SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  26
Télécharger pour lire hors ligne
การดูดเสมหะ
วิชา เทคนิคหัตถการขั้นพืนฐาน
้
สาขาเวชกิจฉุ กเฉิน
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

อาจารย์นันทวรรณ ทิพยเนตร
สอนวันที่ 29 ตค 2556
วัตถุประสงค์ การเรี ยนรู้
บอกความหมายการดูดเสมหะได้
 ประเมินสภาพผูป่วยที่ควรได้รับการดูดเสมหะได้
้
 ระบุขอวินิจฉัยทางการพยาบาลเพื่อการดูดเสมหะได้
้
 วางแผนการพยาบาลเพื่อการดูดเสมหะได้ถกต้อง
ู
 ปฏิบติการดูดเสมหะได้ถูกต้อง
ั
 ประเมินผูป่วยที่ได้รับการดูดเสมหะได้ถูกต้อง
้

หลักการ
เสมหะ เป็ นสิ่ งคัดหลังที่ถูกสร้างจาก submucal gland วันละ 10่
100cc
 เป็ นกลไกการป้ องกันตัวของร่ างกาย โดยเก็บกักสิ่ งแปลกปลอม
หรื อฆ่าเชื้อโรคที่ระคายเคืองต่อเซลในทางเดินหายใจ
 ในผูที่ใส่ ท่อหลอดลมเทียม (ETT,TT ) เนื่ องจากการแลกเปลี่ยน
้
กาซลดลง อันเนื่องมาจากพยาธิสภาพของโรคเช่น เนื้องอก
ทางเดินหายใจเป็ นอัมพาต ท่อเหล่านี้กระตุนให้หลัง mucous มาก
้
่
ขึ้น +ไอออกเองไม่ได้+ทางเดินหายใจส่ วนบนแห้ง เสมหะอุดกั้น
ได้

ความหมายของการดูดเสมหะ









การเอาเสมหะออกจากทางเดินหายใจ ในกรณี ที่ไอออกเองไม่ได้ ทา
โดยใส่ สายยางดูดเสมหะที่สะอาดปราศจากเชื้อ ผ่านเข้าหลอดลม
เทียม หรื อทางเดินหายใจส่ วนบน
ท่อหลอดลม (ETT) ท่อยางที่ใส่ เข้าไปในปากจนถึงหลอดลมคอ เป็ น
่
การใส่ ชวคราว เพื่อเป็ นทางผ่านออกซิเจน ปลายด้านที่อยูในหลอดลม
ั่
จะมีกระเปาะ (cuff)
ETT1 เทคนิคการใส่ ETT sniffing position
ETT2 ตัวอย่าง case difficult airway
ETT3 เทคนิคการใส่ ETT
ETT4 เทคนิค ETT suction
ความหมายของการดูดเสมหะ 2
ท่อเจาะหลอดลม (TT) ท่อที่ใส่ เข้าไปในหลอดลมคอทางแผล
ผ่าตัดเปิ ดผิวหนังจากบริ เวณคอเข้าไปในหลอดลมคอ ท่อทาด้วย
วัสดุหลายชนิด ขนาดเบอร์ต่างๆกัน เช่น โลหะเงิน พลาสติกชนิด
ซิลิโคน มี inner, outer tube
 TT1 เทคนิ คเจาะคอ cricoid thyroidotomy
 TT2 เทคนิ ค tracheostomy suction
 แนะนาตัว-check pt.-บอกวัตถุประสงค์-ปั ญหาที่พบ-บอกหายใจ
ลึกๆ-ล้างมือ-ใส่ ถุงมือ-เปิ ดเครื่ องเช็ค-ประเมินผูป่วยอีกก่อนทา้
วางผ้าสะอาด-เริ่ มปฏิบติ
ั

ความหมายของการดูดเสมหะ 3
ทางปากและจมูก เมื่อมีน้ ามูก น้ าลาย เลือด และสิ่ งคัดหลัง หรื อ
่
คลื่นไส้อาเจียน
 Nasotracheal suction
 ล้างมือ-ปรับหัวสู ง- เตรี ยมพร้อมอุปกรณ์-O2100%-RRลึกๆ-วาง
พื้นที่สะอาด-เปิ ดสายaseptic tech-NSS-KY jelly-เปิ ดsuction-มือ
ข้างaseptic ถือสายดูด 10-15 sec/timeพร้อมหมุนมือ-ล้างสายด้วย
NSS
 Oral suction
 เพิม v/s, Ox sat
่

หลักการ
เพื่อลดการคังค้างของเสมหะ ทาให้หายใจโล่ง
่
 ไม่มีการติดเชื้อทางเดินหายใจ
 ไม่เกิดวิตกกังวล
 โดยใช้กรอบแนวคิดกระบวนการพยาบาล คือ
: ประเมินสภาพผูป่วย-ตั้งข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล-วางแผนการ
้
พยาบาล-ปฏิบติกิจกรรมการพยาบาล-ประเมินผลการพยาบาล
ั

การประเมินสภาพผู้ป่วยที่ต้องได้ รับการดูดเสมหะ
assessment clients need
ข้อบ่งชี้
 หายใจเสี ยงดัง มีเสี ยงเสมหะภายในท่อหลอดลม ฟังปอดมี rhonchi
 PR,RR เพิมโดยไม่มีสาเหตุอื่น
่
 สี หน้าท่าทางไม่สุขสบาย กระสับกระส่ าย
 ผิวหนังเขียวคล้ า จากพร่ องออกซิ เจนอย่างรุ นแรง
 ผูป่วยไม่รู้สึกตัว ก่อนจัดท่าต้องดูดเสมหะให้
้
 ก่อนใส่ NG tube
 ก่อนและหลัง off cuff ETT,TT
 ภายหลังกระตุนไอ ไอไม่มีประสิ ทธิ ภาพ
้
 ต้องการให้ดูดให้
การตังข้ อวินิจฉัยทางการพยาบาล
้
nursing diagnosis


ผูป่วยใส่ ท่อ +มีเสมหะ+ ขับออกไม่ได้ = การแลกเปลี่ยนกาซของ
้
ระบบหายใจไม่มีประสิ ทธิภาพ เนื่องจากเสมหะในลาคอ
การวางแผนการพยาบาล 1
เปาหมาย
้
 ช่วยขจัดเสมหะ ทาให้ทางดินหายใจโล่ง
 ป้ องกันการติดเชื้อ ระบบทางเดินหายใจผูป่วย
้
 เพื่อความสุ ขสบายลดวิตกกังวล
 เก็บเสมหะส่ งตรวจ
การวางแผนการพยาบาล II
การวางแผน nursing plan
 เตรี ยมผูป่วย
้
◦ ให้การพยาบาลแบบองค์รวม ทั้งกาย จิต สังคม
◦ คานึงถึงความสุ ขสบายผูป่วย
้
◦ ป้ องกันภาวะแทรกซ้อน

