SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  11
Télécharger pour lire hors ligne
ใบความรู้
                              เรือง ปรากฏการณ์ ทางลมฟาอากาศ
                                                     ้




         ปรากฏการทางลมฟาอากาศ ้
          ลมฟ้ าอากาศ คือ สภาวะของบนพืนทีใด ๆ ในช่วงเวลาหนึง ส่ วน ภูมิอากาศ คือ สภาวะ
โดยทัวไปของลมฟ้ าอากาศบนพืนทีใด ๆ ในช่วงเวลานาน ๆ ลมฟ้ าอากาศหรื อภูมิอากาศมีส่วน
เกียวข้องกับกิจกรรมในชีวตประจําวัน การทราบข้อมูลข่าวสารเกียวกับภูมิอากาศจะมีส่วนช่วยเหลือ
                            ิ
                                                                                    ่
เกษตรกรในการเลือกชนิดหรื อพันธุ์พืชทีต้องการปลูกให้ได้ผลดี การสร้างบ้านเรื อนทีอยูอาศัยให้
เหมาะสมกับสภาพอากาศ ทิศทางลม หรื อทิศทางทีได้รับแสงอาทิตย์
        เมือนําจากแหล่งนําต่าง ๆ ได้รับพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ จะระเหยกลายเป็ นไอนํา
ลอยขึนไปในอากาศ ทําให้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติต่าง ๆ ขึน
                                                                    ่
        หมอก (fog) เกิดจากไอนําในอากาศกลันตัวเป็ นหยดนํา ลอยอยูในอากาศใกล้พนโลก โดย
                                                                                  ื
ขนาดของไอนําจะมีขนาดใหญ่กว่าหยดนําในเมฆ
        นําค้าง (dew) เกิดจากไอนํากลันตัวเป็ นหยดนําเล็ก ๆ เนืองจากอุณหภูมิทีลดลงในตอนกลางคืน
ทําให้อากาศอิมตัว โดยอุณหภูมิลดลงจนกระทังอากาศไม่สามารถรับไอนําได้อีกต่อไป
        ลูกเห็บ (hail) เกิดจากไอนํากกลันตัวเป็ นหยดนํา แล้วถูกพายะหอบสู งขึนไปในระดับความสู ง
ทีมีอุณหภูมิของอากาศเย็นจัด หยดนําจะกลายเป็ นเกล็ดนําแข็ง มีขนาดใหญ่ และมีนาหนักมากจน
                                                                                ํ
อากาศไม่สามารถอุมไว้ได้จึงตกลงมา บางครังเกล็ดนําแข็งนันอาจถูกพายุหอบขึนไปกระทบความเย็น
                   ้
ในบรรยากาศระดับสู งอีกก่อนตกถึงพืน ทําให้เกล็ดนําแข็งหรื อลูกเห็บมีขนาดใหญ่ขึน
        หิ มะ (snow) เกิดจากไอนําได้รับความเย็นจัด ควบแน่นเป็ นละอองนําแข็งตกลงสู่ พืน
        ฝน(Rain) เกิดจากละอองนําในก้อมเมฆซึ งเย็นจัดลง ไอนํากลันตัวเป็ นละอองนําเกาะกันมาก
                        ่
และหนักขึนจนลอยอยูไม่ได้ และตกลงมาด้วยแรงดึงดูดของโลก
ปริ มาณนําฝน หมายถึง ระดับความลึกของนําฝนในภาชนะทีรองรับนําฝน เครื องมือปริ มาณ
นําฝนเรี ยกว่า เครื องวัดนําฝน (rain gauge)

เมฆ
      เมฆคือ ละอองนําและเกล็ดนําแข็งทีรวมตัวกันเป็ นกลุ่มก้ อนลอยตัวอยู่ในชั นบรรยากาศทีเรา
สามารถมองเห็นได้ ไอนําทีควบแน่ นเป็ นละอองนํา (โดยปกติแล้วจะมีขนาด 0.01 มม) หรื อเป็ นเกล็ดนําแข็ง
ซึงเมือเกาะตัวกันเป็ นกลุ่มจะเห็นเป็ นก้อนเมฆ ก้อนเมฆนีจะสะท้อนคลืนแสงในแต่ละความยาวคลืนในช่วงทีตา
มองเห็นได้ ในระดับทีเท่าๆ กัน จึงทําให้เรามองเห็นก้อนเมฆนันเป็ นสี ขาว แต่ กสามารถมองเห็นเป็ นสี เทาหรือสี
                                                                            ็
ดําถ้ าหากเมฆนันมีความหนาแน่ นสู งมากจนแสงผ่ านไม่ ได้
         การแบ่ งประเภทและ ชนิดของเมฆ
         เมฆแบ่งได้เป็ น 10 ชนิด ตามรู ปร่ างลักษณะและระดับความสู งเหนือพืนดินของฐานเมฆ ซึ ง
แบ่งได้เป็ น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ เมฆชันตํา, เมฆชันกลาง และเมฆชันสู ง
         เมฆชันตํา มีความสู งของฐานเมฆเหนือพืนดินไม่เกิน 2 กิโลเมตร เมฆทีจัดอยูในกลุ่มนี มี
                                                                               ่
ทังหมด 5 ชนิด ประกอบด้วย




      สเตรตัส (Stratus) : เมฆแผ่นทีลอยไม่สูงมากนัก มักเกิดในตอนเช้าหรื อหลังฝนตก ถ้าลอยติดพืน
                                       จะเรี ยกว่า “หมอก”
คิวมูลส (Cumulus) : เป็ นเมฆก้อนปุกปุย สี ขาว รู ปทรงคล้ายดอกกะหลํา มักก่อตัวในแนวดิง ลอย
      ั
                กระจายห่างกัน และเกิดขึนเวลาทีสภาพอากาศแจ่มใสดี




 นิมโบสเตรตัส (Nimbostratus) : เมฆสี เทา ทําให้เกิดฝนพรํา และมักปรากฏสายฝนจากฐานเมฆ
คิวมูโลนิมบัส (Cumolonimbus) : ก้อนเมฆฝนขนาดใหญ่ยกษ์ มีรูปทรงคล้ายดอกกะหลําและก่อตัว
                                                   ั
ในแนวตังเช่นกัน ทําให้เกิดพายุฝนฟ้ าคะนอง หากลมชันบนพัดแรง ยอดเมฆจะแผ่ออกคล้ายทัง




