SlideShare a Scribd company logo
1 of 22
Download to read offline
การให้ เหตุผล
         คือ การที่มนุษย์ รู้ จกใช้ การให้ เหตุผล
                               ั
เพือสนับสนุนความเชื่อ หรือเพือหาความ
   ่                                 ่
จริง หรือข้ อสรุ ปในเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาแต่
ครั้งโบราณ ซึ่งการให้ เหตุผลนั้นเป็ นสิ่ งที่
มนุษย์ ทุกคนมีอยู่ในตัว มนุษย์ ร้ ู จกที่จะใช้
                                       ั
การให้ เหตุผลตัดสิ นใจแก้ ปัญหาต่ างๆ อัน
จะนําไปสู่ การคาดคะเนได้ ความรู้ และ
ทฤษฎใหม่ๆได้มากมาย
       ี
การให้เหต ุผล แบ่งเปน 2 แบบ คือ..
                    ็

    การให้ เหตุผลแบบนิรนัย (Deduction)

   การให้ เหตุผลแบบอุปนัย (Induction)
ตวอยางการใหเ้ หตผล
  ั ่            ุ
    การให้เหตุผลแบบนิรนัย
“คนทุกคนอยากรวย เธอเป็นคน เธอ
ต้องอยากรวยแน่”

    การให้เหตุผลแบบอปนัย
                      ุ
“ถามใคร ก็เห็นตอบว่ าอยากรวย
เพราะฉะนั้นคนเราน่ าจะอยากรวยกัน
ทุกคน”
ขอแตกต่างของ
                ้
   การให้เหต ุผลแบบอ ุปนัยและแบบนิรนัย
ประเภท      หลกการ
              ั          เนือหา
                            ้        ข้ อสรุ ป        ประโยชน์     นัก
                                                                  ปรัชญา
แบบนร
    ิ    จากหลัก         ลดลง     จริงถ้าใช้         ค้นพบ       นักเหตุผล
นัย      เกณฑ์ หรือ               ข้ อมูลทีเ่ ป็ น   ความ        นิยม
         ความรู้ ที่มี            ความจริง           สัมพันธ์
         สู่ ข้อสรุป              ต้ องสม            อย่างแจ่ม
                                  เหตุสมผล           ชัด
แบบ      จากการ         เพิมขึน จริงหรือเท็จ การค้นพบ นัก
                           ่ ้
อุปนัย   สังเกตหรือ             ก็ได้ แต่ ต้อง ข้อมูลใหม่ ประสบกา
         ทดลอง                  น่าเช่ือถอื               รณ์ นิยม
         หลายๆคร้ ังสู่
         ข้ อสรุ ป
ลักษณะสํ าคัญของการให้ เหตุผลแบบอุปนัย
     สรุปผลเกินจากหลักฐานข้ อเท็จจริงทีมอยู่ ่ ี
     การสรุปของแต่ ละคนอาจไม่ เหมือนกัน
     การสรุปผลอาจไม่เป็ นจริงเสมอไป
     อุปนัยที่ดี ข้ อสรุปต้ องมีความาเชื่อถือ
ความน่ าเชื่อถือของการให้ เหตุผลแบบอุปนัย
                 ขอสรุปจะเช่ื อถือไดมากหรือนอยเพยงใดน้ น
                   ้                ้        ้ ี       ั
                     ู่ ั ั
           ข้ ึนอยกบลกษณะของขอมูล หลกฐานและขอเทจจริง
                                      ้    ั        ้ ็
           ที่นามาอาง ซ่ ึ งไดแก่
                  ํ ้             ้
    1) จํานวนข้ อมูล หลกฐาน หรือขอเทจจริงท่ีนามาเป็น
                              ั         ้ ็       ํ
               ้                ้ ้           ั
           ขอสังเกต หรือขออางอิงมีมากพอกบการสรุปความ
           หรือไม่
    2) ข้อมูล หลักฐานหรื อข้อเท็จจริ งเป็ นตัวแทนที่ดีในการ
           ใหขอสรุปหรือไม่
                 ้ ้
    3) ข้ อสรุ ปทีต้องการมีความซับซ้ อนมากน้ อยเพียงใด
                        ่
การนําการให้ เหตุผลแบบอุปนัยไปประยุกต์ ใช้ ประโยชน์

1. การนําไปประยุกต์ ใช้ กบวิชาอืนๆ
                         ั      ่
             คณิตศาสตร์ เป็ นความรู ้พ้ืนฐานในการเรี ยน
       เร่ื องอ่ืนๆ เช่น การแกปัญหาโจทยแบบรูปของ
                               ้              ์
       จานวน
         ํ
             วทยาศาสตร์ สาหรับการใหเ้ หตุผลแบบอุปนย
              ิ            ํ                            ั
       อาจนาไปสู่ การเป็นทฤษฎี หรือเป็นกฎ เมื่อ
                ํ
       ทดสอบหลายๆ คร้ ังแลวเป็นจริง
                                 ้
             สังคมศึกษา ช่วยในการให้รู้จกการวิเคราะห์
                                            ั
             ภาษาไทย เมื่อมีเหตุผลที่ดี นาไปเขียนบทความ
                                          ํ
       เรียงความ ก็ทาใหดูน่าเชื่อถือ
                        ํ ้
การนําการให้ เหตุผลแบบอุปนัยไปประยุกต์ ใช้ ประโยชน์

