More Related Content
Similar to กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ (20)
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
- 2. ความหมายและขัน้ตอน การ
แก้ปัญหา
กระบวนการเทคโนโลยี เป็นขัน้ตอนการทางานเพื่อสร้างสงิ่ของ
เครื่องใช้หรือวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งขึน้มาเพื่อแก้ปัญหาหรือ
สนองความต้องการของมนุษย์
กระบวนการในการแก้ปัญหา ซงึ่ประกอบด้วย 4 ขัน้ตอน ดังนี้
- 3. 1.การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา
การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา (State the problem)
ขัน้ตอนนีเ้ป็นขัน้ตอนแรกสุดก่อนที่จะลงมือแก้ปัญหา แต่ผู้แก้ปัญหามักจะมองข้าม
ความสาคัญของขัน้ตอนนีอ้ยู่เสมอ จุดประสงค์ของขัน้ตอนนี้คือการทาความเข้าใจกับ
ปัญหาเพื่อแยกให้ออกว่าข้อมูลที่กาหนดมาในปัญหาหรือเงื่อนไขของปัญหาคืออะไร
และสิ่งที่ต้องการคืออะไร อีกทัง้วิธีการที่ใช้ประมวลผล ในการวิเคราะห์ปัญหาใด กล่าว
โดยสรุปมีองค์ประกอบในการวิเคราะห์ ดังนี้
1.1 การระบุข้อมูลเข้า ได้แก่ การพิจารณาข้อมูลและเงื่อนไขที่กาหนดมาในปัญหา
1.2 การระบุข้อมูลออก ได้แก่ การพิจารณาเป้าหมายหรือสิ่งที่ต้องหาคาตอบ
1.3 การกาหนดวิธีประมวลผล ได้แก่ การพิจารณาขัน้ตอนวิธีหาคาตอบหรือข้อมูลออก
- 4. การเลือกเครื่องมือและออกแบบขัน้ตอนวิธี(Tools and
Algorithm development) ขัน้ตอนนีเ้ป็นขัน้ตอนของการวางแผนในการ
แก้ปัญหาอย่างละเอียดถี่ถ้วน หลังจากที่เราทาความเข้าใจกับปัญหา พิจารณา
ข้อมูลและเงื่อนไขที่มีอยู่ และสิ่งที่ต้องการหาในขัน้ตอนที่ 1 แล้ว เราสามารถ
คาดคะเนวิธีการที่จะใช้ในการแก้ปัญหา ขัน้ตอนนีจ้าเป็นต้องอาศัยประสบการณ์
ของผู้แก้ปัญหาเป็นหลัก หากผู้แก้ปัญหาเคยพบกับปัญหาทานองนีม้าแล้วก็
สามารถดาเนินการตามแนวทางที่เคยปฏิบัติมา
- 5. 3. การดาเนินการแก้ปัญหา
การดาเนินการแก้ปัญหา (Implementation) หลังจากที่ได้ออกแบบขัน้ตอน
วิธีเรียบร้อยแล้ว ขัน้ตอนนีเ้ป็นขัน้ตอนที่ต้องลงมือแก้ปัญหาโดยใช้เครื่องมือ
ที่ได้เลือกไว้ หากการแก้ปัญหาดังกล่าวใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยง่าน
ขัน้ตอนนีก้็เป็นการใช้โปรแกรมสาเร็จหรือใช้ภาษาคอมพิวเตอร์เขียน
โปรแกรมแก้ปัญหา ขัน้ตอนนีต้้องอาศัยความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือที่เลือกใช้ซงึ่
ผู้แก้ปัญหาต้องศึกษาให้เข้าใจและเชี่ยวชาญ ในขณะที่ดาเนินการหากพบ
แนวทางที่ดีกว่าที่ออกแบบไว้ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้
- 6. 4. การตรวจสอบและ
ปรับปรุง
การตรวจสอบและปรับปรุง (Refinement) หลังจากที่ลงมือแก้ปัญหาแล้ว ต้องตรวจสอบให้
แน่ใจว่าวิธีการนีใ้ห้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง โดยผู้แก้ปัญหาต้องตรวจสอบว่าขัน้ตอนวิธีที่สร้างขึน้
สอดคล้องกับรายละเอียดของปัญหา ซงึ่ได้แก่ ข้อมูลเข้า และข้อมูลออก เพื่อให้มนั่ใจว่าสามารถ
รองรับข้อมุเข้าได้ในทุกกรณีอย่างถูกต้องและสมบูรณ์ ในขณะเดียวกันก็ต้องปรับปรุงวิธีการ
เพื่อให้การแก้ปัญหานีไ้ด้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ขัน้ตอนทัง้ 4 ขัน้ตอนดังกล่าวข้างต้น เป็นเสมือนขัน้บันได (stair) ที่ทาให้มนุษย์สามารถประสบ
ความสาเร็จในการแก้ปัญหาต่างๆ ได้ รวมทัง้การเขียนหรือพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อ
แก้ปัญหาก็ต้องใช้กระบวนการตามขัน้ตอนทัง้ 4 นีเ้ช่นกัน
- 7. ขัน้ตอนอัลกอริทึล
อัลกอริทึม (อังกฤษ: algorithm) หมายถึงกระบวนการแก้ปัญหาที่สามารถ
เข้าใจได้ มีลาดับหรือวิธีการในการแก้ไขปัญหาใดปัญหาหนงึ่อย่างเป็นขัน้เป็น
ตอนและชัดเจน เมื่อนาเข้าอะไร แล้วจะต้องได้ผลลัพธ์เช่นไร ซึ่งแตกต่างจาก
การแก้ปัญหาแบบสามัญสานึก หรือฮิวริสติก (heuristic)
โดยทวั่ไป ขัน้ตอนวิธี จะประกอบด้วย วิธีการเป็นขัน้ๆ และมีส่วนที่ต้องทาแบบวนซา้
(iterate) หรือ เวียนเกิด (recursive) โดยใช้ตรรกะ (logic) และ/หรือ ในการ
เปรียบเทียบ (comparison) ในขัน้ตอนต่างๆ จนกระทงั่เสร็จสนิ้การทางาน
- 8. การเขียนรหัสจาลอง (Pseudo Code) คือการเขียนอัลกอริทึมโดยใช้ประโยค
ภาษาอังกฤษที่สื่อความหมายง่าย ๆ สามารถอ่านแล้วเข้าใจได้โดยทันที แต่ก็สามารถใช้
รูปแบบที่เป็นภาษาพูดด้วยภาษาไทยและภาษาอังกฤษก็ได้
โครงสร้างของรหัสจาลองเริ่มต้นด้วยข้อความ Begin แล้วอธิบายขัน้ตอนการทางานโดย
ใช้คาสงั่ต่าง ๆ ที่ใกล้เคียงกับภาษาคอมพิวเตอร์ในการเขียนโปรแกรม เช่น
คาสงั่read หมายถึง การอ่านค่าหรือรับคา่ข้อมูลตัวแปรตามที่กาหนดไว้
คาสงั่print หมายถึง การแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการคานวณ
พิมพ์ข้อความ End เมื่อจบการทางาน
- 9. การเขียนผังงาน
ผังงาน คือ แผนภาพที่มีการใช้สัญลักษณ์รูปภาพและลูกศรที่แสดงถึง
ขัน้ตอนการทางานของโปรแกรมหรือระบบทีละขัน้ตอน รวมไปถึงทิศทางการ
ไหลของข้อมูลตัง้แต่แรกจนได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ มี 2 ประเภท คือ ผังงาน
ระบบ และผังงานโปรแกรม