Contenu connexe Similaire à การสื่อสารภายในองค์กร Similaire à การสื่อสารภายในองค์กร (10) Plus de Smith Boonchutima Plus de Smith Boonchutima (20) การสื่อสารภายในองค์กร5. Span of control
ขอบเขตการควบคุม (Span of Control) :
การจากัดอานาจหน้าที่ของผูควบคุมดูแลแต่ละคน
้
5
10. A service industry is
based more on a person-
to-person relation rather
than a man-to-machine
relation”
Denial Bell (1969,p.1)
Sociologist
Post-industrial society
10
11. SERVICES Trade
Finance
Real estate
Transportation
Education
Health
Research
Government
Post-industrial society
11
12. ? %
PERCENT
BELIEVED THERE WAS
A DEFINITE RELATIONSHIP
BETWEEN COMMUNICATION AND
EMPLOYEE PRODUCTIVITY
IMPORTANCE OF
COMMUNICATION
12
13. 96 %
PERCENT
BELIEVED THERE WAS
A DEFINITE RELATIONSHIP
BETWEEN COMMUNICATION AND
EMPLOYEE PRODUCTIVITY
IMPORTANCE OF
COMMUNICATION
13
15. คุณสมบัติที่ผู้บริหารต้องการจาก
ผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ร้อยละ
(ของจานวนผู้ตอบ)
ทักษะในการสื่อสารด้วยคาพูดและการเขียน 83.5
ทักษะในความเป็นผู้นา 79.7
ทักษะในการวิเคราะห์ 75.3
ความสามารถในการทางานเป็นทีม 71.4
ความสามารถในการจัดการการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 65.9
ความรู้สึกรับผิดชอบทางสังคม อาชีพ และจริยธรรม 64.3
การจัดการการเงิน 46.7
16. Japanese Organization American Organization
Lifetime Employment Short-term employment
Slow Evaluation and Promotion Rapid Evaluation and Promotion
Non-Specialized Career Path Specialized Career Path
Implicit Control Mechanisms Explicit Control Mechanisms
Collective Decision Making Individual Decision Making
Collective Responsibility Individual Responsibility
Wholistic Concern Segmented Concern
16
18. ประเภทของการสื่อสาร
1. การสื่อสารการควบคุมดูแล
(Supervisory Communication)
2. การสื่อสารจากบนลงล่าง
(Downward Communication)
3. การสื่อสารจากล่างขึ้นสู่บน
(ประสิทธิภาพ,อานาจ)
4. การสื่อสารตามแนวนอน
5. การสื่อสารอย่างไม่เป็นทางการ
19. ปัจจัยความพึงพอใจในการสื่อสาร
1. การสื่ อสารจากผู้บังคับบัญชาไปยัง
ผู้ใต้ บังคับบัญชา
2. การสื่ อสารจากบนลงล่ าง
3. การรั บรู้ ของผู้บังคับบัญชาในเรื่ องการ
สื่ อสารกับผู้ใต้ บังคับบัญชา
4. การสื่ อสารจากล่ างขึนบน้
5. ความเชื่ อมันในข้ อมูลข่ าวสาร
่
21. เกมบอกต่อ (10 นำที)
• สำหรั บคนที่หนึ่ง
ท่านมีเวลา 1 นาที จงอ่านข้ อความต่อไปนี ้ให้ กบเพื่อนคนถัดไป แล้ วคืน
ั
แผ่นกระดาษนี ้ให้ กบวิทยากร
ั
• สำหรั บคนที่สองจนถึงคนสุดท้ ำย
หลังจากที่ท่านได้ ยินข้ อความจากเพื่อนแล้ ว
ให้ จาข้ อความให้ ดีแล้ ว เขียนข้ อความที่จาได้ ลงในพื ้นที่ด้านล่างนี ้ (1 นาที)
จากนันให้ ท่านอ่านข้ อความที่ท่านเขียนไว้ ให้ กบเพื่อนคนถัดไป (1 นาที)
