Korea
- 6. ยุคเกาหลีโบราณ
เมื่อ 3,000 ปีมาแล้ว พวกอัลเตอิค (Altaic peoples) ได้อพยพมาตั้งถิ่น
ฐานในคาบสมุทร ตั้งบ้านเมือง สั่งสมวัฒนธรรม ยุคบรอนซ์ (Bronze Age
Culture) พวกนี้ได้ผสมเผ่าพันธุ์กับพวกพื้นเมือง รวมเรียกว่า ชนเผ่าตังกัส
(Tangus) นับว่าเป็นบรรพบุรุษของชาวเกาหลีในปัจจุบัน
การกําเนิดชาติเกาหลีมีตํานานเล่าว่า เจ้าชาย
ฮวางวุง โอรสของเทพบนสวรรค์ลงมาสร้าง
เมืองที่ภูเขาแตแบกซาน ได้แต่งงานกับหญิงที่มี
กําเนิดจากหมี มีโอรสชื่อ ตันกุน (Tan-gun) ผู้
เป็นรัฐบุรุษกึ่งเทพเจ้า ได้เป็นปฐมกษัตริย์ รวม
แคว้นต่าง ๆ ก่อตั้งเป็นชาติเกาหลีขึ้นมาเมื่อ
2,333 ปีก่อน ค.ศ. มีการกําหนดเอาวันที่ 3
ตุลาคมเป็นวันกําเนิดชาติ
- 7. ยุคเมืองขึ้นจีน
ดินแดนคาบสมุทรเกาหลีตกเป็นเมืองขึ้นจีนเมื่อ 109 ปีก่อน ค.ศ.
เมื่อจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ ยกทัพยึดครองอาณาจักรโชซอนโบราณ และ
แบ่งเกาหลีเป็น 4 มณฑล อย่างไรก็ตาม จีนปกครองมณฑลนังนัง
อย่างจริงจังเพียงมณฑลเดียว จึงค่อย ๆ แยกตัวเป็นเอกราช จน
ค.ศ. 313 ชนเผ่าโคกุรยอเข้ายึดครองมณฑลนังนัง การตกเป็น
เมืองขึ้นของจีนทําให้เกาหลีได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากจีนมาก
เช่น ตัวอักษรและศาสนา (พุทธและขงจื้อ)
- 9. ยุคอาณาจักรโคริโย
เกาหลีรวมตัวกันอีกครั้งภายใต้การนําของวังคอง (Wang Kong) ตั้ง
ราชวงศ์โคริโย (Koryo) ค.ศ. 918 – ค.ศ. 1392 พุทธศาสนาได้รับความ
นิยมมาก พระภิกษุได้รับการยกย่องเท่าเทียมกับชนชั้นขุนนาง
พระไตรปิฎกฉบับเกาหลี (Tripitaka Koreana) นับว่าเป็นต้นฉบับ
ตัวเขียนที่สมบูรณ์ที่สุดในโลก มีการทําแท่นพิมพ์โลหะเคลื่อนที่ มีการทํา
เครื่องปั้นและเครื่องเคลือบดินเผาสีเขียวฟ้าจําพวกถ้วยชามและหม้อไห
แกะสลักลวดลาย มีสีสันและมีคุณค่าทางศิลปะ
- 11. ยุคอาณาจักรโชซอน
• ในสมัยกษัตริย์เซจอง (King Sejong) ค.ศ. 1418 – ค.ศ. 1450 ซึงเป็นยุค
่
ทองของความสําเร็จทางภูมิปัญญา และความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และ
วัฒนธรรม สมัยนี้มีการประดิษฐ์อักษรเกาหลีคือ อักษรฮันกูล (Han-gul)
ขึ้นใช้แทนอักษรจีน ใน ค.ศ. 1443 มีการจัดตั้ง กระทรวง ทบวง กรม มีการ
ลอกเลียนแบบการปกครองส่วนภูมภาคจากจีน มีการรับราชการด้วยการ
ิ
สอบไล่ และรับอิทธิพลของลัทธิขงจื๊อ จนกล่าวได้ว่าเกาหลีในสมัยนี้คือจีน
จําลอง (China Replica)
- 12. • ศตวรรษที่ 16 มีการแตกแยกมีผลทําให้เกาหลีอ่อนแอ ญี่ปุ่นฉวยโอกาส
รุกรานเกาหลี จีนได้ช่วยปกป้องเกาหลีจากญี่ปุ่น
• เกาหลีกับจีนมีสัมพันธ์ฉันท์ประเทศราช มีการส่งเครืองราชบรรณาการ
่
ให้แก่จีน มีผลทําให้อารยธรรมจากจีนมีอิทธิพลต่อเกาหลีมาก ดังนั้นใน
สมัยนี้ลัทธิขงจื๊อจึงมีอิทธิพลต่อเกาหลีมาก