 สเตรโตคิวมูลส (Stratocumulus) : เมฆก้อนทีไม่มีรูปทรงชัดเจน มักมีสีเทา ลอยตํา ติดกันเป็ นแพ
             ั
 และมีช่องว่างระหว่างก้อนแค่เพียงเล็กน้อยเท่านัน มักพบเห็นเมือสภาพอากาศไม่ค่อยดีนก   ั
เมฆชันกลาง มีระดับความสู งของฐานเมฆตังแต่ 2-6 กิโลเมตร มี 2 ชนิด คือ




 อัลโตสเตรตัส (Altostratus) : เมฆแผ่นหนาสี เทาทีปกคลุมท้องฟ้ าเป็ นบริ เวณกว้าง บางครังหนา
                                มากจนบดบังแสงอาทิตย์ได้




 อัลโตคิวมูลส (Altocumulus) : เมฆก้อนสี ขาว ลอยเป็ นแพห่างกันไม่มาก มีช่องว่างระหว่างก้อน
            ั
      เพียงเล็กน้อย มองดูคล้ายฝูงแกะ คล้ายเมฆเซอโรคิวมูลส แต่ขนาดใหญ่กว่ามาก
                                                         ั
เมฆชันสู ง มีความสู งทีระดับตังแต่ 6 กิโลเมตรขึนไป มี 3 ชนิด ได้แก่




เซอโรสเตรตัส (Cirrostratus) : เมหแผ่นบางๆ สี ขาว โปร่ งแสง เป็ นผลึกนําแข็ง มักปกคลุมท้องฟ้ า
           เป็ นบริ เวณกว้าง และทําให้เกิดดวงอาทิตย์หรื อดวงจันทร์ ทรงกลด




เซอโรคิวมูลส (Cirrocumulus) : เมฆสี ขาว มีลกษณะคล้ายเกล็ดบางๆ หรื อระลอกคลืนเล็กๆ เป็ น
           ั                               ั
                   ผลึกนําแข็ง โปร่ งแสง และเรี ยงรายกันเป็ นระเบียบ
เซอรัส (Cirrus) : เมฆริ ว สี ขาว โปร่ งแสง และเป็ นผลึกนําแข็ง ลักษณะคล้ายขนนกเพราะถูก
                         กระแสลมชัดบนพัด มักเกิดขึนเวลาทีสภาพอากาศดี


การเกิดนําฟา
           ้

         นําฟ้ า (precipitation) ต้องเกิดจากเมฆ ถ้าไม่มีเมฆจะไม่มีนาฟ้ า แต่เมือมีเมฆไม่จาเป็ นต้องมีนา
                                                                   ํ                     ํ            ํ
ฟ้ าเสมอไป นําฟ้ าเกิดจากการรวมตัวกันของเม็ดเมฆ (clound droplet) ซึ งมีขนาดเล็กมาก 0.1-0.2
มิลลิเมตร หรื อ 10-20 ไมครอน จํานวนเป็ นล้านเม็ด เม็ดเมฆขนาด 10-20 ไมครอนนีจะยังไม่ตกลงสู่
พืนดิน เนืองจากมีกระแสลมพัดขึนแนวตังคอยต้านไว้ไม่ให้ตกลงมาต่อเมือเม็ดเมฆรวมตัวกันโตจนมี
ขนาด เส้นผ่านศูนย์กลางถึง 1 มิลลิเมตร หรื อ 1,000 ไมครอน หรื อใหญ่กว่านีมันจะตกลงมาจากเมฆ
สภาวะของนําฟ้ าทีตกลงมาจากท้องฟ้ า อาจจะเป็ นลักษณะของ ฝน หิ มะ ฝนละออง หรื อ ลูกเห็บ การที
                                         ่ ั
นําฟ้ าจะตกลงมาเป็ นสถานะใดขึนอยูกบอุณหภูมิของอากาศ

          กระบวนการของหยดนําขนาดเล็ก ผลึกนําแข็งขนาดเล็กให้มีขนาดใหญ่ขึนจนเป็ นฝนหิ มะ
หรื อ ลูกเห็บ มีอยู่ 2 กระบวนการ คือ

        1. กระบวนการชนกันและรวมตัวกัน (collision-coalescence process)

       ในก้อนเมฆก้อนหนึงจะเม็ดเมฆขนาดต่าง ๆ หลายขนาด เม็ดเมฆขนาดใหญ่มีอตราความเร็ ว
                                                                              ั
มากกว่าขนาดเล็ก เม็ดเมฆจึงเคลือนทีเข้าชนขนาดเล็กในทางเดินของมัน โดยเหตุนีเม็ดขนาดใหญ่และ
เล็กจึงชนกันเกิดการรวมตัวมีขนาดใหญ่ยงขึน เมือมีขนาดใหญ่มากก็อาจแยกออกเป็ นขนาดกลาง มีการ
                                            ิ
วิงชนกันกลายเป็ นเม็ดนําขนาดใหญ่ขึน กระบวนการนีเกิดขึนอย่างรวดเร็ วและต่อเนืองเรื อย ๆ เป็ น
ปฏิกิริยาลูกโซ่ จนได้นาฟ้ าจํานวนมากตกลงจากเมฆ ลักษณะเช่นนีจะเกิดจากเมฆทีมีอุณหภูมิสูงกว่า 0
                       ํ
องศาเซลเซี ยส เป็ นเมฆอุ่นจึงเรี ยกนําฟ้ าทีเกิดจากเมฆชนิดนีว่า นําฟ้ าจากเมฆอุ่น (warm-cloud
precipitation) มักเกิดในแถบโซนร้อน

        2. กระบวนการเบอร์ เจอรอน (Bergeron process)

         กระบวนการนี จะเกิดในเมฆเย็นซึ งประกอบด้วยผลึกนําแข็ง ไอนํา และนําปนกันอยู่ ซึงทัง 3
              ่ ้
สภาวะจะอยูดวยกันในเมฆทีมีอุณหภูมิตากว่า 0 องศาเซลเซี ยส โดยนําทีมีอุณหภูมิตากว่า 0 องศา
                                          ํ                                        ํ
                                                              ่
เซลเซี ยสเรี ยกว่า นําเย็นยิงยวด (supercooled water) ซึ งมีอยูในธรรมชาติเสมอและเป็ นปรากฏการณ์
ธรรมดา หยดนําเย็นยิงยวดนี มีการรวมตัวกับผลึกนําแข็งขนาดเล็กให้มีขนาดใหญ่ขึน ๆ เนืองจากความ
ดันไอนําอิมตัวในนําแข็งมีค่าน้อยกว่านํา ดังนันหยดนําจึงมีการควบแน่นบนนําแข็งและทําให้ผลึกมี
ขนาดใหญ่ขึน เมือผลึกนําแข็งโตพอก็จะตกจากเมฆ เป็ นหิ มะ แต่ถาอุณหภูมิของบรรยากาศสู งกว่า 0
                                                                   ้
องศาเซลเซี ยส ก็อาจตกลงเป็ นฝนได้ การเกิดนําฟ้ าแบบนีเกิดจากเมฆเย็น จึงเรี ยกว่านําฟ้ าจากเมฆเย็น
(cold-clod precipitation) มีนกวิทยาศาสตร์ ทีเกียวข้องในการค้นพบกระบวนการนี 3 ท่าน คือ อัลเฟรด
                               ั
เวกเนอร์ (Alfred Wegener) ฟิ นเดเซน (Findeisen) และเบอร์ เจอรอน (Bergeron) บางครังจึงเรี ยก
กระบวนการนี ว่า กระบวนการเวกเนอร์ -เบอร์ เจอรอน-ฟิ นเดเซน (Wegener-Bergeron-Findeisen
process)

