Contenu connexe
Similaire à โครงงานวิทยาศาสตร์ ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่า
Similaire à โครงงานวิทยาศาสตร์ ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่า (20)
โครงงานวิทยาศาสตร์ ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่า
- 1. บทที่ 1
บทนา
1.1 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
โคมไฟ เป็นอุปกรณ์ใช้สาหรับอ่านหนังสือ แต่ปัจจุบันคนไทยนิยมบางคนนาโคมไฟ
มาเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านซึ่งโคมไฟจะมีรูปที่แต่งต่างกันออกไปตามแต่วัสดุที่นามาประดิษฐ์ การผลิต โคมไฟสามารถใช้วัสดุได้หลายชนิด เช่น พลาสติก เหล็ก หรืออะลูมิเนียม ซึ่งมักจะมี ราคาแพง แต่ความเป็น จริงแล้วโคมไฟสามารถผลิตจากวัสดุอย่างอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็น กะลามะพร้าว ไม้หรือส่วนประกอบของต้นไม้ เช่น รากไม้ กิ่งไม้ เป็นต้น ซึ่งเมล็ดมะค่า เป็นวัสดุธรรมชาติอีกชนิดหนึ่งที่น่าจะนามาประดิษฐ์เป็นโคมไฟได้ ซึ่งถ้าปล่อยให้หล่นทิ้งไปก็พุพังกลายเป็นเศษไม้เศษดินที่ไม่มีค่า
ยุงเป็นพาหะนาโรคต่างๆ เช่น โรคไข้เลือดออก มาลาเรีย เท้าช้าง ฯลฯ ซึ่งยุงก้นปล่อง
เป็นพาหะนาโรค มาลาเรีย ในประเทศไทยเท่าที่พบในปัจจุบันมียุงก้นปล่องอย่างน้อย 73 ชนิด แต่มีเพียง
3 ชนิดที่เป็นพาหะสาคัญ สังเกตยุงชนิดนี้ได้ง่ายเวลามันเกาะพัก จะยกก้นชี้เป็นปล่อง โคมไฟดักยุงจึงเป็น
สิ่งประดิษฐ์ที่สามารถกาจัดและลดปริมาณของยุง โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพของสิ่งแวดล้อม
จากเหตุผลดังกล่าว ผู้จัดทาโครงงานจึงคิดประดิษฐ์โคมไฟดักยุงจากเมล็ดมะค่าขึ้นมา
เพื่อไว้ใช้เองภายในบ้านและเป็นการน้อมนาแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมาใช้ในชีวิตประจาวัน
1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน
1. เพื่อนาวัสดุเหลือธรรมชาติมาประดิษฐ์เป็นโคมไฟ
2. พัฒนาโคมไฟจากเมล็ดมะค่าให้สามารถดักยุงได้
3. ทดสอบประสิทธิภาพของโคมไฟดักยุง
1.3 ขอบเขตของโครงงาน
1. ใช้เมล็ดมะค่า แผ่นซีดี ขวดพลาสติกประดิษฐ์โคมไฟดักยุง
2. ใช้ยีสต์ผสมน้าตาลและน้าเป็นตัวล่อแมลงและยุง เท่านั้น
3. ทาการทดลองในโรงเรียนเมืองราดวิทยาคม และที่บ้านของผู้ทาโครงงาน
1.4 สมมติฐานของการทดลอง
ถ้าโคมไฟที่ประดิษฐ์ขึ้นสามารถดักยุงได้ ดังนั้นเมื่อนาโคมไฟที่ประดิษฐ์ขึ้นไปดักยุงจะต้องมียุง ตกอยู่ภายในโคมไฟดักยุงนั้น
1.5 การกาหนดตัวแปร
ตัวแปรต้น คือ โคมไฟเมล็ดมะค่าดักยุง
ตัวแปรตาม คือ จานวนยุงที่ติดภายในโคมไฟ
ตัวแปรควบคุม คือ ขนาดและชนิดของหลอดไฟ ขนาดของขวดพลาสติก ปริมาณยีสต์
และน้าตาล
- 2. 2
1.6 นิยามศัพท์เฉพาะ
โคมไฟดักยุง หมายถึง โคมไฟที่ประดิษฐ์จากเมล็ดมะค่า ภายในมีขวดพลาสติก
บรรจุสารล่อยุง
เมล็ดมะค่า หมายถึง เมล็ดพืชชนิดหนึ่งที่ได้มาจากฝักหรือผลของต้นมะค่า
