Contenu connexe
Similaire à รายงานอินเทอร์เน็ต
Similaire à รายงานอินเทอร์เน็ต (20)
Plus de Sarocha Makranit (20)
รายงานอินเทอร์เน็ต
- 1. รายงาน
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่ อง อินเทอร์เน็ต
จัดทาโดย
นายธนกาญจน์ สังข์สุวรรณ เลขที่ 4
นางสาวทิพย์อกษร โตแก้ว
ั เลขที่ 18
นางสาวประภัสสร บุญเงิน เลขที่ 21
นางสาวอินทุกร ป้ อมหิ น เลขที่ 25
นางสาวสโรชา มากระนิตย์ เลขที่ 33
นางสาวจุฑารัตน์ ลิ้มทอง เลขที่ 34
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5/2
เสนอ
อาจารย์ ทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม
โรงเรี ยนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรี นคริ นทร์ กาญจนบุรี
- 2. คานา
กลุ่มของข้าพเจ้าจัดทารายงานเรื่ อง อินเทอร์ เน็ต ขึ้นเพื่อศึกษาค้นคว้า
รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่ องอินเทอร์ เน็ตเพิ่มเติมจากความรู ้ในห้องเรี ยน และ
ความรู ้พ้ืนฐานที่มีอยู่ เนื้ อหาก็จะเกี่ยวกับประวัติของอินเทอร์ เน็ต บริ การ
่
ต่างๆจากอินเทอร์ เน็ต และรายละเอียดอีกมากมาย กลุมของข้าพเจ้าหวังว่า
่ ้
รายงานเรื่ องอินเทอร์ เน็ตเล่มนี้จะมีประโยชน์ตอผูที่เปิ ดดู และเปิ ดอ่านไม่มาก
ก็นอย
้
หากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่น้ ีดวย
้
คณะผูจดทา
้ั
- 3. สารบัญ
เรื่ อง หน้า
- ความหมายของอินเทอร์ เน็ต 1
- ประวัติและความเป็ นมา 2
- เว็บเบราว์เซอร์ 2
- ประโยชน์ของเบราว์เซอร์ 3
- บริ การต่าง ๆ บนอินเตอร์ เน็ต 3-5
- การค้นหาข้อมูลโดยใช้เว็บเบราเซอร์ 5
- ข้อดีของอินเทอร์ เน็ต 6
- ข้อเสี ยของอินเทอร์ เน็ต 7
- อินเทอร์ เน็ตทาอะไรได้บาง
้ 7-8
- อนาคตของอินเตอร์ เน็ต 8
- เหตุผลสาคัญของอินเทอร์ เน็ต 9
- ปัจจัยหลักของอินเทอร์ เน็ต 9-10
- คาถาม 11-12
- เฉลย 13
- Mind map 14
- แหล่งอ้างอิง 15
- 4. อินเทอร์เน็ต
อินเทอร์ เน็ต
คือ เครื อข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกันเป็ นจานวนมากครอบคลุมไปทัวโลก โดยอาศัยโครงสร้าง
่
ระบบสื่อสารโทรคมนาคมเป็ นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูล มีการประยุกต์ใช้งานหลากหลายรู ปแบบ
อินเทอร์เน็ตเป็ นทั้งเครื อข่ายของคอมพิวเตอร์ และเครื อข่ายของเครื อข่าย เพราะอินเทอร์เน็ตประกอบด้วยเครื อข่าย
ย่อยเป็ นจานวนมากต่อเชื่อมเข้าด้วยกัน ภายใต้มาตรฐานเดียวกันจนเป็ นสังคมเครื อข่ายขนาดใหญ่ อินเทอร์เน็ตเป็ น
เครื อข่ายสาธารณะที่ไม่มีผใดเป็ นเจ้าของ ทาให้การเข้าสู่เครื อข่ายเป็ นไปได้อย่างเสรี ภายใต้กฎเกณฑ์บางประการที่
ู้
่ ่
กาหนดขึ้น เพือไม่ให้เกิดความสับสนและวุนวายจากการเชื่อมต่อจากเครื อข่ายทัวโลก อินเทอร์เน็ตมีรูปแบบคล้าย