        หยาดนําฟา หมายถึง นําทีอยูในสถานะของแข็งหรื อของเหลวทีตกมาจากบรรยากาศสู่
                  ้                   ่
พืนโลก หรื ออาจกล่าวได้วา หยาดนําฟ้ าเป็ นส่ วนหนึงของวัฏจักรของนําทีตกลงมาสู่ พืนโลกใน
                           ่
รู ปแบบต่าง ๆ ได้แก่ ฝน หิ มะ ลูกเห็บ นําค้าง นําค้างแข็ง และหมอก

         ลูกเห็บ และหิมะ
         ตอนบนของเมฆคิวมูโลนิมบัสและเมฆอัลโตสเตรตัสมีอุณหภูมิตากว่าจุดเยือกแข็ง ไอนําส่ วน
                                                                   ํ
           ่
ใหญ่จะอยูในรู ปของผลึกนําแข็ง และเนืองจากตรงกลางของก้อนเมฆมีอุณหภูมิสูงกว่า ผลึก
นําแข็งทีเคลือนทีขึนลงระหว่างชันของก้อนเมฆจึงถูกหุ มด้วยหยดนําทีมีความเย็นจัด ผลึกนําแข็ง
                                                   ้
ทีหุ มด้วยหยดนําเหล่านีจึงมีขนาดโตขึนเรื อย ๆ จนหนักพอทีจะตกผ่านกระแสลมทีพัดสวนทางขึน
     ้
ไป และตามทางทีตกลงมา ถ้าอุณหภูมิของอากาศบริ เวณพืนผิวโลกตํากว่าจุดเยือกแข็ง ผลึกนําแข็งที
ตกลงมาจะตกลงมาในรู ปของ หิมะ (Snow) แต่ถาอากาศเหนือพืนผิวโลกอุ่น ผลึกนําแข็งจะหลอมเหลว
                                              ้
กลายเป็ น หยดนําฝน (Rain) และถ้ากระแสอากาศพัดขึนค่อนข้างแรงผลึกนําแข็งอาจเคลือนทีขึนลงใน
ก้อนเมฆหลายรอบ ระหว่างเคลือนทีขึนลงนี ผลึกนําแข็งจะมีขนาดโตขึนเรื อย ๆในทีสุ ดก็จะตกลงมา
เป็ น ลูกเห็บ (Hail)
           ลูกเห็บ คือ ก้อนนําแข็งทีเกิดจากกระแสอากาศแรงในเมฆจะพาหยดนําฝนขึนไปแข็งตัวใน
ระดับสู งเกิดเป็ นก้อนนําแข็ง ก้อนนําแข็งก็จะถูกพอกตัวใหญ่ขึน ในทีสุ ดก็จะตกลงมาเป็ นลูกเห็บ บาง
ทีอาจมีขนาดใหญ่เท่าลูกเทนนิส
         ลูกเห็บเกิดจากทีสู งมากจากพืนโลก กระแสลมแรงพัดพาเม็ดฝนขึนไปในกลุ่มเมฆทีฟ้ าคะนอง
ในทีสู งอากาศเย็นมากทําให้เม็ดฝนแข็งตัว ยิงขึนไปสู งยังมีเกร็ ดหิ มะเข้ามาเกาะเม็ดนําแข็ง ครันตกลง
มาอีกส่ วนล่างของกลุ่มเมฆซึ งเย็นน้อยกว่าด้านบน ความชืนเข้าไปห่อหุ มเม็ดนําแข็ง แล้วกระแสลมก็
                                                                        ้
พัดเอาเม็ดนําแข็งกลับขึนไปด้านบนของกลุ่มเมฆอีก ทีอุณหภูมิความชืนรอบ ๆ เม็ดนําแข็งพอกเพิมเข้า
ไปอีกชันหนึง เม็ดนําแข็งก็โตขึนอีกนิด
        เม็ดนําแข็งลอยสู งแล้วตกลงมา วนซําไปมาหลายครังในกลุ่มเมฆ ในขณะเดียวกันเม็ดนําแข็ง
สะสมความชืนทีด้านล่าง ซึ งต่อไปจะแข็งตัวในทีสู งเย็น ด้วยกระบวนการเช่นนี เม็ดนําแข็งก็ใหญ่ขึน
ทุกที เมือใดทีมันใหญ่กว่ากระแสลมพายุจะพยุงมันไว้ได้ มันก็จะตกจากอากาศลงยังพืนดิน เรี ยกว่า
ลูกเห็บ ถ้าเราทุบก้อนลูกเห็บโต ๆ ทีเพิงตกถึงพืนให้แตกครึ ง เราจะเห็นภายในลักษณะเป็ นวงชัน
นําแข็ง ซึ งแสดงถึงการก่อเกิดลูกเห็บ




