SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  28
Télécharger pour lire hors ligne
1
﴾‫ها‬‫ك‬‫حير‬ ‫ته‬‫ي‬‫أ‬‫ر‬‫ف‬ . . .﴿
«‫للغة‬‫اب‬‫ندية‬‫ال‬‫تاي‬‫ل‬‫ا‬»
٥٣٤١‫هـ‬-٤١٠٢‫م‬
2
. . . แล้วฉันก็เห็นท่านกระดิกมัน
ปัญหาเรื่องการกระดิกนิ้วชี้ในขณะอ่านตะชะฮ์ฮุด บางคนอาจมองเป็นเรื่องปลีกย่อยที่
ไม่น่าจะนามาพูดหรือเขียนให้เกิดความขัดแย้งในสังคม แต่ในมุมมองของผู้เขียน ปัญหานี้เป็น
ปัญหาธรรมดาที่“ไม่ธรรมดา”ซึ่งจะต้องมีการชี้แจงกัน เพื่อการปฏิบัติอิบาดะฮ์ที่สาคัญที่สุด
คือการละหมาดให้ถูกต้องตามแบบอย่างหรือซุนนะฮ์ของท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะ
ลัยฮิวะซัลลัมต่อไป
ที่ผู้เขียนว่า“ไม่ธรรมดา”ก็เพราะเรื่องนี้เป็นอิริยาบถอย่างหนึ่งของการละหมาด ซึ่ง
ท่านศาสดาเคยกาชับว่า ْ ‫ى‬ّ‫ل‬ َ‫ص‬ُ‫أ‬ ْ ‫ى‬‫ِن‬ ْ‫و‬ُ‫م‬ُ‫ت‬ْ‫ي‬َ‫أ‬َ‫ر‬ َ َ‫مَك‬ ‫ا‬‫و‬ُّ‫ل‬ َ‫ص‬ คือ พวกท่านทั้งหลายจงละหมาดเหมือน
อย่างที่เห็นฉันละหมาด1
ยิ่งไปกว่านั้น ก็เคยมีการฟัตวาว่าการกระดิกนิ้วชี้ ในขณะอ่านตะชะฮ์ฮุดทาให้เสีย
ละหมาดเพราะเป็นการเคลื่อนไหวอวัยวะ (คือนิ้วชี้) เกินกว่าสามครั้งโดยเจตนา ซึ่งไปถึงขั้นมี
การตัดสินว่า ทาให้การละหมาดนั้นเป็นโมฆะ (บะฏ็อล) นี่ ผู้เขียนเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
แน่นอน
ขอเรียนว่าสิ่งที่ผู้เขียนจะเขียนชี้แจงต่อไปนี้เป็นการเขียนตามมุมมองของผู้เขียน ซึ่งอาจ
ขัดแย้งกับทัศนะของนักวิชาการหลายๆ ท่าน
ในเรื่องของมุมมองที่แตกต่างหรือขัดแย้งกันนี้ ถือเป็นสิทธิของนักวิชาการแต่ละท่าน
จะเสนอแนวคิดตามมุมมองของตนเองได้ และมุมมองของนักวิชาการไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบัน
ในปัญหาต่างๆ ซึ่งมันอาจแตกต่างไปจากมุมมองของเรา และไม่ว่าเราจะรับได้หรือรับไม่ได้ก็
ตาม เราก็ต้องให้เกียรติและเคารพในความบริสุทธิ์ใจของท่าน และอย่าด่วนไปฟันธงว่า
มุมมองของท่านนั้นผิดพลาด
เพราะบางที ท่านอาจจะถูกและเราอาจจะผิดก็เป็นได้
มุมมองที่แตกต่างกันในเรื่องศาสนาอันเกิดจากความบริสุทธิ์ใจของแต่ละฝ่าย ไม่ถือว่า
เป็นการหักล้างหรือลบหลู่ซึ่งกันและกัน เพราะผู้เขียนยังชื่นชมในผลงานของอาจารย์มุรีด2
อยู่เสมอ
ต่อไปนี้ คือมุมมอง คาอธิบาย และการวิเคราะห์ของผู้เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้
1
เล่าโดยมาลิก บินหุวัยริษ บันทึกโดยบุคอรีย์ หะดีษที่ 5662; อิบนุคุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 586; อิบนุหิบบาน หะดีษ
ที่ 1658 และอัดดาริมีย์ หะดีษที่ 1233
2
ดู มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545).
3
ลักษณะการวางนิ้วชี้ของท่านศาสดาในการอ่านตะชะฮ์ฮุด
หะดีษที่มีรายงานมาเกี่ยวกับเรื่องนี้จากเศาะหาบะฮ์บางท่าน เช่น อับดุลลอฮ์ อิบนุ อัซ-
ซุบัยร์ และวาอิล บินหุจญ์ริน ฯลฯ ได้รายงานลักษณะการวางนิ้วชี้ของท่านศาสดาในขณะอ่าน
ตะชะฮ์ฮุด ซึ่งสรุปแล้วจะมีการกล่าวไว้ 3 ลักษณะด้วยกัน ดังนี้
1. กล่าวเพียงว่า ท่าน ‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ ُ ْ‫ْي‬ ‫ى‬‫ُش‬‫ي‬ คือ ท่านสื่อสัญญาณด้วยนิ้วชี้ (หรือยกนิ้วชี้
ขึ้น) แต่ไม่มีรายงานต่อไปอีกว่า ท่านกระดิกหรือไม่กระดิกมัน
2. มีการระบุชัดเจนว่า َ‫ا‬‫ه‬ُ‫ك‬‫ى‬ّ‫ر‬َ ُ‫حي‬ َ‫ال‬‫و‬ ‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ ُ ْ‫ْي‬ ‫ى‬‫ُش‬‫ي‬ คือ ท่านสื่อสัญญาณด้วยนิ้ วชี้
(หรือยกนิ้วชี้ขึ้น)แต่ท่านไม่ได้กระดิกมัน
3. มีการระบุชัดเจนว่า ‫َا‬‫ه‬ُ‫ك‬‫ى‬ّ‫ر‬َ ُ‫حي‬ ُ‫ه‬ُ‫ت‬ْ‫ي‬َ‫أ‬َ‫ر‬َ‫ف‬ ُ‫ه‬َ‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬‫ا‬ َ‫ع‬َ‫ف‬َ‫ر‬ คือ ท่านยกนิ้ว(ชี้ )ขึ้ นแล้วฉันก็เห็น
ท่านกระดิกมัน
นี่คือ บทสรุปของหลักฐานที่มีรายงานมาเกี่ยวกับเรื่องลักษณะการวางนิ้วชี้ของท่าน
ศาสดาในการอ่านตะชะฮ์ฮุด
หมายเหตุ
คาว่า ‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ ُ ْ‫ْي‬ ‫ى‬‫ُش‬‫ي‬ไม่จาเป็นต้องหมายความว่า“ชี้ด้วยนิ้วชี้ ”ดังการให้ความหมาย
ของอาจารย์มุรีดเสมอไปเพราะการให้ความหมายดังกล่าวนอกจากจะเป็นการสื่อความหมายที่
แคบจนนาไปสู่ความเข้าใจผิดว่าเป็นการชี้โดยไม่มีการกระดิกแล้ว คาว่า ُ ْ‫ْي‬ ‫ى‬‫ُش‬‫ي‬ ، َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ ตาม
หลักภาษาจะหมายถึง “การสื่อสัญญาณ,การทาสัญญาณ (ด้วยสิ่งใดๆ)”ซึ่งเป็นความหมาย
กว้างๆ ดังตัวอย่างที่ผู้เขียนจะชี้แจงให้เห็นในลาดับต่อไป
ดังนั้น ในหะดีษข้างต้น ความหมายของคาว่า ‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ ُ ْ‫ْي‬ ‫ى‬‫ُش‬‫ي‬ในแง่ภาษาจึง
หมายถึง “การสื่อสัญญาณด้วยนิ้วชี้ ”หรือ “การยกนิ้วชี้ ขึ้ น”ซึ่งความหมายนี้จะตรงกับอีก
สานวนหนึ่งของหะดีษบทนี้ที่ว่า َ‫ب‬ ْ‫ص‬
ِ
‫ا‬ َ‫ع‬َ‫ف‬َ‫ر‬ُ‫ه‬َ‫ع‬ (ท่านนะบีย์ได้ยกนิ้วชี้ของท่านขึ้น) อันเป็นการ
รายงานของซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ที่จะกล่าวถึงต่อไป
สานวนที่แตกต่างกันของหะดีษเรื่องเดียวกันนั้นย่อมอธิบายซึ่งกันและกันเสมอ
เมื่อพิจารณาดูบทสรุปที่ผู้เขียนกล่าวมานี้ ก็จะเห็นได้ว่า ที่สอดคล้องกันของรายงานทั้ง
สามลักษณะข้างต้นก็คือ ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมสื่อสัญญาณด้วยนิ้วชี้หรือ
ยกนิ้วชี้ขึ้นในการอ่านตะชะฮ์ฮุด
แต่ที่ขัดแย้งกันก็คือ รายงานที่สองบอกว่าท่านยกนิ้วชี้ขึ้น แต่ไม่ได้กระดิกมัน
รายงานที่สามบอกว่า ท่านยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วกระดิกมัน
4
ส่วนสานวนในรายงานที่หนึ่ง (ทั้งหมด) ตามที่อาจารย์มุรีดนามาอ้างเป็นหลักฐานเรื่อง
ไม่กระดิกนิ้วชี้นั้น ข้อเท็จจริงก็คือ เป็นรายงานที่เรียกว่า ُ‫ه‬ْ‫ن‬َ‫ع‬ ٌ‫ت‬ْ‫و‬ُ‫ك‬ ْ‫س‬َ‫م‬ คือไม่อาจชี้ชัดได้ว่ามี
การกระดิกนิ้ วชี้ ด้วยหรือไม่ หรือถ้าเป็นภาษาชาวบ้านทั่วไปอาจเรียกว่า เป็นมวยเชิงรอ
จังหวะ คือ ไม่บุกแต่ก็ไม่ถอย
หมายความว่า รายงานลักษณะที่หนึ่งนี้จะนามาอ้างเป็นหลักฐานเรื่องกระดิกนิ้วชี้ก็ไม่ได้
จะอ้างเป็นหลักฐานเรื่องไม่กระดิกนิ้วชี้ก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะทั้งสองอย่างนั้นไม่มีกล่าวไว้
ในหะดีษบทนี้เลย
เพราะฉะนั้น รายงานที่หนึ่งนี้ จึงเป็ นหลักฐานได้เพียงอย่างเดียว คือ ท่าน
นะบีย์ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ยกนิ้วชี้ขึ้นในการอ่านตะชะฮ์ฮุด
ส่วนปัญหาที่ว่าเมื่อท่านยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วท่านกระดิกมันหรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับผลการ
วิเคราะห์รายงานที่สองและรายงานที่สามที่ยังขัดแย้งกันอยู่ว่า รายงานไหนจะถูกต้องกว่ากัน
ถ้าผลการวิเคราะห์ออกมาว่า รายงานที่ว่าไม่กระดิกนิ้วชี้เป็นรายงานที่ถูกต้องกว่าก็ต้อง
ถือว่า ซุนนะฮ์ในการนั่งอ่านตะชะฮ์ฮุด ให้ยกนิ้วชี้ขึ้นแต่ไม่ต้องกระดิกมัน
แต่ถ้าผลการวิเคราะห์ออกมาว่า รายงานเรื่องกระดิกนิ้วถูกต้องกว่า เช่นนี้ก็ต้องยอมรับ
ว่า ซุนนะฮ์ในการนั่งอ่านตะชะฮ์ฮุดนั้นให้ยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วกระดิกมันด้วย
ต่อไปนี้คือรายละเอียดของการรายงานและการวิเคราะห์ลักษณะนิ้วชี้ของท่านศาสดาใน
การนั่งอ่านตะชะฮ์ฮุด ซึ่งผู้เขียนจะเริ่มวิเคราะห์จาก“รายงานที่หนึ่ง”ก่อน ดังต่อไปนี้
รายงานที่หนึ่ง
เรื่องยกนิ้วชี้ขึ้น แต่ไม่ระบุเรื่องกระดิกหรือไม่กระดิก
(1) รายงานจากอับดุลลอฮ์ อิบนุ อัซ-ซุบัยร์ ร.ฎ. (เสียชีวิตเมื่อ ฮ.ศ. 73)
รายงานในเรื่องนี้จากอับดุลลอฮ์ฯ มี 3 กระแสด้วยกันคือ
ก.จากอุษมาน บินหะกีม จากอามิร บินอับดุลลอฮ์ จากบิดาของท่านคือ อับดุลลอฮ์
อิบนุ อัซ-ซุบัยร์ ร.ฎ. ซึ่งได้กล่าวว่า
َّ‫ل‬ َ‫ص‬ ‫ى‬‫هللا‬ ُ‫ل‬ْ‫و‬ ُ‫س‬َ‫ر‬ َ‫ن‬ َ‫َك‬ََّ‫ّل‬ َ‫س‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ل‬َ‫ع‬ ُ‫هللا‬‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ذ‬‫ى‬‫خ‬َ‫ف‬ َ ْ‫ْي‬َ‫ب‬ ‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ُ‫ه‬َ‫م‬َ‫د‬َ‫ق‬ َ‫ل‬َ‫ع‬َ‫ج‬ ‫ى‬‫ة‬َ‫ال‬ َّ‫الص‬ ‫ى‬‫ِف‬ َ‫د‬َ‫ع‬َ‫ق‬ ‫ا‬َ‫ذ‬
ِ
‫ا‬
َ‫َن‬ْ‫م‬ُ‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ُ‫ه‬َ‫د‬َ‫ي‬ َ‫ع‬َ‫ض‬َ‫و‬َ‫و‬ ،‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ت‬َ‫ب‬ْ‫ك‬ُ‫ر‬ َ‫ل‬َ‫ع‬ ‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ُ‫ه‬َ‫د‬َ‫ي‬ َ‫ع‬َ‫ض‬َ‫و‬َ‫و‬ ، َ‫َن‬ْ‫م‬ُ‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ُ‫ه‬َ‫م‬َ‫د‬َ‫ق‬ َ‫ش‬َ‫ر‬َ‫ف‬َ‫و‬ ،‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ق‬‫ا‬ َ‫س‬َ‫و‬
َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬َ‫و‬ َ‫َن‬ْ‫م‬ُ‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ذ‬‫ى‬‫خ‬َ‫ف‬ َ‫ل‬َ‫ع‬‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬
ِ
‫ى‬‫اب‬
“เมื่อท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะวัลลัมนั่งในละหมาดนั้น ท่านจะวางฝ่า
เท้าซ้ายของท่านไว้ระหว่างขาอ่อนกับแข้ง (ขวา) ของท่าน และแบฝ่าเท้าขวาของท่าน (ใน
ลักษณะตั้งชันขึ้นอันเป็นการนั่งแบบ “ตะวัรรุก”) แล้วท่านก็วางมือซ้ายของท่านลงบนเข่าซ้าย
5
และวางมือขวาของท่านบนขาอ่อนด้านขวา และท่านก็ทาสัญญาณด้วยนิ้ว (ชี้ คือยกนิ้วชี้
ขึ้น)”3
รายงานนี้เป็นรายงานที่ถูกต้อง และสานวนในที่นี้เป็นสานวนจากการบันทึกของมุสลิม
อาจารย์มุรีดได้นาเอาหะดีษกระแสนี้มาเป็นหลักฐานที่ 1 เรื่องไม่ต้องกระดิกนิ้วชี้4
ข. จากมัครอมะฮ์ บินบุกัยร์ จากอามิร บินอับดุลลอฮ์ จากอับดุลลอฮ์ อิบนุ อัซ-ซุบัยร์
ร.ฎ. ซึ่งกล่าวว่า
َ‫ل‬َ‫ع‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫د‬َ‫ي‬ ُ‫ع‬ َ‫ض‬َ‫ي‬ ‫ى‬‫ع‬َ‫ب‬ْ‫ر‬َ‫أل‬ْ‫ا‬ ‫ى‬‫ِف‬ ْ‫و‬َ‫أ‬ ‫ى‬ ْ‫ْي‬َ‫ت‬ْ‫ن‬‫ى‬ّ‫ث‬‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬‫ِف‬ َ‫س‬َ‫ل‬َ‫ج‬ ‫ا‬َ‫ذ‬
ِ
‫ا‬ ََّ‫ّل‬ َ‫س‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ل‬َ‫ع‬ ُ‫هللا‬ َّ‫ل‬ َ‫ص‬ ‫ى‬‫هللا‬ ُ‫ل‬ ْ‫و‬ ُ‫س‬َ‫ر‬ َ‫ن‬ َ‫َك‬
‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬
ِ
‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ َّ ُ‫ُث‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ت‬َ‫ب‬ْ‫ك‬ُ‫ر‬
“เมื่อท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั่ง (อ่านตะชะฮ์ฮุด) ในร็อกอะฮ์ที่
สองหรือร็อกอะฮ์ที่สี่ ท่านจะวางมือทั้งสองของท่านลงบนเข่าทั้งสองของท่าน จากนั้นท่านก็ทา
สัญญาณด้วยนิ้ว (ชี้) ของท่าน”5
สายรายงานนี้ถูกต้อง หรืออย่างน้อยก็หะซัน (สวยงาม)
ค. จากมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน จากอามิร บินอับดุลลอฮ์ จากอับดุลลอฮ์ อิบนุ อัซ-
ซุบัยร์ ร.ฎ. ซึ่งกล่าวว่า
‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ُ‫ه‬َّ‫ف‬َ‫ك‬ َ‫ع‬َ‫ض‬َ‫و‬ ‫ى‬‫د‬ُّ‫ه‬ َ‫ش‬َّ‫ت‬‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬‫ِف‬ َ‫د‬َ‫ع‬َ‫ق‬ ‫ا‬َ‫ذ‬
ِ
‫ا‬ َ‫ن‬ َ‫َك‬ ََّ‫ّل‬ َ‫س‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ل‬َ‫ع‬ ُ‫هللا‬ َّ‫ل‬ َ‫ص‬ ‫ى‬‫هللا‬ َ‫ل‬ْ‫و‬ ُ‫س‬َ‫ر‬ َّ‫ن‬
ِ
‫ا‬‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ذ‬‫ى‬‫خ‬َ‫ف‬ َ‫ل‬َ‫ع‬
ُ‫ه‬َ‫ت‬َ‫ار‬ َ‫ش‬
ِ
‫ا‬ ُ‫ه‬ُ َ‫َص‬َ‫ب‬ُ‫ز‬‫ى‬‫و‬‫ا‬َ ُ‫ُي‬ َ‫ال‬ ‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬َ‫و‬ ،‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬
“เมื่อท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั่งตะชะฮ์ฮุด ท่านจะวางฝ่ามือซ้าย
บนขาอ่อนข้างซ้าย และท่านจะทาสัญญาณด้วยนิ้วชี้ โดยที่สายตาของท่านจะมองไปยังการชี้
นั้น”6
สายรายงานนี้หะซัน (สวยงาม) เพราะมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน มีความบกพร่องด้าน
ความจาเล็กน้อย
อาจารย์มุรีดได้นาเอาหะดีษกระแสนี้มาเป็นหลักฐานที่ 2 เรื่องไม่ต้องกระดิกนิ้วชี้7
จะเห็นได้ว่า รายงานนี้ทั้งสามกระแส คือกระแสของอุษมาน บินหะกีม, กระแสของมัค
รอมะฮ์ บินบุกัยร์ และกระแสของมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน ล้วนรายงานมาจากแหล่งเดียวกัน คือ
จากอับดุลลอฮ์ อิบนุอัซ-ซุบัยร์ ร.ฎ.
3
บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 112/579, อบูดาวูด หะดีษที่ 988, อิบนุคุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 696 และอัล-บัยฮะกีย์
เล่มที่ 2 หน้า 130
4
ดู มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545), หน้า 14, 20.
5
บันทึกโดยอัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 1160 และอัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 132
6
บันทึกโดยอัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 1274; อัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 132 และผู้บันทึกอื่นๆ
7
ดู มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545), หน้า 14-15.
6
(2) รายงานจากวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ.(เสียชีวิตในสมัยมุอาวิยะฮ์เป็นคอลีฟะฮ์)
หะดีษนี้จากการรายงานของวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ. เท่าที่ผู้เขียนตรวจสอบแล้วมีรวม 7
กระแสด้วยกัน ซึ่งในที่นี้ผู้เขียนจะนาเสนอข้อความที่ตรงประเด็นเรื่องลักษณะนิ้วชี้โดยเฉพาะ
เท่านั้น เพื่อมิให้ยืดเยื้อจนเกินไป ดังนี้
ก. จากซุฟยาน อัษ-เษารีย์ จากอาศิม บินกุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จากวาอิล บินหุจญ์
ริน ร.ฎ. กล่าวว่า
....َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬َ‫و‬ .‫ا‬َ ‫ِبى‬ ْ‫و‬ُ‫ع‬ْ‫د‬َ‫ي‬ ،‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬
“. . . แล้วท่านก็ทาสัญญาณด้วยนิ้วชี้ (โดย) วิงวอน (คืออ่านตะชะฮ์ฮุด) ด้วยมัน
(นิ้วชี้)”8
อาจารย์มุรีดได้นาหะดีษกระแสนี้มาเป็นหลักฐานที่ 59
แต่ในสายรายงานกล่าวว่า จาก
มุหัมมัด อัล-ฟิรยาบีย์ ฟังจากอาศิม บินกุลัยบ์
ข้อความนี้มีตกหล่นนามผู้รายงานท่านหนึ่งระหว่างท่านมุหัมมัด อัล-ฟิ รยาบีย์ กับ
อาศิม บินกุลัยบ์คือซุฟยาน อัษ-เษารีย์ซึ่งผู้เขียนเข้าใจว่าน่าจะเกิดจากความผิดพลาดในการ
เรียงพิมพ์
ข. จากชุอ์บะฮ์ บินอัล-หาจญ์จากอาศิม บินกุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จากวาอิล บิน
หุจญ์ริน ร.ฎ. กล่าวว่า
......‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬َ‫ا‬‫ب‬َّ‫ب‬ َّ‫الس‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬
ِ
‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬َ‫و‬
“. . . และท่านก็ทาสัญญาณด้วยนิ้วชี้ของท่าน”10
อาจารย์มุรีด ได้นาหะดีษกระแสนี้มาเป็นหลักฐานด้วย11
ค. จากอับดุลญับบาร บินอะลาอ์ จากอาศิม บินกุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จากวาอิล
บินหุจญ์ริน ร.ฎ. กล่าวว่า
....ْ‫و‬ُ‫ع‬ْ‫د‬َ‫ي‬ ‫ى‬‫ة‬َ‫ح‬‫ا‬َ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ ُ ْ‫ْي‬ ‫ى‬‫ُش‬‫ي‬ َ‫ل‬َ‫ع‬َ‫ج‬َ‫و‬ .
“. . . และท่านเริ่มทาสัญญาณด้วยนิ้วชี้ (เพื่อ) กล่าวตะชะฮ์ฮุด”12
อาจารย์มุรีด ได้นาหะดีษกระแสนี้มาเป็นหลักฐานด้วย13
8
บันทึกโดยอัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 1263 และอะห์มัด เล่ม 4 หน้า 318
9
ดู มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545), หน้า 16.
10
บันทึกโดยอิบนุคุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 697 และอะห์มัด เล่ม 4 หน้า 319
11
ดู มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545), หน้า 18.
12
บันทึกโดยอิบนุคุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 713
13
ดู มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545), หน้า 19.
7
ง. จากบิชร์ บินอัล-มุฟัฎฎ็อล จากอาศิม บินกุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จากวาอิล บิน
หุจญ์ริน ร.ฎ. กล่าวว่า
....َ‫َن‬ْ‫م‬ُ‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ َ‫ن‬‫ى‬‫م‬ ‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬َ‫و‬ .
“. . . และท่านก็ทาสัญญาณด้วยนิ้วชี้มือขวา”14
อาจารย์มุรีด ได้นาหะดีษกระแสนี้มาเป็นหลักฐานด้วย15
จ. จากคอลิด บินอับดุลลอฮ์ อัล-วาสิฏีย์ จากอาศิม บินกุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จาก
วาอิล บินหุจญริน ร.ฎ. ด้วยสานวนที่เหมือนการรายงานของบิชร์ บินมุฟัฎฎ็อล จากการบันทึก
ของอะบูดาวูดที่ผ่านมาแล้ว16
ฉ. จากซุฮัยร์ บินมุอาวิยะฮ์ จากอาศิม บินกุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จากวาอิล บินหุจญ์
ริน ร.ฎ. ด้วยสานวนที่คล้ายกับรายงานของบิชร์ บินมุฟัฎฎ็อล เช่นเดียวกัน17
ช. จากอะบูอัล-อะห์วัศ อัล-หะนะฟี ย์จากอาศิม บินกุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จาก
วาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ. กล่าวว่า
....‫ى‬َ‫ْر‬‫خ‬ُ‫أل‬ْ ‫ى‬‫اب‬ ْ‫و‬ُ‫ع‬ْ‫د‬َ‫ي‬ َ‫ل‬َ‫ع‬َ‫ج‬ َّ ُ‫ُث‬ ‫ى‬َ‫ط‬ ْ‫س‬ُ‫و‬ْ‫ل‬‫ا‬َ‫و‬ ‫ى‬‫م‬‫ا‬َ ْ‫ِب‬
ِ
‫ال‬ْ‫ا‬ َ‫ة‬َ‫ق‬ْ‫ل‬َ‫ح‬ َ‫ل‬َ‫ع‬َ‫ج‬َ‫و‬ .
“. . . และท่านนะบีย์ก็เอานิ้วหัวแม่มือกับนิ้วกลางจรดกันเป็นวงกลม แล้วท่านก็เริ่ม
อ่านตะชะฮ์ฮุดด้วยนิ้วอื่น (คือนิ้วชี้)”18
ข้างต้นนี้คือ 7กระแสของหะดีษนี้ซึ่งรายงานมาจากวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ.
นอกจากนี้ ก็ยังมีหะดีษในลักษณะเดียวกันนี้ที่รายงานมาจากเศาะหาบะฮ์อีกท่านหนึ่ง
คืออิบนุอุมัร ร.ฎ.19
เมื่อพิจารณาดูเนื้อหาและสานวนของหะดีษนี้ที่รายงานมาโดยเศาะหาบะฮ์ 3 ท่าน คือ
อับดุลลอฮ์ อิบนุอัซ-ซุบัยร์,วาอิล บินหุจญ์ริน และอิบนุอุมัร ร.ฎ. ก็จะเห็นได้ว่า แม้สานวนใน
