Contenu connexe
Similaire à ใบเลี้ยงเดี่ยวใบเลี้ยงคู่ (20)
ใบเลี้ยงเดี่ยวใบเลี้ยงคู่
- 1. วิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง
นักเรียนขาดทักษะในการจําแนกพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคู
ผูวิจัย
ปยะมาศ แกวเกษการณ
กลุมสาระการเรียนรู วิทยาศาสตร
ชั้น ประถม ศึกษาปที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปการศึกษา 2552
- 2. วิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง
นักเรียนขาดทักษะในการจําแนกพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคู
ผูวิจัย
ปยะมาศ แกวเกษการณ
กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร
ชั้นประถมศึกษาปที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปการศึกษา 2552
โดยไดรับความเห็นชอบจาก
……………………………………………
ผูอํานวยการโรงเรียนบานหนองกระทุม
(นายสุ วรรณ วิเชียรรัตน )
- 3. ประกาศคุณูปการ
การศึกษางานวิจัย นักเรียนขาดทักษะในการจําแนกพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคู
ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 5 นี้ จัดทําขึ้นเพื่อพัฒนานักเรียนใหมีทักษะ
ในการจําแนกพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคูและความเขาใจในดานการคนควาหาขอมูล
ใหมๆ ที่เปนปจจุบันและเปนประโยชนตอการเรียนวิทยาศาสตรดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ผูวิจัย
ขอขอบพระคุณทานผูอํานวยการ โรงเรียนบานหนองกระทุมที่ ไดใหการสนับสนุน
อยางมากในการทํางานวิจัยฉบับนี้ใหออกมาอยางสมบูรณโดยกรุณาใหคําปรึกษา
แนะนํา แนวความคิดและชวยใหกําลังใจตลอดระยะเวลาที่ทํางานวิจัยฉบับนี้ และ
สุดทายนี้ตองขอขอบใจนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 5 ทุกคน ที่ใหความ
รวมมือในการทําวิจัยครั้งนี้ ใหสําเร็จลุลวงไปดวยดี
ผูวิจัยหวังเปนอยางยิ่งวา การวิจัยเรื่องนี้จะเปนประโยชนตอผูอานเพื่อ
เปนแนวทางในการพัฒนาการเรียนการสอนดานวิทยาศาสตรใหมีประสิทธิภาพมาก
ยิ่งขึ้น หากงานวิจัยฉบับนี้มีขอบกพรองประการใดผูวิจัยขออภัยมา ณ ที่นี้
ปยะมาศ แกวเกษการณ
ผูวิจัย
- 4. วิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง นักเรียนขาดทักษะในการจําแนกพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคู
นักเรียนชั้น ประถมศีกษาปที่ 5 ปการศึกษา 2552
ชื่อผูวิจัย
นางสาวปยะมาศ แกวเกษการณ
สถานที่ทํางาน โรงเรียนบานหนองกระทุม อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี
สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานีเขต 2
บทคัดยอ
1. ความเปนมาและความสําคัญของการทําวิจัย
จากการสอนเรื่องใบของพืช พบวามีนักเรียนบางสวนยังไมเขาใจลักษะของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว–ใบเลี้ยง
คู และไมสามารถจําแนกพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคูได ดังนั้นผูสอนจึงเห็นวาปญหาดังกลาวนาจะไดรับการ
แกไขโดยจัดกิจกรรมเสริมความรูให
2. วัตถุประสงคของการวิจัย
นักเรียนสามารถจําแนกพืชใบเลี้ยงเดี่ยว - ใบเลี้ยงคูได
3. ประชากรที่ทําการศึกษา
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 ปการศึกษา 2552 โรงเรียนบานหนองกระทุม จํานวน 5 คน
4. เครื่องมือที่ใชในการวิจัย
4.1 ชุดฝกปฏิบัติ ไดแก ใบงาน
4.2 สื่อประกอบการฝก ไดแก ตัวอยางใบไมจริง
4.3 ใบความรู
5. วิธีดําเนินการวิจัย
5.1 หลังจากทดสอบแลวพบวามีนักเรียนจํานวน 5 คน ที่ไมเขาใจเรื่องพืชใบเลี้ยงเดี่ยว - ใบเลี้ยงคู
5.2 ชี้แจงใหนักเรียนเขาใจในจุดมุงหมายการจัดกิจกรรมเสริมความรู
5.3 จัดกิจกรรมทั้งหมด 5 กิจกรรม เพื่อพัฒนาทักษะในดานการจําแนกใบของพืชใหมากขึ้น
5.4 เวลาที่ใชทํากิจกรรม คือ พักกลางวันประมาณวันละ 1 ชั่วโมง ระยะเวลาการจัดทํากิจกรรมการ
เรียนการสอนเสริมประมาณ 2 สัปดาห
6. สรุปผลการวิจัย