เตรี ยมอุปกรณ์ ครบถ้วน ถูกต้อง
 ปฏิบติการตามขั้นตอน ถูกวิธี
ั

การปฏิบัติการกิจกรรมการพยาบาล
nursing intervention
1.ให้การพยาบาลผูป่วยแบบองค์รวม ทั้งร่ างกายจิตใจ อธิบายให้
้
ทราบวัตถุประสงค์
2.คานึงถึงความสุ ขสบาย
◦ บรรเทาความเจ็บปวดจากการดูดเสมหะ โดยการประเมินสัญญาณต่างๆ
การ keep warmทารก
◦ จัดท่าให้สะดวกในการใส่ สายเพราะเป็ นการกระตุน gag reflex
้
 Consciousness : semi fowler’s position กระบังลมเคลื่อนเต็มที่
ตะแคงหน้ามาทางพยาบาลลิ้นจะตกมาทางหน้า
 Unconsciousness : นอนราบ เอียงหน้ามาทางพยาบาล เสมหะออก
ง่าย ป้ องกันสาลัก
การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลIII
ิ
3.ป้ องกันภาวะแทรกซ้อน
3.1ป้ องกันการติดเชื้อ เทคนิคการทาอุปกรณ์ตองaseptic technique+
้
mouth care
3.2 ป้ องกันเกิดภาวะhypoxemia, hypoxia, anoxia
3.2.1 ระยะเวลาการดูดเสมหะ
 ผูใหญ่ 10-15 วินาที, เด็ก 5-10 วินาที
้
 ก่อนดูดซ้ า ให้หายใจนาน 3-5 ครั้งก่อน
 แต่ละรอบดูดไม่เกิน 3 ครั้ง
 เนื่องจากvagus n.ในcarinaลด HR, BP drop, irr.ไอ
,bronchospasm
การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลIII
ิ
3.2 ป้ องกันเกิดภาวะhypoxemia, hypoxia, anoxia_II
3.2.2 กรณี on respirator/ventilator
 Volume ventilator ก่อน/หลัง suction ต้องให้ออกซิ เจนความเข้มข้น
เพิ่ม: hyperoxygenate 20% นาน 1-2min.
 Pressure control ให้ออกซิ เจน 100% แล้วบีบ self inflating bag/ambu
bag นาน2-3 ครั้ง ป้ องกัน PaO2 ลดลง ลดการเกิด atelectasis
่
 Secretion อยูส่วนบน trachea ห้ามบีบ ambu bag
 ถ้ายังคง restless, HR ช้าลง ต้องหยุด แสดงว่าขาดออกซิ เจนO2
100% ทาง ambu bag จนดีข้ ึน
 ในเด็กเล็ก ก่อน/หลัง suction ต้อง hyper inflate ปอด >=3 ครั้งด้วย
O2 100% ทาง mask/ท่อช่วยหายใจ
การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลIV
ิ
3.2 ป้ องกันเกิดภาวะhypoxemia, hypoxia, anoxia_III
3.2.3 ถ้ามีอาการหายใจไม่ดี dyspnea, cyanosis
 Ambu bag+ resevoire bag+ O2 100% นาน10-20minnotify Dr.
 On O2 10 lpm นาน10-20minnotify Dr.
3.2.4 ขณะใส่ สายดูดเสมหะเข้า trachea อย่าให้มีแรงดูด เพราะจะดูด
อากาศออกไปด้วย
การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลV
ิ
3.3 ป้ องกันเกิดเซลเยือบุหลอดลมอักเสบ เลือดออก
่
3.3.1 ถ้าOn ETT with cuff ต้อง deflate cuff ก่อนดูด ลดแรงกดของ
กระเปาะต่อเยือบุหลอดลมลด tissue necrosis, เสมหะบนท่อไหลลง
่
3.3.2 ปรับ negative pressure ให้ถกต้อง เหมาะสม เพราะแรงดูดมากไป
ู
hypoxia
-pipeline suction :
Adult 80-120 mmHg.,เด็กโต 80-100 mmHg.,เด็กเล็ก 60-90 mmHg.,ทารก
แรกเกิด 40-60 mmHg.
-mobile suction:
Adult 10-15mmHg.,เด็กโต 5-10 mmHg., เด็กเล็ก 2-5 mmHg.
การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลVI
ิ
3.4 ป้ องกันเกิดภาวะปอดแฟบ (lung collapse)
 เลือกใช้สายดูดให้เหมาะสม ควรมีขนาดเส้นผ่าศก.ภายนอกไม่
เกินครึ่ งหนึ่งของ เส้นผ่าศก.ภายในของ trachea เพราะสาย
ขนาดใหญ่เกินไปช่องว่างที่เหลือไม่พอสาหรับอากาศภายนอก
เข้าไปแทนที่
 Adult #14-16Fr.,เด็ก 8-10Fr., ทารก 5-8 Fr.
การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลVII
ิ
4. เตรี ยมอุปกรณ์ ครบถ้วนถูกต้อง
4.1 อุปกรณ์ suction
4.1.1 Stethoscope
4.1.2 เครื่ อง suction + ท่อยาง + joint รู ปตัว Y ควบคุมแรงดัน(ถ้าไม่มีให้
หักพับสายเมื่อไม่ตองการดูด)
้
4.1.3 สายดูดเสมหะปลอดเชื้อ ยาว 50-60 cms. ควรใช้แล้วทิ้งหาก reuse
อาจพบสิ่ งตกค้าง+สายไม่นิ่ม
4.1.4 ถุงมือปราศจากเชื้อ 1 ข้าง/คู่
การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลVIII
ิ
4.1 อุปกรณ์ suction_II
4.1.5 Transfer forceps
4.1.6 ขวดน้ า sterile
4.1.7 ภาชนะใส่ น้ ายาระงับเชื้อแช่สายยาง ถุงมือใช้แล้ว/ถังขยะติดเชื้อ
4.1.8 กระปุกสาลี Alc (ปราศจากเชื้อ)
4.1.9 syr.2cc +NSS (ปราศจากเชื้อ)
4.1.10 syr.10cc deflate cuff
การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลIX
ิ
4.1 อุปกรณ์ suction_III
4.1.12 ชามรู ปไตใส่ inner tube
4.1.13 กรณี เปลี่ยนแผล TT: set dressing, y gauze, น้ ายาทาแผล,plaster, ถุง
มือ dispose, เชือกผูกท่อ TT
4.1.14 กรณี เก็บเสมหะ: กรรไกรตัดไหม, ขวด sputum c/s
การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลX
ิ
5. ปฏิบติการ suction อย่างถูกวิธี
ั
5.1 ประเมินเสี ยงหายใจ ปริ มาณเสมหะ
5.2 แจ้งผูป่วยทราบเพื่อลดวิตกกังวล
้
5.3 จัดท่าให้เหมาะสม
5.4 ล้างมือ
5.5 ใช้สาลีAlc.เช็ด joint วางสายไม่ให้ contaminate
5.6 เตรี ยมสาย suction ฉี กถุงยาวประมาณ 1.5 cms ไม่ให้ contaminate
5.7 สวมถุงมือปราศจากเชื้อข้างที่ถนัด
5.8 หยิบสายดูดเสมหะด้วยมือที่สวมถุงมือsterile ระวัง contaminate มืออีก
ข้างหยิบjoint มาต่อ
การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลXI
ิ
5. ปฏิบติการ suction อย่างถูกวิธี
ั
5.9 ใช้หลัก aseptic technique สอดสายยางผ่านช่องทางเดินหายใจ
5.9.1 กรณี on ETT, TT ห้ามใส่ ขณะกลืน เพราะท่อจะลงหลอดอาหาร
ขณะใส่ สายไม่เปิ ดแรงดูด ใส่ ลึกถึง carina หากรู ้สึกมีสิ่งกีดขวางให้ดึง
สายขึ้น 1cm.
5.9.2 กรณี nasopharynx suction ให้กะระยะความยาวสายจากปลายจมูกถึง
ติ่งหู: adult=13cms,เด็กโต 8-12cms, เด็กเล็ก 4-8cms ใช้นิ้วมือข้างที่
sterile ทาเครื่ องหมายไว้ หล่อลื่นสายด้วย jelly สอดสายเข้าชิดผนังจมูก
ด้านล่าง
การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลXII
ิ
5. ปฏิบติการ suction อย่างถูกวิธี_II
ั
5.9.3 oropharynx suction สอดสายดูดเข้าทางข้างๆปาก(กันการขย้อน)
จนถึง oropharynx ลึกประมาณ 10 cms
5.10 เริ่ มดูดเสมหะโดยใช้มือข้างไม่sterile ปิ ดปาก joint / ปล่อยสายที่พบ
ั
ขณะดึงสายขึ้นให้หมุนสาย 360 องศาเพื่อให้ดูดได้มากที่สุด
5.11 กรณี ยงเหลือเสมหะค้าง
ั
 เว้นระยะให้ผป่วยหายใจลึกๆ 3-5 ครั้งหรื อ 30วินาที- 2นาที หรื อให้
ู้
ออกซิ เจน
 ไม่ดูดเกิน 3 ครั้ง
การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลXIII
ิ
5. ปฏิบติการ suction อย่างถูกวิธี_II
ั
5.12 ขณะดูดสังเกต สี จานวน อาการแสดงผูป่วย
้
5.13 หากเสมหะเหนียวมากกระตุนการไอ และช่วยละลายเสมหะ ด้วย NSS:
้
adult 2cc, เด็ก 0.5-1cc, ทารก 0.5cc ต้องบีบambu bag 3-5 ครั้ง
5.14 เมื่อเลิกsuction ล้างสายป้ องกันเสมหะอุดตัน
5.15 ทาความสะอาด joint ด้วยสาลี alc.
5.16 กรณี ถอด inner tube ล้างด้วยผงซักฟอก ต้มน้ าเดือด 30 นาที
5.17 เมื่อต้องการส่ ง sputum c/s ต่อสายดูด เมื่อดูดได้เสมหะแล้วปลดสายแล้วตัด
ด้วยกรรไกรตัดไหม
5.18 บันทึกผล อาการ อาการแสดง สี กลิ่นเสมหะ
ตัวอย่าง suction 1
การประเมินผลการsuction
1. หายใจเสี ยงปกติ ทรวงอกขยายเท่ากัน ไม่ได้ยนเสี ยงเสมหะจาก
ิ
ภายในปอด
2. สัญญาณชีพปกติ อัตราการหายใจสม่าเสมอ (5cc.BP ปป. 5
mmHg.)
3. ผิวหนังสี ปกติ
4. สี หน้าสุ ขสบาย
5. เสมหะไม่มีลกษณะติดเชื้อ สี ใส ไม่มาก ไม่มีกลิ่น
ั
6. แผลหลอดคอไม่ติดเชื้อ บวมแดง
อ้ างอิง