่
กับเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ระบบ WAN แต่มีโครงสร้างการทางานที่แตกต่างกันมากพอสมควร เนื่องจากระบบ WAN
เป็ นเครื อข่ายที่ถูกสร้างโดยองค์กรๆ เดียวหรื อกลุ่มองค์กร เพือวัตถุประสงค์ดานใดด้านหนึ่ง และมีผดูแลระบบที่
่ ้ ู้
รับผิดชอบแน่นอน แต่อินเทอร์เน็ตจะเป็ นการเชื่อมโยงกันระหว่างคอมพิวเตอร์นบล้านๆ เครื่ องแบบไม่ถาวรขึ้นอยู่
ั
กับเวลานั้นๆ ว่าใครต้องการเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตบ้าง ใครจะติดต่อสื่อสารกับใครก็ได้ จึงทาให้ระบบอินเทอร์เน็ต
ไม่มีผใดรับผิดชอบหรื อดูแลทั้งระบบ
ู้
- 5. ประวัติและความเป็ นมาของอินเทอร์ เน็ต
เครื อข่ายอินเทอร์เน็ตถือกาเนิดในยุคของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอานาจ (สหรัฐอเมริ กา) กับรัสเซีย
เนื่องจากกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริ กาในขณะนั้นได้เกิดแนวคิดที่ตองการทาให้ระบบคอมพิวเตอร์
้
สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยคอมพิวเตอร์สามารถสังการและทางานได้ดวยตัวเอง โดยไม่จาเป็ นต้องมีผคอย
่ ้ ู้
ควบคุมดูแล หากมีการโจมตีดวยระเบิดปรมาณูหรื อขีปนาวุธนิ วเคลียร์ เข้ามาถล่มจุดยุทธศาสตร์ท่ีเมืองใดเมืองหนึ่ง
้
อาจทาให้ระบบคอมพิวเตอร์บางส่วนถูกทาลายไปแต่ส่วนที่เหลือจะต้องสามารถปฏิบตงานได้ ซึ่งเป้ าหมายนี้เองจึง
ัิ
ได้เกิดโครงการวิจยและพัฒนาระบบ เครื อข่ายดังกล่าวขึ้น เรี ยกว่า ARPA (Advanced Research Projects Agency)
ั
และได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดได้กลายมาเป็ นเครื อข่ายที่มีชื่อว่า “อินเทอร์เน็ต” (Internet) ในปั จจุบน
ั
เว็บเบราว์เซอร์ (Web browser)
เบราว์เซอร์หรื อโปรแกรมดูเว็บ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผใช้สามารถดูขอมูลและโต้ตอบกับข้อมูล
ู้ ้
สารสนเทศที่จดเก็บในหน้าเว็บที่ สร้างด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษาเอชทีเอ็มแอล (Html) ที่จดเก็บไว้ที่ระบบบริ การ
ั ั
เว็บหรื อเว็บเซิ ร์ฟเวอร์ หรื อระบบคลังข้อมูลอื่น ๆ โดยโปรแกรมค้นดูเว็บเปรี ยบเสมือนเครื่ องมือในการติดต่อกับ
เครื อข่าย คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรี ยกว่าเวิลด์ไวด์เว็บ
- 6. ประโยชน์ของ Web Browser
สามารถดูเอกสารภายในเว็บเซิ ร์ฟเวอร์ได้ อย่างสวยงาม มีการแสดงข้อมูลในรู ปของ ข้อความ ภาพ และ
ระบบมัลติมีเดียต่างๆ ทาให้การดูเอกสารบนเว็บมีความน่าสนใจมากขึ้น ส่งผลให้อินเตอร์เน็ตได้รับความนิยมเป็ น
อย่างมากเช่นในปั จจุบน
ั
บริ การต่าง ๆ บนอินเตอร์ เน็ต
ั ้
บริ การบนอินเทอร์เน็ตมีหลายประเภท เพืออานวยความสะดวกให้กบผูใช้ได้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับ
