SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  36
ข้ อเสนอแนะในการทําวิจย
                      ั
การเขียนข้ อเสนอแนะมุ่งเสนอใน 3 ประเด็นหลัก คือ
ข้ อเสนอแนะในการทําวิจัย
1. เกี่ยวกับผลการวิจยที่นาไปใช้
                    ั ํ
เป็ นการเขี ย นให้ ผูอ่ า นทราบว่ า จากผลการวิ จ ัย ที่ ไ ด้ สามารถ
                     ้
นํา ไปใช้ ป ระโยชน์ อ ะไรได้บ้า ง โดยนิ สิ ต นั ก ศึ ก ษาจะต้อ ง
เสนอแนะและให้ความละเอียดอย่างเพียงพอที่จะสามารถนําไปใช้
ได้ทนที
     ั
ข้ อเสนอแนะในการทําวิจัย
2. เกี่ยวกับระเบียบวิธีวจย
                        ิั
เป็ นการเสนอแนะให้ผอ่านที่จะทําวิจยในทํานองเดียวกันได้ทราบว่า
                            ู้              ั
ควรทําอย่างไร ทําตามที่ นิสิต นักศึ กษาทําหรื อควรใช้วิธีการอื่ น
ใช้วิธีการใด ควรเสนอแนะไว้อย่างชัดเจน และต้องเสนอแนะว่า
ที่นิสิต นักศึกษาทํานั้นมีปัญหาอะไร และแก้ไขอย่างไรจึงจะได้ผลดี
ตัว อย่ า งเช่ น นิ สิ ต นัก ศึ ก ษาเก็ บ รวบรวมข้อ มู ล พบว่ า มี ปั ญ หา
เรื่ องเวลา จํานวนข้อสอบที่มีมากเกินไป นักเรี ยนเกิดความเบื่อหน่าย
การเสนอแนะ ต้องเสนอแนะครั้ งต่อไปควรระมัดระวังเรื่ องเวลา
จํานวนข้อสอบ
ข้ อเสนอแนะในการทําวิจัย
3. เกี่ยวกับการทําวิจยครั้งต่อไป
                     ั
เป็ นการเสนอแนะให้ ผูอ่ า นที่ จ ะทํา วิ จ ัย ครั้ งต่ อ ไปในลัก ษณะ
                                 ้
เดี ย วกัน ให้ ท ราบว่ า ควรจะทํา วิ จ ัย ในประเด็ น ปั ญ หาอะไร
อะไรบ้า ง ควรศึ ก ษาตัว แปรอะไรอี ก บ้า ง รวมทั้ง การเปลี่ ย น
ระเบี ย บวิ ธี วิ จ ัย หรื อ ไม่ จึ ง จะทํา ให้ไ ด้ผ ลการวิ จ ัย หรื อ ข้อ สรุ ป
ที่สมบูรณ์
หลักการเขียนข้ อเสนอแนะ
หลักการเขียนข้ อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะนั้นจะต้องเป็ นเนื้ อหาสาระที่ได้จากผลการวิจย                         ั
เรื่ องนั้น มิใช่จากความรู ้สึกนึกคิดของตัวผูวจยเอง       ้ิั
ต้อ งเป็ นเรื่ อ งที่ ใ หม่ ไม่ ใ ช่ เ รื่ อ งที่ รู้ ๆ กัน อยู่แ ล้ว กรณี เ ป็ น
เรื่ องเดิม ต้องยืนยันให้เห็นความสําคัญ
ข้อเสนอแนะที่ เสนอแนะไปต้องสามารถปฏิ บติได้หรื อทํา                ั
ได้จริ ง ภายในขอบเขตของการวิจย ระยะเวลาในการทํา
                                              ั
ข้อเสนอแนะทุ ก ข้อต้องมี รายละเอี ย ด มากพอที่ ผูอ่ านหรื อ            ้
ผูที่จะทําวิจยในทํานองเดียวกันสามารถนําไปปฏิบติได้ทนที
  ้            ั                                                     ั   ั
ข้ อเสนอแนะ
ในการเขียนสมมติฐาน
ข้ อเสนอแนะในการเขียนสมมติฐาน
1. ระบุทิศทางความสัมพันธ์ให้ชดเจนั
2. ประโยคสั้นๆ อ่านเข้าใจง่าย
3. ต้องเกี่ยวข้องกับปัญหาการวิจย
                               ั
4. ไม่ควรเขียนปั ญหาวิจยหลายๆประเด็นในสมมติฐานข้อเดียวกัน
                        ั
5. ทดสอบได้
6. สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
ข้ อเสนอแนะ
ในการดําเนินการวิจย
                  ั
ข้ อเสนอแนะในการดําเนินการวิจย
                             ั
·กําหนดปั ญหาที่จะดําเนินการวิจยั
·กําหนดวัตถุประสงค์การวิจย ั
·ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง ( ทฤษฎี เอกสาร งานวิจย )
                                                  ั
·กําหนดกรอบแนวคิด และตั้ง สมมติฐาน นิยามศัพท์
·กําหนดแบบการวิจย   ั
·กําหนดประชากรและวิธีการสุ่ มตัวอย่าง
·สร้างเครื่ องมือและหาประสิ ทธิภาพ ของเครื่ องมือ
·การรวมรวมข้อมูล ( แหล่งปฐมภูมิ, แหล่งทุติยภูมิ)
·การวิเคราะห์ขอมูล
                 ้
·การนําเสนอผล ( การเสนอรายงานการวิจย)  ั
กําหนดปัญหา
ในการดําเนินการวิจย
                  ั
กําหนดปัญหาทีจะดําเนินการวิจัย
               ่
เป็ นการกํ า หนดปั ญ หาของการวิ จ ั ย และเป็ นสิ่ งที่ มี
ความสํา คัญ มากในการวิ จ ัย และในการเลื อ กปั ญ หาใน
การวิจยต้องพิจารณาจากความรู ้ ทัศนคติ ความสามารถ
          ั
ของผูวิ จ ัย แหล่ ง ความรู ้ ที่ จ ะเป็ นส่ ว นเสริ ม ให้ ง านวิ จ ัย
        ้
สําเร็ จ ประชากรและวิธีการสุ่ มตัวอย่างการรวบรวมข้อมูล
รวมทั้งเงินทุน เวลาที่จะทําให้งานวิจยสําเร็ จ
                                          ั
กําหนดปัญหาทีจะดําเนินการวิจัย
              ่
ข้อควรพิจารณาในการเลือกปั ญหาคือ
   1. ต้องเป็ นปัญหาที่มีความสําคัญ
   2. สามารถแก้ปัญหาด้วยวิธีการที่มีเหตุผล
   3. มีขอมูลที่เที่ยงตรงและเชื่อถือสนับสนุน
          ้
   4. เป็ นปั ญหาที่แสดงถึงการริ เริ่ ม
กําหนดวัตถุประสงค์ ในวิจย
                        ั
กําหนดวัตถุประสงค์ ในการวิจย
                            ั
(STATEMENT OF RESEARCH OBJECTIVES)
 เมื่ อผูวิจยตัดสิ นใจเกี่ ยวกับสิ่ งที่ จะทําการวิจยแล้ว ผูวิจย
         ้ ั                                           ั        ้ ั
 ต้อ งกํา หนดข้อ ความที่ เ ป็ นปั ญ หาและวัต ถุ ป ระสงค์ใ น
 การวิจยให้ชดเจน การกําหนดวัตถุประสงค์ในการวิจยเป็ น
            ั   ั                                             ั
 การค้น หาคํา ตอบที่ ต ้องการจากงานวิจ ย วิธีก ารกําหนด
                                                 ั
 วัต ถุ ป ระสงค์ ที่ นิ ย มใช้ ที่ สุ ด คื อ การตั้ง สมมติ ฐ านใน
 การวิจย  ั
กําหนดกรอบแนวคิดและ
ตั้งสมมติฐาน นิยามศัพท์
กําหนดกรอบแนวคิดในการวิจย
                        ั
      (CONCEPTUAL FRAMEWORK )
แนวคิดของผูวิจยที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง
               ้ ั
ตัวแปรต้นและตัวแปรตาม ที่ใช้ศึกษาในการวิจยครั้งนั้น ๆ
                                               ั
โดยมี ที่ ม าจากการทบทวนเอกสารวรรณกรรม แนวคิ ด
ทฤษฎี ตลอดจนผลงานวิจยที่เกี่ยวข้อง แล้วนํามาเขียนเป็ น
                         ั
แผนภาพเชื่ อ มโยงเพื่ อ แสดงให้ เ ห็ น ถึ ง ความสั ม พัน ธ์
ระหว่างตัวแปรที่ ศึกษาในงานวิจย ประโยชน์ของกรอบ
                               ั
ความคิดในการวิจย   ั
