Contenu connexe
Plus de National Science and Technology Development Agency (NSTDA) - Thailand (20)
Battery charge V2
- 2. ขั้นตอนในการชาร์จ
๑. เปิดฝากระโปรงรถ มองหาตาแหน่งของแบตเตอรี่ว่าอยู่ที่ใด
๒. นาแบตเตอรี่ที่จะชาร์จมาวางในตาแหน่งใกล้ๆแบตฯของรถประมาณระยะว่าสายพ่วงระหว่างขั้วของแบตฯทั้ง
สองสามารถโยงถึงกันได้
๓. ที่ขั้วแบตเตอรี่ฝั่งที่ต้องการจะชาร์จคีบสายสีแดงเข้ากับขั้วบวก(+)
๔. ปลายสายสีแดงอีกด้าน คีบกับขั้วบวกของแบตเตอรี่ฝั่งรถยนต์(รถยนต์ส่วนใหญ่มักจะมีฉนวนพลาสติกครอบขั้ว
ไว้ต้องเปิดฝาครอบนี้ออกก่อนจะมองเห็นขั้วแบตฯและแหวนรัดต่อสายเพื่อใช้คีบ) การคีบปากคีบต้องดูให้แน่ว่า
มันจะไม่หลุดจากแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ขณะสตาร์ทและทางาน จัดการแนวสายอย่าให้พาดไปทาง
เครื่องยนต์เด็ดขาด(ในรูปรถคันนี้เครื่องยนต์อยู่ทางซ้าย)เพราะขณะเครื่องยนต์หมุนอาจมีสายพานหรือใบพัดดึง
เอาสายไฟเข้าไปจะเกิดอันตรายและความเสียหายได้
- 3. ๕. สายพ่วงสีดาปล่อยปลายสายด้านหนึ่งไว้ไม่ให้โดนโลหะหรือขั้วไฟฟ้ าใดๆ(ตามรูปใช้วิธีคีบหูหิ้วพลาสติกสีขาว
ของแบตฯอยู่) ส่วนอีกด้านหนึ่งนามาคีบที่ขั้วลบของแบตเตอรี่ฝั่งรถยนต์
๖. สตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติด เร่งเครื่องประมาณ ๑๕๐๐ ถึง ๒๐๐๐(รอบต่อนาที) เป็นระยะเวลาประมาณครึ่งนาที
ถอนคันเร่งให้เครื่องมาที่รอบเดินเบาปรกติจะอยู่ที่ ๙๐๐ ถึง ๑๑๐๐ แต่ถ้าเครื่องยังเย็นอยู่รอบเครื่องจะถูกเร่ง
โดยอัตโนมัติประมาณ ๑๒๐๐ ถึง ๑๕๐๐(รถบางคันไม่มีเครื่องวัดรอบต้องประมาณเอาครับ ประมาณว่ากาลัง
เร่งเครื่องจะออกรถแบบนิ่มๆ)
๗. ปลายสายสีดาที่ปล่อยไว้ตามข้อ๕ ลองเอามาเขี่ยขั้วลบ(-)ของแบตเตอรี่ที่ต้องการชาร์จดูอาจเห็นประกายไฟ
บ้างในตอนแรกแล้วแต่ว่าแบตฯที่เอามาชาร์จหมดลึก(มาก)แค่ไหน เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่อะไรผิดพลาดให้คีบขั้ว
แบตฯให้แน่น(ขั้วลบ(-)) สังเกตความเร็วรอบเครื่องยนต์เดินเบาจะลดต่าลงบ้างแต่เครื่องต้องไม่ดับ เป็นอาการที่
แสดงว่าพลังงานส่วนหนึ่งของเครื่องยนต์มาชาร์จแบตฯของเรา(ตรวจสอบให้ดีนะครับเรื่องขั้ว บวกต่อบวกสายสี
แดง ลบต่อลบสายสีดา สังเกตเครื่องหมาย + และ – ที่แบตฯให้ดี แบตเตอรี่รถบางยี่ห้อขั้วกลับกันอย่าดูแต่ตาม
รูปถ่ายอย่างเดียว แบตฯที่แสดงในรูปทั้งหมดตามร้านแบตฯเรียกว่าขั้วกลับ)
- 4. ๘. เร่งเครื่องยนต์ที่ ๒๐๐๐ เป็นระยะเวลาประมาณ ๕ นาที ในช่วงนี้จะมีกระแสชาร์จสูงควรเขย่าแบตเตอรี่เพื่อให้
ฟองก๊าซระบายจากแผ่นธาตุของแบตเตอรี่และออกทางรูระบาย ถ้าไม่เขย่าอาจมีน้ากรดล้นออกทางรูระบายได้
(จะใช้วิธีเปิดฝาจุกทั้ง๖อันแบบร้านแบตฯทาก็ได้ไม่ต้องคอยเขย่า ข้อควรระวังอีกอย่างคือก๊าซที่ออกจากแบตฯ
ขณะมีการชาร์จด้วยกระแสสูงๆอาจติดไฟหรือระเบิดได้ไม่ควรสูบบุหรี่ มีเปลวไฟหรือประกายไฟใกล้ๆ และอาจมี
ไอกรดออกมาด้วยไม่ควรสูดดม)
๙. ปล่อยเครื่องเดินเบาไปอีก ๒ ถึง ๓ ชั่วโมง ตรวจดูให้แน่ใจว่าอุปกรณ์อื่นๆในรถยนต์ไม่ได้เปิดใช้งานเช่น แอร์ พัด
ลม ไฟหน้า วิทยุ เพราะจะทาให้แบตฯเต็มช้าลงหรืออาจชาร์จไม่เข้าเลย และเนื่องจากรถยนต์ต้องติดเครื่องเป็น
เวลานานแต่ไม่ได้วิ่งต้องเปิดฝากระโปรงเอาไว้เพื่อไม่ให้มีปัญหาการระบายความร้อน
๑๐.เมื่อครบเวลาแล้วก่อนดับเครื่องให้เร่งรอบเครื่องที่ ๑๕๐๐ ประมาณ ๑ นาทีแล้วจึงดับเครื่อง
๑๑.ปลดสายคีบสีดาฝั่งรถยนต์ก่อนแล้วมาปลดฝั่งแบตฯที่นามาชาร์จ จากนั้นปลดสายคีบสีแดงฝั่งรถยนต์แล้วค่อย
ปลดอีกฝั่งหนึ่ง เป็นอันเสร็จครับ อย่าลืมครอบฝาครอบแบตฯของรถยนต์กลับให้เรียบร้อยด้วยครับ