การรายงานจะแตกต่างกัน แต่ในด้านเนื้อหาแล้วจะตรงกัน คือ ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ
วะซัลลัม จะทาสัญญาณด้วยนิ้วชี้ (คือยกนิ้วชี้ขึ้น) ในการอ่านตะชะฮ์ฮุด
ข้อความของหะดีษนี้ทั้งหมดทุกกระแสข้างต้นมีกล่าวไว้เพียงแค่นี้ ไม่มีกระแสใด
รายงานเพิ่มเติมเลยว่า ท่านกระดิกนิ้วชี้หรือไม่กระดิก
14
บันทึกโดยอะบูดาวูด หะดีษที่ 957; อัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 1264; สานวนในที่นี้เป็นสานวนจากการบันทึก
ของอัน-นะซาอีย์
15
ดู มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545), หน้า 21.
16
บันทึกโดยอัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 131
17
บันทึกโดยอะห์มัด เล่ม 4 หน้า 318
18
บันทึกโดยอัฏ-เฏาะหาวีย์ ใน “ชัรหุมะอานีย์ อัล-อาษาร” เล่ม 1 หน้า 259
19
จากการบันทึกของมุสลิม หะดีษที่ 115/580; อิมามมาลิก ใน “อัล-มุวัฏเฏาะอ์” หะดีษที่ 195; อัต-ติรมีซีย์
หะดีษที่ 294; อะห์มัด เล่ม 2 หน้า 65 และอัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 130 เป็นต้น
8
ดังนั้น การที่นักวิชาการบางท่าน เช่น ชัยค์มุหัมมัด อัมร์ อับดุลละฏีฟ เจ้าของ
หนังสือ “ตับยีฎ อัศ-เศาะหี้หะฮ์”ได้อ้างหะดีษเหล่านี้แล้วสรุปว่า เป็นหลักฐานเรื่องการไม่
กระดิกนิ้วชี้ในการอ่านตะชะฮ์ฮุด จึงเป็นเรื่องการขาดความรอบคอบในการพิจารณา
ความหมายของหะดีษ
ผู้เขียนพิจารณาว่า การที่ชัยค์ผู้นี้ (รวมทั้งอาจารย์มุรีดด้วย) ได้อ้างหะดีษเหล่านี้เป็น
หลักฐานเรื่องไม่ต้องกระดิกนิ้วชี้ในการอ่านตะชะฮ์ฮุด ทั้งๆ ที่ข้อความที่ว่า “ไม่กระดิก
นิ้วชี้”ไม่มีปรากฏในรายงานเหล่านี้เลยดังกล่าวมาแล้ว อาจเป็นเพราะเข้าใจไปว่า การ“ชี้”กับ
การ“กระดิก”เป็นเรื่องที่ค้านกัน
ดังนั้น เมื่อผู้รายงานหะดีษกล่าวว่า ท่านนะบีย์ ‫ى‬‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬
ِ
‫ال‬ْ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ โดยไม่ได้ให้ความหมาย
ตามหลักภาษาว่า ท่านทาสัญญาณด้วยนิ้วหรือยกนิ้วขึ้น แต่กลับให้ความหมายว่า ท่านชี้นิ้ว
เช่นนี้จึงทาให้เข้าใจต่อไปอีกว่า เป็นการชี้นิ้วตรงโดยไม่กระดิกมัน
เมื่อเข้าใจว่าการชี้นิ้วกับการกระดิกนิ้วนั้นค้านกัน จึงตัดสินชี้ขาดลงไปทันทีว่า ท่าน
นะบีย์ชี้นิ้วจริง แต่ไม่ได้กระดิกนิ้ว ซึ่งเรื่องนี้น่าจะเป็นความเข้าใจผิดซ้าสอง
ก่อนอื่น ก็ขอให้ลองมาพิจารณาดูข้อเท็จจริง ทั้งตามหลักภาษาและการปฏิบัติของท่าน
นะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะวัลลัม ว่า การ “ชี้”กับการ“กระดิก”ค้านกันหรือไม่อย่างไร
1.ในแง่ของภาษา
ก. คาว่า ‫ة‬َ‫ار‬ َ‫ش‬
ِ
‫ا‬ ، ُ ْ‫ْي‬ ‫ى‬‫ُش‬‫ي‬ ، َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ ในภาษาอาหรับดังที่มีระบุในหะดีษข้างต้นนี้ โดย
พื้นฐานของภาษาแล้วไม่ได้หมายถึงชี้ แต่หมายถึง“การสื่อสัญญาณ, การทาสัญญาณ, การ
แสดงอาการให้รู้ด้วยอวัยวะหรือสิ่งใด เพื่อสื่อความหมายที่ต้องการแทนคาพูด”20
โปรดดูตัวอย่างจากสานวนต่างๆ ดังต่อไปนี้
ภาษาอาหรับกล่าวว่า
‫ى‬‫ب‬‫ى‬‫اج‬َ‫ح‬ْ‫ل‬ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ หมายความว่า เขาสื่อสัญญาณด้วยคิ้ว กล่าวคือยักคิ้ว
‫ى‬ ْ‫ْي‬َ‫ع‬ْ‫ل‬ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ หมายความว่า เขาสื่อสัญญาณด้วยตา กล่าวคือขยิบตา
หรือหรี่ตาให้
‫ى‬‫س‬ْ‫أ‬َّ‫لر‬ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ หมายความว่า เขาแสดงสัญญาณด้วยศีรษะ กล่าวคือส่าย
ศีรษะเมื่อปฏิเสธหรือผงกศีรษะเมื่อยอมรับ
20
โปรดดู “อัล-มิศบาห์ฯ” เล่ม 1 หน้า 350; “อัล-มุอ์ญัม อัล-วะซีฏ” เล่ม 1 หน้า 499; กอมูส “อัล-
มุฮีฏ” เล่ม 2 หน้า 134; กอมูส “อัล-มุนญิด” หน้า 407; “อัน-นิฮายะฮ์ ฟี เฆาะรีบิลหะดีษ” เล่ม 2 หน้า 518
9
‫ى‬‫د‬َ‫ي‬ْ‫ل‬ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ หมายความว่า เขาทาสัญญาณด้วยมือ กล่าวคือการกวัก
มือเรียกให้เข้ามา หรือโบกมือทักทาย หรือโบกมือไล่ให้ออกไป หรือชี้มือไปข้างหน้า
‫ى‬ ‫ى‬‫َص‬ْ‫ن‬‫ى‬‫خ‬ْ‫ل‬ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ หมายความว่า เขาทาสัญ ญาณด้ วยนิ้ วก้ อย กล่าว
คือ“ชู”นิ้วก้อยขึ้นเป็นความหมายว่า เรามาดีกันนะ หรือเราเลิกโกรธกันนะ
‫ى‬‫م‬‫ا‬َ ْ‫ِب‬
ِ
‫ال‬ْ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ หมายความว่า เขาทาสัญญาณด้วยหัวแม่มือ กล่าว
คือ“ชู”นิ้วหัวแม่มือขึ้นเป็นความหมายยอมรับว่า นายแน่มาก เป็นต้น
ข้อความข้างต้นทั้งหมดนี้ใช้คาว่า َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ เช่นเดียวกัน แต่มีผู้ใดบ้างเล่าที่จะให้
ความหมายว่า เขาชี้ด้วยคิ้ว เขาชี้ด้วยตา เขาชี้ด้วยศีรษะ เขาชี้ด้วยนิ้วก้อย เขาชี้ด้วยหัวแม่มือ
ถึงขั้นนี้ให้พิจารณาถึงสภาพความเป็นจริงของการทาสัญญาณด้วยอวัยวะต่างๆ
ดังกล่าวมาข้างต้นนั้นว่า เวลาเราส่งสัญญาณห้ามหรือยุใครด้วยการขยิบตาก็ดี โบกมือทักทาย
ใครก็ดี ยอมรับใครด้วยการผงกศีรษะก็ดีไม่เห็นด้วยกับใครด้วยการส่ายศีรษะก็ดี
จาเป็นด้วยหรือที่จะต้อง َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ คือสื่อสัญญาณด้วยอวัยวะเหล่านั้นโดยขยิบตาได้แค่ครั้ง
เดียว โบกมือได้แค่ครั้งเดียว ผงกศีรษะได้แค่ครั้งเดียว ส่ายศีรษะได้แค่ครั้งเดียว โดยห้าม
ทาซ้าหลายครั้ง
หรือตามข้อเท็จจริงเราจะต้องทาซ้ามากกว่าหนึ่งครั้งกันแน่
เพราะฉะนั้น เมื่อหะดีษกล่าวว่า ท่านนะบีย์ ‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ (ทาสัญญาณด้วยนิ้วชี้หรือ
ยกนิ้วชี้ขึ้น) มีการเอาหลักฐานใดมาอ้างหรือที่ว่า เมื่อยกนิ้วชี้ขึ้นแล้ว ท่านก็ชี้มันไปข้างหน้าตรง
เลยโดยไม่กระดิกมันอีก
ข. อัศ-ศ็อนอานีย์ ได้กล่าวโดยไม่เกี่ยวกับเรื่องการกระดิกหรือชี้ของหะดีษบทนี้ แต่
เป็นการกล่าวในภาพรวมทั่วๆ ไปว่า
‫ى‬‫ت‬ َّ‫ُص‬‫خ‬ : ُ‫ء‬‫ا‬َ‫م‬َ‫ل‬ُ‫ع‬ْ‫ل‬‫ا‬ َ‫ل‬‫ا‬َ‫ق‬‫ى‬‫ال‬ ‫ى‬‫ة‬َ‫ار‬ َ‫ش‬
ِ
‫ال‬ْ ‫ى‬‫اب‬ ُ‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫الس‬، ‫ى‬‫ب‬ْ‫ل‬َ‫ق‬ْ‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬ِ‫ا‬َ‫ي‬‫ى‬ِ‫ى‬‫ب‬ ‫َا‬‫ه‬‫ى‬‫ل‬‫ا‬ َ‫ص‬‫ى‬ّ‫ت‬ُ‫ك‬ْ‫ي‬‫ى‬‫ر‬ْ‫ح‬َ‫ت‬َ‫ف‬‫َا‬‫ه‬‫ى‬‫ر‬ْ‫و‬ ُ‫ض‬ُ‫ح‬‫ى‬‫ل‬ ٌ‫ب‬َ‫ب‬ َ‫س‬ ‫َا‬‫ه‬
“บรรดานักวิชาการต่างกล่าวว่า การกาหนดการชี้ด้วยนิ้วชี้ ก็เพราะมัน (นิ้วชี้) เชื่อมโยง
อยู่กับขั้วหัวใจ ดังนั้นการกระดิกมันก็คือสาเหตุในการกระตุ้นให้หัวใจตื่นตัว (เตรียมพร้อม
ตลอดเวลา)”21
ข้อความข้างต้นนี้ คงไม่ต้องขยายความใดๆ อีก เพราะคงจะมองออกแล้วว่า
การ“กระดิก”นิ้วชี้นั้น มัน“ค้าน”หรือ“เสริม”การชี้นิ้วกันแน่
21
“สุบุลุสสะลาม” เล่ม 1 หน้า 188
10
2. ในแง่หลักฐานจากหะดีษ
ก.อิบนุคุซัยมะฮ์ได้บันทึกหะดีษบทหนึ่ง โดยอ้างรายงานมาจากซะฮฺล์ (ซะฮัล) บิน
สะอฺด์ (สะอัด) มีข้อความว่า
َ‫ل‬َ‫ع‬ َ‫ال‬ َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬ َ‫َب‬ْ‫ن‬‫ى‬‫م‬ َ‫ل‬َ‫ع‬ ْ‫و‬ُ‫ع‬ ْ‫د‬َ‫ي‬ ُّ‫ط‬َ‫ق‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫د‬َ‫ي‬ ‫ا‬‫ر‬ ‫ى‬‫اه‬ َ‫ش‬ ََّ‫ّل‬ َ‫س‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ل‬َ‫ع‬ ُ‫هللا‬ َّ‫ل‬ َ‫ص‬ ‫ى‬‫هللا‬ َ‫ل‬ ْ‫و‬ ُ‫س‬َ‫ر‬ ُ‫ت‬ْ‫ي‬َ‫أ‬َ‫ر‬ ‫ا‬َ‫م‬
،‫ى‬‫ه‬‫ى‬ ْ‫ْي‬َ‫غ‬: ‫ا‬َ‫ذ‬َ‫ك‬َ‫ه‬ ُ‫ل‬ْ‫و‬ُ‫ق‬َ‫ي‬ ُ‫ه‬ُ‫ت‬ْ‫ي‬َ‫أ‬َ‫ر‬ ْ‫ن‬‫ى‬‫ك‬َ‫ل‬َ‫و‬‫َا‬‫ه‬ُ‫ك‬‫ى‬ّ‫ر‬َ ُ‫حي‬ ‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫الس‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬
ِ
‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬َ‫و‬
“ฉันไม่เคยเห็นท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะวัลลัมแสดง (คือยก) มือทั้ง
สองของท่านเลยขณะขอดุอาบนมิมบัรของท่านหรือบนอะไรก็ตาม แต่ฉันเห็นท่านกล่าว (คือ
แสดงอาการ) อย่างนี้ แล้วท่านซะฮฺล์ก็ยกนิ้วชี้ของท่านขึ้นพร้อมกับกระดิกมันด้วย”22
ผู้เขียนไม่ได้อ้างหะดีษบทนี้เป็นหลักฐานตามเนื้อหาทั้งหมดของมัน เพราะในสาย
รายงานของหะดีษนี้มีข้อบกพร่องเล็กน้อย
นั่นคือผู้รายงานท่านหนึ่งชื่อ อับดุรเราะห์มาน บินมุอาวิยะฮ์ อะบูอัล-หุวัยริษ ถูก
วิจารณ์ว่า แม้จะเป็นผู้ที่พอจะเชื่อถือได้ แต่ความจาไม่ค่อยดี23
แต่ที่นาหะดีษบทนี้มาอ้างก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า การที่ข้อความของหะดีษกล่าวว่า ท่านยก
หรือชี้นิ้วชี้พร้อมกระดิกมันด้วย แสดงว่าตามหลักภาษานั้น การชี้กับการกระดิกไม่ถือว่าเป็น
เรื่องที่ค้านกันเลย ดังความเข้าใจผิดๆ ของนักวิชาการบางท่าน
ข.มีรายงานมาจากท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร.ฎ. ว่า
َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬َ‫ف‬ ،‫ا‬‫ام‬َ‫ي‬‫ى‬‫ق‬ ٌ‫م‬ْ‫و‬َ‫ق‬ ُ‫ه‬َ‫اء‬ َ‫ر‬ َ‫و‬ َّ‫ل‬ َ‫ص‬َ‫ف‬ ، ٍ‫اك‬ َ‫ش‬َ‫ُو‬‫ه‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ت‬ْ‫ي‬َ‫ب‬ ْ ‫ى‬‫ِف‬ ََّ‫ّل‬ َ‫س‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ل‬َ‫ع‬ ُ‫هللا‬ َّ‫ل‬ َ‫ص‬ ‫ى‬‫هللا‬ ُ‫ل‬ْ‫و‬ ُ‫س‬َ‫ر‬ َّ‫ل‬ َ‫ص‬
. ‫ا‬ْ‫و‬ ُ‫س‬‫ى‬‫ل‬ْ‫ج‬‫ا‬ ‫ى‬‫ن‬َ‫أ‬ ْ‫م‬‫ى‬ْ‫ْي‬َ‫ل‬
ِ
‫ا‬..
“ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ทาละหมาดในบ้านของท่านขณะที่
ท่านกาลังป่วยอยู่ แล้วก็มีคนกลุ่มหนึ่งมายืนละหมาดข้างหลังท่านท่านจึงชี้ (มือหรือนิ้ว) ไปยัง
พวกเขา (เป็นสัญญาณ) ว่า พวกท่านจงนั่งลง . . .”24
โปรดสังเกตด้วยว่า ในหะดีษบทนี้ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร.ฎ. กล่าวว่า ْ‫م‬‫ى‬ْ‫ْي‬َ‫ل‬
ِ
‫ا‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ ซึ่งมี
ความหมายได้ตรงตัวว่า ท่านได้ชี้ (มือหรือนิ้ว) ไปยังพวกเขา, ต่างกับหะดีษบทวิภาษที่ใช้
สานวนว่า‫ى‬‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬
ِ
‫ال‬ْ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ซึ่งควรจะให้ความว่า ท่านได้ทาสัญญาณด้วยนิ้ ว คือยกนิ้วขึ้น
ดังกล่าวมาแล้ว
22
“อัศ-เศาะเหี๊ยะฮ์” ของ อิบนุคุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 1450
23
“ตักรีบุต ตะฮ์ซีบ” เล่ม 1 หน้า 498 หมายเลข 1116
24
บันทึกโดยบุคอรีย์ หะดีษที่ 688, 1113, 1236, 5658; อิบนุมาญะฮ์ หะดีษที่ 1237; มาลิก ใน “อัล-
มุวัฏเฏาะอ์” หะดีษที่ 303
11
การที่ท่านนะบีย์นั่งละหมาดเพราะป่ วยแล้วมีคนมายืนละหมาดข้างหลังท่าน ท่าน
จึง “ชี้ ”มือหรือนิ้วไปยังพวกเขาเพื่อเตือนว่าพวกเขาอย่ายืนละหมาด แต่ให้นั่งลงละหมาด
เหมือนท่าน (โดยในสานวนหะดีษมิได้กล่าวว่า ท่านกระดิกมือหรือกระดิกนิ้วด้วย)
แล้วจะคิดหรือว่า หากท่านนะบีย์ชี้มือหรือชี้นิ้วไปยังพวกเขาเฉยๆ โดยมิได้กระดิกนิ้ว
มือลงหรือโบกมือลงด้วยแล้ว พวกเขาจะเข้าใจหรือว่า ท่านชี้มือหรือชี้นิ้วมาที่พวกเขาเพื่อ
ต้องการสื่อความหมายอะไร
สรุปแล้ว การ “ชี้”กับการ“กระดิก”นิ้วจึงมิใช่เป็นเรื่องที่ค้านกันเลย ไม่ว่าจะมองใน
แง่มุมของภาษา ข้อเท็จจริง และหลักฐานจากหะดีษ ดังที่ผู้เขียนได้อธิบายและนาเสนอตัวอย่าง
ไปแล้ว
ดังนั้นหะดีษข้างต้นทั้งหมดเรื่องการทาสัญญาณด้วยนิ้วชี้หรือการยกนิ้วชี้ของท่านนะบีย์
ขณะอ่านตะชะฮ์ฮุด ซึ่งแม้จะอนุโลมให้หมายความว่า ท่านชี้ด้วยนิ้วชี้ก็ตาม จึงมิใช่หลักฐาน
ห้ามหรือปฏิเสธการกระดิกนิ้วชี้ด้วยแน่นอนดังความเข้าใจผิดของชัยค์มุหัมมัด อัมร์ อับดุล
ละฏีฟ25
และอาจารย์มุรีดได้นามาใช้เป็นบรรทัดฐานในหนังสือ“ชี้หรือกระดิก”ของท่านเอง
รายงานที่สอง
เรื่องยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วมีระบุชัดเจนว่า ไม่กระดิกนิ้ว
หลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีรายงานมาดังต่อไปนี้
ซิยาด บินสะอฺด์บินอับดุรเราะห์มาน ได้รายงานจากมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน จากอามิร
บินอับดุลลอฮ์ จากอับดุลลอฮ์ อิบนุอัซ-ซุบัยร์ ร.ฎ.กล่าวว่า
ُ ْ‫ْي‬ ‫ى‬‫ُش‬‫ي‬ َ‫ن‬ َ‫َك‬ ََّ‫ّل‬ َ‫س‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ل‬َ‫ع‬ ُ‫هللا‬ َّ‫ل‬ َ‫ص‬ َّ ‫ى‬‫ِب‬َّ‫ن‬‫ال‬ َّ‫ن‬
ِ
‫ا‬،‫ا‬َ‫ع‬َ‫د‬ ‫ا‬َ‫ذ‬
ِ
‫ا‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬
ِ
‫ى‬‫اب‬‫َا‬‫ه‬ُ‫ك‬‫ى‬ّ‫ر‬َ ُ‫حي‬ َ‫ال‬َ‫و‬
“แท้จริง ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้ทาสัญญาณด้วยนิ้วของท่าน (คือยก
นิ้วชี้ขึ้น) ขณะกล่าววิงวอน (คืออ่านตะชะฮ์ฮุด) และท่านไม่ได้กระดิกมัน”26
สถานภาพของหะดีษบทนี้
อิมามนะวะวีย์ได้กล่าวว่า สายรายงานของหะดีษนี้ถูกต้อง27
25
ใน “ตับยีฎ อัศ-เศาะหี้หะฮ์”
26
บันทึกโดย อะบูดาวูด หะดีษที่ 989; อัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 1269; อัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 132 และอัล-
บัฆวีย์ ใน “ชัรหุ อัซ-ซุนนะฮ์” หะดีษที่ 677
27
ใน “อัล-มัจญมั๊วะอฺ” เล่ม 3 หน้า 454
12
ข้อโต้แย้ง
ตามความเป็นจริงแล้ว นักวิชาการหะดีษหลายท่านได้กล่าววิจารณ์หะดีษนี้ว่ามีความ
บกพร่องทั้งในด้านสายรายงานและในด้านตัวบท
อธิบาย
ข้อบกพร่องในด้านสายรายงานก็คือ มุหัมมัด บินอัจญ์ลานซึ่งเป็นผู้รายงานท่านหนึ่ง
ของหะดีษนี้ (เป็นตาบิอีน เสียชีวิต ฮ.ศ. 148) แม้ตามปกติเป็นผู้ที่พอจะเชื่อถือได้ ( ٌ‫ق‬ْ‫و‬ُ‫د‬ َ‫)ص‬
และได้รับความเชื่อถือจากนักวิชาการบางท่าน แต่ขณะเดียวกันก็ถูกนักวิชาการจานวนมาก
กล่าวว่า‫ى‬‫ظ‬ْ‫ف‬‫ى‬‫ح‬ْ‫ل‬‫ا‬ ُ ‫ى‬ّ‫ّي‬ َ‫س‬คือ เป็นผู้ที่ความจาแย่28
หะดีษซึ่งผู้รายงานที่มีคุณสมบัติดังกล่าวนี้รายงานมาจะถือว่าเป็น “สายรายงานที่
ถูกต้อง”ดังคากล่าวของอิมามนะวะวีย์ ย่อมไม่ได้ แต่ตามหลักการแล้วต้องถือว่า เป็ นหะดีษ
ที่สายรายงานค่อนข้างอ่อน หรืออย่างดีที่สุดก็อาจกล่าวได้เพียงว่า สายรายงานของมัน หะซัน
(สวยงาม) เท่านั้น29
ส่วนข้อบกพร่องในด้านเนื้อหาก็คือ ข้อความของหะดีษนี้ที่ว่า “และท่าน (นะบีย์)
ไม่ได้กระดิกมัน (นิ้วชี้)”ถือเป็ นข้อความที่ผิดเพี้ยน (‫اذ‬ َ‫)ش‬ ดังคากล่าวของนักวิชาการหลาย
ท่าน เช่น อิบนุลก็อยยิม, อัล-อัลบานีย์, ชัยค์อะบูอุบัยดะฮ์ มัชฮูร บินหะซัน ฯลฯ30
วิเคราะห์
สาเหตุที่นักวิชาการกล่าวว่า ข้อความดังกล่าวของหะดีษนี้ผิดเพี้ยน ก็เพราะข้อความนี้มี
รายงานมาเพียงกระแสเดียว คือ จากซิยาด บินซะอ์ด์ จากมุหัมมัดบินอัจญ์ลาน จากอามิร
บินอับดุลลอฮ์ . . . ดังที่ได้ระบุมาแล้วข้างต้น
ดังได้อธิบายมาแล้วว่า มุหัมมัด บินอัจญ์ลาน ถูกวิจารณ์ว่า ความจาแย่ จึงทาให้คา
กล่าวในรายงานของท่านที่ว่า “และท่านนะบีย์ไม่ได้กระดิกนิ้วชี้”มีปัญหาเกิดขึ้น 2 ช่วง คือ
ช่วงที่หนึ่ง การรายงานของซิยาด บินซะอฺด์ (และผู้รายงานท่านอื่น) มาจากมุหัมมัด
บินอัจญ์ลาน
ช่วงที่สอง การรายงานของมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน(และผู้รายงานท่านอื่น) มาจากอามิร
บินอับดุลลอฮ์
28
“อัล-กาชิฟ” ของ อัษ-ษะฮะบีย์ เล่ม 3 หน้า 69
29
โปรดดู “ศิฟะตุ เศาะลาตินนะบีย์ฯ” หน้า 159 และ “ตะมามุ้ลมินนะฮ์” หน้า 217
30
โปรดดู “ซาดุลมะอาด” เล่ม 1 หน้า 81; “เฎาะอีฟ สุนัน นะซาอีย์” หน้า 44 และ “อัล-เกาลุลมุบีน ฟี
อัคฏออิลมุศ็อลลีน” หน้า 163
13
คาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีดังต่อไปนี้
ช่วงที่ 1
ผู้รายงานหะดีษเรื่องการยกนิ้วชี้ขึ้นของเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ขณะ
อ่านตะชะฮ์ฮุดมาจากมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน นอกจากซิยาด บินซะอฺด์ดังกล่าวมาแล้ว ยังมี
ผู้รายงานท่านอื่นอีก 4 ท่านด้วยกัน คือ
1. อะบูคอลิด อัล-อะห์มัร31
2. ซุฟยาน บินอุยัยนะฮ์32
3. ยะห์ยา บินสะอีด อัล-ก็อฏฏอน33
4. อัล-ลัยษ์ บินซะอฺด์34
ผู้รายงานทั้ง 4 ท่านนี้ ล้วนได้รับความเชื่อถือเป็นอย่างสูงจากนักวิชาการหะดีษ ได้
รายงานลักษณะการวางนิ้วชี้ของท่านนะบีย์ขณะอ่านตะชะฮ์ฮุดมาจากมุหัมมัด บินอัจญ์ลานว่า
ท่านนะบีย์ได้ “ยกนิ้วชี้ขึ้น”เหมือนรายงานของซิยาด บินซะอฺด์ ข้างต้น
แต่ในรายงานของทั้ง 4 ท่านนี้ไม่ปรากฏมีข้อความว่า “และท่านนะบีย์ไม่ได้กระดิก
นิ้วชี้”ดังปรากฏในรายงานของซิยาด ที่รายงานมาจากมุหัมมัด บินอัจญ์ลานเช่นเดียวกัน
ปัญหาจึงมีอยู่ว่า ข้อความซึ่งมีลักษณะเป็น “ส่วนเกิน”ดังกล่าวนี้น่าจะเป็นผลงานของ
ผู้ใด จะเป็นของซิยาด บินซะอฺด์ บินอับดุรเราะห์มาน อัล-คุรอซานีย์ หรือของมุหัมมัด
บินอัจญ์ลาน
แต่ทว่า ซิยาด บินซะอฺด์ ก็เป็นผู้รายงานที่ความจาดีเยี่ยมและได้รับความเชื่อถือเป็น
อย่างสูงจากบรรดานักวิชาการหะดีษพอๆ กับอีก 4 ท่านเหล่านั้น35
จึงเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะ
กล่าวข้อความนี้ออกมาเอง ถ้าไม่เพราะท่านได้ยินมันจากปากของมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน
เพราะฉะนั้นข้อความที่ว่า “และท่านนะบีย์ไม่ได้กระดิกนิ้วชี้ ”จึงถูกนักวิชาการมองว่า
น่าจะเป็น“ส่วนเกิน”ที่มาจากมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน ผู้บกพร่องด้านความทรงจาดังกล่าว
31
บันทึกโดย มุสลิม หะดีษที่ 113/579; อัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 131
32
บันทึกโดย อัด-ดาริมีย์ หะดีษที่ 1338
33
บันทึกโดย อัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 1274; อัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 132 และอิบนุคุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 718
34
บันทึกโดย มุสลิม หะดีษที่ 113/579 และอัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 131
35
ดู “ตักรีบุตตะฮ์ซีบ” เล่ม 1 หน้า 268 หมายเลข 112 และ “อัล-กาชิฟ” เล่ม 1 หน้า 259 หมายเลข 1707
14
ช่วงที่ 2
คือรายงานของมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน จากอามิร บินอับดุลลอฮ์
