SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  35
นพ.ปรัชญา ศรีสว่าง 
10-Sep-14 1
 อาการนอนไม่หลับ นอนไม่ต่อเนื่อง หรือตื่นเร็ว 
 หงุดหงิดง่าย เครียด คิดมาก 
 ถึงวันเกษียณจริง “รู้สึกใจหาย ยังทา ใจไม่ได้” 
 รู้สึกเหงาว่างมาก 
 จะได้รับค่าตอบแทน บาเหน็จ บานาญ เท่าไร 
 จะเอาเงินก้อนมากไปทาอะไร จะพอใช้ไปได้กี่ปี 
10-Sep-14 2
สังคม 
มุมมอง 
สังคมไทย 
ชุมชน 
ตนเอง 
ครอบครัว 
10-Sep-14 3
มุมมองสังคม : หมดเวลาทางาน ,นั่งดูหนุ่มสาวเขาเล่น 
อย่ามายุ่งกับกิจการ ,หมดสภาพ, รอวันร่วงโรย, ทางาน 
ไม่ทันใจ, เชื่องช้าอืดอาด, พลังขิงแก่คลังสมอง 
มุมมองชุมชน : คนสาคัญวันเดียว, รวมวัยเข้าวัด, นับสหายตาย 
จาก, ระทมทุกข์, ไร้สวัสดิการ, ฝากหลานเลี้ยงดู ผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน 
มุมมองครอบครัว: ภาระเลี้ยงดู, มีค่าใช้จ่าย, รายได้ไม่พอ, ต้อง 
มีคนดูแล, กตัญญูทดแทน 
มุมมองตนเอง: ช่วงชีวิตหลังตรากตรา, ไม่เป็นที่ต้องการ, รอ 
คนชวนทางานต่อ, ใช้ชีวิตมีคุณค่า 
10-Sep-14 4
จ.จิตใจ จ.เจ็บ จ.จน 
จ.จัดการ 
10-Sep-14 5
เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ยังมีชีวิตข้างหน้าอีกไม่น้อย เฉลี่ย 20 ปี 
ให้ยอมรับความจริง ไม่ยึดติดในลาภ ยศ สรรเสริญ 
วาระของการพักผ่อนดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัว/ คนที่เรารัก 
ใช้ชีวิตในวันที่เรามีวิถีอิสระอย่างเต็มที่ 
มีหลายอย่างที่รอคอยมานานแล้วยังไม่ได้ทา ให้ลงมือทาอย่างมี 
ความสุข เช่น 
 ไปเป็นอาสาสมัครทางานเพื่อชุมชน 
10-Sep-14 6
1. ลดภาระหน้าทใี่ห้น้อยลง ทำ งำนให้ดีกับสภำพ ไม่หักโหม 
ไม่เร่งร้อนงำนที่ทำ ควรเป็นงำนที่ให้ควำมเพลิดเพลิน และให้ 
ควำมภำคภูมิใจ ไม่บังคับตนเอง ให้สนอง ควำมโลภ ในลำภ ยศ 
สรรเสริญ 
2. กระจายงานทเี่คยรับผิดชอบ ไปสู่บุตร หลำน บริวำร หรือ 
จัดหำเครื่องผ่อนแรงไว้ใช้ 
3. เจ็บไข้เล็กน้อยรีบรักษา อย่ำปล่อยไว้นำนจนกลำยเป็นโรค 
เรื้อรังจะฟื้นฟูได้ยำก 
10-Sep-14 7
4. หลีกเลยี่งสิ่งรบกวนชีวิต ที่ทำ ให้ร่ำงกำยและจิตใจต้องมีกำร 
ปรับดุลอย่ำงหนัก จนเกิดควำมเครียดทำงกำย และจิตขึ้น 
 5. สนใจในการสนองความต้องการที่จาเป็นพื้นฐานให้แก่ตนเอง 
 อาหาร ต้องได้รับครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ โดยกินอำหำรที่เหมำะ 
แก่วัย ย่อยง่ำย ปริมำณเพียงพอกับควำมต้องกำรของร่ำงกำย 
น้อยครั้งแต่บ่อย ๆ เพื่อป้องกันกำรท้องอืด เพ้อ 
น้า ควรได้รับน้ำ วันละอย่ำงน้อย 10 แก้ว หรือดื่มน้ำ ผลไม้คั้น 
มำก ๆ 
10-Sep-14 8
5. สนใจในการสนองความต้องการที่จาเป็นพื้นฐานให้แก่ 
ตนเอง 
 อยู่ในที่ ๆ อากาศถ่ายเทสะดวกโดยเปิดประตูหน้ำต่ำง และหำ 
เวลำออกไปเดินนอกอำคำร เพื่อรับอำกำศบริสุทธ์ิ 
 สร้างสุขนิสัยในการถ่ายอุจจาระโดยทุกวัน ไม่ควรกลั้นอุจจำระ 
และปัสสำวะ เมื่อรู้สึกปวดถ่ำย แสดงว่ำร่ำงกำยต้องกำรขับออก 
กำรเก็บของเสียไว้โดยกำรกลั้น ยิ่งจะทำ ให้เกิดอำกำรบูดเน่ำ เป็น 
พิษต่อร่ำงกำยเพิ่มขึ้น เป็นทำงหนึ่งที่ทำ ให้เกิดเจ็บไข้ 
10-Sep-14 9
 5. สนใจในการสนองความต้องการที่จาเป็นพื้นฐานให้แก่ตนเอง 
 บริหารร่างกาย และออกกาลังกายทุกวันอย่างสม่าเสมอ 
วันละประมำณ 30 นำที เลือกวิธีที่บริหำรที่เหมำะกับวัย ให้ 
อวัยวะทุกส่วนได้เคลื่อนไหว 
ถ้ารู้สึกเหนื่อย ควรพักผ่อน กำรออกกำ ลังกำยทีพอดี 
ไม่หักโหม จะมีประโยชน์ต่อสุขภำพ ทำ ให้อวัยวะทุกส่วน 
ได้รับอำหำรและออกซิเจนเพียงพอ และมีกำรขับถ่ำยของเสีย 
จำกเซลล์ได้ดี ทำ ให้เซลล์ทุกส่วนแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ไข้ เมื่อ 
เจ็บไข้ก็หำยเร็ว 
10-Sep-14 10
 5. สนใจในการสนองความต้องการที่จาเป็นพื้นฐานให้แก่ตนเอง 
 นอนหลับอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ถ้ำกลำงคืนนอนไม่พอ ก็นอน 
กลำงวันเพิ่มเติมได้ เพื่อให้ร่ำงกำยพักผ่อนเพียงพอ แต่ควร 
หลีกกำรนอนกลำงวันมำก กลำงคืนจะนอนไม่หลับ ทำ ให้ 
กระวนกระวำยใจ เวลำกลำงคืนเป็นเวลำที่เหมำะสมในกำร 
นอนที่สุด เพรำะสิ่งรบกวนต่ำงๆ ลดลง ไม่พลุกพล่ำน ไม่ 
ต้องรับประทำนอำหำรเช่นตอนกลำงวัน จึงทำ ให้ทุกระบบได้ 
พักผ่อน 
10-Sep-14 11
 5. สนใจในการสนองความต้องการที่จาเป็นพื้นฐานให้แก่ตนเอง 
 ที่อยู่อาศัยสาหรับตน ควรมีลักษณะดังนี้ 
ก. ห้องนอนไม่ควรอยู่ชั้นบน พื้นบ้ำนควรอยู่ในระดับ 
เดียวกัน 
ข. ห้องนอนอยู่ใกล้ห้องส้วมห้องน้า และใช้วัสดุที่ไม่ลื่นเพื่อ 
ป้องกันอุบัติเหตุ 
ค. แสงสว่างเพียงพอ อากาศถ่ายเทดี จัดสิ่งของไว้เรียบร้อย 
ไม่เกะกะ สะดวกต่อกำรเดิน 
10-Sep-14 12
 เข้าใจและยอมรับความเปลี่ยนแปลง ควำมไม่แน่นอนต่ำงๆ 
เกี่ยวกับสภำวะของตนเอง ครอบครัว และสังคม 
 ฝึกตน ฝึกจิต ให้อยู่ในหลักธรรม ไม่หลงอยู่ใน ลำภ ยศ 
สรรเสริญ ทำ ควำมดีเพื่อควำมดี ให้เกิดควำมภำคภูมิใจ 
