SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  22
ลูก เป็ด กับ พรวิเ ศษ
                  กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเป็ด
                  น้อยตัวหนึ่ง เป็นลูกเป็ดที่มีขน
                  สีขะมุกขะมอมแลดูไม่น่ารัก
                  เจ้าเป็ดน้อยไม่ชอบสีสันของตัว
                  เองเลย มันอยากจะเป็นลูกเป็ด
ที่ดูงามสง่ามากกว่าเป็ดตัวไหนๆ อยู่มาวันหนึ่ง
มีนางฟ้าตัวจิ๋วถูกสายลมพัดปลิวมาตกที่กลางบึง
บ้านของเป็ดน้อย เมื่อลูกเป็ดเห็นนางฟ้ากำาลัง
ตกอยู่ในที่นั่งลำาบาก มันจึงรีบว่ายนำ้าเข้าไป
ช่วยนางฟ้าตัวจิ๋วทันที
      เมื่อนางฟ้าตัวจิ๋วรอดพ้นจากอันตราย เธอ
จึงนึกอยากขอบคุณเป็ดน้อยที่มีนำ้าใจให้ความ
ช่วยเหลือ นางฟ้ามอบพรวิเศษ 7 ประการให้
เจ้าเป็ดเป็นของขวัญ ซึ่งเป็ดน้อยเองก็มีความ
สุขมากที่มันได้รับโอกาสดีๆ เช่นนี้ แน่นอน
สิ่งที่ลูกเป็ดปรารถนาก็คือการมีขนที่งดงามกว่า
เป็ดตัวอื่นๆ ดังนั้น เป็ดน้อยจึงอธิษฐานขอให้
ขนของมันกลายเป็นสีขาวทีดูแวววาวราวไข่มุก
                              ่
เมื่อสิ้นคำาอธิษฐาน ลูกเป็ดก็กลายสภาพเป็นเป็ด
ขาวตัวน้อยที่ดูน่ารักขึ้นอย่างผิดหูผิดตา เจ้า
เป็ดมองเงาของตัวเองในนำ้าด้วยความภาคภูมิใจ
มันมีความสุขเหลือเกินที่ความฝันของมันเป็น
จริงขึ้นมาได้
    ในขณะนั้นเอง เจ้าลูกเป็ดนึกสนุกคิดอยาก
จะมีลวดลายเฉพาะตัวที่พิเศษมาก
ขึ้นไปอีก ด้วยเหตุนี้ เป็ดน้อยจึง
ใช้พรวิเศษที่เหลือลองแต่งแต้ม
ลวดลายให้ตัวเองโดดเด่นมากขึ้น




                    ลูกเป็ดใช้พรข้อที่สอง
เนรมิตให้มันมีจุดสีดำากระจายอยู่ตามตัวคล้าย
กับสุนัขดัลเมเชี่ยน แต่เมื่อแปลงกายเสร็จ มัน
ก็กลับไม่ชอบใจจุดสีดำาเหล่านั้นนัก "จุดสีดำาดู
สกปรกจังเลย ถ้าเป็นสีที่ดูอ่อนหวานก็น่าจะดี
กว่านี้อีกเยอะ" เจ้าเป็ดใช้พรข้อที่สาม เนรมิต
จุดสีดำาให้กลายเป็นลายดอกไม้แสนสวย แม้
ลายดอกไม้จะน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม แต่สำาหรับ
เจ้าเป็ดน้อยตัวผู้ มันก็ดู ออกจะหวานแหวเกิน
ไปสักหน่อย
    "แบบนี้คงต้องโดนล่อแน่ๆ เปลี่ยนลายทีดู  ่
เท่ๆ ดีกว่า" เป็ดน้อยใช้พรข้อที่สี่ เนรมิตตัว
เองให้มีขนสีเหลืองสลับกับลายจุดสีนำ้าตาล
คล้ายกับผิวของยีราฟ แต่ทันทีที่แปลงกายเสร็จ
เป็ดน้อยกลับรู้สึกว่ามันดูแย่มากกว่าเดิมเสียอีก
"ลวดลายของสัตว์สี่ขาคงไม่เข้ากับเราสักเท่า
ไหร่ ลองใช้ลายของพวกเดียวกันบ้างดีกว่า
เจ้าเป็ดใช้พรข้อที่ห้าเนรมิต ให้ตัวเองมีขนสี
เขียวแซมด้วยลวดลายคล้ายกับหางนกยูงแสน
สวน แม้สีสันของหางนกยูงจะงดงามยิงนัก แต่
มันกลับดูไม่เข้าท่าเมื่ออยู่บนตัวของเจ้าเป็ดน้อย
    "สีแบบนี้ดูแก่จังเลข เปลี่ยนเป็นสีที่ดูสดใส
อีกหน่อยดีกว่า" เป็ดน้อยใช้พรข้อที่หก
เนรมิตให้ตัวเองกลายเป็นเป็ดน้อยเจ็ดสีเลียน
แบบสีของรุ้งกินนำ้า ลูกเป็ดสายรุ้ง
ดูสวยสะดุดตาชนิดที่หาเป็ดตัวใด
เทียบเทียมได้ยาก ซึ่งเจ้าเป็ด
น้อยเองก็ชื่นชอบสีขนและ
ลวดลายของมันในตอนนี้มาที่สุด
ในขณะที่ลูกเป็ดกำาลังชื่นชมกับขนสีรุ้งของ
ตัวนั้น จู่ ๆ เจ้าเป็ดน้อยก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของ
ผู้คนและฝูงสุนัขวิ่งตรงมายังบึงซึ่งเป็นบ้านของ
มันเพื่อที่จะจับลูกเป็ดแสนสวยเอาไว้ในครอบ
ครองให้จงได้
     ลูกเป็ดตกใจมากเมื่อเห็นปืนยาวและเขี้ยว
ขาวๆ ทีดาหน้ากันเข้ามา มันจึงรีบดำาผุดดำา
          ่
ว่ายเพื่อหาที่หลบภัยอย่างไม่คิดชีวิต อนิจจา!
แม้เป็ดน้อยจะพยายามหาที่ซ่อนตัวตามดงอ้อกอ
หญ้าสักเท่าไรแต่ดวยสีสันที่แสนสดใสของมันก็
                     ้
ทำาให้การซ่อนตัวนั้นไม่อาจจะเป็นไปได้
     ในที่สุด เจ้าเป็ดน้อยก็ค้นพบคุณค่าของขน
ขะมุกขะมอมที่มันเคย รังเกียจมันตัดสินใจเป็น
ครั้งสุดท้ายด้วยการใช้พรข้อที่เจ็ด เนรมิตให้
ตัวเองกลับกลายเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ดังเดิม แล้วรีบ
ว่ายนำ้าเข้าไปซ่อนตัวในกอกกที่รกทึบ พร้อม
กับซุ่มตัวพรางตนให้กลมกลืนกับดินเลนแถวๆ
นั้น โชคดีเหลือเกินที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเจ้าลูก
เป็ดซึ่งกำาลังกลัวจนตัวสั่น และเมื่อผู้รุกรานทั้ง
หลายจากไป เจ้าเป็ดน้อยก็ค่อยๆ ออกจากที่
ซ่อนของมันอย่างระแวดระวังเป็นที่สุด และ
แล้ว...ลูกเป็ดตัวน้อยก็อยู่รอดปลอดภัยด้วย
ขนที่แสนขะมุกขะมอมของมันนั้นเอง




