1. คาอธิบายรายวิชา
รหัส ท๓๓๒๐๑ วิชา ภาษาไทยเพื่อกิจธุระ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๑ เวลาเรียน ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต
ฝึกใช้ภาษาทั้งภาษาพูดและภาษาเขียนเพื่อกิจธุระในเรื่องต่าง ๆ เขียนประกาศ คาแนะนา
คาชักชวน เขียนบันทึกเรื่องราว อ่านและตีความประกาศ เอกสารแนะนา เอกสารชักชวน เอกสารสิทธิที่ดิน
สัญญาต่าง ๆ การติดต่อกับส่วนราชการ การใช้โทรศัพท์ การเขียนจดหมายราชการ การเขียนบัตรเชิญงาน
ต่าง ๆ และเห็นความสาคัญของการใช้ภาษาไทยเพื่อกิจธุระ
ผลการเรียนรู้
๑. มีความรู้ความเข้าใจความหมายและความสาคัญของการใช้ภาษาไทยเพื่อกิจุระ
๒. มีความรู้ความเข้าใจหลักทั่วไปในการเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่เพื่อนาไปใช้ในการเขียนประกาศ
คาแนะนาและคาชักชวน
๓. มีความสามารถในการอ่านและตีความประกาศ เอกสารแนะนา และเอกสารชักชวน
๔. มีความรู้ความเข้าใจในเอกสารสิทธิที่ดินต่าง ๆ
๕. มีความรู้ความเข้าใจในสัญญาและมีความสามารถในการเขียนสัญญาประเภทต่าง ๆ
๖. มีความรู้ความเข้าใจในการติดต่อราชการและมีความสามารถในการเขียนข้อความเอกสารราชการ
ประเภทต่าง ๆ
๗. มีความรู้ความเข้าใจในการเขียนจดหมายราชการในการติดต่อกับส่วนราชการต่าง ๆ
๘. มีความรู้ความเข้าใจและเห็นความสาคัญในการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องตามมารยาทในสังคม
๙. มีความรู้ความเข้าใจข้อความพิธีการและใช้ภาษาพิธีการเขียนบัตรเชิญประเภทต่าง ๆ
รวม ๙ ผลการเรียนรู้

2. โครงสร้างรายวิชา
รหัสวิชา ท๒๓๒๐๑ วิชา ภาษาไทยเพื่อกิจธุระ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต
หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา
(ชั่วโมง)
น้าหนัก
คะแนน
(๑๐๐)
๑ ความหมายภาษาไทย
เพื่อกิจธุระ
มีความรู้ความเข้าใจ
ความหมายและ
ความสาคัญของการ
ใช้ภาษาไทยเพื่อ
กิจธุระ
การตระหนักถึงความสาคัญของการใช้
ภาษาไทยเป็นสิ่งจาเป็นอย่างยิ่งใน
ชีวิตประจาวันหากใช้ภาษาตามความเคยชิน
อาจทาให้การสื่อสารล้มเหลว และส่งผลต่อ
กิจธุระที่ทานั้นไม่บรรลุวัตถุประสงค์
๒ ๕
๒ การเขียนข้อความเพื่อ
เผยแพร่
มีความรู้ความเข้าใจ
หลักทั่วไปในการ
เขียนข้อความเพื่อ
เผยแพร่เพื่อนาไป
ใช้ในการเขียน
ประกาศ คาแนะนา
และคาชักชวน
การเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่ ผู้เขียนจะต้อง
เข้าใจหลักในการเขียนและปฏิบัติให้ถูกต้อง
เพื่อให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจและปฏิบัติตาม
ได้ถูกต้องกิจธุระที่กระทาในครั้งนั้นจึงจะ
บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
๖ ๕
๓ การอ่านและตีความ มีความสามารถใน
การอ่านและตีความ
ประกาศ เอกสาร
แนะนาและเอกสาร
ชักชวน
การอ่านเอกสารของทางราชการหรือหน่วย
งานต่าง ๆ นับว่ามีความสาคัญและมี
ประโยชน์สาหรับผู้อ่าน ผู้อ่านจะต้อง
พิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ
ว่าจะปฏิบัติตามหรือไม่ เพื่อให้ได้รับ
ประโยชน์จากการอ่านเอกสารต่าง ๆ
เหล่านั้น
๔ ๕

3. หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา
(ชั่วโมง)
น้าหนัก
คะแนน
(๑๐๐)
๔ ความรู้เรื่องเอกสาร
สิทธิต่าง ๆ
มีความรู้ความเข้าใจ
ในเอกสารสิทธิ
ที่ดินต่าง ๆ
เอกสารสิทธิเป็นเอกสารที่เป็นหลักฐาน
สาคัญของการก่อให้เกิดสิทธิ เปลี่ยนแปลง
สิทธิหรือระงับสิทธิ เป็นสิ่งที่บุคคลทั่วไป
ควรรู้และทาความเข้าใจเนื่องจากเป็น
เอกสารสิทธิที่ทุกคนต้องเกี่ยวข้อง
๔ ๕
๕ สัญญาประเภทต่าง ๆ มีความรู้ความเข้าใจ
ในสัญญาและมีและ
มีความมีความ
สามารถในการเขียน
สัญญาประเภท
ต่าง ๆ
ในชีวิตประจาวันเรามักเกี่ยวข้องกับการทา
สัญญาประเภทต่าง ๆ การมีความรู้ ความ
เข้าใจในการเขียนสัญญา จะเป็นประโยชน์
ในการทากิจธุระเกี่ยวกับสัญญานั้น ๆ เพื่อ
ป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบจาก
คู่สัญญา
และใช้ในการฟ้องร้องเมื่อเกิดการละเมิด
สิทธิ
๔ ๕
๖ การติดต่อกับส่วน
ราชการ
มีความรู้ความเข้าใจ
ในการติดต่อราชการ
และมีความสามารถ
ในการเขียนข้อความ
เอกสารราชการประ
เภทต่าง ๆ
บุคคลโดยทั่ว ๆไปย่อมมีกิจธุระในการ
ติดต่อกับส่วนราชการ หน่วยงานหรือ
องค์กรต่าง ๆ ดังนั้นผู้ที่มีกิจธุระที่จะต้อง
กระทา จะต้องมีความรู้ความเข้าใจใน
ระเบียบปฏิบัติและปฏิบัติตามให้ถูกต้อง
กิจธุระที่กระทานั้นจึงจะบรรลุวัตถุ
ประสงค์
๖ ๕
๗ จดหมายราชการ มีความรู้ความเข้าใจ
ในการเขียนจดหมาย
ราชการในการติดต่อ
กับส่วนราชการต่าง ๆ
จดหมายราชการเป็นหนังสือที่ออกจาก
ส่วนราชการหนึ่งถึงอีกส่วนราชการหนึ่ง
หรือจากบุคคลถึงส่วนราชการ หนังสือ
ชนิดนี้มีรูปแบบที่เฉพาะแตกต่างจาก
จดหมายทั่วไป ดังนั้นก่อนการเขียน
ผู้เขียนจะต้องศึกษาวิธีการเขียนให้เข้าใจ
เสียก่อน
๔ ๕

4. หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา
(ชั่วโมง)
น้าหนัก
คะแนน
(๑๐๐)
๘ มารยาทในการ
สนทนา
มีความรู้ความเข้าใจ
และเห็นความสาคัญ
การใช้ภาษาไทยให้
ถูกต้องตามมารยาท
ในสังคม
การสนทนา เป็นสิ่งที่เราจะต้องกระทาอยู่เป็นประจาในชีวิตประจาวัน
การใช้ถ้อยคาที่ถูกต้องเหมาะสมกับบุคคล จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การ
สนทนาในครั้งนั้นเป็นไปด้วยความราบรื่นและยังเป็นมารยาทที่ดีในการ
สนทนาอีกด้วย
๒ ๕
๙ ข้อความพิธีการมีความรู้ความเข้าใจ
ข้อความพิธีการและ
ใช้ภาษาพิธีการเขียน
บัตรเชิญประเภท
ต่าง ๆ
ข้อความพิธีการ เป็นข้อความที่กาหนดขึ้นใช้มาเป็นเวลานานแล้ว เป็น
คาที่หรือข้อความที่ใช้เฉพาะให้เหมาะสมกับพิธีการต่าง ๆไม่สามารถใช้
คาอื่นแทนได้ ดังนั้นผู้เขียนต้องใช้คาหรือข้อความให้ถูกต้องเหมาะสม
กับพิธีการต่าง ๆ เพื่อสื่อความหมายได้ชัดเจนถูกต้อง
๖ ๑๐
รวมเวลาเรียน / คะแนนระหว่างภาคเรียน ๓๘ ๕๐
คะแนนกลางภาค ๑ ๑๐
คะแนนปลายภาค ๑ ๒๐
คะแนนคุณลักษณะฯ - ๒๐
รวมตลอดภาคเรียน ๔๐ ๑๐๐

5. ผลการเรียนรู้และสาระการเรียนรู้
รหัสวิชา ท๒๓๒๐๑ รายวิชาภาษาไทยเพื่อกิจธุระ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๑ เวลาเรียน ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต
ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
๑.มีความรู้ความเข้าใจความหมายและ
ความสาคัญของการใช้ภาษาไทยเพื่อกิจุระ
-ความหมายของการใช้ภาษาไทยเพื่อกิจธุระ
-ความสาคัญของการใช้ภาษาไทยเพื่อกิจธุระ
๒.มีความรู้ความเข้าใจหลักทั่วไปในการเขียน
ข้อความเพื่อเผยแพร่เพื่อนาไปใช้ในการเขียน
ประกาศ คาแนะนาและคาชักชวน
-หลักทั่วไปในการเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่
-การเขียนประกาศ
-การเขียนคาแนะนา
-การเขียนคาชักชวน
๓.มีความสามารถในการอ่านและตีความ
ประกาศ เอกสารแนะนา และเอกสารชักชวน
-การอ่านและตีความประกาศ
-การอ่านและตีความคาแนะนา
-การอ่านและตีความคาชักชวน
๔.มีความรู้ความเข้าใจในเอกสารสิทธิที่ดิน
ต่าง ๆ
-ความหมายของเอกสารสิทธิที่ดิน
-โฉนดที่ดิน (น.ส. ๔)
-หนังสือรับรองการทาประโยชน์ (น.ส. ๓)
-ใบจอง (น.ส. ๒)
-ใบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑)
๕.มีความรู้ความเข้าใจในสัญญาและมี
ความสามารถในการเขียนสัญญาประเภทต่าง ๆ
-ความหมายของสัญญา
-สัญญากู้เงิน
-สัญญาเช่า
-สัญญาจะซื้อจะขาย
๖.มีความรู้ความเข้าใจในการติดต่อราชการและ
มีความสามารถในการเขียนข้อความเอกสาร
ราชการประเภทต่าง ๆ
-การกรอกข้อความ คาร้อง คาขอ
-การขอมีบัตรประจาตัวประชาชน
-การแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกิน

6. ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
๗.มีความรู้ความเข้าใจในการเขียนจดหมาย
ราชการในการติดต่อกับส่วนราชการต่าง ๆ
-การเขียนจดหมายถึงหน่วยงาน ส่วนราชการ
ต่าง ๆ
๘.มีความรู้ความเข้าใจและเห็นความสาคัญใน
การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องตามมารยาทในสังคม
-มารยาทในการใช้ภาษาในการสนทนา
๙.มีความรู้ความเข้าใจข้อความพิธีการและใช้
ภาษาพิธีการเขียนบัตรเชิญประเภทต่าง ๆ
-ความหมายของข้อความพิธีการ
-การเขียนบัตรเชิญงานมงคลสมรส
-การเขียนบัตรเชิญงานอุปสมบท
-การเขียนบัตรเชิญงานฌาปนกิจศพ

7. หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑
เรื่อง ความสาคัญของภาษาไทยเพื่อกิจธุระ
รหัสวิชา ท๒๓๒๐๑ รายวิชา ภาษาไทยเพื่อกิจธุระ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เวลาเรียน ๒ ชั่วโมง
ผู้สอน นายมาโนช ชินบุตร กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
โรงเรียนหนองม่วงวิทยา จังหวัดลพบุรี สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๕
.................................................................
๑. ผลการเรียนรู้
มีความรู้ความเข้าใจความหมาย และความสาคัญของการใช้ภาษาไทยเพื่อกิจธุระ
๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การตระหนักถึงความสาคัญของการใช้ภาษาไทยเป็นสิ่งจาเป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจาวันหากใช้
ภาษาตามความเคยชินอาจทาให้การสื่อสารล้มเหลว และส่งผลต่อกิจธุระที่ทานั้นไม่สามารถบรรลุ
วัตถุประสงค์ได้
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ ความหมายของการใช้ภาษาไทยเพื่อกิจธุระ
๓.๒ ความสาคัญของการใช้ภาษาไทยเพื่อกิจธุระ
๔. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
-มุ่งมั่นในการทางาน : มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติกิจกรรมที่กาหนดให้
-มีวินัย : สามารถทากิจกรรมที่กาหนดให้ได้ครบถ้วนตรงตามเวลาที่กาหนด
-รักความเป็นไทย : บอกความสาคัญของการใช้ภาษาไทยเพื่อกิจธุระได้
-ใฝ่เรียนรู้ : สามารถค้นคว้าเพิ่มเติมจากหนังสือในห้องสมุด หรือสืบค้นทาง
อินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับความสาคัญของการใช้ภาษาไทยเพื่อกิจธุระ
คุณลักษณะของผู้เรียนตามหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล
-เป็นเลิศวิชาการ : มีความรู้ความเข้าใจความหมายและความสาคัญของการใช้ภาษาไทย
เพื่อกิจธุระ
-ล้าหน้าทางความคิด : สามารถนาความรู้จากบทเรียนไปใช้ในกิจธุระที่กระทาได้อย่างถูกต้อง
อัตลักษณ์โรงเรียน : ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารเพื่อกิจธุระได้ถูกต้องและมีมารยาท
บูรณาการกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
-หลักความพอประมาณ : สามารถบอกความหมายและความสาคัญของการใช้ภาษาไทยเพื่อกิจธุระ
ได้ตามอัตภาพ
-หลักมีเหตุผล : มีความรอบคอบ มีเหตุผลในการตัดสินใจในกิจธุระที่กระทา

8. -หลักการมีภูมิคุ้มกัน : สามารถนาความรู้ที่ได้จากบทเรียนไปใช้ในชีวิตจริงได้
-เงื่อนไขความรู้ : - มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาบทเรียนและนาความรู้ที่ได้ไปใช้ใน
ชีวิตประจาวัน
- มีความรู้หลักความพอเพียงในการดาเนินชีวิต
-เงื่อนไขคุณธรรม : - มีความรับผิดชอบต่อกิจกรรมที่กาหนดให้ทันตามเวลาที่กาหนด
- มีเหตุผลรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
บูรณาการกับประชาคมอาเซียน
: สามารถนาความรู้ที่ได้จากบทเรียนถ่ายทอดให้กับสมาชิกประชาคม
อาเซียนผู้สนใจได้
๕. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (ทักษะการคิด)
-ความสามารถในการสื่อสาร : สามารถใช้ภาษาไทยในการสื่อสารเพื่อกิจธุระได้ถูกต้องชัดเจน
-ความสามารถในการคิด : สามารถเลือกใช้ภาษาในการสื่อสารเพื่อกิจธุระได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
-ความสามารถในการแก้ปัญหา : สามารถใช้ภาษาไทยในการสื่อสารเพื่อแก้ปัญหาในกิจธุระที่กระทาได้
-ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : สามารถใช้ภาษาไทยในการติดต่อกิจธุระต่าง ๆ ที่ต้องกระทาใน
ชีวิตประจาวันได้ถูกต้อง
-ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : สามารถสืบค้นความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาบทเรียนทาง
อินเตอร์เน็ตได้
๖. ชิ้นงาน/ภาระงาน
ผู้เรียนสามารถทากิจกรรมใบงานที่กาหนดให้ได้ครบถ้วนตามเวลาที่กาหนด
๗. การวัดผลและประเมินผล
๗.๑ การประเมินผลก่อนเรียน
ผู้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน ความหมายและความสาคัญของภาษาไทยเพื่อกิจธุระ
๗.๒ การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
-ประเมินจากการตอบคาถามจากเนื้อหาบทเรียนขณะเรียน
-ประเมินจากการทากิจกรรมที่กาหนดให้
-ประเมินจากการใช้ภาษาไทยตามอัตลักษณ์ของโรงเรียน
๗.๓ การประเมินผลหลังเรียน
-ประเมินจากแบบทดสอบหลังเรียน ความหมายและความสาคัญของภาษาไทยเพื่อกิจธุระ
-ประเมินจากการทากิจกรรมที่กาหนดให้ได้ถูกต้องครบถ้วน
-ประเมินจากการใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

9. ๗.๔ การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน
-ประเมินจากการทากิจกรรมใบงานได้ถูกต้องครบถ้วน ตามเวลาที่กาหนด
การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน
รายการประเมิน คาอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน
ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรุง (๑)
๑.ความสนใจและ
ถูกต้องในการทา
กิจกรรม
มีความสนใจใน
การทากิจกรรมที่
กาหนดได้ถูกต้อง
และครบถ้วน
มีความสนใจใน
การทากิจกรรมได้
ครบถ้วน
มีความสนใจในการ
ทากิจกรรมยังไม่
ครบถ้วน
ไม่สนใจทากิจกรรม
ทากิจกรรมไม่ครบ
ถ้วนตามที่กาหนด
๒.ทากิจกรรมตรง
ตามเวลาที่กาหนด
ทากิจกรรมที่กาหนด
ได้ครบถ้วนและตรง
ตามเวลา
ทากิจกรรมที่กาหนด
ได้ครบถ้วนเกินเวลา
ทากิจกรรมที่กาหนด
ได้ไม่ครบถ้วนตาม
เวลาที่กาหนด
ไม่สนตั้งใจทา
กิจกรรมและทา
กิจกรรมไม่ทันตาม
กาหนดเวลา
๓.ทากิจกรรมโดยใช้
ความคิดสร้างสรรค์
ทากิจกรรมได้ถูก
ต้องโดยใช้ความคิด
สร้างสรรค์ทุก
กิจกรรม
ทากิจกรรมได้ถูก
ต้องโดยใช้ความคิด
สร้างสรรค์บาง
กิจกรรม
ทากิจกรรมได้ครบ
โดยไม่ใช้ความคิด
สร้างสรรค์
ทากิจกรรมถูกต้อง
บางกิจกรรมโดยไม่
ใช้ความคิด
สร้างสรรค์
๔.ความร่วมมือใน
การทากิจกรรม
ให้ความร่วมมือใน
การทากิจกรรมและ
ทาด้วยความกระตือ
รือร้น
ให้ความร่วมมือใน
ทากิจกรรมตามที่
กาหนด
ให้ความร่วมมือใน
การทากิจกรรมเป็น
บางครั้ง
ไม่ให้ความร่วมมือ
ในการทากิจกรรม
และสร้างปัญหาใน
การทากิจกรรม

10. เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
๑๓-๑๖ ดีมาก (๔)
๙-๑๒ ดี (๓)
๕-๘ พอใช้ (๒)
๑-๔ ปรับปรุง (๑)
๘. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
แผนที่/เรื่อง ผลการเรียนรู้/จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ วิธีการสอน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑
เรื่อง ความหมายภาษา
ไทยเพื่อกิจธุระ
เวลา ๑ ชั่วโมง
ผลการเรียนรู้
อธิบายความหมายของ
การใช้ภาษาไทยเพื่อ
กิจธุระได้ถูกต้อง
จุดประสงค์
๑.บอกความแตกต่าง
ระหว่างคาว่า “ธุรกิจ”
กับ “กิจธุระ” ได้
๒.บอกความหมายของ
การใช้ภาษาไทยเพื่อ
กิจธุระได้
ความหมายภาษา
ไทยเพื่อกิจธุระ
๑.สนทนากับนักเรียนถึง “กิจธุระ”
และ “ธุรกิจ”
๒.แจ้งผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและ
จุดประสงค์การเรียนรู้ของบทเรียน
๓.นักเรียนทาแบบทดสอบก่อน
เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑
๔.นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยว
กับความหมายภาษาไทยเพื่อกิจธุระ
๕.นักเรียนศึกษาใบความรู้ความ
หมายของ “กิจธุระ” และ “ธุรกิจ”
๖.นักเรียนสรุปความหมายของ
“กิจธุระ” และ “ธุรกิจ”
๗.นักเรียนทาใบงานที่กาหนดให้
๘. นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อหาบท
เรียน
๙.นักเรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
ทางอินเทอร์เน็ต

11. แผนที่/เรื่อง ผลการเรียนรู้/จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ วิธีการสอน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒
เรื่อง ความสาคัญของ
ภาษาไทยเพื่อกิจธุระ
เวลา ๑ ชั่วโมง
ผลการเรียนรู้
อธิบายความสาคัญของ
การใช้ภาษาไทยเพื่อ
กิจธุระได้ถูกต้อง
จุดประสงค์
๑.บอกความหมายของ
การใช้ภาษาไทยเพื่อ
กิจธุระได้
๒.บอกความสาคัญของ
การใช้ภาษาไทยเพื่อ
กิจธุระได้
ความสาคัญของ
ภาษาไทยเพื่อ
กิจธุระ
๑.นักเรียนทบทวนความรู้เดิมจาก
ชั่วโมงที่แล้ว ความหมายของ
กิจธุระ กับธุรกิจ
๒.แจ้งผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง จุด
ประสงค์การเรียนรู้ของบทเรียน
๓.นักเรียนอธิบายขอบเขตของ
กิจธุระจากการศึกษาค้นคว้า
เพิ่มเติม
๔.นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง
ความสาคัญของภาษาไทยเพื่อ
กิจธุระ
๕.นักเรียนแบ่งกลุ่มทากิจกรรมที่
กาหนดให้
๖.นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อหาบท
เรียน
๗.นักเรียนทาแบบทดสอบหลัง
เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑
๙.สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
๙.๑ สื่อการเรียนรู้
-ใบความรู้ เรื่อง ความหมายภาษาไทยเพื่อกิจธุระ
-ใบงาน เรื่อง ความสาคัญของภาษาไทยเพื่อกิจธุระ
-แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑
๙.๒ แหล่งเรียนรู้
-ค้นคว้าจากหนังสือในห้องสมุดโรงเรียน
-ค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ตห้องสมุดโรงเรียน ศูนย์การเรียนรู้

12. หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒
เรื่อง การเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่
รหัสวิชา ท๒๓๒๐๑ รายวิชา ภาษาไทยเพื่อกิจธุระ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เวลาเรียน ๖ ชั่วโมง
ผู้สอน นายมาโนช ชินบุตร กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
โรงเรียนหนองม่วงวิทยา จังหวัดลพบุรี สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๕
.................................................................
๑. ผลการเรียนรู้
มีความรู้ความเข้าใจหลักทั่วไปในการเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่เพื่อนาไปใช้ในการเขียน
ประกาศ คาแนะนา และคาชักชวน
๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่ ผู้เขียนจะต้องเข้าใจหลักในการเขียนและปฏิบัติให้ถูกต้อง
เพื่อให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจและปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องข้อความที่นาออกเผยแพร่นั้นจึงจะบรรลุ
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ หลักทั่วไปในการเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่
๓.๒ หลักในการเขียนประกาศทั่วไป
๓.๓ หลักในการเขียนคาแนะนา
๔.๔ หลักในการเขียนคาชักชวน
๔. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
-มุ่งมั่นในการทางาน : มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติกิจกรรมที่กาหนดให้
-มีวินัย : สามารถทากิจกรรมที่กาหนดให้ได้ครบถ้วนตรงตามเวลาที่กาหนด
-รักความเป็นไทย : สามารถเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่ให้ความรู้แก่ผู้อื่นได้
-ใฝ่เรียนรู้ : สามารถค้นคว้าเพิ่มเติมจากหนังสือในห้องสมุด หรือสืบค้นทาง
อินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับการเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่ได้
คุณลักษณะของผู้เรียนตามหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล
-เป็นเลิศวิชาการ : มีความรู้ความเข้าใจวิธีการเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่
-ล้าหน้าทางความคิด : สามารถเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่ลักษณะต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง
อัตลักษณ์โรงเรียน : ใช้ภาษาในการเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่ได้ถูกต้องและมีมารยาท
บูรณาการกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
-หลักความพอประมาณ : สามารถเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่ในลักษณะต่าง ๆได้ตามอัตภาพ

