1. ก F F ก F
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Office of Civil Liability
ย่อคําวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง
เรื่องเสร็จที่ สรพ.๑๘๙ /๒๕๕๕
สํานวนเลขที่ ๑๑๐/๒๙๑/๒๕๕๕ (มีมติครั้งที่ ๑๑๐/๒๕๕๕ วันจันทร์ที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๕)
ประเภทสํานวน ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือระเบียบ (การเงินการคลัง)
เรื่อง เทศบาลเบิกจ่ายเงินสะสมไม่เป็นไปตามระเบียบ
สรุปข้อเท็จจริง สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคได้ตรวจสอบงบการเงินสําหรับปี
สิ้นสุด ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๐ ของเทศบาล แล้วพบว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๐ เทศบาลได้
เบิกเงินจ่ายขาดเงินสะสม จัดซื้อครุภัณฑ์ประจําสํานักงานที่ไม่มีความจําเป็นเร่งด่วน โดยได้รับอนุมัติจาก
สภาเทศบาล แต่เป็นการอนุมัติที่ไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขที่กําหนดในระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน
การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗
และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ ๘๙ (๑) เป็นเหตุให้เทศบาลได้รับความเสียหายเป็นเงินจํานวนทั้งสิ้น ๑,๖๕๓,๓๔๕ บาท
ความเห็นของพนักงานสอบสวน -
ความเห็นของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด เห็นว่า เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องไม่ได้
กระทําละเมิด ต่อเทศบาลจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย
คําวินิจฉัยสั่งการของผู้แต่งตั้ง เห็นชอบด้วยกับคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด
ประเด็นที่พิจารณา มีเจ้าหน้าที่ผู้ใดต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทางราชการหรือไม่ จํานวนเท่าใด
กฎหมายที่พิจารณา ๑.พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙
๒.ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน
การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
คําวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง ตามสํานวนการสอบสวนข้อเท็จจริงปรากฏว่า
ในวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๔๙ สภาเทศบาลได้อนุมัติให้จ่ายขาดเงินสะสม จํานวน ๑๔ รายการ ซึ่งเทศบาล
ได้เบิกเงินจ่ายขาดเงินสะสมในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๐ เป็นค่าจัดซื้อครุภัณฑ์ประจําสํานักงาน จํานวน
๖ รายการ (ฎีกา) รวมเป็นเงินจํานวน ๑,๖๕๓,๓๔๕ บาท ต่อมาสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาค
ได้ตรวจสอบงบการเงิน สําหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๐ ของเทศบาล แล้วพบว่า การเบิกเงิน
จ่ายขาดเงินสะสมเป็นค่าจัดซื้อครุภัณฑ์ประจําสํานักงานที่ไม่มีความจําเป็นเร่งด่วน โดยได้รับอนุมัติจาก
สภาเทศบาล แต่เป็นการอนุมัติที่ไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขที่กําหนดในระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วย
การรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ ๘๙ (๑) ซึ่งให้กระทําได้เฉพาะกิจการซึ่งอยู่ในอํานาจหน้าที่ขององค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเกี่ยวกับด้านการบริการชุมชนและสังคมหรือกิจการที่เป็นการเพิ่มพูนรายได้ของ
องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือกิจการที่จัดทําเพื่อบําบัดความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้ต้องเป็นไปตาม
แผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือตามที่กฎหมายกําหนด และในการนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด
ก็ได้วินิจฉัยยืนยันตามข้อทักท้วงของสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคมิใช่โครงการที่อยู่ในแผนงาน
บริการชุมชนและสังคม เป็นการใช้จ่ายเงินสะสมที่ไม่เป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ ซึ่งมีรายละเอียด
การเบิกจ่าย ดังนี้