           หมาป่า กับ หมาจิง จอก
                           ้
     หมาป่า กับหมาจิ้งจอกในป่าสูงแห่งหนึ่งนั้น
เมื่อมันได้สาบานตัวเป็นเพื่อนตาย ไม่ทำา
อันตรายต่อกันและช่วยกันทำามาหากินโดย
หมาจิ้งจอกมีหน้าที่ไล่ต้อนสัตว์ป่าที่จะมาเป็น
อาหาร ส่วนหมาป่าร่างใหญ่ก็คอยจับสัตว์ป่า
เหล่านั้น แล้วแบ่งกันกินอย่างอิ่มหนำาสำาราญ
ทุกวันไปสมเป็นเพื่อนตายโดยแท้
แต่อยู่มาไม่ช้าไม่นาน ก็ถึงฤดูกาลอัน
บังเกิดความแห้งแล้งกันดารทัวไปในป่านั้น
                             ่
บรรดาสัตว์ป่าทั้งหลายเดือดร้อนเหลือประมาณ
เพราะอาหารหายากยิ่งขึ้นทุกวัน หมาป่า กับ
หมาจิ้งจอกนั้น ถึงกับอดอาหารสองวันสามวัน
บ่อยๆ ตลอดมา ในที่สุดหมาป่าไม่สามารถทน
หิวได้ จึงกระโจนเข้ากัดหมาจิ้งจอก เพื่อนตาย
ของมันเพื่อหวังกินเป็นอาหารจะได้พ้นจาก
ความตายเพราะไม่มีอะไรจะกินหมาจิ้งจอกก็ดิ้น
ร้องขึ้น ก่อนจะกลายเป็นอาหารของหมาป่า
ว่า...




   "เจ้า                            เพื่อน
ตายของข้า                           คำา
สาบานของเจ้าเอาไปทิ้งเสียที่ไหนเล่า?"
"เจ้าหน้าโง่ เจ้าเคยเห็นคำาสาบานหรือ
ไฉน...ใครบอกเจ้าว่าโลกนี้มีคำาสาบานคำา
สาบานเป็นเพียงคำาพูดเท่านั้น ครั้นพูดออกไป
แล้วก็ไม่มีตัวตนหรือแม้แต่เงาก็ไม่มี"ว่าแล้ว
หมาป่าก็กินหมาจิ้งจอก เป็นอาหารแก้หิวในมื้อ
นั้นเอง
     นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "ไม่มีคำามั่น
สัญญาในหมู่โจร"
กิง ไม้ก ายสิท ธิ์
                  ่
    น้องเอ๋อเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่มี
นิสัยซุกซนจนทำาให้คุณแม่ต้องปวดหัวอยู่
บ่อย ๆ
    วันหนึ่ง ตอนที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน น้องเอ๋
อแอบฝืนคำาสั่งของคุณแม่ด้วยการมุดรั้วออก
ไป เที่ยวในทุ่งหญ้า ที่คุณแม่เตือนนัก
เตือนหนาว่าอย่าเข้าไปเล่น น้องเอ๋อชอบ
ทำาอะไรแบบนี้เสมอ ขอให้ได้ดื้อสักหน่อย
ถ้าคุณแม่จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน มันก็เป็นเรื่องที่
สนุก และน่าตื่นเต้นมิใช่หรือ?
    ในขณะที่น้องเอ๋อกำาลังเดินเล่นอยู่นั้น จู่
ๆ เธอก็เหลือบไปเห็นกิ่งไม้รูปร่างแปลกๆ
วางอยู่บนหินก้อนใหญ่ โดยมีเศษหนังผืน
เล็ก ๆ วางอยู่ติด ๆ กัน เมื่อน้องเอ๋อ เดิน
เข้าไปดูและอ่านข้อความบนแผ่นหนัง เธอ
ก็พบความลับที่วิเศษสุด เพราะกิงไม้ที่เธอ
                                   ่
เห็นมันเป็นคทากายสิทธิ์ ที่สามารถเนรมิต
ให้เกิดอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา




    น้องเอ๋อ ดีใจและรีบนำาคทากลับบ้าน เธอ
คิดเรื่องสนุก ๆ เอาไว้มากมาย และทันทีที่เธอ
เข้าไปในห้องครัวของคุณแม่ น้องเอ๋อ ก็เริ่ม
ใช้คทาเสกให้ฝูงปลาทองลอยขึ้นมาจากอ่างนำ้า
แล้วเนรมิตให้พวกมันสามารถว่ายเวียนไปใน
อากาศได้ด้วยอำานาจที่แสนอัศจรรย์ จากนั้น
เธอก็ร่ายมนตร์ให้หม้อ กระทะ ตะหลิว พร้อม
กับเหล่าเครื่องครัวทั้งหลายลุกขึ้นมาเต้นระบำา
กันจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด เด็ก
น้อยเจ้าของกิ่งไม้กายสิทธิ์มองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่าง
มีความสุข เธอว่าคาถาต่อไปโดยบังคับให้
กระป๋องแป้งลอยขึ้นไปบนฟ้า แล้วให้มันหมุน
คว้างพร้อม ๆ กับโรยผงแป้งลงมาราวกับเป็น
ช่วงเวลาที่หิมะตก น้องหมากับเจ้าเหมียว ลืน่
ไถลบนพื้นห้องจนมอมแมมไปตาม ๆ กันน้อง
เอ๋อสนุกกับการใช้คทาวิเศษในการทำาเรื่อง
ซุกซนจนบ้านยุ่งเหยิงชนิดที่คุณแม่ต้องโกรธ
จนควันออกหูแน่ๆ แต่น้องเอ๋อไม่กลัวหรอก
เพราะเธอรู้ว่า เธอสามารถใช้คทาวิเศษเสกให้
ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิมก่อนที่คุณแม่จะกลับ
มาได้อย่างง่ายดาย โดยไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
น้องเอ๋อสนุกกับการใช้เวทมนตร์จนเผลอ
หลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน เมื่อน้องเอ๋อนอน
หลับไปได้สักพัก ใครบางคนที่แอบมองน้องเอ๋อ
จากนอกหน้าต่างก็เปิดประตูบ้านและย่องตรง
เข้ามาหาเจ้าเด็กน้อยจอมซนที่กำาลังหลับปุ๋ยอยู่
บุคคลลึกลับที่ลอบเข้ามาในบ้านเป็นหญิงชราที่
มีจมูกงุ้มและคางยื่นแลดูน่าเกลียดน่ากลัวมาก
เธอมองเด็กน้อยพร้อมกับแสยะยิ้มอย่างสมใจ
จากนั้นเธอก็เอื้อมือที่เหี่ยวย่นออก มาเพื่อหยิบ
กิ่งไม้กายสิทธิ์ แล้วค่อย ๆ เดินจากไปอย่าง
เงียบเชียบ
     ตกเย็น น้องเอ๋อสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยิน
เสียงของคุณแม่ร้องเรียกจากหน้าบ้านเด็กน้อย
รีบมองหาคทาวิเศษเพื่อเสกทุกอย่างให้กลับคืน
สู่สภาพเดิม แต่อนิจจา! กิ่งไม้กายสิทธิ์กลับ
หายไปจากห้องนั้นเสียแล้ว
     เมื่อคุณแม่เปิดประตูเข้ามาเห็็นสภาพ
ภายในห้องครัว คุณแม่ตกใจจนร้องเจี๊ยก
แถมยังอ้าปากค้างและทำาตาโตเกือบๆ จะ
เท่ากับขนาดของไข่นกกระจอกเทศเลยทีเดียว
น้องเอ๋อ มองเห็นควันพวกพุ่งออกมาจากหูของ
คุณแม่ราวกับเป็นควันจากกาต้นนำ้าที่เดือดปุด
ๆ คุณแม่คงโกรธเธอมาก น้องเอ๋อทำาหน้า
เหยเก และแล้ว...เด็กน้อยจอมซนก็เริ่ม
ร้องไห้แง ๆ ก่อนที่คุณแม่จะลงมือตีก้นเธอเสีย
ด้วยซำ้า
    ที่นอกบ้าน แม่มดเจ้าเลห์แอบมองลอด
หน้าต่างเข้าไปพร้อมกับ ฉีกยิ้มด้วยความสะใจ
ในที่สุดแผนการต่าง ๆที่เธอวางไว้ก็สำาเร็จตาม
ความคาดหมาย
    "เด็กซน ๆ ต้องถูกตีก้นเสียให้เข็ด"
    แม่มดหัวเราะหึๆ ในลำาคอ จากนั้นเธอก็ขี้
ไม้กวาดของเธอ แล้วทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อ
หาโอากาสแกล้งเด็กซน ๆ ทั้งหลายให้ได้รับ
บทเรียนที่สาสมต่อไป