กําหนดแบบการวิจย
               ั
กําหนดแบบการวิจย
                         ั
แบบการวิจยหมายถึง แผน โครงสร้ าง และยุทธวิธี ใน
                ั
การศึ ก ษาค้น คว้า เพื่ อ ให้ ไ ด้ม าซึ่ งคํา ตอบต่ อ ปั ญ หาที่
ต้องการวิจย ั
แผน หมายถึง ขอบข่ายของโปรแกรมการดําเนินงานวิจย               ั
ทั้งหมด ที่ผวจยได้ทาการวางแผนไว้
              ู้ ิ ั ํ
โครงสร้ าง หมายถึ ง เค้าโครงหรื อแบบจําลอง ของตัว
แปรในการวิจย       ั
กําหนดแบบการวิจย
                        ั
ยุทธวิธี หมายถึง วิธีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลและวิธีการ
วิเคราะห์ขอมูล
           ้
เค้าโครงการวิจย หมายถึง รายละเอียดของขั้นตอนต่างๆ
               ั
ของการทําการวิจย ซึ่ งเริ่ มตั้งแต่ ปั ญหาการวิจยไปจนถึง
                  ั                             ั
การเก็บรวบรวมข้อมูล และแนวทางในการวิเคราะห์
ลักษณะของแบบการวิจย
                  ั
ลักษณะของแบบการวิจย
                  ั
          แบบการวิจยที่ มีการทดลอง การออกแบบ
                       ั
เป็ นการกํา หนดรายละเอี ย ดต่ า ง ๆ เกี่ ย วกับ การ
ทดลองที่จาเป็ น ดังนี้
             ํ
    · การกําหนดกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม
    · กําหนดตัวแปรในการทดลอง
    · เลือกแบบแผนแบบการทดลอง
    · สร้างเครื่ องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง
    · ดําเนินการทดลองตามแผนแบบ
แบบการวิจัยเชิงสํ ารวจ
แบบการวิ จ ัย เชิ ง สํ า รวจ เป็ นการวิ จ ัย ที่ ไ ม่ มี ก ารสร้ า ง
สถานการณ์ เ ชื่ อ มโยงใด ๆ กั บ ข้ อ มู ล ที่ เ กิ ด ขึ้ นตาม
ธรรมชาติเป็ นการค้นหาความจริ งตามสภาพการณ์ปัจจุบน                 ั
ที่ปรากฏอยูหรื อให้เห็นว่ามีขอเท็จจริ ง อย่างไรที่ปรากฏอยู่
             ่                   ้
มี ค วามสั ม พัน ธ์ กัน อย่า งไร โดยไม่ มี ก ารจัด กระทํา เพื่ อ
ควบคุมตัวแปรใด ๆ รู ปแบบการวิจยแบบสํารวจจําแนกได้
                                     ั
ดังนี้ การสํารวจเชิ งบรรยาย การสํารวจเชิ งเปรี ยบเที ย บ
การสํารวจเชิงสหสัมพันธ์ การสํารวจเชิงสาเหตุ
แบบการวิจัยเชิงสํ ารวจ
การออกแบบการวิจยในการวิจยเชิงสํารวจที่สาคัญคือ
                ั         ั            ํ
    ออกแบบการเลือกตัวอย่าง
    ออกแบบการวัดค่าตัวแปร
    ออกแบบการวิเคราะห์ขอมูล
                        ้
แบบการวิจัยเชิงพัฒนา
แบบการวิจยเชิงพัฒนา
              ั
เป็ นการวิจยที่ มุ่งเน้นที่ จะนําผลการวิจยมาเพื่อปรั บปรุ ง
            ั                                 ั
เปลี่ยนแปลง เพิ่มคุณภาพ ประสิ ทธิ ภาพ การทํางานปกติ
ในองค์ก รหรื อ หน่ ว ยงานต่ า ง ๆ โดยอาศัย ยุท ธศาสตร์
                                          ่ ั
วิธีการหรื อเทคนิ คต่าง ๆ ทั้งนี้ ข้ ึนอยูกบลักษณะธรรมชาติ
ของงานหรื อหน่วยงานนั้น ๆ
แบบการวิจัยเชิงประเมิน
( EVALUATION RESEARCH )
 การวิจยเชิงประเมินผล ( Evaluation Research )
          ั
 เป็ นรู ปแบบการวิจยชนิ ดหนึ่ ง เหมื อนการวิจยเชิ งสํารวจ
                         ั                          ั
 แต่ ก ารวิ จ ั ย เชิ ง ประเมิ น ผล เป็ นวิ ธี การวิ จ ั ย ที่ มุ่ ง หา
 ความรู ้ +ความจริ งมาหาคุ ณค่ า ของสิ่ งที่ วิจยนั้น เพื่อให้
                                                  ั
 ผูบริ หารคิดสนใจว่าความยุติโครงการหรื อให้ดาเนิ นการ
   ้                                                      ํ
 ต่อไป
แบบการวิจัยเชิงประเมิน
( EVALUATION RESEARCH )
 การวิจยเชิงประเมินผล สามารถดําเนินการประเมินได้
          ั
 ใน 3 ระดับ
  1. ก่อนการดําเนินงาน
  2. ระหว่างดําเนินงาน
  3. สิ้ นสุ ดโครงการ
กระบวนการและขั้นตอน
การทําวิจยเชิงประเมินผล
         ั
กระบวนการและขั้นตอน
       การทําวิจยเชิงประเมินผล
                ั
ขั้นที่ 1 เลือกโครงการและตั้งหัวข้อวิจย
                                      ั
ขั้นที่ 2 ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
ขั้นที่ 3 กําหนดปัญหา เป้ าหมายและวัตถุประสงค์ของการประเมิน
ขั้นที่ 4 ออกแบบวิจย วางแผนวิจยประเมิน
                      ั         ั
ขั้นที่ 5 เก็บรวบรวมข้อมูล
ขั้นที่ 6 วิเคราะห์ขอมูลและแปรผล
                    ้
ขั้นที่ 7 การเสนอรายงานวิจยเชิงประเมินผล
                            ั
สรุปข้ อเสนอแนะในการทําวิจย
                          ั
 1. คํา ที่ ใ ช้ต ้อ ง ตรวจสอบจากพจนานุ ก รมที่ เ ป็ นที่
 ยอมรับ อย่าให้ผด
                ิ
 2.ต้องมี Reference ของภาพ และข้อความที่คดลอกมา
                                         ั
 3. อย่าใช้คาว่าหน่วยที่แบบแผนการจัดการเรี ยนรู ้ แต่
            ํ
 ให้ใช้คาว่า บทที่
        ํ
สรุปข้ อเสนอแนะในการทําวิจย
                          ั
 4.       หัวข้อใหญ่ตวอักษรใหญ่ชิดซ้าย หัวข้อย่อย
                     ั
 ย่อหน้า 1 Tab ตัวเล็กลงและลดหลันกันไป
                                ่
 5. Technical Term ต้องแปลเป็ นภาษาไทย เช่นแฟ้ ม
 ข้อมูลหลัก (Master File) เป็ นต้น
 6. อย่าใช้คาไทย สลับกับคําภาษาอังกฤษ
            ํ
สรุปข้ อเสนอแนะในการทําวิจย
                          ั
 7. เอกสารประกอบการสอน และตํา ราจะต้อ งเป็ น
 คนละวิชา
 8.     ตํารา ต้องมีการเปิ ดสอนในสถาบันการศึกษา
 ระดับอุดมศึกษา
 9. ขนาดตัวอักษร หัวข้อใหญ่มีขนาด 18 และหนา
 หัวข้อรองมีขนาด 16 และหนา
กล่ มที่ 17
            ุ
เรื่อง ข้ อเสนอแนะในการทําวิจย
                             ั
ผู้จัดทํา
1.นางสาวสมปอง ทองเนียม      รหัส   5202600101
2.นางสาวจันจิรา แดงคงแก้ว   รหัส   5202601679
3.นางสาวธนาพร หงส์ชย ั      รหัส    5202600093
4.นายอทิพนธ์ เมฆินทรางกูร
           ั                รหัส   5202600697
5.นายสุ ภทรพงษ์ ศิลปกร
         ั                  รหัส
6.นายศราวุธ เกตุวรั         รหัส   5202600713
7.นายกษิดิศ พฤกษะวัน        รหัส   5202601257

