Contenu connexe
Similaire à พระพุทธศาสนากับป่าไม้
Similaire à พระพุทธศาสนากับป่าไม้ (20)
Plus de Kasetsart University
Plus de Kasetsart University (20)
พระพุทธศาสนากับป่าไม้
- 1. พระพุทธศาสนากับป่ าไม้
พระพุทธศาสนากับป่ าไม้ เป็ นการนาวิธีทางศาสนาโดยอาศัยหลักธรรมคาสอนเรื่ อง ความรู้จกบุญคุณ ั
กตัญญูกตเวที และการเสี ยสละเพื่อส่วนรวมโดยรู้จกประมาณในการบริ โภค เป็ นต้น มาเป็ นหลักพัฒนาจิตใจ
ั
ให้เกิดความสานึกในความรักในธรรมชาติการสร้างอุทยานเป็ นที่พกเพื่อแสดงธรรมของพระพุทธเจ้าและสาวก
ั
ทั้งหลาย นอกจากนั้น อุทยานก็ดี ราชอุทยานก็ดี ส่วนป่ าของบุคคลต่าง ๆ ที่มีปรากฎในพระไตรปิ ฏกว่าได้
กลายเป็ นอารามบ้าง วิหารบ้าง มหาวิหารบ้าง ก็ดวยจิตสานึกเรื่ องบุญบาปหรื อคุณธรรมของท่านผูเ้ ป็ นเจ้าของ
้
อุทยานเหล่านั้นได้กระทาเป็ นตัวอย่าง และได้กลายเป็ นธรรมเนียมการสร้างวัดป่ าในพระพุทธศาสนามาตราบ
เท่าทุกวันนี้
พระพุทธศาสนามีปรัชญาและคาสอนที่เน้นความตระหนักและมีความเมตตาต่อชีวิตทั้งมวล แต่ที่ผาน ่
มา ชีวิตสัตว์ พืชพรรณ ทรัพยากรทางธรรมชาติเป็ นต้นถูกทาลายลงอย่างรวดเร็ว อันเป็ นผลมาจากความโง่เขลา
่
ความโลภ และการขาดความเคารพต่อโลก วิกฤติการณ์ทางสิ่ งแวดล้อมที่เราเผชิญอยูทุกวันนี้ตองการความ ้
ช่วยเหลือที่เร่ งด่วน แต่การมุ่งเน้นคุณค่าด้านจิตวิญญาณของมนุษย์มิได้หมายความว่าจะละเลยบทบาทของ
่ ั
วิทยาศาสตร์ แต่วิทยาศาสตร์ มีขอบเขตอยูกบสภาพของโลกในขณะที่พุทธศาสนาเป็ นแหล่งคุณค่าของมนุษย์
และทุกวันนี้ประชาชนจานวนมากรู้สึกว่านอกเสี ยจากปัจเจกชนและค่านิยมทางสังคมจะได้รับการกระตุนเมื่อ ้
่
นั้นเราจึงจะเริ่ มแก้ปัญหาที่กาลังเผชิญอยูได้ในวิถีทางที่มีผลต่อชีวิตบนโลก ทั้งปัจจุบนและอนาคต
ั
จากคาสอนของพระพุทธศาสนานี้เองที่เน้นสอนให้เราทาความดี ละเว้นความชัว ไม่เบียดเบียนสรรพ
่
สิ่ งไม่ว่าจะมีชีวิตหรื อไม่มีชีวิตก็ตาม เพื่อความสงบสุข และความร่ มเย็นของทุก ๆคน นับตั้งแต่ในสมัย
พุทธกาลนานมา พระพุทธองค์ทรงวางนโยบายอนุรักษ์ชีวิตสัตว์โลกเอาไว้แล้ว โดยการกาหนดปฏิบติที่ ั
เรี ยกว่า "ศีล" ให้แก่ชาวโลกดังนั้นจะเห็นได้ว่า หากผูคนพยายามรักษาศีลข้อที่หนึ่งนี้เพิ่มมากขึ้น ปัญหาการ
้
สูญพันธุ์ของสัตว์ป่าต่างๆจะลดลง ในป่ าจะมีสตว์อาศัยอยู่ และสัตว์ท้งหลายก็จะมีป่าให้อยู่ สัตว์กบป่ าไม้เป็ น
ั ั ั
สื่ อสัมพันธ์ซ่ ึ งกันและกัน ไม่ใช่ไปทาสัตว์ป่าให้กลายเป็ นสัตว์บาน นามาบังคับใส่กรงขังไว้ แล้วทาลายป่ า
้
