Contenu connexe
Similaire à AD410 NIKE (10)
AD410 NIKE
- 2. Brand Background
จุดเริ่มต้นของไนกี้เริมขึนในปี 1962 บิลล์ บาวเวอร์แมน
่ ้
โค้ชกรีฑาของทีมชาติสหรัฐอเมริกา ได้รู้จักกับ ฟิล ไนต์ (ในตอน
นั้นเป็นกีฬาวิ่งให้กับมหาวิทยาลัยโอเรกอน) ทังคู่มีเป้าหมายที่จะ
้
หารองเท้าที่มีความเบาและทนทาน ไนต์ ได้ทำาการค้นคว้าข้อมูล
และพบว่ารองเท้ากีฬาจากประเทศญี่ปุ่นมีคุณภาพดี และหลังจาก
ที่ ไนต์ เรียนจบด้านบริหาร จึงได้ออกเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งเขาได้มีโอกาสพบกับ Onitsuka Tiger Company โรงงานผลิต
รองเท้ากีฬาของญี่ปุ่น และชักชวนให้ Tiger ขยายตลาดเข้ามา
ในอเมริกา
- 4. Brand Background
ในปี 1964 บาวเวอร์แมนและ ไนต์ ทั้งคู่ก่อตั้ง Blue Ribbon
Sports หรือ BRS โดย ไนต์ มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ
ทางด้านการเงิน และการตลาด ส่วน บาวเวอร์แมน ดูแล
ทางด้านการพัฒนาออกแบบรองเท้ากีฬา
- 5. Brand Background
ในปี 1970 บิลล์ บาวเวอร์แมน ซึ่งรับหน้าที่
ด้านการพัฒนารองเท้า ได้คิดค้นพืนรองเท้าที่
้
ทำาจากยางโดยการทดลองเทยางลงในแบบพิมทำา
วาฟเฟิล (waffle) ทำาให้เกิดเป็น waffle outsole
และในปีถดมาบาวเวอร์แมน จัดตั้งบริษัทขึ้น
ั
ใหม่ที่ชื่อว่า Nike Inc.
- 6. Brand Background
ปี 1980 ไนกี้ได้ส่วนแบ่ง 50 % ของตลาดรองเท้ากีฬาใน
อเมริกาและได้เติบโตเป็นอย่างมาก และได้มีสโลแกน
“Just do it” อันโด่งดังของไนกี้ออกมา และยังถูกเลือกให้เป็น
หนึ่งในห้าสโลแกนของศตวรรษที่ 20
ต่อมาในปี 1981 BRS Inc. และ Nike Inc. ได้รวมบริษัทเข้าด้วย
กันจนกันแลัผลิตสินค้าดีๆ มาจนถึงทุกวันนี้
- 8. Brand Logo
ที่มาของคำาว่า Nike มาจาก เจฟฟ์ จอห์นสัน พนักงาน
ขายคนแรกของ Blue Ribbon Sports ได้ฝันถึงเทพเจ้านามว่า
NIKE ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งชัยชนะของกรีก
ส่วนที่มาของโลโก้ ของ Nike เรียกว่า Swoosh มีลักษะคล้าย
เครื่องหมายกาถูก ได้รับการออกแบบโดย คาร์โรไลน์
เดวิดสัน ด้วยราคาค่าออกแบบเพียง 35$ US เท่านั้น
โดยเครื่องหมายการค้านี้ได้แรงบรรดาลใจมาจากปีกของเทพธิดา
NIKE เทพของชาวกรีก
- 10. Brand Target
กลุมเป้าหมายหลักจะเป็นวัยรุ่นที่ชอบการแต่งตัว และชอบเล่น
่
กีฬา มี Life style และความคิดที่ไม่เหมือนใคร และชอบที่จะทำาตัว
ตามใจของตัวเอง รักอิสระ
ส่วนกลุมเป้าหมายรองจะเป็นกลุ่มคนทำางานที่รักการ
่
ออกกำาลังกายเพื่อรักษาสุขภาพของตัวเอง ต้องการจะหาอุปกรณ์
กีฬาที่มีความเหมาะสม ทนทาน และยังดูทันสมัยอยู่
- 11. Brand Communication
บริษัทเครื่องกีฬาใหญ่สุดในโลก ฉีกกลยุทธ์การตลาดยุคเก่า
ทิ้งสื่อดั้งเดิม ทุมสุดตัวกับสื่อดิจิตอล หวังครองใจผู้บริโภคในโลก
่
แห่งยุคดิจิตอล และยังลดการโฆษณาที่ใช้บุคคลมีชื่อเสียง โดย
การใช้ทุกอย่างที่เป็นสื่อ Interactive เข้ามาแทนซึ่งจะทำาให้
สามารถติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นสายรัดข้อ
มือที่สามารถวัดและติดตามผลการวิ่งของผู้ใช้ รวมไปถึงการ
เปิดตัวโฆษณาตัวใหม่ ที่เปิดตัวทางFacebook แทน
- 12. “ เหตุผลที่ทำาให้ Nike เปลี่ ยนแปลงคือการที่ Nike ต้องการเข้า ไปอยู่ในทีที่ลู กค้าอยู่ นันคือ วัยรุ่ นอายุ 17 ปี ซึ่งใช้ เงิน 20 % หรือมากกว่าหมดไปกับรองเท้า ในขณะที่วยผู้ ใหญ่ หมดเงินไปกับรองเท้าน้อยกว่า และวัยรุ่นกลุ่ม นี้ไม่ดูทีวี และหันไปเล่นเว็บชุ ม ชนออนไลน์ทมี อยู่
่ ่ ั ี่
มากมายนับไม่ ถ้วนบนโลก Internet แทน Nike ไม่ เพียงคิดว่า สามารถจะขายของได้ โดยไม่ จำาเป็นต้องทุ่มโฆษณาทางทีวี อย่างทีเคยทำามาในยุคเก่ าก่ อน แต่ Nike ยั งเชื่ ออีกด้วยว่า ในโลกยุ คดิจิตอลนี้ ได้เปิดโอกาสให้แบรนด์สิ นค้า สามารถสื่อสารและมี ปฏิ สั มพันธ์ กับลูกค้า อย่ างใกล้ชิดมากขึ้น อย่า งไม่เ คยมีม าก่ อน
่
”
- 17. Present by
อมรรัตน์ กันทะเนตร ID: 1510325796
พงศกร ลีนุกูล ID: 1520307172
ภานุวัฒน์ สุวนิจจิต
ิ ID: 1520307248
ธนโชติ ทองจำารัส ID: 1520325968