Contenu connexe

Tendances

ขอความอนุเคราะห์
ขอความอนุเคราะห์ขอความอนุเคราะห์
ขอความอนุเคราะห์
Rapheephan Phola
 
โครงงานภาษาอังกฤษ
โครงงานภาษาอังกฤษโครงงานภาษาอังกฤษ
โครงงานภาษาอังกฤษ
Samrit Kung
 
9 รูปแบบการวิจัย
9 รูปแบบการวิจัย9 รูปแบบการวิจัย
9 รูปแบบการวิจัย
guest9e1b8
 
การเขียนรายงานการวิจัย
การเขียนรายงานการวิจัยการเขียนรายงานการวิจัย
การเขียนรายงานการวิจัย
noinasang
 
การวิจัยเชิงสำรวจ
การวิจัยเชิงสำรวจการวิจัยเชิงสำรวจ
การวิจัยเชิงสำรวจ
khuwawa2513
 

Tendances (20)

การตั้งคำถามในแบบสอบถาม
การตั้งคำถามในแบบสอบถามการตั้งคำถามในแบบสอบถาม
การตั้งคำถามในแบบสอบถาม
 
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรและกลุ่มตัวอย่างประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
 
ขอความอนุเคราะห์
ขอความอนุเคราะห์ขอความอนุเคราะห์
ขอความอนุเคราะห์
 
เล่มที่ 1 เรื่อง Occupations
เล่มที่ 1 เรื่อง Occupationsเล่มที่ 1 เรื่อง Occupations
เล่มที่ 1 เรื่อง Occupations
 
โครงงานภาษาอังกฤษ
โครงงานภาษาอังกฤษโครงงานภาษาอังกฤษ
โครงงานภาษาอังกฤษ
 
การสร้างกรอบแนวคิดและการกำหนดตัวแปร#1
การสร้างกรอบแนวคิดและการกำหนดตัวแปร#1การสร้างกรอบแนวคิดและการกำหนดตัวแปร#1
การสร้างกรอบแนวคิดและการกำหนดตัวแปร#1
 