ราบเรี ยบ สร้างเป็ นตึกสูง เป็ นห้องแถวอย่าทาให้สตว์ป่าไร้ป่าอยู่ ซึ่ งผิดธรรมชาติของมัน อย่าทาให้ป่าต้องร้าง
ั
สัตว์อยู่ ซึ่ งผิดธรรมชาติของป่ า และอย่าทาให้วงจรชีวิตของธรรมชาติ ที่สตว์กบป่ าต้องพึ่งพาอาศัยกัน นั้น
ั ั
ต้องถูกทาลายสมดุล ในตัว ของมันเองไป อันเนื่องมาจากการฆ่าแกงทาร้ายสัตว์ การข่มเหงบังคับสัตว์อย่าง
ทารุ ณ ด้วยฝี มือของมนุษย์โปรดช่วยกันเอ็นดู ให้ความเมตตากรุ ณา และให้ประโยชน์แก่สตว์ท้งปวงบ้างเถิด
ั ั
อย่ารังแกกันเกินไปนักเลย
22/07/55 21:36:17 น. Credit by S.Nimtim
- 2. จากพุทธประวัติเราจะพบว่ามีความเกี่ยวเนื่องกับป่ าไม้หลายประการด้วยกันคือศากยวงศ์ของ
พระพุทธเจ้าจัดตั้งขึ้นโดยพระราชโอรส และพระราชธิดาของพระเจ้าโอกากราช ณ ป่ าไม้สก ใกล้ภูเขา ั
่
หิ มาลัย อันเป็ นที่อยูของกบิลดาบสมาก่อน ได้สร้างเมืองขึ้นในป่ าไม้สกให้ชื่อว่ากบิลพัสดุ์ โกลิยวงศ์
ั
อันเป็ นราชวงศ์ของพระนางสิ ริมหามายา พระพุทธมารดา ก็มีความเป็ นมาเนื่องด้วยป่ าไม้กระเบา มีราช
ธานี ชื่อ กรุ งเทวทหะ เมื่อพระนางสิ ริมหามายาทรงพระครรภ์จวนประสูติพระโอรส พระนางได้เดินทาง
ั ่
เพื่อไปประสูติพระโอรส ณ กรุ งเทวทหะ แต่เมื่อไปถึง ลุมพินีวน ซึ่ งเป็ นป่ าที่ต้ งอยูระหว่างกรุ ง
ั
กบิลพัสดุ์ และกรุ งเทวทหะ พระนางก็ประสูติพระโพธิสตว์ ณ ที่น้ น ในสมัยที่ทรงพระเยาว์ พระ
ั ั
โพธิสตว์มกใช้เวลาส่วนหนึ่งเที่ยวจาริ กไปตามป่ าเชิงภูเขาหิ มาลัย จนสัตว์ป่ามีความคุนเคยเดินตาม
ั ั ้
พระองค์ไปเป็ นฝูง ด้วยความสนิทสนมคุนเคยเป็ นที่อศจรรย์ ตลอดระยะเวลาหกปี ที่พระโพธิสตว์ได้
้ ั ั
่
เที่ยวศึกษาแสวงหาทางเพื่อความตรัสรู้เป็ นพระพุทธเจ้า ได้ประทับศึกษาอยูในป่ าต่าง ๆ แม้ในเวลาตรัส
รู้ก็ทรงเลือกเอาป่ าในตาบล อุรุเวลาเสนานิคมเป็ นที่บาเพ็ญเพียรจนตรัสรู้ภายใต้ตน อัสสัตถพฤกษ์ แล้ว
้
ประทับเสวยวิมุติสุข ณ ต้นไทร ต้นเกด ตามลาดับ เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา คือ พระธัมม
จักกัปวัตตนสูตร แก่ ปัญจวัคคีย ์ ก็ทรงแสดงที่ ป่ าอิสิปนมฤคทายวัน อันเป็ นสวนป่ า และทรงแสดงพระ
ธรรมเทศนาอีกเป็ นอันมาก ณ ป่ าอิสิปนมฤคทายวันแห่งนั้น จนเกิดพระอรหันต์ข้ ึนในโลกคราวแรก
ติดต่อกันถึงหกสิ บรู ป ทรงแสดงพระธรรมเทศนา อนุบุพพิกถา และอริ ยสัจสี่ โปรดพระเจ้าพิมพิสาร
และบริ วาร จานวนรวมกัน ๑๒๐,๐๐๐ ท่าน ณ ลัฏฐิวน อันเป็ นป่ าเช่นเดียวกัน พระอารามแห่งแรกใน
ั
พระพุทธศาสนาคือ เวฬุวน คือป่ าไผ่ที่พระเจ้าพิมพิสารทรงถวายให้เป็ นที่ประทับของพระพุทธเจ้า และ
ั
พระสงฆ์ หลังจากที่พระองค์ได้ฟังธรรมเทศนาจนบรรลุมรรคผลเป็ นพระอริ ยบุคคลแล้ว พระอารามอีก
