Contenu connexe
Similaire à 1อนุชิตเผยแพร่
Similaire à 1อนุชิตเผยแพร่ (20)
Plus de somdetpittayakom school
Plus de somdetpittayakom school (20)
1อนุชิตเผยแพร่
- 1. ผลงานการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)
การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
นายอนุชิต กอศักดิ์
ครู
โรงเรียนสมเด็จพิทยาคม อาเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 24
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
- 2. 1
ชื่อผลงาน การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้เสนอผลงาน นายอนุชิต กอศักดิ์
โรงเรียน สมเด็จพิทยาคม สังกัด สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24
โทรศัพท์ 043-861137 โทรสาร 043-861137
โทรศัพท์มือถือ 086 – 2202975 088 – 5628439 E-mail : Anuchit.spk@gmail.com
1. ความสาคัญของผลงานหรือนวัตกรรมที่นาเสนอ
คณิตศาสตร์เป็นวิชาหนึ่งที่มีบทบาทสาคัญที่นาไปสู่การพัฒนาความคิดอย่างมีเหตุผล
ของผู้เรียนให้เกิดทักษะความชานาญในการคิดเป็น ทาเป็น และแก้ปัญหาเป็น เป็นคนช่างสังเกต แสดงความคิดเห็นออกมาอย่างมีระเบียบ ชัดเจนและรัดกุม มีความสามารถในการวิเคราะห์ปัญหา อีกทั้งยังเป็นพื้นฐานสาหรับการศึกษาค้นคว้าทุกประเภท ความเจริญในวิทยาการทุกแขนงต้องอาศัย หลักการทางคณิตศาสตร์ จึงเป็นที่ยอมรับกันว่าคณิตศาสตร์เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีกลไกสาคัญในการ พัฒนาคุณภาพของผู้เรียน ช่วยให้ผู้เรียนมีความเจริญงอกงาม ทั้งร่างกาย อารมณ์ สติปัญญา ในปัจจุบันนี้ผู้เรียนต้องพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายที่เป็นปัญหา ต้องหาทางแก้ปัญหา คณิตศาสตร์ มิใช่หมายถึงเพียงตัวเลขและสัญลักษณ์เท่านั้น คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่เกี่ยวกับความคิด เราใช้ คณิตศาสตร์พิสูจน์อย่างมีเหตุผลว่าสิ่งที่เราคิดนั้นเป็นจริงหรือไม่ ด้วยวิธีคิดเราสามารถนา คณิตศาสตร์ไปแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ จึงเป็นรากฐานแห่งความเจริญทางเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ
ในปัจจุบันนี้คณิตศาสตร์เข้ามามีความสาคัญในชีวิตประจาวันมากขึ้น ทั้งในแง่การ สร้างสรรค์ความเจริญให้แก่วิทยาการแขนงอื่น ๆ และการพัฒนาความสามารถของมนุษย์ให้เป็นผู้มี ความคิดอย่างเป็นระบบ มีเหตุ มีผล สามารถนาวิชาการไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน ซึ่งมนุษย์ ต้องทากิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์อยู่เสมออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากความสาคัญของ คณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นทักษะสาคัญที่ต้องใช้ทั้งในชีวิตประจาวันและการประกอบอาชีพ ตลอดจนช่วย ปลูกฝังคุณลักษณะที่สาคัญของการเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ดี
การจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ในปัจจุบัน ถึงแม้จะพยายามให้บรรลุถึงเป้าหมายที่ ต้องการ แต่ก็ยังประสบปัญหาต่าง ๆ ซึ่งคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษามุ่งเน้นกระบวนการด้าน ความคิด และปฏิบัติ ให้นักเรียนคิดเป็น ทาเป็น และแก้ปัญหาเป็น แต่การจัดการเรียนการสอน ไม่เอื้อต่อการพัฒนาคนให้มีลักษณะมองกว้าง คิดไกล ใฝ่รู้ วิธีการเรียน มุ่งเน้นการถ่ายทอด เนื้อหาวิชามากกว่าการเรียนรู้ตามสภาพจริง ไม่เน้นกระบวนการที่ให้ผู้เรียนได้พัฒนาด้านการ
- 3. 2
