โครงงาน
- 2. ชื่อโครงงาน น้ำสมุนไพรไล่แมลง
คณะผู้จัดทา นำย เอกธนำ เบญจปิยะพร
น.ส. วนิศำ ป้อมสุวรรณ
น.ส. ชลธิชำ แก่นสำ
อาจารย์ที่ปรึกษา นำย กิตติพงษ์ จรัญศิริไฟศำส
สถานที่ศึกษา โรงเรียนชุมแพศึกษำ
คานา
โครงงำนสมุนไพรไล่แมลงเรียบเรียงขึ้น
เพื่อประโยชน์ในกำรศึกษำและประโยชน์กับเกษตรกรและบุคคลทั่วไปที่สนใจนำน้ำสมุนไพรไล่แมลงไปใช้
ในกำรทำโครงงำนได้อธิบำยถึงประโยชน์ของ ใบสำบเสือ มะกรูด และ ตะไคร้หอม
เป็นขั้นตอนวิธีกำรทำน้ำสมุนไพรเหล่ำนี้มำประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์
ผู้จัดทำหวังว่ำโครงงำนฉบับนี้จะให้ประโยชน์แก่ผู้สนใจโดยทั่วไป
และโดยเฉพำะอย่ำงยิ่งเกษตรกรซึ่งสำมำรถนำไปใช้ประโยชน์ได้
เพื่อเป็นกำรลดทุนในกำรผลิตและยังไม่เป็นอันตรำยต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค
บทคัดย่อ
จำกโครงงำนเรื่องสมุนไพรไล่แมลงพบว่ำใบสำบเสือ ใบตะไคร้และผลมะกรูด
สำมำรถสกัดเป็นสมุนไพรไล่แมลงได้ แต่มีประสิทธิภำพในกำรกำจัดแมลงน้อย
เมื่อนำมำเปรียบเทียบประสิทธิภำพในกำรกำจัดมดและแมลง ใบสำบเสือที่ผสมกับเหล้ำขำว พริกแกง
มีประสิทธิภำพในกำรกำจัดมดและแมลงได้ดีกว่ำ ผลมะกรูดและตะไคร้หอม
- 5. 1. ประหยัดต้นทุนของเกษตรกร
2. ไม่ทำลำยสภำพแวดล้อมและธรรมชำติ
3. นำสมุนไพรใกล้ตัวมำประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์
4. ไม่มีอันตรำยกับเกษตรกรและผู้บริโภค
5. ลดสภำวะโลกร้อน
ขอบเขตการศึกษา
กำรจัดทำโครงงำนสมุนไพรไล่แมลงเมื่อศึกษำเกี่ยวกับใบสำบเสือ ใบตะไคร้หอม
และผลมะกรูดว่ำชนิดใดมีประสิทธิภำพในกำรไล่มดและแมลงได้ดีกว่ำกัน โดยศึกษำจำกกำรทดลอง
นำใบสำบเสือ ใบตะไคร้หอม และผลมะกรูด มำสกัดเอำแต่น้ำนำไปทำกำรทดลองกับแปลงนำข้ำวของเกษตรกร
และสังเกตผลที่ได้เพื่อกับกำรบันทึกผล
ตัวแปรต้น
-ใบสำบเสือ
- พริกแกง
-ผลมะกรูด
-ตะไคร้หอม
-เหล้ำขำว
ตัวแปรตาม
-กำรไล่แมลง
-กำรไล่มด
ตัวแปรควบคุม
-อัตรำส่วน
-ระยะเวลำ
-สถำนที่
- 6. บทที่ 2
เอกสำรที่เกี่ยวข้อง/ ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
สาบเสือ
ชื่ออื่น หญ้ำเสือหมอบ ( สุพรรณ - รำชบุรี –กำญจนบุรี ), รำเคย( ระนอง ),
ผักครำด บ้ำนร้ำง(รำชบุรี) ยี่สุ่นเถื่อน(สุรำษฎร์), ฝรั่งเหำะ, ฝรั่งรุกที่ (สุพรรณ) หญ้ำดอกขำว
( สุโขทัย - ระนอง ) หญ้ำเมืองวำย( พำยัพ ), พำทั้ง (เงี้ยว เชียงใหม่) หญ้ำดงรั้ง หญ้ำพระสิริไอสวรรค์ ( สระบุรี
),มุ้งกระต่ำย (อุดร ) หญ้ำลืมเมือง ( หนองคำย ),หญ้ำเลำฮ้ำง
( ขอนแก่น ) , สะพัง ( เลย ), หมำหลง( ศรีรำชำ - ชลฯ) นองเส้งเปรง ( กะเหรี่ยง เชียงใหม่) ,
ไช้ปู่กุ ( กะเหรี่ยง แม่ฮ่องสอน ) , หญ้ำเมืองฮ้ำง ,หญ้ำเหมือน( อิสำน) หญ้ำฝรั่งเศส , เบญจมำศ
( ตรำด ) , เซโพกวย (กะเหรี่ยง เชียงใหม่) , มนทน( เพชรบูรณ์) ;ปวยกีเช่ำ , เฮียงเจกลั้ง ( จีน )
ชื่อวิทยาศาสตร์ Eupatorium odoratum L. วงศ์ Compositae
- 7. ลักษณะต้น เป็นพืชปีเดียวตำย ต้นสูง 1- 3เมตร ก้ำนมีริ้วรอย ปกคลุมด้วยขน
ก้ำนและใบเอำมำขยี้จะมีกลิ่นแรง ใบออกตรงข้ำมกัน ลักษณะค่อนมำทำงรูปสำมเหลี่ยม ตัวใบยำว 3- 10 ซม.
