SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  53
ระบบต่อ ม
ไร้ท ่อ
(Endocrine
System)

1
วัต ถุป ระส
1.เพื่อพัฒนาโปรแกรม Power point
งค์ ้วิชาเทคโนโลยี
2. เพื่อบรรณาการความรู
สารสนเทศกับวิชาชีววิทยา
3. เพื่อเป็นกรเสริมความรู้พื้นฐานในการ
เรียนวิชาชีววิทยา
4. เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการการทำา
โครงงานเป็นกลุ่ม
5. เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เป็นเพื่อนวัย
เรียนที่ต้องการเสริมความรู้ให้ตนเอง

2
ต่อ มไร้ท อ (endocrine
่
gland)


หมายถึง ต่อมที่ทำาหน้าที่สร้างสารเคมีที่
เรียกว่าฮอร์โมนแล้วถูกลำาเลียงไปออกฤทธิ์
อย่างจำาเพาะที่อวัยวะเป้าหมาย (target
organ) โดยอาศัยระบบหมุนเวียนโลหิต



อวัยวะในร่างกายที่มีหน้าที่สร้างฮอร์โมน
เช่น ต่อม thyroid, parathyroid, adrenal,
pituitary เป็นต้น
3
ชนิด ของต่อ มไร้ท อ
่




ต่อ มไร้ท อ ชนิด ทีแ ยกอยูเ ดี่ย ว ผลิต ฮอร์โ มนเป็น
่
่
่
หน้า ทีห ลัก ได้แ ก่
่
 ต่อ มใต้ส มอง (Hypophysis, Pituitary
gland),
 ต่อ มไธรอยด์ (Thyroid gland),
 ต่อ มพาราไธรอยด์ (Parathyroid gland),
 ต่อ มหมวกไต (Adrenal gland),
 ต่อ มไพเนีย ล (Pineal gland, Epiphysis)
ต่อ มไร้ท อ ชนิด ทีอ ยูร ่ว มกับ ต่อ มมีท อ
่
่ ่
่
 ตับ อ่อ นส่ว น Islets of Langerhans,
 รัง ไข่ (Ovary) และอัณ ฑะ (Testes),
 กลุ่ม เซลล์ใ นรก (Placenta),


4
โมเลกุล สัญ ญาณ








Hormones เป็น สารเคมีท ห ลั่ง จากต่อ มไร้ท อ
ี่
่
เมือ หลั่ง ออกมาแล้ว ถูก นำา ไปยัง เป้า หมายทีห ่า ง
่
่
ไกล โดยไหลไปตามกระแสไหลเวีย นเลือ ด
Neurotransmitters เป็น สารสื่อ ประสาทที่
หลั่ง จากปลายของเซลล์ป ระสาท
Local signalling molecules เป็น สารทีห ลั่ง
่
จากเซลล์ข องเนือ เยื่อ ชนิด ต่า งๆทำา ให้ส ภาพ
้
ทางเคมีข องบริเ วณใกล้เ คีย งเปลี่ย นไป
Pheromones หลั่ง จากต่อ มมีท อ (exocrine
่
glands) บางชนิด และมีเ ป้า หมายอยู่น อก
ร่า งกาย และสารนีม ผ ลทางด้า นพฤติก รรม
้ ี
5
ฮอร์โ มน (hormone)
• หมายถึง สารเคมีท ี่ส ร้า งจาก
เซลล์จ ำา เพาะของต่อ มไร้ท อ
่
อาจมีค ณ สมบัต ิเ ป็น กรดอะมิโ น
ุ
เพปไทด์ ไกลโคโปรตีน หรือ ส
เตีย รอยด์
• เมื่อ สร้า งขึ้น แล้ว จะถูก ปล่อ ยเข้า
สู่ก ระแสเลือ ดแล้ว กระจายไปทั่ว
ร่า งกายโดยจะมีผ ลต่อ อวัย วะ
เป้า หมายอย่า งจำา เพาะเจาะจง
6
การสัง เคราะห์โ ปรตีน ฮอร์โ มน
• โปรตีน ฮอร์โ มนและไกลโคโปรตีน ฮอร์โ มนมีก าร
สัง เคราะห์ท ี่บ ริเ วณของเอนโดพลาสมิก เรติค ูล ัม
ชนิด หยาบ (RER)
• ไกลโคโปรตีน ฮอร์โ มนจะมีก ารเติม ส่ว นของคาร์
โบไฮเดรทภายหลัง จากการสัง เคราะห์ส ่ว นของ
โปรตีน เสร็จ แล้ว
• ฮอร์โ มนทีส ร้า งจะถูก ส่ง ไปเก็บ สะสมในรูป ของถุง
่
ซึ่ง หลุด จากส่ว นปลายของกอลไจแอปพาราตัส
(golgi apparatus) เรีย กว่า secretory
granules
• ฮอร์โ มนเมือ แรกสร้า งจะอยูใ นรูป prohormone
่
่
หรือ prehormone ซึ่ง ยัง ไม่ส ามารถออกฤทธิ์
7
ทำา งานได้
การทำา ลายฤทธิแ ละการ
์
กำา จัด ฮอร์โ มน

• เกิด ขึ้น ที่เ ซลล์เ ป้า หมายทัน ทีห รือ อาจถูก
ส่ง ไปทำา ลายที่ต ับ หรือ ไต
• เช่น สเตีย รอยด์ฮ อร์โ มนหลัง จากหมด
หน้า ที่แ ล้ว จะจับ กับ พวก
กลูโ คโร
ไนด์ (glucoronide) หรือ ซัล เฟต
(sulphate) แล้ว กำา จัด ออกมากับ ปัส สาวะ
• สำา หรับ เมทาบอไลท์ข องฮอร์โ มนที่ไ ม่
สามารถละลายนำ้า ได้จ ะถูก กำา จัด ออกทาง
นำ้า ดีแ ละอุจ จาระ
8
• อาจพบฮอร์โ มนที่ย ัง ไม่ถ ูก ทำา ลายฤทธิ์ถ ูก






ความสัม พัน ธ์ร ะหว่า งไฮโปธา
ลามัส กับ ต่อ มใต้ส มอง

ฐานของไฮโปธาลามัส มีก ้า นยื่น (stalk)
โดยที่ป ลายของก้า นยืน คือ ต่อ มใต้ส มอง
่
ไฮโปธาลามัส หลั่ง releasing hormone
เข้า สูต ่อ มใต้ส มองส่ว นหน้า ทางเส้น เลือ ด
่
ดำา hypothalamo-pituitary portal
system ที่อ ยู่ใ น pituitary stalk
ไฮโปธาลามัส และต่อ มใต้ส มองส่ว นหลัง มี
การเชือ มต่อ กัน โดยระบบประสาท
่
สรุป ความสัม พัน ธ์ร ะหว่า งไฮโปธาลามั
สกับ ต่อ มใต้ส มอง
► ความสัม พัน ธ์ร ะหว่า งไฮโปธาลามัส และต่อ ม

ใต้ส มองส่ว นหน้า
- ไฮโปธาลามัส หลั่ง releasing hormone
มาควบคุม การทำา งานของต่อ มใต้ส มองส่ว น
หน้า
► ความสัม พัน ธ์ร ะหว่า งไฮโปธาลามัส และต่อ ม
ใต้ส มองส่ว นหลัง
- ต่อ มใต้ส มองส่ว นหลัง ทำา หน้า ที่เ ก็บ
ฮอร์โ มน 2 ชนิด ที่ถ ูก สร้า งจากไฮโปธาลามั
สคือ ADH และ oxytocin
ฮอร์โ มนที่ส ง เคราะห์แ ละหลั่ง จากต่อ ม
ั
ใต้ส มองส่ว นหน้า (anterior
pituitary)

มี 6 ชนิด ได้แ ก่
• Follicle stimulating hormone
(FSH)
• Lutenizing hormone (LH)
• Thyroid
stimulating
hormone (TSH)
• Adrenocorticotropic
hormone (ACTH)
• Growth hormone (GH) หรือ
Follicle stimulating hormone
(FSH)
► เป็น ฮอร์โ มนประเภทไกลโคโปรตีน
► ออกฤทธิท ี่ร ัง ไข่
์

(ovaries) ของเพศเมีย
หรือ อัณ ฑะ (testes) ของเพศผู้
► ในเพศเมีย FSH จะทำา หน้า ที่ก ระตุ้น การ
เจริญ เติบ โตของถุง ไข่ (ovarian follicle)
► ในสัต ว์เ พศผู้FSH จะมีผ ลกระตุน
้
FSH
ให้seminiferous tubule สร้า งเซลล์อ สุจ ิ
seminiferous
Hypothalamus