1.7 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ได้โคมไฟเมล็ดมะค่าที่ใช้ดักยุงได้
2. ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อโคมไฟและอุปกรณ์ดักยุง
3. นักเรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
4. นักเรียนมีทักษะในการประกอบอาชีพสุจริต
- 3. 3
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ประวัติของโคมไฟ
นับแต่สมัยโบราณ ยามค่าคืน ไม่มีแสงสว่างจากไฟฟ้า มีเพียงแต่แสงดาว แสงจันทร์ และคบเพลิง ซึ่งจากคบเพลิงไม้ ก็ได้นาไปสู่โคมไฟ เพื่อใช้เป็นแสงสว่างยามค่าคืน โคมไฟถูกสร้างขึ้น น่าจะรับอิทธิพลมา จากประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันโคมไฟที่ได้รับความนิยม อันดับต้นๆ เลยก็คือ โคมไฟไม้สัก ซึ่งมีความสวยงาม คงทน แข็งแรง แต่มีความคลาสสิกในตัวของโคมเอง
ลักษณะของดวงโคม
1. ดวงโคมไฟเพดานเป็นดวงโคมไฟที่ติดเหนือศีรษะ บริเวณฝ้าเพดาน หรือห้องลงมาจากเพดาน เช่น โคมไฟห้อยเพดานหรือไฟช่อระย้า ที่มีรูปแบบต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย ทั้งที่ทาจากแก้ว พลาสติก โลหะ หรือเซรามิค มีทั้งแบบโคมไฟธรรมดา ราคาไม่แพงไปจนถึงโคมไหแชนเดอเลียร์ ที่ประกอบไปด้วยหลอดไฟ เล็ก ๆ มากมาย สวยงาม ให้แสงสว่างและความร้อนมาก กินไฟมาก ราคาแพง ไฟติดเพดาน มีทั้งแบบดวง โคมที่ยึดติดกับฝ้าเพดาน ประกบอไปด้วยที่ครอบ หรือโป๊ะทาจากแก้ว หรือพลาสติกคลุมหลอดไฟเพื่อช่วย ในการกระจายแสง เช่น โคมไฟโป๊ะกลมสาหรับหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ หรือโคมไฟซาลาเปาสาหรับหลอด ไส้ เป็นต้น และแบบที่ติดตั้งโดยเจาะฝ้า เพดานฝังซ่อนดวงโคมไว้ภายใน ที่เราเรียกกันว่า ไฟดาวน์ไลท์ (Down light) ซึ่งให้แสงสว่างได้ดี สามารถเลือกใช้ชนิดของหลอดไห ลักษณะของแสงที่ส่องลงมา และทิศ ทางการส่องของสาแสงได้หลายแบบเป็นได้ทั้งไฟพื้นฐานและไฟสร้างบรรยากาศ
2. ดวงโคมไฟผนังเป็นชนิดที่ใช้ยึดติดกับผนัง มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบเช่นกัน การกระจายแสง ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับลักษณะของโป๊ะ มีทั้งแบบให้แสงส่องออกมาตรง ๆ หรือแบบสะท้อนเข้าผนังเพื่อสร้าง บรรยากาศให้กับห้อง เป็นต้น
3. ดวงโคมไฟตั้งพื้น ตั้งโต๊ะ เป็นดวงโคมไฟแบบลอยตัวที่ช่วยในการให้แสงสว่างตามจุดต่าง ๆ เป็น พิเศษ เช่น ในบริเวณที่นั่งอ่านหนังสือโต๊ะทางาน หรือโต๊ะหัวเตียง และยังใช้เป็นของประกอบการตกแต่งใน ห้องชุดร่วมกับชุดเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ อีกด้วย เช่น ชุดรับแขก ชุดทานอาหาร เป็นต้น มีรูปแบบและวัสดุให้ เลือกมากมายหลายหลายราคา
4. ลักษณ์โคมไฟจากเมล็ดมะค่า มีลักษณะเดียวกับโคมไฟตั้งพื้น ตั้งโต๊ะแต่สามารถออกแบบ
ได้หลายแบบ สีสันสามารถทาไดหลายสีแต่ที่นิยมคือสีเนื้อไม้
วิธีประดิษฐ์โคมไฟ
1. เลือกรูปปราสาท 2-3 รูป และรูปท้องฟ้ากลางคืนแบบพาโนรามา 2 แผ่น ขนาด A4 แนวนอน
