SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  39
Télécharger pour lire hors ligne
Physics Online I             http://www.pec9.com                บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
                   ฟ สิ ก ส บทที่ 4 การเคลื่ อ นที่ แ บบต า งๆ
 ตอนที่ 1 การเคลือนทีแบบโปรเจกไตล (1)
                 ่ ่
   การเคลอนทแบบโปรเจกไตล
         ่ื ่ี
      คอ การเคลอนทในแนวโคงรปพาราโบลา เกิดจากการ เคลอนทในแนว 2 แนวพรอมกัน
       ื       ่ื ่ี       ู                      ่ื ่ี
1. ขวางวัตถุไปตามแนวราบจากที่สูงแหงหนึ่ง ดวยความเรวตน
                                                      ็ 
    3 เมตร/วินาที เมอเวลาผานไป 1 วินาที จงหาการขจด
                    ่ื                              ั
วธทา
 ิี ํ                                           ( 5.8 เมตร)




2. จากขอที่ผานมา จงหาความเร็วปลาย                (10.4 m/s)
วธทา
 ิี ํ




3. จากขอที่ผานมา จงหามมทแนวการเคลอนทกระทาตอแนวราบ
                        ุ ่ี       ่ื ่ี  ํ                                         (73.3o)
วธทา
 ิี ํ


                                           87
Physics Online I          http://www.pec9.com           บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
4(มช 41) ผลักวัตถุออกจากขอบดาดฟาตึกสูง 20 เมตร ดวยความเรวตน 15 เมตร/วินาที ตาม
                                                        ็ 
   แนวระดับ วัตถุจะตกถึงพื้นที่ระยะหางกี่เมตรจากฐานตึก
      1. 10             2. 20               3. 30         4. 40           (ขอ 3.)
                                                                            
วธทา
 ิี ํ




5. เครองบนทงระเบด บินในแนวระดับดวยความเร็ว 200 เมตรตอวนาที และสูงจากพื้นดิน
      ่ื ิ ้ิ       ิ                                      ิ
   2000 เมตร เมื่อทิ้งระเบิดที่ปกลงมา จงหา
        ก. ระเบิดตกไกลจากตําแหนงที่ทิ้งตามแนวระดับเทาไร          (4000 เมตร )
        ข. ระเบิดกระทบพืนดินดวยอัตราเร็วเทาไร
                         ้                                     (200 2 m/s)
วธทา
 ิี ํ




                                        88
Physics Online I            http://www.pec9.com          บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
6. คูน้ํากวาง 10 เมตร มีลักษณะดังรูป นักขี่
   จกรยานยนตคนหนงตองการจะขขามคนา
      ั                   ่ึ         ่ี  ู ํ้
                                                   A
   จงหา                                                                            5m

   ก. ความเรวทนอยทสดของจกรยานยนต
                ็ ่ี  ่ี ุ       ั                                            B

        ที่จะขามคูน้ําไดพอดี      (10 เมตร)                 10 m
   ข. ความเรวทถงฝงตรงขามพอดี (10 2 m/s)
                 ็ ่ี ึ       
วธทา
 ิี ํ




7. ถาถอปนทยงดวยแรงอดของสปรง
         ื  ่ี ิ          ั           ิ                  4.0 m
  เล็งไปยังเปา โดยใหสปรงเล็งไปยง
                         ิ            ั
                                                   5.0 m/s
  เปา โดยใหลํากลองปนขนานกับพื้น
      
  และ สูงจากพื้น 6.0 เมตร สวนปาก          6.0 m

  ลํากลอง ปน หางจากเปา 4.0 เมตร                                      h

  เมื่อทําการยิงลูก ปน ซึ่งเปนลูกเหล็ก
  กลมเคลื่อนที่ออกจากปากลํากลองปนดวยความเร็ว 5.0 เมตรตอวนาที ในขณะเดียวกันเปา
                                                           ิ
  ตกแบบเสรีสูพื้น จงหาวาลูกกลมเหล็กจะตกลงมาไดระยะในแนวดิ่งเทาใดขณะกระทบเปา
                                           89
Physics Online I            http://www.pec9.com              บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
วธทา
 ิี ํ                                                                             (3.2 ม.)




8. จากขอที่ผานมา จงหาวาขณะลูกกลมเหล็กกระทบเปานั้น เปาอยูสูงจากพื้นเทาใด ( 2.8 m )
วธทา
 ิี ํ

9. นกเรยนคนหนงยนบนดาดฟาตกหาชนสง 75 เมตร แลวขวางกอนหินลงไปทํามุมเอียง 30o
        ั ี       ่ึ ื     ึ  ้ั ู
   กบแนวระดบดวยความเรว 20 เมตร/วินาที วัตถุจะตกถึงพื้นหางจากดาดฟาตึกตามแนว
      ั         ั     ็
   ราบกเ่ี มตร
          ก. 30 3        ข. 20 3         ค. 10 3            ง. 3          (ขอ ก)
                                                                            
วธทา
 ิี ํ




                                          90
Physics Online I             http://www.pec9.com            บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
10. กําแพงหางจากปากกระบอกปน 10 2 เมตร โดยที่ปากกระบอกปนเอียงทํามุม 45o เมอ  ่ื
   กระสุนถูกยิงออกจากปากกระบอกปนขึ้นไปดวยอัตราเร็ว 20 เมตร/วินาที กระสุนปนจะ
   กระทบกําแพงสูงจากพื้นกี่เมตร
       1. 6.0          2. 6.2          3. 9.1             4. 10.6         (ขอ 3)
                                                                            
วธทา
 ิี ํ




11(En 32) นกขจกรยานยนตผาดโผน ตองการจะขขามคลอง
              ั ่ี ั                           ่ี 
   ซึ่งกวาง 5 เมตร ไปยังฝงตรงขาม ถาเขาขับรถดวยอัตรา
   เรว 10 m/s กอนพนฝงแรก เขาจะขามได โดยไมชน
         ็                             
   ฝงตรงขาม h มีคาไดมากที่สุดกี่เมตร
                                           (2.5 เมตร)
วธทา
 ิี ํ




                                            91
Physics Online I           http://www.pec9.com            บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
12. ชายคนหนงยนบนยอดตกขวางลกบอลออก
             ่ึ ื         ึ  ู
   ไปดวยความเรว 15 เมตร/วินาที ทํามุม 45o
                 ็
   กับแนวราบไปยังตึกที่สูงกวาอยูหางออกไป
    45 เมตร อยากทราบวาขอใดถูกตอง
      1. ลูกบอลกระทบตึกที่จุด A
      2. ลูกบอลกระทบตึกสูงกวาจุด A 45 เมตร
      3. ลูกบอลกระทบตึกต่ํากวาจุด A 45 เมตร
      4. ลูกบอลตกถึงพื้นดินโดยไมกระทบตึก                                       (ขอ 3)
                                                                                  
วธทา
 ิี ํ




13(มช 37) ชายคนหนึ่งยืนอยูบนตึกสูง 15 เมตร จากพื้นดินขวางลูกบอลขึ้นไปทํามุม 30o
   กบแนวระดบดวยความเรว 20 เมตรตอวนาที ถามวาลูกบอลจะตกพื้นดินหางจุดขวางใน
      ั        ั       ็             ิ
   แนวระดับกีเ่ มตร                                                       (51.96 m)
วธทา
 ิี ํ




                    ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦

                                         92
Physics Online I               http://www.pec9.com              บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
  ตอนที่ 2 การเคลือนทีแบบโปรเจกไตล (2)
                  ่ ่
 ขอนาสนใจเกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบโปรเจกไตล
   1. ถาเราปลอยวัตถุใหตกจากที่สูงในแนวดิ่ง พรอม
      กับขวางวตถุอกกอนออกไปในแนวราบ จากจด
             ั ี                                 ุ
      เดียวกันวัตถุทั้งสองจะตกถึงพื้นพรอมกันเสมอ
14. ลูกบอลชนิดเดียวกัน 2 ลูก A และ B ลูกบอล A ถูกขวางออกไปในแนวราบและลูกบอล
   B ถูกปลอยใหตกลงในแนวดิ่งพรอมกันจากระดับสูงเดียวกัน จงพจารณาขอความตอไปน้ี
                                                            ิ          
   แลวเลือกขอที่ถูกที่สุด
       ก. ลูกบอล A ตกถึงพื้นกอน B
       ข. ลูกบอลทั้งสองตกถึงพื้นพรอมกัน
       ค. ลูกบอล A จะมีอัตราเร็วสูงกวาขณะที่ตกถึงพื้น
       ง. ลูกบอล B จะมีอัตราเร็วสูงกวาขณะที่ตกถึงพื้น
        1. ขอ ก. ถูก                             2. ขอ ก. และ ค. ถูก
        3. ขอ ข. และ ค. ถูก                      4. ขอ ข. และ ง. ถูก                (ขอ 3)
                                                                                        