Pituitary gland

Ovary
Estrogen
Progesterone
Lutenizing hormone (LH)
► เป็น ฮอร์โ มนประเภทไกลโคโปรตีน

LH จะมีผ ลทำำ ให้graafian follicles เกิด
graafian
กำรตกไข่
► LH มีผ ลต่อ กำรพัฒ นำของ คอร์ป ส ลูเ ทีย ม
ั
(corpus luteum)
► สำำ หรับ สัต ว์เ พศผู้ LH จะทำำ หน้ำ ที่ใ นกำรก
ระตุ้น leydig cell ในกำรสัง เครำะห์
ฮอร์โ มน testosterone
►
Thyroid stimulating
hormone (TSH)
►เป็น ฮอร์โ มนประเภทไกลโคโปรตีน
►กระตุ้น กำรหลั่ง ฮอร์โ มนจำกต่อ ม

ไทรอยด์ และกระตุ้น กำรเจริญ เติบ โต
ของต่อ มไทรอยด์
Adrenocorticotropic
hormone (ACTH)
►เป็น โปรตีน ฮอร์โ มน
►กระต้น ต่อ มหมวกไตชั้น นอก

(adrenal cortex) ให้ผ ลิต และหลั่ง
ฮอร์โ มน aldosterone และ
cortisol
Growth hormone (GH) หรือ
Somatotrophin (STH)
► เป็น โปรตีน ฮอร์โ มน
► เกี่ย วกับ กำรสร้ำ งควำมเจริญ เติบ โตของ

ร่ำ งกำย โดยเฉพำะกำรเจริญ เติบ โตของ
กระดูก หรือ กล้ำ มเนือ
้
► GH จะถูก ควบคุม โดยฮอร์โ มนที่ส ร้ำ งจำก
สมองส่ว นไฮโพทำลำมัส คือ Growth
hormone inhibiting hormone (GHIH)
และ Somatostatin จำก delta cell ของ
ตับ อ่อ น
Prolactin
► เป็น โปรตีน ฮอร์โ มน
► มีห น้ำ ที่เ กี่ย วข้อ งกับ กำรสร้ำ งนำ้ำ นมและกำร

เจริญ เติบ โตของเซลล์เ ต้ำ นมโดยทำำ งำน
ร่ว มกับ GH อีก ทั้ง ยัง มีผ ลต่อ พฤติก รรมของ
ควำมเป็น แม่
► มีผ ลทำำ ห้ค อร์ป ส ลูเ ตีย มบนรัง ไข่ค งสภำพอยู่
ั
ไม่ฝ อ ตัว
่
► ในสัต ว์เ พศเมีย ที่ไ ม่ต ั้ง ท้อ ง หรือ ผสมไม่ต ิด
ไฮโปธำลำมัส จะหลั่ง โดปำมีน (dopamine)
มำที่ต ่อ มใต้ส มองส่ว นหน้ำ เพื่อ ยับ ยั้ง กำร
ฮอร์โ มนทีห ลั่ง จำกต่อ มใต้
่
สมองส่ว นหลัง
(posterior pituitary)
Oxytocin
Antidiuretic hormone
(ADH) หรือ vasopressin
Oxytocin
►เป็น โปรตีน ฮอร์โ มน
►หน้ำ ทีค ือ
่

จะมีผ ลโดยตรงที่ก ล้ำ ม

เนื้อ เรีย บ
- กระตุน กำรหลั่ง นำ้ำ นม
้
- กระตุน กำรคลอด
้
Antidiuretic hormone (ADH)
หรือ vasopressin
► เป็น โปรตีน ฮอร์โ มน
► หน้ำ ที่ค อ รัก ษำระดับ นำ้ำ ภำยในร่ำ งกำยเอำ
ื

ไว้
► กระตุ้น กำรบีบ ตัว ของเส้น เลือ ดแดงทำำ ให้
ควำมดัน โลหิต สูง ขึ้น
► กำรควบคุม กำรหลั่ง ฮอร์โ มน ADH จะเกิด
ขึ้น เมื่อ ร่ำ งกำยเกิด สภำวะขำดนำ้ำ
(dehydration)
ฮอร์โ มนที่ห ลั่ง จำกต่อ มไธรอยด์
(thyroid gland)
► ไธรอกซิน

(thyroxin) หรือ
tetraiodothyronine (T4 ) และ
triiodothyronine (T3)
► Calcitonin (thyrocalcitonin)
ไธรอกซิน (thyroxin)
► เป็น ฮอร์โ มนที่ส ร้ำ งมำจำกกรดอะมิโ นไทโร

ซีน กับ ไอโอดีน
► ควบคุม กระบวนกำรเมตำบอลิซ ม ของ
ึ
โภชนะ โดยเร่ง ปฏิก ิร ิย ำ oxidation ขั้น
ต่ำ งๆของ Kreb’s cycle ภำยใน
mitochondria
► ทำำ งำนร่ว มกับ GH ในกำรควบคุม กำรเจริญ
เติบ โตของร่ำ งกำยให้เ ป็น ไปตำมปกติ
► ควบคุม กระบวนกำร metamorphosis ใน
สัต ว์ค รึ่ง บกครึ่ง นำ้ำ
บวนกำร metamorphosis ในสัต ว์ค รึ่ง บกคร
Calcitonin (thyrocalcitonin)
► เป็น โปรตีน ฮอร์โ มน
► สัง เครำะห์จ ำกต่อ มไธรอยด์

โดยกลุ่ม เซลล์
parafollicular cell (C-cell)
► มีห น้ำ ที่ล ดระดับ แคลเซีย มในกระแสเลือ ด
(รวมทั้ง ฟอสเฟตด้ว ย ) โดยนำำ ไปเก็บ ที่
กระดูก
► กำรสัง เครำะห์ฮ อร์โ มน calcitonin จะถูก
ควบคุม โดยระดับ ของแคลเซีย มและ
ฟอสเฟต (PO4-) ในกระแสเลือ ด และ
ฮอร์โ มนจำกต่อ มพำรำไธรอยด์
ฮอร์โ มนที่ห ลัง จำกต่อ มพำรำไธรอย
่
ด์(parathyroid gland)

► เป็น โปรตีน ฮอร์โ มน

มีห น้ำ ที่เ พิ่ม ระดับ Ca2+
และ ฟอสเฟตในกระแสเลือ ด
► กำรควบคุม กำรหลัง ฮอร์โ มนเป็น แบบ
่
negative feedback โดยเมื่อ ระดับ Ca2+
ในเลือ ดสูง ขึ้น จะมีผ ลทำำ ให้ต ่อ มพำรำไธ
รอยด์ห ลั่ง PTH ลดน้อ ยลง
ฮอร์โ มนที่ผ ลิต จำกตับ อ่อ น
(pancrease)
► เป็น ฮอร์โ มนประเภทโปรตีน ฮอร์โ มน

ผลิต ที่
เนือ เยื่อ ส่ว น islets of langerhans ของตับ
้
อ่อ น
- alpha cells ผลิต ฮอร์โ มนกลูค ำกอน
(glucagon)
- beta cells ซึ่ง เป็น เซลล์ท ี่พ บมำกที่ส ด ทำำ
ุ
หน้ำ ที่ผ ลิต ฮอร์โ มนอิน ซูล น (Insulin)
ิ
- delta cells ผลิต ฮอร์โ มนโซมำโตสแตติน
(somatostatin)
Insulin
► สร ้้างจากกลุjมเบตาเซลล ้์ (β า งจากกลุ

cell) ซึ่ง
อยู้่บริเ วณส ้่ว นกลางของของ Islet of
้ บ ริ
่
Langerhans
► ทํา หน้า ที่ล ดระดับ กลูโ คสในกระแสเลือ ดที่
สูง เกิน กว่า ปกติ
► โดยนํา ไปเก็บ สะสมไว้ใ นรูป ไกลโคเจนที่ต บ
ั
และกล้า มเนือ
้
► ซึ่ง ถ้า หากกลูโ คสมีม ากเกิน ที่จ ะเก็บ ในรูป
ไกลโคเจนก็จ ะนํา ไปสัง เคราะห์เ ป็น ไขมัน
และเก็บ ที่เ นือ เยื่อ ไขมัน (adipose tissue)
้
Glucagon
► เป็น โปรตีน ฮอร์โ มน

