SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  29
มหาวิท ยาลัย มหาจุฬ าลงกรณราชวิท ยาลัย วิท ยาเขตขอนแก่น
ถาม – ตอบ พอเป็น แนวทางสอบวิช าพระอภิธ รรมปิฎ ก
*********************************

๑. คำา ว่า สุต ะ ในที่น ี้เ ป็น ชื่อ รวมที่ใ ช้
เรีย กพุท ธวจนะกี่ป ระการ ?
ก. ๔ ประการ
ข. ๖ ประการ
ค. ๘ ประการ
ง. ๙ ประการ
๒. การแบ่ง พระอภิธ รรมปิฎ กแบ่ง ออก
เป็น กี่ช ว งสมัย ?
่
ก. ๑ สมัย
ข. ๒ สมัย
ค. ๓ สมัย
ง. ๔ สมัย
๓. อภิธ รรมทุม าติก า แม่บ ทฝ่า ยพระ
อภิธ รรมในคัม ภีร ธ ัม มสัง คณี
์
ส่ว นที่ว ่า การจัด ธรรมเป็น หัว ข้อ กี่
ประเด็น กี่ก ลุ่ม กี่ค ู่
ก. ๑ ประเด็น ๑๓ กลุ่ม ๑๐๐ คู่

ข. ๒ ประเด็น ๑๒ กลุ่ม ๑๐๐ คู่
ค. ๑ ประเด็น ๑๒ กลุ่ม ๑๐๐ คู่
ง. ๒ ประเด็น ๑๓ กลุ่ม ๑๐๐ คู่
๔. คัม ภีร ว ิภ ง ค์เ ป็น คัม ภีร ท ี่ว ่า ด้ว ยเรื่อ ง
์ ั
์
ใด
ก. ว่าด้วยเรื่องการแบ่งกลุ่มอภิธรรม
ข. ด้วยเรื่องการจำาแนกหรือการแบ่งหลัก
ธรรมที่สำาคัญต่าง ๆ
ค. ว่าด้วยเรื่องการแบ่งหลักธรรมหัวข้อเล็ก
น้อย
ง. ว่าด้วยเรื่องการรวมกลุ่มข้อธรรม
๕. การจำา แนกขัน ธ์ใ นคำา ภีร ์ว ภ ัง ค์ท ่า น
ิ
ได้จ ำา แนกไว้เ ป็น กี่ป ระการ
ก. ๕ ประการ

๗. ปุค คลบัญ ญัต ิเ ป็น คัม ภีร ์ท ี่แ สดง
บัญ ญัต ิเ กี่ย วกับ บุค คลคือ
ข้อ กำา หนดว่า ด้ว ยอะไร
ก. ว่าด้วยสัทธรรมอันนำามาซึ่งประโยชน์แก่
เหล่า
เวไนยสัตว์
ข. ว่าด้วยความเป็นจริงที่สมมติขึ้นหรือแต่ง
ตังขึ้น
้
ค. ว่าด้วยสภาวะที่แท้เป็นจิต เจตสิก รูป
และนิพพาน
ง. ว่าด้วยบุคคลเป็นที่รวมของขันธ์ ๕
อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘
อินทรีย์ ๒๒
๘. ภาคนิส เทสในปุค คลบัญ ญัต ิน ท เทส
ิ
ใดไม่ใ ช้ว ธ ีป จ ฉา - วิส ัช นา
ิ ุ
ก. นิสเทสที่ ๕
ข. นิสเทสที่ ๖
ค. นิสเทสที่ ๗
ง. นิสเทสที่ ๘
๙. เรื่อ งปุค คกถาที่อ งค์ส มเด็จ พระสัม มา
สัม พุท ธเจ้า ได้ต ั้ง เป็น แบบ
ไว้เ ดิม ที่เ รีย กว่า อะไร ?
ก. อัฏฐมุข
ข. อนัฏฐมุข
ค. อัฏฐิมุข
ง. สัสสติทิฏฐิ
๑๐. พวกเอกัจ จสัส สตทิฏ ฐิ คือ พวกที่ม ี
ความเห็น ว่า อย่า งไร ?
ก. อัตตาและโลกเที่ยง
ข. โลกมีที่สิ้นสุดและไม่มีที่สิ้นสุด
ค. เที่ยงแต่บางอย่าง
ข. ๗ ประการ
ค. ๙ ประการ
ง. ๑๑ ประการ
๖. คำา ว่า ธาตุก ถา มาจากคำา ใด
ก. ธา+ตุกะ+กถา
ข. ธาตุ+กะ+กถา
ค. ธาตุ+กถา
ง. ธา+ตุ+กถา
๑๒. ข้อ ใดคือ อัพ ยากตะที่เ ป็น อเหตุก ะ
ในคำา ภีร ์ย มก ?
ก. เหตุกวิปากจิต
ข. เหตุปฏิสนธิกัมมชรูป
ค. เหตุกวิบากจิต
ง. อัญญสมานเจตสิก
๑๓. ข้อ ใดคือ องค์ธ รรม ๕ อย่า ง
ก. จิต เจตสิก รูป นิพพาน บัญญัติ
ข. รูป เวทนา สังขาร วิญญาณ ขันธ
ค. จิต รูป เวทนา วิญญาณ บัญญัติ
ง. รูป เจตสิก เวทนา นิพพาน บัญญัติ
๑๔. ในปัจ จัย ๒๔ พระพุท ธองค์ท รง
แสดงไว้เ ป็น คู่ม ีก ี่ค ู่
ก. ๓ คู่
ข. ๕ คู่
ค. ๗ คู่
ง. ๙ คู่
๑๕. ในคัม ภีร ์พ ระธรรมปิฎ ก แบ่ง ได้ก ี่
คัม ภีร ์ ?
ก. ๔ คัมภีร์
ข. ๕ คัมภีร์
ค. ๖ คัมภีร์
ง. ๗ คัมภีร์
๑๖. พระเถรรูป ใดที่จ ด สรรแบ่ง ส่ว น
ั
พระพุท ธพจน์อ อกเป็น ๓ ส่ว น
คือ พระสูต ร พระวิน ัย และพระอภิธ รรม
ปิฎ ก ก่อ นพระปริน ิพ พาน คือ

ก. พระทัพพมัลลบุตรเถร
ข. พระภัททธิเถร
ค. พระทาสกเถร

ง. อัตตาและโลกเกิดขึ้นเอง
๑๑. ข้อ ใดไม่ใ ช่ก ารแสดงธรรมเป็น คู่ ๆ
ในคัม ภีร ์ย มก ?
ก. อนุโลมัย คู่กับ ปัจจนีกมัย
ข. อนุโลมปุจฉา คู่กับ ปฏิโลมปุจฉา
ค. ปุจฉา คู่กับ วิสัชนา
ง. สันนิฏฐานบท คู่กับ ปัจจนีกมัย

๑๙. คำา ว่า ขัน ธ์ หมายถึง ข้อ ใดต่อ ไปนี้
ก. กลุ่มหรือกอง
ข. รูป
ค. ก้อน
ง. ถูกทุกข้อ
๒๐. นยมาติก ในคำา ภีร ์ธ าตุก ถา แปลว่า
อย่า งไร
ก. สภาวธรรมแม่บทที่เป็นนัยหรือวิธีการ
ข. สภาวธรรมแม่บทที่เป็นหลักแห่งนัย
ค. สภาวธรรมแม่บทภายนอก
ง. สภาวธรรมแม่บทที่แสดงลักษณะ
๒๑. คำา ว่า เห็น แจ้ง หรือ เห็น อย่า งวิเ ศษมี
ความหมายตรงกับ ข้อ ใด
ก. อายตนะ
ข. ธาตุ
ค. วิปัสสนา
ง. ขันธ์
๒๒. ลิง คบัญ ญัต ิใ นคัม ภีร ป ุค คลบัญ ญัต ิ
์
คือ การบัญ ญัต ิอ าศัย เรื่อ งใด
เป็น ปัจ จัย ในการบัญ ญัต ิ
ก. หน้าที่
ข. สถานที่
ค. รูปพรรณสัณฐาน
ง.
๒๓.
กี่ค ำา
ก.
ข.
ค.

เพศ
คำา ว่า ปุค คลบัญ ญัต ิ มาจากคำา บาลี
๒ คำา
๓ คำา
๔ คำา
ง.
๑๗.
ก.
ข.
ค.
ง.

พระเรวตเถร
กุศ ลมูล ๓ คือ ข้อ ใด
โลภะ
โทสะ
อโทสะ
โมหะ

๑๘.
ก.
ข.
ค.
ง.

อกุศ ลมูล ๓ คือ ข้อ ใด
อโลภะ
อโมหะ
อโทสะ
โลภะ

๒๖. คำา ว่า มูล ในคัม ภีร ์ย มก มีค วาม
หมายเดีย วกัน กับ คำา ว่า อะไร
ก. วัตถุ
ข. จิต
ค. เหตุ
ง. บุคคล
๒๗. ข้อ ใดต่อ ไปนี้ค ือ ความหมายของ
คำา ว่า "ประถม"
ก. ต้นเหตุ
ข. เหตุเกิด
ค. อารมณ์
ง. แดนเกิด
๒๘. ข้อ ใดไม่ใ ช่อ งค์ธ รรมมี ๕ ประการ
ในคัม ภีร ์พ ระอภิธ รรม
ก. จิต
ข. เจตสิก
ค. รูป
ง. ขันธ์
๒๙. องค์ม รรค ๙ คือ ข้อ ใดต่อ ไปนี้
ก. อุเบกขา
ข. ปัญญา
ค. วิจาร
ง. โสมนัส
๓๐. คัม ภีร ข ั้น อรรถกถามีค วามหมาย
์
ตรงกับ ข้อ ใด

ง. ๕ คำา
๒๔. มหาสัง คีต ก ะ แปลว่า อย่า งไร
ิ
ก. การทำาสังคายนาครั้งใหญ่
ข. การร้อยกรองพระธรรมวินัย
ค. การทำาสังคายนาครั้งที่ ๒
ง. การทำาสังคายนาครั้งที่ ๓
๒๕. คัม ภีร ์ก ถาวัต ถุเ ป็น คัม ภีร ท ี่ร วบรวม
์
เกี่ย วกับ เรือ งใดต่อ ไปนี้
่
ก. บุคคล
ข. วัตถุ
ค. ธาตุ
ง. จิต
๓๓. พระผู้ม ีพ ระภาคใช้น ัย กี่ป ระการใน
การจำา แนกวิภ ง ค์
ั
ก. ๑ ประการ
ข. ๓ ประการ
ค. ๕ ประการ
ง. ๗ ประการ
๓๔. คำา ว่า ธาตุก ถา มาจากวจนัต ถะ
ของข้อ ใด
ก. ธาตุนำ กถา ธาตุกถา
ข. กถียนฺติ เอตกาติ กถา
ค. อตฺตโน สภาวำ ธาเรนฺตีติ
ง. ธาตูโย กถา
๓๕. ในปุค คลบัญ ญัต ิป กรณ์ท ่า นแสดง
บัญ ญัต ิไ ว้ก ี่ป ระการ
ก. ๒ ประการ
ข. ๔ ประการ
ค. ๖ ประการ
ง. ๘ ประการ
๓๖. ปุค คลบัญ ญัต ิ มีค วามหมายว่า
อย่า งไร
ก. การบัญญัติสภาวธรรมที่เป็นหมวดหมู่
ข. การบัญญัติเหล่าบุคคลว่าเป็นบุคคล
ค. การบัญญัติสภาวธรรมที่เป็นความจริง
ง.การบัญญัติสภาวธรรมที่เป็นบ่อเกิด
๓๗. พระเถระรูป ใดได้ต ั้ง คำา ถามและคำา
ตอบตามมาติก า
ก. คัมภีร์ที่ไขความบาลีพระพุทธพจน์
ข. คัมภีร์ที่ไขความแห่งคัมภีร์อรรถกถา
ค. คัมภีร์ที่ไขความแห่งคัมภีร์ฎีกาออกไป
ง. คัมภีร์ที่ไขความแห่งคัมภีร์อนุฎีกาออก
ไป
๓๑. ข้อ ใดคือ ความหมายของคำา ว่า
"ธัม มสัง คณี"
ก. ว่าด้วยการแยกกลุ่ม คือการกระจายอ
อกไปจากกลุ่มใหญ่
ข. ว่าด้วยการรวมกลุ่มธรรมะ คือการจัด
ระเบียบธรรมะ
ต่างมาไว้เป็นหมวดหมู่
ค. ว่าด้วยธรรมะที่เป็นคู่ คือการจัดธรรมะ
เป็นคู่ ๆ
ง. ว่าด้วยเรื่องของถ้อยคำา คือการตั้ง
คำาถามคำาตอบ
๓๒. ในคัม ภีร ธ ัม สัง คณีแ บ่ง ออกเป็น กี่
์
กัณ ฑ์
ก. ๒ กัณฑ์
ข. ๔ กัณฑ์
ค. ๖ กัณฑ์
ง. ๘ กัณฑ์
๔๐. ปัฏ ฐานทีท รงแสดงโดยนำา ทุก
่
มาติก ามารวมเข้า ในติก มาติก า
เรีย กว่า อะไร
ก. ติกปัฏฐาน
ข. ทุกปัฏฐาน
ค. ทุกติกปัฏฐาน
ง.
๔๑.
ก.
ข.
ค.

ติกทุกปัฏฐาน
สัม ปยุต ตวาระ คือ วาระในข้อ ใด
วาระที่พึ่งอาศัยกัน
วาระที่ประกอบพร้อมกัน
วาระที่เจือระคนกัน

ง. วาระที่ว่าด้วยการตอบปัญหา
๔๒. ใครเป็น ประธานฝ่า ยสงฆ์ใ นการ

เรือ งปุค คลกถา ที่พ ระพุท ธเจ้า ตัง เป็น
่
้
แบบไว้
ก. พระมหากัสสปเถระ
ข. พระสารีบุตรเถระ
ค. พระอานนท์เถระ
ง. พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ
๓๘. พระผู้ม ีพ ระภาคทรงแสดงวิธ ีก าร
ยมกเพื่อ จำา แนกสภาวธรรม
กีห มวด
่
ก. ๔ หมวด
ข. ๖ หมวด
ค. ๘ หมวด
ง. ๑๐ หมวด
๓๙. ปฏิก เขปวิส ัช ชนา มีค วามหมายว่า
อย่า งไร
ก. วิสัชชนาที่กล่าวห้ามคำาถาม
ข. วิสัชชนาที่กล่าวคำาตอบตรงกันข้ามกับ
คำาถาม
ค. วิสัชชนาที่กล่าวรับรององค์ธรรมของสัน
นิฏฐานบท
ง. วิสัชชนาที่กล่าวปฏิเสธสังสยบท
๔๗. พระอภิธ รรมปิฏ ก ท่า นจำา แนก
สัจ ธรรมไว้ก ป ระการ
ี่
ก. ๑ ประการ
ข. ๒ ประการ
ค. ๓ ประการ
ง. ๔ ประการ
๔๘. ผู้ท ศ ึก ษาคัม ภีร ์ก ถาวัต ถุแ ล้ว จะช่ว ย
ี่
ให้ผ ศ ึก ษารู้ส ึก อย่า งไร
ู้
ก. ทำาให้ผู้เห็นผิดกลับมาเป็นผู้เห็นถูก
ข. ทำาให้ผู้เห็นถูกไม่สบายใจ
ค. ทำาให้ผู้เห็นผิด ทำาผิดได้
ง. ทำาให้ผู้เห็นผิด สามารถทำาต่าไปได้
๔๙. ความหมายของคัม ภีร ์ก ถาวัต ถุ คือ
ข้อ ใด
ก. เพื่อรวบรวมคัมภีร์ซักถามเพื่อชี้ความ
ทำา สัง คายนาครั้ง ที่ ๑
ก. พระมหากัสสปเถระ
ข. พระอานนท์
ค. พระอุบาลี
ง. พระฉันนะ
๔๓. ผู้ใ ดเป็น ผู้อ ป ถัม ภ์ใ นการทำา
ุ
สัง คายนาครั้ง ที่ ๓
ก. พระเจ้าอชาติศรัตรู
ข. พระเจ้าอโศกมหาราช
ค. พระเจ้าพิมพิสาร
ง. พระเจ้ากาลาโศกราช
๔๔. ข้อ ใดไม่เ กี่ย วกับ การแสดงวัต ถุ
ปบาทตามลำา ดับ
ก. กุศล
ข. อกุศล
ค. การนับ

เห็นถูก - ผิด
ข. เพื่อรวบรวมอรรถกถา
ค. เพื่อรวบรวมกฎของสงฆ์
ง. เพื่อรวบรวมเรื่องของอุโบสถ
๕๐. คัม ภีร ์ ชื่อ ยมก คูใ ดแสดงธรรม
่
ถูก คู่
ก.
ข.
ค.
ง.
๕๑.

อนุโลมนัย คู่กับ สังสยบท
อนุโลมนัย คู่กับ วิสัชชนา
ปุจฉา คู่กับ วิสัชชนา
ปุจฉา คู่กับ ปฏิโลมปุจฉา
การปัฏ ฐาน ปุจ ฉาวาระ หมายถึง

ง. กาลเวลา
๔๕. ข้อ ใดไม่เ กี่ย วกับ การจำา แนกใน
ขัน ธ์ว ภ ัง ค์
ิ
ก. วิชชาภาชนียนัย
ข. สุตตันตภาชนียนัย
ค. อภิธัมมภาชนียนัย
ง. ปัญหาปุจฉกนัย
๔๖. คำา ว่า ธาตุ แปลว่า ธรรมชาติท ท รง
ี่
ไว้ซ ึ่ง ลัก ษณะของตนมีก ี่ธ าตุ
ก. ๑๕ ธาตุ
ข. ๑๖ ธาตุ
ค. ๑๗ ธาตุ
ง. ๑๘ ธาตุ

ก. แสดงวิธีตอบคำาถาม
ข. แสดงวิธีเทศนา
ค. แสดงวิธตั้งคำาถาม
ี
ง. แสดงวิธีแสดงธรรม
๕๒. คัม ภีร ์ป ุค คลบัญ ญัต ิ ว่า ด้ว ยบัญ ญัต ิ
บุค คลและปรมัต ถ์ท รง
แสดงกีว ัน และมีเ ทวดาบรรลุธ รรมกี่
่
โกฏิ
ก. ๕ วัน ๖ โกฏิ
ข. ๖ วัน ๗ โกฏิ
ค. ๗ วัน ๘ โกฏิ
ง. ๘ วัน ๙ โกฏิ
๕๓. การทำา สัง คายนาครัง ที่ ๑ และครัง
้
้
ที่ ๒ ใช้ค ำา ว่า อย่า งไร
ก. พระธรรมและสุตะ
ข. พระอภิธรรมและวินัย
ค. ธรรมและวินัย
ง. พระวินัยปิฎก

๕๔. มโนธาตุ ประกอบด้ว ยอุเ บกขามี ๕
อารมณ์ ได้แ ก่อ ะไรบ้า ง
ก. รูป เสียง กลิ่น รส โผกฐัพพะ
ข. รูป เสียง กลิ่น รส ธัมมารมณ์
ค. เสียง รูป กลิ่น รส หู
ง. เสียง รูป กลิ่น โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์
๕๕. ธาตุก ถาแสดงเป็น ๒ ภาค ได้แ ก่
อะไรบ้า ง

๖๑. ข้อ ใดไม่จ ด อยู่ใ นคัม ภีร ช ั้น ฎีก าใน
ั
์
พระอภิธ รรมปิฎ ก
ก. ธัมมสังคณีมูลฎีกา
ข. วิภังคมูลฎีกา
ค. ปัญจกรณ์มูลฎีกา
ง. วินัยมูลฎีกา
๖๒. ข้อ ใดต่อ ไปนี้ไ ม่จ ด อยู่ใ นลำา ดับ
ั
มาติก าของคัม ภีร ์พ ระอภิธ รรม
ก.
ข.
ค.
ง.

ภาคอุทเทส
ภาคนิทเทส
ภาคอุทเทส
ภาคนิทเทส

ภาคนิสเทส
กับ อัพภุนตรมาติกา
กับ นยมาติกา
กับ อัพภันตรมาติกา

๕๖. พระอภิธ รรมปิฎ กจำา แนกสัจ ธรรมหรือ
สัจ จะออกเป็น ๒ ประการ

ได้แ ก่อ ะไรบ้า ง
ก. ปรมัตถสัจจะ กับ สมมุติสัจจะ
ข. ปรมัตถสัจจะ กับ ปุคคลบัญญัติ
ค. สมมุติสัจจะ กับ เอกปุคคล
ง. สมมุติสัจจะ กับ ติกปุคคล
๕๗. การทำา สัง คายนาของพระฝ่า ย
ทัก ษิณ นิก ายรวบรวมพระภิก ษุส งฆ์
ฝ่า ยตนได้ก ร ูป
ี่
ก. ๕,๐๐๐ รูป
ข. ๗,๐๐๐ รูป
ค. ๘,๐๐๐ รูป
ง. ๑๐,๐๐๐ รูป
๕๘. สหชาตชาติใ หญ่ป ระกอบกับ ปัจ จัย
มีก ี่ป ัจ จัย
ก. ๒ ปัจจัย
ข. ๔ ปัจจัย
ค. ๖ ปัจจัย
ง.
๕๙.
ก.
ข.
ค.
ง.

ติกมาติกา
วินัยติกมาติกา
อภิธัมม่ทุกมาติกา
สุตตันมาติกา

๖๓. ข้อ ใดไม่จ ด อยู่ใ นขัน ธ์ ๕
ั
ก. เวทนาขันธ์
ข. สังขารขันธ์
ค. นิพพานขันธ์
ง. วิญญาณขันธ์
๖๔. ตีห ิ สงฺค โห ในนยมุข มาติก า
แปลว่า อย่า งไร
ก. สภาวธรรมที่สงเคราะห์เข้าได้กับสภาว
ธรรม ๓ หมวด
ข. สภาวธรรมที่สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับ
สภาวธรรม ๓ หมวด
ค. สภาวธรรมที่ประกอบเข้าได้กับ สภาว
ธรรม ๔ หมวด
ง. สภาวธรรมที่ประกอบเข้าไม่ได้กับ สภาว
ธรรม ๔ หมวด
๖๕. อุป นิธ าบัญ ญัต ิใ นคัม ภีร ์ป ค ค
ุ
ลบัญ ญัต ป ระเภทใดคือ การ
ิ
บัญ ญัต ิโ ดยอาศัย สิง แวดล้อ ม
่

๘ ปัจจัย
ปัจ จัย ๒๔ แบ่ง ออกเป็น กี่ป ระเภท
๖ ประเภท
๗ ประเภท
๘ ประการ
๙ ประการ

ก. สัมปยุตตูปนิธา
ข. สมาโรปิตูปนิธา
ค. อวิทูรคตูปนิธา
ง. ปฏิภาคูปนิธา
๖๖. ในคัม ภีร ์ก ถาวัต ถุก ารซัก ถามนั้น
หากสกวาทีเ ป็น ฝ่า ยซัก ถาม
ก่อ นเรีย กว่า อะไร
ก. ปัจจนีกปัญจกะ
ข. ปัจจนีกานุโลมปัญจกะ
ค. อนุโลมปัจจนีกะ
ง. อนุโลมปัญจกะ

๓
๔
๕
๖

๖๗.
ก.
ข.
ค.
ง.

๖๐. สัง คายนาครั้ง ที่ ๑ ทำา หลัง พุท ธ
ปริน ิพ พานกี่เ ดือ น ใครเป็น ผู้อ ป ถัม ภ์
ุ

ก.
ข.
ค.
ง.

ก.
ข.
ค.
ง.

เดือน
เดือน
เดือน
เดือน

พระเจ้าอชาตศรัตรู
พระยสกากัณทบุตร
พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ
พระเจ้ากาลาโศกราช

อนุโ ลมโรปนา หมายถึง อะไร
การถึงอนุโลม
การยกอนุโลม
การตั้งปฏิโลม
การถึงปฏิโลม

ส
๖๘. ปุเ รปัญ หา หมายถึง อะไร
ก. ประโยคคำาถามที่บทหน้ามีองค์ธรรมแต่
บทหลังไม่มี
หรือมีแต่ต่างกับองค์ธรรมของบทหน้า
ข. ประโยคคำาถามที่บทหลังมีองค์ธรรม
มากกว่า (กว้างกว่า)
องค์ธรรมบทหน้า
ค. ประโยคคำาถามที่บทหน้ามีองค์ธรรม
มากกว่า (กว้างกว่า)
องค์ธรรมบทหลัง
ง. ประโยคคำาถามที่ถามถึงองค์ธรรมของ
สันนิษฐานบท
ซึ่งไม่มีองค์ธรรม
๖๙. ปัจ จนีก ธรรม หมายถึง อะไร
ก. ธรรมที่เป็นเหตุ ได้แก่ องค์ธรรมทั้ง ๕
ข. ธรรมที่เป็นผล ได้แก่ สังขตธรรม
ค. ธรรมที่นอกจากผล ได้แก่ สังขตธรรม
ที่เหลือจากผล
ธรรมในปัจจัยนั้น ๆ
ง. ธรรมที่เป็นเหตุและเป็นผล ได้แก่ องค์
ธรรมทั้ง ๕
และ สังขตธรรม
๗๐. ความหมายของข้อ ใดต่อ ไปนี้ไ ม่
เข้า พวก
ก. เหตุปัจจัย
ข. สหชาตปัจจัย
ค. อัญญมัญญปัจจัย
ง. อารัมมณาธิปติปัจจัย
๗๑. การสัง คายนาครั้ง ที่ ๒ มีพ ระ
อรหัน ร่ว มประชุม กีร ูป
่
ก. ๕๐๐ รูป
ข. ๖๐๐ รูป
ค. ๗๐๐ รูป
ง. ๘๐๐ รูป
๗๒. จิต ที่ร วบรวมอารมณ์ไ ว้ภ ายใน
มีช ื่อ ว่า อะไร
ก. มโน

๗๔. อนุโ ลมฐปนาหมายถึง อะไร
ก. การตั้งอนุโลม
ข. การถึงอนุโลม
ค. การยกอนุโลม
ง. การตั้งปฏิโลม
๗๕. ชาติท ง ๙ ของปัจ จัย ๒๔ ชาติใ ด
ั้
มีป จ จัย มากที่ส ุด
ั
ก. อารัมณชาติ
ข. สหชาติ
ค. อนันตรชาติ
ง. วัตถุปุเรชาตชาติ
๗๖. ข้อ ใดไม่ใ ช่ค ัม ภีร ์ใ นคัม ภีร ์พ ระ
อภิธ รรมปิฎ ก
ก. ธัมมสังคณี
ข. ธาตุกถา
ค. ธัมมกถา
ง. วิภังค์
๗๗. ข้อ ใดไม่จ ด อยู่ใ นลำา ดับ กัณ ฑ์ห ลัง
ั
แสดงมาติก าแล้ว
ก. รูปกัณฑ์
ข. ทัสสนเหตุกัณฑ์
ค. จิตตุปปาทกัณฑ์
ง. นิกเขปกัณฑ์
๗๘. อกุศ ลจิต ที่ใ ห้ผ ลเป็น ทุก ข์ ๑๒ ข้อ
ใดกล่า วถูก ต้อ งที่ส ุด
ก. โลภมูล ๘ โทสมูล ๒ โมหมูล ๒
ข. โลภมูล ๖ โทสมูล ๓ โมหมูล ๓
ค. โลภมูล ๔ โทสมูล ๔ โมหมูล ๔
ง.โลภมูล ๒ โทสมูล ๒ โมหมูล ๘
๗๙. วิป ัส สนาภูม ิท ี่พ ระพุท ธองค์ท รง
แสดงไว้ม ีก ภ ูม ิ คือ อะไร
ี่
ก. ๓ ภูมิ คือ ขันธ์ ๕, อายตนะ ๑๒, ธาตุ
๑๘
ข. ๔ ภูมิ คือ ขันธ์ ๕, อายตนะ ๑๒,
อินทรีย์ ๒๒
ข. หทัย
ค. ปัณฑนะ
ง. มนายตนะ
๗๓. นยมาติก าเรีย กอีก อย่า งหนึง ว่า
่
อะไร
ก.
ข.
ค.
ง.