่
ลักษณะงาน ซึ่งในที่น้ ีจะยกตัวอย่างบริ การบนอินเทอร์เน็ตที่สาคัญดังนี้
์ ่ ่
1.) ไปรษณี ยอิเล็กทรอนิกส์หรื อเรี ยกกันโดยทัวไปว่าอีเมล์ (E-mail) ถือได้วาเป็ นกิจกรรมประจาวันของผูใช้ ้
่
อินเตอร์เน็ต ซึ่งการส่งและรับจดหมาย หรื อข้อความถึงกันได้ทวโลกนี้จาเป็ นจะต้องมีที่อยูอีเมล์ (e-mail address
ั่
่
หรื อ e-mail account) เพือใช้เป็ นกล่องรับจดหมาย ที่อยูของอีเมล์จะประกอบ ด้วยส่วนประกอบสาคัญ 2 ส่วน คือ ชื่อ
่
ผูใช้ (User name) และชื่อโดเมน (Domain name) ซึ่งเป็ นชื่อเครื่ องคอมพิวเตอร์ที่มีรายชื่อของผูใช้อีเมล์ โดยชื่อผูใช้
้ ้ ้
และชื่อโดเมนจะคันด้วยเครื่ องหมาย @(อ่านว่า แอ็ท)
่
2.) รายชื่อกลุ่มสนทนา เป็ นกลุ่มสนทนาประเภทหนึ่งบนอินเทอร์เน็ตที่มีการติดต่อสื่อสารและการส่ง
ข่าวสารให้กบสมาชิกตามรายชื่อและที่อยูของสมาชิกที่มีอยู่ ในรายการซึ่งในปั จจุบนมีกลุ่มที่แตกต่างกัน ตามความ
ั ่ ั
สนใจจานวนมาก การเข้าไปมีส่วนร่ วมในกลุ่มสนทนาประเภทนี้ ผูใช้จะต้อง สมัครสมาชิกก่อนด้วยการแจ้งความ
้
ประสงค์และส่งชื่อและที่อยูเ่ พือการลงทะเบียน
่
- 7. 3.) กระดานข่าว (Usenet) เป็ นการรวบรวมของกลุ่มข่าวหรื อ newsgroup ซึ่งเป็ นกลุ่มผูสนใจที่ตองการจะ
้ ้
ติดต่อและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผูใช้อินเทอร์เน็ตคนอื่น ๆ กลุ่มของ newsgroup ในปั จจุบนมีมากกว่า 10,000
้ ั
กลุ่มทีมีความสนใจในหัวข้อที่แตกต่างกัน เช่น กลุ่มผูสนใจศิลปะ กลุ่มคอมพิวเตอร์ กลุ่มผูช่ืนชอบภาพยนตร์ เป็ น
่ ้ ้
ต้น การส่งและรับแหล่งข่าวจาก Usenet จะใช้โปรแกรมสาหรับอ่านข่าวเพือไปดึงชื่อของกลุ่มข่าวหรื อหัวข้อจาก
่
เครื่ อง คอมพิวเตอร์ ที่ผใช้เข้าไปขอใช้บริ การ เช่นเดียวกับระบบชื่อโดเมน (DNS) กลุ่มข่าวจะมีการตั้งชื่อเพือใช้เป็ น
ู้ ่
แบบมาตรฐาน ซึ่งชื่อกลุ่มจะประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก ๆ คือ ชื่อหัวข้อกลุ่มข่าวหลัก (major topic) ชื่อกลุ่มข่าว
ย่อย (subtopic) และประเภทของกลุ่มข่าวย่อย (division of subtopic)
4.) การสนทนาออนไลน์ (On-line chat) เป็ นบริ การหนึ่งบนอินเทอร์เน็ตที่ช่วยให้ผใช้สามารถคุยโต้ตอบกับ
ู้
ผูใช้คน อื่น ๆ ได้ในเวลาเดียวกัน การสนทนาหรื อ chat ได้มีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ปั จจุบนการสนทนาระหว่าง
้ ั
บุคคลหรื อ กลุ่มบุคคลสามารถใช้ภาพกราฟิ ก ภาพการ์ตูนหรื อภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ แทนตัวผูสนทนาได้ นอกจาก
้
การสนทนาแล้ว ผูใช้ยงสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและไฟล์ได้อีกด้วย
้ ั