นอกจากมุหัมมัด บินอัจญ์ลานแล้ว ปรากฏว่า มีผู้อื่นที่รายงานหะดีษเรื่องท่านนะบีย์ยก
นิ้วชี้ขึ้นในขณะอ่านตะชะฮ์ฮุดมาจากอามิร บินอับดุลลอฮ์ อีก 2 ท่านด้วยกันคือ
1. ท่านอุษมาน บินหะกีม36
2. ท่านมัครอมะฮ์ บินบุกัยร์37
อุษมาน บินหะกีม เป็นผู้รายงานหะดีษที่ได้รับความเชื่อถือจากนักวิชาการมากกว่า
มุหัมมัด บินอัจญ์ลาน ส่วนมัครอมะฮ์ บินบุกัยร์ แม้จะมีความบกพร่องบ้างเล็กน้อยก็ได้
รายงานหะดีษนี้มาสอดคล้องกับอุษมาน บินหะกีม
ทั้งอุษมานและมัครอมะฮ์ได้รายงานเรื่องท่านนะบีย์ยกนิ้วชี้ในขณะอ่านตะชะฮ์ฮุดมา
จากอามิร บินอับดุลลอฮ์ เหมือนมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน
แต่ในรายงานของท่านทั้งสอง ไม่ปรากฏมีข้อความว่า “ท่านนะบีย์ไม่ได้กระดิก
นิ้วชี้”เหมือนที่มีในรายงานของมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน
ข้อความดังกล่าวนี้จึงเป็นข้อความที่มุหัมมัด บินอัจญ์ลาน ซึ่งเป็นผู้รายงานที่ได้รับ
ความเชื่อถือน้อยกว่า ได้รายงานให้ “เกินเลย”จากรายงานของอุษมาน บินหะกีม และมัครอ
มะฮ์ บินบุกัยร์ ซึ่งเป็นผู้รายงานที่ได้รับความเชื่อถือมากกว่า
ข้อความตอนใดของหะดีษซึ่งผู้รายงานที่ได้รับความเชื่อถือน้อยกว่า ได้รายงาน
ให้ “เพิ่มเติม”จากรายงานของผู้ที่ได้รับความเชื่อถือมากกว่า ข้อความที่เพิ่มเติมนั้นจะถูก
เรียกตามหลักวิชาการหะดีษว่าเป็น ٌ‫ة‬َّ‫ذ‬‫ا‬ َ‫ش‬ ٌ‫ة‬َ‫د‬ َ‫َي‬‫ى‬‫ز‬ คือการเพิ่มเติมที่ผิดเพี้ยนซึ่งจะต้องถูกปัดทิ้ง
ไปเพราะถือเป็นข้อความที่เฎาะอีฟ
โดยนัยนี้ การรายงานเพิ่มเติมของมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน ที่ว่า ท่านนะบีย์ไม่ได้กระดิก
นิ้ว จึงถือเป็นรายงานที่เฎาะอีฟ เพราะเป็นٌ‫ة‬َّ‫ذ‬‫ا‬ َ‫ش‬ ٌ‫ة‬َ‫د‬ َ‫َي‬‫ى‬‫ز‬ ตามหลักวิชาการหะดีษ
36
บันทึกโดย มุสลิม หะดีษที่ 112/579; อะบูดาวูด หะดีษที่ 988; อัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 130 และอิบนุ
คุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 696
37
บันทึกโดย อัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 1160 และอัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 132
15
รายงานที่สาม
เรื่องยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วมีระบุชัดเจนว่า มีการกระดิกนิ้วชี้ด้วย
ก่อนอื่น ผู้เขียนขอเรียนให้ทราบว่า หะดีษที่รายงานว่าท่านนะบีย์ยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วกระดิก
นิ้วชี้ด้วยนี้ ถือเป็นหะดีษที่รายงานเกี่ยวกับเรื่องลักษณะการนั่งตะชะฮ์ฮุด ลักษณะการวางมือ
และลักษณะนิ้วของท่านนะบีย์ขณะนั่งตะชะฮ์ฮุดไว้อย่างละเอียดที่สุดยิ่งกว่าทุกกระแสที่มี
บันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้
ที่สาคัญอย่างยิ่งก็คือ ไม่ปรากฏว่ามีนักวิชาการท่านใดตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ไม่ว่า
อิมามนะวะวีย์, อัล-บัยฮะกีย์, อิบนุลก็อยยิม เป็นต้น จะปฏิเสธความถูกต้องของ “สาย
รายงาน”หะดีษบทนี้แม้แต่ท่านเดียว ไม่ว่าเขาจะยอมปฏิบัติตาม “เนื้อหา”ของหะดีษนี้ คือ
การกระดิกนิ้วชี้ขณะอ่านตะชะฮ์ฮุดหรือไม่ก็ตาม
แม้แต่อาจารย์มุรีดเองก็ยอมรับว่า หะดีษบทนี้เป็นหะดีษที่ถูกต้อง38
ผู้เขียนจึงสงสัยว่า เมื่ออาจารย์มุรีดเองก็ยอมรับว่าหะดีษเรื่องการกระดิกนิ้วชี้ขณะอ่าน
ตะชะฮ์ฮุดเป็นหะดีษถูกต้อง แล้วท่านจะเอาหะดีษบทนี้ไปวางไว้ตรงไหน ให้นามาปฏิบัติได้
ในกรณีใด และจะหาทางออกจากความขัดแย้งกับหะดีษที่ (ท่านเข้าใจ) ว่า ท่านนะบีย์ไม่ได้
กระดิกนิ้วชี้ ตามหลักวิชาการอย่างไร
สายรายงานของหะดีษบทนี้ มีดังต่อไปนี้
1.มุอาวิยะฮ์ บินอัมร์ รายงานจากซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ จากอาศิม บินกุลัยบ์ จาก
บิดาของท่านคือ กุลัยบ์ บินชิฮาบ จากวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ.39
2. อับดุลลอฮ์ บินมุบาร็อก รายงานจากซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ จากอาศิม บินกุลัยบ์
จากบิดาของท่าน จากวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ.40
3.อับดุศเศาะมัด บินอับดุลวาริษ ได้รายงานจากซาอิดะฮ์บินกุดามะฮ์ จากอาศิม บิน
กุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จากวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ.41
เมื่อพิจารณาดูแล้วจะเห็นได้ว่า มุอาวิยะฮ์ บินอัมร์ อับดุลลอฮ์ บินมุบาร็อก และอับดุศ
เศาะมัด บินอับดุลวาริษ ต่างก็รายงานหะดีษนี้มาจากแหล่งเดียวกันคือ จากซาอิดะฮ์ บินกุดา
มะฮ์แล้วสืบสายรายงานต่อไปจนถึงวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ.
38
มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545), หน้า 29.
39
บันทึกโดย อัด-ดาริมีย์ หะดีษที่ 1357; อัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 132; อิบนุคุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 714 และอิบ
นุหิบบาน หะดีษที่ 1860
40
บันทึกโดย อัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 888, 1267
41
บันทึกโดย อะห์มัด ใน “อัล-มุสนัด” เล่ม 4 หน้า 318
16
สายรายงานข้างต้นนี้ทั้งหมด เป็นสายรายงานที่ถูกต้องโดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ และ
ข้อความที่รายงานมามีดังต่อไปนี้42
วาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ. กล่าวว่า
ْ ‫ى‬ّ‫ل‬ َ‫ص‬ُ‫ي‬ َ‫ف‬ْ‫ي‬َ‫ك‬ ََّ‫ّل‬ َ‫س‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ل‬َ‫ع‬ ُ‫هللا‬ َّ‫ل‬ َ‫ص‬ ‫ى‬‫هللا‬ ‫ى‬‫ل‬ْ‫و‬ ُ‫س‬َ‫ر‬ َ‫َل‬
ِ
‫ا‬ َّ‫ن‬ َ‫ر‬ ُ‫ْظ‬‫ن‬َ َ‫أل‬َ‫م‬‫ا‬َ‫ق‬َ‫ف‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ل‬
ِ
‫ا‬ ُ‫ت‬ ْ‫ر‬َ‫ظ‬َ‫ن‬َ‫ف‬َ‫ع‬َ‫ف‬ َ‫ر‬ َ‫و‬ ََّ‫َب‬َ‫ك‬َ‫ف‬
،‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ن‬ُ‫ذ‬ُ‫أ‬‫ى‬‫ب‬ َ‫َت‬َ‫ذ‬‫ا‬َ‫ح‬ َّ‫ىت‬َ‫ح‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫د‬َ‫ي‬،‫ى‬‫د‬‫ى‬‫ع‬‫ا‬ َّ‫الس‬َ‫و‬ ‫ى‬‫غ‬ ْ‫س‬ُّ‫الر‬َ‫و‬ ‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬ّ‫ف‬َ‫ك‬ َ‫ل‬َ‫ع‬ َ‫َن‬ْ‫م‬ُ‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ُ‫ه‬َ‫د‬َ‫ي‬ َ‫ع‬َ‫ض‬َ‫و‬ َّ ُ‫ُث‬‫ا‬َّ‫م‬َ‫ل‬َ‫ف‬
،‫َا‬‫ه‬َ‫ل‬ْ‫ث‬‫ى‬‫م‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫د‬َ‫ي‬ َ‫ع‬َ‫ف‬َ‫ر‬ َ‫ع‬َ‫ك‬ْ‫ر‬َ‫ي‬ ْ‫ن‬َ‫أ‬ َ‫د‬‫ا‬َ‫ر‬َ‫أ‬َّ‫م‬َ‫ل‬ َّ ُ‫ُث‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬‫ى‬‫ت‬َ‫ب‬ْ‫ك‬ُ‫ر‬ َ‫ل‬َ‫ع‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫د‬َ‫ي‬ َ‫ع‬َ‫ض‬ َ‫و‬ َ‫و‬ : َ‫ال‬َ‫ق‬‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫د‬َ‫ي‬ َ‫ع‬َ‫ف‬َ‫ر‬ ُ‫ه‬ َ‫س‬ْ‫أ‬َ‫ر‬ َ‫ع‬َ‫ف‬َ‫ر‬ ‫ا‬
،‫َا‬‫ه‬َ‫ل‬ْ‫ث‬‫ى‬‫م‬،‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ن‬ُ‫ذ‬ُ‫أ‬ ‫ى‬‫اء‬َ‫ذ‬‫ى‬ ‫ى‬‫ِب‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َّ‫ف‬َ‫ك‬ َ‫ل‬َ‫ع‬َ‫ج‬َ‫ف‬ َ‫د‬َ َ‫َس‬ َّ ُ‫ُث‬ُ‫ه‬َّ‫ف‬َ‫ك‬ َ‫ع‬َ‫ض‬ َ‫و‬ َ‫و‬ ‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ َُ‫َل‬ْ‫ج‬‫ى‬‫ر‬ َ‫ش‬ ََ‫َت‬ْ‫ف‬‫ا‬ َ‫و‬ َ‫د‬َ‫ع‬َ‫ق‬ َّ ُ‫ُث‬
،‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ت‬َ‫ب‬ْ‫ك‬ ُ‫ر‬ َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ذ‬‫ى‬‫خ‬َ‫ف‬ َ‫ل‬َ‫ع‬ ‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬‫ى‬‫ن‬َ‫م‬ْ‫ي‬َ‫أل‬ْ‫ا‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ق‬َ‫ف‬ْ‫ر‬‫ى‬‫م‬ َّ‫د‬َ‫ح‬ َ‫ل‬َ‫ع‬َ‫ج‬َ‫و‬، َ‫َن‬ْ‫م‬ُ‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ذ‬‫ى‬‫خ‬َ‫ف‬ َ‫ل‬َ‫ع‬َّ ُ‫ُث‬
،‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ع‬‫ى‬‫ب‬‫ا‬ َ‫ص‬َ‫أ‬ ْ‫ن‬‫ى‬‫م‬ ‫ى‬ ْ‫ْي‬َ‫ت‬َ‫ن‬ْ‫ث‬‫ا‬ َ‫ض‬َ‫ب‬َ‫ق‬،‫ة‬َ‫ق‬ْ‫ل‬َ‫ح‬ َ‫ق‬َّ‫ل‬َ‫ح‬َ‫و‬،ُ‫ه‬َ‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬
ِ
‫ا‬ َ‫ع‬َ‫ف‬َ‫ر‬ َّ ُ‫ُث‬‫ا‬َ ‫ِبى‬ ْ‫و‬ُ‫ع‬ْ‫د‬َ‫ي‬ ‫َا‬‫ه‬ُ‫ك‬‫ى‬ّ‫ر‬َ ُ‫حي‬ ُ‫ه‬ُ‫ت‬ْ‫ي‬َ‫أ‬َ‫ر‬َ‫ف‬
“ขอยืนยันว่าฉันได้พิจารณาดูท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมว่าท่านจะ
ละหมาดอย่างไร ฉันเห็นท่านยืนขึ้นแล้วกล่าวตักบีร โดยท่านจะยกมือทั้งสองขึ้นจนเสมอกับหู
ทั้งสองของท่าน หลังจากนั้นท่านก็วางมือขวาทับบนมือซ้าย ข้อมือ และท่อนแขนซ้ายของ
ท่าน เมื่อท่านต้องการจะรุกูอ์ ท่านก็ยกมือทั้งสองขึ้นในลักษณะเดิม (วาอิลกล่าวต่อไปว่า)
และวางมือทั้งสองของท่านบนเข่าทั้งสองของท่าน ต่อมาเมื่อเงยศีรษะขึ้น (มายืนอิอ์ติดาล)
ท่านก็ยกมือทั้งสองขึ้นในลักษณะเดิมอีก แล้วท่านก็สุญูด ซึ่งท่านจะวางฝ่ามือทั้งสองของท่าน
ให้เสมอกับหูทั้งสองของท่าน ต่อมาท่านก็ (ลุกขึ้นมา) นั่ง โดยจะแบเท้าซ้ายออก (รองก้น คือ
นั่งแบบ “อิฟติรอช”) และท่านจะวางฝ่ามือซ้ายลงบนขาและเข่าข้างซ้ายของท่าน และวาง
ข้อศอกขวาลงบนขาข้างขวาของท่าน แล้วท่านก็กานิ้ วของท่านสองนิ้ ว (คือนิ้ วนางกับ
นิ้วก้อย) และทาให้นิ้ว (หัวแม่มือกับนิ้วกลาง) จรดกันเป็ นวง ต่อมาท่านก็ยกนิ้ว (ชี้) ของ
ท่านขึ้น แล้วฉันเห็นท่านกระดิกมันพร้อมกล่าววิงวอน (คือ อ่านตะชะฮ์ฮุด)”
ดังได้กล่าวมาแล้วว่า สายรายงานหะดีษบทนี้เป็นสายรายงานที่ถูกต้อง แต่ประเด็นที่
จะต้องพิจารณาก็คือ ข้อความที่ว่า เห็นท่านนะบีย์กระดิกนิ้วชี้ ขณะอ่านตะชะฮ์ฮุด นี้เป็ น
รายงานของซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ เพียงผู้เดียวโดยอ้างรายงานมาจากอาศิม บินกุลัยบ์ แล้ว
สืบสายรายงานต่อไปจนถึงวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ.
42
ซึ่งสานวนในที่นี้เป็นสานวนจากการบันทึกของอัน-นะซาอีย์
17
ขณะเดียวกัน ผู้รายงานอื่นๆ อีก 7 ท่าน คือ ซุฟยาน อัษ-เษารีย์,ชุอ์บะฮ์ บินอัล-
หัจญาจญ์,อับดุลญับบาร บินอะลาอ์, บิชร์ บินอัล-มุฟัฎฎ็อล,คอลิด บินอับดุลลอฮ์ อัล-วา
สิฏีย์, ซุฮัยร์ บินมุอาวิยะฮ์ และอะบูอัล-อะห์วัศ อัล-หะนะฟีย์ ต่างก็รายงานหะดีษบทเดียวกัน
นี้มาจากอาศิม บินกุลัยบ์ โดยไม่ปรากฏมีข้อความข้างต้นดังการรายงานของซาอิดะฮ์ บินกุดา
มะฮ์แต่ประการใด43
เพราะฉะนั้น ข้อความที่ว่า ฉันเห็นท่านนะบีย์กระดิกนิ้วชี้ จึงเป็นข้อความที่ซาอิดะฮ์
บินกุดามะฮ์ เพียงผู้เดียวที่ได้รายงานมาจากอาศิม บินกุลัยบ์ ให้ เพิ่มเติมหรือ
เป็น“ส่วนเกิน”มาจากการรายงานของผู้รายงานอื่นทั้ง 7 ท่านเหล่านั้น
กรณีนี้จึงคล้ายๆ กับข้อความที่ว่า“ท่านนะบีย์ไม่ได้กระดิกนิ้วชี้”อันเป็นส่วนเกินจาก
การรายงานของมุหัมมัด บินอัจญ์ลานที่ได้วิเคราะห์ผ่านมาแล้ว แทบจะไม่ต่างอะไรกันเลย
แต่จุดแตกต่างระหว่าง “ส่วนเกิน”ของซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ กับ “ส่วนเกิน”ของ
มุหัมมัด บินอัจญ์ลาน อยู่ที่ความ “น่าเชื่อถือ”ที่แตกต่างกันของทั้งสองท่านนี้ในทัศนะของ
นักวิชาการหะดีษ ดังที่ผู้เขียนกาลังจะอธิบายรายละเอียดต่อไป
สาหรับคุณสมบัติและความน่าเชื่อถือของมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน ผู้เขียนก็ได้อธิบายผ่าน
มาแล้ว จึงไม่ขออธิบายซ้าอีก ณ ที่นี้
ส่วนคุณสมบัติและความน่าเชื่อถือของซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์นั้น ผู้เขียนขอเรียนว่า
ตามปกติผู้รายงานหะดีษมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้รายงานของบุคอรีย์และ
มุสลิมเอง ก็มักจะมีความเห็นขัดแย้งของนักวิชาการอยู่เสมอว่าเป็นผู้ที่เชื่อถือได้หรือไม่
แต่ซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ เป็นหนึ่งจากผู้ที่ถูกยกเว้นในกรณีนี้ เพราะจนขณะนี้ผู้เขียนยัง
ไม่เจอว่าจะมีนักวิชาการท่านใดกล่าวตาหนิหรือระบุความบกพร่องของซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์
แม้แต่คนเดียว
จึงอาจกล่าวได้ว่า ซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ เป็นผู้รายงานหะดีษจานวนน้อยที่นักวิชาการมี
มติเป็นเอกฉันท์ ให้ความเชื่อถือท่าน
และที่สาคัญมิใช่เป็นการเชื่อถือในระดับธรรมดา แต่เป็นความเชื่อถือในระดับสูงมาก
อีกต่างหาก44
43
โปรดย้อนกลับไปดูข้อความจากรายงานของผู้รายงานทั้ง 7 ท่านนี้ได้จากหน้า 5-6 ที่ผ่านมาแล้ว
44
ซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ เสียชีวิตใน ฮ.ศ. 160 แต่อาจารย์มุรีด กล่าวว่า ซาอิดะฮ์ เสียชีวิต ฮ.ศ. 60 ซึ่งน่าจะเกิด
จากความผิดพลาดในการเรียงพิมพ์; ดู มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545),
หน้า 17.
18
ในที่นี้ผู้เขียนจะขอยกตัวอย่างทัศนะของนักวิชาการบางท่านที่มีต่อซาอิดะฮ์ บินกุดา
มะฮ์ ดังนี้
1.อิบนุหะญัร อัล-อัสเกาะลานีย์ ได้กล่าวว่า
ُ‫ن‬ْ‫ب‬ ُ‫ة‬َ‫د‬‫ى‬‫ئ‬‫ا‬َ‫ز‬، ‫ى‬‫ت‬ْ‫ل‬ َّ‫الص‬‫و‬ُ‫ب‬َ‫أ‬ ،ُّ‫ى‬‫ى‬‫ف‬َ‫ق‬َّ‫ث‬‫ال‬ َ‫ة‬َ‫م‬‫ا‬َ‫د‬َ‫ق‬،ُّ ‫ى‬‫ِف‬ْ‫و‬ُ‫ك‬ْ‫ال‬ٍ‫ة‬َّ‫ن‬ ُ‫س‬ ُ‫ب‬‫ى‬‫ح‬‫ا‬ َ‫ص‬ ، ٌ‫ت‬ْ‫ب‬َ‫ث‬ ٌ‫ة‬َ‫ق‬‫ى‬‫ث‬
“ซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ อัษ-ษะเกาะฟีย์ อะบุศศ็อลต์ เป็นชาวเมืองกูฟะฮ์ เชื่อถือได้ มี
ความมั่นคงแน่นอนมาก (ในการรายงานหะดีษ) เป็นชาวซุนนะฮ์”45
2.อัษ-ษะฮะบีย์ ได้กล่าวว่า
ٌ‫ة‬َّ‫ج‬ُ‫ح‬ ٌ‫ة‬َ‫ق‬‫ى‬‫ث‬ ... ،ُ‫ظ‬‫ى‬‫ف‬‫ا‬َ‫ح‬ْ‫ل‬َ‫ا‬ ،ُّ ‫ى‬‫ِف‬ْ‫و‬ُ‫ك‬ْ‫ل‬َ‫ا‬ ،ُّ‫ى‬‫ى‬‫ف‬َ‫ق‬َّ‫ث‬‫ل‬َ‫ا‬ ، ‫ى‬‫ت‬ْ‫ل‬ َّ‫الص‬‫و‬ُ‫ب‬َ‫أ‬ ،َ‫ة‬َ‫م‬‫ا‬َ‫د‬ُ‫ق‬ ُ‫ن‬ْ‫ب‬ ُ‫ة‬َ‫د‬‫ى‬‫ئ‬‫ا‬َ‫ز‬
“ซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ อะบุศศ็อลต์ อัษ-ษะเกาะฟี ย์ เป็นชาวเมืองกูฟะฮ์ เป็นผู้ที่มี
ความจาดีเยี่ยม เชื่อถือได้ เป็นหลักประกันได้เรื่องหะดีษ”46
3.อิบนุหิบบาน ได้กล่าวว่า
،َ ْ‫ْي‬‫ى‬‫ن‬‫ى‬‫ق‬ْ‫ت‬ُ‫م‬ْ‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬‫اظ‬َّ‫ف‬ُ‫ح‬ْ‫ل‬‫ا‬ َ‫ن‬‫ى‬‫م‬ َ‫ن‬َ‫َك‬، ٍ‫ات‬َّ‫ر‬َ‫م‬ َ‫ث‬َ‫ال‬َ‫ث‬ ُ‫ه‬َ‫ع‬َ‫م‬ ْ‫َس‬‫ي‬ َّ‫ىت‬َ‫ح‬ َ‫ع‬‫ا‬َ‫م‬ َّ‫الس‬ ُّ‫د‬ُ‫ع‬َ‫ي‬ َ‫ال‬ َ‫ن‬ َ‫َك‬َ‫و‬ُ‫ث‬‫ى‬ّ‫د‬َ ُ‫حي‬ َ‫ال‬ َ‫ن‬ َ‫َك‬َ‫و‬
‫ى‬‫ة‬َّ‫ن‬ ُّ‫الس‬ ‫ى‬‫ْل‬‫ه‬َ‫أ‬ ْ‫ن‬‫ى‬‫م‬ ُ‫ه‬َّ‫ن‬َ‫أ‬ ٌ‫ل‬ْ‫د‬َ‫ع‬ ُ‫ه‬ْ‫ن‬َ‫ع‬ َ‫َد‬‫ه‬ ْ‫َش‬‫ي‬ َّ‫ىت‬َ‫ح‬ ‫ا‬‫د‬َ‫ح‬َ‫أ‬
“ซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ เป็นหนึ่งจากผู้ที่มีความจาดีเยี่ยมและละเอียดประณีต (ในเรื่อง
หะดีษ) มาก ท่านจะไม่ถือว่าได้ยิน (หะดีษจากผู้ใด) จนกว่าท่านจะได้ฟังมันถึงสามครั้ง และ
ท่านจะไม่ยอมพูดเรื่องหะดีษกับผู้ใดจนกว่าจะมีผู้มีคุณธรรมมายืนยันกับท่านว่า บุคคลผู้นั้น
เป็นชาวซุนนะฮ์”47
4.อัด-ดารุกุฏนีย์ได้กล่าวว่า
‫ى‬‫ة‬َّ‫م‬‫ى‬‫ئ‬َ‫أل‬ْ‫ا‬ ‫ى‬‫ات‬َ‫ب‬ْ‫ث‬َ‫أل‬ْ‫ا‬ َ‫ن‬‫ى‬‫م‬
“เขาเป็นหนึ่งจากผู้ที่แน่นมากในเรื่องหะดีษ เป็นผู้นา (ในเรื่องหะดีษ)”48
สรุปแล้ว ซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ จึงเป็นผู้รายงานที่ได้รับความเชื่อถือเป็นอย่างสูงจาก
บรรดานักวิชาการหะดีษ
45
“ตักรีบุตตะฮ์ซีบ” เล่ม 1 หน้า 256
46
“อัล-กาชิฟ” เล่ม 1 หน้า 246
47
“อัษ-ษิกอต” เล่ม 6 หน้า 340
48
“ตะฮ์ซีบ อัต-ตะฮ์ซีบ” เล่ม 3 หน้า 265
19
กฎเกณฑ์ของวิชามุศเฏาะละฮ์หะดีษระบุว่า ข้อความจากการรายงาน“เพิ่มเติม”ของผู้
ที่เชื่อถือได้นั้นจะเป็นที่ยอมรับ ตามกฎเกณฑ์ที่ว่า
ٌ َ‫ل‬ْ‫و‬ُ‫ب‬ْ‫ق‬َ‫م‬ ‫ى‬‫ة‬َ‫ق‬‫ى‬ّ‫ث‬‫ال‬ ُ‫ة‬َ‫د‬ َ‫َي‬‫ى‬‫ز‬
“การรายงานเพิ่มเติมของผู้ที่เชื่อถือได้นั้น จะต้องยอมรับ”49
ดังนั้นการรายงานเพิ่มเติมของซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ จากคาพูดของวาอิล บินหุจญ์ริน
ร.ฎ. ด้วยข้อความที่ว่า แล้วฉันก็เห็นท่านกระดิกนิ้วชี้ จึงถือเป็นข้อความที่ถูกต้องและเป็นที่
ยอมรับตามหลักวิชาการหะดีษ
เพราะฉะนั้น จึงสรุปได้ว่า การกระดิกนิ้วชี้ขณะอ่านตะชะฮ์ฮุด ถือเป็นซุนนะฮ์ของท่าน
นะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
อาจจะมีข้อสงสัยว่า การกระดิกนิ้วชี้ในการอ่านตะชะฮ์ฮุดดังกล่าวนั้น กาหนดให้กระดิก
ได้เมื่อใด
ผู้เขียนก็ขอเรียนชี้แจงว่า เมื่อพิจารณาดูสานวนหะดีษจากคาพูดของวาอิล บินหุจญ์ริน
ร.ฎ. จะเห็นได้ว่า วาอิลได้รายงานลักษณะการละหมาดของท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ
วะซัลลัม โดยจะเน้นเป็นพิเศษในเรื่องตาแหน่งของมือในแต่ละอิริยาบถของท่านนะบีย์
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
เมื่อรายงานมาถึงตอนนั่งอ่านตะชะฮ์ฮุด วาอิลก็ได้รายงานลักษณะมือของท่านนะบีย์
อย่างต่อเนื่องว่า ท่านได้กานิ้วสองนิ้ว อีกสองนิ้วจรดกันเป็นวงกลม แล้วก็ยกนิ้วชี้ขึ้น แล้วก็
กระดิกมัน
แสดงว่า ตามรูปการณ์แล้ว ให้กระดิกนิ้วชี้ได้ตั้งแต่เริ่มต้นอ่านตะชะฮ์ฮุดเป็ นต้นไป
จนจบหรือสิ้นสุดการอ่านตะชะฮ์ฮุดนั้น
ส่วนข้อความตอนท้ายของหะดีษที่ว่า‫ا‬َ ‫ِبى‬ ْ‫و‬ُ‫ع‬ْ‫د‬َ‫ي‬ ซึ่งตามปกติจะหมายความว่า ท่านกล่าว
วิงวอนด้วยนิ้วชี้นั้น
49
กฎเกณฑ์นี้เป็นสิ่งที่มีระบุไว้ในหนังสือมุศเฏาะละฮ์หะดีษแทบทุกเล่ม เช่น “อุลูมุลหะดีษ” ของ อิบนุศเศาะ
ละฮ์ หน้า 77; “กอวาอิดุตตะฮ์ดีษ” ของ อัล-กอซิมีย์ หน้า 107; “อัล-บาอิษ อัล-หะษีษ” ของ อะห์มัด มุหัมมัด ชากิร
หน้า 61; “ตัยซีร มุศเฏาะลาฮ์ อัล-หะดีษ” ของ ดร.มะห์มูด อัฏ-เฏาะฮ์ฮาน หน้า 136 ฯลฯ
กระดิกหรือชี้นิ้วในขณะนั่งตะชะฮ์ฮุด (ภาษาไทย)
กระดิกหรือชี้นิ้วในขณะนั่งตะชะฮ์ฮุด (ภาษาไทย)
กระดิกหรือชี้นิ้วในขณะนั่งตะชะฮ์ฮุด (ภาษาไทย)
กระดิกหรือชี้นิ้วในขณะนั่งตะชะฮ์ฮุด (ภาษาไทย)
กระดิกหรือชี้นิ้วในขณะนั่งตะชะฮ์ฮุด (ภาษาไทย)
กระดิกหรือชี้นิ้วในขณะนั่งตะชะฮ์ฮุด (ภาษาไทย)
กระดิกหรือชี้นิ้วในขณะนั่งตะชะฮ์ฮุด (ภาษาไทย)
กระดิกหรือชี้นิ้วในขณะนั่งตะชะฮ์ฮุด (ภาษาไทย)
กระดิกหรือชี้นิ้วในขณะนั่งตะชะฮ์ฮุด (ภาษาไทย)

