More Related Content
Similar to ปรัชญาเบื้องต้น
Similar to ปรัชญาเบื้องต้น (20)
More from วัดดอนทอง กาฬสินธุ์
More from วัดดอนทอง กาฬสินธุ์ (20)
ปรัชญาเบื้องต้น
- 1. ปรัช ญาเบื้อ งต้น
บรรยายโดย
พระมหาธานินทร์ อาทิตวโร
น.ธ.เอก., ป.ธ.๘, พธ.บ.
(อังกฤษ), พธ.ม. (บาลี), พธ.ด.
),
- 2. ๑ . ความหมายและคุณ ค่า ของ
ปรัช ญา
๑. ความหมายของปรัชญา
คำาว่า “ปรัชญา” มาจากรากศัพท์
ภาษาสันสกฤตว่า “ปร (อุปสรรค)”
แปลว่า “รอบ,ประเสริฐ” และ
“ชฺญา” แปลว่า “รู้, เข้าใจ” ฉะนัน ้
คำาว่า “ปรัชญา” จึงหมายถึง
“ความรู้รอบ, ความรู้ประเสริฐ” อัน
ได้แก่ ความรู้ที่เกิดหลังจากสิ้น
- 4. ทั้งนี้เพราะว่า เราอยากรู้หรือสงสัย
ในสิ่งใดเราจึงพยายามจะรู้ในสิ่ง
นันให้ได้ แต่ความรู้ทุกอย่างย่อม
้
หาที่สิ้นสุดได้ยากยิ่ง เมือเรา
่
หาความรู้ในสิ่งใด จะพยายาม
ค้นหาสิ่งอื่นๆ อีกต่อไป ดังนั้นการ
แสวงหาความรู้จึงไม่มที่สิ้นสุดได้
ี
- 7. ๓ บ่อเกิดและขอบเขตของ
ปรัชญา
๑) บ่อเกิดของปรัชญา
ปรัชญาเกิดจากความสงสัย หรือ
ความแปลกใจ
เพลโตได้กล่าวไว้ว่า “ความแปลก
ใจ (Wonder) เป็นบ่อเกิดของ
ปรัชญา”
เฮอร์ สเปนเซอร์ ได้กล่าวไว้ว่า
- 8. ค้านท์ (Kant) นักปรัชญาชาว
เยอรมันก็ยึดเอาความสงสัย
เป็นต้นเค้าของปรัชญา
สรุปว่า ปรัชญา เกิดจากความ
แปลกใจ ความสงสัย ไม่แน่ใจ
ไม่รู้จริง ความรู้ทุกอย่างที่หา
มาได้จากการแสวงหาคำาตอบ
- 11. (๒) ปรัชญาเกียวกับมนุษย์
่
(Human Philosophy) ได้แก่
สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์
๒) แบบที่ ๒ ปรัชญาเมธีบางท่าน
ได้แบ่งปรัชญาออกไปอีกวิธีหนึ่ง
แบ่งเป็น ๓ สาขา คือ
(๑) อภิปรัชญา (Metaphysics)
- 12. แบ่งทัศนะการหาความจริงเป็น
๓ ลักษณะย่อย ได้แก่
(ก) พวกเอกนิยม (Monism)
ถือว่าความจริงมีหนึ่งเดียว แยก
ย่อยเป็น พวกวัตถุนิยม
(Materialism) พวกจิตนิยม
(Idealism)
- 13. (ค) พวกพหุนิยม (Pluralism)
ถือว่าความจริงแท้มมากกว่า ๒
ี
อย่าง แยกย่อยออกไปอีก ๒ กลุ่ม
คือ พวกพหุนิยม ถือว่าความ
แท้จริงมีมาก คือ ปรมาณู หรือ
อะตอม (Atom) และพวกพหุ
จิตนิยม ถือว่า จิตประกอบขึ้นด้วย
- 14. ซึ่งเน้นในเรื่องปัญหาทาง
อภิปรัชญามี ๓ ประเด็น คือ
(ก) ปัญหาเอกภพ (Cosmology)
ตอบปัญหาเกียวกับความเป็นไปทุก
่
อย่างในเอกภพ
