Contenu connexe
Similaire à Inspiring science train the trainers 2013 (thai) (20)
Plus de ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข (20)
Inspiring science train the trainers 2013 (thai)
- 5. กำาหนดการ
โครงการอบรมวันที่ 1
• แนะนำาโครงการ Inspiring science หลัก
ปรัชญาและแนวปฏิบัติของโครงการ
• ทำากิจกรรมหน่วย “ไอศครีม (Ice cream
unit)”
วันที่ 2
• ทำากิจกรรม “ค่ายดาราศาสตร์ (astro
camp)”
• ทำากิจกรรม “การออกแบบบ้านพักตาก
- 6. วันที่ 3
• ทำากิจกรรมหน่วย “กล้วยไม้ไทย (The
Orchid unit)”
• หน้าที่และความรับผิดชอบ การ
วางแผนปฏิบัติการเพื่อขยายผลและ
ติดตามช่วยเหลือในเขตพื้นที่การ
ศึกษา
• สร้างกลุ่มเครือข่ายในเฟสบุค
กำาหนดการโครงการ
อบรม (ต่อ)
- 9. เป้าหมายของโครงการ Inspiring Science
• พัฒนา กลุ่มครูวิทยาศาสตร์ นักการศึกษา
และบุคลากรสังกัด สพฐ. ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ
ด้านการพัฒนาหลักสูตร
• พัฒนาสื่อการสอนที่มีคุณภาพสูงรวมทั้ง
เว็บไซต์ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
เพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน
วิทยาศาสตร์ในระดับชั้น ม.1-ม.3
• ขยายผลสื่อสอนไปทั่วประเทศด้วย
กระบวนการพัฒนาวิชาชีพครู
• พัฒนาศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ การ
ทำางานเป็นกลุ่ม การแก้ปัญหา การ
สื่อสาร ความเป็นผู้นำา ไอซีที และทักษะ
การคิดของนักเรียนทั่วประเทศ ซึ่งจะ
กลายเป็นทรัพยากรบุคคลของประเทศ
ในอนาคต
- 11. การพัฒนาศักยภาพ• พัฒนา กลุ่มครูวิทยาศาสตร์ นักการศึกษา และบุคลากรสังกัด สพฐ.
จำานวน 40 คน ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาหลักสูตร ที่สามารถ
สร้างสื่อประกอบหลักสูตรแบบใช้บริบทเป็นฐาน
– ‘backwards design’
– หน่วยการเรียนรู้ที่มีบริบทเรื่องราว
– การจัดการเรียนรู้ที่ใช้การสืบเสาะเป็นฐาน
– การสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์
– การวัดผลตามสภาพจริง
– การวัดสมรรถนะตามสภาพจริง
– เน้นทักษะสำาคัญ/การพัฒนาศักยภาพของบุคคล
– การคิดอย่างมีวิจารณญานและการคิดสร้างสรรค์
– การสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองผ่านวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E
• อบรมปฏิบัติการเพื่อสร้างสื่อประกอบหลักสูตร 3 ครั้งต่อปี
• ดำาเนินกระบวนการเป็นขั้นตอน
- 13. หน่วยการเรียนรู้
• ครอบคลุมหลักสูตร
• ประกอบด้วย 4 แผนการเรียนรู้ โดยจะมี 1 แผน ที่เน้น
การสืบเสาะทางวิทยาศาสตร์
• 4 context-based learning episodes (one of which is
a scientific enquiry)
• มีสื่อการเรียนรู้ที่ประกอบด้วย
– PPT
– วีดิโอคลิป
– คู่มือครูในระดับหน่วยการเรียนรู้และ
แผนการจัดการเรียนรู้
