ติวสอบครูผู้ช่วย (บ้านสอบครู อ.บวร)เอกสารบรรยายกฎหมายการศึกษา(เก่าแล้วใช้ได้)
•
17 j'aime•7,954 vues
ติวสอบครูผู้ช่วย (บ้านสอบครู อ.บวร) เอกสารบรรยายกฎหมายการศึกษา(เก่าแล้วใช้ได้)
Recommandé
Contenu connexe
Tendances
Tendances (20)
En vedette
En vedette (20)
Similaire à ติวสอบครูผู้ช่วย (บ้านสอบครู อ.บวร)เอกสารบรรยายกฎหมายการศึกษา(เก่าแล้วใช้ได้)
Similaire à ติวสอบครูผู้ช่วย (บ้านสอบครู อ.บวร)เอกสารบรรยายกฎหมายการศึกษา(เก่าแล้วใช้ได้) (20)
Plus de สอบครูดอทคอม เว็บเตรียมสอบ
Plus de สอบครูดอทคอม เว็บเตรียมสอบ (20)
ติวสอบครูผู้ช่วย (บ้านสอบครู อ.บวร)เอกสารบรรยายกฎหมายการศึกษา(เก่าแล้วใช้ได้)
- 2. ความรอบรู้ กฎหมายการศึกษาและที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการ - พรบ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม(ฉ2)2545 - พรบ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 - พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 - พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และ (ฉบับที่2) พ.ศ.2551 - พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 - พรฎ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 - กฏหมายการศึกษาที่เกี่ยวข้องและกฎ ระเบียบ ก.ค.ศ. ที่มีผลบังคับใช้
- 3. กฎหมายการศึกษา พรบ.กศ.ชาติ 2542 และแก้ไข ฉ.2 (2545) (20 สิงหาคม 2542) (20 ธันวาคม 2545) กฎหมายแม่บทในการจัดการศึกษา ม.81 รธน.2540 พรบ.สภาครูฯ 2546 (12 มิถุนายน 2546) องค์กรวิชาชีพ มาตรฐานวิชาชีพครู หมวด 7 ม.(53) พรบ.กศ.ชาติ พรบ.รบ.บริหาร ศธ. (7 กรกฏาคม 2547) โครงสร้างการบริหารและจัดการศึกษา หมวด 5 ส่วน 1ม.(31-40) พรบ.กศ.ชาติ พรบ.รบ.ครูบุคลากร (24 ธันวาคม 2547) องค์กรบริหาร การบริหารงานบุคคล ครูฯ หมวด 5 ม.(54) พรบ.กศ.ชาติ รธน.40 พรบ.เงินเดือน วิทยฐานะฯ (24 ธันวาคม 2547) เงินเดือน ค่าตอบแทน สวัสดิการฯ หมวด 5 ม.(55) พรบ.กศ.ชาติ
- 4. ประกาศ 19 ธันวาคม 2545 มีผลบังคับใช้ 20 ธันวาคม 2545 (ฉบับที่2 ) พ.ศ.2545 กฎหมายการศึกษา
- 5. การปฏิรูปการศึกษา พรบ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม 2545 แยกงานวัฒนธรรม การกีฬา ไปกระทรวงอื่น มีคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มีกระทรวงศึกษาธิการ การศึกษา การศาสนาและวัฒนธรรม ปรับโครงสร้าง การบริหาร
- 6. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ 1.ความมุ่งหมาย หลักการ 2.สิทธิ หน้าที่ 3.ระบบการศึกษา 4. แนวทางจัดการศึกษา 5.การบริหาร 6.มาตรฐานและการประกัน 7.ครูและบุคลากร 8.ทรัพยากรและการลงทุน 9.เทคโนโลยีการศึกษา
- 9. การศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปี การศึกษาสําหรับผู้พิการ/ด้อยโอกาส 2.สิทธิและโอกาสรับการศึกษา
- 12. ตามอัธยาศัย นอกระบบ ในระบบ 3.ระบบการจัดการศึกษา3รูปแบบ • สถานศึกษาอาจจัดรูปแบบใดหรือทั้ง 3 รูปแบบ • เทียบโอนผลการเรียนได้ทั้ง 3 รูปแบบ
- 13. 2.อุดมศึกษา 1. ตํ่ากว่าปริญญา 2. ปริญญา การศึกษาในระบบ มี 2 ระดับ 1.การศึกษาขั้นพื้นฐาน 1. ก่อนประถม (3-6 ปี) 2. ประถมศึกษา (6 ปี) 3. มัธยมศึกษา (6 ปี) - ม.ต้น (3 ปี) - ม.ปลาย (3 ปี) *สามัญ *อาชีพ
- 14. การศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่น้อยกว่า 12 ปี ก่อนระดับอุดมศึกษา มีการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี อายุย่างเข้าปีที่ 7 ถึง ย่างเข้าปีที่ 16 การศึกษา ระดับอุดมศึกษา ระดับปริญญา ตํ่ากว่า
- 15. ยึดหลัก 4.แนวการจัดการศึกษา • ผู้เรียนสําคัญที่สุด • ผู้เรียนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ • ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ ความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ เน้น
- 16. ตนเอง คณิตศาตร์ และภาษา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ศาสนา ศิลป วัฒนธรรม กีฬา ภูมิปัญญาไทย การประกอบอาชีพ และดํารงชีวิตอย่างมีสุข สาระการเรียนรู้ เน้นความรู้ เกี่ยวกับ
- 17. ความเป็นไทย ความเป็นพลเมืองดี การดํารงชีวิต การประกอบอาชีพ การศึกษาต่อ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กําหนดหลักสูตรแกนกลางเพื่อ….
