9. 8. Rollout เป็นหน้าต่างรายละเอียดย่อยของ Command Panels และ Object Categories
9. Active viewport เป็นพื้นที่ทางานและแสดงผลงานปกติจะประกอบด้วยสี่มุมมองคือ Top, Left,
10. Time Slider เป็นแถบที่สัมพันธ์กับ Animation
11. Track Bar เป็นแถบที่สัมพันธ์กับ Animation และ Animation Keying Control
12. MaxScript Mini-Listenner เกี่ยวกับการ Run script ต่างๆซึ่งสามารถใช้ในการคานวณต่างๆได้
8
10. 13. Prompt Line and Status Bar บอกสถานะ การจัดการกับวัตถุ
14. Absolute/Relative Coordinate Toggle Coordinate Display/Transform Type-In บอกและควบคุมตาแหน่ง
พิกัดของวัตถุในแนวแกน X Y Z
15. Animation Keying Control ใช้ในการกาหนด Animation
16. Animation Playback Control ใช้ในการควบคุม Animation
17. Viewport Navigation Control ใช้ในการควมคุม Viewport เช่น การ Zoom ลักษณะต่างๆ Pan View, Arc Rotate
Select, Maximize View port Toggle
9
11. 2
การควบคุม Viewport
View Port Navigation Controls
กลุ่มเครื่องมือหรือคาสั่งที่ใช้ในการควบคุม การทางานของ View port จะอยู่ในบริเวณด้านล่าง
ขวาของหน้าจอ
ตารางแสดงปุ่ม Keyboard ที่ใช้ในการเปลี่ยน View port
Top = T Bottom = B Front =F Back = V
Left = L Right = V Perspective = P Camera = C
Spotlight = Shift + 4 ($) User = U
View port Configurations ทาได้ 3 วิธีดังนี้
1. ใช้คาสั่ง View port Configuration… ในเมนู Customize เพื่อเรียกใช้ View port Configuration
Dialog Box
2. คลิกเมาส์ขวาที่ชื่อ View port ด้านซ้ายบนของแต่ละช่อง View port จะปรากฏ Short Cut
Menus ขึ้นมาให้เลือก เลือก Configure… ถ้าต้องการปรับค่าด้วย View port Configuration
Dialog Box
3. คลิกเมาส์ขวาที่ปุ่มใน View port Navigation Controls (มุมล่าง –ขวาของหน้าจอ)
10
12. Active viewport เป็นพื้นที่ทางานและแสดงผลงานปกติจะประกอบด้วยสี่มุมมองคือ Top, Left, Front,
Perspective ซึ่งหากเราทางานมุมมองไหนหน้าจอจะปรากฏเป็นกรอบพื้นที่สีเหลืองขึ้นมาและเราสามารถสลับ
การทางานเป็นจอใหญ่สาหรับมุมมองนั้นๆด้วยคาสั่ง Maximize View port Toggle
เราสามารถปรับ View port การทางานได้หลายวิธีเช่น กดอักษรตัวย่อ เช่น T View port ก็จะเปลี่ยนเป็น
Topหรือคลิกขวาบริเวณมุมขวาบนตรงตัวอักษรที่แสดงสถานะของView portก็จะมีหน้าต่างปรากฏให้เราเลือด
View port ต่างๆ
11
13. Lay Out Panel
ใช้กาหนด Layout ของ View port ที่ใช้แสดงบนใน Window โดยสามารถเลือก View ports
แบบต่างๆ ได้ตามต้องการ และยังสามารถปรับเปลี่ยน View port ให้เป็นลักษณะต่างๆได้โดยหรือคลิก
ขวาบริเวณมุมขวาบนตรงตัวอักษรที่แสดงสถานะของView portแล้วเลือก Configure…> Layout
12
14. 3
การจัดการกับวัตถุ Transforms
Home Grid
คือตาราง Grid สีเทาที่เห็นใน View port ใช้สาหรับเป็นระนาบ (Construction Plane) ในการ
สร้าง Object
Gizmos
Gizmos เป็นสัญลักษณ์เพื่อช่วยในการทางานใน view port เช่น Transform Gizmos ทาหน้าที่ใน
การแสดงแกน 3 มิติและใช้ทาการ Transform Objects
Pivot Point
ทุก Objects ใน Scene จะมี Pivot Point สาหรับกาหนดจุดศูนย์กลางและทิศทางของ Object