– ใบกิจกรรมสำาหรับผู้เรียน
• การบ้าน (กิจกรรมนอกเวลาเรียน)
• แบบทดสอบ
• วีดิโอเพื่อช่วยในการพัฒนาวิชาชีพครู
- 14. Website
• Home page
• Resources
– Strand
– Unit
• Student
• Gallery
• Support
• http://212.84.74.159/~inspirin/
- 15. การอบรมขยายผล
• มีสื่อการอบรมที่มีคุณภาพรวมทั้งวีดิโอคลิปประกอบ
• การอบรมวิทยากรแกนนำา
• อบรมขยายผล ศึกษานิเทศก์และครูวิทยาศาสตร์
จากเขตพื้นที่การศึกษา 225 เขต
– แนะนำารูปแบบการสอน
– แนะนำาสื่อการสอนและเว็บไซต์
– ยุทธวิธีในการสอนแนะ การจับคู่สะท้อนคิด การสร้าง
กลุ่มวิจัยปฏิบัติการ
– หน้าที่และความรับผิดชอบของวิทยากรแกนนำา
• การขยายผลที่ดำาเนินการโดยวิทยากรแกนนำา
สำาหรับโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา อย่างน้อย
10 โรง โดยใช้สื่อการสอนและเว็บไซต์
- 28. ขั้นสำารวจ
• น่าจะเป็นขั้นที่สำาคัญที่สุด
• ผู้เรียนสร้างความเข้าใจในแนวคิดจากประสบการณ์ตรง
• เริ่มให้คำาตอบของคำาถามสำาคัญ ยกตัวอย่างเช่น
• ออกแบบการทดลองเพื่อสำารวจตรวจสอบปรากฏการณ์
ที่ไม่สามารถอธิบายได้
• ค้นพบแบบรูป
• ออกแบบวิธีการแก้ไขปัญหา
• ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า ผู้เรียนต้องค้นพบทุกอย่างด้วยตัว
เอง ผู้เรียนสามารถได้รับ
• คำาแนะนำา
• ข้อมูลที่สำาคัญและเทคนิคต่างๆ เพื่ออำานวยให้เกิดการ
เรียนรู้
• สิ่งที่สำาคัญที่สุดคือ ผู้เรียนมีความเป็นเจ้าของใน
กระบวนการและผลลัพธ์ อย่างมีนัยสำาคัญ
- 34. ข้อแนะนำาเพื่อความสำาเร็จ
• พัฒนาทักษะกระบวนการ และนำามาใช้ในการสืบเสาะ
หาความรู้เชิงวิทยาศาสตร์
• ให้เริ่มจากการสำารวจตรวจสอบแบบ “ปิด” โดยให้คำา
ตอบของคำาถามชี้นำาต่างๆ แล้วจึงค่อยๆ จัดให้มีการ
สำารวจตรวจสอบแบบ “เปิด” มากขึ้นเรื่อยๆ
• ในช่วงต้น ให้เน้นยำ้าเกี่ยวกับแนวคิดเรื่อง ‘Fair Test’
กล่าวคือ เมื่อเปลี่ยนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง (ตัวแปรอิสระ) โดย
จัดให้สิ่งอื่นๆ เหมือนกัน (ตัวแปรควบคุม) แล้วจึงวัดสิ่ง
ที่สนใจศึกษา (ตัวแปรตาม)
• กระตุ้นให้ผู้เรียนพัฒนาจิตวิทยาศาสตร์ประการหนึ่ง
นั่นคือ เมื่อเปลี่ยนตัวแปรอิสระซึ่งต้องสามารถวัดได้
ต้องควบคุมตัวแปรควบคุมอย่างสามารถวัดได้เช่นกัน
- 39. เนื้อหา
สาระที่ 3 สารและสมบัติของสาร
มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจสมบัติของสาร ความสัมพันธ์ระหว่าง
สมบัติของสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่าง
อนุภาค มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยา
ศาสตร์สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำาความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจหลักการและธรรมชาติของการ
เปลี่ยนแปลงสถานะของสาร การเกิดสารละลาย การเกิด