มูลมาติกา
อัพภันตรมาติกา
พาหิรมาติกา
นยมุขมาติกา

๘๑. ในเอกปุค คลบัญ ญัต ิ บุค คลผู้เ ป็น
ปถุช นเป็น เช่น ไร
ก. บุคคลที่สัมผัสวิโมกข์ ๘ ด้วยกาย ทุก
กาล ทุกสมัย
เรียกว่าผู้เป็นปุถุชน
ข. บุคคลใดยังละสังโยชน์ ๓ ไม่ได้และไม่
ได้ปฏิบติสละ
ั
สภาวธรรม เรียกว่าผู้เป็นปุถุชน

ค. บุคคลผู้ไม่ลบหลู่บุคคลอื่นด้วยกาย วาจา ใจ
เรียกว่าผู้เป็นปุถุชน

ง. บุคคลผู้กระทำาความดีและชักชวนบุคคล
อื่นให้กระทำา
ความดีอยู่เสมอ เรียกว่าปุถุชน
๘๒. ผูใ ดเป็น ผู้ถ วายเทศนาแก่พ ระเจ้า
้
อโศกมหาราชจนพระองค์ม ี
ความเลื่อ มใสและซาบซึ้ง ในหลัก ธรรม
อัน บริส ท ธ์ข องพระพุท ธองค์
ุ
ก. พระมหากัสสปะเถระ
ข.
ค.
ง.
๘๓.
ก.

พระอานนท์
พระโมคคัลลีบุตรติสเถระ
พระสัพพกามีเถระ
ข้อ ใดไม่จ ัด อยู้ใ นคัม ภีร ์ย มก
มูลยมก

ข.
ค.
ง.
๘๔.

อายตนยมก
สังขารยมก
อนาคตยมก
ปวัตติการ คือช่วงเวลาใด

ค. ๕ ภูมิ คือ ขันธ์ ๕, อายตนะ ๑๒, ธาตุ
๑๘, อินทรีย์ ๒๒,
อริยสัจจะ ๔
ง. ๖ ภูมิ คือ ขันธ์ ๕, อายตนะ ๑๒, ธาตุ
๑๘, อินทรีย์ ๒๒,
อริยสัจจะ ๔, ปฏิจจสมุปบาท ๑๒
๘๐. ในปุค คลบัญ ญัต ิป กรณ์ท ี่พ ระพุท ธ
องค์บ ญ ญัต ไ ว้ ๖ ประการ
ั
ิ
ข้อ ใดไม่จ ด อยู่ใ นบัญ ญัต ิ ๖ ประการ
ั
ก. ขันธบัญญัติ
ข. อายตนบัญญัติ
ค. อุตสาหบัญญัติ
๘๗. ในติก มาติก กาในปุจ ฉา - วิส ัช ชนา
ตามวิธ ีจ ำา แนกขัน ธวิภ ง ค์
ั
ปัญ หาปุจ ฉกะมีก บ ท
ี่
ก. ๑๓ บท
ข. ๑๘ บท
ค. ๒๐ บท
ง. ๒๒ บท
๘๘. ข้อ ใดจัด อยูใ นหมวดว่า ด้ว ยบุค คล
่
๙ จำา พวก
ก. บุคคลผู้เป็นสัมมาสัมพุทธ
ข. บุคคลผู้เป็นโกลัง โกละ
ค. บุคคลผู้โผล่ขึ้นแล้วจมลงอีก
ง. บุคคลผู้มักโกรธ บุคคลผู้โกรธ
๘๙. การทำา สัง คายนาครัง ที่ ๒ มีข ึ้น ใน
้
พุท ธศัก ราชใด
ก. ๑๐๐
ข. ๒๐๐
ค. ๓๐๐
ง. ๔๐๐
๙๐. คำา ว่า อิน ทริย ยมกมีค วามหมายว่า
อย่า งไร
ก. ธรรมที่เป็นคู่ที่ว่าด้วยหมวดขันธ์
ข. ธรรมที่เป็นคู่ว่าด้วยหมวดจิต
ค. ธรรมที่เป็นคู่ที่ว่าด้วยหมวดธรรม
ก. ช่วงระยะเวลาก่อนที่จิตถือปฏิสนธิ
ข. ช่วงระยะเวลาที่จิตถือปฏิสนธิ
ค. ช่วงระยะเวลาหลังปฏิสนธิ
ง. ช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งที่จิตปฏิสนธิ
๘๕. ในสมัย ขององค์ส มเด็จ พระสัม มาสัม
พุท ธเจ้า เรีย กคำา สอนว่า อย่า งไร

ก. พระอภิธรรม
ข. พระไตรปิฎก
ค. พระสูตร
ง. พรหมจรรย์
๘๖. กุศ ลธรรมที่น ำา ไปเกิด ในภูม ิ ๓
ตามการจัด ลำา ดับ กุส ลา ธมฺม า
เรีย กว่า อะไร
ก. กามาวจรกุศล
ข. รูปาวจรกุศล
ค. เตภูมิกกุศล
ง. โลกุตตรกุศล

๙๔. ปัญ ญาจะเกิด ขึน ได้ต ้อ งอาศัย และ
้
เข้า ใจอะไรในข้า งต้น เป็น
อัน ดับ แรก
ก. วิปัสสนาภูมิ
ข. วิปัสสนาญาณ
ค. กรรมฐาน
ง. เจริญวิปัสสนา
๙๕. ความหมายและโครงสร้า งของ
ปุค คลบัญ ญัต ิก ล่า วถึง สิง ใด
่
ก. เครื่องนุ่งห่ม
ข. บุคคล
ค. ยารักษาโรค
ง. ที่อยู่อาศัย
๙๖. การหยุด การทำา อุโ บสถสัง ฆกรรม
ถึง ๗ ปี ของภิก ษุเ กิด ขึน
้

ง. ธรรมที่เป็นคู่ที่ว่าด้วยหมวดอินทรีย์
๙๑. คำา ว่า ถานัต กระ มคฺโ ค วิย าติ มคฺ
โค แปลว่า อย่า งไร
ก. ธรรมที่เป็นผู้อุปการะ โดยความเป็น
มรรค
ข. ธรรมที่เป็นประดุจหนทางชื่อว่ามัคคะ
ค. ธรรมที่ไม่มีระหว่างคั่นเลยชื่อว่าสมนัน
ตระ
ง. ธรรมที่เกิดทีหลังปัจจยุปนันนธรรมชื่อว่า
ปัจฉาตะ
๙๒. ในคัม ภีร ์พ ระอภิธ รรมปิฎ กแบ่ง ออก
ได้ ๗ คัม ภีร ์ คัม ภีร ์ใ ดที่
เป็น คัม ภีร ์แ สดงธรรมแบบ คำา ถาม - คำา
ตอบ
ก. ธัมมสังคณี
ข. วิภังค์
ค. ธาตุกถา
ง. กถาวัตถุ
๙๓. กามาวจรกุศ ล ๘ กล่า วถึง เกี่ย วกับ
อะไร
ก. จิต สังขาร
ข. จิต รูป สังขาร
ค. สังขาร ญาณ
ง. จิต ญาณ สังขาร
๑๐๑. กามาวจรกุศ ลมีเ ท่า ไหร่
ก. ๒
ข. ๔
ค. ๖
ง. ๘
๑๐๒. อัฏ ฐกปุค คลว่า ด้ว ยบุค คลกี่
จำา พวกและมีก ี่ก ลุ่ม
ก. ๓ จำาพวก ๑๗ กลุ่ม
ข. ๔ จำาพวก ๓๒ กลุ่ม
ค. ๗ จำาพวก ๒ กลุ่ม
ง. ๘ จำาพวก ๑ กลุ่ม
๑๐๓. อธิป ติป จฺจ โย มีค วามหมายว่า
อย่า งไร
ก. สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็น
เหตุ
เพราะเหตุใ ด
อลัชชีปลอมบวชมาก
ข. สถานที่ไม่พร้อม
ค. ไม่มีผู้นำาในการทำา
ง. สิ้นเสียความสามัคคี
๙๗. ถ้า หากเปรีย บเทีย บคัม ภีร ์ม หาปัก
ฐานเป็น สระนำ้า จะเป็น สระ
ใดในต่อ ไปนี้
ก. สระที่มีนำ้าขาด ๆ เขิน ๆ
ข. สระที่มีแต่ดอกบัวหาปลามิได้เลย
ค. สระที่มีทุก ๆ อย่างเอิบอิ่มสมบูรณ์
ง. สระขาดบางอย่างเกือบจะสมบูรณ์
๙๘. ในการทำา สัง คายนาครัง ที่ ๒ มีผ ล
้
สำา คัญ กี่ป ระการ
ก. ๓
ข. ๖
ค. ๗
ง. ๘
๙๙. จิต นี้ม ไ วพจน์ห รือ มีช อ ที่เ รีย กขาน
ี
ื่
กัน กี่ช ื่อ
ก. ๑๐
ข. ๑๑
ค. ๑๒
ง. ๑๓
๑๐๐. คำา ว่า "สุต ะ" มีช ื่อ รวมที่ใ ช้เ รีย ก
พุท ธจวนะกี่ป ระการ
ก. ๙ ประการ
ง.
๑๒ ประการ
ข. ๑๐ ประการ
ค. ๑๑ ประการ
๑๐๗. "มหาสัง ฆิก ะ" หมายถึง อะไร

ข. สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเกิด
พร้อมกัน
ค. สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็น
อารมณ์
ง. สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็น
อธิบดี
๑๐๔. ใน กุส ลา ธมฺม า มีก ารจัด ลำา ดับ
อย่า งไรจึง จะถูก ต้อ ง
ก. กามาวจรกุศล รูปาวจรกุศล อรูปาวจร
กุศล
เตภูมิกกุศล โลกุตตรกุศล
ข. กามาวจรกุศล รูปาวจรกุศล อรูปาวจร
กุศล
โลกุตตรกุศล เตภูมิกกุศล
ค. กามาวจรกุศล เตภูมิกกุศล อรูปาวจร
กุศล
รูปาวจรกุศล กามาวจรกุศล
ง. โลกุตตรกุศล เตภูมิกกุศล อรูปาวจร
กุศล
รูปาวจรกุศล กามาวจรกุศล
๑๐๕. รูป ขัน ธ์ กองรูป ในขัน ธวิภ ง ค์
ั
ได้แ ก่ร ูป เท่า ไร
ก. รูป ๒๕
ข. รูป ๒๖
ค. รูป ๒๗
ง. รูป ๒๘
๑๐๖. ปรมัต ถสัจ จะคือ ความจริง ตาม
สภาวะแท้ ๆ ทีเ ป็น จิต เจตสิก
่

รูป และนิพ พานที่ท รงแสดงไว้ใ นอภิธ รรม
๖ คัม ภีร ์ เว้น คัม ภีร ์ท ี่เ ท่า ไร

ก. เว้นคัมภีร์ ๑
ข. เว้นคัมภีร์ ๒
ค. เว้นคัมภีร์ ๓
ง. เว้นคัมภีร์ ๔

๑๑๔. มหาภูต รูป ๔ หมายถึง รูป ที่เ ป็น
ใหญ่เ ป็น ประธานได้แ ก่อ ะไร
ก.
ข.
ค.
ง.

พระผู้มีพวกน้อย
พระผู้มีพวกปานกลาง
พระผู้มีพวกมาก
พระผู้มีพวกมากและพวกน้อย

๑๐๘. คำา ว่า ปัฏ ฐานเป็น คัม ภีร ์ท ี่เ ท่า ไร
ก. คัมภีร์ที่ ๔
ข. คัมภีร์ที่ ๕
ค. คัมภีร์ที่ ๖
ง. คัมภีร์ที่ ๗
๑๐๙. กามาวจรกุศ ล ๘ คือ ข้อ ใดต่อ ไป
นี้
ก. จิตที่เกิดพร้อมด้วยความดีใจ
ข. จิตที่เป็นผลแห่งความสุข
ค. จิตที่เป็นกุศลด้วยญาณที่ ๒
ง. จิตที่เกิดด้วยความวิตก
๑๑๐. สัจ จบัญ ญัต ิม ี ๔ ประการ คือ ข้อ
ใดต่อ ไปนี้
ก. สมุทยสัจจะ
ข. สัจจะบัญญัติ
ค. ธาตุบัญญัติ
ง. โสตายตนะ
๑๑๑. พระโมคคัล ลีบ ต รติส สเถระได้
ุ
ถวายเทศนาแก่ใ คร
ก. สมณะพราหมณ์
ข. พระเจ้าอโศกมหาราช
ค. พระภิกษุ ๑,๐๐๐ รูป
ง. พวกอำามาตย์
๑๑๒. ปัจ จัย ที่เ ป็น สหชาตชาติม ี ๑๕
ปัจ จัย คือ ข้อ ใด
ก. เหตุปัจจัย
ข. อารัมมณปัจจัย
ค. อนันตรปัจจัย
ง. ปัจฉาชาตปัจจัย
๑๑๓. การแบ่ง อภิธ รรมท่า นแบ่ง ไว้ก ี่
สมัย
ก. ๑ สมัย
ข. ๒ สมัย
ค. ๓ สมัย

ก. ปฐวี อาโป เตโช วาโย
ข. ปฐวี จักขุ เตโช วาโย
ค. ปฐวี อาโป โสต เตโช
ง. ปฐวี อาโป เตโช ชิวหา
๑๑๕. อกุศ ลจิต ที่ใ ห้ผ ลเป็น ทุก ข์ ๑๒
อยากทราบว่า โลภมีก ด วง
ี่
ก. โลภมูลมี ๔ ดวง
ข. โลภมูลมี ๖ ดวง
ค. โลภมูลมี ๘ ดวง
ง. โลภมูลมี ๑๐ ดวง
๑๑๖. อัพ ภัน ตรมาติก า แบ่ง ออกเป็น ๒
อุท เสสได้แ ก่อ ะไร
ก. ขันธาทิอุทเทส และ ผัสสสัจตกราสีอุท
เสส
ข. ขันธาทิอุทเทส และลักษณาอุทเสส
ค. สัญญาอุทเทส และ เจตนาอุทเสส
ง. ขันธาทิอุทเทส และ เวทนาอุทเสส
๑๑๗. พวกอุท เฉทวาทะคือ พวกที่ม ี
ความเห็น เป็น เช่น ไร
ก. ความเห็นว่าขาดสูญ
ข. อัตตาและโลกเที่ยง
ค. เห็นว่าบางอย่างเที่ยง
ง. เห็นโลกมีที่สิ้นสุด
๑๑๘. ภาคตัง คำา ถามเป็น มาติก าไม่ม ีค ำา
้
ตอบเรีย กว่า อะไร
ก. นิทเทสวาระ
ข. ปวัตติวาระ
ค. อุทเทสวาระ
ง. ปริญญาวาระ
๑๑๙. ข้อ ใดไม่ใ ช่ก ิร ิย าจิต ฝ่า ยรูป าวจร
ก. จิตที่เป็นกิริยาในฌานที่ ๑
ข. จิตที่เป็นกิริยาในฌานที่ ๒
ค. จิตที่เป็นกิริยาในฌานที่ ๓
ง. จิตที่เป็นกิริยาในฌานที่ ๖
๑๒๐. ข้อ ใดไม่ใ ช่ส ัจ จบัญ ญัต ิ ๔
ประการ
ก. ทุกขสัจจะ
ข. รูปสัจจะ
ค. สมุทยสัจจะ
ง. ๔ สมัย

๑๒๑. เถรวาทมีน ิก ายแตกแยกออกไป
อีก กี่น ิก าย
ก. ๑ นิกาย
ข. ๒ นิกาย
ค. ๓ นิกาย
ง. ๔ นิกาย
๑๒๒. ข้อ ใดคือ คำา แปลที่ถ ูก ต้อ งของคำา
ว่า เหตุป จฺจ โย
ก. สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็น
เหตุ
ข. สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็น
อารมณ์
ค. สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็น
อธิบดี
ง. สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความ
ติดต่อกันมีระหว่างคั่น
๑๒๓. สมเด็จ พระสัม มาสัม พุท ธเจ้า ทรง
แสดงธรรมโปรดพุท ธมารดา
บนสวรรค์ช ั้น ดาวดึง ส์ใ นพรรษาที่เ ท่า ไร
ก. พรรษาที่ ๕
ข. พรรษาที่ ๗
ค. พรรษาที่ ๙
ง. พรรษาที่ ๑๑
๑๒๔. เตโช ในมหาภูต รูป ๔ หมายถึง
อะไร
ก. รูปที่แข็งและอ่อน
ข. รูปที่ไหลและเกาะกลุ่ม
ค. รูปที่เย็น ร้อน
ง. รูปที่หย่อน ตึง
๑๒๕. การจำา แนกขัน ธ์ ๕ ด้ว ยสุต ตัน ต
ภาชนีย นัย มีก ารจัด ไว้อ ย่า งไร
ก. รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์
สังขารขันธ์
วิญญาณขันธ์
ข. เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์
วิญญาณขันธ์
รูปขันธ์
ค. สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ รูปขันธ์

ง. นิโรธสัจจะ

๑๒๗. ข้อ ใดต่อ ไปนี้ไ ม่จ ด อยู่ใ นบุค คล
ั
๙ จำา พวก
ก. บุคคลผู้เป็นสัมมาสัมพุทธ
ข. บุคคลผู้เป็นปัจเจกพุทธะ
ค. บุคคลผู้เป็นอุภโตภาควิมุตตะ
ง. บุคคลผู้เป็นสัตตักขัตตุปรมะ
๑๒๘. พระเจ้า อโศกมหาราช
พระราชทานผ้า ขาวแก่พ วกเดีย รถี
ให้ส ึก กี่ร ป
ู
ก. ๖๐,๐๐๐ รูป
ข. ๗๐,๐๐๐ รูป
ค. ๘๐,๐๐๐ รูป
ง. ๙๐,๐๐๐ รูป
๑๒๙. พระไตรปิฎ กมีก ี่พ ระธรรมขัน ธ์
ก. ๙๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
ข. ๘๕,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
ค. ๘๖,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
ง. ๘๗,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
๑๓๐. กุศ ลธรรมที่เ ป็น ปัจ จัย ให้เ กิด ใน
ภูม ิท ั้ง ๓ เรีย กว่า อะไร
ก. กามวจรกุล
ข. อรุปาวจรกุศล
ค. เตภูมิกุศล
ง. โลกุตตรกุศล
๑๓๑. พระโมลคัล ลีบ ต รติส สเถระร่ว ม
ุ
กับ พระเจ้า อโศกมหาราช ส่ง
สมณฑูล ไปประกาศพระพุท ธศาสนา ณ
แคว้น โยนก ได้แ ก่
เปอร์เ ชีย ปัจ จุบ ัน คือ สมณทูต ผู้ใ ด
ก. พระมหาธัมมรักขิตเถระ
ข. พระมหารักขิตเถระ
ค. พระธัมมรักขิตเถระ
เวทนาขันธ์
สัญญาขันธ์
ง. สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์
รูปขันธ์
เวทนาขันธ์
๑๒๖. ข้อ ใดให้ค วามหมายของคำา ว่า
สงฺค โห อสงฺค โห ได้ถ ูก ต้อ ง
ก. การสงเคราะห์ได้ การสงเคราะห์ไม่ได้
ข. การประกอบได้ การประกอบไม่ได้
ค. ธรรมที่สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยธรรมที่
สงเคราะห์ได้
ง. ธรรมที่สงเคราะห์ได้ด้วยธรรมที่
สงเคราะห์ไม่ได้

๑๓๔. ข้อ ใดไม่จ ัด อยู่ใ นบัญ ญัต ิ ๖
ประการ ตามนัย ของอรรถกถา
ในคำา ภีร ์ป ุค คลบัญ ญัต ิ
ก. อุปาทาบัญญัติ
ข. วิชชมานบัญญัติ
ค. ตัชชาบัญญัติ
ง. อุปนิธาบัญญัติ
๑๓๕. สารธรรมจากคัม ภีร ์ก ถาวัต ถุแ บ่ง
ออกเป็น กี่เ รื่อ ง
ก. ๑๕ เรื่อง
ข. ๑๖ เรื่อง
ค. ๑๗ เรื่อง
ง. ๑๘ เรื่อง
๑๓๖. มูล ยมกว่า ด้ว ยสภาวธรรมทีเ ป็น
่
มูล มีก ห มวด
ี่
ก. ๒ หมวด
ข. ๓ หมวด
ค. ๔ หมวด
ง. ๕ หมวด
๑๓๗. ข้อ ใดไม่จ ด อยู่ใ นความหมาย
ั
ของคำา ว่า "อัต ถิป จ จัย "
ั
ก. อารัมมณาธิปติปัจจัย
ข. อินทริยปัจจัย
ค. อินทริยัตถิปัจจัย

ง. พระรักขิตเถระ
๑๓๒. ข้อ ใดจัด อยูใ น "อกุศ ลราสีเ จตสิก
่
๑๔ ดวง"
ก. อัปปมัญญาเจตสิก
ข. ปกิณณกเจตสิก
ค. วีรตีเจตสิก
ง. วิจิกิจฉาเจตสิก
๑๓๓. ข้อ ใดไม่จ ด อยู่ใ น "ผัส สสัต ตก
ั
ราสีอ ท เทส"
ุ
ก. ผัสสอุทเทส
ง.
จิตตอุทเทส
ข. อธิโมกอุทเทส
ค. ขันธาทิอุทเทส
๑๔๐. คำา ว่า อายตนะ แปลว่า อะไร
ก. ที่ก่อ บ่อเกิด
ข. ธรรมชาติที่ทรงไว้ซึ่งลักษณพะของตน
ค. เป็นกลุ่ม
ง. เห็นแจ้ง
๑๔๑. ปฏิว จนวิส ัช ชนา คือ อะไร
ก. วิสัชชนาที่กล่าวคำาตอบตรงกันข้ามกับ
คำาถาม
ข. วิสัชชนาที่กล่าวห้ามคำาถาม
ค. วิสัชชนากล่าวรับรององค์ธรรมของสัน
นิฏฐานบท
ง. วิสัชชนาที่กล่าวปฏิเสธสังสยบท
๑๔๑. ธัม มสัง คณีม ล ฎีก าว่า ด้ว ยฎีก า
ู
อธิบ ายอรรถกถาประเภทใด
ก. อรรถกถาอัฏฐสาลินี
ข. อรรถกถาสัมโมหวิโนทนี
ค. อรรถกถาปัญจปกรณ์
ง. อรรถกถาธัมสังคณี
๑๔๒. ปฏิส นธิก าล คือ ช่ว งเวลาใด
ก.
ข.
ค.
ง.

