สุขศึกษา ม.3

วิเคราะห์ข้อสอบ O-NET ปีการศึกษา 2556 กลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สพป.บุรีรัมย์ เขต 1
วิเคราะห์ข้อสอบ O-NET ปีการศึกษา 2556
กลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มงานวัดและประเมินผลการศึกษา
กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 1

1. ผู้ที่ต้องการพัฒนาบุคลิกภาพ จะต้องปฏิบัติข้อใดเป็นอันดับแรก
1. ฝึกเข้าใจจิตใจผู้อื่น
2. ฝึกการใช้คาพูดที่ไพเราะ
3. สารวจข้อบกพร่องของตนเอง
4. ศึกษาลักษณะที่ดีของบุคคลอื่น
เฉลย ข้อ 3 สารวจข้อบกพร่องของตนเอง
เนื่องจากโจทย์ต้องการทราบว่าการพัฒนาบุคลิกภาพต้องทาอย่างไรเป็นอันดับแรก ดังนั้นจึงตอบ ข้อ 3 เพราะการพัฒนาบุคลิกภาพสิ่งแรก ต้องวิเคราะห์จุดเด่นจุดด้อยของตนเองเป็นการสารวจข้อบกพร่อง ของตนเอง
ลักษณะเฉพาะของข้อสอบ
มาตรฐาน : พ 1.1
สาระ : การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์
ตัวชี้วัด : ม. 2/1
รูปแบบข้อสอบ : ปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก ถูก 1 คาตอบ
ระดับ ร้อยละนักเรียนตอบถูก
ประเทศ 76.69
สพฐ. 77.01
สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 64.29
2. การประเมินผลการเจริญเติบโตของตนเอง ข้อใดไม่เหมาะสม
1. ตรวจสุขภาพประจาปีทุกปี
2. ชั่งน้าหนัก วัดส่วนสูงปีละครั้ง
3. บันทึกผลการชั่งน้าหนัก วัดส่วนสูงทุกครั้ง
4. เปรียบเทียบการเจริญเติบโตของตนเองกับเพื่อน ๆ
เฉลย ข้อ 2 ชั่งน้าหนัก วัดส่วนสูงปีละครั้ง
เนื่องจากโจทย์ต้องการทราบว่าร่างกายของเรามีการเจริญเติบโตขึ้นโดยใช้วิธีใด ดังนั้นจึงตอบข้อ 2 เพราะ การชั่งน้าหนักและส่วนสูงควรชั่งอย่างต่อเนื่อง ชั่ง 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง จะทาให้ทราบการเจริญเติบโต ได้อย่างชัดเจน
สพฐ. 25.06

3. ข้อใด ไม่ใช่ ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการตั้งครรภ์
1. เอดส์
2. ฟันผุ
3. หลอดเลือดขอด
4. ความดันโลหิตสูง
เฉลย ข้อ 1 เอดส์
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้บอกภาวะการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นจึงตอบข้อ 1 เพราะโรคเอดส์เป็นโรคที่ ติดต่อจากเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยไม่ใช่ภาวะแทรกซ้อน
สาระ : ชีวิตและครอบครัว
ตัวชี้วัด : ม.2/2
สพฐ. 17.16
4. ถ้าต้องการคุมกาเนิดครั้งเดียว แต่สามารถคุมกาเนิดได้นาน 3 เดือน ควรใช้วิธีใด
1. การใส่ห่วงอนามัย
2. การฉีดยาคุมกาเนิด
3. การกินยาเม็ดคุมกาเนิดฉุกเฉิน
4. การกินยาเม็ดคุมกาเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
เฉลย ข้อ 2 การฉีดคุมกาเนิด
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ทราบถึงวิธีการคุมกาเนิดที่สามารถกาหนดระยะเวลาได้ ดังนั้นจึงตอบข้อ 2 เพราะ ยาฉีดคุมกาเนิด เป็นการคุมกาเนิดชั่วคราว โดยการฉีกฮอร์โมนเข้ากล้ามเนื้อในระยะเวลาที่กาหนด ฮอร์โมนโปรเจสติน ในระยะคุมกาเนิดจะยับยั้งการตกไข่ทาให้ไม่มีไข่มาปฏิสนธิ ระยะเวลาห่างตั้งแต่ 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของยา
สพฐ. 60.15

5. ข้อใดเป็นการปูองกันตนเองมิให้ตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์
1. การไม่มีคู่รักในวัยเรียน
2. การแสดงความเสมอภาคทางเพศ
3. การไม่อยู่ในที่ลับตากับเพศตรงข้าม
4. การสร้างความสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม
เฉลย ข้อ 3 การไม่อยู่ในที่ลับตากับเพศตรงข้าม
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้รู้วิธีปูองกันตนเองต่อการมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นจึงตอบข้อ 3 เพราะ สถานการณ์เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ คือสถานการณ์เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์โดยง่าย ดังนี้ 1) การโอบ กอด จูบ 2) การอยู่ในที่ลับตา 3) การดูสื่อยั่วยุทางเพศ 4) การเสพสารเสพติด การดื่มเครื่องดื่มที่มี แอลกอฮอร์ 5) การไปเที่ยวกลางคืน
สพฐ. 76.33
6. การคุมกาเนิดวิธีใด ปูองกันและควบคุมไม่ให้ไข่ตกจากรังไข่
1. การทาหมัน
2. การใส่ห่วงอนามัย
3. การใช้ถุงยางอนามัย
4. การใช้ยาเม็ดคุมกาเนิด
เฉลย ข้อ 4 การใช้ยาเม็ดคุมกาเนิด
เนื่องจากโจทย์ต้องการทราบวิธีปูองกันและวิธีควบคุมไม่ให้ไข่ตกจากรังไข่ ดังนั้นจึงตอบ ข้อ 4 เพราะ การใช้ยาเม็ดคุมกาเนิด มีฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งช่วยห้ามการสุกของไข่ และช่วยให้ตัวบุมดลูกบาง ไม่เหมาะกับการฝังตัวของตัวอ่อน
สพฐ. 20.35