    2. การนํามาประยุกต์ใช้ในชีวตประจําวน
                                      ิ        ั
              ทําให้เป็ นคนที่รู้จกเหตุผล เป็ นคนมี
                                   ั
          เหตุผล เมื่อพูดอะไร ถ้ามีเหตุที่ดี ก็มีคน
          เช่ือถือ ซ่ ึ งถาเม่ือไรไม่มีเหตุผล มนุษยก็คงจะ
                          ้                        ์
          ทาสิ่งต่างๆ อยางไร้เหตุผล ซ่ ึ งก็จะส่งผลให้
            ํ                ่
          สังคมวนวาย ไม่มีกฎ ไม่มีระเบียบ
                   ุ่
การนําการให้ เหตุผลแบบอุปนัยไปประยุกต์ ใช้ ประโยชน์
      3. การใช้ ในหลักปรัชญา

     ประสบการณ์เป็ นจุดเริ่ มต้นของความรู ้ทุกอย่างวิธีอปนัย
                                                         ุ
     ทาใหเ้ ราได้ “ความรู ้ใหม่” ซึ่งวิธีนิรนัยไม่สามารถให้ได้
       ํ
         ตวอยางนกประสบการณ์นิยม ไดแก่
          ั ่ ั                             ้
                จอห์น ลอก
                นกปรัชญาชาวองกฤษ สมยใหม่ ไดช่ือวาเป็น
                 ั               ั            ั      ้ ่
             ั                                  ่ ิ
     “บิดาลทธิประสบการณ์นิยม” ซ่ ึงเห็นวาวธีการอปนย ซ่ ึง
                                                       ุ ั
     เป็นรากฐานของวชาวทยาศาสตร์ เป็นวธีท่ีดีท่ีสุดท่ีจะได้
                       ิ ิ                       ิ
     ความรู้ท่ีแทจริง แทจริง
                   ้     ้
ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัย

     ข้ อเท็จจริง
           1.นกแก้วบินได้
           2.นกเขาบินได้
           3.นกเอ้ ียงบินได้
           4.นกกระจิบบินได้
           5.นกกระเรี ยนบินได้
 ข้ อสรุ ป นกทุกชนิ ดบินได้
ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัย

      ชิมลินจี่พนธุ์จกรพรรดิมาหลายครั้ง พบว่า
           ้ ั ั
อร่ อย ลิ้นจี่พนธุ์น้ ีเป็ นลิ้นจี่ที่อร่ อย
                ั
ข้ อเท็จจริง ชิมลิ้นจี่พนธุ์จกรพรรดิหลายครั้ง
                            ั ั
         พบวาอร่อย
              ่

       ข้ อสรุ ป ลิ้นจี่พนธุจกรพรรดิ
                         ั ์ั
             เป็นลิ้นจี่ที่อร่อย
ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัย

              ่
          ที่ผานมาฉันสังเกตว่าร้อนจัดทีไร จะมีฝน
ตกหนักตามมา นี่แสดงว่าอีกไม่นานฝนมาแน่
เพราะวา ร้อนเหลือเกิน
        ่
  ข้ อเท็จจริง สังเกตหลายครั้งแล้วถ้าวันไหน
อากาศร้อน จะมีฝนตกด้วย วันนี้อากาศร้อน

    ข้ อสรุ ป วันนี้ ฝนตกแน่
ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัย

ข้ อเท็จจริง (เหตุ) 1. เม่ือวานเต๋ารักแคท
                     2. วันนี้เต๋ ารักแคท
                     3. พรุ่ งนี้เต๋ ารักแคท

   ข้ อสรุ ป        เต๋ ารักแคทตลอดไป
การให้ เหตุผลแบบอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์

         การให้เหตุผลแบบอปนัยเชิง
                             ุ
คณิตศาสตร์ คือ การให้ เหตุผลทาง
คณิตศาสตร์ เพือพิสูจน์ ว่าข้ อความเหล่านั้น
                ่
เป็ นจริงหรือไม่ ใช้ ในการช่ วยสรุปคําตอบ
หรือช่วยในการแก้ปัญหา เช่นการแก้ปัญหา

             ‘แบบรู ปจานวน’
                      ํ
ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์


  ข้ อเท็จจริง (เหตุ) 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 , 8 ,
         9 ,10 ...
  ข้ อสรุป จากการสงเกตแบบรูปจานวน
                           ั              ํ
  ข้างต้นพบว่า มีค่าเพิมขึ้นทีละหนึ่ง
                         ่
         ดังนั้นจํานวนถัดไปอีก
  5 จานวนคือ 11 , 12 , 13 , 14 , 15
       ํ
ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์

  ข้ อเท็จจริง (เหตุ) 1 =      1
                   1+2 =       3
                 1+2+3 =       6
                1+2+3+4 =      10
               1+2+3+4+5     =    15
  ข้ อสรุ ป 1 + 2 + 3 + 4 + ... +
          n = n(n+1)/2
พสูจน์โดยใช้อปนัยเชิงคณตศาตร์
           ิ           ุ           ิ
        1 + 2 + 3 + 4 + ... + n = n(n+1)/2

1           = 1(1+1)/2         =1
    1+2        =        2(2+1)/2     =3
    1+2+3 =             3(3+1)/2     =6
    1+2+3+4+5+6                = 6(6+1)/2
    = 21
    1 + 2 + 3 + 4 + ... + 10
          = 10(10+1)/2         = 55
    1 + 2 + 3 + 4 + ... + 12
         = 12(12+1)/2          = 78
ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์