๑. ฎีกาที่ ๑ ลงวันที่จ่าย ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ ค่าจ้างเหมาโครงการปรับปรุงห้องประชุม
สภาเทศบาล เป็นเงินจํานวน ๔๔,๐๐๐ บาท

2. ก F F ก F
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Office of Civil Liability
๒. ฎีกาที่ ๒ ลงวันที่จ่าย ๑๕ ธันวาคม ๒๕๔๙ ค่าจัดซื้อระบบขยายเสียงสําหรับ
การประชุมสัมมนา เป็นเงินจํานวน ๒๒๗,๓๐๐ บาท
๓. ฎีกาที่ ๓ ลงวันที่จ่าย ๑๕ ธันวาคม ๒๕๔๙ ค่าจัดซื้อมู่ลี่ และผ้าม่านพร้อมติดตั้งสํานักงาน
เป็นเงินจํานวน ๑๒๓,๘๐๐ บาท
๔. ฎีกาที่ ๔ ลงวันที่จ่าย ๒๖ ธันวาคม ๑๕๔๙ ค่าจัดซื้อพร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศ และ
พัดลมดูดอากาศ เป็นเงิน ๕๔๕,๒๐๐ บาท
๕. ฎีกาที่ ๕ ลงวันที่จ่าย ๒๗ ธันวาคม ๒๕๔๙ ค่าจัดซื้อครุภัณฑ์สํานักงาน (โต๊ะประชุม
ตู้เหล็ก ชุดรับแขกฯ) ประจําสํานักงานเทศบาล เป็นเงินจํานวน ๔๙๘,๐๔๕ บาท
๖. ฎีกาที่ ๖ ลงวันที่จ่าย ๑๙ มกราคม ๒๕๕๐ ค่าก่อสร้างศาลพระภูมิพร้อมฐานตั้งศาล
เป็นเงินจํานวน ๒๑๕,๐๐๐ บาท
การที่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้ดําเนินการเบิกเงินจ่ายขาดเงินสะสม เป็นค่าจัดซื้อครุภัณฑ์
ประจําสํานักงานที่ไม่มีความจําเป็นเร่งด่วน จึงเป็นการไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย
ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม พฤติการณ์ถือเป็นการกระทําด้วยความประมาทเลินเล่อ
อย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้เทศบาลได้รับความเสียหายเป็นเงินจํานวนทั้งสิ้น ๑,๖๕๓,๓๔๕ บาท ซึ่งพิจารณา
การกระทําและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ ดังนี้
๑. นาย อ. รักษาการตําแหน่งหัวหน้ากองช่าง และปฏิบัติหน้าที่เลขานุการ สภาเทศบาล
จากข้อเท็จจริงปรากฏว่านาย อ. เป็นผู้เสนอขอความเห็นชอบจ่ายขาดเงินสะสมประจําปีงบประมาณ
พ.ศ.๒๕๕๐ ตามบันทึกข้อความลงวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๙ ผ่านปลัดเทศบาลรองนายกเทศมนตรีเพื่อเสนอต่อ
นายกเทศมนตรี และนาย อ. ในฐานะเลขานุการสภาเทศบาลเป็นผู้ดําเนินการจัดทําระเบียบวาระการประชุม
สภาเทศบาล สมัยวิสามัญ ครั้งที่ ๑ ประจําปี พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อให้ประธานสภาเทศบาลเรียกสมาชิก
สภาเทศบาล ประชุมตามญัตติ ที่นายกเทศมนตรีเสนอและเป็นผู้ชี้แจงระเบียบกฎหมายต่อที่ประชุม
สภาเทศบาล รวมทั้งจัดทํารายงานประชุมสภาเทศบาล แล้วเสนอให้เจ้าหน้าที่งบประมาณเพื่อดําเนินการ
ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป การที่นาย อ. เป็นผู้เสนอขอความเห็นชอบจ่ายขาดเงินสะสมประจําปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๐ เพื่อให้สภาเทศบาลพิจารณาอนุมัติให้จ่ายขาดเงินสะสมเป็นค่าจัดซื้อครุภัณฑ์ประจําสํานักงาน
ที่ไม่มีความจําเป็นเร่งด่วนจํานวน ๖ รายการ โดยไม่ได้ตรวจสอบว่าสามารถดําเนินการได้ตามกฎหมายและ
ระเบียบหรือไม่ จึงเป็นการไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน
การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงิน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗
และที่แก้ไขเพิ่มเติม พฤติการณ์ถือได้ว่าเป็นการกระทําด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้
เทศบาลได้รับความเสียหาย จึงให้นาย อ. รับผิดเฉพาะในส่วนการกระทําของตนในอัตราร้อยละ ๒๐
ของเงินจํานวน ๑,๖๕๓,๓๔๕ บาท คิดเป็นเงิน ๓๓๐,๖๖๙ บาท ตามนัยมาตรา ๑๐ ประกอบมาตรา ๘ แห่ง
พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙
๒. นาง ส. รักษาการตําแหน่งหัวหน้ากองคลัง มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับ
การเบิกจ่ายเงิน การรับเงิน การนําส่งเงิน การเก็บรักษาเงิน การควบคุมการจ่ายเงิน รวมถึงการจัดทําฎีกา
เบิกจ่ายทางการเงินต่าง ๆ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน
การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
จากข้อเท็จจริงปรากฏว่า นาง ส. เป็นผู้เสนอความเห็นตามบันทึกข้อความลงวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๙