Contenu connexe

Tendances

ประเภทสารน้ำ
ประเภทสารน้ำประเภทสารน้ำ
ประเภทสารน้ำPrathan Somrith
 
ความรู้ IC
ความรู้ ICความรู้ IC
ความรู้ ICwichudaice
 
10 r กับการให้ยาอย่างปลอดภัย
10 r กับการให้ยาอย่างปลอดภัย10 r กับการให้ยาอย่างปลอดภัย
10 r กับการให้ยาอย่างปลอดภัยSuradet Sriangkoon
 
PALS manual 2009
PALS manual 2009PALS manual 2009
PALS manual 2009taem
 
การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...
การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...
การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...Dr.Suradet Chawadet
 
แนวทางเวชปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วย โรคหัวใจขาดเลือดในประเทศไทย ฉบับปรับปรุง ปี2557
แนวทางเวชปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วย โรคหัวใจขาดเลือดในประเทศไทย ฉบับปรับปรุง ปี2557แนวทางเวชปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วย โรคหัวใจขาดเลือดในประเทศไทย ฉบับปรับปรุง ปี2557
แนวทางเวชปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วย โรคหัวใจขาดเลือดในประเทศไทย ฉบับปรับปรุง ปี2557Utai Sukviwatsirikul
 
Monitor traumatic shock 16 พค.58
Monitor traumatic shock  16 พค.58Monitor traumatic shock  16 พค.58
Monitor traumatic shock 16 พค.58Krongdai Unhasuta
 