วธทา
 ิี ํ

   2. เกี่ยวกับการโยนวัตถุจากพื้นสูอากาศแลวปลอยใหตกลงมาถึงระดับเดิม
              เวลาทีวตถุลอยในอากาศ (t) = ( 2U sin″ )
                     ่ั                        g
                 ่ี ั ุ ้ึ      ู ุ
                                             2 sin2
       ระยะทางทวตถขนไปไดสงสด (sy) = ( U 2g ″ )
       ระยะทางตามแนวราบเมือวัตถุตกลงมาระดับเดิม (sx) = ( U2 sin 2″) = U2 2 sin″ cos″
                             ่                            g             g
15. ขีปนาวุธถูกยิงจากพื้นดวยความเร็ว 60 m/s ในทิศทํามุม 30o กบแนวระดบขปนาวธนน
                                                               ั        ั ี    ุ ้ั
   ลอยอยูในอากาศนานเทาใด จึงตกถึงพื้นและขณะที่อยูจุดสูงสุดนั้นอยูหางจากพื้นเทาไร
วธทา
 ิี ํ                                                                   (6 วินาที , 45 เมตร)




                                             93
Physics Online I            http://www.pec9.com              บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
16(มช 43) โยนลูกบอลขึ้นไปจากพื้นดิน ดวยความเรวตน 25 เมตร/วนาที ในทิศทํามุม 37o
                                             ็          ิ
   กับพื้นดิน ลกบอลนจะตกลงมาพนดนหางจากตาแหนงทโยนขนไปกเ่ี มตร
               ู    ้ี          ้ื ิ       ํ      ่ี ้ึ
      1. 60            2. 70            3. 80               4. 90         (ขอ 1)
                                                                            
วธทา
 ิี ํ


17. ตวตถใหวงขนจากพนดนเปนมม 30o วตถไปตกในระดบเดยวกนหางจดเรมตน 20 3
     ี ั ุ  ่ิ ้ึ  ้ื ิ  ุ     ั ุ        ั ี ั  ุ ่ิ 
   เมตร จงหาความเร็วตนของวัตถุ
       ก. 10 m/s       ข. 14 m/s   ค. 10 3 m/s    ง. 20 m/s    (ขอ ง)
                                                                 
วธทา
 ิี ํ



   3. เกี่ยวกับการโยนวัตถุจากพื้นสูอากาศแลวปลอยใหตกลงมาถึง
      ระดับเดิม หากมมทเ่ี อยงกระทากบแนวราบเปนมม 45o วตถุ
                      ุ ี            ํ ั           ุ     ั
      จะไปไดไกลที่สุด (ในแนวราบ)
   4. เมอขวางวตถขนจากพนเอยงทามมกบแนวราบ
        ่ื  ั ุ ้ึ      ้ื ี ํ ุ ั
      ± กับ 90o – ± ดวยความเรวตนเทากน วตถุ
                             ็   ั ั
      จะไปไดไกลเทากันเสมอ
18(มช 35) ยิงโปรเจกไทลจากผิวโลก สชนบรรยากาศเหนอผวโลก
                                     ู ้ั             ื ิ
   หากตองการใหไดระยะพิสัยมากที่สุดตองใหมุม ± เปน
      ก. 45o         ข. นอยกวา 45o
                                         ค. มากกวา 45o ง. ไมมีขอถูก (ขอ ก)     
ตอบ
19(มช 29) นักกรีฑาขวางคอนมีความสามารถเหวี่ยงคอนไดในอัตราเร็วสูงสุด 5 เมตร/วินาที เขา
   จะสามารถขวางคอนไปไดไกลสุดหางจากจุดที่เขายืนอยูกี่เมตร ถาไมคิดแรงเสียดทานอากาศ
   และความสูงของนักกรีฑา
      1. 2.75           2. 2.50                3. 1.50            4. 1.25         (ขอ 2)
                                                                                      
วธทา
 ิี ํ
                                          94
Physics Online I             http://www.pec9.com             บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
   5. เกี่ยวกับการโยนวัตถุจากพื้นสูอากาศแลวปลอยให
       ตกลงมาที่ระดับความสูงเดียวกัน อตราเรวและ
                                          ั    ็
       มุมที่กระทํากับแนวราบจะเทากัน
   6. เวลาทใชในการเคลอนทแนวราบ แนวดิง และ
           ่ี       ่ื ่ี          ่
      เวลารวมจะเทากนเสมอ นนคอ tx = ty = tรวม
                  ั       ่ั ื

20. ขวางกอนหนขนไปในอากาศทามม ± กบแนวราบให t1 เปนเวลาทคดการเคลอนทในแนว
           ิ ้ึ               ํ ุ        ั              ่ี ิ   ่ื ่ี
   ดงจากพนจนตกกลบมาทเ่ี ดม t2 เปนเวลาทคดการเคลอนทในแนวราบจากจดทขวางถงจดท่ี
      ่ิ      ้ื        ั   ิ               ่ี ิ  ่ื ่ี        ุ ่ี  ึ ุ
   ตก t3 เปนเวลาทกอนหนใชในการลอยอยู
                    ่ี  ิ 
   ในอากาศทั้งหมดขอใดถูก             (ขอ 1)
                                         
                                       t3
         1. t1 = t2 = t3    2. t1 = 2
                        t3             t2       t3
         3. t1 = t2 = 2     4. t1 = 2 = 2
วธทา
 ิี ํ



21(En 36) เมอขวางหินกอนหนึ่งดวยความเร็วตน 20 เมตร/วินาที พบวาหินกอนนี้ตกถึงพื้นราบ
             ่ื
   ดวยความเร็วที่ทํามุม 60 องศากับแนวดิ่งหินกอนนี้จะขึ้นไปไดสูงสุดเทาใด
      1. 5 m               2. 10 m           3. 15 m                  4. 20 m    (ขอ 1)
วธทา
 ิี ํ




           Sy
                1
   7.      Sx = 4 tan±
        เมอ Sy = ระยะสูงในแนวดิ่ง
          ่ื
             Sx = ระยะไกลในแนวราบ
                                            95
Physics Online I             http://www.pec9.com              บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
22(มช 40) ถาโปรเจกไทลมีการกระจัดสูงสุดในแนวดิ่ง 10 เมตร และการกระจัดที่ไปไดไกลสุด
    ในแนวระดับเทากับ 30 เมตร โปรเจกไทลนี้จะตองถูกยิงออกไปในแนวที่ทํามุมกี่องศากับราบ
วิธทา
   ี ํ                                                                             ( 53 o)




23(มช 33) วัตถุเคลื่อนที่แบบโปรเจกไตล โดยมีทางเดิน
    เปนรูปพาราโบลา และมความสมพนธระหวางระยะ
                               ี    ั ั      
    ทางที่เคลื่อนที่ในแนวดิ่งกับแนวระดับดังแสดงในรูป
    จงหามุม ± ที่ความเร็วของวัตถุทํากับแนวระดับ
        (ไมคิดความตานทานของอากาศ)             (ขอ ข)
    ก. ± = tan–1(2) ข. ± = tan–1(1) ค. ± = tan–1( 1 )   2         ง. ± = tan–1( 1 )
                                                                                4
วิธทา
   ี ํ




                     ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦



  ตอนที่ 3 การเคลอนทแบบวงกลม (1)
                 ่ื ่ี
   คาบ (T) คือ เวลาทีใชในการเคลือนทีครบ 1 รอบ (วินาที)
                        ่            ่ ่
   ความถี่ (f) คือ จํานวนรอบทีเ่ คลือนทีไดในหนึงหนวยเวลา
                                    ่ ่         ่
                    (รอบ / วินาที , Hz)
       หาคาจาก    f = จํานวนรอบ หรือ f = T
                           เวลา
                                          1

                                           96
Physics Online I              http://www.pec9.com                บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
   อัตราเร็วเชิงเสน (v) คือ อัตราเร็วของการเคลือนทีตามเสนรอบวง (เมตร/วินาที)
                                                ่ ่
      หาคาจาก v = 2° Rf หรือ v = 2℘R             T
   การเคลื่อนที่แบบวงกลม จะมีแรงเกียวของอยางนอย 2
                                   ่
      แรง เสมอ คือ แรงเหวียงออก และแรงสูศูนยกลาง
                          ่
                     Fc = mv2 และ ac = v2
                            R                 R
       เมือ ac = ความเรงศูนยกลาง (m/s2)
          ่                                      v = อัตราเร็วเชิงเสนของวัตถุ (m/s)
            R = รัศมีการเคลือนที่ (m)
                            ่                    Fc = แรงเขาสูศูนยกลาง ( N )
            m = มวลวัตถุที่เคลื่อนที่เปนวงกลมนั้น (kg)
24. จากการเคลื่อนที่แบบวงกลมของวัตถุหนึ่งพบวาชวงเวลา 2 วินาที เคลือนทีได 10 รอบ
                                                                    ่ ่
   จงหาคาความถี่ และ คาบของการเคลือนที่
                                   ่                                  (5 Hz , 0.2 วินาที)
วธทา
 ิี ํ