5.) การขนถ่ายไฟล์(file transfer protocol) หรื อที่เรี ยกสั้น ๆว่า เอฟทีพี (FTP) เป็ นบริ การที่ใช้สาหรับการ
แลกเปลี่ยนไฟล์ระหว่างเครื่ องคอมพิวเตอร์ทางอินเตอร์เน็ต เครื่ องคอมพิวเตอร์ที่ให้บริ การไฟล์จะเรี ยกว่า เอฟทีพี
เซิร์ฟเวอร์ (FTP sever หรื อ FTP site) ข้อมูลที่ให้บริ การขนถ่ายไฟล์จะมีลกษณะหลายรู ปแบบ ได้แก่ขอมูลสถิติ
ั ้
งานวิจย บทความ เพลง ข่าวสารทัวไป หรื อโปรแกรมฟรี แวร์ (freeware) ที่สามารถดาวน์โหลดและใช้โปรแกรมฟรี
ั ่
ในบางครั้งเครื่ องคอมพิวเตอร์ท่ให้บริ การขนถ่ายไฟล์จะให้บริ การ เฉพาะบุคคลที่มีบญชีรายชื่ออยูในเครื่ อง
ี ั ่
คอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ก็มีเครื่ องคอมพิวเตอร์ที่ให้บริ การขนถ่ายไฟล์จานวนมากอนุญาตให้ผใช้ ทัวไปได้เข้าไปใช้
ู้ ่
่
บริ การ ถึงแม้วาในบางครั้งจะไม่อนุญาต ให้ขนถ่ายไฟล์ท้งหมดก็ตาม
ั
6.) การเรี ยกค้นข้อมูลข่าวสาร ปั จจุบนมีฐานข้อมูลข่าวสารที่เก็บไว้ให้ใช้งานจานวนมาก ฐานข้อมูลบางแห่ง
ั
เก็บข้อมูลในรู ปสิ่งพิมพ์ อิเล็กทรอนิกส์ ที่ผใช้สามารถเรี ยกอ่านหรื อนามาพิมพ์ ลักษณะการเรี ยกคืนนี้จึงมีลกษณะ
ู้ ั
่
เหมือนเป็ นห้องสมุดขนาดใหญ่ อยูภายในเครื อข่ายที่สามารถค้นหาข้อมูลใดๆก็ได้ ฐานข้อมูล ในลักษณะ นี้เรี ยกว่า
“เครื อข่าย ใยแมงมุม ครอบคลุม ทัวโลก” (World Wide Web: WWW) ซึ่งเป็ นฐานข้อมูลที่เชื่อมโยง กันทัวโลก
่ ่
7.) การบริ การสถานีวทยุและโทรทัศน์บนเครื อข่าย เป็ นการประยุกต์ เพือให้เห็นว่าเป็ นสิ่งที่เกิดขึ้นได้
ิ ่
ปั จจุบนมีผต้งสถานีวทยุบนเครื อข่าย อินเทอร์เน็ตหลายร้อยสถานี ผูใช้สามารถเลือกสถานีที่ตองการและได้ยนเสียง
ั ู้ ั ิ ้ ้ ิ
่
เหมือนการเปิ ดฟังวิทยุ ขณะเดียวกันก็มีการส่งกระจายภาพ วิดีโอ บนเครื อข่ายด้วยแต่ปัญหายังอยูที่ความเร็ว ของ
เครื อข่ายที่ยงไม่สามารถรองรับการ ส่งข้อมูลจานวนมาก ทาให้คุณภาพของภาพวีดิโอยังไม่เห็นดีเท่าที่ควร
ั
- 8. ั ่
8.) เทลเน็ต (telnet) เป็ นบริ การที่ให้ผใช้สามารถใช้บริ การเครื่ องคอมพิวเตอร์ ที่ต้งอยูระยะไกล โดยจะใช้
ู้
การจาลองเครื่ องคอมพิวเตอร์ที่กาลังใช้งานอยู่ ให้เป็ นจอภาพ ของเครื่ องคอมพิวเตอร์ระยะไกลเครื่ องนั้น การทางาน
ในลักษณะนี้ จะช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในกรณี ที่ตองเดินทางไปใช้งาน เครื่ องคอมพิวเตอร์ระยะไกล การ
้
ใช้งานเทลเน็ตจะเป็ นการแสดงข้อความตัวอักษร (text mode) โดยปกติการเข้าไปใช้บริ การเครื่ องคอมพิวเตอร์
ระยะไกล จาเป็ นต้องมีรายชื่อผูใช้และรหัสผ่าน แต่ก็มีบางหน่วยงานที่อนุญาตให้เข้าใช้บริ การโดยไม่ตองระบุ
้ ้
รหัสผ่านเพือ เป็ นการให้บริ การข้อมูลแก่ลูกค้าทัว ๆ ไป
่ ่
การค้นหาข้อมูลโดยใช้เว็บเบราเซอร์
่ ั่