การพยาบาลผู้ป่วยก่อนและหลังการตรวจเพื่อการวินิจฉัยโรค
การพยาบาลผู้ป่วยก่อนและหลังการตรวจเพื่อการวินิจฉัยโรคการพยาบาลผู้ป่วยก่อนและหลังการตรวจเพื่อการวินิจฉัยโรค
การพยาบาลผู้ป่วยก่อนและหลังการตรวจเพื่อการวินิจฉัยโรคCC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
การพันผ้าแบบต่างๆ
การพันผ้าแบบต่างๆการพันผ้าแบบต่างๆ
การพันผ้าแบบต่างๆDashodragon KaoKaen
 
โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Acute myocardial infarction, AMI หรือ Acute c...
โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Acute myocardial infarction, AMI หรือ Acute c...โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Acute myocardial infarction, AMI หรือ Acute c...
โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Acute myocardial infarction, AMI หรือ Acute c...Utai Sukviwatsirikul
 
การดูแลผู้บาดเจ็บที่ทรวงอก
การดูแลผู้บาดเจ็บที่ทรวงอกการดูแลผู้บาดเจ็บที่ทรวงอก
การดูแลผู้บาดเจ็บที่ทรวงอกPatamaporn Seajoho
 
SฺBAR เอสบา การสื่อสารอย่างปลอดภัย
SฺBAR เอสบา การสื่อสารอย่างปลอดภัยSฺBAR เอสบา การสื่อสารอย่างปลอดภัย
SฺBAR เอสบา การสื่อสารอย่างปลอดภัยSuradet Sriangkoon
 
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก (Orthopedics nursing problem)
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก (Orthopedics nursing problem)การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก (Orthopedics nursing problem)
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก (Orthopedics nursing problem)Aphisit Aunbusdumberdor
 
11แผน
11แผน11แผน
11แผนFmz Npaz
 

Tendances (20)

ประเภทสารน้ำ
ประเภทสารน้ำประเภทสารน้ำ
ประเภทสารน้ำ
 
ความรู้ IC
ความรู้ ICความรู้ IC
ความรู้ IC
 
10 r กับการให้ยาอย่างปลอดภัย
10 r กับการให้ยาอย่างปลอดภัย10 r กับการให้ยาอย่างปลอดภัย
10 r กับการให้ยาอย่างปลอดภัย
 
Up ebook ic
Up ebook ic Up ebook ic
Up ebook ic
 
PALS manual 2009
PALS manual 2009PALS manual 2009
PALS manual 2009
 
การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...
การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...
การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...
 
แนวทางเวชปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วย โรคหัวใจขาดเลือดในประเทศไทย ฉบับปรับปรุง ปี2557
แนวทางเวชปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วย โรคหัวใจขาดเลือดในประเทศไทย ฉบับปรับปรุง ปี2557แนวทางเวชปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วย โรคหัวใจขาดเลือดในประเทศไทย ฉบับปรับปรุง ปี2557
แนวทางเวชปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วย โรคหัวใจขาดเลือดในประเทศไทย ฉบับปรับปรุง ปี2557
 
Monitor traumatic shock 16 พค.58
Monitor traumatic shock  16 พค.58Monitor traumatic shock  16 พค.58
Monitor traumatic shock 16 พค.58
 
การพยาบาลผู้ป่วยก่อนและหลังการตรวจเพื่อการวินิจฉัยโรค
การพยาบาลผู้ป่วยก่อนและหลังการตรวจเพื่อการวินิจฉัยโรคการพยาบาลผู้ป่วยก่อนและหลังการตรวจเพื่อการวินิจฉัยโรค
การพยาบาลผู้ป่วยก่อนและหลังการตรวจเพื่อการวินิจฉัยโรค
 
MDRO
MDROMDRO
MDRO
 
การพันผ้าแบบต่างๆ
การพันผ้าแบบต่างๆการพันผ้าแบบต่างๆ
การพันผ้าแบบต่างๆ
 
โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Acute myocardial infarction, AMI หรือ Acute c...
โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Acute myocardial infarction, AMI หรือ Acute c...โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Acute myocardial infarction, AMI หรือ Acute c...
โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Acute myocardial infarction, AMI หรือ Acute c...
 
Cardiovascular drugs
Cardiovascular drugsCardiovascular drugs
Cardiovascular drugs
 
ภาวะซีด
ภาวะซีดภาวะซีด
ภาวะซีด
 
การดูแลผู้บาดเจ็บที่ทรวงอก
การดูแลผู้บาดเจ็บที่ทรวงอกการดูแลผู้บาดเจ็บที่ทรวงอก
การดูแลผู้บาดเจ็บที่ทรวงอก
 
Shock
ShockShock
Shock
 
CAUTI
CAUTICAUTI
CAUTI
 
SฺBAR เอสบา การสื่อสารอย่างปลอดภัย
SฺBAR เอสบา การสื่อสารอย่างปลอดภัยSฺBAR เอสบา การสื่อสารอย่างปลอดภัย
SฺBAR เอสบา การสื่อสารอย่างปลอดภัย
 
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก (Orthopedics nursing problem)
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก (Orthopedics nursing problem)การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก (Orthopedics nursing problem)
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก (Orthopedics nursing problem)
 
11แผน
11แผน11แผน
11แผน
 

En vedette

การจัดการทางเดินหายใจ
การจัดการทางเดินหายใจการจัดการทางเดินหายใจ
การจัดการทางเดินหายใจKrongdai Unhasuta
 
Neonatal resuscitation การช่วยฟื้นชีวิตทารกและทารกแรกเกิด
Neonatal resuscitation การช่วยฟื้นชีวิตทารกและทารกแรกเกิดNeonatal resuscitation การช่วยฟื้นชีวิตทารกและทารกแรกเกิด
Neonatal resuscitation การช่วยฟื้นชีวิตทารกและทารกแรกเกิดNarenthorn EMS Center
 
การดูแลเครื่องมือและอุปกรณ์ในการบำบัด
การดูแลเครื่องมือและอุปกรณ์ในการบำบัดการดูแลเครื่องมือและอุปกรณ์ในการบำบัด
การดูแลเครื่องมือและอุปกรณ์ในการบำบัดtechno UCH
 
การพยาบาลDhf
การพยาบาลDhfการพยาบาลDhf
การพยาบาลDhfMaytinee Beudam
 

En vedette (6)

Airway (Thai)
Airway (Thai)Airway (Thai)
Airway (Thai)
 
การจัดการทางเดินหายใจ
การจัดการทางเดินหายใจการจัดการทางเดินหายใจ
การจัดการทางเดินหายใจ
 
Ems hypovolemic shock
Ems hypovolemic shockEms hypovolemic shock
Ems hypovolemic shock
 