พิสูจน์ขอสรุปโดยใชการให้เหตุผลแบบอุปนยเชิงคณิตศาสตร
        ้         ้                  ั

     ข้ อสรุ ป      2n > n2 เมื่อ n > 4

  พิสูจน์ ข้อสรุป    25 > 52    = 32 > 25
                     26 > 62    = 64 > 36
                     2 7 > 72   = 128 > 49
                     28 > 82    = 256 > 64
แบบฝึกทกษะการให้เหตผลแบบอปนัย
       ั           ุ     ุ
แบบฝึ กทักษะการให้ เหตุผลแบบอุปนัย
1. แบบฝึกหัด ตดสินการให้เหตุผลแบบ นรนัย / การให้เหตุผลแบบ
                   ั                                ิ
    อุปนัย
    อุปนัย
1) __________ คนนีสร้างหนังไม่ดีหรอก ฉันเห็นมาหลายเรื่ องแล้ว
                           ้
       ่
    แยทุกเร่ื อง
                                              ่
2) __________ หนังดีตองมีคนดูอยูแล้ว ในเมื่อหนังเรื่ องนี้ดี แล้ว
                                  ้
    ค◌ุ ณจะกลวไปทาไมว่าจะไม่มีคนดู
                 ั           ํ
                       ่            ั ั     ่
3) __________ท่ีผานมาฉนสงเกตวาร้อนจดทีไร จะมีฝนตกหนก  ั               ั
    ตามมา น่ีแสดงวาอีกไม่นานฝนมาแน่ เพราะวาร้อนเหลือเกิน
                         ่                                   ่
4) __________ หลายวนท่ีผานมาโชคไมค่อยดีเลย สงสัยวนนีคง
                               ั ่                ่               ั ้
    โชคไม่ ค่อยดีอีก ต้ องระวังตัวหน่ อย
5) __________ วนไหนจิ้งจกทกโชคจะไมดีท้ งวนวนนีฉันจึงต้อง
                     ั                    ั             ่ ั ั ั ้
                                ่
    โชคไม่ ดีแน่ เพราะวาเม่ือเชาจิ้งจกทกเสียงดงมาก
                                        ้       ั          ั
แบบฝึกทกษะการให้เหตผลแบบอปนัย
       ั           ุ     ุ
4. จงใช้ การให้ เหตุผลแบบอุปนัย เพือหาสมการ หรือ
                                   ่
คําตอบจาก แบบรูปทกาหนดให้
                      ี่ ํ
 1)              (1 × 9) + 2    = 11
            (12 × 9) + 3 = 111
           (123 × 9) + 4 = 1111
         _____________ = _______

 2)               2 =           4-2
                 2+4 =          8-2
               2+4+8 =          16-2
              2+4+8+16          =      32-2
        _________ =             ______
แบบฝึกทกษะการให้เหตผลแบบอปนัย
       ั           ุ     ุ
4. จงใช้ การให้ เหตุผลแบบอุปนัย เพือหาสมการ หรือ
                                   ่
คําตอบจากแบบรูปทกาหนดให้
                      ี่ ํ
          1,089 x 1       =      1,089
          1,089 x 2       =      2,178
          1,089 x 3       =      3,267
          1,089 x 4       = ______
          1,089 x 5       =       4356
                                 ______
          1,089 x 6       =      ______
          1,089 x 7       =      ______
          1,089 x 8=      ______
          1,089 x 9       =      ______
แบบฝึกทกษะการให้เหตุผลแบบอุปนัย
       ั

     จงพสูจน์โดยใช้อุปนัยเชิงคณตศาสตร์ว่า
          ิ                     ิ
        "เซตซึ่ งมีสมาชิก n ตวจะมีจานวนสบ
                             ั     ํ    ั
     เซต ทั้งหมด 2n เซต

More Related Content

What's hot

แบบประเมินทักษะกระบวนการ
แบบประเมินทักษะกระบวนการแบบประเมินทักษะกระบวนการ
แบบประเมินทักษะกระบวนการsomdetpittayakom school
 
สถิติสำหรับธุรกิจ
สถิติสำหรับธุรกิจสถิติสำหรับธุรกิจ
สถิติสำหรับธุรกิจTeetut Tresirichod
 
โจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต
โจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตโจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต
โจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตKuntoonbut Wissanu
 
โครงงาน เรื่อง การศึกษาปัญหาการอ่านหนังสือของคนไทย
โครงงาน เรื่อง การศึกษาปัญหาการอ่านหนังสือของคนไทย โครงงาน เรื่อง การศึกษาปัญหาการอ่านหนังสือของคนไทย
โครงงาน เรื่อง การศึกษาปัญหาการอ่านหนังสือของคนไทย Nawakhun Saensen
 
4. โจทย์ปัญหาการซื้อขาย กำไร ขาดทุน
4. โจทย์ปัญหาการซื้อขาย กำไร ขาดทุน4. โจทย์ปัญหาการซื้อขาย กำไร ขาดทุน
4. โจทย์ปัญหาการซื้อขาย กำไร ขาดทุนApirak Potpipit
 
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1Sivagon Soontong
 
กาพย์เห่เรือ
กาพย์เห่เรือกาพย์เห่เรือ
กาพย์เห่เรือWarodom Techasrisutee
 
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4Thanawut Rattanadon
 
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนโครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนพัน พัน
 