9 รูปแบบการวิจัย
9 รูปแบบการวิจัย9 รูปแบบการวิจัย
9 รูปแบบการวิจัย
 
การลงรายการบรรณานุกรมตามหลักเกณฑ์ AACR2R
การลงรายการบรรณานุกรมตามหลักเกณฑ์ AACR2R การลงรายการบรรณานุกรมตามหลักเกณฑ์ AACR2R
การลงรายการบรรณานุกรมตามหลักเกณฑ์ AACR2R
 
อินธนูครู
อินธนูครูอินธนูครู
อินธนูครู
 
หน่วยการเรียนรู้บูรณาการระหว่างกลุ่มสาระ
หน่วยการเรียนรู้บูรณาการระหว่างกลุ่มสาระหน่วยการเรียนรู้บูรณาการระหว่างกลุ่มสาระ
หน่วยการเรียนรู้บูรณาการระหว่างกลุ่มสาระ
 
บทที่9 การประเมินผลการเรียนรู้
บทที่9 การประเมินผลการเรียนรู้บทที่9 การประเมินผลการเรียนรู้
บทที่9 การประเมินผลการเรียนรู้
 
ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์นไดค์
ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์นไดค์
ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์นไดค์
 
Casestudy การศึกษารายกรณี
Casestudy การศึกษารายกรณีCasestudy การศึกษารายกรณี
Casestudy การศึกษารายกรณี
 
การเขียนรายงานการวิจัย
การเขียนรายงานการวิจัยการเขียนรายงานการวิจัย
การเขียนรายงานการวิจัย
 
นโยบายไทยแลนด์ 4 กับการศึกษา
นโยบายไทยแลนด์ 4 กับการศึกษานโยบายไทยแลนด์ 4 กับการศึกษา
นโยบายไทยแลนด์ 4 กับการศึกษา
 
มาตรฐานและตัวบ่งชี้ สมศ.รอบสี่
มาตรฐานและตัวบ่งชี้ สมศ.รอบสี่มาตรฐานและตัวบ่งชี้ สมศ.รอบสี่
มาตรฐานและตัวบ่งชี้ สมศ.รอบสี่
 
การวิจัยเชิงสำรวจ
การวิจัยเชิงสำรวจการวิจัยเชิงสำรวจ
การวิจัยเชิงสำรวจ
 
ชุดกิจกรรม เรื่อง รายงานการศึกษาค้นคว้า ชุด รูปแบบและจุดมุ่งหมายของรายงาน
ชุดกิจกรรม เรื่อง รายงานการศึกษาค้นคว้า  ชุด รูปแบบและจุดมุ่งหมายของรายงานชุดกิจกรรม เรื่อง รายงานการศึกษาค้นคว้า  ชุด รูปแบบและจุดมุ่งหมายของรายงาน
ชุดกิจกรรม เรื่อง รายงานการศึกษาค้นคว้า ชุด รูปแบบและจุดมุ่งหมายของรายงาน
 
เอกสารประกอบการอบรม PPT-มัธยม.pdf
เอกสารประกอบการอบรม PPT-มัธยม.pdfเอกสารประกอบการอบรม PPT-มัธยม.pdf
เอกสารประกอบการอบรม PPT-มัธยม.pdf
 
การสร้างเครื่องมือและเกณฑ์ประเมิน แบบ Scoring Rubrics
การสร้างเครื่องมือและเกณฑ์ประเมิน แบบ Scoring Rubricsการสร้างเครื่องมือและเกณฑ์ประเมิน แบบ Scoring Rubrics
การสร้างเครื่องมือและเกณฑ์ประเมิน แบบ Scoring Rubrics
 

En vedette

นำเสนอหัวข้องานวิจัย
นำเสนอหัวข้องานวิจัยนำเสนอหัวข้องานวิจัย
นำเสนอหัวข้องานวิจัย
Nongtato Thailand
 
งานนำเสนอ Ppt. วิจัย
งานนำเสนอ Ppt. วิจัยงานนำเสนอ Ppt. วิจัย
งานนำเสนอ Ppt. วิจัย
savokclash
 
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษ
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษวิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษ
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษ
Kritsadin Khemtong
 

En vedette (10)

5 principles of good slide design
5 principles of good slide design5 principles of good slide design
5 principles of good slide design
 
ตัวอย่างการนำเสนอโครงร่างวิจัย 3 บท
ตัวอย่างการนำเสนอโครงร่างวิจัย 3 บทตัวอย่างการนำเสนอโครงร่างวิจัย 3 บท
ตัวอย่างการนำเสนอโครงร่างวิจัย 3 บท
 
การปฏิบัติงานประจำสู่การวิจัย (Routine to Research: R2R) workshop2
การปฏิบัติงานประจำสู่การวิจัย (Routine to Research: R2R) workshop2การปฏิบัติงานประจำสู่การวิจัย (Routine to Research: R2R) workshop2
การปฏิบัติงานประจำสู่การวิจัย (Routine to Research: R2R) workshop2
 
Garr Reynolds top 10 slides presentation
Garr Reynolds top 10 slides presentationGarr Reynolds top 10 slides presentation
Garr Reynolds top 10 slides presentation
 
นำเสนอหัวข้องานวิจัย
นำเสนอหัวข้องานวิจัยนำเสนอหัวข้องานวิจัย
นำเสนอหัวข้องานวิจัย
 
งานนำเสนอ Ppt. วิจัย
งานนำเสนอ Ppt. วิจัยงานนำเสนอ Ppt. วิจัย
งานนำเสนอ Ppt. วิจัย
 
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษ
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษวิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษ
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษ
 
Sustainable energy ppt
Sustainable energy pptSustainable energy ppt
Sustainable energy ppt
 
Stroke
StrokeStroke
Stroke
 
Sample slides by Garr Reynolds
Sample slides by Garr ReynoldsSample slides by Garr Reynolds
Sample slides by Garr Reynolds
 

Similaire à ตัวอย่างการทำslide

การทำโครงงาน 5 ขั้น
การทำโครงงาน 5 ขั้นการทำโครงงาน 5 ขั้น
การทำโครงงาน 5 ขั้น
Pongtong Kannacham
 
เค้าโครงงานวิจัยในชั้นเรียน
เค้าโครงงานวิจัยในชั้นเรียนเค้าโครงงานวิจัยในชั้นเรียน
เค้าโครงงานวิจัยในชั้นเรียน
nang_phy29
 
427 416 ชั่วโมงที่ ˆ 1 20 มิ.ย. 54
427 416  ชั่วโมงที่ ˆ 1 20 มิ.ย. 54427 416  ชั่วโมงที่ ˆ 1 20 มิ.ย. 54
427 416 ชั่วโมงที่ ˆ 1 20 มิ.ย. 54
Sani Satjachaliao
 