7. การคุมกาเนิดวิธีใด ได้ผลน้อยที่สุด ถ้าฝุายหญิงมีประจาเดือนมาไม่สม่าเสมอทุกเดือน
1. ใส่ห่วงอนามัย
2. นับวันปลอดภัย
3. กินยาคุมกาเนิด
4. ฉีดยาคุมกาเนิด
เฉลย ข้อ 2 นับวันปลอดภัย เนื่องจากโจทย์ต้องการให้บอกวิธีคุมกาเนิดที่ได้ได้ผลน้อยที่สุด เมื่อฝุาย หญิงมีประจาเดือนมาไม่สม่าเสมอทุกเดือน ดังนั้นจึงตอบข้อ 2 เพราะจากการนับวันปลอดภัย มีข้อจากัดว่า จะต้องใช้กับผู้หญิงที่มีประจาเดือนมาตรงตามวันเป็นปกติทุกเดือน เช่น มาทุกวันของวันที่ 3 ของทุกเดือน โดยไม่คลาดเคลื่อนจึงจะปลอดภัยแต่ถ้านับระยะวันปลอดภัยจากหญิงที่มีประจาเดือนคลาดเคลื่อนก็ทาให้การ คุมกาเนิดด้วยวิธีนับวันปลอดภัย ได้ผลน้อยที่สุด จะทาให้ตั้งครรภ์ได้
สพฐ..68.81
8. ถ้าถูกล่วงเกินหรือถูกลวนลามทางเพศ ควรปฏิบัติตนอย่างไรเป็นลาดับแรก
1. ลุกหนีทันที
2. ปฏิเสธแสดงทีท่าไม่พอใจ
3. ว่ากล่าวด้วยถ้อยคาที่รุนแรง
4. บอกครู พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง
เฉลย ข้อ 1 ลุกหนีทันที
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้บอกวิธีหลีกเลี่ยงการถูกล่วงเกินหรือถูกลวนลามทางเพศ ดังนั้นจึงตอบ ข้อ 1 เพราะการลุกหนีทันทีเป็นวิธีแรกเมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้
สพฐ. 58.14

9. ถ้ามีประจาเดือนวันแรกในวันที่ 30 กันยายน การมีเพศสัมพันธ์วันใดจะทาให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อยที่สุด
1. 15 กันยายน
2. 4 ตุลาคม
เฉลย ข้อ 2 4 ตุลาคม เนื่องจากโจทย์ต้องการให้คุมกาเนิดด้วยวิธีการนับวันปลอดภัยได้ถูกต้อง ดังนั้นจึงตอบข้อ 2 การมีเพศสัมพันธ์หน้าเจ็ด/หลังเจ็ด หน้าเจ็ดหมายความว่า เจ็ดวันก่อนรอบเดือนมา หลังเจ็ดหมายความว่าเจ็ดวันนับวันแรกที่รอบเดือนมา หน้าเจ็ดคือวันที่ 23-29 ก.ย. หลังเจ็ดคือ วันที่ 30 ก.ย. ถึงวันที่ 6 ต.ค ดังนั้นวันที่ 4 ต.ค. ไข่ที่ฝุอตกเป็นประจาเดือนไปแล้ว เมื่อมีเพศสัมพันธ์ย่อมปลอดภัย
สพฐ. 30.05
10. การแข่งขันกรีฑาประเภทลู่ ข้อใดเป็นการแข่งขันในระยะกลาง
1. วิ่ง 200 เมตร
4. วิ่ง 10,000 เมตร
เฉลย ข้อ 3 วิ่ง 800 เมตร เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ทราบถึงชนิดของการแข่งขันกรีฑาประเภทลู่ ดังนั้น จึงตอบข้อ 3 เพราะกรีฑามี 2 ประเภทคือประเภทลู่และประเภทลาน กรีฑาประเภทลู่ประกอบด้วย
ระยะสั้น ตั้งแต่ 400 เมตรลงมา
ระยะกลาง ตั้งแต่ 800 - 1500 เมตร
ระยะไกล 1500 เมตร ขึ้นไป
สาระ : การเคลื่อนไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม
กีฬาไทยและกีฬาสากล
สพฐ. 25.77

