Contenu connexe
Similaire à Learnning 04 (20)
Plus de Mayuree Janpakwaen
Plus de Mayuree Janpakwaen (14)
Learnning 04
- 1. ใบความรู้ ที่ 4
เรื่อง ระบบปฏิบัติการ
ความหมายของระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบติการ Operating System : OS คือโปรแกรมที่ทาหน้าที่ในการจัดการระบบ เพื่อ
ั
ั
ติดต่อระหว่างฮาร์ ดแวร์ กบกับซอฟต์แวร์ ประเภทต่างๆให้สะดวกมากขึ้นเปรี ยบเสมือนเป็ นตัวกลางคอย
จัดการระบบคอมพิวเตอร์ ระหว่างโปรแกรมกับฮาร์ ดแวร์ คอมพิวเตอร์ บางครั้งเราอาจะเห็นระบบปฏิบติการ
ั
เป็ นเฟิ ร์ มแวร์ ก็ได้
Software, Hardware, Firmware
• Software OS - เป็ นโปรแกรมควบคุมการทางานของเครื่ อง ปรับปรุ งแก้ไขง่าย โดย OS ส่ วนใหญ่
จะเป็ น Software OS
• Hardware OS - ทาหน้าที่เดียวกับ Software OS แต่ทางานเร็ วกว่า ปรับปรุ งแก้ไขยาก มีราคาแพง
• Firmware OS - หมายถึง โปรแกรมส่ วนหนึ่งของคอมพิวเตอร์ คือ ไมโครโปรแกรม (Micro
program) เกิดจาก คาสั่งไมโคร (Microinstruction) ซึ่ งเป็ นชุดคาสั่งต่าสุ ดของระบบควบคุมการ
ทางานของ CPU หลาย ๆ คาสั่งรวมกัน
หน้ าที่ของระบบปฏิบัติการ
้ ั
1. เป็ นตัวกลางเชื่ อมโยงระหว่างผูใช้กบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เกิดความสะดวกในการสั่งงาน
คอมพิวเตอร์ โดยการจัดเตรี ยมโปรแกรมระบบปฏิบติการใส่ ไว้ในฮาร์ ดดิสก์ของเครื่ องคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้
ั
เป็ นเครื่ องมือในการติดต่อกับผูใช้ ควบคุมการทางานฮาร์ ดแวร์ คอมพิวเตอร์ เช่น ควบคุมการใช้ดิสก์ไดร์ ฟ
้
ฮาร์ ดดิสก์ คียบอร์ ด และจอภาพ เป็ นต้น
์
่
2. ทางานร่ วมกับโปรแกรมที่อยูในรอม เมื่อเริ่ มบูทเครื่ อง OS จะทางานต่อจากโปรแกรมประเภท
่
Firmware ที่จดเก็บไว้ในรอม จะทางานเมื่อเปิ ดเครื่ องคอมพิวเตอร์ เรามักเรี ยกFirmware นี้วา BIOS (Basic
ั
- 2. Input Output System) โดย BIOS จะทาการตรวจสอบความพร้อม ระบบฮาร์ ดแวร์ ของคอมพิวเตอร์ จากนั้น
จึงส่ งหน้าที่ให้แก่ OS เพื่อให้ควบคุมการทางานของคอมพิวเตอร์
3. จัดตารางการใช้ทรัพยากร การเข้าใช้หน่วยประมวลผลกลาง ของคาสังที่ผใช้สงงาน เช่นกาหนด
่ ู ้ ่ั
วิธีการจัดคิว (Queue) ของคาสั่ง เวลาที่ OS อนุ ญาตให้ใช้ซีพียู ของแต่ละคาสั่ง ทั้งนี้เพื่อให้หน่วย
ประมวลผลกลาง ทางานอย่างมีประสิ ทธิ ภาพมากที่สุด
4. จัดการข้อมูลและสารสนเทศในหน่วยความจา ได้แก่การนาข้อมูลไปวาง (Placement)ใน
หน่วยความจา การแทนที่ขอมูลในหน่วยความจา (Replacement) การย้ายข้อมูลในหน่วยความจา
้
5. จัดการระบบการจัดเก็บไฟล์ขอมูลลงบนสื่ อสารอง (Secondary Storage Unit)
้
6. นาโปรแกรมประเภทอื่น เข้าประมวลผลในคอมพิวเตอร์ นอกจากประมวลผลแล้วยังคอย
