More Related Content
Similar to วิวัฒนาการ (20)
วิวัฒนาการ
- 2. ทฤษฎีข องลามาร์ก (Lamarck’s
theory)
ชองบัป ติส ต์ เดลามาร์ก
(JeanBaptistedeLarmarck) เป็นนัก
ชีววิทยาชาวฝรั่งเศสเป็นบุคคลแรกที่ได้วาง
รากฐานทางวิวัฒนาการขึ้นและได้ตั้งทฤษฎีขึ้น
- 3. ทฤษฎีข องลามาร์ก ประกอบด้ว ย
1. สิงมีชีวิตและส่วนต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตมีความโน้ม
่
เอียงที่จะมีขนาดเพิมขึ้น
่
2. การเกิดอวัยวะใหม่มีผลมาจากความต้องการ
ใหม่ในการดำารงชีวิต
รูป เปรียบลักษณะเท้าของนกทีหากินบนบกและในนำ้า
่
- 4.
3. อวัยวะใดที่ถูกใช้อยู่เสมอ มีความโน้ม
เอียงที่จะมีการเจริญและมีขนาดเพิ่มขึ้น อวัยวะ
ใดไม่ค่อยได้ใช้จะเสือมหายไป ซึ่งพัฒนาไป
่
เป็นกฎการใช้และไม่ใช้ (Law of Use and
Disuse)
4. การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้ง 3
ประการข้างต้น สามารถถ่ายทอดไปสู่ลูกหลาน
ได้ เรียกว่า กฎแห่งการถ่ายทอดลักษณะที่เกิด
ขึ้นใหม่(Law of Inheritance of Acquired
Characteristics) อันเป็นผลให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะมากขึ้นตามระยะ
เวลา
- 5. ตัวอย่างเช่น
ลัก ษณะคอยาวของยีร าฟ
ยีราฟในอดีตนั้นคอสันกว่าปัจจุบน ยีราฟ
้ ั
ต้องยืดคอขึ้นกินยอดไม้ที่อยู่สูง ๆ เมื่อเป็นเช่นนี้
นาน ๆ จึงทำาให้ลูกหลานยีราฟคอค่อย ๆ ยาว
ขึ้นและลักษณะดังกล่าวสามารถถ่ายทอด
ลักษณะไปสูลูกหลานได้
่
- 6. ทฤษฎีก ารคัด เลือ กโดยธรรมชาติ
ของดาร์ว ิน
ชาร์ลส์ ดาร์วิน เป็นนัก
ธรรมชาติวิทยาได้เดินทางไป
กับเรือสำารวจบีเกิลของรัฐบาล
อังกฤษ ซึ่งเดินทางไปสำารวจ
และทำาแผนที่ของฝั่งของทะเล
ทวีปอเมริกาใต้ ดาร์วินได้ตั้ง
ข้อสังเกตและข้อสงสัย
มากมายในขณะที่สำารวจ
ธรรมชาติไปกับเรือหลวงบีเกิล
เมื่อผ่านหมู่เกาะกาลาปากอส
เขาได้สังเกตเห็นว่า นกฟินซ์
(Finch) ที่แพร่กระจายอยู่ตาม
- 7. ลัก ษณะที่ส ัง เกตได้จ ากการ
ศึก ษานกฟิน ช์
นกฟินช์แต่ละพื้นที่จะมี
ลักษณะของจะงอยปากที่
แตกต่างกัน ดาร์วินเชื่อว่า
บรรพบุรุษของนกฟินช์บน
เกาะกาลาปากอสน่าจะ สืบ
เชือสายมาจากนกฟินช์บน
้
แผ่นดินใหญ่แต่เนื่องจาก
การเปลี่ยนแปลงทาง
ธรณีวิทยา ทำาให้ เกิดการ
แปรผันทางพันธุกรรม ของ
- 8. ทฤษฎีข องดาร์ว ิน และวอลเลช
ดาร์วิน และวอลเลชได้เสนอทฤษฎีการเกิด
สปีชส์ใหม่อันเนืองมาจากการคัดเลือกโดย
ี ่
ธรรมชาติ
ทฤษฎีก ารคัด เลือ กโดยธรรมชาติ (theory
of natural selection)
1. สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันย่อมแตกต่างกัน
บ้างเล็กน้อย เรียกว่า variation
2. สิ่งมีชีวิตมีลูกหลานจำานวนมากตามลำาดับ
เรขาคณิต แต่สงมีชีวิตแต่ละชนิดก็มี จำานวน
ิ่
- 9. 3.สิ่งมีชีวิตจําเป็นต้องมีการต่อสูเพื่อความอยู่
้
รอด (struggle of existence) โดยการ
แปรผันบางลักษณะ ให้เหมาะสมกับสิงแวดล้อม ่
และมีการสืบพันธุ์ถ่ายทอด ไปยังลูกหลาน
4.สิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมที่สดเท่านั้นที่จะอยู่
ุ
รอด(survival the fittest ) และดํารง เผ่า
พันธุ์ของตนไว้ ทําให้เกิด การคัดเลือกตาม
ธรรมชาติส่งผลให้เกิดความแตกต่าง ไปจาก
สปีชส์เดิมมากขึ้นจนเกิดสปีชส์ใหม่ สิ่งมีชีวิตที่
ี ี
จะอยู่รอด ไม่จําเป็นต้องเป็น สิ่งมีชวิต ที่แข็ง
ี
แรงที่สด แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมกับสภาพ
ุ
- 12. แนวคิด เกี่ย วกับ วิว ัฒ นาการใน
ปัจ จุบ ัน
ปัจจุบนการศึกษาเรื่องวิวัฒนาการของสิ่งมี
ั
ชีวิตจึงได้นําทฤษฎีการคัดเลือกตาม ธรรมชาติ
ของดาร์วินมาผสมผสานกับความรู้วิชาการด้าน
อื่นๆ เช่น บรรพชีวินวิทยา (palaeontology)
อนุกรมวิธาน (taxonomy) พันธุศาสตร์
(genetics) และชีวภูมิศาสตร์
(biogeography) โดยเฉพาะการนําความรู้
ด้าน พันธุศาสตร์ประชากรมาประยุกต์ใช้ในการ
อธิบายวิวัฒนาการยุคใหม่ ทําให้เกิดทฤษฎีที่
- 13. ทฤษฎีว ิว ัฒ นาการ สัง เคราะห์
ทฤษฎี วิวัฒนาการสังเคราะห์จะเน้นถึงความ
สำาคัญของประชากรซึ่งถือเป็นหน่วยสำาคัญของ
วิวัฒนาการ สิงมีชีวิตแต่ละตัวในกลุ่มประชากร
่
จะมีความแปรผันแตกต่างกัน การแปรผันทาง
พันธุกรรมใดที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม จะ
ทำาให้สงมีชวิตนั้นสามารถอยู่รอดและสืบพันธุ์
ิ่ ี
ถ่ายทอดลักษณะดังกล่าวไป สู่ลูกหลานรุ่นต่อไป
ได้ จึงถือได้ว่า
สิ่งแวดล้อมนับเป็นปัจจัยสำาคัญในการคัดเลือก