การใชแบบฝกทั้งหมด 5 กิจกรรม ปรากฏวา คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนมีคาเทากับ 8.20 สูงกวา
คะแนนเฉลี่ยกอนเรียน (มีคาเทากับ 5.80) แสดงวาแบบฝกใชไดผลดีมีคาคะแนนความกาวหนาเทากับ 2.40
จึงสรุปไดวา นักเรียนสามารถจําแนกใบของพืชไดดีขึ้นในระดับหนึ่ง
- 5. งานวิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง นักเรียนขาดทักษะในการจําแนกพืชใบเลี้ยงเดี่ยว - ใบเลี้ยงคู
ความเปนมา / ความสําคัญของการวิจัย
สภาพปญหาจากประสบการณการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 ที่ผานมา
พบวามีนักเรียนบางสวนยังไมเขาใจลักษณะของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว–ใบเลี้ยงคูได เมื่อผูสอนนําตัวอยางใบไม
จริงมาใหนักเรียนดู ปรากฏวามีนักเรียนจํานวนหนึ่งไมสามารถจําแนกไดวาพืชชนิดใดเปนพืชใบเลี้ยงเดี่ยว –
ใบเลี้ยงคูฉะนั้น ผูสอนจึงทําการทดสอบเรื่องการจําแนกพืชใบเลี้ยงเดี่ยว–ใบเลี้ยงคู ของนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปที่ 5 จํานวน 20 คน โดยการกําหนดใหนักเรียนทุกคนทําแบบทดสอบและจําแนกพืชใบเลี้ยง
เดี่ยว – ใบเลี้ยงคูจากพืชมาให 10 ชนิด ใหนักเรียนแยกวาชนิดใดเปนพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคู ในเวลาที่
ผูสอนกําหนด เมื่อนํากระดาษคําตอบ มาตรวจปรากฏวา
มีนักเรียน 5 คน ไมสามารถจําแนกพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคูได
มีนักเรียน 5 คน สามารถจําแนกพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคูไดบางแตไมทั้งหมด
มีนักเรียน 10 คน สามารถจําแนกพืชใบเลี้ยงเดี่ยว - ใบเลี้ยงคูไดทั้งหมด
ผูสอนจึงวางแผนชวยเหลือนักเรียนที่ไมสามารถจําแนกพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคู จํานวน 5 คน
โดยจัดกิจกรรมเสริมความรูให
จากปญหาที่เกิดขึ้น อาจจะมีสาเหตุมาจากหลายประการ เชน สาเหตุ
1. นักเรียนไมเขาใจลักษณะของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคู
2. ครู
2.1 ขาดเทคนิควิธีสอน
2.2 ไมมีความรู และไมถนัดในวิชาที่สอน
3. ปจจัยอื่น ๆ
3.1 ไมมีแบบฝก
3.2 ขาดสื่อในการฝก และขาดแหลงคนควาเกี่ยวกับเทคนิควิธีสอน
ดังนั้นผูสอนจึงตองหาวิธีการแกปญหาที่เกิดขึ้นกับนักเรียน
วัตถุประสงคของการวิจัย
นักเรียนสามารถจําแนกพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคูได
การตรวจเอกสาร
พิจารณาจากคะแนนการทําแบบฝกหัดระหวางเรียนและคะแนนการทําแบบทดสอบหลังเรียน
วิธีการดําเนินการวิจัย
ประชากร นักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5 ปการศึกษา 2552 โรงเรียนบานหนองกระทุม อ.หนองฉาง
จ.อุทัยธานี ที่สอบเรื่องใบเลี้ยงเดี่ยว-ใบเลี้ยงคู ไมผานเกณฑ 50 % จํานวน 5 คน
- 6. การเก็บรวบรวมขอมูล
ระยะเวลาของการวิจัย 17 สิงหาคม 2552 ถึง 29 สิงหาคม 2552 ผูวิจัยเก็บรวบรวมขอมูลดวยตนเอง
โดยใชแบบฝกหัดระหวางเรียนและแบบทดสอบหลังเรียน จากนักเรียนกลุมเปาหมาย จํานวน 5 คน ดังนี้
1. เด็กชายนิลภัทร หัสแดง
2. เด็กหญิงรุงฤดี รัตนา
3. เด็กชายวีระยุทธ อรุณ
4. เด็กหญิงอาทิตยา โสภณศักดิ์
5. เด็กชายชัยธวัช มาลี
P = PLANE = การวางแผนแกปญหา
ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อแกปญหาที่เกิดขึ้นนี้ ผูสอนไดเนนกิจกรรมที่ตองให
นักเรียนฝกสังเกตและฝกปฏิบัติบอย ๆ เพื่อใหนักเรียนที่ทํากิจกรรมนี้ไดมีการพัฒนาทักษะในดานการ
จําแนกพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคูมากขึ้น และจะทําใหมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นและผานเกณฑตามที่
กําหนดตอไป
วิธีดําเนินการ
1. กลุมเปาหมาย ไดแก นักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 4 จํานวน 25 คน
2. ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเสริม ประมาณ 2 สัปดาห
3. สถานที่สอน คือ บริเวณโรงเรียน - หองเรียน
4. เวลาที่ใชสอน คือพักกลางวัน เวลาประมาณ 12.00 – 13.00 น.