ปฏิกิริยา มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจิตวิทยา
ศาสตร์ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำาความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และ
จิตวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา
รู้ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่มีรูป
แบบที่แน่นอน สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ภายใต้
ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในเวลานั้นๆ เข้าใจว่า
วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีความ
สัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน
- 41. การสะท้อนความคิด
• บริบทของแผนการจัดการเรียนรู้นี้คืออะไร
• เราจะสร้างความสนใจแก่นักเรียนได้อย่างไร
• เราจะดึงความรู้เดิมของนักเรียนได้อย่างไร
• นักเรียนสำารวจและเริ่มต้นพัฒนาความคิดเกี่ยวกับแนวคิด
ทางวิทยาวิทยาศาสตร์ที่สำาคัญได้อย่างไร
• นักเรียนและครูจะอธิบายคว่ามคิดของเขาได้อย่างไร
• นักเรียนจะขยายความคิดได้อย่างไร
• นักเรียนจะประเมินผลความเข้าใจของตัวเองได้อย่างไร
• แนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่สำาคัญและทักษะที่ถูกพัฒนาใน
แผนการจัดการเรียนรู้คืออะไร
• การสอนแบบเชิงรุกและแนวคิดในการเรียนรู้ที่นำามาใช้คือ
อะไร
• ครูจะช่วยนักเรียนให้เรียนรู้แบบสืบเสาะได้อย่างไร
- 46. ข้อควรจำา
• บริบทของแผนการจัดการเรียนรู้นี้คืออะไร
• เราจะสร้างความสนใจแก่นักเรียนได้อย่างไร
• เราจะดึงความรู้เดิมของนักเรียนได้อย่างไร
• นักเรียนสำารวจและเริ่มต้นพัฒนาความคิดเกี่ยวกับ
แนวคิดทางวิทยาวิทยาศาสตร์ที่สำาคัญได้อย่างไร
• นักเรียนและครูจะอธิบายคว่ามคิดของเขาได้
อย่างไร
• นักเรียนจะขยายความคิดได้อย่างไร
• นักเรียนจะประเมินผลความเข้าใจของตัวเองได้
อย่างไร
• แนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่สำาคัญและทักษะที่ถูก
พัฒนาในแผนการจัดการเรียนรู้คืออะไร
• การสอนแบบเชิงรุกและแนวคิดในการเรียนรู้ที่นำา
มาใช้คืออะไร
- 48. ข้อควรจำา
• บริบทของแผนการจัดการเรียนรู้นี้คืออะไร
• เราจะสร้างความสนใจแก่นักเรียนได้อย่างไร
• เราจะดึงความรู้เดิมของนักเรียนได้อย่างไร
• นักเรียนสำารวจและเริ่มต้นพัฒนาความคิดเกี่ยวกับ
แนวคิดทางวิทยาวิทยาศาสตร์ที่สำาคัญได้อย่างไร
• นักเรียนและครูจะอธิบายคว่ามคิดของเขาได้
อย่างไร
• นักเรียนจะขยายความคิดได้อย่างไร
• นักเรียนจะประเมินผลความเข้าใจของตัวเองได้
อย่างไร
• แนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่สำาคัญและทักษะที่ถูก
พัฒนาในแผนการจัดการเรียนรู้คืออะไร
• การสอนแบบเชิงรุกและแนวคิดในการเรียนรู้ที่นำา
มาใช้คืออะไร
- 50. บริบท
ในค่ายดาราศาสตร์ กลุ่มของนักเรียน