(ข) ปัญหาภาวะหรือภววิทยา
(Ontology) ตอบปัญหาเกียวกับ
่
- 15. (ค) ปัญหาจิต (Philosophy of
Mind) ตอบปัญหาเกี่ยวกับจิต
(๒) ญาณวิทยา
(Epistemology) หรือทฤษฎี
ความรู้ (Theory of
Knowledge) เป็นการตอบปัญหา
เกียวกับความรู้ของมนุษย์ ๔
่
ประเด็น คือ (ก) ความรู้มีลักษณะ
- 17. ๓) แบบที่ ๓ Encycolopedia
Americana แบ่งไว้เป็น ๕ สาขา
ได้แก่
(๑) อภิปรัชญา (Metaphysics)
(๒) ญาณวิทยา (Epistemology)
(๓) จริยศาสตร์ (Ethics) หรือ
ปรัชญาศีลธรรม
- 18. (๕) ตรรกศาสตร์ (Logic)
๔) แบบที่ ๔ ปรัชญาเมธีอีกพวก
หนึ่งแบ่งปรัชญาออกเป็น ๒
สาขา ได้แก่
(๑) ปรัชญาบริสุทธิ์ (Pure
Philosophy) คือ ปรัชญาตาม
ความหมายที่แท้จริงในแต่ละ
- 19. (๒) ปรัชญาประยุกต์ (Applied
Philosophy) คือปรัชญาที่ตความ
ี
จากปรัชญาบริสทธิ์ เพือผลสรุปของ
ุ ่
วิชาต่างๆ แล้วแยกสาขาออกไป เป็น
สาขาเฉพาะวิชา เช่น ปรัชญาสังคม
ปรัชญากฎหมาย ปรัชญา
ประวัตศาสตร์ ปรัชญาศาสนา
ิ
ปรัชญาการศึกษา ปรัชญาภาษา
- 21. พืนฐาน
้ แทบจะไม่มีปญหาใดทียุตได้
ั ่ ิ
เด็ดขาดลงไปว่าฝ่ายใดผิดฝ่ายใดถูก
ปรัชญาช่วยทำาให้ความเชื่อของเรา
เป็นระบบ ช่วยทำาให้ความเชือของเรา
่
ในเรื่องต่างๆ สอดคล้องเป็นอันหนึงอัน
่
เดียวกัน ไม่ขัดแย้งกัน
ปรัชญา เป็นวิถีทางวิเคราะห์
สังเคราะห์ อุดมคติตามหลัก
- 22. ลักษณะ หน้าที่ และวิธีการ
ของปรัชญา
๑. ลักษณะของปรัชญา
ปรัชญาเกิดจากความอยากรู้อยาก
เห็นของมนุษย์ เกิดเพราะมนุษย์
ต้องการหาความรู้เพื่อที่จะแก้
ปัญหาเฉพาะหน้าของชีวิต เช่น
ธาเลส (Thales) บิดาแห่งปรัชญา
อยากรู้ธาตุแท้ของโลก
- 24. ปรัชญาตามลักษณะการใช้ของ
คนทั่วๆ ไป ทั้งในและนอกวงการ
ปรัชญา มี ๒ ลักษณะ คือ
(๑) ปรัชญาในความหมายที่เป็น
แนวคิด ได้แก่ ทัศนคติ หรือหลัก
การในการดำาเนินงานบางอย่าง
ลักษณะนี้มีใช้ในวงการนักธุรกิจ
เช่น พูดว่า “ปรัชญาธุรกิจของคุณ
- 25. ปรัชญาในลักษณะนี้ไม่เกียวข้อง
่
กับวิชาปรัชญา
(๒) ปรัชญาในความหมายของ
วิชาปรัชญา ปรัชญาในลักษณะนี้
หมายถึงวิชาที่ศึกษากันอยู่ขณะนี้
ซึงโดยมากศึกษากันในระดับ
่
อุดมศึกษา มีเนื้อหาลึกซึ้ง เจาะลึก
- 26. ๒. หน้าทีของปรัชญา
่
ปรัชญาโดยทัวไปมีหน้าทีหรือกิจที่
่ ่
กระทำาอยู่ ๓ อย่าง คือ
(๑) ทำาหน้าทีในการอนุมาน
่
