้อใดเปรียบได้กับวงมโหรีเครื่องใหญ่ของไทย
1. วงโยธวำทิต
2. วงออร์เคสตรำ
3. วงเชมเบอร์มิวสิก
4. วงดนตรีพื้นบ้ำนอเมริกัน
39.ถ้ำนักเรียนต้องจัดวงดนตรีเพื่อนำไปบรรเลงในงำนศพที่โบสถ์ของศำสนำคริสต์นักเรียนควรใช้
วงดนตรีสำกลลักษณะใด
1. วงโยธวำทิต
2. วงออร์เคสตรำ
3. วงคันทรีอเมริกัน
4. วงเชมเบอร์มิวสิก
16
40.ข้อใดไม่ควรปฏิบัติในขณะขับร้องเพลงสำกล
1. ร้องให้ตรงจังหวะและทำนองเพลง
2. เปล่งเสียงร้องให้สูง-ต่ำตำมพื้นเสียง
3. ร้องให้ตรงระดับเสียงตัวโน้ตบนบรรทัด 5 เส้น
4. ควบคุมกำรหำยใจเข้ำ-ออกให้มีควำมสม่ำเสมอ
17
ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-NET วิชา ศิลปะ(นาฏศิลป์ )
คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. กำรแสดงในข้อใดแตกต่ำงจำกพวก
1. รำกริชอิเหนำ
2. รำซัดชำตรี
3. รำสีนวล
4. รำพัด
2. รำกลองยำวสะท้อนให้เห็นชีวิตควำมเป็นอยู่ของผู้คนอย่ำงไร
1. รักอิสระ ไม่ชอบกฎระเบียบ
2. เรียบง่ำย รักควำมสนุกสนำน
3. มีน้ำใจ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
4. ใช้ชีวิตอย่ำงเร่งรีบ ต่ำงคนต่ำงอยู่
3. บทร้องที่ดีควรมีลักษณะเป็นอย่ำงไร
1. เหมำะสมกับลักษณะของผู้แสดงแต่ละครำว
2. ปรับปรุงไปตำมควำมเหมำะสมกับเวลำและโอกำส
3. เหมำะสมกับลักษณะของกำรละครและนิสัยของตัวละคร
4. เปลี่ยนแปลงไปตำมสภำพและเหตุกำรณ์ของบ้ำนเมือง
4. ข้อใดที่กล่ำวถึงลักษณะของกำรแสดงโขนได้อย่ำงถูกต้อง
ก. นำวรรณคดีเรื่องใดมำแสดงก็ได้
ข. ผู้แสดงต้องสวมหัวโขน
ค. ตัวละครพูดเอง ร้องเอง
ง. แต่งกำยในชุดยืนเครื่องพระ นำง ยักษ์ ลิง
1. ก. และ ข.
2. ข. และ ง.
3. ก. และ ค.
4. ข. และ ค.
18
5. เพรำะเหตุใดผู้แสดงที่แสดงโขนเป็นตัวพระและตัวนำงจึงไม่เจรจำบทด้วยตนเอง
1. เพรำะผู้แสดงไม่ถนัด
2. เพรำะมีผู้ขับร้องและผู้พำกย์แทน
3. เพรำะต้องกำรรักษำจำรีตของกำรแสดงโขนไว้
4. เพรำะผู้แสดงไม่ได้รับกำรฝึกหัดให้เจรจำเอง
6. จำกภำพเป็นกำรแสดงประเภทใด
1. ระบำมำตรฐำน
2. ระบำที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่
3. ระบำโบรำณคดี
4. ระบำประเภทพื้นเมือง
7. ข้อใดเป็นสิ่งที่ควรคำนึงในกำรประดิษฐ์ท่ำรำที่เป็นคู่
1. กำรแปรแถวที่หลำกหลำย
2. ยึดแบบแผนท่ำรำเฉพำะถิ่น
3. ท่ำรำของคู่รำควรมีควำมสอดคล้องกัน
4. คำนึงถึงควำมพร้อมเพรียงมำกกว่ำท่ำรำ
8. ข้อใดแตกต่ำงจำกข้ออื่น
1. รำกริชดรสำ รำหน้ำพำทย์
2. รำแม่บท รำมโนรำห์บูชำยัญ
3. รำฉุยฉำยพรำหมณ์ รำไหว้ครูโนรำ
4. รำซัดชำตรี รำรจนำเสี่ยงพวงมำลัย
9. ปฏิมำกรรมพระพุทธรูปปำงลีลำ นำไปสู่แนวคิดในกำรประดิษฐ์ท่ำรำชุดกำรแสดงใด
1. ระบำโบรำณคดี ชุด ลพบุรี
2. ระบำโบรำณคดี ชุด เชียงแสน
3. ระบำโบรำณคดี ชุด สุโขทัย
4. ระบำโบรำณคดี ชุด ศรีวิชัย
19
10.ข้อใดกล่ำวถูกต้อง
1. รำบท เป็นกำรรำที่ตัดตอนมำจำกกำรแสดงละคร
2. รำบท เป็นกำรแสดงท่ำทำงแทนคำพูดและอำรมณ์
3. รำหน้ำพำทย์เป็นกำรรำประกอบเพลงให้เข้ำกับเนื้อร้อง
4. รำหน้ำพำทย์เป็นกำรรำให้เข้ำกับจังหวะดนตรีและแสดงอำรมณ์ร่วม
11. อรอุมำเป็นชำวไทยมุสลิมกำลังจะจัดงำนแต่งงำนที่บ้ำน อรอุมำควรเลือกชุดกำรแสดงใดมำใช้ในงำน
1. รำอวยพร
2. ระบำร่อนแร่
3. มะโย่ง
4. รองเง็ง
12.คติควำมเชื่อทำงด้ำนนำฏศิลป์ที่ผู้แสดงต้องขอขมำผู้อำวุโสหลังจบกำรแสดง สะท้อนให้เห็นลักษณะ
ของสังคมไทยในเรื่องใด
1. กำรให้เกียรติและเคำรพผู้อำวุโส
2. เมื่อทำผิดต้องยอมรับผิดและกล่ำวขอโทษ
3. ควำมมีน้ำใจไมตรี ให้ควำมช่วยเหลือเมื่อผู้อื่นเดือดร้อน
4. มำรยำทอันดีงำมในกำรแสดงควำมเคำรพซึ่งกันและกัน
13.ข้อใดกล่ำวถึงควำมสำคัญของวรรณกรรมที่มีต่อนำฏศิลป์ ได้ถูกต้องที่สุด
1. ช่วยกำหนดลีลำท่ำทำงกำรเคลื่อนไหว อำรมณ์ของผู้แสดง
2. ช่วยเร้ำอำรมณ์ของผู้ชมกำรแสดงให้คล้อยตำมเนื้อเรื่อง
3. แสดงถึงวัฒนธรรม ประเพณีของท้องถิ่นที่จัดกำรแสดง
4. ช่วยให้กำรแสดงมีควำมประณีตและวิจิตรงดงำม
14.ศิลปะแขนงวิจิตรศิลป์ที่สอดแทรกอยู่ในกำรแสดงโขนที่เห็นได้เด่นชัดกว่ำศิลปะแขนงอื่นๆ คือข้อใด
1. จิตรกรรม
2. สถำปัตยกรรม
3. ประติมำกรรม
4. ดุริยำงคศิลป์
15.กำรแสดงพื้นเมืองเป็นกำรแสดงที่สะท้อนออกมำในรูปแบบใดชัดเจนที่สุด
1. กำรทำมำหำกินของคนในท้องถิ่น
2. กำรแต่งกำยของคนในท้องถิ่น
3. ลีลำ จังหวะกำรเดิน กำรยืน อำกัปกิริยำของคนในท้องถิ่น
4. ควำมสวยงำมของสภำพแวดล้อมในแต่ละท้องถิ่น
20
16. ละครหลวงวิจิตรวำทกำรมีลักษณะที่โดดเด่นอย่ำงไร
1. เนื้อหำเกี่ยวกับพระมหำกษัตริย์
2. เนื้อหำปลุกใจให้รักชำติ
3. เนื้อหำสะท้อนวิถีชำวบ้ำน
4. เนื้อหำเชื่อมโยงกับพระพุทธศำสนำ
17.กำรแสดงละครดึกดำบรรพ์มีควำมคล้ำยคลึงกับกำรแสดงละครในข้อใด
1. ละครนอก ละครใน
2. ละครชำตรี ละครพันทำง
3. ละครเสภำ ละครร้อง
4. ละครพูด ละครวิทยุ
18.ละครประเภทใดจัดเป็นต้นแบบของกำรแสดงละครรำทุกประเภท
1. ละครดึกดำบรรพ์
2. ละครเสภำ
3. ละครชำตรี
4. ละครใน
19.ละครไทยที่แสดงท่ำทำงเหมือนอย่ำงสำมัญชนและเปลี่ยนฉำกไปตำมท้องเรื่อง คือละครประเภทใด
1. ละครพูดกับละครพันทำง
2. ละครพูดกับละครดึกดำบรรพ์
3. ละครพูดกับละครเสภำ
4. ละครพูดกับละครร้อง
20.ข้อใดไม่ใช่ควำมสำคัญของกำรละครไทย
1. ขับกล่อมจิตใจมนุษย์
2. แสดงควำมเป็นอำรยประเทศ
3. เป็นศูนย์รวมศิลปะแขนงต่ำงๆ
4. สร้ำงประเทศชำติให้มีอำนำจมำกขึ้น
21.ถ้ำได้รับมอบหมำยให้จัดกำรแสดงละครที่มีข้อคิดและคติสอนใจเกี่ยวกับควำมจงรักภักดี ซื่อสัตย์สุจริต
และกำรรักษำระเบียบวินัยอย่ำงเคร่งครัด ละครเรื่องใดมีควำมเหมำะสมที่สุด
1. เลือดสุพรรณ
2. พันท้ำยนรสิงห์
3. มหำรำชดำ
4. สมเด็จพระสุริโยทัย
21
22.ละครเกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์อย่ำงไร
1. มีเนื้อเรื่องเหมือนชีวิตจริง
2. ใช้คนเป็นตัวเอกของเรื่อง
3. ทำให้ชีวิตคนยืนยำว
4. กล่ำวถึงแต่คนที่มีชีวิต
23.เรื่องรำวที่จะนำมำแสดงละครสร้ำงสรรค์ควรมีลักษณะอย่ำงไร
1. ล้ำสมัยเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
2. กำลังอยู่ในควำมนิยมของสังคม
3. ชีวประวัติของบุคคลที่มีชื่อเสียง
4. ให้ข้อคิดที่สำมำรถนำไปใช้ได้
24.ละครสร้ำงสรรค์เน้นเรื่องใดเป็นสำคัญ
1. ขั้นตอนกำรแสดง
2. เวทีและฉำกกำรแสดง
3. เครื่องแต่งกำย
4. อุปกรณ์ประกอบกำรแสดง
25.ข้อใดกล่ำวได้ถูกต้อง
1. ละครแบบไม่เหมือนจริงจะเป็นละครแบบสุขนำฏกรรมเท่ำนั้น
2. โขนและละครของไทยจัดเป็นกำรนำเสนอละครแบบไม่เหมือนจริง
3. กำรชมละครแบบไม่เหมือนจริงผู้ชมไม่ต้องใช้จินตนำกำรหรือกำรตีควำม
4. ภำษำที่ใช้ในกำรแสดงละครแบบไม่เหมือนจริงจะเป็นภำษำถิ่นร้อยแก้ว
26.ข้อใดกล่ำวได้ถูกต้องเกี่ยวกับละครโรมัน
1. ตัวละครออกมำประกำศชื่อก่อนกำรแสดง
2. มีลักษณะเป็นแบบสุขนำฏกรรมทั้งสิ้น
3. ใช้เครื่องแต่งกำยที่มีสีฉูดฉำด
4. เริ่มแสดงตั้งแต่เช้ำจนถึงค่ำ
27.หลักกำรวิจำรณ์กำรแสดงนำฏศิลป์ไทย ผู้วิจำรณ์จะต้องมีควำมรู้ในเรื่องใด
1. กำรคิดประดิษฐ์ลีลำท่ำรำ
2. กำรจัดแสดงชุดต่ำงๆ
3. ควำมสำมำรถของผู้แสดง
4. องค์ประกอบของนำฏศิลป์
22
28.กำรวิเครำะห์กำรแสดงนำฏศิลป์ ไทยอย่ำงมีหลักกำรต้องปฏิบัติอย่ำงไร
1. ต้องเสำะแสวงหำควำมรู้จำกผู้เชี่ยวชำญ
2. ต้องศึกษำด้ำนสุนทรียศำสตร์ของศิลปะกำรแสดง
3. ต้องมีประสบกำรณ์ในกำรชมกำรแสดงนำฏศิลป์ไทย
4. ต้องศึกษำให้เข้ำใจหลักกำรวิจำรณ์กำรแสดงแต่ละประเภท
29.ข้อใดจัดเป็นหลักกำรวิจำรณ์กำรแสดงนำฏศิลป์ ที่ดี
1. แสดงควำมคิดเห็นได้สอดคล้องกับผู้เชี่ยวชำญ
2. ติชมเพื่อก่อให้เกิดกำรพัฒนำไปสู่แนวทำงที่ดี
3. ใช้ภำษำในกำรวิจำรณ์ที่รุนแรง เร้ำอำรมณ์
4. เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียอย่ำงชัดเจน
30.ข้อใดเป็นกำรอนุรักษ์และส่งเสริมเอกลักษณ์ของชำติทำงด้ำนนำฏศิลป์ที่ดีที่สุด
1. กำรแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
2. กำรให้ควำมรู้แก่ประชำชน
3. กำรปรับปรุงฟื้นฟู
4. กำรยกย่องสรรเสริญ
23
ชุดที่ 2 ข้อสอบ O-NET วิชา ศิลปะ 2552
ตอนที่ 1 ศิลปะ : จำนวน 40 ข้อ รวม 100 คะแนน
ส่วนที่ 1 : แบบระบำยตัวเลือก แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว
จำนวน 33 ข้อ (ข้อ 1-33) : ข้อละ 2 คะแนน
1. สีใดที่ใช้แทนควำมรัก
1. ดำ
2. แดง
3. ชมพู
4. ขำว
2. ข้อใดไม่ใช่เอกลักษณ์ของงำนจิตรกรรมไทย
1. แสดงภำพแบนๆ แบบสองมิติ
2. แสดงแสงเงำตำมธรรมชำติ
3. แสดงควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลด้วยสี
4. แสดงจุดเด่นโดยไม่คำนึงถึงสัดส่วน
3. สีชนิดใดใช้ระบำยบำงๆ แบบสีน้ำและแบบปำดป้ ำยเป็นก้อนในแบบสีน้ำมันได้
1. Pastel
2. Acrylic
3. Crayon
4. Marker
4. ข้อใดเป็นศิลปินในลัทธิประทับใจยุคหลัง (Post-Impressionism) ทั้งหมด
1. ปอลเซซำน (Paul Cezanne) มำร์เซล ดูชอง (Marcel Duchamp)
2. ปอล โกแกง (Paul Ganguin) ฟินเซนต์ ฟำนก๊อก (Vincent Van Gogh)
3. ซำลำดอร์ ดำลี (Salvador Dali) มักซ์ เอินสต์ (Max Ernst)
4. ชอร์ช บรำก (Georges Broque) ปำโบล ปิกัสโซ่ (Pablo Picasso)
ปีการศึกษา
24
5. ภำพโมนำลิซำ (Mona Lisa) ของลีโอนำโด ดำ วินซี (Leonardo do Vince) มีกำรใช้สิ่งใดในกำรจัด
องค์ประกอบศิลป์มำกที่สุด
1. ควำมสมดุล
2. ควำมกลมกลืน
3. เน้นสีต่ำงวรรณะกัน
4. เน้นด้วยเส้นให้เกิดระยะ
6. ลักษณะของแม่พิมพ์ทุบเป็นอย่ำงไร
1. เป็นแม่พิมพ์ชั่วครำว สำมำรถหล่อได้รูปเดียว
2. ไม่นิยมใช้ต้นแบบเป็นดินเหนียว
3. เป็นแม่พิมพ์ที่แข็งแรง ที่สำมำรถใช้หล่อได้หลำยครั้ง
4. หล่อได้ง่ำย ทนควำมร้อนได้ดี
7. กำรผสมปูนปลำสเตอร์ เพื่อหล่อรูปปั้นควรทำตำมข้อใด
1. ใส่น้ำในภำชนะ, โรยปูนพลำสเตอร์พอเสมอระดับน้ำ, กวนให้เข้ำกัน
2. ใส่น้ำในภำชนะสลับกับโรยปูนพลำสเตอร์ แล้วกวนให้เข้ำกัน
3. ใส่ปูนในภำชนะ, ใส่น้ำพอประมำณ, กวนให้เข้ำกันอย่ำงนุ่มนวล
4. ใส่ปูนและน้ำพร้อมๆ กัน แล้วกวนให้เข้ำกันอย่ำงรวดเร็ว
8. ภำพลำยรดน้ำของช่ำงศิลป์ ไทย นิยมใช้สิ่งใดลงพื้น
1. รัก
2. สีน้ำมันมะเดื่อ
3. หรดำล
4. สีฝุ่น
9. แอนดี วอร์ฮอล เป็นศิลปินชนชำติใด และเป็นหนึ่งในศิลปินสมัยใด
1. อเมริกำ สมัยนิยม (Pop Art)
2. ฮอลแลนด์ สมัยเหมือนจริง (Realism)
3. โปแลนด์ สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยำ (Renaissance)
4. เยอรมัน สมัยหลังสมัยใหม่ (Postmodern)
10.ลำยกระหนก มีต้นแบบมำจำกธรรมชำติ 4 อย่ำงคือข้อใด
1. ดอกบัว ใบฝ้ำย รวงข้ำว เปลวไฟ
2. ดอกบัว หยดน้ำ นก รวงข้ำว
3. เปลวไฟ เมฆ เกลียวคลื่น ช้ำง
4. นก หยดน้ำ เกลียวคลื่น ปลำ
25
11.ข้อใดเป็นตัวอย่ำงประยุกต์ศิลปะกับเทคโนโลยีสมัยใหม่
1. ภำพยนตร์เรื่องก้ำนกล้วย
2. หนังใหญ่
3. ละครหุ่นเชิด
4. หนังตะลุง
12.สีขั้นที่สำมในวงจรสีประกอบด้วยสีใด
1. ส้ม เขียว
2. แดง เหลือง
3. เขียวเหลือง ส้มแดง
4. แดงส้ม น้ำเงิน
13.เทคนิคกำรพิมพ์ประเภทใดที่นิยมใช้ในกำรพิมพ์กระเป๋ ำผ้ำ
1. เทคนิคภำพพิมพ์แกะไม้(Woodcut)
2. เทคนิคภำพพิมพ์โลหะ (Etching)
3. เทคนิคภำพพิมพ์หิน (Lithograph)
4. เทคนิคภำพพิมพ์ตะแกรงไหม (Silkscreen)
14.ในสมัยโรมัน มีกำรสร้ำงสรรค์เครื่องเป่ำทองเหลืองขึ้น และใช้องค์ประกอบดนตรีต่ำงๆ ที่ได้รับอิทธิพล
มำจำกวัฒนธรรมดนตรีกรีก ลักษณะกำรผสมวงจึงมีหลำกหลำยมำกขึ้น กำรผสมวงที่ใช้เครื่องเป่ำ
ทองเหลืองเป็นหลัก ชำวโรมันมักจะใช้เพื่อแสดงลักษณะอย่ำงไรมำกที่สุด
1. เข้มแข็ง สง่ำงำม
2. อ่อนหวำน ซำบซึ้ง
3. สนุกสนำน ร่ำเริง
4. นุ่มนวล สดใส
15.กำรแสดงละครเพื่อเน้นให้เห็นควำมงดงำมของเสียงดนตรีที่มีลักษณะเดียวกัน หรือคล้ำยคลึงกัน โดยนำ
กำรร่ำยรำมำประกอบ กำรแสดงครั้งนี้ควรใช้บทเพลงในข้อใด
1. ตับนำงลอย
2. ตับนำคบำศ
3. ตับลำวเจริญศรี
4. เพลงชมตลำด
26
16.กำรดูแลรักษำเครื่องดนตรีในข้อใดที่มีวิธีกำรคล้ำยคลึงกันมำกที่สุด
1. Flute, French horn
2. Oboe, English horn
3. Bassoon, Tuba
4. French horn, English horn
17.บทเพลงประเภท nocturne เป็นบทเพลงประเภท night music มักจะนำเสนอทำนองสองทำนอง
โดยทำนองแรกจะอยู่ในตอนแรกและตอนสุดท้ำย โดยตอนกลำงเป็นทำนองที่สอง ซึ่งควำมรู้สึกของ
บทเพลงประเภทนี้แสดงออกถึงควำมไพเรำะในลักษณะใด และรูปแบบที่นำเสนอทำนองสองทำนอง
ดังกล่ำวเรียกว่ำอะไร
1. Tranquillo, Binary Form
2. Cantabile, Binary Form
3. Vivo, Ternary Form
4. Dolce, Ternary Form
18.Music, homophony และ rhythm ต่ำงเป็นคำศัพท์ทำงดนตรีที่สำคัญ ซึ่งมีรำกศัพท์มำจำกวัฒนธรรม
ดนตรีที่เป็นรำกเหง้ำของดนตรีตะวันตก คือดนตรีของชนชำติใด
1. กรีกโบรำณ
2. อียิปต์โบรำณ
3. โรมัน
4. ฮิบรู
19.ในวิถีชีวิตของคนไทยแต่ดั้งเดิมมำ มีดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ว่ำจะประกอบกิจกรรมใดๆ เช่น
โกนจุก บวชนำค พิธีศพ มักจะมีดนตรีเป็นส่วนประกอบเสมอ ทำให้ดนตรีซึมซับอยู่ในควำมรู้สึก
เป็นสิ่งที่มีคุณค่ำ วงดนตรีที่มีบทบำทในกำรประกอบกิจกรรมต่ำงๆ เหล่ำนี้ มักจะเป็นวงดนตรี
ประเภทใด
1. วงเครื่องสำย
2. วงปี่พำทย์
3. วงมโหรี
4. วงขับไม้
20.กำรประพันธ์เพลงเพื่อแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมดนตรีในยุคบำโรค ควรเป็นบทเพลงในข้อใด
1. Etude No.1 in D minor
2. Mazurka in F major
3. Suite No.1 in C minor
4. Madrigal Comedy, Op.1
27
21.วงปี่พำทย์ประเภทหนึ่งที่พัฒนำขึ้นในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ เพื่อใช้ในกำรบรรเลงร้องส่ง หรือกำร
ขับกล่อม คือข้อใด
1. รัชกำลที่ 1 ปี่พำทย์เสภำเครื่องคู่
2. รัชกำลที่ 2 ปี่พำทย์เสภำเครื่องห้ำ
3. รัชกำลที่ 3 ปี่พำทย์ไม้แข็งเครื่องใหญ่
4. รัชกำลที่ 4 ปี่พำทย์ไม้นวมเครื่องคู่
22.กำรประพันธ์บทเพลงเพื่อให้ผู้ฟังรู้สึกว่ำเป็นเพลงพื้นบ้ำนภำคกลำงที่สนุกสนำน น่ำจะมีลักษณะอย่ำงไร
1. เพลงในบันไดเสียงเมเจอร์ บรรเลงโดยวงปี่ซอ
2. เพลงในบันไดเสียงไมเนอร์ บรรเลงโดยวงกลองยำว
3. เพลงในบันไดเสียงเพนตำโทนิก บรรเลงโดยวงปี่ซอ