Neonatal resuscitation การช่วยฟื้นชีวิตทารกและทารกแรกเกิด
Neonatal resuscitation การช่วยฟื้นชีวิตทารกและทารกแรกเกิดNeonatal resuscitation การช่วยฟื้นชีวิตทารกและทารกแรกเกิด
Neonatal resuscitation การช่วยฟื้นชีวิตทารกและทารกแรกเกิด
 
การดูแลเครื่องมือและอุปกรณ์ในการบำบัด
การดูแลเครื่องมือและอุปกรณ์ในการบำบัดการดูแลเครื่องมือและอุปกรณ์ในการบำบัด
การดูแลเครื่องมือและอุปกรณ์ในการบำบัด
 
การพยาบาลDhf
การพยาบาลDhfการพยาบาลDhf
การพยาบาลDhf
 

Similaire à การดูดเสมหะ Paramedic msu

Infectious PPE
Infectious PPEInfectious PPE
Infectious PPEtaem
 
Skill manual removal of placenta
Skill manual removal of placentaSkill manual removal of placenta
Skill manual removal of placentaHummd Mdhum
 
Trauma Initial assessment and Resuscitation
Trauma Initial assessment and ResuscitationTrauma Initial assessment and Resuscitation
Trauma Initial assessment and ResuscitationNarenthorn EMS Center
 
แนวทางการดาเน ํ นงานป ิ องก ้ นควบค ั มการระบาดของโรคม ุ ือ เท้า ปาก สําหรบแพ...
แนวทางการดาเน ํ นงานป ิ องก ้ นควบค ั มการระบาดของโรคม ุ ือ เท้า ปาก สําหรบแพ...แนวทางการดาเน ํ นงานป ิ องก ้ นควบค ั มการระบาดของโรคม ุ ือ เท้า ปาก สําหรบแพ...
แนวทางการดาเน ํ นงานป ิ องก ้ นควบค ั มการระบาดของโรคม ุ ือ เท้า ปาก สําหรบแพ...Loveis1able Khumpuangdee
 
การจัดการเมื่อผู้ป่วยเกิดภาวะฉุกเฉินทางเคมี
การจัดการเมื่อผู้ป่วยเกิดภาวะฉุกเฉินทางเคมีการจัดการเมื่อผู้ป่วยเกิดภาวะฉุกเฉินทางเคมี
การจัดการเมื่อผู้ป่วยเกิดภาวะฉุกเฉินทางเคมีtechno UCH
 
หัตถการที่จำเป็นทางสูติ
หัตถการที่จำเป็นทางสูติหัตถการที่จำเป็นทางสูติ
หัตถการที่จำเป็นทางสูติvora kun
 
CPR2010 update
CPR2010 updateCPR2010 update
CPR2010 updatetaem
 
Osce examination si116
Osce examination si116Osce examination si116
Osce examination si116vora kun
 
เอกสารสอนเสริม
เอกสารสอนเสริมเอกสารสอนเสริม
เอกสารสอนเสริมeratchawa
 
Port a cath By Oncology Center Bangkok Phuket Hospital
Port a cath  By Oncology Center Bangkok Phuket Hospital  Port a cath  By Oncology Center Bangkok Phuket Hospital
Port a cath By Oncology Center Bangkok Phuket Hospital Parinya Damrongpokkapun
 
Ic update 2012
Ic  update 2012Ic  update 2012
Ic update 2012techno UCH
 
Foreign Body
Foreign BodyForeign Body
Foreign Bodyyinyinyin
 
การดูแลผ่าตัดรักษาเด็กแบบผู้ป่วยนอก (Ambulatory pediatric surgery)
การดูแลผ่าตัดรักษาเด็กแบบผู้ป่วยนอก (Ambulatory pediatric surgery)การดูแลผ่าตัดรักษาเด็กแบบผู้ป่วยนอก (Ambulatory pediatric surgery)
การดูแลผ่าตัดรักษาเด็กแบบผู้ป่วยนอก (Ambulatory pediatric surgery)ไทเก็ก นครสวรรค์
 
Trauma treatment skills for nurse
Trauma treatment skills for nurseTrauma treatment skills for nurse
Trauma treatment skills for nurseKrongdai Unhasuta
 

Similaire à การดูดเสมหะ Paramedic msu (20)

Infectious PPE
Infectious PPEInfectious PPE
Infectious PPE
 
Skill manual removal of placenta
Skill manual removal of placentaSkill manual removal of placenta
Skill manual removal of placenta
 
Trauma Initial assessment and Resuscitation
Trauma Initial assessment and ResuscitationTrauma Initial assessment and Resuscitation
Trauma Initial assessment and Resuscitation
 
แนวทางการดาเน ํ นงานป ิ องก ้ นควบค ั มการระบาดของโรคม ุ ือ เท้า ปาก สําหรบแพ...
แนวทางการดาเน ํ นงานป ิ องก ้ นควบค ั มการระบาดของโรคม ุ ือ เท้า ปาก สําหรบแพ...แนวทางการดาเน ํ นงานป ิ องก ้ นควบค ั มการระบาดของโรคม ุ ือ เท้า ปาก สําหรบแพ...
แนวทางการดาเน ํ นงานป ิ องก ้ นควบค ั มการระบาดของโรคม ุ ือ เท้า ปาก สําหรบแพ...
 
การจัดการเมื่อผู้ป่วยเกิดภาวะฉุกเฉินทางเคมี
การจัดการเมื่อผู้ป่วยเกิดภาวะฉุกเฉินทางเคมีการจัดการเมื่อผู้ป่วยเกิดภาวะฉุกเฉินทางเคมี
การจัดการเมื่อผู้ป่วยเกิดภาวะฉุกเฉินทางเคมี
 
หัตถการที่จำเป็นทางสูติ
หัตถการที่จำเป็นทางสูติหัตถการที่จำเป็นทางสูติ
หัตถการที่จำเป็นทางสูติ
 
(20 พ.ค 56) service profile (ส่งเจี๊ยบ)
(20 พ.ค 56) service profile (ส่งเจี๊ยบ)(20 พ.ค 56) service profile (ส่งเจี๊ยบ)
(20 พ.ค 56) service profile (ส่งเจี๊ยบ)
 
CPR2010 update
CPR2010 updateCPR2010 update
CPR2010 update
 
Nl ii '59 emergency
Nl ii '59 emergencyNl ii '59 emergency
Nl ii '59 emergency
 
Osce examination si116
Osce examination si116Osce examination si116
Osce examination si116
 