เรื่อง ขอความเห็นชอบจ่ายขาดเงินสะสมประจําปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๐ ว่าได้ตรวจสอบยอดเงินสะสมแล้ว

3. ก F F ก F
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Office of Civil Liability
มีเพียงพอที่จะดําเนินการได้ เห็นควรพิจารณาตามเสนอ และเป็นผู้ลงนามในฎีกาเห็นควรให้เบิกเงินจ่ายขาด
เงินสะสมเป็นค่าจัดซื้อครุภัณฑ์ประจําสํานักงานที่ไม่มีความจําเป็นเร่งด่วนจํานวน ๖ รายการ เป็นเงินจํานวน
๑,๖๕๓,๓๔๕ บาท การที่นาง ส. เห็นชอบให้จ่ายขาดเงินสะสมตามที่กองช่างเสนอและลงนามในฎีกาเบิกเงิน
จ่ายขาดเงินสะสม โดยมิได้ตรวจสอบหรือทักท้วงว่าสามารถดําเนินการได้ตามกฎหมายและระเบียบหรือไม่
จึงเป็นการไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน
การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พฤติการณ์ถือได้ว่าเป็นการกระทําด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้เทศบาล
ได้รับความเสียหาย จึงให้นาง ส. รับผิดเฉพาะในส่วนการกระทําของตนในอัตราร้อยละ ๒๐ ของเงินจํานวน
๑,๖๕๓,๓๔๕ บาท คิดเป็นเงินจํานวน ๓๓๐,๖๖๙ บาท ตามนัยมาตรา ๑๐ ประกอบมาตรา ๘ แห่ง
พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙
๓. นาย ม. ตําแหน่งปลัดเทศบาลในขณะนั้น ในฐานะผู้บังคับบัญชาชั้นต้น มีหน้าที่
ควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ที่ทางราชการ
กําหนดไว้อย่างเคร่งครัด จากข้อเท็จจริงปรากฏว่า นาย ม. เป็นผู้ผ่านความเห็นชอบในบันทึกข้อความลงวันที่
๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๙ เรื่อง ขอความเห็นชอบจ่ายขาดเงินสะสมประจําปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๐ จํานวน ๑๔
รายการ (รวมการจัดซื้อครุภัณฑ์ประจําสํานักงาน จํานวน ๖ รายการ เป็นเงินจํานวน ๑,๖๕๓,๓๔๕ บาท)
เสนอต่อนายกเทศมนตรีเพื่อพิจารณานําเสนอญัตติต่อสภาเทศบาล ขออนุมัติให้จ่ายขาดเงินสะสม ซึ่งนาย ม.
ได้ให้ปากคําว่า ตนตรวจสอบแล้วเห็นว่าสภาเทศบาลควรให้ความเห็นชอบแล้วเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด
เพื่อขอยกเว้นระเบียบกระทรวงมหาดไทยต่อไป แต่ปรากฏว่าเมื่อสภาเทศบาลได้อนุมัติให้จ่ายเงินสะสมแล้ว
เทศบาลได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อขอยกเว้นระเบียบกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว แต่เมื่อไม่มี
หนังสืออนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัด นาย ม. กลับเสนอขออนุมัติจ่ายขาดเงินสะสม และลงนามในฎีกาเห็นควร
อนุมัติเบิกจ่ายได้ เป็นค่าจัดซื้อครุภัณฑ์ประจําสํานักงานที่ไม่มีความจําเป็นเร่งด่วน จํานวน ๖ รายการ รวมเป็น
เงินจํานวน ๑,๖๕๓,๓๔๕ บาท จึงเป็นการไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วย
การรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม พฤติการณ์ถือได้ว่าเป็นการกระทําด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
เป็นเหตุให้เทศบาลได้รับความเสียหาย จึงให้นาย ม. รับผิดเฉพาะในส่วนการกระทําของตนในอัตราร้อยละ ๓๐
ของเงินจํานวน ๑,๖๕๓,๓๔๕ บาท คิดเป็นเงินจํานวน ๔๙๖,๐๐๓.๕๐ บาท ตามนัยมาตรา ๑๐ ประกอบ
มาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙
๔. นาย ช. และนาย จ. ตําแหน่งรองนายกเทศมนตรีในฐานะผู้บังคับบัญชา มีหน้าที่
รับผิดชอบควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกําหนดไว้
จากข้อเท็จจริงปรากฏว่า นาย ช. และนาย จ. เป็นผู้ผ่านความเห็นชอบการจ่ายขาดเงินสะสมประจําปี
งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๐ ตามบันทึกข้อความลงวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๙ ที่นาย อ. เป็นผู้เสนอ โดยไม่ได้
ทักท้วงว่าการขออนุมัติจ่ายขาดเงินสะสม เป็นค่าจัดซื้อครุภัณฑ์ประจําสํานักงานที่ไม่มีความจําเป็นเร่งด่วน
จํานวน ๖ รายการ เป็นเงินจํานวน ๑,๖๕๓,๓๔๕ บาท ไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขที่กําหนดในระเบียบ
กระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินของ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ ๘๙ (๑) ซึ่งให้กระทําได้เฉพาะกิจการที่อยู่ใน
อํานาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวกับด้านการบริการชุมชนและสังคมหรือกิจการที่เป็นการ
เพิ่มพูนรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือกิจการที่ทําเพื่อบําบัดความเดือดร้อนของประชาชน จึงเป็น
การไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน

4. ก F F ก F
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Office of Civil Liability
การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม พฤติการณ์
ถือได้ว่าเป็นการกระทําด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้เทศบาลได้รับความเสียหาย จึงให้
นาย ช. และนาย จ. รับผิดเฉพาะในส่วนการกระทําของตนในอัตราร้อยละ ๑๐ ของเงินจํานวน ๑,๖๕๓,๓๔๕ บาท
คิดเป็นเงินจํานวน ๑๖๕,๓๓๔.๕๐ บาท โดยให้รับผิดคนละส่วนเท่าๆ กัน คิดเป็นเงินคนละ ๘๒,๖๖๗.๒๕ บาท
ตามนัยมาตรา ๑๐ ประกอบมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙
๕. นาย พ. ตําแหน่งนายกเทศมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด มีหน้าที่รับผิดชอบ
ในกิจการทั้งปวงของเทศบาล รวมถึงต้องกํากับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบและ
หลักเกณฑ์ที่ทางราชการกําหนดไว้ จากข้อเท็จจริงปรากฏว่า นาย พ. เป็นผู้เสนอญัตติขออนุมัติใช้จ่าย
เงินสะสมต่อสภาเทศบาล เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๔๙ และเป็นผู้อนุมัติให้เบิกจ่ายขาดเงินสะสมจัดซื้อ
ครุภัณฑ์ประจําสํานักงานที่ไม่มีความจําเป็นเร่งด่วน จํานวน ๖ รายการ รวมเป็นเงินจํานวน ๑,๖๕๓,๓๔๕ บาท
โดยได้รับอนุมัติจากสภาเทศบาล โดยการอนุมัติดังกล่าวไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขที่กําหนดในระเบียบ
กระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินของ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ ๘๙ (๑) ซึ่งให้กระทําได้เฉพาะกิจการที่อยู่ใน
อํานาจหน้าที่ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวกับด้านการบริการชุมชนและสังคมหรือกิจการที่เป็นการ
เพิ่มพูนรายได้ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือกิจการที่ทําเพื่อบําบัดความเดือดร้อนของประชาชน และ
ภายหลังที่สภาเทศบาลได้อนุมัติให้จ่ายเงินสะสมแล้ว เทศบาลได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อขอยกเว้น
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว แต่เมื่อไม่มีหนังสืออนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัด นาย พ. ก็ยังดําเนินการ
อนุมัติให้มีการเบิกจ่ายเงินสะสมเพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์ประจําสํานักงานที่ไม่มีความจําเป็นเร่งด่วน จํานวน
๖ รายการ รวมเป็นเงินจํานวน ๑,๖๕๓,๓๔๕ บาท ต่อไป จึงเป็นการไม่ปฏิบัติ ให้เป็นไปตามระเบียบ
กระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงิน
ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม พฤติการณ์ถือได้ว่าเป็นการกระทําด้วยความ
ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้เทศบาลได้รับความเสียหาย จึงให้นาย พ. รับผิดเฉพาะในส่วน
การกระทําของตนในอัตราร้อยละ ๒๐ ของจํานวนเงิน ๑,๖๕๓,๓๔๕ บาท คิดเป็นเงินจํานวน ๓๓๐,๖๖๙ บาท
ตามนัยมาตรา ๑๐ ประกอบมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙
เนื่องจากการสอบสวนเรื่องนี้มิได้สอบปากคํานาง ส. นาย ช. และนาย จ. จึงให้เทศบาล
ให้โอกาสบุคคลดังกล่าวได้ชี้แจงข้อเท็จจริงและโต้แย้งแสดงพยานหลักฐานของตนอย่างเพียงพอและเป็นธรรม
ตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
พ.ศ. ๒๕๓๙ ก่อนออกคําสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนและหากปรากฏข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานใดที่จะทํา
ให้ความเห็นของกระทรวงการคลังเปลี่ยนไป ก็ให้ส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ผู้ย่อ นางสาวมาลินี หาดเด็น นิติกร
ผู้ตรวจ ๑. นายชรัมภ์ โชติอาภรณ์ หัวหน้าฝ่าย
๒. นางพรทิพย์ บันไดเพชร ผู้อํานวยการกลุ่มงาน ตพ.๓