4. เพลงในบันไดเสียงเพนตำโทนิก บรรเลงโดยวงกลองยำว
23.กำรประพันธ์บทเพลงที่มีลักษณะเรียบง่ำย ไม่ใช้โน้ตประดับมำกมำย แสดงถึงควำมสดใส ใช้คอร์ดที่มี
เสียงกลมกลืนเป็นส่วนใหญ่ บทเพลงนี้น่ำจะเป็นลักษณะของบทเพลงในยุคใด
1. คลำสสิก
2. โรแมนติก
3. ศตวรรษที่ 20
4. ฟื้นฟูศิลปวิทยำ
24.ละครเรื่องใดที่นับเป็นกำรแสดงแบบโศกนำฏกรรม
1. ซินเดอเรล่ำ
2. โรมิโอ แอนด์ จูเลียต
3. ปลำบู่ทอง
4. โสนน้อยเรือนงำม
28
25.กำรแสดงนำฏศิลป์ในรูปภำพใดที่แสดงถึงอำรมณ์ควำมสนุกสนำน แข็งแรง กระฉับกระเฉงได้ดีที่สุด
1.
2.
3.
4.
26.ในกำรเลือกเพลงประกอบแสดงนำฏศิลป์ ร่วมสมัยชุดหนึ่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดจะต้องคำนึงถึงอะไร
1. เป็นเพลงร่วมสมัย
2. เป็นเพลงที่เป็นที่นิยมและเป็นที่รู้จักทั่วไป
3. เป็นเพลงที่มีอำรมณ์และจังหวะสอดคล้องกับเนื้อหำของกำรแสดง
4. เป็นเพลงที่เร้ำใจ สร้ำงควำมตื่นเต้น และดึงดูดผู้ชมได้ดี
27.กำรฝึกฝนบัลเล่ต์สำมำรถแก้ไขข้อบกพร่องทำงสรีระข้อใดได้บ้ำง
1. หลังค่อม
2. ขำโก่ง
3. ศีรษะเอียง
4. เท้ำบิดออกด้ำนนอก
28.สิ่งใดที่ผู้วิจำรณ์กำรแสดงไม่จำเป็นต้องกล่ำวถึงในกำรวิจำรณ์กำรแสดง
1. กำรเล่ำเรื่องย่อกำรแสดงนั้นๆ
2. วิธีกำรเดินทำงไปสถำนที่ที่ชมกำรแสดง
3. มุมมองที่ผู้สร้ำงสรรค์ต้องกำรนำเสนอสู่ผู้ชม
4. ควำมสวยงำมของแสงสีประกอบกำรแสดง
29
29.มำรยำทในกำรชมกำรแสดงที่ดีคือข้อใด
1. พูดคุยถึงกำรแสดงฉำกต่ำงๆ เรื่องรำวของกำรแสดงนั้นๆ ให้กับเพื่อนที่ชมด้วยกันฟังตลอดเวลำ
2. พยำยำมอ่ำนสูจิบัตรกำรแสดงในเวลำชมกำรแสดงเพื่อให้เข้ำใจเรื่องรำว
3. ปิดเสียงโทรศัพท์และเครื่องมือสื่อสำรต่ำงๆ และไม่รับโทรศัพท์เด็ดขำดระหว่ำงชมกำรแสดง
4. ลุกไปเข้ำห้องน้ำระหว่ำงที่กำรแสดงอยู่ในช่วงที่ไม่สำคัญ
30.ในกำรแสดงงิ้ว สีของเครื่องแต่งกำยที่ตัวละครสวมใส่ สำมำรถบ่งบอกลักษณะนิสัยได้ดังเช่น ขุนนำง
ที่มีคุณธรรมจะสวมชุดสีแดงหรือสีฟ้ำ แต่ถ้ำเป็นขุนนำงที่คดโกงจะสวมชุดสีอะไร
1. สีเขียวเข้ม
2. สีม่วง
3. สีน้ำเงิน
4. สีดำ
31.ข้อใดที่มีควำมสัมพันธ์กันในเชิงศิลปะกำรแสดง
1. The Tgar and Carpenter - จันทกินรี
2. The Nut Cracker - รำมำยณะ (อินโดนีเซีย)
3. คำบูกิ - กถักกฬิ
4. วำยังวอง - มณีปุรี
32.สมัยรำชวงศ์ใดของจีนที่ละครหุ่นมีควำมหลำกหลำยและโดดเด่นเป็นอย่ำงมำก
1. รำชวงศ์ฮั่น
2. รำชวงศ์สุย
3. รำชวงศ์ถัง
4. รำชวงศ์ซ่ง
33.นำฏศิลป์ อินโดนีเซียแบบใดที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทำงศำสนำ
1. แบบสุรำกำร์ตำ
2. แบบซุนดำ
3. แบบบำหลี
4. แบบสุมำตรำ
30
ส่วนที่ 2 : แบบระบำยคำตอบที่สัมพันธ์กัน:จำนวน7ข้อ (ข้อ34-40)
ข้อ 34 - 39 ข้อละ 4 คะแนน และข้อ 40 ข้อละ 10 คะแนน
จงพิจำรณำเลือกคำตอบจำกตำรำงหมวดต่ำงๆ ที่โจทย์กำหนด หมวดละ 1 คำตอบ
ให้ครบทุกหมวด ตำมควำมต้องกำรของโจทย์จึงจะได้คะแนน
จงใช้ตัวเลือกจำกตำรำงหมวด A B C D E และ F ต่อไปนี้ ตอบคำถำมข้อ 34 - 36
รหัส ตัวเลือกหมวด B
1 อังกฤษ
2 ไทย
3 บำลี
4 สันสกฤต
5 จีน
6 อำหรับ
7 อินเดีย
8 เนปำล
รหัส ตัวเลือกหมวด A
1 Requiem
2 Cantata
3 Oratorio
4 Mass
5 เพลงเถำ
6 เพลงละคร
7 เพลงตับเรื่อง
8 เพลงเกร็ด
รหัส ตัวเลือกหมวด D
1 Recitative
2 Aria
3 Duet
4 Trio
5 Chorus
6 Ensemble
7 Orchestra
8 Quartet
รหัส ตัวเลือกหมวด C
1 Choir
2 Orchestra
3 Quartet
4 Concerto grosso
5 ปี่พำทย์ดึกดำบรรพ์
6 มโหรีเครื่องใหญ่
7 เครื่องสำยเครื่องใหญ่
8 ปี่พำทย์เครื่องใหญ่
31
กำรประพันธ์บทเพลงสวดในพุทธศำสนำขนำดใหญ่บทหนึ่ง โดยใช้แนวคิดกำรประพันธ์แบบ
บทเพลงสวดของนิกำยโรมันแคธอลิก ภำษำที่ใช้เป็นภำษำดั้งเดิมคล้ำยภำษำละติน บทสวดเริ่มต้นด้วยควำม
ยิ่งใหญ่ หลังจำกนั้น เน้นกำรแสดงควำมสำมำรถของกำรขับร้องเดี่ยวของนักร้องชำย โดยกำรร้องทำนอง
ที่ไพเรำะมำก แบ่งเป็นสองทำนองหลัก โดยทำนองแรกเป็นทำนองที่ยิ่งใหญ่ และทำนองที่สองเป็นทำนอง
เรียบง่ำย และปิดท้ำยด้วยทำนองแรกที่มีกำรเพิ่มเติมกำรแสดงควำมสำมำรถของนักร้องด้วย บทเพลงดำเนิน
ไปโดยมีกำรขับร้องหลำยรูปแบบ รวมทั้งกำรขับร้องช่วงหนึ่งที่เป็นกำรขับร้องระหว่ำงนักร้องเดี่ยวชำยและ
หญิงรวม 2 คน และจบลงด้วยควำมยิ่งใหญ่ของกำรบรรเลงและขับร้องทั้งหมด
34.ภำษำที่ควรใช้ในบทเพลงนี้คือภำษำอะไร ส่วนเริ่มต้นของบทเพลง ควรเป็นกำรขับร้องในลักษณะใด
และกำรขับร้องของนักร้องชำย เป็นลักษณะใด เลือกจำกหมวด B, C, และ D ตำมลำดับ
35.เพลงสวดในลักษณะนี้ เรียกว่ำอะไร รูปแบบกำรขับร้องของนักร้องชำย เรียกว่ำอะไร กำรขับร้อง
ระหว่ำงนักร้องเดี่ยวชำยและหญิงรวม 2 คน เรียกว่ำอะไร เลือกจำกหมวด A, E, และ D ตำมลำดับ
36.ถ้ำต้องเปลี่ยนแปลงกำรประพันธ์มำใช้ลักษณะของดนตรีไทย เพลงที่ประพันธ์ขึ้นมำ เรียกว่ำเพลง
ประเภทใด บทสวดเริ่มต้นด้วยควำมยิ่งใหญ่ด้วยกำรบรรเลงของวงดนตรี ควรใช้วงดนตรีประเภทใด
และกำรบรรเลงและขับร้องตอนท้ำย เป็นกำรผสมผสำนของดนตรีไทยและสำกลควรเป็นลักษณะใด
เลือกจำกหมวด A, C, และ F ตำมลำดับ
รหัส ตัวเลือกหมวด F
1 ปี่พำทย์เครื่องคู่ กำรร้องประสำนเสียง
2 ปี่พำทย์เครื่องใหญ่ กำรร้องหมู่
3 มโหรีเครื่องคู่ กำรร้องประสำนเสียง
4 มโหรีเครื่องใหญ่ กำรร้องประสำนเสียง
5 เครื่องสำยเครื่องใหญ่ กำรร้องหมู่
6 มโหรีเครื่องใหญ่ กำรร้องหมู่
7 มโหรีเครื่องคู่ กำรร้องหมู่
8 ปี่พำทย์เครื่องคู่ กำรร้องหมู่
รหัส ตัวเลือกหมวด E
1 Rondo
2 Tutti
3 Concentrate
4 Da segno
5 Binary
6 Minuet
7 Da capo
8 D.S. al fine
32
จงใช้ตัวเลือกจำกตำรำงหมวด G H I และ J ต่อไปนี้ ตอบคำถำมข้อ 37 - 39
37.ระบำย่องหงิดเป็นกำรจับระบำของเหล่ำเทวดำนำงฟ้ำที่หำชมได้ยำกอีกชุดหนึ่ง ดังนั้นหำกท่ำนต้องกำร
อนุรักษ์และเผยแพร่ระบำดังกล่ำว ควรบรรจุระบำดังกล่ำวในละครเรื่องใดและประเภทใด โดยเลือก
คำตอบจำกตำรำงหมวด H และ G ตำมลำดับ
38.กำรแสดงนำฏศิลป์ อินเดียที่เน้นกำรกระโดด กำรหมุนตัวบนพื้นและผู้แสดงต้องตีกลองที่คล้องอยู่ที่คอ
ของตนด้วย กำรแสดงดังกล่ำวคือกำรแสดงประเภทใดและชื่อชุดอะไร โดยเลือกคำตอบจำกตำรำงหมวด
I และ J ตำมลำดับ
39.หำกท่ำนได้รับมอบหมำยให้จัดกำรแสดงที่สะท้อนถึงกำรเลือกคู่ครอง (ปลูกเรือนตำมใจผู้อยู่)
ให้ประชำชนทั่วไปชม (อำยุเฉลี่ย 18-35 ปี) เวทีชั่วครำวหน้ำศูนย์กำรค้ำสยำมพำรำกอน ท่ำนจะเลือกใช้
รูปแบบกำรแสดงประเภทใดและเรื่องใด โดยเลือกคำตอบจำกตำรำงหมวด G และ H ตำมลำดับ
รหัส ตัวเลือกหมวด H
1 มโนห์รำ
2 สังข์ทอง
3 ไกรทอง
4 นิทรำชำคริต
5 อิเหนำ
6 อุณรุท
รหัส ตัวเลือกหมวด G
1 ละครนอก
2 ละครใน
3 ละครดึกดำบรรพ์
4 โอเปร่ำ
5 บัลเล่ต์
6 นำฏศิลป์ ร่วมสมัย
รหัส ตัวเลือกหมวด J
1 อลำริปปู
2 ไตรภัณกิ
3 อติภัณกิ
4 ทันดำวำ
5 รำลลีลำ
6 นฤตตำ
รหัส ตัวเลือกหมวด I
1 ภำรตะนำฏยัม
2 โอดิสสี
3 มณีปุรี
4 กถัก
5 กุจิ ปุดิ
6 กถักกฬิ
33
จงใช้ตัวเลือกจำกตำรำงหมวด A B และ C ต่อไปนี้ ตอบคำถำมข้อ 40
40.ในกำรแสดงละครพันทำง เรื่องพระอภัยมณีเนื่องในวันสุนทรภู่ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
(โรงเล็ก) ซึ่งเป็นฉำกที่ชีเปลือยได้ผลักสุดสำครตกลงไปในเหว แล้วพระฤๅษีได้มำช่วยสุดสำครไว้ทัน
พร้อมทั้งสอนว่ำอย่ำไว้วำงใจใครง่ำยๆ มิฉะนั้นอำจจะได้รับควำมเดือดร้อนเหมือนเช่นครั้งนี้
ในฉำกนี้ควรใช้โทนสีใด ให้เลือกจำกหมวด A วงดนตรีที่ควรใช้บรรเลงประกอบละครเรื่องนี้
คือวงประเภทใด ให้เลือกจำกหมวด B และตัวละครใดแต่งกำยถูกต้องให้เลือกจำกหมวด C
รหัส ตัวเลือกหมวด B
1 มโหรีเครื่องเล็ก
2 มโหรีเครื่องคู่
3 มโหรีเครื่องใหญ่
4 ปี่พำทย์เครื่องใหญ่
5 ปี่พำทย์เครื่องห้ำ
6 ปี่พำทย์ไม้นวม
รหัส ตัวเลือกหมวด A
1 ฟ้ำหม่น
2 ชมพู
3 แดงสด
4 เขียวสด
5 ม่วงครำม
6 ส้มเหลือง
รหัส ตัวเลือกหมวด C
1 ฤๅษีสวมชุดหนังเสือ
2 ฤๅษีสวมชุดนักบวชสีขำว
3 สุดสำครสวมชุดหนังเสือ
4 สุดสำครสวมชุดนักบวชสีขำว
5 ชีเปลือยสวม All in one สีเนื้อ
6 ชีเปลือยสวม All in one สีขำว
34
ชุดที่ 2 ข้อสอบ O-NET วิชา ศิลปะ 2553
ตอนที่ 1 ศิลปะ : จำนวน 40 ข้อ รวม 100 คะแนน
ส่วนที่ 1 : แบบระบำยตัวเลือก แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว
จำนวน 33 ข้อ (ข้อ 1-33) : ข้อละ 2 คะแนน
1. ภำพนี้แสดงทัศนธำตุใดที่สื่อให้เห็นควำมงำมของภำพไทย
1. เส้น
2. รูปทรง
3. รูปร่ำง
4. พื้นที่ว่ำง
2. ขั้นตอนและวิธีกำรในกำรวิจำรณ์ผลงำนทัศนศิลป์ ข้อใดถูกต้องที่สุด
1. พรรณนำ วิเครำะห์ ตีควำมหมำย ประเมินค่ำ
2. พรรณนำ ตีควำมหมำย วิเครำะห์ ประเมินค่ำ
3. ตีควำมหมำย วิเครำะห์ ประเมินค่ำ พรรณนำ
4. ตีควำมหมำย พรรณนำ วิเครำะห์ ประเมินค่ำ
ปีการศึกษา
35
3. ภำพ “ยำมเช้ำ” ผลงำนของศำสตรำจำรย์ประหยัด พงษ์ดำ เป็นกำรสร้ำงสรรค์ด้วยเทคนิคและอุปกรณ์
ชนิดใด
1. เทคนิคภำพพิมพ์ (แม่พิมพ์แกะไม้)
2. เทคนิคภำพพิมพ์ (แม่พิมพ์กระดำษ)
3. เทคนิคภำพพิมพ์ (แม่พิมพ์หิน)
4. เทคนิคจิตรกรรมสีน้ำมัน
4. ศิลปินไทยนำเปลวไฟเป็นแรงบันดำลใจในกำรสร้ำงสรรค์ลำยใด
1. ลำยกนก
2. ลำยรักร้อย
3. ลำยกระจัง
4. ลำยดอกลอย
5. ในกำรวำดภำพกล้วยไข่สุกด้วยเทคนิคสีน้ำ ท่ำนจะเลือกใช้สีอะไรบ้ำงผสมกันเพื่อให้เหมือนจริง
ขณะเดียวกันกล้วยไข่วำงอยู่บนผ้ำสีม่วง สีที่เป็นเงำของกล้วยไข่ควรใช้สีอะไร เพื่อให้เกิดเงำสะท้อน
(Reflected) ต่อกัน
1. ใช้สีเหลืองผสมสีแดงผสมสีน้ำเงินเล็กน้อย ส่วนเงำใช้สีม่วง
2. ใช้สีขำวผสมสีเหลืองผสมสีน้ำเงินเล็กน้อย ส่วนเงำใช้สีม่วง
3. ใช้สีเหลืองผสมสีแดงผสมสีขำวเล็กน้อย ส่วนเงำใช้สีดำ
4. ใช้สีขำวผสมสีเหลืองผสมสีแดงเล็กน้อย ส่วนเงำใช้สีน้ำเงิน
6. มิติระยะของภำพจะเกิดขึ้นได้ด้วยกำรเน้นวิธีใด
1. เน้นด้วยผิว สี
2. เน้นด้วยขนำด พื้นผิว
3. เน้นด้วยขนำด สี
4. เน้นด้วยสี รูปทรง
36
อ่านข้อความต่อไปนี้ และตอบคาถามข้อ 7-10
“กำร์ตูนกับสังคมไทย”
กำร์ตูนเป็นศิลปะกำรวำดภำพอย่ำงหนึ่งที่ช่วงส่งเสริมควำมคิดสร้ำงสรรค์กำรจินตนำกำร
แฝงด้วยอำรมณ์สนุกสนำน นักเขียนกำร์ตูนจึงต้องมีจิตวิทยำในกำรนำเสนอเนื้อหำและรูปแบบที่เรียบง่ำย
ตลกขบขัน น่ำสนใจ
โดยวำดภำพอย่ำงง่ำยๆ ที่เน้นลีลำของเส้น-สี มีลักษณะไม่เหมือนจริง อำจจะเกินควำมจริง
หรือน้อยกว่ำควำมเป็นจริง โดยกำรลดตัดทอนหรือเพิ่มเติมเพื่อแสดงออกให้เกิดควำมตลกขบขัน ล้อเลียน
เสียดสี ที่สอดแทรก เรื่องรำว วิถีชีวิตหรือเหตุกำรณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม
ปัจจุบันกำร์ตูนไทยที่ถือได้ว่ำครองใจคนทุกเพศทุกวัยอันดับหนึ่งคือ ขำยหัวเรำะ มหำสนุก
ซึ่งเป็นกำร์ตูนแนวเรื่องสั้น นอกจำกนี้ยังมีกำร์ตูนประเภทล้อเลียนกำรเมือง เขียนโดยชัย รำชวัตร
กำร์ตูนมีหลำยประเภท ดังนี้
1. กำร์ตูนกำรเมืองเป็นกำร์ตูนที่มุ่งล้อเลียน เสียดสี ประชดประชันบุคคลหรือเหตุกำรณ์
ทำงกำรเมือง เพื่อกระตุ้นให้ผู้อ่ำนเกิดควำมคิดเห็นใหม่ๆ อำจมีคำบรรยำยหรือไม่มีก็ได้โดยนำเสนอภำพ
เป็นช่องเดียวหรือหลำยช่องก็ได้
2. กำร์ตูนขบขัน เป็นกำร์ตูนที่เน้นควำมตลกขบขันเป็นหลัก ที่เก็บเนื้อเรื่องมำจำกวิถีชีวิตหรือ
เหตุกำรณ์ในชีวิตประจำวัน
3. กำร์ตูนเรื่องรำว เป็นกำร์ตูนที่นำเสนอเรื่องรำวที่มีควำมต่อเนื่องกันจนจบ มีคำบรรยำย
บทสนทนำภำยในภำพ สำหรับกำร์ตูนไทยที่นิยมเขียนจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับวรรณคดี นิยำยพื้นบ้ำน
เรื่องจักรๆ วงศ์ๆ
4. กำร์ตูนประกอบเรื่องเป็นกำร์ตูนที่เขียนเพื่อสื่อสำรประกอบข้อควำม หรืออธิบำยข้อควำมให้
เข้ำใจง่ำยและน่ำสนใจ เช่น กำร์ตูนโฆษณำ กำร์ตูนประกอบสื่อกำรศึกษำ
5. กำร์ตูนมีชีวิต หรือภำพยนตร์กำร์ตูน มีกำรลำดับภำพและเรื่องรำวต่อเนื่องคล้ำยกับภำพนักแสดง
ที่เป็นคนในภำพยนตร์ หรือใช้แสดงประกอบกับนักแสดงที่เป็นคนในภำพยนตร์
กำรเขียนกำร์ตูนที่ดีควรมีกำรสื่อสำรอำรมณ์ควำมรู้สึกในเชิงตลกขบขัน มีรูปแบบที่เรียบง่ำย
ด้วยลีลำของเส้น สี รูปร่ำง มีเอกลักษณ์เฉพำะตน ผู้เริ่มฝึกเขียนกำร์ตูนจึงควรมีทักษะ ดังนี้
1. ฝึกเขียนลีลำของเส้นในลักษณะต่ำงๆ เช่น เส้นตรง เส้นโค้ง เส้นอิสระ
2. เขียนภำพวัตถุ สิ่งของ ภำพคน ภำพสัตว์หรือภำพสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเพื่อใช้เป็นแนวทำง
ในกำรนำมำเขียนภำพกำร์ตูน
3. ฝึกกำรเขียนรูปแบบจำกธรรมชำติที่อยู่รอบตัวในเชิงลดตัดทอน หรือเพิ่มเติมรูปแบบให้เรียบง่ำย
ในลักษณะคล้ำยจริง เกินควำมจริง น้อยกว่ำควำมจริง เป็นต้น
37
4. ศึกษำแนวหรือประเภทกำร์ตูนที่ชื่นชอบ เช่น กำร์ตูนล้อกำรเมือง กำร์ตูนขบขัน กำร์ตูน
ประกอบเรื่อง เป็นต้น
5. พล็อตเรื่องที่จะวำดเริ่มจำก THEME แล้วแบ่งเรื่องเป็นตอนใน (Story board)
6. ร่ำงภำพจำกแนวคิดจินตนำกำร
7. ตัดเส้น ลงสี เก็บรำยละเอียด
7. ทัศนธำตุใดที่ต้องฝึกฝนเพื่อเป็นพื้นฐำนในกำรวำดภำพกำร์ตูน
1. แสง – เงำ พื้นผิว
2. สี รูปทรง
3. เส้น สี
4. จุด รูปทรง
8. ถ้ำท่ำนจะวำดภำพกำร์ตูนให้เป็นที่นิยมของคนทั่วไปต้องคำนึงถึงอะไร
1. ต้องเป็นภำพสื่อให้เห็นถึงรูปแบบที่เรียบง่ำยมีควำมเหมือนจริงตำมธรรมชำติ
2. ต้องเป็นภำพที่เรียบง่ำย สื่อสำรอำรมณ์ควำมรู้สึกในเชิงตลกขบขัน
3. ต้องเป็นภำพลำยเส้นเรียบง่ำยสื่อวิถีชีวิตในสังคมได้ดี
4. ต้องสำมำรถนำเสนอเป็นภำพโฆษณำ สื่อกำรศึกษำได้
9. ถ้ำนักเรียนต้องกำรวำดภำพกำร์ตูนล้อเลียนกำรเมืองจะดำเนินกำรอย่ำงไร
1. ร่ำงภำพ – เก็บรำยละเอียด – ตรวจสอบควำมถูกต้องของเนื้อเรื่อง
2. วำงเนื้อเรื่อง – ร่ำงภำพ – เก็บรำยละเอียด
3. วำงเนื้อเรื่อง – ตัดเส้น – ลงสี
4. ร่ำงภำพ – ตัดเส้น – ลงสี – ตรวจสอบควำมถูกต้องของเนื้อเรื่อง
10.กำร์ตูนประเภทใดที่นำเทคโนโลยีเข้ำมำเกี่ยวข้องมำกที่สุด
1. กำร์ตูนขบขัน
2. กำร์ตูนประกอบเรื่อง
3. กำร์ตูนมีชีวิต
4. กำร์ตูนเรื่องรำว
11.จิตรกรรมไทยใช้ลักษณะเด่นของทัศนธำตุข้อใดมำกที่สุด
1. สี
2. เส้น
3. ช่องไฟ
4. จังหวะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ

More Related Content

What's hot

5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 05. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0Nattarika Wonkumdang
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะSuriyawaranya Asatthasonthi
 
ปลายภาค ม.2
ปลายภาค ม.2ปลายภาค ม.2
ปลายภาค ม.2peter dontoom
 
ข้อสอบ O net art (2)
ข้อสอบ  O  net  art (2)ข้อสอบ  O  net  art (2)
ข้อสอบ O net art (2)Navaphat Phromsala
 
ปลายภาค ม4 2557
ปลายภาค ม4 2557ปลายภาค ม4 2557
ปลายภาค ม4 2557peter dontoom
 
แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4
แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4
แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4peter dontoom
 
ปลายภาค ม1
ปลายภาค ม1ปลายภาค ม1
ปลายภาค ม1peter dontoom
 
เฉลยปลายภาค ม42557
เฉลยปลายภาค ม42557เฉลยปลายภาค ม42557
เฉลยปลายภาค ม42557peter dontoom
 
ข้อสอบ O-net - ศิลปะ
ข้อสอบ O-net - ศิลปะข้อสอบ O-net - ศิลปะ
ข้อสอบ O-net - ศิลปะbowing3925
 
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1teerachon
 
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2Anawat Supappornchai
 
นาฏศิลป์2
นาฏศิลป์2นาฏศิลป์2
นาฏศิลป์2Kruanchalee
 
วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...Kruthai Kidsdee
 
ข้อสอบกศน ศิลป ดนตรี นาฏศิลป์
ข้อสอบกศน ศิลป ดนตรี นาฏศิลป์ข้อสอบกศน ศิลป ดนตรี นาฏศิลป์
ข้อสอบกศน ศิลป ดนตรี นาฏศิลป์peter dontoom
 
ข้อสอบติวเตอรมัธยมต้น เดือนกุมภาพันธ์
ข้อสอบติวเตอรมัธยมต้น เดือนกุมภาพันธ์ข้อสอบติวเตอรมัธยมต้น เดือนกุมภาพันธ์
ข้อสอบติวเตอรมัธยมต้น เดือนกุมภาพันธ์peter dontoom
 
ศิลปะ ม.ต้น
ศิลปะ ม.ต้นศิลปะ ม.ต้น
ศิลปะ ม.ต้นpeter dontoom
 
ตัวชี้วัดและสาระศิลปะ
ตัวชี้วัดและสาระศิลปะตัวชี้วัดและสาระศิลปะ
ตัวชี้วัดและสาระศิลปะพิพัฒน์ ตะภา
 
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2พัน พัน
 

What's hot (18)

5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 05. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
 
ปลายภาค ม.2
ปลายภาค ม.2ปลายภาค ม.2
ปลายภาค ม.2
 
ข้อสอบ O net art (2)
ข้อสอบ  O  net  art (2)ข้อสอบ  O  net  art (2)
ข้อสอบ O net art (2)
 
ปลายภาค ม4 2557
ปลายภาค ม4 2557ปลายภาค ม4 2557
ปลายภาค ม4 2557
 
แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4
แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4
แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4
 
ปลายภาค ม1
ปลายภาค ม1ปลายภาค ม1
ปลายภาค ม1
 
เฉลยปลายภาค ม42557
เฉลยปลายภาค ม42557เฉลยปลายภาค ม42557
เฉลยปลายภาค ม42557
 
ข้อสอบ O-net - ศิลปะ
ข้อสอบ O-net - ศิลปะข้อสอบ O-net - ศิลปะ
ข้อสอบ O-net - ศิลปะ
 
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1
 
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
 
นาฏศิลป์2
นาฏศิลป์2นาฏศิลป์2
นาฏศิลป์2
 
วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
 
ข้อสอบกศน ศิลป ดนตรี นาฏศิลป์
ข้อสอบกศน ศิลป ดนตรี นาฏศิลป์ข้อสอบกศน ศิลป ดนตรี นาฏศิลป์
ข้อสอบกศน ศิลป ดนตรี นาฏศิลป์
 
ข้อสอบติวเตอรมัธยมต้น เดือนกุมภาพันธ์
ข้อสอบติวเตอรมัธยมต้น เดือนกุมภาพันธ์ข้อสอบติวเตอรมัธยมต้น เดือนกุมภาพันธ์
ข้อสอบติวเตอรมัธยมต้น เดือนกุมภาพันธ์
 
ศิลปะ ม.ต้น
ศิลปะ ม.ต้นศิลปะ ม.ต้น
ศิลปะ ม.ต้น
 
ตัวชี้วัดและสาระศิลปะ
ตัวชี้วัดและสาระศิลปะตัวชี้วัดและสาระศิลปะ
ตัวชี้วัดและสาระศิลปะ
 