เอกสารสอนเสริม
เอกสารสอนเสริมเอกสารสอนเสริม
เอกสารสอนเสริม
 
Port a cath By Oncology Center Bangkok Phuket Hospital
Port a cath  By Oncology Center Bangkok Phuket Hospital  Port a cath  By Oncology Center Bangkok Phuket Hospital
Port a cath By Oncology Center Bangkok Phuket Hospital
 
Ppe for yasothon hospital personnel
Ppe for yasothon hospital personnelPpe for yasothon hospital personnel
Ppe for yasothon hospital personnel
 
Atls for nurse
Atls for nurse Atls for nurse
Atls for nurse
 
Ic update 2012
Ic  update 2012Ic  update 2012
Ic update 2012
 
Foreign Body
Foreign BodyForeign Body
Foreign Body
 
การดูแลผ่าตัดรักษาเด็กแบบผู้ป่วยนอก (Ambulatory pediatric surgery)
การดูแลผ่าตัดรักษาเด็กแบบผู้ป่วยนอก (Ambulatory pediatric surgery)การดูแลผ่าตัดรักษาเด็กแบบผู้ป่วยนอก (Ambulatory pediatric surgery)
การดูแลผ่าตัดรักษาเด็กแบบผู้ป่วยนอก (Ambulatory pediatric surgery)
 
H1n1 For Safe 040852
H1n1 For Safe 040852H1n1 For Safe 040852
H1n1 For Safe 040852
 
Trauma treatment skills for nurse
Trauma treatment skills for nurseTrauma treatment skills for nurse
Trauma treatment skills for nurse
 
Asthma guideline for children
Asthma guideline for childrenAsthma guideline for children
Asthma guideline for children
 