ให้บริ การ เมื่อโปรแกรมต่างๆ ต้องการใช้ทรัพยากรของระบบคอมพิวเตอร์ ได้แก่หน่วยความจา ฮาร์ ดดิสก์
ดิสก์ไดร์ ฟ เครื่ องพิมพ์ เป็ นต้น
7. จัดการด้านการรักษาความปลอดภัย
8. จัดการเชื่ อมต่อและควบคุมอุปกรณ์รอบข้างของคอมพิวเตอร์ ได้แก่ เครื่ องสแกนเนอร์ การ์ ดเสี ยง
และ โมเด็ม เป็ นต้น
คุณลักษณะของโปรแกรมระบบปฏิบัติการ
พิจารณาคุณลักษณะของโปรแกรมระบบปฏิบติการตามลักษณะต่างๆ ดังนี้
ั
• จานวนงานที่ทาได้ ถ้ามีหลายโปรแกรมทางานพร้อมกันได้ เรี ยกว่า Multi - Tasking แต่ถา OS
้
ควบคุมให้โปรแกรมทางานได้ครั้งละ 1 โปรแกรมเท่านั้น เราเรี ยกว่า Single - Tasking
Multi - Tasking
Single - Tasking
- 3. • จานวนผู้ใช้ จานวนผูใช้ OS สามารถควบคุมการทางาน ให้คอมพิวเตอร์สามารถทางานพร้อม ๆ
้
กันได้ หลายเครื่ องในระบบเครื อข่ายที่มีผใช้หลายคน ถ้า OS สามารถจัดการระบบที่มีผใช้หลายๆ
ู้ ู้
คน พร้อมกันได้ในระบบเรี ยกว่า Multi-User แต่ถา OS สามารถจัดการระบบ ได้เพียงเครื่ องเดียว
้
หรื อมีผใช้ระบบ ได้เพียงครั้งละ 1 คน เรี ยกว่า Single - User
ู้
ระบบปฏิบัติการ แบบ Text-Based Command Language
• ระบบปฏิบติการแบบตัวอักษรที่รับคาสั่งด้วยการพิมพ์คาสั่ง
ั
• Input Device หลักคือ Keyboard
• ผูใช้ตองรู ้คาสั่ง
้ ้
ระบบปฏิบัติการแบบ GUI Graphical User Interface
• ระบบปฏิบติการแบบกราฟิ กที่รับคาสั่งด้วยการชี้และเลือกคาสั่งจาก Icon และ Menu
ั
• Input Device หลักคือ อุปกรณ์การชี้ (Pointing Devices)
ประเภทของระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการดอส (DOS : Disk Operating System)
เริ่ มมีใช้ครั้งแรกบนเครื่ อง IBM PC ประมาณปี ค.ศ. 1981 เรี ยกว่าโปรแกรม PC-DOS
ต่อมาบริ ษทไมโครซอฟต์ได้สร้าง MS-DOS สาหรับเครื่ องคอมพิวเตอร์ ทวไป และได้รับความนิยมอย่าง
ั ั่
แพร่ หลายมาจนถึงปั จจุบน ตั้งแต่รุ่น Versions 1.0 2.0 3.0 3.30 4.0 5.0 6.0 และ 6.22 ปัจจุบนมีซอฟต์แวร์
ั ั
- 4. ทางานภายใต้ระบบปฏิบติการ MS-DOS อยูเ่ ป็ นจานวนมาก โดยเฉพาะไมโครคอมพิวเตอร์ รุ่นเก่าๆ ที่มี
ั
ทรัพยากรของระบบน้อย
ตัวอย่างหน้ าต่ างระบบปฏิบัติการ MS-Dos
การใช้คาสังดอส โดยการพิมพ์คาสังที่เครื่ องหมายพร้อมรับคาสัง ในลักษณะ Command Line ซึ่ง
่ ่ ่
DOS ติดต่อกับผูใช้ดวยการพิมพ์คาสั่ง ไม่มีภาพกราฟิ กให้ใช้ เรี ยกว่าทางานในโหมดตัวอักษร Text Mode
้ ้
ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 95Microsoft Windows 95
ั
วางจาหน่ายในช่วงปลายปี 1995 ใช้กบเครื่ องคอมพิวเตอร์ ทวๆ ไป ที่มีคุณลักษณะ
่ั
ฮาร์ ดแวร์ และหน่วยความจาสู งกว่า Dos ต้องใช้พ้ืนที่ฮาร์ ดดิสก์ประมาณ 40 MB มีรูปแบบการติดต่อ