ภูมิศาสตร์
ภูมิศาสตร์ภูมิศาสตร์
ภูมิศาสตร์koorimkhong
 
แผน1สนามแม่เหล็ก
แผน1สนามแม่เหล็กแผน1สนามแม่เหล็ก
แผน1สนามแม่เหล็กNiwat Yod
 
สถิติ ม.6 เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
สถิติ ม.6 เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นสถิติ ม.6 เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
สถิติ ม.6 เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นParn Parai
 
โครงการปรับปรุงซ่อมแซมโรงอาหารโรงเรียนบ้านโคกกลางแก้งน้อยฯ
โครงการปรับปรุงซ่อมแซมโรงอาหารโรงเรียนบ้านโคกกลางแก้งน้อยฯโครงการปรับปรุงซ่อมแซมโรงอาหารโรงเรียนบ้านโคกกลางแก้งน้อยฯ
โครงการปรับปรุงซ่อมแซมโรงอาหารโรงเรียนบ้านโคกกลางแก้งน้อยฯศิริพัฒน์ ธงยศ
 
แผนบูรณาการสะเต็ม ร่มพยุงไข่
แผนบูรณาการสะเต็ม ร่มพยุงไข่แผนบูรณาการสะเต็ม ร่มพยุงไข่
แผนบูรณาการสะเต็ม ร่มพยุงไข่Wijitta DevilTeacher
 
ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2Weerachat Martluplao
 

What's hot (20)

ลิลิตตะเลงพ่าย (สอน Ppt)[1]
ลิลิตตะเลงพ่าย (สอน Ppt)[1]ลิลิตตะเลงพ่าย (สอน Ppt)[1]
ลิลิตตะเลงพ่าย (สอน Ppt)[1]
 
แบบประเมินทักษะกระบวนการ
แบบประเมินทักษะกระบวนการแบบประเมินทักษะกระบวนการ
แบบประเมินทักษะกระบวนการ
 
สถิติสำหรับธุรกิจ
สถิติสำหรับธุรกิจสถิติสำหรับธุรกิจ
สถิติสำหรับธุรกิจ
 
โจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต
โจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตโจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต
โจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต
 
ข้อสอบปลายภาคสังคม ม.1
ข้อสอบปลายภาคสังคม ม.1ข้อสอบปลายภาคสังคม ม.1
ข้อสอบปลายภาคสังคม ม.1
 
หน้าปก
หน้าปกหน้าปก
หน้าปก
 
โครงงาน เรื่อง การศึกษาปัญหาการอ่านหนังสือของคนไทย
โครงงาน เรื่อง การศึกษาปัญหาการอ่านหนังสือของคนไทย โครงงาน เรื่อง การศึกษาปัญหาการอ่านหนังสือของคนไทย
โครงงาน เรื่อง การศึกษาปัญหาการอ่านหนังสือของคนไทย
 
4. โจทย์ปัญหาการซื้อขาย กำไร ขาดทุน
4. โจทย์ปัญหาการซื้อขาย กำไร ขาดทุน4. โจทย์ปัญหาการซื้อขาย กำไร ขาดทุน
4. โจทย์ปัญหาการซื้อขาย กำไร ขาดทุน
 
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
 
กาพย์เห่เรือ
กาพย์เห่เรือกาพย์เห่เรือ
กาพย์เห่เรือ
 
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4
 
ใบงาน อเมริกาเหนือ
ใบงาน อเมริกาเหนือใบงาน อเมริกาเหนือ
ใบงาน อเมริกาเหนือ
 
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนโครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
 
ภูมิศาสตร์
ภูมิศาสตร์ภูมิศาสตร์
ภูมิศาสตร์
 
แผน1สนามแม่เหล็ก
แผน1สนามแม่เหล็กแผน1สนามแม่เหล็ก
แผน1สนามแม่เหล็ก
 
สถิติ ม.6 เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
สถิติ ม.6 เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นสถิติ ม.6 เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
สถิติ ม.6 เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
 
โครงการปรับปรุงซ่อมแซมโรงอาหารโรงเรียนบ้านโคกกลางแก้งน้อยฯ
โครงการปรับปรุงซ่อมแซมโรงอาหารโรงเรียนบ้านโคกกลางแก้งน้อยฯโครงการปรับปรุงซ่อมแซมโรงอาหารโรงเรียนบ้านโคกกลางแก้งน้อยฯ
โครงการปรับปรุงซ่อมแซมโรงอาหารโรงเรียนบ้านโคกกลางแก้งน้อยฯ
 
แผนKpa ส่งจริง (ซ่อมแซม)
แผนKpa ส่งจริง (ซ่อมแซม)แผนKpa ส่งจริง (ซ่อมแซม)
แผนKpa ส่งจริง (ซ่อมแซม)
 
แผนบูรณาการสะเต็ม ร่มพยุงไข่
แผนบูรณาการสะเต็ม ร่มพยุงไข่แผนบูรณาการสะเต็ม ร่มพยุงไข่
แผนบูรณาการสะเต็ม ร่มพยุงไข่
 
ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2
 

Viewers also liked

การให้เหตุผล
การให้เหตุผลการให้เหตุผล
การให้เหตุผลkrukanteera
 
นำเสนอการให้เหตุผลนิรนัย(ภาษาไทย)
นำเสนอการให้เหตุผลนิรนัย(ภาษาไทย)นำเสนอการให้เหตุผลนิรนัย(ภาษาไทย)
นำเสนอการให้เหตุผลนิรนัย(ภาษาไทย)lovelyya2553
 