      หมอก นําค้ าง และนําค้ างแข็ง
      หมอก เป็ นเมฆในระดับตําชนิดหนึงทีประกอบด้วยอานุภาคของละอองหยดนําทีมี
ขนาดใหญ่กว่าละอองหยดนําในเมฆ หมอกเกิดจากอากาศชืนเย็นตัวและลอยตําใกล้พนผิวโลก
                                                                     ื
ในขณะทีเมฆเกิดจากอากาศชืนเย็นตัวในระดับสู งจากพืนผิวโลก
นําค้ าง เกิดจากการกลันตัวของไอนําใน
อากาศทีระดับพืนผิวโลก ทังนีเพราะอุณหภูมิ
ของอากาศตําลง อากาศไม่สามารถรับไอนําได้
ทังหมดอีกต่อไป เรี ยกอุณหภูมินีว่า จุดนําค้ าง
และถ้าอากาศยังคงเย็นลงต่อไปเรื อย ๆ
จนกระทังลดตําลงจนถึง จุดเยือกแข็ง จะทําให้
เกิดเป็ น นําค้ างแข็ง เกาะตามพืชหรื อพืนผิวโลก
ทัวไป                                                นําค้ างแข็งทีเกาะอยู่บนกลีบดอกไม้ มลกษณะ
                                                                                         ีั
                                                     เหมือนกับนําตาลทีเคลือบบนขนม
ผลกระทบและภัยอันตรายจากพายุฝนฟาคะนอง      ้
          ปรากฏการณ์ทางลมฟ้ าอากาศ
มีผลกระทบต่อมนุษย์และสิ งแวดล้อม
ในช่วงระหว่างกลางเดือนพฤษภาคม
ถึงกลางเดือนตุลาคม ของทุกปี ประเทศต่าง ๆ
     ่
มีอยูในแทบเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้มกได้รับ
                                        ั
ความเสี ยหายจากอิทธิ พลของลมมรสุ ม
ตะวันตกเฉี ยงใต้ดงนี  ั
          1) ปัญหาปริมาณฝนทีมากเกินไป ทําให้ระดับนําในแหล่งนําต่าง ๆ สู งเอ่อจนล้นเข้าไปใน
ทุ่งนา แหล่งเกษตรกรรม อาคารบ้านเรื อน และสถานทีก่อสร้างสําคัญ ๆ ก่อให้เกิดความเสี ยหาย
อย่างมาก
          2) ทําให้ เกิดนําท่ วมฉลับพลัน ซึ งเป็ นภาวะนําท่วมทีเกิดขึนอย่างรวดเร็ ว และเป็ นอันตราย
อย่างยิง เนืองจากประชาชนไม่รู้ตวมาก่อน นําฝนทีมีปริ มาณมากมายจะไหลมารวมกันบริ เวณที
                                    ั
ราบตําและแม่นาต่าง ๆ และเกิดการไหลของนําอย่างเชียวกรากทําให้เกิดความเสี ยหายแก่บานเรื อน
                  ํ                                                                          ้
ถนน ต้นไม้ และเขือน
ปรากฏการทางลมฟ้าอากาศ

Contenu connexe

Tendances

การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืช
การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืชการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืช
การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืชdnavaroj
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2dnavaroj
 
วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2
วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2
วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2dnavaroj
 
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3Jariya Jaiyot
 
เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสียงกับการได้ยิน ป.5
เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสียงกับการได้ยิน ป.5เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสียงกับการได้ยิน ป.5
เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสียงกับการได้ยิน ป.5Wuttipong Tubkrathok
 
สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวkroojaja
 
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 1
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 1เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 1
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 1Tanchanok Pps
 
มิวเทชัน (Mutation)
มิวเทชัน (Mutation)มิวเทชัน (Mutation)
มิวเทชัน (Mutation)Wan Ngamwongwan
 
2.ทำงานเซลล์ประสาท
2.ทำงานเซลล์ประสาท2.ทำงานเซลล์ประสาท
2.ทำงานเซลล์ประสาทWichai Likitponrak
 
ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2Weerachat Martluplao
 
โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3Wuttipong Tubkrathok
 
ตัวอย่างข้อสอบ Gsp งานศิลปะหัตกรรม ปีการศึกษา 2552
ตัวอย่างข้อสอบ Gsp งานศิลปะหัตกรรม ปีการศึกษา 2552ตัวอย่างข้อสอบ Gsp งานศิลปะหัตกรรม ปีการศึกษา 2552
ตัวอย่างข้อสอบ Gsp งานศิลปะหัตกรรม ปีการศึกษา 2552waranyuati
 
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system kasidid20309
 
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์oraneehussem
 
กระบวนการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
กระบวนการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมกระบวนการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
กระบวนการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมJariya Jaiyot
 
กำเนิดสปีชีส์
กำเนิดสปีชีส์กำเนิดสปีชีส์
กำเนิดสปีชีส์Wan Ngamwongwan
 

Tendances (20)

โครงสร้างเซลล์ (Cell Structure)
โครงสร้างเซลล์ (Cell Structure)โครงสร้างเซลล์ (Cell Structure)
โครงสร้างเซลล์ (Cell Structure)
 
การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืช
การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืชการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืช
การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืช
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
 
สาวน้อยนักกายกรรม
สาวน้อยนักกายกรรมสาวน้อยนักกายกรรม
สาวน้อยนักกายกรรม
 
วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2
วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2
วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2
 
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
 
เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสียงกับการได้ยิน ป.5
เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสียงกับการได้ยิน ป.5เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสียงกับการได้ยิน ป.5
เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสียงกับการได้ยิน ป.5
 
สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
 
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 1
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 1เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 1
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 1
 
มิวเทชัน (Mutation)
มิวเทชัน (Mutation)มิวเทชัน (Mutation)
มิวเทชัน (Mutation)
 
2.ทำงานเซลล์ประสาท
2.ทำงานเซลล์ประสาท2.ทำงานเซลล์ประสาท
2.ทำงานเซลล์ประสาท
 
ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2
 
1111111111111111111
11111111111111111111111111111111111111
1111111111111111111
 
ภูเขาไฟ
ภูเขาไฟภูเขาไฟ
ภูเขาไฟ
 
โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3
 
ตัวอย่างข้อสอบ Gsp งานศิลปะหัตกรรม ปีการศึกษา 2552
ตัวอย่างข้อสอบ Gsp งานศิลปะหัตกรรม ปีการศึกษา 2552ตัวอย่างข้อสอบ Gsp งานศิลปะหัตกรรม ปีการศึกษา 2552
ตัวอย่างข้อสอบ Gsp งานศิลปะหัตกรรม ปีการศึกษา 2552
 
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
 
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
 
กระบวนการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
กระบวนการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมกระบวนการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
กระบวนการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
 
กำเนิดสปีชีส์
กำเนิดสปีชีส์กำเนิดสปีชีส์
กำเนิดสปีชีส์
 

Similaire à ปรากฏการทางลมฟ้าอากาศ

การวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝนการวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝนdnavaroj
 
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศSupaluk Juntap
 
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64Wichai Likitponrak
 
9789740336686
97897403366869789740336686
9789740336686CUPress
 
การแบ่งเขตภูมิอากาศ
การแบ่งเขตภูมิอากาศการแบ่งเขตภูมิอากาศ
การแบ่งเขตภูมิอากาศพัน พัน
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงWannaporn Sukthawee
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงWannaporn Sukthawee
 
พายุหมุนเขตร้อน
พายุหมุนเขตร้อนพายุหมุนเขตร้อน
พายุหมุนเขตร้อนdnavaroj
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงWannaporn Sukthawee
 