ปลำยใบแหลม ฐำนใบกว้ำงใหญ่หรือ กลมๆ ขอบใบมีรอยหยักคล้ำยฟันขนำดใหญ่ มีขนปกคลุมทั้ง 2ด้ำน
ด้ำนท้องใบมีขนหนำแน่นกว่ำหลังใบ ดอกออกเป็นช่อลักษณะเป็นกระจุกคล้ำยร่ม ดอกสีขำวออกม่วง
มีดอกย่อยวงนอกเป็นเส้นสีขำวออกมำ1วงส่วนกลำงของช่อดอกเป็นดอกย่อยที่มีทั้งเกสนตัวผู้และเกสรตัวเมียใ
นดอกเดียวกัน กลีบดอกมีลักษณะเป็นหลอด ส่วยปลำยแยกออกเป็น 5 กลีบ ผลมีขนำดเล็ก มีห้ำเหลี่ยม
ส่วนปลำยมีขนช่วยพยุงให้ลอยไปตกได้ไกลๆออกดอกในฤดูหนำวมักพบตำมที่รกร้ำงทั่วไปชอบขึ้นตำมที่มีแส
งแดดมำกๆตำมทุ่งกว้ำง ริมถนน
การเก็บมาใช้ ก้ำนและใบ ใช้สด
สรรพคุณ
ก้ำน และใบ รสสุขุม ฉุนเล็กน้อย ใช้ฆ่ำแมลง
ห้ำมเลือดแก้แผลที่แมลงบำงชนิดกัดแล้วเลือดไหลไม่หยุด ใช้ใบสดตำพอกปำกแผล หรือ
อำจใช้ใบสดตำกับปูนกินหมำกพอกแผลห้ำมเลือดได้หรือใช้ใบสดขยี้ปิดปำกแผลเลือด ออกเล็กน้อยได้ดี
สาบเสือมีสรรพคุณทางยามากมายทั้งจากต้น ใบดอก ซึ่งสามารถจาแนกได้ดังนี้
ต้น เป็นยำแก้ปวดท้อง ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ แก้บวม ดูดหนอง
ใบ ใบของสำบเสือมีสำรสำคัญคือ กระอะนิสิก และฟลำโวนอยด์หลำยชนิด เช่น ไอโซซำกูรำนิติน
และโอโดรำติน นอกจำกนี้ยังมีสำรพวกน้ำมันหอมระเหย ซึ่งประกอบไปด้วยสำรยูพำทอล คูมำริน
โดยสำรสำคัญเหล่ำนี้จะไปออกฤทธิ์ที่ผนังเส้นเลือดทำให้เส้นเลือดหดตัวและนอกจำกนี้ยังมีฤทธิ์ไปกระตุ้นสำร
ที่ทำให้เลือดแข็งตัวได้เร็วขึ้น ทำให้สำมำรถห้ำมเลือดได้ใช้เป็นยำรักษำแผลสด สมำนแผล ถอนพิษแก้อักเสบ
แก้พิษน้ำเหลือง แก้ตำฟำง แก้ตำแฉะ แก้ริดสีดวงทวำรหนัก รักษำแผลเปื่อย
ดอก เป็นยำแก้ร้อนใน กระหำยน้ำ ชูกำลัง แก้อ่อนเพลีย บำรุงหัวใจ แก้ไข้
ทั้งต้น เป็นยำแก้บำดทะยัก
การแพร่กระจาย ขึ้นทั่วไปทั้งในสภำพดินชื้นหรือ แห้ง แพร่กระจำยในแหล่งปลูกพืชยืนต้นและที่รกร้ำง
ว่ำงเปล่ำ และตำมที่มีแสงแดดมำกๆ ขยำยพันธุ์ด้วยเมล็ด
ผลทางเภสัชวิทยา
น้ำต้มสกัดจำกใบและต้น
มีฤทธิ์กระตุ้นกำรบีบตัวของลำไส้เล็กที่แยกออกจำกตัวของหนูตะเภำแต่ลดกำรบีบตัวของลำไส้เล็กที่แยกออกจำ
- 8. กตัวของกระต่ำยน้ำต้มสกัดและผลึกสำรที่สกัดได้จำกต้นนี้ไม่มีผลอย่ำงเด่นชัดต่อมดลูกที่แยกออกจำกตัวของก