- 18. เหมาะสมแต่ละระดับ มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นทั้งวิชาการวิชาชีพ พัฒนาทุกด้าน ความรู้ ความคิด ความสามารถ ความดีงาม ความรับผิดชอบต่อสังคม หลักสูตรการศึกษา
- 19. สภาพปัญหา ชุมชน สังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่น คุณลักษณะที่ดี * ครอบครัว * ชุมชน * สังคม * ประเทศชาติ สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดทําสาระของหลักสูตรแกนกลาง
- 20. การประเมินผู้เรียน 1. พัฒนาการของผู้เรียน 2. ความประพฤติ 3. พฤติกรรมการเรียน 4. การร่วมกิจกรรม 5. การทดสอบ
- 21. 5.การจัดระบบโครงสร้างการบริหารและการแบ่งส่วนราชการใน ศธ. สถานศึกษา เอกชน สํานักงาน ปลัดฯ สํานักงาน เลขาฯสภาฯ สํานักงาน กก.ขั้นพื้นฐาน สํานักงาน กก.อุดมศึกษา สํานักงาน กก.อาชีวศึกษา กพฐ. กก.อุดมฯ กก.อาชีวะ อนุกก.ข้าราชการ ครูและบุคลากรฯ กก. การศึกษาฯ เขตพื้นที่ สถานศึกษาขึ้นพื้นฐาน สถานศึกษาอุดม(นิติ) สภา การศึกษา สนง.การศึกษาฯ เขตพื้นที่ รัฐมนตรี กระทรวง ◌ี สํานักงาน รมต. กก.รร. กก. ส่วนกลาง ส่วนเขตพื้นที่ สถาบันอุดมนิติบุคคล
- 25. รัฐ กระทรวง การศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม การผลิต การพัฒนา วิชาชีพครู คุณภาพ มาตรฐาน สถาบันผลิตครู การผลิต การพัฒนาครู+ บุคลากรทางการศึกษา ส่งเสริม กองทุนพัฒนา 7.ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา
- 26. ครูดี มีคุณภาพ มีมาตรฐาน วิชาชีพ ชั้นสูง มีระบบ กระบวนการผลิต และพัฒนาครูมีองค์กรวิชาชีพ ในกํากับของกระทรวง ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ กําหนดมาตรฐานวิชาชีพ กํากับดูแล - การพัฒนาวิชาชีพ องค์กรกลางบริหารบุคคล - ครูและบุคลากรต้องอยู่ในสังกัด มีกฎหมายว่าด้วยเงินเดือน ค่าตอบแทน สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์เกื้อกูลอื่น
- 27. 1. ระดมทรัพยากรทั้ง จากรัฐและเอกชน 8.ทรัพยากรและการลงทุน เพื่อการศึกษา 2. รายได้และผลประโยชน์ ของสถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคล 3. รัฐจัดงบประมาณเพื่อการศึกษา 4. จัดเงินอุดหนุนให้บุคคล ครอบครัว และองค์กรที่จัดการศึกษา 5. มีระบบตรวจสอบ ติดตาม ประเมินการใช้งบประมาณตามกฎหมาย
- 28. 9.เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา -รัฐจัดสรรคลื่นความถี่ สื่อตัวนําโครงสร้างพื้นฐาน -ส่งเสริม สนับสนุน การผลิตและพัฒนาแบบเรียน สื่อ และเทคโนโลยี ให้แข่งขันอย่างเสรี -การพัฒนาบุคลากรผู้ผลิตและผู้ใช้ -ผู้เรียนมีสิทธิได้รับการพัฒนาการใช้เทคโนโลยี เพื่อ การศึกษาต่อเนื่องตลอดชีวิต -รัฐต้องส่งเสริมการวิจัยผลิตและการพัฒนาเทคโนโลยี -จัดตั้งกองทุนพัฒนาทคโนโลยีการศึกษา -มีหน่วยงานกลางดูแล รับผิดชอบ
- 29. เทศบาล อบจ. กทม. พัทยา อบต. ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค จังหวัด อําเภอ โครงสร้างการบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนท้องถิ่น กระทรวง ทบวง กรม
- 30. วิทยาลัยชุมชน มหาวิทยาลัย ส่วนกลาง เขตพื้นที่การศึกษา สพท. สถานศึกษาขั้นพ้นฐาน โครงสร้างการบริหารการศึกษา อุดมศึกษา (นิติบุคคล) ส่วนราชการเทียบเท่ากรม
- 31. การจัดระบบโครงสร้างการบริหารและการแบ่งส่วนราชการใน ศธ. สถานศึกษา เอกชน สํานักงาน ปลัดฯ สํานักงาน เลขาฯสภาฯ สํานักงาน กก.ขั้นพื้นฐาน สํานักงาน กก.อุดมศึกษา สํานักงาน กก.อาชีวศึกษา กพฐ. กก.อุดมฯ กก.อาชีวะ อนุกก.ข้าราชการ ครูและบุคลากรฯ กก. การศึกษาฯ เขตพื้นที่ สถานศึกษาขึ้นพื้นฐาน สถานศึกษาอุดม(นิติ) สภา การศึกษา สนง.การศึกษาฯ เขตพื้นที่ รัฐมนตรี กระทรวง ◌ี สํานักงาน รมต. กก.รร. กก. ส่วนกลาง ส่วนเขตพื้นที่ สถาบันอุดมนิติบุคคล
- 32. ม.40 พรบ.ปรับปรุงกระทรวงทบวงกรม 2545 ม. 31 พรบ.กศ.ชาติ (2/2545) 1. ส่งเสริม กํากับดูแลการศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท 2. กําหนดนโยบาย แผน มาตรฐานการศึกษา 3. สนับสนุนทรัพยากรเพื่อการศึกษา 4.ส่งเสริม ประสานศาสนา ศิลป วัฒนธรรม กีฬา 5. ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลการจัดการศึกษา
- 33. เสนอนโยบาย แผนพัฒนา มาตรฐานและหลักสูตรแกนกลาง สนับสนุนทรัพยากร ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลการจัดการศึกษา สพฐ.โดย(ก.พ.ฐ.)