11. กิจกรรมในข้อใดเป็นกิจกรรมนันทนาการ
1. ร้องเพลงคาราโอเกะในบ้าน
2. เล่นตลกในรายการโทรทัศน์
3. เข้าแข่งขันกีฬาในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์
4. เข้าร่วมประชุมการจัดกิจกรรมของโรงเรียนเนื่องในวันเด็ก
เฉลย ข้อ 1 ร้องคาราโอเกะในบ้าน
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ทราบถึงกิจกรรมนันทนาการ เป็นกิจกรรมที่เข้าร่วมโดยความสมัครใจ ไม่ ถูกบังคับ และไม่มีรายได้มาเกี่ยวข้อง
สพฐ. 47.25
12. นักเรียนควรเลือกเล่นกีฬาชนิดใดเพื่อพัฒนาสุขภาพกายได้ดีที่สุด
1. ยิงธนู
2. ว่ายน้า
3. หมากรุก
4. ทุ่มน้าหนัก
เฉลย ข้อ 2 ว่ายน้า
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้เลือกกีฬาที่พัฒนาสุขภาพกายได้ดีที่สุด ดังนั้นจึงตอบข้อ 2 เพราะกีฬา ว่ายน้าเป็นกีฬาที่สามารถออกกาลังกายได้ครบทุกส่วนของร่างกาย
สพฐ. 94.61

13. การปฏิบัติตนในฐานะผู้ชมกีฬาบาสเกตบอลข้อใด แสดงถึงความมีน้าใจนักกีฬามากที่สุด
1. ปรบมือเมื่อเห็นด้วยกับการตัดสินของกรรมการ
2. ปรบมือให้เมื่อผู้เล่นฝุายหนึ่งฝุายใดยิงลูกเข้าห่วง
3. ส่งเสียงโห่ร้องเมื่อผู้เล่นฝุายที่ตนเชียร์ยิงลูกไม่เข้าห่วง
4. ปรบมือให้เมื่อผู้เล่นของทีมฝุายตรงข้ามยิงลูกไม่เข้าห่วง
เฉลย ข้อ 2 ปรบมือให้เมื่อผู้เล่นฝุายหนึ่งฝุายใดยิงลูกเข้าห่วง
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้มีมารยาทที่ดีในการชมกีฬาบาสเกตบอลจึงตอบข้อ 2 เพราะ การปรบมือ เป็นการแสดงถึงความพึงพอใจของผู้ชมกีฬา
สพฐ. 62.09
14. ในการแข่งขันกีฬาฟุตบอล ด.ช.ชวิน ถูกคู่แข่งขันเจตนาทาฟาวล์ ภายหลังคู่แข่งขันได้กล่าวขอโทษกับ
ด.ช.ชวิน ถ้านักเรียนเป็น ด.ช.ชวิน จะทาอย่างไร
1. ต่อว่าเล็กน้อย แล้วยกโทษให้
2. ยกโทษให้ เพราะไม่อยากมีเรื่อง
3. ยกโทษให้ เพื่อให้เพื่อน ๆ ชื่นชม
4. ยกโทษให้ เพราะเป็นการเล่นกีฬา
เฉลย ข้อ 4 ยกโทษให้ เพราะเป็นการเล่นกีฬา เนื่องจากโจทย์ต้องการให้มีน้าใจเป็นนักกีฬา ดังนั้นจึง ตอบข้อ 4 เพราะ การมีน้าใจเป็นนักกีฬา คือ การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย
สพฐ. 91.86

15. คุณยายควรเลือกดูแลตนเองอย่างไรเพื่อปูองกันโรคความดันโลหิตสูง
1. รับประทานข้าวขาหมู/ออกกาลังกาย 4 วันต่อสัปดาห์/อ่านหนังสือพิมพ์
2. รับประทานข้าวเหนียวส้มตา/ออกกาลังกาย 1 วันต่อสัปดาห์/เล่นหมากรุก
3. รับประทานสลัดผักผลไม้รวม/ออกกาลังกาย 3 วันต่อสัปดาห์/รดน้าต้นไม้
4. รับประทานข้าวขาหมูทอดกระเทียม/ออกกาลังกาย 2 วันต่อสัปดาห์/ร้องเพลงคาราโอเกะ
เฉลย ข้อ 3 รับประทานสลัดผักผลไม้รวม /ออกกาลังกาย 3 วันต่อสัปดาห์/รดน้าต้นไม้
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้รู้วิธีปูองกันโรคความดันโลหิตสูง เพราะผักผลไม้มีกากใยอาหารที่ย่อยง่าย และช่วยในการขับถ่ายการออกกาลังกาย 3 /สัปดาห์ทาให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีร่างกายแข็งแรงรดน้าต้นไม้ เป็นการทางานเบาๆเหมาะสาหรับผู้สูงอายุ
สาระ : การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการปูองกันโรค
รูปแบบข้อสอบ : ปรนัยชนิดเลือกตอบ ตัวเลือกถูก 1 ตัว
สพฐ. 88.84
16. ถ้านักเรียนเดินทางจากโรงเรียนกลับบ้านเป็นระยะทาง 2 กิโลเมตรโดยไม่หยุดทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือน
จะส่งผลต่อสมรรถภาพทางกายด้านใดมากที่สุด
1. ด้านความเร็ว
2. ด้านความทนทานของกล้ามเนื้อ
3. ด้านความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
4. ด้านความอดทนของระบบไหลเวียนหิต
เฉลย ข้อ 2 ด้านความทนทานของกล้ามเนื้อ
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้รู้วิธีการสร้างสมรรถภาพทางกาย ดังนั้นจึงตอบข้อ 2 เพราะ ความสามารถของกล้ามเนื้อที่ได้ประกอบกิจกรรมซ้าซากได้เป็นระยะเวลานานอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวชี้วัด : ม 3/4
สพฐ. 20.94

