Soumettre la recherche
Mettre en ligne
แสงและทัศน์ปกรณ์
•
11 j'aime
•
36,339 vues
Chakkrawut Mueangkhon
Suivre
แสงและทัศน์ปกรณ์
Lire moins
Lire la suite
Formation
Signaler
Partager
Signaler
Partager
1 sur 42
Télécharger maintenant
Télécharger pour lire hors ligne
Recommandé
เรื่องที่13แสง
เรื่องที่13แสง
Apinya Phuadsing
แสงเชิงฟิสิกส์
แสงเชิงฟิสิกส์
Chakkrawut Mueangkhon
เรื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์
เรื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์
Apinya Phuadsing
o net-2552
o net-2552
Wijitta DevilTeacher
Physics atom part 4
Physics atom part 4
Wijitta DevilTeacher
การต่อตัวเก็บประจุไฟฟ้า
การต่อตัวเก็บประจุไฟฟ้า
นายสมพร เหล่าทองสาร โรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
ใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสง
พัน พัน
เรื่องที่ 15 ไฟฟ้าสถิตย์
เรื่องที่ 15 ไฟฟ้าสถิตย์
thanakit553
Recommandé
เรื่องที่13แสง
เรื่องที่13แสง
Apinya Phuadsing
แสงเชิงฟิสิกส์
แสงเชิงฟิสิกส์
Chakkrawut Mueangkhon
เรื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์
เรื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์
Apinya Phuadsing
o net-2552
o net-2552
Wijitta DevilTeacher
Physics atom part 4
Physics atom part 4
Wijitta DevilTeacher
การต่อตัวเก็บประจุไฟฟ้า
การต่อตัวเก็บประจุไฟฟ้า
นายสมพร เหล่าทองสาร โรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
ใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสง
พัน พัน
เรื่องที่ 15 ไฟฟ้าสถิตย์
เรื่องที่ 15 ไฟฟ้าสถิตย์
thanakit553
กำหนดการ ค่าย
กำหนดการ ค่าย
phunbuppha jinawong
โมเมนต์ของแรง
โมเมนต์ของแรง
rutchaneechoomking
แบบทดสอบคลื่น
แบบทดสอบคลื่น
rumpin
ใบงานเรื่อง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ใบงานเรื่อง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
Worrachet Boonyong
เอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียง
เอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียง
Wijitta DevilTeacher
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
Wijitta DevilTeacher
Ep05 การเคลื่อนที่แนวตรง01 อัตราเร็ว และความเร็ว (v คงที่)
Ep05 การเคลื่อนที่แนวตรง01 อัตราเร็ว และความเร็ว (v คงที่)
wiriya kosit
บทที่ 2 แสง ม.2
บทที่ 2 แสง ม.2
Wichai Likitponrak
01แบบฝึกแรงและงาน
01แบบฝึกแรงและงาน
Phanuwat Somvongs
อัตราเร็ว (Speed)
อัตราเร็ว (Speed)
นายสมพร เหล่าทองสาร โรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
SunanthaIamprasert
เฉลยใบงานการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง
เฉลยใบงานการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง
เรียนฟิสิกส์กับครูเอ็ม Miphukham
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
Thaweekoon Intharachai
แม่เหล็กและแรงแม่เหล็ก
แม่เหล็กและแรงแม่เหล็ก
Sakad Rinrith
การหักเหของแสง
การหักเหของแสง
พัน พัน
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
dnavaroj
ชุดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ วงจรไฟฟ้ามหาสนุก
ชุดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ วงจรไฟฟ้ามหาสนุก
Suparat2804
เสียงกับการได้ยิน
เสียงกับการได้ยิน
krubenjamat
Light[1]
Light[1]
รุ่งรัตน์ คงใจมั่น
เอกสารประกอบการเรียนฟิสิกส์ม.6.1.52
เอกสารประกอบการเรียนฟิสิกส์ม.6.1.52
krukrajeab
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
Chakkrawut Mueangkhon
ไฟฟ้าสถิต
ไฟฟ้าสถิต
Chakkrawut Mueangkhon
Contenu connexe
Tendances
กำหนดการ ค่าย
กำหนดการ ค่าย
phunbuppha jinawong
โมเมนต์ของแรง
โมเมนต์ของแรง
rutchaneechoomking
แบบทดสอบคลื่น
แบบทดสอบคลื่น
rumpin
ใบงานเรื่อง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ใบงานเรื่อง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
Worrachet Boonyong
เอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียง
เอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียง
Wijitta DevilTeacher
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
Wijitta DevilTeacher
Ep05 การเคลื่อนที่แนวตรง01 อัตราเร็ว และความเร็ว (v คงที่)
Ep05 การเคลื่อนที่แนวตรง01 อัตราเร็ว และความเร็ว (v คงที่)
wiriya kosit
บทที่ 2 แสง ม.2
บทที่ 2 แสง ม.2
Wichai Likitponrak
01แบบฝึกแรงและงาน
01แบบฝึกแรงและงาน
Phanuwat Somvongs
อัตราเร็ว (Speed)
อัตราเร็ว (Speed)
นายสมพร เหล่าทองสาร โรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
SunanthaIamprasert
เฉลยใบงานการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง
เฉลยใบงานการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง
เรียนฟิสิกส์กับครูเอ็ม Miphukham
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
Thaweekoon Intharachai
แม่เหล็กและแรงแม่เหล็ก
แม่เหล็กและแรงแม่เหล็ก
Sakad Rinrith
การหักเหของแสง
การหักเหของแสง
พัน พัน
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
dnavaroj
ชุดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ วงจรไฟฟ้ามหาสนุก
ชุดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ วงจรไฟฟ้ามหาสนุก
Suparat2804
เสียงกับการได้ยิน
เสียงกับการได้ยิน
krubenjamat
Light[1]
Light[1]
รุ่งรัตน์ คงใจมั่น
เอกสารประกอบการเรียนฟิสิกส์ม.6.1.52
เอกสารประกอบการเรียนฟิสิกส์ม.6.1.52
krukrajeab
Tendances
(20)
กำหนดการ ค่าย
กำหนดการ ค่าย
โมเมนต์ของแรง
โมเมนต์ของแรง
แบบทดสอบคลื่น
แบบทดสอบคลื่น