13. -หลักมีเหตุผล : มีความรอบคอบ มีเหตุผลในการเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่
-หลักการมีภูมิคุ้มกัน : สามารถนาความรู้ที่ได้จากบทเรียนไปใช้ในชีวิตจริงได้
-เงื่อนไขความรู้ : - มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาบทเรียนและนาความรู้ที่ได้ไปใช้
เขียนข้อความเพื่อเผยแพร่ในชีวิตประจาวัน
- มีความรู้หลักความพอเพียงในการดาเนินชีวิต
-เงื่อนไขคุณธรรม : - มีความรับผิดชอบต่อกิจกรรมที่กาหนดให้ทันตามเวลาที่กาหนด
- มีเหตุผลรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
บูรณาการกับประชาคมอาเซียน
: สามารถนาความรู้ที่ได้จากบทเรียนถ่ายทอดให้กับสมาชิกประชาคม
อาเซียนผู้สนใจได้
๕. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (ทักษะการคิด)
-ความสามารถในการสื่อสาร : สามารถใช้ภาษาไทยในการเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่ได้ถูกต้องชัดเจน
-ความสามารถในการคิด : สามารถเลือกใช้วิธีเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
-ความสามารถในการแก้ปัญหา : สามารถเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่เพื่อแก้ปัญหาในกิจธุระที่กระทาได้
-ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : สามารถใช้ภาษาไทยในการเขียนข้อความติดต่อกิจธุระต่าง ๆ ที่ต้อง
กระทาในชีวิตประจาวันได้ถูกต้อง
-ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : สามารถสืบค้นความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาบทเรียนทาง
อินเตอร์เน็ตได้
๖. ชิ้นงาน/ภาระงาน
๖.๑ อธิบายหลักทั่วไปในการเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่เพื่อนาไปใช้ในการเขียนประเภท
ต่าง ๆ เช่น เขียนประกาศทั่วไป เขียนคาแนะนา เขียนคาชักชวน
๖.๒ เขียนประกาศทั่วไปเพื่อเผยแพร่
๖.๓ เขียนคาแนะนาเพื่อเผยแพร่
๖.๔ เขียนคาชักชวนเพื่อเผยแพร่
๗. การวัดผลและประเมินผล
๗.๑ การประเมินผลก่อนเรียน
ผู้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒
๗.๒ การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
-ประเมินจากการตอบคาถามจากเนื้อหาบทเรียนขณะเรียน
-ประเมินจากการทากิจกรรมที่กาหนดให้
-ประเมินจากการใช้ภาษาไทยตามอัตลักษณ์ของโรงเรียน

14. ๗.๓ การประเมินผลหลังเรียน
-ประเมินจากแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒
-ประเมินจากการทากิจกรรมที่กาหนดให้ได้ถูกต้องครบถ้วน
-ประเมินจากการใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
๗.๔ การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน
-ประเมินจากการทากิจกรรมใบงานได้ถูกต้องครบถ้วน ตามเวลาที่กาหนด
การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน
รายการประเมิน คาอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน
ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรุง (๑)
๑.ความสนใจและ
ถูกต้องในการทา
กิจกรรม
มีความสนใจใน
การทากิจกรรมที่
กาหนดได้ถูกต้อง
และครบถ้วน
มีความสนใจใน
การทากิจกรรมได้
ครบถ้วน
มีความสนใจในการ
ทากิจกรรมยังไม่
ครบถ้วน
ไม่สนใจทากิจกรรม
ทากิจกรรมไม่ครบ
ถ้วนตามที่กาหนด
๒.ทากิจกรรมตรง
ตามเวลาที่กาหนด
ทากิจกรรมที่กาหนด
ได้ครบถ้วนและตรง
ตามเวลา
ทากิจกรรมที่กาหนด
ได้ครบถ้วนเกินเวลา
ทากิจกรรมที่กาหนด
ได้ไม่ครบถ้วนตาม
เวลาที่กาหนด
ไม่สนตั้งใจทา
กิจกรรมและทา
กิจกรรมไม่ทันตาม
กาหนดเวลา
๓.ทากิจกรรมโดยใช้
ความคิดสร้างสรรค์
ทากิจกรรมได้ถูก
ต้องโดยใช้ความคิด
สร้างสรรค์ทุก
กิจกรรม
ทากิจกรรมได้ถูก
ต้องโดยใช้ความคิด
สร้างสรรค์บาง
กิจกรรม
ทากิจกรรมได้ครบ
โดยไม่ใช้ความคิด
สร้างสรรค์
ทากิจกรรมถูกต้อง
บางกิจกรรมโดยไม่
ใช้ความคิด
สร้างสรรค์
๔.ความร่วมมือใน
การทากิจกรรม
ให้ความร่วมมือใน
การทากิจกรรมและ
ทาด้วยความกระตือ
รือร้น
ให้ความร่วมมือใน
ทากิจกรรมตามที่
กาหนด
ให้ความร่วมมือใน
การทากิจกรรมเป็น
บางครั้ง
ไม่ให้ความร่วมมือ
ในการทากิจกรรม
และสร้างปัญหาใน
การทากิจกรรม

15. เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
๑๓-๑๖ ดีมาก (๔)
๙-๑๒ ดี (๓)
๕-๘ พอใช้ (๒)
๑-๔ ปรับปรุง (๑)
๘. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
แผนที่/เรื่อง ผลการเรียนรู้/จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ วิธีการสอน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓
เรื่อง หลักทั่วไปในการ
เขียนข้อความเพื่อเผยแพร่
เวลา ๑ ชั่วโมง
ผลการเรียนรู้
มีความรู้ความเข้าใจหลัก
ทั่วไปในการเขียน
ข้อความเพื่อเผยแพร่
เพื่อนาไปใช้ในการเขียน
ประกาศ คาแนะนา และ
คาชักชวน
จุดประสงค์
บอกหลักทั่วไปในการ
เขียนข้อความเพื่อ
เผยแพร่ได้
บอกหลักทั่วไป
ในการเขียนข้อ
ความเพื่อเผยแพร่ได้
๑.ซักถามนักเรียนเกี่ยวกับการเคย
เขียนข้อความเพื่อเผยแพร่
๒.แจ้งผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและ
จุดประสงค์การเรียนรู้ของบทเรียน
๓.นักเรียนทาแบบทดสอบก่อน
เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒
๔.นักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง
หลักทั่วไปในการเขียนข้อความ
เพื่อเผยแพร่
๕.นักเรียนทากิจกรรมใบงานที่
กาหนดให้
๖.นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อหา
บทเรียน
๗.นักเรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
ทางอินเทอร์เน็ต

