More Related Content
Similar to งานวิจัยในชั้นเรียนปี56 (20)
งานวิจัยในชั้นเรียนปี56
- 2. ชื่อเรื่อง การพัฒนาการเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้าโดยใช้แบบฝึกหัดเสริมทักษะการ
เขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่4/8
ชื่อผู้วิจัย มิสนันท์นิชา นิธิวงศ์กุลภัทร
หลักการและเหตุผล
ภาษาไทยเป็นเครื่องมือของคนในชาติ เพื่อการสื่อสารทา ความเข้าใจและใช้ภาษาในการ
ประกอบกิจการงาน ทั้งส่วนตน ครอบครัว กิจกรรมทางสังคมและประเทศชาติ เป็นเครื่องมือการเรียนรู้
การบันทึกเรื่องราวจากอดีตถึงปัจจุบัน และเป็นวัฒนธรรมของชาติ ดังนั้นการเรียนภาษาไทยจึงต้อง
เรียนรู้เพื่อให้เกิดทักษะอย่างถูกต้องเหมาะสมในการสื่อสาร เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ แสวงหาความรู้
และประสบการณ์ เรียนรู้ในฐานะเป็นวัฒนธรรมทางภาษาให้เกิดความชื่นชม และภูมิใจในภาษาไทย
ในสภาพปัจจุบันพบว่ามีปัญหาการเขียนสะกดคาผิด โดยเฉพาะคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้า
อันเนื่องมาจากการ ออกเสียง หรือตามประกาศ แผ่นป้ายโฆษณา และอินเตอร์เน็ต ไม่ถูกต้อง ปัญหา
เหล่านี้จะส่งผลให้นักเรียนสับสน เกิดการเขียนสะกดคาผิด และอาจทาให้ความหมายของคาเปลี่ยนไป
ไม่ตรงตามการสื่อสารซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของผู้เรียน ถ้าผู้เรียนมีความถูกต้อง ชัดเจนใน
การเขียนสะกดคา จะช่วยให้สื่อความหมายได้ดี
จากปัญหาดังกล่าว ผู้วิจัยมีความสนใจที่จะแก้ปัญหาโดยการสร้างและพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะ
การเขียนสะกดคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้า เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการเขียนคาเพื่อที่จะได้
นาไปใช้ได้อย่างถูกต้อง หากนักเรียนได้มีเวลาและตั้งใจฝึกอย่างจริงจัง
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อพัฒนาการเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้าของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/8
2. เพื่อเปรียบเทียบการ เขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้า ของของนักเรียนระดับชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 4/8 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ชุดแบบฝึก หัดเสริมทักษะการเขียนคาที่มี
ตัว ร ล และคาควบกล้า
เอกสาร / ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
หลักเกณฑ์ของคาควบกล้า
คาควบกล้า (อักษรควบ) หมายถึง พยัญชนะสองตัวเขียนเรียงกันอยู่ต้นพยางค์และใช้สระ
เดียวกัน เวลาอ่านออกเสียงกล้าเป็นพยางค์เดียวกัน เสียงวรรณยุกต์ของพยางค์นั้นจะผันเป็นไปตามเสียง
พยัญชนะตัวหน้า
คาที่มี ร เป็นคาควบกล้า
คาควบกล้าคือคาที่อ่านออกเสียงพยัญชนะต้น ทั้งสองตัวหน้า เป็นเสียงกล้าพร้อมกันมี กร-
ขร- คร- ตร- ปร- พร- เช่น เต่ากระ มะกรูด ปลากราย กราบพระ ครีบ ปลา หอยแครง
- 3. คาที่มี ล เป็นคาควบกล้า
คาควบกล้าคือคาที่อ่านออกเสียงพยัญชนะต้น ทั้งสองตัวหน้า เป็นเสียงกล้าพร้อมกันมี กล-
ขล- คล- ปล- พล- เช่น ของกลาง เป่าขลุ่ย กล่องนม เปลวไฟ ลาคลอง ปลีกล้วย พลอย แปลง
ผัก เกล็ดปลา ตีกลอง
พยัญชนะต้นควบกับ ล ได้แก่ เปล่า ปลีก คลาน คลุก เคล้า เปลี่ยนแปลง กลบ กลม เพลิดเพลิน
เกลี้ยกล่อม เกลียวคลื่น คล่องแคล่ว เกล้า
ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัย
1. นักเรียนสามารถใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้า ในการ
แก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/8 ได้
2. นักเรียนสามารถเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้า ถูกต้องและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดี
ขึ้น
3. ใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้า ในการสอนซ่อมเสริม โดยให้
นักเรียนนาไปฝึกในห้องเรียน หรือที่บ้านได้
ขอบเขตของการวิจัย
1. ในการวิจัยพัฒนา ครั้งนี้เป็นการสร้างและพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะ การเขียนคาที่มีตัว ร ล
และคาควบกล้าวิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/8
2. ประชากรกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/8 โรงเรียน
อัสสัมชัญแผนกประถม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 จานวน 15 คน