วิเคราะห์ แสดงความคิดเห็นและแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ครูมักจะใช้การสอนโดยยึดครูเป็น ศูนย์กลาง โดยครูเป็นผู้อธิบายเนื้อหา ผู้เรียนมีหน้าที่ปรับตัวให้สอดคล้องกับเนื้อหา ความรู้ และ วิธีการของครู ซึ่งเป็นการถ่ายทอดเนื้อหาให้นักเรียนท่องจา และเปิดโอกาสให้นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ น้อยมาก ครูมักจะใช้วิธีการสอนแบบเก่า ไม่ยอมปรับปรุงตนเอง ไม่อยากเสียเวลาในการทาสื่อการ เรียนการสอน หรือหาวิธีการสอน ซึ่งส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วย และจากการศึกษาข้อมูล ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนสมเด็จพิทยาคม ปีการศึกษา 2554 และ2555 พบว่า ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น มีค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็น 2.58 และ 2.48 ตามลาดับ ส่วนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มีค่าเฉลี่ยของผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน เป็น 2.89 และ 2.82 ซึ่งจะเห็นได้ว่าค่อนข้างต่า และยังมีค่าลดลงอีกด้วย จึงจาเป็นต้องหา แนวทางแก้ไข ปรับปรุง เพื่อให้พัฒนาในระดับที่ดีหรือเพิ่มสูงขึ้น ผู้ศึกษาในฐานะครูผู้สอนใน ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้วิเคราะห์ปัญหาจากประสบการณ์ด้านการสอนของผู้ศึกษา พบว่า สาเหตุที่นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ต่ากว่าเป้าหมาย มีสาเหตุมาจาก เนื้อหา ผู้เรียน และผู้สอน
ปัญหาในด้านเนื้อหา ผู้ศึกษาพบว่า เนื้อหาในการสอนกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง “วิธีการเรียงสับเปลี่ยน” เป็นเนื้อหาที่ไม่ยาก แต่เงื่อนไข และข้อกาหนดมี จานวนมาก ทาให้ผู้เรียนเกิดความท้อถอยในการเรียน ส่วนปัญหาด้านนักเรียน เนื่องมาจาก นักเรียนมีความแตกต่างกันด้านความสามารถและด้านความพร้อม ไม่สามารถแสวงหาความรู้และ สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองได้ นักเรียนเกิดความเบื่อหน่าย ท้อถอยในการเรียน นอกจากสาเหตุ จากตัวนักเรียนแล้ว สาเหตุจากตัวครูผู้สอนก็เป็นปัญหามากเช่นกัน เนื่องจากครูไม่นาเทคนิค และ วิธีการสอนใหม่ๆ ในการจัดการเรียนการสอน นอกจากนี้ครูยังมีหน้าที่รับผิดชอบอื่น ๆ อีกหลาย อย่างภายในโรงเรียน ครูจึงไม่มีเวลาเตรียมการสอนเท่าที่ควร จากปัญหาการเรียนการสอน คณิตศาสตร์ดังกล่าว ผู้ศึกษา จึงได้พยายามศึกษา ค้นคว้า ปรับปรุงวิธีการสอน โดยคานึงถึงความ แตกต่างระหว่างบุคคลและการปรับเปลี่ยนบทบาทของครู โดยลดบทบาทการบอกความรู้หน้าชั้น เรียนแต่เพิ่มบทบาทในการกระตุ้นและพัฒนาให้ผู้เรียนรู้จักแสวงหาความรู้ด้วยตนเองมากขึ้น หาวิธีการให้นักเรียนเรียนด้วยตนเอง ควรมีการผลิตสื่อการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับผู้เรียน นอกจากนั้น ครูคณิตศาสตร์จาเป็นต้องค้นคว้าหากลวิธีที่จะนามาสอนให้นักเรียนเข้าใจและใฝ่ที่จะ เรียนและรักคณิตศาสตร์อย่างแท้จริงให้จงได้ ครูควรมีบทบาทในการกระตุ้นให้ผู้เรียนสนุกที่จะ เรียนรู้ ครูเป็นผู้ให้กาลังใจ ให้คาแนะนา ผู้เรียนควรได้พัฒนากระบวนการคิด ได้ฝึกทักษะ กระบวนการคิด ได้ลองคิด ลองถูก ลองผิด และได้ข้อค้นพบหรือสรุปด้วยตนเอง ดังนั้นครูจึงเป็น กลไกสาคัญที่จะช่วยให้กระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนประสบความสาเร็จ โดยสร้างบรรยากาศ ทางการเรียนที่กระตุ้นความสนใจของผู้เรียน ไม่บังคับ ยัดเยียด หรือกดดันผู้เรียน ส่งเสริมให้ ผู้เรียนใช้ศักยภาพในการค้นหาความรู้อย่างเต็มที่ มุ่งประโยชน์ของผู้เรียนเป็นสาคัญ จัดกิจกรรมการ
- 4. 3
เรียนรู้ที่ ไม่ใช่เฉพาะในห้องเรียน คอมพิวเตอร์ช่วยสอนเป็นรูปแบบหนึ่งของบทเรียนสาเร็จรูปโดยใช้ คอมพิวเตอร์เป็นตัวกลางแทนสิ่งพิมพ์หรือสื่อประเภทอื่น แต่คอมพิวเตอร์ช่วยสอนสามารถบันทึก คะแนน และให้ผลย้อนกลับ เพื่อตอบสนองผู้เรียนได้อย่างรวดเร็ว และยังขจัดปัญหาการแอบดู คาตอบของผู้เรียนก่อนที่จะตอบคาถามในบทเรียน และผู้เรียนสามารถที่จะเรียนได้ตามเวลาที่ สะดวก และเรียนช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความรู้พื้นฐานและความสามารถของผู้เรียนเอง