กับผูใช้ (User Interface) เป็ นภาพกราฟิ ก ทาให้ง่ายและสะดวกต่อการใช้งานยิงขึ้น การใช้งานควบคุม
้ ่
โปรแกรมโดยใช้เมาส์เป็ นส่ วนใหญ่ สามารถตรวจสอบอุปกรณ์ที่นามาเชื่ อมต่อใหม่ได้อย่างอัตโนมัติ
เรี ยกว่า (Plug and Play) นอกจากนี้ ยังสามารถจัดการเชื่ อมต่อเป็ นเครื อข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 98Microsoft Windows 98
เป็ นระบบปฏิบติการที่มีความสามารถสู ง พัฒนาต่อมาจาก วินโดวส์ 95 สามารถ
ั
ทางานแบบหลายงาน (Multi-Tasking) มีผใช้ในระบบเพียงคนเดียวแบบ (Single- User) ได้ และสามารถ
ู้
ั
นาไปใช้กบคอมพิวเตอร์ ได้ทวไป ติดต่อกับผูใช้แบบ (GUI) เช่นเดียวกันกับวินโดวส์ 95 แต่ปรับรู ปแบบ
ั่ ้
ให้ดูสวยงามและอัตโนมัติยงขึ้น มีความสามารถ ในการเชื่ อมต่อกับระบบเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตได้สะดวก
ิ่
ยิงขึ้น มีโปรแกรม Internet Explore มาพร้อม
่
ตัวอย่างหน้ าต่ างระบบปฏิบัติการ Windows 95/98
- 5. ระบบปฏิบัติการ Windows ME Windows Millennium Edition
เป็ นระบบปฏิบติการที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจากวินโดวส์ 95 และ98ออกแบบมาให้เหมาะสมกับผูใช้ตามบ้าน
ั ้
เป็ นระบบปฏิบติการที่ฉลาด ทันสมัย และเข้าใจผูใช้ มากกว่าวินโดวส์ 95 และ 98 หน้าตาของ Windows ME
ั ้
จะมีรูปลักษณ์เหมือนกับวินโดวส์ 98 มาก เพียงแต่มีคุณลักษณะพิเศษที่เหนือกว่าเดิมมาก สามารถสร้าง
ระบบเครื อข่ายภายในบ้านได้มีความสามารถด้านอินเทอร์ เน็ตและมัลติมีเดียมากกว่าวินโดวส์ 98 อีกด้วย
ตัวอย่างหน้ าต่ างระบบปฏิบัติการ Windows ME
ระบบปฏิบัติการ Windows 2000 (Microsoft Windows 2000)
เป็ นระบบปฏิบติการที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองระบบเครื อข่าย และเป็ น OS ที่สร้างขึ้นมาเป็ น GUI
ั
้ ั
ตั้งแต่ตน ดังนั้นในการนา Application เดิมๆ ที่เคยใช้กบระบบปฏิบติการดอส หรื อโปรแกรม ที่สั่งงาน
ั
ฮาร์ดแวร์ โดยตรง มาใช้บนระบบปฏิบติการ วินโดวส์ 2000 อาจไม่ยอมทางานให้ แต่การทางานระบบ
ั
Multi-Tasking และ Multi-User ใช้งานได้ดีกว่าตระกูลวินโดวส์ 95 และ 98 โดยทาการควบคุมขบวนการ
ทางานของแต่ละโปรแกรมได้ดีข้ ึน
ตัวอย่างหน้ าต่ างระบบปฏิบัติการ Windows 2000
- 6. ระบบปฏิบัติการ Windows NT (Microsoft Windows New Technology)
เป็ นระบบปฏิบติการที่มีความสามารถในการจัดการเครื อข่าย ในระยะใกล้ (LAN : Local Area
ั
Network) โดยจัดการด้านการติดต่อสื่ อสาร ระหว่างคอมพิวเตอร์ และการรักษาความปลอดภัยใน
เครื อข่าย ได้เป็ นอย่างดี ในระบบเครื อข่ายจะมีผใช้งานหลายคน วินโดวส์ NT จะทาการจัดทรัพยากรของ
ู้