อินเทอร์เน็ตเป็ นเครื อข่ายใยแมงมุมที่มีการเชื่อมโยงแหล่งข้อมูลที่กระจัดกระจายอยูทวโลก การค้นหาข้อมูล
่
จากแหล่งต่างๆ ถ้าผูใช้ไม่ทราบที่อยูของเว็บไซต์ ก็สามารถค้นหาแหล่งข้อมูลโดยใช้บริ การค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้
้
กล่าวมาแล้ว ปั จจุบนการค้นหาข้อมูลที่ตองการเป็ นเรื่ องที่กระทาได้สะดวกและรวดเร็ว การพัฒนาเว็บไซต์ที่ช่วย
ั ้
สืบค้นแหล่งข้อมูลที่เรี ยกว่า เครื่ องค้นหา (search engine) ช่วยให้การค้นหาทั้งในรู ปของข้อความและกราฟิ ก กระทา
ได้โดยง่าย
- 9. ข้อดีของอินเทอร์ เน็ต
1. ค้นคว้าข้อมูลในลักษณะต่างๆ เช่น งานวิจย บทความในหนังสือพิมพ์ ความก้าวหน้าทางกาแพทย์ ฯลฯ ได้
ั
จากแหล่งข้อมูลทัวโลก เช่น ห้องสมุด สถาบันการศึกษา และสถาบันวิจย โดยไม่ตองเสียค่าใช้จ่ายและ เสียเวลาใน
่ ั ้
การเดินทางและสามารถสืบค้นได้ตลอดเวลา 24 ชัวโมง
่
2. ติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ทัวโลกได้อย่างรวดเร็ วจากการรายงานข่าวของสานักข่าวต่างๆ อยู่ รวมทั้ง
่
อ่านบทความเรื่ องราวที่ลงในนิตยสารหรื อวารสารต่างๆ ได้ฟรี โดยมีท้งข้อความและภาพประกอบด้วย
ั
3. รับส่งไปรษณี ยอิเล็กทรอนิกส์ทวโลกได้อย่างรวดเร็ วโดยไม่ตองเสียเงินค่าตราไปรษณี ยยากร ถึงแม้จะ
์ ั่ ้ ์
เป็ นการส่งข้อความไปต่างประเทศก็ไม่ตองเสียเงินเพิมขึ้นเหมือนการส่งจดหมาย การส่งไปรษณี ยอิเล็กทรอนิกส์น้ ี
้ ่ ์
นอกจากจะส่งข้อความตัวอักษรแบบจดหมายธรรมดาแล้ว ยังสามารถส่งแฟ้ มภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง
พร้อมกันไปได้ดวย ้
4. สนทนากับผูอื่นทีอยูห่างไกลได้ท้งในลักษณะการพิมพ์ขอความและเสียง
้ ่ ่ ั ้
5. ร่ วมกลุ่มอภิปรายหรื อกลุ่มข่าวเพือแสดงความคิดเห็น หรื อพูดคุยถกปั ญหากับผูที่สนใจในเรื่ องเดียวกัน
่ ้
เป็ นการขยายวิสัยทัศน์ในเรื่ องที่สนใจนั้นๆ
6. ถ่ายโอนแฟ้ มข้อความ ภาพ และเสียงจากที่อื่นๆ รวมทั้งโปรแกรมต่างๆ ได้จากแหล่งที่มีผให้บริ การ
ู้
7. ตรวจดูราคาสินค้าและสังซื้อสินค้ารวมทั้งบริ การต่างๆ ได้โดยไม่ตองเสียเวลาเดินทางไปห้างสรรพสินค้า
่ ้
8. ให้ความบันเทิงหลายรู ปแบบ เช่น การฟังเพลง รายการวิทยุ การชมรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ รวมไป
ถึงการแข่งขันเกมกับผูอื่นได้ทวโลก
้ ั่
9. ติดประกาศข้อความที่ตองการให้ผอื่นทราบได้อย่างทัวถึง
้ ู้ ่
10. ให้เสรี ภาพในการสื่อสารทุกรู ปแบบแก่บุคคลทุกคน
- 10. ข้อเสี ยของอินเทอร์ เน็ต
1. อินเทอร์เน็ตเป็ นข่ายงานขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครเป็ นเจ้าของ ทุกคนจึงสามารถสร้างเว็บไซด์หรื อติดประกาศ
ข้อความได้ทุกเรื่ อง บางครั้งข้อความนั้นอาจจะเป็ นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรื อไม่ได้รับการรับรอง เช่น ข้อมูลด้าน