                    คนขี้ล ืม
    มีชายคนหนึ่งเป็นคนขี้ลืม ขีลืมจริงๆ เรื่อง
                                ้
อะไรจำาได้ประเดี๋ยวเดียวแล้วก็ลืมหมดเขาจะทำา
อะไรไม่ได้เลย วันหนึ่งชายขี้ลืมคนนี้ถือมีด
เข้าไปในป่าเพื่อจะไปตัดต้นไม้ เดินทางไปได้
สักพักหนึ่ง เกิดปวดอุจจาระ จึงเอามีดฟัดติด
กับต้นไม้ไว้ แล้วก็หาที่หลบไปถ่ายอุจจาระ
พอถ่ายอุจจาระเสร็จก็เดินออกมา เห็นมีดเล่ม
หนึ่งอยู่ที่ต้นไม้ เขาลืมไปว่าเป็นมีดของตัวเอง
เขาดีใจมากจึงรีบวิ่งไปคว้ามีดมาถือไว้ แล้วจับ
มีดชูขึ้นพลางเต้นไปรอบๆแล้วพูดว่า “วันนี้
โชคดีแต่เช้าเลยมีดของใครก็ไม่รู้ยังใหม่อยู่
ลับเอาไว้คมกริบทีเดียวเจ้าของมีดนี้แย่มาก
ของดีๆ อย่างนี้มาลืมไว้ได้ อ้ายคนไม่รู้จัก
รักษาของ คนอย่างนี้ทำามาหากิน อะไรมีแต่จะ
ล่มจม” เผอิญเขาเดินไปเหยียบเอาอุจจาระที่
ตนเองถ่ายไว้เมื่อครู่นี้เข้า ลืมว่าเป็นของตัวเอง
จึงตะโกนด่าขึ้นว่า “อ้ายคนอุบาทว์ทไหนมา ี่
ถ่ายไว้ได้ ที่ทั้งป่ากว้างใหญ่มาทำาโสโครกเอา
ไว้ตรงนี้เอง อ้ายมนุษย์อัปรีย์” ข้อคิดจาก
นิทานเรื่องนี้: ขึ้นชื่อว่าคนขีลืมแล้วมักจะลืม
                                ้
ได้ทกอย่าง ฉะนั้นจงทำาอะไรด้วยความมีสติ
     ุ
เสมอ
สองพี่น ้อ งแบ่ง ของ
    ชาวนาผู้หนึ่งมีบุตรสาวอยู่สองคน วันหนึ่ง
อยากจะทดลองปัญญาของบุตรทั้งสอง จึงส่ง
แตงโมให้บุตรทั้งสอง 1 ใบ โดยบอกว่าให้ทั้ง
สองไปแบ่งกันกินให้เท่าๆกัน เพื่อจะได้ไม่ต้อง
โต้เถียงทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องได้มากได้น้อย
ถ้าแบ่งไม่ได้เท่าๆกัน เกิดทุ่มเถียงกันขึ้นเมื่อใด
ก็จะต้องถูกลงโทษทั้งสองคน เด็กทั้งสอง เมื่อ
ได้รับแตงโมมาแล้วไม่รู้ว่าจะผ่าแบ่งกันอย่างไร
จึงจะได้ส่วนเท่าๆกันด้วยเกรงจะต้องถูกทำาโทษ
ในที่สุดจึงตกลงกันในวิธีการดังนี้ โดยที่เด็กทั้ง
สอง เห็นว่าเป็นวิธีที่ยุติธรรม คือ ถ้าหากใคร
เป็นผู้ผ่าแตงโมออกเป็นสองซีก ผู้นั้นจะต้อง
เป็นฝ่ายเลือกทีหลัง และจะต้องยอมให้ฝ่ายที่
ไม่ใช่เป็นคนผ่าเลือกก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่
ให้คนผ่าลำาเอียง โดยผ่าเป็นชิ้นโตชิ้นหนึ่งและ
ชิ้นเล็กชิ้นหนึ่ง แล้วคนผ่ารีบเลือกเอาชิ้นโต
เป็นของตนเองเสียก่อน
     เมื่อเด็กทั้งสองได้ผ่าแตงโมแบ่งกันเสร็จแล้ว
จึงรีบวิ่งไปเล่าให้บดาฟัง บิดามีความพอใจใน
                     ิ
สติปัญญาของเด็กทั้งสองนั้นมาก




             อยากอยู่ก ระท่อ มสูง
     มีผัวเมียคู็่หนึ่ง เพิ่งจะแต่งงานกันใหม่ๆ
พ่อแม่ก็ให้ไปปลูกกระท่อมอยู่กันที่ปลายนา
เพื่อคอยดูแลข้าวปลาที่ทำาไว้แล้ว และกำาลังงาม
เกรงว่าวัว ควาย นก หนู จะมากัดกินข้าวเสีย
หายผัวเมียทั้งสองก็มิได้ขดข้องหรือรังเกียจ
                             ั
เกี่ยงงอนแต่ประการใด เมื่อพ่อแม่ให้ไปก็ไป
เมื่อไปถึงก็ช่วยกันปลูกกระท่อมด้วยไม้ไผ่ และ
พยายามปลูกให้สูงที่สุดเท่าที่จะสูงได้ เพราะไม่
ต้องการให้นำ้าท่วม