ระบบ ให้มีการใช้ร่วมกันอย่างมีประสิ ทธิภาพสู งสุ ด รวมถึงการติดต่อสื่ อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่าง
คอมพิวเตอร์ ดวยกัน และรองรับการเชื่ อมต่ออินเทอร์ เน็ต ได้เป็ นอย่างดี
้
ตัวอย่างหน้ าต่ างระบบปฏิบัติการ Windows NT
ระบบปฏิบัติการ Windows XP (Microsoft Windows Experience)
เริ่ มวางตลาดในปี ค.ศ. 2001 โดยคาว่า XP ย่อมาจาก experience แปลว่ามีประสบการณ์ ทุกๆ 2 ปี
บริ ษทผูผลิตจะวางตลาดวินโดวส์รุ่นใหม่ๆ โดยได้ใส่ เทคโนโลยีที่ทนสมัย และเปลี่ยนแปลงสิ่ งที่เป็ น
ั ้ ั
ข้อด้อยของรุ่ นเก่า Windows XP มีจุดเด่นและความสามารถมากมาย ไม่วาจะเป็ นระบบใช้งานที่ดูสวยงาม
่
และง่ายกว่าวินโดวส์รุ่นเก่าๆ มีระบบช่วยเหลือในการปรับแต่งมากมาย เหมาะสาหรับนักคอมพิวเตอร์
มือใหม่ และผูใช้งานทัวไปอย่างยิง
้ ่ ่
ตัวอย่างหน้ าต่ างระบบปฏิบัติการ Windows XP
- 7. Windows XP มีให้เลือกใช้สองรุ่ นคือ Windows XP Home Edition ซึ่งเหมาะสาหรับผูใช้งานตาม้
บ้าน ที่ไม่เชื่อมต่อกับเครื อข่าย และอีกรุ่ นคือ Windows Xp Professional Edition ซึ่ งเหมาะกับผูใช้งานใน
้
องค์กรตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อกับระบบเครื อข่ายได้ดี คนที่ใช้วนโดวส์เวอร์
ิ
ชัน XP จะต้องใช้เครื่ องที่มีทรัพยากรมาก เช่น ซี พยู เพนเทียม 300 MHz ขึ้นไป แรมไม่ต่ากว่า 128 MB
่ ี
่
ฮาร์ ดดิสก์เหลือพื้นที่วางมากกว่า 1.5 GB เป็ นต้น
ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ Linux
เป็ นระบบปฏิบติการที่มีความสามารถสู ง ในการบริ หารระบบเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ต มีลกษณะ
ั ั
่
คล้ายการจาลองการทางาน มาจากยูนิกซ์ แต่จะมีความยืดหยุนในการทางานมากกว่า เป็ นระบบปฏิบติการ ั
ประเภทแจกฟรี (Open Source) ผูนาไปใช้งาน สามารถที่จะพัฒนาและปรับปรุ งในส่ วนที่เกิดปั ญหาระหว่าง
้
ใช้งานได้ทนที อีกทั้งยังสามารถปรับให้เข้ากับฮาร์ ดแวร์ ที่ใช้เพื่อให้ได้ประสิ ทธิ ภาพของระบบมากที่สุด
ั
และยังมีการเพิมสมรรถนะ (Update) อยูตลอดเวลา
่ ่
ตัวอย่างหน้ าต่ างระบบปฏิบัติการ Linux
ถือกาเนิดขึ้นในฟิ นแลนด์ ปี คศ. 1980 โดยลีนุส โทรวัลด์ส (Linus Trovalds) นักศึกษาภาควิชา
วิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science) ในมหาวิทยาลัยเฮลซิ งกิ
ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ Unix
ั
เป็ นระบบปฏิบติการที่เคยพัฒนาในห้องแล็บ Bellสร้างขึ้นเพื่อใช้กบเครื่ องมินิคอมพิวเตอร์ และ
ั
เมนเฟรม ใช้ในการควบคุมการทางานของศูนย์คอมพิวเตอร์ ที่มีการเชื่ อมลูกข่ายคอมพิวเตอร์ หรื ออุปกรณ์