16. แผนที่/เรื่อง ผลการเรียนรู้/จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ วิธีการสอน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔
เรื่อง การเขียนประกาศทั่ว
ไป (ประกาศของหาย )
เวลา ๑ ชั่วโมง
ผลการเรียนรู้
มีความรู้ความเข้าใจหลัก
ทั่วไปในการเขียน
ข้อความเพื่อเผยแพร่
เพื่อนาไปใช้ในการเขียน
ประกาศ คาแนะนา และ
คาชักชวน
จุดประสงค์
๑.บอกหลักทั่วไปในการ
เขียนข้อความเพื่อเผยแพร่
ได้
๒.เขียนประกาศของหาย
ได้ถูกต้อง
การเขียนประกาศ
ทั่วไป (ประกาศ
ของหาย )
๑.ทบทวนความรู้เดิมจากชั่วโมง
ที่แล้ว เกี่ยวกับหลักทั่วไปในการ
เขียนข้อความเพื่อเผยแพร่
๒.แจ้งผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและ
จุดประสงค์การเรียนรู้ของบทเรียน
๓.นักเรียนเล่าประสบการณ์เกี่ยว
กับการเคยลืมสิ่งของ
๔.นักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง
หลักทั่วไปในการเขียนข้อความ
เพื่อเผยแพร่
๕.นักเรียนทากิจกรรมใบงานที่
กาหนดให้
๖.นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อหา
บทเรียน
๗.นักเรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
ทางอินเทอร์เน็ต
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕
เรื่อง การเขียนประกาศทั่ว
ไป (ประกาศพบของหาย )
เวลา ๑ ชั่วโมง
ผลการเรียนรู้
มีความรู้ความเข้าใจหลัก
ทั่วไปในการเขียน
ข้อความเพื่อเผยแพร่
เพื่อนาไปใช้ในการเขียน
ประกาศ คาแนะนา และ
คาชักชวน
การเขียนประกาศ
ทั่วไป (ประกาศ
พบของหาย )
๑.ทบทวนความรู้เดิมจากชั่วโมง
ที่แล้ว เกี่ยวกับหลักทั่วไปในการ
เขียนข้อความเพื่อเผยแพร่
๒.แจ้งผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและ
จุดประสงค์การเรียนรู้ของบทเรียน
๓.ซักถามนักเรียนเกี่ยวกับการพบ
สิ่งของหรือเก็บสิ่งของต่าง ๆ ได้
๔.นักเรียนตอบคาถาม ถ้าต้องการ
คืนสิ่งของที่เก็บได้ต้องทาอย่างไร
๕.นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง
ประกาศพบของหาย
๖.นักเรียนทากิจกรรมใบงานที่
กาหนดให้

17. แผนที่/เรื่อง ผลการเรียนรู้/จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ วิธีการสอน
๗.นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อหาบท
เรียน
๘.นักเรียนค้นคว้าเพิ่มเติมเนื้อหา
บทเรียนทางอินเทอร์เน็ต
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖
เรื่อง การเขียนประกาศทั่ว
ไป (ประกาศรับสมัคร )
เวลา ๑ ชั่วโมง
ผลการเรียนรู้
มีความรู้ความเข้าใจหลัก
ทั่วไปในการเขียน
ข้อความเพื่อเผยแพร่
เพื่อนาไปใช้ในการเขียน
ประกาศ คาแนะนา และ
คาชักชวน
จุดประสงค์
๑.บอกหลักทั่วไปในการ
เขียนข้อความเพื่อเผยแพร่
ได้
๒.เขียนประกาศรับสมัคร
ได้ถูกต้อง
การเขียนประกาศ
ทั่วไป (ประกาศ
รับสมัคร )
๑.สนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับการ
ไปศึกษานอกสถานที่
๒.แจ้งผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและ
จุดประสงค์การเรียนรู้ของบทเรียน
๓.ซักถามนักเรียนถึงจุดประสงค์
ในการไปศึกษานอกสถานที่
๔.ซักถามนักเรียนเกี่ยวกับการเคย
ไปศึกษานอกสถานที่ ทราบได้
อย่างไร
๕.นักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง
ประกาศรับสมัคร
๖.นักเรียนทากิจกรรมใบงานที่
กาหนดให้
๗.นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อหาบท
เรียน
๘.นักเรียนค้นคว้าเพิ่มเติมเนื้อหา
บทเรียนทางอินเทอร์เน็ต
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗
เรื่อง การเขียนคาแนะนา
เวลา ๑ ชั่วโมง
ผลการเรียนรู้
มีความรู้ความเข้าใจหลัก
ทั่วไปในการเขียน
ข้อความเพื่อเผยแพร่
เพื่อนาไปใช้ในการเขียน
ประกาศ คาแนะนา และ
คาชักชวน
การเขียนคา
แนะนา
๑.สนทนากับนักเรียนถึงสถาน
การณ์โรคระบาด
๒.แจ้งผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและ
จุดประสงค์การเรียนรู้ของบทเรียน
๓.ทบทวนความรู้เดิมเรื่องหลักทั่ว
ไปในการเขียนข้อความเพื่อเผย
แพร่

18. แผนที่/เรื่อง ผลการเรียนรู้/จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ วิธีการสอน
จุดประสงค์
๑.บอกหลักในการเขียน
คาแนะนาได้
๒.เขียนคาแนะนาได้ถูก
ต้อง
๔.นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง
หลักในการเขียนคาแนะนา
๕.นักเรียนทากิจกรรมใบงานที่
กาหนดให้
๖.นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อหา
บทเรียน
๗.นักเรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
ทางอินเทอร์เน็ต
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘
เรื่อง การเขียนคาชักชวน
เวลา ๑ ชั่วโมง
ผลการเรียนรู้
มีความรู้ความเข้าใจหลัก
ทั่วไปในการเขียน
ข้อความเพื่อเผยแพร่
เพื่อนาไปใช้ในการเขียน
ประกาศ คาแนะนา และ
คาชักชวน
จุดประสงค์
๑.บอกหลักในการเขียน
คาชักชวนได้
๒.เขียนคาชักชวนได้ถูก
ต้อง
การเขียนคา
ชักชวน
๑.สนทนากับนักเรียนถึงการเคยได้
รับจดหมายลูกโซ่
๒.แจ้งผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและ
จุดประสงค์การเรียนรู้ของบทเรียน
๓.ทบทวนความรู้เดิมเรื่องหลักทั่ว
ไปในการเขียนข้อความเพื่อเผย
แพร่
๔.นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง
หลักในการเขียนคาชักชวน
๕.นักเรียนทากิจกรรมใบงานที่
กาหนดให้
๖.นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อหา
บทเรียน
๗.นักเรียนทาแบบทดสอบหลัง
เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒
๘.นักเรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
ทางอินเทอร์เน็ต

19. ๙.สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
๙.๑ สื่อการเรียนรู้
-ใบความรู้
-ใบงาน
-แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒
๙.๒ แหล่งเรียนรู้
-ค้นคว้าจากหนังสือในห้องสมุดโรงเรียน
-ค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ตห้องสมุดโรงเรียน ศูนย์การเรียนรู้
.........................................

20. หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓
เรื่อง การอ่านและตีความเอกสารต่าง ๆ
รหัสวิชา ท๒๓๒๐๑ รายวิชา ภาษาไทยเพื่อกิจธุระ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เวลาเรียน ๔ ชั่วโมง
ผู้สอน นายมาโนช ชินบุตร กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
โรงเรียนหนองม่วงวิทยา จังหวัดลพบุรี สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๕
.................................................................
๑. ผลการเรียนรู้
มีความสามารถในการอ่านและตีความประกาศ เอกสารแนะนา เอกสารชักชวน
๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การเอกสารของทางราชการหรือหน่วยงานต่าง ๆ มีความสาคัญเพราะได้รับประโยชน์จากเอกสาร
เหล่านั้น แต่สิ่งสาคัญเมื่ออ่านแล้วจะต้องรู้จักพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อนว่าเอกสารนั้นปฏิบัติ
ตามหรือเชื่อได้หรือไม่จึงจะได้ประโยชน์จากการอ่าเอกสารเหล่านั้น
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ การอ่านและตีความประกาศของทางราชการ
๓.๒ การอ่านและตีความเอกสารแนะนา
๓.๓ การอ่านและตีความเอกสารชักชวน
๔. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
-มุ่งมั่นในการทางาน : มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติกิจกรรมที่กาหนดให้
-มีวินัย : สามารถทากิจกรรมที่กาหนดให้ได้ครบถ้วนตรงตามเวลาที่กาหนด
-รักความเป็นไทย : สามารถอ่านและตีความประกาศและเอกสารต่าง ๆ ได้
-ใฝ่เรียนรู้ : สามารถค้นคว้าเพิ่มเติมจากหนังสือในห้องสมุด หรือสืบค้นทาง
อินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับประกาศของทางราชการและเอกสารต่าง ๆ
คุณลักษณะของผู้เรียนตามหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล
-เป็นเลิศวิชาการ : มีความรู้ความเข้าใจวิธีการอ่านและตีความประกาศของทางราชการ
และเอกสารต่าง ๆ
-ล้าหน้าทางความคิด : อ่านตีความประกาศของทางราชการ เอกสารต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง
อัตลักษณ์โรงเรียน : อ่านและตีความประกาศของทางราชการและเอกสารต่าง ๆ ได้ถูกต้อง
และมีมารยาท
บูรณาการกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
-หลักความพอประมาณ : อ่านและตีความประกาศของทางราชการและเอกสารต่าง ๆได้ตามอัตภาพ

21. -หลักมีเหตุผล : มีความรอบคอบ มีเหตุผลในการตีความประกาศของทางราชการ
และเอกสารต่าง ๆ
-หลักการมีภูมิคุ้มกัน : สามารถนาความรู้ที่ได้จากบทเรียนไปใช้ในอ่านและตีความได้
-เงื่อนไขความรู้ : - มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาบทเรียนและนาความรู้ที่ได้ไปใช้
อ่านและตีความในชีวิตประจาวัน
- มีความรู้หลักความพอเพียงในการดาเนินชีวิต
-เงื่อนไขคุณธรรม : - มีความรับผิดชอบต่อกิจกรรมที่กาหนดให้ทันตามเวลาที่กาหนด
- มีเหตุผลรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
บูรณาการกับประชาคมอาเซียน
: สามารถนาความรู้ที่ได้จากบทเรียนถ่ายทอดให้กับสมาชิกประชาคม
อาเซียนผู้สนใจได้
๕. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (ทักษะการคิด)
-ความสามารถในการสื่อสาร : อ่านและตีความประกาศของทางราชการและเอกสารต่าง ๆได้ถูกต้อง
-ความสามารถในการคิด : ตีความประกาศของทางราชการและเอกสารต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง
-ความสามารถในการแก้ปัญหา : นาความรู้ที่ได้จากการอ่านและตีความไปใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้
-ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : ใช้การอ่านและตีความไปใช้ในการทากิจธุระในชีวิตประจาวันได้
-ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : สามารถสืบค้นความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาบทเรียนทาง
อินเตอร์เน็ตได้
๖. ชิ้นงาน/ภาระงาน
๖.๑ เมื่ออ่านประกาศของทางราชการแล้วสามารถบอกส่วนสาคัญ ๕ ส่วนของประกาศได้
๖.๒ สรุปสาระสาคัญและตีความจากประกาศของทางราชการได้
๖.๓ สรุปสาระสาคัญและตีความจากเอกสารแนะนาได้
๖.๔ สรุปสาระสาคัญและตีความจากเอกสารชักชวนได้
๗. การวัดผลและประเมินผล
๗.๑ การประเมินผลก่อนเรียน
ผู้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓
๗.๒ การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
-ประเมินจากการตอบคาถามจากเนื้อหาบทเรียนขณะเรียน
-ประเมินจากการทากิจกรรมที่กาหนดให้
-ประเมินจากการใช้ภาษาไทยตามอัตลักษณ์ของโรงเรียน