การนาคอมพิวเตอร์มาช่วยสอนมีข้อดีในการช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน ช่วยในการบันทึกคะแนนและพฤติกรรมต่าง ๆ ของผู้เรียนไว้เพื่อใช้ในการวางแผนบทเรียนในขั้นต่อไป ได้ นามาใช้ได้ในลักษณะของการศึกษารายบุคคลได้เป็นอย่างดี ให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้เรียน เป็น การช่วยให้ผู้เรียนที่เรียนช้า สามารถเรียนไปได้ตามความสามารถของตนโดยสะดวกอย่างไม่รีบเร่ง โดยไม่ต้องอายผู้อื่น และไม่ต้องอายเครื่องเมื่อตอบคาถามผิด และช่วยขยายขีดความสามารถของ ผู้สอนในการควบคุมผู้เรียนได้อย่างใกล้ชิด
จากหลักการและเหตุผลความสาคัญดังกล่าวข้างต้น ผู้ศึกษาเชื่อว่า การสอนที่เน้นผู้เรียน เป็นสาคัญโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนมาช่วยพัฒนาการเรียนการสอนในเรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยน ให้ มีประสิทธิภาพได้ดี ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น จึงสนใจที่จะศึกษาค้นคว้า และพัฒนาคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เพื่อช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้เรียนวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้ศึกษาทาการสอนอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพ และบรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้ เป็นการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นสาคัญ อันจะทาให้นักเรียนสามารถสร้าง องค์ความรู้ แสวงหาความรู้ใหม่ได้ และเป็นการพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาอีกด้วย
2. จุดประสงค์และเป้าหมายของการดาเนินงาน
จุดประสงค์
1. เพื่อหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้เกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและ
หลังเรียน โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยน
3. เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง วิธีเรียง สับเปลี่ยน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
4. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนการสอน
โดยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยน
- 5. 4
เป้าหมาย
เป้าหมายเชิงปริมาณ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จานวน 362 คน ได้ใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยน
เป้าหมายเชิงคุณภาพ
นักเรียนได้พัฒนากระบวนการคิด ได้ลองคิด ลองถูก ลองผิด และได้ข้อค้นพบหรือ สรุปด้วยตนเอง
3. กระบวนการผลิตผลงาน หรือขั้นตอนการดาเนินงาน
กระบวนการผลิตผลงาน
ขั้นตอนการผลิต ได้นาวงจรคุณภาพ PDCA มาใช้ในกระบวนการผลิตและดาเนินการ ดังนี้
Plan – การวางแผนปฏิบัติงาน
1. ศึกษาและหลักสูตร ผลการเรียนรู้ และแนวทางการพัฒนาทักษะการวิเคราะห์
2. วิเคราะห์เนื้อหาขั้นตอนการสอน
3. ศึกษาหลักการ วิธีการ ทฤษฎี และเทคนิควิธีการสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ ช่วยสอน และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
4. วิเคราะห์สภาพปัญหา และข้อมูลพื้นฐานของนักเรียน
5. วิเคราะห์เวลาในการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในแต่ละหน่วยในแต่ละ แผนการจัดการเรียนรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิธีเรียงสับเปลี่ยน
6. เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
7. กาหนดคุณลักษณะของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เครื่องมือในการสร้าง บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน กาหนดวิธีการนาเสนอ และออกแบบแบบทดสอบประจาหน่วยที่ใช้ ในบทเรียน