Cแนะแนว
CแนะแนวCแนะแนว
Cแนะแนว
yutict
 
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัยการวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
sudaphud
 
การตั้งชื่อหัวข้อวิจัยชั้นเรียน
การตั้งชื่อหัวข้อวิจัยชั้นเรียนการตั้งชื่อหัวข้อวิจัยชั้นเรียน
การตั้งชื่อหัวข้อวิจัยชั้นเรียน
Prachyanun Nilsook
 
เรียนรู้วิธีทำโครงงานวิทยาศาสตร์
เรียนรู้วิธีทำโครงงานวิทยาศาสตร์เรียนรู้วิธีทำโครงงานวิทยาศาสตร์
เรียนรู้วิธีทำโครงงานวิทยาศาสตร์
korakate
 

Similaire à ตัวอย่างการทำslide (20)

โครงงานภาษาไทย
โครงงานภาษาไทยโครงงานภาษาไทย
โครงงานภาษาไทย
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
การทำโครงงาน 5 ขั้น
การทำโครงงาน 5 ขั้นการทำโครงงาน 5 ขั้น
การทำโครงงาน 5 ขั้น
 
การเขียนโครงร่าง
การเขียนโครงร่างการเขียนโครงร่าง
การเขียนโครงร่าง
 
เค้าโครงงานวิจัยในชั้นเรียน
เค้าโครงงานวิจัยในชั้นเรียนเค้าโครงงานวิจัยในชั้นเรียน
เค้าโครงงานวิจัยในชั้นเรียน
 
วิธีการเขียนวิจัยในชั้นเรียน
วิธีการเขียนวิจัยในชั้นเรียนวิธีการเขียนวิจัยในชั้นเรียน
วิธีการเขียนวิจัยในชั้นเรียน
 
427 416 ชั่วโมงที่ ˆ 1 20 มิ.ย. 54
427 416  ชั่วโมงที่ ˆ 1 20 มิ.ย. 54427 416  ชั่วโมงที่ ˆ 1 20 มิ.ย. 54
427 416 ชั่วโมงที่ ˆ 1 20 มิ.ย. 54
 
Cแนะแนว
CแนะแนวCแนะแนว
Cแนะแนว
 
2222
22222222
2222
 
การวิจัยในชั้นเรียน
การวิจัยในชั้นเรียนการวิจัยในชั้นเรียน
การวิจัยในชั้นเรียน
 
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัยการวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
 
PPT อ.สกลชัย
PPT อ.สกลชัยPPT อ.สกลชัย
PPT อ.สกลชัย
 
123
123123
123
 
123
123123
123
 
การตั้งชื่อหัวข้อวิจัยชั้นเรียน
การตั้งชื่อหัวข้อวิจัยชั้นเรียนการตั้งชื่อหัวข้อวิจัยชั้นเรียน
การตั้งชื่อหัวข้อวิจัยชั้นเรียน
 
07 final exam
07 final exam07 final exam
07 final exam
 
เรียนรู้วิธีทำโครงงานวิทยาศาสตร์
เรียนรู้วิธีทำโครงงานวิทยาศาสตร์เรียนรู้วิธีทำโครงงานวิทยาศาสตร์
เรียนรู้วิธีทำโครงงานวิทยาศาสตร์
 
สรุปบทที่ 8
สรุปบทที่ 8สรุปบทที่ 8
สรุปบทที่ 8
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 

Plus de rubtumproject.com

บทที่ 5 (แก้ไขครั้งที่ 1)
บทที่ 5 (แก้ไขครั้งที่ 1)บทที่ 5 (แก้ไขครั้งที่ 1)
บทที่ 5 (แก้ไขครั้งที่ 1)
rubtumproject.com
 

Plus de rubtumproject.com (20)

ปัจจัยทางการตลาดที่ส่งผลต่อการรับประทานอาหารที่ครัวดารา ม.บูรพา
ปัจจัยทางการตลาดที่ส่งผลต่อการรับประทานอาหารที่ครัวดารา ม.บูรพาปัจจัยทางการตลาดที่ส่งผลต่อการรับประทานอาหารที่ครัวดารา ม.บูรพา
ปัจจัยทางการตลาดที่ส่งผลต่อการรับประทานอาหารที่ครัวดารา ม.บูรพา
 
บทที่ 5 (แก้ไขครั้งที่ 1)
บทที่ 5 (แก้ไขครั้งที่ 1)บทที่ 5 (แก้ไขครั้งที่ 1)
บทที่ 5 (แก้ไขครั้งที่ 1)
 
ตัวอย่างบทที่ 2 พฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์ของกลุ่มชายรักชาย
ตัวอย่างบทที่ 2 พฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์ของกลุ่มชายรักชายตัวอย่างบทที่ 2 พฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์ของกลุ่มชายรักชาย
ตัวอย่างบทที่ 2 พฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์ของกลุ่มชายรักชาย
 
ตัวอย่างงานเขียนโปรแกรมด้วย Access
ตัวอย่างงานเขียนโปรแกรมด้วย Accessตัวอย่างงานเขียนโปรแกรมด้วย Access
ตัวอย่างงานเขียนโปรแกรมด้วย Access
 
รับจัดฟอร์แมต ตัวอย่างงานจัดหน้าของม.ราชภัฎจัทรเกษม
รับจัดฟอร์แมต ตัวอย่างงานจัดหน้าของม.ราชภัฎจัทรเกษมรับจัดฟอร์แมต ตัวอย่างงานจัดหน้าของม.ราชภัฎจัทรเกษม
รับจัดฟอร์แมต ตัวอย่างงานจัดหน้าของม.ราชภัฎจัทรเกษม
 
รายงานการสัมมนาทางสังคมวิทยา กรณีอั้มเนโกะ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รหัส 53
รายงานการสัมมนาทางสังคมวิทยา กรณีอั้มเนโกะ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รหัส 53รายงานการสัมมนาทางสังคมวิทยา กรณีอั้มเนโกะ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รหัส 53
รายงานการสัมมนาทางสังคมวิทยา กรณีอั้มเนโกะ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รหัส 53
 
DFD ระบบจองรีสอร์ทออนไลน์
DFD ระบบจองรีสอร์ทออนไลน์DFD ระบบจองรีสอร์ทออนไลน์
DFD ระบบจองรีสอร์ทออนไลน์
 