25. จากขอทีผานมา ถารัศมีการเคลือนทีมคา 0.2 เมตร อัตราเร็วเชิงเสนของวัตถุนจะเปนเทาไร
            ่                   ่ ่ ี                                      ้ี
วธทา
 ิี ํ                                                                  (6.3 เมตร/วินาที)




26. จงหาความเรงเขาสูศนยกลางของวัตถุทเ่ี คลือนทีเ่ ปนรูปวงกลมรัศมี 8 เมตร ดวยอัตราเร็ว
                      ู                      ่
   20 เมตรตอวินาที และหากมวลที่เคลื่อนที่มีขนาดเทากับ 5 กิโลกรัม จงหาแรงเขาสูศูนย
   กลาง                                                                    ( 50 m/s2 , 250 N )
วธทา
 ิี ํ




                                             97
Physics Online I            http://www.pec9.com             บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
27. การเคลือนทีของวัตถุเปนวงกลมดวยอัตราเร็วสม่าเสมอ ถาอัตราเร็วของการเคลือนทีเ่ พิม
             ่ ่                                  ํ                         ่         ่
   ขึ้น เปน 2 เทา โดยทีรศมียงคงเทาเดิม จะตองใชแรงเขาสูศูนยกลาง
                          ่ั ั
        1. เทากับครึงหนึงของคาเทาเดิม
                     ่ ่                     2. เทาเดิม
        3. เพิมขึนเปน 2 เทา
              ่ ้                            4. เพิมขึนเปน 4 เทา
                                                    ่ ้                        (ขอ 4)
                                                                                    
วธทา
 ิี ํ




ขนตอนการคานวณเกยวกบวงกลม มีดังนี้
 ้ั      ํ     ่ี ั
   1) วาดรูปเขียนแรงกระทําทีเ่ กียวของทุกแรง
                                 ่
   2) กําหนดให แรงเขาวงกลม = แรงออกวงกลม แลวแกสมการจะไดคําตอบ
    โจทยตัวอยางเกี่ยวกับ แรงดนพน (N)
                               ั ้ื
28. รถคันหนึงมีมวล 1000 กิโลกรัม เคลือนทีขนรางโคงตี
            ่                          ่ ่ ้ึ
   ลังกาอันมีรัศมี 10 เมตร ดวยความเร็วคงที่ 30 เมตรตอ
   วินาที ตอนทีรถคันนีกาลังตีลงกาอยูทจดสูงสุดของราง
                  ่      ้ํ     ั      ่ี ุ
   โคง แรงปฏิกรยาทีรางกระทําตอรถมีคากีนวตัน (80000)
                 ิิ ่                    ่ ิ
วธทา
 ิี ํ




29. รถไฟเหาะตีลังกามวล 2000 กิโลกรัม เคลือนทีบนราบโคงรัศมี 10 เมตร ขณะผานจุด
                                           ่ ่
   สูงสุดดวยอัตรา 20 เมตรตอวินาที จะมีแรงปฏิกิริยาที่รางกระทําตอรถไฟเทาใด (ขอ 2)
      1. 40000 นิวตัน     2. 60000 นิวตัน       3. 80000 นิวตัน 4. 100000 นิวตัน
วธทา
 ิี ํ

                                          98
Physics Online I            http://www.pec9.com             บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
30. รถคันหนึงมีมวล 1000 กิโลกรัม เคลือนทีขนรางโคงตีลงกาอันมีรศมี 10 เมตร ดวย
            ่                          ่ ่ ้ึ         ั        ั
   ความเร็วคงที่ 30 เมตรตอวินาที จงหาแรงปฏิกรยาทีรางกระทําตอรถตอนที่
                                              ิิ ่
      ก) รถอยูทจดลางสุดของราง
               ่ี ุ                                                      (100000 N)
      ข) รถอยูทจดตรงกับแนวศูนยกลางรางในแนวระดับ
                ่ี ุ                                                      (90000 N)
วธทา
 ิี ํ




31. เครืองบินไอพน บินเปนวงกลมในแนวดิงรัศมี 100 เมตร และอัตราเร็วคงที่ 100 เมตร/วินาที
        ่                               ่
   นักบินมีมวล 50 กิโลกรัม อยากทราบวา แรงปฏิกรยาทีเ่ บาะนังกระทําตอนักบินเปนเทาไร
                                                ิิ         ่
   ขณะเครืองบินอยูทจดสูงสุด
           ่        ่ี ุ                                                      (ขอ 2)
                                                                                  
      1. 4000 นิวตัน       2. 4500 นิวตัน      3. 5000 นิวตัน       4. 5500 นิวตัน
วธทา
 ิี ํ




32(En 43/2) รถยนตมวล 1200 กโลกรม กําลังวิ่งดวยอัตราความเร็ว v เมตรตอวินาที ขาม
                               ิ ั
   สะพานที่จุดสูงสุดของสะพานซึ่งมีรัศมีความโคงในระนาบดิ่ง 12 เมตร จงหาอัตราเร็ว v ท่ี
   พอดีทําใหรถยนตเริ่มหลุดจากความโคงของสะพาน
      1. 11 m/s           2. 12 m/s         3. 13 m/s         4. 14 m/s        (ขอ 1)
                                                                                 
วธทา
 ิี ํ



                                          99
Physics Online I            http://www.pec9.com               บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
33(มช 34) วัตถุกลมเล็กอันหนึ่งมีมวล m วางอยูจุดบนสุดของครึ่งทรงกลมตันซึ่งมีมวล m รศมี R
                                                                                    ั
   จงหาอัตราเร็วในแนวระดับทีนอยทีสดทีจะทําใหวตถุหลุดออกผิวทรงกลมโดยไมมการเลื่อน
                               ่  ่ ุ ่          ั                             ี
   ไถลลงมาตามผิว และให N เปนแรงที่ทรงกลมกระทําตอวัตถุในแนวตั้งฉากกับผิวทรงกลม
              1                   Κ1                      1                       1
      ก. (Rg) 2          ข. (Rg) 2                   N
                                           ค. [(g Κ m )R] 2               N Κ
                                                                 ง. [(g Κ m )R] 2 (ขอ ก)
วธทา
 ิี ํ




   โจทยตัวอยางเกี่ยวกับ แรงดงเชอก
                              ึ ื
34. จากรูป มวล 5 กิโลกรัม ถูกมัดดวยเชือกยาว 1 เมตร
   แลวแกวงเปนวงกลมตามแนวราบ ดวยอัตราเร็วคงที่ 2
   เมตรตอวินาที จงหาคาของแรงดึงในเสนเชือก ( 20 N)
วธทา
 ิี ํ




35. จากรูปมวล m อยูบนโตะลืนผูกติดกับกอนน้าหนัก W
                           ่              ํ
   ดวยเชือกเบาสอดผานรูกลางโตะ จงหาอัตราเร็วของ m
   ขณะเคลื่อนที่ในแนววงกลมรัศมี r
      1. 1/ mrW                    2. mrW
        3.     m                     4.    rW                                      (ขอ 4)
                                                                                     
              rW                            m
วธทา
 ิี ํ



                                          100
Physics Online I         http://www.pec9.com          บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
36. วตถมวล 2 กิโลกรัม ผกดวยเชอกแลวแกวงเปนวงกลมในแนวระดบรศมี 0.3 เมตร โดย
         ั ุ            ู  ื                       ั ั
   เสนเชอกเอยงทามม 53 องศากบแนวราบ ถาความเรวในการแกวงคงทเ่ี ทากบ 1.5 เมตร/
         ื ี ํ ุ           ั              ็                ั
   วนาที จงหาแรงดงในเสนเชอก (กาหนด cos 53o=3/5 , sin 53o= 4/5 )
      ิ           ึ     ื      ํ                                      ( 25 N)
วธทา
 ิี ํ




37. วตถกอนหนง ผกดวยเชอกแลวแกวงเปนวงกลมในแนวระดบรศมี 0.3 เมตร โดยเสน
       ั ุ   ่ึ ู  ื                        ั ั
   เชอกเอยงทามม 53 องศากบแนวราบ ถาแรงดงในเสนเชอกมคาเทากบ 50 นวตน
      ื ี ํ ุ           ั             ึ     ื ี  ั        ิ ั
   จงหามวลของวตถกอนน้ี (กาหนด cos 53o = 3/5 , sin 53o = 4/5 )
                ั ุ      ํ                                       (4 kg)
วธทา
 ิี ํ