การแพทย์หรื อผลการทดลองต่างๆ จึงเป็ นวิจารณญาณของผูอ่านที่จะต้องไตร่ ตรองข้อความทีอ่านนั้นด้วยว่าควรจะ
้ ่
เชื่อถือได้หรื อไม่
2. นักเรี ยนและเยาวชนอาจติดต่อเข้าไปในเว็บไซด์ที่ไม่เป็ นประโยชน์หรื ออาจยัวยุอารมณ์ ทาให้เป็ น
่
อันตรายตัวตัวเองและสังคม
อินเตอร์ เน็ตทาอะไรได้บาง
้
1. การค้นหาข้อมูล เราสามารถค้นหาข้อมูลและสิ่งที่ตองการอยากรู ้ได้ โดยการค้นหาจากเว็บไซด์ต่าง ๆ บน
้
อินเทอร์เน็ต World Wide Web หรื อ WWW. เป็ นบริ หารข้อมูลแบบต่าง ๆ ซึ่งมีการ เชื่อมโยงถึงกันได้ ตัวอย่างเช่น
การค้นหาข้อมูลด้วย Google จาก www.google.co.th
2. เพือการศึกษา การใช้อินเทอร์เน็ตเพือการศึกษา ปั จจุบนมีเว็บที่บริ การเรี ยนออนไลน์มากมายหลากหลาย
่ ่ ั
วิชา มีท้งแบบข้อความเพืออ่าน ภาพประกอบ เสียงบรรยาย หรื อวีดีโอสอนก็มี
ั ่
- 11. 3. เพือความบันเทิงและข่าวสาร นอกจากทีกล่าวมาเรายังสามารถดูหนัง ฟังเพลง หรื ออ่านหนังสือพิมพ์
่ ่
นิตยาสาร เพือให้มีความรู ้เพิมเติมได้ ดังตัวอย่างนี้
่ ่
4. เพือการสนทนาหรื อจดหมายอีเล็กทรอนิกส์ เราสามารถติดต่อกันได้โดยการสนทนาผ่านอินเทอร์เน็ต เช่น
่
การสนทนาด้วยการพิมพ์ขอความโต้ตอบ หรื อการสนทนาผ่านระบบเสียงการใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์และ อื่น ๆ
้
ดังตัวอย่างนี้
5. เพืองานธุรกิจ นอกจากทีได้กล่าวมา เรายังสามารถใช้อินเทอร์เน็ตเพืองานธุรกิจได้ เช่น ซื้อขายสินค้า
่ ่ ่
ออนไลน์ การทางานเกี่ยวกับการเงิน เช่น โอนเงินระหว่างธนาคารและอื่น ๆ อีกมากมาย
อนาคตของอินเตอร์ เน็ต
ในต่างประเทศ อินเตอร์ เน็ตกลายเป็ นโลกใหม่ของบุคคลในศตวรรษใหม่น้ ีเสียแล้วถึงขนาดที่กล่าวกันว่า
การที่สหรัฐอเมริ กายังคงมีเศรษฐกิจที่ร่ ารวยอยูจนถึงทุกวันนี้ ไม่ตกต่าอย่างบ้านเราก็เพราะธุรกิจที่เกี่ยวกับ
่
เทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ต หรื อที่เรี ยกกันว่าเศรษฐกิจโลกใหม่ (New Economy) นี่เอง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผานมา
่
อินเทอร์เน็ตถูกใช้ในฐานะของสื่ออย่างหนึ่ง ช่วยให้คนซึ่งอยูคนละซีกโลกสามารถแรกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ง่าย ๆ แต่
่
ตอนนี้อินเตอร์เน็ตกลับกลายเป็ นลู่ทางการค้าที่สาคัญ เนื่องจากอินเตอร์เน็ตทาให้ตนทุนการผลิตต่าช่วยส่งเสริ มให้
้
เกิดการค้าข่ายในอินเตอร์เน็ตหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี ทาให้บริ ษทยักษ์ใหญ่และเล็กแทบทั้งหมด กระโดยเข้ามา
ั
ลงทุนในอินเตอร์เน็ต จึงไม่น่าแปลกทีอินเตอร์เน็ตจะมีสิ่งแปลก ๆ ใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งนี้เพราะเงินทุนที่
่