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากร นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/8 โรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถม
กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/8 โรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถมจานวน 15 คน
ตัวแปรของการวิจัย
- ตัวแปรต้น ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้า
- ตัวแปรตามได้แก่ การพัฒนาด้านการเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้าของนักเรียน
นิยามศัพท์เฉพาะ
1. แบบฝึกเสริมทักษะ หมายถึง แบบฝึกที่นามาเสริมทักษะ การเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบ
กล้าของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง คะแนนที่นักเรียนได้รับจากการเขียนคาที่มีตัว ร ล และคา
ควบกล้าถูกต้อง ตามแบบฝึกหัดเสริมทักษะที่ครูสร้างขึ้น
3. ประชากร หมายถึง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถม
- 4. 4. กลุ่มตัวอย่าง หมายถึง นักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/8 โรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถม
จานวน 15 คน
กรอบแนวคิดในการวิจัย
สมมติฐานการวิจัย
ในการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ใน
การเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้าหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การเขียนคาที่มีตัว ร ล และคา
ควบกล้าสูงกว่าก่อนใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้า
วิธีดาเนินงานการวิจัย
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากร นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/8 โรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถม
กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/8 โรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถมจานวน 15 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
ชุดแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้าของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/8
ขั้นตอนการสร้างและตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือในการวิจัย
ศึกษาเอกสารหลักสูตร เนื้อหาวิชาภาษาไทย ปัญหาการการการเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบ
กล้าดาเนินการคัดเลือกแบบฝึกการเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้าโดยใช้กระบวนการดังนี้
1. สังเกตปัญหาที่เกิดขึ้นขณะดาเนินการสอน
2. พิจารณาแนวทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในข้อ 1 โดยการสร้างแบบฝึก และเลือกเนื้อหาใน
ส่วนที่จะสร้างแบบฝึกนั้น ว่าจะทาเรื่องใดบ้าง กาหนดเป็นโครงเรื่องไว้
3. ศึกษารูปแบบของการสร้างแบบฝึกจากเอกสารตัวอย่าง
4. ออกแบบชุดฝึกแต่ละชุด ให้มีรูปแบบที่หลากหลาย น่าสนใจ
5. ลงมือสร้างแบบฝึกในแต่ละชุด
6. ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ
7. นาไปทดลองใช้แล้วบันทึกผลเพื่อนามาปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่บกพร่อง
8. ปรับปรุงจนมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
9. นาไปใช้จริงและเผยแพร่ต่อไป
ตัวแปรต้น
- แบบฝึกเสริมทักษะการ
เขียนคาที่มีตัว ร ล และคา
ควบกล้า
ตัวแปรตาม
- การพัฒนาด้านการเขียนคา
ที่มีตัว ร ล และคาควบกล้า
- 5. การเก็บรวบรวมข้อมูล
ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยดาเนินการเก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม-7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 25557
เวลา 12.40-13.10 น. ดังนี้
1. ผู้วิจัยทาการทดสอบก่อนเรียน ( Pre test ) ใช้แบบทดสอบเรื่องการเขียนคาที่มีตัว ร ล
และคาควบกล้าแล้วบันทึกลงแบบการให้คะแนน
2. ผู้วิจัยดาเนินการทดลองโดยให้นักเรียนใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การเขียนคาที่มีตัว ร ล
และคาควบกล้า
3. ทาการทดสอบหลังเรียน ( Post test ) โดยใช้แบบทดสอบเรื่องการเขียนคาที่มีตัว ร ล
และคาควบกล้าชุดเดียวกับแบบทดสอบก่อนเรียน
วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล
ผู้วิจัยดาเนินการวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ คือ ผู้วิจัยตรวจแบบบันทึกคะแนนของนักเรียนก่อน