้ ั
โดยไม่ให้ เพื่อนเห็นหรื อคัดลอก แล้ วคืนแผ่นกระดาษให้ วิทยากรประจากลุม ่
21
22. เกมบอกต่อ 2 (10 นำที)
• สำหรั บคนที่หนึ่ง
ท่านมีเวลา 1 นาที จงอ่านข้ อความต่อไปนี ้ให้ กบเพื่อนคนถัดไป แล้ วคืน
ั
แผ่นกระดาษนี ้ให้ กบวิทยากร
ั
• สำหรับคนที่สองจนถึงคนสุดท้ ำย
หลังจากที่ท่านได้ ยินข้ อความจากเพื่อนแล้ ว
ให้ จาข้ อความให้ ดีแล้ ว เขียนข้ อความที่จาได้ ลงในพื ้นที่ด้านล่างนี ้ (1 นาที)
ตรวจทำนและแก้ ไขกับคนในลำดับเดียวกันของกลุ่มอื่น (1 นาที)
จากนันให้ ท่านอ่านข้ อความที่ท่านเขียนไว้ ให้ กบเพื่อนคนถัดไป (1 นาที)
้ ั
โดยไม่ให้ เพื่อนเห็นหรือคัดลอก แล้ วคืนแผ่นกระดาษให้ วิทยากรประจากลุม ่
22
23. เกมบอกต่อ 3 (10 นำที)
• สำหรั บคนที่หนึ่ง
ท่านมีเวลา 1 นาที จงอ่านข้ อความต่อไปนี ้ให้ กบเพื่อนคนถัดไป แล้ วคืน
ั
แผ่นกระดาษนี ้ให้ กบวิทยากร
ั
• สำหรับคนที่สองจนถึงคนสุดท้ ำย
ระหว่ ำงที่ท่ำนได้ ยินข้ อควำมจำกเพื่อน ก็ให้ เขียนข้ อควำมที่ได้ รับลงใน
พืนที่ด้ำนล่ ำงนี ้ (1 นาที)
้
ตรวจทำนและแก้ ไขกับคนในลำดับเดียวกันของกลุ่มอื่น (1 นาที)
จากนันให้ ท่านอ่านข้ อความที่ท่านเขียนไว้ ให้ กบเพื่อนคนถัดไป (1 นาที)
้ ั
โดยไม่ให้ เพื่อนเห็นหรือคัดลอก แล้ วคืนแผ่นกระดาษให้ วิทยากรประจากลุม ่
23
25. เมื่อคนเรามีข่าวสารเข้ ามามากๆ จะปรับตัวต่อไปนี ้
1. ข้ ามไป (ไม่จดการข่าวสารทังหมด)
ั ้
2. ทาผิดพลาด (ไม่สนใจ ไม่แก้ ไขเมื่อผิด)
3. เข้ าแถว (ปล่อยวางไว้ )
4. กรอง (จัดการตามลาดับความสาคัญ)
5. หย่อนความถูกต้ อง
6. มอบอานาจให้ คนอื่นไปจัดการ
7. หนี (ปฏิเสธที่จะจัดการ) 25
28. หน้าที่ของการสื่อสารจากล่างขึ้นบน
1. ให้ ข้อมูลที่ จาเป็ นสาหรั บการตัดสิ นใจ
2. ช่ วยลดความกดดันและความเครี ยดในการ
ทางาน
3. เพิ่มความรู้ สึกในการเป็ นส่ วนหนึ่งของ
องค์ กร
4. สามารถตรวจวัดประสิ ทธิ ผลของการ
สื่ อสารจากบนลงล่ างได้
33. การลดอุปสรรคการสื่อสารตามแนวนอน
1. เน้นประสิทธิภาพของทั้งหมดองค์กร
2. การมีปฏิสัมพันธ์มากขึนและการสื่อสารบ่อยๆ
้
รางวัลพิจารณาจากการช่วยเหลือที่ให้เท่ากัน
3. หมุนเวียนการทางานระหว่างกลุ่ม
4. เน้นการนาทรัพยากรมารวมกันเพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพสูงสุด รางวัลควรกระจายไปทุกฝ่าย
36. Word of mouth
Rumor
R = i xa x1
C
i = importance
a = ambiguity
c = critical sense
INFORMALCOMMUNICATION
36
37. ข่าวลือ : การเปลี่ยนแปลงสาร
1. Leveling : กระบวนการที่รายละเอียด
บางประการถูกละเลย
2. Sharpening : การพูดเกินเลยความจริง
ข่าวลือบางส่วน
3. Assimilation : วิธีที่คนบิดเบือนข่าวสาร
เพื่อให้เข้าได้กับทัศนะของตน
INFORMALCOMMUNICATION
37
38. ประเภทของการสื่อสาร
1. การสื่อสารการควบคุมดูแล
(Supervisory Communication)
2. การสื่อสารจากบนลงล่าง
(Downward Communication)
3. การสื่อสารจากล่างขึ้นสู่บน
(ประสิทธิภาพ,อานาจ)
4. การสื่อสารตามแนวนอน
5. การสื่อสารอย่างไม่เป็นทางการ