ใบงานเรื่อง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ใบงานเรื่อง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียง
เอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียง
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
Ep05 การเคลื่อนที่แนวตรง01 อัตราเร็ว และความเร็ว (v คงที่)
Ep05 การเคลื่อนที่แนวตรง01 อัตราเร็ว และความเร็ว (v คงที่)
บทที่ 2 แสง ม.2
บทที่ 2 แสง ม.2
01แบบฝึกแรงและงาน
01แบบฝึกแรงและงาน
อัตราเร็ว (Speed)
อัตราเร็ว (Speed)
การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
เฉลยใบงานการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง
เฉลยใบงานการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
แม่เหล็กและแรงแม่เหล็ก
แม่เหล็กและแรงแม่เหล็ก
การหักเหของแสง
การหักเหของแสง
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
ชุดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ วงจรไฟฟ้ามหาสนุก
ชุดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ วงจรไฟฟ้ามหาสนุก
เสียงกับการได้ยิน
เสียงกับการได้ยิน
Light[1]
Light[1]
เอกสารประกอบการเรียนฟิสิกส์ม.6.1.52
เอกสารประกอบการเรียนฟิสิกส์ม.6.1.52
En vedette
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
Chakkrawut Mueangkhon
ไฟฟ้าสถิต
ไฟฟ้าสถิต
Chakkrawut Mueangkhon
งานพลังงาน
งานพลังงาน
Chakkrawut Mueangkhon
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
Chakkrawut Mueangkhon
เสียง
เสียง
Chakkrawut Mueangkhon
การคำนวณกระจกเว้า
การคำนวณกระจกเว้า
sripai52
งานและพลังงาน
งานและพลังงาน
Aon Sujeeporn
P05
P05
วิทวัฒน์ สีลาด
ของไหล
ของไหล
Chakkrawut Mueangkhon
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
Chakkrawut Mueangkhon
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่
Chakkrawut Mueangkhon
โมเมนตัม
โมเมนตัม
Chakkrawut Mueangkhon
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
Chakkrawut Mueangkhon
อิเล็กทรอนิกส์
อิเล็กทรอนิกส์
Chakkrawut Mueangkhon
บทนำ
บทนำ
Chakkrawut Mueangkhon
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
Chakkrawut Mueangkhon
ของไหล
ของไหล
Chakkrawut Mueangkhon
สมดุลและสภาพยืดหยุ่น
สมดุลและสภาพยืดหยุ่น
Chakkrawut Mueangkhon
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่
Chakkrawut Mueangkhon
ฟิสิกส์อะตอม
ฟิสิกส์อะตอม
Chakkrawut Mueangkhon
En vedette
(20)
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
ไฟฟ้าสถิต
ไฟฟ้าสถิต
งานพลังงาน
งานพลังงาน
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
เสียง
เสียง
การคำนวณกระจกเว้า
การคำนวณกระจกเว้า
งานและพลังงาน
งานและพลังงาน
P05
P05
ของไหล
ของไหล
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่
โมเมนตัม
โมเมนตัม
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
อิเล็กทรอนิกส์
อิเล็กทรอนิกส์
บทนำ
บทนำ
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
ของไหล
ของไหล
สมดุลและสภาพยืดหยุ่น
สมดุลและสภาพยืดหยุ่น
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่
ฟิสิกส์อะตอม
ฟิสิกส์อะตอม
Similaire à แสงและทัศน์ปกรณ์
การสะท้อนและการหักเหของแสง
การสะท้อนและการหักเหของแสง
พัน พัน
นำเสนอแสงปี56
นำเสนอแสงปี56
จุฑาทิพย์ รักษ์ศรี
13.แสง
13.แสง
Kruanek007
เรื่องที่ 13 แสง
เรื่องที่ 13 แสง
thanakit553
13.แสง
13.แสง
Kruanek007
P13
P13
วิทวัฒน์ สีลาด
แสง และการมองเห็น
แสง และการมองเห็น
ชิตชัย โพธิ์ประภา
Lesson13
Lesson13
saiyok07
148
148
1332541
ชีววิทยา เรื่อง กล้องจุลทรรศน์ " Microscope"
ชีววิทยา เรื่อง กล้องจุลทรรศน์ " Microscope"
kasidid20309
ประวัติกล้อง
ประวัติกล้อง
Kru_sawang
Electron microscope
Electron microscope
โรงเรียนบ่อไร่วิทยาคม
P19
P19
วิทวัฒน์ สีลาด
เรื่องที่ 19 ฟิสิกส์อะตอม
เรื่องที่ 19 ฟิสิกส์อะตอม
thanakit553
บทที่ 13 แสงและทัศนูปกรณ์
บทที่ 13 แสงและทัศนูปกรณ์
parinya
1
1
Kusuma Pak
9789740330196
9789740330196
CUPress
แสงและการมองเห็น
แสงและการมองเห็น
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
สมบัติของคลื่น(แจน14.12.54)นำเสนอ
สมบัติของคลื่น(แจน14.12.54)นำเสนอ
wattumplavittayacom
ดงมะไฟพิทยาคม แสง
ดงมะไฟพิทยาคม แสง
nang_phy29
Similaire à แสงและทัศน์ปกรณ์
(20)
การสะท้อนและการหักเหของแสง
การสะท้อนและการหักเหของแสง
นำเสนอแสงปี56
นำเสนอแสงปี56
13.แสง
13.แสง
เรื่องที่ 13 แสง
เรื่องที่ 13 แสง
13.แสง
13.แสง
P13
P13
แสง และการมองเห็น
แสง และการมองเห็น
Lesson13
Lesson13
148
148
ชีววิทยา เรื่อง กล้องจุลทรรศน์ " Microscope"
ชีววิทยา เรื่อง กล้องจุลทรรศน์ " Microscope"
ประวัติกล้อง
ประวัติกล้อง
Electron microscope
Electron microscope
P19
P19
เรื่องที่ 19 ฟิสิกส์อะตอม
เรื่องที่ 19 ฟิสิกส์อะตอม
บทที่ 13 แสงและทัศนูปกรณ์
บทที่ 13 แสงและทัศนูปกรณ์
1
1
9789740330196
9789740330196
แสงและการมองเห็น
แสงและการมองเห็น
สมบัติของคลื่น(แจน14.12.54)นำเสนอ
สมบัติของคลื่น(แจน14.12.54)นำเสนอ
ดงมะไฟพิทยาคม แสง
ดงมะไฟพิทยาคม แสง
Plus de Chakkrawut Mueangkhon
คลื่นกล
คลื่นกล
Chakkrawut Mueangkhon
กฎของคูลอมป์
กฎของคูลอมป์
Chakkrawut Mueangkhon
ตัวเก็บประจุและประจุไฟฟ้า
ตัวเก็บประจุและประจุไฟฟ้า
Chakkrawut Mueangkhon
Akaranee
Akaranee
Chakkrawut Mueangkhon
568
568
Chakkrawut Mueangkhon
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
Chakkrawut Mueangkhon
ความร้อน
ความร้อน
Chakkrawut Mueangkhon
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
Chakkrawut Mueangkhon
heat
heat
Chakkrawut Mueangkhon
fluid
fluid
Chakkrawut Mueangkhon