 ทาตนให้เป็นที่เคารพรักของคนทั่วไป ด้วยควำมเมตตำกรุณำ 
ซึ่งสำมำรถแสดงออกได้ทำงกำย วำจำ ใจ โดยไม่หวัง 
ผลตอบแทน และควำมเคำรพในควำมคิดเห็นของบุคคล 
ทั่วไป จะทำ ให้เข้ำกับคนได้ทุกระดับ 
10-Sep-14 13
 ทาสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว สังคม และตนเอง เท่ำที่ 
กำ ลังกำย กำ ลังสมองจะอำ นวย เพื่อให้เกิดควำมภำคภูมิใจ เป็น 
ที่เคำรพ รักของคนในครอบครัวและสังคม 
ใช้จ่ายให้พอดีกับเศรษฐกิจของตน จะทำ ให้เกิดควำมสุขใจโดย 
ไม่ต้องพึ่งคนอื่น 
ทดแทนความเหงา และว้าเหว่ ด้วยกำรทำ กิจกรรมที่ตนชอบ 
หรือหำควำมบันเทิงจำกสิ่งที่ตนพอใจ เช่น ดูโทรทัศน์ ฟังเพลง 
ดูแลต้นไม้ ประกอบอำหำร ฯลฯ 
10-Sep-14 14
 ต้องมีเพื่อนต่างวัย เพื่อนพูด เพื่อนคุย แลกเปลี่ยนควำม 
คิดเห็นซึ่งกันและกัน ผู้สูงอำยุต้องทำ ตัวให้เป็นที่รักของคน 
ทุกวัย โดยมีกำรขัดแย้งให้น้อยที่สุด ทั้งกำย วำจำ ใจ ปรับตัว 
เองให้ทันกับสังคมในปัจจุบัน ไม่ยึดมั่นในควำมคิดดั้งเดิม 
ไม่ยึดถือในควำมเป็นตัวตนของตน แต่ต้องฟังควำมคิดเห็น 
ของคนอื่นบ้ำง จะทำ ให้อยู่ร่วมกับคนต่ำงวัยได้ 
 สนใจรับรู้สิ่งใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และ 
ปรับตัวให้ เข้ำกับสังคมที่เปลี่ยนแปลงไม่รู้จบได้อย่ำงมี 
ควำมสุข 
10-Sep-14 15
ออกสังคมเป็นครั้งคราว เพื่อจะได้พูดคุย สังสรรค์กับคนอื่น 
เช่น ไปวัดปฏิบัติธรรม ไปทัศนศึกษำ เพื่อเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม 
เข้าร่วมชมรมผู้สูงอายุที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่ละชมรมมีจุดมุ่งหมำย 
คล้ำย ๆ กัน คือ ต้องกำรส่งเสริมสุขภำพ เพื่อชลอควำมเสื่อม 
และป้องกันควำมเจ็บไข้ 
แพร่ความรู้ ในกำรรักษำสุขภำพเดือนละครั้ง ผู้สูงอำยุสำมำรถ 
เลือกเข้ำชมรมได้ตำมควำมพอใจของตนเอง 
10-Sep-14 16
ทางด้านกฎหมาย ผู้สูงอำยุควรทำ พินัยกรรมทิ้งไว้ อำจเป็น 
พินัยกรรมลับหรือแจ้งให้ผู้อื่นทรำบก็ได้ เพื่อให้บุตรหลำย 
ปฏิบัติตำมวัตถุประสงค์ของตน เช่น 
 เกี่ยวกับมรดกทรัพย์สินต่าง ๆ 
 การปฏิบัติต่อศพ พิธีการจัดการศพ และอื่น ๆ ไว้ล่วงหน้า 
ตั้งแต่มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ มีเพิ่มเติมในหน้าถัดไป 
10-Sep-14 17
ข้อแรก 
 กาหนดอายุที่เราต้องการเกษียณ 
 โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเกษียณเมื่ออายุเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้รู้ 
ว่า มีระยะเวลาหารายได้ก่อนเกษียณได้อีกเท่าไร 
 สมมติว่า ขณะนี้เราอายุ 32 ปี ต้งัใจจะเกษียณตัวเองในตอนที่ 
อายุ 60 ปี นั้นเท่ากับว่า หลังจากนี้เรามีเวลาหารายได้จากการ 
ทางานอีก 28 ปี 
10-Sep-14 18
ข้อที่สอง 
 ประมาณช่วงระยะเวลาที่จะใช้ชีวิตหลังเกษียณ 
 ให้คาดการณ์ไปว่า เราจะมีชีวิตยืนยาวไปจนถึงอายุเท่าไหร่ 
(โดยปกติ ผู้หญิงจะมีอายุยืนยาวกว่าผู้ชาย) 
 สมมติว่า เราจะมีอายุยืนยาวไปจนถึง 75 ปี ช่วงระยะเวลาที่ใช้ 
ชีวิตหลังเกษียณ คือ 15 ปี เราจะใช้ตัวเลขนี้ไปวางแผนใน 
ขั้นตอนต่อไป 
10-Sep-14 19
ข้อที่สาม 
 ประมาณการค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้หลังเกษียณ 
 คานวณหารายจ่ายที่จาเป็นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ 
 ขอแนะนาให้ประมาณจากค่าใช้จ่าย ณ ปัจจุบัน เป็นรายเดือน 
เพื่อที่จะได้รู้ว่าเดือนหนึ่ง ๆ มีค่าใช้จ่ายเท่าไร 
 สมมติว่า จะมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 20,000 บาท (20,000 x 12 = 240,000 
บาท ต่ปี) 
ระยะเวลาที่ใช้ชีวิตหลังเกษียณ เท่ากับ 15 ปี ฉะนั้น ต้องมีเงนิก่อน 
เกษียณเท่ากับ (240,000 x 15) เท่ากับ 3,600,000 บาท ไว้เป็นค่าใช้จ่ายใน 
การดารงชีพหลังเกษียณ (เป็นการคานวณคร่าว ๆ ไม่รวมปัจจัยเรื่องเงิน 
เฟ้อ) 
10-Sep-14 20
ข้อที่สี่ 
 ประมาณการรายได้หลังเกษียณ (รายได้ที่ไม่ใช่จากการ 
ทางาน) 
สมมติว่า หลังวันเกษียณเรามีเงินออม 3,000,000 บาท และประมาณว่า 
อัต ราเงิดอนกอเบี้อมยร้ที่อสะยละ สม4 มาต่อได้ ปี 
อย่างน้อย ๆ ก็ต้องฝากธนาคารหรือซื้อ 
คาพันนวธณบัดตอรกไว้ เบี้ยซึ่ที่งได้จะรัได้บต่ดออปี กเท่าเบี้ยกัทุบ ก(ปี 
3,000,000 x 4 %) 120,000 บาท 
หักภาษีร้อยละ 15 จะคงเหลือรายได้จากดอกเบี้ย 102,000 บาท (ผู้สูงอายุ 
มีรายได้ระดับนี้สามารถขอภาษีคืนได้) 
สาหรับใครที่นาเงินไปลงทุนอย่างอื่นหรือมีทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้ 
เช่น บ้านเช่าต้องนามารวมคานวณด้วย 
10-Sep-14 21
 สมมติว่า มีบ้านให้เช่าอีก 2 หลัง ให้เช่าเดือนละ 3,000 บาท ก็จะ 
มีรายได้จากบ้านเช่าต่อปี (3,000 x 2 x 12) เท่ากับ 72,000 บาท 
หักภาษีโรงเรือนร้อยละ 12.5 คงเหลือเงินจากรายได้บ้านเช่าอีก 
63,000 บาท 
หากใครที่วางแผนการเงินดี ๆ รายได้ในสองส่วนนี้ อาจเพียงพอ 