ช่วงระยะเวลาที่จิตถือปฏิสนธิ
ช่วงระยะเวลาที่จิตหลังปฏิสนธิ
ช่วงระยะเวลาที่จิตก่อนปฏิสนธิ
ช่วงระยะเวลาที่จิตกำาลังจะปฏิสนธิ
ง. ปัจฉาชาตปัจจัย
๑๓๘. ธัม มสัง คณี เป็น คัม ภีร ์แ รกของ
พระอภิธ รรมปิฎ กเป็น คัม ภีร ์
ที่แ สดงหัว ข้อ ธรรมหรือ เนื้อ หาหลัก ของ
พระอภิธ รรมปิฎ กมีช ื่อ
เรีย กว่า อะไร
ก. ทุกมาติกา
ข. มาติกา
ค. เอกกมาติกา
ง. นวกมาติกา
๑๓๙. อิต ถิน ทรีย ์ ฯลฯ กวฬิง การาหาร
หรือ รูป แม้อ ื่น ใดมีอ ยู่ใ นที่
ไม่ใ กล้ใ นที่ไ ม่ใ กล้ช ด ในทีไ กลในที่
ิ
่
ไม่ใ ช่ใ กล้ นี้เ รีย กว่า อะไร
ก. รูปละเอียด
ข. รูปประณีต
ค. รูปทราม
ง. รูปไกล

๑๔๖. ข้อ ใดมิใ ช่ว ิบ ากจิต ฝ่า ยโลกุต ตระ
๔
ก. โสดาปัตติผลจิต
ข. สกทาคามิผลจิต
ค. เสขบุคคลจิต
ง. อนาคามิผลจิต
๑๔๗. ข้อ ใดมิใ ช่น ิก ายทีแ ยกออกจาก
่
นิก ายวัช ชีป ต ตกะ ๔
ุ
ก. ธัมมุตตริยะ
ข. สังกันติกะ
ค. ฉันนาคาริกะ
ง. สมิติยะ
๑๔๘. ข้อ ใดไม่ใ ช่อ กุศ ลมูล ๓
ก. โลภะ

๑๔๓. พระพุท ธพจน์ส มัย พระสาวกไป
ประกาศพระศาสนากี่ร ูป
ก. ๓๐ รูป
ข. ๔๐ รูป
ค. ๕๐ รูป
ง. ๖๐ รูป
๑๔๔. วิป ัส สนาภูม ิท ี่พ ระพุท ธองค์ท รง
แสดงไว้ม ี ๖ ภูม ิ คือ ขัน ธ์ ๕
อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ อิน ทรีย ์ ๒๒
อริย สัจ จะ ๔
ปฏิจ จสมุป บาท ๑๒ แต่เ มื่อ ย่อ ลงแล้ว ได้
เพีย ง ๒ คือ ระหว่า ง
ก. กายกับเวทนา
ข. นามกับรูป
ค. รูปกับกาย
ง. รูปกับเวทนา
๑๔๕. ข้อ ใดไม่ใ ช่เ หตุผ ลสำา คัญ ๕
ประการ ในการทำา สัง คายนาครั้ง ที่ ๑
ก. ปรับอาบัติพระอานนท์ให้แสดงอาบัติ
ข. การลงพรหมทัณฑ์พระฉันทะ
ค. การจัดพระธรรมวินัยเป็นหมวดหมู่
ง. การแตกแยกความคิด
๑๕๔. รูป อดีต คือ รูป อย่า งไร
ก. รูปล่วงไปแล้ว ดับแล้ว ปราศไปแล้ว
ข. รูปใดของสัตว์นั้น ๆ เองซึ่งมีในตน
ค. รูปเกิดแล้ว เป็นแล้ว เกิดพร้อมแล้ว
ง. รูปยังไม่เกิด ยังไม่เป็น ยังไม่เกิดพร้อม
๑๕๕. ธาตุแ ปลว่า อะไร
ก. เห็นแจ้ง หรือเห็นอย่างวิเศษ
ข. บ่อเกิดของธรรมชาติต่าง ๆ มีประสาท
ตากับสี
ค. ธรรมชาติที่ทรงไว้ซึ่งลักษณะของตน
ง. เป็นกลุ่ม เป็นกองของธรรมชาติที่มี
สภาพต่างกัน
รวมกัน
๑๕๖. วิช ชมานนวิช ชมานบัญ ญัต ิ มี
ข. โทสะ
ค. โมหะ
ง. อโลภะ
๑๔๙. สัพ พจิต ตสาธารณเจตสิก หมาย
ถึง เจตสิก อย่า งไร

ความหมายว่า อย่า งไร
ก. การบัญญัติสภาวะธรรมที่มีอยู่จริง
ข. การบัญญัติสิ่งสมมติ
ค. การบัญญัติที่มีอยู่จริงร่วมกับสิ่งที่มิได้มี
อยู่จริง
ง. การบัญญัติที่มีอยู่จริงร่วมกับสิ่งที่มีอยู่
จริง
๑๕๗. หัต ถคตูป นิธ า มีค วามหมายว่า
อย่า งไร
ก. การบัญญัติโดยการเทียบเคียงกับสิ่งอื่น
ข. การบัญญัติโดยอาศัยสิ่งที่อยู่ในมือ
ค. การบัญญัติโดยอาศัยสิ่งที่ประดับติดตัว

ก. เจตสิกที่ประกอบกับจิตทั่วไปทั้งหมด
ข. เจตสิกที่ประกอบกับจิตดวงเดียว
ค. เจตสิกที่ประกอบกับจิตสองดวง
ง. เจตสิกที่ประกอบกับสิตสามดวง
๑๕๐. จินฺเตตีต ิ จิต ต ำ อารมฺม ณำ วิช านา
ฺ
ง. การบัญญัติโดยอาศัยสิ่งที่บรรจุ
ตีต ิ อตฺโ ถฯ แปลว่า อะไร
ก. ธรรมชาติใดย่อมน้อมไปหาอารมณ์
๑๕๘. ยมกทีว ่า ด้ว ยหมวดจิต เรีย กว่า
่
ธรรมชาตินั้นชื่อว่ามโน
อะไร
ข. ธรรมชาติมีฉันทะที่มีใยใจนั่นเอง คือ
มนัส
ก. มูลยมก
ค. ธรรมชาติใดนำาความไปเป็นของสัตว์ทั้ง
หลายให้วิจต
ิ
ข. ธาตุยมก
ธรรมนั้นชื่อว่าจิต
ค. อายตนยมก
ง. ธรรมชาติย่อมคิด ธรรมชาตินั้นย่อมชื่อ
ว่าจิตมีอรรถ
ง. จิตตายมก
๑๕๙. ในอภิธ รรมได้ม ีก ารแบ่ง ช่ว ง
ว่าธรรมชาติที่รู้อารมณ์ คือ จิต
ระยะเวลาของชีว ิต ออกเป็น กี่ช ว ง
่
ก. ๒ ช่วง วิปากปัจจัย และ ฌานปัจจัย
๑๕๒. โมหะ คือ อะไร
ข. ๒ ช่วง วิปปยุตตปัจจัย และ อัตถิ
ก. ธรรมชาติที่ไม่มีความละอายต่อทุจริต
ปัจจัย
ข. ธรรมชาติที่ไม่กลัวต่อทุจริต
ค. ๒ ช่วง ปฏิสนธิกาล และ ปวัติกาล
ค. ธรรมชาติที่บังสภาพความเป็นจริงของ
อารมณ์
ง. ๒ ช่วง เหตุปัจจัย และ นิสสยปัจจัย
ง. ธรรมชาติที่ฟุ้งซ่าน คือ รับอารมณ์ไม่
มั่น
๑๕๓. รูป อนาคตคือ รูป อย่า งไร
ก. รูปล่วงไปแล้ว ดับแล้ว ปราศไปแล้ว
ข. รูปใดของสัตว์นั้น ๆ เองซึ่งมีในตน
ค. รูปเกิดแล้ว เป็นแล้ว เกิดพร้อมแล้ว
ง. รูปยังไม่เกิด ยังไม่เป็น ยังไม่เกิดพร้อม
๑๖๐. ในมหาโคสิง คสูต ร มีค ำา สนทนา
๑๖๕. สรูป ทัส สวิส ัช ชนา มีก ี่อ ย่า ง
ในเชิง ถามตอบระหว่า ง
อะไรบ้า ง
ก. ๒ อย่าง ปุริมโกฏฐาสะ กับ ปัจฉิม
พระสารีบ ต รเถระกับ พระมหาโมคคัล าน
ุ
โกฏฐาสะ
เถระ โดยพระสารีบ ุต รเถระ
ถามพระโมคคัล ลานเถระว่า อย่า งไร
และพระโมคคัล ลานตอบว่า
อย่า งไร
ก. พระธรรม
ข. พระวินัย
ค. พระอภิธรรม
ง. พระสูตร
๑๖๑. อภิธ ัม มภาชนีย นัย มีค วามหมาย
ว่า อย่า งไร
ก. การจำาแนกตามกระบวนการแห่งพระ
อภิธรรมปิฎกซึ่ง
ไม่ได้คำานึงถึงเวลา สถานที่ หรือบุคคล
ข. การนำาเอาติกะและทุกะจากคัมภีร์ธัมม
สังคณีมาตั้งเป็น
คำาถาม - คำาตอบ
ค. การจำาแนกธรรมตามที่แสดงไว้แล้วใน
พระสูตร
ง. ลักษณะการอธิบายที่แตกต่างตามแนว
พระอภิธรรม
และแนวพระสูตร
๑๖๒. สุต ตัน ตภาชนีย นัย มีค วามหมาย
ว่า อย่า งไร
ก. การจำาแนกตามกระบวนการแห่งพระ
อภิธรรมปิฎกซึ่ง
ไม่ได้คำานึงถึงเวลา สถานที่ หรือบุคคล
ข. การนำาเอาติกะและทุกะจากคัมภีร์ธัมม
สังคณีมาตั้งเป็น
คำาถาม - คำาตอบ
ค. การจำาแนกธรรมตามที่แสดงไว้แล้วใน
พระสูตร
ง. ลักษณะการอธิบายที่แตกต่างตามแนว
พระอภิธรรม
และแนวพระสูตร
๑๖๓. วิป ัส สนาภูม ิ หมายถึง อะไร
ก. จิต รูป วิญญาณ
ข. ภูมหรือพื้นที่ หรือที่ตั้ง หรือกรรมฐาน
ิ
ค. รูปขันธ์
ง. ตัวตน
๑๖๔. มีน ิก ายแยกออกมาจากนิน ิก าย

ข. ๒ อย่าง ธรรมหมวดแรก กับ ธรรม
หมวดหลัง
ค. ๒ อย่าง มีวิภังค์โดยตรง กับ วิภังค์
โดยอ้อม
ง. ๒ อย่าง มีองค์ธรรมเหมือนกัน กับ มี
องค์ธรรม
เหมือกันและต่างกัน
๑๖๖. ปัจ จัย ธรรมคือ ธรรมอย่า งไร
ก. ธรรมที่ไม่ได้ผล
ข. ธรรมที่นอกจากผล
ค. ธรรมที่เป็นผล
ง. ธรรมที่เป็นเหตุ
๑๖๗. คัม ภีร ์ท ร วบรวมปรมัต ถธรรม
ี่
ทัง หมดไว้เ ป็น หมวดหมู่ คือ
้
คัม ภีร ์ใ ด
ก. วิภังค์
ข. ธมฺมสังคณี
ค. กถาวัตถุ
ง. ยมก
๑๖๘. ข้อ ใดไม่ไ ด้อ ยูใ นอกุศ ลจิต ทีใ ห้
่
่
ผลเป็น ทุก ข์
ก. จาคมูล
ข. โลภมูล
ค. โทสมูล
ง. โมหมูล
๑๖๙. คำา ว่า อายตนะ แปลว่า ทีต ่อ บ่อ
่
เกิด ของธรรมต่า ง ๆ เมื่อ
กล่า วตามอรรถอายตนะคือ อะไร
ก. สภาพคล้ายผลของคนอื่น
ข. สภาพคล้ายผลของตน
ค. สภาพที่เป็นจริง
ง. สภาพที่เหลืออยู่
๑๗๐. พวกที่ม ค วามเห็น ว่า โลกมีท ี่ส ิ้น
ี
สุด ก็ม ี ไม่ม ท ี่ส ิ้น สุด ก็ม ี
ี
คือ พวกใด
โคกุส ิก ะ กี่น ิก าย มีอ ะไรบ้า ง
ก. มี ๒ นิกาย นิกายโคกุสิกะและนิกาย
มหาสังฆิกะ
ข. มี ๒ นิกาย นิกายโคกุสิกะและนิกาย
เอกัพโยหาริกะ
ค. มี ๒ นิกาย นิกายปัณณัตติวาทะและ
นิกายมหิสาสกะ
ง. มี ๒ นิกาย นิกายปัณณัตติวาทะและ
นิกายพหุลิยะ
(หรือพหุสสุติกะ)

๑๗๒. ปัญ ญา วิต ก วีร ตี, วิร ิย ะ สติ
เอกัค คถา ทิฏ ฐิ จัด อยู่ใ นข้อ ใด
ก. นามอินทรีย์
ข. องค์ฌาน
ค. องค์มรรค
ง. รูป
๑๗๓. ได้ม ีก ารรวบรวมและแยกพระ
ไตรปิฏ กออกเป็น ๓ อย่า ง
อย่า งสมบูร ณ์ค ือ พระวิน ัย ปิฎ ก พระสุ
ตัน ตปิฎ ก และพระ
อภิธ รรมปิฎ กในการทำา สัง คายนาครัง ที่
้
เท่า ไร
ก. ครั้งที่ ๑
ข. ครั้งที่ ๒
ค. ครั้งที่ ๓

ง. ครั้งที่ ๔
๑๗๔. ในอรรถกถาปัญ จกรณ์ไ ด้แ สดง
ความหมายของปัฏ ฐานไว้ก ี่น ัย
ก. ๒ นัย
ข. ๓ นัย
ค. ๔ นัย
ง. ๕ นัย
๑๗๕. เราเรีย กนิพ พานที่ไ ม่เ กี่ย วกับ
ขัน ธ์ว า อย่า งไร
่
ก. อนุปาทิเสสนิพพาน
ข. สุญญตนิพพาน

ก. พวกสัสสตวาท
ข. พวกเอกิจจสัสสตทิฏฐิ
ค. อันตานันติกทิฏฐิ
ง. อมราวิกเขปิกาทิฏฐิ
๑๗๑. ข้อ ใดไม่ไ ด้อ ยูใ นอุท เทสและนิท
่
เทสของขัน ธยมก
ก. ปัณณัตติวาระ
ค.
ปริญญาวาระ
ข. ปวัตติวาระ
ง.
ปัจจนีกนัย
๑๗๙. ธรรมที่เ ป็น อุป การะโดยอุด หนุน
ซึง กัน และกัน ให้เ กิด ขึ้น
่
ชือ ว่า อะไร
่
ก. อัญญมีญญปัจจัย
ข. สหชาตปัจจัย
ค. สภาวะปัจจัย
ง. ปฏิสนธิปัจจัย
๑๘๐. วาลิก ารามสถานอยู่ท ี่เ มือ งใด
ก. เวสาลี
ข. พาราณสี
ค. ปาตลีบุต
ง. ราชคฤห์
๑๘๑. วิต ก วิจ าร ปีต ิ สุข เอกัค คตา
อยูใ นหัว ข้อ ใด
่
ก. อรูปาวจรกุศล
ข. รูปาวจรกุศล
ค. กามาวจรกุศล
ง. กุศลจิต
๑๘๒. โมหะอยู่ใ นหัว ข้อ ใด
ก. โลหิตเจตสิก
ข. โทจตุกเจตสิก
ค. โมจตุกเจตสิก
ค. อนิมิตตนิพพาน
ง. อัปปณิหิตนิพพาน
๑๗๖. ปัญ ญิน ทรีย ์ม ท ั้ง หมดกีบ ท
ี
่
ก. ๒ บท
ข. ๓ บท
ค. ๔ บท
ง. ๕ บท
๑๗๗. ธาตุบ ัญ ญัต ิม ีก ี่อ ย่า ง
ก. ๑๕ อย่าง
ข. ๑๖ อย่าง
ค. ๑๗ อย่าง
ง. ๑๘ อย่าง
๑๗๘. หลัง พุท ธปริน ิพ พานมีพ ระอลัช ชี
และนัก บวชของ
พระพุท ธศาสนาที่ป ลอมบวชเป็น จำา นวน
มากเพราะอะไร
ก. เพราะลาภเป็นปัจจัย
ง. ถูกทุกข้อ
ข. เพราะยศและสรรเสริญเป็นปัจจัย
ค. เพราะความนิยมว่าดีและมีชื่อเสียง
๑๘๖. บุค คลผู้เ ป็น กายสัก ขีอ ยู่ใ นบุค คล
กี่จ ำา พวก
ก. ๙ จำาพวก
ข. ๑๐ จำาพวก
ค. ๑๑ จำาพวก
ง. ๑๒ จำาพวก
๑๘๗. บุค คล ๕ จำา พวก แบ่ง ออกเป็น กี่
กลุ่ม
ก. ๑๕ กลุ่ม
ข. ๑๖ กลุ่ม
ค. ๑๗ กลุ่ม
ง ๑๘ กลุ่ม
๑๘๘. จิต ๘๙ เจตสิก มีเ ท่า ไร
ก. ๕๒
ข. ๕๓
ค. ๕๔
ง. ๕๕

ง. ถีทุกเจตสิก
๑๘๓. อัญ ญสมานารสีเ จตสิก ๑๓
ประกอบด้ว ยอะไรบ้า ง
ก. วิริยะ อธิโมกข์
ข. อธิโมกข์
ค. วิจาร วิตก
ง. อกุศลจิต อเหตุกจิต และโสภณจิต
๑๘๔. รูป ปรมัต ถ์ม ีก ี่ส ภาวะ
ก. ๒๘ สภาวะ
ข. ๒๙ สภาวะ
ค. ๓๐ สภาวะ
ง. ๓๑ สภาวะ
๑๘๕. วิญ ญาณ อดีต ปัจ จุบ ัน อนาคต
อยูใ นข้อ ใด
่
ก. รูปขันธ์
ข. เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์
ค. สังขานขันธ์
ง. วิญญาณขันธ์
๑๙๓. อกุศ ลมูล ๓ คือ อะไรบ้า ง
ก. โลภะ เวทนาขันธ์ โทสะ
ข. โลภะ เวทนาขันธ์ โมหะ
ค. โลภะ โทสะ โมหะ
ง. โลภะ โทสะ โมหะ และ เวทนาขันธ์
๑๙๔. นิพ พานมีก ี่อ ย่า ง
ก. ๑
ข. ๒
ค. ๓
ง. ๔
๑๙๕. วิญ ญาณขัน ธ์ห มวดละ ๑ คือ
อะไร
ก. วิญญาณขันธ์เป็นผัสสสัมปยุต
ข. วิญญาณขันธ์เป็นโลกิยะ
ค. วิญญาณขันธ์เป็นมาวจร
ง. วิญญาณขันธ์เป็นอรูปาวจร
๑๘๙. กุศ ลจิต ๒๑ เจตสิก เท่า ไร
ก. ๓๗
ข. ๓๘
ค. ๓๙
ง. ๔๐
๑๙๐. องค์ม รรค ๙ มีอ ะไรบ้า ง
ก. เวทนา สัทธา วิริยะ สติ เอกัคคตา
ปัญญา
ข. วิตก วิจาร ปีติ โสมนัส โทมนัส
อุเบกขา เอกัคคตา
ค. ปัญญา วิตก วิรติ ๓ วิริยะ สติ เอกั
คคตา ทิฏฐิ
ง. ปัญญา วิตก โสมนัส โทมนัส
๑๙๑. อรรถกถาอัฏ ฐสิน ีไ ด้แ ยกไปอีก
เป็น กี่ส มัย
ก. ๒ สมัย
ข. ๓ สมัย
ค. ๔ สมัย
ง. ๕ สมัย
๑๙๒. พระไตรปิฎ กมีพ ระธรรมขัน ธ์
ทั้ง หมดกี่พ ระธรรมขัน ธ์
ก. ๔๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
ข. ๕๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
ค. ๗๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
ง. ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์

๒๐๐. มหาปัฏ ฐาน หมายถึง อะไร
ก. ฐานที่ตั้งของความรู้ที่สำาคัญยิ่ง
ข. ฐานที่มีอยู่ในความนัย
ค. ฐานพระธรรมเทศนา
ง. ฐานที่ตั้งไว้อยู่แล้ว
๒๐๑. คัม ภีร ์ช น ฎีก ามีค วามหมายว่า
ั้
อย่า งไร
ก. คัมภีร์ที่ไขความบาลี
ข. พระวินัยปิฎก
ค. คัมภีร์อรรถกถา

๑๙๖. ปญฺญ ตฺต ิ แปลว่า อะไร
ก. บัญญัติ
ข. บุคคล
ค. สมมุติ
ง. อายตนะ
๑๙๗. ภาคนิท เทสแบ่ง เป็น กี่น ิท เทส
ก. ๙ นิทเทส
ข. ๑๐ นิทเทส
ค. ๑๑ นิทเทส
ง. ๑๒ นิทเทส
๑๙๘. วิส ช ชนามีก ี่อ ย่า ง
ั
ก. ๑ อย่าง
ข. ๒ อย่าง
ค. ๔ อย่าง
ง. ๕ อย่าง
๑๙๙. พวกสัส สตวาที คือ ผู้ม ีล ก ษณะ
ั
แบบใด
ก. พวกที่มีความเห็นว่าบางอย่างเที่ยง
ข. พวกที่มีความเห็นว่าโลกมีที่สิ้นสุดก็มี
ค. ผู้มีวาทะว่าอัตตาและโลกเที่ยง
ง. พวกที่มีความเห็นว่าวาระดิ้นได้ไม่
ตายตัว

๒๐๗. ปจฺจ ยโต อุป ฺป นฺน ำ ปจฺจ ยุป ฺป นฺน ำ
ผลธรรมที่เ กิด จากปัจ จัย
มีช ื่อ ว่า อย่า งไร
ก. ปัจจัย
ข. ปัจจนิก
ค. ปัจจยุปขัน
ง. ปัฏฐาน
๒๐๘. องค์ส มเด็จ พระสัม มาสัม พุท ธเจ้า
ได้ท รงแสดงอภิธ รรมโปรด
พระพุท ธมารดากับ ทั้ง เหล่า เทวดาโดย
รวมเท่า ไร
ก. ๗๐ โกฏิ
ง. คัมภีร์ที่ไขความแห่งคัมภีร์อรรถกถา
๒๐๒. วาน แปลว่า อย่า งไร
ก. เครื่องร้อยรัดหรือตัณหา
ข. เครื่องสังฆทาน
ค. เครื่องถักทอสาน
ง. เครื่องทำาผ้าไหม
๒๐๓. ในการศึก ษาคัม ภีร ว ิภ ง ค์น ี้
์ ั
ต้อ งการให้ผ ศ ึก ษาในรายละเอีย ด
ู้
เฉพาะในขัน ธ์ว ภ ัง ค์โ ดยนัย ทั้ง ๓
ิ
ประการ คือ
ก. ขันธ์ ธาตุ อินทรีย์
ข. รูป เวทนา สัญญา
ค. วิภังค์ ปฏิจจสมุปบาท สัญญา
ง. สุตตันนภาชนียนัย อภิธรรมภาชะนี
วินัย ปัญหาปุจฉกนัย
๒๐๔. คำา ว่า ปุค คลบัญ ญัต ิ มาจากคำา
บาลี ๒ คำา คือ
ก. อาจิกขติและปุคคล
ข. ปัญญเปติและปฏฐเปติ
ค. ปุคฺคลและปญฺญตฺติ
ง. ทสฺสนาและปุคฺคล
๒๐๕. คำา ว่า ปญฺญ ตฺต ิ แปลว่า อะไร
ก. แสดง
ข. การชี้แจง
ค. บัญญัติ
ง. กำาหนด
๒๐๖. ปฏิโ ลมาโรปนา หมายถึง อะไร
ก. การตั้งอนุโลม
ข. การยกอนุโลม
ค. การตั้งปฏิโลม
ง. การถึงปฏิโลม
๒๑๔. สัจ จบัญ ญัต ิม ี ๔ ประการ คือ
อะไรบ้า ง

ข. ๘๐ โกฏิ
ค. ๔๐ โกฏิ
ง. ๕๐ โกฏิ
๒๐๙. คัม ภีร ์ก ถาวัต ถุเ ป็น คัม ภีร ์ร วบรวม
อะไร
ก. เรื่องที่นำามาถามชี้ความเห็นผิด
ข. การซักถาม
ค. หลักคำาสอน
ง. การโต้ตอบ
๒๑๐. ในการทำา สัง คายนาครัง ที่ ๑ ใคร
้
เป็น ประธานฝ่า ยสงฆ์
ก. พระมหากัสสปเถระ
ข. พระอุบาลี
ค. พระอานนท์
ง. พระฉันนะ
๒๑๑. อริย บุค คลว่า เปรีย บเหมือ นนัก รบ
ทีก ล้า หาญและชนะ
่
สงครามอยู่ใ นบุค คลกี่จ ำา พวก
ก. ๔ จำาพวก
ข. ๕ จำาพวก
ค. ๖ จำาพวก
ง. ๗ จำาพวก
๒๑๒. พระโมคคัล ลีบ ต รได้ถ วายเทศนา
ุ
แก่ใ คร
ก. พราหมณ์
ข. พระเจ้าอชาตศัตรู
ค. พระเจ้าอโศกมหาราช
ง. พระอลัชชี
๒๑๓. ธรรมที่ส ัม ปยุต ด้ว ยอวิช ชา ธรรม
เหล่า นี้ช ื่อ ว่า เป็น ส่ว นแห่ง
อะไร
ก. อวิชชา
ค.
มรรค
ข. วิชชา
ง.
ผล
๒๒๑. กุศ ลธรรมที่เ ป็น ปัจ จัย ให้เ กิด ใน
อรูป ภูม ิเ รีย กว่า อะไร
ก. ทุกขสัจจะ สมุทัยสัจจะ นิโรธสัจจะ
มัคคสัจจะ
ข. รูปสัจจะ เสียงสัจจะ กลิ่นสัจจะ รส
สัจจะ
ค. จักขุสัจจะ โสตะสัจจะ ฆานสัจจะ
ชิวหาสัจจะ
ง. ปฐวีสัจจะ วาโยสัจจะ อาโปสัจจะ
เตโชสัจจะ
๒๑๕. คำา ว่า มูล หมายความว่า อะไร
ก. ก่อน
ข. ผล
ค. เหตุ
ง. หลัง
๒๑๖. ในปัจ จัย ๒๔ นี้ พระองค์ท รง
แสดงความเป็น คู่ ๆ กัน มีก ี่ค ู่
ก. ๕ คู่
ข. ๓ คู่
ค. ๒ คู่
ง. ๑ คู่
๒๑๗. ในตอนที่พ ระพุท ธองค์เ ทศนา
อภิธ รรมโปรดพระมารดาบน
ดาวดึง ส์เ มื่อ ร่า งกายต้อ งการอาหารทรง
เนรมิต พุท ธนิม ิต ให้แ สดง
ธรรมเทศนาแทน พระองค์ท รงเสด็จ
บิณ ฑบาต ณ สถานทีใ ด
่
ก. กรุงสาวถี
ข. กรุงพารานสี
ค. กรุงเวสารี
ง. อุตรกุรุทวีป
๒๑๘. ข้อ ใดไม่ใ ช่ล ัก ษณะ ๔ ประการ
ของเจตสิก ปรมัต ถ์
ก. เอกุปฺบาท - เกิดพร้อมกันกับจิต
ข. เอกนิโรจ - ดับพร้อมกันกับจิต
ค. เอกาลมฺพน - มีอารมณ์อันเดียวกับจิต
ง. ถีนะ - ธรรมชาติที่ทำาให้จิตเซื่องซึม
ท้อถอยจากอารมณ์