สร้า งจากแอลฟา

เซลล์(α -cell)
► α -cell เป็น เซลล์ท ี่ม ีข นาดใหญ่แ ละมีจ ํา นวน
น้อ ยกว่า เบตาเซล
► ทํา หน้า ที่เ พิ่ม ระดับ ของนํ้า ตาลในเลือ ด
► กระตุ้น การสลายตัว ของไกลโคเจนที่ต ับ
และกล้า มเนือ
้
► หรือ กระตุน ให้เ กิด ขบวนการสร้า งกลูโ คส
้
จากสารอืน (gluconeogenesis) ที่เ ซลล์ต ับ
่
ต่อ มหมวกไตชั้น นอก (adrenal
cortex)
►

มีต ้น กํา เนิด มาจากเนือ เยื่อ ชัน mesoderm
้
้
ถูก ควบคุม โดย ACTH แบ่ง เป็น 3 ชัน คือ
้

1.

zona glomerulosa สัง เคราะห์

ฮอร์โ มนกลุ่ม mineralocorticoid คือ




อัล โดสเตอโรน (aldosterone) เป็น สเต
อรอยด์ฮ อร์โ มนทํา หน้า ทีค วบคุม การดูด กลับ
่
ของ Na+ ทีห ลอดไต
่
การหลั่ง ฮอร์โ มน aldosterone เกิด จาก
สภาวะทีเ ลือ ดมีค วามดัน ตํ่า เนือ งจากการขาด
่
่
นํ้า หรือ การมี Na+ ลดลงในเลือ ด
zona fasciculata สัง เคราะห์ฮ อร์โ มน

2.

กลุม กลูโ คอร์ต ค อยด์ คือ
่
ิ





คอร์ต ิซ อล (cortisol) มีห น้า ทีล ดการใช้
่
กลูโ คสภายในเซลล์
กระตุ้น การสลายไขมัน และเพิม การสลายตัว
่
ของโปรตีน ในเซลล์ เพือ ทํา ให้ร ่า งกายเตรีย ม
่
พร้อ มต่อ การปรับ ตัว เมือ เกิด สภาวะเครีย ด
่
นอกจากนีย ง มีผ ลทางการรัก ษาสมดุล เกลือ แร่
้ ั
ด้ว ย

zona reticularis สร้า งพวกฮอร์โ มนเพศ

2.


ส่ว นใหญ่เ ป็น ฮอร์โ มนเพศชาย
(Testosterone) ฮอร์โ มนเพศหญิง มีน ้อ ยมาก
ต่อ มหมวกไตชั้น ใน (adrenal
medulla)
► การทํา งานของต่อ มหมวกไตชัน ในมีค วาม
้

สัม พัน ธ์ก ับ ระบบประสาทอัต โนมัต ิ
(sympathetic)
► การหลั่ง ฮอร์โ มนจากต่อ มหมวกไตส่ว นนีจ ะ
้
อยู่ภ ายใต้ก ารควบคุม ของไฮโพทาลามัส
► ต่อ มหมวกไตชัน ในสร้า งฮอร์โ มนกลุม ที่
้
่
เรีย กว่า cathecholamine คือ
Epinephrine (adrenaline) ~ 80 % และ
Norepinephrine (noradrenaline)
อะดรีน าลิน (Adrenalin hormone)
► หรือ

อิพ ิเ นฟริน (Epinephrine hormone)
► มีห น้า ที่ก ระตุ้น ให้ไ กลโคเจนในตับ สลายตัว
เป็น กลูโ คส ทํา ให้ร ะดับ กลูโ คสในเลือ ดเพิ่ม
สูง ขึ้น
► กระตุ้น หัว ใจให้เ ต้น เร็ว ขึ้น ความดัน เลือ ด
สูง ขึ้น ทํา ให้เ มทาบอลิซ ึม เพิ่ม ขึ้น มาก
► ซึ่ง เป็น ฮอร์โ มนที่ห ลั่ง ออกมาเมือ ร่า งกายอยู่
่
ในสภาวะฉุก เฉิน
นอร์อ ะดรีน าลิน (Noradrenalin
hormone)
หรือ นอร์เ อพิเ นฟริน ฮอร์โ มน
(Norepinephrin hormone)
► ทํา ให้ค วามดัน เลือ ดสูง ขึ้น
► ทํา ให้ห ลอดเลือ ดที่ไ ปเลี้ย งอวัย วะต่า งๆ บีบ
ตัว
►
ฮอร์โ มนจากต่อ มไพเนีย ล
(pineal gland)
► ต่อ มไพเนีย ลอยู่บ ริเ วณกึ่ง กลางของสมอง

ส่ว น cerebrum
► ในสัต ว์เ ลี้ย งลูก ด้ว ยนมต่อ มไพเนีย ลเป็น
neuroendocrine gland โดยประสาทที่ม า
เลี้ย งมีท ั้ง parasympathetic และ
sympathetic
► ฮอร์โ มนที่ส ร้า งจากต่อ มไพเนีย ล คือ
Melatonin
Pineal gland
Melatonin
► ทํา หน้า ที่เ กี่ย วกับ การควบคุม การเจริญ

เติบ โตของอวัย วะสืบ พัน ธุ์
► ทํา งานตรงกัน ข้า มกับ ฮอร์โ มน
melanocyte stimulating hormone จาก
ต่อ มใต้ส มองส่ว นกลาง โดยทํา ให้ส ข องสัต ว์
ี
เลือ ดเย็น จางลง
► ระงับ การหลั่ง ของฮอร์โ มนกลุ่ม
gonadotropin ให้น อ ยลง
้
► หากขาดฮอร์โ มน melatonin จะทํา ให้ห นุ่ม
เร็ว กว่า ปกติ แต่ถ ้า สร้า งมากเกิน ไปจะทํา ให้
ฮอร์โ มนที่ห ลั่ง จากต่อ มเพศ
(Gonad)

► แบ่ง ออกเป็น

2 กลุ่ม คือ ฮอร์โ มนจากอวัย วะ
เพศชาย (Testes) และฮอร์โ มนจากอวัย วะ
เพศหญิง (ovary)
ฮอร์โ มนจากอวัย วะเพศชาย
(Testes)
► อัณ ฑะมีก ลุ่ม เซลล์ท ี่ท ํา หน้า ที่ใ นการสร้า ง

ฮอร์โ มนคือ interstitial cell ซึ่ง อยู่ร ะหว่า ง
หลอดสร้า งอสุจ ิ (seminiferous tubule)
► โดยเมื่อ ถูก กระตุ้น โดย LH จะสร้า งฮอร์โ มน
แอนโดรเจน (androgen) ที่ส ํา คัญ ที่ส ด คือ
ุ
เทสโทสเตอโรน (Testosterone)
► Testosterone จะหลั่ง ออกมามากในช่ว ง
การพัฒ นาของตัว อ่อ น และจะลดลงเหลือ
น้อ ยมากในช่ว งวัย เด็ก แต่จ ะเพิ่ม ขึ้น สูง มาก
ในช่ว งวัย หนุม สาว
่
อัณ ฑะ (Testes)
Estrogens
► เป็น ฮอร์โ มนประเภทสเตีย รอยด์
► ซึ่ง พบว่า

ในระหว่า งการพัฒ นาของ
follicles เซลล์ท ี่อ ยู่ใ น graafian follicles
คือ granulose cells และ theca cells
► ฮอร์โ มนที่ส ร้า งคือ estrogens ได้แ ก่ estradiol, estriol และ estrone ซึ่ง estradiol มีฤ ทธิแ รงที่ส ด ในกลุม
์
ุ
่
► ฮอร์โ มน estrogens มีผ ลต่อ การพัฒ นา
ของเพศเมีย และกระตุน การพัฒ นาของต่อ ม
้
นํ้า นม
Progesterone
►เป็น ฮอร์โ มนประเภทสเตีย รอยด์

ผลิต
โดย คอร์ป ส ลูเ ทีย ม (corpus luteum)
ั
 กระตุ้น การคัด หลั่ง ของสารที่ผ นัง มดลูก
(endometrium) เพื่อ เตรีย มพร้อ มในการ
ฝัง ตัว ของไข่
 กระตุ้น การเจริญ ของต่อ มนำ้า นม
 รัก ษาสภาพการตั้ง ท้อ ง

►corpus

PGF2α

luteum ถูก สลายโดยฮอร์โ มน
►Relaxin เป็น โปรตีน ฮอร์โ มนสร้า งมา

จากรัง ไข่ข ณะที่ต ั้ง ท้อ ง มีห น้า ที่ก ระตุน การ
้
คลายตัว ของเอ็น ที่ย ึด กระดูก เชิง กราน เพื่อ
ให้ค ลอดลูก ได้ง า ยขึ้น
่