- 34. คณะอนุ กก.ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.)12 คน คณะกก. เขตพื้นที่การศึกษา 15 คน สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา สํานักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน คพฐ. 27 โครงสร้างสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา 6 กลุ่ม กลุ่มบริหาร งานบุคคล กลุ่ม อํานวยการ กลุ่มส่งเสริม การจัดการศึกษา กลุ่มนิเทศติดตาม ประเมินผลฯ กลุ่ม นโยบาย และแผน กก. ติดตามฯ 9 คน กลุ่มส่งเสริม สถานศึกษาเอกชน (48)
- 35. สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ส่วนราชการ สพท. - กฎกระทรวงการแบ่งส่วนราชการ2546 - 5-6 กลุ่ม/1กลุ่มส่งเสริมประสิทธิฯ 3 ปี ( 7 กรกฎาคม 49) - แบ่งมากกว่านี้/แบ่งเป็นศูนย์ขอ กพฐ. - แบ่งกลุ่มงานในกลุ่มฯขอ กก.เขตฯ - กลุ่ม กลุ่มงานระบุอํานาจหน้าที่ การบริหาร สพท. - กก.เขตพื้นที่ฯ (15 คน) (กฎกระทรวงกําหนดจํานวนฯ กก. 2546) - อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ(12คน (พรบ.ครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547) - กก.ติดตามฯ (9คน) (กฎกระทรวง จํานวน หลักเกณฑ์วิธีการได มาของ กก.ติดตาม ตรวจสอบประเมินผล และนิเทศการศึกษา/ออกตามพรบ.ศธ.ม.20
- 36. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา 15 คน มีหน้าที่ ๏ องค์กรชุมชน 1 ๏ องค์กรเอกชน 1 ๏ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2 ๏ สมาคมวิชาชีพครู1 ผู้บริหารการศึกษา1 ๏ สมาคมผู้ปกครอง และครู1 - ด้านการศึกษา - ด้านศาสนา - ด้านศิลปวัฒนธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ6 ประธานกรรมการ 1 ผอ.สพท. กก./เลขาฯ 1 2 ปี ไม่ติดต่อกัน2วาระ
- 37. 1. กํากับดูแลสถานศึกษา 2. จัดตั้ง ยุบรวมหรือเลิกสถานศึกษา 3. ส่งเสริมสนับสนุนสถานศึกษาเอกชน 4. ประสานส่งเสริมองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นให้สามารถจัดการศึกษา 5. ส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษา ของบุคคลและองค์กรต่างๆ
- 38. อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา (12 คน) สัดส่วน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนข้าราชการครูฯ มีวาระ 4 ปี ติดต่อกันเกิน 2 วาระไม่ได้ ผู้แทนข้าราชการครู และบุคลากร ทางการศึกษา (5) ผู้แทนผู้บริหาร สถานศึกษา (2) ผู้แทนครู (2) ผู้แทนบุคลากร ทางการศึกษาอื่น (1) ผู้ทรงคุณวุฒิ (4) ด้านบริหารงานบุคคล ด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ โดยตําแหน่ง (3) ผู้แทน ก.ค.ศ. ผู้แทนคุรุสภา ผอ.สํานักงานเขตพื้นที่ การศึกษา (อนุกรรมการ และเลขานุการ)
- 39. อํานาจหน้าที่หลักของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา(ม.23) กําหนดนโยบายการบริหารงานบุคคล จํานวนและอัตราตําแหน่ง และเกลี่ยอัตรากําลังของข้าราชการครูฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการ บุคคลฯ ให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการพิจารณาความดีความชอบของผู้บริหาร ในเขตพื้นที่การศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในเขตพื้นที่การศึกษา พิจารณาเกี่ยวกับเรื่องวินัย การออกจากราชการ การอุทธรณ์ และ การร้องทุกข์ ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนา การเสริมด้านขวัญกําลังใจ การปกป้องระบบ คุณธรรม การจัดสวัสดิการ และการยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการครูฯ
- 40. อํานาจหน้าที่หลักของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา(ม.23) กํากับ ดูแล ติดตามและประเมินผลการบริหารงานบุคคลในหน่วยงาน การศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา จัดทําและพัฒนาฐานข้อมูลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน หน่วยงานการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา จัดทํารายงานประจําปีเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลในหน่วยงาน การศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาเสนอต่อ ก.ค.ศ. พิจารณาให้ความเห็นชอบเรื่องการบริหารงานบุคคลในเขตพื้นที่ การศึกษาที่ไม่อยู่ในอํานาจหน้าที่ผู้บริหารสถานศึกษา ปฏิบัติงานอื่นๆ ตามพรบ.นี้ กฎหมายอื่น และ ก.ค.ศ.กําหนด
- 41. คณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบประเมินผลและ นิเทศการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา 9 คน มีหน้าที่ ๏ ผู้บริหารสถานศึกษารัฐ 1 ๏ ผู้บริหารสถานศึกษาเอกชน 1 ๏ ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 - ด้านบริหารการศึกษา - ด้านการศึกษา - ด้านวิจัย ประเมินผล - ด้านศาสนา - ด้านศิลปวัฒนธรรม - ปฐมวัย หัวหน้ากลุ่มนิเทศฯ1 (กรรมการ เลขาฯ) ผอ.สพท. (ประธานกรรมการ )1 ผอ.สพท.แต่งตั้ง วาระ3 ปี เป็น เกิน 2วาระ ติดต่อกันไม่ได้
- 42. ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย นิเทศ ติดตามผล และประเมินผลการบริหารและการดําเนินการ มุ่งผลสัมฤทธิ์ตามภารกิจ สพท. สถานศึกษา สพท. สถานศึกษา เตรียมการรับการ นิเทศ ติดตาม ประเมินจากภายนอก
- 43. บรรลุภารกิจของสถานศึกษา คณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โครงสร้าง ส่วนราชการ ผู้บริหาร ครู/บุคลากรฯ
- 46. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่มา - ม.40 พรบ. กศ.ชาติ 42 - ม.38 พรบ.ศธ. 46 กฎกระทรวงกําหนดจํานวน คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ การดํารง ตําแหน่ง พ้น กก.สถานศึกษา พ.ศ. 2546 ขนาดเล็ก ( นร.ไม่เกิน 300) จํานวน 9 คน ขนาดใหญ่ (นร.เกินกว่า 300 คน) จํานวน 15 คน