• ศตวรรษที่ 19 ชาติตะวันตกต้องการมีสัมพันธไมตรีก็ไม่ได้รับการ
ตอบสนองใด ๆ ทําให้เกาหลีไม่ได้รับวิทยาการใหม่ และไม่มีการ
เปลี่ยนแปลงในยุคนี้ การปกครองไม่มีประสิทธิภาพ เศรษฐกิจล้าหลัง
- 13. ยุคอาณานิคมของญี่ปุ่นและสงครามโลก
• ค.ศ. 1876 เกาหลีเปิดประเทศติดต่อกับต่างชาติ เนื่องจาก
คาบสมุทรเป็นจุดยุทธศาสตร์ ทําให้เกาหลีต้องเป็นสมรภูมิ
รบหลายครั้ง แต่เกาหลีเองนั้นเป็นประเทศที่พยายาม
หลีกเลียงสงคราม ด้วยการใช้นโยบายแยกตัวอยู่อย่างโดด
่
เดี่ยวได้สมญาว่า รัฐฤาษี (The Hermit State)
• เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1910 เกาหลีต้องตกอยู่ภายใต้
การปกครองของญี่ปุ่นเป็นเวลานานถึง 35 ปี สร้างความ
ขมขื่นและความเกลียดชังให้แก่ชาวเกาหลีอย่างมาก
เพราะญี่ปุ่นตักตวงผลประโยชน์ ขู่บังคับให้ใช้ภาษาญี่ปุ่น
เป็นภาษาราชการ สนับสนุนให้นับถือศาสนาชินโต
- 14. • ในระหว่างการปกครองของญี่ปุ่น ญี่ป่นล้มล้างราชวงศ์โชซอน ทําลาย
ุ
พระราชวัง หลังการสวรรคตของกษัตริย์โกจง (Gojong) ค.ศ. 1918 ด้วยยา
พิษ อีกทั้งชาวเกาหลีเรียกร้องเอกราชทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ.
1919 ทําให้ชาวเกาหลีราว 7,000 คนถูกฆ่าโดยทหารและตํารวจญี่ปุ่น ทําให้
ชาวเกาหลีนับแสนต้องอพยพไปอยู่ในกันโก (Kun-go) ซึงอยู่ทางตอนเหนือติด
่
กับจีนและรัสเซีย ส่วนปัญญาชนและผูมีฐานะดีได้อพยพไปฮาวาย เซี่ยงไฮ้
้
และเมืองใหญ่ ๆ ของจีน พวกเหล่านี้ได้ลักลอบส่งเงิน อาวุธ และความ
ช่วยเหลือต่าง ๆ มาให้ชาวเกาหลีในประเทศสู้รบกับญี่ปุ่น
- 16. • ขบวนการกู้ชาติเกาหลีนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มชาตินิยมและเสรี
นิยม กับ กลุ่มคอมมิวนิสต์
• เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง พร้อมกับความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่น เกาหลีจึง
ได้รับเอกราช ในเวลาเดียวกันแนวโน้มของการแบ่งประเทศเริ่มปรากฏขึ้นเมื่อ
วันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1945 เมื่อสหรัฐอเมริกาเข้าควบคุมภาคใต้ของคาบสมุทร
เกาหลี และสหภาพโซเวียตเข้าควบคุมภาคเหนือ โดยใช้เส้นขนาน (ละติจูด,เส้น
รุ้ง) ที่ 38 องศาเหนือเป็นเส้นแบ่ง ซึ่งเป็นเขตปลอดทหาร (The
Demilitarized Zone) ส่งผลให้เกิดการแยกประเทศเมื่อ ค.ศ. 1948 เกิดเป็น
สองประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจและการปกครองต่างกัน
- 17. • เกาหลีใต้ มีชื่อประเทศว่า สาธารณรัฐเกาหลี (The Republic of Korea) มี
การปกครองแบบประชาธิปไตย ดร.ซิงแมน รี (Singman-Ri) ได้รบเลือกตั้งเป็น
ั
ประธานาธิบดีคนแรก รัฐธรรมนูญฉบับแรกที่ร่างเสร็จในวันที่ 17 กรกฎาคม
ค.ศ. 1948
• เกาหลีเหนือ มีชื่อประเทศว่า สาธารณรัฐประชาชนเกาหลี (The Democratic