►PGF2α เป็น อนุพ ัน ธ์ข องกรดไขมัน
สามารถสร้า งได้จ าก granular cell หลาย
แห่ง มีห น้า ที่ท ำา ให้ follicle แตกปริใ นช่ว ง
ตกไข่ และเกี่ย วข้อ งกับ การสลายตัว ของ
ฮอร์โ มนจากมดลูก (Uterus)
► มดลูก สร้า งฮอร์โ มนที่ส ำา คัญ คือ

prostaglandins
► พบครั้ง แรกใน accessory gland โดย
เฉพาะ prostate gland ต่อ มาพบทั่ว
ร่า งกาย มีอ ายุส น ถูก ทำา ลายเมือ ผ่า นตับ และ
ั้
่
ไต
► มีห น้า ที่เ กี่ย วกับ การบีบ ตัว ของกล้า มเนือ
้
เรีย บในระบบสืบ พัน ธุแ ละระบบทางเดิน
์
อาหาร การหลั่ง นำ้า อสุจ ิ การสลาย corpus
luteum (luteolysis)
ฮอร์โ มนจากรก (placental
hormone)
► รกของสัต ว์ส ามารถสร้า งฮอร์โ มนได้ห ลาย

ชนิด เช่น
 Pregnant Mare Serum Gonadotropin
(PMSG)
 Human Chorionic Gonadotropin
(HCG)
ฮอร์โ มนจากต่อ มไทมัส
(Thymus gland)
► ต่อ มไทมัส

มีล ัก ษณะเป็น พู 2 พู อยู่บ ริเ วณ
ทรวงอกรอบหลอดเลือ ดใหญ่ข องหัว ใจ
(บริเ วณขั้ว หัว ใจ )
► ต่อ มนีจ ะเจริญ ตั้ง แต่อ ยู่ใ นครรภ์ม ารดาและ
้
เมือ มีอ ายุม ากขึ้น จะมีข นาดเล็ก ลงและฝ่อ ไป
่
เรื่อ ย ๆ
► ต่อ มนีส ร้า งฮอร์โ มนไทโมซิน (Thymosin)
้
► ฮอร์โ มนไทโมซิน มีห น้า ที่ก ระตุ้น ให้เ นื้อ เยื่อ
ต่อ มไทมัส สร้า งลิม โฟไซต์ช นิด เซลลที (Tlymphocyte) หรือ เซลลที(T-cell)
(T-cell)
แกสตริน (Gastrin)
► สร้า งจากเนือ เยื่อ ชัน ในของกระเพาะอาหาร
้
้
► มีห น้า ที่ก ระตุ้น ให้

parietal cell หลั่ง กรด

ไฮโดรคลอริก
► มีห น้า ที่ก ระตุน ให้ chief cell หลั่ง เอนไซม์
้
pepsinogen
ซีค รีต ริน (Secretin)
► สร้า งมาจากเนือ เยื่อ ชัน ในของลำา ไส้เ ล็ก
้
้

บริเ วณดูโ อดีน ม
ั
► ทำา หน้า ที่ก ระตุ้น ให้ต ับ อ่อ นหลั่ง สาร ไบ
คาร์บ อเนต
► สนับ สนุน การทำา งานของเอนไซม์ CCK
โคเลซีส โตไคนิน
(Cholecystokinin;CCK)
► สร้า งมาจากลำา ไส้เ ล็ก
► มีห น้า ที่ก ระตุ้น การสร้า งและหลั่ง นำ้า ย่อ ย

จากตับ อ่อ น
► และกระตุ้น การหดตัว ของถุง นำ้า ดี
เอนเทอโรแกสโตรน
(Enterogastron)
► สร้า งมาจากลำา ไส้เ ล็ก
► ทำา หน้า ที่ล ดการเคลื่อ นไหวของกระเพาะ

อาหาร
► ทำา ให้อ าหารผ่า นลำา ไส้เ ล็ก ช้า ลง โดย
เฉพาะอาหารพวกไขมัน
► ยัง ยับ ยั้ง การขับ นำ้า ย่อ ยของกระเพาะอาหาร
1.นางสาวเนตรนภา อัตฤทธิ์
เลขที่ 18
2.นางสาวอริสรา
ดำารงชาติ
เลขที่ 33
3.นางสาวศศิประภา ปะโพเทติ
เลขที่ 40
4.นางสาวนฤมล
เพียรจิตร
เลขที่ 45

53

Contenu connexe

Tendances

9789740330530
97897403305309789740330530
9789740330530CUPress
 
ระบบต่อมไร้ท่อกับการเจริญเติบโตและภาวะสุขภาพของวัยรุ่น
ระบบต่อมไร้ท่อกับการเจริญเติบโตและภาวะสุขภาพของวัยรุ่นระบบต่อมไร้ท่อกับการเจริญเติบโตและภาวะสุขภาพของวัยรุ่น
ระบบต่อมไร้ท่อกับการเจริญเติบโตและภาวะสุขภาพของวัยรุ่นพัน พัน
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อsukanya petin
 
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อบทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อNattapong Boonpong
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อWichai Likitponrak
 
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมน
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมนการรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมน
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมนsukanya petin
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ Thitaree Samphao
 
ระบบต่อมไร้ท่อ Endocrine system
ระบบต่อมไร้ท่อ Endocrine systemระบบต่อมไร้ท่อ Endocrine system
ระบบต่อมไร้ท่อ Endocrine systemTiwapon Wiset
 
ระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone system
ระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone systemระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone system
ระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone systemsupreechafkk
 
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormone
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormoneเรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormone
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormonekasidid20309
 
6.ดุลกับฮอร์โมน
6.ดุลกับฮอร์โมน6.ดุลกับฮอร์โมน
6.ดุลกับฮอร์โมนWichai Likitponrak
 
เนื้อหาเล่ม 2
เนื้อหาเล่ม 2เนื้อหาเล่ม 2
เนื้อหาเล่ม 2Aon Narinchoti
 
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียนใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียนสำเร็จ นางสีคุณ
 
Endocrine system สำหรับนักเรียนผู้ช่วยพยาบาล 2559
Endocrine system สำหรับนักเรียนผู้ช่วยพยาบาล 2559Endocrine system สำหรับนักเรียนผู้ช่วยพยาบาล 2559
Endocrine system สำหรับนักเรียนผู้ช่วยพยาบาล 2559Aphisit Aunbusdumberdor
 
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียนใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียนสำเร็จ นางสีคุณ
 
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อเรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อOui Nuchanart
 

Tendances (20)

9789740330530
97897403305309789740330530
9789740330530
 
ระบบต่อมไร้ท่อกับการเจริญเติบโตและภาวะสุขภาพของวัยรุ่น
ระบบต่อมไร้ท่อกับการเจริญเติบโตและภาวะสุขภาพของวัยรุ่นระบบต่อมไร้ท่อกับการเจริญเติบโตและภาวะสุขภาพของวัยรุ่น
ระบบต่อมไร้ท่อกับการเจริญเติบโตและภาวะสุขภาพของวัยรุ่น
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ
 
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อบทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 
Hormone
HormoneHormone
Hormone
 
ฮอร์โมน
ฮอร์โมนฮอร์โมน
ฮอร์โมน
 
Endocrine system
Endocrine systemEndocrine system
Endocrine system
 
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมน
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมนการรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมน
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมน
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ
 
ระบบต่อมไร้ท่อ Endocrine system
ระบบต่อมไร้ท่อ Endocrine systemระบบต่อมไร้ท่อ Endocrine system
ระบบต่อมไร้ท่อ Endocrine system
 
ระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone system
ระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone systemระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone system
ระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone system
 
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormone
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormoneเรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormone
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormone
 
6.ดุลกับฮอร์โมน
6.ดุลกับฮอร์โมน6.ดุลกับฮอร์โมน
6.ดุลกับฮอร์โมน
 
เนื้อหาเล่ม 2
เนื้อหาเล่ม 2เนื้อหาเล่ม 2
เนื้อหาเล่ม 2
 
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียนใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
 
Endocrine system สำหรับนักเรียนผู้ช่วยพยาบาล 2559
Endocrine system สำหรับนักเรียนผู้ช่วยพยาบาล 2559Endocrine system สำหรับนักเรียนผู้ช่วยพยาบาล 2559
Endocrine system สำหรับนักเรียนผู้ช่วยพยาบาล 2559
 
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียนใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
 
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อเรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ
 