นำเสนอการให้เหตุผลแบบอุปนัย(ภาษาไทย)
นำเสนอการให้เหตุผลแบบอุปนัย(ภาษาไทย)นำเสนอการให้เหตุผลแบบอุปนัย(ภาษาไทย)
นำเสนอการให้เหตุผลแบบอุปนัย(ภาษาไทย)lovelyya2553
 
แบบทดสอบ การให้เหตุผล
แบบทดสอบ การให้เหตุผลแบบทดสอบ การให้เหตุผล
แบบทดสอบ การให้เหตุผลAon Narinchoti
 
การใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์และการไม่ใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์
การใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์และการไม่ใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์การใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์และการไม่ใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์
การใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์และการไม่ใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์Piyarerk Bunkoson
 
คำราชาศัพท์
คำราชาศัพท์คำราชาศัพท์
คำราชาศัพท์IamPloy JunSeop
 
การพูดแสดงทรรศนะ
การพูดแสดงทรรศนะการพูดแสดงทรรศนะ
การพูดแสดงทรรศนะsasithorn woralee
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์kingkarn somchit
 

Viewers also liked (14)

การให้เหตุผล
การให้เหตุผลการให้เหตุผล
การให้เหตุผล
 
นำเสนอการให้เหตุผลนิรนัย(ภาษาไทย)
นำเสนอการให้เหตุผลนิรนัย(ภาษาไทย)นำเสนอการให้เหตุผลนิรนัย(ภาษาไทย)
นำเสนอการให้เหตุผลนิรนัย(ภาษาไทย)
 
นำเสนอการให้เหตุผลแบบอุปนัย(ภาษาไทย)
นำเสนอการให้เหตุผลแบบอุปนัย(ภาษาไทย)นำเสนอการให้เหตุผลแบบอุปนัย(ภาษาไทย)
นำเสนอการให้เหตุผลแบบอุปนัย(ภาษาไทย)
 
แบบทดสอบ การให้เหตุผล
แบบทดสอบ การให้เหตุผลแบบทดสอบ การให้เหตุผล
แบบทดสอบ การให้เหตุผล
 
ภาษาไทย
ภาษาไทยภาษาไทย
ภาษาไทย
 
07 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่1_การให้เหตุผล
07 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่1_การให้เหตุผล07 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่1_การให้เหตุผล
07 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่1_การให้เหตุผล
 
09 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่3_สัจนิรันดร์และการอ้างเหตุผล
09 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่3_สัจนิรันดร์และการอ้างเหตุผล09 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่3_สัจนิรันดร์และการอ้างเหตุผล
09 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่3_สัจนิรันดร์และการอ้างเหตุผล
 
การใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์และการไม่ใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์
การใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์และการไม่ใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์การใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์และการไม่ใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์
การใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์และการไม่ใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์
 
คำราชาศัพท์
คำราชาศัพท์คำราชาศัพท์
คำราชาศัพท์
 
การพูดแสดงทรรศนะ
การพูดแสดงทรรศนะการพูดแสดงทรรศนะ
การพูดแสดงทรรศนะ
 
ระดับของภาษา
ระดับของภาษาระดับของภาษา
ระดับของภาษา
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
ใบความรู้ การแต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์
ใบความรู้ การแต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์ใบความรู้ การแต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์
ใบความรู้ การแต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์
 
Probability
ProbabilityProbability
Probability
 

Similar to การให้เหตุผลอุปนัย

แบบวิเคราะห์ผลการเรียนรู้Tok1
แบบวิเคราะห์ผลการเรียนรู้Tok1แบบวิเคราะห์ผลการเรียนรู้Tok1
แบบวิเคราะห์ผลการเรียนรู้Tok1Kobwit Piriyawat
 
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิด
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิดทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิด
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิดNote Na-ngam
 
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...Rorsed Mardra
 
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...Rorsed Mardra
 
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...Rorsed Mardra
 
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...Rorsed Mardra
 
หลักสูตร
หลักสูตรหลักสูตร
หลักสูตรPat1803
 
สุขฯ ม.2 หน่วย 7
สุขฯ ม.2 หน่วย 7สุขฯ ม.2 หน่วย 7
สุขฯ ม.2 หน่วย 7supap6259
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10Aon Narinchoti
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10Aon Narinchoti
 
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...Rorsed Mardra
 

Similar to การให้เหตุผลอุปนัย (20)

Reasoning
ReasoningReasoning
Reasoning
 
Intro sciproject
Intro sciprojectIntro sciproject
Intro sciproject
 
แบบวิเคราะห์ผลการเรียนรู้Tok1
แบบวิเคราะห์ผลการเรียนรู้Tok1แบบวิเคราะห์ผลการเรียนรู้Tok1
แบบวิเคราะห์ผลการเรียนรู้Tok1
 
06 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ บทนำ
06 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ บทนำ06 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ บทนำ
06 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ บทนำ
 
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิด
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิดทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิด
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิด
 
Reasoning55
Reasoning55Reasoning55
Reasoning55
 
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
 
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
 
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
 
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
 
หลักสูตร
หลักสูตรหลักสูตร
หลักสูตร
 
Unit1
Unit1Unit1
Unit1
 
สุขฯ ม.2 หน่วย 7
สุขฯ ม.2 หน่วย 7สุขฯ ม.2 หน่วย 7
สุขฯ ม.2 หน่วย 7
 
บทความวิชาการ
บทความวิชาการบทความวิชาการ
บทความวิชาการ
 
หน่วย 2
หน่วย 2หน่วย 2
หน่วย 2
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
 
Plan10
Plan10Plan10
Plan10
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
 
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
1e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88ee0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b8...
 
