Contenu connexe
Plus de Nanthapong Sornkaew
Plus de Nanthapong Sornkaew (20)
รู้เห็นเป็นใจในทางที่ผิด จบเส้นทางชีวิตข้าราชการ
- 1. (หนังสื อพิมพ์บานเมือง คอลัมน์คดีปกครอง ฉบับวันเสาร์ที่ 3 มีนาคม 2555)
้
รู้ เห็นเป็ นใจในทางทีผด จบเส้ นทางชีวต ... “ข้ าราชการ” !
่ ิ
ิ
ข่าวตามหน้าหนังสื อพิมพ์เกี่ยวกับการลักลอบนาโทรศัพท์มือถือ ยาเสพติด หรื อแม้แต่อาวุธปื น เข้าไปซุกซ่อน
ไว้ในเรื อนจา นับเป็ นข่าวที่ก่อให้เกิดความสงสัยว่าสิ่ งของเหล่านี้ ถูกนาเข้าไปในเรื อนจาได้อย่างไร โดยวิธีการใด คาตอบหนึ่ ง
ที่อาจสันนิษฐานได้คงหนีไม่พนการรู้ เห็นเป็ นใจของเจ้ าหน้ าที่ ของรั ฐที่ มีหน้ าที่ ในการควบคุมดูแลเรื อนจา
้
ดังเช่นกรณี ที่กรมราชทัณฑ์ มีคาสั่ งปลดเจ้ าพนักงานราชทัณฑ์ สังกัดเรื อนจาจังหวัดออกจากราชการ
เนื่ องจากประพฤติ ตนไม่ เหมาะสมและรู้ เห็นเป็ นใจให้ มีการลักลอบนาอาวุธปื นและโทรศัพท์ เคลื่อนที่ เข้ าไปในเรื อนจา
รายละเอียดปรากฏใน คาพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.๓๗๐/๒๕๕๔
ข้อเท็จจริ งจากการสอบสวนทางวินยอย่างร้ายแรงปรากฏว่า ขณะผูฟ้องคดี ดารงตาแหน่ งเจ้าพนักงาน
ั
้
ราชทัณฑ์ ๕ ปรากฏว่า ได้มีการลักลอบนาโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอาวุธปื นเข้าไปให้ผูตองขังชาย ว. โดยนาง ส. ภรรยา
้ ้
ผูตองขังเป็ นผูวาจ้างให้นกโทษชาย น. ที่ทางานประจาร้านสงเคราะห์ของเรื อนจานาเข้าไป โดยผู้ ฟองคดีซึ่งเป็ นเจ้ าหน้ าที่
้้
้่
ั
้
เวรรั กษาการณ์ ประตู เป็ นผู้รู้ เห็นเป็ นใจที่จะไม่ ตรวจค้ นตัว นักโทษชาย น. โดยมี การติ ดต่อกันไว้ก่อนแล้ว นอกจากนี้
ยังปรากฏว่าระหว่างที่ผูฟ้องคดีปฏิ บัติหน้ าที่ ในวันหยุดราชการได้ ให้ นาง ส. เข้ าเยี่ยมผู้ต้องขังชาย ว. หลายครั้ ง และยังไป
้
ร่ วมรั บประทานอาหารและร้ องเพลงร่ วมกับนาง ส. และนักโทษชาย ย. ที่ ร้านอาหารนอกเรื อนจา
คณะกรรมการสอบสวนทางวิ นัย พิ จ ารณาแล้ว เห็ น ว่า พฤติ ก ารณ์ เ ป็ นความผิ ด วิ นัย อย่า งร้ า ยแรง
ฐานไม่ปฏิบติหน้าที่ราชการด้วยความอุตสาหะ เอาใจใส่ระมัดระวังรักษาประโยชน์ของทางราชการ กระทาการอันได้ ชื่อว่ า
ั
เป็ นผู้ประพฤติชั่วอย่ างร้ ายแรงเห็นควรปลดออกจากราชการ ผูถูกฟ้ องคดี ที่ ๒ (อธิ บดี กรมราชทัณฑ์) จึ งมีคาสั่งลงโทษ
้
ปลดผูฟ้องคดีออกจากราชการ
้
ผู้ฟองคดีเห็นว่ าไม่ ได้ รับความเป็ นธรรม จึงนาคดีมาฟองต่ อศาลปกครอง
้
้
พฤติการณ์ ของผู้ฟองคดีซึ่งมีตาแหน่ งเป็ นถึงเจ้ าพนักงานราชทัณฑ์ ๕ มีอานาจหน้ าที่ควบคุมดู แล
้
ผู้ ต้ อ งขั ง ในเรื อ นจ าให้ ป ฏิ บั ติต ามระเบี ย บข้ อ บั ง คั บ ของเรื อ นจ า แสดงให้ เ ห็ น ถึ ง การขาดคุ ณ ธรรม จริ ย ธรรมของ
กรมราชทัณฑ์ หรือไม่ ?