การดูดเสมหะ Paramedic msu

  • 1. การดูดเสมหะ วิชา เทคนิคหัตถการขั้นพืนฐาน ้ สาขาเวชกิจฉุ กเฉิน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อาจารย์นันทวรรณ ทิพยเนตร สอนวันที่ 29 ตค 2556
  • 2. วัตถุประสงค์ การเรี ยนรู้ บอกความหมายการดูดเสมหะได้  ประเมินสภาพผูป่วยที่ควรได้รับการดูดเสมหะได้ ้  ระบุขอวินิจฉัยทางการพยาบาลเพื่อการดูดเสมหะได้ ้  วางแผนการพยาบาลเพื่อการดูดเสมหะได้ถกต้อง ู  ปฏิบติการดูดเสมหะได้ถูกต้อง ั  ประเมินผูป่วยที่ได้รับการดูดเสมหะได้ถูกต้อง ้ 
  • 3. หลักการ เสมหะ เป็ นสิ่ งคัดหลังที่ถูกสร้างจาก submucal gland วันละ 10่ 100cc  เป็ นกลไกการป้ องกันตัวของร่ างกาย โดยเก็บกักสิ่ งแปลกปลอม หรื อฆ่าเชื้อโรคที่ระคายเคืองต่อเซลในทางเดินหายใจ  ในผูที่ใส่ ท่อหลอดลมเทียม (ETT,TT ) เนื่ องจากการแลกเปลี่ยน ้ กาซลดลง อันเนื่องมาจากพยาธิสภาพของโรคเช่น เนื้องอก ทางเดินหายใจเป็ นอัมพาต ท่อเหล่านี้กระตุนให้หลัง mucous มาก ้ ่ ขึ้น +ไอออกเองไม่ได้+ทางเดินหายใจส่ วนบนแห้ง เสมหะอุดกั้น ได้ 
  • 4. ความหมายของการดูดเสมหะ       การเอาเสมหะออกจากทางเดินหายใจ ในกรณี ที่ไอออกเองไม่ได้ ทา โดยใส่ สายยางดูดเสมหะที่สะอาดปราศจากเชื้อ ผ่านเข้าหลอดลม เทียม หรื อทางเดินหายใจส่ วนบน ท่อหลอดลม (ETT) ท่อยางที่ใส่ เข้าไปในปากจนถึงหลอดลมคอ เป็ น ่ การใส่ ชวคราว เพื่อเป็ นทางผ่านออกซิเจน ปลายด้านที่อยูในหลอดลม ั่ จะมีกระเปาะ (cuff) ETT1 เทคนิคการใส่ ETT sniffing position ETT2 ตัวอย่าง case difficult airway ETT3 เทคนิคการใส่ ETT ETT4 เทคนิค ETT suction
  • 5. ความหมายของการดูดเสมหะ 2 ท่อเจาะหลอดลม (TT) ท่อที่ใส่ เข้าไปในหลอดลมคอทางแผล ผ่าตัดเปิ ดผิวหนังจากบริ เวณคอเข้าไปในหลอดลมคอ ท่อทาด้วย วัสดุหลายชนิด ขนาดเบอร์ต่างๆกัน เช่น โลหะเงิน พลาสติกชนิด ซิลิโคน มี inner, outer tube  TT1 เทคนิ คเจาะคอ cricoid thyroidotomy  TT2 เทคนิ ค tracheostomy suction  แนะนาตัว-check pt.-บอกวัตถุประสงค์-ปั ญหาที่พบ-บอกหายใจ ลึกๆ-ล้างมือ-ใส่ ถุงมือ-เปิ ดเครื่ องเช็ค-ประเมินผูป่วยอีกก่อนทา้ วางผ้าสะอาด-เริ่ มปฏิบติ ั 
  • 6. ความหมายของการดูดเสมหะ 3 ทางปากและจมูก เมื่อมีน้ ามูก น้ าลาย เลือด และสิ่ งคัดหลัง หรื อ ่ คลื่นไส้อาเจียน  Nasotracheal suction  ล้างมือ-ปรับหัวสู ง- เตรี ยมพร้อมอุปกรณ์-O2100%-RRลึกๆ-วาง พื้นที่สะอาด-เปิ ดสายaseptic tech-NSS-KY jelly-เปิ ดsuction-มือ ข้างaseptic ถือสายดูด 10-15 sec/timeพร้อมหมุนมือ-ล้างสายด้วย NSS  Oral suction  เพิม v/s, Ox sat ่ 
  • 7. หลักการ เพื่อลดการคังค้างของเสมหะ ทาให้หายใจโล่ง ่  ไม่มีการติดเชื้อทางเดินหายใจ  ไม่เกิดวิตกกังวล  โดยใช้กรอบแนวคิดกระบวนการพยาบาล คือ : ประเมินสภาพผูป่วย-ตั้งข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล-วางแผนการ ้ พยาบาล-ปฏิบติกิจกรรมการพยาบาล-ประเมินผลการพยาบาล ั 
  • 8. การประเมินสภาพผู้ป่วยที่ต้องได้ รับการดูดเสมหะ assessment clients need ข้อบ่งชี้  หายใจเสี ยงดัง มีเสี ยงเสมหะภายในท่อหลอดลม ฟังปอดมี rhonchi  PR,RR เพิมโดยไม่มีสาเหตุอื่น ่  สี หน้าท่าทางไม่สุขสบาย กระสับกระส่ าย  ผิวหนังเขียวคล้ า จากพร่ องออกซิ เจนอย่างรุ นแรง  ผูป่วยไม่รู้สึกตัว ก่อนจัดท่าต้องดูดเสมหะให้ ้  ก่อนใส่ NG tube  ก่อนและหลัง off cuff ETT,TT  ภายหลังกระตุนไอ ไอไม่มีประสิ ทธิ ภาพ ้  ต้องการให้ดูดให้
  • 9. การตังข้ อวินิจฉัยทางการพยาบาล ้ nursing diagnosis  ผูป่วยใส่ ท่อ +มีเสมหะ+ ขับออกไม่ได้ = การแลกเปลี่ยนกาซของ ้ ระบบหายใจไม่มีประสิ ทธิภาพ เนื่องจากเสมหะในลาคอ
  • 10. การวางแผนการพยาบาล 1 เปาหมาย ้  ช่วยขจัดเสมหะ ทาให้ทางดินหายใจโล่ง  ป้ องกันการติดเชื้อ ระบบทางเดินหายใจผูป่วย ้  เพื่อความสุ ขสบายลดวิตกกังวล  เก็บเสมหะส่ งตรวจ
  • 11. การวางแผนการพยาบาล II การวางแผน nursing plan  เตรี ยมผูป่วย ้ ◦ ให้การพยาบาลแบบองค์รวม ทั้งกาย จิต สังคม ◦ คานึงถึงความสุ ขสบายผูป่วย ้ ◦ ป้ องกันภาวะแทรกซ้อน เตรี ยมอุปกรณ์ ครบถ้วน ถูกต้อง  ปฏิบติการตามขั้นตอน ถูกวิธี ั 
  • 12. การปฏิบัติการกิจกรรมการพยาบาล nursing intervention 1.ให้การพยาบาลผูป่วยแบบองค์รวม ทั้งร่ างกายจิตใจ อธิบายให้ ้ ทราบวัตถุประสงค์ 2.คานึงถึงความสุ ขสบาย ◦ บรรเทาความเจ็บปวดจากการดูดเสมหะ โดยการประเมินสัญญาณต่างๆ การ keep warmทารก ◦ จัดท่าให้สะดวกในการใส่ สายเพราะเป็ นการกระตุน gag reflex ้  Consciousness : semi fowler’s position กระบังลมเคลื่อนเต็มที่ ตะแคงหน้ามาทางพยาบาลลิ้นจะตกมาทางหน้า  Unconsciousness : นอนราบ เอียงหน้ามาทางพยาบาล เสมหะออก ง่าย ป้ องกันสาลัก
  • 13. การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลIII ิ 3.ป้ องกันภาวะแทรกซ้อน 3.1ป้ องกันการติดเชื้อ เทคนิคการทาอุปกรณ์ตองaseptic technique+ ้ mouth care 3.2 ป้ องกันเกิดภาวะhypoxemia, hypoxia, anoxia 3.2.1 ระยะเวลาการดูดเสมหะ  ผูใหญ่ 10-15 วินาที, เด็ก 5-10 วินาที ้  ก่อนดูดซ้ า ให้หายใจนาน 3-5 ครั้งก่อน  แต่ละรอบดูดไม่เกิน 3 ครั้ง  เนื่องจากvagus n.ในcarinaลด HR, BP drop, irr.ไอ ,bronchospasm
  • 14. การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลIII ิ 3.2 ป้ องกันเกิดภาวะhypoxemia, hypoxia, anoxia_II 3.2.2 กรณี on respirator/ventilator  Volume ventilator ก่อน/หลัง suction ต้องให้ออกซิ เจนความเข้มข้น เพิ่ม: hyperoxygenate 20% นาน 1-2min.  Pressure control ให้ออกซิ เจน 100% แล้วบีบ self inflating bag/ambu bag นาน2-3 ครั้ง ป้ องกัน PaO2 ลดลง ลดการเกิด atelectasis ่  Secretion อยูส่วนบน trachea ห้ามบีบ ambu bag  ถ้ายังคง restless, HR ช้าลง ต้องหยุด แสดงว่าขาดออกซิ เจนO2 100% ทาง ambu bag จนดีข้ ึน  ในเด็กเล็ก ก่อน/หลัง suction ต้อง hyper inflate ปอด >=3 ครั้งด้วย O2 100% ทาง mask/ท่อช่วยหายใจ