      ผัวจึงไปตัดไม้ไผ่เอามาทำาเสากระท่อม
ตัดมามากมายก่ายกองเหลือประมาณ ปลูก
กระท่อมจนเสร็จ กระท่อมนั้นนับว่าสูงที่สุดเลย
ทีเดียว
    ครั้นเสร็จแล้วก็็ขึ้นไปอยู่กันนอนหลับ
สบายทั้งคืน จนรุ่งเช้าผัวตื่นขึ้นไม่เห็นเมียก็
ตกใจ มองหาจนทั่วก็ไม่เห็นเมีย ผัวสงสัยคิด
ว่าเมียตกกระท่อม จึงก้มลงไปดูข้างล่าง เห็น
เมียตกกระท่อม ร่างของเมียยังลอยอยู่ยังไม่ถึง
พึ้น ยังสูงอีกมากแล้วไม่รู้ว่าเมื่อไรจะตกถึงพื้น
ดิน เลยยังไม่รู้ว่าผลเป็นอย่างไร...
ศิล ปะในการขอทาน
     ชายคนหนึ่งขับรถเข้าไปในเมืองซึ่งเป็น
เวลาพลบคำ่า ขณะที่ขับรถมานั้นเขาสังเกตเห็น
หญิงชราคนหนึ่งกำาลังถือตะเกียงเดินก้มๆ เงยๆ
อยู่ เหมือนจะหาอะไรในพงหญ้าข้างถนนนั้น
ด้วยความสนใจ เขาจึงหยุดรถแล้วเดินตรง
เข้าไปถามหญิงชรานั้นว่า "นี่ยาย ยายกำาลัง
ก้มหาอะไรอยู่หรือ"
     "อ๋อ...ยายกำาลังหาเหรียญบาทที่ทำาตกลง
ไปในพงหญ้านี้ ยายหามาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วหา
เท่าไรก็หาไม่เจอสักที พ่อหนุ่มจะช่วยยายหา
หรือ" หญิงชราพูด
      ด้วยความสงสารชายหนุ่มจึงควักเงิน 10
บาทออกมา แล้วยื่นให้แก่หญิงชราพร้อมกับ
พูดขึ้นว่า "เอาเงิน 10 บาทนี้ไปก็แล้วกันนะ
ยาย เหรียญบาทคงหาไม่เจอแล้ว"เมื่อรับเงิน
จากชายหนุ่ม หญิงชรากล่าวขอบใจแล้วก็ดับ
ตะเกียงจาก                         ไป ชาย
หนุ่มคนนั้นก็                      ขับรถ
เข้าไปทำา                          ธุระใน
เมือง เมื่อทำาธุระเสร็จแล้วเขาก็ขับรถออกมา
ตามเส้นทางเดิม เขาประหลาดใจมากที่ได้เห็น
หญิงชราคนหนึ่ง กำาลังจุดตะเกียงส่องหาอะไร
บางอย่างในพงหญ้าข้างถนน ด้วยความสงสัย
เขาจึงหยุดรถแล้วเดินเข้าไปดูใกล้ๆเขาก็จำาได้
ทันทีว่า หญิงชราคนนี้ ก็คอหญิงชราคนเดิมที่
                             ื
เขาให้เงินไป 10 บาทเมื่อตอนหัวคำ่านั่นเอง
เขาจึงถามหญิงชรานั้นว่า "นี่ยาย...ยายทำา
เงินตกหายอีกแล้วรึ"หญิงชราเงยหน้าขึ้น ก็จำา
ชายหนุ่มผู้ใจดีคนนี้ได้ จึงตอบไปว่า "ใช่แล้ว
หลาน...แต่หลานชายไม่ต้องควักเงินให้ยาย
อีกนะ" "ทำาไมละยาย" ชายหนุ่มสงสัย "นี่
มันเป็นกลวิธีในการขอทานที่ได้ผลดี
ที่สุด...ขอบใจสำาหรับเงิน 10 บาทนะหลาน
เอ๊ย" พูดจบหญิงชราก็เดินจากไป ทิ้งให้ชาย
หนุ่มมึนงงอยู่ตรงนั้นเอง


                    คำา นำา

    การอ่านหนังสือนับเป็นกิจกรรมที่มีจำาเป็น
อย่างมากในการพัฒนาความรู้และพัฒนาตนเอง
เกี่ยวกับทักษะการอ่าน ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ส่ง
เสริมในการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วย
     ข้าพเจ้าตระหนักถึงความสำาคัญของการ
อ่านหนังสือ จึงได้จัดทำาหนังสือส่งเสริมการ
อ่านเกี่ยวกับรวมนิทานมหาสนุกเล่มนี้ขึ้นเพื่อ
ความรู้ความเข้าใจ ซึ่งได้เรียบเรียงเนื้อหามา
จากอินเตอร์เน็ตและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็น
ประโยชน์ต่อผู้อ่าน และครูผู้สอนเพื่อพัฒนา
คุณภาพของผู้เรียน และส่งเสริมนิสัยรักการ
อ่านต่อไป


                            สุพัตรา   แสงนาค
อ้า งอิง

เว็บ ไซต์
http://www.google.com
หนังสือส่งเสริมการอ่าน
เรื่อง รวมนิทานมหา
        สนุก




        โดย
นางสาวสุพัตรา แสงนาค
 โรงเรียนชุมชนวัดปราสาท
สำานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
        อ่างทอง

Contenu connexe

Similaire à หนังสือส่งเสริมการอ่าน 2555

สุนัขผู้ซื่อสัตย์
สุนัขผู้ซื่อสัตย์สุนัขผู้ซื่อสัตย์
สุนัขผู้ซื่อสัตย์
Varee Supa
 
นางนาคพระโขนง
นางนาคพระโขนงนางนาคพระโขนง
นางนาคพระโขนง
tommy
 
พุดซ้อนซ่อนกลิ่น
พุดซ้อนซ่อนกลิ่นพุดซ้อนซ่อนกลิ่น
พุดซ้อนซ่อนกลิ่น
Panda Jing
 
นิทานพื้นบ้าน เรื่อง
นิทานพื้นบ้าน เรื่องนิทานพื้นบ้าน เรื่อง
นิทานพื้นบ้าน เรื่อง
khorntee
 
ไพรมหากาฬ3
ไพรมหากาฬ3ไพรมหากาฬ3
ไพรมหากาฬ3
krutew Sudarat
 
อินโดนีเซีย
อินโดนีเซียอินโดนีเซีย
อินโดนีเซีย
Kruthai Kidsdee
 
งูจ้าว
งูจ้าวงูจ้าว
งูจ้าว
tommy
 
สองพี่น้อง
สองพี่น้องสองพี่น้อง
สองพี่น้อง
Panda Jing
 
เพชรพระอุมาบทที่๒
เพชรพระอุมาบทที่๒เพชรพระอุมาบทที่๒
เพชรพระอุมาบทที่๒
jpamok
 
แผ่นพับจ๋า
แผ่นพับจ๋าแผ่นพับจ๋า
แผ่นพับจ๋า
JaJa Naruemol
 
พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ22
พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ22พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ22
พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ22
phornphan1111
 