ใบงานที่ 6 โครงงานประเภท
ใบงานที่ 6 โครงงานประเภทใบงานที่ 6 โครงงานประเภท
ใบงานที่ 6 โครงงานประเภท
 

More from Laongphan Phan

สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 7
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 7สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 7
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 7Laongphan Phan
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5Laongphan Phan
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4Laongphan Phan
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6Laongphan Phan
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6Laongphan Phan
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5Laongphan Phan
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4Laongphan Phan
 
Curriculum%20korea%20pppt
Curriculum%20korea%20ppptCurriculum%20korea%20pppt
Curriculum%20korea%20ppptLaongphan Phan
 
%Ca%c3%d8%bb%ca%b6%d4%b5%d4%5 b1%5d
%Ca%c3%d8%bb%ca%b6%d4%b5%d4%5 b1%5d%Ca%c3%d8%bb%ca%b6%d4%b5%d4%5 b1%5d
%Ca%c3%d8%bb%ca%b6%d4%b5%d4%5 b1%5dLaongphan Phan
 
Original sv [compatibility mode]
Original sv  [compatibility mode]Original sv  [compatibility mode]
Original sv [compatibility mode]Laongphan Phan
 
Math m3 [compatibility mode]
Math m3 [compatibility mode]Math m3 [compatibility mode]
Math m3 [compatibility mode]Laongphan Phan
 

More from Laongphan Phan (14)

สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 7
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 7สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 7
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 7
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
 
Curriculum%20korea%20pppt
Curriculum%20korea%20ppptCurriculum%20korea%20pppt
Curriculum%20korea%20pppt
 
%Ca%c3%d8%bb%ca%b6%d4%b5%d4%5 b1%5d
%Ca%c3%d8%bb%ca%b6%d4%b5%d4%5 b1%5d%Ca%c3%d8%bb%ca%b6%d4%b5%d4%5 b1%5d
%Ca%c3%d8%bb%ca%b6%d4%b5%d4%5 b1%5d
 
Role math stat_cs
Role math stat_csRole math stat_cs
Role math stat_cs
 
Graph
GraphGraph
Graph
 
Set
SetSet
Set
 
Original sv [compatibility mode]
Original sv  [compatibility mode]Original sv  [compatibility mode]
Original sv [compatibility mode]
 
Math m3 [compatibility mode]
Math m3 [compatibility mode]Math m3 [compatibility mode]
Math m3 [compatibility mode]
 