กับค่าใช้จ่ายที่จาเป็นต้องจ่ายหลังเกษียณได้ 
ทาให้ใช้ชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งพาเงินออม และสามารถเหลือเงินไว้ 
ให้ลูกหลานในยามที่เราจากไปได้ด้วย 
10-Sep-14 22
ข้อที่ห้า 
 วางแผนการออมในปัจจุบัน 
 คานวณหาเงินที่จะต้องออม เพื่อที่จะทราบว่าเราต้องเก็บอีก 
เท่าไหร่ ให้นาเงินออมส่วนที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันมาหักลบออก 
จากจานวนเงินที่ต้องการใช้หลังเกษียณ 
 สมมุติว่า ณ ขณะนี้อายุ 32 ปี มีเงินออมอยู่แล้ว 300,000 บาท ก็ต้อง 
เก็บเงินออมอีกเท่ากับ (3,600,000 – 300,000 ) 3,300,000 บาท 
ในขณะที่เรามีเวลาหารายได้จากการทางานอีก 28 ปี ก่อนที่จะเกษียณ 
เมื่ออายุ 60 ปี นามาหารต่อปี เท่ากับต้องหาเงินออมเพิ่มเฉลี่ยปีละ 
ประมาณ (3,300,000/28) 117,857 บาท หรือเดือนละประมาณ 9,820 
บาท 
10-Sep-14 23
 เพื่อให้มีผลตอบแทนที่ดีพร้อมกับระดับความเสี่ยงที่ท่าน 
สามารถรับได้ 
 เพื่อทาให้แผนเกษียณบรรลุเป้าหมายเร็วขึ้น 
 การลงทุนแต่ละประเภทนั้น มีความเสี่ยงอยู่มากน้อยแค่ไหน 
สามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยเพียงใด เพื่อที่จะได้ลดความ 
เสี่ยงในการลงทุนต่าง ๆ และสามารถวางแผนเกษียณล่วงหน้าได้ 
อย่างรอบคอบ 
10-Sep-14 24
 เงินสด 
 ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด 
 เป็นกำรฝำกประเภทออมทรัพย์หรือฝำกประจำ ที่ธนำคำร แต่ 
ต้องยอมรับว่ำอัตรำผลตอบแทนนั้นก็จะน้อยตำม 
 หลักการการฝากเงินในธนาคารนั้น ควรฝำกเป็นบัญชีเงินสด 
ในรูปแบบบัญชีเงินฉุกเฉิน เพื่อสะดวกง่ำยต่อกำรนำออกมำ 
ใช้ในยำมฉุกเฉิน 
10-Sep-14 25
 ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้ผลตอบแทนคงที่ 
(เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้) 
 กลุ่มนี้มีความเสี่ยงถัดจากเงินสด ซึ่งอัตรำดอกเบี้ยจะถูก 
กำ หนดจำกมูลค่ำของตลำดตรำสำรหนี้ ซึ่งมูลค่ำสำมำรถปรับ 
ขึ้นลงได้ 
 ระดับควำมเสี่ยงจึงขึ้นอยู่กับว่ำได้ลงทุนในประเภทใด 
หุ้นกู้เอกชน มีความเสี่ยงมากกว่าพันธบัตรรัฐบาล 
10-Sep-14 26
 ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือบานาญ 
 ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นกำรออมเงิน และได้รับ 
ควำมคุ้มครองเมื่อครบอำยุกรมธรรม์ ได้เงินก้อนคืน โดยมี 
ผลตอบแทนระหว่ำงทำงหรือเมื่อสิ้นสุดระยะเวลำของ 
กรมธรรม์ 
 ประกันชีวิตแบบบานาญ สำมำรถกำ หนดรำยได้ในอนำคต 
เมื่อยำมเกษียณได้ มีทั้งในแบบอัตรำผลตอบแทนคงที่ทุกปี 
หรือในแบบอัตรำผลตอบแทนเฉลี่ยมีทั้งระยะสั้นจนถึงระยะ 
ยำว หรือสำมำรถนำไปหักลดหย่อนภำษี สำมำรถเลือกได้ 
ตำมควำมต้องกำรและตำมควำมเหมำะสม 
10-Sep-14 27
 อสังหาริมทรัพย์(ที่อยู่อาศัย ที่ดิน อาคารพาณิชย์) 
 มีความเสี่ยงสูงถัดจากประกันสะสมทรัพย์ 
 มูลค่าสินทรัพย์มีการปรับขึ้นลงได้ตามสภาพเศรษฐกิจ 
สภาพคล่อง ทาเลทตี่ั้ง สิ่งอา นวยความสะดวกต่าง ๆ หรือค่า 
เสื่อมสภาพ รายได้หรือผลตอบแทนในสินทรัพย์มีความ 
ผันผวน 
10-Sep-14 28
ตราสารทุน หรือหุ้น 
 เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงสุด 
 ผลตอบแทนที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับผลกำรดำ เนินงำนของบริษัท 
 การลดความเสี่ยงที่ทาได้คือ การประเมินผลการดาเนินงาน 
ผลประกอบการย้อนหลัง และดูว่าบริษัทนั้นๆ นาไปลงทุนใน 
สินทรัพย์ใดต่อ ตลอดจนดูระยะเวลำในกำรเริ่มต้นลงทุนและ 
ระยะเวลำในกำรหยุดลงทุนในหุ้น เมื่อใกล้เวลำเกษียณเพื่อลด 
ควำมเสี่ยง 
10-Sep-14 29
จัดแบ่งให้ลูกหลานหรือทายาทคนใดก็สุดแท้แต่จะเห็นสมควร 
 ในระหว่ำงที่ยังมีชีวิตอยู่ ให้เหลือไว้เฉพำะที่จำ เป็นต้องกิน 
ต้องใช้ ไปวันหนึ่ง ๆ จนตลอดชีวิต 
 ถ้ำบุตรธิดำได้รับกำรสั่งสอนมำดี ได้รับควำมอบอุ่นจำกบิดำ 
มำรดำ ด้วยควำมเมตตำรักใคร่ ไม่มีใครใจร้ำยถึงกับทอดทิ้ง 
บิดำมำรดำของตนให้อดอยำกลำ บำกเป็นแน่ แต่ถ้ำยังไม่ 
แน่ใจ ก็ควรพิจำรณำต่อไปในข้อ 2. 
10-Sep-14 30
เขียนเป็นหนังสือพินัยกรรม 
 ระบุให้ชัดเจนว่ำทรัพย์สินใดมอบให้บุตรธิดำ หรือหลำน 
หรือพี่น้องคนไหน หรือมอบให้องค์กรกุศล หรือวัดวำอำรำม 
หรือจะให้ตั้งเป็นมูลนิธิขึ้น 
 โดยกำ หนดวัตถุประสงค์ และบุคคล ที่จะเป็นผู้ดำ เนินกำร 
จัดตั้งมูลนิธิก็ได้ 
10-Sep-14 31
ต้องทาเป็นตัวหนังสือ เป็นลายลักษณ์อักษร 
ต้องลงวัน เดือน ปีที่ทา 
ต้องเขียนด้วยลายมือของตัวเองท้งัหมด จะพิมพ์ดีดไม่ได้ 
ต้องลงลายมือชื่อ จะประทับตรายางลายเซ็นหรือตรา 
เครื่องหมายใด ๆ แทนลานเซ็นไม่ได้ 
ระบุข้อความให้ปรากฏชัดว่ายกทรัพย์สินอะไรให้แก่ใคร 
ไม่ต้องมีพยาน (เพราะตนเองได้เขียนมาทั้งฉบับอยู่แล้ว พยานมี 
ไว้เพื่อรับรองลายมือของผู้ทาพินัยกรรม) 
10-Sep-14 32
10-Sep-14 33
10-Sep-14 34
10-Sep-14 35