17. ถ้านักเรียนต้องการพัฒนาสมรรถภาพด้านความอ่อนตัว นักเรียนควรเลือกกิจกรรมในข้อใด
1. ดึงข้อ
2. วิ่งซิกแซ็ก
3. กระโดดเข่าแตะอก
4. นั่งแยกเท้าก้มแตะสลับ
เฉลย ข้อ 4 นั่งแยกเท้าก้มแตะสลับ
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ทราบวิธีทดสอบสมรรถภาพทางกายที่เหมาะสม ดังนั้นจึงตอบข้อ 4 เพราะเป็นการยืดกล้ามเนื้อ เหยียดกล้ามเนื้อ และวัดความอ่อนตัว
สพฐ. 76.99
18. ถ้านักเรียนต้องการทราบสมรรถภาพทางกายด้านพลังกล้ามเนื้อของตนเอง นักเรียนควรเลือก
วิธีการทดสอบแบบใด
1. ยืนกระโดดไกล แล้ววัดระยะทางที่ทาได้เป็นเซนติเมตร
2. วิ่งเร็ว ระยะทาง 50 เมตร แล้วจับเวลาที่ทาได้เป็นวินาที
3. เดิน/วิ่ง ระยะทาง 1,600 เมตร แล้วจับเวลาที่ทาได้เป็นนาที
4. วิ่งกลับตัว ระยะ 5 เมตร ในเวลา 15 วินาที แล้ววัดระยะที่ทาได้เป็นเมตร
เฉลย ข้อ 1 ยืนกระโดดไกลแล้ววัดระยะทางที่ทาได้เป็นเซนติเมตร
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ทราบถึงวิธีทดสอบพลังกล้ามเนื้อของตนเอง ดังนั้นจึงตอบข้อ 1 เพราะ ยืนกระโดดไกลเป็นการทดสอบสมรรถภาพทางกายของกล้ามเนื้อโดยตรง
สพฐ. 43.72

19. ผู้ที่มีร่างกายเจริญเติบโตต่ากว่าปกติเรียนรู้ช้า ผมเปราะและร่วงง่าย ควรรับประทานอาหารข้อใดเพิ่มขึ้น
1. ผัก
2. กะทิ
3. ผลไม้
4. นม ไข่
เฉลย ข้อ 4 นม ไข่
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ทราบถึงการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าและพัฒนาการ การเจริญเติบโต ดังนั้นจึงตอบข้อ 4 เพราะนม ไข่ เป็นอาหารประเภทโปรตีน มีหน้าที่ทาให้ การเจริญเติบโตตามวัยและซ่อมแซมส่วนที่สึกหล่อ
สพฐ. 61.45
20. กิจกรรมใดทาให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพในชุมชนได้ชัดเจนที่สุด
1. จัดกิจกรรมเดิน – วิ่งของคนในชุมชน
2. ติดคาขวัญรณรงค์ให้คนในชุมชนตระหนักในการดูแลสุขภาพ
3. แจกแผ่นพับตามบ้านเพื่อรณรงค์ให้คนในชุมชุนรักษาสุขภาพ
4. จัดรายการเสียงตามสายเพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารด้านสุขภาพ
เฉลย ข้อ 1 จัดกิจกรรมเดิน – วิ่งของคนในชุมชน
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ทราบถึงวิธีการสร้างเสริมสุขภาพในชุมชน ดังนั้นจึงตอบข้อ 1 เพราะเป็น การปฏิบัติจริง เห็นรูปธรรม และชุมชนมีส่วนร่วมอย่างชัดเจน
สพฐ. 74.05

21. ขั้นตอน การออกกาลังกาย ข้อใดถูกต้อง
1. เดินช้า 10 นาที เดินเร็ว 30 นาที
2. เดินเร็ว 30 นาที เดินช้าลง 10 นาที
3. บริหารร่างกาย 10 นาที เดินเร็ว 30 นาที
4. บริหารร่างกาย 5 นาที เดินเร็ว 30 นาที เดินช้า 5 นาที
เฉลย ข้อ 4 บริหารร่างกาย 5 นาที เดินเร็ว 30 นาที เดินช้า 5 นาที
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ปฏิบัติได้ถูกต้องเกี่ยวกับการออกกาลังกายดังนั้นจึงตอบข้อ 4
การออกกาลังกาย มีขั้นตอนดังนี้
1. อบอุ่นร่างกาย
2. ขั้นออกกาลังกาย
3. ขั้นผ่อนคลาย (คลายอุ่น)
สาระ : การเคลื่อนไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทยและ กีฬาสากล
สพฐ. 69.94