- 47. องค์ประกอบคณะกรรมการ(9,15) • ประธานกรรมการ (ผู้ทรงคุณวุฒิ) 1 • ผู้แทนผู้ปกครอง 1 คน *ผู้แทนครูฯ 1 คน • ผู้แทนองค์กรชุมชน 1 คน • ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1 คน • ผู้แทนศิษย์เก่า 1 คน • ผู้แทนพระภิกษุ/องค์ศาสนา (1 , 2* ) • ผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่เกิน 4 คน ( 1, 6* ) • ผู้อํานวยการสถานศึกษา เป็นกรรมการ/เลขานุการ 1 4 ปี เกิน 2 วาระ ติดต่อกันไม่ได้
- 48. บทบาทหน้าที่ (ม.40 พรบ.กศ.ชาติ/ม.38 พรบ.ศธ.) •กํากับ ส่งเสริม สนับสนุนกิจการ ของสถานศึกษา • กํากับ ดูแลการบริหารงานบุคคลใน ร.ร.ให้สอดคล้อง/ นโยบาย • เสนอความต้องการจํานวนอัตราตําแหน่งครูบุคลากรฯ ต่อ สพท. • ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลต่อ ผอ.สถานศึกษา • ปฏิบัติงานอื่นตามที่กฎหมายกําหนด และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ การศึกษามอบหมาย (ม.36 พรบ.ครูและบุคลากร กศ. 2547)
- 49. ประธาน กพฐ. ประธาน ก.ค.ศ อ.ก.ค.ศ.เขตฯ คณะกรรมการระดับ สพท. สถานศึกษา ผอ.สพท. กก. เขตพื้นที่ 15 คน ( 2ปี) 9 คน (4ปี) ผอ.สพท. กก.นิเทศฯ ประธาน โดยตําแหน่ง 9 คน (3ปี) กก.สถานศึกษาฯ 9 :15 คน (4ปี)
- 50. ครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง หมวด ๗ ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา มาตรา ๕๒ ให้กระทรวงส่งเสริมให้มีระบบ กระบวนการผลิต การ พัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่ เหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง โดยการกํากับและประสานให้สถาบันที่ทํา หน้าที่ผลิตและพัฒนาครู คณาจารย์ รวมทั้งบุคลากรทางการศึกษาให้มีความ พร้อมและมีความเข้มแข็งในการเตรียมบุคลากรใหม่และการพัฒนาบุคลากร ประจําการอย่างต่อเนื่องรัฐพึงจัดสรรงบประมาณและจัดตั้งกองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา อย่างเพียงพอ
- 51. ลักษณะการเป็นวิชาชีพชั้นสูง 1. บริการสังคมไม่ซํ้าซ้อนกับวิชาชีพอื่น 2. มีความรู้ความสามารถ ใช้ปัญญาในการ ทํางาน 3. อิสระในการทํางาน แต่รับผิดชอบผลที่เกิด 4. ผ่านการฝึกฝนหรือเรียนมานาน 5. มีจรรยาบรรณและมาตรฐานวิชาชีพ ใบประกอบวิชาชีพตัวชี้วัดการระกอบวิชาชีพ
- 52. ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ใบอนุญาต หมายถึง ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ซึ่งออกให้ผู้ปฏิบัติงานในตําแหน่ง • ครู • ผู้บริหารสถานศึกษา • ผู้บริหารการศึกษา • บุคลากรทางการศึกษาอื่น(ศน.) ตามพระราชบัญญัติสภาครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546
- 53. มาตรา 43 ให้วิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้บริหารการศึกษา เป็นวิชาชีพควบคุม จะประกอบวิชาชีพควบคุมได้ จะต้องได้รับ ใบอนุญาต ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
- 54. บทลงโทษ มาตรา 78 จําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสอง หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (ฝ่ าผืน ม.43 ที่ กําหนดให้ต้องมีใบอนุญาตถึงทําการใดๆได้) มาตรา 79 จําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหก หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ(ฝ่ าผืนม.56 : แสดงตน ว่ามีสิทธิ์/ผบ.รับคนไม่มีสิทธิฯ ม. 56 : สั่งพักใช้)
- 55. การรักษาไว้ซึ่งประกอบวิชาชีพทางการศึกษา มาตรา 48 ผู้ได้รับใบอนุญาต ต้องประพฤติตนตาม * มาตรฐานวิชาชีพ * จรรยาบรรณวิชาชีพ
- 56. มาตรฐานวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของ วิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้อกําหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ และคุณภาพ ที่พึงประสงค์ ในการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพ ทางการศึกษา ต้องประพฤติปฏิบัติตาม 1) มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ 2) มาตรฐานการปฏิบัติงาน 3) มาตรฐานการปฏิบัติตน
- 57. ม.50 มาตรฐานการปฏิบัติตน (จรรยาบรรณ) 1) จรรยาบรรณต่อตนเอง 2) จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ 3) จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ 4) จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ 5) จรรยาบรรณต่อสังคม 9 ข้อ
- 58. มาตรฐานการปฏิบัติตน ( 9 จรรยาบรรณ) 1.จรรยาบรรณต่อตนเอง 1) ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องมีวินัยในตนเอง พัฒนาตนเอง ด้านวิชาชีพ บุคลิกภาพ และวิสัยทัศน์ ให้ทันต่อการพัฒนาทางวิทยาการ เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอยู่เสมอ 2.จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ 2) ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรัก ศรัทธา ซื่อสัตย์สุจริต รับผิดชอบต่อวิชาชีพ และเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรวิชาชีพ
- 59. มาตรฐานการปฏิบัติตน ( 9 จรรยาบรรณ) 3. จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ 3) ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริม ให้กําลังใจแก่ศิษย์ และผู้รับบริการ ตามบทบาทหน้าที่โดยเสมอหน้า 4) ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และนิสัย ที่ถูกต้องดีงามแก่ศิษย์และผู้รับบริการตามบทบาทหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ 5) ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้ง ทางกาย วาจา และจิตใจ 6)ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องไม่กระทําตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญ ทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์ และผู้รับบริการ 7) ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องให้บริการด้วยความจริงใจและเสมอภาค โดยไม่เรียกรับหรือยอมรับผลประโยชน์จากการใช้ตําแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ
