Contenu connexe
Similaire à ใบความรู้ เรื่อง รูปแบบรายงานโครงงาน (20)
Plus de เทวัญ ภูพานทอง (20)
ใบความรู้ เรื่อง รูปแบบรายงานโครงงาน
- 1. รวบรวมโดย ครูเทวัญ ภูพานทอง โรงเรียนนามนพิทยาคม สพม. 24
http://combasicnpk.wordpress.com
ใบความรู้ เรื่อง รูปแบบรายงานโครงงาน
รูปแบบรายงานโครงงาน เมื่อทาโครงงานจนได้ข้อมูลอย่างเพียงพอและทาการวิเคราะห์ผล และสรุปผลแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ ต้องทาคือการจัดทารายงาน ซึ่งจะรวมถึงรายละเอียดต่างๆ ในการพัฒนา และคู่มือการใช้งาน รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์เป็นวิธีสื่อความหมายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีดาเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงาน ในการเขียน รายงานนั้น ผู้เรียนควรใช้ภาษาที่อ่านและเข้าใจได้ง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา การเขียนรายงานโครงงานหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ารายงานฉบับสมบูรณ์ มีรูปแบบยืดหยุ่นตาม ประเภทของโครงงานที่ทา ขอให้เป็นการนาข้อมูลต่าง ๆที่มีอยู่แล้ว มาจัดระบบ ทาให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ ว่าโครงงานทาเกี่ยวกับอะไร แต่ขอให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. ส่วนนา เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงาน ซึ่งประกอบด้วย
>> ชื่อโครงงาน
>> ชื่อสาขาของงานวิจัย
>> ชื่อผู้ทาโครงงาน
>> ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
>> คาขอบคุณหรือกิตติกรรมประกาศ โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมที่ได้รับความ ช่วยเหลือและร่วมมือจากหลายฝ่าย จึงควรกล่าวขอบคุณบุคลากรหรือหน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วน ช่วยให้โครงงานนี้สาเร็จ
>> บทคัดย่อ อธิบายถึงที่มาและความสาคัญของโครงงาน วัตถุประสงค์ วิธีดาเนินการ และ ผลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปต่างๆ อย่างย่อ (ประมาณ 250-400 คา)
2. บทนา เป็นส่วนรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานซึ่งประกอบด้วย
>> ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
>> วัตถุประสงค์
>> ขอบเขตของโครงงาน
3. หลักการและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือหลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการที่จะนามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึ่งรวมถึงการระบุผลงานของผู้อื่นที่ผู้เรียนนามา เปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิ่ม เติมด้วย
4. วิธีดาเนินการ อธิบายขั้นตอนการดาเนินงานโดยละเอียด ระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่พบ วิธีการที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ ที่ต้องใช้ในการทางาน
5. ผลการศึกษา นาเสนอข้อมูล หรือระบบที่พัฒนาได้ โดยอาจแสดงเป็นตาราง หรือ กราฟ หรือข้อความ ทั้งนี้ให้คานึงถึงความเข้าใจของผู้อื่นเป็นหลัก
- 2. รวบรวมโดย ครูเทวัญ ภูพานทอง โรงเรียนนามนพิทยาคม สพม. 24
http://combasicnpk.wordpress.com