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
Chakkrawut Mueangkhon
Plus de Chakkrawut Mueangkhon
(11)
คลื่นกล
คลื่นกล
กฎของคูลอมป์
กฎของคูลอมป์
ตัวเก็บประจุและประจุไฟฟ้า
ตัวเก็บประจุและประจุไฟฟ้า
Akaranee
Akaranee
568
568
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ความร้อน
ความร้อน
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
heat
heat
fluid
fluid
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
แสงและทัศน์ปกรณ์
1.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ ฟ สิ ก ส บทที่ 14 แสงและทั ศ น อุ ป กรณ ตอนที่ 1 การเคลือนทีของแสง ่ ่ แสงเปนคลื่นตามขวางชนิดหนึ่ง แสงจะเดินทางเปน เสนตรง ทศทางของแสงเราอาจใชเ สนตรงแทนได เรียก ิ เสนตรงนีวา รังสีของแสง ความเร็วแสงในบรรยากาศเทา ้ กับ 3x108 เมตรตอวนาที แตในตัวกลางตางชนิดกัน ิ ความเร็วของแสงอาจมีคาไมเทากันได 1. กําหนดความเร็วแสงในสุญญากาศมีคาเทากับ 3x108 เมตรตอวนาที ดังนั้นในเวลา 1 ป ิ แสงจะเคลื่อนที่ไดระยะทางกี่เมตร ( 9.46x1015 เมตร ) วธทา ิี ํ 2. กําหนดความเร็วแสงในสุญญากาศมีคาเทากับ 3x108 เมตรตอวนาที ดังนั้นในเวลา 1 นาที ิ แสงจะเคลื่อนที่ไดระยะทางกี่เมตร ( 1.8 x 1010 ) วธทา ิี ํ ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦ ตอนที่ 2 การสะทอนแสง 2.1 กฏการสะทอนของแสง เมื่อยิงแสงไปตกกระทบผิววัตถุใดๆ เสนปกติ รังสีตกกระทบ รังสีสะทอน แสงมักสะทอนออกจากวัตถุนั้นได กฎการสะทอน มีดังนี้ มุมตก มุมสะทอน 1. รังสีตกกระทบ รังสีสะทอน ″1 ″2 เสนปกติอยูในระนาบเดียวกัน 2. มุมตกกระทบเทากับมุมสะทอน 53
2.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ ขอควรรูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสะทอนแสง แสงสะทอน 1. ถารังสีตกกระทบตั้งฉากกับผิววัตถุ แสงตกกระทบ รงสสะทอนจะสะทอนยอนแนวเดมออกมาโดยตลอด ั ี ิ 2. หากรังสีสะทอนอยางนอย 2 เสน มาตัดกัน จะเกิด ภาพของวัตถุตนกําเนิดแสงขึ้น ณ จดตดนน ุ ั ้ั ระยะจากวัตถุสูจุดสะทอน เรียก ระยะวัตถุ (S) ระยะจากภาพสูจุดสะทอน เรียก ระยะภาพ (Sℑ) และ กําลังขยาย (m) = Sℑ S ∴ Yℑ Y ระยะภาพ Sℑ เมือ Yℑ = ขนาดภาพ ่ Y = ขนาดวัตถุ ระยะวัตถุ S 3. จงเตมคาลงในชองวางใหถกตอง ิ ํ ู ภาพของวตถตนกาเนดแสงจะเกดเมอ ................................ ั ุ ํ ิ ิ ่ื ระยะวัตถุ (S) คอ .............................................................. ื ระยะภาพ (Sℑ) คอ ............................................................ ื กําลังขยาย (m) หาคาไดจาก ............................................. 2.2 กระจก โดยทวไปมี 2 ชนด ่ั ิ 1. กระจกราบ 2. กระจกโคง ไดแก โคงเวา และโคงนน ู หลัง 4 นา กระจกเวา กระจกนูน กระจกราบ 54
3.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ การสะทอนกระจกผิวราบ รังสีทสะทอนออกมาจากกระจกราบนัน ่ี ้ จะไมตดกนจงไมเ กดภาพจรงขน แตถาเรา ั ั ึ ิ ิ ้ึ ตอแนวรังสีถอยออกไปขางหลังกระจก จะ พบวาเสนสมมตทตอออกไปน้ี จะไปตด ิ ่ี ั กนไดทจดจดหนง การตดกนของเสน ั ่ี ุ ุ ่ึ ั ั สมมติน้ี จะทาใหเ กดภาพหลงกระจก เรยก ํ ิ ั ี ภาพนีวา ภาพเสมือน ้ และสําหรับกรณีน้ี S = Sℑ และ y = yℑ เสมอ ดงนน ั ้ั m = Sℑ = 1 S 4. ภาพทีเ่ กิดจากกระจกราบ จะเปนภาพ ............. เสมอ ขนาดภาพ กับขนาดวัตถุจะมีขนาด ............. และ ระยะภาพ กับระยะวัตถุ จะมีคา ......... กําลังขยายจะมีคาเทากับ ................... กระจกโคง จากรป จด C เรยก จดศนยกลางความโคง ู ุ ี ุ ู R R จด O เรยก จดใจกลางบนผวโคง ุ ี ุ ิ O C C O เสนตรง CO เรยก เสนแกนมขสาคญ ี ุ ํ ั ระยะ CO เรยก รศมความโคง (R) ี ั ี กระจกเวา กระจกนูน ถาเราใหรงสทขนานกบเสนแกนมขสาคญ มาตกกระทบ ั ี ่ี ั ุ ํ ั กระจกเวา จะพบวา รงสสะทอนจะตดกนทจดกงกลาง ั ี ั ั ่ี ุ ่ึ ระหวาง C กับ O เสมอ จดตดนเ้ี รยก จดโฟกส (F) ุ ั ี ุ ั ระยะหางจาก O ถึง F เรยกวา ความยาวโฟกส (f) ี ั แตกระจกนนจะเปนกระจกกระจายแสง เมอยงแสงขนาน ู ่ื ิ กบเสนแกนมขสาคญไปตกกระทบกระจกนน แสงสะทอน ั ุ ํ ั ู จะกระจายออก ตองลากเสนสมมตตอไปขางหลงกระจก ิ ั จงจะไดจดโฟกส และความยาวโฟกัส ึ ุ ั ที่สําคัญ f = R เสมอ 2 55
4.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 5. จากรูป จุด C เรียก ............................. จุด O เรียก ............................. R R เสนตรง CO เรียก ............................. O C C O ระยะ CO เรียก …………………. กระจกเวา กระจกนูน 6. หากเราฉายแสงที่มีรังสีขนานกับเสนแกนมุข สําคัญมาตกกระทบกระเวา แสงสะทอนของ รังสีขนานเหลานัน จะไปตัดกันทีจด.............. ้ ุ่ ระยะหางจากใจกลางกระจกถึงจุด F เรียกวา ....................................... 7. กระจกนูนเปนกระจกกระจายแสง แสงสะทอน ของรังสีขนานจะไมตดกัน จุดโฟกัสของกระจกนูน ั จะเกิดจาก ............................................................ 8. จุดโฟกัสจะอยูกึ่งกลางระหวางจุดใจกลางกระจก กับจุดศูนยกลางความโคงเสมอ ดังนัน f = …… ้ 9. รังสีของแสงจากดวงอาทิตยถอเปนรังสีขนาน ดังนัน หากเรานํากระจกเวามารองรับแสง ื ้ อาทิตย เมือแสงสะทอนมาตัดกัน จะทําใหเกิดภาพของดวงอาทิตยทจด .................. ของ ่ ่ี ุ กระจกเวานั้น 10. ถาใชกระจกเวารัศมีความโคง 100 เซนติเมตร รับแสงจากดาวดวงหนึง จะไดภาพหาง ่ จากกระจกเซนติเมตร ก. 200 ข. 100 ค. 50 ง. 25 (ขอ ค) วธทา ิี ํ 11. ถากําหนดให R คือรัศมีความโคงของกระจกเวา ถาตองการใหเกิดลําแสงขนานสงออกไป จากกระจกเวานี้ ควรจะวางหลอดไฟฟาไวทตาแหนงใดบนเสนแกนมุขสําคัญของกระจกนี้ ่ี ํ 1. 2R 2. R 3. R 2 4. R 4 (ขอ 3) วธทา ิี ํ 56
5.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ การเกิดภาพโดยกระจกโคง กระจกเวา สรุป กระจกเวาสวนมากจะสรางภาพจริงหัวกลับ ยกเวนเมือวัตถุอยูตรงจุดโฟกัส ่ จะไมเกิดภาพ ถาวัตถุอยูใกลกวาจุดโฟกัส จะสรางภาพเสมือนหัวตังขนาด ้ ภาพใหญกวาวัตถุ กระจกนูน สรุป กระจกนูนจะสรางแตภาพเสมือนหัวตัง ขนาดภาพเล็กกวาขนาดวัตถุ ้ และระยะภาพสั้นกวา ระยะวัตถุเสมอ 57