2. ใช้คัตเตอร์กรีดรอบรูปร่างปราสาท ส่วนรูปท้องฟ้าให้ติดเข้าด้วยกันให้ความยาวพอดีกับวงกลม รอบฝากล่องซีดี
3. ทาบรูปปราสาทกับรูปท้องฟ้า ร่างเส้นบางๆ แล้วใช้เข็มกลัดเจาะท้องฟ้าให้เป็นรูเหมือนแสงดาว ส่วนที่ใกล้กับเส้นปราสาทให้เจาะถี่เป็นพิเศษ
4. ตัดกระดาษลังเป็นสี่เหลี่ยมเล็ก ติดกับด้านหลังของรูปปราสาทด้วยกระดาษกาวสองหน้า หลอดไฟ
5. ประกอบขั้วหลอดไฟ หลอดไฟ และปลั๊กไฟเข้าด้วยกัน วิธีการต่อคือต่อขั้วบวกกับขั้วบวกและขั้ว ลบกับขั้วลบ
6. เจาะช่องเล็กๆ ด้านล่างฝากล่องซีดีสาหรับสอดสายไฟ
- 4. 4
7. ใช้ปืนกาวหรือกาวตราช้างติดขั้วหลอดไฟที่กลางฝากล่องซีดีฐานโคมไฟ
8. ติดกระดาษกาวสองหน้ารอบฝากล่องซีดี จากนั้นติดรูปท้องฟ้ารอบฝาให้เรียบ (ขั้นตอนนี้ต้อง ช่วยกันทา ไม่งั้นเอียงแน่ๆ)
9. ติดปราสาทที่ด้านล่างของโคมไฟ กระดาษลังที่ติดไว้ช่วยให้รูปมีมิติ ยิ่งอยากให้มีมิติมากก็ต้องติด กระดาษซ้อนๆ กัน แล้วเสริมด้วยกระดาษลัง
10. ตกแต่งเรียบร้อยแล้วก็ทาการเสียบหลอดไฟ ก็จะได้ปราสาทสวยๆ ไฟสีสวยๆ ไว้กล่อมนอน
ลักษณะของเมล็ดมะค่า
มะค่าเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ผลัดใบ มีความสูงระหว่าง 15-20 เมตร แตกกิ่งต่าเรือนยอดเป็นพุ่ม แผ่กว้าง ตามลาต้นมักเป็นครีบและมักจะมีปุ่มปมตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ เข้าใจว่าปุ่มนี้เกิดจาก เซลล์มะเร็งที่ทาให้เกิดการพัฒนาผิดไป เปลือกสีน้าตาลอ่อนหรือชมพูอมน้าตาม หรือสีเทา มีรูระบายอากาศ กระจัดกระจาย กระพี้สีขาว หรือขาวอมเหลือง กิ่งอ่อนมีขนคลุมบาง ๆ
ใบ เป็นช่อเรียงสลับกัน ช่อใบยาว 18-29 ซม. ก้านช่อใบค่อนข้างสั้น ยาวประมาณ 2 ซม.
บนแกนช่อใบมีใบย่อยขึ้นตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ 3-5 คู่ ใบย่อยรูปไข่แกมรูปขอบขนาน กว้าง 2-5 ซม.
ยาว 4-9 ซม. ก้านใบย่อยยาว 3-5 มม. ปลายใบมน มักจะเว้าตื้น ๆ ตรงกลาง โคนใบมนหรือหยักเว้าเข้า เล็กน้อย ใบคู่ล่างจะมีขนาดเล็กกว่าคู่ที่ถัดขึ้นไป ขอบใบเรียบ
ดอก สีเขียวอ่อน แต้มสีแดงเรื่อ ๆ ออกเป็นช่อแตกแขนงที่ปลายกิ่ง ยาว 5-15 ซม. มีขนคลุม
บาง ๆ ก้านดอกย่อยยาว 7-10 มม. ใบประดับรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ยาว 6-9 มม. มีขนประปราย
กลีบรองกลีบดอกติดกัน ส่วนบนแยกเป็นกลีบรูปขอบขนาน 4 กลีบ แต่ละกลีบซ้อนทับกัน
กลีบยาวประมาณ 10-12 มม. กลีบดอกมีเพียงกลีบบนสุดเพียงกลีบเดียวที่เจริญขึ้นเป็นกลีบดอก
สีแดงเรื่อ ๆ หรือแดงอมชมพู ทรงเกือบจะเป็นแผ่นกลม ยาวประมาณ 7-9 มม. ส่วนฐานคอดเข้าหากันเป็น ก้านกลีบดอก ยาว 5-12 มม. เกสรผู้ที่สมบูรณ์มี 8-(3) อัน ก้านเกสรแยกจากกันเป็นอิสระหรือติดกัน เล็กน้อยที่ฐาน เกสรผู้ปลอม 3 อัน ค่อนข้างสั้น
รังไข่ ยาวประมาณ 7 มม. มีขนคลุมติดอยู่บนก้านส่งยาวประมาณ 7 มม. ภายในมีช่องเดียว
และมีไข่อ่อนมาก ออกดอกระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ฝักแก่ประมาณเดือนมิถุนายน-สิงหาคม