บรรยากาศ
บรรยากาศบรรยากาศ
บรรยากาศSupaluk Juntap
 
อุณหภูมิของอากาศ
อุณหภูมิของอากาศอุณหภูมิของอากาศ
อุณหภูมิของอากาศKhwankamon Changwiriya
 
โครงการในพระราชดำริฝนหลวง
โครงการในพระราชดำริฝนหลวงโครงการในพระราชดำริฝนหลวง
โครงการในพระราชดำริฝนหลวงTanwalai Kullawong
 
พายุฟ้าคะนอง
พายุฟ้าคะนองพายุฟ้าคะนอง
พายุฟ้าคะนองdnavaroj
 
หนังสือเล่มเล็ก พร้อม ปริ้น ใหม่
หนังสือเล่มเล็ก พร้อม ปริ้น ใหม่หนังสือเล่มเล็ก พร้อม ปริ้น ใหม่
หนังสือเล่มเล็ก พร้อม ปริ้น ใหม่0857099227
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงWannaporn Sukthawee
 

Similaire à ปรากฏการทางลมฟ้าอากาศ (20)

Sci31101 cloud
Sci31101 cloudSci31101 cloud
Sci31101 cloud
 
การวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝนการวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝน
 
_cloud__rain.pptx
_cloud__rain.pptx_cloud__rain.pptx
_cloud__rain.pptx
 
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
 
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
 
Sci31101 rain
Sci31101 rainSci31101 rain
Sci31101 rain
 
เอกสารประกอบการติวo net57 สพฐ. วิทยาศาสตร์ป.6
เอกสารประกอบการติวo net57 สพฐ. วิทยาศาสตร์ป.6เอกสารประกอบการติวo net57 สพฐ. วิทยาศาสตร์ป.6
เอกสารประกอบการติวo net57 สพฐ. วิทยาศาสตร์ป.6
 
9789740336686
97897403366869789740336686
9789740336686
 
การแบ่งเขตภูมิอากาศ
การแบ่งเขตภูมิอากาศการแบ่งเขตภูมิอากาศ
การแบ่งเขตภูมิอากาศ
 
วาตภัย
วาตภัยวาตภัย
วาตภัย
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวง
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวง
 
พายุหมุนเขตร้อน
พายุหมุนเขตร้อนพายุหมุนเขตร้อน
พายุหมุนเขตร้อน
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวง
 
บรรยากาศ
บรรยากาศบรรยากาศ
บรรยากาศ
 
อุณหภูมิของอากาศ
อุณหภูมิของอากาศอุณหภูมิของอากาศ
อุณหภูมิของอากาศ
 
โครงการในพระราชดำริฝนหลวง
โครงการในพระราชดำริฝนหลวงโครงการในพระราชดำริฝนหลวง
โครงการในพระราชดำริฝนหลวง
 
พายุฟ้าคะนอง
พายุฟ้าคะนองพายุฟ้าคะนอง
พายุฟ้าคะนอง
 
หนังสือเล่มเล็ก พร้อม ปริ้น ใหม่
หนังสือเล่มเล็ก พร้อม ปริ้น ใหม่หนังสือเล่มเล็ก พร้อม ปริ้น ใหม่
หนังสือเล่มเล็ก พร้อม ปริ้น ใหม่
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวง
 

Plus de dnavaroj

เอกสารประกอบการอบรม Analysis
เอกสารประกอบการอบรม Analysisเอกสารประกอบการอบรม Analysis
เอกสารประกอบการอบรม Analysisdnavaroj
 
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรีย...
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา  โรงเรีย...บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา  โรงเรีย...
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรีย...dnavaroj
 
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559dnavaroj
 
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...dnavaroj
 
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.dnavaroj
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5   2558แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5   2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558dnavaroj
 
Science.m.3.2
Science.m.3.2Science.m.3.2
Science.m.3.2dnavaroj
 
Science.m.3.1
Science.m.3.1Science.m.3.1
Science.m.3.1dnavaroj
 
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)dnavaroj
 
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้dnavaroj
 
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้dnavaroj
 
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกันการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกันdnavaroj
 
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่าการยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่าdnavaroj
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมdnavaroj
 
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมแบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมdnavaroj
 
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศแบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศdnavaroj
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5  (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5  (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)dnavaroj
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)dnavaroj
 
Project pohpanpunya somdejyan
Project pohpanpunya somdejyanProject pohpanpunya somdejyan
Project pohpanpunya somdejyandnavaroj
 
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน    หน่วย งานและพลังงานแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน    หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงานdnavaroj
 

Plus de dnavaroj (20)

เอกสารประกอบการอบรม Analysis
เอกสารประกอบการอบรม Analysisเอกสารประกอบการอบรม Analysis
เอกสารประกอบการอบรม Analysis
 
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรีย...
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา  โรงเรีย...บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา  โรงเรีย...
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรีย...
 
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
 
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
 
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5   2558แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5   2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
 
Science.m.3.2
Science.m.3.2Science.m.3.2
Science.m.3.2
 
Science.m.3.1
Science.m.3.1Science.m.3.1
Science.m.3.1
 
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
 
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
 
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
 
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกันการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
 
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่าการยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
 
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมแบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
 
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศแบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5  (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5  (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
 
Project pohpanpunya somdejyan
Project pohpanpunya somdejyanProject pohpanpunya somdejyan
Project pohpanpunya somdejyan
 
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน    หน่วย งานและพลังงานแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน    หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
 