Contenu connexe

En vedette

คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : การแปรสภาพของนะญิส (อิสติฮาละฮ์)
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : การแปรสภาพของนะญิส (อิสติฮาละฮ์)คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : การแปรสภาพของนะญิส (อิสติฮาละฮ์)
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : การแปรสภาพของนะญิส (อิสติฮาละฮ์)Om Muktar
 
الردود والتعقبات على النووي في شرح صحيح مسلم
الردود والتعقبات على النووي في شرح صحيح مسلمالردود والتعقبات على النووي في شرح صحيح مسلم
الردود والتعقبات على النووي في شرح صحيح مسلمOm Muktar
 
حكم المظاهرات
حكم المظاهراتحكم المظاهرات
حكم المظاهراتOm Muktar
 
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : ประเด็นการเชือดสัตว์ด้วยวิธีต่างๆ
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : ประเด็นการเชือดสัตว์ด้วยวิธีต่างๆคำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : ประเด็นการเชือดสัตว์ด้วยวิธีต่างๆ
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : ประเด็นการเชือดสัตว์ด้วยวิธีต่างๆOm Muktar
 
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : การทำประกันชีวิตของผู้นับถือศาสนาอิสลาม
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : การทำประกันชีวิตของผู้นับถือศาสนาอิสลามคำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : การทำประกันชีวิตของผู้นับถือศาสนาอิสลาม
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : การทำประกันชีวิตของผู้นับถือศาสนาอิสลามOm Muktar
 
منهج الحافظ ابن حجر العسقلاني في العقيدة من خلال كتابه - فتح الباري
منهج الحافظ ابن حجر العسقلاني في العقيدة من خلال كتابه - فتح الباريمنهج الحافظ ابن حجر العسقلاني في العقيدة من خلال كتابه - فتح الباري
منهج الحافظ ابن حجر العسقلاني في العقيدة من خلال كتابه - فتح الباريOm Muktar
 
البوذية –تاريخها وعقائدها وعلاقة الصوفية بها
البوذية –تاريخها وعقائدها وعلاقة الصوفية بهاالبوذية –تاريخها وعقائدها وعلاقة الصوفية بها
البوذية –تاريخها وعقائدها وعلاقة الصوفية بهاOm Muktar
 
حول ترحيب الكوثري بنقد تأنيبه
حول ترحيب الكوثري بنقد تأنيبهحول ترحيب الكوثري بنقد تأنيبه
حول ترحيب الكوثري بنقد تأنيبهOm Muktar
 
حجية خبر الآحاد في العقائد والأحكام
حجية خبر الآحاد في العقائد والأحكامحجية خبر الآحاد في العقائد والأحكام
حجية خبر الآحاد في العقائد والأحكامOm Muktar
 
การยกมือขอดุอาอ์ในคุฏบะฮ์
การยกมือขอดุอาอ์ในคุฏบะฮ์การยกมือขอดุอาอ์ในคุฏบะฮ์
การยกมือขอดุอาอ์ในคุฏบะฮ์Om Muktar
 
Ashley Gill - PPP
Ashley Gill - PPPAshley Gill - PPP
Ashley Gill - PPPAshley Gill
 

En vedette (11)

คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : การแปรสภาพของนะญิส (อิสติฮาละฮ์)
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : การแปรสภาพของนะญิส (อิสติฮาละฮ์)คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : การแปรสภาพของนะญิส (อิสติฮาละฮ์)
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : การแปรสภาพของนะญิส (อิสติฮาละฮ์)
 
الردود والتعقبات على النووي في شرح صحيح مسلم
الردود والتعقبات على النووي في شرح صحيح مسلمالردود والتعقبات على النووي في شرح صحيح مسلم
الردود والتعقبات على النووي في شرح صحيح مسلم
 
حكم المظاهرات
حكم المظاهراتحكم المظاهرات
حكم المظاهرات
 
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : ประเด็นการเชือดสัตว์ด้วยวิธีต่างๆ
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : ประเด็นการเชือดสัตว์ด้วยวิธีต่างๆคำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : ประเด็นการเชือดสัตว์ด้วยวิธีต่างๆ
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : ประเด็นการเชือดสัตว์ด้วยวิธีต่างๆ
 
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : การทำประกันชีวิตของผู้นับถือศาสนาอิสลาม
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : การทำประกันชีวิตของผู้นับถือศาสนาอิสลามคำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : การทำประกันชีวิตของผู้นับถือศาสนาอิสลาม
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : การทำประกันชีวิตของผู้นับถือศาสนาอิสลาม
 
منهج الحافظ ابن حجر العسقلاني في العقيدة من خلال كتابه - فتح الباري
منهج الحافظ ابن حجر العسقلاني في العقيدة من خلال كتابه - فتح الباريمنهج الحافظ ابن حجر العسقلاني في العقيدة من خلال كتابه - فتح الباري
منهج الحافظ ابن حجر العسقلاني في العقيدة من خلال كتابه - فتح الباري
 
البوذية –تاريخها وعقائدها وعلاقة الصوفية بها
البوذية –تاريخها وعقائدها وعلاقة الصوفية بهاالبوذية –تاريخها وعقائدها وعلاقة الصوفية بها
البوذية –تاريخها وعقائدها وعلاقة الصوفية بها
 
حول ترحيب الكوثري بنقد تأنيبه
حول ترحيب الكوثري بنقد تأنيبهحول ترحيب الكوثري بنقد تأنيبه
حول ترحيب الكوثري بنقد تأنيبه
 
حجية خبر الآحاد في العقائد والأحكام
حجية خبر الآحاد في العقائد والأحكامحجية خبر الآحاد في العقائد والأحكام
حجية خبر الآحاد في العقائد والأحكام
 
การยกมือขอดุอาอ์ในคุฏบะฮ์
การยกมือขอดุอาอ์ในคุฏบะฮ์การยกมือขอดุอาอ์ในคุฏบะฮ์
การยกมือขอดุอาอ์ในคุฏบะฮ์
 
Ashley Gill - PPP
Ashley Gill - PPPAshley Gill - PPP
Ashley Gill - PPP
 

Plus de Om Muktar

بلوغ المنى في حكم الاستمنى
بلوغ المنى في حكم الاستمنىبلوغ المنى في حكم الاستمنى
بلوغ المنى في حكم الاستمنىOm Muktar
 
الدلائل الوفية في تحقيق عقيدة (النووي)؛ أسلفية أم خلفية
الدلائل الوفية في تحقيق عقيدة (النووي)؛ أسلفية أم خلفيةالدلائل الوفية في تحقيق عقيدة (النووي)؛ أسلفية أم خلفية
الدلائل الوفية في تحقيق عقيدة (النووي)؛ أسلفية أم خلفيةOm Muktar
 
التاريخ الأسود للجماعة بين يهودية حسن البنا وماسونية الإخوان
التاريخ الأسود للجماعة بين يهودية حسن البنا وماسونية الإخوانالتاريخ الأسود للجماعة بين يهودية حسن البنا وماسونية الإخوان
التاريخ الأسود للجماعة بين يهودية حسن البنا وماسونية الإخوانOm Muktar
 
Acts of Terrorism Done in the Name of Islam Do Not Equate to Acts Condoned by...
Acts of Terrorism Done in the Name of Islam Do Not Equate to Acts Condoned by...Acts of Terrorism Done in the Name of Islam Do Not Equate to Acts Condoned by...
Acts of Terrorism Done in the Name of Islam Do Not Equate to Acts Condoned by...Om Muktar
 
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : บุหรี่
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : บุหรี่คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : บุหรี่
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : บุหรี่Om Muktar
 
Jihad in Two Faces of Shari’ah: Sufism and Islamic Jurisprudence (FIQH) and t...
Jihad in Two Faces of Shari’ah: Sufism and Islamic Jurisprudence (FIQH) and t...Jihad in Two Faces of Shari’ah: Sufism and Islamic Jurisprudence (FIQH) and t...
Jihad in Two Faces of Shari’ah: Sufism and Islamic Jurisprudence (FIQH) and t...Om Muktar
 
พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)
พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)
พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)Om Muktar
 
Diseases of the Hearts & their Cures (Ibn Taymiyyah)
Diseases of the Hearts & their Cures (Ibn Taymiyyah)Diseases of the Hearts & their Cures (Ibn Taymiyyah)
Diseases of the Hearts & their Cures (Ibn Taymiyyah)Om Muktar
 