Make, Win and Earth ไปยังค่ายพิเศษเพื่อ
เรียนดาราศาสตร์ นักเรียนเหล่านี้โชคดีที่ได้
ทำางานกับ Dr. Sunny, นักดาราศาสตร์ที่หอดู
ดาวสิริธร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เขาให้
นักเรียนทำางานเพื่อทดสอบความรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกับจักรวาล บทนี้นำากิจกรรมเข้าสู่โรงเรียน
ซึ่งสามารถจัดค่ายดาราศาสตร์เพื่อให้นักเรียน
– ดูวิวัฒนาการของจักรวาลและแกแลกซี่
– สร้างแบบจำาลองระบบสุริยะ
– สำารวจความเร็วการเคลื่อนที่ของดวงดาว
– พิจารณาผลกระทบของอุกาบาตขนาดใหญ่ต่อโลก
- 53. การสะท้อนความคิด
• อะไรคือบริบทของตอนนี้
• นักเรียนมีส่วนร่วมอย่างไร
• แนวคิดเริ่มแรกของนักเรียนเป็นอย่างไร
• นักเรียนสำารวจและเริ่มพัฒนาแนวคิดเกี่ยวกับคำา
สำาคัญหลักอย่างไร
• นักเรียนและครูอธิบายแนวคิดอย่างไร
• แนวคิดถูกอธิบายเพิ่มเติมได้อย่างไร
• ความเข้าใจนักเรียนถูกประเมินอย่างไร
• อะไรเป็นคำาหลักและทักษะที่ถูกพัฒนาในตอนนี้
• การเรียนการสอนแบบเชิงรุกอะไรที่ถูกนำามาใช้
• นักเรียนจะถูกสนับสนุนผ่านการสืบเสาะได้อย่างไร
- 58. ข้อควรจำา
• อะไรคือบริบทของตอนนี้
• นักเรียนมีส่วนร่วมอย่างไร
• แนวคิดเริ่มแรกของนักเรียนเป็นอย่างไร
• นักเรียนสำารวจและเริ่มพัฒนาแนวคิดเกี่ยวกับคำา
สำาคัญหลักอย่างไร
• นักเรียนและครูอธิบายแนวคิดอย่างไร
• แนวคิดถูกอธิบายเพิ่มเติมได้อย่างไร
• ความเข้าใจนักเรียนถูกประเมินอย่างไร
• อะไรเป็นคำาหลักและทักษะที่ถูกพัฒนาในตอนนี้
• การเรียนการสอนแบบเชิงรุกอะไรที่ถูกนำามาใช้
• นักเรียนจะถูกสนับสนุนผ่านการสืบเสาะได้อย่างไร
- 61. เนื้อหา
สาระที่ 5 : พลังงาน
มาตรฐาน ว 5.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับ
การดำารงชีวิต การเปลี่ยนรูปพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสาร
และพลังงาน ผลของการใช้พลังงานต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม
มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำา
ความรู้ไปใช้ประโยชน์
ตัวชี้วัด
ว. 5.1 ม. 1/1 ทดลองและอธิบายอุณหภูมิและการวัด
อุณหภูมิ
ว. 5.1 ม. 1/2 สังเกต และอธิบายการถ่ายโอนความ
ร้อน และนำาความรู้ไปใช้ประโยชน์
ว. 5.1 ม. 1/3 อธิบายการดูดกลืน การคายความร้อน
โดยการแผ่รังสีและความรู้ไปใช้
ประโยชน์
ว. 5.1 ม. 1/4 อธิบายสมดุลความร้อนและผลของความ
ร้อนต่อการขยายตัวของสาร และนำา
- 63. การสะท้อนความคิด
• บริบทของแผนการจัดการเรียนรู้นี้คืออะไร
• เราจะสร้างความสนใจแก่นักเรียนได้อย่างไร
• เราจะดึงความรู้เดิมของนักเรียนได้อย่างไร
• นักเรียนสำารวจและเริ่มต้นพัฒนาความความคิดเกี่ยว
กับแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ ที่สำาคัญได้อย่างไร