- 60. มาตรฐานการปฏิบัติตน ( 9 จรรยาบรรณ) 4. จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ 8) ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน อย่างสร้างสรรค์ โดยยึดมั่นในระบบคุณธรรม สร้างความสามัคคีในหมู่คณะ 5.จรรยาบรรณต่อสังคม 9) ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงประพฤติปฏิบัติตนเป็นผู้นําใน การอนุรักษ์และพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อม รักษาผลประโยชน์ของ ส่วนรวม และยึดมั่นในการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
- 61. ถ้าถูกกล่าวโทษ ประพฤติผิด จรรยาบรรณของวิชาชีพ 1) ยกข้อกล่าวหา 2) ตักเตือน 3) ภาคทัณฑ์ 4) พักใช้ใบอนุญาต (ไม่เกิน 5 ปี) 5) เพิกถอนใบอนุญาต (5 ปี) มาตรา 54 (กก.มฐ.วิชาชีพ)
- 63. มีและสามารถเลื่อนวิทยฐานะได้ มาตรา 39 พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ ครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ก. ตําแหน่งครู มี 4 วิทยฐานะ ข. ตําแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา 3/4 วิทยฐานะ ค. ตําแหน่งผู้บริหารการศึกษา 2/2 วิทยฐานะ ง. ตําแหน่งศึกษานิเทศก์ มี 4 วิทยฐานะ
- 64. ได้เงินเดือนและวิทยาฐานะครู บุคลากรฯ มาตรา 3 พระราชบัญญัติ เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจําตําแหน่ง ข้าราชการครู และบุคลากรฯ พ.ศ. 2547 “ผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ จะมีเงินเดือนตาม คศ.และเงินค่าวิทยฐานะ”
- 65. ปฏิบัติให้บรรลุวัตถุประสงค์ของคุรุสภา - กําหนดมาตรฐานวิชาชีพ/ออก/เพิกถอน/กํากับตาม มฐ. - กําหนดนโยบายแผนพัฒนาวิชาชีพ - ประสาน ส่งเสริมการศึกษาวิจัยพัฒนาวิชาชีพครู คุรุสภา(สภาครูฯ) มี กก. 39 คน ประธานมาจากผู้ทรงคุณวุฒิ เลขาคุรุสภาเป็นเลขานุการ สํานักงาน
- 66. - ให้คําปรึกษาแนะนํา กก.มฐ.วิชาชีพ - อุทธรณ์คําสั่งลงโทษของ กก.มฐ.วิชาชีพ - กําหนดนโยบาย/เร่งรัดการดําเนินงาน - แต่งตั้งคณะกรรมการฯทํางานตามหน้าที่ฯ - ออกระเบียบข้อบังคับ - อื่นๆ หรือตาม รมต.มอบหมาย หน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา
- 67. สมาชิกของคุรุสภามีสองประเภท ดังนี้ - สมาชิกสามัญ - สมาชิกกิตติมศักดิ์ สมาชิกกิตติมศักดิ์เป็นผู้ทรงคุณวุฒิซึ่ง คณะกรรมการคุรุสภาแต่งตั้งโดยมติเป็นเอก ฉันท์ สมาชิกคุรุสภา
- 68. อํานาจหน้าที่ - พิจารณาออก/พักใช้/เพิกถอน - กํากับให้ปฏิบัติตามมาตรฐาน จรรยาบรรณวิชาชีพ - ส่งเสริม พัฒนา วิชาชีพครูฯ - แต่งตั้งคณะทํางาน ตามหน้าที่ คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ มี 17 คน ประธานจากผู้ทรงคุณวุฒิ เลขาคุรุสภาเป็นกรรมการและเลขานุการ
- 69. มีใครบ้าง อํานาจหน้าที่ - ส่งเสริม สวัสดิการ สวัสดิภาพ ประโยชน์เกื้อกูลครู - สนับสนุน ส่งเสริมยกย่อง ผดุงเกียรติครู บุคลากรฯ - บริหาร จัดหาผลประโยชน์ - ออกข้อบังคับ หลักเกณฑ์ - ตั้งคณะอนุกรรมการฯ คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา (สก.สค.) มี 23 คน - ปลัด ศธ. เป็นประธาน - เลขา สก.สค เป็น กก. เลขาฯ สํานักงาน
- 70. พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา พ.ศ 2547 ม.54 พรบ.กศ.ชาติ 2542 ให้มีองค์กรการบริหารงาน บุคคลสําหรับข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา
- 71. 1. มีคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) 2. มีคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) ประจําเขต พื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ.ตามที่ ก.ค.ศ. มอบหมาย กระจายอํานาจการบริหารงานบุคคล ไปยังเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา
- 73. องค์ประกอบของ ก.ค.ศ. ( 2: 8:9:9 = 28 คน) ก.ค.ศ. ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนข้าราชการครูฯ มีวาระการดํารงตําแหน่ง 4 ปี โดยตําแหน่ง (8) เลขาธิการคณะ กรรมการฯ อุดมศึกษา เลขาธิการคุรุสภา เลขาธิการ ก.พ. เลขาธิการ กพฐ. เลขาธิการคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา ปลัดท่องเทียว ปลัดวัฒนธรรม เลขาธิการ ก.ค.ศ. กรรมการและ เลขานุการ ผู้ทรงคุณวุฒิ (9) ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านกฎหมาย ด้านบริหารจัดการภาครัฐ ด้านบริหารองค์กร/ ด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านการศึกษา /กศ.พิเศษ ด้านบริหารธุรกิจ ด้านวิจัย เทคโน KM ด้านผลิตพัฒนาครู ผู้แทนข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา (9) ผู้แทน ผอ.สํานักงานเขตฯ (1) ผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา (1) ผู้แทนครู (6) ผู้แทนฯ บุคลากรทาง การศึกษาอื่น (1) รมว. (ประธาน) (8) ปลัดกระทรวง (รอง)
- 74. องค์ประกอบของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนข้าราชการครูฯ มีวาระการดํารงตําแหน่ง 4 ปี (ระบบไตรภาคี 3:4:5 = 12 คน) ผู้แทนข้าราชการครู บค.การศึกษา (5) ผู้แทนผู้บริหารรร. ประถม (1)มัธยม(1) ผู้แทนครูประถม (1) มัธยม(1) ผู้แทนบุคลากร ทางการศึกษาอื่น(1) ผู้ทรงคุณวุฒิ (4) ด้านบริหารงานบุคคล ด้านกฎหมาย/คลัง ด้านการศึกษา ด้านอื่นที่เป็น ประโยชน์ โดยตําแหน่ง (3) ผู้แทน ก.ค.ศ. ผู้แทนคุรุสภา ผอ.สํานักงานเขตพื้นที่ การศึกษา (อนุกรรมการ และเลขานุการ) ประธาน 1 คน
- 75. กําหนดตําแหน่งข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาตาม พรบ. ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 254 7 ตําแหน่งหลักมี 3 ประเภท (ม.38) ก. ผู้มีหน้าที่สอน ข. ตําแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารการศึกษา ค. ตําแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น
- 76. 1. ตําแหน่งผู้มีหน้าที่สอน ได้แก่ 1. ครูผู้ช่วย 4. ผศ. 2. ครู 5. รศ. 3. อาจารย์ 6. ศ.