นิทาน เรื่อง กระต่ายน้อยเจ้าปัญญา
นิทาน  เรื่อง  กระต่ายน้อยเจ้าปัญญานิทาน  เรื่อง  กระต่ายน้อยเจ้าปัญญา
นิทาน เรื่อง กระต่ายน้อยเจ้าปัญญา
วนิชา ราชคำ
 

Similaire à หนังสือส่งเสริมการอ่าน 2555 (17)

สุนัขผู้ซื่อสัตย์
สุนัขผู้ซื่อสัตย์สุนัขผู้ซื่อสัตย์
สุนัขผู้ซื่อสัตย์
 
ค่าของคน
ค่าของคนค่าของคน
ค่าของคน
 
นิทาน ป ๔
นิทาน ป ๔นิทาน ป ๔
นิทาน ป ๔
 
นางนาคพระโขนง
นางนาคพระโขนงนางนาคพระโขนง
นางนาคพระโขนง
 
สาระธรรมนำชีวิต
สาระธรรมนำชีวิตสาระธรรมนำชีวิต
สาระธรรมนำชีวิต
 
พุดซ้อนซ่อนกลิ่น
พุดซ้อนซ่อนกลิ่นพุดซ้อนซ่อนกลิ่น
พุดซ้อนซ่อนกลิ่น
 
นิทานพื้นบ้าน เรื่อง
นิทานพื้นบ้าน เรื่องนิทานพื้นบ้าน เรื่อง
นิทานพื้นบ้าน เรื่อง
 
ไพรมหากาฬ3
ไพรมหากาฬ3ไพรมหากาฬ3
ไพรมหากาฬ3
 
อินโดนีเซีย
อินโดนีเซียอินโดนีเซีย
อินโดนีเซีย
 
งูจ้าว
งูจ้าวงูจ้าว
งูจ้าว
 
เกาหลี
เกาหลีเกาหลี
เกาหลี
 
สองพี่น้อง
สองพี่น้องสองพี่น้อง
สองพี่น้อง
 
เพชรพระอุมาบทที่๒
เพชรพระอุมาบทที่๒เพชรพระอุมาบทที่๒
เพชรพระอุมาบทที่๒
 
แผ่นพับจ๋า
แผ่นพับจ๋าแผ่นพับจ๋า
แผ่นพับจ๋า
 
พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ22
พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ22พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ22
พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ22
 
นิทาน เรื่อง กระต่ายน้อยเจ้าปัญญา
นิทาน  เรื่อง  กระต่ายน้อยเจ้าปัญญานิทาน  เรื่อง  กระต่ายน้อยเจ้าปัญญา
นิทาน เรื่อง กระต่ายน้อยเจ้าปัญญา
 
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องวรรณไทย
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องวรรณไทยโครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องวรรณไทย
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องวรรณไทย
 