ปรากฏการทางลมฟ้าอากาศ

  • 1. ใบความรู้ เรือง ปรากฏการณ์ ทางลมฟาอากาศ ้ ปรากฏการทางลมฟาอากาศ ้ ลมฟ้ าอากาศ คือ สภาวะของบนพืนทีใด ๆ ในช่วงเวลาหนึง ส่ วน ภูมิอากาศ คือ สภาวะ โดยทัวไปของลมฟ้ าอากาศบนพืนทีใด ๆ ในช่วงเวลานาน ๆ ลมฟ้ าอากาศหรื อภูมิอากาศมีส่วน เกียวข้องกับกิจกรรมในชีวตประจําวัน การทราบข้อมูลข่าวสารเกียวกับภูมิอากาศจะมีส่วนช่วยเหลือ ิ ่ เกษตรกรในการเลือกชนิดหรื อพันธุ์พืชทีต้องการปลูกให้ได้ผลดี การสร้างบ้านเรื อนทีอยูอาศัยให้ เหมาะสมกับสภาพอากาศ ทิศทางลม หรื อทิศทางทีได้รับแสงอาทิตย์ เมือนําจากแหล่งนําต่าง ๆ ได้รับพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ จะระเหยกลายเป็ นไอนํา ลอยขึนไปในอากาศ ทําให้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติต่าง ๆ ขึน ่ หมอก (fog) เกิดจากไอนําในอากาศกลันตัวเป็ นหยดนํา ลอยอยูในอากาศใกล้พนโลก โดย ื ขนาดของไอนําจะมีขนาดใหญ่กว่าหยดนําในเมฆ นําค้าง (dew) เกิดจากไอนํากลันตัวเป็ นหยดนําเล็ก ๆ เนืองจากอุณหภูมิทีลดลงในตอนกลางคืน ทําให้อากาศอิมตัว โดยอุณหภูมิลดลงจนกระทังอากาศไม่สามารถรับไอนําได้อีกต่อไป ลูกเห็บ (hail) เกิดจากไอนํากกลันตัวเป็ นหยดนํา แล้วถูกพายะหอบสู งขึนไปในระดับความสู ง ทีมีอุณหภูมิของอากาศเย็นจัด หยดนําจะกลายเป็ นเกล็ดนําแข็ง มีขนาดใหญ่ และมีนาหนักมากจน ํ อากาศไม่สามารถอุมไว้ได้จึงตกลงมา บางครังเกล็ดนําแข็งนันอาจถูกพายุหอบขึนไปกระทบความเย็น ้ ในบรรยากาศระดับสู งอีกก่อนตกถึงพืน ทําให้เกล็ดนําแข็งหรื อลูกเห็บมีขนาดใหญ่ขึน หิ มะ (snow) เกิดจากไอนําได้รับความเย็นจัด ควบแน่นเป็ นละอองนําแข็งตกลงสู่ พืน ฝน(Rain) เกิดจากละอองนําในก้อมเมฆซึ งเย็นจัดลง ไอนํากลันตัวเป็ นละอองนําเกาะกันมาก ่ และหนักขึนจนลอยอยูไม่ได้ และตกลงมาด้วยแรงดึงดูดของโลก
  • 2. ปริ มาณนําฝน หมายถึง ระดับความลึกของนําฝนในภาชนะทีรองรับนําฝน เครื องมือปริ มาณ นําฝนเรี ยกว่า เครื องวัดนําฝน (rain gauge) เมฆ เมฆคือ ละอองนําและเกล็ดนําแข็งทีรวมตัวกันเป็ นกลุ่มก้ อนลอยตัวอยู่ในชั นบรรยากาศทีเรา สามารถมองเห็นได้ ไอนําทีควบแน่ นเป็ นละอองนํา (โดยปกติแล้วจะมีขนาด 0.01 มม) หรื อเป็ นเกล็ดนําแข็ง ซึงเมือเกาะตัวกันเป็ นกลุ่มจะเห็นเป็ นก้อนเมฆ ก้อนเมฆนีจะสะท้อนคลืนแสงในแต่ละความยาวคลืนในช่วงทีตา มองเห็นได้ ในระดับทีเท่าๆ กัน จึงทําให้เรามองเห็นก้อนเมฆนันเป็ นสี ขาว แต่ กสามารถมองเห็นเป็ นสี เทาหรือสี ็ ดําถ้ าหากเมฆนันมีความหนาแน่ นสู งมากจนแสงผ่ านไม่ ได้ การแบ่ งประเภทและ ชนิดของเมฆ เมฆแบ่งได้เป็ น 10 ชนิด ตามรู ปร่ างลักษณะและระดับความสู งเหนือพืนดินของฐานเมฆ ซึ ง แบ่งได้เป็ น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ เมฆชันตํา, เมฆชันกลาง และเมฆชันสู ง เมฆชันตํา มีความสู งของฐานเมฆเหนือพืนดินไม่เกิน 2 กิโลเมตร เมฆทีจัดอยูในกลุ่มนี มี ่ ทังหมด 5 ชนิด ประกอบด้วย สเตรตัส (Stratus) : เมฆแผ่นทีลอยไม่สูงมากนัก มักเกิดในตอนเช้าหรื อหลังฝนตก ถ้าลอยติดพืน จะเรี ยกว่า “หมอก”
  • 3. คิวมูลส (Cumulus) : เป็ นเมฆก้อนปุกปุย สี ขาว รู ปทรงคล้ายดอกกะหลํา มักก่อตัวในแนวดิง ลอย ั กระจายห่างกัน และเกิดขึนเวลาทีสภาพอากาศแจ่มใสดี นิมโบสเตรตัส (Nimbostratus) : เมฆสี เทา ทําให้เกิดฝนพรํา และมักปรากฏสายฝนจากฐานเมฆ
  • 4. คิวมูโลนิมบัส (Cumolonimbus) : ก้อนเมฆฝนขนาดใหญ่ยกษ์ มีรูปทรงคล้ายดอกกะหลําและก่อตัว ั ในแนวตังเช่นกัน ทําให้เกิดพายุฝนฟ้ าคะนอง หากลมชันบนพัดแรง ยอดเมฆจะแผ่ออกคล้ายทัง สเตรโตคิวมูลส (Stratocumulus) : เมฆก้อนทีไม่มีรูปทรงชัดเจน มักมีสีเทา ลอยตํา ติดกันเป็ นแพ ั และมีช่องว่างระหว่างก้อนแค่เพียงเล็กน้อยเท่านัน มักพบเห็นเมือสภาพอากาศไม่ค่อยดีนก ั