เรียนและหลังเรียนทั้ง ๒ ครั้ง มาเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนที่ได้สถิติที่ใช้ในการ
วิเคราะห์ข้อมูลในครั้งนี้ คือ เปรียบเทียบเป็นจานวนร้อยละ
N แทนจานวนกลุ่มตัวอย่าง
X แทนคะแนนเฉลี่ย
£D แทนผลรวมของผลต่างของคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน
การวิเคราะห์ข้อมูล
ผู้วิจัยดาเนินการวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ คือ ผู้วิจัยตรวจแบบบันทึกคะแนนของนักเรียนก่อน
เรียนและหลังเรียนทั้ง 2 ครั้ง มาเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนที่ได้สถิติที่ใช้ในการ
วิเคราะห์ข้อมูลในครั้งนี้ คือ เปรียบเทียบเป็นจานวนร้อยละ
- 6. ตารางเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังใช้แบบฝึกเสริมทักษะ
การเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้า
ลาดับที่ รายชื่อนักเรียน คะแนนก่อนใช้แบบฝึก(30) คะแนนหลังใช้แบบฝึก(30) D
1 ด.ช.อภิวิชญ์ แซ่โค้ว 23 30 7
2 ด.ช.ชุติพนธ์ สมบูรณ์กิจโกศล 22 29 7
3 ด.ช.จามิกร กาปั่นทอง 23 29 6
4 ด.ช.พศิน ชนาพรรณ 18 28 10
5 ด.ช.ภูริณัฐ บัญชาวุฒิ 21 29 8
6 ด.ช.กมล ทรัพย์เกตโสภา 22 27 5
7 ด.ช.พฤฒินันท์ จรัสจารุมนต์ 18 29 11
8 ด.ช.กฤตเมธ พัฒนกิจไพบูลย์ 20 28 8
9 ด.ช.ธนธัช อนุชาติชัยกุล 20 29 9
10 ด.ช.ชญนนท์ เตชอมรธนกิจ 17 24 7
11 ด.ช.ธฤต นามนิราศภัย 24 29 5
12 ด.ช.ธนกร ตระกูลบุญนากิจ 17 29 12
13 ด.ช.กษิดิษฐ์ รังสีวิจิตรประภา 23 28 5
14 ด.ช.ปุญญพัฒน์ ลีลาพากเพียร 18 27 9
15 ด.ช.ชวนากร มนัสเพียรเลิศ 24 27 3
เฉลี่ย ( X ) 20.66 28.13
ค่าร้อยละ 68.88 % 93.77 %
จากตารางเปรียบเทียบ แสดงให้เห็นว่าผลสัมฤทธิ์ทาง การเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้า
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ( กลุ่มตัวอย่าง 15 คน ) หลังจากฝึกด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนคาที่มี
ตัว ร ล และคาควบกล้าแล้วมีคะแนนสูงขึ้นกว่าก่อนใช้แบบฝึก ทักษะการเขียนคาที่มีตัว ร ล และคา
ควบกล้าจาก 68.88 %% เป็น 93.77 %
- 7. สรุปผลการวิจัย
คะแนนทดสอบหลังใช้ชุดแบบฝึกทักษะ การเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้า ของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีคะแนนสูงจากก่อนใช้ชุดแบบฝึกเสริมทักษะ การเขียนคาที่มีตัว ร ล และคา
ควบกล้า 68.88 % เป็น 93.77 % ซึ่งแสดงว่า การใช้ชุดแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคาที่มีตัว ร ล และ
คาควบกล้าของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ทาให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
อภิปรายผลการวิจัย
จากผลการวิจัยที่เกี่ยวกับ การเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้าที่กล่าวมาแล้ว ทาให้ทราบว่า
ความสาคัญใน การเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้า ของนักเรียน เกิดจากวิธีสอนของครูเป็น
องค์ประกอบสาคัญ แต่ครูยังขาดอุปกรณ์ที่เป็นแบบฝึกเสริมทักษะ การเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบ
กล้าที่มีเนื้อหาตรงกับความสนใจของนักเรี ยน ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยมีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างแบบฝึก
เสริมทักษะการเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้าเพื่อช่วยพัฒนาความสามารถในการเขียนคาที่มีตัว ร
ล และคาควบกล้าของนักเรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
ข้อเสนอแนะ
1. ครูผู้สอนวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ควรนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคาที่มีตัว ร
ล และคาควบกล้าไปใช้ในการเรียนการสอน หรือใช้ในการสอนซ่อมเสริม
2. ควรมีการสร้างชุดแบบฝึกเสริมทักษะ การเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้า ในระดับชั้น
ต่างๆ อย่างทั่วถึง
3. ควรมีการนาชุดแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้า ไปทดลองใช้กับ
หลายๆ โรงเรียน เพื่อสรุปผลและปรับปรุงแก้ไข
4. ผู้บริหาร และผู้เกี่ยวข้อง ควรสนับสนุนให้มีการอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างชุดแบบฝึกทักษะ
การเขียนคาที่มีตัว ร ล และคาควบกล้าและวิธีอื่นๆ ให้แก่คณะครูในโรงเรียน