DFD ระบบจองรีสอร์ทออนไลน์
DFD ระบบจองรีสอร์ทออนไลน์DFD ระบบจองรีสอร์ทออนไลน์
DFD ระบบจองรีสอร์ทออนไลน์
 
คู่มือการใช้งานระบบการจัดการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
คู่มือการใช้งานระบบการจัดการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์คู่มือการใช้งานระบบการจัดการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
คู่มือการใช้งานระบบการจัดการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
 
บททีี่ 1-5 การควบรวมกันขององค์กรนวัตกรรม
บททีี่ 1-5 การควบรวมกันขององค์กรนวัตกรรมบททีี่ 1-5 การควบรวมกันขององค์กรนวัตกรรม
บททีี่ 1-5 การควบรวมกันขององค์กรนวัตกรรม
 
บทที่ 3 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกและการวาดภาพ
บทที่ 3 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกและการวาดภาพบทที่ 3 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกและการวาดภาพ
บทที่ 3 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกและการวาดภาพ
 
บทที่ 2 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกและการวาดภาพ
บทที่ 2 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกและการวาดภาพบทที่ 2 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกและการวาดภาพ
บทที่ 2 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกและการวาดภาพ
 
วิทยานิพนธ์บทที่ 4 พัฒนาการท่องเที่ยว
วิทยานิพนธ์บทที่ 4 พัฒนาการท่องเที่ยววิทยานิพนธ์บทที่ 4 พัฒนาการท่องเที่ยว
วิทยานิพนธ์บทที่ 4 พัฒนาการท่องเที่ยว
 
บทที่ 3 ระบบ android ocr
บทที่ 3 ระบบ android ocr บทที่ 3 ระบบ android ocr
บทที่ 3 ระบบ android ocr
 
ตัวอย่างบทที่่ 1-2 โปรแกรม
ตัวอย่างบทที่่ 1-2 โปรแกรมตัวอย่างบทที่่ 1-2 โปรแกรม
ตัวอย่างบทที่่ 1-2 โปรแกรม
 
ตัวอย่างบทที่ 2 ระบบ e-learning สอนphotoshop
ตัวอย่างบทที่ 2 ระบบ e-learning สอนphotoshopตัวอย่างบทที่ 2 ระบบ e-learning สอนphotoshop
ตัวอย่างบทที่ 2 ระบบ e-learning สอนphotoshop
 
ตัวอย่างบทที่ 3 ระบบ e-learning สอนphotoshop
ตัวอย่างบทที่ 3 ระบบ e-learning สอนphotoshopตัวอย่างบทที่ 3 ระบบ e-learning สอนphotoshop
ตัวอย่างบทที่ 3 ระบบ e-learning สอนphotoshop
 
ตัวอย่างงานเกมส์เขียนด้วยภาษา C
ตัวอย่างงานเกมส์เขียนด้วยภาษา Cตัวอย่างงานเกมส์เขียนด้วยภาษา C
ตัวอย่างงานเกมส์เขียนด้วยภาษา C
 
ตัวอย่างแบบสอบถามงานวิจัย
ตัวอย่างแบบสอบถามงานวิจัยตัวอย่างแบบสอบถามงานวิจัย
ตัวอย่างแบบสอบถามงานวิจัย
 
บัญชีกำไรขาดทุนร้านซ่อมแซมเสื้อผ้า
บัญชีกำไรขาดทุนร้านซ่อมแซมเสื้อผ้าบัญชีกำไรขาดทุนร้านซ่อมแซมเสื้อผ้า
บัญชีกำไรขาดทุนร้านซ่อมแซมเสื้อผ้า
 