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
 

Viewers also liked

ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogSiwadolChaimano
 
ใบงานสำรวจตนเอง1 m6
ใบงานสำรวจตนเอง1 m6ใบงานสำรวจตนเอง1 m6
ใบงานสำรวจตนเอง1 m6SiwadolChaimano
 
7. ข้อสอบ o net - ภาษาอังกฤษ
7. ข้อสอบ o net - ภาษาอังกฤษ7. ข้อสอบ o net - ภาษาอังกฤษ
7. ข้อสอบ o net - ภาษาอังกฤษSiwadolChaimano
 
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์SiwadolChaimano
 
ข้อสอบ O net - การงานอาชีพ
ข้อสอบ O net - การงานอาชีพข้อสอบ O net - การงานอาชีพ
ข้อสอบ O net - การงานอาชีพSiwadolChaimano
 
ใบงาน 2 8 (ใหม่)
ใบงาน 2 8 (ใหม่)ใบงาน 2 8 (ใหม่)
ใบงาน 2 8 (ใหม่)SiwadolChaimano
 
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทยSiwadolChaimano
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษาSiwadolChaimano
 
ไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วงไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วงMark Siwadol
 
เฉลยข้อสอบชีววิทยา โควตา ม.ช. ปี 37 46
เฉลยข้อสอบชีววิทยา โควตา ม.ช. ปี 37 46เฉลยข้อสอบชีววิทยา โควตา ม.ช. ปี 37 46
เฉลยข้อสอบชีววิทยา โควตา ม.ช. ปี 37 46ติ๊บ' นะ
 

Viewers also liked (12)

ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlog
 
One tmath
One tmathOne tmath
One tmath
 
ใบงานสำรวจตนเอง1 m6
ใบงานสำรวจตนเอง1 m6ใบงานสำรวจตนเอง1 m6
ใบงานสำรวจตนเอง1 m6
 
7. ข้อสอบ o net - ภาษาอังกฤษ
7. ข้อสอบ o net - ภาษาอังกฤษ7. ข้อสอบ o net - ภาษาอังกฤษ
7. ข้อสอบ o net - ภาษาอังกฤษ
 
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์
 
ข้อสอบ O net - การงานอาชีพ
ข้อสอบ O net - การงานอาชีพข้อสอบ O net - การงานอาชีพ
ข้อสอบ O net - การงานอาชีพ
 
เค้าโครงโครงงานคอม
เค้าโครงโครงงานคอมเค้าโครงโครงงานคอม
เค้าโครงโครงงานคอม
 
ใบงาน 2 8 (ใหม่)
ใบงาน 2 8 (ใหม่)ใบงาน 2 8 (ใหม่)
ใบงาน 2 8 (ใหม่)
 
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
 
ไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วงไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วง
 
เฉลยข้อสอบชีววิทยา โควตา ม.ช. ปี 37 46
เฉลยข้อสอบชีววิทยา โควตา ม.ช. ปี 37 46เฉลยข้อสอบชีววิทยา โควตา ม.ช. ปี 37 46
เฉลยข้อสอบชีววิทยา โควตา ม.ช. ปี 37 46
 

Similar to 5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ

5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 05. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0Jc C' Twc
 
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1rojanasak tipnek
 
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศกลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศYatphirun Phuangsuwan
 
ข้อสอบโอเนตม.3
ข้อสอบโอเนตม.3ข้อสอบโอเนตม.3
ข้อสอบโอเนตม.3peter dontoom
 
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2
กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2Yatphirun Phuangsuwan
 
ข้อสอบการอ่านม.๖
ข้อสอบการอ่านม.๖ข้อสอบการอ่านม.๖
ข้อสอบการอ่านม.๖kruart2010
 
ข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศน
ข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศนข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศน
ข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศนpeter dontoom
 
Report water colours
Report water coloursReport water colours
Report water colourspeter dontoom
 
Report water colours
Report water coloursReport water colours
Report water colourspeter dontoom
 
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.pdf
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.pdfเรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.pdf
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.pdfpeter dontoom
 
ปลายภาค ม4
ปลายภาค ม4ปลายภาค ม4
ปลายภาค ม4peter dontoom
 
กำหนดการสอนศิลปะ
กำหนดการสอนศิลปะกำหนดการสอนศิลปะ
กำหนดการสอนศิลปะYatphirun Phuangsuwan
 

Similar to 5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (18)

5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 05. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
 
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
 
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศกลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ
 
ข้อสอบโอเนตม.3
ข้อสอบโอเนตม.3ข้อสอบโอเนตม.3
ข้อสอบโอเนตม.3
 
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2
กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2
 
ข้อสอบการอ่านม.๖
ข้อสอบการอ่านม.๖ข้อสอบการอ่านม.๖
ข้อสอบการอ่านม.๖
 
ข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศน
ข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศนข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศน
ข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศน
 
แผนพื้นที่ผิวและปริมาตร
แผนพื้นที่ผิวและปริมาตรแผนพื้นที่ผิวและปริมาตร
แผนพื้นที่ผิวและปริมาตร
 
Report water colours
Report water coloursReport water colours
Report water colours
 
Report water colours
Report water coloursReport water colours
Report water colours
 
O net
O netO net
O net
 
กำหนดการสอน
กำหนดการสอนกำหนดการสอน
กำหนดการสอน
 
P6tech+art2552
P6tech+art2552P6tech+art2552
P6tech+art2552
 
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.pdf
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.pdfเรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.pdf
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.pdf
 
ปลายภาค ม4
ปลายภาค ม4ปลายภาค ม4
ปลายภาค ม4
 
research 65.pdf
research 65.pdfresearch 65.pdf
research 65.pdf
 
แผนพื้นที่ผิวและปริมาตร
แผนพื้นที่ผิวและปริมาตรแผนพื้นที่ผิวและปริมาตร
แผนพื้นที่ผิวและปริมาตร
 
กำหนดการสอนศิลปะ
กำหนดการสอนศิลปะกำหนดการสอนศิลปะ
กำหนดการสอนศิลปะ
 

More from SiwadolChaimano

ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_SiwadolChaimano
 
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_SiwadolChaimano
 
4. ข้อสอบ o net - สุขศึกษาฯ
4. ข้อสอบ o net - สุขศึกษาฯ4. ข้อสอบ o net - สุขศึกษาฯ
4. ข้อสอบ o net - สุขศึกษาฯSiwadolChaimano
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษาSiwadolChaimano
 
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทยSiwadolChaimano
 
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทยSiwadolChaimano
 

More from SiwadolChaimano (8)

ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
 
meaning
meaningmeaning
meaning
 
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
 
mean
meanmean
mean
 
4. ข้อสอบ o net - สุขศึกษาฯ
4. ข้อสอบ o net - สุขศึกษาฯ4. ข้อสอบ o net - สุขศึกษาฯ
4. ข้อสอบ o net - สุขศึกษาฯ
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
 
