Contenu connexe
Similaire à การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืช
Similaire à การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืช (20)
การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืช
- 1. ใบความรู้
เรือง การตอบสนองของพืชต่ อสิ งเร้ าของพืช
สัตว์ทุกชนิดมีการเคลือนที เคลือนไหวได้ เนืองจากมีระบบประสาท ส่ วนพืชจะไม่มีการเคลือนที
แต่จะมีการเคลือนไหว โดยพืชจะตอบสนองต่อสิ งเร้าทีมากระตุน การตอบสนองต่อสิ งเร้าจะมีผลทําให้พืชมี
้
การเจริ ญเติบโต
พืชมีการตอบสนองต่อสิ งเร้า ซึ งอาจแบ่งเป็ น 2 ประการคือ การตอบสนองเนืองจากการเจริ ญเติบโต
ของพืช ซึ งมักเกิดขึนอย่างช้า ๆ สังเกตได้ไม่ชดเจน เช่น รากพืชเจริ ญเข้าหาความชืน
ั
การเจริ ญของลําต้นซึ งมีทิศทางตรงข้ามกับแรงโน้มถ่วงของโลกและการตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมทีไม่
เกียวกับการเจริ ญเติบโตของพืช เช่น การหุ บใบของไมยราบเมือถูกสัมผัส การหุ บบานของดอกไม้บางชนิ ด
ในเวลามีแสงหรื อไม่มีแสงฯลฯ
1. การตอบสนองเนืองจากการเจริ ญเติบโตของพืช แบ่งออกเป็ น 2 ชนิด คือ
ั
1.1 ชนิดทีมีความสัมพันธ์กบทิศทางของสิ งเร้า โดยส่ วนของพืชจะโค้งเข้าสิ งเร้าหรื อหนีออก
จากสิ งเร้าทีมากระตุน เช่น แสงเป็ นสิ งเร้า แรงโน้มถ่วง สารเคมี นํา และการสัมผัส
้
- การเบนเข้าหาหรื อการหนี แสง พืชจะตอบสนองต่อสิ งเร้าทีเป็ นแสง โดยส่ วนของยอดลํา
ต้นจะเจริ ญเข้าหาแสงสว่าง ซึ งนักเรี ยนสามารถสังเกตได้จากบริ เวณป่ าไม้ทีมีตนไม้ หน้าแน่น พืชจะมี
้
ลักษณะลําต้นสู งเพือแข่งขันกันรับแสงสว่าง ส่ วนของรากจะเจริ ญหนี แสงสว่างเสมอ นอกจากนีแสงสว่างยัง
มีผลต่อการหุ บ – บานของดอกไม้ดวย ้
แสงเป็ นสิ งเร้า ดอกทานตะวันจะหันเข้าหาแสงอาทิตย์
- 2. - การเบนหาหรื อหนีแรงดึงดูดของโลก ถ้านักเรี ยนนําต้นพืชทีกําลังงอกวางขนานกับพืน
แล้วปล่อยให้เจริ ญเติบโตต่อไป พบว่า ส่ วนของยอดจะพยายามโค้งงอตังขึนและบริ เวณรากจะพุงเข้าหา ่
ความโน้มถ่วงของโลก
อุณหภูมิ เป็ นปั จจัยทางกายภาพและเป็ นสิ งเร้าอย่างหนึงทีมีผลต่อการเจริ ญเติบโตของพืช
อุณหภูมิมีผลและทําให้เกิดการหุ บ - บานของดอกไม้ ดอกไม้บางชนิดบานในเวลากลางวันบางชนิดบานใน
เวลากลางคืน การบานของดอกไม้จะบานในช่วงทีเซลล์มีชีวตอยูเ่ ท่านันเมือเซลล์เจริ ญเติมทีแล้วจะไม่เกิด
ิ
การหุ บ - บานอีกต่อไป
