1. โครงงาน “กากกาแฟสครับผิว”
(coffee grounds body scrub)
รหัสวิชา ง 33202 วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร 6
ภาคเรี ยนที่ 2 ปี การศึกษา 2556
ผู้จัดทาโครงงาน
นางสาว พรพิมล โรจน์สริอนันต์ ชัน ม.6/4 เลขที่ 10
ิ
้
นางสาว จิตราพร ทองอร ชัน ม.6/4 เลขที่ 25
้
ครูท่ ปรึกษาโครงงาน
ี
คุณครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์

2. ระดับชัน
้
มัธยมศึกษาปี ที่ 6/4
ประเภทของโครงงาน
สิงประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์
่
ชื่อโครงงาน
“กากกาแฟสครับผิว” (coffee
grounds
body scrub)
โรงเรียน
ยุพราชวิทยาลัยเชียงใหม่
ครูท่ ปรึกษาโครงงาน
ี
ครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์

3. สารบัญ (ลิ้งค์หน้าต่างๆ)
บทที่ 1 บทนา
วัตถุประสงค์ของโครงงาน
ขอบเขตของการศึกษาโครงงาน
วิธีการสืบค้ นข้ อมูล
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้ รับ
บทที่ 3 ขันตอนการประดิษฐ์
้
บทที่ 2 เอกสารเกี่ยวข้ องที่ใช้ ใน
การสืบค้ น
1
2
3
4
บทที่ 4 ผลการปฏิบติงาน
ั
บทที่ 5 สรุป
- กลุมสาระที่เกี่ยวข้ อง
่
- บรรณานุกรม

4. บทคัดย่ อ
เนื่องจากปั จจุบน คนหันมาให้ ความสนใจกับรูปร่างหน้ าตาและผิวพรรณ
ั
มากขึ ้น กว่าอดีต เทคโนโลยีแบบใหม่ เช่น การทาเลเซอร์ แต่มีราคาแพงและเสี่ยง
ต่ออันตราย
ทางผู้จดทาจึงคิดทาสครับผิวนี ้ขึ ้นมา เพื่อเป็ นการประหยัดค่าใช้ จ่าย และ
ั
สร้ างทางเลือกใหม่ๆ ที่ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายมากและสามารถทาเองได้ ที่บ้าน

5. บทนา
บทที่ 1
ทีมาและความสาคัญของโครงงาน
่
• ที่มาและวัตถุประสงค์ของการจัดทาโครงงานผลิตภัณฑ์ ที่มีชื่อว่า กาก
กาแฟสครับผิว คือ เกิดจากการนาวัตถุดิบที่มีอยูในธรรมชาติ สะดวก
่
และสามารถหามาใช้ ได้ โดยการนามาผลิตเป็ นผลิตภัณฑ์สครับผิวที่มี
ส่วนผสมเป็ นธรรมชาติทงหมดปราศจากสารเคมีที่เป็ นอันตรายต่อผิวใน
ั้
ระยะยาวทังนี ้ยังไม่ทาให้ ระคายเคืองหรื อเกิดการแพ้ จากสารผลิตภัณฑ์
้
โดยการนาเอา กากกาแฟผสมกับโยเกิร์ตและน ้าผึ ้ง มาเป็ น
ส่วนประกอบ และสามารถทาได้ โดยง่าย สะดวก และใช้ ต้นทุนในการ
ผลิตต่า

6. วัตถุประสงค์ ของโครงงาน
-เป็ นการนาวัตถุดบที่มีอยูแล้ วในธรรมชาติมาประยุกต์ใช้ ให้ เกิด
ิ
่
ประโยชน์
-ใช้ เวลาว่างให้ เกิดประโยชน์
-เป็ นการส่งเสริมการนาความรู้ที่ได้ รับจากโครงงานชิ ้นนี ้ไปประยุกต์ใช้
ในการประกอบอาชีพในอนาคต
-เป็ นการประหยัดค่าใช้ จ่ายภายในครัวเรื อน

7. ขอบเขตโครงงาน
• การจัดทาผลิตภัณฑ์ในโครงงานนี ้ จัดทาขึ ้นเพื่อประโยชน์ในการศึกษา มิได้
มุงหวังเพื่อแสวงหากาไร และผลประโยชน์สวนตนแต่อย่างใด
่
่