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
 
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
 

5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ

  • 1. 1 ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-NET วิชา ศิลปะ(ทัศนศิลป์ ) คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดไม่จัดเป็นทัศนธำตุในงำนทัศนศิลป์ 1. พื้นผิว 2. พื้นที่ว่ำง 3. ปริมำตร 4. น้ำหนักอ่อน-แก่ 2. ภำพวำดที่แสดงให้เห็นกำรเจริญเติบโตก้ำวหน้ำควรเป็นภำพลักษณะใด 1. วำดด้วยเส้นตรงแนวเฉียง 2. วำดด้วยเส้นโค้งของวงกลม 3. วำดด้วยเส้นฟันปลำหรือเส้นซิกแซก 4. วำดด้วยเส้นโค้งอิสระทิ้งปลำยขึ้นสูงและน้ำหนักเบำ 3. ถ้ำนักเรียนต้องวำดภำพเหมือนบุคคลควรศึกษำในเรื่องใด 1. กำรวำดดวงตำ ปำก จมูก 2. กำรวำดภำพหุ่นนิ่ง 3. กำรจัดวำงองค์ประกอบ 4. กำยวิภำคศำสตร์ 4. “...ดวงตาเบิกกว้าง ลูกตาดาอยู่กลางดวงตาและใหญ่กว่าปกติ มีเส้นรอยย่นหนึ่งเส้นหรือมากกว่าที่ หน้าผาก อ้าปากกว้าง มุมปากด้านล่างตกลง...” จำกข้อดังกล่ำวภำพนี้แสดงถึงอำรมณ์ใด 1. อำรมณ์โกรธ 2. อำรมณ์ฉุนเฉียว 3. อำรมณ์ดี หัวเรำะอย่ำงร่ำเริง 4. อำรมณ์กลัว 5. งำนศิลปะในข้อใดใช้เทคนิคน้ำหนักอ่อน-แก่ของกำรใช้สี 1. รูปปั้นในสวนสำธำรณะ 2. ลวดลำยจำกกำรทอผ้ำ 3. ภำพวำดบนฝำผนังโบสถ์ 4. งำนแกะสลักงำช้ำงเป็นรูปต่ำงๆ
  • 2. 2 6. “ภาพตอนพระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน สีภาพโดยรวมจะดูหม่น ค่อนข้างมืด แต่มีแสงสีสดใสส่องกระทบ กับก้อนเมฆอย่างสวยงาม” ภำพนี้แสดงให้เห็นลักษณะของสีแบบใด 1. สีเอกรงค์ (Monochrome) 2. คุณค่ำของสี (Value) 3. สีกลำง (Neutral Colors) 4. ควำมเด่นชัดของสี (Intensity) 7. ข้อใดคือแนวคิดของกำรออกแบบที่ดี 1. มีรำคำแพงที่สุด 2. สวยงำมมำกที่สุด 3. ทันสมัยมำกที่สุด 4. ใช้ประโยชน์ได้มำกที่สุด 8. กำรออกแบบมีควำมหมำยสัมพันธ์กับข้อใด 1. กำรสร้ำงสรรค์ผลงำนที่แปลกใหม่ขึ้นมำ 2. กำรประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้น 3. กำรสร้ำงงำนทุกประเภทที่คนยอมรับ 4. กำรสร้ำงงำนทุกประเภทไม่มีขอบเขตกำหนด 9. ข้อใดไม่ใช่เกณฑ์หรือตัวชี้วัดที่แสดงถึง “ควำมพึงพอใจในกำรออกแบบ” 1. ควำมสวยงำมแปลกใหม่ 2. ประโยชน์ในกำรใช้สอย 3. กำรเลียนแบบมำจำกสิ่งอื่น 4. แนวคิดในกำรออกแบบที่ดี 10.ข้อใดกล่ำวถึงควำมหมำยของศิลปะได้ถูกต้อง 1. สิ่งที่สวยงำม 2. กำรสร้ำงสรรค์ 3. สิ่งที่มนุษย์สร้ำงขึ้น 4. สิ่งที่มนุษย์สร้ำงขึ้นจำกควำมพึงพอใจ
  • 3. 3 11. ข้อใดเป็นควำมหมำยที่ถูกต้องของกำรบรรยำยผลงำนทำงทัศน์ศิลป์ 1. เป็นกระบวนกำรรับรู้ที่เกิดจำกกำรมองเห็น สังเกต และบันทึกคุณลักษณะเด่นที่พบเห็น โดยที่ไม่มี กำรวิพำกษ์วิจำรณ์ใดๆ 2. เป็นกระบวนกำรรับรู้ที่เกิดจำกกำรปฏิบัติและบันทึกคุณลักษณะเด่นที่พบเห็น โดยที่ไม่มีกำร วิพำกษ์วิจำรณ์ใดๆ 3. เป็นกระบวนกำรรับรู้ผลงำน เพื่อวิเครำะห์ ตีควำม และถ่ำยทอดแนวคิดในผลงำนให้ผู้อื่นเข้ำใจ 4. เป็นกระบวนกำรรับรู้ผลงำน เพื่อวิเครำะห์วิจำรณ์และแสดงควำมชื่นชม 12.ข้อใดกล่ำวถูกต้องเกี่ยวกับศิลปะนำมธรรม 1. ภำพผลงำนเกิดจำกกำรผสมผสำนกันทำงด้ำนเทคนิคที่หลำกหลำย 2. สื่อควำมหมำยด้วยกำรใช้สีหลำยสี 3. นำวัสดุอุปกรณ์ที่มีรำคำแพงมำสร้ำงชิ้นงำนให้มีควำมโดดเด่น 4. ใช้ภำษำภำพในกำรสื่อควำมหมำยด้วยรูปทรง สี และลำยเส้น 13.กำรออกแบบภำพร่ำงในทำงทัศนศิลป์ หมำยถึงวิธีกำรใด 1. กำรขึ้นรูป 2. กำรสเกตซ์ภำพ 3. กำรพิมพ์ภำพต้นแบบ 4. กำรวำงโครงสร้ำงอุปกรณ์ 14.ถ้ำต้องกำรวำดภำพท้องฟ้ำควรใช้เทคนิคใดจึงจะเหมำะสมที่สุด 1. แบบเปียกบนเปียก 2. แบบเปียกบนแห้ง 3. แบบแห้งบนแห้ง 4. แบบแห้งบนเปียก 15.ข้อใดกล่ำวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับงำนศิลปะสื่อผสม 1. สร้ำงสรรค์โดยใช้สื่อวัสดุต่ำงชนิดมำประกอบกันเป็นองค์ประกอบภำพ 2. ผู้สร้ำงสรรค์ผลงำนต้องมีควำมเข้ำใจเกี่ยวกับคุณลักษณะเฉพำะของวัสดุ 3. งำนศิลปะที่แสดงออกถึงกำรผสมผสำนกันระหว่ำงแนวควำมคิดกับผลงำนได้ลงตัว 4. สร้ำงสรรค์ได้เฉพำะผู้ที่มีประสบกำรณ์ในกำรสร้ำงสรรค์งำนศิลปะมำเป็นเวลำนำนเท่ำนั้น 16.ข้อใดเป็นวิธีกำรระบำยสีน้ำที่ถูกต้องที่สุด 1. พยำยำมระบำยสีให้มีเนื้อสีมำกที่สุดจะได้ภำพที่สดใส 2. ระบำยสีให้รวดเร็วฉับไว โดยไม่ต้องรอคอยให้สีแห้ง 3. ระบำยสีให้โปร่งใส ไม่ควรทับซ้อน หรือซ้ำกันหลำยๆ ครั้ง 4. ควรใช้พู่กันกลมในกำรระบำยสีน้ำมำกกว่ำพู่กันแบน เพรำะอุ้มน้ำได้ดีกว่ำ
  • 4. 4 17.ข้อใดจัดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในกำรสร้ำงงำนศิลปะสื่อผสม 1. ควำมรู้พื้นฐำนด้ำนงำนศิลปะ 2. กำรเตรียมวัสดุที่จะนำมำใช้ในกำรสร้ำงผลงำน 3. ควำมคิดริเริ่มสร้ำงสรรค์และจินตนำกำร 4. ผลงำนต้นแบบที่นำมำเป็นตัวอย่ำงในกำรสร้ำงงำน 18.เทคนิคกำรเขียนภำพสีน้ำแบบเปียกบนเปียกเหมำะสำหรับกำรระบำยสีภำพในส่วนใด 1. ภำพอำคำรบ้ำนเรือน 2. ภำพต้นไม้และธรรมชำติ 3. ภำพคนและสัตว์ 4. ภำพท้องฟ้ำและน้ำ 19.ผลงำนนี้สะท้อนให้เห็นสิ่งใด 1. เคลื่อนไหว 2. กลมกลืน 3. รำบรื่น 4. โน้มเอียง 20.ผลงำนชิ้นนี้ต้องกำรสื่อให้เห็นสิ่งใด 1. ควำมอ่อนช้อย 2. ควำมโดดเด่น 3. ควำมกลมกลืน 4. ควำมรักของแม่
  • 5. 5 21.เพรำะเหตุใดจึงนิยมใช้ทองแดงเป็นโครงสร้ำงสำหรับปั้นหุ่นขี้ผึ้งมำกกว่ำลวดเหล็ก 1. ทองแดงมีควำมยืดหยุ่นมำกกว่ำลวดเหล็ก 2. ทองแดงมีควำมสัมพันธ์กับขี้ผึ้งได้ดีกว่ำลวดเหล็ก 3. ทองแดงสำมำรถสื่อควำมร้อนได้ดีกว่ำลวดเหล็ก 4. ทองแดงมีควำมเหนียวและทนทำนกว่ำลวดเหล็ก 22.เพรำะเหตุใดจึงเรียกกำรปั้นว่ำ “กระบวนการในทางบวก” 1. เป็นกำรนำวัสดุเพิ่มเข้ำไปให้ได้รูปทรง 2. เป็นกำรบวกกันระหว่ำงดินเหนียวกับดินน้ำมัน 3. เป็นกำรบวกกันระหว่ำงกำรปั้นและแกะสลัก 4. เป็นกำรคิดในทำงบวกว่ำผลงำนจะออกมำดี 23.ข้อใดจัดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของงำนสถำปัตยกรรม 1. มีรำคำแพง สวยงำม ทันสมัย 2. ใช้วัสดุท้องถิ่น แข็งแรง ใช้สะดวก 3. ควำมงำม ควำมแข็งแรง ประโยชน์ใช้สอย 4. ประโยชน์ใช้สอย ใช้วัสดุท้องถิ่น ต้นทุนต่ำ 24.สิ่งใดต่อไปนี้ตรงกับคำว่ำ “สถาปัตยกรรม” มำกที่สุด 1. หุ่นขี้ผึ้ง 2. โบสถ์ 3. พระพุทธรูป 4. พระบรมรูปทรงม้ำ 25.ข้อใดคือรูปแบบของงำนศิลปะบำศกนิยม 1. เน้นกำรใช้สีที่สดใส 2. รูปทรงแสดงให้เห็นลักษณะผันแปรจำกควำมจริง 3. นำเทคนิคใหม่มำผสมผสำนในกำรสร้ำงงำน 4. ใช้วัสดุหลำกหลำยที่หำได้ในท้องถิ่นมำสร้ำงผลงำน 26.ใช้สีสดใสและตัดกันอย่ำงรุนแรง จัดเป็นงำนศิลปะประเภทใด 1. ศิลปะบำศกนิยม 2. ศิลปะนำมธรรม 3. ศิลปะโฟวิสม์ 4. ศิลปะสมัยใหม่
  • 6. 6 27.ข้อใดไม่ใช่เอกลักษณ์ของงำนศิลปะแบบคิวบิสต์ 1. ภำพส่วนใหญ่เป็นรูปทรงเรขำคณิต 2. แสดงมิติด้วยรูปทรง ขนำด กำรซ้อนกันภำยในภำพ 3. มีลักษณะกึ่งนำมธรรม คือ มีตัวตนและไม่มีตัวตนชัดเจน 4. ส่วนประกอบของภำพจะเน้นเรื่องของแสงเป็นสำคัญ 28.กำรออกแบบงำนทัศนศิลป์นอกจำกจะต้องใช้ควำมรู้และทักษะในงำนกรำฟิกแล้วยังต้องใช้ควำมรู้ ควำมสำมำรถด้ำนใดอีกบ้ำง 1. กำรใช้เส้น 2. กำรใช้สี 3. กำรสร้ำงรูปทรง 4. กำรจัดองค์ประกอบศิลป์ 29.กำรจัดภำพในลักษณะใดที่แสดงถึงกำรใช้เทคนิคด้ำนจังหวะเพื่อให้เกิดควำมงำมที่โดดเด่น 1. จัดภำพโดยใช้กำรซ้ำกันสลับไปมำอย่ำงต่อเนื่อง 2. จัดภำพโดยใช้ลักษณะของพื้นผิวเดียวกันตลอดทั้งผลงำน 3. จัดภำพโดยใช้หลักควำมสมดุลทั้งสองข้ำงของผลงำน 4. จัดภำพโดยเน้นให้เกิดกำรประสำนกันอย่ำงลงตัว 30.ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกของกำรสร้ำงสรรค์งำนกรำฟิก 1. กำรร่ำงภำพ 2. กำรกำหนดวัตถุประสงค์ 3. กำรคัดเลือกภำพที่นำมำใช้ 4. กำรลงมือสร้ำงชิ้นงำน 31.ข้อใด ไม่ใช่ ควำมสำคัญของกำรออกแบบ 1. เสริมสร้ำงให้เกิดค่ำนิยมทำงควำมงำม 2. ช่วยให้เกิดจินตภำพ เกิดแนวคิดในกำรสร้ำงสรรค์ผลงำน 3. ทำให้ข้อมูลที่กระจัดกระจำยมีระเบียบเพิ่มมำกขึ้น 4. รำคำสินค้ำที่ออกแบบมีรำคำสูงตำมประโยชน์ของกำรใช้สอย 32.เครื่องแขวนปลำตะเพียนของไทยเป็นงำนทัศนศิลป์แบบใด 1. ประติมำกรรม 2. สื่อผสม 3. โมบำย 4. จิตรกรรมผสมประติมำกรรม
  • 7. 7 33.เส้นในลักษณะใดที่ให้ควำมรู้สึกเคลื่อนไหวและคลี่คลำยไม่มีที่สิ้นสุด 1. เส้นคด 2. เส้นสลับฟันปลำ 3. เส้นโค้งก้นหอย 4. เส้นโค้งกลับหลัง 34.แฟ้มสะสมผลงำนมีประโยชน์ต่อกำรเรียนกำรสอนอย่ำงไร 1. ทำให้รู้ถึงทักษะพื้นฐำนของผู้เรียน 2. สำมำรถสะสมเป็นผลงำนของครูได้ 3. ใช้ในกำรสอนรำยบุคคลได้เป็นอย่ำงดี 4. ทำให้ครูสำมำรถวำงแผนกำรเรียนกำรสอน 35.ผลงำนที่มีจำนวนมำกและจำเป็นต้องจัดเก็บชิ้นงำนเป็นกลุ่มควรจัดเก็บไว้ในรูปแบบใด 1. แฟ้มแขวน 2. สมุดงำน 3. แฟ้มสี 4. กล่อง 36.ข้อใดเป็นประโยชน์ของกำรจัดทำแฟ้มสะสมผลงำนที่ทำให้เกิดกำรพัฒนำตนเองต่อไป 1. มีที่เก็บสะสมผลงำนที่แสดงถึงควำมคิดสร้ำงสรรค์ของตนเอง 2. ได้ฝึกทักษะในกำรจัดเก็บและนำเสนอผลงำนอย่ำงเป็นระบบ 3. ทำให้ครูผู้สอนสำมำรถสรุปปัญหำและเสนอแนะแนวทำงพัฒนำศักยภำพของผู้เรียนได้ 4. เก็บไว้ใช้เป็นหลักฐำนเพื่อประโยชน์อื่นๆ ในชีวิตประจำวันได้ 37.กำรวิจำรณ์ศิลปะมีควำมสัมพันธ์กับข้อใด 1. ชี้ข้อบกพร่องของผลงำน 2. แสดงทัศนะต่อผลงำน 3. อธิบำยถึงผลงำนในแง่ดี 4. นำผลงำนมำประกวดกัน 38.จุดมุ่งหมำยสำคัญของกำรวิจำรณ์ศิลปะคือข้อใด 1. เพื่อประเมินค่ำผลงำนศิลปะให้เป็นมำตรฐำน 2. เพื่อตัดสินผลงำนศิลปะที่ส่งเข้ำประกวดอย่ำงยุติธรรม 3. เพื่อให้ผู้ที่สนใจงำนศิลปะรับรู้ เข้ำใจ และชื่นชมผลงำนศิลปะ 4. เพื่อให้ผลงำนศิลปะมีรำคำที่สูงขึ้นและสำมำรถจำหน่ำยได้
  • 8. 8 39.ทฤษฎีศิลปะข้อใดที่เน้นคุณค่ำด้ำนทัศนธำตุและองค์ประกอบศิลป์ เป็นสำคัญ 1. เลียนแบบนิยม 2. รูปทรงนิยม 3. อำรมณ์นิยม 4. เครื่องมือนิยม 40.เพรำะเหตุใดจึงต้องมีกำรวิจำรณ์งำนศิลปะ 1. เพื่อให้มีผู้ซื้องำนศิลปะมำกขึ้น 2. เพื่อให้ผู้ชมอยำกสร้ำงงำนศิลปะ 3. เพื่อให้ศิลปินสร้ำงงำนที่มีคุณภำพมำกขึ้น 4. เพื่อให้คนเข้ำมำชมนิทรรศกำรทำงศิลปะมำกขึ้น
  • 9. 9 ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-NET วิชา ศิลปะ(ดนตรี) คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. กลอนบทนี้กล่ำวถึงวงมโหรีประเภทใด “นำงขับขำนเสียงแจ้วพึงใจตำมเพลงกลอนกลในภำพพร้อง มโหรีบรรเลงไฉนซอพำทย์ ทับกระจับปี่ก้องเร่งเร้ำรัญจวน” 1. วงมโหรีเครื่องห้ำ 2. วงมโหรีเครื่องหก 3. วงมโหรีเครื่องแปด 4. วงมโหรีเครื่องสิบ 2. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของดนตรี 1. ฝึกสมำธิ กระตุ้นควำมทรงจำ 2. สร้ำงรำยได้เพื่อเลี้ยงครอบครัวได้ดี 3. เป็นสื่อกลำงในกำรติดต่อสื่อสำรในชนเผ่ำ 4. เป็นส่วนประกอบในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน 3. กำรฟังดนตรีแบบใดที่เมื่อฟังแล้วสำมำรถที่จะประเมินคุณภำพผลงำนดนตรีได้ 1. ฟังแบบผ่ำนหู 2. ฟังด้วยควำมรู้สึก 3. ฟังด้วยอำรมณ์ 4. ฟังด้วยควำมซำบซึ้ง 4. กำรบรรเลงดนตรีเป็นวงจะต้องคำนึงถึงสิ่งใดเป็นสำคัญ 1. ควำมพร้อมเพรียง 2. ควำมดังของเสียงเครื่องดนตรี 3. ควำมมีระเบียบเรียบร้อยของกำรจัดวงดนตรี 4. ควำมสอดคล้องกลมกลืนกันของเสียงเครื่องดนตรีที่บรรเลง 5. เครื่องดนตรีชนิดใดได้รับอิทธิพลมำจำกประเทศอินเดีย 1. สังข์บัณเฑำะว์ 2. กลองแขก ปี่ชวำ 3. ปี่มอญ แตรวิลันดำ 4. ซออู้ซอสำมสำย