People’s Republic of Korea) มีการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ นายคิม อิล
ซุง (Kim Il Sung) เป็นผู้นําจัดตั้งรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1948
- 18. สงครามเกาหลี (Korea War ค.ศ. 1950 - 1953)
• ค.ศ. 1950 กองทหารเกาหลีเหนือ60,000 คนได้รุกข้ามเส้นขนานที่ 38 สามารถ
ยึดกรุงโซลได้ภายใน 5 วัน สหรัฐอเมริกาและกองทหารสหประชาชาติจึงได้ยก
พลขึ้นบกที่เพื่อขับไล่เกาหลีเหนือ และได้โจมตีดินแดนบางส่วนของจีน จีนจึงส่ง
กําลังทหารช่วยรบกับเกาหลีเหนือ ต่อมากองทัพสหรัฐอเมริกาและ
สหประชาชาติสามารถยึดดินแดนเกาหลีใต้กลับคืนมาได้ ในที่สดมีการเซ็น
ุ
สัญญาทางทหาร (The Armistic Agreement) หยุดยิงที่หมู่บ้านปันมุนจอม
(Panmunjom) ในเขตปลอดทหาร เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1953 ซึ่งเป็น
การสิ้นสุดสงครามเกาหลีที่กินระยะเวลานานถึง 3 ปี
- 20. ด้านสังคม
สังคมเกาหลีประกอบด้วยผู้คนที่สบเชื้อสายมาจากเผ่าพันธุ์
ื
เดียวกัน คือ มองโกลอย มีชนกลุ่มน้อยคือชาวจีน บ้างเล็กน้อย
สังคมเกาหลีสมัยก่อน 4 ชนชั้น คือ
• ชนชั้นสูง - ยางบัน (Yang-ban) ได้แก่ พวกขุนนาง ข้าราชการชั้นสูง
ทั้งทหารและพลเรือน นักวิชาการและนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียง
• ชนชั้นกลาง - ซินจิน (Shin-jin) ข้าราชการระดับกลางและต่ํา มี
ตําแหน่งหน้าที่ทางสังคมและการศึกษาสูงกว่าสามัญชน
• ชนชั้นสามัญ - แซง มิน (Sang-min) ได้แก่ กลุ่มคนที่ประกอบ
อาชีพทางธุรกิจ การค้า ชาวนา ชาวไร่ และช่างฝีมือ
• ชนชั้นต่ํา - ซุน มิน (Sun-min) ได้แก่คนประกอบอาชีพเฉพาะอย่าง
นักแสดง คนล่าสัตว์ และทาส
•
- 21. ด้านเศรษฐกิจ
เกาหลีประสบผลสําเร็จทางเศรษฐกิจรวดเร็วประเทศหนึ่งในโลก ปัจจัยที่ทํา
ให้ประเทศที่โดดเดี่ยวและหยุดนิ่งเปลี่ยนไป ได้แก่ ทรัพยากรมนุษย์ ชาวเกาหลีเป็น
คนที่มีคุณภาพสูง มีความขยัน อดออม มีระเบียบ พร้อมที่จะทํางานหนักเพื่อ
พัฒนาเลื่อนฐานะของตนเองและครอบครัว ตลอดจนสังคม และประเทศชาติใน
ที่สุด ในทศวรรษ 1960 เกาหลีเปลี่ยนประเทศจากการเกษตรมาเป็นอุตสาหกรรม
หนักเพื่อการส่งออก ได้แก่ การผลิตรถยนต์ คอมพิวเตอร์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์
อาทิ ยี่หอรถยนต์ - แดวู ฮุนได เกีย ซันยอง ยีห้อเครื่องไฟฟ้า – ซัมซุง แอลจี
้ ่
ประธานาธิบดี ปาร์ค จุงฮี ประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ
แห่งชาติใน ค.ศ. 1962 มีเป้าหมายปรับปรุงและพัฒนาประเทศ
ให้กลายเป็นสังคมอุตสาหกรรม
- 22. ศาสนาและความเชื่อ
เกาหลีเป็นดินแดนที่มีการผสมผสานระหว่างความเชื่อดั้งเดิมเกี่ยวกับ “คน
ทรง” ที่เรียกว่า มูดัง (Mudang) กับศาสนาหลักที่เข้ามาจากภายนอก
ลัทธิคนทรง เป็นความเชื่อดั้งเดิมที่เชื่อว่าเทพยดาและภูตผีปีศาจสิงสถิตอยู่