ก. อรูปาวจรกุศล
ข. กามาวจรกุศล
ค. เตภูมิกกุศล
ง. โลกุตตรกุศล
๒๒๒. ข้อ ใดให้ค วามหมาย อสงฺค หหิ
เตน สงฺค หิต ำ ได้ถ ูก ต้อ ง
ก. ธรรมที่สงเคราะห์ได้ด้วยธรรมที่
สงเคราะห์ไม่ได้
ข. ธรรมที่สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยธรรมที่
สงเคราะห์ได้
ค. ธรรมที่ประกอบได้ด้วยธรรมที่ประกอบ
ได้
ง. ธรรมที่ประกอบได้ด้วยธรรมที่ประกอบ
ไม่ได้
๒๒๓. เมื่อ นับ พระสูต รหรือ หลัก ธรรมใน
คัม ภีร ์ก ถาวัต ถุแ ล้ว ได้ก ี่ส ูต ร
ก. ๕๐๐ สูตร
ข. ๑,๐๐๐ สูตร
ค. ๑,๕๐๐ สูตร
ง. ๒,๐๐๐ สูตร
๒๒๔. การทำา สัง คายนาครั้ง ที่ ๑ มีพ ระ
อรหัน ต์ก ี่ร ูป เป็น องค์ป ระชุม
ก. ๔๐๐ รูป
ข. ๕๐๐ รูป
ค. ๗๐๐ รูป
ง. ๙๐๐ รูป
๒๒๕. การแบ่ง ประเภทแห่ง มาติก าโดย
ธรรมได้ก ี่อ ย่า ง
ก. ๑ อย่าง
ข. ๒ อย่าง
ค. ๓ อย่าง
ง. ๔ อย่าง
๒๒๖. ในทิฏ ฐธรรมหรือ นิพ พานปัจ จุบ ัน
นี้เ ป็น ธรรมอย่า งยิ่ง ของ
สัต ว์ด ว ยเหตุก ป ระการ
้
ี่
๒๑๙. หมวดใดจัด อยูใ นองค์ธ รรมที่เ ป็น
่
เนื้อ หาของมูล ยมก
ก. หมวดกุศลบท
ข. หมวดอกุศลบท
ค. หมวดอัพยากตบท
ง. ถูกทุกข้อ
๒๒๐. พระโมคคัล ลีบ ุต รติส สาเถระร่ว ม
กับ พระเจ้า อโศกมหาราช
ได้ส ่ง สมณทูต ไปประกาศพระพุท ธ
ศาสนาในต่า งประเทศต่า ง ๆ
รวมกี่ส าย
ก. ๖ สาย
ค. ๘
สาย
ข. ๗ สาย
ง. ๙
สาย
๒๒๘. พระอภิธ รรมเกิด ขึ้น เมื่อ ใด
ก. เกิดพร้อมกับการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
ข. เกิดพร้อมกับมีพระรัตนตรัยครบ
ค. เกิดพร้อมกับพระพุทธเจ้าปรินิพพาน
ง. เกิดพร้อมกับพระสารีบุตรสำาเร็จอรหันต
ผล
๒๒๙. ใน กุส ลา ธมฺม า จงจัด ลำา ดับ ให้
ถูก ต้อ ง
๑. กุศลธรรม ที่นำาไปเกิดในภูมิ ๓ เรียกว่า
เตภูมิกุศล
๒. กุศลธรรม ที่เป็นปัจจัยให้เกิดในรูปภูมิ
เรียกว่า รูปาวจรกุศล
๓. กุศลธรรม ที่เป็นปัจจัยให้เกิดในกาม
ภูมิ เรียกว่า
กามาวจรกุศล
๔. กุศลธรรม ที่เป็นปัจจัยให้เกิดในอรูป
ภูมิ เรียกว่า
อรูปาวจรกุศล
ก. ๑, ๒, ๓, ๔
ค. ๔,
๒, ๑, ๓
ข. ๓, ๒, ๔, ๑
ง. ๔,
๓, ๒, ๑
๒๓๐.ว่า ด้ว ยหมวดบุค คลที่ ๙ จำา พวก
คือ
ก. บุคคลที่เป็น สัตตัก ขัตตุปรมะ
ข. บุคคลที่เป็น อุกโต ภาควิมุตตะ

ก. ๓ ประการ
ข. ๔ ประการ
ค. ๕ ประการ
ง. ๖ ประการ
๒๒๗. ในทุก ะนี้แ บ่ง ออกเป็น ๑๓ หมวด
รวมกี่ท ุก ะ
ก. ๙๙ ทุกะ
ข. ๑๐๐ ทุกะ
ค. ๑๐๑ ทุกะ
ง. ๑๐๒ ทุกะ
๒๓๔. ปฏิป ัน นะบุค คล คือ บุค คลเช่น ไร
ก. บุคคลผู้ทำาอนันตริยกรรม ๕
ข. บุคคลผู้พร้อมด้วยมรรค ๔
ค. บุคคลผู้ประกอบด้วยเครื่องกั้นธรรม
ง. บุคคลผู้หาได้ยากในโลก ๒ จำาพวก
๒๓๕. คำา ว่า สรุป ทัส สนวิส ช ชนา มี ๒
ั
อย่า งตรงกับข้อใด
ก. วิภังค์โดยอ้อม
ข. วิภังค์โดยตรง
ค. วิภังค์โดยอ้อม โดยตรง
ง. ถูกทุกข้อ
๒๓๖. เจตสิก แปลว่า ธรรมทีม ีใ นจิต หรือ
่
อาศัย จิต เกิด มีล ัก ษณะกี่ป ระการ

ก. ๔ ประการ
ข. ๕ ประการ
ค. ๖ ประการ
ง. ๗ ประการ
๒๓๗. คำา ว่า วิป ัส สนา แปลว่า อย่า งไร
ก. ธรรมชาติที่ทรงไว้ซึ่งลักษณะของตน
ค. บุคคลที่เป็น สกคามีล
ง. บุคคลผู้สำาเร็จเป็นอรหันต์ ใน อัตภาพ
นี้
๒๓๑. ท่า นหยัง เห็น บุค คลในกาลทัง
่
้
ปวง หรือ คำา ว่า กาลทั้ง ปวง
ภพ ชาติใ ด
ก. ภพชาติต่าง ๆ
ข. ชาติที่มาก่อน
ค. ชาติที่มาทีหลัง
ง. ถูกทุกข้อ
๒๓๒. ปัจ จยุท เทส นับ ทีท รงแสดง
่
ปัจ จัย สภาวธรรมทีช ่ว ย
่
อุป การะโดยความติด ต่อ กัน ไม่ม ีร ะหว่า ง
คั่น ตรงกับ ข้อ ใด
ก. สหชาตปจิจโย
ข. อุปนิสสยปจฺจโย
ค. อนนฺตรปจฺจโย
ง. อญฺญปญฺปจฺจโย
๒๓๓. คำา ว่า ธรรมหมวดแรกหรือ ส่ว น
แรกมีค วามหมายตรงกับ ข้อ ใด
ก.
ข.
ค.
ง.

ปัจฉิมโกฏฐาสะ
ปริมโกฏฐาสะ
ปัจฉาปัญหา
ปุเรปัญหา

๒๔๑. พระพุท ธเจ้า ทรงแสดงสัจ ธรรม
อัน นำา มาซึ่ง ประโยชน์เ ป็น
อเนกปราการในบรรดาสัจ ธรรมเหล่า
นั้น รวมถึง พระอภิธ รรมปิฎ ก
ท่า นจำา แนกสัจ จะธรรมออกเป็น ๒
ประการ อะไรบ้า ง
ก. ปารมีสัจจะและอุปปารมีสัจจะ
ข. ปรมัตถสัจจะและอมตะสัจจะ
ค. ปรมัตถสัจจะและสมมุติสัจจะ
ง. สมมุติสัจตจะและปารมีสัจจะ
๒๔๒. พระเจ้า อโศกมหาราชได้ต รัส
ถามพระเถระว่า การที่อ ำา มาตย์

ข. ตอหรือบ่อเกิดแห่งธรรมต่าง ๆ
ค. กลุ่มหรือกองของธรรมชาติ
ง. เห็นแจ้งหรือเห็นอย่างวิเศษ
๒๓๘. บุค คลผู้เ ป็น โครตภูค อ บุค คลเช่น
ื
ไร
ก. ผู้ไม่มีศรัทธา
ข. ผู้มีปัญญาทราม
ค. บุคคลผู้ก้าวลงสู่อริยธรรมแห่งสภาว
ธรรมและ
ประกอบด้วยธรรมนั้น
ง. บุคคลผู้มีเครื่องกั้นคือกรรม
๒๓๙. พวก สัส สตว่า ที่ คือ พวกที่ม ี
ความคิด เห็น อย่า งไร
ก. ผู้มีวาทะว่าอัตตาและโลกเที่ยง
ข. ผู้มีความเห็นว่าบางอย่างเที่ยง
ค. พวกที่เห็นว่าโลกมีที่สิ้นสุด
ง. พวกที่เห็นว่ามีวาทะดิ้นได้ไม่ตายตัว
๒๔๐. จิน ฺเ ตตีต ิ จิต ตำ อารมฺม ณำ วิช า
นาตีต ิ อตฺโ ถ แปลว่า
ธรรมชาติใ ดย่อ มคิด ธรรมชาติน ั้น ชื่อ ว่า
จิต มีอ รรถาธิบ ายว่า อย่า งไร
ก. รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ข. ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
ค. ธรรมชาติที่รู้อารมณ์ คือจิต
ง. คนเหล่าใดสำารวมจิต คนเหล่านั้นจักพร้อม
จากเครื่องผูกแห่งมาร
๒๔๗. กัณ ฑ์ท ี่แ สดงเรื่อ งรูป อย่า งพิส ดาร
หรือ รูป วิภ ัต ติ (การจำา แนกรูป )

คือ กัณ ฑ์ช นิด ใดต่อ ไปนี้
ก. จิตตุปปาทกัณฑ์
ข. รูปกัณฑ์
ค. นิกเขปกัณฑ์
ง. อัฏฐกถากัณฑ์
๒๔๘. การบัญ ญัต โ ดยอาศัย สิ่ง อื่น เช่น
ิ
การบัญ ญัต ิท ศ ตะวัน ออก
ิ
ตรงกับ บัญ ญัต ข ้อ ใด
ิ
ได้ต ด ศีร ษะพระภิก ษุเ หล่า นั้น จะทำา ให้
ั
บาปตรามาถึง พระองค์
หรือ ไม่ พระเถระถวายวิส ช ชนาว่า จะ
ั
เป็น บาปก็ต ่อ เมื่อ พระองค์
เจตนาทีจ ะฆ่า เท่า นั้น อยากทราบว่า เป็น
่
คำา วิส ัช ชนาของพระเถระ
รูป ใด
ก. พระสารีบุตรเถระ
ข. พระอานนท์เถระ
ค. พระอุบาลีเถระ
ง. พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ
๒๔๓. อนัน ตรชาติป ระกอบไปด้ว ย ๗
ปัจ จัย ในคำา ตอบข้า งล่า งนี้
อยากทราบว่า คำา ตอบข้อ ใดไม่ใ ช่ป ัจ จัย
ที่เ ป็น อนัน ตรชาติ
ก. สหชาติปัจจัย
ข. อนันตรปัจจัย
ค. วิคตปัจจัย
ง. อนันตรุปนิสสยปัจจัย
๒๔๔. ในการทำา สัง คายนาครั้ง ที่ ๓ มี
การจารึก พระไตรปิฎ กลงใน
หิน อ่อ นจำา นวนกีแ ผ่น และจารึก ที่เ มือ ง
่
ใด
ก. ๗๒๖ แผ่น เมืองเวสาลี
ข. ๗๒๗ แผ่น เมืองปาตลีบุตร
ค. ๗๒๘ แผ่น เมืองอุชเชนี
ง. ๗๒๙. แผ่น เมืองมันดาล
๒๔๕. สมัย แยกตัว จากพระสูต รอย่า งชัด
แจ้ง ข้อ ความนี้ค ือ การแบ่ง
พระอภิธ รรมปิฎ กสมัย ใด
ก. สมัยที่ ๑
ข. สมัยที่ ๒
ค. สมัยที่ ๓
ง. สมัยที่ ๔
๒๔๖. รูป ที่ม ีส ภาพใสสามารถรับ
อารมณ์ข องตนได้ค ือ รูป ใด
ก. วิสัยรูป ๔/๗
ค. ภาว
รูป ๒

ก. อุปาทาบัญญัติ
ข. อุปนิธาบัญญัติ
ค. สโมทานบัญญัติ
ง. สันตติบัญญัติ
๒๔๙. ข้อ ใดไม่ไ ด้จ ด อยู่ใ นโลกุต ตรจิต
ั
ก. จิตอันเป็นกุศลอันเนื่องด้วยโสดาปัตติ
มรรค
ข. จิตที่เกิดพร้อมด้วยความดี
ค. จิตอันเป็นกุศลอันเนื่องด้วยอนาคามิ
มรรค
ง. จิตอันเป็นกุศลอันเนื่องด้วยอรหัตตมรรค
๒๕๐. ข้อ ใดกล่า วถูก ต้อ งเกี่ย วกับ ธรรม
ทีเ ป็น เหตุใ ห้เ กิด รูป
่
สมุฏ ฐาน ๔
ก. กรรม จิต อุตุ อาหาร
ข. กรรม อุตุ กาย จิต
ค. อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค จิต
ง. กรรม วาจา กาย อุตุ
๒๕๑. ข้อ ใดไม่ใ ด้จ ด อยู่ใ นธาตุ ๑๘
ั
ประการ
ก. จักขุธาตุ
ข. มนายตนะ
ค. รูปธาตุ
ง. รสธาตุ
๒๕๒. วิช ชมานบัญ ญัต ิ หมายถึง
ก. บัญญัติสิ่งสมมุติ
ข. บัญญัติที่มิได้มีอยู่จริง
ค. การบัญญัติสิ่งที่มีอยู่จริงร่วมกับสิ่งที่มิได้
มีอยู่จริง
ง. การบัญญัติสภาวธรรมที่มีอยู่จริง
๒๕๓. ข้อ ใดมิใ ช่ล ัก ษณะ ๔ ประการ
ของเจตสิก ปรมัต ถ์
ก. เอกุปฺปาท
ง.
ผัสสะ
ข. เอกนิโรธ
ถาม ตอบอภิธรรมปิฎก
ถาม ตอบอภิธรรมปิฎก
ถาม ตอบอภิธรรมปิฎก
ถาม ตอบอภิธรรมปิฎก
ถาม ตอบอภิธรรมปิฎก

Contenu connexe

Tendances

ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๒ กรรมฐาน และบุรพกิจของการปฏิบัติกรรมฐาน
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๒ กรรมฐาน และบุรพกิจของการปฏิบัติกรรมฐานธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๒ กรรมฐาน และบุรพกิจของการปฏิบัติกรรมฐาน
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๒ กรรมฐาน และบุรพกิจของการปฏิบัติกรรมฐานPadvee Academy
 
วิชาพระพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายโยคาจาร
วิชาพระพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายโยคาจารวิชาพระพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายโยคาจาร
วิชาพระพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายโยคาจารPadvee Academy
 
ติวก่อนสอบ ม.2
ติวก่อนสอบ ม.2ติวก่อนสอบ ม.2
ติวก่อนสอบ ม.2ssuser456899
 
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาprimpatcha
 
หน่วย 2 ระบบเศรษฐกิจในโลกปัจจุบัน
หน่วย 2 ระบบเศรษฐกิจในโลกปัจจุบันหน่วย 2 ระบบเศรษฐกิจในโลกปัจจุบัน
หน่วย 2 ระบบเศรษฐกิจในโลกปัจจุบันSRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
 
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะPadvee Academy
 
ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๒ ความสัมพันธ์ระหว่างปรัชญา ศาสนา วิทยาศาสตร์
ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๒ ความสัมพันธ์ระหว่างปรัชญา ศาสนา วิทยาศาสตร์ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๒ ความสัมพันธ์ระหว่างปรัชญา ศาสนา วิทยาศาสตร์
ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๒ ความสัมพันธ์ระหว่างปรัชญา ศาสนา วิทยาศาสตร์Padvee Academy
 
บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐาน
บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐานบทที่ 7 สมถกัมมัฏฐาน
บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐานOnpa Akaradech
 
บทที่ ๑ ประวัติและวิวัฒนาการของการปฏิบัติกรรมฐาน
บทที่ ๑ ประวัติและวิวัฒนาการของการปฏิบัติกรรมฐานบทที่ ๑ ประวัติและวิวัฒนาการของการปฏิบัติกรรมฐาน
บทที่ ๑ ประวัติและวิวัฒนาการของการปฏิบัติกรรมฐานpop Jaturong
 
วิชากฎหมายที่ประชาชนควรทราบนักเรียนนายสิบตำรวจ
วิชากฎหมายที่ประชาชนควรทราบนักเรียนนายสิบตำรวจวิชากฎหมายที่ประชาชนควรทราบนักเรียนนายสิบตำรวจ
วิชากฎหมายที่ประชาชนควรทราบนักเรียนนายสิบตำรวจMarr Ps
 
รายวิชา 000250 พระอภิธรรมปิฎก ชุดที่ 2 (แนวข้อสอบ)
รายวิชา  000250  พระอภิธรรมปิฎก  ชุดที่  2 (แนวข้อสอบ)รายวิชา  000250  พระอภิธรรมปิฎก  ชุดที่  2 (แนวข้อสอบ)
รายวิชา 000250 พระอภิธรรมปิฎก ชุดที่ 2 (แนวข้อสอบ)วัดดอนทอง กาฬสินธุ์
 
ข้อสอบคู่ขนาน พี่จร
ข้อสอบคู่ขนาน พี่จรข้อสอบคู่ขนาน พี่จร
ข้อสอบคู่ขนาน พี่จรKamjornT
 
โครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎก
โครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎกโครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎก
โครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎกAnchalee BuddhaBucha
 
ชีวิตและผลงานของพระสุมังคลาจารย์
ชีวิตและผลงานของพระสุมังคลาจารย์ชีวิตและผลงานของพระสุมังคลาจารย์
ชีวิตและผลงานของพระสุมังคลาจารย์Padvee Academy
 

Tendances (20)

ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๒ กรรมฐาน และบุรพกิจของการปฏิบัติกรรมฐาน
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๒ กรรมฐาน และบุรพกิจของการปฏิบัติกรรมฐานธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๒ กรรมฐาน และบุรพกิจของการปฏิบัติกรรมฐาน
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๒ กรรมฐาน และบุรพกิจของการปฏิบัติกรรมฐาน
 
กรรมฐาน (สื่อการสอน ๒) สัปดาห์ที่ ๒
กรรมฐาน (สื่อการสอน ๒) สัปดาห์ที่ ๒กรรมฐาน (สื่อการสอน ๒) สัปดาห์ที่ ๒
กรรมฐาน (สื่อการสอน ๒) สัปดาห์ที่ ๒
 
กถาวัตถุ
กถาวัตถุกถาวัตถุ
กถาวัตถุ
 
วิชาพระพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายโยคาจาร
วิชาพระพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายโยคาจารวิชาพระพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายโยคาจาร
วิชาพระพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายโยคาจาร
 
ติวก่อนสอบ ม.2
ติวก่อนสอบ ม.2ติวก่อนสอบ ม.2
ติวก่อนสอบ ม.2
 
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
 
หน่วย 2 ระบบเศรษฐกิจในโลกปัจจุบัน
หน่วย 2 ระบบเศรษฐกิจในโลกปัจจุบันหน่วย 2 ระบบเศรษฐกิจในโลกปัจจุบัน
หน่วย 2 ระบบเศรษฐกิจในโลกปัจจุบัน
 
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
 
ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๒ ความสัมพันธ์ระหว่างปรัชญา ศาสนา วิทยาศาสตร์
ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๒ ความสัมพันธ์ระหว่างปรัชญา ศาสนา วิทยาศาสตร์ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๒ ความสัมพันธ์ระหว่างปรัชญา ศาสนา วิทยาศาสตร์
ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๒ ความสัมพันธ์ระหว่างปรัชญา ศาสนา วิทยาศาสตร์
 
บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐาน
บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐานบทที่ 7 สมถกัมมัฏฐาน
บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐาน
 
ธรรมภาคปฏิบัติ ๓ Ppt
ธรรมภาคปฏิบัติ ๓ Pptธรรมภาคปฏิบัติ ๓ Ppt
ธรรมภาคปฏิบัติ ๓ Ppt
 
บทที่ ๑ ประวัติและวิวัฒนาการของการปฏิบัติกรรมฐาน
บทที่ ๑ ประวัติและวิวัฒนาการของการปฏิบัติกรรมฐานบทที่ ๑ ประวัติและวิวัฒนาการของการปฏิบัติกรรมฐาน
บทที่ ๑ ประวัติและวิวัฒนาการของการปฏิบัติกรรมฐาน
 
ชุดที่ 1 เรื่อง ตัวประกอบ
ชุดที่ 1 เรื่อง  ตัวประกอบชุดที่ 1 เรื่อง  ตัวประกอบ
ชุดที่ 1 เรื่อง ตัวประกอบ
 
วิชากฎหมายที่ประชาชนควรทราบนักเรียนนายสิบตำรวจ
วิชากฎหมายที่ประชาชนควรทราบนักเรียนนายสิบตำรวจวิชากฎหมายที่ประชาชนควรทราบนักเรียนนายสิบตำรวจ
วิชากฎหมายที่ประชาชนควรทราบนักเรียนนายสิบตำรวจ
 
บรรณานุกรม วิทยานิพนธ์ จริง
บรรณานุกรม วิทยานิพนธ์ จริงบรรณานุกรม วิทยานิพนธ์ จริง
บรรณานุกรม วิทยานิพนธ์ จริง
 
รายวิชา 000250 พระอภิธรรมปิฎก ชุดที่ 2 (แนวข้อสอบ)
รายวิชา  000250  พระอภิธรรมปิฎก  ชุดที่  2 (แนวข้อสอบ)รายวิชา  000250  พระอภิธรรมปิฎก  ชุดที่  2 (แนวข้อสอบ)
รายวิชา 000250 พระอภิธรรมปิฎก ชุดที่ 2 (แนวข้อสอบ)
 
ข้อสอบคู่ขนาน พี่จร
ข้อสอบคู่ขนาน พี่จรข้อสอบคู่ขนาน พี่จร
ข้อสอบคู่ขนาน พี่จร
 
โครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎก
โครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎกโครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎก
โครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎก
 
กรรมฐาน (เอกสาร ๑)
กรรมฐาน (เอกสาร ๑)กรรมฐาน (เอกสาร ๑)
กรรมฐาน (เอกสาร ๑)
 
ชีวิตและผลงานของพระสุมังคลาจารย์
ชีวิตและผลงานของพระสุมังคลาจารย์ชีวิตและผลงานของพระสุมังคลาจารย์
ชีวิตและผลงานของพระสุมังคลาจารย์
 

En vedette

แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสื่อสารของมนุษย์
แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสื่อสารของมนุษย์แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสื่อสารของมนุษย์
แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสื่อสารของมนุษย์Sivagon Soontong
 
แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่าจูเฬกสาฎก๖
แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่าจูเฬกสาฎก๖แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่าจูเฬกสาฎก๖
แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่าจูเฬกสาฎก๖วัดดอนทอง กาฬสินธุ์
 
แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่าจูเฬกสาฎก๖
แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่าจูเฬกสาฎก๖แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่าจูเฬกสาฎก๖
แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่าจูเฬกสาฎก๖วัดดอนทอง กาฬสินธุ์
 
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์Nhui Srr
 
แนวข้อสอบ
แนวข้อสอบแนวข้อสอบ
แนวข้อสอบnookkiss123
 
นำเสนอการให้เหตุผลแบบอุปนัย(ภาษาไทย)
นำเสนอการให้เหตุผลแบบอุปนัย(ภาษาไทย)นำเสนอการให้เหตุผลแบบอุปนัย(ภาษาไทย)
นำเสนอการให้เหตุผลแบบอุปนัย(ภาษาไทย)lovelyya2553
 
นำเสนอการให้เหตุผลนิรนัย(ภาษาไทย)
นำเสนอการให้เหตุผลนิรนัย(ภาษาไทย)นำเสนอการให้เหตุผลนิรนัย(ภาษาไทย)
นำเสนอการให้เหตุผลนิรนัย(ภาษาไทย)lovelyya2553
 
แนวข้อสอบวิชาการตลาด
แนวข้อสอบวิชาการตลาดแนวข้อสอบวิชาการตลาด
แนวข้อสอบวิชาการตลาดNooni Punnipa
 

En vedette (19)

พระอภิธรรมปิฎก บทที่ ๑
พระอภิธรรมปิฎก บทที่ ๑พระอภิธรรมปิฎก บทที่ ๑
พระอภิธรรมปิฎก บทที่ ๑
 
แนวข้อสอบ 100 ข้อ
แนวข้อสอบ  100  ข้อแนวข้อสอบ  100  ข้อ
แนวข้อสอบ 100 ข้อ
 
แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสื่อสารของมนุษย์
แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสื่อสารของมนุษย์แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสื่อสารของมนุษย์
แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสื่อสารของมนุษย์
 
จิตปรมัตถ์
จิตปรมัตถ์จิตปรมัตถ์
จิตปรมัตถ์
 
๐๐๐ ๒๕๔ ธรรมภาคปฏิบัติ ๔
๐๐๐ ๒๕๔ ธรรมภาคปฏิบัติ ๔๐๐๐ ๒๕๔ ธรรมภาคปฏิบัติ ๔
๐๐๐ ๒๕๔ ธรรมภาคปฏิบัติ ๔
 
จิตวิทยาในพระไตรปิฎก
จิตวิทยาในพระไตรปิฎก จิตวิทยาในพระไตรปิฎก
จิตวิทยาในพระไตรปิฎก
 
ธรรมภาคปฏิบัติ ๕
ธรรมภาคปฏิบัติ ๕ธรรมภาคปฏิบัติ ๕
ธรรมภาคปฏิบัติ ๕
 
พุทธในออสเตรเลีย2
พุทธในออสเตรเลีย2พุทธในออสเตรเลีย2
พุทธในออสเตรเลีย2
 
ธรรมภาคปฏิบัติ ๓
ธรรมภาคปฏิบัติ ๓ธรรมภาคปฏิบัติ ๓
ธรรมภาคปฏิบัติ ๓
 
แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่าจูเฬกสาฎก๖
แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่าจูเฬกสาฎก๖แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่าจูเฬกสาฎก๖
แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่าจูเฬกสาฎก๖
 
แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่าจูเฬกสาฎก๖
แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่าจูเฬกสาฎก๖แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่าจูเฬกสาฎก๖
แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่าจูเฬกสาฎก๖
 
รูปแบบการสัมมนา
รูปแบบการสัมมนารูปแบบการสัมมนา
รูปแบบการสัมมนา
 
พระอภิธรรมปิฎก บทที่ ๑
พระอภิธรรมปิฎก บทที่ ๑พระอภิธรรมปิฎก บทที่ ๑
พระอภิธรรมปิฎก บทที่ ๑
 
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
 
แนวข้อสอบ
แนวข้อสอบแนวข้อสอบ
แนวข้อสอบ
 
นำเสนอการให้เหตุผลแบบอุปนัย(ภาษาไทย)
นำเสนอการให้เหตุผลแบบอุปนัย(ภาษาไทย)นำเสนอการให้เหตุผลแบบอุปนัย(ภาษาไทย)
นำเสนอการให้เหตุผลแบบอุปนัย(ภาษาไทย)
 
นำเสนอการให้เหตุผลนิรนัย(ภาษาไทย)
นำเสนอการให้เหตุผลนิรนัย(ภาษาไทย)นำเสนอการให้เหตุผลนิรนัย(ภาษาไทย)
นำเสนอการให้เหตุผลนิรนัย(ภาษาไทย)
 
แนวข้อสอบวิชาการตลาด
แนวข้อสอบวิชาการตลาดแนวข้อสอบวิชาการตลาด
แนวข้อสอบวิชาการตลาด
 
ธรรมภาคปฏิบัติ ๑ รหัส ๐๐๐ ๑๕๑
ธรรมภาคปฏิบัติ ๑ รหัส ๐๐๐ ๑๕๑ธรรมภาคปฏิบัติ ๑ รหัส ๐๐๐ ๑๕๑
ธรรมภาคปฏิบัติ ๑ รหัส ๐๐๐ ๑๕๑
 

Similaire à ถาม ตอบอภิธรรมปิฎก

ติวสอบ O net สังคมศึกษา
ติวสอบ O net สังคมศึกษาติวสอบ O net สังคมศึกษา
ติวสอบ O net สังคมศึกษาKwandjit Boonmak
 
ติวสอบ O net สังคมศึกษา
ติวสอบ O net สังคมศึกษาติวสอบ O net สังคมศึกษา
ติวสอบ O net สังคมศึกษาKwandjit Boonmak
 
Power point คำราชาศัพท์
Power  point  คำราชาศัพท์Power  point  คำราชาศัพท์
Power point คำราชาศัพท์Jazz Kanok-orn Busaparerk
 
บทเรียน เรื่อง คำกริยา ป.5
บทเรียน เรื่อง คำกริยา ป.5บทเรียน เรื่อง คำกริยา ป.5
บทเรียน เรื่อง คำกริยา ป.5ปวริศา
 
แนวข้อสอบวิชาแปลบาลีเป็นไทย แปลไทยเป็นบาลี ๑ ครั้งที่ ๑
แนวข้อสอบวิชาแปลบาลีเป็นไทย แปลไทยเป็นบาลี ๑ ครั้งที่ ๑แนวข้อสอบวิชาแปลบาลีเป็นไทย แปลไทยเป็นบาลี ๑ ครั้งที่ ๑
แนวข้อสอบวิชาแปลบาลีเป็นไทย แปลไทยเป็นบาลี ๑ ครั้งที่ ๑วัดดอนทอง กาฬสินธุ์
 
Tri91 10+ปริวาร+เล่ม+๘
Tri91 10+ปริวาร+เล่ม+๘Tri91 10+ปริวาร+เล่ม+๘
Tri91 10+ปริวาร+เล่ม+๘Tongsamut vorasan
 
ข้อสอบภาษาไทย นักเรียนนายสิบตำรวจ
ข้อสอบภาษาไทย นักเรียนนายสิบตำรวจข้อสอบภาษาไทย นักเรียนนายสิบตำรวจ
ข้อสอบภาษาไทย นักเรียนนายสิบตำรวจMarr Ps
 
แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่องการแต่งคำประพันธ์
แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่องการแต่งคำประพันธ์แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่องการแต่งคำประพันธ์
แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่องการแต่งคำประพันธ์bambookruble
 
การสังเกตคำที่มาจากภาษาอื่น
การสังเกตคำที่มาจากภาษาอื่นการสังเกตคำที่มาจากภาษาอื่น
การสังเกตคำที่มาจากภาษาอื่นkruthai40
 
กำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาลกำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาลniralai
 
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)Ballista Pg
 
บทสวดมนต์ข้ามปี
บทสวดมนต์ข้ามปีบทสวดมนต์ข้ามปี
บทสวดมนต์ข้ามปีTongsamut vorasan
 
ติวเตรียมสอบ O net
ติวเตรียมสอบ O netติวเตรียมสอบ O net
ติวเตรียมสอบ O netvanichar
 

Similaire à ถาม ตอบอภิธรรมปิฎก (20)

ส 43101 ม.6
ส 43101 ม.6ส 43101 ม.6
ส 43101 ม.6
 
ติวสอบ O net สังคมศึกษา
ติวสอบ O net สังคมศึกษาติวสอบ O net สังคมศึกษา
ติวสอบ O net สังคมศึกษา
 
ติวสอบ O net สังคมศึกษา
ติวสอบ O net สังคมศึกษาติวสอบ O net สังคมศึกษา
ติวสอบ O net สังคมศึกษา
 
Power point คำราชาศัพท์
Power  point  คำราชาศัพท์Power  point  คำราชาศัพท์
Power point คำราชาศัพท์
 
บทเรียน เรื่อง คำกริยา ป.5
บทเรียน เรื่อง คำกริยา ป.5บทเรียน เรื่อง คำกริยา ป.5
บทเรียน เรื่อง คำกริยา ป.5
 
หน่วยที่ 2
หน่วยที่  2หน่วยที่  2
หน่วยที่ 2
 
แนวข้อสอบวิชาแปลบาลีเป็นไทย แปลไทยเป็นบาลี ๑ ครั้งที่ ๑
แนวข้อสอบวิชาแปลบาลีเป็นไทย แปลไทยเป็นบาลี ๑ ครั้งที่ ๑แนวข้อสอบวิชาแปลบาลีเป็นไทย แปลไทยเป็นบาลี ๑ ครั้งที่ ๑
แนวข้อสอบวิชาแปลบาลีเป็นไทย แปลไทยเป็นบาลี ๑ ครั้งที่ ๑
 
เก็บคะแนน คำนาม
เก็บคะแนน คำนามเก็บคะแนน คำนาม
เก็บคะแนน คำนาม
 
Tri91 10+ปริวาร+เล่ม+๘
Tri91 10+ปริวาร+เล่ม+๘Tri91 10+ปริวาร+เล่ม+๘
Tri91 10+ปริวาร+เล่ม+๘
 
ข้อสอบภาษาไทย นักเรียนนายสิบตำรวจ
ข้อสอบภาษาไทย นักเรียนนายสิบตำรวจข้อสอบภาษาไทย นักเรียนนายสิบตำรวจ
ข้อสอบภาษาไทย นักเรียนนายสิบตำรวจ
 
แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่องการแต่งคำประพันธ์
แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่องการแต่งคำประพันธ์แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่องการแต่งคำประพันธ์
แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่องการแต่งคำประพันธ์
 
การสังเกตคำที่มาจากภาษาอื่น
การสังเกตคำที่มาจากภาษาอื่นการสังเกตคำที่มาจากภาษาอื่น
การสังเกตคำที่มาจากภาษาอื่น
 
กำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาลกำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาล
 
ปัญหาและเฉลยบาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 ปี ๒๕๑๑-๒๕๖๑.pdf
ปัญหาและเฉลยบาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 ปี ๒๕๑๑-๒๕๖๑.pdfปัญหาและเฉลยบาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 ปี ๒๕๑๑-๒๕๖๑.pdf
ปัญหาและเฉลยบาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 ปี ๒๕๑๑-๒๕๖๑.pdf
 
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)
 
บทสวดมนต์ข้ามปี
บทสวดมนต์ข้ามปีบทสวดมนต์ข้ามปี
บทสวดมนต์ข้ามปี
 
ข้อสอบปลายภาคสังคม ม.1
ข้อสอบปลายภาคสังคม ม.1ข้อสอบปลายภาคสังคม ม.1
ข้อสอบปลายภาคสังคม ม.1
 
กิริยาอาขยาต นามกิตก์ และกิริยากิตก์
กิริยาอาขยาต นามกิตก์ และกิริยากิตก์กิริยาอาขยาต นามกิตก์ และกิริยากิตก์
กิริยาอาขยาต นามกิตก์ และกิริยากิตก์
 
ติวเตรียมสอบ O net
ติวเตรียมสอบ O netติวเตรียมสอบ O net
ติวเตรียมสอบ O net
 
Tripoom
TripoomTripoom
Tripoom
 

Plus de วัดดอนทอง กาฬสินธุ์

กรรมฐาน (สื่อการสอน ๒) สัปดาห์ที่ ๓ กสิณ ๑๐
กรรมฐาน (สื่อการสอน ๒) สัปดาห์ที่ ๓    กสิณ ๑๐กรรมฐาน (สื่อการสอน ๒) สัปดาห์ที่ ๓    กสิณ ๑๐
กรรมฐาน (สื่อการสอน ๒) สัปดาห์ที่ ๓ กสิณ ๑๐วัดดอนทอง กาฬสินธุ์
 
เอกสารประกอบการสอน วิชา สัมมนาพระพุทธศาสนา1
เอกสารประกอบการสอน วิชา สัมมนาพระพุทธศาสนา1เอกสารประกอบการสอน วิชา สัมมนาพระพุทธศาสนา1
เอกสารประกอบการสอน วิชา สัมมนาพระพุทธศาสนา1วัดดอนทอง กาฬสินธุ์
 
เอกสารประกอบการสอน วิชา สัมมนาพระพุทธศาสนา1
เอกสารประกอบการสอน วิชา สัมมนาพระพุทธศาสนา1เอกสารประกอบการสอน วิชา สัมมนาพระพุทธศาสนา1
เอกสารประกอบการสอน วิชา สัมมนาพระพุทธศาสนา1วัดดอนทอง กาฬสินธุ์
 

Plus de วัดดอนทอง กาฬสินธุ์ (16)

กรรมฐาน (สื่อการสอน ๒) สัปดาห์ที่ ๓ กสิณ ๑๐
กรรมฐาน (สื่อการสอน ๒) สัปดาห์ที่ ๓    กสิณ ๑๐กรรมฐาน (สื่อการสอน ๒) สัปดาห์ที่ ๓    กสิณ ๑๐
กรรมฐาน (สื่อการสอน ๒) สัปดาห์ที่ ๓ กสิณ ๑๐
 
กรรมฐาน (สื่อการสอน ๑) สัปดาห์ที่ ๑
กรรมฐาน (สื่อการสอน ๑) สัปดาห์ที่ ๑กรรมฐาน (สื่อการสอน ๑) สัปดาห์ที่ ๑
กรรมฐาน (สื่อการสอน ๑) สัปดาห์ที่ ๑
 
เอกสารประกอบการสอน วิชา สัมมนาพระพุทธศาสนา1
เอกสารประกอบการสอน วิชา สัมมนาพระพุทธศาสนา1เอกสารประกอบการสอน วิชา สัมมนาพระพุทธศาสนา1
เอกสารประกอบการสอน วิชา สัมมนาพระพุทธศาสนา1
 
องค์ประกอบของการสัมมนา๒
องค์ประกอบของการสัมมนา๒องค์ประกอบของการสัมมนา๒
องค์ประกอบของการสัมมนา๒
 
เอกสารประกอบการสอน วิชา สัมมนาพระพุทธศาสนา1
เอกสารประกอบการสอน วิชา สัมมนาพระพุทธศาสนา1เอกสารประกอบการสอน วิชา สัมมนาพระพุทธศาสนา1
เอกสารประกอบการสอน วิชา สัมมนาพระพุทธศาสนา1
 
รายละเอียดวิชาพระสงฆ์กับภาวะผู้นำ
รายละเอียดวิชาพระสงฆ์กับภาวะผู้นำรายละเอียดวิชาพระสงฆ์กับภาวะผู้นำ
รายละเอียดวิชาพระสงฆ์กับภาวะผู้นำ
 
มคอ ๓ วิชาธรรมภาคปฏิบัติ ๓
มคอ ๓ วิชาธรรมภาคปฏิบัติ ๓มคอ ๓ วิชาธรรมภาคปฏิบัติ ๓
มคอ ๓ วิชาธรรมภาคปฏิบัติ ๓
 
มคอ ๓ วิชาธรรมภาคปฏิบัติ ๕
มคอ ๓ วิชาธรรมภาคปฏิบัติ ๕มคอ ๓ วิชาธรรมภาคปฏิบัติ ๕
มคอ ๓ วิชาธรรมภาคปฏิบัติ ๕
 
รายละเอียดวิชาพระไตรปิฎกศึกษ1
รายละเอียดวิชาพระไตรปิฎกศึกษ1รายละเอียดวิชาพระไตรปิฎกศึกษ1
รายละเอียดวิชาพระไตรปิฎกศึกษ1
 
รายละเอียดวิชาพระไตรปิฎกศึกษา(2)
รายละเอียดวิชาพระไตรปิฎกศึกษา(2)รายละเอียดวิชาพระไตรปิฎกศึกษา(2)
รายละเอียดวิชาพระไตรปิฎกศึกษา(2)
 
รายละเอียดวิชาพระไตรปิฎกศึกษา(1)
รายละเอียดวิชาพระไตรปิฎกศึกษา(1)รายละเอียดวิชาพระไตรปิฎกศึกษา(1)
รายละเอียดวิชาพระไตรปิฎกศึกษา(1)
 
พัฒนาการความเป็นมาของพระไตรปิฎก
พัฒนาการความเป็นมาของพระไตรปิฎกพัฒนาการความเป็นมาของพระไตรปิฎก
พัฒนาการความเป็นมาของพระไตรปิฎก
 
วิชาบาลีเสริม ๑๑ ชื่อสัมพันธ์
วิชาบาลีเสริม ๑๑ ชื่อสัมพันธ์วิชาบาลีเสริม ๑๑ ชื่อสัมพันธ์
วิชาบาลีเสริม ๑๑ ชื่อสัมพันธ์
 
ทิคุสมาส
ทิคุสมาสทิคุสมาส
ทิคุสมาส
 
บาลีไวยากรณ์ ๔ สมาส
บาลีไวยากรณ์ ๔ สมาส บาลีไวยากรณ์ ๔ สมาส
บาลีไวยากรณ์ ๔ สมาส
 
บาลีไวยากรณ์ ๔ สมาส,ตัทธิต
บาลีไวยากรณ์ ๔ สมาส,ตัทธิตบาลีไวยากรณ์ ๔ สมาส,ตัทธิต
บาลีไวยากรณ์ ๔ สมาส,ตัทธิต
 