Contenu connexe

Tendances

โครงการสอนงานประดิษฐ์จากไม้ไผ่2
โครงการสอนงานประดิษฐ์จากไม้ไผ่2โครงการสอนงานประดิษฐ์จากไม้ไผ่2
โครงการสอนงานประดิษฐ์จากไม้ไผ่2ทับทิม เจริญตา
 
รายงานการเยี่ยมบ้าน ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
รายงานการเยี่ยมบ้าน ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนรายงานการเยี่ยมบ้าน ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
รายงานการเยี่ยมบ้าน ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนNontaporn Pilawut
 
กล้องจุลทรรศน์ (Microscope)
กล้องจุลทรรศน์ (Microscope)กล้องจุลทรรศน์ (Microscope)
กล้องจุลทรรศน์ (Microscope)Mew' Cifer
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องชีวิตสัมพันธ์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องชีวิตสัมพันธ์แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องชีวิตสัมพันธ์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องชีวิตสัมพันธ์Mam Chongruk
 
รายงานผลประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนวัดโพธิ์ทอง(วิศิษฐ์ประชา...
รายงานผลประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนวัดโพธิ์ทอง(วิศิษฐ์ประชา...รายงานผลประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนวัดโพธิ์ทอง(วิศิษฐ์ประชา...
รายงานผลประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนวัดโพธิ์ทอง(วิศิษฐ์ประชา...omsnooo
 
1.ตัวอย่างแผนบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
1.ตัวอย่างแผนบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง1.ตัวอย่างแผนบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
1.ตัวอย่างแผนบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียงWareerut Hunter
 
12 กิจกรรมทบทวน
12 กิจกรรมทบทวน12 กิจกรรมทบทวน
12 กิจกรรมทบทวนSuradet Sriangkoon
 
แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในชุมชน
แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในชุมชนแนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในชุมชน
แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในชุมชนCAPD AngThong
 
การพยาบาลDhf
การพยาบาลDhfการพยาบาลDhf
การพยาบาลDhfMaytinee Beudam
 
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคของหลอดเลือดโคโรนารี
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคของหลอดเลือดโคโรนารี การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคของหลอดเลือดโคโรนารี
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคของหลอดเลือดโคโรนารี Chutchavarn Wongsaree
 
บทที่ 4 การจัดการองค์การสมัยใหม่
บทที่ 4 การจัดการองค์การสมัยใหม่บทที่ 4 การจัดการองค์การสมัยใหม่
บทที่ 4 การจัดการองค์การสมัยใหม่Aj.Mallika Phongphaew
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 สุข ม.2
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 สุข ม.2แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 สุข ม.2
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 สุข ม.2sarawut chaicharoen
 
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพ
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพแผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพ
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพpronprom11
 

Tendances (20)

โครงการสอนงานประดิษฐ์จากไม้ไผ่2
โครงการสอนงานประดิษฐ์จากไม้ไผ่2โครงการสอนงานประดิษฐ์จากไม้ไผ่2
โครงการสอนงานประดิษฐ์จากไม้ไผ่2
 
(16 มิ.ย. 56) service profile update
(16 มิ.ย. 56) service profile update(16 มิ.ย. 56) service profile update
(16 มิ.ย. 56) service profile update
 
แบบฟอร์ม หน้า 155 157
แบบฟอร์ม หน้า 155 157แบบฟอร์ม หน้า 155 157
แบบฟอร์ม หน้า 155 157
 
รายงานการเยี่ยมบ้าน ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
รายงานการเยี่ยมบ้าน ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนรายงานการเยี่ยมบ้าน ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
รายงานการเยี่ยมบ้าน ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
 
กล้องจุลทรรศน์ (Microscope)
กล้องจุลทรรศน์ (Microscope)กล้องจุลทรรศน์ (Microscope)
กล้องจุลทรรศน์ (Microscope)
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องชีวิตสัมพันธ์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องชีวิตสัมพันธ์แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องชีวิตสัมพันธ์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องชีวิตสัมพันธ์
 
Homeroom3.3
Homeroom3.3Homeroom3.3
Homeroom3.3
 
รายงานผลประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนวัดโพธิ์ทอง(วิศิษฐ์ประชา...
รายงานผลประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนวัดโพธิ์ทอง(วิศิษฐ์ประชา...รายงานผลประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนวัดโพธิ์ทอง(วิศิษฐ์ประชา...
รายงานผลประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนวัดโพธิ์ทอง(วิศิษฐ์ประชา...
 