Similaire à Biology Computer Project

ยาสำหรับผู้มีบุตรยาก
ยาสำหรับผู้มีบุตรยาก ยาสำหรับผู้มีบุตรยาก
ยาสำหรับผู้มีบุตรยาก Utai Sukviwatsirikul
 
เรื่องต่อม
เรื่องต่อมเรื่องต่อม
เรื่องต่อมComputer ITSWKJ
 
ฮอร์โมนมนุษย์
ฮอร์โมนมนุษย์ฮอร์โมนมนุษย์
ฮอร์โมนมนุษย์dgnjamez
 
ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์dgnjamez
 
ฮอร์โมนมนุษย์
ฮอร์โมนมนุษย์ฮอร์โมนมนุษย์
ฮอร์โมนมนุษย์dgnjamez
 
ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์dgnjamez
 
ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์dgnjamez
 
ฮอร์โมน...มนุษย์
ฮอร์โมน...มนุษย์ฮอร์โมน...มนุษย์
ฮอร์โมน...มนุษย์dgnjamez
 
ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์
ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์
ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์Wichai Likitponrak
 
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011Namthip Theangtrong
 
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2Kobchai Khamboonruang
 
นวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความงาม
นวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความงามนวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความงาม
นวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความงามIsyapatr
 
โรค คอเลสเตอรอล ม.1/11เลขที่ 16 17 25 45
 โรค คอเลสเตอรอล ม.1/11เลขที่ 16  17 25 45 โรค คอเลสเตอรอล ม.1/11เลขที่ 16  17 25 45
โรค คอเลสเตอรอล ม.1/11เลขที่ 16 17 25 45sittichaimf
 
ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์Lilrat Witsawachatkun
 
607.เลขที่14.40
607.เลขที่14.40607.เลขที่14.40
607.เลขที่14.40nabdowsj13
 
ติวสอบเตรียมประสาทฮอร์โมนพฤติ
ติวสอบเตรียมประสาทฮอร์โมนพฤติติวสอบเตรียมประสาทฮอร์โมนพฤติ
ติวสอบเตรียมประสาทฮอร์โมนพฤติWichai Likitponrak
 

Similaire à Biology Computer Project (20)

Endocrine system
Endocrine systemEndocrine system
Endocrine system
 
ยาสำหรับผู้มีบุตรยาก
ยาสำหรับผู้มีบุตรยาก ยาสำหรับผู้มีบุตรยาก
ยาสำหรับผู้มีบุตรยาก
 
เรื่องต่อม
เรื่องต่อมเรื่องต่อม
เรื่องต่อม
 
ฮอร์โมนมนุษย์
ฮอร์โมนมนุษย์ฮอร์โมนมนุษย์
ฮอร์โมนมนุษย์
 
ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์
 
ฮอร์โมนมนุษย์
ฮอร์โมนมนุษย์ฮอร์โมนมนุษย์
ฮอร์โมนมนุษย์
 
ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์
 
ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์
 
ฮอร์โมน...มนุษย์
ฮอร์โมน...มนุษย์ฮอร์โมน...มนุษย์
ฮอร์โมน...มนุษย์
 
ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์
ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์
ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์
 
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
 
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
 
ระบบกำจัดของเสีย (Excretory System)
ระบบกำจัดของเสีย (Excretory System)ระบบกำจัดของเสีย (Excretory System)
ระบบกำจัดของเสีย (Excretory System)
 
2 hormone p_lan
2 hormone p_lan2 hormone p_lan
2 hormone p_lan
 
นวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความงาม
นวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความงามนวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความงาม
นวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความงาม
 
โรค คอเลสเตอรอล ม.1/11เลขที่ 16 17 25 45
 โรค คอเลสเตอรอล ม.1/11เลขที่ 16  17 25 45 โรค คอเลสเตอรอล ม.1/11เลขที่ 16  17 25 45
โรค คอเลสเตอรอล ม.1/11เลขที่ 16 17 25 45
 
ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์
 
607.เลขที่14.40
607.เลขที่14.40607.เลขที่14.40
607.เลขที่14.40
 
ติวสอบเตรียมประสาทฮอร์โมนพฤติ
ติวสอบเตรียมประสาทฮอร์โมนพฤติติวสอบเตรียมประสาทฮอร์โมนพฤติ
ติวสอบเตรียมประสาทฮอร์โมนพฤติ
 