ถาม ตอบอภิธรรมปิฎก

  • 1. มหาวิท ยาลัย มหาจุฬ าลงกรณราชวิท ยาลัย วิท ยาเขตขอนแก่น ถาม – ตอบ พอเป็น แนวทางสอบวิช าพระอภิธ รรมปิฎ ก ********************************* ๑. คำา ว่า สุต ะ ในที่น ี้เ ป็น ชื่อ รวมที่ใ ช้ เรีย กพุท ธวจนะกี่ป ระการ ? ก. ๔ ประการ ข. ๖ ประการ ค. ๘ ประการ ง. ๙ ประการ ๒. การแบ่ง พระอภิธ รรมปิฎ กแบ่ง ออก เป็น กี่ช ว งสมัย ? ่ ก. ๑ สมัย ข. ๒ สมัย ค. ๓ สมัย ง. ๔ สมัย ๓. อภิธ รรมทุม าติก า แม่บ ทฝ่า ยพระ อภิธ รรมในคัม ภีร ธ ัม มสัง คณี ์ ส่ว นที่ว ่า การจัด ธรรมเป็น หัว ข้อ กี่ ประเด็น กี่ก ลุ่ม กี่ค ู่ ก. ๑ ประเด็น ๑๓ กลุ่ม ๑๐๐ คู่ ข. ๒ ประเด็น ๑๒ กลุ่ม ๑๐๐ คู่ ค. ๑ ประเด็น ๑๒ กลุ่ม ๑๐๐ คู่ ง. ๒ ประเด็น ๑๓ กลุ่ม ๑๐๐ คู่ ๔. คัม ภีร ว ิภ ง ค์เ ป็น คัม ภีร ท ี่ว ่า ด้ว ยเรื่อ ง ์ ั ์ ใด ก. ว่าด้วยเรื่องการแบ่งกลุ่มอภิธรรม ข. ด้วยเรื่องการจำาแนกหรือการแบ่งหลัก ธรรมที่สำาคัญต่าง ๆ ค. ว่าด้วยเรื่องการแบ่งหลักธรรมหัวข้อเล็ก น้อย ง. ว่าด้วยเรื่องการรวมกลุ่มข้อธรรม ๕. การจำา แนกขัน ธ์ใ นคำา ภีร ์ว ภ ัง ค์ท ่า น ิ ได้จ ำา แนกไว้เ ป็น กี่ป ระการ ก. ๕ ประการ ๗. ปุค คลบัญ ญัต ิเ ป็น คัม ภีร ์ท ี่แ สดง บัญ ญัต ิเ กี่ย วกับ บุค คลคือ ข้อ กำา หนดว่า ด้ว ยอะไร ก. ว่าด้วยสัทธรรมอันนำามาซึ่งประโยชน์แก่ เหล่า เวไนยสัตว์ ข. ว่าด้วยความเป็นจริงที่สมมติขึ้นหรือแต่ง ตังขึ้น ้ ค. ว่าด้วยสภาวะที่แท้เป็นจิต เจตสิก รูป และนิพพาน ง. ว่าด้วยบุคคลเป็นที่รวมของขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ อินทรีย์ ๒๒ ๘. ภาคนิส เทสในปุค คลบัญ ญัต ิน ท เทส ิ ใดไม่ใ ช้ว ธ ีป จ ฉา - วิส ัช นา ิ ุ ก. นิสเทสที่ ๕ ข. นิสเทสที่ ๖ ค. นิสเทสที่ ๗ ง. นิสเทสที่ ๘ ๙. เรื่อ งปุค คกถาที่อ งค์ส มเด็จ พระสัม มา สัม พุท ธเจ้า ได้ต ั้ง เป็น แบบ ไว้เ ดิม ที่เ รีย กว่า อะไร ? ก. อัฏฐมุข ข. อนัฏฐมุข ค. อัฏฐิมุข ง. สัสสติทิฏฐิ ๑๐. พวกเอกัจ จสัส สตทิฏ ฐิ คือ พวกที่ม ี ความเห็น ว่า อย่า งไร ? ก. อัตตาและโลกเที่ยง ข. โลกมีที่สิ้นสุดและไม่มีที่สิ้นสุด ค. เที่ยงแต่บางอย่าง
  • 2. ข. ๗ ประการ ค. ๙ ประการ ง. ๑๑ ประการ ๖. คำา ว่า ธาตุก ถา มาจากคำา ใด ก. ธา+ตุกะ+กถา ข. ธาตุ+กะ+กถา ค. ธาตุ+กถา ง. ธา+ตุ+กถา ๑๒. ข้อ ใดคือ อัพ ยากตะที่เ ป็น อเหตุก ะ ในคำา ภีร ์ย มก ? ก. เหตุกวิปากจิต ข. เหตุปฏิสนธิกัมมชรูป ค. เหตุกวิบากจิต ง. อัญญสมานเจตสิก ๑๓. ข้อ ใดคือ องค์ธ รรม ๕ อย่า ง ก. จิต เจตสิก รูป นิพพาน บัญญัติ ข. รูป เวทนา สังขาร วิญญาณ ขันธ ค. จิต รูป เวทนา วิญญาณ บัญญัติ ง. รูป เจตสิก เวทนา นิพพาน บัญญัติ ๑๔. ในปัจ จัย ๒๔ พระพุท ธองค์ท รง แสดงไว้เ ป็น คู่ม ีก ี่ค ู่ ก. ๓ คู่ ข. ๕ คู่ ค. ๗ คู่ ง. ๙ คู่ ๑๕. ในคัม ภีร ์พ ระธรรมปิฎ ก แบ่ง ได้ก ี่ คัม ภีร ์ ? ก. ๔ คัมภีร์ ข. ๕ คัมภีร์ ค. ๖ คัมภีร์ ง. ๗ คัมภีร์ ๑๖. พระเถรรูป ใดที่จ ด สรรแบ่ง ส่ว น ั พระพุท ธพจน์อ อกเป็น ๓ ส่ว น คือ พระสูต ร พระวิน ัย และพระอภิธ รรม ปิฎ ก ก่อ นพระปริน ิพ พาน คือ ก. พระทัพพมัลลบุตรเถร ข. พระภัททธิเถร ค. พระทาสกเถร ง. อัตตาและโลกเกิดขึ้นเอง ๑๑. ข้อ ใดไม่ใ ช่ก ารแสดงธรรมเป็น คู่ ๆ ในคัม ภีร ์ย มก ? ก. อนุโลมัย คู่กับ ปัจจนีกมัย ข. อนุโลมปุจฉา คู่กับ ปฏิโลมปุจฉา ค. ปุจฉา คู่กับ วิสัชนา ง. สันนิฏฐานบท คู่กับ ปัจจนีกมัย ๑๙. คำา ว่า ขัน ธ์ หมายถึง ข้อ ใดต่อ ไปนี้ ก. กลุ่มหรือกอง ข. รูป ค. ก้อน ง. ถูกทุกข้อ ๒๐. นยมาติก ในคำา ภีร ์ธ าตุก ถา แปลว่า อย่า งไร ก. สภาวธรรมแม่บทที่เป็นนัยหรือวิธีการ ข. สภาวธรรมแม่บทที่เป็นหลักแห่งนัย ค. สภาวธรรมแม่บทภายนอก ง. สภาวธรรมแม่บทที่แสดงลักษณะ ๒๑. คำา ว่า เห็น แจ้ง หรือ เห็น อย่า งวิเ ศษมี ความหมายตรงกับ ข้อ ใด ก. อายตนะ ข. ธาตุ ค. วิปัสสนา ง. ขันธ์ ๒๒. ลิง คบัญ ญัต ิใ นคัม ภีร ป ุค คลบัญ ญัต ิ ์ คือ การบัญ ญัต ิอ าศัย เรื่อ งใด เป็น ปัจ จัย ในการบัญ ญัต ิ ก. หน้าที่ ข. สถานที่ ค. รูปพรรณสัณฐาน ง. ๒๓. กี่ค ำา ก. ข. ค. เพศ คำา ว่า ปุค คลบัญ ญัต ิ มาจากคำา บาลี ๒ คำา ๓ คำา ๔ คำา
  • 3. ง. ๑๗. ก. ข. ค. ง. พระเรวตเถร กุศ ลมูล ๓ คือ ข้อ ใด โลภะ โทสะ อโทสะ โมหะ ๑๘. ก. ข. ค. ง. อกุศ ลมูล ๓ คือ ข้อ ใด อโลภะ อโมหะ อโทสะ โลภะ ๒๖. คำา ว่า มูล ในคัม ภีร ์ย มก มีค วาม หมายเดีย วกัน กับ คำา ว่า อะไร ก. วัตถุ ข. จิต ค. เหตุ ง. บุคคล ๒๗. ข้อ ใดต่อ ไปนี้ค ือ ความหมายของ คำา ว่า "ประถม" ก. ต้นเหตุ ข. เหตุเกิด ค. อารมณ์ ง. แดนเกิด ๒๘. ข้อ ใดไม่ใ ช่อ งค์ธ รรมมี ๕ ประการ ในคัม ภีร ์พ ระอภิธ รรม ก. จิต ข. เจตสิก ค. รูป ง. ขันธ์ ๒๙. องค์ม รรค ๙ คือ ข้อ ใดต่อ ไปนี้ ก. อุเบกขา ข. ปัญญา ค. วิจาร ง. โสมนัส ๓๐. คัม ภีร ข ั้น อรรถกถามีค วามหมาย ์ ตรงกับ ข้อ ใด ง. ๕ คำา ๒๔. มหาสัง คีต ก ะ แปลว่า อย่า งไร ิ ก. การทำาสังคายนาครั้งใหญ่ ข. การร้อยกรองพระธรรมวินัย ค. การทำาสังคายนาครั้งที่ ๒ ง. การทำาสังคายนาครั้งที่ ๓ ๒๕. คัม ภีร ์ก ถาวัต ถุเ ป็น คัม ภีร ท ี่ร วบรวม ์ เกี่ย วกับ เรือ งใดต่อ ไปนี้ ่ ก. บุคคล ข. วัตถุ ค. ธาตุ ง. จิต ๓๓. พระผู้ม ีพ ระภาคใช้น ัย กี่ป ระการใน การจำา แนกวิภ ง ค์ ั ก. ๑ ประการ ข. ๓ ประการ ค. ๕ ประการ ง. ๗ ประการ ๓๔. คำา ว่า ธาตุก ถา มาจากวจนัต ถะ ของข้อ ใด ก. ธาตุนำ กถา ธาตุกถา ข. กถียนฺติ เอตกาติ กถา ค. อตฺตโน สภาวำ ธาเรนฺตีติ ง. ธาตูโย กถา ๓๕. ในปุค คลบัญ ญัต ิป กรณ์ท ่า นแสดง บัญ ญัต ิไ ว้ก ี่ป ระการ ก. ๒ ประการ ข. ๔ ประการ ค. ๖ ประการ ง. ๘ ประการ ๓๖. ปุค คลบัญ ญัต ิ มีค วามหมายว่า อย่า งไร ก. การบัญญัติสภาวธรรมที่เป็นหมวดหมู่ ข. การบัญญัติเหล่าบุคคลว่าเป็นบุคคล ค. การบัญญัติสภาวธรรมที่เป็นความจริง ง.การบัญญัติสภาวธรรมที่เป็นบ่อเกิด ๓๗. พระเถระรูป ใดได้ต ั้ง คำา ถามและคำา ตอบตามมาติก า
  • 4. ก. คัมภีร์ที่ไขความบาลีพระพุทธพจน์ ข. คัมภีร์ที่ไขความแห่งคัมภีร์อรรถกถา ค. คัมภีร์ที่ไขความแห่งคัมภีร์ฎีกาออกไป ง. คัมภีร์ที่ไขความแห่งคัมภีร์อนุฎีกาออก ไป ๓๑. ข้อ ใดคือ ความหมายของคำา ว่า "ธัม มสัง คณี" ก. ว่าด้วยการแยกกลุ่ม คือการกระจายอ อกไปจากกลุ่มใหญ่ ข. ว่าด้วยการรวมกลุ่มธรรมะ คือการจัด ระเบียบธรรมะ ต่างมาไว้เป็นหมวดหมู่ ค. ว่าด้วยธรรมะที่เป็นคู่ คือการจัดธรรมะ เป็นคู่ ๆ ง. ว่าด้วยเรื่องของถ้อยคำา คือการตั้ง คำาถามคำาตอบ ๓๒. ในคัม ภีร ธ ัม สัง คณีแ บ่ง ออกเป็น กี่ ์ กัณ ฑ์ ก. ๒ กัณฑ์ ข. ๔ กัณฑ์ ค. ๖ กัณฑ์ ง. ๘ กัณฑ์ ๔๐. ปัฏ ฐานทีท รงแสดงโดยนำา ทุก ่ มาติก ามารวมเข้า ในติก มาติก า เรีย กว่า อะไร ก. ติกปัฏฐาน ข. ทุกปัฏฐาน ค. ทุกติกปัฏฐาน ง. ๔๑. ก. ข. ค. ติกทุกปัฏฐาน สัม ปยุต ตวาระ คือ วาระในข้อ ใด วาระที่พึ่งอาศัยกัน วาระที่ประกอบพร้อมกัน วาระที่เจือระคนกัน ง. วาระที่ว่าด้วยการตอบปัญหา ๔๒. ใครเป็น ประธานฝ่า ยสงฆ์ใ นการ เรือ งปุค คลกถา ที่พ ระพุท ธเจ้า ตัง เป็น ่ ้ แบบไว้ ก. พระมหากัสสปเถระ ข. พระสารีบุตรเถระ ค. พระอานนท์เถระ ง. พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ ๓๘. พระผู้ม ีพ ระภาคทรงแสดงวิธ ีก าร ยมกเพื่อ จำา แนกสภาวธรรม กีห มวด ่ ก. ๔ หมวด ข. ๖ หมวด ค. ๘ หมวด ง. ๑๐ หมวด ๓๙. ปฏิก เขปวิส ัช ชนา มีค วามหมายว่า อย่า งไร ก. วิสัชชนาที่กล่าวห้ามคำาถาม ข. วิสัชชนาที่กล่าวคำาตอบตรงกันข้ามกับ คำาถาม ค. วิสัชชนาที่กล่าวรับรององค์ธรรมของสัน นิฏฐานบท ง. วิสัชชนาที่กล่าวปฏิเสธสังสยบท ๔๗. พระอภิธ รรมปิฏ ก ท่า นจำา แนก สัจ ธรรมไว้ก ป ระการ ี่ ก. ๑ ประการ ข. ๒ ประการ ค. ๓ ประการ ง. ๔ ประการ ๔๘. ผู้ท ศ ึก ษาคัม ภีร ์ก ถาวัต ถุแ ล้ว จะช่ว ย ี่ ให้ผ ศ ึก ษารู้ส ึก อย่า งไร ู้ ก. ทำาให้ผู้เห็นผิดกลับมาเป็นผู้เห็นถูก ข. ทำาให้ผู้เห็นถูกไม่สบายใจ ค. ทำาให้ผู้เห็นผิด ทำาผิดได้ ง. ทำาให้ผู้เห็นผิด สามารถทำาต่าไปได้ ๔๙. ความหมายของคัม ภีร ์ก ถาวัต ถุ คือ ข้อ ใด ก. เพื่อรวบรวมคัมภีร์ซักถามเพื่อชี้ความ
  • 5. ทำา สัง คายนาครั้ง ที่ ๑ ก. พระมหากัสสปเถระ ข. พระอานนท์ ค. พระอุบาลี ง. พระฉันนะ ๔๓. ผู้ใ ดเป็น ผู้อ ป ถัม ภ์ใ นการทำา ุ สัง คายนาครั้ง ที่ ๓ ก. พระเจ้าอชาติศรัตรู ข. พระเจ้าอโศกมหาราช ค. พระเจ้าพิมพิสาร ง. พระเจ้ากาลาโศกราช ๔๔. ข้อ ใดไม่เ กี่ย วกับ การแสดงวัต ถุ ปบาทตามลำา ดับ ก. กุศล ข. อกุศล ค. การนับ เห็นถูก - ผิด ข. เพื่อรวบรวมอรรถกถา ค. เพื่อรวบรวมกฎของสงฆ์ ง. เพื่อรวบรวมเรื่องของอุโบสถ ๕๐. คัม ภีร ์ ชื่อ ยมก คูใ ดแสดงธรรม ่ ถูก คู่ ก. ข. ค. ง. ๕๑. อนุโลมนัย คู่กับ สังสยบท อนุโลมนัย คู่กับ วิสัชชนา ปุจฉา คู่กับ วิสัชชนา ปุจฉา คู่กับ ปฏิโลมปุจฉา การปัฏ ฐาน ปุจ ฉาวาระ หมายถึง ง. กาลเวลา ๔๕. ข้อ ใดไม่เ กี่ย วกับ การจำา แนกใน ขัน ธ์ว ภ ัง ค์ ิ ก. วิชชาภาชนียนัย ข. สุตตันตภาชนียนัย ค. อภิธัมมภาชนียนัย ง. ปัญหาปุจฉกนัย ๔๖. คำา ว่า ธาตุ แปลว่า ธรรมชาติท ท รง ี่ ไว้ซ ึ่ง ลัก ษณะของตนมีก ี่ธ าตุ ก. ๑๕ ธาตุ ข. ๑๖ ธาตุ ค. ๑๗ ธาตุ ง. ๑๘ ธาตุ ก. แสดงวิธีตอบคำาถาม ข. แสดงวิธีเทศนา ค. แสดงวิธตั้งคำาถาม ี ง. แสดงวิธีแสดงธรรม ๕๒. คัม ภีร ์ป ุค คลบัญ ญัต ิ ว่า ด้ว ยบัญ ญัต ิ บุค คลและปรมัต ถ์ท รง แสดงกีว ัน และมีเ ทวดาบรรลุธ รรมกี่ ่ โกฏิ ก. ๕ วัน ๖ โกฏิ ข. ๖ วัน ๗ โกฏิ ค. ๗ วัน ๘ โกฏิ ง. ๘ วัน ๙ โกฏิ ๕๓. การทำา สัง คายนาครัง ที่ ๑ และครัง ้ ้ ที่ ๒ ใช้ค ำา ว่า อย่า งไร ก. พระธรรมและสุตะ ข. พระอภิธรรมและวินัย ค. ธรรมและวินัย ง. พระวินัยปิฎก ๕๔. มโนธาตุ ประกอบด้ว ยอุเ บกขามี ๕ อารมณ์ ได้แ ก่อ ะไรบ้า ง ก. รูป เสียง กลิ่น รส โผกฐัพพะ ข. รูป เสียง กลิ่น รส ธัมมารมณ์ ค. เสียง รูป กลิ่น รส หู ง. เสียง รูป กลิ่น โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์ ๕๕. ธาตุก ถาแสดงเป็น ๒ ภาค ได้แ ก่ อะไรบ้า ง ๖๑. ข้อ ใดไม่จ ด อยู่ใ นคัม ภีร ช ั้น ฎีก าใน ั ์ พระอภิธ รรมปิฎ ก ก. ธัมมสังคณีมูลฎีกา ข. วิภังคมูลฎีกา ค. ปัญจกรณ์มูลฎีกา ง. วินัยมูลฎีกา ๖๒. ข้อ ใดต่อ ไปนี้ไ ม่จ ด อยู่ใ นลำา ดับ ั มาติก าของคัม ภีร ์พ ระอภิธ รรม
  • 6. ก. ข. ค. ง. ภาคอุทเทส ภาคนิทเทส ภาคอุทเทส ภาคนิทเทส ภาคนิสเทส กับ อัพภุนตรมาติกา กับ นยมาติกา กับ อัพภันตรมาติกา ๕๖. พระอภิธ รรมปิฎ กจำา แนกสัจ ธรรมหรือ สัจ จะออกเป็น ๒ ประการ ได้แ ก่อ ะไรบ้า ง ก. ปรมัตถสัจจะ กับ สมมุติสัจจะ ข. ปรมัตถสัจจะ กับ ปุคคลบัญญัติ ค. สมมุติสัจจะ กับ เอกปุคคล ง. สมมุติสัจจะ กับ ติกปุคคล ๕๗. การทำา สัง คายนาของพระฝ่า ย ทัก ษิณ นิก ายรวบรวมพระภิก ษุส งฆ์ ฝ่า ยตนได้ก ร ูป ี่ ก. ๕,๐๐๐ รูป ข. ๗,๐๐๐ รูป ค. ๘,๐๐๐ รูป ง. ๑๐,๐๐๐ รูป ๕๘. สหชาตชาติใ หญ่ป ระกอบกับ ปัจ จัย มีก ี่ป ัจ จัย ก. ๒ ปัจจัย ข. ๔ ปัจจัย ค. ๖ ปัจจัย ง. ๕๙. ก. ข. ค. ง. ติกมาติกา วินัยติกมาติกา อภิธัมม่ทุกมาติกา สุตตันมาติกา ๖๓. ข้อ ใดไม่จ ด อยู่ใ นขัน ธ์ ๕ ั ก. เวทนาขันธ์ ข. สังขารขันธ์ ค. นิพพานขันธ์ ง. วิญญาณขันธ์ ๖๔. ตีห ิ สงฺค โห ในนยมุข มาติก า แปลว่า อย่า งไร ก. สภาวธรรมที่สงเคราะห์เข้าได้กับสภาว ธรรม ๓ หมวด ข. สภาวธรรมที่สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับ สภาวธรรม ๓ หมวด ค. สภาวธรรมที่ประกอบเข้าได้กับ สภาว ธรรม ๔ หมวด ง. สภาวธรรมที่ประกอบเข้าไม่ได้กับ สภาว ธรรม ๔ หมวด ๖๕. อุป นิธ าบัญ ญัต ิใ นคัม ภีร ์ป ค ค ุ ลบัญ ญัต ป ระเภทใดคือ การ ิ บัญ ญัต ิโ ดยอาศัย สิง แวดล้อ ม ่ ๘ ปัจจัย ปัจ จัย ๒๔ แบ่ง ออกเป็น กี่ป ระเภท ๖ ประเภท ๗ ประเภท ๘ ประการ ๙ ประการ ก. สัมปยุตตูปนิธา ข. สมาโรปิตูปนิธา ค. อวิทูรคตูปนิธา ง. ปฏิภาคูปนิธา ๖๖. ในคัม ภีร ์ก ถาวัต ถุก ารซัก ถามนั้น หากสกวาทีเ ป็น ฝ่า ยซัก ถาม ก่อ นเรีย กว่า อะไร ก. ปัจจนีกปัญจกะ ข. ปัจจนีกานุโลมปัญจกะ ค. อนุโลมปัจจนีกะ ง. อนุโลมปัญจกะ ๓ ๔ ๕ ๖ ๖๗. ก. ข. ค. ง. ๖๐. สัง คายนาครั้ง ที่ ๑ ทำา หลัง พุท ธ ปริน ิพ พานกี่เ ดือ น ใครเป็น ผู้อ ป ถัม ภ์ ุ ก. ข. ค. ง. ก. ข. ค. ง. เดือน เดือน เดือน เดือน พระเจ้าอชาตศรัตรู พระยสกากัณทบุตร พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ พระเจ้ากาลาโศกราช อนุโ ลมโรปนา หมายถึง อะไร การถึงอนุโลม การยกอนุโลม การตั้งปฏิโลม การถึงปฏิโลม ส
  • 7. ๖๘. ปุเ รปัญ หา หมายถึง อะไร ก. ประโยคคำาถามที่บทหน้ามีองค์ธรรมแต่ บทหลังไม่มี หรือมีแต่ต่างกับองค์ธรรมของบทหน้า ข. ประโยคคำาถามที่บทหลังมีองค์ธรรม มากกว่า (กว้างกว่า) องค์ธรรมบทหน้า ค. ประโยคคำาถามที่บทหน้ามีองค์ธรรม มากกว่า (กว้างกว่า) องค์ธรรมบทหลัง ง. ประโยคคำาถามที่ถามถึงองค์ธรรมของ สันนิษฐานบท ซึ่งไม่มีองค์ธรรม ๖๙. ปัจ จนีก ธรรม หมายถึง อะไร ก. ธรรมที่เป็นเหตุ ได้แก่ องค์ธรรมทั้ง ๕ ข. ธรรมที่เป็นผล ได้แก่ สังขตธรรม ค. ธรรมที่นอกจากผล ได้แก่ สังขตธรรม ที่เหลือจากผล ธรรมในปัจจัยนั้น ๆ ง. ธรรมที่เป็นเหตุและเป็นผล ได้แก่ องค์ ธรรมทั้ง ๕ และ สังขตธรรม ๗๐. ความหมายของข้อ ใดต่อ ไปนี้ไ ม่ เข้า พวก ก. เหตุปัจจัย ข. สหชาตปัจจัย ค. อัญญมัญญปัจจัย ง. อารัมมณาธิปติปัจจัย ๗๑. การสัง คายนาครั้ง ที่ ๒ มีพ ระ อรหัน ร่ว มประชุม กีร ูป ่ ก. ๕๐๐ รูป ข. ๖๐๐ รูป ค. ๗๐๐ รูป ง. ๘๐๐ รูป ๗๒. จิต ที่ร วบรวมอารมณ์ไ ว้ภ ายใน มีช ื่อ ว่า อะไร ก. มโน ๗๔. อนุโ ลมฐปนาหมายถึง อะไร ก. การตั้งอนุโลม ข. การถึงอนุโลม ค. การยกอนุโลม ง. การตั้งปฏิโลม ๗๕. ชาติท ง ๙ ของปัจ จัย ๒๔ ชาติใ ด ั้ มีป จ จัย มากที่ส ุด ั ก. อารัมณชาติ ข. สหชาติ ค. อนันตรชาติ ง. วัตถุปุเรชาตชาติ ๗๖. ข้อ ใดไม่ใ ช่ค ัม ภีร ์ใ นคัม ภีร ์พ ระ อภิธ รรมปิฎ ก ก. ธัมมสังคณี ข. ธาตุกถา ค. ธัมมกถา ง. วิภังค์ ๗๗. ข้อ ใดไม่จ ด อยู่ใ นลำา ดับ กัณ ฑ์ห ลัง ั แสดงมาติก าแล้ว ก. รูปกัณฑ์ ข. ทัสสนเหตุกัณฑ์ ค. จิตตุปปาทกัณฑ์ ง. นิกเขปกัณฑ์ ๗๘. อกุศ ลจิต ที่ใ ห้ผ ลเป็น ทุก ข์ ๑๒ ข้อ ใดกล่า วถูก ต้อ งที่ส ุด ก. โลภมูล ๘ โทสมูล ๒ โมหมูล ๒ ข. โลภมูล ๖ โทสมูล ๓ โมหมูล ๓ ค. โลภมูล ๔ โทสมูล ๔ โมหมูล ๔ ง.โลภมูล ๒ โทสมูล ๒ โมหมูล ๘ ๗๙. วิป ัส สนาภูม ิท ี่พ ระพุท ธองค์ท รง แสดงไว้ม ีก ภ ูม ิ คือ อะไร ี่ ก. ๓ ภูมิ คือ ขันธ์ ๕, อายตนะ ๑๒, ธาตุ ๑๘ ข. ๔ ภูมิ คือ ขันธ์ ๕, อายตนะ ๑๒, อินทรีย์ ๒๒
  • 8. ข. หทัย ค. ปัณฑนะ ง. มนายตนะ ๗๓. นยมาติก าเรีย กอีก อย่า งหนึง ว่า ่ อะไร ก. ข. ค. ง. มูลมาติกา อัพภันตรมาติกา พาหิรมาติกา นยมุขมาติกา ๘๑. ในเอกปุค คลบัญ ญัต ิ บุค คลผู้เ ป็น ปถุช นเป็น เช่น ไร ก. บุคคลที่สัมผัสวิโมกข์ ๘ ด้วยกาย ทุก กาล ทุกสมัย เรียกว่าผู้เป็นปุถุชน ข. บุคคลใดยังละสังโยชน์ ๓ ไม่ได้และไม่ ได้ปฏิบติสละ ั สภาวธรรม เรียกว่าผู้เป็นปุถุชน ค. บุคคลผู้ไม่ลบหลู่บุคคลอื่นด้วยกาย วาจา ใจ เรียกว่าผู้เป็นปุถุชน ง. บุคคลผู้กระทำาความดีและชักชวนบุคคล อื่นให้กระทำา ความดีอยู่เสมอ เรียกว่าปุถุชน ๘๒. ผูใ ดเป็น ผู้ถ วายเทศนาแก่พ ระเจ้า ้ อโศกมหาราชจนพระองค์ม ี ความเลื่อ มใสและซาบซึ้ง ในหลัก ธรรม อัน บริส ท ธ์ข องพระพุท ธองค์ ุ ก. พระมหากัสสปะเถระ ข. ค. ง. ๘๓. ก. พระอานนท์ พระโมคคัลลีบุตรติสเถระ พระสัพพกามีเถระ ข้อ ใดไม่จ ัด อยู้ใ นคัม ภีร ์ย มก มูลยมก ข. ค. ง. ๘๔. อายตนยมก สังขารยมก อนาคตยมก ปวัตติการ คือช่วงเวลาใด ค. ๕ ภูมิ คือ ขันธ์ ๕, อายตนะ ๑๒, ธาตุ ๑๘, อินทรีย์ ๒๒, อริยสัจจะ ๔ ง. ๖ ภูมิ คือ ขันธ์ ๕, อายตนะ ๑๒, ธาตุ ๑๘, อินทรีย์ ๒๒, อริยสัจจะ ๔, ปฏิจจสมุปบาท ๑๒ ๘๐. ในปุค คลบัญ ญัต ิป กรณ์ท ี่พ ระพุท ธ องค์บ ญ ญัต ไ ว้ ๖ ประการ ั ิ ข้อ ใดไม่จ ด อยู่ใ นบัญ ญัต ิ ๖ ประการ ั ก. ขันธบัญญัติ ข. อายตนบัญญัติ ค. อุตสาหบัญญัติ ๘๗. ในติก มาติก กาในปุจ ฉา - วิส ัช ชนา ตามวิธ ีจ ำา แนกขัน ธวิภ ง ค์ ั ปัญ หาปุจ ฉกะมีก บ ท ี่ ก. ๑๓ บท ข. ๑๘ บท ค. ๒๐ บท ง. ๒๒ บท ๘๘. ข้อ ใดจัด อยูใ นหมวดว่า ด้ว ยบุค คล ่ ๙ จำา พวก ก. บุคคลผู้เป็นสัมมาสัมพุทธ ข. บุคคลผู้เป็นโกลัง โกละ ค. บุคคลผู้โผล่ขึ้นแล้วจมลงอีก ง. บุคคลผู้มักโกรธ บุคคลผู้โกรธ ๘๙. การทำา สัง คายนาครัง ที่ ๒ มีข ึ้น ใน ้ พุท ธศัก ราชใด ก. ๑๐๐ ข. ๒๐๐ ค. ๓๐๐ ง. ๔๐๐ ๙๐. คำา ว่า อิน ทริย ยมกมีค วามหมายว่า อย่า งไร ก. ธรรมที่เป็นคู่ที่ว่าด้วยหมวดขันธ์ ข. ธรรมที่เป็นคู่ว่าด้วยหมวดจิต ค. ธรรมที่เป็นคู่ที่ว่าด้วยหมวดธรรม