22. การคลายอุ่นร่างกายหลังการออกกาลังกาย ข้อใดถูกต้อง
1. นวดกล้ามเนื้อเบา ๆ
2. วิ่งเร็ว ๆ 600 – 800 เมตร
3. เดินสบาย ๆ 600 – 800 เมตร
4. นอนหงายราบกับพื้น 10 นาที
เฉลย ข้อ 3 เดินสบายๆ 600-800 เมตร
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ทราบถึงการคลายอุ่นหลังจากการออกกาลังกาย ดังนั้นจึงตอบข้อ 3 เพราะการคลายอุ่นคือการออกกาลังกายยังคงดาเนินต่อไป เช่น เดิน วิ่งเหยาะๆ ปั่นจักรยาน
โดยทาที่ระดับความหนักที่ต่าเป็นเวลาประมาณ 15 นาที เพื่อที่เป็นการปูองกันการคั่งของเลือดที่บริเวณ
อวัยวะส่วนปลายและลดอาการหน้ามืดและเป็นลม ซึ่งการสูบฉีดเลือดโดยกล้ามเนื้ออย่างต่อเนื่องนี้ จะ
เป็นการเพิ่มการไหลกลับของเลือดสู่หัวใจและช่วยให้การฟื้นตัวได้เร็วขึ้น การยืดเหยียดอาจทาซ้าอีก
ในช่วงนี้เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดตะคริวและความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อที่จะตามมา
สพฐ. 28.64

23. สัญญาณอันตรายสาหรับผู้ที่ออกกาลังกายคือข้อใด
1. แน่นหน้าอก
2. เหงื่อออกมาก
3. หิวกระหายน้า
4. หายใจถี่และแรง
เฉลย ข้อ 1 แน่นหน้าอก
เนื่องจากโจทย์ต้องการทราบถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นขณะออกกาลังกาย ดังนั้นจึงตอบข้อ 1 เพราะ ภาวะแน่นหน้าอกเป็นสัญญาณเตือนของความผิดปกติของระบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจเป็นอันตราย ถึงชีวิตได้
สพฐ. 66.42
24. ใครมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการทางานกับเครื่องจักรมากที่สุด
1. โจ ทางานอย่างรวดเร็ว
2. โดม หยอกล้อกับเพื่อนขณะทางาน
3. บี สวมรองเท้าแตะมาทางาน
4. ณัฐ ไม่รับประทานอาหารก่อนมาทางาน
เฉลย ข้อ 2 โดม หยอกล้อกับเพื่อนขณะทางาน
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้รู้จักวิธีปูองกันอุบัติเหตุจากการทางานกับเครื่องจักร ดังนั้นจึงตอบข้อ 2 เพราะการหยอกล้อ เป็นเหตุของความประมาทเลินเล่อ ในขณะทางานต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ

สาระ : ความปลอดภัยในชีวิต
สพฐ. 76.26
25. เมื่อมีความคิดเห็นไม่ตรงกับเพื่อน ควรปฏิบัติอย่างไร
1. พูดโน้มน้าวให้เพื่อนเห็นด้วย
2. ไม่แสดงความคิดเห็นเรื่องนั้นอีก
3. เปลี่ยนใจไปเห็นด้วยกับความคิดของเพื่อน
4. แสดงเหตุผลประกอบความคิดเห็นให้เพื่อนตัดสินใจ
เฉลย ข้อ 4 แสดงเหตุผลประกอบความคิดเห็นให้เพื่อนตัดสินใจ
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงและชักชวนเพื่อนไม่ให้ใช้ความรุนแรงในการ แก้ปัญหา ดังนั้น จึงตอบข้อ 4 เพราะ เป็นการพูดยอมรับกัน ใช้หลักการอย่างมีเหตุผล และเป็น ประชาธิปไตย
สพฐ. 91.12

26. นักเรียนควรปฏิบัติอย่างไรเพื่อลดความรุนแรงในครอบครัว เมื่อผู้ปกครองไม่อนุญาตให้ไปต่างจังหวัด
กับเพื่อน
1. พยามยามต่อรองขอไปให้ได้
2. โทรศัพท์บอกเพื่อนว่าไปไม่ได้
3. ไปขออนุญาตคุณปูุ คุณย่าแทน
4. แสดงความไม่พอใจ และเก็บตัวในห้องนอน
เฉลย ข้อ 2 โทรศัพท์บอกเพื่อนว่าไปไม่ได้
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ รู้จักหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงและชักชวนเพื่อนไม่ให้ใช้ความรุนแรงใน การแก้ปัญหา ดังนั้นจึงตอบข้อ 2 เพราะเป็นวิธีที่สะดวกรวดเร็ว ลดความรุนแรง ได้ดี และรักษา สัมพันธภาพที่ไว้ด้วย
สพฐ. 91.18
27. ความรุนแรงข้อใด ที่ทาร้ายทางจิตใจโดยตรง
1. การทุบตี
2. การด่าทอ
3. การบังคับ
4. การทะเละวิวาท
เฉลย ข้อ 3 การบังคับ
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้บอกชนิดความรุนแรงได้ ดังนั้นจึงตอบข้อ 3 เพราะความรุนแรงมี 2 ชนิดคือ 1. ด้านร่างกาย 2. ด้านจิตใจ การบังคับเป็นการกระทารุนแรงทางจิตใจ หมายถึง การกระทาใด ๆ ที่มีผลให้ผู้ถูกกระทาได้รับความกระทบกระเทือนด้านจิตใจหรือเสียสิทธิเสรีภาพ ได้แก่ การทอดทิ้ง การดูถูก เหยียดหยาม หรือดุด่า การกักขังหน่วงเหนี่ยว