أمراض القلوب وشفاؤها ويليها التحفة العراقية في الأعمال القلبية
أمراض القلوب وشفاؤها ويليها التحفة العراقية في الأعمال القلبيةأمراض القلوب وشفاؤها ويليها التحفة العراقية في الأعمال القلبية
أمراض القلوب وشفاؤها ويليها التحفة العراقية في الأعمال القلبيةOm Muktar
 
(مسألة السماع حكم ما يسمى : (أناشيد إسلامية
(مسألة السماع حكم ما يسمى : (أناشيد إسلامية(مسألة السماع حكم ما يسمى : (أناشيد إسلامية
(مسألة السماع حكم ما يسمى : (أناشيد إسلاميةOm Muktar
 
(الرد على علي حسن الحلبي (رفع اللائمة عن فتوى اللجنة الدائمة
(الرد على علي حسن الحلبي (رفع اللائمة عن فتوى اللجنة الدائمة(الرد على علي حسن الحلبي (رفع اللائمة عن فتوى اللجنة الدائمة
(الرد على علي حسن الحلبي (رفع اللائمة عن فتوى اللجنة الدائمةOm Muktar
 
عقيدة أهل السنة والجماعة للإمام الترمذي
عقيدة أهل السنة والجماعة للإمام الترمذيعقيدة أهل السنة والجماعة للإمام الترمذي
عقيدة أهل السنة والجماعة للإمام الترمذيOm Muktar
 
الأمر بالإتباع والنهي عن الإبتداع للإمام السيوطي
الأمر بالإتباع والنهي عن الإبتداع للإمام السيوطيالأمر بالإتباع والنهي عن الإبتداع للإمام السيوطي
الأمر بالإتباع والنهي عن الإبتداع للإمام السيوطيOm Muktar
 
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอิสลามกับประมวลกฎหมาย...
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอิสลามกับประมวลกฎหมาย...ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอิสลามกับประมวลกฎหมาย...
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอิสลามกับประมวลกฎหมาย...Om Muktar
 
الإمام الأشعري حياته وأطواره العقدية
الإمام الأشعري حياته وأطواره العقديةالإمام الأشعري حياته وأطواره العقدية
الإمام الأشعري حياته وأطواره العقديةOm Muktar
 
منهج إمام الحرمين في دراسة العقيدة : عرض ونقد
منهج إمام الحرمين في دراسة العقيدة : عرض ونقدمنهج إمام الحرمين في دراسة العقيدة : عرض ونقد
منهج إمام الحرمين في دراسة العقيدة : عرض ونقدOm Muktar
 
منهج الشهرستاني في كتابه الملل والنحل عرض وتقويم
منهج الشهرستاني في كتابه الملل والنحل عرض وتقويممنهج الشهرستاني في كتابه الملل والنحل عرض وتقويم
منهج الشهرستاني في كتابه الملل والنحل عرض وتقويمOm Muktar
 
الإمام الخطابي ومنهجه في العقيدة
الإمام الخطابي ومنهجه في العقيدةالإمام الخطابي ومنهجه في العقيدة
الإمام الخطابي ومنهجه في العقيدةOm Muktar
 
موقف الأزهر الشريف من الشيعة الاثنى عشرية
موقف الأزهر الشريف من الشيعة الاثنى عشريةموقف الأزهر الشريف من الشيعة الاثنى عشرية
موقف الأزهر الشريف من الشيعة الاثنى عشريةOm Muktar
 
موقف الشيعة الاثني عشرية من الأئمة الأربعة
موقف الشيعة الاثني عشرية من الأئمة الأربعةموقف الشيعة الاثني عشرية من الأئمة الأربعة
موقف الشيعة الاثني عشرية من الأئمة الأربعةOm Muktar
 

Plus de Om Muktar (20)

بلوغ المنى في حكم الاستمنى
بلوغ المنى في حكم الاستمنىبلوغ المنى في حكم الاستمنى
بلوغ المنى في حكم الاستمنى
 
الدلائل الوفية في تحقيق عقيدة (النووي)؛ أسلفية أم خلفية
الدلائل الوفية في تحقيق عقيدة (النووي)؛ أسلفية أم خلفيةالدلائل الوفية في تحقيق عقيدة (النووي)؛ أسلفية أم خلفية
الدلائل الوفية في تحقيق عقيدة (النووي)؛ أسلفية أم خلفية
 
التاريخ الأسود للجماعة بين يهودية حسن البنا وماسونية الإخوان
التاريخ الأسود للجماعة بين يهودية حسن البنا وماسونية الإخوانالتاريخ الأسود للجماعة بين يهودية حسن البنا وماسونية الإخوان
التاريخ الأسود للجماعة بين يهودية حسن البنا وماسونية الإخوان
 
Acts of Terrorism Done in the Name of Islam Do Not Equate to Acts Condoned by...
Acts of Terrorism Done in the Name of Islam Do Not Equate to Acts Condoned by...Acts of Terrorism Done in the Name of Islam Do Not Equate to Acts Condoned by...
Acts of Terrorism Done in the Name of Islam Do Not Equate to Acts Condoned by...
 
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : บุหรี่
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : บุหรี่คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : บุหรี่
คำวินิจฉัย (ฟัตวา) จุฬาราชมนตรี : บุหรี่
 
Jihad in Two Faces of Shari’ah: Sufism and Islamic Jurisprudence (FIQH) and t...
Jihad in Two Faces of Shari’ah: Sufism and Islamic Jurisprudence (FIQH) and t...Jihad in Two Faces of Shari’ah: Sufism and Islamic Jurisprudence (FIQH) and t...
Jihad in Two Faces of Shari’ah: Sufism and Islamic Jurisprudence (FIQH) and t...
 
พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)
พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)
พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)
 
Diseases of the Hearts & their Cures (Ibn Taymiyyah)
Diseases of the Hearts & their Cures (Ibn Taymiyyah)Diseases of the Hearts & their Cures (Ibn Taymiyyah)
Diseases of the Hearts & their Cures (Ibn Taymiyyah)
 
أمراض القلوب وشفاؤها ويليها التحفة العراقية في الأعمال القلبية
أمراض القلوب وشفاؤها ويليها التحفة العراقية في الأعمال القلبيةأمراض القلوب وشفاؤها ويليها التحفة العراقية في الأعمال القلبية
أمراض القلوب وشفاؤها ويليها التحفة العراقية في الأعمال القلبية
 
(مسألة السماع حكم ما يسمى : (أناشيد إسلامية
(مسألة السماع حكم ما يسمى : (أناشيد إسلامية(مسألة السماع حكم ما يسمى : (أناشيد إسلامية
(مسألة السماع حكم ما يسمى : (أناشيد إسلامية
 
(الرد على علي حسن الحلبي (رفع اللائمة عن فتوى اللجنة الدائمة
(الرد على علي حسن الحلبي (رفع اللائمة عن فتوى اللجنة الدائمة(الرد على علي حسن الحلبي (رفع اللائمة عن فتوى اللجنة الدائمة
(الرد على علي حسن الحلبي (رفع اللائمة عن فتوى اللجنة الدائمة
 
عقيدة أهل السنة والجماعة للإمام الترمذي
عقيدة أهل السنة والجماعة للإمام الترمذيعقيدة أهل السنة والجماعة للإمام الترمذي
عقيدة أهل السنة والجماعة للإمام الترمذي
 
الأمر بالإتباع والنهي عن الإبتداع للإمام السيوطي
الأمر بالإتباع والنهي عن الإبتداع للإمام السيوطيالأمر بالإتباع والنهي عن الإبتداع للإمام السيوطي
الأمر بالإتباع والنهي عن الإبتداع للإمام السيوطي
 
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอิสลามกับประมวลกฎหมาย...
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอิสลามกับประมวลกฎหมาย...ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอิสลามกับประมวลกฎหมาย...
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอิสลามกับประมวลกฎหมาย...
 
الإمام الأشعري حياته وأطواره العقدية
الإمام الأشعري حياته وأطواره العقديةالإمام الأشعري حياته وأطواره العقدية
الإمام الأشعري حياته وأطواره العقدية
 
منهج إمام الحرمين في دراسة العقيدة : عرض ونقد
منهج إمام الحرمين في دراسة العقيدة : عرض ونقدمنهج إمام الحرمين في دراسة العقيدة : عرض ونقد
منهج إمام الحرمين في دراسة العقيدة : عرض ونقد
 
منهج الشهرستاني في كتابه الملل والنحل عرض وتقويم
منهج الشهرستاني في كتابه الملل والنحل عرض وتقويممنهج الشهرستاني في كتابه الملل والنحل عرض وتقويم
منهج الشهرستاني في كتابه الملل والنحل عرض وتقويم
 
الإمام الخطابي ومنهجه في العقيدة
الإمام الخطابي ومنهجه في العقيدةالإمام الخطابي ومنهجه في العقيدة
الإمام الخطابي ومنهجه في العقيدة
 
موقف الأزهر الشريف من الشيعة الاثنى عشرية
موقف الأزهر الشريف من الشيعة الاثنى عشريةموقف الأزهر الشريف من الشيعة الاثنى عشرية
موقف الأزهر الشريف من الشيعة الاثنى عشرية
 
موقف الشيعة الاثني عشرية من الأئمة الأربعة
موقف الشيعة الاثني عشرية من الأئمة الأربعةموقف الشيعة الاثني عشرية من الأئمة الأربعة
موقف الشيعة الاثني عشرية من الأئمة الأربعة
 

กระดิกหรือชี้นิ้วในขณะนั่งตะชะฮ์ฮุด (ภาษาไทย)