ผล เป็นฝักแบนรูปบรรทัดสั้น กว้าง 7-10 มม. ยาว 12-20 ซม. เปลือกหุ้มฝักแข็งมาก
หนาประมาณ 5-7 มม. เมื่อฝักแก่จะแตกออกเป็น 2 ซีก กว้าง 2-2.5 ซม. ยาว 2.5-4 ซม. หนา 0.8-1.2 ซม. เมล็ดแก่สีดา มีเยื่อหนารูปถ้วย ยาวประมาณ 1.5 ซม. สีเหลืองสด ห่อหุ้มส่วนฐานของเมล็ด กลุ่มสมุนไพร เรียกผลของมะค่าโมงว่า “ฟันฤาษี” ใช้เป็นยาสมุนไพร
ลักษณะเนื้อไม้ แก่นสีน้าตาลอมเหลืองอ่อนถึงเหลืองแก่ เสี้ยนค่อนข้างสน เนื้อหยาบมีริ้วแทรก แข็ง เหนียว แข็งแรง และทนทาน เลื่อยค่อนข้างยาก ถ้าแห้งแล้วตบแต่งง่าย ขัดและชักเงาได้ดี ความ ถ่วงจาเพาะประมาณ 0.85
คุณสมบัติ เนื้อไม้มีความแข็งประมาณ 807 กก. ความแข็งแรงประมาณ 1,229 กก./ตร./ซม. ความดื้อประมาณ 101,700 กก./ตร.ซม. ความเหนียวประมาณ 3.8 กก.-ม. การผึ่งและอบ ผึ่งให้แห้งด้วย กระแสอากาศยาก ต้องใช้เวลานาน อบให้แห้งยากปานกลาง ความทนทานตามธรรมชาติตั้งแต่ 6-19 ปี เฉลี่ยประมาณ 10.7 ปี การอาบน้ายาไม้ อาบน้ายาได้ง่าย
- 5. 5
การขยายพันธุ์ การขยายพันธุ์ที่นิยมและสะดวกที่สุด มักจะขยายพันธุ์จากเมล็ด ซึ่งได้จากฝักแก่ ที่ มีสีน้าตาลแก่เกือบดา ฝักเมื่อแก่จะแตกออก วิธีการเก็บเมล็ดมาเพาะกล้า เก็บฝักโดยการเป็นต้นแล้วลิดกิ่งที่ มีฝักแก่แล้วนามาตากแดด ช่วงเวลาเก็บเมล็ด มกราคม-มีนาคม
วิธีปฏิบัติต่อเมล็ด เมล็ดมะค่าโมงมีเปลือกหุ้มเมล็ดที่แข็งมาก จึงควรสับเปลือกเมล็ดตรงส่วนหัว
ให้เห็นเนื้อด้านในเล็กน้อย แล้วจึงนาไปแช่น้า 1 คืน จากนั้นจึงนาไปหว่านลงในแปลงเพาะชาซึ่งเป็น
ดินปนทราย หรือเพาะลงในถุงพลาสติกซึ่งบรรจุดินในอัตราส่วน 1:1 โดยหว่านเมล็ดให้ห่างกันประมาณ
2-3 ซม. เสร็จแล้วโรยทรายละเอียดกลบเมล็ด โดยให้มีความหนาประมาณ 0.5-1.00 ซม. การให้น้าในแปลง เพาะนั้นในระยะแรกควรให้น้าวันละ 2 ครั้ง (เช้า-เย็น) และควรผสมยาป้องกันเชื้อราด้วย อัตราการงอก ประมาณ 95-100% จากนั้นประมาณ 7-10 วัน เมล็ดก็จะงอก ทาการย้ายชาลงถุงพลาสติก นากล้าไม้ไป เลี้ยงไว้ในเรือนเพาะชาพรางแสงประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นระยะเวลา 3-4 เดือน ก่อนทาการย้ายปลูก ก่อนการปลูกจาเป็นต้องทาให้กล้าไม้แข็งแรงแกร่งเสียก่อน อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
การใช้ประโยชน์ เนื้อไม้ ใช้ทาเสา ทาไม้หมอนรองรางรถไฟ ใช้ในการก่อสร้างต่าง ๆ ทาเป็นพื้น รอด ตรง และเครื่องบนได้ทนทานและแข็งแรงดี ทาเครื่องเรือนและไม้บุผนังที่สวยงาม ทาเรือใบเดินทะเล และไม้พื้นเรือ ทาไถ คราด ครก สาก กระเดื่อง ลูกหีบ ส่วนประกอบต่าง ๆ ของเกวียน และตัวถังรถ ใช้ สาหรับกลึง แกะสลัก ทาพานท้ายและรางปืน กลอง โทน รามะนา ด้ามปากกา ปุ่มไม้มะค่ามีลวดลาย สวยงามดีและราคาแพง ใช้ทาเครื่องเรือนและเครื่องใช้ชั้นสูง เฟอร์นิเจอร์ไม้มะค่าโมงได้รับความนิยมสูง
เปลือก ให้น้าฝาดชนิด Pyrogalool และ Catechol