6. สรุปผลและข้อเสนอแนะ การสรุปผลการดาเนินงาน เป็นการอธิบายผลสรุปที่ได้จากการ ทางาน ถ้ามีการตั้งสมมติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้าน สมมติฐานที่ตั้งไว้ หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจากนั้นยังควรกล่าวถึงการนาผลการทดลองหรือพัฒนาไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทาโครงงาน หรือข้อสังเกตที่สาคัญ หรือข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้นจาก การทาโครงงานนี้ ส่วนข้อเสนอแนะในโครงงานควรมีเพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงงาน หาก จะมีผู้ศึกษาค้นคว้าในเรื่องทานองนี้ต่อไปในอนาคตด้วย นอกจากนี้ควรกล่าวถึงประโยชน์ที่ ได้รับจากโครงงาน ระบุประโยชน์ที่ผู้เรียนได้รับจากการพัฒนาโครงงานนั้น และประโยชน์ที่ผู้ใช้ จะได้รับจากการนาผลงานของโครงงานไปใช้ด้วย
7. บรรณานุกรม รวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสาร เอกสาร และ/หรือเว็บไซต์ต่างๆ ที่ผู้ทา โครงงานใช้ค้นคว้า หรืออ่านเพื่อศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ที่นามาใช้ประโยชน์ในการ ทาโครงงานนี้ ต้องศึกษาค้นคว้าจากแหล่งต่าง ๆ อย่างน้อย 5 แหล่ง การเขียนเอกสาร บรรณานุกรมต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย
8. คู่มือการใช้งาน หากโครงงานที่ผู้เรียนจัดทาเป็นการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมา ให้ผู้เรียนจัดทา คู่มือวิธีการใช้งาน ด้วย
คู่มืออธิบายวิธีการใช้งาน ผลงานนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย
1. ชื่อผลงาน
2. ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์ (ถ้ามี) ระบุรายละเอียดของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อ จะใช้ผลงานนั้นได้
3. ความต้องการของซอฟต์แวร์ (ถ้ามี) ระบุรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อ จะให้ผลงานนั้นทางานได้อย่างสมบูรณ์
4. คุณลักษณะของผลงาน อธิบายว่าผลงานนั้นทาหน้าที่อะไรบ้าง รับอะไรเป็นข้อมูลขาเข้า และส่ง อะไรออกมาเป็นข้อมูลขาออก
5. วิธีการใช้งานของแต่ละฟังก์ชัน อธิบายว่าจะต้องกดคาสั่งใด หรือกดปุ่มใด เพื่อให้ผลงานทางาน ในฟังก์ชันหนึ่งๆ
6. ข้อแนะนาในการใช้งาน เพื่อให้ผลงานนั้นสามารถทางานได้ดีที่สุด
โดยคู่มือการใช้งาน สามารถแยกออกจากรายงานฉบับสมบูรณ์ หรือใส่ไว้เป็นภาคผนวกของรายงาน ฉบับสมบูรณ์ก็ได้ แล้วแต่ดุลยพินิจของผู้จัดทา ที่กล่าวมานี้เป็นรูปแบบหนึ่งของการเขียนรายงานซึ่งเป็นการ เขียนรายงานใน ลักษณะทั่วๆ ไป รูปแบบดังกล่าวนี้อาจไม่เหมาะสมกับโครงงานบางประเภทก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่ กับลักษณะของโครงงาน ซึ่งสิ่งที่สาคัญที่สุดที่ผู้เขียนรายงานควรตระหนักไว้อยู่เสมอคือควรเขียน รายงานให้ ชัดเจน ใช้ศัพท์เทคนิคที่ถูกต้อง ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา และครอบคลุมประเด็นสาคัญๆ ทั้งหมด ของโครงงาน การเขียนรายงานผลการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ จะมีรูปแบบที่กาหนดไว้ให้ ซึ่งผู้เรียนจะต้อง จัดทาเป็นรูปเล่มตามหัวข้อที่กาหนดไว้ในรูปแบบเค้าโครงการเขียนรายงานผลการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
- 3. รวบรวมโดย ครูเทวัญ ภูพานทอง โรงเรียนนามนพิทยาคม สพม. 24
http://combasicnpk.wordpress.com
เค้าโครงการเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ ตามรูปแบบของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
หน้าปก ประกอบด้วย ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)………………………………………………………………………………... (ภาษาอังกฤษ)..…………………………………………………………………………….. สาขาของงานวิจัย .……………………………………………………………………………………… ชื่อผู้ทาโครงงาน
1. ……………………………………………………..
2. ……………………………………………………..
3. ……………………………………………………..