  • 10. 10 6. ถ้ำนักเรียนจัดงำนพิธีมงคลสมรสในหอประชุม นักเรียนควรเลือกวงดนตรีไทยประเภทใดมำบรรเลง 1. วงปี่พำทย์นำงหงส์ 2. วงมโหรีเครื่องคู่ 3. วงเครื่องสำยไทย 4. วงมหำดุริยำงค์ 7. ข้อใดไม่จัดเป็นรูปแบบของคำผญำ 1. มีสัมผัส หรือใช้คำคล้องจอง 2. มีเสียงสูง-ต่ำ และจังหวะในกำรออกเสียง 3. มีกำรบรรยำยเรื่องรำวต่ำงๆ ด้วยทำนองอันไพเรำะ 4. มีกำรสัมผัสเสียงสูง-ต่ำ และจังหวะในกำรออกเสียงประสมกัน 8. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้เกิดดนตรีพื้นบ้ำนในแต่ละท้องถิ่น 1. สภำพแวดล้อม 2. ภูมิหลังทำงประวัติศำสตร์ 3. กำรทำมำหำกินของคนในชุมชน 4. จำนวนประชำกรในแต่ละชุมชน 9. ดนตรีพื้นบ้ำนให้คุณค่ำในเรื่องใดมำกที่สุด 1. ให้คติสอนใจ 2. ให้ควำมเพลิดเพลิน 3. ให้คนในท้องถิ่นเกิดควำมรักและควำมสำมัคคีกัน 4. บ่งบอกถึงวัฒนธรรมประเพณีของคนในท้องถิ่นนั้นๆ 10.กำรฟังเพลงพื้นบ้ำนในท้องถิ่นมีประโยชน์อย่ำงไร 1. ช่วยอนุรักษ์เพลงพื้นบ้ำน 2. รู้จักใช้เวลำว่ำงให้เกิดประโยชน์ 3. เป็นที่รักใคร่ของผู้คนภำยในท้องถิ่น 4. ทำให้บุคลคลอื่นทรำบว่ำเรำเกิดมำจำกท้องถิ่นใด 11.ดนตรีพื้นบ้ำนหมำยถึงข้อใด 1. ดนตรีที่เกิดจำกคนในเมือง 2. ดนตรีที่เกิดในสมัยสุโขทัย 3. ดนตรีที่เกิดจำกคนในท้องถิ่น 4. ดนตรีที่เลียนเสียงธรรมชำติ
  • 11. 11 12.ข้อใดเป็นเครื่องดนตรีที่ไม่เข้าพวก 1. กลองตุ้ม โหวด ไหซอง 2. หมำกกั๊บแก๊บ ตรัวเอก ปี่เจรียง 3. ผ่ำงฮำด กลองยำว กลองตึ้ง 4. กลองกันตรึม ซอบั้ง แคน 13.เพรำะเหตุใดจึงกำหนดให้ทุกโรงเรียนมีกำรจัดกำรเรียนกำรสอนในวิชำดนตรีไทย 1. เพรำะต้องกำรให้นักเรียนรู้จักเครื่องดนตรีไทย 2. เพรำะต้องกำรให้นักเรียนใช้เวลำว่ำงปฏิบัติกิจกรรมที่เกิดประโยชน์ 3. เพรำะต้องกำรให้รู้จักวิธีทำเครื่องดนตรี เนื่องจำกทุกโรงเรียนต้องใช้ 4. เพรำะต้องกำรให้นักเรียนตระหนักถึงควำมสำคัญของดนตรีไทยที่เป็นมรดกทำงวัฒนธรรมของชำติ 14. กำรกระทำของบุคคลในข้อใดที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่ำของดนตรีไทยมำกที่สุด 1. ดำว ชอบฟังเพลงไทยเดิมจำกวิทยุ 2. จัน หัดขับร้องเพลงไทยเดิมในวันหยุดเสำร์-อำทิตย์ 3. เดือน เล่นดนตรีไทยที่ตนเองสนใจและขยันฝึกซ้อมทุกวัน 4. แรม เปิดร้ำนจำหน่ำยเพลงไทยเดิมและเครื่องดนตรีไทยทุกชนิด 15.ข้อใดไม่ใช่กำรประยุกต์ดนตรีกับกำรศึกษำ 1. โรงเรียนกวดวิชำนำสูตรคณิตศำสตร์มำแต่งเป็นเพลงเพื่อช่วยในกำรจดจำ 2. วิชำภำษำอังกฤษนำเพลงสำกลมำให้นักเรียนมำหัดแปลคำศัพท์ภำษำอังกฤษ 3. วิชำภำษำไทยนำโคลงสี่สุภำพมำใส่ทำนองเพลง 4. ห้ำงสรรพสินค้ำชื่อดังแต่งเพลงเพื่อโฆษณำขำยชุดนักเรียน 16.เพรำะเหตุใดในปัจจุบันสุภำพสตรีที่มีครรภ์จึงนิยมฟังเพลง 1. ลดควำมวิตกกังวล 2. บรรเทำอำกำรปวดหลัง 3. ผ่อนคลำยควำมตึงเครียด 4. จรรโลงจิตใจให้เกิดควำมสงบ 17.ข้อใดไม่ใช่หลักในกำรขับร้องที่ถูกต้อง 1. ยืนตัวตรง 2. ทำนองและจังหวะถูกต้องชัดเจน 3. ออกอักขระควบกล้ำชัดเจน 4. ใส่อำรมณ์ควำมรู้สึกร่วมไปตำมเสียงเพลง
  • 12. 12 18.ถ้ำนักเรียนต้องกำรพิจำรณำควำมไพเรำะของบทเพลงไทยสำกลนักเรียนควรใช้เกณฑ์ในข้อใด 1. เป็นจังหวะที่เชื่องช้ำแบบเพลงไทยเดิม 2. บทเพลงมีควำมหมำยดี ลึกซึ้ง กินใจ 3. มีกำรนำเอำเครื่องดนตรีไทยมำบรรเลงร่วมกับเครื่องดนตรีสำกล 4. คัดเลือกศิลปินที่มีควำมเชี่ยวชำญในกำรร้องเพลงและมีชื่อเสียงโด่งดังมำร้องเพลง 19.กำรรับรู้ควำมงำมของดนตรีขึ้นอยู่กับปัจจัยใดเป็นสำคัญ 1. กำรศึกษำ 2. ค่ำนิยม 3. สังคม 4. อำรมณ์และจิตใจ 20.องค์ประกอบใดของดนตรีไทยที่ไม่นำมำพิจำรณำในเรื่องของสุนทรียศำสตร์ทำงดนตรี 1. เสียง 2. ทำนอง 3. จังหวะ 4. เสียงประสำน 21.ข้อใดจัดเป็นเครื่องดนตรีไทยในกลุ่มเดียวกันทั้งหมด 1. ซึง ฆ้อง 2. สะล้อ ระนำด 3. พิณน้ำเต้ำ กระจับปี่ 4. ซอสำมสำย กลองยำว 22.จุดมุ่งหมำยสำคัญของกำรรัวประลองเสภำคือข้อใด 1. เป็นกำรซ้อมกำรบรรเลงดนตรีก่อนกำรแสดงจริง 2. เป็นกำรเตรียมควำมพร้อมของนักดนตรีก่อนเริ่มกำรแสดง 3. เป็นกำรแจ้งประกำศให้ผู้คนรับรู้ว่ำกำรแสดงกำลังจะเริ่มขึ้น 4. เป็นกำรอวดฝีมือของนักดนตรีในกำรบรรเลงเครื่องดนตรี เพื่อข่มขวัญคู่ต่อสู้ 23.นักเรียนสำมำรถอนุรักษ์ดนตรีไทยให้คงอยู่สืบต่อไปได้อย่ำงไร 1. พัฒนำควำมรู้ควำมสำมำรถของศิลปิน นักแต่งเพลง นักดนตรี 2. ปลูกจิตสำนึกแก่ประชำชนที่ทำกำรค้ำขำยเกี่ยวกับเครื่องดนตรี 3. จัดกิจกรรมส่งเสริมกำรแสดงดนตรีในงำนเทศกำล หรืองำนประเพณีท้องถิ่น 4. ช่วยกันอุดหนุนหรือซื้อเครื่องดนตรีไทยโบรำณ
  • 13. 13 24.สิ่งสำคัญที่จะทำให้กำรขับร้องเพลงไทยเดิมมีควำมไพเรำะมำกยิ่งขึ้นคือสิ่งใด 1. เสียงของผู้ขับร้องเพลง 2. สุขภำพของผู้ขับร้องเพลง 3. กำรเอื้อนเสียงในเพลง 4. ประสบกำรณ์ของผู้ขับร้องเพลง 25.ข้อใดกล่ำว ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับหลักกำรบรรเลงเดี่ยวที่ดี 1. ต้องขยันหมั่นฝึกซ้อมทุกวันจนเกิดควำมชำนำญ 2. ตรวจสอบเครื่องดนตรีก่อนทุกครั้งก่อนกำรบรรเลง 3. มีควำมมั่นใจในตนเอง กล้ำแสดงออกต่อหน้ำสำธำรณชน 4. ลอกเลียนลีลำท่ำทำงกำรบรรเลงจำกนักดนตรีที่มีชื่อเสียง 26.กำรรับรู้ควำมงำมของดนตรีขึ้นอยู่กับปัจจัยใดเป็นสำคัญ 1. กำรศึกษำ 2. ค่ำนิยม 3. สังคม 4. อำรมณ์และจิตใจ 27. มีอัตรำจังหวะเท่ำกับข้อใด 1. 2. 3. 4.
  • 14. 14 28.ข้อใดกล่ำวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่ใช้ในกำรบันทึกโน้ตสำกล 1. เส้นนอนเรียกว่ำ “บรรทัด 5 เส้น” 2. สัญลักษณ์ด้ำนซ้ำยสุด เรียกว่ำ “เครื่องหมำยแปลงเสียง” 3. เส้นแนวตั้ง 2 เส้น ด้ำนขวำสุด เรียกว่ำ “เส้นกั้นห้องคู่” 4. สัญลักษณ์รูปวงกลม เรียกว่ำ “ตัวโน้ต” 29.ข้อใดเรียงลำดับเสียงสูงไปหำเสียงต่ำได้ถูกต้อง 1. บำริโทน อัลโต เมซโซปรำโน 2. เบส บำริโทน เทเนอร์ 3. เมซโซปรำโน เบส อัลโต 4. โซปรำโน เมซโซโซปรำโน อัลโต 30.ตัวโน้ตที่มีควำมยำวของเสียงมำกที่สุดมีลักษณะตรงกับข้อใด 1. โน้ตตัวกลม 2. โน้ตตัวดำ 3. โน้ตตัวขำว 4. โน้ตตัวเขบ็ต 31.เครื่องดนตรีชนิดใดมีวิธีกำรบรรเลงคล้ำยกับเปียโน 1. คอร์เน็ต 2. ฮำร์ปซิคอร์ด 3. คำบำซำ 4. คอนทรำเบส 32. เพลงที่ใช้สวดโดยนำเนื้อร้องมำจำกคัมภีร์หมำยถึงเพลงประเภทใด 1. โมเต็ต 2. ออรำทรอริโอ 3. แพสชั่น 4. รีเควี่ยม 33.ดนตรีสำกลมีลักษณะเด่นชัดอย่ำงไร 1. เป็นที่รู้จักอย่ำงแพร่หลำย 2. นักร้องขับร้องเพลงครั้งละหลำยคน 3. ได้รับอิทธิพลทำงดนตรีมำจำกกรีก 4. มีเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์เฉพำะ
  • 15. 15 34.ข้อใดเป็นลักษณะของบทเพลงซิมโฟนี 1. เพลงที่บรรเลงโดยวงออร์เคสตรำ 2. เพลงที่ประพันธ์จำกคีตกวีเยอรมัน 3. เพลงที่ใช้เครื่องเป่ำเป็นส่วนใหญ่ 4. เพลงที่มีทำนองอ่อนหวำนปนเศร้ำ 35.กำรจะเรียกชื่อวงเชมเบอร์มิวสิกต้องยึดหลักในข้อใด 1. เรียกตำมจำนวนผู้บรรเลง 2. เรียกตำมจำนวนเครื่องดนตรี 3. เรียกตำมจำนวนเพลงที่ใช้บรรเลง 4. เรียกตำมจำนวนระยะเวลำที่ใช้ในกำรแสดง 36.วงโยธวำทิตไม่นิยมนำมำใช้บรรเลงในกิจกรรมใด 1. เดินสวนสนำม 2. เดินขบวนพำเหรด 3. เดินนำขบวนรณรงค์ต่ำงๆ 4. เดินนำขบวนแห่นำคเข้ำโบสถ์ 37.ข้อใดไม่ใช่บทเพลงพระรำชนิพนธ์ในพระบำทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำเจ้ำอยู่หัว (รัชกำลที่6) 1. เพลงสยำมมำนุสติ เถำ 2. เพลงลมพัดชำยเขำ 3. เพลงพรำหมณ์เข้ำโบสถ์ เถำ 4. เพลงเขมรไทรโยค 38.วงดนตรีสำกลในข้อใดเปรียบได้กับวงมโหรีเครื่องใหญ่ของไทย 1. วงโยธวำทิต 2. วงออร์เคสตรำ 3. วงเชมเบอร์มิวสิก 4. วงดนตรีพื้นบ้ำนอเมริกัน 39.ถ้ำนักเรียนต้องจัดวงดนตรีเพื่อนำไปบรรเลงในงำนศพที่โบสถ์ของศำสนำคริสต์นักเรียนควรใช้ วงดนตรีสำกลลักษณะใด 1. วงโยธวำทิต 2. วงออร์เคสตรำ 3. วงคันทรีอเมริกัน 4. วงเชมเบอร์มิวสิก
  • 16. 16 40.ข้อใดไม่ควรปฏิบัติในขณะขับร้องเพลงสำกล 1. ร้องให้ตรงจังหวะและทำนองเพลง 2. เปล่งเสียงร้องให้สูง-ต่ำตำมพื้นเสียง 3. ร้องให้ตรงระดับเสียงตัวโน้ตบนบรรทัด 5 เส้น 4. ควบคุมกำรหำยใจเข้ำ-ออกให้มีควำมสม่ำเสมอ
  • 17. 17 ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-NET วิชา ศิลปะ(นาฏศิลป์ ) คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. กำรแสดงในข้อใดแตกต่ำงจำกพวก 1. รำกริชอิเหนำ 2. รำซัดชำตรี 3. รำสีนวล 4. รำพัด 2. รำกลองยำวสะท้อนให้เห็นชีวิตควำมเป็นอยู่ของผู้คนอย่ำงไร 1. รักอิสระ ไม่ชอบกฎระเบียบ 2. เรียบง่ำย รักควำมสนุกสนำน 3. มีน้ำใจ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 4. ใช้ชีวิตอย่ำงเร่งรีบ ต่ำงคนต่ำงอยู่ 3. บทร้องที่ดีควรมีลักษณะเป็นอย่ำงไร 1. เหมำะสมกับลักษณะของผู้แสดงแต่ละครำว 2. ปรับปรุงไปตำมควำมเหมำะสมกับเวลำและโอกำส 3. เหมำะสมกับลักษณะของกำรละครและนิสัยของตัวละคร 4. เปลี่ยนแปลงไปตำมสภำพและเหตุกำรณ์ของบ้ำนเมือง 4. ข้อใดที่กล่ำวถึงลักษณะของกำรแสดงโขนได้อย่ำงถูกต้อง ก. นำวรรณคดีเรื่องใดมำแสดงก็ได้ ข. ผู้แสดงต้องสวมหัวโขน ค. ตัวละครพูดเอง ร้องเอง ง. แต่งกำยในชุดยืนเครื่องพระ นำง ยักษ์ ลิง 1. ก. และ ข. 2. ข. และ ง. 3. ก. และ ค. 4. ข. และ ค.
  • 18. 18 5. เพรำะเหตุใดผู้แสดงที่แสดงโขนเป็นตัวพระและตัวนำงจึงไม่เจรจำบทด้วยตนเอง 1. เพรำะผู้แสดงไม่ถนัด 2. เพรำะมีผู้ขับร้องและผู้พำกย์แทน 3. เพรำะต้องกำรรักษำจำรีตของกำรแสดงโขนไว้ 4. เพรำะผู้แสดงไม่ได้รับกำรฝึกหัดให้เจรจำเอง 6. จำกภำพเป็นกำรแสดงประเภทใด 1. ระบำมำตรฐำน 2. ระบำที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ 3. ระบำโบรำณคดี 4. ระบำประเภทพื้นเมือง 7. ข้อใดเป็นสิ่งที่ควรคำนึงในกำรประดิษฐ์ท่ำรำที่เป็นคู่ 1. กำรแปรแถวที่หลำกหลำย 2. ยึดแบบแผนท่ำรำเฉพำะถิ่น 3. ท่ำรำของคู่รำควรมีควำมสอดคล้องกัน 4. คำนึงถึงควำมพร้อมเพรียงมำกกว่ำท่ำรำ 8. ข้อใดแตกต่ำงจำกข้ออื่น 1. รำกริชดรสำ รำหน้ำพำทย์ 2. รำแม่บท รำมโนรำห์บูชำยัญ 3. รำฉุยฉำยพรำหมณ์ รำไหว้ครูโนรำ 4. รำซัดชำตรี รำรจนำเสี่ยงพวงมำลัย 9. ปฏิมำกรรมพระพุทธรูปปำงลีลำ นำไปสู่แนวคิดในกำรประดิษฐ์ท่ำรำชุดกำรแสดงใด 1. ระบำโบรำณคดี ชุด ลพบุรี 2. ระบำโบรำณคดี ชุด เชียงแสน 3. ระบำโบรำณคดี ชุด สุโขทัย 4. ระบำโบรำณคดี ชุด ศรีวิชัย
  • 19. 19 10.ข้อใดกล่ำวถูกต้อง 1. รำบท เป็นกำรรำที่ตัดตอนมำจำกกำรแสดงละคร 2. รำบท เป็นกำรแสดงท่ำทำงแทนคำพูดและอำรมณ์ 3. รำหน้ำพำทย์เป็นกำรรำประกอบเพลงให้เข้ำกับเนื้อร้อง 4. รำหน้ำพำทย์เป็นกำรรำให้เข้ำกับจังหวะดนตรีและแสดงอำรมณ์ร่วม 11. อรอุมำเป็นชำวไทยมุสลิมกำลังจะจัดงำนแต่งงำนที่บ้ำน อรอุมำควรเลือกชุดกำรแสดงใดมำใช้ในงำน 1. รำอวยพร 2. ระบำร่อนแร่ 3. มะโย่ง 4. รองเง็ง 12.คติควำมเชื่อทำงด้ำนนำฏศิลป์ที่ผู้แสดงต้องขอขมำผู้อำวุโสหลังจบกำรแสดง สะท้อนให้เห็นลักษณะ ของสังคมไทยในเรื่องใด 1. กำรให้เกียรติและเคำรพผู้อำวุโส 2. เมื่อทำผิดต้องยอมรับผิดและกล่ำวขอโทษ 3. ควำมมีน้ำใจไมตรี ให้ควำมช่วยเหลือเมื่อผู้อื่นเดือดร้อน 4. มำรยำทอันดีงำมในกำรแสดงควำมเคำรพซึ่งกันและกัน 13.ข้อใดกล่ำวถึงควำมสำคัญของวรรณกรรมที่มีต่อนำฏศิลป์ ได้ถูกต้องที่สุด 1. ช่วยกำหนดลีลำท่ำทำงกำรเคลื่อนไหว อำรมณ์ของผู้แสดง 2. ช่วยเร้ำอำรมณ์ของผู้ชมกำรแสดงให้คล้อยตำมเนื้อเรื่อง 3. แสดงถึงวัฒนธรรม ประเพณีของท้องถิ่นที่จัดกำรแสดง 4. ช่วยให้กำรแสดงมีควำมประณีตและวิจิตรงดงำม 14.ศิลปะแขนงวิจิตรศิลป์ที่สอดแทรกอยู่ในกำรแสดงโขนที่เห็นได้เด่นชัดกว่ำศิลปะแขนงอื่นๆ คือข้อใด 1. จิตรกรรม 2. สถำปัตยกรรม 3. ประติมำกรรม 4. ดุริยำงคศิลป์ 15.กำรแสดงพื้นเมืองเป็นกำรแสดงที่สะท้อนออกมำในรูปแบบใดชัดเจนที่สุด 1. กำรทำมำหำกินของคนในท้องถิ่น 2. กำรแต่งกำยของคนในท้องถิ่น 3. ลีลำ จังหวะกำรเดิน กำรยืน อำกัปกิริยำของคนในท้องถิ่น 4. ควำมสวยงำมของสภำพแวดล้อมในแต่ละท้องถิ่น
