More Related Content
Similar to โครงงานเศรษฐกิจพอเพียง
Similar to โครงงานเศรษฐกิจพอเพียง (20)
โครงงานเศรษฐกิจพอเพียง
- 3. ฝายชะลอน้า
ฝายแม้ว เป็นชื่อเรียก โครงการตามแนวพระราชดาริ เกี่ยวกับ
วิศวกรรม แบบพื้นบ้าน ฝายแม้วเป็นฝายชะลอน้ากึ่งถาวรประเภท
หนึ่ง ประเภทเดียวกับฝายคอกหมู โดยใช้วัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น
เช่นกิ่งไม้ ก้อนหิน เพื่อกั้นชะลอน้าในลาธาร หรือทางน้าเล็กๆ ให้
ไหลช้าลง และขังอยู่ในพื้นที่นานพอที่จะพื้นที่รอบๆจะได้ดูดซึมไปใช้
เป็นการฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมให้เกิดความชุ่มชื้นมากพอที่จะ
พัฒนาการเป็นป่าสมบูรณ์ขึ้นได้ ฝายแม้วยังอาจใช้เพื่อการทดน้า ให้มี
ระดับสูงพอที่จะดึงน้าไปใช้ในคลองส่งน้าได้ในฤดูแล้ง
- 4. โครงการจัดสร้างฝายชะลอน้า เศรษฐกิจผสมผสาน ตามโครงการอันเนื่องมาจาก
พระราชดาริ บริเวณเทือกเขาพระ – เขาสูง หนองบัว นครสวรรค์ นายปรีชา เรืองจันทร์
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการจัดสร้างฝายชะลอน้า
ปล่อยน้าพันธุ์ปลา ปลูกป่า ปลูกหญ้าแฝก และขุดลอกคลอง ตามโครงการอัน
เนื่องมาจากพระราชดาริ บริเวณเทือกเขาพระเขาสูง อาเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์
สืบเนื่องจากพระครูวาปีปทุมรักษ์ (ปัจจุบัน พระนิภากรโสภณ) เจ้าคณะอาเภอหนองบัว
เจ้าอาวาสวัดหนองกลับ ตาบลหนองบัว ร่วมกับชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม และราษฎรอาเภอหนองบัว ได้มีความพยายามที่จะรักษาแหล่งน้าธรรมชาติ
ฟื้นฟูป่าไม้ สภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมให้สมบูรณ์คงเดิม ประกอบกับในปี พ.ศ.2536
พระครูวาปีปทุมรักษ์ (พระนิภากรโสภณ) ได้มีหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาสมเด็จพระ
นางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และวันที่ 25 มกราคม 2539 สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงรับโครงการดังกล่าวไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจาก
- 5. พระราชดาริ โดยทรงเป็นพระประสงค์จะพลิกฟื้นคืนป่า คืนชีวิตสัตว์ป่า ผืนน้า ให้
แผ่นดินและให้บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ต้นน้าลาธาร ของอาเภอหนองขัว นับเป็นพระ
มหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวง ที่ได้ทรงช่วยเหลือชาวหนองบัว ให้พ้นจากความแห้งแล้ง
เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา “12 สิงหาคม 2555” นี้
อาเภอหนองบัว ร่วมกับ มณฑลทหารบกที่ 31 ส่วนราชการ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น
กานัน ผู้ใหญ่บ้าน อาเภอหนองบัวจึงจัดทาโครงการดังกล่าวขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ
เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา “12 สิงหาคม 2555” เพื่อเป็นการ
สนองพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยป่าไม้ และ
ต้นน้าลาธาร เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่าสีเขียว ลดภาวะโลกร้อน เพื่อสร้างจิตสานึก และ
ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พื้นที่ป่าแก่ประชาชน
- 7. จากทฤษฎีการพัฒนาฟื้นฟูป่าอันเนื่องมาจากพระราชดาริ โดยการใช้ทรัพยากรน้าให้
เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการสร้างแนวป้องกันไฟเปียก (Wet Fire Break) หนึ่งใน
การวิธีการดังกล่าวคือการสร้างฝายชะลอความชุ่มชื้นหรือที่เรียกว่า Check Dam เพื่อ
ปิดกั้นร่องน้าหรือลาธารขนาดเล็กเป็นระยะๆ ให้เก็บกักน้าและตะกอนดินไว้
บางส่วน โดยน้าที่เก็บไว้จะซึมเข้าไปสะสมในดิน ทาให้ความชุ่มชื้นแผ่ขยายเข้าไป
ทั้งสองฝั่งน้า กลายเป็นป่าเปียก(มูลนิธิชัยพัฒนา, ๒๕๕๕) สานักงานคณะกรรมการ
พิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดาริ (กปร.)(๒๕๕๐) กล่าว
ไว้ว่า ฝายชะลอน้า ฝายต้นน้าลาธาร ฝายกั้นน้า ฝายแม้ว หรือฝายชะลอความชุ่มชื้น
ต่างก็คือสิ่งเดียวกัน เรียกด้วยภาษาอังกฤษว่า Check Dam คือ สิ่งก่อสร้างขวางหรือ
กั้นทางเดินของลาน้า และจากการประชุม กปร.ครั้งที่ ๑/๒๕๔๗ ได้มีการแจ้งในที่
ประชุมทราบถึงพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เกี่ยวกับ
การก่อสร้างฝายชะลอน้า ตามโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อัน
เนื่องมาจากพระราชดาริ อาเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ว่าควรมีการขยายให้
ครอบคลุมทุกพื้นที่
- 9. คืนสังคมพืชให้แก่เนินเขา/ภูเขาหัวโล้น ๖) เมื่อดินชื้น ป่าก็ชื้น กลายเป็นแนวกัน
ไฟลดความรุนแรงของไฟป่าได้จากวัตถุประสงค์ดังกล่าวมีงานการศึกษาวิจัย
หลายชิ้นที่สนับสนุนข้อดีของการสร้างฝายชะลอน้า เช่น งานวิจัยที่ศูนย์พัฒนา
โครงการหลวงห้วยลึก อาเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ในช่วงฤดูแล้ง
ฝายชะลอน้า สามารถลดอัตราการไหลของน้าในลาธาร
- 10. ๒) การหมุนเวียนน้าไปสัมผัสกับอากาศที่น้อยลงยังทาให้ออกซิเจนที่ละลายใน
น้าน้อยลงด้วย ๓) ตะกอนที่สะสมอยู่ท้ายฝายจะเปลี่ยนแปลงทาให้สภาพพื้น
ท้องน้าเปลี่ยนไป คือ จากที่ควรจะเป็นกรวด หินและทราย ก็จะเปลี่ยนเป็น
ตะกอนดินและโคลนแทน ทาให้สังคมของสัตว์ที่อยู่ตามหน้าดินเปลี่ยนไป
ส่งผลกระทบไปถึงห่วงโซ่อาหาร อีกทั้งน้าขุ่นขึ้นส่งผลให้พืชน้าสังเคราะห์แสง
ลดลง และตะกอนที่สะสมมากขึ้นเรื่อยๆ เกิดการย่อยสลายของแบคทีเรียมากขึ้น
ทาให้มีค่าบีโอดี (Biological Oxygen Demand: BOD) สูงขึ้น และยังทาให้น้ามี
ค่าความเป็นกรดมากขึ้น
เด็กหญิง ศุภนุช มีวงษ์สม เลขที่ 36 ม.4/7