เซลล์
เซลล์เซลล์
เซลล์
 

Biology Computer Project

  • 2. วัต ถุป ระส 1.เพื่อพัฒนาโปรแกรม Power point งค์ ้วิชาเทคโนโลยี 2. เพื่อบรรณาการความรู สารสนเทศกับวิชาชีววิทยา 3. เพื่อเป็นกรเสริมความรู้พื้นฐานในการ เรียนวิชาชีววิทยา 4. เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการการทำา โครงงานเป็นกลุ่ม 5. เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เป็นเพื่อนวัย เรียนที่ต้องการเสริมความรู้ให้ตนเอง 2
  • 3. ต่อ มไร้ท อ (endocrine ่ gland)  หมายถึง ต่อมที่ทำาหน้าที่สร้างสารเคมีที่ เรียกว่าฮอร์โมนแล้วถูกลำาเลียงไปออกฤทธิ์ อย่างจำาเพาะที่อวัยวะเป้าหมาย (target organ) โดยอาศัยระบบหมุนเวียนโลหิต  อวัยวะในร่างกายที่มีหน้าที่สร้างฮอร์โมน เช่น ต่อม thyroid, parathyroid, adrenal, pituitary เป็นต้น 3
  • 4. ชนิด ของต่อ มไร้ท อ ่   ต่อ มไร้ท อ ชนิด ทีแ ยกอยูเ ดี่ย ว ผลิต ฮอร์โ มนเป็น ่ ่ ่ หน้า ทีห ลัก ได้แ ก่ ่  ต่อ มใต้ส มอง (Hypophysis, Pituitary gland),  ต่อ มไธรอยด์ (Thyroid gland),  ต่อ มพาราไธรอยด์ (Parathyroid gland),  ต่อ มหมวกไต (Adrenal gland),  ต่อ มไพเนีย ล (Pineal gland, Epiphysis) ต่อ มไร้ท อ ชนิด ทีอ ยูร ่ว มกับ ต่อ มมีท อ ่ ่ ่ ่  ตับ อ่อ นส่ว น Islets of Langerhans,  รัง ไข่ (Ovary) และอัณ ฑะ (Testes),  กลุ่ม เซลล์ใ นรก (Placenta),  4
  • 5. โมเลกุล สัญ ญาณ     Hormones เป็น สารเคมีท ห ลั่ง จากต่อ มไร้ท อ ี่ ่ เมือ หลั่ง ออกมาแล้ว ถูก นำา ไปยัง เป้า หมายทีห ่า ง ่ ่ ไกล โดยไหลไปตามกระแสไหลเวีย นเลือ ด Neurotransmitters เป็น สารสื่อ ประสาทที่ หลั่ง จากปลายของเซลล์ป ระสาท Local signalling molecules เป็น สารทีห ลั่ง ่ จากเซลล์ข องเนือ เยื่อ ชนิด ต่า งๆทำา ให้ส ภาพ ้ ทางเคมีข องบริเ วณใกล้เ คีย งเปลี่ย นไป Pheromones หลั่ง จากต่อ มมีท อ (exocrine ่ glands) บางชนิด และมีเ ป้า หมายอยู่น อก ร่า งกาย และสารนีม ผ ลทางด้า นพฤติก รรม ้ ี 5
  • 6. ฮอร์โ มน (hormone) • หมายถึง สารเคมีท ี่ส ร้า งจาก เซลล์จ ำา เพาะของต่อ มไร้ท อ ่ อาจมีค ณ สมบัต ิเ ป็น กรดอะมิโ น ุ เพปไทด์ ไกลโคโปรตีน หรือ ส เตีย รอยด์ • เมื่อ สร้า งขึ้น แล้ว จะถูก ปล่อ ยเข้า สู่ก ระแสเลือ ดแล้ว กระจายไปทั่ว ร่า งกายโดยจะมีผ ลต่อ อวัย วะ เป้า หมายอย่า งจำา เพาะเจาะจง 6
  • 7. การสัง เคราะห์โ ปรตีน ฮอร์โ มน • โปรตีน ฮอร์โ มนและไกลโคโปรตีน ฮอร์โ มนมีก าร สัง เคราะห์ท ี่บ ริเ วณของเอนโดพลาสมิก เรติค ูล ัม ชนิด หยาบ (RER) • ไกลโคโปรตีน ฮอร์โ มนจะมีก ารเติม ส่ว นของคาร์ โบไฮเดรทภายหลัง จากการสัง เคราะห์ส ่ว นของ โปรตีน เสร็จ แล้ว • ฮอร์โ มนทีส ร้า งจะถูก ส่ง ไปเก็บ สะสมในรูป ของถุง ่ ซึ่ง หลุด จากส่ว นปลายของกอลไจแอปพาราตัส (golgi apparatus) เรีย กว่า secretory granules • ฮอร์โ มนเมือ แรกสร้า งจะอยูใ นรูป prohormone ่ ่ หรือ prehormone ซึ่ง ยัง ไม่ส ามารถออกฤทธิ์ 7 ทำา งานได้
  • 8. การทำา ลายฤทธิแ ละการ ์ กำา จัด ฮอร์โ มน • เกิด ขึ้น ที่เ ซลล์เ ป้า หมายทัน ทีห รือ อาจถูก ส่ง ไปทำา ลายที่ต ับ หรือ ไต • เช่น สเตีย รอยด์ฮ อร์โ มนหลัง จากหมด หน้า ที่แ ล้ว จะจับ กับ พวก กลูโ คโร ไนด์ (glucoronide) หรือ ซัล เฟต (sulphate) แล้ว กำา จัด ออกมากับ ปัส สาวะ • สำา หรับ เมทาบอไลท์ข องฮอร์โ มนที่ไ ม่ สามารถละลายนำ้า ได้จ ะถูก กำา จัด ออกทาง นำ้า ดีแ ละอุจ จาระ 8 • อาจพบฮอร์โ มนที่ย ัง ไม่ถ ูก ทำา ลายฤทธิ์ถ ูก
  • 9.    ความสัม พัน ธ์ร ะหว่า งไฮโปธา ลามัส กับ ต่อ มใต้ส มอง ฐานของไฮโปธาลามัส มีก ้า นยื่น (stalk) โดยที่ป ลายของก้า นยืน คือ ต่อ มใต้ส มอง ่ ไฮโปธาลามัส หลั่ง releasing hormone เข้า สูต ่อ มใต้ส มองส่ว นหน้า ทางเส้น เลือ ด ่ ดำา hypothalamo-pituitary portal system ที่อ ยู่ใ น pituitary stalk ไฮโปธาลามัส และต่อ มใต้ส มองส่ว นหลัง มี การเชือ มต่อ กัน โดยระบบประสาท ่
  • 10. สรุป ความสัม พัน ธ์ร ะหว่า งไฮโปธาลามั สกับ ต่อ มใต้ส มอง ► ความสัม พัน ธ์ร ะหว่า งไฮโปธาลามัส และต่อ ม ใต้ส มองส่ว นหน้า - ไฮโปธาลามัส หลั่ง releasing hormone มาควบคุม การทำา งานของต่อ มใต้ส มองส่ว น หน้า ► ความสัม พัน ธ์ร ะหว่า งไฮโปธาลามัส และต่อ ม ใต้ส มองส่ว นหลัง - ต่อ มใต้ส มองส่ว นหลัง ทำา หน้า ที่เ ก็บ ฮอร์โ มน 2 ชนิด ที่ถ ูก สร้า งจากไฮโปธาลามั สคือ ADH และ oxytocin
  • 11.
  • 12. ฮอร์โ มนที่ส ง เคราะห์แ ละหลั่ง จากต่อ ม ั ใต้ส มองส่ว นหน้า (anterior pituitary) มี 6 ชนิด ได้แ ก่ • Follicle stimulating hormone (FSH) • Lutenizing hormone (LH) • Thyroid stimulating hormone (TSH) • Adrenocorticotropic hormone (ACTH) • Growth hormone (GH) หรือ
  • 13. Follicle stimulating hormone (FSH) ► เป็น ฮอร์โ มนประเภทไกลโคโปรตีน ► ออกฤทธิท ี่ร ัง ไข่ ์ (ovaries) ของเพศเมีย หรือ อัณ ฑะ (testes) ของเพศผู้ ► ในเพศเมีย FSH จะทำา หน้า ที่ก ระตุ้น การ เจริญ เติบ โตของถุง ไข่ (ovarian follicle) ► ในสัต ว์เ พศผู้FSH จะมีผ ลกระตุน ้ FSH ให้seminiferous tubule สร้า งเซลล์อ สุจ ิ seminiferous
  • 15. Lutenizing hormone (LH) ► เป็น ฮอร์โ มนประเภทไกลโคโปรตีน LH จะมีผ ลทำำ ให้graafian follicles เกิด graafian กำรตกไข่ ► LH มีผ ลต่อ กำรพัฒ นำของ คอร์ป ส ลูเ ทีย ม ั (corpus luteum) ► สำำ หรับ สัต ว์เ พศผู้ LH จะทำำ หน้ำ ที่ใ นกำรก ระตุ้น leydig cell ในกำรสัง เครำะห์ ฮอร์โ มน testosterone ►
  • 16. Thyroid stimulating hormone (TSH) ►เป็น ฮอร์โ มนประเภทไกลโคโปรตีน ►กระตุ้น กำรหลั่ง ฮอร์โ มนจำกต่อ ม ไทรอยด์ และกระตุ้น กำรเจริญ เติบ โต ของต่อ มไทรอยด์
  • 17. Adrenocorticotropic hormone (ACTH) ►เป็น โปรตีน ฮอร์โ มน ►กระต้น ต่อ มหมวกไตชั้น นอก (adrenal cortex) ให้ผ ลิต และหลั่ง ฮอร์โ มน aldosterone และ cortisol