38. จากโจทยขอทผานมา จงหาอตราเรวของการเคลอนทเ่ี ปนวงกลม
             ่ี       ั    ็         ่ื                             (1.5 m/s)
วธทา
 ิี ํ




                                       101
Physics Online I         http://www.pec9.com           บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
39. ผกเชอกเบาตดกบลกบอลมวล 3 กิโลกรัม แกวงเชอกใหเ ปนวงกลมในแนวดงรศมี 1 เมตร
        ู ื   ิ ั ู                         ื                    ่ิ ั
   ดวยความเรวเชงเสน 5 เมตร/วนาที จงหาแรงดงของเชอกขณะทลกบอลอยทตาแหนงสงสด
           ็ ิ            ิ            ึ     ื      ่ี ู   ู ่ี ํ     ู ุ
วธทา
 ิี ํ                                                                    ( 45 N)




40(มช 41) ผกเชอกเบาตดกบลกบอลมวล 1 กิโลกรัม แกวงเชอกใหเ ปนวงกลมในแนวดงรศมี
            ู ื     ิ ั ู                         ื                   ่ิ ั
   0.2 เมตร ดวยความเรวเชงเสน 4 เมตร/วนาที จงหาแรงดงของเชอกขณะทลกบอลอยท่ี
                    ็ ิ            ิ             ึ    ื     ่ี ู        ู
   ตาแหนงสงสด
      ํ    ู ุ                                                    (70 นิวตัน)
วธทา
 ิี ํ




41. ผกเชอกเบาตดกบลกบอลมวล 3 กิโลกรัม แกวงเชอกใหเ ปนวงกลมในแนวดงรศมี 1
      ู ื        ิ ั ู                     ื                 ่ิ ั
   เมตร ดวยความเรวเชงเสน 5 เมตร/วนาที จงหาแรงดงของเชอกขณะท่ี
                       ็ ิ           ิ      ึ      ื
       ก) ลกบอลอยทจดตาสด
               ู      ู ่ี ุ ํ่ ุ                                   (105 N)
       ข) ลกบอลอยทจดตรงกบแนวศนยกลางวงกลมในแนวระดบ
             ู      ู ่ี ุ        ั ู                ั              (75 N)
วธทา
 ิี ํ




                                       102
Physics Online I          http://www.pec9.com             บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
42. วตถมวล 1.0 กิโลกรัม ผกตดกบเชอกยาว 5 เมตร ถาถอวตถอนนใหเ ชอกตง และอยู
      ั ุ                    ู ิ ั ื             ื ั ุ ั ้ี ื ึ
   ในแนวระดบกอนแลวจงปลอยใหวตถตกลงมาอยากทราบวา
                 ั     ึ       ั ุ            
       ก. เมอวตถแกวงถงจดตาสดจะมอตราเรวเทาใด (10 m/s)
              ่ื ั ุ  ึ ุ ํ่ ุ     ีั ็ 
       ข. ทจดตาสดเชอกมแรงตงเทาใด
            ่ี ุ ํ่ ุ ื ี ึ                  (30 N)
วธทา
 ิี ํ




43. วตถมวล 2 กิโลกรัม ผกไวดวยเชอกเสนหนงแลวแกวงใหหมนเปนวงกลมในแนวดงมี
         ั ุ                     ู   ื  ่ึ    ุ                         ่ิ
   รศมี 10 เมตร เมอวตถถกแกวงขนมาถงจดสงสดวตถตองมความเรวนอยทสดเทาไร วตถุ
      ั                 ่ื ั ุ ู     ้ึ ึ ุ ู ุ ั ุ  ี          ็  ่ี ุ  ั
   จงจะยงคงเคลอนทเ่ี ปนวงกลมได
        ึ ั         ่ื        
          1. 20 เมตร / วนาทีิ                  2. 15 เมตร / วนาที
                                                              ิ
          3. 10 เมตร/ วนาที
                          ิ                    4. 5 เมตร / วนาที
                                                            ิ                (ขอ 3)
                                                                                  
วธทา
 ิี ํ




44. หากตองการใหมวล m ซงมดดวยเชอกรศมี r สามารถแกวงตวเปนวงกลมในแนวดงได
                        ่ึ ั  ื ั               ั           ่ิ
   พอดี ความเรวทจดตาสดของวงกลมการเคลอนทอยางนอยทสดตองมคาเปนเทาใด
              ็ ่ี ุ ํ่ ุ            ่ื ่ี   ่ี ุ  ี   
      ก. gr                 2. 2gr         3. 4gr        4. 5gr (ขอ ง)
                                                                    
วธทา
 ิี ํ



                                        103
Physics Online I          http://www.pec9.com             บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
45(En 34) วตถมวล 0.5 กิโลกรัม ผกตดกบเชอกยาว 1.0 เมตร แกวงเปนวงกลมในแนวดง
            ั ุ                  ู ิ ั ื                              ่ิ
   เมอเชอกทามม 60o กบแนวดงจากตาแหนงตาสดของวถทางโคจรของวตถุ จงหาความตง
     ่ื ื ํ ุ        ั      ่ิ     ํ    ํ่ ุ       ิี         ั           ึ
   ในเสนเชอก ถาขณะนนอตราเรวในการเคลอนททตาแหนงเปน 3.0 เมตร/วนาที (ขอ 3)
         ื           ้ั ั    ็         ่ื ่ี ่ี ํ            ิ    
        1. 2.0 นวตน
                ิ ั       2. 6.5 นวตน
                                  ิ ั           3. 7.0 นวตน
                                                        ิ ั          4. 8.8 นวตน
                                                                             ิ ั
วธทา
 ิี ํ




                      ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦




  ตอนที่ 4 การเคลอนทแบบวงกลม (2)
                 ่ื ่ี
โจทยตัวอยางเกี่ยวกับ แรงเสยดทาน
                            ี
46. ถนนราบโคงมรศมความโคง 50 เมตร ถาสมประสทธของความเสยดทานระหวางยางกบ
             ีั ี                 ั     ิ ์ิ       ี                ั
   ถนนของรถคนหนง มคาเทากบ 0.2 รถคนนจะเลยวโคงไดดวยความเรวสงสดเทาไรจงจะ
             ั ่ึ ี   ั        ั ้ี ้ี             ็ ู ุ  ึ
   ไมไถลออกนอกโคง
                                                              ( 10 m/s )
วธทา
 ิี ํ




                                        104
Physics Online I            http://www.pec9.com             บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
47. ถนนราบโคงมรศมความโคง 100 เมตร ถาสมประสทธของความเสยดทานระหวางยางกบ
             ีั ี                 ั    ิ ์ิ       ี               ั
   ถนนของรถคนหนง มคาเทากบ 0.4 รถคนนจะเลยวโคงไดดวยความเรวสงสดเทาไรจงจะ
             ั ่ึ ี   ั         ั ้ี ้ี           ็ ู ุ  ึ
   ไมไถลออกนอกโคง
                                                            (20 m/s)
วธทา
 ิี ํ




48(มช 30) แผนเสยงแผนหนงวางอยในแนวระดบ เมอเอาเหรยญอนหนงมาวางไวหางจาก
                 ี  ่ึ               ู         ั      ่ื   ี ั ่ึ          
   จดศนยกลางของแผนเสยงเปนระยะ 10 เซนตเิ มตร ปรากฏวาเหรยญอนนจะหมนตดไปกบ
      ุ ู                ี                                ี ั ้ี       ุ ิ       ั
   แผนเสยงไดโดยไมไถลหลดจากโตะ ถาอตราการหมนของแผนนอยกวา 1 รอบตอวนาที
         ี                 ุ             ั        ุ                  ิ
   จงหาสมประสทธความเสยดทานสถตระหวางเหรยญกบแผนเสยง
            ั     ิ ์ิ      ี              ิ       ี ั  ี                      (ขอ 3)
                                                                                   
         1. 0.2                 2. 0.3               3. 0.4          4. 0.6
วธทา
 ิี ํ




49(En 32) เหรยญวางอยทระยะ 20 cm จากศูนยกลางแผนเสียง ถาสัมประสิทธิ์ความเสียดทาน
               ี     ู ่ี
   สถตยระหวางเหรยญและแผนเสยงเปน 0.125 จงหาจานวนรอบทมากทสดใน 1 วนาที
         ิ       ี        ี                  ํ           ่ี   ่ี ุ       ิ
   ทแผนเสยงหมนแลวเหรยญยงคงอยนงเทยบกบแผนเสยง
      ่ี  ี     ุ  ี ั       ู ่ิ ี ั  ี                              (0.4 Hz)
วธทา
 ิี ํ