  • 15. การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลIV ิ 3.2 ป้ องกันเกิดภาวะhypoxemia, hypoxia, anoxia_III 3.2.3 ถ้ามีอาการหายใจไม่ดี dyspnea, cyanosis  Ambu bag+ resevoire bag+ O2 100% นาน10-20minnotify Dr.  On O2 10 lpm นาน10-20minnotify Dr. 3.2.4 ขณะใส่ สายดูดเสมหะเข้า trachea อย่าให้มีแรงดูด เพราะจะดูด อากาศออกไปด้วย
  • 16. การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลV ิ 3.3 ป้ องกันเกิดเซลเยือบุหลอดลมอักเสบ เลือดออก ่ 3.3.1 ถ้าOn ETT with cuff ต้อง deflate cuff ก่อนดูด ลดแรงกดของ กระเปาะต่อเยือบุหลอดลมลด tissue necrosis, เสมหะบนท่อไหลลง ่ 3.3.2 ปรับ negative pressure ให้ถกต้อง เหมาะสม เพราะแรงดูดมากไป ู hypoxia -pipeline suction : Adult 80-120 mmHg.,เด็กโต 80-100 mmHg.,เด็กเล็ก 60-90 mmHg.,ทารก แรกเกิด 40-60 mmHg. -mobile suction: Adult 10-15mmHg.,เด็กโต 5-10 mmHg., เด็กเล็ก 2-5 mmHg.
  • 17. การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลVI ิ 3.4 ป้ องกันเกิดภาวะปอดแฟบ (lung collapse)  เลือกใช้สายดูดให้เหมาะสม ควรมีขนาดเส้นผ่าศก.ภายนอกไม่ เกินครึ่ งหนึ่งของ เส้นผ่าศก.ภายในของ trachea เพราะสาย ขนาดใหญ่เกินไปช่องว่างที่เหลือไม่พอสาหรับอากาศภายนอก เข้าไปแทนที่  Adult #14-16Fr.,เด็ก 8-10Fr., ทารก 5-8 Fr.
  • 18. การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลVII ิ 4. เตรี ยมอุปกรณ์ ครบถ้วนถูกต้อง 4.1 อุปกรณ์ suction 4.1.1 Stethoscope 4.1.2 เครื่ อง suction + ท่อยาง + joint รู ปตัว Y ควบคุมแรงดัน(ถ้าไม่มีให้ หักพับสายเมื่อไม่ตองการดูด) ้ 4.1.3 สายดูดเสมหะปลอดเชื้อ ยาว 50-60 cms. ควรใช้แล้วทิ้งหาก reuse อาจพบสิ่ งตกค้าง+สายไม่นิ่ม 4.1.4 ถุงมือปราศจากเชื้อ 1 ข้าง/คู่
  • 19. การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลVIII ิ 4.1 อุปกรณ์ suction_II 4.1.5 Transfer forceps 4.1.6 ขวดน้ า sterile 4.1.7 ภาชนะใส่ น้ ายาระงับเชื้อแช่สายยาง ถุงมือใช้แล้ว/ถังขยะติดเชื้อ 4.1.8 กระปุกสาลี Alc (ปราศจากเชื้อ) 4.1.9 syr.2cc +NSS (ปราศจากเชื้อ) 4.1.10 syr.10cc deflate cuff
  • 20. การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลIX ิ 4.1 อุปกรณ์ suction_III 4.1.12 ชามรู ปไตใส่ inner tube 4.1.13 กรณี เปลี่ยนแผล TT: set dressing, y gauze, น้ ายาทาแผล,plaster, ถุง มือ dispose, เชือกผูกท่อ TT 4.1.14 กรณี เก็บเสมหะ: กรรไกรตัดไหม, ขวด sputum c/s
  • 21. การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลX ิ 5. ปฏิบติการ suction อย่างถูกวิธี ั 5.1 ประเมินเสี ยงหายใจ ปริ มาณเสมหะ 5.2 แจ้งผูป่วยทราบเพื่อลดวิตกกังวล ้ 5.3 จัดท่าให้เหมาะสม 5.4 ล้างมือ 5.5 ใช้สาลีAlc.เช็ด joint วางสายไม่ให้ contaminate 5.6 เตรี ยมสาย suction ฉี กถุงยาวประมาณ 1.5 cms ไม่ให้ contaminate 5.7 สวมถุงมือปราศจากเชื้อข้างที่ถนัด 5.8 หยิบสายดูดเสมหะด้วยมือที่สวมถุงมือsterile ระวัง contaminate มืออีก ข้างหยิบjoint มาต่อ
  • 22. การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลXI ิ 5. ปฏิบติการ suction อย่างถูกวิธี ั 5.9 ใช้หลัก aseptic technique สอดสายยางผ่านช่องทางเดินหายใจ 5.9.1 กรณี on ETT, TT ห้ามใส่ ขณะกลืน เพราะท่อจะลงหลอดอาหาร ขณะใส่ สายไม่เปิ ดแรงดูด ใส่ ลึกถึง carina หากรู ้สึกมีสิ่งกีดขวางให้ดึง สายขึ้น 1cm. 5.9.2 กรณี nasopharynx suction ให้กะระยะความยาวสายจากปลายจมูกถึง ติ่งหู: adult=13cms,เด็กโต 8-12cms, เด็กเล็ก 4-8cms ใช้นิ้วมือข้างที่ sterile ทาเครื่ องหมายไว้ หล่อลื่นสายด้วย jelly สอดสายเข้าชิดผนังจมูก ด้านล่าง
  • 23. การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลXII ิ 5. ปฏิบติการ suction อย่างถูกวิธี_II ั 5.9.3 oropharynx suction สอดสายดูดเข้าทางข้างๆปาก(กันการขย้อน) จนถึง oropharynx ลึกประมาณ 10 cms 5.10 เริ่ มดูดเสมหะโดยใช้มือข้างไม่sterile ปิ ดปาก joint / ปล่อยสายที่พบ ั ขณะดึงสายขึ้นให้หมุนสาย 360 องศาเพื่อให้ดูดได้มากที่สุด 5.11 กรณี ยงเหลือเสมหะค้าง ั  เว้นระยะให้ผป่วยหายใจลึกๆ 3-5 ครั้งหรื อ 30วินาที- 2นาที หรื อให้ ู้ ออกซิ เจน  ไม่ดูดเกิน 3 ครั้ง
  • 24. การปฏิบัตการกิจกรรมการพยาบาลXIII ิ 5. ปฏิบติการ suction อย่างถูกวิธี_II ั 5.12 ขณะดูดสังเกต สี จานวน อาการแสดงผูป่วย ้ 5.13 หากเสมหะเหนียวมากกระตุนการไอ และช่วยละลายเสมหะ ด้วย NSS: ้ adult 2cc, เด็ก 0.5-1cc, ทารก 0.5cc ต้องบีบambu bag 3-5 ครั้ง 5.14 เมื่อเลิกsuction ล้างสายป้ องกันเสมหะอุดตัน 5.15 ทาความสะอาด joint ด้วยสาลี alc. 5.16 กรณี ถอด inner tube ล้างด้วยผงซักฟอก ต้มน้ าเดือด 30 นาที 5.17 เมื่อต้องการส่ ง sputum c/s ต่อสายดูด เมื่อดูดได้เสมหะแล้วปลดสายแล้วตัด ด้วยกรรไกรตัดไหม 5.18 บันทึกผล อาการ อาการแสดง สี กลิ่นเสมหะ ตัวอย่าง suction 1
  • 25. การประเมินผลการsuction 1. หายใจเสี ยงปกติ ทรวงอกขยายเท่ากัน ไม่ได้ยนเสี ยงเสมหะจาก ิ ภายในปอด 2. สัญญาณชีพปกติ อัตราการหายใจสม่าเสมอ (5cc.BP ปป. 5 mmHg.) 3. ผิวหนังสี ปกติ 4. สี หน้าสุ ขสบาย 5. เสมหะไม่มีลกษณะติดเชื้อ สี ใส ไม่มาก ไม่มีกลิ่น ั 6. แผลหลอดคอไม่ติดเชื้อ บวมแดง