More Related Content
Similar to ราก (Root) (20)
ราก (Root)
- 4. โครงสร้างตามยาวของราก
แบ่งได้ 4 บริเวณ คือ
1. บริเวณหมวกราก (Root cap)
2.บริเวณเซลล์กำาลังแบ่งตัว(Region of
cell division)
3. บริเวณเซลล์ขยายตัวตามยาว (Region
of cell elongation)
4. บริเวณเซลล์เปลี่ยนแปลงไปทำาหน้าที่
เฉพาะ (Region of cell differentiation
and maturation)
- 14. โครงสร้างของรากตามภาค
ตัดขวาง
2. cortex เป็นอาณาเขตระหว่างชั้น epidermis และ
stele ประกอบด้วยเนื้อเยื่อพาเรงคิมาที่ทำาหน้าที่สะสม
นำ้าและอาหารเป็นส่วนใหญ่ ชันในสุดของ cortex จะ
้
เป็นเซลล์แถวเดียวเรียก endodermis ในรากพืชใบ
เลี้ยงเดี่ยวจะเห็นชัดเจนเซลล์ในชั้นนี้เมื่อมีอายุมากขึ้น
จะมีผนังหนาเพราะมีสารซูเบอริน หรือลิกนินสะสมอยู่
แต่จะมีชวงที่มีเซลล์ผนังบางแทรกอยู่ในชันนี้และอยู่
่ ้
ตรงกับแนวของไซเลม
- 15. โครงสร้างของรากตามภาค
ตัดขวาง
3. stele เป็นบริเวณที่อยู่ถัดจากชั้น
endodermisเข้าไป พบว่าstele ในรากจะแคบกว่า
ชัน cortex ประกอบด้วยชันต่างๆดังนี้
้ ้
3.1 pericycle เป็นเซลล์ผนังบางขนาดเล็กมี 1-2
แถว พบเฉพาะในรากเท่านัน เป็นแหล่งกำาเนิด
้
ของรากแขนง ( secondary root )
3.2 vascular bundle ประกอบด้วย xylem อยู่
ตรงใจกลางเรียงเป็นแฉกโดยมี phloem อยู่
ระหว่างแฉก สำาหรับพืชใบเลี้ยงคูต่อมาจะเกิด
่
เนือเยื่อเจริญ vascular cambium คั่นระหว่าง
้
- 23. ชนิดของราก
1. Primary root หรือ
รากแก้ว (tap root)
มีลกษณะ ตอนโคนจะโตแล้วค่อยเรียว
ั
เล็กลงไปจนถึงปลาย จะยาวและ
ใหญ่กว่ารากอื่นๆที่แยกออกไป
ทำาหน้าที่
- 24. ชนิดของราก
2. Secondary root หรือรากแขนง(lateral root หรือ
branch root) เป็นรากที่เจริญเติบโตออกมาจาก รากแก้ว
มักงอกเอียงลงไปในดินจนเกือบขนานหรือขนานไปกับพื้น
ดินกำาเนิดมาจากเนื้อเยื่อเพริไซเคิล
- 25. ชนิดของราก
3. Adventitious root หรือ รากวิสามัญ เป็นรากที่ไม่ได้
กำาเนิดมาจากรากแก้วหรือรากแขนง รากชนิดนี้อาจแตก
ออกจากโคนต้นของพืช ตามข้อของลำาต้นหรือกิ่ง ตามใบ
หรือจากกิ่งตอนของไม้ผลทุกชนิด แยกเป็นชนิดย่อยได้
ตามรูปร่างและหน้าที่ ได้ดังนี้
- 26. ชนิดของราก
- รากฝอย (fibrous root)
เป็นรากเส้นเล็กๆมากมาย ขนาดโตสมำ่า
เสมอกันไม่เรียวลงที่ปลายอย่างรากแก้ว
งอกออกจากรอบโคนต้นแทนรากแก้วที่
ฝ่อเสียไปหรือที่หยุดเตอบโต พบใน
พืชใบเลียงเดียวเป็นส่วนใหญ่
้ ่
- 27. ชนิ-ดของราก root) เป็นรากที่แตก
รากคำ้าจุ้น (Prop
ออกมาจากข้อของลำาต้น ที่อยู่ใต้ดิน และ
เหนือดินขึ้นมาเล็กน้อย และพุงแทงลงไป
่
ในดิน เพื่อพยุงลำาต้นเอาไว้ไม่ให้ล้ม
ง่าย เช่นรากคำ้าจุนของต้นข้าวโพด ต้น
ลำาเจียก ต้นโกงกาง
- 28. ชนิดของราก
รากเกาะ (Climbing root) เป็นรากที่
แตกออกมาจากข้อของลำาต้นแล้วมาเกาะ
ตามหลักหรือเสา เพื่อพยุงลำาต้นให้
ติดแน่นและชูลำาต้นขึ้นที่สง เช่นรากของ
ู
พลู พลูด่าง กล้วยไม้
- 29. ชนิรากสังเคราะห์แสง (photosynthtic root)
ดของราก
เป็นรากที่แตกออกมาจากข้อของลำาต้น แล้ว
ห้อยลงมาในอากาศ มีสีเขียวของคลอโรฟิลเป็น
รากที่ทำาหน้าที่สังเคราะห์แสง เช่น รากกล้วยไม้
ที่มีสีเขียวเฉพาะรากอ่อน หรือปลายรากที่แก่
เท่านั้น
รากของไทร โกงกาง มีสีเขียวเฉพาะตรง
ที่หอยอยู่ในอากาศ
้
- 31. ชนิรากสะสมอาหาร (storage root) เป็นรากที่
ดของราก
ทำาหน้าที่ในการสะสมอาหารประเภทแป้ง
นำ้าตาล หรือ โปรตีนเอาไว้ ทำาให้มีลักษณะ
อวบอ้วนเรามักเรียกว่า หัว เช่น หัวแครอต หัว
ผักกาด หัวมันเทศ หัวมันแกว มันสำาปะหลัง
กระชาย