                                          105
Physics Online I            http://www.pec9.com             บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ

                                     กรณี การเลยวโคงของรถบนถนน
                                                 ้ี 
                                     1) จะมีแรงเสียดทานระหวางยางรถกับพื้นถนน เปนแรง
                                        ผลักเขาสูศูนยกลาง
                                     2) กรณรถมอเตอรไซคจะมการเอยงตวจากแนวดง เพอ
                                             ี             ี    ี ั            ่ ิ ่ื
                                        ใหแนวแรงลัพธของแรงเสียดทานกับแรงดันพื้นผลัก
                                        ผานจดศนยกลางมวลของมอเตอรไซด
                                          ุ ู                       
                                                       tan″ = v2
                                                               gr
                                         เมอ v คอ อตราเรวของการเคลอนท่ี (m/s)
                                           ่ื      ื ั      ็         ่ื
                                              r คอ รศมความโคงของถนน (m)
                                                    ื ั ี     
                                              ″ คอ มมทมอเตอรไซดเ อยงกระทากบแนวดง
                                                 ื ุ ่ี            ี        ํ ั    ่ิ
                                     หรอ ″ คอ มมทพนถนนเอยงกระทากบแนวพนราบ
                                       ื          ื ุ ่ี ้ื       ี      ํ ั     ้ื
50. กาหนดใหรถจกรยานยนตเ ลยวโคงบนถนนรศมความโคง 0.1 km ดวยอตราเรว 36 km/hr
      ํ      ั           ้ี         ั ี              ั     ็
   ไดอยางปลอดภย แมฝนตกทางลน คนขบตองเอยงตวทามมกบแนวดงเทาใด
            ั              ่ื   ั  ี ั ํ ุ ั        ่ิ         (6o)
วธทา
 ิี ํ



51(มช 41) ผขบขรถจกรยานยนตเ ลยวโคงบนถนนราบทมรศมความโคง 40 เมตร คนขบตอง
              ู ั ่ี ั        ้ี                  ่ี ี ั ี               ั 
   เอยงรถทามม 37o กบแนวดง ขณะนนผขบขขบรถในอตราเรวกเ่ี มตร/วนาที
      ี      ํ ุ        ั   ่ิ      ้ั ู ั ่ี ั          ั  ็   ิ          (ขอ 1)
                                                                              
        1. 17.32          2. 40.51               3. 30.67          4. 23.29
วธทา
 ิี ํ



52. รถยนตคนหนงแลนดวยความเรว 60 กโลเมตร/ชวโมง เมอรถคนนเ้ี ลยวโคงบนถนนมรศมี
          ั ่ึ         ็     ิ       ่ั     ่ื  ั ้ี             ีั
   ความโคง 150 เมตร พืนถนนควรเอียงทํามุมกับแนวระดับเทาใด รถจึงจะเลียงโคงอยางปลอดภัย
                       ้                                             ้
วธทา
 ิี ํ                                                                             (10.5o)


                                          106
Physics Online I          http://www.pec9.com            บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
53. ทางโคงของถนน ทานจะสงเกตเหนวาระดบของถนนบรเิ วณนอกสวนโคงจะมระดบสงกวา
                              ั  ็  ั                      ี ั ู 
   บรเิ วณในสวนโคง ทานจงใหเ หตผลวาเปนเพราะอะไร
                               ุ  
        ก. เพอตานแรงหนศนยกลาง
              ่ื        ีู                  ข. เพอใหทศนวสยดขน
                                                    ่ื  ั ิ ั ี ้ึ
        ค. เพอใหรปรางถนนเปนไปตามความตองการ ง. ขอ ก. และ ข. ถูก
              ่ื  ู                                            (ขอ ก)
                                                                      
วธทา
 ิี ํ


  โจทยตัวอยางเกี่ยวกับ แรงดึงดูดระหวางมวล
54. ดาวเทยมดวงหนงโคจรรอบโลกเปนวงกลมรศมี 8 x 106 เมตร และทความสงระดบน้ี
          ี     ่ึ                    ั                  ่ี   ู ั
   แรงดงดดของโลกเทากบ 8 นวตน / กิโลกรัม จงคานวณหาความเรวในการโคจรของดาว
        ึ ู         ั   ิ ั               ํ           ็
   เทยมดวงน้ี
      ี                                                         ( 8x103 m/s )
วธทา
 ิี ํ




55. ดาวเทยมมวล 6 kg หมนรอบโลกเปนวงกลม รศมี 7000 km และทความสงระดบนแรง
           ี               ุ                 ั                 ่ี   ู ั ้ี
   ดงดดของโลกมคาเทากบ 7 N/kg จงคานวณหาความเรวและคาบการหมนของดาวเทยมน้ี
      ึ ู         ี  ั                 ํ        ็                ุ       ี
        1) 7000 เมตร/วนาที , 5548 วนาที
                        ิ            ิ     2. 7000 เมตร/วนาที , 6283 วนาที
                                                           ิ            ิ
        3) 8000 เมตร/วนาที , 5548 วนาที
                      ิ            ิ       4. 8000 เมตร/วนาที , 6283 วนาที
                                                         ิ            ิ
วธทา
 ิี ํ                                                                      (ขอ 2)




                                        107
Physics Online I         http://www.pec9.com               บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
56. ดาวเทยมเคลอนทเ่ี ปนวงกลมรอบโลก โดยมรศมวงโคจร 12.8x106 เมตร อตราเรวของ
          ี     ่ื                    ีั ี                     ั      ็
   ดาวเทยม มคากเ่ี มตรตอวนาที (กาหนด มวลโลก = 6 x 1024 kg)
        ี    ี          ิ     ํ                                 (5.7x103 m/s)
วธทา
 ิี ํ




57(En 33) ดาวเทยมเคลอนทเ่ี ปนวงกลมรอบโลก โดยมระยะหางจากผวโลกเทากบรศมของ
                 ี   ่ื                          ี          ิ    ั ั ี
   โลก อตราเรวของดาวเทยมมคากเ่ี มตรตอวนาที
          ั    ็         ี ี           ิ                               (ขอ 3)
                                                                           
      ( มวลโลก = 6 x1024 kg , รศมโลก = 6.4 x 106 m)
                                ั ี
      1. 1.6x104 m/s        2. 4.0x103 m/s     3. 5.7x103 m/s   4. 11.3x103 m/s
วธทา
 ิี ํ




                   ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦



  ตอนที่ 5 อตราเรวเชงมม
            ั    ็ ิ ุ
                         •=⊗t      เมอ • คือ อัตราเร็วเชิงมุม (เรเดยน / วนาท)
                                     ่ื                                    ี    ิ ี
                                         ″ คือ มุมที่กวาดไป (เรเดยน)     ี
                         • = 2T℘          t คือ เวลาที่ใชกวาดมุมนั้น (วนาท)  ิ ี
                         • = 2° f        T คือ คาบของการเคลอนท่ี (วนาท)
                                                                   ่ื        ิ ี
                         V = •R          f คือ ความถของการเคลอนท่ี (Hz)
                                                        ่ี            ่ื
                         ac = •2 R       V คือ อัตราเร็วเชิงเสน (m/s)
                                        ac คือ อตราเรงเขาสศนยกลาง (m/s2)
                                                  ั          ู ู 
                                       108
Physics Online I           http://www.pec9.com            บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
58. วตถกอนหนงเคลอนทเ่ี ปนวงกลมรอบจดจดหนงดวยความถ่ี 7 รอบ/วนาที จงหาอัตราเร็ว
       ั ุ  ่ึ ่ื               ุ ุ ่ึ                 ิ
   เชงมมของการเคลอนทน้ี
      ิ ุ        ่ื ่ี                                            ( 44 rad/s )
วธทา
 ิี ํ



59. การหมนรอบตวของโลกรอบละ 24 ชวโมง กาหนด รัศมีโลกเทากับ 6.37 x 106 เมตร
              ุ    ั           ่ั    ํ
      จงหา อตราเรวเชงมมทผวโลก
            ั    ็ ิ ุ ่ี ิ                                ( 7.27x10–5 rad/s)
วธทา
 ิี ํ



60. จากขอทผานมา จงหาอตราเรวของวตถทผวโลก
         ่ี        ั    ็    ั ุ ่ี ิ                                    (463 m/s)
วธทา
 ิี ํ


61. จากขอทผานมา จงหาอตราเรงสศนยกลางทเ่ี สนศนยสตร
         ่ี        ั     ู ู         ู  ู                       (0.034 m/s2 )
วธทา
 ิี ํ