ไหลเข้ามาสู่โลกอินเตอร์เน็ตมากมายนี่เอง ในฐานะผูใช้งานธรรมดาเรายังสามารถมันใจได้วา หากศึกษาอินเตอร์เน็ต
้ ่ ่
่
ในวันนี้จะมีประโยชน์อย่างมากอย่างแน่นอน เนื่องจากอินเตอร์เน็ตก้าวเข้ามามีบทบาทกับผูใช้อย่างมาก ไม่วาจะเป็ น
้
เรื่ องข่าวสารแทนหนังสือพิมพ์ การส่งจดหมาย การโทรศัพท์ฟรี การส่งแฟกซ์ หรื อ แม้แต่การคบเพือนทาง
่
อินเตอร์เน็ต แต่ถึงแม้วาผูใช้งานจะได้ประโยชน์ แต่ในมุมของผูมองของผูที่อยากทาธุรกิจเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตก็
่ ้ ้ ้
่
อาจจะยังพูดไม่ได้วาจะสาเร็จหรื อไม่ เพราะใคร ๆ ต่างก็วงเข้าไปลงทุนกับธุรกิจในอินเตอร์เน็ต จนอาจจะมาก
ิ่
เกินไปแล้วก็ได้ คงมีบางส่วนที่ตองขาดทุนในไม่ชา ดังนั้นหากมีใครชวนคุณไปลงทุนทากิจการเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
้ ้
่
ก็ตองช่างใจให้ดีวาน่าลงทุนหรื อไม่
้
- 12. เหตุผลสาคัญที่ทาให้อินเตอร์ เน็ตได้รับความนิยมแพร่ หลายคือ
1. การสื่อสารบนอินเตอร์เน็ตไม่จากัดระบบปฏิบติการของเครื่ องคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ที่ต่าง
ั
ระบบปฏิบติการกันก็สามารถติดต่อสื่อสารกันได้
ั
่ ่
2. อินเตอร์เน็ตไม่มีขอจากัดในเรื่ องของระยะทาง ไม่วาจะอยูภายในอาคารเดียวกันห่างกันคนละทวีป ข้อมูล
้
ก็สามารถส่งผ่านถึงกันได้
3. อินเตอร์ เน็ตไม่จากัดรู ปแบบของข้อมูล ซึ่งมีได้ท้งข้อมูลที่เป็ นข้อความอย่างเดียว หรื ออาจมี
ั
ภาพประกอบ รวมไปถึงข้อมูลชนิดมัลติมีเดีย คือมีท้งภาพเคลื่อนไหวและมีเสียงประกอบด้วยได้
ั
ปัจจัยหลักที่ทาให้อินเทอร์ เน็ตเป็ นปรากฏการณ์ของยุคสมัยประกอบด้วย
1. อินเทอร์เน็ตเป็ นเทคโนโลยีเครื อข่ายที่ใช้ง่าย ทาให้กลายเป็ นบริ การที่ประชาชนทัวไปใช้ได้อย่าง
่
สะดวก โดยไม่จาเป็ นต้องมีความรู ้ดานโปรแกรมคอมพิวเตอร์
้
- 13. 2. อินเทอร์เน็ตเป็ นเครื อข่ายแห่ งเครื อข่าย (Network of Networks) ทาให้เกิดการเชื่อมโยงกันอย่างเสรี โดย
ไม่มีการปิ ดกั้น
3. สามารถเผยแพร่ ขอมูลของตนเองสู่สงคมโลกได้ง่าย
้ ั
4. การสื่อสารผ่านระบบไปรษณี ยอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) เป็ นการปฏิวติระบบการสื่อสารทัวโลกด้วย
์ ั ่
ความเร็ว และแม่นยา
่
5. สามารถแลกเปลี่ยนสาระความรู ้ผานระบบ Bulletin Board และ Discussion Groups ต่างๆ ทาให้เกิดการ
ั
แลกเปลี่ยนความรู ้กนได้อย่างกว้างขวาง และทัวถึงมากขึ้น
่
6. มีเทคโนโลยีของการรับส่งข้อมูลผ่านระบบ File Transfer Protocol (FTP) ทาให้การรับส่งข้อมูลตั้งแต่
เอกสาร 1 หน้า ไปจนถึงหนังสือทั้งเล่มเป็ นไปได้อย่างสะดวก รวดเร็ ว และประหยัด
่
7. มีการพัฒนาอยูตลอดเวลา เช่น การใช้ Internet Phone, Voice e-mail, Chat, การประชุมทางไกลผ่าน
อินเทอร์เน็ต