6.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 12. ใหเขียนการเกิดภาพโดยกระจกเวา และกระจกนูนตามกรณีตอไปนีใหสมบูรณ ้ กระจกเวา 1. 4. 2. 5. 3. สรุป กระจกนูน สรุป ชวนสังเกตุ ถาม กระจกอะไรสรางภาพจริงได ถาม กระจกอะไรสรางภาพเสมือนได ก. เวา ข. ราบ ค. นูน ง. ถูกทุกขอ ก. เวา ข. ราบ ค. นูน ง. ถูกทุกขอ ลักษณะของภาพจริงที่เกิดจากการสะทอน ลักษณะของภาพเสมือนที่เกิดจากการสะทอน 1. หัวกลับ 1. หัวตั้ง 2. เกิดหนากระจก 2. เกิดหลังกระจก 3. เอาฉากมาตังรับได ้ 3. เอาฉากมารับไมได แตเห็นไดดวยตาเปลา 58
7.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 13(มช 35) คํากลาวตอไปนีขอใดเปนจริง ้ ก. ภาพของวัตถุจริงที่เกิดจากกระจกเวา จะเปนภาพจริงเสมอ ข. ภาพของวัตถุจริงที่เกิดจากกระจกเวา จะมีขนาดโตกวาวัตถุเสมอ ค. ภาพของวัตถุจริงที่เกิดจากกระจกนูน จะเปนภาพเสมือนเสมอ ง. ภาพเสมือนที่เกิดจากกระจกนูน จะมีขนาดโตกวาวัตถุเสมอ (ขอ ค) 14. ขอใดไมถกตอง ู ก. ภาพจริงหัวกลับ ภาพเสมือนหัวตัง ้ ข. ภาพจริงตองใชฉากรับ ค. ภาพเสมือนโตเทาวัตถุเสมอ ง. ภาพเสมือนไมตองใชฉากรับ (ขอ ค) 15. กระจกในขอใดสามารถใหภาพเสมือนที่มีขนาดใหญกวาวัตถุ ก. กระจกเงาราบ ข. กระจกนูน ค. กระจกเวา ง. ขอ ข, ค ถูก (ขอ ค) 16. จะตองวางวัตถุหางจากกระจกเวาอยางไร เราจึงมองเห็นภาพทีเ่ กิดจากกระจกเวาไดเลย โดยไมตองใชฉากรับภาพ ก. วัตถุอยูหางจากกระจกนอยกวาความยาวโฟกัส ข. วัตถุอยูหางจากกระจกเทากับความยาวโฟกัส ค. วัตถุอยูระหวางศูนยกลางความโคงกับโฟกัส ง. วัตถุอยูที่จุดศูนยกลางความโคง (ขอ ก) 17. ถาวางวัตถุไวที่จุดศูนยกลางความโคงของกระจกเวา ภาพทีเ่ กิดขึนเปนอยางไร ้ ก. ภาพเสมือนขนาดเทาวัตถุ ข. ภาพจริงขนาดเทาวัตถุ ค. ภาพจริงขนาดเล็กกวาวัตถุ ง. ภาพจริงขนาดโตกวาวัตถุ (ขอ ข) 18(En 43/1) ถาวางวัตถุไวหนาทัศนอุปกรณอยางงายชนิดหนึง จะไดภาพจริงหัวกลับขนาด ่ ขยายใหญกวาวัตถุดังรูป ทัศนอุปกรณอยางงายคือ (ขอ 2) วั ต ถุ ทั ศ น – อุปกรณ ภาพ 1. กระจกนูน 2. กระจกเวา 3. เลนสนูน 4. เลนสเวา 59
8.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ สูตรที่ใชคํานวณการเกิดภาพโดยกระจกเวา และ กระจกนูน 1 [1 Ι 1 f S Sℵ m = Sℵ [ Yℵ S Y เมือ f = ความยาวโฟกัส ่ S = ระยะวตถุ ั m = sΚf f f = 2R S = ระยะภาพ y = ขนาดวัตถุ เงื่อนไขการใชสมการ y = ขนาดภาพ 1) หากเปนกระจกเวา ตองใช f มีคาเปน + m = กําลังขยาย หากเปนกระจกนูน ตองใช f มีคาเปน – R = รัศมีความโคงกระจก 2) หากภาพทีเ่ กิดเปนภาพจริง ตองใช S , y , m มีคาเปน + หากภาพที่เกิดเปนภาพเสมือน ตองใช S , y , m มีคาเปน – 19. วางวัตถุไวหนากระจกเวาอันมีความยาวโฟกัส 5 เซนติเมตร ปรากฏวาเกิดภาพจริงขึนที่ ้ ระยะหางจากกระจก 10 เซนติเมตร จงหาวาวัตถุอยูหางกระจกกีเ่ ซนติเมตร ( 10 cm) วิธทา ี ํ 20. วางวัตถุไวหนากระจกนูนอันมีความยาวโฟกัส 10 เซนติเมตร ปรากฏวาเกิดภาพขึ้นที่ระยะ หางจากกระจก 5 เซนติเมตร จงหาวาวัตถุอยูหางกระจกกีเ่ ซนติเมตร ( 10 cm ) วธทา ิี ํ 60
9.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 21. วางวัตถุหนากระจกเวาเปนระยะ 10 เซนติเมตร เกิดภาพจริงหนากระจกทีระยะ 15 ่ เซนติเมตร กระจกมีรัศมีความโคงเทาไร (12 cm) วธทา ิี ํ 22. วางวัตถุหนากระจกโคงความยาวโฟกัส 40 เซนติเมตร ปรากฏวาใชฉากรับภาพไดที่ระยะ 120 เซนติเมตร หนากระจก จงหาวาวัตถุอยูหางจากกระจกเทาใด และไดขนาดภาพเปนกี่ เทาของขนาดวัตถุ (60 cm , 2 เทา) วธทา ิี ํ 23. ถาจะใหเกิดภาพหลังจากกระจกนูน 20 เซนติเมตร กระจกนูนมีรศมีความโคง 60 เซนติ- ั เมตร จะตองวางวัตถุหางจากกระจกนูนเทาไร (60 cm) วธทา ิี ํ 61
10.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 24. วางวัตถุไวหนากระจกโคง หางกระจก 8 เซนติเมตร เกิดภาพเสมือนหางกระจก 4 เซนติ- เมตร จงหาความยาวโฟกัส และชนิดของกระจก (–8 cm) วธทา ิี ํ 25. วัตถุสูง 5 เซนติเมตร อยหาง 10 เซนติเมตร จากกระจกเวาซึ่งมีรัศมีความโคง 50 เซนต- ู ิ เมตร จงหาขนาดของภาพ ( 25 cm) 3 วิธทา ี ํ 26(มช 32) ถาวางวัตถุที่มีความสูง 10 เซนติเมตร ไวหนากระจกนูนซึงมีรศมีความโคง ่ ั 50 เซนติเมตร โดยวางใหหางจากกระจกเปนระยะ 100 เซนติเมตร จงหาความสูงของ ภาพวามีขนาดกีเ่ ซนติเมตร ( –2 cm) วิธทา ี ํ 62
11.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 27. วางวัตถุสูง 5 เซนติเมตร ไวหนากระจกโคงเปนระยะ 5 เซนติเมตร ไดภาพเสมือน ขนาดสูง 3 เซนติเมตร จงหาชนิดของกระจก (กระจกนูน f = 7.5 cm) วิธทา ี ํ 28. ทันตแพทยถอกระจกเวารัศมีความโคง 4.0 เซนติเมตร หางจากฟนทีตองการอุดเปนระยะ ื ่ 1.0 เซนติเมตร ทันตแพทยจะเห็นฟนในกระจกขยายเปนกี่เทา 1. 2 เทา 2. 3 เทา 3. 4 เทา 4. 5 เทา (ขอ 1) วิธทา ี ํ 29. กระจกเวา 2 บาน ความยาวโฟกัสแผนละ 10 Cm วางหันหนาเขาหากันหางกัน 30 Cm นํา วัตถุวางหางกระจกบานหนึ่งระยะ 5 Cm ตําแหนงและชนิดของภาพทีเ่ กิดจากการสะทอน แสงระหวางกระจกทั้งสอง ใหสะทอนจากบานใกลวัตถุกอน วิธทา ี ํ (ภาพจริงอยูหนากระจกบาน 2 = 13.33 cm) 63
12.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 30. วัตถุสูง 5 เซนติเมตร วางหางจากกระจกนูน 15 เซนติเมตร กระจกนูนมีรศมีความโคง 20 ั เซนติเมตร กระจกราบบานหนงวางหนหนาเขาหากระจกนน หางจากกระจกนูน 20 เซนติเมตร ่ึ ั ู จงหาตําแหนงของภาพซึงเกิดจากรังสีของแสง ซึ่งสะทอนที่กระจกนูนกอน จากนันสะทอน ่ ้ ทีกระจกราบ ่ (หลังกระจกราบ 26 cm) วิธทา ี ํ 31. วางหลอดไฟฟาที่โฟกัสของกระจกเวา ดังรูป ถานํากระจกเวาอีกบานหนึ่งมารับแสงจากกระจก วตถุ ั F บานแรก ภาพของหลอดไฟฟานี้จะเกิดขึ้น ณ. ตําแหนงใด และเปนภาพจริงหรือภาพเสมือน วิธทา ี ํ ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦ ตอนที่ 3 การหักเหของแสง sin⊗ 1 v ↵1 n กฎของสเนลล sin⊗ 2 = v1 = = n21 = n2 2 ↵2 1 เมอ n1 คือ ดชนหกเหตวกลางท่ี 1 เทียบกับอากาศ เรยกสนๆ ดชนหกเหของตวกลางท่ี 1 ่ื ั ี ั ั ี ้ั ั ี ั ั n2 คือ ดชนหกเหตวกลางท่ี 2 เทียบกับอากาศ เรยกสนๆ ดชนหกเหของตวกลางท่ี 2 ั ี ั ั ี ้ั ั ี ั ั ** หมายเหตุ : 1. n21 ¬ n2 หรอ n1 ื 2. nอากาศ = 1 64