ระต่ำยหำกนำไปฉีดเข้ำช่องท้องของหนูเล็ก พบมีควำมเป็นพิษเพียงเล็กน้อย
สารเคมีที่พบ
ทั้งต้น มีน้ำมันระเหย ซึ่งประกอบด้วย Eupatol(22) , Coumarin ,d และI - Eupatene(1),Lupeol,b-
AmyrinและFlavoneSalvigenin ใบ มีCeryl alcohol ; a-,b-,g- Sitosterol (23) , Anisic acid , Trihydric alcohol
(C25 H34O5,m.p.278-280C) , Tannin , น้ำตำล (24) ,Isosakuranetin , Odoratin , (2/ - hydroxy- 4 , 4/ , 5/ ,6/ -
tetramethoxychalcone) , Acacetin (25)
ตะไคร้หอม
ชื่อท้องถิ่น ตะไคร้แดง จะไคมะขูด ตะไคร้มะขูด
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cymbopogon nardus Rendle
วงศ์ POACEAE (GRAMINEAE)
ลักษณะพืช
พืชล้มลุก อำยุหลำยปี มีเหง้ำ ลำต้นตั้งตรง สูง 2เมตร ออกเป็นกอ ใบเกลี้ยง รูปยำวแคบกว้ำง 5-20
มม.ยำวได้ถึง 1 เมตร มีกลิ่นหอม ตรงรอยต่อระหว่ำงใบกับกำบ มีแผ่นรูปไข่ปลำยตัดยื่นออกมำยำวประมำณ 2
มม. มีขนกำบหุ้มติดทน กำบล่ำงสุดเกยซ้อนกัน เมื่อแห้งจะม้วนขึ้น ดอกออกเป็นช่อขนำดใหญ่ยำวได้ถึง 80 ซม.
มีใบประดับ ลักษณะคล้ำยกำบ ยำวประมำณ 25 มม. รองรับอยู่ช่อดอกแยกเป็นหลำยแขนง แต่ละแขนงมีช่อย่อย
4-5ช่อ ผลแห้งไม่แตกตะไคร้หอมมีลักษณะส่วนใหญ่คล้ำยกับตะไคร้กอ ต่ำงกันที่กลิ่น
ต้นและใบยำวกว่ำตะไคร้กอมำกแผ่นใบกว้ำงยำวและนิ่มกว่ำเล็กน้อย
- 9. การปลูก ใช้หน่อหรือเหง้ำชอบขึ้นในดินร่วนซุย น้ำไม่ขัง ชอบแดดมำก
ส่วนที่ใช้เป็นยำ ใบและกำบใบ
สรรพคุณ
ยำไทย ต้นแก้ริดสีดวงในปำก (คือปำกแตกระแหง เป็นแผลในปำก)
สตรีมีครรภ์รับประทำนทำให้แท้ง บีบรัดมดลูก ขับลมในลำใส้ แก้แน่น
ตะไคร้หอมได้ถูกนำมำใช้ไล่แมลงอย่ำงแพร่หลำยนำนมำแล้ว โดยละลำยน้ำมันตะไคร้หอม 7 ส่วน
ผสมในแอลกอฮอล์(70%) 93 ส่วน ฉีดพ่นหรือตำใบสดหมักในแอลกอฮอล์ใน อัตรำส่วน 1:1
ทำตรงขอบประตูที่ปิดเปิดเสมอ หรือชุบสำลีแขวนเอำไว้หน้ำประตูเข้ำออก
หรือใช้ใบตะไคร้หอมมัดแล้วทุบให้ช้ำวำงไว้ตำมมุมห้องหรือใต้เตียง
ผลมะกรูด
ชื่อสามัญ : Porcupine Orange, KiffirLime, Leech Lime
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Citrus hystrix DC.
