Recommandé
Contenu connexe
En vedette
En vedette (20)
วัฒนธธรรม ตอน ๒ (๕๗)
- 1. ๒.๑ เป็นวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาอย่างแน่นแฟ้ น ๒.๒ เป็นวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ ๒.๓ ผสมผสานความเชื่อดั้งเดิมเข้ากับศาสนาพุทธ ๒.๔ กลมกลืนกับธรรมชาติ ชื่นชมธรรมชาติมากกว่าจะเอาชนะธรรมชาติ ๒.๕ เน้นความละเอียดลออ ประณีตพิถีพิถัน ๒.๖ เน้นพิธีกรรม เช่น งานพิธี ๒.๗ เป็นวัฒนธรรมที่มีความอิสระเสรี ๒.๘ เป็นวัฒนธรรมที่เคารพยกย่องผู้อาวุโส พระสงฆ์และวงศาคณาญาติ ๒.๙ แสดงออกถึงความสนุกสนานร่าเริง ชอบความสนุกสนาน ๒.๑๐ เน้นคุณค่าการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และโอบอ้อมอารี ๒.๑๑ เป็นวัฒนธรรมที่มีลักษณะยืดหยุ่น มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงให้เหมาะสมกับ สภาพแวดล้อม ลักษณะเฉพาะของวัฒนธรรมไทย
- 9. ชาติไทยเป็นเก่าแก่ที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์สืบต่อกันมาเป็นเวลานานเท่ากับ ความเป็นชาติ สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นรูปแบบการปกครองบ้านเมืองที่เก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์ รู้จัก ซึ่งรวมอานาจการปกครองไว้ที่บุคคลเดียว มีการสืบทอดอานาจการปกครองภายในตระกูล และอยู่เหนือกฎหมายใด ๆ ความอยู่รอดปลอดภัยของบ้านเมือง และความเป็นอยู่ของประชาชนพลเมืองก็ ขึ้นอยู่กับพระมหากษัตริย์เพียงพระองค์เดียว นับตั้งแต่ยุคประวัติศาสตร์ของไทย ตั้งแต่ อาณาจักรสุโขทัยเป็นต้นมา พระมหากษัตริย์ของไทยในอดีตทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชน ชาวไทยในการป้องกันบ้านเมืองจากการตกเป็นเมืองขึ้นของชาติอื่น ทรงทานุบารุงบ้านเมืองและ ประชาชนให้มีความสงบสุข และทรงเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชาติเมื่อยามคับขัน พระราช กรณียกิจของพระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์ในการทานุบารุงบ้านเมือง โดยเฉพาะด้าน ศิลปวัฒนธรรมนั้น ได้เป็นรากฐานที่สาคัญยิ่งของศิลปะและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ
- 10. สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยและคุณธรรมการปกครอง สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเป็นที่พึ่งของประชาชน เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนทั้งประเทศ เป็นที่เคารพสักการะ เป็นมิ่ง ขวัญของชาติทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต มูลเหตุสาคัญก็คือ พระมหากษัตริย์ไทยทรงคุณธรรมอย่างสูง ธรรมะที่พระมหากษัตริย์ของไทยทรงยึดถือเป็นหลักในการปกครองมาแต่ โบราณกาลเป็นธรรมะสาหรับผู้นาตามแนวพระพุทธศาสนา คือ ทศพิธราชธรรม
- 22. 1. การลอยกระทง เพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา 2. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้าตามคติพราหมณ์ คือบูชาพระ นารายณ์ซึ่งบรรทมสินธุ์อยู่ในมหาสมุทร 3. การลอยกระทง เพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้า ในวันเสด็จกลับจากเทวโลก เมื่อครั้งเสด็จไปจาพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อทรงเทศนาอภิธรรม โปรดพระพุทธมารดา 4. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระพุทธบาท ของพระพุทธเจ้า ที่หาดทรายริม แม่น้านัมมทานที เมื่อคราวเสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ 5. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระจุฬามณีบนสวรรค์ ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศา ของพระพุทธเจ้า 6. การลอยกระทง เพื่อบูชาท้าวพกาพรหม บนสวรรค์ชั้นพรหมโลก 7. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระอุปคุตตะเถระ ซึ่งบาเพ็ญเพียรบริกรรม คาถาอยู่ในท้องทะเลลึกหรือสะดือทะเล