เมล็ด เนื้อในเมล็ดอ่อนใช้รับประทานเป็นอาหารได้
ลักษณะเมล็ดมะค่า
- 6. 6
ลักษณะภายในฝักมะค่า
ลักษณะของยีสต์
ยีสต์ หรือ ส่าเหล้า (อังกฤษ: yeast) คือ รากลุ่มหนึ่งที่ส่วนใหญ่เป็นเซลล์เดี่ยว มีรูปร่างหลายแบบ เช่น รูปร่างกลม รี สามเหลี่ยม รูปร่างแบบมะนาว ฝรั่ง เป็นต้น ส่วนใหญ่มีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ โดย วิธีการแตกหน่อ พบทั่วไปในธรรมชาติในดิน ในน้า ในส่วนต่างๆ ของพืช ยีสต์บางชนิดพบอยู่กับแมลง และ ในกระเพาะของสัตว์บางชนิด แต่แหล่งที่พบยีสต์อยู่บ่อยๆ คือแหล่งที่มีน้าตาลความเข้มข้นสูง เช่น น้าผลไม้ ที่มีรสหวาน ยีสต์ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ มักจะปนลงไปในอาหาร เป็นเหตุให้อาหารเน่าเสียได้
ยีสต์เป็นจุลินทรีย์ที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยโบราณถึงกับมีผู้กล่าวว่า ยีสต์เป็นจุลินทรีย์ชนิดแรกที่ มนุษย์นามาใช้ รายงานแรกเกี่ยวกับการใช้ยีสต์ คือการผลิตเบียร์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Heineken เมื่อ ประมาณ 6,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช คนไทยรู้จักใช้ประโยชน์จากยีสต์มาเป็นเวลานาน เช่นในการทาอาหาร หมักบางชนิด ได้แก่ ข้าวหมาก ปลาแจ่ว เครื่องดองของเมาหลายชนิดเช่น อุ สาโท และกระแช่ เป็นต้น ปัจจุบันมีการนายีสต์มาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมหลายประเภท เป็นต้นว่าการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชนิดต่างๆเช่น เบียร์ ไวน์ และวิสกี้ การผลิตเอทิลแอลกอฮอล์เพื่อใช้เป็นสารเคมี และเชื้อเพลิง การผลิต เซลล์ยีสต์ เพื่อใช้เป็นยีสต์ขนมปังและเป็นโปรตีนเซลล์เดียว
ยีสต์ เมื่อผสมกับน้าหวานแล้ว จะคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาในปริมาณเท่ากับ
การหายใจออกของคนหนึ่งคน เท่ากับว่าจะมีคนเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคนนั่งหายใจออกตลอดเวลา
เพื่อคอยดักยุงให้กับห้องของท่าน (ข้อมูลจากที่อ่านเจอในกระทู้พันทิพย์)
การหาอาหารของยุง
ยุงตัวเมียจะหาเหยื่อจากแก๊สคาบอนไดออกไซด์ (CO2 ) ที่คนเราหายใจออกมา ซึ่งแก๊สที่ออกมา จากปอดเรา คือ คาบอนไดออกไซด์ และยุงตัวเมียสามารถหาเหยื่อได้จากแก๊สนี้ ทาให้ยุงตัวเมียบินเข้าไป อยู่ในขวดได้
- 7. 7
โครงงานที่เกี่ยวข้อง
วรุฑ พรหมราช และคณะ ประดิษฐ์โคมไฟไม้ไอติม มีวัตถุประสงค1. เพื่อกระตุนใหนักเรียน รูจักคิดคนควาและผลิตสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตรเทคโนโลยีและสิ่งแวดลอม ขั้นพื้นฐาน 2. เพื่อใหเกิด ความรวมมือในการทางานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ของสมาชิกในกลุม 3. เพื่อสงเสริมความคิดริเริ่มสร างสรรคความมีเหตุผลและใชทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตรในการแกปญหา 4. ชวยลดปญหาขยะ ลนโลก อุปกรณที่ใช้ ไมไอติม กาว สายไฟ และเตาเสียบ หลอดไฟ พบว่า ไดโคมไฟที่สวยงามเอาไวใช ในการอานหนังสือหรือทาการบานไดชวยประหยัดคาใชจายในการที่จะตองไปซื้อโคมไฟราคาแพงมาใช และ เปนการใชเวลาวางใหเปนประโยชน์