D = DO = การลงมือทํา
ใชกระบวนการปฏิบัติในกิจกรรมจากนวัตกรรมที่สรางขึ้น ดังนี้
1. ชุดฝกปฏิบัติ ไดแก ใบงาน
2. สื่อประกอบการฝก ไดแก ตัวอยางใบไมจริง
3. ใบความรู
โดยผูสอนไดนํานวัตกรรมเหลานี้มาจัดเปนกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อแกปญหาที่เกิดขึ้นได
ทั้งหมด 5 กิจกรรมดังนี้
(D) กิจกรรมที่ 1 นํานักเรียนไปสํารวจ ศึกษาตนไมในบริเวณโรงเรียน แลวใหนักเรียนบอกชื่อใบไม
ที่ตนเองรูจักมา 5 ชนิด พรอมทั้งบอกดวยวาพืชชนิดนั้นมีใบเลี้ยงเปนใบเลี้ยงเดี่ยวหรือใบเลี้ยงคู
(C) โดยมีเกณฑการประเมินวานักเรียนตองบอกชื่อ และชนิดของใบเลี้ยงของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว หรือ
ใบเลี้ยงคูมาไดถูกตอง ผูสอนจะตองมีแบบตรวจสอบวานักเรียนผานเกณฑการประเมินหรือไม ถาผานเกณฑ
การประเมินก็เขาสูกิจกรรมที่ 2
- 7. (A) หากนักเรียนคนใดยังไมสามารถบอกชื่อและชนิดของใบเลี้ยงของพืชไดถูกตอง ใหนักเรียน
ศึกษาคนควาชื่อและชนิดของใบเลี้ยงอีกครั้งจนสามารถบอกชื่อ และชนิดของใบเลี้ยงของพืชไดอยางถูกตอง
จึงเขาสูกิจกรรมที่ 2
(D) กิจกรรมที่ 2 ใหนักเรียนศึกษาลักษณะพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคูจากใบความรู ลักษณะของ
เสนใบที่แจกให จากนั้นใหนักเรียนสังเกตตัวอยางใบไม แลวอธิบายลักษณะของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว –ใบเลี้ยงคู
โดยใหสรุปในใบงานที่แจกให
(C) โดยมีเกณฑการประเมินวานักเรียนตองอธิบายลักษณะพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคูจากการ
สังเกตลักษณะเสนใบพืชไดถูกตอง จึงเขาสูกิจกรรมที่ 3
(A) ถานักเรียนคนใดไมสามารถอธิบายลักษณะของเสนใบจากพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคูไดให
นักเรียนศึกษาลักษณะเสนใบพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคูอีกครั้งจากใบความรูจนสามารถอธิบายไดถูกตอง
จึงเขาสูกิจกรรมที่ 3
(D) กิจกรรมที่ 3 กําหนดตัวอยางพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ใบเลี้ยงคูใหนักเรียนเปรียบเทียบ และจําแนก
ลักษณะของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคู แลวสรุปลงในใบงานที่แจกใหพรอมทั้งสรางแผนที่ความคิดในการ
จัดกลุมพืชใบเลี้ยงเดี่ยว - ใบเลี้ยงคู
(C) โดยมีเกณฑการประเมินวานักเรียนตองจําแนกลักษณะพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคูพรอมทั้ง
สรางแผนความคิดไดถูกตอง จึงเขาสูกิจกรรมที่ 4
(A) หากนักเรียนคนใดไมสามารถจําแนกลักษณะของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคูได นักเรียน
จะตองทบทวนความรูเกี่ยวกับลักษณะใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคูอีกครั้ง จนสามารถจําแนกลักษณะของพืชใบ