8. หลักการและทฤษฎี
จากหลักการที่ได้ ค้นพบทัวไประบุไว้ วา ในการทาลาดับแรก คือ จัดเตรี สวนผสมใน
่
่
่
การทาโครงงาน คือ น ้าผึ ้ง กากกาแฟ และโยเกิร์ต ขันตอนต่อไป คือ ผสม
้
ส่วนผสมทังหมดให้ เข้ าเป็ นเนื ้อเดียวกัน จากนันนามาพอกแล้ วค่อยขัดเป็ น
้
้
วงกลม บริเวณใบหน้ า แขน ขา รักแร้ สาหรับสรรพคุณของส่วนผสมที่นามาใช้
คือน ้าผึ ้งและโยเกิร์ต ช่วยทาให้ ผิวเนียนนุ่ม อีกทังกากกาแฟยังช่วยทาให้ ผิว
้
กระจ่างใส

9. วิธีการดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1.ประชุมและกาหนดหัวเรื่ องของโครงงานที่จะทา
2.วิเคราะห์ข้อมูลและแบ่งหน้ าที่ให้ สมาชิกแต่ละคน
3.จัดหาอุปกรณ์ และส่วนผสมที่จะทา
4.ลงมือปฏิบติ
ั
5.ทดลองใช้ ผลิตภัณฑ์
6.ศึกษาและแก้ ไข ปั ญหาที่เกิดขึ ้น
7.คานวนค่าใช้ จ่ายทังหมด และ แสวงหาผลกาไร
้
8.นาเสนอโครงงาน

10. • เครื่องมือ และอุปกรณ์ ท่ ใช้
ี
- น ้าผึ ้ง
- โยเกิร์ต
- กากกาแฟ
• งบประมาณ
- น ้าผึ ้ง 25 บาท
- โยเกิร์ต 17 บาท
- กากกาแฟ รวม 42 บาท

11. วิธีการสื บค้ นข้ อมูล
การสืบค้ นข้ อมูล
หมายถึง การนาความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์ เน็ต มาประยุกต์ใช้ ในการศึกษาหาความรู้ ได้ แก่ การสืบค้ นข้ อมูล
ทางอินเทอร์ เน็ต โดยการใช้ งานอินเทอร์ เน็ตเกี่ยวกับการศึกษา
1.วิธีการสืบค้ นข้ อมูลภาพ การค้ นหาไฟล์ภาพมีขนตอนดังนี ้
ั้
1.เปิ ดเว็บ www.google.co.th
2.คลิกตัวเลือก รู ปภาพ
3.พิมพ์กลุมชื่อภาพที่ต้องการจะค้ นหา เช่น เสือ
่
4.คลิกปุ่ ม ค้ นหา
5.ภาพทีค้นหาพบ
6.การนาภาพมาใช้ งาน ให้ คลิกเมาส์ด้านขวาที่ภาพ Save Picture as
7.กาหนดตาแหน่งที่จะบันทึกที่ช่อง Save in
8.กาหนดชื่อที่ช่อง File Name
9.คลิกปุ่ ม Save

12. วิธีสืบค้ นข้ อมูลSearch Engine มีขนตอนดังนี ้
ั้
1.เข้ าไปยังเว็บไซต์www.google.com โดยพิมพ์ URL ที่ช่อง Address
2.พิมพ์คาสาคัญหรื อวลีที่ต้องการค้ นหาลงในช่องค้ นหา ซึงบริการค้ นหาของ
่
Google
3.จะปรากฏหน้ าเว็บที่มีรายการเว็บไซต์ที่สอดคล้ องกับคาที่ต้องการค้ นหาพร้ อมราย
ละเอียดของเว็บไซต์ที่พบ เช่น แจ้ งรายการที่ค้นได้ ชื่อเรื่ อง และ URL

13. ประโยชน์ ที่จะได้ รับจากงานประดิษฐ์
-
ประหยัดค่าใช้ จ่ายภายในครอบครัว
ใช้ เวลาว่างให้ เกิดประโยชน์
เป็ นการนาความรู้จากศาสตร์ แขนงต่างๆมาประยุกต์ใช้
สามารถนาความรู้ไปประกอบอาชีพในอนาคตได้
เป็ นการนาวัสดุเหลือใช้ มาประยุกต์ให้ เกิดประโยชน์
ได้ ร้ ูจกการทางานเป็ นกลุม
ั
่

14. บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้องที่ใช้ในการสื บค้นข้อมูล
1. คุณสมบัติกากกาแฟในการดูแลผิว
•
กากกาแฟ ทาให้ ผิวผ่อง และเนียนใสขึ ้น เพราะมีสารต้ านอนุมล
ู
อิสระ ทาหน้ าที่เสมือนเป็ นตัวขจัดพิษให้ กบผิวชันนอก และกระตุ้นการ
ั
้
ทางานของเซลล์ผิวชันใน ปรับสภาพความดันโลหิตและกระตุ้นการ
้
เผาผลาญไขมันใต้ ชนผิว ทาให้ ผิวดูเปล่งปลัง
ั้
่

15. 2. คุณสมบัติในการดูแลผิวจากน้ าผึ้ง
•
น้ำผึ้ง มีประสิทธิภาพในการเป็ นสารต้ านอนุมลอิสระธรรมชาติ จึง
ู
สามารถปกป้องผิว จากการถูกทาลายจากรังสียวี ที่เป็ นสาเหตุให้ ผิว แก่
ู
ก่อนวัยและมะเร็งผิวหนัง ช่วยยืดอายุการชราของผิว คงความอ่อนเยาว์
ให้ กบผิว และช่วยฟื นฟูผิว ปั จจุบน น้ำผึ้ง จึงถูกนามาใช้ กนมาก ใน
ั
้
ั
ั
อุตสหกรรมเพื่อความงาม เพราะ น้ำผึ้ง นันเป็ นแหล่งขุมทรัพย์เพื่อ
้
ผิวพรรณที่สวยงามอย่างแท้ จริง สารเคมีบางชนิดในผลิตภัณฑ์ปองกัน
้
แสงแดดอาจทาให้ ผิวคันได้ จึงมีการใช้ น้ำผึ้ง เป็ นส่วนผสมของ
ผลิตภัณฑ์ปองกันและบารุงผิว จากแสงแดด
้

16. 3. การสครับแบบต่างๆ
• สครั บที่ทาจากธรรมชาติ โดยมากเนื ้อเมล็ดของสครับจะทาจากเมล็ดของพืช เช่น walnut meal,
corn meal, coconut meal, apricot meal และอื่นๆ เมล็ดสครับที่ได้ จากธรรมชาตินั ้นมักจะมี
รูปร่างที่ไม่แน่นอนและขนาดของเมล็ดสครับจะมีลกษณะค่อนข้ างหยาบ และคุณภาพจะแตกต่างกัน เมล็ดส
ั
ครับให้ ประสิทธิภาพในการขัดที่ดี เนื่องความแตกต่างทางรูปทรงของเมล็ดสครับ จึงช่วยให้ การขัดเพื่อขจัดสิง
่
สกปรกสามารถทาได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็ นเมล็ดสครับที่มีผลต่อการระคายเคืองผิวน้ อยที่สดด้ วย ซึงส
ุ
่
ครับประเภทนี ้สามารถใช้ ได้ สปดาห์ละไม่เกิน 3 ครังแต่ทั ้งการขัดด้ วยสครับไม่ควรจะรุนแรงเกินไป
ั
้
• สครั บที่ทามาจากกระบวนการทางเคมี เช่น เม็ดพลาสติก หรื อ เม็ดพลาสติกเคลือบ ( Micro
bead ) เม็ดสครับประเภทนี ้จะมีให้ เลือกตามแต่ขนาดที่ผ้ ผลิตต้ องการมีตั ้งแต่หยาบมากจนถึงละเอียดมาก
ู
ซึงคุณภาพของเม็ดสครับจะแตกต่างกันออกไปเช่น บางชนิดอาจจะเป็ นเพียงแค่เม็ดพลาสติกธรรมดา บาง
่
ประเภทอาจจะมีการเคลือบหรื อชุบสารสกัดธรรมชาติ เช่น jojoba bead โดยมากจะมีสีสนให้ เลือก
ั
หลากหลาย ส่วนลักษณะของเม็ดสครับจะมีลกษณะเป็ นทรงกลมขนาดเท่ากันของเม็ด ซึงสครับประเภทนี ้มี
ั
่
โอกาสที่จะก่อให้ เกิดการระคายต่อผิวได้ มากกว่าสครับจากธรรมชาติ สาหรับสครับประเภทไม่ควรใช้ เกินสัปดาห์
ละ 2 ครัง
้