(Speculation) หรือการสร้างโลก
ทัศน์
(๒) การกำาหนดค่า (Precription)
และ
- 28. โลกทัศ น์ข องมนุษ ย์ม พ ื้น ฐาน
ี
มาจากความเชื่อ ทาง
อภิป รัช ญาของแต่ล ะคน
ปรัช ญาช่ว ยสร้า งความเชื่อ ให้
มนุษ ย์ม ีโ ลกทัศ น์ห รือ ปรัช ญา
ชีว ิต ๔ แบบ ความเชื่อ แต่ล ะ
แบบจะสะท้อ นถึง ความนึก คิด
- 29. (๑) กลุ่มจิตนิยม (Idealism) ใน
ทางอภิปรัชญาทัศนะของคนกลุ่มนี้
ก็คือ จิตนิยม อันตนิยม เจตจำานง
เสรี ในทางทฤษฎีความรู้คือ
เหตุผลนิยม และในทางจริยศาสตร์
คือ ศานตินยมและปรัชญาของค้า
ิ
นท์
- 30. ๒ ) กลุม สสารนิย ม (Materialism)
่
ในทางอภิป รัช ญาทัศ นะของกลุ่ม
นี้ค ือ สสารนิย ม จัก รกลนิย ม คน
เราเป็น เครื่อ งจัก รไม่เ ป็น อิส ระ
ในทางทฤษฎีค วามรู้ เป็น
ประสบการณ์น ิย ม ทาง
จริย ศาสตร์ คือ หลัก ของฮอบส์
และสุข นิย ม รวมทั้ง ประโยชน์
- 31. ๓ ) กลุ่ม มนุษ ยนิย ม
(Humanism) ในทาง
อภิป รัช ญา มีแ นวความคิด ตรง
กับ กลุ่ม ธรรมชาติน ิย ม นวนิย ม
ส่ว นทฤษฎีค วามรู้ ยึด หลัก
ปฏิบ ัต ิค ล้า ยกับ
ประสบการณ์น ิย ม ทาง
- 32. ๔ ) กลุ่ม โรแมนติค
(Romantic) เขาจะปฏิเ สธทั้ง
จิต นิย ม สสารนิย ม และ
ธรรมชาติน ิย ม อภิป รัช ญา
ของกลุ่ม นี้ใ กล้ก ับ จิต นิย ม
มากกว่า สสารนิย ม ทฤษฎี
ความรู้เ ป็น สหัช ญาณนิย ม
- 33. ๒ . การแสวงหาค่า
ค่า ในที่น ี้ห มายถึง สิ่ง ที่น ่า
ปรารถนา หรือ อุต มภาวะ คือ
ภาวะอัน ประเสริฐ สุด ค่า คือ จุด
หมายปลายทางของกิจ กรรม
ค่า เป็น ตัว กำา หนดทิศ ทางของ
ชีว ิต
- 34. กิจ กรรมของมนุษ ย์ม ีอ งค์
ประกอบ ๒ อย่า ง คือ
๑ ) มุ่ง บรรลุอ ะไร
๒ ) ดำา เนิน ไปอย่า งไร
ปรัช ญาให้จ ุด ปลายทางของ
ชีว ิต คือ เลือ กว่า จะไปทางไหน
วิท ยาศาสตร์ใ ห้เ ครื่อ งมือ ใน
- 35. ปรัช ญาและวิท ยาศาสตร์ช ่ว ย
ให้ค วามต้อ งการขั้น พื้น ฐาน
ของมนุษ ย์บ ริบ ูร ณ์ค ือ
๑ ) ความต้อ งการทางร่า งกายเพื่อ
ให้ต นเองอยู่ร อดด้ว ยดี
๒ ) ความต้อ งการทางสัง คมเพื่อ
ให้ต นมีศ ัก ดิ์ศ รี เป็น ที่ย อมรับ
๓ ) ความต้อ งการทางจิต วิญ ญาณ
เพื่อ ขจัด ความทุก ข์ท างใจ
๔ ) ความต้อ งการทางปัญ ญาเพื่อ
เรีย นรู้
- 36. ๓ . วิพ ากษ์แ ละวิเ คราะห์
ศาสตร์ท ุก แขนงมีจ ด ตั้ง ต้น
ุ
หรือ มูล บท (Axiom) ของตน
แต่ศ าสตร์เ หล่า นี้ไ ม่ว ิพ ากษ์