1.ตัวอย่างแผนบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
1.ตัวอย่างแผนบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง1.ตัวอย่างแผนบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
1.ตัวอย่างแผนบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
 
12 กิจกรรมทบทวน
12 กิจกรรมทบทวน12 กิจกรรมทบทวน
12 กิจกรรมทบทวน
 
แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในชุมชน
แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในชุมชนแนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในชุมชน
แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในชุมชน
 
การพยาบาลDhf
การพยาบาลDhfการพยาบาลDhf
การพยาบาลDhf
 
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคของหลอดเลือดโคโรนารี
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคของหลอดเลือดโคโรนารี การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคของหลอดเลือดโคโรนารี
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคของหลอดเลือดโคโรนารี
 
บทที่ 4 การจัดการองค์การสมัยใหม่
บทที่ 4 การจัดการองค์การสมัยใหม่บทที่ 4 การจัดการองค์การสมัยใหม่
บทที่ 4 การจัดการองค์การสมัยใหม่
 
จริยธรรม
จริยธรรมจริยธรรม
จริยธรรม
 
1แนวคิดการบริหารทางการพยาบาล
1แนวคิดการบริหารทางการพยาบาล1แนวคิดการบริหารทางการพยาบาล
1แนวคิดการบริหารทางการพยาบาล
 
Ppt. วัณโรค
Ppt. วัณโรคPpt. วัณโรค
Ppt. วัณโรค
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 สุข ม.2
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 สุข ม.2แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 สุข ม.2
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 สุข ม.2
 
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพ
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพแผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพ
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพ
 
แนวข้อสอบพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534
แนวข้อสอบพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534แนวข้อสอบพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534
แนวข้อสอบพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534
 

Plus de Prachaya Sriswang (20)

Ppt.ha
Ppt.haPpt.ha
Ppt.ha
 
ไข้เลือดออก
ไข้เลือดออกไข้เลือดออก
ไข้เลือดออก
 
ไข้เลือดออก
ไข้เลือดออกไข้เลือดออก
ไข้เลือดออก
 
Ppt.เพศ
Ppt.เพศPpt.เพศ
Ppt.เพศ
 
Ppt. คุณแม่วัยใส
Ppt. คุณแม่วัยใสPpt. คุณแม่วัยใส
Ppt. คุณแม่วัยใส
 
Ppt.ha
Ppt.haPpt.ha
Ppt.ha
 
Ppt influenza
Ppt influenzaPpt influenza
Ppt influenza
 
Ppt.trigger tool
Ppt.trigger toolPpt.trigger tool
Ppt.trigger tool
 
Ppt.clinical tracer
Ppt.clinical tracerPpt.clinical tracer
Ppt.clinical tracer
 
Ppt. service profile
Ppt. service profilePpt. service profile
Ppt. service profile
 
Ppt rm
Ppt rmPpt rm
Ppt rm
 
โรคอุบัติใหม่ 1
โรคอุบัติใหม่ 1โรคอุบัติใหม่ 1
โรคอุบัติใหม่ 1
 
Presentation2
Presentation2Presentation2
Presentation2
 
Ppt.ht
Ppt.htPpt.ht
Ppt.ht
 
Ppt.dlp
Ppt.dlpPpt.dlp
Ppt.dlp
 
Ppt. stroke1
Ppt. stroke1Ppt. stroke1
Ppt. stroke1
 
Ppt. patient safety goal
Ppt. patient safety goalPpt. patient safety goal
Ppt. patient safety goal
 
Ppt. patient safety goal
Ppt. patient safety goalPpt. patient safety goal
Ppt. patient safety goal
 
Ppt. influenza (25.8.57)
Ppt. influenza (25.8.57)Ppt. influenza (25.8.57)
Ppt. influenza (25.8.57)
 