13.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 32. แสงชนิดหนึ่งมีความยาวคลื่น 450 นาโนเมตร ความเรว 3x108 เมตร/วนาที ในอากาศ ็ ิ เมื่อยิงแสงทะลุลงไปในของเหลวชนิดหนึ่ง ปรากฎวาความยาวคลื่นเปลี่ยนเปน 300 นาโน– เมตร ความเรวแสงในของเหลวชนดนมคาเทาใด ็ ิ ้ี ี (2x108 m/s) วิธทา ี ํ 33. แสงสีหนึ่งมีความยาวคลื่น 600 นาโนเมตรในอากาศ และมอตราเรว 3x108 เมตร/วนาที ีั ็ ิ ี ั 3 ถาดชนหกเหของแกวเทยบหบอากาศเปน 2 จงหาอตราเรวแสงในแกว ั ี ั ั ็ ( 2x108 m/s) วิธทา ี ํ 34. จากขอทผานมา จงหาความยาวคลนของแสงในแกว ่ี ่ื (4x10–7m) วิธทา ี ํ 35. ดชนหกเหของตวกลาง A = 3 และ ดชนหกเหของตวกลาง B = 6 จงหาดชนหกเหของ ั ี ั ั ั ี ั ั ั ี ั ตวกลาง A เทียบกับ B ั (0.5) วิธทา ี ํ 65
14.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 36. จากขอทผานมา หากความเรวแสงในตวกลาง B มีคาเทากับ 1.2x108 เมตร/วินาที แลว ่ี ็ ั ความเรวแสงในตวกลาง A จะมีคาเทาใด ็ ั (2.4x108) วิธทา ี ํ 37. ถาดชนหกเหของนามคา 4 และดชนหกเหของนามน ั ี ั ํ้ ี 3 ั ี ั ํ้ ั 3 2 อตราสวนระหวางอตราเรว ั ั ็ ของแสงในน้ํามันและน้ําเปนเทาใด (8/9) วิธทา ี ํ 38(En 41/2) แสงความยาวคลื่นในอากาศ 525 นาโนเมตร เมอเคลอนทผานไปในแกวทมดชนี ่ื ่ื ่ี ่ี ี ั หกเห 1.50 จงหาความยาวคลื่นแสงในแกว ( ให ดัชนีหักเหของแสงในอากาศ = 1 ) (350 nm) ั วิธทา ี ํ 39. ดรรชนหกเหของแสงในตวกลางหนงมคา 1.5 ดงนนอตราเรวของแสงในตวกลางนนมคา ี ั ั ่ึ ี ั ้ั ั ็ ั ้ั ี เทาไร (กําหนด ดชนหกเหของแสงในอากาศ = 1) ั ี ั ก. 4.5x107 m/s ข. 1.5x108 m/s ค. 2x108 m/s ง. 2.5x108 m/s (ขอ ค) วิธทา ี ํ 66
15.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 40. แสงเคลอนทผานตวกลางดวยอตราเรว 2.25x108 เมตร/วนาที อยากทราบวาตัวกลางนี้มี ่ื ่ี ั ั ็ ิ คาดชนหกเหเทาใด ั ี ั (1.33) วิธทา ี ํ 41. แสงเคลอนจากของเหลวผานแทงแกวไปสอากาศ ่ื ู ดังรูป จงหาดรรชนหกเหของของเหลว ี ั (2) ของเหลว 30o วิธทา ี ํ × แกว อากาศ 42. จากรป แสงเดินทางจากตัวกลางที่ 1 ผานตัวกลาง ู ที่ 2 ตัวกลางที่ 3 ไปสูตัวกลางที่ 4 โดยผานรอยตอ C 53o (4) ตวกลาง A , B , C ซึ่งขนานกัน จงหาดชนหกเห ั ั ี ั (3) B ของของตวกลางท่ี 1 เทียบกับตัวกลางที่ 4 ( 4 ) ั 3 A (2) วิธทา ี ํ 53o (1) ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦ 67
16.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ ตอนที่ 4 ปรากฏการณทเ่ี กียวกับแสง ่ 4.1 การสะทอนกลับหมด อากาศ 80o อากาศ 90o อากาศ 50o 30o 45o พลาสติก พลาสติก พลาสติก หากยิงแสงจากตัวกลางที่มีความหนาแนนมากกวา ไปสตวกลางทมความหนาแนนนอย ู ั ่ี ี กวา เชน ยิงแสงจากพลาสติกไปสูอากาศ จะเกดการหกเหซง มมหกเห จะโตกวามมตก ิ ั ่ึ ุ ั ุ กระทบเสมอ ดังรูป และสําหรับมุมตกกระทบที่ทําใหมุมหักเหเปนมุม 90o พอดี มมตก ุ กระทบนจะเรยก มุมวิกฤติ ้ี ี และหากมุมตกกระทบมีขนาดโตกวามุมวิกฤตินี้ จะทําใหแสงเกิดการสะทอนกลับเขามา ภายในตัวกลางที่ 1 ทั้งหมด ไมมการหักเหออกไปอีก เราเรยกปรากฎการณนวา การสะทอน ี ี ้ี กลับหมด 43. เมื่อแสงเดินทางจากตัวกลางที่มีความหนาแนนมากกวาสูตัวกลางที่มีความหนาแนนนอยกวา มมตกกระทบกบมมหกเห มมทมขนาดโตกวา คอ ........................... ุ ั ุ ั ุ ่ี ี ื 44. มุมวิกฤติ คอ ............................................................................................................... ื 45. หากมุมตกกระทบโตกวามุมวิกฤติ จะเกิดปรากฏการณ ............................................ 46. ถามุมตกกระทบในของเหลวชนิดหนึ่งเทากับมุมวิกฤติ มุมของหักเหของแสงจะเปนเทาไร (90o) 47(En 37) มุมวิกฤติ δ∉Cε ของแสงที่เดินทางจากแกวซึ่งมี คาดรรชนีหกเห 1.5 ไปยังน้ําซึ่ง ั มีคาดรรชนีหกเห 1.3 มีคาเทากับเทาใด ั (ขอ 3) 1. sin–1(0.65) 2. sin–1(0.76) 3. sin–1(0.87) 4. sin–1(0.92) วิธทา ี ํ 68
17.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 48. ผลึกใสชนิดหนึ่งมีคาดัชนีหักเห 2 และของเหลวชนดหนงมคาดชนหกเห 4 จงหามม ิ ่ึ ี ั ี ั 3 ุ วิกฤตระหวางผลึกใสและของเหลวนี้ (sin–1 2 ) 3 วิธทา ี ํ 49(En 38) มมวกฤตสาหรบสารโปรงใสชนดหนงในอากาศ มีคาเทากับ 45 องศา ความเรว ุ ิ ิ ํ ั ิ ่ึ ็ แสงในสารโปรงใสนี้มีคาเทาใด ( ให ความเรวแสงในอากาศ = 3.0x108 m/s ) ็ 1. 2.1x108 m/s 2. 2.4x108 m/s 3. 2.7x108 m/s 4. 3.0x108 m/s (ขอ 1) วิธทา ี ํ 50. มมวกฤตสาหรบสารโปรงใสชนดหนงในอากาศมคาเทากบ 30 องศา ดชนหกเหของแสง ุ ิ ิ ํ ั ิ ่ึ ี ั ั ี ั ในสารโปรงใสนี้มีคาเทาใด ( ให ดชนหกเหแสงในอากาศ = 1) ั ี ั (2) วิธทา ี ํ 51(En 42/2) มมวกฤตตอแสงในของเหลวชนดหนงมคาเทากบ 60 องศา ความยาวคลื่นของ ุ ิ ิ ิ ่ึ ี ั แสงนนในของเหลวจะเปนกี่เทาของความยาวคลื่นในอากาศ ้ั 1. 22 2. 23 3. 2 4. 1 2 (ขอ 2) วิธทา ี ํ 69
18.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 52. แผนตัวกลางโปรงใสสามชนิด ดชนหกเห n1 , n2 และ n3 วางซอนกนดงรป ใหแสงตก ั ี ั ั ั ู กระทบในแผนแรกทมดชนหกเห n1 แลวผานตอไปยังแผนที่สองและสามได ถาตองการให ่ี ี ั ี ั การสะทอนกลับหมดเกิดขึ้นไดเฉพาะที่ผิว CD ดังรูป เทานน ดัชนีหักเหทั้งสามคาจะมี ้ั ความสัมพันธดังขอใด (ขอ 4) 1. n1 > n2 > n3 2. n1 < n2 < n3 3. n1 > n2 < n3 4. n1 < n2 > n3 วิธทา ี ํ 4.2 ความลึกปรากฎ ถาเรามองวตถทอยในนา เราจะเหนวตถนนอยตน ั ุ ่ี ู ํ้ ็ ั ุ ้ั ู ้ื ตา กวาความเปนจรง ทั้งนี้เพราะเมื่อแสงสะทอนจากตัวปลา ิ แลวเดนทางออกจากนามาเขาตาเราซงอยในอากาศ แสงจะ ิ ํ้ ่ึ ู ลึกปรากฎ ภาพ เกดการหกเห แตเนืองจากวาสายตาของคนเราจะมองตรง ิ ั ่ เสมอ เราจงมองเหนปลาอยตนกวาทเ่ี ปนจรง ึ ็ ู ้ื ิ ลกจรง ึ ิ และหากเรามองวตถตรง ๆ (มองตงฉากกบผวนา) ั ุ ้ั ั ิ ํ้ วัตถุ เราสามารถคานวณหาความลกปรากฎไดจาก ํ ึ ลึกจริง = n1 ลึกปรากฏ n2 เมอ n1 คือ ดชนหกเหของตวกลางท่ี 1 ที่แสงอยู ่ื ั ี ั ั n2 คือ ดชนหกเหของตวกลางท่ี 2 ที่แสงอยู ั ี ั ั หากเรามองเอยงทามมกบผวหกเห ใชสมการ ี ํ ุ ั ิ ั ลึกจริง = n1 cos± 1 ลึกปรากฏ n 2 cos± 2 เมอ ±1 คือ มุมตกกระทบในตัวกลางที่ 1 ่ื ±2 คือ มุมหักเหในตัวกลางที่ 2 70