ตัวอย่างการทำslide

  • 1.
  • 2. ข้ อเสนอแนะในการทําวิจย ั การเขียนข้ อเสนอแนะมุ่งเสนอใน 3 ประเด็นหลัก คือ
  • 3. ข้ อเสนอแนะในการทําวิจัย 1. เกี่ยวกับผลการวิจยที่นาไปใช้ ั ํ เป็ นการเขี ย นให้ ผูอ่ า นทราบว่ า จากผลการวิ จ ัย ที่ ไ ด้ สามารถ ้ นํา ไปใช้ ป ระโยชน์ อ ะไรได้บ้า ง โดยนิ สิ ต นั ก ศึ ก ษาจะต้อ ง เสนอแนะและให้ความละเอียดอย่างเพียงพอที่จะสามารถนําไปใช้ ได้ทนที ั
  • 4. ข้ อเสนอแนะในการทําวิจัย 2. เกี่ยวกับระเบียบวิธีวจย ิั เป็ นการเสนอแนะให้ผอ่านที่จะทําวิจยในทํานองเดียวกันได้ทราบว่า ู้ ั ควรทําอย่างไร ทําตามที่ นิสิต นักศึ กษาทําหรื อควรใช้วิธีการอื่ น ใช้วิธีการใด ควรเสนอแนะไว้อย่างชัดเจน และต้องเสนอแนะว่า ที่นิสิต นักศึกษาทํานั้นมีปัญหาอะไร และแก้ไขอย่างไรจึงจะได้ผลดี ตัว อย่ า งเช่ น นิ สิ ต นัก ศึ ก ษาเก็ บ รวบรวมข้อ มู ล พบว่ า มี ปั ญ หา เรื่ องเวลา จํานวนข้อสอบที่มีมากเกินไป นักเรี ยนเกิดความเบื่อหน่าย การเสนอแนะ ต้องเสนอแนะครั้ งต่อไปควรระมัดระวังเรื่ องเวลา จํานวนข้อสอบ
  • 5. ข้ อเสนอแนะในการทําวิจัย 3. เกี่ยวกับการทําวิจยครั้งต่อไป ั เป็ นการเสนอแนะให้ ผูอ่ า นที่ จ ะทํา วิ จ ัย ครั้ งต่ อ ไปในลัก ษณะ ้ เดี ย วกัน ให้ ท ราบว่ า ควรจะทํา วิ จ ัย ในประเด็ น ปั ญ หาอะไร อะไรบ้า ง ควรศึ ก ษาตัว แปรอะไรอี ก บ้า ง รวมทั้ง การเปลี่ ย น ระเบี ย บวิ ธี วิ จ ัย หรื อ ไม่ จึ ง จะทํา ให้ไ ด้ผ ลการวิ จ ัย หรื อ ข้อ สรุ ป ที่สมบูรณ์
  • 7. หลักการเขียนข้ อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะนั้นจะต้องเป็ นเนื้ อหาสาระที่ได้จากผลการวิจย ั เรื่ องนั้น มิใช่จากความรู ้สึกนึกคิดของตัวผูวจยเอง ้ิั ต้อ งเป็ นเรื่ อ งที่ ใ หม่ ไม่ ใ ช่ เ รื่ อ งที่ รู้ ๆ กัน อยู่แ ล้ว กรณี เ ป็ น เรื่ องเดิม ต้องยืนยันให้เห็นความสําคัญ ข้อเสนอแนะที่ เสนอแนะไปต้องสามารถปฏิ บติได้หรื อทํา ั ได้จริ ง ภายในขอบเขตของการวิจย ระยะเวลาในการทํา ั ข้อเสนอแนะทุ ก ข้อต้องมี รายละเอี ย ด มากพอที่ ผูอ่ านหรื อ ้ ผูที่จะทําวิจยในทํานองเดียวกันสามารถนําไปปฏิบติได้ทนที ้ ั ั ั
  • 9. ข้ อเสนอแนะในการเขียนสมมติฐาน 1. ระบุทิศทางความสัมพันธ์ให้ชดเจนั 2. ประโยคสั้นๆ อ่านเข้าใจง่าย 3. ต้องเกี่ยวข้องกับปัญหาการวิจย ั 4. ไม่ควรเขียนปั ญหาวิจยหลายๆประเด็นในสมมติฐานข้อเดียวกัน ั 5. ทดสอบได้ 6. สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
  • 11. ข้ อเสนอแนะในการดําเนินการวิจย ั ·กําหนดปั ญหาที่จะดําเนินการวิจยั ·กําหนดวัตถุประสงค์การวิจย ั ·ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง ( ทฤษฎี เอกสาร งานวิจย ) ั ·กําหนดกรอบแนวคิด และตั้ง สมมติฐาน นิยามศัพท์ ·กําหนดแบบการวิจย ั ·กําหนดประชากรและวิธีการสุ่ มตัวอย่าง ·สร้างเครื่ องมือและหาประสิ ทธิภาพ ของเครื่ องมือ ·การรวมรวมข้อมูล ( แหล่งปฐมภูมิ, แหล่งทุติยภูมิ) ·การวิเคราะห์ขอมูล ้ ·การนําเสนอผล ( การเสนอรายงานการวิจย) ั
  • 13. กําหนดปัญหาทีจะดําเนินการวิจัย ่ เป็ นการกํ า หนดปั ญ หาของการวิ จ ั ย และเป็ นสิ่ งที่ มี ความสํา คัญ มากในการวิ จ ัย และในการเลื อ กปั ญ หาใน การวิจยต้องพิจารณาจากความรู ้ ทัศนคติ ความสามารถ ั ของผูวิ จ ัย แหล่ ง ความรู ้ ที่ จ ะเป็ นส่ ว นเสริ ม ให้ ง านวิ จ ัย ้ สําเร็ จ ประชากรและวิธีการสุ่ มตัวอย่างการรวบรวมข้อมูล รวมทั้งเงินทุน เวลาที่จะทําให้งานวิจยสําเร็ จ ั
  • 14. กําหนดปัญหาทีจะดําเนินการวิจัย ่ ข้อควรพิจารณาในการเลือกปั ญหาคือ 1. ต้องเป็ นปัญหาที่มีความสําคัญ 2. สามารถแก้ปัญหาด้วยวิธีการที่มีเหตุผล 3. มีขอมูลที่เที่ยงตรงและเชื่อถือสนับสนุน ้ 4. เป็ นปั ญหาที่แสดงถึงการริ เริ่ ม
  • 16. กําหนดวัตถุประสงค์ ในการวิจย ั (STATEMENT OF RESEARCH OBJECTIVES) เมื่ อผูวิจยตัดสิ นใจเกี่ ยวกับสิ่ งที่ จะทําการวิจยแล้ว ผูวิจย ้ ั ั ้ ั ต้อ งกํา หนดข้อ ความที่ เ ป็ นปั ญ หาและวัต ถุ ป ระสงค์ใ น การวิจยให้ชดเจน การกําหนดวัตถุประสงค์ในการวิจยเป็ น ั ั ั การค้น หาคํา ตอบที่ ต ้องการจากงานวิจ ย วิธีก ารกําหนด ั วัต ถุ ป ระสงค์ ที่ นิ ย มใช้ ที่ สุ ด คื อ การตั้ง สมมติ ฐ านใน การวิจย ั
  • 18. กําหนดกรอบแนวคิดในการวิจย ั (CONCEPTUAL FRAMEWORK ) แนวคิดของผูวิจยที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ้ ั ตัวแปรต้นและตัวแปรตาม ที่ใช้ศึกษาในการวิจยครั้งนั้น ๆ ั โดยมี ที่ ม าจากการทบทวนเอกสารวรรณกรรม แนวคิ ด ทฤษฎี ตลอดจนผลงานวิจยที่เกี่ยวข้อง แล้วนํามาเขียนเป็ น ั แผนภาพเชื่ อ มโยงเพื่ อ แสดงให้ เ ห็ น ถึ ง ความสั ม พัน ธ์ ระหว่างตัวแปรที่ ศึกษาในงานวิจย ประโยชน์ของกรอบ ั ความคิดในการวิจย ั