ณัฐพล เรืองขา และคณะ ประดิษฐ์โคมไฟจากกะลามะพร้าว เพื่อความสะดวกสบายในการ ปิด-เปิด ซึ่งเป็นการสะดวกและรวดเร็วสาหรับคนที่อาศัยอยู่ในชุมชน โดยหาพันธุ์กะลามะพร้าวที่สวยและ เหมาะสมมาทาแล้วนามาประกอบเข้ากันก็เสร็จเรียบร้อย พบว่ากะลามะพร้าวสามารถประดิษฐ์เป็นโคมไฟ ที่สวยงามได้
ศิริวรรณ จันทร์เรือง และคณะ ประดิษฐ์โคมไฟจากขวดพลาสติก เพื่อใช้โปรแกรม Visual Basic 6.0 ในการเปิด-ปิดไฟ พบว่าสามารถประดิษฐ์โคมไฟจากขวดพลาสติกและนามาใช้ได้จริง
- 8. 8
บทที่ 3
วัสดุอุปกรณ์และวิธีดาเนินการ
วัสดุอุปกรณ์
1. เมล็ดมะค่า
2. แผ่ซีดีที่ไม่ใช้แล้ว
3. กระป๋องนม
4. กาวแท่ง
5. ปืนกาว
6. ขวดพลาสติก
7. หลอดไฟ
8. เต้าเสียบ
9. น้าตาล
10. น้า
11. ยีสต์
12. แลกเกอร์
13. สีน้ามัน
วิธีทดลอง
ตอนที่ 1 การประดิษฐ์โคมไฟเมล็ดมะค่า
1. นาเมล็ดมะค่ามาล้างทาความสะอาด แล้วผึ่งให้แห้ง
2. นาแผ่นซีดีที่ไม่ใช้แล้วมาตัดตามรูปทรงที่ต้องการแล้วยึดติดกันด้วยกาวเพื่อทาเป็นฐาน
ของโคมไฟ
3. นาเมล็ดมะค่ามาจัดเรียงรอบแผ่นซีดีเพื่อขึ้นรูปโคมไฟเมล็ดมะค่า
4. จัดเรียงเมล็ดมะค่าเพื่อทาเป็นโคมไฟแบบสลับ เพื่อทาให้เกิดรูแสง
5. ทาแลกเกอร์ เพื่อทาให้เมล็ดมะค่าเกิดความมันเงา
6. นาหลอดไฟมาติดเข้ากับโคมเมล็ดมะค่า
7. จะได้โคมไฟเมล็ดมะค่า
8. นาขวดพลาสติกมาตัดปากขวดเพื่อใส่สารดักยุง
9. จะได้โคมไฟเมล็ดมะค่าดักยุง ดังภาพ
- 9. 9
ตอนที่ 2 การทดสอบประสิทธิภาพการดักยุงของโคมไฟ
10. จากนั้นผสมน้าตาลกับน้าอุ่น แล้วนาไปผสมกับยีสต์ ใส่ไว้ในขวดพลาสติก แล้วนาไปติดตั้งไว้ ด้านใต้โคมไฟเมล็ดมะค่า
11. นาโคมไฟเมล็ดมะค่าไปทดสอบประสิทธิภาพการดักยุงโดยทาการเปิดโคมไฟแล้วนาไปตั้งไว้ใน มุมบ้านที่มืด สวนหลังบ้าน และในบริเวณป่า เป็นเวลา 30 นาที ทาการทดลองซ้า
จานวน 3 ครั้ง
12. สังเกตภายในขวดพลาสติกว่ามียุงติดอยู่ข้างในขวดหรือไม่
13. นับจานวนยุง และบันทึกผล
14. หาค่าเฉลี่ยของยุงที่ติดภายในขวด
- 10. 10
บทที่ 4
ผลการทดลอง
ตอนที่ 1 การประดิษฐ์โคมไฟเมล็ดมะค่าดักยุง
จะได้โคมไฟเมล็ดมะค่าดักยุง ดังภาพ
ภาพที่ 4.1 โครงร่างโคมไฟเมล็ดมะค่า
ภาพที่ 4.2 โคมไฟเมล็ดมะค่าดักยุง
- 11. 11
ตอนที่ 2 ทดสอบประสิทธิภาพของการดักยุงของโคมไฟเมล็ดมะค่า
เมื่อประดิษฐ์โคมไฟเมล็ดมะค่า เสร็จเรียบร้อยแล้วนามาทดสอบประสิทธิภาพ
ของการดักยุงได้ผลดังตาราง
ตารางที่ 4.1 แสดงการดักยุงของโคมไฟ
สถานที่
ครั้งที่
จานวนยุง (ตัว)
ห้องมืด
1
3
2
5
3
3
รวมเฉลี่ย
3.67
ห้องโล่งแจ้ง
1
2
2
1
3
1
รวมเฉลี่ย
1.33
สวนหลังบ้าน
1
8
2
7
3
10
รวมเฉลี่ย
8.33