วิจ ารณ์ม ล บทของตน ปรัช ญา
ู
จะวิพ ากษ์ว ิเ คราะห์ม ูล บทของ
ศาสตร์ต ่า งๆ
- 37. วิธ ีก ารของปรัช ญา
วิธ ีก ารที่น ัก ปรัช ญาใช้เ ป็น
เครื่อ งมือ ในการเข้า ถึง ความ
จริง แท้ คือ ระบบความคิด แบบ
ตรรก ๒ วิธ ี คือ
๑ ) วิธ ีก ารนิร นัย
๒ ) วิธ ีก ารอุป นัย
- 38. ทบทวนบทเรีย น
๑ .ปรัช ญา มีค วามหมาย
อย่า งไร
๒ . คำา ว่า ปรัช ญา กับ
Philosophy ต่า งกัน อย่า งไร
๓ . การศึก ษาปรัช ญามีค ุณ ค่า
อย่า งไร
๔ . อะไรคือ สาเหตุท ำา ให้เ กิด
- 39. บทที่ ๒
ความสัม พัน ธ์ร ะหว่า งปรัช ญา
ศาสนา วิท ยาศาสตร์
วัต ถุป ระสงค์ก ารเรีย นประจำา บท
๑ .อธิบ ายปรัช ญาและศาสนาได้
๒ . อธิบ ายปรัช ญาและ
วิท ยาศาสตร์ไ ด้
๓ . เปรีย บเทีย บแนวคิด ทาง
ปรัช ญา ศาสนา วิท ยาศาสตร์
๔ . อธิบ ายความสัม พัน ธ์ร ะหว่า ง
- 40. ความสัม พัน ธ์ร ะหว่า งปรัช ญา
กับ ศาสนา
ปรัช ญา หมายถึง โลกทัศ น์เ ชิง
เหตุผ ลของมนุษ ย์ท ี่ม ีผ ลมาจาก
การจัด ความสัม พัน ธ์ร ะหว่า งตน
กับ สัง คมและธรรมชาติ
ศาสนา หมายถึง โลกทัศ น์แ ละ
หลัก การดำา เนิน ชีว ิต ของมนุษ ย์ส ู่
เป้า หมายสูง สุด ตามหลัก อุด มคติท ี่
คาดว่า จะพึง ถึง โลกทัศ น์ท าง
- 41. คุณ สมบัต ิเ ด่น ของปรัช ญาและ
ศาสนา
คุณ สมบัต ิข องปรัช ญา คือ
ความสงสัย เป็น จุด เริ่ม ต้น
เหตุผ ลทางตรรกวิท ยาเป็น เครื่อ ง
มือ การขจัด ความสงสัย ใน
ท่า มกลาง
การได้ร ับ คำา ตอบที่เ ป็น ความจริง
แท้แ ละคลายความสงสัย เป็น จุด
หมายปลายทาง
- 42. คุณ สมบัต ิข องศาสนา คือ
ความประสงค์จ ะพ้น จากสภาวะที่ไ ม่
น่า ปรารถนาในปัจ จุบ น เป็น จุด เริ่ม ต้น
ั
การแสวงหาวิธ ีก ารเข้า ถึง ความจริง
ด้ว ยการหล่อ หลอมท่า ที ความรู้ส ึก
และทัศ นะให้ส อดคล้อ งกับ เป้า หมาย
เป็น ท่า มกลาง
การเข้า ถึง ความจริง สูง สุด ตามที่พ ง ึ
ประสงค์เ ป็น เป้า หมายปลายทาง
- 43. องค์ป ระกอบหลัก ๓ ประการ
ของปรัช ญา
ปรัช ญามีอ งค์ป ระกอบหลัก สำา คัญ
๓ ประการ ได้แ ก่
๑. ความหมายและพัฒ นาการ
๒. ขอบเขต
๓. วิธ ีว ิท ยา
- 44. องค์ป ระกอบหลัก ของศาสนา
ศาสนามีอ งค์ป ระกอบหลัก ดัง นี้
๑. มีผ ู้ก ่อ ตั้ง ศาสนาและประกาศ
หลัก คำา สอนแก่ศ าสนิก
๒. มีห ลัก คำา สอนระดับ จริย ะและ
ระดับ ปรมัต ถ์ (Ultimate reality)