  • 20. กําหนดแบบการวิจย ั แบบการวิจยหมายถึง แผน โครงสร้ าง และยุทธวิธี ใน ั การศึ ก ษาค้น คว้า เพื่ อ ให้ ไ ด้ม าซึ่ งคํา ตอบต่ อ ปั ญ หาที่ ต้องการวิจย ั แผน หมายถึง ขอบข่ายของโปรแกรมการดําเนินงานวิจย ั ทั้งหมด ที่ผวจยได้ทาการวางแผนไว้ ู้ ิ ั ํ โครงสร้ าง หมายถึ ง เค้าโครงหรื อแบบจําลอง ของตัว แปรในการวิจย ั
  • 21. กําหนดแบบการวิจย ั ยุทธวิธี หมายถึง วิธีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลและวิธีการ วิเคราะห์ขอมูล ้ เค้าโครงการวิจย หมายถึง รายละเอียดของขั้นตอนต่างๆ ั ของการทําการวิจย ซึ่ งเริ่ มตั้งแต่ ปั ญหาการวิจยไปจนถึง ั ั การเก็บรวบรวมข้อมูล และแนวทางในการวิเคราะห์
  • 23. ลักษณะของแบบการวิจย ั แบบการวิจยที่ มีการทดลอง การออกแบบ ั เป็ นการกํา หนดรายละเอี ย ดต่ า ง ๆ เกี่ ย วกับ การ ทดลองที่จาเป็ น ดังนี้ ํ · การกําหนดกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม · กําหนดตัวแปรในการทดลอง · เลือกแบบแผนแบบการทดลอง · สร้างเครื่ องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง · ดําเนินการทดลองตามแผนแบบ
  • 24. แบบการวิจัยเชิงสํ ารวจ แบบการวิ จ ัย เชิ ง สํ า รวจ เป็ นการวิ จ ัย ที่ ไ ม่ มี ก ารสร้ า ง สถานการณ์ เ ชื่ อ มโยงใด ๆ กั บ ข้ อ มู ล ที่ เ กิ ด ขึ้ นตาม ธรรมชาติเป็ นการค้นหาความจริ งตามสภาพการณ์ปัจจุบน ั ที่ปรากฏอยูหรื อให้เห็นว่ามีขอเท็จจริ ง อย่างไรที่ปรากฏอยู่ ่ ้ มี ค วามสั ม พัน ธ์ กัน อย่า งไร โดยไม่ มี ก ารจัด กระทํา เพื่ อ ควบคุมตัวแปรใด ๆ รู ปแบบการวิจยแบบสํารวจจําแนกได้ ั ดังนี้ การสํารวจเชิ งบรรยาย การสํารวจเชิ งเปรี ยบเที ย บ การสํารวจเชิงสหสัมพันธ์ การสํารวจเชิงสาเหตุ
  • 25. แบบการวิจัยเชิงสํ ารวจ การออกแบบการวิจยในการวิจยเชิงสํารวจที่สาคัญคือ ั ั ํ ออกแบบการเลือกตัวอย่าง ออกแบบการวัดค่าตัวแปร ออกแบบการวิเคราะห์ขอมูล ้
  • 26. แบบการวิจัยเชิงพัฒนา แบบการวิจยเชิงพัฒนา ั เป็ นการวิจยที่ มุ่งเน้นที่ จะนําผลการวิจยมาเพื่อปรั บปรุ ง ั ั เปลี่ยนแปลง เพิ่มคุณภาพ ประสิ ทธิ ภาพ การทํางานปกติ ในองค์ก รหรื อ หน่ ว ยงานต่ า ง ๆ โดยอาศัย ยุท ธศาสตร์ ่ ั วิธีการหรื อเทคนิ คต่าง ๆ ทั้งนี้ ข้ ึนอยูกบลักษณะธรรมชาติ ของงานหรื อหน่วยงานนั้น ๆ
  • 27. แบบการวิจัยเชิงประเมิน ( EVALUATION RESEARCH ) การวิจยเชิงประเมินผล ( Evaluation Research ) ั เป็ นรู ปแบบการวิจยชนิ ดหนึ่ ง เหมื อนการวิจยเชิ งสํารวจ ั ั แต่ ก ารวิ จ ั ย เชิ ง ประเมิ น ผล เป็ นวิ ธี การวิ จ ั ย ที่ มุ่ ง หา ความรู ้ +ความจริ งมาหาคุ ณค่ า ของสิ่ งที่ วิจยนั้น เพื่อให้ ั ผูบริ หารคิดสนใจว่าความยุติโครงการหรื อให้ดาเนิ นการ ้ ํ ต่อไป
  • 28. แบบการวิจัยเชิงประเมิน ( EVALUATION RESEARCH ) การวิจยเชิงประเมินผล สามารถดําเนินการประเมินได้ ั ใน 3 ระดับ 1. ก่อนการดําเนินงาน 2. ระหว่างดําเนินงาน 3. สิ้ นสุ ดโครงการ
  • 30. กระบวนการและขั้นตอน การทําวิจยเชิงประเมินผล ั ขั้นที่ 1 เลือกโครงการและตั้งหัวข้อวิจย ั ขั้นที่ 2 ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง ขั้นที่ 3 กําหนดปัญหา เป้ าหมายและวัตถุประสงค์ของการประเมิน ขั้นที่ 4 ออกแบบวิจย วางแผนวิจยประเมิน ั ั ขั้นที่ 5 เก็บรวบรวมข้อมูล ขั้นที่ 6 วิเคราะห์ขอมูลและแปรผล ้ ขั้นที่ 7 การเสนอรายงานวิจยเชิงประเมินผล ั
  • 31. สรุปข้ อเสนอแนะในการทําวิจย ั 1. คํา ที่ ใ ช้ต ้อ ง ตรวจสอบจากพจนานุ ก รมที่ เ ป็ นที่ ยอมรับ อย่าให้ผด ิ 2.ต้องมี Reference ของภาพ และข้อความที่คดลอกมา ั 3. อย่าใช้คาว่าหน่วยที่แบบแผนการจัดการเรี ยนรู ้ แต่ ํ ให้ใช้คาว่า บทที่ ํ
  • 32. สรุปข้ อเสนอแนะในการทําวิจย ั 4. หัวข้อใหญ่ตวอักษรใหญ่ชิดซ้าย หัวข้อย่อย ั ย่อหน้า 1 Tab ตัวเล็กลงและลดหลันกันไป ่ 5. Technical Term ต้องแปลเป็ นภาษาไทย เช่นแฟ้ ม ข้อมูลหลัก (Master File) เป็ นต้น 6. อย่าใช้คาไทย สลับกับคําภาษาอังกฤษ ํ
  • 33. สรุปข้ อเสนอแนะในการทําวิจย ั 7. เอกสารประกอบการสอน และตํา ราจะต้อ งเป็ น คนละวิชา 8. ตํารา ต้องมีการเปิ ดสอนในสถาบันการศึกษา ระดับอุดมศึกษา 9. ขนาดตัวอักษร หัวข้อใหญ่มีขนาด 18 และหนา หัวข้อรองมีขนาด 16 และหนา
  • 34.
  • 35. กล่ มที่ 17 ุ เรื่อง ข้ อเสนอแนะในการทําวิจย ั
  • 36. ผู้จัดทํา 1.นางสาวสมปอง ทองเนียม รหัส 5202600101 2.นางสาวจันจิรา แดงคงแก้ว รหัส 5202601679 3.นางสาวธนาพร หงส์ชย ั รหัส 5202600093 4.นายอทิพนธ์ เมฆินทรางกูร ั รหัส 5202600697 5.นายสุ ภทรพงษ์ ศิลปกร ั รหัส 6.นายศราวุธ เกตุวรั รหัส 5202600713 7.นายกษิดิศ พฤกษะวัน รหัส 5202601257