  • 18. Growth hormone (GH) หรือ Somatotrophin (STH) ► เป็น โปรตีน ฮอร์โ มน ► เกี่ย วกับ กำรสร้ำ งควำมเจริญ เติบ โตของ ร่ำ งกำย โดยเฉพำะกำรเจริญ เติบ โตของ กระดูก หรือ กล้ำ มเนือ ้ ► GH จะถูก ควบคุม โดยฮอร์โ มนที่ส ร้ำ งจำก สมองส่ว นไฮโพทำลำมัส คือ Growth hormone inhibiting hormone (GHIH) และ Somatostatin จำก delta cell ของ ตับ อ่อ น
  • 19. Prolactin ► เป็น โปรตีน ฮอร์โ มน ► มีห น้ำ ที่เ กี่ย วข้อ งกับ กำรสร้ำ งนำ้ำ นมและกำร เจริญ เติบ โตของเซลล์เ ต้ำ นมโดยทำำ งำน ร่ว มกับ GH อีก ทั้ง ยัง มีผ ลต่อ พฤติก รรมของ ควำมเป็น แม่ ► มีผ ลทำำ ห้ค อร์ป ส ลูเ ตีย มบนรัง ไข่ค งสภำพอยู่ ั ไม่ฝ อ ตัว ่ ► ในสัต ว์เ พศเมีย ที่ไ ม่ต ั้ง ท้อ ง หรือ ผสมไม่ต ิด ไฮโปธำลำมัส จะหลั่ง โดปำมีน (dopamine) มำที่ต ่อ มใต้ส มองส่ว นหน้ำ เพื่อ ยับ ยั้ง กำร
  • 20. ฮอร์โ มนทีห ลั่ง จำกต่อ มใต้ ่ สมองส่ว นหลัง (posterior pituitary) Oxytocin Antidiuretic hormone (ADH) หรือ vasopressin
  • 21. Oxytocin ►เป็น โปรตีน ฮอร์โ มน ►หน้ำ ทีค ือ ่ จะมีผ ลโดยตรงที่ก ล้ำ ม เนื้อ เรีย บ - กระตุน กำรหลั่ง นำ้ำ นม ้ - กระตุน กำรคลอด ้
  • 22. Antidiuretic hormone (ADH) หรือ vasopressin ► เป็น โปรตีน ฮอร์โ มน ► หน้ำ ที่ค อ รัก ษำระดับ นำ้ำ ภำยในร่ำ งกำยเอำ ื ไว้ ► กระตุ้น กำรบีบ ตัว ของเส้น เลือ ดแดงทำำ ให้ ควำมดัน โลหิต สูง ขึ้น ► กำรควบคุม กำรหลั่ง ฮอร์โ มน ADH จะเกิด ขึ้น เมื่อ ร่ำ งกำยเกิด สภำวะขำดนำ้ำ (dehydration)
  • 23. ฮอร์โ มนที่ห ลั่ง จำกต่อ มไธรอยด์ (thyroid gland) ► ไธรอกซิน (thyroxin) หรือ tetraiodothyronine (T4 ) และ triiodothyronine (T3) ► Calcitonin (thyrocalcitonin)
  • 24. ไธรอกซิน (thyroxin) ► เป็น ฮอร์โ มนที่ส ร้ำ งมำจำกกรดอะมิโ นไทโร ซีน กับ ไอโอดีน ► ควบคุม กระบวนกำรเมตำบอลิซ ม ของ ึ โภชนะ โดยเร่ง ปฏิก ิร ิย ำ oxidation ขั้น ต่ำ งๆของ Kreb’s cycle ภำยใน mitochondria ► ทำำ งำนร่ว มกับ GH ในกำรควบคุม กำรเจริญ เติบ โตของร่ำ งกำยให้เ ป็น ไปตำมปกติ ► ควบคุม กระบวนกำร metamorphosis ใน สัต ว์ค รึ่ง บกครึ่ง นำ้ำ
  • 25. บวนกำร metamorphosis ในสัต ว์ค รึ่ง บกคร
  • 26. Calcitonin (thyrocalcitonin) ► เป็น โปรตีน ฮอร์โ มน ► สัง เครำะห์จ ำกต่อ มไธรอยด์ โดยกลุ่ม เซลล์ parafollicular cell (C-cell) ► มีห น้ำ ที่ล ดระดับ แคลเซีย มในกระแสเลือ ด (รวมทั้ง ฟอสเฟตด้ว ย ) โดยนำำ ไปเก็บ ที่ กระดูก ► กำรสัง เครำะห์ฮ อร์โ มน calcitonin จะถูก ควบคุม โดยระดับ ของแคลเซีย มและ ฟอสเฟต (PO4-) ในกระแสเลือ ด และ ฮอร์โ มนจำกต่อ มพำรำไธรอยด์
  • 27. ฮอร์โ มนที่ห ลัง จำกต่อ มพำรำไธรอย ่ ด์(parathyroid gland) ► เป็น โปรตีน ฮอร์โ มน มีห น้ำ ที่เ พิ่ม ระดับ Ca2+ และ ฟอสเฟตในกระแสเลือ ด ► กำรควบคุม กำรหลัง ฮอร์โ มนเป็น แบบ ่ negative feedback โดยเมื่อ ระดับ Ca2+ ในเลือ ดสูง ขึ้น จะมีผ ลทำำ ให้ต ่อ มพำรำไธ รอยด์ห ลั่ง PTH ลดน้อ ยลง
  • 28. ฮอร์โ มนที่ผ ลิต จำกตับ อ่อ น (pancrease) ► เป็น ฮอร์โ มนประเภทโปรตีน ฮอร์โ มน ผลิต ที่ เนือ เยื่อ ส่ว น islets of langerhans ของตับ ้ อ่อ น - alpha cells ผลิต ฮอร์โ มนกลูค ำกอน (glucagon) - beta cells ซึ่ง เป็น เซลล์ท ี่พ บมำกที่ส ด ทำำ ุ หน้ำ ที่ผ ลิต ฮอร์โ มนอิน ซูล น (Insulin) ิ - delta cells ผลิต ฮอร์โ มนโซมำโตสแตติน (somatostatin)
  • 29. Insulin ► สร ้้างจากกลุjมเบตาเซลล ้์ (β า งจากกลุ cell) ซึ่ง อยู้่บริเ วณส ้่ว นกลางของของ Islet of ้ บ ริ ่ Langerhans ► ทํา หน้า ที่ล ดระดับ กลูโ คสในกระแสเลือ ดที่ สูง เกิน กว่า ปกติ ► โดยนํา ไปเก็บ สะสมไว้ใ นรูป ไกลโคเจนที่ต บ ั และกล้า มเนือ ้ ► ซึ่ง ถ้า หากกลูโ คสมีม ากเกิน ที่จ ะเก็บ ในรูป ไกลโคเจนก็จ ะนํา ไปสัง เคราะห์เ ป็น ไขมัน และเก็บ ที่เ นือ เยื่อ ไขมัน (adipose tissue) ้
  • 30. Glucagon ► เป็น โปรตีน ฮอร์โ มน สร้า งจากแอลฟา เซลล์(α -cell) ► α -cell เป็น เซลล์ท ี่ม ีข นาดใหญ่แ ละมีจ ํา นวน น้อ ยกว่า เบตาเซล ► ทํา หน้า ที่เ พิ่ม ระดับ ของนํ้า ตาลในเลือ ด ► กระตุ้น การสลายตัว ของไกลโคเจนที่ต ับ และกล้า มเนือ ้ ► หรือ กระตุน ให้เ กิด ขบวนการสร้า งกลูโ คส ้ จากสารอืน (gluconeogenesis) ที่เ ซลล์ต ับ ่
  • 31. ต่อ มหมวกไตชั้น นอก (adrenal cortex) ► มีต ้น กํา เนิด มาจากเนือ เยื่อ ชัน mesoderm ้ ้ ถูก ควบคุม โดย ACTH แบ่ง เป็น 3 ชัน คือ ้ 1. zona glomerulosa สัง เคราะห์ ฮอร์โ มนกลุ่ม mineralocorticoid คือ   อัล โดสเตอโรน (aldosterone) เป็น สเต อรอยด์ฮ อร์โ มนทํา หน้า ทีค วบคุม การดูด กลับ ่ ของ Na+ ทีห ลอดไต ่ การหลั่ง ฮอร์โ มน aldosterone เกิด จาก สภาวะทีเ ลือ ดมีค วามดัน ตํ่า เนือ งจากการขาด ่ ่ นํ้า หรือ การมี Na+ ลดลงในเลือ ด
  • 32. zona fasciculata สัง เคราะห์ฮ อร์โ มน 2. กลุม กลูโ คอร์ต ค อยด์ คือ ่ ิ    คอร์ต ิซ อล (cortisol) มีห น้า ทีล ดการใช้ ่ กลูโ คสภายในเซลล์ กระตุ้น การสลายไขมัน และเพิม การสลายตัว ่ ของโปรตีน ในเซลล์ เพือ ทํา ให้ร ่า งกายเตรีย ม ่ พร้อ มต่อ การปรับ ตัว เมือ เกิด สภาวะเครีย ด ่ นอกจากนีย ง มีผ ลทางการรัก ษาสมดุล เกลือ แร่ ้ ั ด้ว ย zona reticularis สร้า งพวกฮอร์โ มนเพศ 2.  ส่ว นใหญ่เ ป็น ฮอร์โ มนเพศชาย (Testosterone) ฮอร์โ มนเพศหญิง มีน ้อ ยมาก
  • 33. ต่อ มหมวกไตชั้น ใน (adrenal medulla) ► การทํา งานของต่อ มหมวกไตชัน ในมีค วาม ้ สัม พัน ธ์ก ับ ระบบประสาทอัต โนมัต ิ (sympathetic) ► การหลั่ง ฮอร์โ มนจากต่อ มหมวกไตส่ว นนีจ ะ ้ อยู่ภ ายใต้ก ารควบคุม ของไฮโพทาลามัส ► ต่อ มหมวกไตชัน ในสร้า งฮอร์โ มนกลุม ที่ ้ ่ เรีย กว่า cathecholamine คือ Epinephrine (adrenaline) ~ 80 % และ Norepinephrine (noradrenaline)