  • 20. 20 16. ละครหลวงวิจิตรวำทกำรมีลักษณะที่โดดเด่นอย่ำงไร 1. เนื้อหำเกี่ยวกับพระมหำกษัตริย์ 2. เนื้อหำปลุกใจให้รักชำติ 3. เนื้อหำสะท้อนวิถีชำวบ้ำน 4. เนื้อหำเชื่อมโยงกับพระพุทธศำสนำ 17.กำรแสดงละครดึกดำบรรพ์มีควำมคล้ำยคลึงกับกำรแสดงละครในข้อใด 1. ละครนอก ละครใน 2. ละครชำตรี ละครพันทำง 3. ละครเสภำ ละครร้อง 4. ละครพูด ละครวิทยุ 18.ละครประเภทใดจัดเป็นต้นแบบของกำรแสดงละครรำทุกประเภท 1. ละครดึกดำบรรพ์ 2. ละครเสภำ 3. ละครชำตรี 4. ละครใน 19.ละครไทยที่แสดงท่ำทำงเหมือนอย่ำงสำมัญชนและเปลี่ยนฉำกไปตำมท้องเรื่อง คือละครประเภทใด 1. ละครพูดกับละครพันทำง 2. ละครพูดกับละครดึกดำบรรพ์ 3. ละครพูดกับละครเสภำ 4. ละครพูดกับละครร้อง 20.ข้อใดไม่ใช่ควำมสำคัญของกำรละครไทย 1. ขับกล่อมจิตใจมนุษย์ 2. แสดงควำมเป็นอำรยประเทศ 3. เป็นศูนย์รวมศิลปะแขนงต่ำงๆ 4. สร้ำงประเทศชำติให้มีอำนำจมำกขึ้น 21.ถ้ำได้รับมอบหมำยให้จัดกำรแสดงละครที่มีข้อคิดและคติสอนใจเกี่ยวกับควำมจงรักภักดี ซื่อสัตย์สุจริต และกำรรักษำระเบียบวินัยอย่ำงเคร่งครัด ละครเรื่องใดมีควำมเหมำะสมที่สุด 1. เลือดสุพรรณ 2. พันท้ำยนรสิงห์ 3. มหำรำชดำ 4. สมเด็จพระสุริโยทัย
  • 21. 21 22.ละครเกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์อย่ำงไร 1. มีเนื้อเรื่องเหมือนชีวิตจริง 2. ใช้คนเป็นตัวเอกของเรื่อง 3. ทำให้ชีวิตคนยืนยำว 4. กล่ำวถึงแต่คนที่มีชีวิต 23.เรื่องรำวที่จะนำมำแสดงละครสร้ำงสรรค์ควรมีลักษณะอย่ำงไร 1. ล้ำสมัยเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 2. กำลังอยู่ในควำมนิยมของสังคม 3. ชีวประวัติของบุคคลที่มีชื่อเสียง 4. ให้ข้อคิดที่สำมำรถนำไปใช้ได้ 24.ละครสร้ำงสรรค์เน้นเรื่องใดเป็นสำคัญ 1. ขั้นตอนกำรแสดง 2. เวทีและฉำกกำรแสดง 3. เครื่องแต่งกำย 4. อุปกรณ์ประกอบกำรแสดง 25.ข้อใดกล่ำวได้ถูกต้อง 1. ละครแบบไม่เหมือนจริงจะเป็นละครแบบสุขนำฏกรรมเท่ำนั้น 2. โขนและละครของไทยจัดเป็นกำรนำเสนอละครแบบไม่เหมือนจริง 3. กำรชมละครแบบไม่เหมือนจริงผู้ชมไม่ต้องใช้จินตนำกำรหรือกำรตีควำม 4. ภำษำที่ใช้ในกำรแสดงละครแบบไม่เหมือนจริงจะเป็นภำษำถิ่นร้อยแก้ว 26.ข้อใดกล่ำวได้ถูกต้องเกี่ยวกับละครโรมัน 1. ตัวละครออกมำประกำศชื่อก่อนกำรแสดง 2. มีลักษณะเป็นแบบสุขนำฏกรรมทั้งสิ้น 3. ใช้เครื่องแต่งกำยที่มีสีฉูดฉำด 4. เริ่มแสดงตั้งแต่เช้ำจนถึงค่ำ 27.หลักกำรวิจำรณ์กำรแสดงนำฏศิลป์ไทย ผู้วิจำรณ์จะต้องมีควำมรู้ในเรื่องใด 1. กำรคิดประดิษฐ์ลีลำท่ำรำ 2. กำรจัดแสดงชุดต่ำงๆ 3. ควำมสำมำรถของผู้แสดง 4. องค์ประกอบของนำฏศิลป์
  • 22. 22 28.กำรวิเครำะห์กำรแสดงนำฏศิลป์ ไทยอย่ำงมีหลักกำรต้องปฏิบัติอย่ำงไร 1. ต้องเสำะแสวงหำควำมรู้จำกผู้เชี่ยวชำญ 2. ต้องศึกษำด้ำนสุนทรียศำสตร์ของศิลปะกำรแสดง 3. ต้องมีประสบกำรณ์ในกำรชมกำรแสดงนำฏศิลป์ไทย 4. ต้องศึกษำให้เข้ำใจหลักกำรวิจำรณ์กำรแสดงแต่ละประเภท 29.ข้อใดจัดเป็นหลักกำรวิจำรณ์กำรแสดงนำฏศิลป์ ที่ดี 1. แสดงควำมคิดเห็นได้สอดคล้องกับผู้เชี่ยวชำญ 2. ติชมเพื่อก่อให้เกิดกำรพัฒนำไปสู่แนวทำงที่ดี 3. ใช้ภำษำในกำรวิจำรณ์ที่รุนแรง เร้ำอำรมณ์ 4. เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียอย่ำงชัดเจน 30.ข้อใดเป็นกำรอนุรักษ์และส่งเสริมเอกลักษณ์ของชำติทำงด้ำนนำฏศิลป์ที่ดีที่สุด 1. กำรแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม 2. กำรให้ควำมรู้แก่ประชำชน 3. กำรปรับปรุงฟื้นฟู 4. กำรยกย่องสรรเสริญ
  • 23. 23 ชุดที่ 2 ข้อสอบ O-NET วิชา ศิลปะ 2552 ตอนที่ 1 ศิลปะ : จำนวน 40 ข้อ รวม 100 คะแนน ส่วนที่ 1 : แบบระบำยตัวเลือก แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว จำนวน 33 ข้อ (ข้อ 1-33) : ข้อละ 2 คะแนน 1. สีใดที่ใช้แทนควำมรัก 1. ดำ 2. แดง 3. ชมพู 4. ขำว 2. ข้อใดไม่ใช่เอกลักษณ์ของงำนจิตรกรรมไทย 1. แสดงภำพแบนๆ แบบสองมิติ 2. แสดงแสงเงำตำมธรรมชำติ 3. แสดงควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลด้วยสี 4. แสดงจุดเด่นโดยไม่คำนึงถึงสัดส่วน 3. สีชนิดใดใช้ระบำยบำงๆ แบบสีน้ำและแบบปำดป้ ำยเป็นก้อนในแบบสีน้ำมันได้ 1. Pastel 2. Acrylic 3. Crayon 4. Marker 4. ข้อใดเป็นศิลปินในลัทธิประทับใจยุคหลัง (Post-Impressionism) ทั้งหมด 1. ปอลเซซำน (Paul Cezanne) มำร์เซล ดูชอง (Marcel Duchamp) 2. ปอล โกแกง (Paul Ganguin) ฟินเซนต์ ฟำนก๊อก (Vincent Van Gogh) 3. ซำลำดอร์ ดำลี (Salvador Dali) มักซ์ เอินสต์ (Max Ernst) 4. ชอร์ช บรำก (Georges Broque) ปำโบล ปิกัสโซ่ (Pablo Picasso) ปีการศึกษา
  • 24. 24 5. ภำพโมนำลิซำ (Mona Lisa) ของลีโอนำโด ดำ วินซี (Leonardo do Vince) มีกำรใช้สิ่งใดในกำรจัด องค์ประกอบศิลป์มำกที่สุด 1. ควำมสมดุล 2. ควำมกลมกลืน 3. เน้นสีต่ำงวรรณะกัน 4. เน้นด้วยเส้นให้เกิดระยะ 6. ลักษณะของแม่พิมพ์ทุบเป็นอย่ำงไร 1. เป็นแม่พิมพ์ชั่วครำว สำมำรถหล่อได้รูปเดียว 2. ไม่นิยมใช้ต้นแบบเป็นดินเหนียว 3. เป็นแม่พิมพ์ที่แข็งแรง ที่สำมำรถใช้หล่อได้หลำยครั้ง 4. หล่อได้ง่ำย ทนควำมร้อนได้ดี 7. กำรผสมปูนปลำสเตอร์ เพื่อหล่อรูปปั้นควรทำตำมข้อใด 1. ใส่น้ำในภำชนะ, โรยปูนพลำสเตอร์พอเสมอระดับน้ำ, กวนให้เข้ำกัน 2. ใส่น้ำในภำชนะสลับกับโรยปูนพลำสเตอร์ แล้วกวนให้เข้ำกัน 3. ใส่ปูนในภำชนะ, ใส่น้ำพอประมำณ, กวนให้เข้ำกันอย่ำงนุ่มนวล 4. ใส่ปูนและน้ำพร้อมๆ กัน แล้วกวนให้เข้ำกันอย่ำงรวดเร็ว 8. ภำพลำยรดน้ำของช่ำงศิลป์ ไทย นิยมใช้สิ่งใดลงพื้น 1. รัก 2. สีน้ำมันมะเดื่อ 3. หรดำล 4. สีฝุ่น 9. แอนดี วอร์ฮอล เป็นศิลปินชนชำติใด และเป็นหนึ่งในศิลปินสมัยใด 1. อเมริกำ สมัยนิยม (Pop Art) 2. ฮอลแลนด์ สมัยเหมือนจริง (Realism) 3. โปแลนด์ สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยำ (Renaissance) 4. เยอรมัน สมัยหลังสมัยใหม่ (Postmodern) 10.ลำยกระหนก มีต้นแบบมำจำกธรรมชำติ 4 อย่ำงคือข้อใด 1. ดอกบัว ใบฝ้ำย รวงข้ำว เปลวไฟ 2. ดอกบัว หยดน้ำ นก รวงข้ำว 3. เปลวไฟ เมฆ เกลียวคลื่น ช้ำง 4. นก หยดน้ำ เกลียวคลื่น ปลำ
  • 25. 25 11.ข้อใดเป็นตัวอย่ำงประยุกต์ศิลปะกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ 1. ภำพยนตร์เรื่องก้ำนกล้วย 2. หนังใหญ่ 3. ละครหุ่นเชิด 4. หนังตะลุง 12.สีขั้นที่สำมในวงจรสีประกอบด้วยสีใด 1. ส้ม เขียว 2. แดง เหลือง 3. เขียวเหลือง ส้มแดง 4. แดงส้ม น้ำเงิน 13.เทคนิคกำรพิมพ์ประเภทใดที่นิยมใช้ในกำรพิมพ์กระเป๋ ำผ้ำ 1. เทคนิคภำพพิมพ์แกะไม้(Woodcut) 2. เทคนิคภำพพิมพ์โลหะ (Etching) 3. เทคนิคภำพพิมพ์หิน (Lithograph) 4. เทคนิคภำพพิมพ์ตะแกรงไหม (Silkscreen) 14.ในสมัยโรมัน มีกำรสร้ำงสรรค์เครื่องเป่ำทองเหลืองขึ้น และใช้องค์ประกอบดนตรีต่ำงๆ ที่ได้รับอิทธิพล มำจำกวัฒนธรรมดนตรีกรีก ลักษณะกำรผสมวงจึงมีหลำกหลำยมำกขึ้น กำรผสมวงที่ใช้เครื่องเป่ำ ทองเหลืองเป็นหลัก ชำวโรมันมักจะใช้เพื่อแสดงลักษณะอย่ำงไรมำกที่สุด 1. เข้มแข็ง สง่ำงำม 2. อ่อนหวำน ซำบซึ้ง 3. สนุกสนำน ร่ำเริง 4. นุ่มนวล สดใส 15.กำรแสดงละครเพื่อเน้นให้เห็นควำมงดงำมของเสียงดนตรีที่มีลักษณะเดียวกัน หรือคล้ำยคลึงกัน โดยนำ กำรร่ำยรำมำประกอบ กำรแสดงครั้งนี้ควรใช้บทเพลงในข้อใด 1. ตับนำงลอย 2. ตับนำคบำศ 3. ตับลำวเจริญศรี 4. เพลงชมตลำด
  • 26. 26 16.กำรดูแลรักษำเครื่องดนตรีในข้อใดที่มีวิธีกำรคล้ำยคลึงกันมำกที่สุด 1. Flute, French horn 2. Oboe, English horn 3. Bassoon, Tuba 4. French horn, English horn 17.บทเพลงประเภท nocturne เป็นบทเพลงประเภท night music มักจะนำเสนอทำนองสองทำนอง โดยทำนองแรกจะอยู่ในตอนแรกและตอนสุดท้ำย โดยตอนกลำงเป็นทำนองที่สอง ซึ่งควำมรู้สึกของ บทเพลงประเภทนี้แสดงออกถึงควำมไพเรำะในลักษณะใด และรูปแบบที่นำเสนอทำนองสองทำนอง ดังกล่ำวเรียกว่ำอะไร 1. Tranquillo, Binary Form 2. Cantabile, Binary Form 3. Vivo, Ternary Form 4. Dolce, Ternary Form 18.Music, homophony และ rhythm ต่ำงเป็นคำศัพท์ทำงดนตรีที่สำคัญ ซึ่งมีรำกศัพท์มำจำกวัฒนธรรม ดนตรีที่เป็นรำกเหง้ำของดนตรีตะวันตก คือดนตรีของชนชำติใด 1. กรีกโบรำณ 2. อียิปต์โบรำณ 3. โรมัน 4. ฮิบรู 19.ในวิถีชีวิตของคนไทยแต่ดั้งเดิมมำ มีดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ว่ำจะประกอบกิจกรรมใดๆ เช่น โกนจุก บวชนำค พิธีศพ มักจะมีดนตรีเป็นส่วนประกอบเสมอ ทำให้ดนตรีซึมซับอยู่ในควำมรู้สึก เป็นสิ่งที่มีคุณค่ำ วงดนตรีที่มีบทบำทในกำรประกอบกิจกรรมต่ำงๆ เหล่ำนี้ มักจะเป็นวงดนตรี ประเภทใด 1. วงเครื่องสำย 2. วงปี่พำทย์ 3. วงมโหรี 4. วงขับไม้ 20.กำรประพันธ์เพลงเพื่อแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมดนตรีในยุคบำโรค ควรเป็นบทเพลงในข้อใด 1. Etude No.1 in D minor 2. Mazurka in F major 3. Suite No.1 in C minor 4. Madrigal Comedy, Op.1
  • 27. 27 21.วงปี่พำทย์ประเภทหนึ่งที่พัฒนำขึ้นในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ เพื่อใช้ในกำรบรรเลงร้องส่ง หรือกำร ขับกล่อม คือข้อใด 1. รัชกำลที่ 1 ปี่พำทย์เสภำเครื่องคู่ 2. รัชกำลที่ 2 ปี่พำทย์เสภำเครื่องห้ำ 3. รัชกำลที่ 3 ปี่พำทย์ไม้แข็งเครื่องใหญ่ 4. รัชกำลที่ 4 ปี่พำทย์ไม้นวมเครื่องคู่ 22.กำรประพันธ์บทเพลงเพื่อให้ผู้ฟังรู้สึกว่ำเป็นเพลงพื้นบ้ำนภำคกลำงที่สนุกสนำน น่ำจะมีลักษณะอย่ำงไร 1. เพลงในบันไดเสียงเมเจอร์ บรรเลงโดยวงปี่ซอ 2. เพลงในบันไดเสียงไมเนอร์ บรรเลงโดยวงกลองยำว 3. เพลงในบันไดเสียงเพนตำโทนิก บรรเลงโดยวงปี่ซอ 4. เพลงในบันไดเสียงเพนตำโทนิก บรรเลงโดยวงกลองยำว 23.กำรประพันธ์บทเพลงที่มีลักษณะเรียบง่ำย ไม่ใช้โน้ตประดับมำกมำย แสดงถึงควำมสดใส ใช้คอร์ดที่มี เสียงกลมกลืนเป็นส่วนใหญ่ บทเพลงนี้น่ำจะเป็นลักษณะของบทเพลงในยุคใด 1. คลำสสิก 2. โรแมนติก 3. ศตวรรษที่ 20 4. ฟื้นฟูศิลปวิทยำ 24.ละครเรื่องใดที่นับเป็นกำรแสดงแบบโศกนำฏกรรม 1. ซินเดอเรล่ำ 2. โรมิโอ แอนด์ จูเลียต 3. ปลำบู่ทอง 4. โสนน้อยเรือนงำม
  • 28. 28 25.กำรแสดงนำฏศิลป์ในรูปภำพใดที่แสดงถึงอำรมณ์ควำมสนุกสนำน แข็งแรง กระฉับกระเฉงได้ดีที่สุด 1. 2. 3. 4. 26.ในกำรเลือกเพลงประกอบแสดงนำฏศิลป์ ร่วมสมัยชุดหนึ่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดจะต้องคำนึงถึงอะไร 1. เป็นเพลงร่วมสมัย 2. เป็นเพลงที่เป็นที่นิยมและเป็นที่รู้จักทั่วไป 3. เป็นเพลงที่มีอำรมณ์และจังหวะสอดคล้องกับเนื้อหำของกำรแสดง 4. เป็นเพลงที่เร้ำใจ สร้ำงควำมตื่นเต้น และดึงดูดผู้ชมได้ดี 27.กำรฝึกฝนบัลเล่ต์สำมำรถแก้ไขข้อบกพร่องทำงสรีระข้อใดได้บ้ำง 1. หลังค่อม 2. ขำโก่ง 3. ศีรษะเอียง 4. เท้ำบิดออกด้ำนนอก 28.สิ่งใดที่ผู้วิจำรณ์กำรแสดงไม่จำเป็นต้องกล่ำวถึงในกำรวิจำรณ์กำรแสดง 1. กำรเล่ำเรื่องย่อกำรแสดงนั้นๆ 2. วิธีกำรเดินทำงไปสถำนที่ที่ชมกำรแสดง 3. มุมมองที่ผู้สร้ำงสรรค์ต้องกำรนำเสนอสู่ผู้ชม 4. ควำมสวยงำมของแสงสีประกอบกำรแสดง
  • 29. 29 29.มำรยำทในกำรชมกำรแสดงที่ดีคือข้อใด 1. พูดคุยถึงกำรแสดงฉำกต่ำงๆ เรื่องรำวของกำรแสดงนั้นๆ ให้กับเพื่อนที่ชมด้วยกันฟังตลอดเวลำ 2. พยำยำมอ่ำนสูจิบัตรกำรแสดงในเวลำชมกำรแสดงเพื่อให้เข้ำใจเรื่องรำว 3. ปิดเสียงโทรศัพท์และเครื่องมือสื่อสำรต่ำงๆ และไม่รับโทรศัพท์เด็ดขำดระหว่ำงชมกำรแสดง 4. ลุกไปเข้ำห้องน้ำระหว่ำงที่กำรแสดงอยู่ในช่วงที่ไม่สำคัญ 30.ในกำรแสดงงิ้ว สีของเครื่องแต่งกำยที่ตัวละครสวมใส่ สำมำรถบ่งบอกลักษณะนิสัยได้ดังเช่น ขุนนำง ที่มีคุณธรรมจะสวมชุดสีแดงหรือสีฟ้ำ แต่ถ้ำเป็นขุนนำงที่คดโกงจะสวมชุดสีอะไร 1. สีเขียวเข้ม 2. สีม่วง 3. สีน้ำเงิน 4. สีดำ 31.ข้อใดที่มีควำมสัมพันธ์กันในเชิงศิลปะกำรแสดง 1. The Tgar and Carpenter - จันทกินรี 2. The Nut Cracker - รำมำยณะ (อินโดนีเซีย) 3. คำบูกิ - กถักกฬิ 4. วำยังวอง - มณีปุรี 32.สมัยรำชวงศ์ใดของจีนที่ละครหุ่นมีควำมหลำกหลำยและโดดเด่นเป็นอย่ำงมำก 1. รำชวงศ์ฮั่น 2. รำชวงศ์สุย 3. รำชวงศ์ถัง 4. รำชวงศ์ซ่ง 33.นำฏศิลป์ อินโดนีเซียแบบใดที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทำงศำสนำ 1. แบบสุรำกำร์ตำ 2. แบบซุนดำ 3. แบบบำหลี 4. แบบสุมำตรำ