ศาลปกครองสู งสุ ดวินิจฉัยว่ า ผูฟ้องคดีได้รับมอบหมายให้ปฏิบติหน้าที่ เวรรักษาการณ์ประตูจึงมีหน้าที่
้
ั
ตรวจค้นสิ่ งของทุกอย่างที่จะนาเข้าไปในเรื อนจา ซึ่ งหากใช้ ความระมัดระวังและใส่ ใจต่ อการปฏิบัติหน้ าที่เวรรัก ษาการณ์
ประตูเรื อนจาอย่างเคร่ งครัดด้วยความอุตสาหะให้เป็ นไปตามระเบี ยบของทางราชการแล้ว ย่ อมจะต้ องตรวจค้ นสิ่ งของ
ทีจะนาผ่านเข้ าไปในเรือนจา
่
ประกอบกับ คาให้การของนักโทษชาย ย. ที่ ได้ให้การว่า นาง ส. ได้เคยเลี้ ยงอาหารตนกับผูฟ้องคดี
้
เพื่อตอบแทนที่ได้เข้าเยี่ยมนักโทษในวันหยุดราชการ และได้เคยไปรับประทานอาหารและร้องเพลงร่ วมกันกับผูฟ้องคดี
้
ที่ร้านอาหารนอกเรื อนจา แสดงให้ เห็นถึงความสัมพันธ์ ของบุคคลดังกล่ าวว่ ามีความสนิทสนมกันเป็ นอย่ างดี และนักโทษชาย ย.
เป็ นผูตองขัง จึ งไม่มีสิทธิ ออกไปนอกเรื อนจา แต่ก็ไม่ปรากฏว่าผูฟ้องคดี ได้ดาเนิ นการอย่างใด พฤติการณ์ ของผู้ฟ้องคดี
้ ้
้
รวมทั้ งการที่ ไม่ ตรวจค้ นนักโทษชาย น. ทาให้ มีการลักลอบนาโทรศัพท์ เคลื่อนที่ เข้ าไปในเรื อนจา และการมีส่วนรู้ เห็ น
ในการน าอาวุธปื น ซึ่ ง แอบซุ กซ่ อนเข้ ามาในกล่ อ งผงซั กฟอกผ่ า นเข้ าไปในเรื อนจ า โดยไม่ ไ ด้ ท าการตรวจค้ น ถื อ ว่ า
ไม่ เหมาะสมอย่ างยิ่งสาหรั บผู้ซึ่งมีตาแหน่ งเป็ นเจ้ าพนักงานราชทัณฑ์
เมื่ อ ผู ้ฟ้ องคดี ซ่ ึ งมี ต าแหน่ ง เป็ นถึ ง เจ้า พนัก งานราชทัณ ฑ์ ๕ มี อ านาจหน้า ที่ ค วบคุ ม ดู แ ลผู ้ต ้อ งขัง
ในเรื อนจาให้ปฏิ บัติตามระเบี ยบและข้อบังคับของเรื อนจา แต่ผ้ ูฟ้องคดี กลับกระทาการอันเป็ นการฝ่ าฝื นระเบี ยบหรื อ
ข้ อบังคับของเรื อนจา ละเลยต่ อหน้ าที่ไม่ ตรวจค้ นตัวนักโทษ ปล่ อยให้ มีการลักลอบนาโทรศัพท์ เคลื่อนที่ เข้ าไปในเรื อนจา
- 2. โดยไม่ ทาการตรวจค้ นอย่ างเคร่ งครั ดให้ เป็ นไปตามระเบี ยบของทางราชการ ซึ่ งเชื่ อได้ ว่าผู้ฟ้องคดีมีส่วนรู้ เห็นลักลอบ
นาโทรศั พท์ เคลื่อนที่และอาวุธปื นเข้ าไปในเรื อนจา ประกอบกับการที่ ผ้ ูฟ้องคดี ไปร่ วมรั บประทานอาหารนอกเรื อนจา
กับภรรยาของผู้ต้องขังพร้ อมด้ วยผู้ต้องขัง โดยไม่ ใส่ ใจนาผู้ต้องขังกลับเข้ าเรือนจาหรือแจ้ งให้ ผ้ ูเกี่ยวข้ องทราบหรื อรี บนาตัว