หนังสือส่งเสริมการอ่าน 2555

  • 1. ลูก เป็ด กับ พรวิเ ศษ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเป็ด น้อยตัวหนึ่ง เป็นลูกเป็ดที่มีขน สีขะมุกขะมอมแลดูไม่น่ารัก เจ้าเป็ดน้อยไม่ชอบสีสันของตัว เองเลย มันอยากจะเป็นลูกเป็ด ที่ดูงามสง่ามากกว่าเป็ดตัวไหนๆ อยู่มาวันหนึ่ง มีนางฟ้าตัวจิ๋วถูกสายลมพัดปลิวมาตกที่กลางบึง บ้านของเป็ดน้อย เมื่อลูกเป็ดเห็นนางฟ้ากำาลัง ตกอยู่ในที่นั่งลำาบาก มันจึงรีบว่ายนำ้าเข้าไป ช่วยนางฟ้าตัวจิ๋วทันที เมื่อนางฟ้าตัวจิ๋วรอดพ้นจากอันตราย เธอ จึงนึกอยากขอบคุณเป็ดน้อยที่มีนำ้าใจให้ความ ช่วยเหลือ นางฟ้ามอบพรวิเศษ 7 ประการให้ เจ้าเป็ดเป็นของขวัญ ซึ่งเป็ดน้อยเองก็มีความ สุขมากที่มันได้รับโอกาสดีๆ เช่นนี้ แน่นอน สิ่งที่ลูกเป็ดปรารถนาก็คือการมีขนที่งดงามกว่า เป็ดตัวอื่นๆ ดังนั้น เป็ดน้อยจึงอธิษฐานขอให้ ขนของมันกลายเป็นสีขาวทีดูแวววาวราวไข่มุก ่ เมื่อสิ้นคำาอธิษฐาน ลูกเป็ดก็กลายสภาพเป็นเป็ด ขาวตัวน้อยที่ดูน่ารักขึ้นอย่างผิดหูผิดตา เจ้า เป็ดมองเงาของตัวเองในนำ้าด้วยความภาคภูมิใจ
  • 2. มันมีความสุขเหลือเกินที่ความฝันของมันเป็น จริงขึ้นมาได้ ในขณะนั้นเอง เจ้าลูกเป็ดนึกสนุกคิดอยาก จะมีลวดลายเฉพาะตัวที่พิเศษมาก ขึ้นไปอีก ด้วยเหตุนี้ เป็ดน้อยจึง ใช้พรวิเศษที่เหลือลองแต่งแต้ม ลวดลายให้ตัวเองโดดเด่นมากขึ้น ลูกเป็ดใช้พรข้อที่สอง เนรมิตให้มันมีจุดสีดำากระจายอยู่ตามตัวคล้าย กับสุนัขดัลเมเชี่ยน แต่เมื่อแปลงกายเสร็จ มัน ก็กลับไม่ชอบใจจุดสีดำาเหล่านั้นนัก "จุดสีดำาดู สกปรกจังเลย ถ้าเป็นสีที่ดูอ่อนหวานก็น่าจะดี กว่านี้อีกเยอะ" เจ้าเป็ดใช้พรข้อที่สาม เนรมิต จุดสีดำาให้กลายเป็นลายดอกไม้แสนสวย แม้ ลายดอกไม้จะน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม แต่สำาหรับ เจ้าเป็ดน้อยตัวผู้ มันก็ดู ออกจะหวานแหวเกิน ไปสักหน่อย "แบบนี้คงต้องโดนล่อแน่ๆ เปลี่ยนลายทีดู ่ เท่ๆ ดีกว่า" เป็ดน้อยใช้พรข้อที่สี่ เนรมิตตัว
  • 3. เองให้มีขนสีเหลืองสลับกับลายจุดสีนำ้าตาล คล้ายกับผิวของยีราฟ แต่ทันทีที่แปลงกายเสร็จ เป็ดน้อยกลับรู้สึกว่ามันดูแย่มากกว่าเดิมเสียอีก "ลวดลายของสัตว์สี่ขาคงไม่เข้ากับเราสักเท่า ไหร่ ลองใช้ลายของพวกเดียวกันบ้างดีกว่า เจ้าเป็ดใช้พรข้อที่ห้าเนรมิต ให้ตัวเองมีขนสี เขียวแซมด้วยลวดลายคล้ายกับหางนกยูงแสน สวน แม้สีสันของหางนกยูงจะงดงามยิงนัก แต่ มันกลับดูไม่เข้าท่าเมื่ออยู่บนตัวของเจ้าเป็ดน้อย "สีแบบนี้ดูแก่จังเลข เปลี่ยนเป็นสีที่ดูสดใส อีกหน่อยดีกว่า" เป็ดน้อยใช้พรข้อที่หก เนรมิตให้ตัวเองกลายเป็นเป็ดน้อยเจ็ดสีเลียน แบบสีของรุ้งกินนำ้า ลูกเป็ดสายรุ้ง ดูสวยสะดุดตาชนิดที่หาเป็ดตัวใด เทียบเทียมได้ยาก ซึ่งเจ้าเป็ด น้อยเองก็ชื่นชอบสีขนและ ลวดลายของมันในตอนนี้มาที่สุด
  • 4. ในขณะที่ลูกเป็ดกำาลังชื่นชมกับขนสีรุ้งของ ตัวนั้น จู่ ๆ เจ้าเป็ดน้อยก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของ ผู้คนและฝูงสุนัขวิ่งตรงมายังบึงซึ่งเป็นบ้านของ มันเพื่อที่จะจับลูกเป็ดแสนสวยเอาไว้ในครอบ ครองให้จงได้ ลูกเป็ดตกใจมากเมื่อเห็นปืนยาวและเขี้ยว ขาวๆ ทีดาหน้ากันเข้ามา มันจึงรีบดำาผุดดำา ่ ว่ายเพื่อหาที่หลบภัยอย่างไม่คิดชีวิต อนิจจา! แม้เป็ดน้อยจะพยายามหาที่ซ่อนตัวตามดงอ้อกอ หญ้าสักเท่าไรแต่ดวยสีสันที่แสนสดใสของมันก็ ้ ทำาให้การซ่อนตัวนั้นไม่อาจจะเป็นไปได้ ในที่สุด เจ้าเป็ดน้อยก็ค้นพบคุณค่าของขน ขะมุกขะมอมที่มันเคย รังเกียจมันตัดสินใจเป็น ครั้งสุดท้ายด้วยการใช้พรข้อที่เจ็ด เนรมิตให้ ตัวเองกลับกลายเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ดังเดิม แล้วรีบ ว่ายนำ้าเข้าไปซ่อนตัวในกอกกที่รกทึบ พร้อม กับซุ่มตัวพรางตนให้กลมกลืนกับดินเลนแถวๆ นั้น โชคดีเหลือเกินที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเจ้าลูก เป็ดซึ่งกำาลังกลัวจนตัวสั่น และเมื่อผู้รุกรานทั้ง หลายจากไป เจ้าเป็ดน้อยก็ค่อยๆ ออกจากที่ ซ่อนของมันอย่างระแวดระวังเป็นที่สุด และ
  • 5. แล้ว...ลูกเป็ดตัวน้อยก็อยู่รอดปลอดภัยด้วย ขนที่แสนขะมุกขะมอมของมันนั้นเอง หมาป่า กับ หมาจิง จอก ้ หมาป่า กับหมาจิ้งจอกในป่าสูงแห่งหนึ่งนั้น เมื่อมันได้สาบานตัวเป็นเพื่อนตาย ไม่ทำา อันตรายต่อกันและช่วยกันทำามาหากินโดย หมาจิ้งจอกมีหน้าที่ไล่ต้อนสัตว์ป่าที่จะมาเป็น อาหาร ส่วนหมาป่าร่างใหญ่ก็คอยจับสัตว์ป่า เหล่านั้น แล้วแบ่งกันกินอย่างอิ่มหนำาสำาราญ ทุกวันไปสมเป็นเพื่อนตายโดยแท้
  • 6. แต่อยู่มาไม่ช้าไม่นาน ก็ถึงฤดูกาลอัน บังเกิดความแห้งแล้งกันดารทัวไปในป่านั้น ่ บรรดาสัตว์ป่าทั้งหลายเดือดร้อนเหลือประมาณ เพราะอาหารหายากยิ่งขึ้นทุกวัน หมาป่า กับ หมาจิ้งจอกนั้น ถึงกับอดอาหารสองวันสามวัน บ่อยๆ ตลอดมา ในที่สุดหมาป่าไม่สามารถทน หิวได้ จึงกระโจนเข้ากัดหมาจิ้งจอก เพื่อนตาย ของมันเพื่อหวังกินเป็นอาหารจะได้พ้นจาก ความตายเพราะไม่มีอะไรจะกินหมาจิ้งจอกก็ดิ้น ร้องขึ้น ก่อนจะกลายเป็นอาหารของหมาป่า ว่า... "เจ้า เพื่อน ตายของข้า คำา สาบานของเจ้าเอาไปทิ้งเสียที่ไหนเล่า?"