  • 9. ก. ช่วงระยะเวลาก่อนที่จิตถือปฏิสนธิ ข. ช่วงระยะเวลาที่จิตถือปฏิสนธิ ค. ช่วงระยะเวลาหลังปฏิสนธิ ง. ช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งที่จิตปฏิสนธิ ๘๕. ในสมัย ขององค์ส มเด็จ พระสัม มาสัม พุท ธเจ้า เรีย กคำา สอนว่า อย่า งไร ก. พระอภิธรรม ข. พระไตรปิฎก ค. พระสูตร ง. พรหมจรรย์ ๘๖. กุศ ลธรรมที่น ำา ไปเกิด ในภูม ิ ๓ ตามการจัด ลำา ดับ กุส ลา ธมฺม า เรีย กว่า อะไร ก. กามาวจรกุศล ข. รูปาวจรกุศล ค. เตภูมิกกุศล ง. โลกุตตรกุศล ๙๔. ปัญ ญาจะเกิด ขึน ได้ต ้อ งอาศัย และ ้ เข้า ใจอะไรในข้า งต้น เป็น อัน ดับ แรก ก. วิปัสสนาภูมิ ข. วิปัสสนาญาณ ค. กรรมฐาน ง. เจริญวิปัสสนา ๙๕. ความหมายและโครงสร้า งของ ปุค คลบัญ ญัต ิก ล่า วถึง สิง ใด ่ ก. เครื่องนุ่งห่ม ข. บุคคล ค. ยารักษาโรค ง. ที่อยู่อาศัย ๙๖. การหยุด การทำา อุโ บสถสัง ฆกรรม ถึง ๗ ปี ของภิก ษุเ กิด ขึน ้ ง. ธรรมที่เป็นคู่ที่ว่าด้วยหมวดอินทรีย์ ๙๑. คำา ว่า ถานัต กระ มคฺโ ค วิย าติ มคฺ โค แปลว่า อย่า งไร ก. ธรรมที่เป็นผู้อุปการะ โดยความเป็น มรรค ข. ธรรมที่เป็นประดุจหนทางชื่อว่ามัคคะ ค. ธรรมที่ไม่มีระหว่างคั่นเลยชื่อว่าสมนัน ตระ ง. ธรรมที่เกิดทีหลังปัจจยุปนันนธรรมชื่อว่า ปัจฉาตะ ๙๒. ในคัม ภีร ์พ ระอภิธ รรมปิฎ กแบ่ง ออก ได้ ๗ คัม ภีร ์ คัม ภีร ์ใ ดที่ เป็น คัม ภีร ์แ สดงธรรมแบบ คำา ถาม - คำา ตอบ ก. ธัมมสังคณี ข. วิภังค์ ค. ธาตุกถา ง. กถาวัตถุ ๙๓. กามาวจรกุศ ล ๘ กล่า วถึง เกี่ย วกับ อะไร ก. จิต สังขาร ข. จิต รูป สังขาร ค. สังขาร ญาณ ง. จิต ญาณ สังขาร ๑๐๑. กามาวจรกุศ ลมีเ ท่า ไหร่ ก. ๒ ข. ๔ ค. ๖ ง. ๘ ๑๐๒. อัฏ ฐกปุค คลว่า ด้ว ยบุค คลกี่ จำา พวกและมีก ี่ก ลุ่ม ก. ๓ จำาพวก ๑๗ กลุ่ม ข. ๔ จำาพวก ๓๒ กลุ่ม ค. ๗ จำาพวก ๒ กลุ่ม ง. ๘ จำาพวก ๑ กลุ่ม ๑๐๓. อธิป ติป จฺจ โย มีค วามหมายว่า อย่า งไร ก. สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็น เหตุ
  • 10. เพราะเหตุใ ด อลัชชีปลอมบวชมาก ข. สถานที่ไม่พร้อม ค. ไม่มีผู้นำาในการทำา ง. สิ้นเสียความสามัคคี ๙๗. ถ้า หากเปรีย บเทีย บคัม ภีร ์ม หาปัก ฐานเป็น สระนำ้า จะเป็น สระ ใดในต่อ ไปนี้ ก. สระที่มีนำ้าขาด ๆ เขิน ๆ ข. สระที่มีแต่ดอกบัวหาปลามิได้เลย ค. สระที่มีทุก ๆ อย่างเอิบอิ่มสมบูรณ์ ง. สระขาดบางอย่างเกือบจะสมบูรณ์ ๙๘. ในการทำา สัง คายนาครัง ที่ ๒ มีผ ล ้ สำา คัญ กี่ป ระการ ก. ๓ ข. ๖ ค. ๗ ง. ๘ ๙๙. จิต นี้ม ไ วพจน์ห รือ มีช อ ที่เ รีย กขาน ี ื่ กัน กี่ช ื่อ ก. ๑๐ ข. ๑๑ ค. ๑๒ ง. ๑๓ ๑๐๐. คำา ว่า "สุต ะ" มีช ื่อ รวมที่ใ ช้เ รีย ก พุท ธจวนะกี่ป ระการ ก. ๙ ประการ ง. ๑๒ ประการ ข. ๑๐ ประการ ค. ๑๑ ประการ ๑๐๗. "มหาสัง ฆิก ะ" หมายถึง อะไร ข. สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเกิด พร้อมกัน ค. สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็น อารมณ์ ง. สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็น อธิบดี ๑๐๔. ใน กุส ลา ธมฺม า มีก ารจัด ลำา ดับ อย่า งไรจึง จะถูก ต้อ ง ก. กามาวจรกุศล รูปาวจรกุศล อรูปาวจร กุศล เตภูมิกกุศล โลกุตตรกุศล ข. กามาวจรกุศล รูปาวจรกุศล อรูปาวจร กุศล โลกุตตรกุศล เตภูมิกกุศล ค. กามาวจรกุศล เตภูมิกกุศล อรูปาวจร กุศล รูปาวจรกุศล กามาวจรกุศล ง. โลกุตตรกุศล เตภูมิกกุศล อรูปาวจร กุศล รูปาวจรกุศล กามาวจรกุศล ๑๐๕. รูป ขัน ธ์ กองรูป ในขัน ธวิภ ง ค์ ั ได้แ ก่ร ูป เท่า ไร ก. รูป ๒๕ ข. รูป ๒๖ ค. รูป ๒๗ ง. รูป ๒๘ ๑๐๖. ปรมัต ถสัจ จะคือ ความจริง ตาม สภาวะแท้ ๆ ทีเ ป็น จิต เจตสิก ่ รูป และนิพ พานที่ท รงแสดงไว้ใ นอภิธ รรม ๖ คัม ภีร ์ เว้น คัม ภีร ์ท ี่เ ท่า ไร ก. เว้นคัมภีร์ ๑ ข. เว้นคัมภีร์ ๒ ค. เว้นคัมภีร์ ๓ ง. เว้นคัมภีร์ ๔ ๑๑๔. มหาภูต รูป ๔ หมายถึง รูป ที่เ ป็น ใหญ่เ ป็น ประธานได้แ ก่อ ะไร
  • 11. ก. ข. ค. ง. พระผู้มีพวกน้อย พระผู้มีพวกปานกลาง พระผู้มีพวกมาก พระผู้มีพวกมากและพวกน้อย ๑๐๘. คำา ว่า ปัฏ ฐานเป็น คัม ภีร ์ท ี่เ ท่า ไร ก. คัมภีร์ที่ ๔ ข. คัมภีร์ที่ ๕ ค. คัมภีร์ที่ ๖ ง. คัมภีร์ที่ ๗ ๑๐๙. กามาวจรกุศ ล ๘ คือ ข้อ ใดต่อ ไป นี้ ก. จิตที่เกิดพร้อมด้วยความดีใจ ข. จิตที่เป็นผลแห่งความสุข ค. จิตที่เป็นกุศลด้วยญาณที่ ๒ ง. จิตที่เกิดด้วยความวิตก ๑๑๐. สัจ จบัญ ญัต ิม ี ๔ ประการ คือ ข้อ ใดต่อ ไปนี้ ก. สมุทยสัจจะ ข. สัจจะบัญญัติ ค. ธาตุบัญญัติ ง. โสตายตนะ ๑๑๑. พระโมคคัล ลีบ ต รติส สเถระได้ ุ ถวายเทศนาแก่ใ คร ก. สมณะพราหมณ์ ข. พระเจ้าอโศกมหาราช ค. พระภิกษุ ๑,๐๐๐ รูป ง. พวกอำามาตย์ ๑๑๒. ปัจ จัย ที่เ ป็น สหชาตชาติม ี ๑๕ ปัจ จัย คือ ข้อ ใด ก. เหตุปัจจัย ข. อารัมมณปัจจัย ค. อนันตรปัจจัย ง. ปัจฉาชาตปัจจัย ๑๑๓. การแบ่ง อภิธ รรมท่า นแบ่ง ไว้ก ี่ สมัย ก. ๑ สมัย ข. ๒ สมัย ค. ๓ สมัย ก. ปฐวี อาโป เตโช วาโย ข. ปฐวี จักขุ เตโช วาโย ค. ปฐวี อาโป โสต เตโช ง. ปฐวี อาโป เตโช ชิวหา ๑๑๕. อกุศ ลจิต ที่ใ ห้ผ ลเป็น ทุก ข์ ๑๒ อยากทราบว่า โลภมีก ด วง ี่ ก. โลภมูลมี ๔ ดวง ข. โลภมูลมี ๖ ดวง ค. โลภมูลมี ๘ ดวง ง. โลภมูลมี ๑๐ ดวง ๑๑๖. อัพ ภัน ตรมาติก า แบ่ง ออกเป็น ๒ อุท เสสได้แ ก่อ ะไร ก. ขันธาทิอุทเทส และ ผัสสสัจตกราสีอุท เสส ข. ขันธาทิอุทเทส และลักษณาอุทเสส ค. สัญญาอุทเทส และ เจตนาอุทเสส ง. ขันธาทิอุทเทส และ เวทนาอุทเสส ๑๑๗. พวกอุท เฉทวาทะคือ พวกที่ม ี ความเห็น เป็น เช่น ไร ก. ความเห็นว่าขาดสูญ ข. อัตตาและโลกเที่ยง ค. เห็นว่าบางอย่างเที่ยง ง. เห็นโลกมีที่สิ้นสุด ๑๑๘. ภาคตัง คำา ถามเป็น มาติก าไม่ม ีค ำา ้ ตอบเรีย กว่า อะไร ก. นิทเทสวาระ ข. ปวัตติวาระ ค. อุทเทสวาระ ง. ปริญญาวาระ ๑๑๙. ข้อ ใดไม่ใ ช่ก ิร ิย าจิต ฝ่า ยรูป าวจร ก. จิตที่เป็นกิริยาในฌานที่ ๑ ข. จิตที่เป็นกิริยาในฌานที่ ๒ ค. จิตที่เป็นกิริยาในฌานที่ ๓ ง. จิตที่เป็นกิริยาในฌานที่ ๖ ๑๒๐. ข้อ ใดไม่ใ ช่ส ัจ จบัญ ญัต ิ ๔ ประการ ก. ทุกขสัจจะ ข. รูปสัจจะ ค. สมุทยสัจจะ
  • 12. ง. ๔ สมัย ๑๒๑. เถรวาทมีน ิก ายแตกแยกออกไป อีก กี่น ิก าย ก. ๑ นิกาย ข. ๒ นิกาย ค. ๓ นิกาย ง. ๔ นิกาย ๑๒๒. ข้อ ใดคือ คำา แปลที่ถ ูก ต้อ งของคำา ว่า เหตุป จฺจ โย ก. สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็น เหตุ ข. สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็น อารมณ์ ค. สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็น อธิบดี ง. สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความ ติดต่อกันมีระหว่างคั่น ๑๒๓. สมเด็จ พระสัม มาสัม พุท ธเจ้า ทรง แสดงธรรมโปรดพุท ธมารดา บนสวรรค์ช ั้น ดาวดึง ส์ใ นพรรษาที่เ ท่า ไร ก. พรรษาที่ ๕ ข. พรรษาที่ ๗ ค. พรรษาที่ ๙ ง. พรรษาที่ ๑๑ ๑๒๔. เตโช ในมหาภูต รูป ๔ หมายถึง อะไร ก. รูปที่แข็งและอ่อน ข. รูปที่ไหลและเกาะกลุ่ม ค. รูปที่เย็น ร้อน ง. รูปที่หย่อน ตึง ๑๒๕. การจำา แนกขัน ธ์ ๕ ด้ว ยสุต ตัน ต ภาชนีย นัย มีก ารจัด ไว้อ ย่า งไร ก. รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ ข. เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ รูปขันธ์ ค. สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ รูปขันธ์ ง. นิโรธสัจจะ ๑๒๗. ข้อ ใดต่อ ไปนี้ไ ม่จ ด อยู่ใ นบุค คล ั ๙ จำา พวก ก. บุคคลผู้เป็นสัมมาสัมพุทธ ข. บุคคลผู้เป็นปัจเจกพุทธะ ค. บุคคลผู้เป็นอุภโตภาควิมุตตะ ง. บุคคลผู้เป็นสัตตักขัตตุปรมะ ๑๒๘. พระเจ้า อโศกมหาราช พระราชทานผ้า ขาวแก่พ วกเดีย รถี ให้ส ึก กี่ร ป ู ก. ๖๐,๐๐๐ รูป ข. ๗๐,๐๐๐ รูป ค. ๘๐,๐๐๐ รูป ง. ๙๐,๐๐๐ รูป ๑๒๙. พระไตรปิฎ กมีก ี่พ ระธรรมขัน ธ์ ก. ๙๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ข. ๘๕,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ค. ๘๖,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ง. ๘๗,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ๑๓๐. กุศ ลธรรมที่เ ป็น ปัจ จัย ให้เ กิด ใน ภูม ิท ั้ง ๓ เรีย กว่า อะไร ก. กามวจรกุล ข. อรุปาวจรกุศล ค. เตภูมิกุศล ง. โลกุตตรกุศล ๑๓๑. พระโมลคัล ลีบ ต รติส สเถระร่ว ม ุ กับ พระเจ้า อโศกมหาราช ส่ง สมณฑูล ไปประกาศพระพุท ธศาสนา ณ แคว้น โยนก ได้แ ก่ เปอร์เ ชีย ปัจ จุบ ัน คือ สมณทูต ผู้ใ ด ก. พระมหาธัมมรักขิตเถระ ข. พระมหารักขิตเถระ ค. พระธัมมรักขิตเถระ
  • 13. เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ ง. สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ ๑๒๖. ข้อ ใดให้ค วามหมายของคำา ว่า สงฺค โห อสงฺค โห ได้ถ ูก ต้อ ง ก. การสงเคราะห์ได้ การสงเคราะห์ไม่ได้ ข. การประกอบได้ การประกอบไม่ได้ ค. ธรรมที่สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยธรรมที่ สงเคราะห์ได้ ง. ธรรมที่สงเคราะห์ได้ด้วยธรรมที่ สงเคราะห์ไม่ได้ ๑๓๔. ข้อ ใดไม่จ ัด อยู่ใ นบัญ ญัต ิ ๖ ประการ ตามนัย ของอรรถกถา ในคำา ภีร ์ป ุค คลบัญ ญัต ิ ก. อุปาทาบัญญัติ ข. วิชชมานบัญญัติ ค. ตัชชาบัญญัติ ง. อุปนิธาบัญญัติ ๑๓๕. สารธรรมจากคัม ภีร ์ก ถาวัต ถุแ บ่ง ออกเป็น กี่เ รื่อ ง ก. ๑๕ เรื่อง ข. ๑๖ เรื่อง ค. ๑๗ เรื่อง ง. ๑๘ เรื่อง ๑๓๖. มูล ยมกว่า ด้ว ยสภาวธรรมทีเ ป็น ่ มูล มีก ห มวด ี่ ก. ๒ หมวด ข. ๓ หมวด ค. ๔ หมวด ง. ๕ หมวด ๑๓๗. ข้อ ใดไม่จ ด อยู่ใ นความหมาย ั ของคำา ว่า "อัต ถิป จ จัย " ั ก. อารัมมณาธิปติปัจจัย ข. อินทริยปัจจัย ค. อินทริยัตถิปัจจัย ง. พระรักขิตเถระ ๑๓๒. ข้อ ใดจัด อยูใ น "อกุศ ลราสีเ จตสิก ่ ๑๔ ดวง" ก. อัปปมัญญาเจตสิก ข. ปกิณณกเจตสิก ค. วีรตีเจตสิก ง. วิจิกิจฉาเจตสิก ๑๓๓. ข้อ ใดไม่จ ด อยู่ใ น "ผัส สสัต ตก ั ราสีอ ท เทส" ุ ก. ผัสสอุทเทส ง. จิตตอุทเทส ข. อธิโมกอุทเทส ค. ขันธาทิอุทเทส ๑๔๐. คำา ว่า อายตนะ แปลว่า อะไร ก. ที่ก่อ บ่อเกิด ข. ธรรมชาติที่ทรงไว้ซึ่งลักษณพะของตน ค. เป็นกลุ่ม ง. เห็นแจ้ง ๑๔๑. ปฏิว จนวิส ัช ชนา คือ อะไร ก. วิสัชชนาที่กล่าวคำาตอบตรงกันข้ามกับ คำาถาม ข. วิสัชชนาที่กล่าวห้ามคำาถาม ค. วิสัชชนากล่าวรับรององค์ธรรมของสัน นิฏฐานบท ง. วิสัชชนาที่กล่าวปฏิเสธสังสยบท ๑๔๑. ธัม มสัง คณีม ล ฎีก าว่า ด้ว ยฎีก า ู อธิบ ายอรรถกถาประเภทใด ก. อรรถกถาอัฏฐสาลินี ข. อรรถกถาสัมโมหวิโนทนี ค. อรรถกถาปัญจปกรณ์ ง. อรรถกถาธัมสังคณี ๑๔๒. ปฏิส นธิก าล คือ ช่ว งเวลาใด ก. ข. ค. ง. ช่วงระยะเวลาที่จิตถือปฏิสนธิ ช่วงระยะเวลาที่จิตหลังปฏิสนธิ ช่วงระยะเวลาที่จิตก่อนปฏิสนธิ ช่วงระยะเวลาที่จิตกำาลังจะปฏิสนธิ
  • 14. ง. ปัจฉาชาตปัจจัย ๑๓๘. ธัม มสัง คณี เป็น คัม ภีร ์แ รกของ พระอภิธ รรมปิฎ กเป็น คัม ภีร ์ ที่แ สดงหัว ข้อ ธรรมหรือ เนื้อ หาหลัก ของ พระอภิธ รรมปิฎ กมีช ื่อ เรีย กว่า อะไร ก. ทุกมาติกา ข. มาติกา ค. เอกกมาติกา ง. นวกมาติกา ๑๓๙. อิต ถิน ทรีย ์ ฯลฯ กวฬิง การาหาร หรือ รูป แม้อ ื่น ใดมีอ ยู่ใ นที่ ไม่ใ กล้ใ นที่ไ ม่ใ กล้ช ด ในทีไ กลในที่ ิ ่ ไม่ใ ช่ใ กล้ นี้เ รีย กว่า อะไร ก. รูปละเอียด ข. รูปประณีต ค. รูปทราม ง. รูปไกล ๑๔๖. ข้อ ใดมิใ ช่ว ิบ ากจิต ฝ่า ยโลกุต ตระ ๔ ก. โสดาปัตติผลจิต ข. สกทาคามิผลจิต ค. เสขบุคคลจิต ง. อนาคามิผลจิต ๑๔๗. ข้อ ใดมิใ ช่น ิก ายทีแ ยกออกจาก ่ นิก ายวัช ชีป ต ตกะ ๔ ุ ก. ธัมมุตตริยะ ข. สังกันติกะ ค. ฉันนาคาริกะ ง. สมิติยะ ๑๔๘. ข้อ ใดไม่ใ ช่อ กุศ ลมูล ๓ ก. โลภะ ๑๔๓. พระพุท ธพจน์ส มัย พระสาวกไป ประกาศพระศาสนากี่ร ูป ก. ๓๐ รูป ข. ๔๐ รูป ค. ๕๐ รูป ง. ๖๐ รูป ๑๔๔. วิป ัส สนาภูม ิท ี่พ ระพุท ธองค์ท รง แสดงไว้ม ี ๖ ภูม ิ คือ ขัน ธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ อิน ทรีย ์ ๒๒ อริย สัจ จะ ๔ ปฏิจ จสมุป บาท ๑๒ แต่เ มื่อ ย่อ ลงแล้ว ได้ เพีย ง ๒ คือ ระหว่า ง ก. กายกับเวทนา ข. นามกับรูป ค. รูปกับกาย ง. รูปกับเวทนา ๑๔๕. ข้อ ใดไม่ใ ช่เ หตุผ ลสำา คัญ ๕ ประการ ในการทำา สัง คายนาครั้ง ที่ ๑ ก. ปรับอาบัติพระอานนท์ให้แสดงอาบัติ ข. การลงพรหมทัณฑ์พระฉันทะ ค. การจัดพระธรรมวินัยเป็นหมวดหมู่ ง. การแตกแยกความคิด ๑๕๔. รูป อดีต คือ รูป อย่า งไร ก. รูปล่วงไปแล้ว ดับแล้ว ปราศไปแล้ว ข. รูปใดของสัตว์นั้น ๆ เองซึ่งมีในตน ค. รูปเกิดแล้ว เป็นแล้ว เกิดพร้อมแล้ว ง. รูปยังไม่เกิด ยังไม่เป็น ยังไม่เกิดพร้อม ๑๕๕. ธาตุแ ปลว่า อะไร ก. เห็นแจ้ง หรือเห็นอย่างวิเศษ ข. บ่อเกิดของธรรมชาติต่าง ๆ มีประสาท ตากับสี ค. ธรรมชาติที่ทรงไว้ซึ่งลักษณะของตน ง. เป็นกลุ่ม เป็นกองของธรรมชาติที่มี สภาพต่างกัน รวมกัน ๑๕๖. วิช ชมานนวิช ชมานบัญ ญัต ิ มี
  • 15. ข. โทสะ ค. โมหะ ง. อโลภะ ๑๔๙. สัพ พจิต ตสาธารณเจตสิก หมาย ถึง เจตสิก อย่า งไร ความหมายว่า อย่า งไร ก. การบัญญัติสภาวะธรรมที่มีอยู่จริง ข. การบัญญัติสิ่งสมมติ ค. การบัญญัติที่มีอยู่จริงร่วมกับสิ่งที่มิได้มี อยู่จริง ง. การบัญญัติที่มีอยู่จริงร่วมกับสิ่งที่มีอยู่ จริง ๑๕๗. หัต ถคตูป นิธ า มีค วามหมายว่า อย่า งไร ก. การบัญญัติโดยการเทียบเคียงกับสิ่งอื่น ข. การบัญญัติโดยอาศัยสิ่งที่อยู่ในมือ ค. การบัญญัติโดยอาศัยสิ่งที่ประดับติดตัว ก. เจตสิกที่ประกอบกับจิตทั่วไปทั้งหมด ข. เจตสิกที่ประกอบกับจิตดวงเดียว ค. เจตสิกที่ประกอบกับจิตสองดวง ง. เจตสิกที่ประกอบกับสิตสามดวง ๑๕๐. จินฺเตตีต ิ จิต ต ำ อารมฺม ณำ วิช านา ฺ ง. การบัญญัติโดยอาศัยสิ่งที่บรรจุ ตีต ิ อตฺโ ถฯ แปลว่า อะไร ก. ธรรมชาติใดย่อมน้อมไปหาอารมณ์ ๑๕๘. ยมกทีว ่า ด้ว ยหมวดจิต เรีย กว่า ่ ธรรมชาตินั้นชื่อว่ามโน อะไร ข. ธรรมชาติมีฉันทะที่มีใยใจนั่นเอง คือ มนัส ก. มูลยมก ค. ธรรมชาติใดนำาความไปเป็นของสัตว์ทั้ง หลายให้วิจต ิ ข. ธาตุยมก ธรรมนั้นชื่อว่าจิต ค. อายตนยมก ง. ธรรมชาติย่อมคิด ธรรมชาตินั้นย่อมชื่อ ว่าจิตมีอรรถ ง. จิตตายมก ๑๕๙. ในอภิธ รรมได้ม ีก ารแบ่ง ช่ว ง ว่าธรรมชาติที่รู้อารมณ์ คือ จิต ระยะเวลาของชีว ิต ออกเป็น กี่ช ว ง ่ ก. ๒ ช่วง วิปากปัจจัย และ ฌานปัจจัย ๑๕๒. โมหะ คือ อะไร ข. ๒ ช่วง วิปปยุตตปัจจัย และ อัตถิ ก. ธรรมชาติที่ไม่มีความละอายต่อทุจริต ปัจจัย ข. ธรรมชาติที่ไม่กลัวต่อทุจริต ค. ๒ ช่วง ปฏิสนธิกาล และ ปวัติกาล ค. ธรรมชาติที่บังสภาพความเป็นจริงของ อารมณ์ ง. ๒ ช่วง เหตุปัจจัย และ นิสสยปัจจัย ง. ธรรมชาติที่ฟุ้งซ่าน คือ รับอารมณ์ไม่ มั่น ๑๕๓. รูป อนาคตคือ รูป อย่า งไร ก. รูปล่วงไปแล้ว ดับแล้ว ปราศไปแล้ว ข. รูปใดของสัตว์นั้น ๆ เองซึ่งมีในตน ค. รูปเกิดแล้ว เป็นแล้ว เกิดพร้อมแล้ว ง. รูปยังไม่เกิด ยังไม่เป็น ยังไม่เกิดพร้อม ๑๖๐. ในมหาโคสิง คสูต ร มีค ำา สนทนา ๑๖๕. สรูป ทัส สวิส ัช ชนา มีก ี่อ ย่า ง ในเชิง ถามตอบระหว่า ง อะไรบ้า ง ก. ๒ อย่าง ปุริมโกฏฐาสะ กับ ปัจฉิม พระสารีบ ต รเถระกับ พระมหาโมคคัล าน ุ โกฏฐาสะ เถระ โดยพระสารีบ ุต รเถระ
  • 16. ถามพระโมคคัล ลานเถระว่า อย่า งไร และพระโมคคัล ลานตอบว่า อย่า งไร ก. พระธรรม ข. พระวินัย ค. พระอภิธรรม ง. พระสูตร ๑๖๑. อภิธ ัม มภาชนีย นัย มีค วามหมาย ว่า อย่า งไร ก. การจำาแนกตามกระบวนการแห่งพระ อภิธรรมปิฎกซึ่ง ไม่ได้คำานึงถึงเวลา สถานที่ หรือบุคคล ข. การนำาเอาติกะและทุกะจากคัมภีร์ธัมม สังคณีมาตั้งเป็น คำาถาม - คำาตอบ ค. การจำาแนกธรรมตามที่แสดงไว้แล้วใน พระสูตร ง. ลักษณะการอธิบายที่แตกต่างตามแนว พระอภิธรรม และแนวพระสูตร ๑๖๒. สุต ตัน ตภาชนีย นัย มีค วามหมาย ว่า อย่า งไร ก. การจำาแนกตามกระบวนการแห่งพระ อภิธรรมปิฎกซึ่ง ไม่ได้คำานึงถึงเวลา สถานที่ หรือบุคคล ข. การนำาเอาติกะและทุกะจากคัมภีร์ธัมม สังคณีมาตั้งเป็น คำาถาม - คำาตอบ ค. การจำาแนกธรรมตามที่แสดงไว้แล้วใน พระสูตร ง. ลักษณะการอธิบายที่แตกต่างตามแนว พระอภิธรรม และแนวพระสูตร ๑๖๓. วิป ัส สนาภูม ิ หมายถึง อะไร ก. จิต รูป วิญญาณ ข. ภูมหรือพื้นที่ หรือที่ตั้ง หรือกรรมฐาน ิ ค. รูปขันธ์ ง. ตัวตน ๑๖๔. มีน ิก ายแยกออกมาจากนิน ิก าย ข. ๒ อย่าง ธรรมหมวดแรก กับ ธรรม หมวดหลัง ค. ๒ อย่าง มีวิภังค์โดยตรง กับ วิภังค์ โดยอ้อม ง. ๒ อย่าง มีองค์ธรรมเหมือนกัน กับ มี องค์ธรรม เหมือกันและต่างกัน ๑๖๖. ปัจ จัย ธรรมคือ ธรรมอย่า งไร ก. ธรรมที่ไม่ได้ผล ข. ธรรมที่นอกจากผล ค. ธรรมที่เป็นผล ง. ธรรมที่เป็นเหตุ ๑๖๗. คัม ภีร ์ท ร วบรวมปรมัต ถธรรม ี่ ทัง หมดไว้เ ป็น หมวดหมู่ คือ ้ คัม ภีร ์ใ ด ก. วิภังค์ ข. ธมฺมสังคณี ค. กถาวัตถุ ง. ยมก ๑๖๘. ข้อ ใดไม่ไ ด้อ ยูใ นอกุศ ลจิต ทีใ ห้ ่ ่ ผลเป็น ทุก ข์ ก. จาคมูล ข. โลภมูล ค. โทสมูล ง. โมหมูล ๑๖๙. คำา ว่า อายตนะ แปลว่า ทีต ่อ บ่อ ่ เกิด ของธรรมต่า ง ๆ เมื่อ กล่า วตามอรรถอายตนะคือ อะไร ก. สภาพคล้ายผลของคนอื่น ข. สภาพคล้ายผลของตน ค. สภาพที่เป็นจริง ง. สภาพที่เหลืออยู่ ๑๗๐. พวกที่ม ค วามเห็น ว่า โลกมีท ี่ส ิ้น ี สุด ก็ม ี ไม่ม ท ี่ส ิ้น สุด ก็ม ี ี คือ พวกใด