19.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 53(มช 38) วัตถุอยูในน้ํามีความลึกจริงเปน 4 เมตร เราจะมองเห็นภาพวัตถุนั้นอยูลึกกี่เมตร (กาหนด ดชนหกเหของนา = 4/3) ํ ั ี ั ํ้ ก. 4 ข. 3 ค. 2.67 ง. 2 (ขอ ข) วิธทา ี ํ 54. นายเอนกยนอยบนสะพานเหนปลาตวหนงอยลก 2 เมตร ถามวาตัวจริงของปลาอยูลึกกี่เมตร ื ู ็ ั ่ึ ู ึ (กาหนด ดชนหกเหของนา = 4/3) ํ ั ี ั ํ้ ( 2.67 ) วิธทา ี ํ 55(มช 31) นกตวหนงบนอยในอากาศสงจากผวนา 3 เมตร คนทดาอยใตนาและมองดนกตวน้ี ั ่ึ ิ ู ู ิ ํ้ ่ี ํ ู ํ้ ู ั ในแนวเสนปกตจะมองเหนนกไกลหรอใกลกวาความจรงเทาใด ในหนวยของเมตร ิ ็ ื ิ กาหนด n ของนา = 4 ํ ํ้ 3 (ขอ ข) ก. ใกลเขามามากกวาความจริง 1.00 ข. ไกลออกไปมากกวาความจริง 1.00 ค. ใกลเขามากกวาความจริง 2.25 ง. ไกลออกไปมากกวาความจริง 2.25 วิธทา ี ํ 71
20.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 56. แทงแกวสี่เหลี่ยมหนา 6 เซนติเมตร มคาดชนหกเห 1.5 วางทับกระดาษ อยากทราบวาถา ี ั ี ั มองผานแทงแกวนลงไปตรงๆ จะเหนตวอกษรบนกระดาษลอยสงจากกระดาษขนมาเทาไร ้ี ็ ั ั ู ้ึ วิธทา ี ํ (2 cm) 57(มช 38) มองผานกลองจลทรรศนเ หนจดเลก ๆ บนโตะชัดเจน แตเ มอนาแผนวตถใสหนา ุ ็ ุ ็ ่ื ํ ั ุ 1.00 cm มาวางทับจุดดังกลาว ตองปรบเลอนกลองใหหางโตะจากตาแหนงเดมไปเปน ั ่ื ํ ิ ระยะ 0.40 cm โดยที่โฟกัสของกลองจุลทรรศนยังคงเดิม ดชนหกเหของแผนวตถนเ้ี ปนเทาใด ั ี ั ั ุ 1. 1.24 2. 1.40 3. 1.66 4. 2.50 (ขอ 3) วิธทา ี ํ 4.3 มิราจ ในบางครงคนซงเดนทางในทะเลทราย จะ ้ั ่ึ ิ มองเหนตนไมเ ปนสองตนพรอมกน โดยตนไม ็ ั ตนหนงคอตนไมปกติ แตอกตนหนงจะเปน ่ึ ื ี ่ึ ภาพหัวกลับยอดชี้ลงใตพื้นทราย ปรากฏการณ นเ้ี รยก มราจ ปรากฏการณนเ้ี กดขนเนองจากพน ี ิ ิ ้ึ ่ื ้ื ทรายถกแดดจดเผา ทําใหอากาศบริเวณใกลพื้น ู ั ทรายมอณหภมสงและมความหนาแนนตา แตจด ีุ ู ิ ู ี ํ่ ุ ซึ่งสูงกวาพื้นทรายขึ้นมาเล็กนอย อุณหภูมิจะลดลงอยางมาก ทาใหความหนาแนนอากาศ ํ บรเิ วณนสงขน จงเกดความแตกตางของความหนาแนนของชนอากาศบรเิ วณนน ้ี ู ้ึ ึ ิ ้ั ้ั 72
21.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ และเมอแสงอาทตยสะทอนออกจากยอดไม แสงบางสวนจะพงตรงเขาตา ทาใหเ หนยอด ่ื ิ ุ ํ ็ ไมชขนบนอากาศเปนปกติ แตแสงบางสวนจะพุงลงขางลางแลวเกิดการหักเหตามชั้นอากาศ ้ี ้ึ ซงมความหนาแนนตางกนอยแลวยอนขนมาเขาตา และเมื่อสายตามองตรงลงไป จะทาใหเ หน ่ึ ี ั ู ้ึ ํ ็ ยอดไมชี้ลงไปใตพื้นทราย นอกจากตวอยางนแลว ยงมปรากฏการมราจใหเ หนไดอก เชน การเหนนาปรากฏบน ั ้ี ั ี ิ ็ ี ็ ํ้ พนผวถนนทรอนทงๆ ทถนนแหง หรอ เหนเรอลอยควาอยในอากาศเหนอทองทะเลเปนตน ้ื ิ ่ ี ้ ั ่ี ื ็ ื ํ่ ู ื 58. จงวาดภาพเพออธบายปรากฏการณมราจทเ่ี กดกบเรอลอยลาอยกลางทองทะเล ่ื ิ ิ ิ ั ื ํ ู 4.4 การกระจายของแสง แสงขาวของดวงอาทตยนน จริง ๆ แลว ิ ้ั ประกอบดวยแสงสีตาง ๆ 7 สี คือ มวง คราม นาเงน เขียว เหลือง แสด และ แดง ํ้ ิ เมอใหแสงขาวเดนทางผานปรซม สีแตละสี ่ื ิ ิ ึ จะเกดการหกเหไดไมเ ทากน ิ ั ั สีแดง มีความยาวคลื่นมากที่สุดจะเกิดการหักเหนอยที่สุด สีมวง มีความยาวคลื่นนอยที่สุดจะเกิดการหักเหมากที่สุด สวนสีอื่น ๆ ซึ่งมีความยาวคลื่นไมเทากัน กจะเกดการหกเหไดไมเ ทากนดวย ลักษณะนี้จะ ็ ิ ั ั ทําใหแสงแตละสีเกิดการแยกออกจากกัน เรยกปรากฎการณนวา การกระจายของแสง ี ้ี 59. ทําไมเมื่อใหแสงสีขาวเชนแสงอาทิตยผานปริซึมแสงสีขาวนั้นถูกกระจายออกเปนสีตาง ๆ กนั ก. เพราะแสงเดนเปนแสงตรง ิ ข. เพราะสีภายในวัตถุที่ใชทําปริซึม ค. เพราะแสงถูกปริซึมดูดคลื่นและปลอยออกมาบางสวน ง. เพราะแสงแตละสีหักเหไมเทากัน (ขอ ง) 73
22.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 60. เมื่อแสงสีขาวผานปริซึมแสงสีใดมีการเบี่ยงเบนไดมากที่สุด ก. สีน้ําเงิน ข. สีเหลือง ค. สีมวง ง. สีแดง (ขอ ค) 61. มุมเบี่ยงเบนของแสงสีใดมีคานอยที่สุด ก. สีแดง ข. สีมวง ค. สีน้ําเงิน ง. สีเขียว (ขอ ก) 62. ปรากฎการณใดไมสามารถเกิดขึ้นไดกับแสงสีเดี่ยว (ขอ ง) ก. การหกเห ั ข. การเลยวเบน ้ี ค. การแทรกสอด ง. การกระจาย 4.5 รุงกินน้า ํ รงกนนามกจะเกดหลงฝนตก และเกิดใน ุ ิ ํ้ ั ิ ั ทิศซึ่งตรงกันขามกับพระอาทิตย ทงนเ้ี พราะ ้ั หลังฝนตกในอากาศจะมีละอองน้ําอยูมาก เมอ ่ื แสงตกกระทบเขาไปในละอองน้ํานี้ จะเกิดการ สะทอนกลับหมด และหักเหออกมา ทําใหสี ทั้ง 7 สี ของแสงขาวเกดการกระจายออกจากน ิ ั รงกนนามี 2 ชนด คือ ุ ิ ํ้ ิ 1) รงทตยภมิ ุ ุ ิ ู รงแบบนจะเกดดานบน ุ ้ี ิ จริงๆ แลว แสงสีแดงจะหักเหอยูดานบนสีมวง แตสีที่มาเขาตาเรากลับเปนสีมวงอยูบนสีแดง ? 2) รงปฐมภมิ ุ ู รงแบบนจะเกดดานลาง ุ ้ี ิ จริงๆ แลว แสงสีมวงจะหักเหอยูดานบนสีแดง แตสีที่มาเขาตาเรากลับเปนสีแดงอยูบนสีมวง ? ปกติแลว มกจะเกดรงทงสองชนดซอนกนอยใน ั ิ ุ ้ั ิ ั ู เวลาเดยวกน ี ั 74