  • 8. กิง ไม้ก ายสิท ธิ์ ่ น้องเอ๋อเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่มี นิสัยซุกซนจนทำาให้คุณแม่ต้องปวดหัวอยู่ บ่อย ๆ วันหนึ่ง ตอนที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน น้องเอ๋ อแอบฝืนคำาสั่งของคุณแม่ด้วยการมุดรั้วออก ไป เที่ยวในทุ่งหญ้า ที่คุณแม่เตือนนัก เตือนหนาว่าอย่าเข้าไปเล่น น้องเอ๋อชอบ ทำาอะไรแบบนี้เสมอ ขอให้ได้ดื้อสักหน่อย ถ้าคุณแม่จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน มันก็เป็นเรื่องที่ สนุก และน่าตื่นเต้นมิใช่หรือ? ในขณะที่น้องเอ๋อกำาลังเดินเล่นอยู่นั้น จู่ ๆ เธอก็เหลือบไปเห็นกิ่งไม้รูปร่างแปลกๆ วางอยู่บนหินก้อนใหญ่ โดยมีเศษหนังผืน เล็ก ๆ วางอยู่ติด ๆ กัน เมื่อน้องเอ๋อ เดิน เข้าไปดูและอ่านข้อความบนแผ่นหนัง เธอ ก็พบความลับที่วิเศษสุด เพราะกิงไม้ที่เธอ ่
  • 9. เห็นมันเป็นคทากายสิทธิ์ ที่สามารถเนรมิต ให้เกิดอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา น้องเอ๋อ ดีใจและรีบนำาคทากลับบ้าน เธอ คิดเรื่องสนุก ๆ เอาไว้มากมาย และทันทีที่เธอ เข้าไปในห้องครัวของคุณแม่ น้องเอ๋อ ก็เริ่ม ใช้คทาเสกให้ฝูงปลาทองลอยขึ้นมาจากอ่างนำ้า แล้วเนรมิตให้พวกมันสามารถว่ายเวียนไปใน อากาศได้ด้วยอำานาจที่แสนอัศจรรย์ จากนั้น เธอก็ร่ายมนตร์ให้หม้อ กระทะ ตะหลิว พร้อม กับเหล่าเครื่องครัวทั้งหลายลุกขึ้นมาเต้นระบำา กันจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด เด็ก น้อยเจ้าของกิ่งไม้กายสิทธิ์มองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่าง
  • 10. มีความสุข เธอว่าคาถาต่อไปโดยบังคับให้ กระป๋องแป้งลอยขึ้นไปบนฟ้า แล้วให้มันหมุน คว้างพร้อม ๆ กับโรยผงแป้งลงมาราวกับเป็น ช่วงเวลาที่หิมะตก น้องหมากับเจ้าเหมียว ลืน่ ไถลบนพื้นห้องจนมอมแมมไปตาม ๆ กันน้อง เอ๋อสนุกกับการใช้คทาวิเศษในการทำาเรื่อง ซุกซนจนบ้านยุ่งเหยิงชนิดที่คุณแม่ต้องโกรธ จนควันออกหูแน่ๆ แต่น้องเอ๋อไม่กลัวหรอก เพราะเธอรู้ว่า เธอสามารถใช้คทาวิเศษเสกให้ ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิมก่อนที่คุณแม่จะกลับ มาได้อย่างง่ายดาย โดยไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
  • 11. น้องเอ๋อสนุกกับการใช้เวทมนตร์จนเผลอ หลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน เมื่อน้องเอ๋อนอน หลับไปได้สักพัก ใครบางคนที่แอบมองน้องเอ๋อ จากนอกหน้าต่างก็เปิดประตูบ้านและย่องตรง เข้ามาหาเจ้าเด็กน้อยจอมซนที่กำาลังหลับปุ๋ยอยู่ บุคคลลึกลับที่ลอบเข้ามาในบ้านเป็นหญิงชราที่ มีจมูกงุ้มและคางยื่นแลดูน่าเกลียดน่ากลัวมาก เธอมองเด็กน้อยพร้อมกับแสยะยิ้มอย่างสมใจ จากนั้นเธอก็เอื้อมือที่เหี่ยวย่นออก มาเพื่อหยิบ กิ่งไม้กายสิทธิ์ แล้วค่อย ๆ เดินจากไปอย่าง เงียบเชียบ ตกเย็น น้องเอ๋อสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยิน เสียงของคุณแม่ร้องเรียกจากหน้าบ้านเด็กน้อย รีบมองหาคทาวิเศษเพื่อเสกทุกอย่างให้กลับคืน สู่สภาพเดิม แต่อนิจจา! กิ่งไม้กายสิทธิ์กลับ หายไปจากห้องนั้นเสียแล้ว เมื่อคุณแม่เปิดประตูเข้ามาเห็็นสภาพ ภายในห้องครัว คุณแม่ตกใจจนร้องเจี๊ยก แถมยังอ้าปากค้างและทำาตาโตเกือบๆ จะ เท่ากับขนาดของไข่นกกระจอกเทศเลยทีเดียว น้องเอ๋อ มองเห็นควันพวกพุ่งออกมาจากหูของ คุณแม่ราวกับเป็นควันจากกาต้นนำ้าที่เดือดปุด
  • 12. ๆ คุณแม่คงโกรธเธอมาก น้องเอ๋อทำาหน้า เหยเก และแล้ว...เด็กน้อยจอมซนก็เริ่ม ร้องไห้แง ๆ ก่อนที่คุณแม่จะลงมือตีก้นเธอเสีย ด้วยซำ้า ที่นอกบ้าน แม่มดเจ้าเลห์แอบมองลอด หน้าต่างเข้าไปพร้อมกับ ฉีกยิ้มด้วยความสะใจ ในที่สุดแผนการต่าง ๆที่เธอวางไว้ก็สำาเร็จตาม ความคาดหมาย "เด็กซน ๆ ต้องถูกตีก้นเสียให้เข็ด" แม่มดหัวเราะหึๆ ในลำาคอ จากนั้นเธอก็ขี้ ไม้กวาดของเธอ แล้วทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อ หาโอากาสแกล้งเด็กซน ๆ ทั้งหลายให้ได้รับ บทเรียนที่สาสมต่อไป คนขี้ล ืม มีชายคนหนึ่งเป็นคนขี้ลืม ขีลืมจริงๆ เรื่อง ้ อะไรจำาได้ประเดี๋ยวเดียวแล้วก็ลืมหมดเขาจะทำา อะไรไม่ได้เลย วันหนึ่งชายขี้ลืมคนนี้ถือมีด เข้าไปในป่าเพื่อจะไปตัดต้นไม้ เดินทางไปได้
  • 13. สักพักหนึ่ง เกิดปวดอุจจาระ จึงเอามีดฟัดติด กับต้นไม้ไว้ แล้วก็หาที่หลบไปถ่ายอุจจาระ พอถ่ายอุจจาระเสร็จก็เดินออกมา เห็นมีดเล่ม หนึ่งอยู่ที่ต้นไม้ เขาลืมไปว่าเป็นมีดของตัวเอง เขาดีใจมากจึงรีบวิ่งไปคว้ามีดมาถือไว้ แล้วจับ มีดชูขึ้นพลางเต้นไปรอบๆแล้วพูดว่า “วันนี้ โชคดีแต่เช้าเลยมีดของใครก็ไม่รู้ยังใหม่อยู่ ลับเอาไว้คมกริบทีเดียวเจ้าของมีดนี้แย่มาก ของดีๆ อย่างนี้มาลืมไว้ได้ อ้ายคนไม่รู้จัก รักษาของ คนอย่างนี้ทำามาหากิน อะไรมีแต่จะ ล่มจม” เผอิญเขาเดินไปเหยียบเอาอุจจาระที่ ตนเองถ่ายไว้เมื่อครู่นี้เข้า ลืมว่าเป็นของตัวเอง จึงตะโกนด่าขึ้นว่า “อ้ายคนอุบาทว์ทไหนมา ี่ ถ่ายไว้ได้ ที่ทั้งป่ากว้างใหญ่มาทำาโสโครกเอา ไว้ตรงนี้เอง อ้ายมนุษย์อัปรีย์” ข้อคิดจาก นิทานเรื่องนี้: ขึ้นชื่อว่าคนขีลืมแล้วมักจะลืม ้ ได้ทกอย่าง ฉะนั้นจงทำาอะไรด้วยความมีสติ ุ เสมอ