17. 4. ก่อนสครับผิว
+ สครับผิว สัปดาห์ ละครัง
้
ความถี่ในการ สครับผิว ที่เหมาะสม คือ 2 สัปดาห์ครังสาหรับผิวธรรมดาในช่วงเย็น
้
ของวัน ส่วนผิวมันสครับได้ บอยกว่า คือ สัปดาห์ละครัง และ สาหรับผิวแห้ ง สามารถสครับผิวได้
่
้
2-3 สัปดาห์ครัง คนเราจะผลัดเซลล์ที่ตายแล้ วทุก ๆ 28 วัน การสครับออกไปแต่พอดี จึงช่วยเผย
้
ผิวใหม่ที่สะอาด น่ามองได้
+ เลือกเนือสครับธรรมชาติ
้
สครับเนื ้อหยาบอาจทาให้ ผิวถลอกได้ ทางที่ดีควรเลือกเนื ้อบีทเล็ก ๆ ที่มาจาก
ธรรมชาติอย่าง ราข้ าว สารสกัดจากหม่อน เมล็ดมะขาม น ้าตาล เปลือกมะกรูด มะขามป้อม
ตะไคร้ ฯลฯ ที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวได้ อย่างอ่อนโยน และยังช่วยเพิ่มคุณค่าให้ ผิวอีกด้ วย

18. • + เลือกสมุนไพรให้ เหมาะกับผิว
เพราะสารสกัดที่ผสมในเนื ้อสครับมีความแตกต่างกันไป สมุนไพรบาง
ชนิดดีตอผิวแห้ ง เช่น น ้าผึ ้ง แตงกวา ว่านหางจระเข้ ส่วนผิวมันและผิวมีสิว
่
ควรเลือกผลไม้ รสเปรี ยว เช่น มะยม มะเฟื อง มะกรูด มะขาม เป็ นต้ น เพื่อให้
้
สมุนไพรได้ ดแลผิวอย่างถูกต้ อง
ู
• + เมื่อใกล้ ออกแดด
เมื่อเตรี ยมจะไปเที่ยวทะเล ควรงดการสครับผิวก่อนออกแดดประมาณ
2 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้ ผิวถูกแสงแดดทาลายมากเกินไป และเลือกใช้
ผลิตภัณฑ์การป้องกันแสงแดดทุก ๆ 4 ชัวโมง รวมทังการสเปรย์ผิวให้ ช่มชื่น
่
้
ุ
ตลอดการออกแดด

19. บทที่ 3
ขั้นตอนการทาสครับ
ขันตอนการทาสครับ
้
อุปกรณ์
(1.) กากกาแฟ 1 ถ้ วย
2.) นมสด ½
ถ้ วย

20. (3) น ้าผึ ้ง ¼ ถ้ วย

21. วิธีการทาสครับ
ขันที่ 1 ผสมทังหมดให้ เข้ ากันทังกากกาแฟ นมสดและน ้าผึ ้ง
้
้
้
ขันที่ 2 นามาขัดนวดวนเบา ๆ ลงบนผิวที่เปี ยกน ้าสักเล็กน้ อย
้
(เพื่อป้องกันไม่ให้ แสบเมื่อถูนวดกับผิว)
ขันที่ 3 ทาทิ ้งไว้ ประมาณ 20 – 30 นาที แล้ วล้ างออก
้

22. บทที่ 4
ผลการปฏิบติงาน
ั
สครับที่ทาออกมาค่อนข้ างหยาบ แต่ใช้ ขดผิวได้ ดี ช่วยขูดหนัง
ั
กาพร้ าออก ทาให้ ผิวใสหลังจากขัดแล้ วปล่อยทิ ้งไว้ ได้ ผลเป็ นที่น่าพอใจ

23. บทที่ 5
สรุ ปผล
จากการทาสครับตามสูตรในครังแรก ได้ สครับที่คอนข้ างสมบูรณ์
้
่
ออกมา ไม่เหลวหรื อหนืดเกินไป ขัดผิวได้ คอนข้ างดีจากความหยาบ
่

24. กลุ่มสาระการเรียนรู้ทเี่ กียวข้ อง
่
วิชา การงานอาชีพ (การทาสครับ)
วิชา วิทยาศาสตร์ (การลอกของเซลล์ผิวที่ตายแล้ ว)

25. บรรณานุกรม
• http://theenriched.tarad.com/product.detail_999697_t
h_5344305 สรรพคุณน ้าผึ ้ง - ประโยชน์ตอผิวหน้ า ผิวกาย
่
• http://women.kapook.com/view61466.html
ประโยชน์จากการสครับผิว