บนโลก คนทรงจะเป็นผู้ทําการติดต่อด้วยพิธีกรรมเซ่นสรวงให้เทพยดาคุ้มครอง
และช่วยป้องกันภูตผีปีศาจทําอันตราย
ส่วนศาสนาหลักที่นํามาจากภายนอก ได้แก่ ศาสนาพุทธจากอินเดีย ได้แผ่
อิทธิพลเข้ามาเกาหลีโดยผ่านจีนเมื่อ คริสตศตวรรษที่ 4 และได้แพร่กระจาย
ไปสู่คนเกาหลีอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นศาสนาประจําชาติใน
ยุคอาณาจักรซิลลา (ค.ศ. 668-938) และได้ลดความสําคัญไป
ในยุคอาณาจักรโคริโย (ค.ศ. 918-1392)
- 23. ลัทธิขงจื้อที่เคยมีบทบาทสําคัญในยุคสามอาณาจักร (ปี 57 ก่อน ค.ศ.-
ค.ศ. 668) ก็กลับมามีอิทธิพลเหนือพุทธศาสนา และกลายเป็นศาสนาประจํา
ชาติในยุคโชซอน (ค.ศ. 1392-1910)
ศาสนาคริสต์โรมันคาธอลิกเข้ามาในเกาหลีในราวคริสตศตวรรษที่ 17
และติดตามด้วยโปรเตสแตนท์ ศาสนาคริสต์ได้นําเอาระบบการศึกษาและ
สวัสดิการสังคม ตลอดจนความรู้ในการปฏิรูปสังคมเข้ามาในประเทศ ซึ่งมี
อิทธิพลต่อคนเกาหลียคใหม่มาก
ุ
- 24. ศิลปะ วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียบประเพณี
งานประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์สําคัญของชาติ เช่น งานทําพัดที่เรียกว่า พัด
ดาโน มีประเพณีรําพัดเรียกว่า ระบําทูแซ ระบําหน้ากากซึ่งแฝงเรื่องราวของ
ฐานะ ยศถาบรรดาศักดิ์ และอุปนิสัย ระบําหน้ากากมีชื่อเรียกตามแหล่งกําเนิด
เช่น ระบําบองซาน ระบําฮาเว ระบํากังเสียง
เพลงประจําชาติ คือ เพลง อารีรัง (Arirang) เนื้อเพลงแสดงถึงความรู้สึก
รักชาติ บรรยายถึงชายหนุ่มที่จะต้องจากคนรักหรือบ้านเพื่อไปต่อสู้กบศัตรู
ั
- 25. ธงชาติเกาหลี มีชื่อเรียก เททัคคี (Taegukki) มีรากฐานและความหมาย
มาจากปรัชญาตะวันออก มีรูปวงกลมอยู่ตรงกลาง แบ่งออกเป็น 2 ส่วนเท่ากัน
และเหมือนกันแต่กลับหัวกันเป็นเครื่องหมาย หยิน (Yin) และหยาง (Yang)
เครื่องหมาย หยางเป็นสีแดงอยู่ข้างบนหมายถึงพลังอํานาจทางด้านดี และ
เครื่องหมาย หยินเป็นสีน้ําเงินอยู่ข้างล่างหมายถึงพลังอํานาจร้าย ความหมาย
รวมแสดงให้เห็นว่า ถึงแม้มีการเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดนิ่งในขอบเขตที่ไม่สิ้นสุด
ของจักรวาล แต่ขณะเดียวกันก็มีความสมดุลและกลมกลืนด้วยเช่นกัน ส่วน
เครื่องหมายที่อยู่ทั้ง 4 มุม แสดงถึงลักษณะสําคัญของจักรวาล คือ สวรรค์ ดิน
ไฟ และน้ํา
- 26. อาหารเกาหลี ที่มีชื่อเสียงรูจักกันดี ได้แก่ เนื้อ
้
ย่าง เรียกว่า พูลโกกิ (Pulgogi) เป็นชิ้นเนื้อแช่น้ํา
ซีอิ้วผสมงาและเครืองเทศ แล้วมาปิ้งบนตะแกรง
่
โสมเกาหลี เป็นสินค้าสัญลักษณ์ประจําชาติ
กิมจิ (Kimchi) เป็นผักดองที่มีรสเผ็ด มีการทํา
กิมจิและบริโภคกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณจนกลายเป็น
วัฒนธรรมการกินของเกาหลี มีเทศกาล
ทํากิมจิ พิพิธภัณฑ์กิมจิ