  • 14. สองพี่น ้อ งแบ่ง ของ ชาวนาผู้หนึ่งมีบุตรสาวอยู่สองคน วันหนึ่ง อยากจะทดลองปัญญาของบุตรทั้งสอง จึงส่ง แตงโมให้บุตรทั้งสอง 1 ใบ โดยบอกว่าให้ทั้ง สองไปแบ่งกันกินให้เท่าๆกัน เพื่อจะได้ไม่ต้อง โต้เถียงทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องได้มากได้น้อย ถ้าแบ่งไม่ได้เท่าๆกัน เกิดทุ่มเถียงกันขึ้นเมื่อใด ก็จะต้องถูกลงโทษทั้งสองคน เด็กทั้งสอง เมื่อ ได้รับแตงโมมาแล้วไม่รู้ว่าจะผ่าแบ่งกันอย่างไร จึงจะได้ส่วนเท่าๆกันด้วยเกรงจะต้องถูกทำาโทษ ในที่สุดจึงตกลงกันในวิธีการดังนี้ โดยที่เด็กทั้ง สอง เห็นว่าเป็นวิธีที่ยุติธรรม คือ ถ้าหากใคร เป็นผู้ผ่าแตงโมออกเป็นสองซีก ผู้นั้นจะต้อง เป็นฝ่ายเลือกทีหลัง และจะต้องยอมให้ฝ่ายที่ ไม่ใช่เป็นคนผ่าเลือกก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ ให้คนผ่าลำาเอียง โดยผ่าเป็นชิ้นโตชิ้นหนึ่งและ
  • 15. ชิ้นเล็กชิ้นหนึ่ง แล้วคนผ่ารีบเลือกเอาชิ้นโต เป็นของตนเองเสียก่อน เมื่อเด็กทั้งสองได้ผ่าแตงโมแบ่งกันเสร็จแล้ว จึงรีบวิ่งไปเล่าให้บดาฟัง บิดามีความพอใจใน ิ สติปัญญาของเด็กทั้งสองนั้นมาก อยากอยู่ก ระท่อ มสูง มีผัวเมียคู็่หนึ่ง เพิ่งจะแต่งงานกันใหม่ๆ พ่อแม่ก็ให้ไปปลูกกระท่อมอยู่กันที่ปลายนา เพื่อคอยดูแลข้าวปลาที่ทำาไว้แล้ว และกำาลังงาม เกรงว่าวัว ควาย นก หนู จะมากัดกินข้าวเสีย หายผัวเมียทั้งสองก็มิได้ขดข้องหรือรังเกียจ ั เกี่ยงงอนแต่ประการใด เมื่อพ่อแม่ให้ไปก็ไป
  • 16. เมื่อไปถึงก็ช่วยกันปลูกกระท่อมด้วยไม้ไผ่ และ พยายามปลูกให้สูงที่สุดเท่าที่จะสูงได้ เพราะไม่ ต้องการให้นำ้าท่วม ผัวจึงไปตัดไม้ไผ่เอามาทำาเสากระท่อม ตัดมามากมายก่ายกองเหลือประมาณ ปลูก กระท่อมจนเสร็จ กระท่อมนั้นนับว่าสูงที่สุดเลย ทีเดียว ครั้นเสร็จแล้วก็็ขึ้นไปอยู่กันนอนหลับ สบายทั้งคืน จนรุ่งเช้าผัวตื่นขึ้นไม่เห็นเมียก็ ตกใจ มองหาจนทั่วก็ไม่เห็นเมีย ผัวสงสัยคิด ว่าเมียตกกระท่อม จึงก้มลงไปดูข้างล่าง เห็น เมียตกกระท่อม ร่างของเมียยังลอยอยู่ยังไม่ถึง พึ้น ยังสูงอีกมากแล้วไม่รู้ว่าเมื่อไรจะตกถึงพื้น ดิน เลยยังไม่รู้ว่าผลเป็นอย่างไร...
  • 17. ศิล ปะในการขอทาน ชายคนหนึ่งขับรถเข้าไปในเมืองซึ่งเป็น เวลาพลบคำ่า ขณะที่ขับรถมานั้นเขาสังเกตเห็น หญิงชราคนหนึ่งกำาลังถือตะเกียงเดินก้มๆ เงยๆ อยู่ เหมือนจะหาอะไรในพงหญ้าข้างถนนนั้น ด้วยความสนใจ เขาจึงหยุดรถแล้วเดินตรง เข้าไปถามหญิงชรานั้นว่า "นี่ยาย ยายกำาลัง ก้มหาอะไรอยู่หรือ" "อ๋อ...ยายกำาลังหาเหรียญบาทที่ทำาตกลง ไปในพงหญ้านี้ ยายหามาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วหา เท่าไรก็หาไม่เจอสักที พ่อหนุ่มจะช่วยยายหา หรือ" หญิงชราพูด ด้วยความสงสารชายหนุ่มจึงควักเงิน 10 บาทออกมา แล้วยื่นให้แก่หญิงชราพร้อมกับ พูดขึ้นว่า "เอาเงิน 10 บาทนี้ไปก็แล้วกันนะ ยาย เหรียญบาทคงหาไม่เจอแล้ว"เมื่อรับเงิน จากชายหนุ่ม หญิงชรากล่าวขอบใจแล้วก็ดับ ตะเกียงจาก ไป ชาย หนุ่มคนนั้นก็ ขับรถ เข้าไปทำา ธุระใน
  • 18. เมือง เมื่อทำาธุระเสร็จแล้วเขาก็ขับรถออกมา ตามเส้นทางเดิม เขาประหลาดใจมากที่ได้เห็น หญิงชราคนหนึ่ง กำาลังจุดตะเกียงส่องหาอะไร บางอย่างในพงหญ้าข้างถนน ด้วยความสงสัย เขาจึงหยุดรถแล้วเดินเข้าไปดูใกล้ๆเขาก็จำาได้ ทันทีว่า หญิงชราคนนี้ ก็คอหญิงชราคนเดิมที่ ื เขาให้เงินไป 10 บาทเมื่อตอนหัวคำ่านั่นเอง เขาจึงถามหญิงชรานั้นว่า "นี่ยาย...ยายทำา เงินตกหายอีกแล้วรึ"หญิงชราเงยหน้าขึ้น ก็จำา ชายหนุ่มผู้ใจดีคนนี้ได้ จึงตอบไปว่า "ใช่แล้ว หลาน...แต่หลานชายไม่ต้องควักเงินให้ยาย อีกนะ" "ทำาไมละยาย" ชายหนุ่มสงสัย "นี่ มันเป็นกลวิธีในการขอทานที่ได้ผลดี ที่สุด...ขอบใจสำาหรับเงิน 10 บาทนะหลาน เอ๊ย" พูดจบหญิงชราก็เดินจากไป ทิ้งให้ชาย หนุ่มมึนงงอยู่ตรงนั้นเอง คำา นำา การอ่านหนังสือนับเป็นกิจกรรมที่มีจำาเป็น อย่างมากในการพัฒนาความรู้และพัฒนาตนเอง
  • 19. เกี่ยวกับทักษะการอ่าน ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ส่ง เสริมในการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วย ข้าพเจ้าตระหนักถึงความสำาคัญของการ อ่านหนังสือ จึงได้จัดทำาหนังสือส่งเสริมการ อ่านเกี่ยวกับรวมนิทานมหาสนุกเล่มนี้ขึ้นเพื่อ ความรู้ความเข้าใจ ซึ่งได้เรียบเรียงเนื้อหามา จากอินเตอร์เน็ตและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็น ประโยชน์ต่อผู้อ่าน และครูผู้สอนเพื่อพัฒนา คุณภาพของผู้เรียน และส่งเสริมนิสัยรักการ อ่านต่อไป สุพัตรา แสงนาค