  • 17. โคกุส ิก ะ กี่น ิก าย มีอ ะไรบ้า ง ก. มี ๒ นิกาย นิกายโคกุสิกะและนิกาย มหาสังฆิกะ ข. มี ๒ นิกาย นิกายโคกุสิกะและนิกาย เอกัพโยหาริกะ ค. มี ๒ นิกาย นิกายปัณณัตติวาทะและ นิกายมหิสาสกะ ง. มี ๒ นิกาย นิกายปัณณัตติวาทะและ นิกายพหุลิยะ (หรือพหุสสุติกะ) ๑๗๒. ปัญ ญา วิต ก วีร ตี, วิร ิย ะ สติ เอกัค คถา ทิฏ ฐิ จัด อยู่ใ นข้อ ใด ก. นามอินทรีย์ ข. องค์ฌาน ค. องค์มรรค ง. รูป ๑๗๓. ได้ม ีก ารรวบรวมและแยกพระ ไตรปิฏ กออกเป็น ๓ อย่า ง อย่า งสมบูร ณ์ค ือ พระวิน ัย ปิฎ ก พระสุ ตัน ตปิฎ ก และพระ อภิธ รรมปิฎ กในการทำา สัง คายนาครัง ที่ ้ เท่า ไร ก. ครั้งที่ ๑ ข. ครั้งที่ ๒ ค. ครั้งที่ ๓ ง. ครั้งที่ ๔ ๑๗๔. ในอรรถกถาปัญ จกรณ์ไ ด้แ สดง ความหมายของปัฏ ฐานไว้ก ี่น ัย ก. ๒ นัย ข. ๓ นัย ค. ๔ นัย ง. ๕ นัย ๑๗๕. เราเรีย กนิพ พานที่ไ ม่เ กี่ย วกับ ขัน ธ์ว า อย่า งไร ่ ก. อนุปาทิเสสนิพพาน ข. สุญญตนิพพาน ก. พวกสัสสตวาท ข. พวกเอกิจจสัสสตทิฏฐิ ค. อันตานันติกทิฏฐิ ง. อมราวิกเขปิกาทิฏฐิ ๑๗๑. ข้อ ใดไม่ไ ด้อ ยูใ นอุท เทสและนิท ่ เทสของขัน ธยมก ก. ปัณณัตติวาระ ค. ปริญญาวาระ ข. ปวัตติวาระ ง. ปัจจนีกนัย ๑๗๙. ธรรมที่เ ป็น อุป การะโดยอุด หนุน ซึง กัน และกัน ให้เ กิด ขึ้น ่ ชือ ว่า อะไร ่ ก. อัญญมีญญปัจจัย ข. สหชาตปัจจัย ค. สภาวะปัจจัย ง. ปฏิสนธิปัจจัย ๑๘๐. วาลิก ารามสถานอยู่ท ี่เ มือ งใด ก. เวสาลี ข. พาราณสี ค. ปาตลีบุต ง. ราชคฤห์ ๑๘๑. วิต ก วิจ าร ปีต ิ สุข เอกัค คตา อยูใ นหัว ข้อ ใด ่ ก. อรูปาวจรกุศล ข. รูปาวจรกุศล ค. กามาวจรกุศล ง. กุศลจิต ๑๘๒. โมหะอยู่ใ นหัว ข้อ ใด ก. โลหิตเจตสิก ข. โทจตุกเจตสิก ค. โมจตุกเจตสิก
  • 18. ค. อนิมิตตนิพพาน ง. อัปปณิหิตนิพพาน ๑๗๖. ปัญ ญิน ทรีย ์ม ท ั้ง หมดกีบ ท ี ่ ก. ๒ บท ข. ๓ บท ค. ๔ บท ง. ๕ บท ๑๗๗. ธาตุบ ัญ ญัต ิม ีก ี่อ ย่า ง ก. ๑๕ อย่าง ข. ๑๖ อย่าง ค. ๑๗ อย่าง ง. ๑๘ อย่าง ๑๗๘. หลัง พุท ธปริน ิพ พานมีพ ระอลัช ชี และนัก บวชของ พระพุท ธศาสนาที่ป ลอมบวชเป็น จำา นวน มากเพราะอะไร ก. เพราะลาภเป็นปัจจัย ง. ถูกทุกข้อ ข. เพราะยศและสรรเสริญเป็นปัจจัย ค. เพราะความนิยมว่าดีและมีชื่อเสียง ๑๘๖. บุค คลผู้เ ป็น กายสัก ขีอ ยู่ใ นบุค คล กี่จ ำา พวก ก. ๙ จำาพวก ข. ๑๐ จำาพวก ค. ๑๑ จำาพวก ง. ๑๒ จำาพวก ๑๘๗. บุค คล ๕ จำา พวก แบ่ง ออกเป็น กี่ กลุ่ม ก. ๑๕ กลุ่ม ข. ๑๖ กลุ่ม ค. ๑๗ กลุ่ม ง ๑๘ กลุ่ม ๑๘๘. จิต ๘๙ เจตสิก มีเ ท่า ไร ก. ๕๒ ข. ๕๓ ค. ๕๔ ง. ๕๕ ง. ถีทุกเจตสิก ๑๘๓. อัญ ญสมานารสีเ จตสิก ๑๓ ประกอบด้ว ยอะไรบ้า ง ก. วิริยะ อธิโมกข์ ข. อธิโมกข์ ค. วิจาร วิตก ง. อกุศลจิต อเหตุกจิต และโสภณจิต ๑๘๔. รูป ปรมัต ถ์ม ีก ี่ส ภาวะ ก. ๒๘ สภาวะ ข. ๒๙ สภาวะ ค. ๓๐ สภาวะ ง. ๓๑ สภาวะ ๑๘๕. วิญ ญาณ อดีต ปัจ จุบ ัน อนาคต อยูใ นข้อ ใด ่ ก. รูปขันธ์ ข. เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ ค. สังขานขันธ์ ง. วิญญาณขันธ์ ๑๙๓. อกุศ ลมูล ๓ คือ อะไรบ้า ง ก. โลภะ เวทนาขันธ์ โทสะ ข. โลภะ เวทนาขันธ์ โมหะ ค. โลภะ โทสะ โมหะ ง. โลภะ โทสะ โมหะ และ เวทนาขันธ์ ๑๙๔. นิพ พานมีก ี่อ ย่า ง ก. ๑ ข. ๒ ค. ๓ ง. ๔ ๑๙๕. วิญ ญาณขัน ธ์ห มวดละ ๑ คือ อะไร ก. วิญญาณขันธ์เป็นผัสสสัมปยุต ข. วิญญาณขันธ์เป็นโลกิยะ ค. วิญญาณขันธ์เป็นมาวจร ง. วิญญาณขันธ์เป็นอรูปาวจร
  • 19. ๑๘๙. กุศ ลจิต ๒๑ เจตสิก เท่า ไร ก. ๓๗ ข. ๓๘ ค. ๓๙ ง. ๔๐ ๑๙๐. องค์ม รรค ๙ มีอ ะไรบ้า ง ก. เวทนา สัทธา วิริยะ สติ เอกัคคตา ปัญญา ข. วิตก วิจาร ปีติ โสมนัส โทมนัส อุเบกขา เอกัคคตา ค. ปัญญา วิตก วิรติ ๓ วิริยะ สติ เอกั คคตา ทิฏฐิ ง. ปัญญา วิตก โสมนัส โทมนัส ๑๙๑. อรรถกถาอัฏ ฐสิน ีไ ด้แ ยกไปอีก เป็น กี่ส มัย ก. ๒ สมัย ข. ๓ สมัย ค. ๔ สมัย ง. ๕ สมัย ๑๙๒. พระไตรปิฎ กมีพ ระธรรมขัน ธ์ ทั้ง หมดกี่พ ระธรรมขัน ธ์ ก. ๔๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ข. ๕๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ค. ๗๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ง. ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ๒๐๐. มหาปัฏ ฐาน หมายถึง อะไร ก. ฐานที่ตั้งของความรู้ที่สำาคัญยิ่ง ข. ฐานที่มีอยู่ในความนัย ค. ฐานพระธรรมเทศนา ง. ฐานที่ตั้งไว้อยู่แล้ว ๒๐๑. คัม ภีร ์ช น ฎีก ามีค วามหมายว่า ั้ อย่า งไร ก. คัมภีร์ที่ไขความบาลี ข. พระวินัยปิฎก ค. คัมภีร์อรรถกถา ๑๙๖. ปญฺญ ตฺต ิ แปลว่า อะไร ก. บัญญัติ ข. บุคคล ค. สมมุติ ง. อายตนะ ๑๙๗. ภาคนิท เทสแบ่ง เป็น กี่น ิท เทส ก. ๙ นิทเทส ข. ๑๐ นิทเทส ค. ๑๑ นิทเทส ง. ๑๒ นิทเทส ๑๙๘. วิส ช ชนามีก ี่อ ย่า ง ั ก. ๑ อย่าง ข. ๒ อย่าง ค. ๔ อย่าง ง. ๕ อย่าง ๑๙๙. พวกสัส สตวาที คือ ผู้ม ีล ก ษณะ ั แบบใด ก. พวกที่มีความเห็นว่าบางอย่างเที่ยง ข. พวกที่มีความเห็นว่าโลกมีที่สิ้นสุดก็มี ค. ผู้มีวาทะว่าอัตตาและโลกเที่ยง ง. พวกที่มีความเห็นว่าวาระดิ้นได้ไม่ ตายตัว ๒๐๗. ปจฺจ ยโต อุป ฺป นฺน ำ ปจฺจ ยุป ฺป นฺน ำ ผลธรรมที่เ กิด จากปัจ จัย มีช ื่อ ว่า อย่า งไร ก. ปัจจัย ข. ปัจจนิก ค. ปัจจยุปขัน ง. ปัฏฐาน ๒๐๘. องค์ส มเด็จ พระสัม มาสัม พุท ธเจ้า ได้ท รงแสดงอภิธ รรมโปรด พระพุท ธมารดากับ ทั้ง เหล่า เทวดาโดย รวมเท่า ไร ก. ๗๐ โกฏิ
  • 20. ง. คัมภีร์ที่ไขความแห่งคัมภีร์อรรถกถา ๒๐๒. วาน แปลว่า อย่า งไร ก. เครื่องร้อยรัดหรือตัณหา ข. เครื่องสังฆทาน ค. เครื่องถักทอสาน ง. เครื่องทำาผ้าไหม ๒๐๓. ในการศึก ษาคัม ภีร ว ิภ ง ค์น ี้ ์ ั ต้อ งการให้ผ ศ ึก ษาในรายละเอีย ด ู้ เฉพาะในขัน ธ์ว ภ ัง ค์โ ดยนัย ทั้ง ๓ ิ ประการ คือ ก. ขันธ์ ธาตุ อินทรีย์ ข. รูป เวทนา สัญญา ค. วิภังค์ ปฏิจจสมุปบาท สัญญา ง. สุตตันนภาชนียนัย อภิธรรมภาชะนี วินัย ปัญหาปุจฉกนัย ๒๐๔. คำา ว่า ปุค คลบัญ ญัต ิ มาจากคำา บาลี ๒ คำา คือ ก. อาจิกขติและปุคคล ข. ปัญญเปติและปฏฐเปติ ค. ปุคฺคลและปญฺญตฺติ ง. ทสฺสนาและปุคฺคล ๒๐๕. คำา ว่า ปญฺญ ตฺต ิ แปลว่า อะไร ก. แสดง ข. การชี้แจง ค. บัญญัติ ง. กำาหนด ๒๐๖. ปฏิโ ลมาโรปนา หมายถึง อะไร ก. การตั้งอนุโลม ข. การยกอนุโลม ค. การตั้งปฏิโลม ง. การถึงปฏิโลม ๒๑๔. สัจ จบัญ ญัต ิม ี ๔ ประการ คือ อะไรบ้า ง ข. ๘๐ โกฏิ ค. ๔๐ โกฏิ ง. ๕๐ โกฏิ ๒๐๙. คัม ภีร ์ก ถาวัต ถุเ ป็น คัม ภีร ์ร วบรวม อะไร ก. เรื่องที่นำามาถามชี้ความเห็นผิด ข. การซักถาม ค. หลักคำาสอน ง. การโต้ตอบ ๒๑๐. ในการทำา สัง คายนาครัง ที่ ๑ ใคร ้ เป็น ประธานฝ่า ยสงฆ์ ก. พระมหากัสสปเถระ ข. พระอุบาลี ค. พระอานนท์ ง. พระฉันนะ ๒๑๑. อริย บุค คลว่า เปรีย บเหมือ นนัก รบ ทีก ล้า หาญและชนะ ่ สงครามอยู่ใ นบุค คลกี่จ ำา พวก ก. ๔ จำาพวก ข. ๕ จำาพวก ค. ๖ จำาพวก ง. ๗ จำาพวก ๒๑๒. พระโมคคัล ลีบ ต รได้ถ วายเทศนา ุ แก่ใ คร ก. พราหมณ์ ข. พระเจ้าอชาตศัตรู ค. พระเจ้าอโศกมหาราช ง. พระอลัชชี ๒๑๓. ธรรมที่ส ัม ปยุต ด้ว ยอวิช ชา ธรรม เหล่า นี้ช ื่อ ว่า เป็น ส่ว นแห่ง อะไร ก. อวิชชา ค. มรรค ข. วิชชา ง. ผล ๒๒๑. กุศ ลธรรมที่เ ป็น ปัจ จัย ให้เ กิด ใน อรูป ภูม ิเ รีย กว่า อะไร
  • 21. ก. ทุกขสัจจะ สมุทัยสัจจะ นิโรธสัจจะ มัคคสัจจะ ข. รูปสัจจะ เสียงสัจจะ กลิ่นสัจจะ รส สัจจะ ค. จักขุสัจจะ โสตะสัจจะ ฆานสัจจะ ชิวหาสัจจะ ง. ปฐวีสัจจะ วาโยสัจจะ อาโปสัจจะ เตโชสัจจะ ๒๑๕. คำา ว่า มูล หมายความว่า อะไร ก. ก่อน ข. ผล ค. เหตุ ง. หลัง ๒๑๖. ในปัจ จัย ๒๔ นี้ พระองค์ท รง แสดงความเป็น คู่ ๆ กัน มีก ี่ค ู่ ก. ๕ คู่ ข. ๓ คู่ ค. ๒ คู่ ง. ๑ คู่ ๒๑๗. ในตอนที่พ ระพุท ธองค์เ ทศนา อภิธ รรมโปรดพระมารดาบน ดาวดึง ส์เ มื่อ ร่า งกายต้อ งการอาหารทรง เนรมิต พุท ธนิม ิต ให้แ สดง ธรรมเทศนาแทน พระองค์ท รงเสด็จ บิณ ฑบาต ณ สถานทีใ ด ่ ก. กรุงสาวถี ข. กรุงพารานสี ค. กรุงเวสารี ง. อุตรกุรุทวีป ๒๑๘. ข้อ ใดไม่ใ ช่ล ัก ษณะ ๔ ประการ ของเจตสิก ปรมัต ถ์ ก. เอกุปฺบาท - เกิดพร้อมกันกับจิต ข. เอกนิโรจ - ดับพร้อมกันกับจิต ค. เอกาลมฺพน - มีอารมณ์อันเดียวกับจิต ง. ถีนะ - ธรรมชาติที่ทำาให้จิตเซื่องซึม ท้อถอยจากอารมณ์ ก. อรูปาวจรกุศล ข. กามาวจรกุศล ค. เตภูมิกกุศล ง. โลกุตตรกุศล ๒๒๒. ข้อ ใดให้ค วามหมาย อสงฺค หหิ เตน สงฺค หิต ำ ได้ถ ูก ต้อ ง ก. ธรรมที่สงเคราะห์ได้ด้วยธรรมที่ สงเคราะห์ไม่ได้ ข. ธรรมที่สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยธรรมที่ สงเคราะห์ได้ ค. ธรรมที่ประกอบได้ด้วยธรรมที่ประกอบ ได้ ง. ธรรมที่ประกอบได้ด้วยธรรมที่ประกอบ ไม่ได้ ๒๒๓. เมื่อ นับ พระสูต รหรือ หลัก ธรรมใน คัม ภีร ์ก ถาวัต ถุแ ล้ว ได้ก ี่ส ูต ร ก. ๕๐๐ สูตร ข. ๑,๐๐๐ สูตร ค. ๑,๕๐๐ สูตร ง. ๒,๐๐๐ สูตร ๒๒๔. การทำา สัง คายนาครั้ง ที่ ๑ มีพ ระ อรหัน ต์ก ี่ร ูป เป็น องค์ป ระชุม ก. ๔๐๐ รูป ข. ๕๐๐ รูป ค. ๗๐๐ รูป ง. ๙๐๐ รูป ๒๒๕. การแบ่ง ประเภทแห่ง มาติก าโดย ธรรมได้ก ี่อ ย่า ง ก. ๑ อย่าง ข. ๒ อย่าง ค. ๓ อย่าง ง. ๔ อย่าง ๒๒๖. ในทิฏ ฐธรรมหรือ นิพ พานปัจ จุบ ัน นี้เ ป็น ธรรมอย่า งยิ่ง ของ สัต ว์ด ว ยเหตุก ป ระการ ้ ี่
  • 22. ๒๑๙. หมวดใดจัด อยูใ นองค์ธ รรมที่เ ป็น ่ เนื้อ หาของมูล ยมก ก. หมวดกุศลบท ข. หมวดอกุศลบท ค. หมวดอัพยากตบท ง. ถูกทุกข้อ ๒๒๐. พระโมคคัล ลีบ ุต รติส สาเถระร่ว ม กับ พระเจ้า อโศกมหาราช ได้ส ่ง สมณทูต ไปประกาศพระพุท ธ ศาสนาในต่า งประเทศต่า ง ๆ รวมกี่ส าย ก. ๖ สาย ค. ๘ สาย ข. ๗ สาย ง. ๙ สาย ๒๒๘. พระอภิธ รรมเกิด ขึ้น เมื่อ ใด ก. เกิดพร้อมกับการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ข. เกิดพร้อมกับมีพระรัตนตรัยครบ ค. เกิดพร้อมกับพระพุทธเจ้าปรินิพพาน ง. เกิดพร้อมกับพระสารีบุตรสำาเร็จอรหันต ผล ๒๒๙. ใน กุส ลา ธมฺม า จงจัด ลำา ดับ ให้ ถูก ต้อ ง ๑. กุศลธรรม ที่นำาไปเกิดในภูมิ ๓ เรียกว่า เตภูมิกุศล ๒. กุศลธรรม ที่เป็นปัจจัยให้เกิดในรูปภูมิ เรียกว่า รูปาวจรกุศล ๓. กุศลธรรม ที่เป็นปัจจัยให้เกิดในกาม ภูมิ เรียกว่า กามาวจรกุศล ๔. กุศลธรรม ที่เป็นปัจจัยให้เกิดในอรูป ภูมิ เรียกว่า อรูปาวจรกุศล ก. ๑, ๒, ๓, ๔ ค. ๔, ๒, ๑, ๓ ข. ๓, ๒, ๔, ๑ ง. ๔, ๓, ๒, ๑ ๒๓๐.ว่า ด้ว ยหมวดบุค คลที่ ๙ จำา พวก คือ ก. บุคคลที่เป็น สัตตัก ขัตตุปรมะ ข. บุคคลที่เป็น อุกโต ภาควิมุตตะ ก. ๓ ประการ ข. ๔ ประการ ค. ๕ ประการ ง. ๖ ประการ ๒๒๗. ในทุก ะนี้แ บ่ง ออกเป็น ๑๓ หมวด รวมกี่ท ุก ะ ก. ๙๙ ทุกะ ข. ๑๐๐ ทุกะ ค. ๑๐๑ ทุกะ ง. ๑๐๒ ทุกะ ๒๓๔. ปฏิป ัน นะบุค คล คือ บุค คลเช่น ไร ก. บุคคลผู้ทำาอนันตริยกรรม ๕ ข. บุคคลผู้พร้อมด้วยมรรค ๔ ค. บุคคลผู้ประกอบด้วยเครื่องกั้นธรรม ง. บุคคลผู้หาได้ยากในโลก ๒ จำาพวก ๒๓๕. คำา ว่า สรุป ทัส สนวิส ช ชนา มี ๒ ั อย่า งตรงกับข้อใด ก. วิภังค์โดยอ้อม ข. วิภังค์โดยตรง ค. วิภังค์โดยอ้อม โดยตรง ง. ถูกทุกข้อ ๒๓๖. เจตสิก แปลว่า ธรรมทีม ีใ นจิต หรือ ่ อาศัย จิต เกิด มีล ัก ษณะกี่ป ระการ ก. ๔ ประการ ข. ๕ ประการ ค. ๖ ประการ ง. ๗ ประการ ๒๓๗. คำา ว่า วิป ัส สนา แปลว่า อย่า งไร ก. ธรรมชาติที่ทรงไว้ซึ่งลักษณะของตน
  • 23. ค. บุคคลที่เป็น สกคามีล ง. บุคคลผู้สำาเร็จเป็นอรหันต์ ใน อัตภาพ นี้ ๒๓๑. ท่า นหยัง เห็น บุค คลในกาลทัง ่ ้ ปวง หรือ คำา ว่า กาลทั้ง ปวง ภพ ชาติใ ด ก. ภพชาติต่าง ๆ ข. ชาติที่มาก่อน ค. ชาติที่มาทีหลัง ง. ถูกทุกข้อ ๒๓๒. ปัจ จยุท เทส นับ ทีท รงแสดง ่ ปัจ จัย สภาวธรรมทีช ่ว ย ่ อุป การะโดยความติด ต่อ กัน ไม่ม ีร ะหว่า ง คั่น ตรงกับ ข้อ ใด ก. สหชาตปจิจโย ข. อุปนิสสยปจฺจโย ค. อนนฺตรปจฺจโย ง. อญฺญปญฺปจฺจโย ๒๓๓. คำา ว่า ธรรมหมวดแรกหรือ ส่ว น แรกมีค วามหมายตรงกับ ข้อ ใด ก. ข. ค. ง. ปัจฉิมโกฏฐาสะ ปริมโกฏฐาสะ ปัจฉาปัญหา ปุเรปัญหา ๒๔๑. พระพุท ธเจ้า ทรงแสดงสัจ ธรรม อัน นำา มาซึ่ง ประโยชน์เ ป็น อเนกปราการในบรรดาสัจ ธรรมเหล่า นั้น รวมถึง พระอภิธ รรมปิฎ ก ท่า นจำา แนกสัจ จะธรรมออกเป็น ๒ ประการ อะไรบ้า ง ก. ปารมีสัจจะและอุปปารมีสัจจะ ข. ปรมัตถสัจจะและอมตะสัจจะ ค. ปรมัตถสัจจะและสมมุติสัจจะ ง. สมมุติสัจตจะและปารมีสัจจะ ๒๔๒. พระเจ้า อโศกมหาราชได้ต รัส ถามพระเถระว่า การที่อ ำา มาตย์ ข. ตอหรือบ่อเกิดแห่งธรรมต่าง ๆ ค. กลุ่มหรือกองของธรรมชาติ ง. เห็นแจ้งหรือเห็นอย่างวิเศษ ๒๓๘. บุค คลผู้เ ป็น โครตภูค อ บุค คลเช่น ื ไร ก. ผู้ไม่มีศรัทธา ข. ผู้มีปัญญาทราม ค. บุคคลผู้ก้าวลงสู่อริยธรรมแห่งสภาว ธรรมและ ประกอบด้วยธรรมนั้น ง. บุคคลผู้มีเครื่องกั้นคือกรรม ๒๓๙. พวก สัส สตว่า ที่ คือ พวกที่ม ี ความคิด เห็น อย่า งไร ก. ผู้มีวาทะว่าอัตตาและโลกเที่ยง ข. ผู้มีความเห็นว่าบางอย่างเที่ยง ค. พวกที่เห็นว่าโลกมีที่สิ้นสุด ง. พวกที่เห็นว่ามีวาทะดิ้นได้ไม่ตายตัว ๒๔๐. จิน ฺเ ตตีต ิ จิต ตำ อารมฺม ณำ วิช า นาตีต ิ อตฺโ ถ แปลว่า ธรรมชาติใ ดย่อ มคิด ธรรมชาติน ั้น ชื่อ ว่า จิต มีอ รรถาธิบ ายว่า อย่า งไร ก. รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ข. ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ค. ธรรมชาติที่รู้อารมณ์ คือจิต ง. คนเหล่าใดสำารวมจิต คนเหล่านั้นจักพร้อม จากเครื่องผูกแห่งมาร ๒๔๗. กัณ ฑ์ท ี่แ สดงเรื่อ งรูป อย่า งพิส ดาร หรือ รูป วิภ ัต ติ (การจำา แนกรูป ) คือ กัณ ฑ์ช นิด ใดต่อ ไปนี้ ก. จิตตุปปาทกัณฑ์ ข. รูปกัณฑ์ ค. นิกเขปกัณฑ์ ง. อัฏฐกถากัณฑ์ ๒๔๘. การบัญ ญัต โ ดยอาศัย สิ่ง อื่น เช่น ิ การบัญ ญัต ิท ศ ตะวัน ออก ิ ตรงกับ บัญ ญัต ข ้อ ใด ิ
  • 24. ได้ต ด ศีร ษะพระภิก ษุเ หล่า นั้น จะทำา ให้ ั บาปตรามาถึง พระองค์ หรือ ไม่ พระเถระถวายวิส ช ชนาว่า จะ ั เป็น บาปก็ต ่อ เมื่อ พระองค์ เจตนาทีจ ะฆ่า เท่า นั้น อยากทราบว่า เป็น ่ คำา วิส ัช ชนาของพระเถระ รูป ใด ก. พระสารีบุตรเถระ ข. พระอานนท์เถระ ค. พระอุบาลีเถระ ง. พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ ๒๔๓. อนัน ตรชาติป ระกอบไปด้ว ย ๗ ปัจ จัย ในคำา ตอบข้า งล่า งนี้ อยากทราบว่า คำา ตอบข้อ ใดไม่ใ ช่ป ัจ จัย ที่เ ป็น อนัน ตรชาติ ก. สหชาติปัจจัย ข. อนันตรปัจจัย ค. วิคตปัจจัย ง. อนันตรุปนิสสยปัจจัย ๒๔๔. ในการทำา สัง คายนาครั้ง ที่ ๓ มี การจารึก พระไตรปิฎ กลงใน หิน อ่อ นจำา นวนกีแ ผ่น และจารึก ที่เ มือ ง ่ ใด ก. ๗๒๖ แผ่น เมืองเวสาลี ข. ๗๒๗ แผ่น เมืองปาตลีบุตร ค. ๗๒๘ แผ่น เมืองอุชเชนี ง. ๗๒๙. แผ่น เมืองมันดาล ๒๔๕. สมัย แยกตัว จากพระสูต รอย่า งชัด แจ้ง ข้อ ความนี้ค ือ การแบ่ง พระอภิธ รรมปิฎ กสมัย ใด ก. สมัยที่ ๑ ข. สมัยที่ ๒ ค. สมัยที่ ๓ ง. สมัยที่ ๔ ๒๔๖. รูป ที่ม ีส ภาพใสสามารถรับ อารมณ์ข องตนได้ค ือ รูป ใด ก. วิสัยรูป ๔/๗ ค. ภาว รูป ๒ ก. อุปาทาบัญญัติ ข. อุปนิธาบัญญัติ ค. สโมทานบัญญัติ ง. สันตติบัญญัติ ๒๔๙. ข้อ ใดไม่ไ ด้จ ด อยู่ใ นโลกุต ตรจิต ั ก. จิตอันเป็นกุศลอันเนื่องด้วยโสดาปัตติ มรรค ข. จิตที่เกิดพร้อมด้วยความดี ค. จิตอันเป็นกุศลอันเนื่องด้วยอนาคามิ มรรค ง. จิตอันเป็นกุศลอันเนื่องด้วยอรหัตตมรรค ๒๕๐. ข้อ ใดกล่า วถูก ต้อ งเกี่ย วกับ ธรรม ทีเ ป็น เหตุใ ห้เ กิด รูป ่ สมุฏ ฐาน ๔ ก. กรรม จิต อุตุ อาหาร ข. กรรม อุตุ กาย จิต ค. อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค จิต ง. กรรม วาจา กาย อุตุ ๒๕๑. ข้อ ใดไม่ใ ด้จ ด อยู่ใ นธาตุ ๑๘ ั ประการ ก. จักขุธาตุ ข. มนายตนะ ค. รูปธาตุ ง. รสธาตุ ๒๕๒. วิช ชมานบัญ ญัต ิ หมายถึง ก. บัญญัติสิ่งสมมุติ ข. บัญญัติที่มิได้มีอยู่จริง ค. การบัญญัติสิ่งที่มีอยู่จริงร่วมกับสิ่งที่มิได้ มีอยู่จริง ง. การบัญญัติสภาวธรรมที่มีอยู่จริง ๒๕๓. ข้อ ใดมิใ ช่ล ัก ษณะ ๔ ประการ ของเจตสิก ปรมัต ถ์ ก. เอกุปฺปาท ง. ผัสสะ ข. เอกนิโรธ