ชื่อท้องถิ่น : มะขุน มะขูด (ภำคเหนือ) มะหูด (หนองคำย) ส้มกรูด ส้มมั่วผี (ภำคใต้) โกรยเซียด (เขมร) มะขู
(กะเหรี่ยง – แม่ฮ่องสอน)
ลักษณะ
มะกรูด เป็นพืชในสกุลส้ม (Citrus) เป็นไม้ยืนต้นขนำดเล็ก เป็นไม้เนื้อแข็ง
ลำต้นและกิ่งมีหนำมยำวเล็กน้อยใบเป็นใบประกอบชนิดลดรูป มีใบย่อย 1 ใบ เรียงสลับ รูปไข่
คือมีลักษณะคล้ำยกับใบไม้ 2ใบ ต่อกันอยู่คอดกิ่วที่กลำงใบเป็นตอนๆ มีก้ำนแผ่ออกใหญ่เท่ำกับแผ่นใบ
ทำให้เห็นใบเป็น 2 ตอน กว้ำง 2.5-4 เซนติเมตร ยำว 4-7เซนติเมตร ใบสีเขียวแก่พื้นผิวใบเรียบเกลี้ยง เป็นมัน
ค่อนข้ำงหนำมีกลิ่นหอมมำกเพรำะมีต่อมน้ำมันอยู่ ใบด้ำนบนสีเข้ม ใต้ใบสีอ่อน ดอกออกเป็นกระจุก 3 –5 ดอก
- 10. กลีบดอกสีขำว เกสรสีเหลือง ร่วงง่ำยมีกลิ่นหอม มีผลสีเขียวเข้มคล้ำยมะนำวผิวเปลือกนอกขรุขระ
ขั้วหัวท้ำยของผลเป็นจุก ผลอ่อนมีเป็นสีเขียวแก่ เมื่อผลสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด พันธุ์ที่มีผลเล็ก
ผิวจะขรุขระน้อยกว่ำและไม่มีจุกที่ขั้ว ภำยในมีเมล็ดจำนวนมำก
ส่วนที่ใช้
ผล ผิวของผล น้ำของผล ใบ และรำก
สาระสาคัญ
ในใบและผลมะกรูด เมื่อนำมำกลั่นด้วยไอน้ำจะให้น้ำมันหอม ระเหยในปริมำณ 0.08 % และ4 %
ตำมลำดับ น้ำมันหอมระเหยจำกผิว มะกรูดมักประกอบด้วยเบต้ำ-ไพนีน, ไลโมนีนและซำบินีน เป็นสำรหลัก
ส่วนน้ำมันหอมระเหยจำกใบจะประกอบด้วย ซีโทรเนลลำล, ไอโซพูลิโกล และไลนำลูออล เป็นสำรหลัก
ส่วนในน้ำมะกรูดมีกรดซิตริก ไวตำมินซี และกรดอินทรีย์ชนิดอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบ
คุณสมบัติ
1. ใช้เป็นยำหรือส่วนผสมของยำต่ำง ๆ คือ น้ำในผลแก้อำกำรท้องอืด ช่วยให้เจริญอำหำร
น้ำมะกรูดใช้ดองยำ เพื่อใช้ฟอกเลือด และบำรุงโลหิตสตรี เนื้อของผลใช้เป็นยำแก้อำกำรปวดศีรษะ
ใบมะกรูดใช้เป็นยำขับลมในลำไส้ แก้จุกเสียด
ผลมะกรูดที่คว้ำนไส้ออกนำมหำหิงส์ใส่แทนใช้เป็นยำขับลมแก้ปวดท้องในเด็กอ่อน
2. ใช้ในอุตสำหกรรมเครื่องหอมและเครื่องสำอำงค์ต่ำง ๆ
3. กรด Citric ช่วยขจัดครำบสบู่ (ด่ำง) ที่หลงเหลืออยู่ทำให้ผมหวีง่ำย
น้ำมันจำกผิวมะกรูดช่วยให้ผมดกเป็นเงำงำม
4. ใช้ปรุงแต่งกลิ่นรสอำหำร ในดับกลิ่นคำวของอำหำร ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องแกงต่ำงๆ (รุ่งรัตน์,
2535)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
มะกรูดเป็นไม้ยืนต้นขนำดเล็ก ต้นสูง 2– 8 เมตร ประกอบไปด้วย
1. ใบ มีใบย่อยเพียงใบเดียว ใบค่อนข้ำงหนำ มีสีเขียวแก่มีกลิ่นหอม
2. ดอกมีสีขำว ออกเดี่ยวๆ อยู่เป็นกระจุก 3-5ดอก กลีบดอกร่วงง่ำย
- 11. 3. ผล เป็นผลเดี่ยวค่อนข้ำงกลม บำงพันธุ์มีผิวขรุขระ มีจุกที่หัวผล (เชษฐำ,2525)
บทที่ 3
อุปกรณ์ วัตถุดิบ/วิธีการดาเนินงาน
อุปกรณ์
1. ถังน้ำ
2. ผ้ำขำวบำง
3. มีด
4. กรวย
5. ขวดพลำสติก
วัตถุดิบ
- 14. ภำพที่ 8
4.เตรียมพริกแกงเผ็ด 1 กิโลกรัม แล้วนำพริกแกงเผ็ดมำแช่น้ำ ทิ้งไว้1 คืน
ภำพที่ 9 ภำพที่ 10
5.เมื่อครบกำหนด 1 คืน แล้ว นำวัตถุทั้งหมดมำกรองเอำแต่น้ำ