๓. มีผ ู้ร ับ คำา สอนใช้เ ป็น แนวทาง
แห่ง การดำา เนิน ชีว ิต ตามแบบ
อย่า งศาสดา
- 45. ๕. มีค ม ภีร ์ท างศาสนา
ั
๖. มีศ าสนพิธ ีเ พื่อ การรวมกลุ่ม
ของศาสนิก
๗. มีศ าสนวัต ถุ
- 46. ประเภทของศาสนา
ศาสนาแบ่ง ออกเป็น ๒ ประเภท
ใหญ่ คือ
๑. ศาสนาที่เ ชื่อ ในพระผู้ส ร้า ง
(God) ผู้ส ร้า งเป็น ความจริง สูง สุด
เป็น ผู้ส ร้า งสรรพสิ่ง ได้แ ก่
ศาสนาคริส ต์ อิส ลาม และ
พราหมณ์ (ฮิน ดู)
๒. ศาสนาไม่เ ชื่อ ในพระผู้ส ร้า ง
ความจริง สูง สุด เป็น สภาวะดำา รง
- 47. พัฒ นาการทางศาสนา
พัฒ นาการการเกิด ขึ้น ของศาสนา
คล้า ยกับ ปรัช ญาตรงที่เ กิด มา
พร้อ มกับ ความเป็น มนุษ ย์ แต่แ ตก
ต่า งจากปรัช ญาตรงที่ห ลัก คำา
สอนทางศาสนาเมื่อ กำา เนิด ขึ้น
แล้ว มีผ ู้ย อมรับ นับ ถือ หลัก คำา สอน
จะได้ร ับ การสืบ ทอดอย่า ง
เคร่ง ครัด และต่อ เนื่อ ง
- 48. ขอบเขตของศาสนา
ศาสนามีเ นื้อ หาเป็น เรื่อ งของโลก
ทัศ น์ก ารดำา เนิน ชีว ิต เป็น ผลจาก
การจัด ความสัม พัน ธ์ร ะหว่า งตัว
เองกับ จัก รวาลวิท ยา กับ สัง คม
และกับ ตนเอง ศาสนา เป็น เรื่อ ง
ของการดำา เนิน ชีว ิต และเป้า หมาย
สูง สุด ของชีว ิต เนื้อ หาของศาสนา
จึง เป็น เรื่อ งของคุณ ค่า (value)
- 49. วิธ ีว ิท ยา (Methodology)
การแสวงหาความจริง ของ
ศาสนาแบ่ง ออกเป็น ๒ ประเภท
คือ
๑. ความจริง เชิง จริย ะ เป็น ความ
จริง ในระดับ พื้น ฐานอัน เป็น
คุณ ค่า ทางศีล ธรรมที่ม นุษ ย์ส ร้า ง
และพัฒ นาขึ้น เพื่อ เป็น เงื่อ นไข
แห่ง การดำา เนิน ชีว ิต ของคนใน
- 50. ๒. ความจริง ในระดับ ปรมัต ถ์
เป็น ความจริง ที่ด ำา รงอยู่อ ย่า ง
อิส ระเหนือ การเข้า ใจและการ
สร้า งขึ้น ของมนุษ ย์ก ารก่อ ตัว ของ
ศาสนามาจากการค้น พบความ
จริง บางประการทีม ีล ก ษณะแตก
่ ั
ต่า งจากความจริง สามัญ นอก
เหนือ การเข้า ถึง ด้ว ยวิธ ีก ารเชิง
- 51. แบบทดสอบบทเรีย นที่ ๒
๑ . แนวคิด ทางปรัช ญาและหลัก คำา
สอนทางศาสนามีค วามเหมือ นกัน และ
แตกต่า งกัน อย่า งไร
๒ . แนวคิด ทางปรัช ญาและหลัก คำา
สอนทางศาสนามีค วามเชื่อ มโยงกัน
อย่า งไร
๓ . แนวคิด ทางปรัช ญาและทฤษฎีท าง
วิท ยาศาสตร์ม ีค วามเหมือ นกัน และ
แตกต่า งกัน อย่า งไร
๔ . แนวคิด ทางปรัช ญาและทฤษฎีท าง
- 52. บทที่ ๓
อภิป รัช ญา
อภิป รัช ญาเป็น สาขาหนึ่ง ของ