แห่งหนึ่งในกรุ งราชคฤห์คือ ชีวกัมพวัน เป็ นป่ าไม้มะม่วงที่หมอชีวกโกมารภัจถวายเป็ นพร
อาราม สาหรับพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ และที่ในกรุ งราชคฤห์น้ น ยังมีป่าที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า
ั
อีกเป็ นอันมาก เช่น มัททกุจฉิ มฤคทายวัน ในแคว้นกาสี แคว้นโกศล อันเป็ นที่ต้งของพระอารามคือ
ั
พระเชตวัน บุพพาราม มีป่าเป็ นอันมาก นอกจากเชตวัน คือ ป่ าของเจ้าเชต ที่ท่านอนาถบิณทิกเศรษฐีซ้ื อ
เพื่อสร้างเป็ นพระอารามถวายพระพุทธเจ้าแล้วยังมีอนธวัน และนันทวัน ที่พระพุทธเจ้า และพระภิกษุ
ั
่ ั
สงฆ์ ได้ไปพักอาศัยในป่ าเหล่านั้น ในแคว้นวัชชี และแคว้นสักกะ มีชื่อป่ ามหาวันอยูท้งสองแห่ง ที่
พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระสูตรเป็ นอันมากแก่พระภิกษุบาง เทวดาบ้าง พระราชา พราหมณ์ คฤหบดีบาง
้ ้
ในโอกาสที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปประทับในป่ านั้น ตามปกติพระพุทธเจ้าจะเสด็จหลีกออกจากหมู่คณะ
่
ไปประทับสงบอยูในป่ าระยะสั้น ๆ เจ็ดหรื อสิ บห้าวันทุกครั้งจะเสด็จเข้าไปประทับในป่ า เช่นคราวที่
่ ่ ั
พระภิกษุทะเลาะกันที่เมืองโกสัมพี พระพุทธเจ้าได้เสด็จไปประทับอยูที่ป่า รักขิตวัน อยูกบช้างและลิงที่
22/07/55 21:36:17 น. Credit by S.Nimtim
- 3. เราเรี ยกพระพุทธรู ปปางนี้ว่าปางป่ าลิเลยกะ การอยูป่าเป็ นวัตรจัดเป็ นนิสย คือปัจจัยเครื่ องอาศัยชีวิตของ
่ ั
นักบวชในพระพุทธศาสนาและแม้นกบวชในลัทธิอื่นก็ถือแนวเดียวกัน พระพุทธเจ้ากับพระภิกษุสงฆ์
ั
่
ในสมัยพุทธกาลล้วนแล้วแต่อาศัยอยูในป่ าเป็ นส่วนมาก ยิ่งท่านที่ตองการ เจริ ญกรรมฐาน หรื อที่ใช้คา
้
ว่าเจริ ญสมณธรรมด้วยแล้ว เสนาสนะป่ าเขา เงื้อมเขา ถ้ า เป็ นสถานที่ที่เกื้อกูลต่อการปฏิบติเจริ ญสมณ
ั
ธรรม พระพุทธเจ้าทรงยกย่องสรรเสริ ญป่ าไว้โดยนัยต่าง ๆ เป็ นอันมาก เมื่อพระพุทธเจ้าทรงเสด็จดับ
ขันธปริ นิพพาน ก็ทรงปริ นิพพาน ณ สาลวโนทยาน คือ สวนป่ าสาละของกษัตริ ยมลละ แห่งเมืองกุสิ
์ ั
นารา
ป่ าไม้ในฐานะเป็ นที่ต้งแห่งบุญ ในสคาถวรรค สังยุตตนิกาย พระพุทธเจ้ารับสังตอบเทวดาที่มา
ั ่
กราบทูลถามว่า "ชนเหล่าใด สร้างสวนดอกไม้ ผลไม้ ปลูกหมู่ไม้ สร้างสะพาน และให้โรงเป็ นทาน บ่อ
น้ าทั้งบ้านที่พกอาศัย ชนเหล่านั้นย่อมมีบุญ เจริ ญในกาลทุกเมื่อ ทั้งกลางวันและกลางคืน ชนเหล่านั้น
ั
่
ตั้งอยูในธรรม สมบูรณ์ดวยศีล เป็ นผูไปสวรรค์"
้ ้
ป่ าไม้ในฐานะที่เป็ นสิ่ งที่ควรอนุรักษ์ ในพระพุทธศาสนา มีบทบัญญัติทางพระวินยที่ห้ามมิให้