Ppt.hfe
Ppt.hfePpt.hfe
Ppt.hfe
 

การเตรียมพร้อมก่อนวัยเกษียณอย่างมีความสุข.1

  • 2.  อาการนอนไม่หลับ นอนไม่ต่อเนื่อง หรือตื่นเร็ว  หงุดหงิดง่าย เครียด คิดมาก  ถึงวันเกษียณจริง “รู้สึกใจหาย ยังทา ใจไม่ได้”  รู้สึกเหงาว่างมาก  จะได้รับค่าตอบแทน บาเหน็จ บานาญ เท่าไร  จะเอาเงินก้อนมากไปทาอะไร จะพอใช้ไปได้กี่ปี 10-Sep-14 2
  • 3. สังคม มุมมอง สังคมไทย ชุมชน ตนเอง ครอบครัว 10-Sep-14 3
  • 4. มุมมองสังคม : หมดเวลาทางาน ,นั่งดูหนุ่มสาวเขาเล่น อย่ามายุ่งกับกิจการ ,หมดสภาพ, รอวันร่วงโรย, ทางาน ไม่ทันใจ, เชื่องช้าอืดอาด, พลังขิงแก่คลังสมอง มุมมองชุมชน : คนสาคัญวันเดียว, รวมวัยเข้าวัด, นับสหายตาย จาก, ระทมทุกข์, ไร้สวัสดิการ, ฝากหลานเลี้ยงดู ผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน มุมมองครอบครัว: ภาระเลี้ยงดู, มีค่าใช้จ่าย, รายได้ไม่พอ, ต้อง มีคนดูแล, กตัญญูทดแทน มุมมองตนเอง: ช่วงชีวิตหลังตรากตรา, ไม่เป็นที่ต้องการ, รอ คนชวนทางานต่อ, ใช้ชีวิตมีคุณค่า 10-Sep-14 4
  • 5. จ.จิตใจ จ.เจ็บ จ.จน จ.จัดการ 10-Sep-14 5
  • 6. เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ยังมีชีวิตข้างหน้าอีกไม่น้อย เฉลี่ย 20 ปี ให้ยอมรับความจริง ไม่ยึดติดในลาภ ยศ สรรเสริญ วาระของการพักผ่อนดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัว/ คนที่เรารัก ใช้ชีวิตในวันที่เรามีวิถีอิสระอย่างเต็มที่ มีหลายอย่างที่รอคอยมานานแล้วยังไม่ได้ทา ให้ลงมือทาอย่างมี ความสุข เช่น  ไปเป็นอาสาสมัครทางานเพื่อชุมชน 10-Sep-14 6
  • 7. 1. ลดภาระหน้าทใี่ห้น้อยลง ทำ งำนให้ดีกับสภำพ ไม่หักโหม ไม่เร่งร้อนงำนที่ทำ ควรเป็นงำนที่ให้ควำมเพลิดเพลิน และให้ ควำมภำคภูมิใจ ไม่บังคับตนเอง ให้สนอง ควำมโลภ ในลำภ ยศ สรรเสริญ 2. กระจายงานทเี่คยรับผิดชอบ ไปสู่บุตร หลำน บริวำร หรือ จัดหำเครื่องผ่อนแรงไว้ใช้ 3. เจ็บไข้เล็กน้อยรีบรักษา อย่ำปล่อยไว้นำนจนกลำยเป็นโรค เรื้อรังจะฟื้นฟูได้ยำก 10-Sep-14 7
  • 8. 4. หลีกเลยี่งสิ่งรบกวนชีวิต ที่ทำ ให้ร่ำงกำยและจิตใจต้องมีกำร ปรับดุลอย่ำงหนัก จนเกิดควำมเครียดทำงกำย และจิตขึ้น  5. สนใจในการสนองความต้องการที่จาเป็นพื้นฐานให้แก่ตนเอง  อาหาร ต้องได้รับครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ โดยกินอำหำรที่เหมำะ แก่วัย ย่อยง่ำย ปริมำณเพียงพอกับควำมต้องกำรของร่ำงกำย น้อยครั้งแต่บ่อย ๆ เพื่อป้องกันกำรท้องอืด เพ้อ น้า ควรได้รับน้ำ วันละอย่ำงน้อย 10 แก้ว หรือดื่มน้ำ ผลไม้คั้น มำก ๆ 10-Sep-14 8
  • 9. 5. สนใจในการสนองความต้องการที่จาเป็นพื้นฐานให้แก่ ตนเอง  อยู่ในที่ ๆ อากาศถ่ายเทสะดวกโดยเปิดประตูหน้ำต่ำง และหำ เวลำออกไปเดินนอกอำคำร เพื่อรับอำกำศบริสุทธ์ิ  สร้างสุขนิสัยในการถ่ายอุจจาระโดยทุกวัน ไม่ควรกลั้นอุจจำระ และปัสสำวะ เมื่อรู้สึกปวดถ่ำย แสดงว่ำร่ำงกำยต้องกำรขับออก กำรเก็บของเสียไว้โดยกำรกลั้น ยิ่งจะทำ ให้เกิดอำกำรบูดเน่ำ เป็น พิษต่อร่ำงกำยเพิ่มขึ้น เป็นทำงหนึ่งที่ทำ ให้เกิดเจ็บไข้ 10-Sep-14 9
  • 10.  5. สนใจในการสนองความต้องการที่จาเป็นพื้นฐานให้แก่ตนเอง  บริหารร่างกาย และออกกาลังกายทุกวันอย่างสม่าเสมอ วันละประมำณ 30 นำที เลือกวิธีที่บริหำรที่เหมำะกับวัย ให้ อวัยวะทุกส่วนได้เคลื่อนไหว ถ้ารู้สึกเหนื่อย ควรพักผ่อน กำรออกกำ ลังกำยทีพอดี ไม่หักโหม จะมีประโยชน์ต่อสุขภำพ ทำ ให้อวัยวะทุกส่วน ได้รับอำหำรและออกซิเจนเพียงพอ และมีกำรขับถ่ำยของเสีย จำกเซลล์ได้ดี ทำ ให้เซลล์ทุกส่วนแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ไข้ เมื่อ เจ็บไข้ก็หำยเร็ว 10-Sep-14 10
  • 11.  5. สนใจในการสนองความต้องการที่จาเป็นพื้นฐานให้แก่ตนเอง  นอนหลับอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ถ้ำกลำงคืนนอนไม่พอ ก็นอน กลำงวันเพิ่มเติมได้ เพื่อให้ร่ำงกำยพักผ่อนเพียงพอ แต่ควร หลีกกำรนอนกลำงวันมำก กลำงคืนจะนอนไม่หลับ ทำ ให้ กระวนกระวำยใจ เวลำกลำงคืนเป็นเวลำที่เหมำะสมในกำร นอนที่สุด เพรำะสิ่งรบกวนต่ำงๆ ลดลง ไม่พลุกพล่ำน ไม่ ต้องรับประทำนอำหำรเช่นตอนกลำงวัน จึงทำ ให้ทุกระบบได้ พักผ่อน 10-Sep-14 11
  • 12.  5. สนใจในการสนองความต้องการที่จาเป็นพื้นฐานให้แก่ตนเอง  ที่อยู่อาศัยสาหรับตน ควรมีลักษณะดังนี้ ก. ห้องนอนไม่ควรอยู่ชั้นบน พื้นบ้ำนควรอยู่ในระดับ เดียวกัน ข. ห้องนอนอยู่ใกล้ห้องส้วมห้องน้า และใช้วัสดุที่ไม่ลื่นเพื่อ ป้องกันอุบัติเหตุ ค. แสงสว่างเพียงพอ อากาศถ่ายเทดี จัดสิ่งของไว้เรียบร้อย ไม่เกะกะ สะดวกต่อกำรเดิน 10-Sep-14 12
  • 13.  เข้าใจและยอมรับความเปลี่ยนแปลง ควำมไม่แน่นอนต่ำงๆ เกี่ยวกับสภำวะของตนเอง ครอบครัว และสังคม  ฝึกตน ฝึกจิต ให้อยู่ในหลักธรรม ไม่หลงอยู่ใน ลำภ ยศ สรรเสริญ ทำ ควำมดีเพื่อควำมดี ให้เกิดควำมภำคภูมิใจ  ทาตนให้เป็นที่เคารพรักของคนทั่วไป ด้วยควำมเมตตำกรุณำ ซึ่งสำมำรถแสดงออกได้ทำงกำย วำจำ ใจ โดยไม่หวัง ผลตอบแทน และควำมเคำรพในควำมคิดเห็นของบุคคล ทั่วไป จะทำ ให้เข้ำกับคนได้ทุกระดับ 10-Sep-14 13