การให้เหตุผลอุปนัย

  • 1. การให้ เหตุผล คือ การที่มนุษย์ รู้ จกใช้ การให้ เหตุผล ั เพือสนับสนุนความเชื่อ หรือเพือหาความ ่ ่ จริง หรือข้ อสรุ ปในเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาแต่ ครั้งโบราณ ซึ่งการให้ เหตุผลนั้นเป็ นสิ่ งที่ มนุษย์ ทุกคนมีอยู่ในตัว มนุษย์ ร้ ู จกที่จะใช้ ั การให้ เหตุผลตัดสิ นใจแก้ ปัญหาต่ างๆ อัน จะนําไปสู่ การคาดคะเนได้ ความรู้ และ ทฤษฎใหม่ๆได้มากมาย ี
  • 2. การให้เหต ุผล แบ่งเปน 2 แบบ คือ.. ็ การให้ เหตุผลแบบนิรนัย (Deduction) การให้ เหตุผลแบบอุปนัย (Induction)
  • 3. ตวอยางการใหเ้ หตผล ั ่ ุ การให้เหตุผลแบบนิรนัย “คนทุกคนอยากรวย เธอเป็นคน เธอ ต้องอยากรวยแน่” การให้เหตุผลแบบอปนัย ุ “ถามใคร ก็เห็นตอบว่ าอยากรวย เพราะฉะนั้นคนเราน่ าจะอยากรวยกัน ทุกคน”
  • 4. ขอแตกต่างของ ้ การให้เหต ุผลแบบอ ุปนัยและแบบนิรนัย ประเภท หลกการ ั เนือหา ้ ข้ อสรุ ป ประโยชน์ นัก ปรัชญา แบบนร ิ จากหลัก ลดลง จริงถ้าใช้ ค้นพบ นักเหตุผล นัย เกณฑ์ หรือ ข้ อมูลทีเ่ ป็ น ความ นิยม ความรู้ ที่มี ความจริง สัมพันธ์ สู่ ข้อสรุป ต้ องสม อย่างแจ่ม เหตุสมผล ชัด แบบ จากการ เพิมขึน จริงหรือเท็จ การค้นพบ นัก ่ ้ อุปนัย สังเกตหรือ ก็ได้ แต่ ต้อง ข้อมูลใหม่ ประสบกา ทดลอง น่าเช่ือถอื รณ์ นิยม หลายๆคร้ ังสู่ ข้ อสรุ ป
  • 5. ลักษณะสํ าคัญของการให้ เหตุผลแบบอุปนัย สรุปผลเกินจากหลักฐานข้ อเท็จจริงทีมอยู่ ่ ี การสรุปของแต่ ละคนอาจไม่ เหมือนกัน การสรุปผลอาจไม่เป็ นจริงเสมอไป อุปนัยที่ดี ข้ อสรุปต้ องมีความาเชื่อถือ
  • 6. ความน่ าเชื่อถือของการให้ เหตุผลแบบอุปนัย ขอสรุปจะเช่ื อถือไดมากหรือนอยเพยงใดน้ น ้ ้ ้ ี ั ู่ ั ั ข้ ึนอยกบลกษณะของขอมูล หลกฐานและขอเทจจริง ้ ั ้ ็ ที่นามาอาง ซ่ ึ งไดแก่ ํ ้ ้ 1) จํานวนข้ อมูล หลกฐาน หรือขอเทจจริงท่ีนามาเป็น ั ้ ็ ํ ้ ้ ้ ั ขอสังเกต หรือขออางอิงมีมากพอกบการสรุปความ หรือไม่ 2) ข้อมูล หลักฐานหรื อข้อเท็จจริ งเป็ นตัวแทนที่ดีในการ ใหขอสรุปหรือไม่ ้ ้ 3) ข้ อสรุ ปทีต้องการมีความซับซ้ อนมากน้ อยเพียงใด ่
  • 7. การนําการให้ เหตุผลแบบอุปนัยไปประยุกต์ ใช้ ประโยชน์ 1. การนําไปประยุกต์ ใช้ กบวิชาอืนๆ ั ่ คณิตศาสตร์ เป็ นความรู ้พ้ืนฐานในการเรี ยน เร่ื องอ่ืนๆ เช่น การแกปัญหาโจทยแบบรูปของ ้ ์ จานวน ํ วทยาศาสตร์ สาหรับการใหเ้ หตุผลแบบอุปนย ิ ํ ั อาจนาไปสู่ การเป็นทฤษฎี หรือเป็นกฎ เมื่อ ํ ทดสอบหลายๆ คร้ ังแลวเป็นจริง ้ สังคมศึกษา ช่วยในการให้รู้จกการวิเคราะห์ ั ภาษาไทย เมื่อมีเหตุผลที่ดี นาไปเขียนบทความ ํ เรียงความ ก็ทาใหดูน่าเชื่อถือ ํ ้
  • 8. การนําการให้ เหตุผลแบบอุปนัยไปประยุกต์ ใช้ ประโยชน์ 2. การนํามาประยุกต์ใช้ในชีวตประจําวน ิ ั ทําให้เป็ นคนที่รู้จกเหตุผล เป็ นคนมี ั เหตุผล เมื่อพูดอะไร ถ้ามีเหตุที่ดี ก็มีคน เช่ือถือ ซ่ ึ งถาเม่ือไรไม่มีเหตุผล มนุษยก็คงจะ ้ ์ ทาสิ่งต่างๆ อยางไร้เหตุผล ซ่ ึ งก็จะส่งผลให้ ํ ่ สังคมวนวาย ไม่มีกฎ ไม่มีระเบียบ ุ่
  • 9. การนําการให้ เหตุผลแบบอุปนัยไปประยุกต์ ใช้ ประโยชน์ 3. การใช้ ในหลักปรัชญา ประสบการณ์เป็ นจุดเริ่ มต้นของความรู ้ทุกอย่างวิธีอปนัย ุ ทาใหเ้ ราได้ “ความรู ้ใหม่” ซึ่งวิธีนิรนัยไม่สามารถให้ได้ ํ ตวอยางนกประสบการณ์นิยม ไดแก่ ั ่ ั ้ จอห์น ลอก นกปรัชญาชาวองกฤษ สมยใหม่ ไดช่ือวาเป็น ั ั ั ้ ่ ั ่ ิ “บิดาลทธิประสบการณ์นิยม” ซ่ ึงเห็นวาวธีการอปนย ซ่ ึง ุ ั เป็นรากฐานของวชาวทยาศาสตร์ เป็นวธีท่ีดีท่ีสุดท่ีจะได้ ิ ิ ิ ความรู้ท่ีแทจริง แทจริง ้ ้
  • 10. ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัย ข้ อเท็จจริง 1.นกแก้วบินได้ 2.นกเขาบินได้ 3.นกเอ้ ียงบินได้ 4.นกกระจิบบินได้ 5.นกกระเรี ยนบินได้ ข้ อสรุ ป นกทุกชนิ ดบินได้