เลี้ยงเดี่ยวใบเลี้ยงคูไดอยางถูกตอง จึงเขาสูกิจกรรมที่ 4
(D) กิจกรรมที่ 4 ใหนักเรียนทั้ง 5 คน บอกชื่อพืชที่นักเรียนรูจักมา 10 ชนิด แลวบอกวาพืชชนิดใด
เปนพืชใบเลี้ยงเดี่ยว หรือใบเลี้ยงคู สามารถอธิบายบอกหลักเกณฑในการตัดสินของใบพืชแตละชนิดมาดวย
ลงในใบงาน
(C) โดยมีเกณฑการประเมินวานักเรียนตองบอกไดวาพืชที่นักเรียนกําหนดมาเปนพืชใบเลี้ยงเดี่ยว
หรือใบเลี้ยงคูไดถูกตอง และสามารถอธิบายลักษณะของพืชแตละชนิดไดถูกตอง จึงเขาสูกิจกรรมที่ 5
(A) ถานักเรียนคนใดไมสามารถบอกไดวาพืชชนิดใดเปนพืชชนิดใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคูได
นักเรียนตองศึกษาลักษณะของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคูอีกครั้ง จนสามารถบอกไดวาพืชชนิดใดเปนพืชใบ
เลี้ยงเดี่ยว ใบเลี้ยงคู จึงเขาสู กิจกรรมที่ 5
(D) กิจกรรมที่ 5 ใหนักเรียนศึกษาใบความรูเรื่องพืชใบเลี้ยงเดี่ยว – ใบเลี้ยงคู (สรุป) แลวเก็บ
ตัวอยางใบไมจริง 10 ชนิด โดยใหติดใบไมลงในสมุดเก็บตัวอยางใบไม (สมุดวาดเขียน) พรอมทั้งใหบอกชื่อ
ใบไมและจําแนกดวยวาใบไมที่เก็บมานั้นเปนพืชใบเลี้ยงเดี่ยว หรือ ใบเลี้ยงคู
(C) โดยมีเกณฑการประเมินวาตัวอยางใบไมที่นักเรียนเก็บมาทั้ง 10 ชนิด นักเรียนสามารถจําแนก
ไดถูกตองวาพืชชนิดใดเปนพืชใบเลี้ยงเดี่ยว - ใบเลี้ยงคู
- 9. การหาคาประสิทธิภาพ
1. การหาคาประสิทธิภาพของกระบวนการ E1
∑X 1
สูตร E1 = N × 100
A
∑ X = คะแนนรวมของแบบฝก
1
N = จํานวนนักเรียน
A = คะแนนเต็มของแบบฝก
แทนคา
218
E1 = 5 × 100
50
E1 = 87.20
ประสิทธิภาพของกระบวนการ = 87.20
2. การหาคาของประสิทธิภาพผลลัพธ E2
∑X 2
สูตร E2 = N × 100
B
∑ X = คะแนนรวมการวัดผลหลังเรียน
2
N = จํานวนนักเรียน
B = คะแนนเต็มของการวัดผลหลังเรียน
แทนคา
41
E 2 = 5 × 100
10
E 2 = 82.00
ประสิทธิภาพของผลลัพธ = 82.00
- 10. ผลการวิเคราะหปญหา
สรุปผลดานปริมาณ
1. การเปรียบเทียบผลคะแนนความกาวหนากอนการใชแบบฝกและหลังการใชแบบฝก
คะแนนกอนเรียน คะแนนหลังเรียน ความกาวหนา
รวม 19 41 12
เฉลี่ย 5.8 8.2 2.4
จากการใชแบบฝกหัดทั้งหมด 5 กิจกรรมคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน ( มีคาเทากับ 8.2 )สูงกวาคะแนน
เฉลี่ยกอนเรียน ( มีคาเทากับ 5.8 ) แสดงวาแบบฝกใชไดผลดีมีคาคะแนนความกาวหนาเทากับ 2.4
2. การหาประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพของกระบวนการ E1 ประสิทธิภาพของผลลัพธ E2
87.20 82.00
ประสิทธิภาพของกระบวนการ E1 มีคาเทากับ 87.20 % ประสิทธิภาพของผลลัพธ E2 มีคาเทากับ
82.00% จากเกณฑที่ตั้งไวคะแนนรอยละของกระบวนการ (E1) : คะแนนรอยละของผลลัพธ (E2)
เทากับ 80 : 80 จะเห็นไดวาผลของการใชแบบฝกมีคะแนนสูงกวาเกณฑที่ตั้งไว ทั้งคะแนนกระบวนการและ
คะแนนผลลัพธ จึงสรุปไดวาแบบฝกที่สรางนั้นใชไดผลดี