รูปแบบข้อสอบ : ปรนัยชนิดเลือกตอบ ตัวเลือกถูก 1 ตัว
สพฐ. 27.69
28. การปฏิบัติในข้อใด สามารถแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวได้มากที่สุด
1. พูดคุย
2. ไปทัศนศึกษา
3. ช่วยเหลืองานบ้าน
4. ชมโทรทัศน์รายการเดียวกัน
เฉลย ข้อ 1 พูดคุย
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ทราบถึงวิธีแก้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ดังนั้นจึงตอบข้อ 1 การพูดคุยเป็น การสร้างความเข้าใจในครอบครัว ทาให้เกิดความเข้าใจกัน
สพฐ. 80.89
29. ถ้าอยากทาลายวงจรชีวิตยุงลายภายในบ้าน วิธีใดสามารถทาได้ง่ายที่สุด
1. สร้างเครื่องกาจัดยุง
2. ซื้อเครื่องซ็อร์ตด้วยไฟฟูา
3. ไม่ให้มีแหล่งน้าขังภายในบ้าน
4. เอาปลาหางนกยูงมาปล่อยบริเวณที่มีน้าขัง
เฉลย ข้อ 3 ไม่ให้มีแหล่งน้าขัง
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ทราบถึงแนวทางปูองกันโรค ที่ง่ายที่สุด ดังนั้นจึงตอบข้อ 3 เพราะ ใน บ้านไม่มีน้าขังก็จะไม่มีแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้า ยุงลาย

สาระ : การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการปูองกันโรค ตัวชี้วัด : ม 3/2
สพฐ. 72.50
30. ผู้ที่ชอบรับประทานอาหารประเภทของทอดและขนมขบเคี้ยวระหว่างมื้อจะมีโอกาสเป็นโรคใด
1. อ้วน
2. ตับอักเสบ
3. มะเร็งลาไส้
4. กระเพาะอาหาร
เฉลย ข้อ 1 อ้วน
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ทราบถึงสาเหตุของการเกิดโรคอ้วน ดังนั้นจึงตอบข้อ 1 เพราะอาหาร ประเภททอดจะมีสารอาหารประเภทไขมันมากและขนมขบเคี้ยวจะมีสารอาหาร
สพฐ. 84.22
31. เหตุผลข้อใดสาคัญที่สุด ในการดูแลรักษาความสะอาดด้วยการล้างมือ
1. เป็นสุขนิสัยที่ทุกคนต้องปฏิบัติ
2. เสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย
3. ลดปริมาณสิ่งสกปรกที่อยู่บนร่างกาย
4. ปูองกันการติดต่อเชื้อโรคทางการสัมผัส
เฉลย ข้อ 4 ปูองกันการติดต่อเชื้อโรคทางการสัมผัส

เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ทราบถึงประโยชน์ของการล้างมือ ดังนั้นจึงตอบข้อ 4 เพราะโรคติดต่อ จากการสัมผัสได้โดยตรง เช่น โรคตาแดง โรคเชื้อรา แผลอักเสบที่ผิวหนัง หิด เริม การติดต่อ เกิดจากมือไป สัมผัสแผล ฝี หนอง โดยตรง แล้วมาสัมผัสกับส่วนต่างๆ ของร่างกาย
สพฐ. 73.28
32. บริเวณใดที่สะดวกและเหมาะสมที่สุดในการจับชีพจรของบุคคลทั่วไป
1. คอ
2. ข้อมือ
3. ข้อพับที่ข้อศอก
4. ข้อพับใต้หัวเข่า
เฉลย ข้อ 2 ข้อมือ เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ทราบถึงวิธีการตรวจหาสัญญาณชีพ ดังนั้นจึงตอบข้อ 2 เพราะตาแหน่ง ที่จับชีพจร สามารถจับได้ทุกที่ที่มีเส้นเลือดแดงอยู่แต่ที่ที่ง่ายที่สุดต่อการจับชีพจรก็คือข้อมือด้านนิ้วโปูงซึ่งจะมี เส้น เลือดแดงเรเดียล(radialartery) อยู่นั่นเอง
สพฐ. 82.94

33. การปฏิสนธิ หมายถึงข้อใด
1. การเกิดของทารก
2. การที่ชายและหญิงมีเพศสัมพันธ์กัน
3. การเจริญเติบโตของไข่ที่ได้รับการผสมจากเชื้ออสุจิแล้ว
4. การที่ตัวอสุจิของฝุายชายเข้าไปผสมพันธ์กับไข่ของฝุายหญิง
เฉลย ข้อ 4 การที่ตัวอสุจิของฝุายชายเข้าไปผสมพันธุ์กับไข่ของฝุายหญิง
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ทราบถึงความหมายการปฏิสนธิ ดังนั้นจึงตอบข้อ 4 เพราะ การปฏิสนธิ หมายถึง กระบวนการที่เซลล์ของเพศชาย (อสุจิ) เข้าไปผสมรวมกับเซลล์ของเพศหญิง (ไข่) แล้วทาให้เกิดเซลล์ ใหม่ขึ้นมา
สพฐ. 74.09
34. การปฏิบัติตัวของวัยรุ่น ข้อใดเหมาะสมกับวัยมากที่สุด
1. วันนา รับประทานอาหารประเภทผักและผลไม้มากที่สุด
2. เพ็ญศรี ออกกาลังกายและงดอาหารเย็นเพื่อลดความอ้วน
3. ดารง นอนในเวลา 01.00 น. – 09.00 น. รวม 8 ชั่วโมงทุกวัน
4. มานี รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ แต่ไม่รับประทานผลไม้บางชนิด
เฉลย ข้อ 4 มานี รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ แต่ไม่รับประทานผลไม้บางชนิด
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้เลือกรับประทานอาหารได้เหมาะสมกับวัย จึงตอบข้อ 4 เพราะ การ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่จะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตได้เต็มที่
สพฐ. 41.39