  • 34. อะดรีน าลิน (Adrenalin hormone) ► หรือ อิพ ิเ นฟริน (Epinephrine hormone) ► มีห น้า ที่ก ระตุ้น ให้ไ กลโคเจนในตับ สลายตัว เป็น กลูโ คส ทํา ให้ร ะดับ กลูโ คสในเลือ ดเพิ่ม สูง ขึ้น ► กระตุ้น หัว ใจให้เ ต้น เร็ว ขึ้น ความดัน เลือ ด สูง ขึ้น ทํา ให้เ มทาบอลิซ ึม เพิ่ม ขึ้น มาก ► ซึ่ง เป็น ฮอร์โ มนที่ห ลั่ง ออกมาเมือ ร่า งกายอยู่ ่ ในสภาวะฉุก เฉิน
  • 35. นอร์อ ะดรีน าลิน (Noradrenalin hormone) หรือ นอร์เ อพิเ นฟริน ฮอร์โ มน (Norepinephrin hormone) ► ทํา ให้ค วามดัน เลือ ดสูง ขึ้น ► ทํา ให้ห ลอดเลือ ดที่ไ ปเลี้ย งอวัย วะต่า งๆ บีบ ตัว ►
  • 36. ฮอร์โ มนจากต่อ มไพเนีย ล (pineal gland) ► ต่อ มไพเนีย ลอยู่บ ริเ วณกึ่ง กลางของสมอง ส่ว น cerebrum ► ในสัต ว์เ ลี้ย งลูก ด้ว ยนมต่อ มไพเนีย ลเป็น neuroendocrine gland โดยประสาทที่ม า เลี้ย งมีท ั้ง parasympathetic และ sympathetic ► ฮอร์โ มนที่ส ร้า งจากต่อ มไพเนีย ล คือ Melatonin
  • 38. Melatonin ► ทํา หน้า ที่เ กี่ย วกับ การควบคุม การเจริญ เติบ โตของอวัย วะสืบ พัน ธุ์ ► ทํา งานตรงกัน ข้า มกับ ฮอร์โ มน melanocyte stimulating hormone จาก ต่อ มใต้ส มองส่ว นกลาง โดยทํา ให้ส ข องสัต ว์ ี เลือ ดเย็น จางลง ► ระงับ การหลั่ง ของฮอร์โ มนกลุ่ม gonadotropin ให้น อ ยลง ้ ► หากขาดฮอร์โ มน melatonin จะทํา ให้ห นุ่ม เร็ว กว่า ปกติ แต่ถ ้า สร้า งมากเกิน ไปจะทํา ให้
  • 39. ฮอร์โ มนที่ห ลั่ง จากต่อ มเพศ (Gonad) ► แบ่ง ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ฮอร์โ มนจากอวัย วะ เพศชาย (Testes) และฮอร์โ มนจากอวัย วะ เพศหญิง (ovary)
  • 40. ฮอร์โ มนจากอวัย วะเพศชาย (Testes) ► อัณ ฑะมีก ลุ่ม เซลล์ท ี่ท ํา หน้า ที่ใ นการสร้า ง ฮอร์โ มนคือ interstitial cell ซึ่ง อยู่ร ะหว่า ง หลอดสร้า งอสุจ ิ (seminiferous tubule) ► โดยเมื่อ ถูก กระตุ้น โดย LH จะสร้า งฮอร์โ มน แอนโดรเจน (androgen) ที่ส ํา คัญ ที่ส ด คือ ุ เทสโทสเตอโรน (Testosterone) ► Testosterone จะหลั่ง ออกมามากในช่ว ง การพัฒ นาของตัว อ่อ น และจะลดลงเหลือ น้อ ยมากในช่ว งวัย เด็ก แต่จ ะเพิ่ม ขึ้น สูง มาก ในช่ว งวัย หนุม สาว ่
  • 42. Estrogens ► เป็น ฮอร์โ มนประเภทสเตีย รอยด์ ► ซึ่ง พบว่า ในระหว่า งการพัฒ นาของ follicles เซลล์ท ี่อ ยู่ใ น graafian follicles คือ granulose cells และ theca cells ► ฮอร์โ มนที่ส ร้า งคือ estrogens ได้แ ก่ estradiol, estriol และ estrone ซึ่ง estradiol มีฤ ทธิแ รงที่ส ด ในกลุม ์ ุ ่ ► ฮอร์โ มน estrogens มีผ ลต่อ การพัฒ นา ของเพศเมีย และกระตุน การพัฒ นาของต่อ ม ้ นํ้า นม
  • 43. Progesterone ►เป็น ฮอร์โ มนประเภทสเตีย รอยด์ ผลิต โดย คอร์ป ส ลูเ ทีย ม (corpus luteum) ั  กระตุ้น การคัด หลั่ง ของสารที่ผ นัง มดลูก (endometrium) เพื่อ เตรีย มพร้อ มในการ ฝัง ตัว ของไข่  กระตุ้น การเจริญ ของต่อ มนำ้า นม  รัก ษาสภาพการตั้ง ท้อ ง ►corpus PGF2α luteum ถูก สลายโดยฮอร์โ มน
  • 44. ►Relaxin เป็น โปรตีน ฮอร์โ มนสร้า งมา จากรัง ไข่ข ณะที่ต ั้ง ท้อ ง มีห น้า ที่ก ระตุน การ ้ คลายตัว ของเอ็น ที่ย ึด กระดูก เชิง กราน เพื่อ ให้ค ลอดลูก ได้ง า ยขึ้น ่ ►PGF2α เป็น อนุพ ัน ธ์ข องกรดไขมัน สามารถสร้า งได้จ าก granular cell หลาย แห่ง มีห น้า ที่ท ำา ให้ follicle แตกปริใ นช่ว ง ตกไข่ และเกี่ย วข้อ งกับ การสลายตัว ของ
  • 45. ฮอร์โ มนจากมดลูก (Uterus) ► มดลูก สร้า งฮอร์โ มนที่ส ำา คัญ คือ prostaglandins ► พบครั้ง แรกใน accessory gland โดย เฉพาะ prostate gland ต่อ มาพบทั่ว ร่า งกาย มีอ ายุส น ถูก ทำา ลายเมือ ผ่า นตับ และ ั้ ่ ไต ► มีห น้า ที่เ กี่ย วกับ การบีบ ตัว ของกล้า มเนือ ้ เรีย บในระบบสืบ พัน ธุแ ละระบบทางเดิน ์ อาหาร การหลั่ง นำ้า อสุจ ิ การสลาย corpus luteum (luteolysis)
  • 46. ฮอร์โ มนจากรก (placental hormone) ► รกของสัต ว์ส ามารถสร้า งฮอร์โ มนได้ห ลาย ชนิด เช่น  Pregnant Mare Serum Gonadotropin (PMSG)  Human Chorionic Gonadotropin (HCG)
  • 47. ฮอร์โ มนจากต่อ มไทมัส (Thymus gland) ► ต่อ มไทมัส มีล ัก ษณะเป็น พู 2 พู อยู่บ ริเ วณ ทรวงอกรอบหลอดเลือ ดใหญ่ข องหัว ใจ (บริเ วณขั้ว หัว ใจ ) ► ต่อ มนีจ ะเจริญ ตั้ง แต่อ ยู่ใ นครรภ์ม ารดาและ ้ เมือ มีอ ายุม ากขึ้น จะมีข นาดเล็ก ลงและฝ่อ ไป ่ เรื่อ ย ๆ ► ต่อ มนีส ร้า งฮอร์โ มนไทโมซิน (Thymosin) ้ ► ฮอร์โ มนไทโมซิน มีห น้า ที่ก ระตุ้น ให้เ นื้อ เยื่อ ต่อ มไทมัส สร้า งลิม โฟไซต์ช นิด เซลลที (Tlymphocyte) หรือ เซลลที(T-cell) (T-cell)
  • 48. แกสตริน (Gastrin) ► สร้า งจากเนือ เยื่อ ชัน ในของกระเพาะอาหาร ้ ้ ► มีห น้า ที่ก ระตุ้น ให้ parietal cell หลั่ง กรด ไฮโดรคลอริก ► มีห น้า ที่ก ระตุน ให้ chief cell หลั่ง เอนไซม์ ้ pepsinogen
  • 49. ซีค รีต ริน (Secretin) ► สร้า งมาจากเนือ เยื่อ ชัน ในของลำา ไส้เ ล็ก ้ ้ บริเ วณดูโ อดีน ม ั ► ทำา หน้า ที่ก ระตุ้น ให้ต ับ อ่อ นหลั่ง สาร ไบ คาร์บ อเนต ► สนับ สนุน การทำา งานของเอนไซม์ CCK
  • 50. โคเลซีส โตไคนิน (Cholecystokinin;CCK) ► สร้า งมาจากลำา ไส้เ ล็ก ► มีห น้า ที่ก ระตุ้น การสร้า งและหลั่ง นำ้า ย่อ ย จากตับ อ่อ น ► และกระตุ้น การหดตัว ของถุง นำ้า ดี
  • 51. เอนเทอโรแกสโตรน (Enterogastron) ► สร้า งมาจากลำา ไส้เ ล็ก ► ทำา หน้า ที่ล ดการเคลื่อ นไหวของกระเพาะ อาหาร ► ทำา ให้อ าหารผ่า นลำา ไส้เ ล็ก ช้า ลง โดย เฉพาะอาหารพวกไขมัน ► ยัง ยับ ยั้ง การขับ นำ้า ย่อ ยของกระเพาะอาหาร
  • 52.
  • 53. 1.นางสาวเนตรนภา อัตฤทธิ์ เลขที่ 18 2.นางสาวอริสรา ดำารงชาติ เลขที่ 33 3.นางสาวศศิประภา ปะโพเทติ เลขที่ 40 4.นางสาวนฤมล เพียรจิตร เลขที่ 45 53

Notes de l'éditeur

  1. เลือดมีความดันต่ำ = water potential คือเลือดมีความเข้มข้นสูง