  • 1. 1 ﴾‫ها‬‫ك‬‫حير‬ ‫ته‬‫ي‬‫أ‬‫ر‬‫ف‬ . . .﴿ «‫للغة‬‫اب‬‫ندية‬‫ال‬‫تاي‬‫ل‬‫ا‬» ٥٣٤١‫هـ‬-٤١٠٢‫م‬
  • 2. 2 . . . แล้วฉันก็เห็นท่านกระดิกมัน ปัญหาเรื่องการกระดิกนิ้วชี้ในขณะอ่านตะชะฮ์ฮุด บางคนอาจมองเป็นเรื่องปลีกย่อยที่ ไม่น่าจะนามาพูดหรือเขียนให้เกิดความขัดแย้งในสังคม แต่ในมุมมองของผู้เขียน ปัญหานี้เป็น ปัญหาธรรมดาที่“ไม่ธรรมดา”ซึ่งจะต้องมีการชี้แจงกัน เพื่อการปฏิบัติอิบาดะฮ์ที่สาคัญที่สุด คือการละหมาดให้ถูกต้องตามแบบอย่างหรือซุนนะฮ์ของท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะ ลัยฮิวะซัลลัมต่อไป ที่ผู้เขียนว่า“ไม่ธรรมดา”ก็เพราะเรื่องนี้เป็นอิริยาบถอย่างหนึ่งของการละหมาด ซึ่ง ท่านศาสดาเคยกาชับว่า ْ ‫ى‬ّ‫ل‬ َ‫ص‬ُ‫أ‬ ْ ‫ى‬‫ِن‬ ْ‫و‬ُ‫م‬ُ‫ت‬ْ‫ي‬َ‫أ‬َ‫ر‬ َ َ‫مَك‬ ‫ا‬‫و‬ُّ‫ل‬ َ‫ص‬ คือ พวกท่านทั้งหลายจงละหมาดเหมือน อย่างที่เห็นฉันละหมาด1 ยิ่งไปกว่านั้น ก็เคยมีการฟัตวาว่าการกระดิกนิ้วชี้ ในขณะอ่านตะชะฮ์ฮุดทาให้เสีย ละหมาดเพราะเป็นการเคลื่อนไหวอวัยวะ (คือนิ้วชี้) เกินกว่าสามครั้งโดยเจตนา ซึ่งไปถึงขั้นมี การตัดสินว่า ทาให้การละหมาดนั้นเป็นโมฆะ (บะฏ็อล) นี่ ผู้เขียนเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แน่นอน ขอเรียนว่าสิ่งที่ผู้เขียนจะเขียนชี้แจงต่อไปนี้เป็นการเขียนตามมุมมองของผู้เขียน ซึ่งอาจ ขัดแย้งกับทัศนะของนักวิชาการหลายๆ ท่าน ในเรื่องของมุมมองที่แตกต่างหรือขัดแย้งกันนี้ ถือเป็นสิทธิของนักวิชาการแต่ละท่าน จะเสนอแนวคิดตามมุมมองของตนเองได้ และมุมมองของนักวิชาการไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบัน ในปัญหาต่างๆ ซึ่งมันอาจแตกต่างไปจากมุมมองของเรา และไม่ว่าเราจะรับได้หรือรับไม่ได้ก็ ตาม เราก็ต้องให้เกียรติและเคารพในความบริสุทธิ์ใจของท่าน และอย่าด่วนไปฟันธงว่า มุมมองของท่านนั้นผิดพลาด เพราะบางที ท่านอาจจะถูกและเราอาจจะผิดก็เป็นได้ มุมมองที่แตกต่างกันในเรื่องศาสนาอันเกิดจากความบริสุทธิ์ใจของแต่ละฝ่าย ไม่ถือว่า เป็นการหักล้างหรือลบหลู่ซึ่งกันและกัน เพราะผู้เขียนยังชื่นชมในผลงานของอาจารย์มุรีด2 อยู่เสมอ ต่อไปนี้ คือมุมมอง คาอธิบาย และการวิเคราะห์ของผู้เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ 1 เล่าโดยมาลิก บินหุวัยริษ บันทึกโดยบุคอรีย์ หะดีษที่ 5662; อิบนุคุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 586; อิบนุหิบบาน หะดีษ ที่ 1658 และอัดดาริมีย์ หะดีษที่ 1233 2 ดู มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545).
  • 3. 3 ลักษณะการวางนิ้วชี้ของท่านศาสดาในการอ่านตะชะฮ์ฮุด หะดีษที่มีรายงานมาเกี่ยวกับเรื่องนี้จากเศาะหาบะฮ์บางท่าน เช่น อับดุลลอฮ์ อิบนุ อัซ- ซุบัยร์ และวาอิล บินหุจญ์ริน ฯลฯ ได้รายงานลักษณะการวางนิ้วชี้ของท่านศาสดาในขณะอ่าน ตะชะฮ์ฮุด ซึ่งสรุปแล้วจะมีการกล่าวไว้ 3 ลักษณะด้วยกัน ดังนี้ 1. กล่าวเพียงว่า ท่าน ‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ ُ ْ‫ْي‬ ‫ى‬‫ُش‬‫ي‬ คือ ท่านสื่อสัญญาณด้วยนิ้วชี้ (หรือยกนิ้วชี้ ขึ้น) แต่ไม่มีรายงานต่อไปอีกว่า ท่านกระดิกหรือไม่กระดิกมัน 2. มีการระบุชัดเจนว่า َ‫ا‬‫ه‬ُ‫ك‬‫ى‬ّ‫ر‬َ ُ‫حي‬ َ‫ال‬‫و‬ ‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ ُ ْ‫ْي‬ ‫ى‬‫ُش‬‫ي‬ คือ ท่านสื่อสัญญาณด้วยนิ้ วชี้ (หรือยกนิ้วชี้ขึ้น)แต่ท่านไม่ได้กระดิกมัน 3. มีการระบุชัดเจนว่า ‫َا‬‫ه‬ُ‫ك‬‫ى‬ّ‫ر‬َ ُ‫حي‬ ُ‫ه‬ُ‫ت‬ْ‫ي‬َ‫أ‬َ‫ر‬َ‫ف‬ ُ‫ه‬َ‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬‫ا‬ َ‫ع‬َ‫ف‬َ‫ر‬ คือ ท่านยกนิ้ว(ชี้ )ขึ้ นแล้วฉันก็เห็น ท่านกระดิกมัน นี่คือ บทสรุปของหลักฐานที่มีรายงานมาเกี่ยวกับเรื่องลักษณะการวางนิ้วชี้ของท่าน ศาสดาในการอ่านตะชะฮ์ฮุด หมายเหตุ คาว่า ‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ ُ ْ‫ْي‬ ‫ى‬‫ُش‬‫ي‬ไม่จาเป็นต้องหมายความว่า“ชี้ด้วยนิ้วชี้ ”ดังการให้ความหมาย ของอาจารย์มุรีดเสมอไปเพราะการให้ความหมายดังกล่าวนอกจากจะเป็นการสื่อความหมายที่ แคบจนนาไปสู่ความเข้าใจผิดว่าเป็นการชี้โดยไม่มีการกระดิกแล้ว คาว่า ُ ْ‫ْي‬ ‫ى‬‫ُش‬‫ي‬ ، َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ ตาม หลักภาษาจะหมายถึง “การสื่อสัญญาณ,การทาสัญญาณ (ด้วยสิ่งใดๆ)”ซึ่งเป็นความหมาย กว้างๆ ดังตัวอย่างที่ผู้เขียนจะชี้แจงให้เห็นในลาดับต่อไป ดังนั้น ในหะดีษข้างต้น ความหมายของคาว่า ‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ ُ ْ‫ْي‬ ‫ى‬‫ُش‬‫ي‬ในแง่ภาษาจึง หมายถึง “การสื่อสัญญาณด้วยนิ้วชี้ ”หรือ “การยกนิ้วชี้ ขึ้ น”ซึ่งความหมายนี้จะตรงกับอีก สานวนหนึ่งของหะดีษบทนี้ที่ว่า َ‫ب‬ ْ‫ص‬ ِ ‫ا‬ َ‫ع‬َ‫ف‬َ‫ر‬ُ‫ه‬َ‫ع‬ (ท่านนะบีย์ได้ยกนิ้วชี้ของท่านขึ้น) อันเป็นการ รายงานของซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ที่จะกล่าวถึงต่อไป สานวนที่แตกต่างกันของหะดีษเรื่องเดียวกันนั้นย่อมอธิบายซึ่งกันและกันเสมอ เมื่อพิจารณาดูบทสรุปที่ผู้เขียนกล่าวมานี้ ก็จะเห็นได้ว่า ที่สอดคล้องกันของรายงานทั้ง สามลักษณะข้างต้นก็คือ ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมสื่อสัญญาณด้วยนิ้วชี้หรือ ยกนิ้วชี้ขึ้นในการอ่านตะชะฮ์ฮุด แต่ที่ขัดแย้งกันก็คือ รายงานที่สองบอกว่าท่านยกนิ้วชี้ขึ้น แต่ไม่ได้กระดิกมัน รายงานที่สามบอกว่า ท่านยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วกระดิกมัน
  • 4. 4 ส่วนสานวนในรายงานที่หนึ่ง (ทั้งหมด) ตามที่อาจารย์มุรีดนามาอ้างเป็นหลักฐานเรื่อง ไม่กระดิกนิ้วชี้นั้น ข้อเท็จจริงก็คือ เป็นรายงานที่เรียกว่า ُ‫ه‬ْ‫ن‬َ‫ع‬ ٌ‫ت‬ْ‫و‬ُ‫ك‬ ْ‫س‬َ‫م‬ คือไม่อาจชี้ชัดได้ว่ามี การกระดิกนิ้ วชี้ ด้วยหรือไม่ หรือถ้าเป็นภาษาชาวบ้านทั่วไปอาจเรียกว่า เป็นมวยเชิงรอ จังหวะ คือ ไม่บุกแต่ก็ไม่ถอย หมายความว่า รายงานลักษณะที่หนึ่งนี้จะนามาอ้างเป็นหลักฐานเรื่องกระดิกนิ้วชี้ก็ไม่ได้ จะอ้างเป็นหลักฐานเรื่องไม่กระดิกนิ้วชี้ก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะทั้งสองอย่างนั้นไม่มีกล่าวไว้ ในหะดีษบทนี้เลย เพราะฉะนั้น รายงานที่หนึ่งนี้ จึงเป็ นหลักฐานได้เพียงอย่างเดียว คือ ท่าน นะบีย์ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ยกนิ้วชี้ขึ้นในการอ่านตะชะฮ์ฮุด ส่วนปัญหาที่ว่าเมื่อท่านยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วท่านกระดิกมันหรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับผลการ วิเคราะห์รายงานที่สองและรายงานที่สามที่ยังขัดแย้งกันอยู่ว่า รายงานไหนจะถูกต้องกว่ากัน ถ้าผลการวิเคราะห์ออกมาว่า รายงานที่ว่าไม่กระดิกนิ้วชี้เป็นรายงานที่ถูกต้องกว่าก็ต้อง ถือว่า ซุนนะฮ์ในการนั่งอ่านตะชะฮ์ฮุด ให้ยกนิ้วชี้ขึ้นแต่ไม่ต้องกระดิกมัน แต่ถ้าผลการวิเคราะห์ออกมาว่า รายงานเรื่องกระดิกนิ้วถูกต้องกว่า เช่นนี้ก็ต้องยอมรับ ว่า ซุนนะฮ์ในการนั่งอ่านตะชะฮ์ฮุดนั้นให้ยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วกระดิกมันด้วย ต่อไปนี้คือรายละเอียดของการรายงานและการวิเคราะห์ลักษณะนิ้วชี้ของท่านศาสดาใน การนั่งอ่านตะชะฮ์ฮุด ซึ่งผู้เขียนจะเริ่มวิเคราะห์จาก“รายงานที่หนึ่ง”ก่อน ดังต่อไปนี้ รายงานที่หนึ่ง เรื่องยกนิ้วชี้ขึ้น แต่ไม่ระบุเรื่องกระดิกหรือไม่กระดิก (1) รายงานจากอับดุลลอฮ์ อิบนุ อัซ-ซุบัยร์ ร.ฎ. (เสียชีวิตเมื่อ ฮ.ศ. 73) รายงานในเรื่องนี้จากอับดุลลอฮ์ฯ มี 3 กระแสด้วยกันคือ ก.จากอุษมาน บินหะกีม จากอามิร บินอับดุลลอฮ์ จากบิดาของท่านคือ อับดุลลอฮ์ อิบนุ อัซ-ซุบัยร์ ร.ฎ. ซึ่งได้กล่าวว่า َّ‫ل‬ َ‫ص‬ ‫ى‬‫هللا‬ ُ‫ل‬ْ‫و‬ ُ‫س‬َ‫ر‬ َ‫ن‬ َ‫َك‬ََّ‫ّل‬ َ‫س‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ل‬َ‫ع‬ ُ‫هللا‬‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ذ‬‫ى‬‫خ‬َ‫ف‬ َ ْ‫ْي‬َ‫ب‬ ‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ُ‫ه‬َ‫م‬َ‫د‬َ‫ق‬ َ‫ل‬َ‫ع‬َ‫ج‬ ‫ى‬‫ة‬َ‫ال‬ َّ‫الص‬ ‫ى‬‫ِف‬ َ‫د‬َ‫ع‬َ‫ق‬ ‫ا‬َ‫ذ‬ ِ ‫ا‬ َ‫َن‬ْ‫م‬ُ‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ُ‫ه‬َ‫د‬َ‫ي‬ َ‫ع‬َ‫ض‬َ‫و‬َ‫و‬ ،‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ت‬َ‫ب‬ْ‫ك‬ُ‫ر‬ َ‫ل‬َ‫ع‬ ‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ُ‫ه‬َ‫د‬َ‫ي‬ َ‫ع‬َ‫ض‬َ‫و‬َ‫و‬ ، َ‫َن‬ْ‫م‬ُ‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ُ‫ه‬َ‫م‬َ‫د‬َ‫ق‬ َ‫ش‬َ‫ر‬َ‫ف‬َ‫و‬ ،‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ق‬‫ا‬ َ‫س‬َ‫و‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬َ‫و‬ َ‫َن‬ْ‫م‬ُ‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ذ‬‫ى‬‫خ‬َ‫ف‬ َ‫ل‬َ‫ع‬‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬ ِ ‫ى‬‫اب‬ “เมื่อท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะวัลลัมนั่งในละหมาดนั้น ท่านจะวางฝ่า เท้าซ้ายของท่านไว้ระหว่างขาอ่อนกับแข้ง (ขวา) ของท่าน และแบฝ่าเท้าขวาของท่าน (ใน ลักษณะตั้งชันขึ้นอันเป็นการนั่งแบบ “ตะวัรรุก”) แล้วท่านก็วางมือซ้ายของท่านลงบนเข่าซ้าย
  • 5. 5 และวางมือขวาของท่านบนขาอ่อนด้านขวา และท่านก็ทาสัญญาณด้วยนิ้ว (ชี้ คือยกนิ้วชี้ ขึ้น)”3 รายงานนี้เป็นรายงานที่ถูกต้อง และสานวนในที่นี้เป็นสานวนจากการบันทึกของมุสลิม อาจารย์มุรีดได้นาเอาหะดีษกระแสนี้มาเป็นหลักฐานที่ 1 เรื่องไม่ต้องกระดิกนิ้วชี้4 ข. จากมัครอมะฮ์ บินบุกัยร์ จากอามิร บินอับดุลลอฮ์ จากอับดุลลอฮ์ อิบนุ อัซ-ซุบัยร์ ร.ฎ. ซึ่งกล่าวว่า َ‫ل‬َ‫ع‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫د‬َ‫ي‬ ُ‫ع‬ َ‫ض‬َ‫ي‬ ‫ى‬‫ع‬َ‫ب‬ْ‫ر‬َ‫أل‬ْ‫ا‬ ‫ى‬‫ِف‬ ْ‫و‬َ‫أ‬ ‫ى‬ ْ‫ْي‬َ‫ت‬ْ‫ن‬‫ى‬ّ‫ث‬‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬‫ِف‬ َ‫س‬َ‫ل‬َ‫ج‬ ‫ا‬َ‫ذ‬ ِ ‫ا‬ ََّ‫ّل‬ َ‫س‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ل‬َ‫ع‬ ُ‫هللا‬ َّ‫ل‬ َ‫ص‬ ‫ى‬‫هللا‬ ُ‫ل‬ ْ‫و‬ ُ‫س‬َ‫ر‬ َ‫ن‬ َ‫َك‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬ ِ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ َّ ُ‫ُث‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ت‬َ‫ب‬ْ‫ك‬ُ‫ر‬ “เมื่อท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั่ง (อ่านตะชะฮ์ฮุด) ในร็อกอะฮ์ที่ สองหรือร็อกอะฮ์ที่สี่ ท่านจะวางมือทั้งสองของท่านลงบนเข่าทั้งสองของท่าน จากนั้นท่านก็ทา สัญญาณด้วยนิ้ว (ชี้) ของท่าน”5 สายรายงานนี้ถูกต้อง หรืออย่างน้อยก็หะซัน (สวยงาม) ค. จากมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน จากอามิร บินอับดุลลอฮ์ จากอับดุลลอฮ์ อิบนุ อัซ- ซุบัยร์ ร.ฎ. ซึ่งกล่าวว่า ‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ُ‫ه‬َّ‫ف‬َ‫ك‬ َ‫ع‬َ‫ض‬َ‫و‬ ‫ى‬‫د‬ُّ‫ه‬ َ‫ش‬َّ‫ت‬‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬‫ِف‬ َ‫د‬َ‫ع‬َ‫ق‬ ‫ا‬َ‫ذ‬ ِ ‫ا‬ َ‫ن‬ َ‫َك‬ ََّ‫ّل‬ َ‫س‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ل‬َ‫ع‬ ُ‫هللا‬ َّ‫ل‬ َ‫ص‬ ‫ى‬‫هللا‬ َ‫ل‬ْ‫و‬ ُ‫س‬َ‫ر‬ َّ‫ن‬ ِ ‫ا‬‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ذ‬‫ى‬‫خ‬َ‫ف‬ َ‫ل‬َ‫ع‬ ُ‫ه‬َ‫ت‬َ‫ار‬ َ‫ش‬ ِ ‫ا‬ ُ‫ه‬ُ َ‫َص‬َ‫ب‬ُ‫ز‬‫ى‬‫و‬‫ا‬َ ُ‫ُي‬ َ‫ال‬ ‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬َ‫و‬ ،‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ “เมื่อท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั่งตะชะฮ์ฮุด ท่านจะวางฝ่ามือซ้าย บนขาอ่อนข้างซ้าย และท่านจะทาสัญญาณด้วยนิ้วชี้ โดยที่สายตาของท่านจะมองไปยังการชี้ นั้น”6 สายรายงานนี้หะซัน (สวยงาม) เพราะมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน มีความบกพร่องด้าน ความจาเล็กน้อย อาจารย์มุรีดได้นาเอาหะดีษกระแสนี้มาเป็นหลักฐานที่ 2 เรื่องไม่ต้องกระดิกนิ้วชี้7 จะเห็นได้ว่า รายงานนี้ทั้งสามกระแส คือกระแสของอุษมาน บินหะกีม, กระแสของมัค รอมะฮ์ บินบุกัยร์ และกระแสของมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน ล้วนรายงานมาจากแหล่งเดียวกัน คือ จากอับดุลลอฮ์ อิบนุอัซ-ซุบัยร์ ร.ฎ. 3 บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 112/579, อบูดาวูด หะดีษที่ 988, อิบนุคุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 696 และอัล-บัยฮะกีย์ เล่มที่ 2 หน้า 130 4 ดู มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545), หน้า 14, 20. 5 บันทึกโดยอัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 1160 และอัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 132 6 บันทึกโดยอัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 1274; อัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 132 และผู้บันทึกอื่นๆ 7 ดู มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545), หน้า 14-15.
  • 6. 6 (2) รายงานจากวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ.(เสียชีวิตในสมัยมุอาวิยะฮ์เป็นคอลีฟะฮ์) หะดีษนี้จากการรายงานของวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ. เท่าที่ผู้เขียนตรวจสอบแล้วมีรวม 7 กระแสด้วยกัน ซึ่งในที่นี้ผู้เขียนจะนาเสนอข้อความที่ตรงประเด็นเรื่องลักษณะนิ้วชี้โดยเฉพาะ เท่านั้น เพื่อมิให้ยืดเยื้อจนเกินไป ดังนี้ ก. จากซุฟยาน อัษ-เษารีย์ จากอาศิม บินกุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จากวาอิล บินหุจญ์ ริน ร.ฎ. กล่าวว่า ....َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬َ‫و‬ .‫ا‬َ ‫ِبى‬ ْ‫و‬ُ‫ع‬ْ‫د‬َ‫ي‬ ،‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ “. . . แล้วท่านก็ทาสัญญาณด้วยนิ้วชี้ (โดย) วิงวอน (คืออ่านตะชะฮ์ฮุด) ด้วยมัน (นิ้วชี้)”8 อาจารย์มุรีดได้นาหะดีษกระแสนี้มาเป็นหลักฐานที่ 59 แต่ในสายรายงานกล่าวว่า จาก มุหัมมัด อัล-ฟิรยาบีย์ ฟังจากอาศิม บินกุลัยบ์ ข้อความนี้มีตกหล่นนามผู้รายงานท่านหนึ่งระหว่างท่านมุหัมมัด อัล-ฟิ รยาบีย์ กับ อาศิม บินกุลัยบ์คือซุฟยาน อัษ-เษารีย์ซึ่งผู้เขียนเข้าใจว่าน่าจะเกิดจากความผิดพลาดในการ เรียงพิมพ์ ข. จากชุอ์บะฮ์ บินอัล-หาจญ์จากอาศิม บินกุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จากวาอิล บิน หุจญ์ริน ร.ฎ. กล่าวว่า ......‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬َ‫ا‬‫ب‬َّ‫ب‬ َّ‫الس‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬ ِ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬َ‫و‬ “. . . และท่านก็ทาสัญญาณด้วยนิ้วชี้ของท่าน”10 อาจารย์มุรีด ได้นาหะดีษกระแสนี้มาเป็นหลักฐานด้วย11 ค. จากอับดุลญับบาร บินอะลาอ์ จากอาศิม บินกุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จากวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ. กล่าวว่า ....ْ‫و‬ُ‫ع‬ْ‫د‬َ‫ي‬ ‫ى‬‫ة‬َ‫ح‬‫ا‬َ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ ُ ْ‫ْي‬ ‫ى‬‫ُش‬‫ي‬ َ‫ل‬َ‫ع‬َ‫ج‬َ‫و‬ . “. . . และท่านเริ่มทาสัญญาณด้วยนิ้วชี้ (เพื่อ) กล่าวตะชะฮ์ฮุด”12 อาจารย์มุรีด ได้นาหะดีษกระแสนี้มาเป็นหลักฐานด้วย13 8 บันทึกโดยอัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 1263 และอะห์มัด เล่ม 4 หน้า 318 9 ดู มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545), หน้า 16. 10 บันทึกโดยอิบนุคุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 697 และอะห์มัด เล่ม 4 หน้า 319 11 ดู มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545), หน้า 18. 12 บันทึกโดยอิบนุคุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 713 13 ดู มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545), หน้า 19.
  • 7. 7 ง. จากบิชร์ บินอัล-มุฟัฎฎ็อล จากอาศิม บินกุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จากวาอิล บิน หุจญ์ริน ร.ฎ. กล่าวว่า ....َ‫َن‬ْ‫م‬ُ‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ َ‫ن‬‫ى‬‫م‬ ‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬َ‫و‬ . “. . . และท่านก็ทาสัญญาณด้วยนิ้วชี้มือขวา”14 อาจารย์มุรีด ได้นาหะดีษกระแสนี้มาเป็นหลักฐานด้วย15 จ. จากคอลิด บินอับดุลลอฮ์ อัล-วาสิฏีย์ จากอาศิม บินกุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จาก วาอิล บินหุจญริน ร.ฎ. ด้วยสานวนที่เหมือนการรายงานของบิชร์ บินมุฟัฎฎ็อล จากการบันทึก ของอะบูดาวูดที่ผ่านมาแล้ว16 ฉ. จากซุฮัยร์ บินมุอาวิยะฮ์ จากอาศิม บินกุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จากวาอิล บินหุจญ์ ริน ร.ฎ. ด้วยสานวนที่คล้ายกับรายงานของบิชร์ บินมุฟัฎฎ็อล เช่นเดียวกัน17 ช. จากอะบูอัล-อะห์วัศ อัล-หะนะฟี ย์จากอาศิม บินกุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จาก วาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ. กล่าวว่า ....‫ى‬َ‫ْر‬‫خ‬ُ‫أل‬ْ ‫ى‬‫اب‬ ْ‫و‬ُ‫ع‬ْ‫د‬َ‫ي‬ َ‫ل‬َ‫ع‬َ‫ج‬ َّ ُ‫ُث‬ ‫ى‬َ‫ط‬ ْ‫س‬ُ‫و‬ْ‫ل‬‫ا‬َ‫و‬ ‫ى‬‫م‬‫ا‬َ ْ‫ِب‬ ِ ‫ال‬ْ‫ا‬ َ‫ة‬َ‫ق‬ْ‫ل‬َ‫ح‬ َ‫ل‬َ‫ع‬َ‫ج‬َ‫و‬ . “. . . และท่านนะบีย์ก็เอานิ้วหัวแม่มือกับนิ้วกลางจรดกันเป็นวงกลม แล้วท่านก็เริ่ม อ่านตะชะฮ์ฮุดด้วยนิ้วอื่น (คือนิ้วชี้)”18 ข้างต้นนี้คือ 7กระแสของหะดีษนี้ซึ่งรายงานมาจากวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ. นอกจากนี้ ก็ยังมีหะดีษในลักษณะเดียวกันนี้ที่รายงานมาจากเศาะหาบะฮ์อีกท่านหนึ่ง คืออิบนุอุมัร ร.ฎ.19 เมื่อพิจารณาดูเนื้อหาและสานวนของหะดีษนี้ที่รายงานมาโดยเศาะหาบะฮ์ 3 ท่าน คือ อับดุลลอฮ์ อิบนุอัซ-ซุบัยร์,วาอิล บินหุจญ์ริน และอิบนุอุมัร ร.ฎ. ก็จะเห็นได้ว่า แม้สานวนใน การรายงานจะแตกต่างกัน แต่ในด้านเนื้อหาแล้วจะตรงกัน คือ ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะซัลลัม จะทาสัญญาณด้วยนิ้วชี้ (คือยกนิ้วชี้ขึ้น) ในการอ่านตะชะฮ์ฮุด ข้อความของหะดีษนี้ทั้งหมดทุกกระแสข้างต้นมีกล่าวไว้เพียงแค่นี้ ไม่มีกระแสใด รายงานเพิ่มเติมเลยว่า ท่านกระดิกนิ้วชี้หรือไม่กระดิก 14 บันทึกโดยอะบูดาวูด หะดีษที่ 957; อัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 1264; สานวนในที่นี้เป็นสานวนจากการบันทึก ของอัน-นะซาอีย์ 15 ดู มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545), หน้า 21. 16 บันทึกโดยอัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 131 17 บันทึกโดยอะห์มัด เล่ม 4 หน้า 318 18 บันทึกโดยอัฏ-เฏาะหาวีย์ ใน “ชัรหุมะอานีย์ อัล-อาษาร” เล่ม 1 หน้า 259 19 จากการบันทึกของมุสลิม หะดีษที่ 115/580; อิมามมาลิก ใน “อัล-มุวัฏเฏาะอ์” หะดีษที่ 195; อัต-ติรมีซีย์ หะดีษที่ 294; อะห์มัด เล่ม 2 หน้า 65 และอัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 130 เป็นต้น