- 78. 2. ตําแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาและ ผู้บริหารการศึกษา ได้แก่ 1. รอง ผอ.สถานศึกษา 2. ผอ.สถานศึกษา 3. รอง ผอ.สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา 4. ผอ.สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา 5. รองอธิการบดี 6. อธิการบดี 7. ตําแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่น ตามที่ ก.ค.ศ.กําหนด
- 81. ตําแหน่งบุคลากรทางการศึกษา ได้แก่ 1. ศึกษานิเทศก์ 2. ตําแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่ ก.ค.ศ.กําหนด หรือ ตําแหน่งของ ก.พ.ที่ ก.ค.ศ.นํามา กําหนดเป็นตําแหน่งข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา มีมาตรฐานตําแหน่ง ไม่มีวิทยฐานะ รับเงินเดือนพลเรือน
- 83. * เงินเดือนรับตาม อันดับ คศ. ที่ปรับ * เงินวิทยฐานะ - เคยได้เงินประจําตําแหน่ง ได้ต่อไป - ไม่เคยได้ ต้องผ่านการประเมิน - เมื่อมีการเปลี่ยนตําแหน่ง เงินเดือน เงินวิทยฐานะตามตัว การรับเงินเดือน วิทยฐานะ
- 84. อัตราเงินวิทยฐานะของข้าราชการครูฯ วิทยฐานะ อัตรา(บาท/เดือน) เชี่ยวชาญพิเศษ 13,000 เชี่ยวชาญ 9,900 ชํานาญการพิเศษ 5,600 ชํานาญการ 3,500 หมายเหตุ เมื่อเปลี่ยนตําแหน่ง วิทยฐานะ จะติดตัวไป
- 85. * เงินวิทยฐานะ * เงินวิทยพัฒน์ * สิทธิประโยชน์อื่น ค่าตอบแทนครู
- 86. การบรรจุ การสรรหา ม.45 ให้สอบแข่งขันเพื่อ บรรจุเข้ารับราชการ ม.46 บรรจุผู้มีคุณสมบัติ ตามมาตรฐาน ตําแหน่ง ม.47 ให้ อ.ก.ค.ศ. สอบบรรจุและแต่งตั้ง (หลักเกณฑ์ ก.ค.ศ.) ม.48 สอบแข่งขันเฉพาะ ผู้มีคุณสมบัติพิเศษได้ (กฎ ก.ค.ศ.) ม.49 ถ้าขาดคุณสมบัติ สั่งให้ออกจาก ราชการได้ 1
- 87. การบรรจุ แต่งตั้ง ม.50 อาจคัดเลือกบุคคล เพื่อบรรจุและ แต่งตั้งได้ ม.52 กําหนดและบรรจุ ตําแหน่งสัญญาจ้าง พนักงานราชการได้ ม.53 ผู้มีอํานาจสั่งบรรจุ และแต่งตั้ง (หลักเกณฑ์ ก.ค.ศ.) ม.54 การเลื่อนวิทยฐานะ ให้คํานึงถึงวินัย คุณธรรม ฯลฯ (หลักเกณฑ์ ก.ค.ศ.) ม.51 กคศ.อนุมัติให้บรรจุแต่งตั้ง ผู้มีความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญสูงได้ 2(หลักเกณฑ์ ก.ค.ศ.) (ระเบียบ ก.ค.ศ.) (หลักเกณฑ์ ก.ค.ศ.)
- 88. ระบบการสรรหา การบรรจุ ข้าราชการครู และบุคลากร ทางการศึกษา 4. ตามสัญญาจ้าง 3. กรณีเหตุผลจําเป็นเพื่อประโยชน์ราชการ 2. กรณีมีความจําเป็น/เหตุพิเศษ 1. การสอบแข่งขัน ม.52 ม.51 ม.50 ม.45
- 89. อํานาจการบรรจุและแต่งตั้ง ม.53 ผู้มีอํานาจ ตําแหน่งที่แต่งตั้ง เลขาธิการ กพฐ. โดยอนุมัติ ก.ค.ศ. ผอ.สพท. โดยอนมัติ อ.ก.ค.ศ.เขต ผอ.สถานศึกษา โดยอนมัติ อ.ก.ค.ศ.เขต •เชี่ยวชาญพิเศษ ผอ.สพท. รองผอ.สพท.และตําแหน่งไม่สังกัดเขต •เชี่ยวชาญพิเศษลงมาทุกตําแหน่ง ยกเว้นครู ครู ผช.และบุคลากรในสถานศึกษา •ครูผู้ช่วย ครูที่ไม่มีวิทยฐานะ และบุคลากรอื่นในสถานศึกษา
- 90. หลักการ ตําแหน่งครู ต้องเตรียมความพร้อม และ พัฒนาอย่างเข้มในตําแหน่งครูผู้ช่วย 2 ปี ก่อนแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งครู(หลักเกณฑ์กําหนดแล้ว) ตําแหน่งอื่น ทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการตามเวลา ที่กําหนดในกฎ ก.ค.ศ. ( เมื่อยังไม่กําหนดให้นํา ม.133 มาบังคับใช้ คือ 6 เดือน) การทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ และการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ม.56 วรรค 2
- 91. การย้ายข้าราชการครูฯ มี 3 กรณี กรณีปกติ อยู่รวมกับคู่ สมรส ดูแลบิดา มารดา กลับภูมิลําเนา กรณีพิเศษ ติดตามคู่สมรส เจ็บป่วยร้ายแรง ถูกคุกคามชีวิต ดูแลบิดามารดา หรือคู่สมรสที่เจ็บป่วย ร้ายแรง เพื่อประโยชน์ทางราชการ แก้ปัญหาบุคคล พัฒนาคุณภาพ การศึกษา การย้ายสับเปลี่ยน
- 92. การเปลี่ยนตําแหน่ง ความหมาย การแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ดํารง ตําแหน่งที่มิใช่ตําแหน่งที่ดํารงอยู่เดิม โดยแบ่งออกเป็น 3 กรณี 1) การเปลี่ยนตามความสมัครใจ (ต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกเข้าสู่ ตําแหน่ง เช่นการสอบคัดเลือกเพื่อเปลี่ยนตําแหน่ง) 2) เปลี่ยนเพื่อประโยชน์ทางราชการ เช่นผู้บังคับบัญชาเห็นว่าผู้ใดประพฤติ ตนไม่เหมาะสมกับตําแหน่ง ถ้าปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอาจจะก่อให้เกิดความ เสียหายต่อทางราชการหรือไม่สามารถปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลได้