ปรัช ญาบริส ุท ธิ์ ที่ว ่า ด้ว ยความ
จริง อัน ติม ะ (Untimate Reality)
คือ ความสูง สุด ซึ่ง เป็น แก่น แท้ข อง
สิ่ง ทั้ง มวล
- 53. ความหมายและความสำา คัญ ของ
อภิป รัช ญา
คำา ว่า“อภิป รัช ญา ” เป็น คำา ที่พ ระเจ้า ว
รวงศ์เ ธอ กรมหมื่น นราธิป พงศ์
ประพัน ธ์ท รงบัญ ญัต ิศ ัพ ท์ข น โดยแปล
ึ้
มาจากภาษาอัง กฤษว่า Metaphysics
อภิป รัช ญา ประกอบด้ว ย อภิ +
ปรัช ญา
คำา ว่า “อภิ” หมายถึง ความยิง ใหญ่่
สูง สุด เหนือ สุด และ
“ปรัช ญา ” หมายถึง ความรู้อ ัน ประเสริฐ
หรือ ดวงปัญ ญาอัน แจ่ม จรัส สว่า งไสว
- 54. ราชบัณ ฑิต ยสถาน พ .ศ . ๒๕๒๕
ให้ค วามหมายว่า “สาขาหนึ่ง ของ
ปรัช ญาว่า ด้ว ยความแท้จ ริง ซึ่ง
เป็น เนื้อ หาสำา คัญ ของปรัช ญา ”
- 55. คำา ว่า อภิป รัช ญา แปลมาจากภาษา
อัง กฤษว่า Metaphysics มาจาก
ภาษากรีก ว่า Meta physika
Meta แปลว่า หลัง เบือ งหลัง ล่ว งเลย
้
Physika แปลว่า สิง ที่ร ู้ส ึก ด้ว ยประสาท
่
สัม ผัส รวมกัน แล้ว หมายถึง สภาวะที่อ ยู่
เหนือ การสัม ผัส ทั่ว ๆ ไป
อริส โตเติล เรีย กวิช านี้ว ่า “ปฐม
ปรัช ญา ” (First Philosophy) เป็น วิช า
- 56. ส่ว น Metaphysics เพิ่ง จะเริ่ม ใช้
กัน เมื่อ ประมาณครึ่ง ศตวรรษก่อ น
คริส ต์ศ ัก ราชตามที่ สเตช (W.T.
Stace) ได้ช ี้แ จงไว้ว ่า คำา ว่า “เม
ตาฟิส ิก ส์” เพิ่ง นำา มาใช้เ มื่อ ครึ่ง
ศตวรรษก่อ นคริส ตกาลเท่า นั้น
คือ ตอนที่แ อนโดรนิค ัส
(Andronicus) จัด พิม พ์ง านของ
อริส โตเติล เข้า เป็น รูป เล่ม สมบูร ณ์
- 57. บ่อ เกิด และขอบเขตของ
อภิป รัช ญา
๑ . บ่อ เกิด ของอภิป รัช ญา มี ๕
ประการ ได้แ ก่
๑ ) ความบกพร่อ งของสัต ว์โ ลก
๒ ) ความอยากรู้อ ยากเห็น เป็น
ธรรมชาติข องมนุษ ย์ท ี่ช อบอยาก
รู้อ ยากเห็น
๓ ) ความต้อ งการกฎเกณฑ์ท ี่
แน่น อนในการปกครอง เพราะ
- 58. ๔ )
ความต้อ งการความเป็น ระบบ
ระเบีย บของสัง คม
๕ ) อำา นาจของพระเจ้า มีก ว้า ง
ขวาง ไม่ม ีข อบเขตจำา กัด
- 59. ๒ . ขอบเขตของอภิป รัช ญา
อภิป รัช ญาหรือ ภววิท ยานี้ มีป ัญ หาที่
นัก ปรัช ญาเถีย งกัน อยู่เ สมอ ๓
ประเด็น ได้แ ก่
๑ ) เรื่อ งความคงทีก ับ ความ
่
เปลี่ย นแปลง โดยพิจ ารณาว่า เนื้อ แท้ท ี่
คงที่ถ าวร หรือ ความเปลี่ย นแปลงของ
โลกเป็น อย่า งไร ถ้า โลกเปลี่ย นแปลง