ั
พระภิกษุกระทาการอะไรเป็ นการทาลายสภาพของป่ า และต้นไม้ เช่น พระภิกษุรูปใดตัดทาลายต้นไม้
ถ้าเป็ นต้นไม้มีเจ้าของหวงแหน ท่านปรับอาบัติในฐานอทินนาทานคือ การถือเอาสิ่ งของที่เจ้าของมิได้
ให้ ถ้าเป็ นการตัดกิ่งต้นไม้ของตนหรื อของวัด ท่านปรับอาบัติในข้อที่เป็ นการพรากภูติคามคือ หักราน
กิ่ง ใบ ดอกของต้นไม้ แม้แต่การทาลายต้นไม้ที่เป็ นเมล็ดที่ปลูกได้ แง่ง กิ่งของต้นไม้ ล้วนปรับเป็ น
อาบัติท้งสิ้ นและเพื่อเป็ นการอนุรักษ์สภาพของป่ า และต้นไม้ ได้มีบทบัญญัติทางพระวินย ห้าม
ั ั
พระภิกษุถ่ายปัสสาวะอุจจาระ บ้วนน้ าลายลงน้ า ในของสดเขียวทั้งเล็กและใหญ่ รวมถึงการทิ้งสิ่ ง
สกปรกลงในน้ า ในของสดของเขียวทั้งหลายอันเป็ นหลักปฏิบติที่ช่วยในการอนุรักษ์ธรรมชาติ และ
ั
่ ่
สภาพแวดล้อมได้เป็ นอย่างดี ความเชื่อในเรื่ องที่มีเทพารักษ์ สิ งสถิตอยูในป่ า ต้นไม้ ที่ปรากฏอยูใน
คัมภีร์พระพุทธศาสนา จึงเป็ นประโยชน์และเอื้ออานวยที่สาคัญในการอนุรักษ์ป่า ต้นไม้ ยิ่งไปกว่านั้น
่
พระวินยยังกาหนดให้พระภิกษุที่สร้างกุฏิอยูตามป่ า ไม่ให้ทาลายต้นไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต และแม้แต่
ั
ได้รับอนุญาตก็ตดทาลายเองไม่ได้ และยังต้องระมัดระวังไม่ให้กุฏิพงลงมาทับต้นไม้ในป่ า ดังนั้นวันใน
ั ั
พระพุทธศาสนา จึงเรี ยกว่า อาราม แปลว่าสถานที่ทาใจให้รื่นรมย์ โดยเน้นไปที่สวนไม้ดอกไม้ผล ไม้ที่
ให้ร่มเงา วัดหลักในพระพุทธศาสนาจึงมีคาลงท้ายว่า วัน ที่แปลว่าป่ า เช่น เวฬุวน เชตวัน ชีวกัมพ
ั
วัน และแม้แต่นิโครธาราม ก็เป็ นป่ าที่มีตนไทรขึ้นอยูเ่ ป็ นจานวนมาก
้
22/07/55 21:36:17 น. Credit by S.Nimtim
- 4. ไม่ว่าจะเป็ นสิ่ งมีชีวิตชนิดใจ เป็ นป่ าไม้ เป็ นสัตว์ป่า เป็ นธรรมชาติ เป็ นมนุษย์ ก็ตามล้วนต้อง
พึ่งพาอาศัยกันเป็ นวงจรของชีวิต จะขาดส่งใดสิ่ งหนึ่งไปไม่ได้ พระพุทธศาสนาจึงสอนให้เราทาความดี
ละเว้นความชัว ไม่เบียดเบียนผูอื่น ไม่ทาให้ผอื่นเดือดร้อน ตามแนวทางของศีล 5 ซึ่ งสมเด็จพระอนุตร
่ ้ ู้
สัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสสอนไว้เมื่อหลายพันหลายร้อยปี มาแล้ว เราจึงควรยึดถือเอามาเป็ นแนวทาง
ปฏิบติเป็ นแนวทางในการดาเนินชีวิต เพื่อโลกของเราจะได้น่าอยูมากขึ้น ด้วยเพราะสิ่ งมีชีวิตทุกชนิด
ั ่
ต่างก็พ่ ึงพาอาศัยกันด้วยดี ทาให้สามารถดารงเผ่าพันธุ์ อยูได้ ป่ าไม้ก็สามารถที่จะเป็ นปอดของโลก เป็ น
่
ผืนป่ าที่ให้ทรัพยากรแก้สรรพชีวิตได้อย่างยังยืนต่อไป
่
22/07/55 21:36:17 น. Credit by S.Nimtim