  • 5. เมฆชันกลาง มีระดับความสู งของฐานเมฆตังแต่ 2-6 กิโลเมตร มี 2 ชนิด คือ อัลโตสเตรตัส (Altostratus) : เมฆแผ่นหนาสี เทาทีปกคลุมท้องฟ้ าเป็ นบริ เวณกว้าง บางครังหนา มากจนบดบังแสงอาทิตย์ได้ อัลโตคิวมูลส (Altocumulus) : เมฆก้อนสี ขาว ลอยเป็ นแพห่างกันไม่มาก มีช่องว่างระหว่างก้อน ั เพียงเล็กน้อย มองดูคล้ายฝูงแกะ คล้ายเมฆเซอโรคิวมูลส แต่ขนาดใหญ่กว่ามาก ั
  • 6. เมฆชันสู ง มีความสู งทีระดับตังแต่ 6 กิโลเมตรขึนไป มี 3 ชนิด ได้แก่ เซอโรสเตรตัส (Cirrostratus) : เมหแผ่นบางๆ สี ขาว โปร่ งแสง เป็ นผลึกนําแข็ง มักปกคลุมท้องฟ้ า เป็ นบริ เวณกว้าง และทําให้เกิดดวงอาทิตย์หรื อดวงจันทร์ ทรงกลด เซอโรคิวมูลส (Cirrocumulus) : เมฆสี ขาว มีลกษณะคล้ายเกล็ดบางๆ หรื อระลอกคลืนเล็กๆ เป็ น ั ั ผลึกนําแข็ง โปร่ งแสง และเรี ยงรายกันเป็ นระเบียบ
  • 7. เซอรัส (Cirrus) : เมฆริ ว สี ขาว โปร่ งแสง และเป็ นผลึกนําแข็ง ลักษณะคล้ายขนนกเพราะถูก กระแสลมชัดบนพัด มักเกิดขึนเวลาทีสภาพอากาศดี การเกิดนําฟา ้ นําฟ้ า (precipitation) ต้องเกิดจากเมฆ ถ้าไม่มีเมฆจะไม่มีนาฟ้ า แต่เมือมีเมฆไม่จาเป็ นต้องมีนา ํ ํ ํ ฟ้ าเสมอไป นําฟ้ าเกิดจากการรวมตัวกันของเม็ดเมฆ (clound droplet) ซึ งมีขนาดเล็กมาก 0.1-0.2 มิลลิเมตร หรื อ 10-20 ไมครอน จํานวนเป็ นล้านเม็ด เม็ดเมฆขนาด 10-20 ไมครอนนีจะยังไม่ตกลงสู่ พืนดิน เนืองจากมีกระแสลมพัดขึนแนวตังคอยต้านไว้ไม่ให้ตกลงมาต่อเมือเม็ดเมฆรวมตัวกันโตจนมี ขนาด เส้นผ่านศูนย์กลางถึง 1 มิลลิเมตร หรื อ 1,000 ไมครอน หรื อใหญ่กว่านีมันจะตกลงมาจากเมฆ สภาวะของนําฟ้ าทีตกลงมาจากท้องฟ้ า อาจจะเป็ นลักษณะของ ฝน หิ มะ ฝนละออง หรื อ ลูกเห็บ การที ่ ั นําฟ้ าจะตกลงมาเป็ นสถานะใดขึนอยูกบอุณหภูมิของอากาศ กระบวนการของหยดนําขนาดเล็ก ผลึกนําแข็งขนาดเล็กให้มีขนาดใหญ่ขึนจนเป็ นฝนหิ มะ หรื อ ลูกเห็บ มีอยู่ 2 กระบวนการ คือ 1. กระบวนการชนกันและรวมตัวกัน (collision-coalescence process) ในก้อนเมฆก้อนหนึงจะเม็ดเมฆขนาดต่าง ๆ หลายขนาด เม็ดเมฆขนาดใหญ่มีอตราความเร็ ว ั มากกว่าขนาดเล็ก เม็ดเมฆจึงเคลือนทีเข้าชนขนาดเล็กในทางเดินของมัน โดยเหตุนีเม็ดขนาดใหญ่และ
  • 8. เล็กจึงชนกันเกิดการรวมตัวมีขนาดใหญ่ยงขึน เมือมีขนาดใหญ่มากก็อาจแยกออกเป็ นขนาดกลาง มีการ ิ วิงชนกันกลายเป็ นเม็ดนําขนาดใหญ่ขึน กระบวนการนีเกิดขึนอย่างรวดเร็ วและต่อเนืองเรื อย ๆ เป็ น ปฏิกิริยาลูกโซ่ จนได้นาฟ้ าจํานวนมากตกลงจากเมฆ ลักษณะเช่นนีจะเกิดจากเมฆทีมีอุณหภูมิสูงกว่า 0 ํ องศาเซลเซี ยส เป็ นเมฆอุ่นจึงเรี ยกนําฟ้ าทีเกิดจากเมฆชนิดนีว่า นําฟ้ าจากเมฆอุ่น (warm-cloud precipitation) มักเกิดในแถบโซนร้อน 2. กระบวนการเบอร์ เจอรอน (Bergeron process) กระบวนการนี จะเกิดในเมฆเย็นซึ งประกอบด้วยผลึกนําแข็ง ไอนํา และนําปนกันอยู่ ซึงทัง 3 ่ ้ สภาวะจะอยูดวยกันในเมฆทีมีอุณหภูมิตากว่า 0 องศาเซลเซี ยส โดยนําทีมีอุณหภูมิตากว่า 0 องศา ํ ํ ่ เซลเซี ยสเรี ยกว่า นําเย็นยิงยวด (supercooled water) ซึ งมีอยูในธรรมชาติเสมอและเป็ นปรากฏการณ์ ธรรมดา หยดนําเย็นยิงยวดนี มีการรวมตัวกับผลึกนําแข็งขนาดเล็กให้มีขนาดใหญ่ขึน ๆ เนืองจากความ ดันไอนําอิมตัวในนําแข็งมีค่าน้อยกว่านํา ดังนันหยดนําจึงมีการควบแน่นบนนําแข็งและทําให้ผลึกมี ขนาดใหญ่ขึน เมือผลึกนําแข็งโตพอก็จะตกจากเมฆ เป็ นหิ มะ แต่ถาอุณหภูมิของบรรยากาศสู งกว่า 0 ้ องศาเซลเซี ยส ก็อาจตกลงเป็ นฝนได้ การเกิดนําฟ้ าแบบนีเกิดจากเมฆเย็น จึงเรี ยกว่านําฟ้ าจากเมฆเย็น (cold-clod precipitation) มีนกวิทยาศาสตร์ ทีเกียวข้องในการค้นพบกระบวนการนี 3 ท่าน คือ อัลเฟรด ั เวกเนอร์ (Alfred Wegener) ฟิ นเดเซน (Findeisen) และเบอร์ เจอรอน (Bergeron) บางครังจึงเรี ยก กระบวนการนี ว่า กระบวนการเวกเนอร์ -เบอร์ เจอรอน-ฟิ นเดเซน (Wegener-Bergeron-Findeisen process) หยาดนําฟา หมายถึง นําทีอยูในสถานะของแข็งหรื อของเหลวทีตกมาจากบรรยากาศสู่ ้ ่ พืนโลก หรื ออาจกล่าวได้วา หยาดนําฟ้ าเป็ นส่ วนหนึงของวัฏจักรของนําทีตกลงมาสู่ พืนโลกใน ่ รู ปแบบต่าง ๆ ได้แก่ ฝน หิ มะ ลูกเห็บ นําค้าง นําค้างแข็ง และหมอก ลูกเห็บ และหิมะ ตอนบนของเมฆคิวมูโลนิมบัสและเมฆอัลโตสเตรตัสมีอุณหภูมิตากว่าจุดเยือกแข็ง ไอนําส่ วน ํ ่ ใหญ่จะอยูในรู ปของผลึกนําแข็ง และเนืองจากตรงกลางของก้อนเมฆมีอุณหภูมิสูงกว่า ผลึก นําแข็งทีเคลือนทีขึนลงระหว่างชันของก้อนเมฆจึงถูกหุ มด้วยหยดนําทีมีความเย็นจัด ผลึกนําแข็ง ้ ทีหุ มด้วยหยดนําเหล่านีจึงมีขนาดโตขึนเรื อย ๆ จนหนักพอทีจะตกผ่านกระแสลมทีพัดสวนทางขึน ้ ไป และตามทางทีตกลงมา ถ้าอุณหภูมิของอากาศบริ เวณพืนผิวโลกตํากว่าจุดเยือกแข็ง ผลึกนําแข็งที ตกลงมาจะตกลงมาในรู ปของ หิมะ (Snow) แต่ถาอากาศเหนือพืนผิวโลกอุ่น ผลึกนําแข็งจะหลอมเหลว ้ กลายเป็ น หยดนําฝน (Rain) และถ้ากระแสอากาศพัดขึนค่อนข้างแรงผลึกนําแข็งอาจเคลือนทีขึนลงใน
  • 9. ก้อนเมฆหลายรอบ ระหว่างเคลือนทีขึนลงนี ผลึกนําแข็งจะมีขนาดโตขึนเรื อย ๆในทีสุ ดก็จะตกลงมา เป็ น ลูกเห็บ (Hail) ลูกเห็บ คือ ก้อนนําแข็งทีเกิดจากกระแสอากาศแรงในเมฆจะพาหยดนําฝนขึนไปแข็งตัวใน ระดับสู งเกิดเป็ นก้อนนําแข็ง ก้อนนําแข็งก็จะถูกพอกตัวใหญ่ขึน ในทีสุ ดก็จะตกลงมาเป็ นลูกเห็บ บาง ทีอาจมีขนาดใหญ่เท่าลูกเทนนิส ลูกเห็บเกิดจากทีสู งมากจากพืนโลก กระแสลมแรงพัดพาเม็ดฝนขึนไปในกลุ่มเมฆทีฟ้ าคะนอง ในทีสู งอากาศเย็นมากทําให้เม็ดฝนแข็งตัว ยิงขึนไปสู งยังมีเกร็ ดหิ มะเข้ามาเกาะเม็ดนําแข็ง ครันตกลง มาอีกส่ วนล่างของกลุ่มเมฆซึ งเย็นน้อยกว่าด้านบน ความชืนเข้าไปห่อหุ มเม็ดนําแข็ง แล้วกระแสลมก็ ้ พัดเอาเม็ดนําแข็งกลับขึนไปด้านบนของกลุ่มเมฆอีก ทีอุณหภูมิความชืนรอบ ๆ เม็ดนําแข็งพอกเพิมเข้า ไปอีกชันหนึง เม็ดนําแข็งก็โตขึนอีกนิด เม็ดนําแข็งลอยสู งแล้วตกลงมา วนซําไปมาหลายครังในกลุ่มเมฆ ในขณะเดียวกันเม็ดนําแข็ง สะสมความชืนทีด้านล่าง ซึ งต่อไปจะแข็งตัวในทีสู งเย็น ด้วยกระบวนการเช่นนี เม็ดนําแข็งก็ใหญ่ขึน ทุกที เมือใดทีมันใหญ่กว่ากระแสลมพายุจะพยุงมันไว้ได้ มันก็จะตกจากอากาศลงยังพืนดิน เรี ยกว่า ลูกเห็บ ถ้าเราทุบก้อนลูกเห็บโต ๆ ทีเพิงตกถึงพืนให้แตกครึ ง เราจะเห็นภายในลักษณะเป็ นวงชัน นําแข็ง ซึ งแสดงถึงการก่อเกิดลูกเห็บ หมอก นําค้ าง และนําค้ างแข็ง หมอก เป็ นเมฆในระดับตําชนิดหนึงทีประกอบด้วยอานุภาคของละอองหยดนําทีมี ขนาดใหญ่กว่าละอองหยดนําในเมฆ หมอกเกิดจากอากาศชืนเย็นตัวและลอยตําใกล้พนผิวโลก ื ในขณะทีเมฆเกิดจากอากาศชืนเย็นตัวในระดับสู งจากพืนผิวโลก
  • 10. นําค้ าง เกิดจากการกลันตัวของไอนําใน อากาศทีระดับพืนผิวโลก ทังนีเพราะอุณหภูมิ ของอากาศตําลง อากาศไม่สามารถรับไอนําได้ ทังหมดอีกต่อไป เรี ยกอุณหภูมินีว่า จุดนําค้ าง และถ้าอากาศยังคงเย็นลงต่อไปเรื อย ๆ จนกระทังลดตําลงจนถึง จุดเยือกแข็ง จะทําให้ เกิดเป็ น นําค้ างแข็ง เกาะตามพืชหรื อพืนผิวโลก ทัวไป นําค้ างแข็งทีเกาะอยู่บนกลีบดอกไม้ มลกษณะ ีั เหมือนกับนําตาลทีเคลือบบนขนม ผลกระทบและภัยอันตรายจากพายุฝนฟาคะนอง ้ ปรากฏการณ์ทางลมฟ้ าอากาศ มีผลกระทบต่อมนุษย์และสิ งแวดล้อม ในช่วงระหว่างกลางเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนตุลาคม ของทุกปี ประเทศต่าง ๆ ่ มีอยูในแทบเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้มกได้รับ ั ความเสี ยหายจากอิทธิ พลของลมมรสุ ม ตะวันตกเฉี ยงใต้ดงนี ั 1) ปัญหาปริมาณฝนทีมากเกินไป ทําให้ระดับนําในแหล่งนําต่าง ๆ สู งเอ่อจนล้นเข้าไปใน ทุ่งนา แหล่งเกษตรกรรม อาคารบ้านเรื อน และสถานทีก่อสร้างสําคัญ ๆ ก่อให้เกิดความเสี ยหาย อย่างมาก 2) ทําให้ เกิดนําท่ วมฉลับพลัน ซึ งเป็ นภาวะนําท่วมทีเกิดขึนอย่างรวดเร็ ว และเป็ นอันตราย อย่างยิง เนืองจากประชาชนไม่รู้ตวมาก่อน นําฝนทีมีปริ มาณมากมายจะไหลมารวมกันบริ เวณที ั ราบตําและแม่นาต่าง ๆ และเกิดการไหลของนําอย่างเชียวกรากทําให้เกิดความเสี ยหายแก่บานเรื อน ํ ้ ถนน ต้นไม้ และเขือน