• นักเรียนและครูจะอธิบายความคิดของเขาได้อย่างไร
• นักเรียนจะขยายความคิดได้อย่างไร
• นักเรียนจะประเมินผลความเข้าใจของตนเองได้
อย่างไร
• แนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่สำาคัญและทักษะที่ถูก
พัฒนาในแผนการจัดการเรียนรู้นี้คืออะไร
• การสอนแบบเชิงรุกและแนวคิดในการเรียนรู้ที่นำามา
ใช้คืออะไร
• ครูจะช่วยนักเรียนให้เรียนรู้แบบสืบเสาะได้อย่างไร
- 68. ข้อควรจำา
• บริบทของแผนการจัดการเรียนรู้นี้คืออะไร
• เราจะสร้างความสนใจแก่นักเรียนได้อย่างไร
• เราจะดึงความรู้เดิมของนักเรียนได้อย่างไร
• นักเรียนสำารวจและเริ่มต้นพัฒนาความความคิดเกี่ยว
กับแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ ที่สำาคัญได้อย่างไร
• นักเรียนและครูจะอธิบายความคิดของเขาได้อย่างไร
• นักเรียนจะขยายความคิดได้อย่างไร
• นักเรียนจะประเมินผลความเข้าใจของตนเองได้
อย่างไร
• แนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่สำาคัญและทักษะที่ถูก
พัฒนาในแผนการจัดการเรียนรู้นี้คืออะไร
• การสอนแบบเชิงรุกและแนวคิดในการเรียนรู้ที่นำามา
ใช้คืออะไร
• ครูจะช่วยนักเรียนให้เรียนรู้แบบสืบเสาะได้อย่างไร
- 70. • บริบทของแผนการจัดการเรียนรู้นี้คืออะไร
• เราจะสร้างความสนใจแก่นักเรียนได้อย่างไร
• เราจะดึงความรู้เดิมของนักเรียนได้อย่างไร
• นักเรียนสำารวจและเริ่มต้นพัฒนาความความคิดเกี่ยว
กับแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ ที่สำาคัญได้อย่างไร
• นักเรียนและครูจะอธิบายความคิดของเขาได้อย่างไร
• นักเรียนจะขยายความคิดได้อย่างไร
• นักเรียนจะประเมินผลความเข้าใจของตนเองได้
อย่างไร
• แนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่สำาคัญและทักษะที่ถูก
พัฒนาในแผนการจัดการเรียนรู้นี้คืออะไร
• การสอนแบบเชิงรุกและแนวคิดในการเรียนรู้ที่นำามา
ใช้คืออะไร
• ครูจะช่วยนักเรียนให้เรียนรู้แบบสืบเสาะได้อย่างไร
ข้อควรจำา
- 72. บริบท
• ในหน่วยการเรียนรู้เรื่อง กล้วยไม้ไทย นี้ นักเรียน
จะได้พัฒนาอุตสาหกรรมการส่งออกพืช
ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกกล้วยไม้รายใหญ่ที่สุด
ของโลกและมีความชำานาญเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยง
เนื้อเยื่อพืช นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับความสำาคัญของ
พืชที่มีความสำาคัญทางเศรษฐกิจและเรียนรู้คำาศัพท์
ที่เกี่ยวกับส่วนต่างๆ พืช นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับวิธี
การสืบพันธุ์แบบต่างๆ ที่สามารถเพิ่มจำานวนของพืช
ให้ได้ปริมาณมาก รวมถึงวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
พืชด้วย นักเรียนยังจะได้ศึกษาเกี่ยวกับสภาพ
แวดล้อมที่เหมาะสมสำาหรับการเจริญเติบโตของพืช