35. ข้อใดคือการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดในวัยรุ่นชาย
1. ไหล่กว้างขึ้น
2. สะโพกขยายออก
3. สะสมไขมันมากขึ้น
4. เสียงแหลมหรือสูงขึ้น
เฉลย ข้อ 1 ไหล่กว้างขึ้น
เนื่องจากโจทย์ต้องการทราบถึงพัฒนาการของวัยรุ่นชาย ดังนั้นจึงตอบข้อ 1 เพราะวัยรุ่นชายจะมี ไหล่กว้างขึ้น มีลูกกระเดือกชัดเจนขึ้น เสียงแตกห้าว กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ
สพฐ. 64.63
36. กีฬาประเภทใด ช่วยสร้างเสริมสมาธิให้กับผู้เล่นมากที่สุด
1. แชร์บอล
2. หมากฮอส
3. วอลเล่ย์บอล
4. เทเบิลเทนนิส
เฉลย ข้อ 2 หมากฮอส
เนื่องจากโจทย์ต้องการทราบถึงประโยชน์ของการเล่นกีฬา (หมากฮอส) ดังนั้นจึงตอบข้อ 2 เพราะกีฬาหมากฮอสเป็นกีฬาที่ต้องใช้สมาธิเป็นหลัก ในการแข่งขัน
สพฐ. 80.44

37. สัญญาณชีพข้อใด แสดงถึงความผิดปกติ
1. หายใจนาทีละ 72 ครั้ง
2. ชีพจรเต้นนาทีละ 20 ครั้ง
3. อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส
4. เด็กทารกมีอัตราการเต้นของชีพจรมากกว่าผู้ใหญ่
5. ความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัว 120 มิลลิเมตรปรอท
6. ความดันโลหิตขณะหัวใจคลายตัว 80 มิลลิเมตรปรอท
เฉลย ข้อ 1 หายใจนาทีละ 72 ครั้ง
ข้อ 2 ชีพจรเต้นนาทีละ 20 ครั้ง
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ทราบถึงการช่วยให้ฟื้นคืนชีพที่ถูกวิธี ดังนั้นจึงตอบข้อ 1 และ 2 เพราะ โดยปกติคนทั่วไปจะหายใจ ประมาณ 20 - 40 ครั้งต่อนาทีและมีอัตราการเต้นของชีพจร60 - 100 ครั้ง ต่อนาที
รูปแบบข้อสอบ : ปรนัยชนิดหลายตัวเลือก ถูกมากกว่า 2 คาตอบ
สพฐ. 13.27

38. กิจกรรมใดใช้ทักษะการเคลื่อนไหวพื้นฐานเท่านั้น
1. เต้นรา
2. ตีลังกา
3. ม้วนหน้า
4. กระโดดเชือก
5. สไลด์ซ้าย- ขวา
6. กว้างลูกฟุตบอล
เฉลย ข้อ 5 สไลด์ซ้าย – ขวา
ข้อ 6 ขว้างลูกฟุตบอล
เนื่องจากโจทย์ต้องการให้ทราบถึงทักษะพื้นฐาน ดังนั้นจึงตอบข้อ 5 และ 6 เพราะ สไลด์ซ้าย – ขวา หมายถึง การก้าวเท้าออกไปทางด้านข้างเริ่มด้วยเท้าไหนก็ได้ ถ้าเริ่มเท้าซ้ายก็ก้าวออกไปทางด้านซ้าย ถ้าเริ่มเท้าขวาก็ก้าวออกไปทางด้านขวา เมื่อก้าวเท้าออกทางข้างแล้วก็ลากอีกเท้าหนึ่งมาชิดแล้วก็เริ่มต้นใหม่ และการขว้างลูกฟุตบอล คือ การเคลื่อนไหวอยู่กับที่ หมายถึง การเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายใน ขณะที่ยืนอยู่หรือนั่งอยู่กับที่ เช่น ตบมือ ผลัก ดัน บิดตัว ลุกนั่ง กระทืบเท้า เหยียดแขนขา
เป็นทักษะพื้นฐานที่ติดตัวมาตั้งแต่กาเนิด เช่น การขว้างขวดนม ปาของเล่น การโยนสิ่งของ
รูปแบบข้อสอบ : ปรนัยชนิดหลายตัวเลือก ถูกมากกว่า 2 คาตอบ
สพฐ. 3.58