  • 14.  ทาสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว สังคม และตนเอง เท่ำที่ กำ ลังกำย กำ ลังสมองจะอำ นวย เพื่อให้เกิดควำมภำคภูมิใจ เป็น ที่เคำรพ รักของคนในครอบครัวและสังคม ใช้จ่ายให้พอดีกับเศรษฐกิจของตน จะทำ ให้เกิดควำมสุขใจโดย ไม่ต้องพึ่งคนอื่น ทดแทนความเหงา และว้าเหว่ ด้วยกำรทำ กิจกรรมที่ตนชอบ หรือหำควำมบันเทิงจำกสิ่งที่ตนพอใจ เช่น ดูโทรทัศน์ ฟังเพลง ดูแลต้นไม้ ประกอบอำหำร ฯลฯ 10-Sep-14 14
  • 15.  ต้องมีเพื่อนต่างวัย เพื่อนพูด เพื่อนคุย แลกเปลี่ยนควำม คิดเห็นซึ่งกันและกัน ผู้สูงอำยุต้องทำ ตัวให้เป็นที่รักของคน ทุกวัย โดยมีกำรขัดแย้งให้น้อยที่สุด ทั้งกำย วำจำ ใจ ปรับตัว เองให้ทันกับสังคมในปัจจุบัน ไม่ยึดมั่นในควำมคิดดั้งเดิม ไม่ยึดถือในควำมเป็นตัวตนของตน แต่ต้องฟังควำมคิดเห็น ของคนอื่นบ้ำง จะทำ ให้อยู่ร่วมกับคนต่ำงวัยได้  สนใจรับรู้สิ่งใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และ ปรับตัวให้ เข้ำกับสังคมที่เปลี่ยนแปลงไม่รู้จบได้อย่ำงมี ควำมสุข 10-Sep-14 15
  • 16. ออกสังคมเป็นครั้งคราว เพื่อจะได้พูดคุย สังสรรค์กับคนอื่น เช่น ไปวัดปฏิบัติธรรม ไปทัศนศึกษำ เพื่อเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมชมรมผู้สูงอายุที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่ละชมรมมีจุดมุ่งหมำย คล้ำย ๆ กัน คือ ต้องกำรส่งเสริมสุขภำพ เพื่อชลอควำมเสื่อม และป้องกันควำมเจ็บไข้ แพร่ความรู้ ในกำรรักษำสุขภำพเดือนละครั้ง ผู้สูงอำยุสำมำรถ เลือกเข้ำชมรมได้ตำมควำมพอใจของตนเอง 10-Sep-14 16
  • 17. ทางด้านกฎหมาย ผู้สูงอำยุควรทำ พินัยกรรมทิ้งไว้ อำจเป็น พินัยกรรมลับหรือแจ้งให้ผู้อื่นทรำบก็ได้ เพื่อให้บุตรหลำย ปฏิบัติตำมวัตถุประสงค์ของตน เช่น  เกี่ยวกับมรดกทรัพย์สินต่าง ๆ  การปฏิบัติต่อศพ พิธีการจัดการศพ และอื่น ๆ ไว้ล่วงหน้า ตั้งแต่มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ มีเพิ่มเติมในหน้าถัดไป 10-Sep-14 17
  • 18. ข้อแรก  กาหนดอายุที่เราต้องการเกษียณ  โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเกษียณเมื่ออายุเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้รู้ ว่า มีระยะเวลาหารายได้ก่อนเกษียณได้อีกเท่าไร  สมมติว่า ขณะนี้เราอายุ 32 ปี ต้งัใจจะเกษียณตัวเองในตอนที่ อายุ 60 ปี นั้นเท่ากับว่า หลังจากนี้เรามีเวลาหารายได้จากการ ทางานอีก 28 ปี 10-Sep-14 18
  • 19. ข้อที่สอง  ประมาณช่วงระยะเวลาที่จะใช้ชีวิตหลังเกษียณ  ให้คาดการณ์ไปว่า เราจะมีชีวิตยืนยาวไปจนถึงอายุเท่าไหร่ (โดยปกติ ผู้หญิงจะมีอายุยืนยาวกว่าผู้ชาย)  สมมติว่า เราจะมีอายุยืนยาวไปจนถึง 75 ปี ช่วงระยะเวลาที่ใช้ ชีวิตหลังเกษียณ คือ 15 ปี เราจะใช้ตัวเลขนี้ไปวางแผนใน ขั้นตอนต่อไป 10-Sep-14 19
  • 20. ข้อที่สาม  ประมาณการค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้หลังเกษียณ  คานวณหารายจ่ายที่จาเป็นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้  ขอแนะนาให้ประมาณจากค่าใช้จ่าย ณ ปัจจุบัน เป็นรายเดือน เพื่อที่จะได้รู้ว่าเดือนหนึ่ง ๆ มีค่าใช้จ่ายเท่าไร  สมมติว่า จะมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 20,000 บาท (20,000 x 12 = 240,000 บาท ต่ปี) ระยะเวลาที่ใช้ชีวิตหลังเกษียณ เท่ากับ 15 ปี ฉะนั้น ต้องมีเงนิก่อน เกษียณเท่ากับ (240,000 x 15) เท่ากับ 3,600,000 บาท ไว้เป็นค่าใช้จ่ายใน การดารงชีพหลังเกษียณ (เป็นการคานวณคร่าว ๆ ไม่รวมปัจจัยเรื่องเงิน เฟ้อ) 10-Sep-14 20
  • 21. ข้อที่สี่  ประมาณการรายได้หลังเกษียณ (รายได้ที่ไม่ใช่จากการ ทางาน) สมมติว่า หลังวันเกษียณเรามีเงินออม 3,000,000 บาท และประมาณว่า อัต ราเงิดอนกอเบี้อมยร้ที่อสะยละ สม4 มาต่อได้ ปี อย่างน้อย ๆ ก็ต้องฝากธนาคารหรือซื้อ คาพันนวธณบัดตอรกไว้ เบี้ยซึ่ที่งได้จะรัได้บต่ดออปี กเท่าเบี้ยกัทุบ ก(ปี 3,000,000 x 4 %) 120,000 บาท หักภาษีร้อยละ 15 จะคงเหลือรายได้จากดอกเบี้ย 102,000 บาท (ผู้สูงอายุ มีรายได้ระดับนี้สามารถขอภาษีคืนได้) สาหรับใครที่นาเงินไปลงทุนอย่างอื่นหรือมีทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น บ้านเช่าต้องนามารวมคานวณด้วย 10-Sep-14 21
  • 22.  สมมติว่า มีบ้านให้เช่าอีก 2 หลัง ให้เช่าเดือนละ 3,000 บาท ก็จะ มีรายได้จากบ้านเช่าต่อปี (3,000 x 2 x 12) เท่ากับ 72,000 บาท หักภาษีโรงเรือนร้อยละ 12.5 คงเหลือเงินจากรายได้บ้านเช่าอีก 63,000 บาท หากใครที่วางแผนการเงินดี ๆ รายได้ในสองส่วนนี้ อาจเพียงพอ กับค่าใช้จ่ายที่จาเป็นต้องจ่ายหลังเกษียณได้ ทาให้ใช้ชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งพาเงินออม และสามารถเหลือเงินไว้ ให้ลูกหลานในยามที่เราจากไปได้ด้วย 10-Sep-14 22