การ Select Objects
Select Object Tool (Q)
Select By Name
ใน Dialog Box นี้มีตัวเลือกชนิดและลาดับของ Object ที่ต้องการแสดงรายชื่อใน List Window
13
15. Select and Transform Tools บน Main Toolbar
Transforms
การปรับค่า Position, Rotation และ Scale เรียกว่าการ Transforms ซึ่งประกอบด้วย 3 แกนคือ
XYZ และ RGB
Max ใช้สีแดงแสดงแกน X และใช้สีเขียวแสดงแกน Y ส่วนแกน Z ใช้สีน้าเงิน ซึ่งจะแสดงให้
เห็นใน View port และใน Track View
การ Move Objects
วิธีการ Move Object ให้ใช้ Select and Move (W) คลิกที่ Objects แล้วใช้เมาส์คลิกลาก
ไปในแนวแกนที่ต้องการของ Gizmos เพียงแกนเดียว
การ Rotate Objects
Rotate Gizmos
การ Rotate Objects เมื่อเลือก Select and rotate (E) บน Main Toolbar แล้ว ให้คลิก
Select Object แล้วคลิกลากเมาส์ใน Axis Handles ที่ต้องการโดยลากเมาส์เป็นแนวเส้นตรง
การ Scale Objects
Select and Scale (R) บน Main Toolbar ประกอบด้วย Tools ที่อยู่ใน Flyout 3 ชนิดคือ
- Select and Uniform Scale เป็นการย่อ-ขยาย ขนาดตามสัดส่วนเท่ากันทั้งหมดทั้ง 3 แกน
- Select and Non-uniform Scale คือการย่อ-ขยายเฉพาะด้านหรือแกนที่ต้องการหนึ่งหรือ
สองด้าน
- Select and Squash เป็นการย่อ-ขยายขนาดของด้านหนึ่งด้านใดแล้วทาให้ด้านที่เหลือ
เกิดการ ย่อ-ขยายขนาดผกผันหรือกลับกัน
14
18. Groups
การกาหนด Group หรือจัดกลุ่ม Object เข้าด้วยกันจะช่วยให้สะดวกในการ Select หรือทาการ
Transform
คาสั่งที่ใช้จัดการ Group อยู่ในเมนู Group ประกอบด้วยคาสั่ง ดังนี้
- Group เป็นคาสั่งในการสร้าง Group ซึ่งปรากฏ Bounding Box ล้อมรอบ Object ทั้งหมดใน Group
- การใช้งานให้ Select Object ที่ต้องการแล้วใช้คาสั่งเมนู Group > Group จากนั้นตั้งชื่อ Group
- Un Group ใช้สาหรับยกเลิก Group เพียงระดับเดียว ถ้าหากเป็น Group ซ้อน Group ให้ใช้คาสั่ง
Explode
- การใช้งานให้ Select Group แล้วเลือกคาสั่ง Group > Un Group
- Open คาสั่งนี้ทาให้ Select และ Transform Object แต่ละตัวใน Group ได้อย่างอิสระ
- การใช้งานให้ Select Group แล้วเลือกคาสั่ง Group > Open ซึ่งจะปรากฏ Bounding Box สี
ชมพู เมื่อ Open Group แล้วจะสามารถเลือก Selected หรือทาการ Transform Object ใน
Group ได้
- Close เป็นคาสั่งยกเลิกคาสัง Open Group
่
17
19. - การใช้งานให้ Select Open Group แล้วเลือกคาสั่ง Group > Close
- Attach เป็นคาสั่งเพิ่ม Select Object เข้าไปใน Select Object
- การใช้งานให้ Select Object ที่ต้องการ แล้วใช้คาสั่ง Group > Attach แล้วคลิกที่ Group
- Detach เป็นคาสั่งลบ Select Objects ใน Open Group ออกจาก Group
- การใช้งานให้ Select Object ใน Open Group แล้วใช้คาสัง Group > Detach
่
- Explode เป็นคาสั่งยกเลิก Groupไม่ว่าจะมี Group Object ซ้อนกันอยู่กี่ชั้น Objects ทุกตัวจะเป็นอิสระ
ทั้งหมด
- การใช้งานให้ Select Group แล้วเลือกคาสั่ง Group > Explode
Hide / Freeze Object
การซ่อน Hide และ Freeze Object (Frozen Object) ใน View port สามารถเลือกกาหนดได้
หลายทางทั้งจากการเรียกใช้ Display Floater (เมนู Tools > Display Floater…) หรือ Display Panel ใน