ต่อพ่วงเป็ นจานวนมาก ดังนั้นยูนิกซ์ จึงมักใช้ในระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ที่มีขนาดใหญ่ และมีการ
ั
เชื่อมต่อเครื อข่ายระยะไกลต่อมาได้มีการพัฒนาให้สามารถนายูนิกซ์มาใช้กบเครื่ องคอมพิวเตอร์ ได้ คาดว่า
ยูนิกซ์จะเป็ นที่นิยมต่อไป
- 8. ตัวอย่างหน้ าต่ างระบบปฏิบัติการ Unix
• ลักษณะการทางาน ยูนิกซ์ ติดต่อกับผูใช้ได้โดยการพิมพ์คาสั่งลงบนเครื่ องหมาย Prompt Sign แต่
้
่
ในปั จจุบน สามารถจาลองจอภาพการทางานของยูนิกซ์ ให้อยูในสภาพแวดล้อมของวินโดวส์ได้
ั
แล้ว ทาให้สามารถทางานติดต่อกับผูใช้ได้สะดวกมากยิงขึ้น
้ ่
• คุณสมบัติพิเศษของยูนิกซ์ คือ เรื่ องของการรักษาความปลอดภัย ในระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์
รวมทั้งมีความสามารถสู งในด้านการติดต่อสื่ อสารระยะไกลระหว่างคอมพิวเตอร์ ทาให้ยนิกซ์ถูกู
นามาใช้เป็ นระบบปฏิบติการสาหรับเครื อข่ายของโลกที่เรี ยกว่า อินเทอร์ เน็ต ดังนั้นก่อนที่ผใช้จะ
ั ู้
เข้าสู่ ระบบยูนิกซ์ ได้จะต้องทาการพิมพ์ Login Name และ (Password)
ระบบปฏิบัติการ Mac (Macintosh)
เป็ นระบบ ปฏิบติการของเครื่ องแมคอินทอช เป็ นผลิตภัณฑ์แรกที่ประสบความสาเร็ จเกี่ยวกับ
ั
การทางานแบบ GUI ในปี ค.ศ. 1984 ของบริ ษท Apple ต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็ นระบบปฏิบติการ Mac
ั ั
OS โดยเวอร์ ชนล่าสุ ดมีชื่อเรี ยกว่า Mac OS X เหมาะสมกับคอมพิวเตอร์ ที่ผลิตโดยบริ ษท Apple และมี
ั ั
ความสามารถในการทางานหลายโปรแกรมพร้อมกัน (Multitasking) เหมาะกับงานในด้านเดสก์ทอปพับลิช
ชิ่ง (Desktop Publishing)
ตัวอย่างหน้ าต่ างระบบปฏิบัติการ Mac
- 9. ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ วสต้ า (Microsoft Windows Vista)
ิ
Microsoft Windows Vista เป็ นโปรแกรมระบบปฏิบติการรุ่ นใหม่ล่าสุ ดจากไมโครซอฟท์ ที่พฒนา
ั ั
ต่อจาก Windows XP และ Windows Server 2003 ที่ได้รับการปรับปรุ งและพัฒนาให้มีความล้ าสมัย ทั้ง
รู ปร่ างหน้าตา และฟังก์ชนการใช้งานต่างๆ และได้ปรับปรุ งเรื่ องความปลอดภัยและเน็ตเวิร์คให้สามารถ
ั่
่ ั ั
ทางานได้มีประสิ ทธิ ภาพยิงขึ้น ปั จจุบนได้วางจาหน่ายให้กบองค์กรธุ รกิจวันที่ 8 พฤศจิกายน 2549 และ
ั ้ ั่
วางจาหน่ายให้กบผูใช้ทวไปวันที่ 30 มกราคม 2550
Windows Vista นั้นมาพร้อมกับรู ปร่ างหน้าตาแบบใหม่หมด เพื่อที่จะได้ รับประโยชน์จากกราฟิ ก 3
มิติแบบฮาร์ ดแวร์ หน้าต่างของโปรแกรมนั้นจะ ถูกเปลี่ยนใหม่เป็ นแบบแก้วใส (Glass) ให้ความรู้สึกที่มีมิติ
และความลึก เข้าไปเมื่อคุณเปิ ดหลายๆวินโดว์พร้อมกันบนหน้าจอ หน้าตาของ Vista นี้ มีชื่อว่า Aero Glass
ไม่เพียงแค่มนใสๆได้ ยังมีลูกเล่นที่เรี ยกว่า Windows Preview
ั