การสัมผัส พืชบางชนิดมีการเคลือนไหวได้ชาจนเรามองไม่เห็น แต่พืชบางชนิดมีการ
้
เคลือนไหวอย่างรวดเร็ วเมือเราไปสัมผัส เช่น มือเกาะ ยืนออกไปจากลําต้น ไปยึดสิ งทีสัมผัสหรื อต้นไม้อืน
หรื อหลัก เพือเป็ นการพยุงลําต้น เช่น ตําลึง กระทกรก องุ่น พืชตระกูลแตง เป็ นต้น
ต้นไมยราบ ทีเป็ นเช่นนีเนืองจากการสู ญเสี ยของนําภายในเซลล์ของกลุ่มเซลล์บริ เวณก้านใบ ทําให้ใบหุ บ
ทันที แต่เมือนําค่อย ๆ ซึ มกลับเข้ามาในกลุ่มเซลล์บริ เวณก้านใบใหม่ ใบก็จะบาน นอกจากนียังพบในต้น
กาบหอยแครงโดยจะใบเมือแมลงบินมาถูก ใบพืชตระกูลถัวจะมีการนอนในขณะดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้ า
ต้นก้ามปูใบจะบานตอนกลางวัน กลางคืนใบจะหุ บ
มือเกาะของตําลึง มือเกาะของกระทกรก
นํา เป็ นปั จจัยทีสําคัญต่อการดํารงชีวิตของพืชมาก ถ้านักเรี ยนทดลองปลูกพืชในกล่อง
พลาสติกทีสามารถมองเห็นได้ทุกด้านและทดลองรดนําเพียงบางส่ วนเท่านัน จะพบว่ารากส่ วนทีไม่ได้รับนํา
่
จะเคลือนทีเข้าบริ เวณทีชืนภายในกล่องพลาสติก จึงอาจกล่าวได้วา นําเป็ น สิ งเร้าอีกสิ งหนึงทีทําให้พืชมีการ
เคลือนไหวและมีการเจริ ญเติบโตเกิดขึน
ั
1.2 ชนิดทีมีไม่สัมพันธ์กบทิศทางของสิ งเร้า เกียวกับการหุ บและการบานของดอกไม้
ซึ งเกิดจากการเจริ ญของกลุ่มเซลล์ดานในและด้านนอกไม่เท่ากัน โดยเป็ นผลมาจากสิ งเร้าดังนี
้
- 3. - เมือแสงเป็ นสิ งเร้า
ดอกบัวบานในเวลากลางวันและหุ บในเวลากลางคืน
ดอกกระบองเพชรจะบานในเวลากลางคืนและหุ บในเวลากลางวัน
- 4. - เมือมีอุณหภูมิเป็ นสิ งเร้า
ดอกบัวสวรรค์จะบานเมืออุณหภูมิสูง
2. การตอบสนองต่อสิ งเร้าเนืองจากการเปลียนแปลงปริ มาณนําภายในเซลล์ เมือมี สิ งเร้า
มากระตุนให้พืชเกิดการเปลียนแปลงปริ มาณนําภายในเซลล์ จะมีผลทําให้แรงดันเต่งภายในเซลล์เกิดการ
้
เปลียนแปลง แบ่งเป็ น 3 ประเภท คือ
2.1 การหุ บของของพืชบางชนิดตอนพลบคํา
ต้นกระเฉด แค ก้ามปู
- 5. 2.2 การหุ บของของพืชบางชนิดเมือมีการสัมผัสหรื อกระเทือนเป็ นสิ งเร้า
ไมยราบต้น หม้อข้าวหม้อแกงลิง
2.3 การปิ ด-เปิ ดของปากใบ เมือมีแสงเป็ นสิ งเร้า ในเวลากลางวัน เซลล์คุมมีการ
้ ํ ่
สังเคราะห์ดวยแสง ทําให้มีนาตาลสะสมอยูภายในเซลล์เป็ นจํานวนมาก เป็ นผลให้ความเข้มข้นของ
สารละลายนําตาลในเซลล์คุมสู งกว่าความเข้มข้นของสารในเซลล์ขางเคียงนําจากเซลล์ขางเคียงจึงแพร่ เข้า
้ ้
สู่ เซลล์คุมจนเซลล์คุมเต่งออก ทําให้ ปากใบเปิ ด