DO – การดาเนินงานตามแผน
1. สร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
3.1 นาข้อมูลที่ออกแบบไว้ มาเขียนเป็นผังงานและสร้างสตอรี่บอร์ด (Storyboard) ซึ่งจะมีการบอกรายละเอียดการทางานและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนจอภาพ
3.2 เขียนโปรแกรม โดยนาเอาสตอรี่บอร์ดที่ได้จัดเตรียมไว้ มาเขียนโปรแกรม คอมพิวเตอร์ตามผังงานที่ได้กาหนดไว้ โดยเลือกใช้โปรแกรม Multimedia Authorware 7.0
- 6. 5
3.3 สร้างแบบประเมินบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยน
3.4 สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
3.5 สร้างแบบสอบถามความคิดเห็น
3.6 หาประสิทธิภาพของเครื่องมือ
2. ดาเนินการสอน โดยการทดสอบก่อนเรียน ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และทดสอบหลังเรียน
3. สอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเรียนการสอน Check – การตรวจสอบประเมินผล
1. ประเมินผลจากการปฏิบัติกิจกรรม และแบบทดสอบประจาหน่วย
2. ใช้แบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน
3. สอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเรียนการสอน โดยใช้แบบสอบถาม
Action – นาผลการประเมินมาปรับปรุงงาน
1. นาผลการประเมินมาวิเคราะห์หาจุดเด่น จุดด้อย เพื่อพัฒนาแก้ไข และเสนอแนะข้อ ที่ควรปรับปรุง
2. จัดทารายงานผลการใช้นวัตกรรม
3. สร้างเครือข่ายข้ามกลุ่มสาระการเรียนรู้ และหน่วยงานภายนอก
4. ผลการดาเนินการ / ผลสัมฤทธิ์ / ประโยชน์ที่ได้รับ
ผลการดาเนินการ
1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ 88.40/83.59 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ ช่วยสอน เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยน สูงกว่าก่อนเรียน
3. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยน ส่งผลต่อการเรียนรู้ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 76.94
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความคิดเห็นต่อการเรียนการสอน รายวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยน โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน โดยรวมอยู่ในระดับพอใจมาก
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. ได้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยน
ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอน
- 7. 6
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
3. นักเรียนมีความคิดเห็นที่ดีต่อการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์
4. บุคลากรในโรงเรียนตระหนักถึงความสาคัญในการใช้สื่อการเรียนการสอน ICT
5. เป็นสารสนเทศสาหรับผู้เกี่ยวข้องนาไปใช้ในการศึกษาเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
5. ปัจจัยความสาเร็จ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสาเร็จของการดาเนินงานยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประกอบด้วยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลายส่วน ได้แก่
ผู้บริหาร ผู้ให้ความช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนในการจัดกระบวนการ เรียนรู้ ตระหนักถึงความสาคัญของการเรียนเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการเรียนรู้โดยการพัฒนาสื่อ การเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ รวมทั้งสนับสนุนด้านงบประมาณ สร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อม ของการทางานในสถานศึกษาให้เป็นมิตร ให้ขวัญกาลังใจ ทาให้เกิดการขับเคลื่อนกระบวนการ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของครูไปสู่การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้อันก่อให้เกิดผลต่อการพัฒนา ผู้เรียนให้บรรลุตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร
ครูผู้สอน มีความตระหนักและเห็นความสาคัญในการวิเคราะห์ผู้เรียนและนาผล การวิเคราะห์ มากาหนดแนวทางการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการ และ ธรรมชาติของผู้เรียน มีความตระหนักในความสาคัญของการเรียนที่จะเสริมสร้างศักยภาพนักเรียนให้ เกิดการเรียนรู้ พัฒนากระบวนการคิด ได้ลองคิด ลองถูก ลองผิด และได้ข้อค้นพบหรือสรุปด้วย ตนเอง มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันประสบการณ์ในการทางาน ให้ความช่วยเหลือในการ ปฏิบัติงาน ให้การยอมรับ ให้ความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้ ชี้ให้เห็นข้อดี ข้อบกพร่องในการทางาน และมีทัศนคติที่ดีต่อการสอน โรงเรียน และนักเรียน มีความสุขที่จะ พัฒนานักเรียนในทุกๆ ด้าน
ผู้ปกครอง ให้ความสาคัญและมีเวลาให้กับบุตรหลานในการร่วมกันพัฒนา ความสามารถกระบวนการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ไม่ปล่อยให้โรงเรียนเป็นผู้รับผิดชอบเพียง ฝ่ายเดียว อีกทั้งให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้เรียน ให้ความร่วมมือ ให้ความช่วยเหลือ และสนับสนุนใน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ให้ความร่วมมือแก้ปัญหาในทิศทางเดียวกัน ทาให้ทราบถึงความคาดหวัง ของผู้ปกครอง ชุมชน ที่มีต่อโรงเรียนและครู
ระบบการทางาน มีการวางระบบที่ดี (P) มีการดาเนินงานตามระบบทุกขั้นตอน (D)
มีการตรวจสอบระบบ (C) และมีการปรับปรุงแก้ไขระบบ เพื่อนาไปวางระบบที่ดีกว่าเดิมปฏิบัติอย่าง ต่อเนื่อง
- 8. 7
6. บทเรียนที่ได้รับ
การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยน ได้กระทาอย่างต่อเนื่อง และประสบผลสาเร็จในระดับหนึ่ง ซึ่งการดาเนินการที่ผ่านมาได้รับบทเรียน ดังนี้
1. นักเรียนมีความรู้ มีความสามารถในการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีความสามารถด้านการ คิดวิเคราะห์ และด้านเทคโนโลยี
2. ครูมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง มีความภาคภูมิใจ และชื่นชมในผลที่เกิดแก่ นักเรียน
3. ผู้ปกครองมีความเชื่อมั่นในการจัดการศึกษาของโรงเรียน และภาคภูมิใจในตัวบุตร หลาน
4. ชุมชนมีความภาคภูมิใจที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของโรงเรียน
ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ
1. การสอนให้นักเรียนมีทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ และทักษะในการ แสวงหาความรู้ ครูจะต้องมีความรู้ที่ทันสมัยจากสื่อที่หลากหลาย และเรียนรู้อย่างสม่าเสมอ เพื่อจะ ได้ออกแบบการสอนให้นักเรียนได้มีทักษะที่ดีมากยิ่งขึ้น
2. ครูผู้สอนจะต้องมีการพัฒนากระบวนการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาผู้เรียนตาม ศักยภาพ และต้องดาเนินการอย่างต่อเนื่อง
3. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาจมีการปรับหรือลด หรือจะขยายเวลาในการจัดกิจกรรม ให้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความพร้อมของผู้เรียนแต่ละคน ทั้งนี้เนื่องจาก การเรียนรู้ที่ดีควรมีความยืดหยุ่น สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกสถานการณ์เพื่อให้เกิดความคิด สร้างสรรค์ เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ ตลอดจนสามารถนาประโยชน์ของการเรียนรู้ไปใช้ใน ชีวิตประจาวันและดารงชีวิตอยู่ ในสังคมอย่างมีความสุข
7. การเผยแพร่ / การได้รับการยอมรับ / รางวัลที่ได้รับ
การเผยแพร่ / การได้รับการยอมรับ
1. เผยแพร่ในสหวิทยาเขตสมเด็จ
2. เผยแพร่ระดับอาเภอในการจัดนิทรรศการวิชาการ
3. เผยแพร่ในระดับสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 24