- 93. การเปลี่ยนตําแหน่ง 3) เปลี่ยนเพราะถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ อาจถูกเปลี่ยนแต่งตั้ง ให้ไปดํารงตําแหน่งอื่นได้ ส่วนกรณีถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบ วิชาชีพ หากผู้บังคับบัญชาเห็นว่าผู้นั้นเหมาะสมที่จะแต่งตั้งให้ดํารง ตําแหน่งว่างหรือตําแหน่งอื่นที่ไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ให้ ดําเนินการเปลี่ยนตําแหน่งภายใน 30 วัน วิธีการ 1) ผู้บังคับบัญชาพิจารณา 2) นําเสนออ.ก.ค.ศ. พิจารณาให้ความเห็นชอบ 3) ผู้มีอํานาจตามมาตรา 53 สั่งแต่งตั้ง
- 94. - วินัยและการดําเนินการ - เดิมใช้ระเบียบพลเรือน - ม. 82 - 95 วินัยข้าราชการครู
- 95. วินัยและการรักษาวินัย เพิ่มหลักการใหม่ๆ - ไม่กลั่นแกล้ง ใส่ร้าย หรือร้องเรียนเป็นเท็จ - ไม่กระทําการโดยมีความมุ่งหมายเป็นการซื้อ ขาย (จ้าง-รับจ้างทําผลงาน) ตําแหน่งหรือวิทยฐานะ - ไม่เป็นกลางทางการเมือง เกี่ยวข้องกับซื้อสิทธิ ขายเสียง การเลือกตั้ง สส. สว. สมาชิกสภาท้องถิ่น ฯลฯ - การข่มเหง ดูหมิ่น กดขี่ เหยียดหยามผู้เรียน - ลงโทษผู้เสพยาเสพติด/ผู้สนับสนุน เล่นการพนันเป็น อาจิณ การล่วงละเมิดทางเพศต่อนักเรียนนักศึกษา
- 96. วินัยและการรักษาวินัย วินัยร้ายแรง - การทุจริตต่อหน้าที่ - การไม่ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายฯทําให้ราชการ เสียหายร้ายแรง - การขัดคําสั่งผู้บังคับบัญชาซึ่งสั่งชอบด้วยกฎหมาย ทําให้ราชการเสียหายร้ายแรง - การละทิ้งทอดทิ้งหน้าที่ทําให้ราชการเสียหายร้ายแรง - การละทิ้งหน้าที่ติดต่อกันเกินกว่า 15 วันโดยปราศจาก เหตุผลอันสมควร - การกลั่นแกล้ง กดขี่ ข่มเหง ดูหมิ่นเหยียดหยาม ผู้เรียนและผู้มาติดต่อราชการ
- 97. วินัยและการรักษาวินัย วินัยร้ายแรง(ต่อ) - การซื้อขายหรือกระทําการเพื่อให้ได้รับการแต่งตั้งดํารง ตําแหน่ง วิทยฐานะโดยมิชอบ การคัดลอก ลอกเลี่ยน จ้าง รับจ้างทําผลงานวิชาการ เพื่อเลื่อนตําแหน่งหรือวิทยฐานะ - การเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต ซื้อขายเสียงเลือกตั้ง ทางการเมือง - การถูกศาลสั่งลงโทษจําคุก - การเสพยาเสพติด สนับสนุนให้ผู้อื่นเสพยาเสพติด เล่นการพนันเป็นอาจิณ ละเมิดทางเพศนักเรียนนักศึกษา
- 98. วินัยและการรักษาวินัย วินัยไม่ปรากฏ (แต่อยู่ในกรณีอื่น) - การทําหน้าที่พิเศษ ที่จะต้องสนใจ รับทราบเหตุการณ์ ความเคลื่อนไหวอันเป็นอันตรายต่อประเทศชาติหรือ ป้ องกันภยันตรายต่อประเทศชาติ - การรักษาความลับของทางราชการ - การกระทําการข้ามผู้บังคับบัญชาเหนือตน - การรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา
- 100. การพิจารณาความผิดและโทษ กรณีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง - ผู้บังคับบัญชา ที่สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนสั่งลงโทษตามสถานโทษ ที่กฎ ก.ค.ศ. กําหนด กรณีความผิดวินัยอย่างร้ายแรง - ต้องเสนอให้ ก.ค.ศ. หรือ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาเพื่อมี มติแล้วแต่กรณี
- 101. - ลงโทษผู้บังคับบัญชาที่ปกป้ องความผิด หรือปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่สุจริตในการดําเนินการทางวินัยแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา - กําหนดโทษทางวินัย มี 5 สถาน ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน ปลดออก ไล่ออก
- 102. - วินัยไม่ร้ายแรง (ผบ. ตั้งกรรมการสอบสวน) - วินัยร้ายแรง (ผบ.ตาม ม.53 ตั้งกรรมการสอบสวน) - สิทธิเกี่ยวกับด้านวินัย ร้องทุกข์ - สั่งให้ออกจากราชการที่ไม่ใช่วินัย - ผบ.ใช้อํานาจไม่ถูกต้อง ไม่เป็นตามกม. - คับข้องใจจากการปฏิบัติผู้บังคับบัญชา อุทธรณ์ (กรณีถูกลงโทษทางวินัย) - ไม่ร้ายแรง ต่อ อ.ก.ค.ศง ภายใน 30วัน - ร้ายแรง ต่อ ก.ค.ศง ภายใน 30วัน ฟ้ องศาลปกครอง (อุทธรณ์ตามขั้นตอนแล้ว)