62(En 42/2) วตถมวล m วางบนจานกลมที่กําลังหมุน ดวยอตราเรวเชงมม 2° เรเดยน/วนาที
              ั ุ                                    ั    ็ ิ ุ          ี ิ
   ถาวัตถุวางอยูหางจากศูนยกลางของจานเปนระยะ r และขณะที่หมุนวัตถุไมมีการไถล
   แรงเสยดทานทกระทาตอวตถเุ ทากบเทาไร
          ี         ่ี   ํ  ั  ั                                           (ขอ 1)
                                                                                
       1. 4°2 mr               2. 4°2 r2 m       3. 2°2 mr         4. 2° mr
วธทา
 ิี ํ




                                         109
Physics Online I             http://www.pec9.com            บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
63. ถาในการทดลองเกี่ยวกับการเคลื่อนที่เปนวงกลม
   ขณะที่วัตถุมวล M เคลอนทดวยรศมความโคง 0.8
                        ่ื ่ี  ั ี               
   เมตรนัน น้ําหนักของวัตถุทําใหวัตถุอยูต่ํากวาปลาย
          ้
   เชอกทแกนหมน 0.2 เมตร ดงรปอตราเรวเชงมมของ
      ื ่ี        ุ           ั ู ั        ็ ิ ุ
   การเคลอนทจะตองเปนเทาไรในหนวยเรเดยน/วนาที
            ่ื ่ี                          ี ิ                              (ขอ 1)
                                                                                   
       1. 7          2. 8                   3. 9         4. 10               5. 11
วธทา
 ิี ํ




64(En 31) วัตถุผูกติดปลายเชือกแลวแกวงเปนวงกลมสม่ําเสมอ
   ตามแนวราบแบบฐานกรวย ถารัศมีของการแกวงเปนวงกลม
   30 เซนติเมตร และมวลของวัตถุ 0.5 กิโลกรัม เชือกยาว 50
   เซนติเมตร อตราเรวเชงมมของการแกวงเปนกเ่ี รเดยนตอวนาที
               ั     ็ ิ ุ                     ี  ิ
      1. 5               2. 7.5               3. 10                4. 25         (ขอ 1)
                                                                                   
วธทา
 ิี ํ

65. วตถมวล 2 กิโลกรัม ผูกดวยเชือกยาว 0.5 เมตร แลวแกวงเปน
      ั ุ
   วงกลมในระนาบระดับดวยรัศมี 0.3 เมตร จงหาอัตราเร็ว (1.5 m/s)
วธทา
 ิี ํ

66. จากขอทผานมา จงหาแรงดงในเสนเชอก
         ่ี           ึ     ื                         (25 N)
วธทา
 ิี ํ

                                            110
Physics Online I           http://www.pec9.com               บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
    ตอนที่ 6 การเคลือนทีแบบซิมเปลฮารโมนิค (1)
                    ่ ่
   การเคลอนทซมเปลฮารโมนคแบบสน
         ่ื ่ี ิ   ิ      ่ั
                                             a   =   •2 A
                                             v   =   •A
                                             •   =     mk
                                             T   =   2℘
                                                      ⊇
                                             f   =   1= ⊇
                                                     T 2℘
                                   เมอ v
                                     ่ื          =   ความเร็วสูงสุด (ที่จุดสมดุลเทานั้น)
                                        a        =   ความเรงสูงสุด (ที่ระยะทางไกลที่สุด)
     • = ความเรวเชงมม (เรเดยน / วนาท) A
               ็ ิ ุ       ี     ิ ี             =   อมปลจด (ระยะทางไกลที่สุด)
                                                      ั ิู
      k = คานจสปรง (N/m)
            ิ     ิ                    m        =   มวล (kg)
      T = คาบการสั่น (s)                f        =   ความถี่การสั่น (Hz)
67(มช 34) สปรงเบาตวหนงมคานจ 25 นวตน/เมตร ผกตดกบ
                ิ    ั ่ึ ี  ิ          ิ ั         ู ิ ั
   มวล 1 กิโลกรัม ซึ่งวางอยูบนพื้นเกลี้ยง ดงรป เมอดงสปรง
                                             ั ู ่ื ึ      ิ
   ออกไป 20 เซนติเมตร แลวปลอยมือ มวลกอนนจะมอตรา
                                                 ้ี ี ั
   เรวเทาใดเมอผานตาแหนงสมดล
      ็      ่ื  ํ          ุ
       ก. 0.2 m/s       ข. 1.0 m/s            ค. 2.0 m/s     ง. 3.0 m/s           (ขอ ข)
                                                                                    
วธทา
 ิี ํ



68(มช 34) สปรงเบาตวหนงมคานจ 100 นวตน/เมตร ผูกติดกับมวล 1 กิโลกรัม ซึ่งวางอยูบน
                ิ      ั ่ึ ี  ิ    ิ ั
   พื้นราบเกลี้ยง เมอดงสปรงออกไป 30 เซนติเมตร แลวปลอยมือ มวลกอนนจะมอตราเรง
                    ่ื ึ    ิ                                    ้ี ี ั      
   สูงสุดเทาใด
       ก. 10 m/s2        ข. 20 m/s2      ค. 30 m/s2      ง. 40 m/s2      (ขอ ค)
                                                                           
วธทา
 ิี ํ


                                         111
Physics Online I           http://www.pec9.com              บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
69(En 36) แขวนมวล 100 กรัม ที่ปลายหนึ่งของสปริงที่มีมวลนอยมากดึงมวลจากตําแหนง
   สมดุล 10 เซนติเมตร แลวปลอย อตราเรวเชงเสนขณะเคลอนทผานสมดลมคาเทาใด ถา
                                    ั  ็ ิ            ่ื ่ี      ุ ี 
   คาบของการสั่นมีคา 2 วนาที
                         ิ                                                 (ขอ 1)
                                                                             
      1. 0.31 m/s       2. 0.99 m/s       3. 3.14 m/s           4. 9.9 m/s
วธทา
 ิี ํ




70. วตถหนงเคลอนทแบบฮารมอนกอยางงาย มีอัมพลิจูด 10 เซนติเมตร มีความถี่ 2 รอบ
       ั ุ ่ึ ่ื ่ี         ิ  
   ตอวนาที วัตถุจะมีความเรงสูงสุดเทาใด
       ิ                                                        (15.68 m/s2)
วธทา
 ิี ํ




71. สปรงวางบนพนราบมคานจสปรง (2°)2 N/m ปลายขางหนึ่งผูกตรึงปลายอีกขางหนึ่ง
          ิ      ้ื  ี ิ   ิ
   มีมวล 4 kg ตดไว เมอออกแรงดงมวลแลวปลอยมวลจะเคลอนทแบบ SHM ดวยคาบ
               ิ      ่ื      ึ                    ่ื ่ี
   กี่วินาที                                                              (2)
วธทา
 ิี ํ




72. สปรงวางบนพนราบมคานจสปรง ±2 N/m ปลายขางหนงผกตรงปลายอกขางหนงมมวล 1 kg
       ิ      ้ื   ี ิ   ิ                ่ึ ู ึ     ี    ่ึ ี
   ติดไว เมือออกแรงดึงมวลแลวปลอยมวลจะเคลือนทีแบบ SHM ดวยคาบกีวนาที
             ่                              ่ ่                  ่ิ            (2 วินาที)
วธทา
 ิี ํ



                                         112
Physics Online I           http://www.pec9.com              บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
73(En 35) รถทดลองมวล 500 กรัม ติดอยูกับปลายสปริง
   ดงรป เมือดึงดวยแรง 5 นวตน ในทิศขนานกับพื้น จะ
      ั ู      ่            ิ ั
   ทาใหสปรงยดออก 10 เซนติเมตร เมอปลอยรถจะเคลอนท่ี
       ํ  ิ ื                      ่ื             ่ื
   กลับไปมาบนพื้นเกลี้ยงแบบซิมเปลฮารโมนิกดวยคาบเทาไร                       (ขอ 1)
                                                                                 
        1. 0.63 s         2. 0.67 s             3. 1.60 s              4. 2.00 s
วธทา
 ิี ํ




74(มช 42) ลวดสปรงอนหนงวางบนพนเกลยง ปลายดานหนึ่งยืดแนนกับผนังปลายที่เหลือมี
                   ิ ั ่ึ        ้ื ้ี
   มวล 1.0 กิโลกรัมติดไว ถาทําใหเกิดการสั่นแบบซิมเปลฮารมอนิกวัดคาบการสั่นได
   (2° / 5) วนาที แรงในหนวยของนวตนทกระทาตอมวลน้ี เมออยหางจากตาแหนงสมดล
             ิ                    ิ ั ่ี     ํ         ่ื ู       ํ          ุ
   0.2 เมตร เปนเทาใด
                                                                       (5 นวตน)
                                                                              ิ ั
วธทา
 ิี ํ