  • 11. ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัย ชิมลินจี่พนธุ์จกรพรรดิมาหลายครั้ง พบว่า ้ ั ั อร่ อย ลิ้นจี่พนธุ์น้ ีเป็ นลิ้นจี่ที่อร่ อย ั ข้ อเท็จจริง ชิมลิ้นจี่พนธุ์จกรพรรดิหลายครั้ง ั ั พบวาอร่อย ่ ข้ อสรุ ป ลิ้นจี่พนธุจกรพรรดิ ั ์ั เป็นลิ้นจี่ที่อร่อย
  • 12. ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัย ่ ที่ผานมาฉันสังเกตว่าร้อนจัดทีไร จะมีฝน ตกหนักตามมา นี่แสดงว่าอีกไม่นานฝนมาแน่ เพราะวา ร้อนเหลือเกิน ่ ข้ อเท็จจริง สังเกตหลายครั้งแล้วถ้าวันไหน อากาศร้อน จะมีฝนตกด้วย วันนี้อากาศร้อน ข้ อสรุ ป วันนี้ ฝนตกแน่
  • 13. ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัย ข้ อเท็จจริง (เหตุ) 1. เม่ือวานเต๋ารักแคท 2. วันนี้เต๋ ารักแคท 3. พรุ่ งนี้เต๋ ารักแคท ข้ อสรุ ป เต๋ ารักแคทตลอดไป
  • 14. การให้ เหตุผลแบบอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์ การให้เหตุผลแบบอปนัยเชิง ุ คณิตศาสตร์ คือ การให้ เหตุผลทาง คณิตศาสตร์ เพือพิสูจน์ ว่าข้ อความเหล่านั้น ่ เป็ นจริงหรือไม่ ใช้ ในการช่ วยสรุปคําตอบ หรือช่วยในการแก้ปัญหา เช่นการแก้ปัญหา ‘แบบรู ปจานวน’ ํ
  • 15. ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์ ข้ อเท็จจริง (เหตุ) 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 , 8 , 9 ,10 ... ข้ อสรุป จากการสงเกตแบบรูปจานวน ั ํ ข้างต้นพบว่า มีค่าเพิมขึ้นทีละหนึ่ง ่ ดังนั้นจํานวนถัดไปอีก 5 จานวนคือ 11 , 12 , 13 , 14 , 15 ํ
  • 16. ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์ ข้ อเท็จจริง (เหตุ) 1 = 1 1+2 = 3 1+2+3 = 6 1+2+3+4 = 10 1+2+3+4+5 = 15 ข้ อสรุ ป 1 + 2 + 3 + 4 + ... + n = n(n+1)/2
  • 17. พสูจน์โดยใช้อปนัยเชิงคณตศาตร์ ิ ุ ิ 1 + 2 + 3 + 4 + ... + n = n(n+1)/2 1 = 1(1+1)/2 =1 1+2 = 2(2+1)/2 =3 1+2+3 = 3(3+1)/2 =6 1+2+3+4+5+6 = 6(6+1)/2 = 21 1 + 2 + 3 + 4 + ... + 10 = 10(10+1)/2 = 55 1 + 2 + 3 + 4 + ... + 12 = 12(12+1)/2 = 78
  • 18. ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์ พิสูจน์ขอสรุปโดยใชการให้เหตุผลแบบอุปนยเชิงคณิตศาสตร ้ ้ ั ข้ อสรุ ป 2n > n2 เมื่อ n > 4 พิสูจน์ ข้อสรุป 25 > 52 = 32 > 25 26 > 62 = 64 > 36 2 7 > 72 = 128 > 49 28 > 82 = 256 > 64
  • 19. แบบฝึกทกษะการให้เหตผลแบบอปนัย ั ุ ุ แบบฝึ กทักษะการให้ เหตุผลแบบอุปนัย 1. แบบฝึกหัด ตดสินการให้เหตุผลแบบ นรนัย / การให้เหตุผลแบบ ั ิ อุปนัย อุปนัย 1) __________ คนนีสร้างหนังไม่ดีหรอก ฉันเห็นมาหลายเรื่ องแล้ว ้ ่ แยทุกเร่ื อง ่ 2) __________ หนังดีตองมีคนดูอยูแล้ว ในเมื่อหนังเรื่ องนี้ดี แล้ว ้ ค◌ุ ณจะกลวไปทาไมว่าจะไม่มีคนดู ั ํ ่ ั ั ่ 3) __________ท่ีผานมาฉนสงเกตวาร้อนจดทีไร จะมีฝนตกหนก ั ั ตามมา น่ีแสดงวาอีกไม่นานฝนมาแน่ เพราะวาร้อนเหลือเกิน ่ ่ 4) __________ หลายวนท่ีผานมาโชคไมค่อยดีเลย สงสัยวนนีคง ั ่ ่ ั ้ โชคไม่ ค่อยดีอีก ต้ องระวังตัวหน่ อย 5) __________ วนไหนจิ้งจกทกโชคจะไมดีท้ งวนวนนีฉันจึงต้อง ั ั ่ ั ั ั ้ ่ โชคไม่ ดีแน่ เพราะวาเม่ือเชาจิ้งจกทกเสียงดงมาก ้ ั ั
  • 20. แบบฝึกทกษะการให้เหตผลแบบอปนัย ั ุ ุ 4. จงใช้ การให้ เหตุผลแบบอุปนัย เพือหาสมการ หรือ ่ คําตอบจาก แบบรูปทกาหนดให้ ี่ ํ 1) (1 × 9) + 2 = 11 (12 × 9) + 3 = 111 (123 × 9) + 4 = 1111 _____________ = _______ 2) 2 = 4-2 2+4 = 8-2 2+4+8 = 16-2 2+4+8+16 = 32-2 _________ = ______
  • 21. แบบฝึกทกษะการให้เหตผลแบบอปนัย ั ุ ุ 4. จงใช้ การให้ เหตุผลแบบอุปนัย เพือหาสมการ หรือ ่ คําตอบจากแบบรูปทกาหนดให้ ี่ ํ 1,089 x 1 = 1,089 1,089 x 2 = 2,178 1,089 x 3 = 3,267 1,089 x 4 = ______ 1,089 x 5 = 4356 ______ 1,089 x 6 = ______ 1,089 x 7 = ______ 1,089 x 8= ______ 1,089 x 9 = ______
  • 22. แบบฝึกทกษะการให้เหตุผลแบบอุปนัย ั จงพสูจน์โดยใช้อุปนัยเชิงคณตศาสตร์ว่า ิ ิ "เซตซึ่ งมีสมาชิก n ตวจะมีจานวนสบ ั ํ ั เซต ทั้งหมด 2n เซต