อะไรเป็น เหตุป จ จัย
ั
๒ ) เรื่อ งกายกับ จิต หรือ วิญ ญาณ โดย
พิจ ารณาว่า อะไรคือ ธาตุแ ท้ข องมนุษ ย์
- 60. ๓ )เรื่อ งเจตจำา นงเสรีก ับ เหตุว ิส ัย
โดยพิจ ารณาว่า มนุษ ย์ม ีอ ิส รภาพ
ในการกระทำา ทุก อย่า งได้ห รือ ไม่
หรือ จะกระทำา อัน ใดต้อ งอาศัย
กระแสของเหตุป ัจ จัย ภายนอก
เพราะทุก สิง ต้อ งอาศัย เหตุป ัจ จัย
่
- 61. ทฤษฏีท างอภิป รัช ญา
อภิป รัช ญาได้ว ิว ัฒ นาการมาช้า
นานและมีน ัก ปรัช ญาจำา นวนมาก
พยายามอธิบ ายให้ค วามหมาย
แตกต่า งๆ ดัง นี้
๑ ) จิต นิย ม (Idealism)
๒ ) สสารนิย ม (materialism)
๓ ) ธรรมชาติน ิย ม (Naturalism)
- 62. ๑ . จิต นิย ม (Idealism)
สาระสำา คัญ ของกลุ่ม จิต นิย มกล่า วโดย
สรุป คือ
๑ ) กลุ่ม จิต นิย มถือ ว่า จิต เป็น ความ
แท้จ ริง เพีย งสิง เดีย ว สสารเป็น ผลของ
่
จิต จิต ที่เ ป็น ต้น กำา เนิด ของสิง ทั้ง ปวง
่
๒ ) กลุ่ม จิต นิย มถือ ว่า เอกภพเป็น ไปใน
เชิง วัต ถุป ระสงค์เ นื่อ งจากเอกภพเกิด
จากอาการปรากฏของจิต สัม บูร ณ์
เอกภพจึง ถูก ควบคุม โดยวัต ถุป ระสงค์
หรือ เจตน์จ ำา นงของจิต สัม บูร ณ์
- 63. ๓ ) กลุ่ม จิต นิย มเชือ ในพระเจ้า
่
เจตจำา นงเสรีแ ละอมฤตภาพของ
วิญ ญาณ โดยถือ ว่า พระเจ้า เป็น ผู้ส ร้า ง
สิ่ง ทั้ง ปวง พระเจ้า อาจเรีย กชื่อ ได้
หลายอย่า งเช่น เหตุผ ลสากล จิต
สัม บูร ณ์ ความคิด สัม บูร ณ์ วิญ ญาณ
สัม บูร ณ์ เป็น ต้น เจตจำา นงเสรีค อ ื
เจตจำา นงที่พ ระเจ้า มอบให้แ ก่ม นุษ ย์ใ ห้
เลือ กวิถ ีช ีว ิต ของตนเอง อมฤตภาพ
- 64. ๒ . สสารนิย ม (Meterialism)
สาระสำา คัญ ของกลุ่ม สสารนิย ม
กล่า วโดยสรุป ได้ด ัง นี้
๑ ) กลุม นัก ปรัช ญาสสารนิย ม
่
ถือ ว่า สสารเป็น พื้น ฐานของ
เอกภพ เอกภพสร้า งขึ้น มาด้ว ย
สสาร สสารเป็น เนื้อ สารหรือ ส่ว น
ประกอบขั้น ต้น ของจัก รวาล
สสารมีก ารเคลื่อ นไหว วัต ถุ
- 65. ๒ ) กลุม สสารนิย มเชื่อ ว่า ไม่ม ี
่
ความแตกต่า งกัน ในทางคุณ ภาพ
ปฏิเ สธมติว ่า สิ่ง ต่า งๆ มีค ุณ สมบัต ิ
หรือ คุณ สมบัต ิแ ตกต่า งกัน แต่
สสารนิย มถือ ว่า ทุก สิง เกิด จาก
่
อะตอม
๓ ) เชือ ว่า ชีว ิต มาจากสสาร
่
มนุษ ย์เ กิด จากกระบวนการทาง
- 66. ๔ ) สสารนิย มเชื่อ ว่า สสารเท่า นั้น
เป็น จริง ปฏิเ สธทฤษฎีแ นวคิด ของ
