1. ขั ้ น ตอนในการพั ฒ นา Software
วิธีการในการพัฒนา Software จะมีรูปแบบ (Model) ในการพัฒนาสองแบบ
ใหญ่ ๆ คือ Waterfall model และ Iterative model
1. Waterfall model
R e q u ir e m e n t
A n a ly s is &
D e s ig n
C o d in g
T e s t in g
M a in t a in a c e P ro d u ct
เหมาะสมสำาหรับการพัฒนาโปรแกรมสำาเร็จรูปที่เป็นลักษณะ Mass product
กล่าวคือผลิตออกมาทีละเยอะ ๆ เช่น MS Windows, MS Office ขั้นตอนต่าง ๆ
มีรายละเอียดดังนี้
1.1 Requirement เป็นขั้นตอนในการเก็บความต้องการของผู้ใช้โปรแกรม
ว่า ผู้ใช้โปรแกรมต้องการโปรแกรมอะไร ทำางานอย่างไร
1.2 Analysis and design เป็นขั้นตอนในการเอาความต้องการของผู้ใช้มา
วิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้และความเหมาะสม เลือกเครื่องมือที่จะ
ทำาการพัฒนาโปรแกรม แล้วทำาการออกแบบ (Design) โปรแกรม
1.3 Coding เป็นขั้นตอนของการเขียนโปรแกรมตามที่เราออกแบบมา
1.4 Testing เป็นขั้นตอนในการเอาโปรแกรมที่เขียนเสร็จแล้วมาทำาการ
ทดสอบหาข้อผิดพลาด
1.5 Product เมื่อทำาการทดสอบจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีข้อผิดพลาดก็นำา
โปรแกรมไปใช้งานจริง
1.6 Maintenance เป็นขั้นตอนในการดูแลผู้ใช้โปรแกรมว่ามีปัญหาในการ
ใช้งานหรือไม่อย่างไร พร้อมให้คำาปรึกษาและรับฟังข้อคิดเห็นเพื่อจะ
นำามาพัฒนาโปรแกรมในรุ่นถัดไป
2. Iterative model
เนื่องจาก Waterfall model ขาดการรับฟังข้อคิดเห็นจากผู้ใช้โปรแกรม
(Feedback) เพื่อที่จะนำามาปรับปรุงโปแกรมโดยทันที ทำาให้โปรแกรมที่ออกมา
ไม่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้โปรแกรมอย่างแท้จริง จึงทำาให้เกิด Model
ในการพัฒนาโปรแกรมแบบใหม่ที่เรียก Iterative model ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
2. I n it ia l
r e q u ir e m e n t
a n d a n a ly s is
D e s ig n
M o re
M a in t a in a c e r e q u ir e m e n t C o d in g
a n d a n a ly s is
T e s t in g
C o m p le t e
P ro d u c t
2.1 Initial requirement and analysis เป็นการเก็บความต้องการของผู้ใช้
โปรแกรมครั้งแรกแล้วนำามาวิเคราะห์ พร้อมทั้งหาเครื่องมือที่จะนำา
มาพัฒนาโปรแกรม
2.2 Design ทำาการออกแบบโปรแกรมตามที่ได้วิเคราะห์ไว้
2.3 Coding ทำาการเขียนโปรแกรมตามที่ได้ออกแบบไว้
2.4 Testing ทำาการหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม ซึ่งผู้ที่จะทำาการตรวจ
สอบโปรแกรมจะมีทั้งการตรวจสอบภายในทีมเขียนโปรแกรมและ
การตรวจสอบจากผู้ใช้โปรแกรม
2.5 More requirement and analysis ถ้าผู้ใช้โปรแกรมตรวจสอบโปรแกรม
แล้วยังไม่เป็นที่น่าพอใจหรือยังพบข้อผิดพลาดของโปรแกรม ให้จะ
นำาเอาข้อเสนอเหล่านั้นมาทำาการแก้ไขเพิ่มเติม โดยทำาการ Design
ใหม่อีกรอบหนึ่ง
2.6 Product ถ้าการทดสอบเป็นที่น่าพอใจแล้วจึงเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์กับงาน
ระบบจริง
2.7 Maintenance ถึงกระนั้นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานจริงย่อมมีปัญหาเกิดขึ้น
เสมอ ผู้ใช้งานอาจมีความต้องการเพิ่ม จึงนำาเอาความต้องการเหล่า
นั้นเข้าสู่ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมอีกครั้งในขั้นตอนของ More
requirement and analysis
นอกจากนั้นแล้วยังมีการพัฒนา Model สำาหรับการพัฒนา Software อีก
หลายแบบเช่น Spiral model เป็นต้น
คำ า ถาม
1. จงอธิบายการวิธีการพัฒนาโปรแกรมแบบ Waterfall model และ
Iterative model