22. ๗.๓ การประเมินผลหลังเรียน
-ประเมินจากแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓
-ประเมินจากการทากิจกรรมที่กาหนดให้ได้ถูกต้องครบถ้วน
-ประเมินจากการใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
๗.๔ การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน
-ประเมินจากการทากิจกรรมใบงานได้ถูกต้องครบถ้วน ตามเวลาที่กาหนด
การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน
รายการประเมิน คาอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน
ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรุง (๑)
๑.ความสนใจและ
ถูกต้องในการทา
กิจกรรม
มีความสนใจใน
การทากิจกรรมที่
กาหนดได้ถูกต้อง
และครบถ้วน
มีความสนใจใน
การทากิจกรรมได้
ครบถ้วน
มีความสนใจในการ
ทากิจกรรมยังไม่
ครบถ้วน
ไม่สนใจทากิจกรรม
ทากิจกรรมไม่ครบ
ถ้วนตามที่กาหนด
๒.ทากิจกรรมตรง
ตามเวลาที่กาหนด
ทากิจกรรมที่กาหนด
ได้ครบถ้วนและตรง
ตามเวลา
ทากิจกรรมที่กาหนด
ได้ครบถ้วนเกินเวลา
ทากิจกรรมที่กาหนด
ได้ไม่ครบถ้วนตาม
เวลาที่กาหนด
ไม่สนตั้งใจทา
กิจกรรมและทา
กิจกรรมไม่ทันตาม
กาหนดเวลา
๓.ทากิจกรรมโดยใช้
ความคิดสร้างสรรค์
ทากิจกรรมได้ถูก
ต้องโดยใช้ความคิด
สร้างสรรค์ทุก
กิจกรรม
ทากิจกรรมได้ถูก
ต้องโดยใช้ความคิด
สร้างสรรค์บาง
กิจกรรม
ทากิจกรรมได้ครบ
โดยไม่ใช้ความคิด
สร้างสรรค์
ทากิจกรรมถูกต้อง
บางกิจกรรมโดยไม่
ใช้ความคิด
สร้างสรรค์
๔.ความร่วมมือใน
การทากิจกรรม
ให้ความร่วมมือใน
การทากิจกรรมและ
ทาด้วยความกระตือ
รือร้น
ให้ความร่วมมือใน
ทากิจกรรมตามที่
กาหนด
ให้ความร่วมมือใน
การทากิจกรรมเป็น
บางครั้ง
ไม่ให้ความร่วมมือ
ในการทากิจกรรม
และสร้างปัญหาใน
การทากิจกรรม

23. เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
๑๓-๑๖ ดีมาก (๔)
๙-๑๒ ดี (๓)
๕-๘ พอใช้ (๒)
๑-๔ ปรับปรุง (๑)
๘. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
แผนที่/เรื่อง ผลการเรียนรู้/จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ วิธีการสอน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๙
เรื่อง เอกสารเผยแพร่
ต่าง ๆ
เวลา ๑ ชั่วโมง
ผลการเรียนรู้
มีความสามารถในการ
อ่านและตีความประกาศ
เอกสารแนะนาและเอก
สารชักชวน
จุดประสงค์
๑.จับใจความเอกสาร
เผยแพร่ที่อ่านได้
๒.แสดงความคิดเห็น
เอกสารเผยแพร่ที่อ่านได้
เอกสารเผยแพร่
ต่าง ๆ
๑.สนทนากับนักเรียนที่เคยได้รับ
เอกสารชักชวนต่าง ๆ
๒.แจ้งผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและ
จุดประสงค์การเรียนรู้ของบทเรียน
๓.นักเรียนทาแบบทดสอบก่อน
เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓
๔.นักเรียนศึกษาทาความเข้าใจเอก
สารเผยแพร่รูปแบบต่าง ๆ
๕.นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยว
กับที่มาของเอกสารเผยแพร่ที่ได้รับ
๖.นักเรียนทากิจกรรมใบงานที่กา
หนดให้
๗.นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อหา
บทเรียน
๘.นักเรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
ทางอินเทอร์เน็ต

24. แผนที่/เรื่อง ผลการเรียนรู้/จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ วิธีการสอน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๑๐
เรื่อง การอ่านและตีความ
ประกาศของทางราชการ
เวลา ๑ ชั่วโมง
ผลการเรียนรู้
มีความสามารถในการ
อ่านและตีความประกาศ
เอกสารแนะนาและเอก
สารชักชวน
จุดประสงค์
๑.จับใจความประกาศของ
ทางราชการได้
๒.ตีความประกาศของทาง
ราชการได้
ประกาศของทาง
ราชการ
๑.สนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับประ
กาศของทางราชการมักพบเห็นที่ใด
๒.แจ้งผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและ
จุดประสงค์การเรียนรู้ของบทเรียน
๓.นักเรียนแสดงความคิดเห็นประ
กาศของทางราชการมีความสาคัญ
อย่างไร
๔.นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง
ประกาศของทางราชการ
๕.นักเรียนทากิจกรรมใบงานที่
กาหนดให้
๖.นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อหา
บทเรียน
๗.นักเรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
ทางอินเทอร์เน็ต
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๑๑
เรื่อง การอ่านและตีความ
เอกสารแนะนา
เวลา ๑ ชั่วโมง
ผลการเรียนรู้
มีความสามารถในการ
อ่านและตีความประกาศ
เอกสารแนะนาและเอก
สารชักชวน
จุดประสงค์
๑.จับใจความเอกสาร
แนะนาได้
๒.ตีความเอกสารแนะนา
ได้
เอกสารแนะนา ๑.สนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับเอก
สารแนะนาที่เคยได้รับ
๒.แจ้งผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและ
จุดประสงค์การเรียนรู้ของบทเรียน
๓.นักเรียนแลกเปลี่ยนความรู้
ระหว่างกัน เอกสารแนะนาที่ได้รับ
น่าเชื่อถือเพียงใด
๔.นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง
เอกสารแนะนา
๕.นักเรียนทากิจกรรมใบงานที่
กาหนดให้
๖.นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อหา
บทเรียน
๗.นักเรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
ทางอินเทอร์เน็ต

25. แผนที่/เรื่อง ผลการเรียนรู้/จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ วิธีการสอน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๑๒
เรื่อง การอ่านและตีความ
เอกสารชักชวน
เวลา ๑ ชั่วโมง
ผลการเรียนรู้
มีความสามารถในการ
อ่านและตีความประกาศ
เอกสารแนะนาและเอก
สารชักชวน
จุดประสงค์
๑.จับใจความเอกสาร
ชักชวนได้
๒.ตีความเอกสารชักชวน
ได้
เอกสารชักชวน ๑.สนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับเอก
สารชักชวนที่ได้รับ
๒.แจ้งผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและ
จุดประสงค์การเรียนรู้ของบทเรียน
๓.นักเรียนแลกเปลี่ยนความรู้
ระหว่างกัน เอกสารชักชวนที่ได้รับ
มีความน่าเชื่อถือเพียงใด
๔.นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง
เอกสารชักชวน
๕.นักเรียนทากิจกรรมใบงานที่
กาหนดให้
๖.นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อหา
บทเรียน
๗.นักเรียนทาแบบทดสอบหลัง
เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓
๘.นักเรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
ทางอินเทอร์เน็ต
๙.สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
๙.๑ สื่อการเรียนรู้
-ใบความรู้
-ใบงาน
-แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓
๙.๒ แหล่งเรียนรู้
-ค้นคว้าจากหนังสือในห้องสมุดโรงเรียน
-ค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ตห้องสมุดโรงเรียน ศูนย์การเรียนรู้
.........................................