- 60. ๒.๖ เน้นพิธีกรรม เช่น งานพิธี
- 85. สภาพภูมิอากาศ
- 97. ภาพวาดเฟรสโก้ ชื่อว่า School of Athens เป็นผลงานของราฟาเอล ที่วาดภาพขึ้นจากจินตนาการโดยนานักคิด นัก ปรัชญา นักคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของกรีก มารวมไว้อยู่ในภาพเดียวกัน เช่น พลาโต้ อริสโตเติ้ล ยุคลิด พิธากอรัส พโตเลมี อาร์คิมีดิส ซึ่งอยู่คนละยุคคนละสมัย แต่มารวมกันได้ในจินตนาการของราฟาเอล ผู้ซึ่งวาดภาพนี้ในวัยหนุ่มเพียง 27 ปี
- 101. ขงจื๊อ
- 103. ขงจื๊อเล็งเห็นว่าการจะมีชีวิตที่มีอนาคตนั้น ต้องเป็นขุนนาง และมี วิธีเดียวที่จะบรรลุได้ คือ การเรียนหนังสือให้อ่านออกเขียนได้ ซึ่งเป็นหนทางของการมี ความรู้นั่นเอง ขงจื๊อเป็นเด็กที่เชื่อฟังคาของมารดาเป็นอย่างยิ่ง ตั้งใจเรียนหนังสืออย่างจริงจังและขยันขันแข็ง อ่านหนังสือจนลืม พักผ่อนบ่อยๆ แต่ละวันๆ มารดาต้องเตือนให้พักผ่อน เขาจึงจะ หยุดพักผ่อน ซึ่งก็เป็นการพักผ่อนเพียงชั่วครู่ เขามักจะพูดว่า เรียนหนังสือต้องเรียนให้ดี การทาอะไรทั้งมวล ต้องไม่หยุด กลางคันตั้งแต่เด็กจนเป็นหนุ่ม ขงจื๊อมีความรู้เพิ่มขึ้นเป็นอย่าง มาก อายุยังไม่ถึง 20 ปี ก็เป็นผู้มีชื่อเสียงของประเทศหลู่คนหนึ่ง แล้ว
- 104. ขงจื๊อปฏิบัติต่อนักเรียนด้วยความเข้มงวด วันหนึ่งท่านวิพากย์นักเรียนชื่อ เหยียนหุย ว่า "ฉันพูดอะไร เธอพูดอย่างนั้น ตัวเองไม่มีความริเริ่ม ไม่มีการพัฒนา แล้วจะก้าวหน้าได้อย่างไร“ เหยียนหุย ถามว่า "ทาอย่างไรจึงจะพัฒนา" "ต้องคิดอยากพัฒนา ต้องหมั่นเล่าเรียน พินิจพิจารณามากๆ เอาแต่เรียนโดย ไม่ได้พิจารณา ย่อมไม่สามารถได้รับความรู้อย่างสูง อย่างเช่น ฉันบอกเธอว่า มุมหนึ่งของโต๊ะเป็นมุมฉาก เธอควรจะพิจารณาว่าอีก 3 มุม ก็ เป็นมุมฉาก และสรุปว่าโต๊ะนี้เป็นโต๊ะ 4 เหลี่ยม ไม่ใช่โต๊ะกลม "นักเรียนอีกคนหนึ่งถามว่า "ถ้าอย่างนั้นจะทาอย่างไร จึงจะทาให้ตัวเองมีความรู้มาก ๆ " "เรื่องนี้ต้องเรียนให้มากขึ้น พบเหตุปัญหาอะไรล้วนต้องถามว่าทาไม เมื่อไม่เข้าใจ อย่า ทาเป็นเข้าใจ ทาอย่างฉันนี่ เมื่อมีคนถามปัญหาฉัน มีบ่อยๆ ที่ฉันตอบไม่ได้ ฉันก็นา ปัญหานั้นไปถามคนอื่น อย่างนี้เวลานานไปความรู้ย่อมมากขึ้นตามมา"
- 105. เหยียนหุยถามต่ออีกว่า "หากไม่มีท่านอาจารย์ พวกเราจะเรียนจบ ได้ความรู้ได้อย่างไร" "ที่เธอพูดนั้นไม่ถูก เธอต้องรู้ว่า บนพื้นโลกนี้มีครูอยู่มากมาย หากมีคน 3 คนเดิน มาในนั้นอย่างน้อย ต้องมี 1 คนเป็นครูของเรา แน่นอน เขาทาอะไรถูกต้องพวกเราก็ ทาตามที่เขาทา หากเขาทาอะไรไม่ดีงามพวกเรารู้ก็อย่างทาตามนั้น"
- 117. เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ของชาติไทย ๑.ความไม่กีดกันต่างชาติต่างภาษา ๒. เสรีภาพทางศาสนา ๓. ความรักสงบ ๔. ความพอใจในการประนีประนอม ๕. การไม่แบ่งชนชั้น ๖.มีน้าใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ๗. ความเกรงใจ ๘. การคานึงถึงกาลเทศะ ๙. ความรักสนุก
- 119. ๒. เสรีภาพทางศาสนา
- 120. ๓. ความรักสงบ
- 123. ๕. การไม่แบ่งชนชั้น
- 128. ๗. ความเกรงใจ ความเกรงใจคือ ความรู้สึกที่ไม่อยากให้ผู้อื่นลาบาก เดือดร้อน ราคาญใจ ดังนั้น ผู้ที่เกรงใจคนอื่นจะ ยอมละวางหรือลดความต้องการ หรือประโยชน์ของ ตนเอง ความเกรงใจจึงเป็นอุปนิสัยเด่นอย่างหนึ่งของคนไทย
- 129. ๘. การคานึงถึงกาลเทศะ กาล + เทศะ หมายถึง รู้เวลา และ สถานที่ พูดกับใคร ที่ไหน
- 130. ๙ ความรักสนุก