จากผลการทดลอง เมื่อนาโคมไฟเมล็ดมะค่าดักยุง ไปวางไว้ในห้องมืด พบว่า ในห้องมืด สามารถดักยุงได้เฉลี่ย 3.67 ตัว ห้องโล่งแจ้ง สามารถดักยุงได้เฉลี่ย 1.33 ตัว และในสวนหลังบ้าน สามารถดักยุงได้เฉลี่ย 8.33 ตัว แสดงว่า โคมไฟเมล็ดมะค่าที่ประดิษฐ์ขึ้น นอกจากจะใช้ในการให้
ความสว่างในการมองเห็นแล้ว ยังสามารถใช้ดักยุงได้ด้วย เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
- 12. 12
บทที่ 5
อภิปรายและสรุปผลการทดลอง
อภิปรายผลการทดลอง
จากผลการทดลอง พบว่า เมล็ดมะค่าสามารถนาใช้ในการประดิษฐ์โคมไฟได้อย่าง สวยงาม มีความแข็งแรง ทนทาน และเมื่อนาโคมไฟเมล็ดมะค่าไปวางไว้ในห้องมืด ห้องดล่งแจ้ง และสวน หลังบ้านเพื่อดักยุง พบว่า ในห้องมืด สามารถดักยุงได้เฉลี่ย 3.67 ตัว ห้องโล่งแจ้ง สามารถดักยุงได้ เฉลี่ย 3.67 ตัว และในสวนหลังบ้านสามารถดักยุงได้เฉลี่ย 8.33 ตัว แสดงว่า โคมไฟเมล็ดมะค่าที่ ประดิษฐ์ขึ้น นอกจากจะใช้ในการให้ความสว่างในการมองเห็นแล้ว ยังสามารถใช้ดัดยุงได้ด้วย เป็นไปตาม สมมติฐานที่ตั้งไว้
สรุปผลการทดลอง
เมล็ดมะค่าสามารถนาใช้ในการประดิษฐ์โคมไฟได้อย่างสวยงาม มีความแข็งแรง ทนทาน และเมื่อนาโคมไฟเมล็ดมะค่าไปวางไว้ในห้องมืด ห้องโล่งแจ้ง และสวนหลังบ้านเพื่อดักยุง พบว่า โคมไฟ เมล็ดมะค่าที่ประดิษฐ์ขึ้น เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ในการให้ความสว่างในการมองเห็น และสามารถใช้ดักยุง
ได้จริง เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
- 13. 13
บรรณานุกรม
ชาตรี เกิดธรรม. เทคนิคการสอนโครงงานวิทยาศาสตร์. ศูนย์พัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์.
เอกสารอัดสาเนา, 2548.
จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย.โรงเรียน.ตัวอย่างบทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทสิ่งประดิษฐ์.ชลบุรี.
เอกสารอัดสาเนา, 2552.
ณัฐพล เรืองขา และคณะ (2555). การทาโคมไฟจากกะลามะพร้าว. เขาถึงไดจาก :
http://aphiwatadam.blogspot.com/ (วันที่ คนหาขอมูล : 23 กันยายน 57)
วรุฑ พรหมราช และคณะ. (2556).วิธีทาโคมไฟไมไอติม.เขาถึงไดจาก :
http://64wooden.blogspot.com/2013/02/blog-post.html.
(วันที่ คนหาขอมูล : 23 กันยายน 57)
ศิริวรรณ จันทร์เรือง และคณะ. (2555). การทาโคมไฟจากขวดพลาสติก. เขาถึงไดจาก :
https://sites.google.com/site/generaleducationlove/home/kickrrm-thi-2
(วันที่คนหาขอมูล : 23 กันยายน 57)
สุวิทย์ วรรณศรี. (2554). เทคนิคการทาโครงงานนักเรียน.คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.มหาวิทยาลัย
ราชภัฏเพชรบูรณ์. เอกสารอัดสาเนา.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. คู่มือการเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์
คณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์. มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์. เอกสารอัดสาเนา
ประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ตามแนวพระราชดาริ
เศรษฐกิจพอเพียง,2555.