23.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ ตอนที่ 5 เลนส เลนสมีอยู 2 ชนด คือ เลนสนูน และ เลนสเ วา ิ R R C/ C/ C O C O จด C , Cℵ = จุดศูนยกลางความโคงของเลนส ุ จด O = จุดกลางเลนส ุ ระยะจาก O ถึง C = รศมความโคง (R) ั ี ถาเราใหรังสีที่ขนานกับเสนแกนมุขสําคัญ มา ตกกระทบเลนสนูน จะพบวา แสงหกเหไปตดกน ั ั ั ที่จุดกึ่งกลางระหวาง C กับ O ฝงตรงขามเสมอ จุดตัดนีเ้ รียก จดโฟกส (F) ุ ั ระยะหางจาก O ถึง F เรยกวา ความยาวโฟกัส (f ) ี แตเ ลนสเ วา จะเปนเลนสกระจายแสง เมอยง ่ื ิ แสงขนานกับเสนแกนมุขสําคัญไปตกกระทบเลนส เวา แสงหกเหจะกระจายออก ตองลากเสนสมมุติ ั ยอนถอยออกมา จงจะไดจดโฟกส และ ความยาว ึ ุ ั โฟกัส ที่สําคัญ f = R 2 เสมอ 63. R R C/ C/ C O C O จากรป ู จด C , Cℵ เรียก .................................. ุ จด O เรียก .................................. ุ ระยะจาก O ถึง C เรียก .................................. 64. จดโฟกสของเลนสนน คือ .................................................................................................... ุ ั ู 65. จดโฟกสของเลนสเ วา คือ .................................................................................................... ุ ั 75
24.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ การเกิดภาพโดยเลนสบาง เลนสนน ู สรุป เลนสนูน สวนมากจะสรางภาพจริงหัวกลับ ยกเวนเมอวตถอยตรงจดโฟกส ่ื ั ุ ู ุ ั จะไมเกิดภาพ ถาวัตถุอยูใกลกวาจุดโฟกัส จะสรางภาพเสมอนหวตง ื ั ้ั ขนาดภาพใหญกวาวตถุ ั เลนสเวา สรุป เลนสเ วา จะสรางแต ภาพเสมอนหวตงขนาดภาพเลกกวาขนาดวตถุ ื ั ้ั ็ ั และ ระยะภาพสั้นกวา ระยะวัตถุเสมอ 76
25.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 66. จงเขยนการเกดภาพโดยเลนสเ วา และ เลนสนูน ตามกรณตอไปนใหสมบรณ ี ิ ี ้ี ู เลนสนน ู 1. 4. 2. 5. 3. สรุป เลนสเวา สรุป ชวนสังเกตุ ลักษณะของภาพจริงที่เกิดจากการหักเห ลักษณะของภาพเสมือนที่เกิดจากการสะทอน 1. หัวกลับ 1. หัวตั้ง 2. เกิดหลังเลนส 2. เกิดหนาเลนส 3. เอาฉากมาตังรับได ้ 3. เอาฉากมารับไมได แตเห็นไดดวยตาเปลา 77
26.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 68. ลําแสงสีเดียวสองผานเลนส 2 อัน และรงสเี ดนทางดงรป ั ิ ั ู เลนส I และเลนส II เปนเลนสอะไร ก. เปนเลนสนนทงคู ู ้ั ข. I เปนเลนสนน II เปนเลนสเ วา ู I II ค. I เปนเลนสเ วา II เปนเลนสนน ู ง. เปนเลนสเ วาทงคู ้ั (ขอ ข) 69. รงสของแสงเบนเขาหากนทจด A ถานําเลนสไปวางไว ั ี ั ่ี ุ ทจด B รงสของแสงนจะเบนไปพบกนทจด C ่ี ุ ั ี ้ี ั ่ี ุ B A C เลนสที่นําไปวางเปนเลนสชนิดใด อธิบาย 70. ภาพทเ่ี กดจากเลนสนนจะมขนาดเทาวตถเุ มอ ิ ู ี ั ่ื ก. วางวัตถุไวที่จุดศูนยกลางความโคง ข. วางวตถไวทจดโฟกส ั ุ ่ี ุ ั ค. วางวัตถุไวชิดขอบเลนส ง. วางวัตถุไวที่ระยะไกลมาก ๆ (ขอ ก) 71. ถาวตถเุ คลอนทจาก 2F ไป F ทางดาน A เมอ F ในรปเปนจดโฟกสของเลนส ภาพที่ ั ่ื ่ี ่ื ู ุ ั เกดขนบนดาน R จะเคลื่อนที่จากที่ใดไปที่ใด (ขอ ข) ิ ้ึ A ก. 2F ไป F ข. 2F ไประยะอนนต ั 2F F 2F ค. F ไป 2F ง. F ไปเลนส F 72(มช 31) เมอตองการดของทมขนาดเลก เรามักจะใช “แวนขยาย” ซึ่งทําดวยเลนสนูน ่ื ู ่ี ี ็ เพราะภาพทเ่ี กดจาก การวางวตถไวหนาเลนสนนนน ิ ั ุ ู ้ั ก. มขนาดใหญกวาวตถเุ สมอ ี ั ข. เปนภาพเสมอนเสมอ ื ค. เปนภาพจริงหรือ ภาพเสมอนและมขนาดใหญกวาวตถเุ สมอ ื ี ั ง. เปนภาพเสมอน ขนาดใหญกวาวตถทระยะวตถชวงหนง ื ั ุ ่ี ั ุ ่ึ (ขอ ง) 73(มช 35) ถาให o เปนจุดกึ่งกลางความหนาของเลนส c เปนจดศนยกลางของผวโคง ุ ู ิ F เปนจดโฟกส U เปนวตถุ และ I เปนภาพ อยากทราบวาการเกดภาพจากเลนส ุ ั ั ิ ในรูปขางลางนี้ รปไหนถูก ู (ขอ ข) 78
27.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ สูตรที่ใชคํานวณการเกิดภาพโดยเลนสเวา และ เลนสนน ู 1 [1 Ι 1 เมือ ่ f = ความยาวโฟกัส f s sℵ s = ระยะวัตถุ m = ssℑ ∴ yℑ y sℑ = ระยะภาพ m = sff y = ระยะวัตถุ - yℑ = ระยะภาพ f = R 2 m = กําลังขยาย R = รัศมีความโคง เงื่อนไขการใชสมการ 1) หากเปนเลนสนน ตองใช f มีคาเปน + ู หากเปนเลนสเวา ตองใช f มีคาเปน – 2) หากภาพทีเ่ กิดเปนภาพจริง ตองใช sℑ , yℑ , m มีคาเปน + 3) หากภาพทเ่ี กดเปนภาพเสมอน ิ ื ตองใช sℑ , yℑ , m มีคาเปน – 74. วางวัตถุไวหนาเลนสนนอันมีความยาวโฟกัส 5 เซนติเมตร ปรากฏวาเกิดภาพจริงขึนที่ ู ้ ระยะหางจากเลนส 10 เซนติเมตร จงหาวาวัตถุอยูหางเลนสกเ่ี ซนติเมตร ( 10 cm ) วิธทา ี ํ 79
28.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 75. วางวัตถุไวหนาเลนสเวาอันมีความยาวโฟกัส 10 เซนติเมตร ปรากฏวาเกิดภาพขึนทีระยะ ้ ่ หางจากกระจก 5 เซนติเมตร จงหาวาวัตถุอยูหางเลนสเวากีเ่ ซนติเมตร ( 10 cm ) วิธทา ี ํ 76. วางวัตถุหางเลนสนน 12 cm ทางยาวโฟกัสเลนสนูน 18 cm จงหาตาแหนงและชนด ู ํ ิ ของภาพทเ่ี กดิ (ภาพเสมือนหางเลนส 36 cm) วิธทา ี ํ 77(มช 45) วตถสง 9.0 เซนติเมตร อยหางจากเลนสเ วา 27.0 เซนติเมตร ถาเลนสมความยาว ั ุ ู ู ี โฟกัส 18.0 เซนติเมตร ขนาดของภาพมความสงกเ่ี ซนตเิ มตร ี ู (–3.6 cm) วิธทา ี ํ 78. วางวัตถุหางจากเลนส A เปนระยะทาง 15 เซนติเมตร ไดภาพเสมือนขนาดใหญกวาวัตถุ 4 เทา เลนส A ควรจะเปนเลนสชนิดใด มีความยาวโฟกัสเทาไร ( เลนสนูน f = 20 cm ) วิธทา ี ํ 80
29.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 79. เลนสอนหนงใหภาพเสมอนขนาด 3/4 เทาของวัตถุในขณะทีวตถุอยูหนาเลนส 10 cm. ั ่ึ ื ่ั จงหาวาเลนสนเ้ี ปนเลนสชนดใด มีความยาวโฟกัสเทาไร ิ ( เลนสเวา f = 30 cm ) วิธทา ี ํ 80. จากรป จงหาตําแหนงภาพ ถาความยาวโฟกัสเลนสนน = 30 cm. ของเลนสเวา 50 cm. ู ู 20 cm. 40 cm. วิธีทํา (33 cm ทางซายเลนสเวา) 81(En 29) วัตถุอยูทางดานซายมือของเลนสนน ู วัตถุ (ความยาวโฟกัส 5 เซนติเมตร) ระยะทาง 10 เซนติเมตร และมีเลนสเวา (ความยาวโฟกัส 10 เซนติเมตร) ทางดานขวามอของเลนสนนนน ื ู ้ั 10cm 5cm ระยะทาง 5 เซนติเมตร ภาพทีเ่ กิดเปนดังดานขาง 81