ฝ่า ยจิต นิย มที่ว ่า จิต เป็น เนื้อ สาร
หรือ เป็น วิญ ญาณอาศัย อยู่ใ น
ร่า งกาย สสารนิย มถือ ว่า เอกภาพ
ที่ป รากฏอยู่ใ นบุค ลิก ภาพของ
มนุษ ย์น ั้น เป็น เพีย งสิ่ง ชั่ว คราว
เท่า นั้น
- 67. ๕ ) กลุ่ม นัก ปรัช ญาสสารนิย มเชือ่
ทฤษฎีก ลไกนิย มและนิย ัต น ิย ม
ิ
เชื่อ ว่า พฤติก รรมของมนุษ ย์เ ป็น
ไปแบบกลไก
๖ ) มีค วามคิด ทางจริย ศาสตร์
เกี่ย วกับ ศีล ธรรม สสารนิย มเชื่อ
ในลัท ธิส ข นิย ม (Hedonism)
ุ
๗ ) เชื่อ ว่า วัต ถุแ ทนพระเจ้า
- 68. ๓ . ธรรมชาติน ิย ม
(Naturalism)
กลุ่ม ธรรมชาติน ิย มอยู่ร ะหว่า ง
จิต นิย มและสสารนิย ม บางทีเ รีย ก
ว่า สัจ นิย ม Realism แต่ใ กล้
เคีย งกับ สสารนิย มมากกว่า
จิต นิย ม
๑ ) กลุม ธรรมชาติน ิย มถือ ว่า
่
ความพยายามที่จ ะอธิบ ายปรากฏ
การณ์ร อบๆ ตัว ทุก อย่า งโดย
- 69. ๒ ) ธรรมชาติป ระกอบด้ว ย
พลัง งาน ซึ่ง มีห ลายรูป ต่า งๆ กัน
เช่น ความร้อ น แสงสว่า ง และ
ไฟฟ้า เป็น ต้น พลัง งานสามารถ
เปลี่ย นรูป กลับ ไปกลับ มาได้
๓ ) พลัง งานเป็น ความแท้จ ริง
สุด ท้า ย อธิบ ายสสารด้ว ยหลัก
ทางฟิส ิก ส์เ คมี อธิบ ายชีว ิต ด้ว ย
- 70. ๔ . พิส ูจ น์ค วามมีอ ยู่ข องพระเจ้า
อภิป รัช ญาเชื่อ ว่า พระเจ้า เป็น สิ่ง
แท้จ ริง สูง สุด แต่ป ัญ หามีอ ยู่ว ่า
พระเจ้า มีจ ริง หรือ ไม่
ข้อ พิส ูจ น์เ พื่อ ยืน ยัน ว่า พระเจ้า มี
อยู่จ ริง
๑ ) ข้อ พิส ูจ น์ท างความเป็น เหตุ
เป็น ผล (Causal argument)
๒ ) ข้อ พิส ูจ น์ท างปฏิบ ัต น ิย ม
ิ
- 71. ๓ ) ข้อ พิส ูจ น์ท างประจัก ษ์น ิย ม
(Empirical argument)
๔ ) ข้อ พิส ูจ น์ท างอัน ตนิย ม
(Theological)
๕ ) ข้อ พิส ูจ น์ท างภวนิย ม
(Ontological)
๖ ) ข้อ พิส ูจ น์ท างศีล ธรรม (Moral
argument)
- 72. สรุป ท้า ยบท
อภิป รัช ญาเป็น สาขาหนึ่ง ของปรัช ญา
ว่า ด้ว ยเรื่อ งโลก จิต หรือ วิญ ญาณ
เจตจำา นงเสรีแ ละพระเจ้า ซึ่ง สิง เหล่า นี้
่
ถือ ว่า เป็น ความจริง สูง สุด หรือ อัน ติม
สัจ จะ (Untimate Reality) ในฐานะที่
เป็น ปรัช ญาที่ว ่า ด้ว ยความเป็น จริง ที่
มนุษ ย์อ ยากรู้ม ีอ ยู่ ๔ ทฤษฎี ด้ว ยกัน คือ
จิต นิย ม หรือ อุด มการณ์น ิย ม เชือ ว่า ่
ความจริง สูง สุด เป็น จิต สสารนิย มหรือ
วัต ถุน ิย มเชื่อ ว่า วัต ถุเ ป็น ต้น กำา เนิด ของ