75(มช 43) แขวนมวล 2 กิโลกรัม กับสปริง แลวปลอยใหสั่นขึ้นลง วดคาบของการสนได
                                                                ั          ่ั
   1 วนาที ถาเอามวล 2 กิโลกรัม ออกสปรงจะสนกวาตอนทแขวนมวลนอยกเ่ี มตร
       ิ                               ิ ้ั              ่ี         ้ี ู
      1. 0.08         2. 0.12          3. 0.25               4. 0.40          (ขอ 3)
                                                                                
วธทา
 ิี ํ




                                         113
Physics Online I              http://www.pec9.com          บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
76(มช 44) แขวนมวล m กับสปริงซึ่งมีคาคงตัวสปริง k แลวทําใหสั่นขึ้นลงในแนวดิ่ง
   วดคาบการสนได To ถานํามวล 4m มาแขวนแทนทมวล m แลวคาบการสั่นจะเปนเทาใด
      ั       ่ั                                 ่ี
        1. To
            4       2. T2o              3. To             4. 2To                (ขอ 4)
                                                                                  
วธทา
 ิี ํ




77(En 43/2) หากผูกมวล m ตดกบสปรงในแนวดง ดึงมวลลงเล็กนอยแลวปลอยใหสั่นพบวา
                           ิ ั      ิ         ่ิ
   สปริงมีคาบของการสั่น 2 วนาที ถาเพิ่มมวลเขาไปอีก 2 กิโลกรัม สปริงจะมีคาบการสั่น
                            ิ
   3 วนาที จงหาขนาดของมวล m ในหนวยกโลกรม
      ิ                                   ิ ั                            (1.6 kg)
วธทา
 ิี ํ




                    ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦


  ตอนที่ 7 การเคลือนทีแบบซิมเปลฮารโมนิค (2)
                  ่ ่
       การเคลอนทซมเปลฮารโมนคแบบแกวง
             ่ื ่ี ิ   ิ        
                                                a = •2 A
                                                v = •A
amax                           amax             • = L g
                   vmax
                                                T = 2℘
                                                    ⊇
          A               A                         1 ⊇
                                                f = T = 2℘
                                            114
Physics Online I           http://www.pec9.com             บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
           เมอ v = ความเร็วสูงสุด (ที่จุดสมดุลเทานั้น)
               ่ื
                   a = ความเรงสูงสุด (ที่ระยะทางไกลที่สุด)
                  • = ความเรวเชงมม (เรเดยน/วนาท)
                              ็ ิ ุ         ี ิ ี
                  A = อมปลจด (ระยะทางไกลที่สุด)
                        ั ิู
                   L = ความยาวสายแกวง (m)
                   T = คาบการแกวง (s)
                   f = ความถี่การแกวง (Hz)
78. ลูกตุมแขวนดวยเชือกยาว 0.4 เมตร แกวงไปมาดวยอัมปลิจูด 0.1 เมตร จงหาความเรว ็
   ขณะเคลอนผานจดสมดล
             ่ื  ุ       ุ                                                 ( 0.5 m/s)
วธทา
 ิี ํ

79(มช 32) ความเรวสงสดของวตถทกาลงแกวงแบบซมเปลฮารโมนคดวยคาบของการแกวง
                ็ ู ุ       ั ุ ่ี ํ ั          ิ   ิ                          
   0.2 วนาที และอัมปลิจูด 2 เซนติเมตร จะมีคาเทากับ
        ิ                                                                      (ขอ ค)
                                                                                 
      ก. 5° เซนติเมตร/วนาที
                        ิ                ข. 10° เซนติเมตร/วนาที
                                                            ิ
      ค. 20° เซนติเมตร/วนาที
                          ิ              ง. ไมสามารถหาคาไดจากขอมูลที่ใหมา
วธทา
 ิี ํ


80. ตองการใหลกตมนาฬกาแกวงในระนาบบนพนโลกใหครบรอบภายในเวลา 2 วนาที
            ู ุ   ิ                    ้ื              ิ
   จะตองออกแบบใหสายลูกตุมนาฬิกายาวเทาใด ให °2 = 10       (1 เมตร)
วธทา
 ิี ํ




81. ลูกตุมแขวนดวยเชือกยาว 1 เมตร แกวงไปมาดวยคาบ 2 วนาที ถาลกตมแขวนดวยเชอก
                                                       ิ      ู ุ     ื
   ยาว 9 เมตร จะแกวงดวยคาบเทาใด                                    (6 วนาที)
                                                                          ิ
วธทา
 ิี ํ


                                         115
Physics Online I            http://www.pec9.com          บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
82. ถานาฬกาแบบลกตมเดนไดตรง ณ บรเิ วณพนทราบใกลระดบนาทะเล ถานานาฬกานไปใช
      ิ       ู ุ ิ               ้ื ่ี    ั ํ้       ํ ิ ้ี
   ณ บริเวณยอดเขาสูงกวาระดับน้าทะเลมาก ๆ คาบของการแกวงจะเพิมขึนหรือลดลง
                               ํ                             ่ ้                (เพิ่ม)
วธทา
 ิี ํ

   การหาความเรว และความเรง ณ จุดใดๆ
              ็          
           Vs = • A 2 Κ x 2
           as = •2 x
          Vt = •A sin (• t)
          at = •2 A cos (• t)                                      X

        เมอ Vs ,
          ่ื    as = ความเรว และ ความเรง ณ จดหางจากสมดล
                             ็             ุ           ุ             A
             Vt ,
                at = ความเรว และ ความเรง ณ เวลา t จากสมดุล
                               ็         
                A = อมปลจด
                       ั ิู
        และ x = A sin ( • t )
        เมอ x = การขจัด ณ. เวลา t ใดๆ
          ่ื
83. อนภาคหนงเคลอนทแบบ SHM ดวยชวงกวาง
       ุ     ่ึ ่ื ่ี
   1.5 เมตร ความถี่ 50 Hz จงหาความเรว และ็
   ความเรง เมอการขจดเปน 1 เมตร
              ่ื      ั 
วธทา
 ิี ํ                      (351 m/s , 98696 m/s2)

                                                                       X= 1 m

                                                                           A=1.5 m


84. ซมเปลฮารโมนค มีชวงกวาง 8 เซนติเมตร และคาบ 4 วนาที จงหาความเรงหลงจากท่ี
      ิ   ิ                                      ิ               ั
   อนภาคผานจดสมดลไปได 0.5 วนาที
       ุ  ุ     ุ             ิ                                    (0.14 m/s2)
วธทา
 ิี ํ



                                          116
Physics Online I           http://www.pec9.com            บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
           แบบฝ กหั ดฟ สิ ก ส บทที่ 4 การเคลื่ อ นที่ แ บบต า งๆ
 การเคลือนทีแบบโปรเจกไทล
        ่ ่
1. ขวางลูกบอลจากที่สูงออกไปในแนวราบดวย
   อตราเรว 3 เมตร/วนาที เมอเวลาผานไป
     ั     ็         ิ        ่ื      
    2 วนาที จะมการขจดเทาไร
        ิ        ี     ั         (ขอ 4)
                                    
       1. 6 เมตร           2. 20 เมตร
       3. 17.35 เมตร      4. 436 เมตร
2. จากโจทยขอทผานมา เมอเวลาผานไป 0.4 วนาที อตราเรวทปรากฏจะเปนกเ่ี มตร/วนาที
              ่ี  ่ื             ิ     ั    ็ ่ี                 ิ
       1. 5          2. 4            3. 3            4. 2               (ขอ 1)
                                                                          
3. จากโจทยขอทผานมาอยากทราบวา เมอเวลาผานไป 0.4 วนาที ทิศทางการเคลื่อนที่จะทํา
              ่ี                    ่ื                ิ
   มมเทาไรกบแนวเดม (แนวระดบ)
    ุ  ั             ิ        ั
      1. tan –1 ( 3 )
                  5     2. tan –1 ( 5 )
                                    3      3. tan –1 ( 4 )
                                                       3
                                                                         3
                                                             4. tan –1 ( 4 ) (ขอ 3)
                                                                               