  • 8. 8 ดังนั้น การที่นักวิชาการบางท่าน เช่น ชัยค์มุหัมมัด อัมร์ อับดุลละฏีฟ เจ้าของ หนังสือ “ตับยีฎ อัศ-เศาะหี้หะฮ์”ได้อ้างหะดีษเหล่านี้แล้วสรุปว่า เป็นหลักฐานเรื่องการไม่ กระดิกนิ้วชี้ในการอ่านตะชะฮ์ฮุด จึงเป็นเรื่องการขาดความรอบคอบในการพิจารณา ความหมายของหะดีษ ผู้เขียนพิจารณาว่า การที่ชัยค์ผู้นี้ (รวมทั้งอาจารย์มุรีดด้วย) ได้อ้างหะดีษเหล่านี้เป็น หลักฐานเรื่องไม่ต้องกระดิกนิ้วชี้ในการอ่านตะชะฮ์ฮุด ทั้งๆ ที่ข้อความที่ว่า “ไม่กระดิก นิ้วชี้”ไม่มีปรากฏในรายงานเหล่านี้เลยดังกล่าวมาแล้ว อาจเป็นเพราะเข้าใจไปว่า การ“ชี้”กับ การ“กระดิก”เป็นเรื่องที่ค้านกัน ดังนั้น เมื่อผู้รายงานหะดีษกล่าวว่า ท่านนะบีย์ ‫ى‬‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬ ِ ‫ال‬ْ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ โดยไม่ได้ให้ความหมาย ตามหลักภาษาว่า ท่านทาสัญญาณด้วยนิ้วหรือยกนิ้วขึ้น แต่กลับให้ความหมายว่า ท่านชี้นิ้ว เช่นนี้จึงทาให้เข้าใจต่อไปอีกว่า เป็นการชี้นิ้วตรงโดยไม่กระดิกมัน เมื่อเข้าใจว่าการชี้นิ้วกับการกระดิกนิ้วนั้นค้านกัน จึงตัดสินชี้ขาดลงไปทันทีว่า ท่าน นะบีย์ชี้นิ้วจริง แต่ไม่ได้กระดิกนิ้ว ซึ่งเรื่องนี้น่าจะเป็นความเข้าใจผิดซ้าสอง ก่อนอื่น ก็ขอให้ลองมาพิจารณาดูข้อเท็จจริง ทั้งตามหลักภาษาและการปฏิบัติของท่าน นะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะวัลลัม ว่า การ “ชี้”กับการ“กระดิก”ค้านกันหรือไม่อย่างไร 1.ในแง่ของภาษา ก. คาว่า ‫ة‬َ‫ار‬ َ‫ش‬ ِ ‫ا‬ ، ُ ْ‫ْي‬ ‫ى‬‫ُش‬‫ي‬ ، َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ ในภาษาอาหรับดังที่มีระบุในหะดีษข้างต้นนี้ โดย พื้นฐานของภาษาแล้วไม่ได้หมายถึงชี้ แต่หมายถึง“การสื่อสัญญาณ, การทาสัญญาณ, การ แสดงอาการให้รู้ด้วยอวัยวะหรือสิ่งใด เพื่อสื่อความหมายที่ต้องการแทนคาพูด”20 โปรดดูตัวอย่างจากสานวนต่างๆ ดังต่อไปนี้ ภาษาอาหรับกล่าวว่า ‫ى‬‫ب‬‫ى‬‫اج‬َ‫ح‬ْ‫ل‬ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ หมายความว่า เขาสื่อสัญญาณด้วยคิ้ว กล่าวคือยักคิ้ว ‫ى‬ ْ‫ْي‬َ‫ع‬ْ‫ل‬ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ หมายความว่า เขาสื่อสัญญาณด้วยตา กล่าวคือขยิบตา หรือหรี่ตาให้ ‫ى‬‫س‬ْ‫أ‬َّ‫لر‬ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ หมายความว่า เขาแสดงสัญญาณด้วยศีรษะ กล่าวคือส่าย ศีรษะเมื่อปฏิเสธหรือผงกศีรษะเมื่อยอมรับ 20 โปรดดู “อัล-มิศบาห์ฯ” เล่ม 1 หน้า 350; “อัล-มุอ์ญัม อัล-วะซีฏ” เล่ม 1 หน้า 499; กอมูส “อัล- มุฮีฏ” เล่ม 2 หน้า 134; กอมูส “อัล-มุนญิด” หน้า 407; “อัน-นิฮายะฮ์ ฟี เฆาะรีบิลหะดีษ” เล่ม 2 หน้า 518
  • 9. 9 ‫ى‬‫د‬َ‫ي‬ْ‫ل‬ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ หมายความว่า เขาทาสัญญาณด้วยมือ กล่าวคือการกวัก มือเรียกให้เข้ามา หรือโบกมือทักทาย หรือโบกมือไล่ให้ออกไป หรือชี้มือไปข้างหน้า ‫ى‬ ‫ى‬‫َص‬ْ‫ن‬‫ى‬‫خ‬ْ‫ل‬ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ หมายความว่า เขาทาสัญ ญาณด้ วยนิ้ วก้ อย กล่าว คือ“ชู”นิ้วก้อยขึ้นเป็นความหมายว่า เรามาดีกันนะ หรือเราเลิกโกรธกันนะ ‫ى‬‫م‬‫ا‬َ ْ‫ِب‬ ِ ‫ال‬ْ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ หมายความว่า เขาทาสัญญาณด้วยหัวแม่มือ กล่าว คือ“ชู”นิ้วหัวแม่มือขึ้นเป็นความหมายยอมรับว่า นายแน่มาก เป็นต้น ข้อความข้างต้นทั้งหมดนี้ใช้คาว่า َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ เช่นเดียวกัน แต่มีผู้ใดบ้างเล่าที่จะให้ ความหมายว่า เขาชี้ด้วยคิ้ว เขาชี้ด้วยตา เขาชี้ด้วยศีรษะ เขาชี้ด้วยนิ้วก้อย เขาชี้ด้วยหัวแม่มือ ถึงขั้นนี้ให้พิจารณาถึงสภาพความเป็นจริงของการทาสัญญาณด้วยอวัยวะต่างๆ ดังกล่าวมาข้างต้นนั้นว่า เวลาเราส่งสัญญาณห้ามหรือยุใครด้วยการขยิบตาก็ดี โบกมือทักทาย ใครก็ดี ยอมรับใครด้วยการผงกศีรษะก็ดีไม่เห็นด้วยกับใครด้วยการส่ายศีรษะก็ดี จาเป็นด้วยหรือที่จะต้อง َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ คือสื่อสัญญาณด้วยอวัยวะเหล่านั้นโดยขยิบตาได้แค่ครั้ง เดียว โบกมือได้แค่ครั้งเดียว ผงกศีรษะได้แค่ครั้งเดียว ส่ายศีรษะได้แค่ครั้งเดียว โดยห้าม ทาซ้าหลายครั้ง หรือตามข้อเท็จจริงเราจะต้องทาซ้ามากกว่าหนึ่งครั้งกันแน่ เพราะฉะนั้น เมื่อหะดีษกล่าวว่า ท่านนะบีย์ ‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫لس‬ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ (ทาสัญญาณด้วยนิ้วชี้หรือ ยกนิ้วชี้ขึ้น) มีการเอาหลักฐานใดมาอ้างหรือที่ว่า เมื่อยกนิ้วชี้ขึ้นแล้ว ท่านก็ชี้มันไปข้างหน้าตรง เลยโดยไม่กระดิกมันอีก ข. อัศ-ศ็อนอานีย์ ได้กล่าวโดยไม่เกี่ยวกับเรื่องการกระดิกหรือชี้ของหะดีษบทนี้ แต่ เป็นการกล่าวในภาพรวมทั่วๆ ไปว่า ‫ى‬‫ت‬ َّ‫ُص‬‫خ‬ : ُ‫ء‬‫ا‬َ‫م‬َ‫ل‬ُ‫ع‬ْ‫ل‬‫ا‬ َ‫ل‬‫ا‬َ‫ق‬‫ى‬‫ال‬ ‫ى‬‫ة‬َ‫ار‬ َ‫ش‬ ِ ‫ال‬ْ ‫ى‬‫اب‬ ُ‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫الس‬، ‫ى‬‫ب‬ْ‫ل‬َ‫ق‬ْ‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬ِ‫ا‬َ‫ي‬‫ى‬ِ‫ى‬‫ب‬ ‫َا‬‫ه‬‫ى‬‫ل‬‫ا‬ َ‫ص‬‫ى‬ّ‫ت‬ُ‫ك‬ْ‫ي‬‫ى‬‫ر‬ْ‫ح‬َ‫ت‬َ‫ف‬‫َا‬‫ه‬‫ى‬‫ر‬ْ‫و‬ ُ‫ض‬ُ‫ح‬‫ى‬‫ل‬ ٌ‫ب‬َ‫ب‬ َ‫س‬ ‫َا‬‫ه‬ “บรรดานักวิชาการต่างกล่าวว่า การกาหนดการชี้ด้วยนิ้วชี้ ก็เพราะมัน (นิ้วชี้) เชื่อมโยง อยู่กับขั้วหัวใจ ดังนั้นการกระดิกมันก็คือสาเหตุในการกระตุ้นให้หัวใจตื่นตัว (เตรียมพร้อม ตลอดเวลา)”21 ข้อความข้างต้นนี้ คงไม่ต้องขยายความใดๆ อีก เพราะคงจะมองออกแล้วว่า การ“กระดิก”นิ้วชี้นั้น มัน“ค้าน”หรือ“เสริม”การชี้นิ้วกันแน่ 21 “สุบุลุสสะลาม” เล่ม 1 หน้า 188
  • 10. 10 2. ในแง่หลักฐานจากหะดีษ ก.อิบนุคุซัยมะฮ์ได้บันทึกหะดีษบทหนึ่ง โดยอ้างรายงานมาจากซะฮฺล์ (ซะฮัล) บิน สะอฺด์ (สะอัด) มีข้อความว่า َ‫ل‬َ‫ع‬ َ‫ال‬ َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬ َ‫َب‬ْ‫ن‬‫ى‬‫م‬ َ‫ل‬َ‫ع‬ ْ‫و‬ُ‫ع‬ ْ‫د‬َ‫ي‬ ُّ‫ط‬َ‫ق‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫د‬َ‫ي‬ ‫ا‬‫ر‬ ‫ى‬‫اه‬ َ‫ش‬ ََّ‫ّل‬ َ‫س‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ل‬َ‫ع‬ ُ‫هللا‬ َّ‫ل‬ َ‫ص‬ ‫ى‬‫هللا‬ َ‫ل‬ ْ‫و‬ ُ‫س‬َ‫ر‬ ُ‫ت‬ْ‫ي‬َ‫أ‬َ‫ر‬ ‫ا‬َ‫م‬ ،‫ى‬‫ه‬‫ى‬ ْ‫ْي‬َ‫غ‬: ‫ا‬َ‫ذ‬َ‫ك‬َ‫ه‬ ُ‫ل‬ْ‫و‬ُ‫ق‬َ‫ي‬ ُ‫ه‬ُ‫ت‬ْ‫ي‬َ‫أ‬َ‫ر‬ ْ‫ن‬‫ى‬‫ك‬َ‫ل‬َ‫و‬‫َا‬‫ه‬ُ‫ك‬‫ى‬ّ‫ر‬َ ُ‫حي‬ ‫ى‬‫ة‬َ‫ب‬‫ا‬َّ‫ب‬ َّ‫الس‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬ ِ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬َ‫و‬ “ฉันไม่เคยเห็นท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะวัลลัมแสดง (คือยก) มือทั้ง สองของท่านเลยขณะขอดุอาบนมิมบัรของท่านหรือบนอะไรก็ตาม แต่ฉันเห็นท่านกล่าว (คือ แสดงอาการ) อย่างนี้ แล้วท่านซะฮฺล์ก็ยกนิ้วชี้ของท่านขึ้นพร้อมกับกระดิกมันด้วย”22 ผู้เขียนไม่ได้อ้างหะดีษบทนี้เป็นหลักฐานตามเนื้อหาทั้งหมดของมัน เพราะในสาย รายงานของหะดีษนี้มีข้อบกพร่องเล็กน้อย นั่นคือผู้รายงานท่านหนึ่งชื่อ อับดุรเราะห์มาน บินมุอาวิยะฮ์ อะบูอัล-หุวัยริษ ถูก วิจารณ์ว่า แม้จะเป็นผู้ที่พอจะเชื่อถือได้ แต่ความจาไม่ค่อยดี23 แต่ที่นาหะดีษบทนี้มาอ้างก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า การที่ข้อความของหะดีษกล่าวว่า ท่านยก หรือชี้นิ้วชี้พร้อมกระดิกมันด้วย แสดงว่าตามหลักภาษานั้น การชี้กับการกระดิกไม่ถือว่าเป็น เรื่องที่ค้านกันเลย ดังความเข้าใจผิดๆ ของนักวิชาการบางท่าน ข.มีรายงานมาจากท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร.ฎ. ว่า َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬َ‫ف‬ ،‫ا‬‫ام‬َ‫ي‬‫ى‬‫ق‬ ٌ‫م‬ْ‫و‬َ‫ق‬ ُ‫ه‬َ‫اء‬ َ‫ر‬ َ‫و‬ َّ‫ل‬ َ‫ص‬َ‫ف‬ ، ٍ‫اك‬ َ‫ش‬َ‫ُو‬‫ه‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ت‬ْ‫ي‬َ‫ب‬ ْ ‫ى‬‫ِف‬ ََّ‫ّل‬ َ‫س‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ل‬َ‫ع‬ ُ‫هللا‬ َّ‫ل‬ َ‫ص‬ ‫ى‬‫هللا‬ ُ‫ل‬ْ‫و‬ ُ‫س‬َ‫ر‬ َّ‫ل‬ َ‫ص‬ . ‫ا‬ْ‫و‬ ُ‫س‬‫ى‬‫ل‬ْ‫ج‬‫ا‬ ‫ى‬‫ن‬َ‫أ‬ ْ‫م‬‫ى‬ْ‫ْي‬َ‫ل‬ ِ ‫ا‬.. “ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ทาละหมาดในบ้านของท่านขณะที่ ท่านกาลังป่วยอยู่ แล้วก็มีคนกลุ่มหนึ่งมายืนละหมาดข้างหลังท่านท่านจึงชี้ (มือหรือนิ้ว) ไปยัง พวกเขา (เป็นสัญญาณ) ว่า พวกท่านจงนั่งลง . . .”24 โปรดสังเกตด้วยว่า ในหะดีษบทนี้ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร.ฎ. กล่าวว่า ْ‫م‬‫ى‬ْ‫ْي‬َ‫ل‬ ِ ‫ا‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ ซึ่งมี ความหมายได้ตรงตัวว่า ท่านได้ชี้ (มือหรือนิ้ว) ไปยังพวกเขา, ต่างกับหะดีษบทวิภาษที่ใช้ สานวนว่า‫ى‬‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬ ِ ‫ال‬ْ ‫ى‬‫اب‬ َ‫ار‬ َ‫ش‬َ‫أ‬ซึ่งควรจะให้ความว่า ท่านได้ทาสัญญาณด้วยนิ้ ว คือยกนิ้วขึ้น ดังกล่าวมาแล้ว 22 “อัศ-เศาะเหี๊ยะฮ์” ของ อิบนุคุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 1450 23 “ตักรีบุต ตะฮ์ซีบ” เล่ม 1 หน้า 498 หมายเลข 1116 24 บันทึกโดยบุคอรีย์ หะดีษที่ 688, 1113, 1236, 5658; อิบนุมาญะฮ์ หะดีษที่ 1237; มาลิก ใน “อัล- มุวัฏเฏาะอ์” หะดีษที่ 303
  • 11. 11 การที่ท่านนะบีย์นั่งละหมาดเพราะป่ วยแล้วมีคนมายืนละหมาดข้างหลังท่าน ท่าน จึง “ชี้ ”มือหรือนิ้วไปยังพวกเขาเพื่อเตือนว่าพวกเขาอย่ายืนละหมาด แต่ให้นั่งลงละหมาด เหมือนท่าน (โดยในสานวนหะดีษมิได้กล่าวว่า ท่านกระดิกมือหรือกระดิกนิ้วด้วย) แล้วจะคิดหรือว่า หากท่านนะบีย์ชี้มือหรือชี้นิ้วไปยังพวกเขาเฉยๆ โดยมิได้กระดิกนิ้ว มือลงหรือโบกมือลงด้วยแล้ว พวกเขาจะเข้าใจหรือว่า ท่านชี้มือหรือชี้นิ้วมาที่พวกเขาเพื่อ ต้องการสื่อความหมายอะไร สรุปแล้ว การ “ชี้”กับการ“กระดิก”นิ้วจึงมิใช่เป็นเรื่องที่ค้านกันเลย ไม่ว่าจะมองใน แง่มุมของภาษา ข้อเท็จจริง และหลักฐานจากหะดีษ ดังที่ผู้เขียนได้อธิบายและนาเสนอตัวอย่าง ไปแล้ว ดังนั้นหะดีษข้างต้นทั้งหมดเรื่องการทาสัญญาณด้วยนิ้วชี้หรือการยกนิ้วชี้ของท่านนะบีย์ ขณะอ่านตะชะฮ์ฮุด ซึ่งแม้จะอนุโลมให้หมายความว่า ท่านชี้ด้วยนิ้วชี้ก็ตาม จึงมิใช่หลักฐาน ห้ามหรือปฏิเสธการกระดิกนิ้วชี้ด้วยแน่นอนดังความเข้าใจผิดของชัยค์มุหัมมัด อัมร์ อับดุล ละฏีฟ25 และอาจารย์มุรีดได้นามาใช้เป็นบรรทัดฐานในหนังสือ“ชี้หรือกระดิก”ของท่านเอง รายงานที่สอง เรื่องยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วมีระบุชัดเจนว่า ไม่กระดิกนิ้ว หลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีรายงานมาดังต่อไปนี้ ซิยาด บินสะอฺด์บินอับดุรเราะห์มาน ได้รายงานจากมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน จากอามิร บินอับดุลลอฮ์ จากอับดุลลอฮ์ อิบนุอัซ-ซุบัยร์ ร.ฎ.กล่าวว่า ُ ْ‫ْي‬ ‫ى‬‫ُش‬‫ي‬ َ‫ن‬ َ‫َك‬ ََّ‫ّل‬ َ‫س‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ل‬َ‫ع‬ ُ‫هللا‬ َّ‫ل‬ َ‫ص‬ َّ ‫ى‬‫ِب‬َّ‫ن‬‫ال‬ َّ‫ن‬ ِ ‫ا‬،‫ا‬َ‫ع‬َ‫د‬ ‫ا‬َ‫ذ‬ ِ ‫ا‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬ ِ ‫ى‬‫اب‬‫َا‬‫ه‬ُ‫ك‬‫ى‬ّ‫ر‬َ ُ‫حي‬ َ‫ال‬َ‫و‬ “แท้จริง ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้ทาสัญญาณด้วยนิ้วของท่าน (คือยก นิ้วชี้ขึ้น) ขณะกล่าววิงวอน (คืออ่านตะชะฮ์ฮุด) และท่านไม่ได้กระดิกมัน”26 สถานภาพของหะดีษบทนี้ อิมามนะวะวีย์ได้กล่าวว่า สายรายงานของหะดีษนี้ถูกต้อง27 25 ใน “ตับยีฎ อัศ-เศาะหี้หะฮ์” 26 บันทึกโดย อะบูดาวูด หะดีษที่ 989; อัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 1269; อัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 132 และอัล- บัฆวีย์ ใน “ชัรหุ อัซ-ซุนนะฮ์” หะดีษที่ 677 27 ใน “อัล-มัจญมั๊วะอฺ” เล่ม 3 หน้า 454
  • 12. 12 ข้อโต้แย้ง ตามความเป็นจริงแล้ว นักวิชาการหะดีษหลายท่านได้กล่าววิจารณ์หะดีษนี้ว่ามีความ บกพร่องทั้งในด้านสายรายงานและในด้านตัวบท อธิบาย ข้อบกพร่องในด้านสายรายงานก็คือ มุหัมมัด บินอัจญ์ลานซึ่งเป็นผู้รายงานท่านหนึ่ง ของหะดีษนี้ (เป็นตาบิอีน เสียชีวิต ฮ.ศ. 148) แม้ตามปกติเป็นผู้ที่พอจะเชื่อถือได้ ( ٌ‫ق‬ْ‫و‬ُ‫د‬ َ‫)ص‬ และได้รับความเชื่อถือจากนักวิชาการบางท่าน แต่ขณะเดียวกันก็ถูกนักวิชาการจานวนมาก กล่าวว่า‫ى‬‫ظ‬ْ‫ف‬‫ى‬‫ح‬ْ‫ل‬‫ا‬ ُ ‫ى‬ّ‫ّي‬ َ‫س‬คือ เป็นผู้ที่ความจาแย่28 หะดีษซึ่งผู้รายงานที่มีคุณสมบัติดังกล่าวนี้รายงานมาจะถือว่าเป็น “สายรายงานที่ ถูกต้อง”ดังคากล่าวของอิมามนะวะวีย์ ย่อมไม่ได้ แต่ตามหลักการแล้วต้องถือว่า เป็ นหะดีษ ที่สายรายงานค่อนข้างอ่อน หรืออย่างดีที่สุดก็อาจกล่าวได้เพียงว่า สายรายงานของมัน หะซัน (สวยงาม) เท่านั้น29 ส่วนข้อบกพร่องในด้านเนื้อหาก็คือ ข้อความของหะดีษนี้ที่ว่า “และท่าน (นะบีย์) ไม่ได้กระดิกมัน (นิ้วชี้)”ถือเป็ นข้อความที่ผิดเพี้ยน (‫اذ‬ َ‫)ش‬ ดังคากล่าวของนักวิชาการหลาย ท่าน เช่น อิบนุลก็อยยิม, อัล-อัลบานีย์, ชัยค์อะบูอุบัยดะฮ์ มัชฮูร บินหะซัน ฯลฯ30 วิเคราะห์ สาเหตุที่นักวิชาการกล่าวว่า ข้อความดังกล่าวของหะดีษนี้ผิดเพี้ยน ก็เพราะข้อความนี้มี รายงานมาเพียงกระแสเดียว คือ จากซิยาด บินซะอ์ด์ จากมุหัมมัดบินอัจญ์ลาน จากอามิร บินอับดุลลอฮ์ . . . ดังที่ได้ระบุมาแล้วข้างต้น ดังได้อธิบายมาแล้วว่า มุหัมมัด บินอัจญ์ลาน ถูกวิจารณ์ว่า ความจาแย่ จึงทาให้คา กล่าวในรายงานของท่านที่ว่า “และท่านนะบีย์ไม่ได้กระดิกนิ้วชี้”มีปัญหาเกิดขึ้น 2 ช่วง คือ ช่วงที่หนึ่ง การรายงานของซิยาด บินซะอฺด์ (และผู้รายงานท่านอื่น) มาจากมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน ช่วงที่สอง การรายงานของมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน(และผู้รายงานท่านอื่น) มาจากอามิร บินอับดุลลอฮ์ 28 “อัล-กาชิฟ” ของ อัษ-ษะฮะบีย์ เล่ม 3 หน้า 69 29 โปรดดู “ศิฟะตุ เศาะลาตินนะบีย์ฯ” หน้า 159 และ “ตะมามุ้ลมินนะฮ์” หน้า 217 30 โปรดดู “ซาดุลมะอาด” เล่ม 1 หน้า 81; “เฎาะอีฟ สุนัน นะซาอีย์” หน้า 44 และ “อัล-เกาลุลมุบีน ฟี อัคฏออิลมุศ็อลลีน” หน้า 163
  • 13. 13 คาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีดังต่อไปนี้ ช่วงที่ 1 ผู้รายงานหะดีษเรื่องการยกนิ้วชี้ขึ้นของเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ขณะ อ่านตะชะฮ์ฮุดมาจากมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน นอกจากซิยาด บินซะอฺด์ดังกล่าวมาแล้ว ยังมี ผู้รายงานท่านอื่นอีก 4 ท่านด้วยกัน คือ 1. อะบูคอลิด อัล-อะห์มัร31 2. ซุฟยาน บินอุยัยนะฮ์32 3. ยะห์ยา บินสะอีด อัล-ก็อฏฏอน33 4. อัล-ลัยษ์ บินซะอฺด์34 ผู้รายงานทั้ง 4 ท่านนี้ ล้วนได้รับความเชื่อถือเป็นอย่างสูงจากนักวิชาการหะดีษ ได้ รายงานลักษณะการวางนิ้วชี้ของท่านนะบีย์ขณะอ่านตะชะฮ์ฮุดมาจากมุหัมมัด บินอัจญ์ลานว่า ท่านนะบีย์ได้ “ยกนิ้วชี้ขึ้น”เหมือนรายงานของซิยาด บินซะอฺด์ ข้างต้น แต่ในรายงานของทั้ง 4 ท่านนี้ไม่ปรากฏมีข้อความว่า “และท่านนะบีย์ไม่ได้กระดิก นิ้วชี้”ดังปรากฏในรายงานของซิยาด ที่รายงานมาจากมุหัมมัด บินอัจญ์ลานเช่นเดียวกัน ปัญหาจึงมีอยู่ว่า ข้อความซึ่งมีลักษณะเป็น “ส่วนเกิน”ดังกล่าวนี้น่าจะเป็นผลงานของ ผู้ใด จะเป็นของซิยาด บินซะอฺด์ บินอับดุรเราะห์มาน อัล-คุรอซานีย์ หรือของมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน แต่ทว่า ซิยาด บินซะอฺด์ ก็เป็นผู้รายงานที่ความจาดีเยี่ยมและได้รับความเชื่อถือเป็น อย่างสูงจากบรรดานักวิชาการหะดีษพอๆ กับอีก 4 ท่านเหล่านั้น35 จึงเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะ กล่าวข้อความนี้ออกมาเอง ถ้าไม่เพราะท่านได้ยินมันจากปากของมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน เพราะฉะนั้นข้อความที่ว่า “และท่านนะบีย์ไม่ได้กระดิกนิ้วชี้ ”จึงถูกนักวิชาการมองว่า น่าจะเป็น“ส่วนเกิน”ที่มาจากมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน ผู้บกพร่องด้านความทรงจาดังกล่าว 31 บันทึกโดย มุสลิม หะดีษที่ 113/579; อัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 131 32 บันทึกโดย อัด-ดาริมีย์ หะดีษที่ 1338 33 บันทึกโดย อัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 1274; อัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 132 และอิบนุคุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 718 34 บันทึกโดย มุสลิม หะดีษที่ 113/579 และอัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 131 35 ดู “ตักรีบุตตะฮ์ซีบ” เล่ม 1 หน้า 268 หมายเลข 112 และ “อัล-กาชิฟ” เล่ม 1 หน้า 259 หมายเลข 1707