  • 23. ข้อที่ห้า  วางแผนการออมในปัจจุบัน  คานวณหาเงินที่จะต้องออม เพื่อที่จะทราบว่าเราต้องเก็บอีก เท่าไหร่ ให้นาเงินออมส่วนที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันมาหักลบออก จากจานวนเงินที่ต้องการใช้หลังเกษียณ  สมมุติว่า ณ ขณะนี้อายุ 32 ปี มีเงินออมอยู่แล้ว 300,000 บาท ก็ต้อง เก็บเงินออมอีกเท่ากับ (3,600,000 – 300,000 ) 3,300,000 บาท ในขณะที่เรามีเวลาหารายได้จากการทางานอีก 28 ปี ก่อนที่จะเกษียณ เมื่ออายุ 60 ปี นามาหารต่อปี เท่ากับต้องหาเงินออมเพิ่มเฉลี่ยปีละ ประมาณ (3,300,000/28) 117,857 บาท หรือเดือนละประมาณ 9,820 บาท 10-Sep-14 23
  • 24.  เพื่อให้มีผลตอบแทนที่ดีพร้อมกับระดับความเสี่ยงที่ท่าน สามารถรับได้  เพื่อทาให้แผนเกษียณบรรลุเป้าหมายเร็วขึ้น  การลงทุนแต่ละประเภทนั้น มีความเสี่ยงอยู่มากน้อยแค่ไหน สามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยเพียงใด เพื่อที่จะได้ลดความ เสี่ยงในการลงทุนต่าง ๆ และสามารถวางแผนเกษียณล่วงหน้าได้ อย่างรอบคอบ 10-Sep-14 24
  • 25.  เงินสด  ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด  เป็นกำรฝำกประเภทออมทรัพย์หรือฝำกประจำ ที่ธนำคำร แต่ ต้องยอมรับว่ำอัตรำผลตอบแทนนั้นก็จะน้อยตำม  หลักการการฝากเงินในธนาคารนั้น ควรฝำกเป็นบัญชีเงินสด ในรูปแบบบัญชีเงินฉุกเฉิน เพื่อสะดวกง่ำยต่อกำรนำออกมำ ใช้ในยำมฉุกเฉิน 10-Sep-14 25
  • 26.  ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้ผลตอบแทนคงที่ (เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้)  กลุ่มนี้มีความเสี่ยงถัดจากเงินสด ซึ่งอัตรำดอกเบี้ยจะถูก กำ หนดจำกมูลค่ำของตลำดตรำสำรหนี้ ซึ่งมูลค่ำสำมำรถปรับ ขึ้นลงได้  ระดับควำมเสี่ยงจึงขึ้นอยู่กับว่ำได้ลงทุนในประเภทใด หุ้นกู้เอกชน มีความเสี่ยงมากกว่าพันธบัตรรัฐบาล 10-Sep-14 26
  • 27.  ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือบานาญ  ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นกำรออมเงิน และได้รับ ควำมคุ้มครองเมื่อครบอำยุกรมธรรม์ ได้เงินก้อนคืน โดยมี ผลตอบแทนระหว่ำงทำงหรือเมื่อสิ้นสุดระยะเวลำของ กรมธรรม์  ประกันชีวิตแบบบานาญ สำมำรถกำ หนดรำยได้ในอนำคต เมื่อยำมเกษียณได้ มีทั้งในแบบอัตรำผลตอบแทนคงที่ทุกปี หรือในแบบอัตรำผลตอบแทนเฉลี่ยมีทั้งระยะสั้นจนถึงระยะ ยำว หรือสำมำรถนำไปหักลดหย่อนภำษี สำมำรถเลือกได้ ตำมควำมต้องกำรและตำมควำมเหมำะสม 10-Sep-14 27
  • 28.  อสังหาริมทรัพย์(ที่อยู่อาศัย ที่ดิน อาคารพาณิชย์)  มีความเสี่ยงสูงถัดจากประกันสะสมทรัพย์  มูลค่าสินทรัพย์มีการปรับขึ้นลงได้ตามสภาพเศรษฐกิจ สภาพคล่อง ทาเลทตี่ั้ง สิ่งอา นวยความสะดวกต่าง ๆ หรือค่า เสื่อมสภาพ รายได้หรือผลตอบแทนในสินทรัพย์มีความ ผันผวน 10-Sep-14 28
  • 29. ตราสารทุน หรือหุ้น  เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงสุด  ผลตอบแทนที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับผลกำรดำ เนินงำนของบริษัท  การลดความเสี่ยงที่ทาได้คือ การประเมินผลการดาเนินงาน ผลประกอบการย้อนหลัง และดูว่าบริษัทนั้นๆ นาไปลงทุนใน สินทรัพย์ใดต่อ ตลอดจนดูระยะเวลำในกำรเริ่มต้นลงทุนและ ระยะเวลำในกำรหยุดลงทุนในหุ้น เมื่อใกล้เวลำเกษียณเพื่อลด ควำมเสี่ยง 10-Sep-14 29
  • 30. จัดแบ่งให้ลูกหลานหรือทายาทคนใดก็สุดแท้แต่จะเห็นสมควร  ในระหว่ำงที่ยังมีชีวิตอยู่ ให้เหลือไว้เฉพำะที่จำ เป็นต้องกิน ต้องใช้ ไปวันหนึ่ง ๆ จนตลอดชีวิต  ถ้ำบุตรธิดำได้รับกำรสั่งสอนมำดี ได้รับควำมอบอุ่นจำกบิดำ มำรดำ ด้วยควำมเมตตำรักใคร่ ไม่มีใครใจร้ำยถึงกับทอดทิ้ง บิดำมำรดำของตนให้อดอยำกลำ บำกเป็นแน่ แต่ถ้ำยังไม่ แน่ใจ ก็ควรพิจำรณำต่อไปในข้อ 2. 10-Sep-14 30
  • 31. เขียนเป็นหนังสือพินัยกรรม  ระบุให้ชัดเจนว่ำทรัพย์สินใดมอบให้บุตรธิดำ หรือหลำน หรือพี่น้องคนไหน หรือมอบให้องค์กรกุศล หรือวัดวำอำรำม หรือจะให้ตั้งเป็นมูลนิธิขึ้น  โดยกำ หนดวัตถุประสงค์ และบุคคล ที่จะเป็นผู้ดำ เนินกำร จัดตั้งมูลนิธิก็ได้ 10-Sep-14 31
  • 32. ต้องทาเป็นตัวหนังสือ เป็นลายลักษณ์อักษร ต้องลงวัน เดือน ปีที่ทา ต้องเขียนด้วยลายมือของตัวเองท้งัหมด จะพิมพ์ดีดไม่ได้ ต้องลงลายมือชื่อ จะประทับตรายางลายเซ็นหรือตรา เครื่องหมายใด ๆ แทนลานเซ็นไม่ได้ ระบุข้อความให้ปรากฏชัดว่ายกทรัพย์สินอะไรให้แก่ใคร ไม่ต้องมีพยาน (เพราะตนเองได้เขียนมาทั้งฉบับอยู่แล้ว พยานมี ไว้เพื่อรับรองลายมือของผู้ทาพินัยกรรม) 10-Sep-14 32

Notes de l'éditeur

  1. จ.จิตใจ ยอมรับสัจธรรมการเปลี่ยนแปลง จ.เจ็บ รู้ข้อจำกัด ตรวจและดูแลสุขภาพ จ.จน มีเงินพอใช้ อย่าให้คนอื่นยืมเงิน อย่ารีบยกมรดกให้ลูกหลานให้ทำเป็นพินัยกรรม จ.จัดการ ถ่ายทอดความรู้ เรียนรู้ตลอดชีวิต จัดการเวลา จัดการระเบียบชีวิต