- 17. 17
รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์
เรื่อง โคมไฟเมล็ดมะค่าดักยุง
โดย
1. นางสาวรัตน์กมล แก้วริ้ว
2. นางสาววีรญา มีไหม
3. นางสาวกรรณิกา อินไข
ครูที่ปรึกษา
1. นางชโลธร กีรติศักดิ์กุล
2. นางรัชนู บัวพันธ์
โรงเรียนเมืองราดวิทยาคม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 40
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนประกอบของโครงงานวิทยาศาสตร์
ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
เนื่องในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 64
วันที่ 9 – 10 ตุลาคม 2557
- 18. 18
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง โคมไฟเมล็ดมะค่าดักยุง
โดย
1. นางสาวรัตน์กมล แก้วริ้ว
2. นางสาววีรญา มีไหม
3. นางสาวกรรณิกา อินไข
ครูที่ปรึกษา
1. นางชโลธร กีรติศักดิ์กุล
2. นางรัชนู บัวพันธ์
โรงเรียนเมืองราดวิทยาคม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 40
- 19. 19
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง โคมไฟเมล็ดมะค่าดักยุง
โดย
1. นางสาวรัตน์กมล แก้วริ้ว
2. นางสาววีรญา มีไหม
3. นางสาวกรรณิกา อินไข
ครูที่ปรึกษา
นางชโลธร กีรติศักดิ์กุล
นางรัชนู บัวพันธ์
โรงเรียนเมืองราดวิทยาคม อาเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์
บทคัดย่อ
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง โคมไฟเมล็ดมะค่าดักยุง เป็นโครงงานวิทยาศาสตร์
ประเภทสิ่งประดิษฐ์ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาวิธีการประดิษฐ์โคมไฟจากวัสดุธรรมชาติ นาวัสดุธรรมชาติ มาประยุกต์เพื่อให้เกิดประโยชน์และมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และลดค่าใช้จ่ายในการซื้อโคมไฟและอุปกรณ์ดักยุง
การประดิษฐ์แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 ประดิษฐ์โคมไฟดักยุงจากเมล็ดมะค่า และตกแต่งให้ มีความสวยงาม ตอนที่ 2 ทดสอบการใช้งานของโคมไฟเมล็ดมะค่าดักยุงที่ประดิษฐ์ขึ้น ผลการศึกษา
พบว่า โคมไฟเมล็ดมะค่า มีความสวยงาม และสามารถนามาใช้ดักยุงและแมลงได้จริง
- 20. 20
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง โคมไฟเมล็ดมะค่าดักยุง จัดทาขึ้นเพื่อศึกษาวิธีการประดิษฐ์โคมไฟ
จากวัสดุธรรมชาติ โดยการนาเอาเม็ดมะค่ามาประยุกต์เพื่อให้เกิดประโยชน์และมีมูลค่า เพื่อลดค่าใช้จ่าย ในการซื้อโคมไฟและอุปกรณ์ดักยุง
คณะผู้จัดทาโครงงานหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงงานนี้คงจะมีประโยชน์กับผู้ที่สนใจ และเป็นแนวคิดใน การประดิษฐ์โคมไฟดักยุงจากวัสดุธรรมชาติ หากการทาโครงงานนี้มีข้อบกพร่อง โปรดชี้แนะเพื่อจะได้นาไป ปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ขอขอบพระคุณนายเสรี เปรมปรีดิ์ ผู้อานวยการโรงเรียนเมืองราดวิทยาคม นางบุศภรณ์ คาแก้ว รองผู้อานวยการโรงเรียนเมืองราดวิทยาคม ที่ให้การสนับสนุนและเป็นกาลังใจในการจัดทาโครงงานในครั้งนี้
ขอขอบคุณ นางชโลธร กีรติศักดิ์กุล และนางรัชนู บัวพันธ์ ที่ให้คาปรึกษา แนะนา
ในการจัดทาโครงงานให้สาเร็จลุล่วงไปด้วยดีไว้ ณ โอกาสนี้
คณะผู้จัดทาโครงงาน
- 21. 21
สารบัญ
เรื่อง หน้า
บทคัดย่อ ก
กิตติกรรมประกาศ ข
สารบัญ ค
สารบัญตาราง ง
สารบัญภาพ จ
บทที่ 1 บทนา
แนวคิดและที่มาของความสาคัญ 1
วัตถุประสงค์ 1
ขอบเขตของโครงงาน 2
สมมติฐานการทดลอง 2
การกาหนดตัวแปร 2
นิยามศัพท์เฉพาะ 2
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ประวัติโคมไฟ 3
ลักษณะของเมล็ดมะค่า 4
ลักษณะของยีสต์ 6
การหาอาหารของยุง 6
โครงงานที่เกี่ยวข้อง 7
บทที่ 3 วัสดุอุปกรณ์และวิธีดาเนินการ 8
วัสดุอุปกรณ์ 8
วิธีทดลอง 8
บทที่ 4 ผลการทดลอง 10
บทที่ 5 อภิปรายและสรุปผลการทดลอง 12
บรรณานุกรม 13
ภาคผนวก
- 23. 23
สารบัญภาพ
เรื่อง หน้า
ภาพที่ 4.1 โครงร่างโคมไฟจากเมล็ดมะค่า 10
ภาพที่ 4.2 โคมไฟจากเมล็ดมะค่าดักยุง 10
ภาพแสดงขั้นตอนการทาโคมไฟจากเมล็ดมะค่า 15
ภาพแสดงขั้นตอนการหาประสิทธิภาพการดักยุงของโคมไฟเมล็ดมะค่า 16