รวมถึงความต้องการแสง คาร์บอนไดออกไซด์
สำาหรับการสังเคราะห์ด้วยแสง และความสำาคัญของ
- 73. เนื้อหา
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจหน่วยพื้นฐานของสิ่งมี
ชีวิต ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของ
ระบบต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตที่ทำางานสัมพันธ์กัน มี
กระบวนสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำา
ความรู้ไปใช้ในการดำารงชีวิตของตนเองและดูแลสิ่ง
มีชีวิต
ตัวชี้วัด
ว 1.1 ม.1/5 ทดลองหาปัจจัยบางประการที่จำาเป็น
ต่อการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช และอธิบายว่าแสง
คลอโรฟิลล์ แก๊ส คาร์บอนได- ออกไซด์ นำ้า เป็น
ปัจจัยที่จำาเป็นต้องใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสง
ว 1.1 ม.1/6 ทดลองและอธิบายผลที่ได้จากการ
- 74. ว 1.1 ม.1/9 สังเกตและอธิบายโครงสร้างที่
เกี่ยวกับระบบลำาเลียงนำ้าและอาหารของพืช
ว 1.1 ม.1/10 ทดลองและอธิบายโครงสร้างของ
ดอกที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์ของพืช
ว 1.1 ม.1/11 อธิบายกระบวนการสืบพันธุ์แบบ
อาศัยเพศของพืชดอกและการสืบพันธุ์แบบไม่
อาศัยเพศของพืช โดยใช้ส่วนต่างๆ ของพืชเพื่อ
ช่วยในการขยายพันธุ์
ว 1.1 ม.1/12 ทดลองและอธิบายการตอบสนอง
ของพืชต่อแสง นำ้า และการสัมผัส
ว 1.1 ม.1/13 อธิบายหลักการและผลของการ
ใช้เทคโนโลยี ชีวภาพในการขยายพันธุ์
ปรับปรุงพันธุ์ เพิ่มผลผลิตของพืชและ
เนื้อหา (ต่อ)
- 76. การสะท้อนความคิด
• บริบทของแผนการจัดการเรียนรู้นี้คืออะไร
• เราจะสร้างความสนใจแก่นักเรียนได้อย่างไร
• เราจะดึงความรู้เดิมของนักเรียนได้อย่างไร
• นักเรียนสำารวจและเริ่มต้นพัฒนาความความคิดเกี่ยว
กับแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ ที่สำาคัญได้อย่างไร
• นักเรียนและครูจะอธิบายความคิดของเขาได้อย่างไร
• นักเรียนจะขยายความคิดได้อย่างไร
• นักเรียนจะประเมินผลความเข้าใจของตนเองได้
อย่างไร
• แนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่สำาคัญและทักษะที่ถูก
พัฒนาในแผนการจัดการเรียนรู้นี้คืออะไร
• การสอนแบบเชิงรุกและแนวคิดในการเรียนรู้ที่นำามา
ใช้คืออะไร
• ครูจะช่วยนักเรียนให้เรียนรู้แบบสืบเสาะได้อย่างไร
- 81. ข้อควรจำา
• บริบทของแผนการจัดการเรียนรู้นี้คืออะไร
• เราจะสร้างความสนใจแก่นักเรียนได้อย่างไร
• เราจะดึงความรู้เดิมของนักเรียนได้อย่างไร
• นักเรียนสำารวจและเริ่มต้นพัฒนาความความคิดเกี่ยว
กับแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ ที่สำาคัญได้อย่างไร
• นักเรียนและครูจะอธิบายความคิดของเขาได้อย่างไร
• นักเรียนจะขยายความคิดได้อย่างไร
• นักเรียนจะประเมินผลความเข้าใจของตนเองได้
อย่างไร
• แนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่สำาคัญและทักษะที่ถูก
พัฒนาในแผนการจัดการเรียนรู้นี้คืออะไร
• การสอนแบบเชิงรุกและแนวคิดในการเรียนรู้ที่นำามา
ใช้คืออะไร
• ครูจะช่วยนักเรียนให้เรียนรู้แบบสืบเสาะได้อย่างไร
- 83. บทบาทหน้าที่ของศึกษานิเทศก์
• จัดการและดำาเนินการฝึกอบรม ระยะเวฃา 3 วัน สำาหรับครู 2 คน จาก 10
โรงเรียน 10 โรง ในเขตพื้นที่การศึกษา
• สร้างทีมในโรงเรียน
• ให้ความช่วยเหลือและติดตามแต่ละโรงเรียน โดย
– ส่ง Email และ โทรศัพท์เดือนละ 1 ครั้ง
– นิเทศโรงเรียน ภาคเรียนละ 1 ครั้ง (ในกรณีที่โรงเรียนมีปัญหาสามารถเข้า
นิเทศได้มากกว่า 1 ครั้ง หรือนิเทศให้เร็วขึ้นได้)
• จัดการประชุมพบปะ ในวัน Magnifier day สำาหรับกลุ่มโรงเรียนที่เข้า
ร่วมโครงการเมื่อสิ้นสุดภาคเรียน เพื่อนำาเสนอประสบการณ์และผลการ
ดำาเนินงาน
• จัดวัน ‘voice confident’ เพื่อให้โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการแล้วนำาเสนอ
ต่อโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการใหม่เมื่อสิ้นสุดปีการศึกษา
• จัดทำารายงานประจำาเดือนและส่งผ่านเครือข่ายสังคม Facebook
• ตรวจสอบว่าโรงเรียนได้ส่งรายงานผ่านเครือข่ายสังคม Facebook แล้ว
- 85. การรายงานผล
• แต่ละโรงเรียนเขียนรายงานสั้น ๆ ประจำาแต่ละ
เดือน ส่งไปยังศึกษานิเทศก์
• ศึกษานิเทศก์สรุปรายงานประจำาแต่ละเดือนแล้ว
อัพโหลดขึ้นเครือข่ายสังคมออนไลน์ Facebook
• แต่ละโรงเรียนสรุปรายงานเพื่อนำาเสนอในวันที่
มีการประชุมพบปะ ในช่วงท้ายของภาคเรียน
รายงานฉบับนี้ต้องอัพโหลดขึ้น Facebook ด้วย
- 87. การเตรียมตัวครูผู้สอนในการใช้
หลักสูตร Inspiring Science
• เตรียมการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการสำาหรับครู
วิทยาศาสตร์ชั้น ม.1-3 จาก 10 โรงเรียนในเขตพื้นที่
การศึกษาของท่าน
• ในการอบรมเชิงปฏิบัติการนำาเสนอหัวข้อต่อไปนี้
– หลักสูตร Inspiring Science
– เว็บไซต์ Inspiring Science สื่อ และแหล่งการเรียนการสอน
– วัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5E และการสืบเสาะหาความรู้ทาง
วิทยาศาสตร์
– สร้างกลุ่มครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน
– ศึกษารายละเอียดของหน่วยการเรียนรู้ทั้ง 4 หน่วย
– การสะท้อนความเข้าใจของแต่ละบุคคล
– การนิเทศแบบ Coaching (การสอนแนะ, การสอนงาน)
87
- 88. การสร้างกลุ่ม
• สร้างกลุ่มครูผู้สอนวิทยาศาสตร์โดยมีสมาชิกกลุ่มละ 2 คน
• ในการอบรมเชิงปฏิบัติการ แต่ละกลุ่มศึกษาหน่วยการเรียนรู้ร่วม
กันและวางแผนเพื่อเตรียมตัวในการใช้หน่วยการเรียนรู้ทั้ง
ระหว่างการอบรมเชิงปฏิบัติการและเมื่อกลับไปปฏิบัติหน้าที่ใน
โรงเรียน
• เป็นคู่สะท้อนความคิด (ครู 2 คน) เพื่อให้เป็นผู้รับฟังและแลก
เปลี่ยนการสะท้อนความคิด