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา …………………………………………..……………………. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาร่วม …….……………………………………………………. 1. รูปแบบการพิมพ์ การเขียนรายงาน คู่มือการติดตั้ง และคู่มือการใช้งาน ให้ใช้โปรแกรม OpenOffice Writer หรือ Word ภาษาไทย 97 (เป็นอย่างต่า) โดยใช้ตัวอักษรขนาด 16 กาหนดขอบด้านซ้าย ด้านขวา บน และล่าง 1 นิ้ว พร้อมระบุเลขหน้า พิมพ์บนกระดาษขาว ขนาดมาตรฐาน A4 ผู้พัฒนาต้องเข้าเล่มรายงานให้เรียบร้อย โดย ใช้กระดาษแข็งทาปกหน้าและปกหลัง 2. รูปแบบรายงาน ประกอบด้วยเนื้อหาดังนี้ • หน้าปก (Cover) ตามแบบที่โรงเรียนกาหนด • กิตติกรรมประกาศ (Acknowledgement) ระบุข้อความการได้รับการสนับสนุนจากโรงเรียน จากครู หรือหน่วยงานที่มอบทุน อุดหนุน พร้อมระบุชื่อโครงการไว้ด้วย • เนื้อหาของรายงาน ประกอบด้วย 2.1 บทคัดย่อ (ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ) 2.2 บทนา (แนวคิด ความสาคัญ และความเป็นมาของโครงการ) 2.3 สารบัญ 2.4 วัตถุประสงค์และเป้าหมาย 2.5 รายละเอียดของการพัฒนา 2.5.1 เนื้อเรื่องย่อ (Story Board) ภาพประกอบ แบบจาลอง หรือ ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างโปรแกรม หรือ ผลงานที่สื่อให้เห็นโปรแกรมที่พัฒนาขึ้น 2.5.2 ทฤษฎีหลักการและเทคนิคหรือเทคโนโลยีที่ใช้ เช่น เทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์ Algorithms ที่ ใช้ โครงสร้างข้อมูล เป็นต้น โดยผู้พัฒนาต้องให้รายละเอียดที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย 2.5.3 เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ ภาษาที่ใช้เขียน Tools อื่นๆ ที่ใช้ช่วยในการพัฒนาโปรแกรม และอื่นๆ 2.5.4 รายละเอียดโปรแกรมที่ได้พัฒนาในเชิงเทคนิค (Software Specification) ได้แก่
- 4. รวบรวมโดย ครูเทวัญ ภูพานทอง โรงเรียนนามนพิทยาคม สพม. 24
http://combasicnpk.wordpress.com
• Input/Output Specification • Functional Specification • โครงสร้างของซอฟต์แวร์ (Design) • อื่นๆ • ผู้พัฒนาต้องชี้แจงส่วนสาคัญที่ทีมงาน/ผู้พัฒนาได้พัฒนาขึ้นเอง รวมทั้งต้องระบุแหล่งที่มาของ โปรแกรม หรือ Source Code อื่นที่มาประกอบในโปรแกรมไว้ด้วย โดยมิต้องจัดพิมพ์ Source Code แนบมา 2.5.4 ขอบเขตและข้อจากัดของโปรแกรมที่พัฒนา 2.5.5 คุณลักษณะของอุปกรณ์ที่ใช้กับโปรแกรม (ถ้ามี) 2.6 กลุ่มผู้ใช้โปรแกรม 2.7 ผลของการทดสอบโปรแกรม 2.8 ปัญหาและอุปสรรค 2.9 แนวทางในการพัฒนาและประยุกต์ใช้ร่วมกับงานอื่นๆ ในขั้นต่อไป 2.10 ข้อสรุปและข้อเสนอแนะ 2.11 เอกสารอ้างอิง (Reference) เพื่อบอกว่าผู้ทาโครงงานใช้ข้อมูลจากแหล่งใด และเพื่อเป็นการแสดง มารยาททางวิชาการและให้เกียรติแก่เจ้าของผลงาน ตลอดจนเพื่อให้ผู้อื่นทราบถึงแหล่งที่มาของข้อมูลที่ถูก นามาใช้ เผื่อว่าหากมีผู้สนใจและต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม จะสามารถติดตามแหล่งข้อมูลได้ 2.12. ภาคผนวก (Appendix) • คู่มือการติดตั้งอย่างละเอียด • คู่มือการใช้งานอย่างละเอียด
ที่มา : http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/unit5/unit5-1.html