Command Panels หรือจากตัว Object Properties เอง (เมนู Edit > Object Properties…)
การสั่ง Hide เป็นการซ่อนหรือไม่แสดง Objects นั้นๆ ใน View port ส่วนการ Freeze เป็นการ
กาหนดให้ Objects อยู่ในสถานะที่แก้ไขไม่ได้ ไม่ว่าจะในกรณีใดๆ ซึ่ง object ที่ถูก Freeze จะแสดงด้วย
สีเทาเข้ม
18
23. 5
การตั้งค่าก่อนการทางาน
การตั้งค่าที่สาคัญก่อนการทางาน Undo Redo, Auto Backup, Mouse Control, Unit Setup
Scene Undo > Customize > Preferences > General > Scene Undo
ค่าปกติอยู่ที่ 20 ซึ่งสามารปรับแก้ได้เช่น 200 ตัวเลขยิ่งมากก็สามารถ Undo Redoได้มากแต่ก็ทาให้
ความสามารถในการทางานของเครื่องช้าลง
Auto Backup > Customize > Preferences >Files>Auto Backup
22
24. ค่าปกติจะอยู่ที่ 3 ไฟล์และจะเซฟให้ทุกๆ 15 นาที่ซึ่งสามารถปรับตั้งค่าได้ เราสามารถเรียกใช้ไฟล์
Auto Backup ได้ที่ My Documents > 3dsmax > autoback > ***.max
Mouse Control > Customize > Preferences >Viewports> Mouse Control
ปรับการควมคุมเมาส์ในการ Zoomให้เหมือนกับใน AutoCad
23
25. Unit Setup > Customize > Unit Setup
อันนี้สาคัญเป็นการกาหนดให้ค่าการแสดงผลและการคานวณ
Display Unit Setup เป็นการกาหนดหน่วยในการทางานบนหน้าจอ จะกาหนดเป็น Meters
System Unit Scale เป็นการกาหนดหน่วยในการประมวลผล จะกาหนดเป็น Inches
24
60. 7
กล้อง Camera, แสง Lighting, พื้นผิว Material
Cameras หรือกล้องในโลก 3 มิติเป็นการจาลองการทางานของกล้องจริง เพื่อใช้จับภาพใน
มุมมองที่ต้องการ หลักการทางานของมันจึงเป็นการจาลองหลักในการถ่ายภาพมาด้วย ถึงแม้ว่ากล้องใน
โลกสามมิติจะให้ความแตกต่างในแง่การใช้งานที่สามารถกาหนดตาแหน่งของมันไว้ที่ใดก็ได้ใน Scene
ซึ่งจะทาให้ได้มุมมองที่แปลกออกไป
Cameras หรือกล้องใน Max วัดขนาดของเลนส์เป็นมิลลิเมตร ประกอบด้วย Lens หลายชนิดให้
เลือก โดย Lens ขนาด 50 มม.จะให้ Perspective เช่นเดียวกับสายตามนุษย์เรา ถาขนาด Lens ต่ากว่า 50
มม. จะได้ Lens Wide ซึ่งมีองศาของมุมมองกว้างภาพที่ได้จะผิดเพี้ยนไปจาก Perspective ที่เพิ่มขึ้น ถ้า
ขนาด Lens ยาวกว่า 50 มม. ขึ้นไปจะได้ Lens Telephoto ซึ่ง FOV แคบกว่าทาให้ zoom เข้าใกล้ Object
ได้มาก
Camera Correction Modifier
Camera Correction Modifier ใช้เปลี่ยน Camera แบบ Three-Point Perspective ของ Max
ให้กลายเป็น Two-Point Perspective ซึ่งนิยมใช้ในการออกแบบสถาปัตยกรรม ทั้งนี้เนื่องจาก Three-
Perspective จะทาให้เส้นในแนวตั้งเอียงเข้าหากันในส่วนบนโดยเฉพาะเมื่อใช้ Camera ในมุมต่ามองจาก
ล่างขึ้นบน แต่ในงานออกแบบสถาปัตยกรรมที่ใช้แบบ Two-Point Perspective เส้นในแนวตั้งที่ว่านี้จะ
ยังคงขนานกันตลอดความสูงการเรียกใช้งาน Camera Correction Modifier ให้ Select Camera แล้วคลิก
เมาส์ขวาเลือก Apply Camera Correction Modifier จาก Quad Menus
2 Point perspective Correction Rollout
- Amount กาหนดค่าการปรับ เพื่อเปลี่ยนเป็น Two-Point Perspective
- Direction กาหนดค่าการเอียง ค่าปกติเท่ากับ 90 ถ้าค่ามากกว่า 90 ภาพจะเอียงไปด้านซ้าย ถ้าน้อยกว่า
90 จะเอียงไปด้านขวา