- 103. 1. เด็กคือ บุคคลที่มีอายุตํ่ากว่า 18 ปีบริบูรณ์ 2. คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ มี 23 คน - รมต.พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ เป็นประธาน - กรรมการต้องมีผู้หญิง ไม่น้อยกว่า 1ใน3 3. มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กระดับจังหวัด 22 คน - ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน ผอ.สพท.เป็นกรรมการ - พัฒนาสังคมฯเป็นกรรมการเลขาฯ ผู้หญิง ไม่น้อยกว่า 1ใน3 4. คณะกรรมการฯมีหน้าที่ - สงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ส่งเสริมความประพฤติเด็กและ -อื่นๆตามที่กฎหมายกําหนด
- 104. 5. มีข้อห้ามมิให้บุคคลอื่น ผู้ปกครองปฏิบัติต่อเด็ก หากฝ่ าฝืนเป็นความผิด(คํานึงประโยชน์สูงสุดเด็ก) 6.ผู้พบเห็นเด็กตกในสภาพที่ต้องสงเคราะห์ หรือ ควรคุ้มครอง ต้องช่วยเหลือ ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ ผู้คุ้มครองสวัสดิภาพ โดยไม่ชักช้า 7. เด็กพึงจะได้รับการสงเคราะห์มี 8 ประเภท 8. เด็กที่จะได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพมี 3 ประเภท 9. กําหนดให้โรงเรียนจัดระบบงาน การดูแลนักเรียน กิจกรรมแนะแนว ให้คําปรึกษาฝึกอบรมนักเรียน 10. นักเรียนที่กระทําความผิดต้องถูกลงโทษตาม ระเบียบที่ ศธ.กําหนด
- 105. เด็กพึงจะได้รับการสงเคราะห์ มี 8 ประเภท 1. เด็กกําพร้า เด็กเร่ร่อน 2. เด็กที่ถูกทอดทิ้ง พลัดหลง 3. เด็กที่ผู้ปกครองไม่สามารถอุปการะเลียงดูได้ เช่น ถูกจําคุก กักขัง พิการ ทุพพลภาพ เจ็บป่ วย โรคจิต 4. เด็กที่ผู้ปกครองประกอบอาชีพไม่เหมาะสม 5. เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยมิชอบ 6. เด็กพิการ 7.เด็กที่อยู่ในสภาพยากลําบาก 8.เด็กที่ควรได้รับการสงเคราะห์ตามกฎกระทรวง
- 106. เด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ 3 ประเภท 1. เด็กที่ถูกทารุณกรรม 2. เด็กที่เสี่ยงต่อการประทําผิด 3. เด็กที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎกระทรวง
- 107. จําคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 3 หมื่น บทลงโทษผู้กระทําต่อเด็ก (ตามม. 26) 1. ทารุณกรรมต่อร่างกาย จิตใจ 2. จงใจละเลยสิ่งจําเป็นต่อการดํารงชีวิต 3. บังคับ จูงใจ ขู่เข็ญ ให้เด็กประพฤติตัวไม่เหมาะสม 4. โฆษณาเพื่อรับ ยกเด็กให้บุคคลอื่น 5. บังคับ ขู่เข็ญให้เด็กขอทาน เล่นกีฬาทารุณกรรม อนาจาร 6.ใช้จ้างวานเด็กให้ทํางานอันตรายต่อร่างกาย จิตใจ เล่นการพนัน 7. จําหน่าย แลกเปลี่ยนให้เสพสุรา บุหรี่
- 108. จําคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 6 หมื่น บทลงโทษผู้กระทําต่อเด็ก ม.27 เผยแพร่ข้อมูลเด็กทําให้เกิดความเสียหาย จิตใจ ชื่อเสียง เกียรติคุณ สิทธิ หรือแสวงหาประโยชน์ ม.50 ผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กเปิดเผยชื่อ ข้อมูลฯ ทํา ให้เกิดความเสียหายแก่เด็ก ม.61 เจ้าของ ผู้ปกครองสวัสดิภาพ ผู้เลี้ยงเด็กใน สถานรับแรก สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองฯ ทําร้ายทารุณร่างกาย จิตใจเด็ก หรือดูแลด้วย ความรุนแรง
- 109. บทบาทสถานศึกษาตามพรบ.นี้ ม. 63 ให้โรงเรียนจัดให้มีระบบงานและกิจกรรมใน การแนะแนวให้คําปรึกษา นร.นศง ผู้ปกครอง เพื่อ ส่งเสริมความประพฤติที่เหมาะสม ความปลอดภัย ตามกฎกระทรวง การปฎิบัติ ศธ.ออกกฎกระรวงกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัด ระบบงานและกิจกรรมในการแนะแนว ให้คําปรึกษาและฝึกอบรมนักเรยน นักศึกษาและผู้ปกครอง พ.ศ. 2548 มีผลบังคับใช้ 6 มกราคม 2549
- 110. บทบาทสถานศึกษาตามพรบ.นี้ ม. 64 ให้นักเรียนนักศึกษาต้องประพฤติตนตาม ระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษาและตามที่ กําหนดในกฎกระทรวง การปฎิบัติ ศธ.ออกกฎกระรวงกําหนดกําหนดความประพฤตินักเรียนนักศึกษา พ.ศ. 2548 มีผลบังคับใช้ 6 มกราคม 2549 ที่มีสาระสําคัญคือ นักเรียนต้องไม่ประพฤติผิด 9 ประการ ให้สถานศึกษาออกระเบียบว่าด้วยความประพฤตินักเรียน
- 111. กฎ.ศธ.ว่าด้วยความประพฤติ นร.นศ.พ.ศ. นักเรียนต้องไม่ประพฤติตนดังนี้ 1. หนีเรียน ออกนอกโรงเรียน/ไม่ได้รับอนุญาต 2. เล่น/จัดให้มีการเล่นพนันผิดกฎหมาย 3. พกพาอาวุธ/ระเบิด/ไม่ใช่แต่ประทุจร้ายได้ 4.ซื้อ จําหน่าย แลกเปลี่ยนเสพสุรา บุหรี่ ยาเสพติด 5. ลักทรัพย์กรรโชก ข่มขู่ บังคับขืนใจ รีดไถ 6.ก่อเหตุทะเลาวิวาท ทําร้ายร่างกาย เตรียมการทําร้าย 7.แสดงพก.ชู้สาว ในที่สาธารณะ 8.ค้าประเวณี 9.ออกนอกที่พักเที่ยวเตร่ รวมกลุ่มสร้างความเสียหาย