• จากกลุ่ม 4 คน กำาหนดการสอนแนะแบบจัตุรัส (coaching
square)
• รวมกลุ่มของแต่ละโรงเรียนรวมเป็นกลุ่มสังคมของผู้วิจัยปฏิบัติ
การ
88
- 89. การจับคู่สะท้อนความคิด
• ครูในแต่ละทีมจับคู่เพื่อเป็นคู่สะท้อนความคิด
• คู่สะท้อนความคิดสังเกตชั้นเรียนทุกเดือน (สังเกตให้ครบทั้งแผนการ
จัดการเรียนรู้) ในการสังเกตชั้นเรียนใช้คำาถามต่อไปนี้ในแต่ละขั้น
ของ 5E
– ผู้เรียนเรียนเข้าใจหรือไม่ว่าต้องทำาอะไร
– ผู้เรียนได้ทำาตามที่คาดหวังหรือไม่
– การช่วยเหลือของครูเพื่อให้เกิดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพอย่างไร
– ประสิทธิภาพในการใช้คำาถามต่อผู้เรียนเป็นอย่างไร (คำาถามปลาย
เปิด)
– ประสิทธิภาพในการทำางานกลุ่มของผู้เรียนเป็นอย่างไร
– บรรลุเป้าหมายของการเรียนรู้หรือไม่
– ครูสอนในบริบท (บริบทของแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้) หรือไม่
– ครูกระตุ้นและส่งเสริมการเรียนการสอนที่ใช้การสืบเสาะหาความรู้
เป็นฐานหรือไม่ 89
- 90. • หลังจากการสังเกตชั้นเรียน คู่สะท้อนความคิดควรจะพูดคุยและ
ให้ข้อเสนอแนะ โดยใช้คำาถามต่อไปนี้
– การสอนบรรลุจุดประสงค์หรือไม่
– คุณคิดว่านักเรียนรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับบทเรียนนี้
– คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับบทเรียนนี้
– สิ่งใดที่ดำาเนินไปได้ด้วยดี
– สิ่งใดที่ไม่ค่อยดีนัก
– จะปรับปรุงอย่างไรในการเรียนการสอนครั้งต่อไป
– การสอนดำาเนินไปได้ดีหรือไม่ อย่างไร
– มีเป้าหมายอย่างไรในเดือนต่อไป
• สลับกันถามโดยใช้คำาถามเดิม ควรจะบันทึกสิ่งที่สะท้อนออกมา
ใน logbook
90
การจับคู่สะท้อนความคิด (ต่อ)
- 91. Action Research Communities
• แต่ละโรงเรียนสร้างกลุ่มทำางานที่เรียกว่า (ARC)
• กระตุ้นให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มสะท้อนความ
คิด
• กระตุ้นให้ครูมีบทบาทสำาคัญและเป็นผู้ตัดสินใจ
ในรูปแบบหรือวิธีการพัฒนาวิชาชีพครูอย่างต่อ
เนื่อง (CPD) ด้วยกระบวนการวิจัยปฏิบัติการ
• พัฒนาความรู้และความเข้าใจในการวิจัยเชิง
ปฏิบัติการ ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการพัฒนา
วิชาชีพครูวิทยาศาสตร์อย่างต่อเนื่อง
91
- 92. Action Research Approaches
• ครูแต่ละคนควรจะมีสมุดบันทึกที่เรียกว่า logbook เพื่อ
บันทึกกิจกรรม รวมทั้งร่องรอยหลักฐานต่าง ๆ เช่น
– รูปถ่าย
– ตัวอย่างชิ้นงานของนักเรียนในชั้นเรียน
– บันทึกและแผนการทำางานของแต่ละคน
• สามารถใช้เครื่องมือวิจัยดังต่อไปนี้
– อนุทินของผู้เรียน
– การสังเกต (ดูคำาถามหลังการสังเกตในหัวข้อการจับคู่สะท้อน
ความคิด)
– แบบสอบถาม
– ความการสะท้อนจากเพื่อนร่วมงาน (การจับคู่สะท้อนตคิด)
– การสัมภาษณ์ผู้เรียน หรือการสัมภาษณ์กลุ่ม 92