ตัวอย่างหน้ าต่ างระบบปฏิบัติการ Windows Vista
Windows 7
Windows 7 คือ ระบบปฏิบติการตัวใหม่ล่าสุ ดจากไมโครซอฟท์ มีกา หนดวางจา หน่ายในวันที่ 22
ั
ตุลาคม 2009 หลังจากที่วางจา หน่าย Windows Vista ซึ่ งทางยอดขายได้สูงมาก (แต่ผลตอบรับไม่ค่อยน่า
พอใจ) ในช่วง 2 – 3 ปี ที่ผานมา โดย Windows 7 นี้นบได้เป็ นระบบปฏิบติการรุ่ นที่ 7 ของไมโครซอฟท์
่ ั ั
นับตั้งแต่ Windows 1.0 เป็ นต้นมา
ทีมาของชื่อ Windows 7
่
ตั้งแต่ Windows รุ่ นแรก (1.0) นั้น ถ้าลองนับดูเล่นๆ ไมโครซอฟท์มีระบบปฏิบติการณ์ Windows
ั
มาแล้วไม่ต่ากว่า 10 รุ่ นครับ แต่ทา ไม Windows รุ่ นนี้ซ่ ึ งน่าจะชื่อว่า Windows 11 หรื อ Windows 12 หรื อ
่
Windows 2009 ก็วากันไปแต่ทา ไมกลับมาชื่อ Windows 7 ทางทีมผูสร้าง Windows เค้าให้คา ตอบไว้แบบนี้
้
รุ่ นแรก ถึงรุ่ นที่สาม คือ Windows 1.0 – 3.0 ตามลาดับ *
- 10. 1. รุ่ นที่สี่ ได้แก่ Windows 95 (4.0) , 98 (4.0.1998) , Me (4.90.3000)
2. รุ่ นที่หา ได้แก่ Windows 2000 (5.0) และ Windows XP (5.1)
้
3. รุ่ นที่หก Windows Vista (6.0)
4. และรุ่ นที่เจ็ดก็คือ Windows 7 (6.1)
* Windows 1.0 – 3.1 ยังไม่ใช่ระบบปฏิบติการเต็มตัวครับ เป็ นเพียงโปรแกรมที่ทา งานบนดอส
ั
รุ่ นต่ างๆ ของ Windows 7
ไมโครซอฟท์ได้ทาการแบ่งรุ่ นต่างๆ ของ Windows 7 ออกเป็ น 6 รุ่ นย่อยๆ แต่ท่ีจะมีวางขายสา
หรับผูใช้ทวๆ ไปจะมีแค่ 3 รุ่ นเท่านั้น ได้แก่ Home Premium, Professional และ Ultimate ส่ วนรุ่ นอื่นๆ ที่
้ ่ั
ไม่ได้วางขายจะมีสาหรับผูใช้อื่นๆ เช่น ติดตั้ง มาพร้อมกับเครื่ อง เป็ นต้น
้
สาหรับ Windows 7 ทั้ง 6 รุ่ นก็มีดังนีครับ
้
1. Windows 7 Starter รุ่ นเล็กสุ ด มีฟีเจอร์ การทา งานน้อยสุ ด เหมาะสา หรับเล่นเน็ต เช็คอีเมลล์รุ่นนี้
ไม่มีวางขาย แต่จะติดตั้ง มาพร้อมกับ Netbook เท่านั้น
2. Windows 7 Home Basic รุ่ นนี้ไม่มีวางขาย แต่จะติดตั้ง มาพร้อมกับเครื่ องใหม่ๆ เท่านั้น และจะมี
เฉพาะในบางประเทศเท่านั้น
3. Windows 7 Home Premium เป็ นรุ่ นเล็กสุ ดที่มีวางขายแบบกล่องทัวโลก มาพร้อมกับ
่
ความสามารถด้านมัลติมีเดียครบครัน สา หรับผูใช้ทวไปเพียงรุ่ นนี้ก็เพียงพอแล้วครับ
้ ั่
4.Windows 7 Professional รุ่ นนี้ฟีเจอร์ ทว ไปไม่แตกต่างจากรุ่ น Home Premium เท่าไรนัก ที่เพิ่ม
ั่
เข้ามาคือสามารถใช้ Windows XP Mode ได้
5. Windows 7 Ultimate เชื่อว่าหลายคนคงได้ลองใช้กนมาบ้างแล้ว เป็ นรุ่ นใหญ่สุดของ Windows 7
ั
ที่เพิ่มคุณสมบัติอย่าง Bitlocker และสามารถเปลี่ยน UI เป็ นภาษาต่างๆ ได้
6. Windows 7 Enterprise รุ่ นนี้ไม่มีอะไรแตกต่างจากรุ่ น Ultimate ครับ แต่จะมีขายสา หรับองค์กร
ขนาดใหญ่เท่านั้น