8. อินเทอร์เน็ตเป็ นการปฏิวติอุตสาหกรรม ในรู ปแบบของ "วาณิ ชย์อิเล็กทรอนิกส์"
ั
(Electronic Commerce)
9. มีรูปแบบของการสืบค้นข้อมูลของภาษา HTML (Hypertext Markup Language) ซึ่งนอกจากจะสะดวก
และง่ายต่อการใช้แล้ว ยังเป็ นสภาพแวดล้อมที่อาจมีผลทางจิตวิทยา ให้ผูใช้คนหาข้อมูลลึกลงไปเป็ นชั้น ๆ ด้วย
้ ้
คุณสมบัติของ Web Browser ในอินเทอร์เน็ต
- 14. คาถาม เรื่ องอินเทอร์ เน็ต
1. เทลเน็ตเป็ นการแสดงอะไร
ก.แสดงข้อมูล ข.แสดงรู ปภาพ ค.แสดงข้อความตัวอักษร ง.แสดงผล
2. อินเทอร์ เน็ตถือกาเนิดขึ้นในประเทศอะไร
ก.จีน ข.ญี่ปน
ุ่ ค.สหรัฐอเมริ กา ง.รัสเซี ย
3. ประโยชน์ของเว็บเบราวเซอร์ ขอใดถูกต้อง
้
ก.สามารถดูเอกสารในเว็บเซิ ร์ฟเวอร์ ได้ ข.สามารถอัพโหลดเว็บต่างๆได้
ค.สามารถส่ งข้อมูลได้ ง.สามารถย้ายข้อมูลได้
4. อินเทอร์ เน็ตมีรูปแบบคล้ายกับเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบใด
ก.ระบบ WAN ข.ระบบ ARPA ค.ระบบ HTML ง.ระบบ CHAT
5. โครงงานวิจยและพัฒนาระบบ เรี ยกว่าอะไร
ั
ก.ARAP ข.ARPA ค.ADPA ง.PDAR
6. ข้อใดไม่ใช่เหตุสาคัญที่ทาให้อินเทอร์ เน็ตได้รับความนิยมแพร่ หลาย
ก.การสื่ อสารไม่จากัดระบบปฏิบติการของคอมพิวเตอร์
ั ข.ไม่จากัดรู ปแบบของข้อมูล
ค.ไม่มีขอจากัดในเรื่ องของระยะทาง
้ ง.ดูเว็บอนาจาร ลามก
7. การพัฒนาเว็บไซต์ที่ช่วยสื บค้นแหล่งข้อมูลที่เรี ยกว่า
ก.เครื่ องข้อมูล ข.เครื่ องพัฒนา ค.เครื่ องค้นหา ง.เครื่ องวิจย
ั
- 15. 8. ไปรษณี ยอิเล็กทรอนิกส์มีส่วนประกอบสาคัญกี่ส่วน
์
ก.1ส่ วน ข.2ส่ วน ค.3ส่ วน ง.4ส่ วน
9. เว็บเบราว์เซอร์ ทาหน้าที่อะไร
ก.เผยแพร่ ความรู ้เป็ นขั้นตอน ข.สร้างภาษา
ค.มีระบบตอบข้อซักถาม ง.มีการบริ หารจัดการ
10. FTP เป็ นบริ การเกี่ยวกับอะไร
ก.การสนทนาออนไลน์ ข.เทลเน็ต ค.กระดาษข่าว ง.การขนถ่ายไฟล์
- 18. แหล่งอ้างอิง
- http://school.obec.go.th/mrPaisan/e-learning/information/content/internet1.htm
- http://school.obec.go.th/kudhuachang/les01.htm
- http://tc.mengrai.ac.th/paisan/e-learning/internet/page21.htm
- http://www.mindphp.com/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1/66-
server-hosting/1849-web-browser-
%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%AD%
E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3-web-browser-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD.html
- http://pirun.ku.ac.th/~b5011172/Page_5.html
- http://www.rayongwit.ac.th/computer/m2fri49/g18m2fri/internet_goodbad.htm
- http://school.obec.go.th/kudhuachang/les02.htm
- http://www.school.net.th/library/create-web/10000/generality/10000-5955.html