  • 14. 14 ช่วงที่ 2 คือรายงานของมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน จากอามิร บินอับดุลลอฮ์ นอกจากมุหัมมัด บินอัจญ์ลานแล้ว ปรากฏว่า มีผู้อื่นที่รายงานหะดีษเรื่องท่านนะบีย์ยก นิ้วชี้ขึ้นในขณะอ่านตะชะฮ์ฮุดมาจากอามิร บินอับดุลลอฮ์ อีก 2 ท่านด้วยกันคือ 1. ท่านอุษมาน บินหะกีม36 2. ท่านมัครอมะฮ์ บินบุกัยร์37 อุษมาน บินหะกีม เป็นผู้รายงานหะดีษที่ได้รับความเชื่อถือจากนักวิชาการมากกว่า มุหัมมัด บินอัจญ์ลาน ส่วนมัครอมะฮ์ บินบุกัยร์ แม้จะมีความบกพร่องบ้างเล็กน้อยก็ได้ รายงานหะดีษนี้มาสอดคล้องกับอุษมาน บินหะกีม ทั้งอุษมานและมัครอมะฮ์ได้รายงานเรื่องท่านนะบีย์ยกนิ้วชี้ในขณะอ่านตะชะฮ์ฮุดมา จากอามิร บินอับดุลลอฮ์ เหมือนมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน แต่ในรายงานของท่านทั้งสอง ไม่ปรากฏมีข้อความว่า “ท่านนะบีย์ไม่ได้กระดิก นิ้วชี้”เหมือนที่มีในรายงานของมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน ข้อความดังกล่าวนี้จึงเป็นข้อความที่มุหัมมัด บินอัจญ์ลาน ซึ่งเป็นผู้รายงานที่ได้รับ ความเชื่อถือน้อยกว่า ได้รายงานให้ “เกินเลย”จากรายงานของอุษมาน บินหะกีม และมัครอ มะฮ์ บินบุกัยร์ ซึ่งเป็นผู้รายงานที่ได้รับความเชื่อถือมากกว่า ข้อความตอนใดของหะดีษซึ่งผู้รายงานที่ได้รับความเชื่อถือน้อยกว่า ได้รายงาน ให้ “เพิ่มเติม”จากรายงานของผู้ที่ได้รับความเชื่อถือมากกว่า ข้อความที่เพิ่มเติมนั้นจะถูก เรียกตามหลักวิชาการหะดีษว่าเป็น ٌ‫ة‬َّ‫ذ‬‫ا‬ َ‫ش‬ ٌ‫ة‬َ‫د‬ َ‫َي‬‫ى‬‫ز‬ คือการเพิ่มเติมที่ผิดเพี้ยนซึ่งจะต้องถูกปัดทิ้ง ไปเพราะถือเป็นข้อความที่เฎาะอีฟ โดยนัยนี้ การรายงานเพิ่มเติมของมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน ที่ว่า ท่านนะบีย์ไม่ได้กระดิก นิ้ว จึงถือเป็นรายงานที่เฎาะอีฟ เพราะเป็นٌ‫ة‬َّ‫ذ‬‫ا‬ َ‫ش‬ ٌ‫ة‬َ‫د‬ َ‫َي‬‫ى‬‫ز‬ ตามหลักวิชาการหะดีษ 36 บันทึกโดย มุสลิม หะดีษที่ 112/579; อะบูดาวูด หะดีษที่ 988; อัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 130 และอิบนุ คุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 696 37 บันทึกโดย อัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 1160 และอัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 132
  • 15. 15 รายงานที่สาม เรื่องยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วมีระบุชัดเจนว่า มีการกระดิกนิ้วชี้ด้วย ก่อนอื่น ผู้เขียนขอเรียนให้ทราบว่า หะดีษที่รายงานว่าท่านนะบีย์ยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วกระดิก นิ้วชี้ด้วยนี้ ถือเป็นหะดีษที่รายงานเกี่ยวกับเรื่องลักษณะการนั่งตะชะฮ์ฮุด ลักษณะการวางมือ และลักษณะนิ้วของท่านนะบีย์ขณะนั่งตะชะฮ์ฮุดไว้อย่างละเอียดที่สุดยิ่งกว่าทุกกระแสที่มี บันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่สาคัญอย่างยิ่งก็คือ ไม่ปรากฏว่ามีนักวิชาการท่านใดตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ไม่ว่า อิมามนะวะวีย์, อัล-บัยฮะกีย์, อิบนุลก็อยยิม เป็นต้น จะปฏิเสธความถูกต้องของ “สาย รายงาน”หะดีษบทนี้แม้แต่ท่านเดียว ไม่ว่าเขาจะยอมปฏิบัติตาม “เนื้อหา”ของหะดีษนี้ คือ การกระดิกนิ้วชี้ขณะอ่านตะชะฮ์ฮุดหรือไม่ก็ตาม แม้แต่อาจารย์มุรีดเองก็ยอมรับว่า หะดีษบทนี้เป็นหะดีษที่ถูกต้อง38 ผู้เขียนจึงสงสัยว่า เมื่ออาจารย์มุรีดเองก็ยอมรับว่าหะดีษเรื่องการกระดิกนิ้วชี้ขณะอ่าน ตะชะฮ์ฮุดเป็นหะดีษถูกต้อง แล้วท่านจะเอาหะดีษบทนี้ไปวางไว้ตรงไหน ให้นามาปฏิบัติได้ ในกรณีใด และจะหาทางออกจากความขัดแย้งกับหะดีษที่ (ท่านเข้าใจ) ว่า ท่านนะบีย์ไม่ได้ กระดิกนิ้วชี้ ตามหลักวิชาการอย่างไร สายรายงานของหะดีษบทนี้ มีดังต่อไปนี้ 1.มุอาวิยะฮ์ บินอัมร์ รายงานจากซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ จากอาศิม บินกุลัยบ์ จาก บิดาของท่านคือ กุลัยบ์ บินชิฮาบ จากวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ.39 2. อับดุลลอฮ์ บินมุบาร็อก รายงานจากซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ จากอาศิม บินกุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จากวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ.40 3.อับดุศเศาะมัด บินอับดุลวาริษ ได้รายงานจากซาอิดะฮ์บินกุดามะฮ์ จากอาศิม บิน กุลัยบ์ จากบิดาของท่าน จากวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ.41 เมื่อพิจารณาดูแล้วจะเห็นได้ว่า มุอาวิยะฮ์ บินอัมร์ อับดุลลอฮ์ บินมุบาร็อก และอับดุศ เศาะมัด บินอับดุลวาริษ ต่างก็รายงานหะดีษนี้มาจากแหล่งเดียวกันคือ จากซาอิดะฮ์ บินกุดา มะฮ์แล้วสืบสายรายงานต่อไปจนถึงวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ. 38 มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545), หน้า 29. 39 บันทึกโดย อัด-ดาริมีย์ หะดีษที่ 1357; อัล-บัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 132; อิบนุคุซัยมะฮ์ หะดีษที่ 714 และอิบ นุหิบบาน หะดีษที่ 1860 40 บันทึกโดย อัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 888, 1267 41 บันทึกโดย อะห์มัด ใน “อัล-มุสนัด” เล่ม 4 หน้า 318
  • 16. 16 สายรายงานข้างต้นนี้ทั้งหมด เป็นสายรายงานที่ถูกต้องโดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ และ ข้อความที่รายงานมามีดังต่อไปนี้42 วาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ. กล่าวว่า ْ ‫ى‬ّ‫ل‬ َ‫ص‬ُ‫ي‬ َ‫ف‬ْ‫ي‬َ‫ك‬ ََّ‫ّل‬ َ‫س‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ل‬َ‫ع‬ ُ‫هللا‬ َّ‫ل‬ َ‫ص‬ ‫ى‬‫هللا‬ ‫ى‬‫ل‬ْ‫و‬ ُ‫س‬َ‫ر‬ َ‫َل‬ ِ ‫ا‬ َّ‫ن‬ َ‫ر‬ ُ‫ْظ‬‫ن‬َ َ‫أل‬َ‫م‬‫ا‬َ‫ق‬َ‫ف‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ل‬ ِ ‫ا‬ ُ‫ت‬ ْ‫ر‬َ‫ظ‬َ‫ن‬َ‫ف‬َ‫ع‬َ‫ف‬ َ‫ر‬ َ‫و‬ ََّ‫َب‬َ‫ك‬َ‫ف‬ ،‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ن‬ُ‫ذ‬ُ‫أ‬‫ى‬‫ب‬ َ‫َت‬َ‫ذ‬‫ا‬َ‫ح‬ َّ‫ىت‬َ‫ح‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫د‬َ‫ي‬،‫ى‬‫د‬‫ى‬‫ع‬‫ا‬ َّ‫الس‬َ‫و‬ ‫ى‬‫غ‬ ْ‫س‬ُّ‫الر‬َ‫و‬ ‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬ّ‫ف‬َ‫ك‬ َ‫ل‬َ‫ع‬ َ‫َن‬ْ‫م‬ُ‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ُ‫ه‬َ‫د‬َ‫ي‬ َ‫ع‬َ‫ض‬َ‫و‬ َّ ُ‫ُث‬‫ا‬َّ‫م‬َ‫ل‬َ‫ف‬ ،‫َا‬‫ه‬َ‫ل‬ْ‫ث‬‫ى‬‫م‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫د‬َ‫ي‬ َ‫ع‬َ‫ف‬َ‫ر‬ َ‫ع‬َ‫ك‬ْ‫ر‬َ‫ي‬ ْ‫ن‬َ‫أ‬ َ‫د‬‫ا‬َ‫ر‬َ‫أ‬َّ‫م‬َ‫ل‬ َّ ُ‫ُث‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬‫ى‬‫ت‬َ‫ب‬ْ‫ك‬ُ‫ر‬ َ‫ل‬َ‫ع‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫د‬َ‫ي‬ َ‫ع‬َ‫ض‬ َ‫و‬ َ‫و‬ : َ‫ال‬َ‫ق‬‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫د‬َ‫ي‬ َ‫ع‬َ‫ف‬َ‫ر‬ ُ‫ه‬ َ‫س‬ْ‫أ‬َ‫ر‬ َ‫ع‬َ‫ف‬َ‫ر‬ ‫ا‬ ،‫َا‬‫ه‬َ‫ل‬ْ‫ث‬‫ى‬‫م‬،‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َ‫ن‬ُ‫ذ‬ُ‫أ‬ ‫ى‬‫اء‬َ‫ذ‬‫ى‬ ‫ى‬‫ِب‬ ‫ى‬‫ه‬ْ‫ي‬َّ‫ف‬َ‫ك‬ َ‫ل‬َ‫ع‬َ‫ج‬َ‫ف‬ َ‫د‬َ َ‫َس‬ َّ ُ‫ُث‬ُ‫ه‬َّ‫ف‬َ‫ك‬ َ‫ع‬َ‫ض‬ َ‫و‬ َ‫و‬ ‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ َُ‫َل‬ْ‫ج‬‫ى‬‫ر‬ َ‫ش‬ ََ‫َت‬ْ‫ف‬‫ا‬ َ‫و‬ َ‫د‬َ‫ع‬َ‫ق‬ َّ ُ‫ُث‬ ،‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ت‬َ‫ب‬ْ‫ك‬ ُ‫ر‬ َ‫و‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ذ‬‫ى‬‫خ‬َ‫ف‬ َ‫ل‬َ‫ع‬ ‫ى‬َ ْ‫ُْس‬‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬‫ى‬‫ن‬َ‫م‬ْ‫ي‬َ‫أل‬ْ‫ا‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ق‬َ‫ف‬ْ‫ر‬‫ى‬‫م‬ َّ‫د‬َ‫ح‬ َ‫ل‬َ‫ع‬َ‫ج‬َ‫و‬، َ‫َن‬ْ‫م‬ُ‫ي‬ْ‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ذ‬‫ى‬‫خ‬َ‫ف‬ َ‫ل‬َ‫ع‬َّ ُ‫ُث‬ ،‫ى‬‫ه‬‫ى‬‫ع‬‫ى‬‫ب‬‫ا‬ َ‫ص‬َ‫أ‬ ْ‫ن‬‫ى‬‫م‬ ‫ى‬ ْ‫ْي‬َ‫ت‬َ‫ن‬ْ‫ث‬‫ا‬ َ‫ض‬َ‫ب‬َ‫ق‬،‫ة‬َ‫ق‬ْ‫ل‬َ‫ح‬ َ‫ق‬َّ‫ل‬َ‫ح‬َ‫و‬،ُ‫ه‬َ‫ع‬َ‫ب‬ ْ‫ص‬ ِ ‫ا‬ َ‫ع‬َ‫ف‬َ‫ر‬ َّ ُ‫ُث‬‫ا‬َ ‫ِبى‬ ْ‫و‬ُ‫ع‬ْ‫د‬َ‫ي‬ ‫َا‬‫ه‬ُ‫ك‬‫ى‬ّ‫ر‬َ ُ‫حي‬ ُ‫ه‬ُ‫ت‬ْ‫ي‬َ‫أ‬َ‫ر‬َ‫ف‬ “ขอยืนยันว่าฉันได้พิจารณาดูท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมว่าท่านจะ ละหมาดอย่างไร ฉันเห็นท่านยืนขึ้นแล้วกล่าวตักบีร โดยท่านจะยกมือทั้งสองขึ้นจนเสมอกับหู ทั้งสองของท่าน หลังจากนั้นท่านก็วางมือขวาทับบนมือซ้าย ข้อมือ และท่อนแขนซ้ายของ ท่าน เมื่อท่านต้องการจะรุกูอ์ ท่านก็ยกมือทั้งสองขึ้นในลักษณะเดิม (วาอิลกล่าวต่อไปว่า) และวางมือทั้งสองของท่านบนเข่าทั้งสองของท่าน ต่อมาเมื่อเงยศีรษะขึ้น (มายืนอิอ์ติดาล) ท่านก็ยกมือทั้งสองขึ้นในลักษณะเดิมอีก แล้วท่านก็สุญูด ซึ่งท่านจะวางฝ่ามือทั้งสองของท่าน ให้เสมอกับหูทั้งสองของท่าน ต่อมาท่านก็ (ลุกขึ้นมา) นั่ง โดยจะแบเท้าซ้ายออก (รองก้น คือ นั่งแบบ “อิฟติรอช”) และท่านจะวางฝ่ามือซ้ายลงบนขาและเข่าข้างซ้ายของท่าน และวาง ข้อศอกขวาลงบนขาข้างขวาของท่าน แล้วท่านก็กานิ้ วของท่านสองนิ้ ว (คือนิ้ วนางกับ นิ้วก้อย) และทาให้นิ้ว (หัวแม่มือกับนิ้วกลาง) จรดกันเป็ นวง ต่อมาท่านก็ยกนิ้ว (ชี้) ของ ท่านขึ้น แล้วฉันเห็นท่านกระดิกมันพร้อมกล่าววิงวอน (คือ อ่านตะชะฮ์ฮุด)” ดังได้กล่าวมาแล้วว่า สายรายงานหะดีษบทนี้เป็นสายรายงานที่ถูกต้อง แต่ประเด็นที่ จะต้องพิจารณาก็คือ ข้อความที่ว่า เห็นท่านนะบีย์กระดิกนิ้วชี้ ขณะอ่านตะชะฮ์ฮุด นี้เป็ น รายงานของซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ เพียงผู้เดียวโดยอ้างรายงานมาจากอาศิม บินกุลัยบ์ แล้ว สืบสายรายงานต่อไปจนถึงวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ. 42 ซึ่งสานวนในที่นี้เป็นสานวนจากการบันทึกของอัน-นะซาอีย์
  • 17. 17 ขณะเดียวกัน ผู้รายงานอื่นๆ อีก 7 ท่าน คือ ซุฟยาน อัษ-เษารีย์,ชุอ์บะฮ์ บินอัล- หัจญาจญ์,อับดุลญับบาร บินอะลาอ์, บิชร์ บินอัล-มุฟัฎฎ็อล,คอลิด บินอับดุลลอฮ์ อัล-วา สิฏีย์, ซุฮัยร์ บินมุอาวิยะฮ์ และอะบูอัล-อะห์วัศ อัล-หะนะฟีย์ ต่างก็รายงานหะดีษบทเดียวกัน นี้มาจากอาศิม บินกุลัยบ์ โดยไม่ปรากฏมีข้อความข้างต้นดังการรายงานของซาอิดะฮ์ บินกุดา มะฮ์แต่ประการใด43 เพราะฉะนั้น ข้อความที่ว่า ฉันเห็นท่านนะบีย์กระดิกนิ้วชี้ จึงเป็นข้อความที่ซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ เพียงผู้เดียวที่ได้รายงานมาจากอาศิม บินกุลัยบ์ ให้ เพิ่มเติมหรือ เป็น“ส่วนเกิน”มาจากการรายงานของผู้รายงานอื่นทั้ง 7 ท่านเหล่านั้น กรณีนี้จึงคล้ายๆ กับข้อความที่ว่า“ท่านนะบีย์ไม่ได้กระดิกนิ้วชี้”อันเป็นส่วนเกินจาก การรายงานของมุหัมมัด บินอัจญ์ลานที่ได้วิเคราะห์ผ่านมาแล้ว แทบจะไม่ต่างอะไรกันเลย แต่จุดแตกต่างระหว่าง “ส่วนเกิน”ของซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ กับ “ส่วนเกิน”ของ มุหัมมัด บินอัจญ์ลาน อยู่ที่ความ “น่าเชื่อถือ”ที่แตกต่างกันของทั้งสองท่านนี้ในทัศนะของ นักวิชาการหะดีษ ดังที่ผู้เขียนกาลังจะอธิบายรายละเอียดต่อไป สาหรับคุณสมบัติและความน่าเชื่อถือของมุหัมมัด บินอัจญ์ลาน ผู้เขียนก็ได้อธิบายผ่าน มาแล้ว จึงไม่ขออธิบายซ้าอีก ณ ที่นี้ ส่วนคุณสมบัติและความน่าเชื่อถือของซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์นั้น ผู้เขียนขอเรียนว่า ตามปกติผู้รายงานหะดีษมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้รายงานของบุคอรีย์และ มุสลิมเอง ก็มักจะมีความเห็นขัดแย้งของนักวิชาการอยู่เสมอว่าเป็นผู้ที่เชื่อถือได้หรือไม่ แต่ซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ เป็นหนึ่งจากผู้ที่ถูกยกเว้นในกรณีนี้ เพราะจนขณะนี้ผู้เขียนยัง ไม่เจอว่าจะมีนักวิชาการท่านใดกล่าวตาหนิหรือระบุความบกพร่องของซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ แม้แต่คนเดียว จึงอาจกล่าวได้ว่า ซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ เป็นผู้รายงานหะดีษจานวนน้อยที่นักวิชาการมี มติเป็นเอกฉันท์ ให้ความเชื่อถือท่าน และที่สาคัญมิใช่เป็นการเชื่อถือในระดับธรรมดา แต่เป็นความเชื่อถือในระดับสูงมาก อีกต่างหาก44 43 โปรดย้อนกลับไปดูข้อความจากรายงานของผู้รายงานทั้ง 7 ท่านนี้ได้จากหน้า 5-6 ที่ผ่านมาแล้ว 44 ซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ เสียชีวิตใน ฮ.ศ. 160 แต่อาจารย์มุรีด กล่าวว่า ซาอิดะฮ์ เสียชีวิต ฮ.ศ. 60 ซึ่งน่าจะเกิด จากความผิดพลาดในการเรียงพิมพ์; ดู มุรีด ทิมะเสน, ชี้หรือกระดิก, (กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2545), หน้า 17.
  • 18. 18 ในที่นี้ผู้เขียนจะขอยกตัวอย่างทัศนะของนักวิชาการบางท่านที่มีต่อซาอิดะฮ์ บินกุดา มะฮ์ ดังนี้ 1.อิบนุหะญัร อัล-อัสเกาะลานีย์ ได้กล่าวว่า ُ‫ن‬ْ‫ب‬ ُ‫ة‬َ‫د‬‫ى‬‫ئ‬‫ا‬َ‫ز‬، ‫ى‬‫ت‬ْ‫ل‬ َّ‫الص‬‫و‬ُ‫ب‬َ‫أ‬ ،ُّ‫ى‬‫ى‬‫ف‬َ‫ق‬َّ‫ث‬‫ال‬ َ‫ة‬َ‫م‬‫ا‬َ‫د‬َ‫ق‬،ُّ ‫ى‬‫ِف‬ْ‫و‬ُ‫ك‬ْ‫ال‬ٍ‫ة‬َّ‫ن‬ ُ‫س‬ ُ‫ب‬‫ى‬‫ح‬‫ا‬ َ‫ص‬ ، ٌ‫ت‬ْ‫ب‬َ‫ث‬ ٌ‫ة‬َ‫ق‬‫ى‬‫ث‬ “ซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ อัษ-ษะเกาะฟีย์ อะบุศศ็อลต์ เป็นชาวเมืองกูฟะฮ์ เชื่อถือได้ มี ความมั่นคงแน่นอนมาก (ในการรายงานหะดีษ) เป็นชาวซุนนะฮ์”45 2.อัษ-ษะฮะบีย์ ได้กล่าวว่า ٌ‫ة‬َّ‫ج‬ُ‫ح‬ ٌ‫ة‬َ‫ق‬‫ى‬‫ث‬ ... ،ُ‫ظ‬‫ى‬‫ف‬‫ا‬َ‫ح‬ْ‫ل‬َ‫ا‬ ،ُّ ‫ى‬‫ِف‬ْ‫و‬ُ‫ك‬ْ‫ل‬َ‫ا‬ ،ُّ‫ى‬‫ى‬‫ف‬َ‫ق‬َّ‫ث‬‫ل‬َ‫ا‬ ، ‫ى‬‫ت‬ْ‫ل‬ َّ‫الص‬‫و‬ُ‫ب‬َ‫أ‬ ،َ‫ة‬َ‫م‬‫ا‬َ‫د‬ُ‫ق‬ ُ‫ن‬ْ‫ب‬ ُ‫ة‬َ‫د‬‫ى‬‫ئ‬‫ا‬َ‫ز‬ “ซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ อะบุศศ็อลต์ อัษ-ษะเกาะฟี ย์ เป็นชาวเมืองกูฟะฮ์ เป็นผู้ที่มี ความจาดีเยี่ยม เชื่อถือได้ เป็นหลักประกันได้เรื่องหะดีษ”46 3.อิบนุหิบบาน ได้กล่าวว่า ،َ ْ‫ْي‬‫ى‬‫ن‬‫ى‬‫ق‬ْ‫ت‬ُ‫م‬ْ‫ل‬‫ا‬ ‫ى‬‫اظ‬َّ‫ف‬ُ‫ح‬ْ‫ل‬‫ا‬ َ‫ن‬‫ى‬‫م‬ َ‫ن‬َ‫َك‬، ٍ‫ات‬َّ‫ر‬َ‫م‬ َ‫ث‬َ‫ال‬َ‫ث‬ ُ‫ه‬َ‫ع‬َ‫م‬ ْ‫َس‬‫ي‬ َّ‫ىت‬َ‫ح‬ َ‫ع‬‫ا‬َ‫م‬ َّ‫الس‬ ُّ‫د‬ُ‫ع‬َ‫ي‬ َ‫ال‬ َ‫ن‬ َ‫َك‬َ‫و‬ُ‫ث‬‫ى‬ّ‫د‬َ ُ‫حي‬ َ‫ال‬ َ‫ن‬ َ‫َك‬َ‫و‬ ‫ى‬‫ة‬َّ‫ن‬ ُّ‫الس‬ ‫ى‬‫ْل‬‫ه‬َ‫أ‬ ْ‫ن‬‫ى‬‫م‬ ُ‫ه‬َّ‫ن‬َ‫أ‬ ٌ‫ل‬ْ‫د‬َ‫ع‬ ُ‫ه‬ْ‫ن‬َ‫ع‬ َ‫َد‬‫ه‬ ْ‫َش‬‫ي‬ َّ‫ىت‬َ‫ح‬ ‫ا‬‫د‬َ‫ح‬َ‫أ‬ “ซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ เป็นหนึ่งจากผู้ที่มีความจาดีเยี่ยมและละเอียดประณีต (ในเรื่อง หะดีษ) มาก ท่านจะไม่ถือว่าได้ยิน (หะดีษจากผู้ใด) จนกว่าท่านจะได้ฟังมันถึงสามครั้ง และ ท่านจะไม่ยอมพูดเรื่องหะดีษกับผู้ใดจนกว่าจะมีผู้มีคุณธรรมมายืนยันกับท่านว่า บุคคลผู้นั้น เป็นชาวซุนนะฮ์”47 4.อัด-ดารุกุฏนีย์ได้กล่าวว่า ‫ى‬‫ة‬َّ‫م‬‫ى‬‫ئ‬َ‫أل‬ْ‫ا‬ ‫ى‬‫ات‬َ‫ب‬ْ‫ث‬َ‫أل‬ْ‫ا‬ َ‫ن‬‫ى‬‫م‬ “เขาเป็นหนึ่งจากผู้ที่แน่นมากในเรื่องหะดีษ เป็นผู้นา (ในเรื่องหะดีษ)”48 สรุปแล้ว ซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ จึงเป็นผู้รายงานที่ได้รับความเชื่อถือเป็นอย่างสูงจาก บรรดานักวิชาการหะดีษ 45 “ตักรีบุตตะฮ์ซีบ” เล่ม 1 หน้า 256 46 “อัล-กาชิฟ” เล่ม 1 หน้า 246 47 “อัษ-ษิกอต” เล่ม 6 หน้า 340 48 “ตะฮ์ซีบ อัต-ตะฮ์ซีบ” เล่ม 3 หน้า 265
  • 19. 19 กฎเกณฑ์ของวิชามุศเฏาะละฮ์หะดีษระบุว่า ข้อความจากการรายงาน“เพิ่มเติม”ของผู้ ที่เชื่อถือได้นั้นจะเป็นที่ยอมรับ ตามกฎเกณฑ์ที่ว่า ٌ َ‫ل‬ْ‫و‬ُ‫ب‬ْ‫ق‬َ‫م‬ ‫ى‬‫ة‬َ‫ق‬‫ى‬ّ‫ث‬‫ال‬ ُ‫ة‬َ‫د‬ َ‫َي‬‫ى‬‫ز‬ “การรายงานเพิ่มเติมของผู้ที่เชื่อถือได้นั้น จะต้องยอมรับ”49 ดังนั้นการรายงานเพิ่มเติมของซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ จากคาพูดของวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ. ด้วยข้อความที่ว่า แล้วฉันก็เห็นท่านกระดิกนิ้วชี้ จึงถือเป็นข้อความที่ถูกต้องและเป็นที่ ยอมรับตามหลักวิชาการหะดีษ เพราะฉะนั้น จึงสรุปได้ว่า การกระดิกนิ้วชี้ขณะอ่านตะชะฮ์ฮุด ถือเป็นซุนนะฮ์ของท่าน นะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อาจจะมีข้อสงสัยว่า การกระดิกนิ้วชี้ในการอ่านตะชะฮ์ฮุดดังกล่าวนั้น กาหนดให้กระดิก ได้เมื่อใด ผู้เขียนก็ขอเรียนชี้แจงว่า เมื่อพิจารณาดูสานวนหะดีษจากคาพูดของวาอิล บินหุจญ์ริน ร.ฎ. จะเห็นได้ว่า วาอิลได้รายงานลักษณะการละหมาดของท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะซัลลัม โดยจะเน้นเป็นพิเศษในเรื่องตาแหน่งของมือในแต่ละอิริยาบถของท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เมื่อรายงานมาถึงตอนนั่งอ่านตะชะฮ์ฮุด วาอิลก็ได้รายงานลักษณะมือของท่านนะบีย์ อย่างต่อเนื่องว่า ท่านได้กานิ้วสองนิ้ว อีกสองนิ้วจรดกันเป็นวงกลม แล้วก็ยกนิ้วชี้ขึ้น แล้วก็ กระดิกมัน แสดงว่า ตามรูปการณ์แล้ว ให้กระดิกนิ้วชี้ได้ตั้งแต่เริ่มต้นอ่านตะชะฮ์ฮุดเป็ นต้นไป จนจบหรือสิ้นสุดการอ่านตะชะฮ์ฮุดนั้น ส่วนข้อความตอนท้ายของหะดีษที่ว่า‫ا‬َ ‫ِبى‬ ْ‫و‬ُ‫ع‬ْ‫د‬َ‫ي‬ ซึ่งตามปกติจะหมายความว่า ท่านกล่าว วิงวอนด้วยนิ้วชี้นั้น 49 กฎเกณฑ์นี้เป็นสิ่งที่มีระบุไว้ในหนังสือมุศเฏาะละฮ์หะดีษแทบทุกเล่ม เช่น “อุลูมุลหะดีษ” ของ อิบนุศเศาะ ละฮ์ หน้า 77; “กอวาอิดุตตะฮ์ดีษ” ของ อัล-กอซิมีย์ หน้า 107; “อัล-บาอิษ อัล-หะษีษ” ของ อะห์มัด มุหัมมัด ชากิร หน้า 61; “ตัยซีร มุศเฏาะลาฮ์ อัล-หะดีษ” ของ ดร.มะห์มูด อัฏ-เฏาะฮ์ฮาน หน้า 136 ฯลฯ