30.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ ก. ภาพเสมอนอยทางดานซายมอของเลนสเ วาเปนระยะทาง 3.33 เซนติเมตร ื ู ื ข. ภาพจริงอยูทางดานขวามือของเลนสเวาเปนระยะทาง 10 เซนติเมตร ค. ภาพเสมือนอยูทางดานขวามือของเลนสเวาเปนระยะทาง 10 เซนติเมตร ง. ภาพจรงอยทางดานซายมอของเลนสเ วาเปนระยะทาง 10 เซนติเมตร ิ ู ื (ขอ ข) วิธทา ี ํ โดยทัวไปแลว สายตาของคนปกตินนจะมองเห็นวัตถุไดชดเจนทีสดเมือวัตถุอยูในระยะใกล ่ ้ั ั ่ ุ ่ ทสดคอ 25 เซนติเมตร และไกลทีสดคือทีระยะอนันต ( Infinite ) จากตา ่ี ุ ื ่ ุ ่ แตสาหรบคนสายตายาว หากวตถอยทระยะ 25 เซนติเมตร เขาจะเหน ไมชด ( แตอาจมอง ํ ั ั ุ ู ่ี ็ ั เหนชดทระยะไกลกวาน้ี เชน เห็นชัดเมือวัตถุอยูหาง 1 เมตร เปนตน ) ดงนนตองใชแวนตา ็ ั ่ี ่ ั ้ั เลนสนน เพือนําวัตถุซงอยูทระยะ 25 ู ่ ่ึ ่ี เซนตเิ มตรนน ไปสรางเปนภาพเสมอน ้ั ื ตรงจุดใกลทสดทีเ่ ขามองเห็นไดชด ่ี ุ ั และสําหรับคนสายตาสัน หากวัตถุ ้ อยูไกลๆ เขาจะเห็นไดไมชด ( แตหาก ั วัตถุอยูใกลๆ เชน 5 เมตร อาจเหนชด ) ็ ั ดังนันตองใชแวนตาเลนสเวา เพอนา ้ ่ื ํ วตถทอยไกลๆ นัน มาสรางเปนภาพ ั ุ ่ี ู ้ เสมอนตรงจดไกลสดทเ่ี ขา ยังสามารถ ื ุ ุ เหนไดชดเจน ดงแสดงในรป ็ ั ั ู 82
31.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 82(En 36) เลนสแวนตาสําหรับคนตายาวทําหนาทีตอผูใสแวนนันอยางไร ่ ้ 1. ยายวตถทระยะ 25 cm จากตาไปไวทระยะใกลสดทตาเปลามองเหนชด ั ุ ่ี ่ี ุ ่ี ็ ั 2. ยายวัตถุทระยะ 25 cm จากตาไปไวทอนันต ่ี ่ี 3. ยายวตถทระยะอนนตมาไวทระยะใกลสดทตาเปลามองเหนชด ั ุ ่ี ั ่ี ุ ่ี ็ ั 4. ยายวัตถุทระยะอนันตมาไวทระยะไกลสุดทีตาเปลามองเห็นชัด ่ี ่ี ่ (ขอ 1) ตอบ 83(มช 34) ชายผูหนึงสามารถอานหนังสือไดชดเมือหนังสืออยูหางจากเขาไมนอยกวา ่ ั ่ 90 เซนติเมตร ดังนันเขาจะตองสวมแวนตาความยาวโฟกัสกี่ cm ้ ก. 15 ข. 20 ค. 35 ง. 40 (ขอ ค) วิธทา ี ํ 84. เลนสแวนตาสําหรับคนตาสันทําหนาทีตอผูใสแวนนันอยางไร ้ ่ ้ 1. ยายวตถทระยะ 25 cm จากตาไปไวทระยะใกลสดทตาเปลามองเหนชด ั ุ ่ี ่ี ุ ่ี ็ ั 2. ยายวัตถุทระยะ 25 cm จากตาไปไวทอนันต ่ี ่ี 3. ยายวตถทระยะอนนตมาไวทระยะใกลสดทตาเปลามองเหนชด ั ุ ่ี ั ่ี ุ ่ี ็ ั 4. ยายวัตถุทระยะอนันตมาไวทระยะไกลสุดทีตาเปลามองเห็นชัด ่ี ่ี ่ (ขอ 4 ) ตอบ 85. ชายสายตาสันผูหนึงสามารถมองเห็นไดชดเจนในระยะไกลสุดเพียง 5 เมตร เทานน ้ ่ ั ้ั ดังนันเขาจะตองสวมแวนตาความยาวโฟกัสกี่ cm ้ ก. 150 ข. 200 ค. 400 ง. 500 (ขอ ง ) วิธทา ี ํ 83
32.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ ตอนที่ 6 ทศนอปกรณ ั ุ 6.1 เครื่องฉายภาพนิ่ง หลักการทํางานของเครืองฉายภาพนิง เปนเปนตามทีแสดงในแผนภาพตอไปนี้ ่ ่ ่ เนืองจากภาพทีเ่ กิดบนฉาก จะเปนภาพจริงหัวกลับ ดงนนเวลาใสฟลมจงตองกลบหว ่ ั ้ั ึ ั ั ฟลมลงเสมอ 86. เหตุใดเวลาใสฟลมเครืองฉายภาพนิงตองกลับหัวฟลมเสมอ ................................................ ่ ่ 6.2 กลองถายรูป หลักการทํางานของกลองถายรูป เปนเปนตามทีแสดงในแผนภาพตอไปนี้ ่ นอกจากนีในกลองถายรูปจะมี ้ อุปกรณเสริมดังนี้ วงแหวนปรับความชัด ใชปรับ เลอนเลนสเ พอปรบความ ่ื ่ื ั คมชัดของภาพ ไดอะแฟรม เปนชองกลมปรับ ยอขยายขนาดได เพือปรับแตงปริมาณแสงใหเขามากนอยตามความพอดี ่ ชัตเตอร เปนแผนทึบแสงคอบกันแสงและปดเปดเมือตองการถายรูป ้ ่ หากปริมาณแสงมีมาก ตองปรบความเรวชตเตอรใหปดเปดอยางรวดเรว ั ็ ั ็ หากปริมาณแสงมีนอย ตองปรับความเร็วชัตเตอรใหปดเปดอยางชาๆ 87. ภาพทีเ่ กิดบนฟลมถายรูปจะเปนภาพ ............................................. 88. จงบอกประโยชนของ วงแหวนปรบความชด ..................................................................... ั ั ไดอะแฟรม .......................................................ชัตเตอร .......................................................... 84
33.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ 6.3 กลองจุลทรรศน หลกการทางานของกลองจลทรรศน เปนเปนตามทีแสดงในแผนภาพตอไปนี้ ั ํ ุ ่ ภาพแรกทีเ่ กิดในกลองจุลทรรศนจะเปนภาพจริงหัวกลับ สวนภาพทเ่ี กดทเ่ี รามองเหน ิ ็ จะเปนภาพเสมือนของภาพแรกนัน ภาพทีเ่ รามองเห็นจึงเปนภาพหัวกลับเมือเทียบกับวัตถุ ้ ่ เรมตน และภาพสุดทายนีควรเกิดหางจากตาไมนอยกวา 25 Cm เพอใหมองสบายตา ่ิ ้ ่ื 89. ภาพทีเ่ กิดในกลองจุลทรรศนจะเปนภาพ .......................................... 90. ภาพทีมองเห็นจากกลองจุลทรรศนจะเปนภาพ ............... ของภาพทเ่ี กดตอนแรก ่ ิ 6.4 กลองโทรทัศน หลักการทํางานของกลองโทรทัศน เปนเปนตามทีแสดงในแผนภาพตอไปนี้ ่ ภาพทีเ่ กิดจากเลนสใกลวตถุจะเปนภาพจริงหัวกลับเกิดทีจดโฟกัสของเลนสใกลวตถุนน ั ุ่ ั ้ั และเมอใหภาพนอยใกลจดโฟกสเลนสใกลตา จะเกิดภาพเสมือนของภาพแรกนี้ แลวเราจะมอง ่ื ้ี ู ุ ั ดูภาพเสมือนทีเ่ กิดนี้ ดังนันภาพทีเ่ ห็นจึงเปนภาพหัวกลับเมือเทียบกับวัตถุเริมตน ้ ่ ่ 85
34.
Physics Online IV
http://www.pec9.com บทที่ 14 แสงและทัศนอุปกรณ ความยาวของกลองโทรทัศนจะมีคาประมาณ ความยาวโฟกัสของเลนสทงสองรวมกัน ้ั ปจจบนเราสามารถทาใหภาพเสมอนทมองเหนเปนภาพหวตง โดยไสเลนสนนตัวที่ 3 ุ ั ํ ื ่ี ็ ั ้ั ู แทรกไวระหวางเลนสใกลวตถกบเลนสใกลตาดงรป ั ุั ั ู เนืองจากกลองโทรทัศนจะมีขนาดทียาวมาก ่ ่ แตหากเราใชปริซมเขาชวยจะสามารถลดความยาว ึ ของกลองไดดงรป วิธการเชนนีจะใชกบกลองสอง ั ู ี ้ ั ทางไกล 91. เลนสไกลวตถุของกลองโทรทรรศนทาหนาที่ ..................................................................... ั ํ 92. เลนสใกลตาจะสรางภาพ..............ของภาพทเ่ี กดตอนแรก ิ 93. ความยาวกลองจลทรรศน จะเทากบ................. ................. ................. ................. .............. ุ ั 94. เลนสตวท่ี 3 ทีใสแทรกเขาไปในกลองโทรทรรศน ทําหนาที่ ........................................... ั ่ 95. ปรซมทใสแทรกเขาไปในกลองโทรทรรศน ทําหนาที่ ........................................................ ิ ึ ่ี ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦ ตอนที่ 7 ความสวาง ความสวางบนพืนผิวใด ๆ สามารถคํานวณหาคาได จากสมการ ้ E= A F หรือ E = I2 R เมอ E คือ ความสวาง (ลูเมน/m ่ื 2 . Lux) F คือ อัตราการใหพลังงานแสง หรือ ฟลักซสองสวาง (ลูเมน) [ ปริ ม าณพลั ง งานแสงที่ ส อ งออกมาจากแหล ง กํา เนิ ด ต อ หนึ่ ง หน ว ยเวลา ] A คือ พื้นที่รับแสง (m2) 86
Télécharger maintenant