  • 30. 30 ส่วนที่ 2 : แบบระบำยคำตอบที่สัมพันธ์กัน:จำนวน7ข้อ (ข้อ34-40) ข้อ 34 - 39 ข้อละ 4 คะแนน และข้อ 40 ข้อละ 10 คะแนน จงพิจำรณำเลือกคำตอบจำกตำรำงหมวดต่ำงๆ ที่โจทย์กำหนด หมวดละ 1 คำตอบ ให้ครบทุกหมวด ตำมควำมต้องกำรของโจทย์จึงจะได้คะแนน จงใช้ตัวเลือกจำกตำรำงหมวด A B C D E และ F ต่อไปนี้ ตอบคำถำมข้อ 34 - 36 รหัส ตัวเลือกหมวด B 1 อังกฤษ 2 ไทย 3 บำลี 4 สันสกฤต 5 จีน 6 อำหรับ 7 อินเดีย 8 เนปำล รหัส ตัวเลือกหมวด A 1 Requiem 2 Cantata 3 Oratorio 4 Mass 5 เพลงเถำ 6 เพลงละคร 7 เพลงตับเรื่อง 8 เพลงเกร็ด รหัส ตัวเลือกหมวด D 1 Recitative 2 Aria 3 Duet 4 Trio 5 Chorus 6 Ensemble 7 Orchestra 8 Quartet รหัส ตัวเลือกหมวด C 1 Choir 2 Orchestra 3 Quartet 4 Concerto grosso 5 ปี่พำทย์ดึกดำบรรพ์ 6 มโหรีเครื่องใหญ่ 7 เครื่องสำยเครื่องใหญ่ 8 ปี่พำทย์เครื่องใหญ่
  • 31. 31 กำรประพันธ์บทเพลงสวดในพุทธศำสนำขนำดใหญ่บทหนึ่ง โดยใช้แนวคิดกำรประพันธ์แบบ บทเพลงสวดของนิกำยโรมันแคธอลิก ภำษำที่ใช้เป็นภำษำดั้งเดิมคล้ำยภำษำละติน บทสวดเริ่มต้นด้วยควำม ยิ่งใหญ่ หลังจำกนั้น เน้นกำรแสดงควำมสำมำรถของกำรขับร้องเดี่ยวของนักร้องชำย โดยกำรร้องทำนอง ที่ไพเรำะมำก แบ่งเป็นสองทำนองหลัก โดยทำนองแรกเป็นทำนองที่ยิ่งใหญ่ และทำนองที่สองเป็นทำนอง เรียบง่ำย และปิดท้ำยด้วยทำนองแรกที่มีกำรเพิ่มเติมกำรแสดงควำมสำมำรถของนักร้องด้วย บทเพลงดำเนิน ไปโดยมีกำรขับร้องหลำยรูปแบบ รวมทั้งกำรขับร้องช่วงหนึ่งที่เป็นกำรขับร้องระหว่ำงนักร้องเดี่ยวชำยและ หญิงรวม 2 คน และจบลงด้วยควำมยิ่งใหญ่ของกำรบรรเลงและขับร้องทั้งหมด 34.ภำษำที่ควรใช้ในบทเพลงนี้คือภำษำอะไร ส่วนเริ่มต้นของบทเพลง ควรเป็นกำรขับร้องในลักษณะใด และกำรขับร้องของนักร้องชำย เป็นลักษณะใด เลือกจำกหมวด B, C, และ D ตำมลำดับ 35.เพลงสวดในลักษณะนี้ เรียกว่ำอะไร รูปแบบกำรขับร้องของนักร้องชำย เรียกว่ำอะไร กำรขับร้อง ระหว่ำงนักร้องเดี่ยวชำยและหญิงรวม 2 คน เรียกว่ำอะไร เลือกจำกหมวด A, E, และ D ตำมลำดับ 36.ถ้ำต้องเปลี่ยนแปลงกำรประพันธ์มำใช้ลักษณะของดนตรีไทย เพลงที่ประพันธ์ขึ้นมำ เรียกว่ำเพลง ประเภทใด บทสวดเริ่มต้นด้วยควำมยิ่งใหญ่ด้วยกำรบรรเลงของวงดนตรี ควรใช้วงดนตรีประเภทใด และกำรบรรเลงและขับร้องตอนท้ำย เป็นกำรผสมผสำนของดนตรีไทยและสำกลควรเป็นลักษณะใด เลือกจำกหมวด A, C, และ F ตำมลำดับ รหัส ตัวเลือกหมวด F 1 ปี่พำทย์เครื่องคู่ กำรร้องประสำนเสียง 2 ปี่พำทย์เครื่องใหญ่ กำรร้องหมู่ 3 มโหรีเครื่องคู่ กำรร้องประสำนเสียง 4 มโหรีเครื่องใหญ่ กำรร้องประสำนเสียง 5 เครื่องสำยเครื่องใหญ่ กำรร้องหมู่ 6 มโหรีเครื่องใหญ่ กำรร้องหมู่ 7 มโหรีเครื่องคู่ กำรร้องหมู่ 8 ปี่พำทย์เครื่องคู่ กำรร้องหมู่ รหัส ตัวเลือกหมวด E 1 Rondo 2 Tutti 3 Concentrate 4 Da segno 5 Binary 6 Minuet 7 Da capo 8 D.S. al fine
  • 32. 32 จงใช้ตัวเลือกจำกตำรำงหมวด G H I และ J ต่อไปนี้ ตอบคำถำมข้อ 37 - 39 37.ระบำย่องหงิดเป็นกำรจับระบำของเหล่ำเทวดำนำงฟ้ำที่หำชมได้ยำกอีกชุดหนึ่ง ดังนั้นหำกท่ำนต้องกำร อนุรักษ์และเผยแพร่ระบำดังกล่ำว ควรบรรจุระบำดังกล่ำวในละครเรื่องใดและประเภทใด โดยเลือก คำตอบจำกตำรำงหมวด H และ G ตำมลำดับ 38.กำรแสดงนำฏศิลป์ อินเดียที่เน้นกำรกระโดด กำรหมุนตัวบนพื้นและผู้แสดงต้องตีกลองที่คล้องอยู่ที่คอ ของตนด้วย กำรแสดงดังกล่ำวคือกำรแสดงประเภทใดและชื่อชุดอะไร โดยเลือกคำตอบจำกตำรำงหมวด I และ J ตำมลำดับ 39.หำกท่ำนได้รับมอบหมำยให้จัดกำรแสดงที่สะท้อนถึงกำรเลือกคู่ครอง (ปลูกเรือนตำมใจผู้อยู่) ให้ประชำชนทั่วไปชม (อำยุเฉลี่ย 18-35 ปี) เวทีชั่วครำวหน้ำศูนย์กำรค้ำสยำมพำรำกอน ท่ำนจะเลือกใช้ รูปแบบกำรแสดงประเภทใดและเรื่องใด โดยเลือกคำตอบจำกตำรำงหมวด G และ H ตำมลำดับ รหัส ตัวเลือกหมวด H 1 มโนห์รำ 2 สังข์ทอง 3 ไกรทอง 4 นิทรำชำคริต 5 อิเหนำ 6 อุณรุท รหัส ตัวเลือกหมวด G 1 ละครนอก 2 ละครใน 3 ละครดึกดำบรรพ์ 4 โอเปร่ำ 5 บัลเล่ต์ 6 นำฏศิลป์ ร่วมสมัย รหัส ตัวเลือกหมวด J 1 อลำริปปู 2 ไตรภัณกิ 3 อติภัณกิ 4 ทันดำวำ 5 รำลลีลำ 6 นฤตตำ รหัส ตัวเลือกหมวด I 1 ภำรตะนำฏยัม 2 โอดิสสี 3 มณีปุรี 4 กถัก 5 กุจิ ปุดิ 6 กถักกฬิ
  • 33. 33 จงใช้ตัวเลือกจำกตำรำงหมวด A B และ C ต่อไปนี้ ตอบคำถำมข้อ 40 40.ในกำรแสดงละครพันทำง เรื่องพระอภัยมณีเนื่องในวันสุนทรภู่ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (โรงเล็ก) ซึ่งเป็นฉำกที่ชีเปลือยได้ผลักสุดสำครตกลงไปในเหว แล้วพระฤๅษีได้มำช่วยสุดสำครไว้ทัน พร้อมทั้งสอนว่ำอย่ำไว้วำงใจใครง่ำยๆ มิฉะนั้นอำจจะได้รับควำมเดือดร้อนเหมือนเช่นครั้งนี้ ในฉำกนี้ควรใช้โทนสีใด ให้เลือกจำกหมวด A วงดนตรีที่ควรใช้บรรเลงประกอบละครเรื่องนี้ คือวงประเภทใด ให้เลือกจำกหมวด B และตัวละครใดแต่งกำยถูกต้องให้เลือกจำกหมวด C รหัส ตัวเลือกหมวด B 1 มโหรีเครื่องเล็ก 2 มโหรีเครื่องคู่ 3 มโหรีเครื่องใหญ่ 4 ปี่พำทย์เครื่องใหญ่ 5 ปี่พำทย์เครื่องห้ำ 6 ปี่พำทย์ไม้นวม รหัส ตัวเลือกหมวด A 1 ฟ้ำหม่น 2 ชมพู 3 แดงสด 4 เขียวสด 5 ม่วงครำม 6 ส้มเหลือง รหัส ตัวเลือกหมวด C 1 ฤๅษีสวมชุดหนังเสือ 2 ฤๅษีสวมชุดนักบวชสีขำว 3 สุดสำครสวมชุดหนังเสือ 4 สุดสำครสวมชุดนักบวชสีขำว 5 ชีเปลือยสวม All in one สีเนื้อ 6 ชีเปลือยสวม All in one สีขำว
  • 34. 34 ชุดที่ 2 ข้อสอบ O-NET วิชา ศิลปะ 2553 ตอนที่ 1 ศิลปะ : จำนวน 40 ข้อ รวม 100 คะแนน ส่วนที่ 1 : แบบระบำยตัวเลือก แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว จำนวน 33 ข้อ (ข้อ 1-33) : ข้อละ 2 คะแนน 1. ภำพนี้แสดงทัศนธำตุใดที่สื่อให้เห็นควำมงำมของภำพไทย 1. เส้น 2. รูปทรง 3. รูปร่ำง 4. พื้นที่ว่ำง 2. ขั้นตอนและวิธีกำรในกำรวิจำรณ์ผลงำนทัศนศิลป์ ข้อใดถูกต้องที่สุด 1. พรรณนำ วิเครำะห์ ตีควำมหมำย ประเมินค่ำ 2. พรรณนำ ตีควำมหมำย วิเครำะห์ ประเมินค่ำ 3. ตีควำมหมำย วิเครำะห์ ประเมินค่ำ พรรณนำ 4. ตีควำมหมำย พรรณนำ วิเครำะห์ ประเมินค่ำ ปีการศึกษา
  • 35. 35 3. ภำพ “ยำมเช้ำ” ผลงำนของศำสตรำจำรย์ประหยัด พงษ์ดำ เป็นกำรสร้ำงสรรค์ด้วยเทคนิคและอุปกรณ์ ชนิดใด 1. เทคนิคภำพพิมพ์ (แม่พิมพ์แกะไม้) 2. เทคนิคภำพพิมพ์ (แม่พิมพ์กระดำษ) 3. เทคนิคภำพพิมพ์ (แม่พิมพ์หิน) 4. เทคนิคจิตรกรรมสีน้ำมัน 4. ศิลปินไทยนำเปลวไฟเป็นแรงบันดำลใจในกำรสร้ำงสรรค์ลำยใด 1. ลำยกนก 2. ลำยรักร้อย 3. ลำยกระจัง 4. ลำยดอกลอย 5. ในกำรวำดภำพกล้วยไข่สุกด้วยเทคนิคสีน้ำ ท่ำนจะเลือกใช้สีอะไรบ้ำงผสมกันเพื่อให้เหมือนจริง ขณะเดียวกันกล้วยไข่วำงอยู่บนผ้ำสีม่วง สีที่เป็นเงำของกล้วยไข่ควรใช้สีอะไร เพื่อให้เกิดเงำสะท้อน (Reflected) ต่อกัน 1. ใช้สีเหลืองผสมสีแดงผสมสีน้ำเงินเล็กน้อย ส่วนเงำใช้สีม่วง 2. ใช้สีขำวผสมสีเหลืองผสมสีน้ำเงินเล็กน้อย ส่วนเงำใช้สีม่วง 3. ใช้สีเหลืองผสมสีแดงผสมสีขำวเล็กน้อย ส่วนเงำใช้สีดำ 4. ใช้สีขำวผสมสีเหลืองผสมสีแดงเล็กน้อย ส่วนเงำใช้สีน้ำเงิน 6. มิติระยะของภำพจะเกิดขึ้นได้ด้วยกำรเน้นวิธีใด 1. เน้นด้วยผิว สี 2. เน้นด้วยขนำด พื้นผิว 3. เน้นด้วยขนำด สี 4. เน้นด้วยสี รูปทรง
  • 36. 36 อ่านข้อความต่อไปนี้ และตอบคาถามข้อ 7-10 “กำร์ตูนกับสังคมไทย” กำร์ตูนเป็นศิลปะกำรวำดภำพอย่ำงหนึ่งที่ช่วงส่งเสริมควำมคิดสร้ำงสรรค์กำรจินตนำกำร แฝงด้วยอำรมณ์สนุกสนำน นักเขียนกำร์ตูนจึงต้องมีจิตวิทยำในกำรนำเสนอเนื้อหำและรูปแบบที่เรียบง่ำย ตลกขบขัน น่ำสนใจ โดยวำดภำพอย่ำงง่ำยๆ ที่เน้นลีลำของเส้น-สี มีลักษณะไม่เหมือนจริง อำจจะเกินควำมจริง หรือน้อยกว่ำควำมเป็นจริง โดยกำรลดตัดทอนหรือเพิ่มเติมเพื่อแสดงออกให้เกิดควำมตลกขบขัน ล้อเลียน เสียดสี ที่สอดแทรก เรื่องรำว วิถีชีวิตหรือเหตุกำรณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม ปัจจุบันกำร์ตูนไทยที่ถือได้ว่ำครองใจคนทุกเพศทุกวัยอันดับหนึ่งคือ ขำยหัวเรำะ มหำสนุก ซึ่งเป็นกำร์ตูนแนวเรื่องสั้น นอกจำกนี้ยังมีกำร์ตูนประเภทล้อเลียนกำรเมือง เขียนโดยชัย รำชวัตร กำร์ตูนมีหลำยประเภท ดังนี้ 1. กำร์ตูนกำรเมืองเป็นกำร์ตูนที่มุ่งล้อเลียน เสียดสี ประชดประชันบุคคลหรือเหตุกำรณ์ ทำงกำรเมือง เพื่อกระตุ้นให้ผู้อ่ำนเกิดควำมคิดเห็นใหม่ๆ อำจมีคำบรรยำยหรือไม่มีก็ได้โดยนำเสนอภำพ เป็นช่องเดียวหรือหลำยช่องก็ได้ 2. กำร์ตูนขบขัน เป็นกำร์ตูนที่เน้นควำมตลกขบขันเป็นหลัก ที่เก็บเนื้อเรื่องมำจำกวิถีชีวิตหรือ เหตุกำรณ์ในชีวิตประจำวัน 3. กำร์ตูนเรื่องรำว เป็นกำร์ตูนที่นำเสนอเรื่องรำวที่มีควำมต่อเนื่องกันจนจบ มีคำบรรยำย บทสนทนำภำยในภำพ สำหรับกำร์ตูนไทยที่นิยมเขียนจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับวรรณคดี นิยำยพื้นบ้ำน เรื่องจักรๆ วงศ์ๆ 4. กำร์ตูนประกอบเรื่องเป็นกำร์ตูนที่เขียนเพื่อสื่อสำรประกอบข้อควำม หรืออธิบำยข้อควำมให้ เข้ำใจง่ำยและน่ำสนใจ เช่น กำร์ตูนโฆษณำ กำร์ตูนประกอบสื่อกำรศึกษำ 5. กำร์ตูนมีชีวิต หรือภำพยนตร์กำร์ตูน มีกำรลำดับภำพและเรื่องรำวต่อเนื่องคล้ำยกับภำพนักแสดง ที่เป็นคนในภำพยนตร์ หรือใช้แสดงประกอบกับนักแสดงที่เป็นคนในภำพยนตร์ กำรเขียนกำร์ตูนที่ดีควรมีกำรสื่อสำรอำรมณ์ควำมรู้สึกในเชิงตลกขบขัน มีรูปแบบที่เรียบง่ำย ด้วยลีลำของเส้น สี รูปร่ำง มีเอกลักษณ์เฉพำะตน ผู้เริ่มฝึกเขียนกำร์ตูนจึงควรมีทักษะ ดังนี้ 1. ฝึกเขียนลีลำของเส้นในลักษณะต่ำงๆ เช่น เส้นตรง เส้นโค้ง เส้นอิสระ 2. เขียนภำพวัตถุ สิ่งของ ภำพคน ภำพสัตว์หรือภำพสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเพื่อใช้เป็นแนวทำง ในกำรนำมำเขียนภำพกำร์ตูน 3. ฝึกกำรเขียนรูปแบบจำกธรรมชำติที่อยู่รอบตัวในเชิงลดตัดทอน หรือเพิ่มเติมรูปแบบให้เรียบง่ำย ในลักษณะคล้ำยจริง เกินควำมจริง น้อยกว่ำควำมจริง เป็นต้น
  • 37. 37 4. ศึกษำแนวหรือประเภทกำร์ตูนที่ชื่นชอบ เช่น กำร์ตูนล้อกำรเมือง กำร์ตูนขบขัน กำร์ตูน ประกอบเรื่อง เป็นต้น 5. พล็อตเรื่องที่จะวำดเริ่มจำก THEME แล้วแบ่งเรื่องเป็นตอนใน (Story board) 6. ร่ำงภำพจำกแนวคิดจินตนำกำร 7. ตัดเส้น ลงสี เก็บรำยละเอียด 7. ทัศนธำตุใดที่ต้องฝึกฝนเพื่อเป็นพื้นฐำนในกำรวำดภำพกำร์ตูน 1. แสง – เงำ พื้นผิว 2. สี รูปทรง 3. เส้น สี 4. จุด รูปทรง 8. ถ้ำท่ำนจะวำดภำพกำร์ตูนให้เป็นที่นิยมของคนทั่วไปต้องคำนึงถึงอะไร 1. ต้องเป็นภำพสื่อให้เห็นถึงรูปแบบที่เรียบง่ำยมีควำมเหมือนจริงตำมธรรมชำติ 2. ต้องเป็นภำพที่เรียบง่ำย สื่อสำรอำรมณ์ควำมรู้สึกในเชิงตลกขบขัน 3. ต้องเป็นภำพลำยเส้นเรียบง่ำยสื่อวิถีชีวิตในสังคมได้ดี 4. ต้องสำมำรถนำเสนอเป็นภำพโฆษณำ สื่อกำรศึกษำได้ 9. ถ้ำนักเรียนต้องกำรวำดภำพกำร์ตูนล้อเลียนกำรเมืองจะดำเนินกำรอย่ำงไร 1. ร่ำงภำพ – เก็บรำยละเอียด – ตรวจสอบควำมถูกต้องของเนื้อเรื่อง 2. วำงเนื้อเรื่อง – ร่ำงภำพ – เก็บรำยละเอียด 3. วำงเนื้อเรื่อง – ตัดเส้น – ลงสี 4. ร่ำงภำพ – ตัดเส้น – ลงสี – ตรวจสอบควำมถูกต้องของเนื้อเรื่อง 10.กำร์ตูนประเภทใดที่นำเทคโนโลยีเข้ำมำเกี่ยวข้องมำกที่สุด 1. กำร์ตูนขบขัน 2. กำร์ตูนประกอบเรื่อง 3. กำร์ตูนมีชีวิต 4. กำร์ตูนเรื่องรำว 11.จิตรกรรมไทยใช้ลักษณะเด่นของทัศนธำตุข้อใดมำกที่สุด 1. สี 2. เส้น 3. ช่องไฟ 4. จังหวะ