ที่ปรึกษา
นายสุพจน์ เจียมใจ ผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต ๑ นางวิไลลักษณ์ จุลเสริม รองผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต ๑ นายปัญญา ยางนอก ผู้อานวยการกลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา
คณะทางาน
นายไชยสิทธิ์ พวงศรี ศึกษานิเทศก์ชานาญการพิเศษ หัวหน้างานวัดและประเมินผลการศึกษา นายสุรชาติ เหง้าละคร ศึกษานิเทศก์ชานาญการ งานวัดและประเมินผลการศึกษา ดร.จัตุพร แปวไธสง ศึกษานิเทศก์ชานาญการพิเศษ งานวัดและประเมินผลการศึกษา
สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นางทิตฐิตา รัตนะวรรณ์ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนอนุบาลบุรีรัมย์ นางวารี เพิ่มทรัพย์ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนวัดโพธิ์ทอง นางอาไพ แก้วกล้า ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนไตรภูมิวิทยา นางจันทร์จิรา ดียิ่ง ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนไตรภูมิวิทยา นายอนันท์ อินทะดก ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนวัดสถานีหนองตาด นางชะตาจิต แซวรัมย์ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านสาโรงโนนเค็ง
สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ นางวีรยา ไชยพิศ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านโนนศิลา นางสาวณรฐมลวรรณ เอื้อเฟื้อ ครู โรงเรียนบ้านพะไล นางรักคณา ไชยทอง ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนไตรมิตรวิทยาคาร นายอธิศักดิ์ มณีภาค ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนวิมลวิทยา นายธีรวัจน์ เจริญพันธ์ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนประชาสวัสดิ์วิทยา สาระการเรียนรู้ภาษาไทย นางนารีรัตน์ ธีระกุล ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านโคกระกา นางสุภาภรณ์ เทพศักดิ์ ครู คศ.1 โรงเรียนวัดบ้านเมืองฝาง นางสาวแสงระวี อุรารัมย์ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านหนองมะเขือ นางจุฑามาศ จันทวงษ์วาณิชย์ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านโพธิ์ดอนหวาย นางปองลักมณ์ สายวงษ์ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนอนุบาลลาปลายมาศ นายสมยศ นามแก้ว ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนวัดบ้านตะขบ “โนนตะครองโคกใหม่วิทยา” นางสาวอัจฉรา อาทวัง ครูธุรการ โรงเรียนวัดบ้านเมืองฝาง/โรงเรียนบ้านหนองไผ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ นางปทิตตา ชุตินธนารักษ์ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านซาแฮด

นายนัธทวัฒน์ หาดี ครู นางสาวปิยา วิเศษนคร ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านซาแฮด นางสมปอง มูลเมือง ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านโคกกลางอนุสรณ์ นางสุจิตรา ชัยอภิสิทธิ์ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนชุมชนบ้านหนองบัวโคก นางวิราพร รุ่งโรจน์ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนวัดบุขี้เหล็ก นางกฤติกา บุญมน ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านหนองไทร นางกาญจนาพร สิรัมย์ ครูชานาญการ โรงเรียนบ้านหนองหญ้าปล้อง นางสมพร บรรลังก์ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านร่มไทร
สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม นายเสมอ หอมกลิ่น ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านผไทรินทร์ นายวัชรพงษ์ เชือนรัมย์ ครูชานาญการ โรงเรียนบ้านหนองเมืองต่า นายภิรมย์ ภักดีเกียรติ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านสระคูณ “สิริทัศน์ประชาสรรค์” นายเจษฎา พรหมบุตร ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านว่านเขื่อนค้อวิทยา นางจงกลณี สุวรรณธาดา ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านห้วยมะไฟ นางสุรจิตร สวงรัมย์ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านเมืองแฝก
สาระการเรียนรู้ศิลปะ นางพิกุล น้อยจุฬา ครู คศ.1 โรงเรียนบ้านตาเหล็ง นางกมลวรรณ ทิพย์อักษร ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านตาเหล็ง
สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา นางนงลักษณ์ ฉายา ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนอนุบาลชานิ นายเทวัญ ผิวทน ครู โรงเรียนบ้านสาโรงโคกเพชร นางพรแสง ฤทธิวงษ์ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนวัดละลวด นายสงกรานต์ พลเยี่ยม ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนอนุบาลชานิ นายธนิก สนโสม ครู คศ.1 โรงเรียนบ้านหัวสะพาน นายวิทวัส ธวัชชัย พนักงานราชการ โรงเรียนบ้านช่อผกา สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี นายภคนันท์ แช่มรัมย์ ครูผู้ช่วย โรงเรียนสรีพรรณสันติภาพนาฝาย นางพวงเพชร วงศ์ฑิมารัตน์ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านสาโรงสันติภาพ นางนารี ล้มรุก ครู คศ.1 โรงเรียนวัดบ้านกะหาด นางธัญญภัสร์ เหมือนโลวงศ์ ครู ชานาญการ โรงเรียนบ้านตะโกตาเนตร นางอาไพ แก้วกล้า ครู

สุขศึกษา ม.3

Recommandé

Recommandé

Contenu connexe

Tendances

Tendances (20)

En vedette

En vedette (18)

Similaire à สุขศึกษา ม.3

Similaire à สุขศึกษา ม.3 (20)

Plus de Kruthai Kidsdee

Plus de Kruthai Kidsdee (20)

สุขศึกษา ม.3