ผู้ต้ องขัง กลับเข้ า เรื อ นจ า พฤติ การณ์ และการกระท าดั งกล่ าว นอกจากเป็ นความผิ ดวิ นัย ฐานไม่ ปฏิ บัติ หน้ าที่ ราชการ
ให้ เป็ นไปตามกฎหมายและระเบี ยบของทางราชการ ไม่ รักษาชื่ อเสี ยงและเกี ยรติ ศักดิ์ ของตาแหน่ งหน้ าที่ ของตนแล้ ว
ยังแสดงให้ เห็นถึง การขาดคุณธรรม จริ ยธรรมของข้ าราชการกรมราชทัณฑ์ ที่มีผลกระทบต่ อเรื อนจาและกรมราชทัณฑ์
ทาให้ เสี ยหายต่ อภาพพจน์ ชื่ อเสี ยงของทางราชการอย่ างร้ ายแรง พฤติการณ์ และการกระทาดังกล่ าวของผู้ฟ้องคดี ถือได้ ว่า
เป็ นความผิดวินัยอย่ างร้ ายแรง อันได้ ชื่อว่ าเป็ นผู้ประพฤติชั่วอย่ างร้ ายแรง ตามมาตรา ๘๔ มาตรา ๘๕ และมาตรา ๙๘ วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรื อน พ.ศ. ๒๕๓๕
การที่ ผ้ ู ถูกฟ้ องคดี ที่ ๒ ลงโทษปลดผู้ ฟ้องคดี ออกจากราชการโดยคานึ งถึ งข้ อเท็จ จริ ง ข้ อกฎหมาย
ตลอดจนความเหมาะสมและมาตรฐานการลงโทษ จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยชอบด้ วยกฎหมาย
คาสั่งทีให้ ปลดผู้ฟองคดีออกจากราชการจึงเป็ นคาสั่งทีชอบด้ วยกฎหมาย
่
้
่
คาพิพากษาศาลปกครองสูงสุ ดที่ได้นาเสนอดังกล่าวนี้ นับเป็ นแนวปฏิบติราชการที่ดีที่ทาให้ขาราชการ
ั
้
่
ทุกคนได้รับรู ้วา “หน้ าที” ทีต้องปฏิบัตน้ันไม่ ใช่ เพียงแค่ การปฏิบัตตนไปตามหน้ าทีทได้ รับมอบหมายเท่ านั้น แต่ การปฏิบัติ
่ ่
ิ
ิ
่ ี่
หน้ าที่ดังกล่ าวจะต้ องเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ไปด้ วยความอุตสาหะ ระมัดระวัง และใส่ ใจต่ อการปฏิบัติหน้ าที่เพื่อรั กษา
่ ั
ประโยชน์ ของทางราชการ และเป็ นอุทาหรณ์ที่ดีสาหรับข้าราชการทุกคนว่า ชื่อเสี ยงและเกียรติศกดิ์ของตาแหน่งที่ตนดารงอยูน้ น
ั
มีความสาคัญไม่เพียงแต่เฉพาะตัวของข้าราชการผูน้ นเท่านั้น แต่หมายความรวมถึงภาพพจน์ และชื่อเสี ยงของหน่ วยงานต้ นสั งกัด
้ ั
และระบบบริ หารราชการแผ่นดินด้วย ดังนั้น การที่ข้าราชการไม่ เคร่ งครัดหรือไม่ ใส่ ใจยึดมั่นต่ อคุณธรรมและจริยธรรม
ในตาแหน่ งหน้ าทีของตน นอกจากจะมีความผิดทางวินัยแล้ ว ยังถือเป็ นการทาลายภาพพจน์ ขององค์ กรและเพือนร่ วมอาชีพ
่
่
อย่ างหลีกเลียงไม่ ได้ ... ครับ
่
นายปกครอง