- Guess คลิกที่ปุ่มนี้ เพื่อให้ Modifier ปรับค่า Amount ให้อัตโนมัติ
การสร้าง Target Camera
Target Camera คือการสร้างมุมกล้อง โดยการเล็งเป้าหมาย (Target) ซึ่งถือว่าเป็นมุมกล้อง
ที่สร้างง่าย
ขั้นตอนการสร้าง Target Camera
1. เปิดไฟล์ชิ้นงานที่สร้างขึ้นมา
59
61. 2. คลิกปุ่ม Camera จาก Crate Panel
3. คลิกปุ่ม Target จาก Object Type Rollout
4. ใน Top Viewport คลิกเมาส์ค้าง (ตาแหน่งของ Camera) แล้วขยับเคอร์เซอร์ไปยังตาแหน่ง
ที่ต้องการ การกาหนดให้เป็น Target ของ Camera
5. แล้วกด C ที่คีย์บอร์ด เพื่อกาหนดมุมมอง Camera
6. เปลี่ยนตาแหน่งของ Camera โดยการเคลื่อนย้ายหรือหมุนด้วยเครื่องมือการควบคุมกล้อง
60
62. 7. กาหนดขนาด Lens ในส่วนของ Parameters Rollout
8. เมื่อเพิ่มขนาด Lens มุมมองชิ้นงานจะใกล้มากขึ้นการกาหนดมุมกล้องโดยทั่วไปจะวาง
ตาแหน่งจาก Top View แล้วค่อยปรับแก้มุมมองจากมุมกล้องอีกที
Cameras View port Controls
การปรับแต่งมุมกล้องของ Camera มี Tools ให้เลือกใช้ใน View Port Controls
- Dolly Camera/ Dolly Target/ Dolly Camera + Target ใช้เลื่อน Camera, Target
หรือทั้งสองอย่างเข้าหรือออกตามแนวของ Target หรือแกน Z ของกล้อง
- Perspective ใช้ปรับมุม Perspective ของกล้องโดยการ Dolly และเปลี่ยนค่า FOV
- Roll Camera หมุน Camera รอบแกน Z ของมันเอง
- Zoom extended all/ Zoom Extended All Selected ใช้ Zoom Object ทั้งหมดเข้ามาใน
View port
61
63. - Filed of View ใช้ปรับมุมของกล้องคล้ายกับการเปลี่ยนขนาดเลนส์และการ Zoom โดยที่ตัว
กล้องไม่เคลื่อนที่
- Track Camera ใช้เลื่อนหรือ Move Camera และ Target ในแนวขนานกัน
- Orbit Light/ Pan Camera สาหรับ Orbit ใช้หมุน Camera รอบ Target ของมัน ส่วน Pan
Camera ใช้หมุน Camera Target โดยตัวกล้องอยู่กับที่
- Min/Max Toggle สลับ View Port แบบเต็มหน้าจอหรือสลับกัน
62
67. 5. กาหนดตาแหน่งของแสงสว่างใน Top View และปรับความสูงใน Front View โดยคลิกเมาส์ค้างแล้วขยับ
เมาส์เพื่อกาหนดทิศทางและขนาด
6. คลิกเครื่องหมายถูกให้ปรากฏหน้า On ในส่วนของ Shadows และปรับค่าตามภาพ
66
68. 7. คลิกปุ่ม Quick Render จะได้ชนงานออกมา
ิ้
การสร้าง Omni Light
Omni Light คือการสร้างแสงให้กระจายทั่วทุกทิศทางบนตาแหน่งที่กาหนด การใช้งานง่ายและสะดวก
ขั้นตอนการสร้าง Free Direct
1. เปิดไฟล์ชิ้นงานที่สร้างขึ้นมา
2. คลิกปุ่ม Lights จาก Crate Panel
67
69. 3. คลิกปุ่ม Omni Light ในส่วนของ Object Type Rollout จะมี Omni Light Parameters ปรากฏขึ้น
4. กาหนดตาแหน่งของแสงสว่างใน Top View และปรับความสูงใน Front View โดยคลิกเมาส์ค้างแล้วขยับ
เมาส์เพื่อกาหนดทิศทางและขนาด
68
70. 5. คลิกเครื่องหมายถูกให้ปรากฏหน้า On ในส่วนของ Shadows จะสังเกตเห็นว่าแสงที่ประทบชิ้นงานสว่าง
มากขึ้น
6. คลิกปุ่ม Quick Render จะได้ชนงานออกมา
ิ้
การเปิดแสง (Light)
1. คลิกแหล่งกาเนิดแสงที่ต้องการปิด
2. คลิกปุ่ม Modify Panel
3. คลิกเครื่องหมายถูกหน้า On ในส่วน General Parameters Rollout
4. เลือกลักษณะของเงาจากการกดปุมสามเหลี่ยมด้านหลัง Area Shadow ค้างไว้แล้วเลือกชนิดของเงา
่
69