4. เมอปาวตถออกไปในแนวระดบจากทสง 80 เมตร ปรากฏวาวตถตกหางจากจดปาในแนว
     ่ื ั ุ                ั    ่ี ู           ั ุ       ุ
   ราบ 20 เมตร จงหาอตราเรวของวตถทถกปาออกไป
                    ั    ็    ั ุ ่ี ู                       (Ux = 5 m/s)
5. ชายคนหนง ยืนบนหนาผาสูง 80 เมตร ขวางลกบอลออกไปในแนวราบ ดวยความเรวตน
            ่ึ                            ู                               ็ 
   330 เมตร/วนาที ถามวาลูกบอลไปตกไกลจากหนาผาเทาไร
               ิ
      1. 300 เมตร       2. 330 เมตร       3. 1320 เมตร     4. 2330 เมตร      (ขอ 3)
6. ชายคนหนึ่งยืนอยูบนดาดฟาตึกสูง 50 เมตร แลวปากอนหินลงไปในแนวทํามุมกม 37o
   กบแนวระดบดวยความเรว 25 เมตรตอวินาที
    ั        ั       ็
      ก. นานเทาไรกอนหนตกถงพนดน
                 ิ      ึ ้ื ิ                                                 (2 s)
      ข. กอนหนตกหางจากตวตกเทาไร
           ิ          ั ึ                                                   (40 m)
7. ตามรูปลูกบอลถูกขวางจากกําแพงดวยความเร็วตน
   80 เมตร/วนาที กําแพงสูง 35 เมตร อยากทราบวา
             ิ                                 
   นานเทาไรลูกบอลจึงจะตกถึงพื้น
      1. 8.0 วนาที
               ิ          2. 0.8 วนาที
                                  ิ
      3. 8.8 วนาที
                 ิ        4. 9.6 วนาที (ขอ 3)
                                    ิ       
                                         117
Physics Online I              http://www.pec9.com           บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
8. จากขอทผานมา ลูกบอลจะตกหางจากจุด P ออกไปในแนวราบกเ่ี มตร
          ่ี 
       1. 704.0        2. 609.7      3. 528.0        4. 665.1          (ขอ 2)
                                                                          
9. ยิงปนทํามุม 53o กบแนวระดบ ถาลกปนมอตราเรว 300 เมตรตอวินาที อยากทราบวา
                     ั       ั  ู  ีั     ็                           
   ลูกปนตกไกลจากจุดยิงเทาไร                                                (8640 เมตร)
10. นักทุมน้ําหนักทีมชาติไทยทุมลูกเหล็กออกไปดวยความเร็ว 20 เมตรตอวินาที จะทุมได
   ไกลที่สุดเทาไร                                                           (40 เมตร)
11. รถคนหนงวงในแนวเสนตรงดวย
             ั ่ึ ่ิ              
   ความเรวคงท่ี 10 2 เมตร/วนาที
                ็                ิ
   หนการสกดของเจาหนาท่ี ทาใหเ จา
         ี        ั         ํ      
   หนาทจาเปนตองใชปนยงสกด ปนที่
            ่ี ํ     ิ ั
   ใชยงเปนชนดพาดบากระสนปนวงออกจากปากกระบอกความเรว 100 เมตร/วนาที เจาหนาท่ี
        ิ  ิ              ุ  ่ิ                ็          ิ     
   ตงปนเอยงทามมกบแนวราบ 45o อยากทราบวาถาจะใหกระสุนตกกระทบรถยนตพอดี
     ้ั  ี ํ ุ ั
   เจาหนาทตองลนกระสนเมอรถวงหางออกไปแลวกเ่ี มตร
         ่ี  ่ั       ุ ่ื ่ิ          
         1. 800           2. 900       3. 800 2      4. 900 2       (ขอ 1)
                                                                      
12. ตามรป เครองบนทงระเบดกาลงบนสงจาก
           ู      ่ื ิ ้ิ           ิ ํ ั ิ ู
   พื้น 103 เมตร ในแนวราบดวยอตราเรวคงท่ี
                                       ั     ็
   72 เมตร/วนาที ปลดระเบด ขณะที่รถหางจาก
               ิ                ิ
   จด A 125 เมตร ลกระเบดจะตกกระทบรถพอดี
    ุ                ู        ิ
   เมอเคลอนทดวยอตราเรวคงท่ี ถามวาความเรว
      ่ื ่ื ่ี  ั          ็                   ็
   ของรถซึ่งมีคาคงที่นั้นมีคากี่เมตร/วนาที
                                        ิ
        1. 31.3             2. 50.0             3. 72.0      4. 44.5               (ขอ 4)

  การเคลอนทแบบวงกลม
        ่ื ่ี
13. ยิงลูกเหล็กเล็ก ๆ ใหวงไปตามขอบโลหะโคงดงรป
                         ่ิ               ั ู
   เมอลกเหลกหลดออกจากขอบโลหะ ลูกเหล็กจะวิ่ง
     ่ื ู ็ ุ
   ไปตามเสนทาง
       ก. หมายเลข 1          ข. หมายเลข 2
       ค. หมายเลข 3          ง. หมายเลข 4 (ขอ ค)
                                             118
Physics Online I                 http://www.pec9.com                     บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ
14(En 43/1) ในการทดลองการเคลอนทแนววงกลมในระนาบระดบ ขณะที่กําลังแกวงใหจุกยาง
                              ่ื ่ี                ั
   หมนอยนน เชือกที่ผูกกับจุกยางขาดออกจากกัน นกเรยนคดวาขณะทเ่ี ชอกขาดภาพการ
      ุ ู ้ั                                 ั ี ิ           ื
   เคลอนททสงเกตจากดานบนจะเปนตามรปใด ถา a เปนตาแหนงของจกยางขณะทเ่ี ชอกขาด
       ่ื ่ี ่ี ั                  ู        ํ       ุ             ื
       1.                2.               3.            4.

                                                                                                 (ขอ 1)
                                                                                                   
15. มวลผกเชอกแลวแกวงใหเ คลอนทเ่ี ปนวงกลมตามแนวระดบบนพนลน เมอเชอกขาดมวล
           ู ื           ่ื                    ั    ้ื ่ื   ่ื ื
   จะเคลอนทอยางไร
         ่ื ่ี 
      ก. วงกลม                ข. สวนโคงของวงกลม
      ค. วงรี                 ง. พาราโบลา            จ. เสนตรง
                                                                   (ขอ จ)
16. จงหาความเรงสูศูนยกลางของวัตถุที่เคลื่อนที่แบบวงกลมรัศมี 4 เมตร ดวยอตราเรว
                                                                        ั     ็
   20 เมตรตอวินาที                                                         (100 m/s2)
17. รถไฟเหาะตีลังกามวล 2000 กิโลกรัม เคลอนทบนราบโคงรศมี 10 เมตร ขณะผานจด
                                                    ่ื ่ี                  ั                    ุ
   สูงสดดวยอตรา 20 เมตรตอวินาที จะมแรงปฏกรยาทรางกระทาตอรถไฟกนวตน
       ุ  ั                                   ี           ิ ิ ิ ่ี             ํ    ่ี ิ ั
      1. 40000                    2. 60000       3. 80000 นวตน 4. 100000
                                                                    ิ ั                           (ขอ 2)
18. รถคนหนงมมวล 1000 กิโลกรัม เคลอนทขนรางโคงตลงกาอนมรศมี 10 เมตร ดวย
        ั ่ึ ี                               ่ื ่ี ้ึ             ีั ั ีั                    
   ความเรวคงท่ี 30 เมตรตอวินาที จงหาแรงปฏกรยาทรางกระทาตอรถตอนท่ี
            ็                                         ิ ิ ิ ่ี              ํ 
      ก) รถอยทจดลางสดของราง
                  ู ่ี ุ  ุ                                                                (100000 N)
      ข) รถอยทจดตรงกบแนวศนยกลางรางในแนวระดบ
                    ู ่ี ุ     ั        ู                       ั                           (90000 N)
19. รถไฟเหาะตลงกาขณะเคลอนทบนรางโคงในระนาบดงรศมี 8 เมตร ขณะผานจุดสูงสุด
                      ีั             ่ื ่ี                          ่ิ ั
   แรงทเ่ี บาะนงกระทาตอคนเปน 1 ใน 4 ของนาหนกตนเอง จงหาอตราเรวขณะผานจดสงสด
               ่ั           ํ                        ํ้ ั                       ั ็       ุ ู ุ
                                                                                              (10 m/s)
20. รถไฟเหาะตลงกาขณะเคลอนทบนรางโคงในระนาบดงรศมี 5 เมตร ขณะผานจดตาสดมี
              ีั          ่ื ่ี               ่ิ ั                  ุ ํ่ ุ
   อตราเรว 20 เมตรตอวินาที จงหาแรงกระทาระหวางคนกบทนงมคาเปนกเ่ี ทาของนาหนก
    ั     ็                             ํ          ั ่ี ่ั ี         ํ้ ั
   คนนง (g = 10 เมตร/วนาท2)
       ่ั               ิ ี                                            (9 mg)


                                                  119
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ

Contenu connexe

Tendances

บทที่1 บทนำ
บทที่1 บทนำบทที่1 บทนำ
บทที่1 บทนำthanakit553
 
บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2thanakit553
 
เรื่องที่ 15 ไฟฟ้าสถิตย์
เรื่องที่ 15  ไฟฟ้าสถิตย์เรื่องที่ 15  ไฟฟ้าสถิตย์
เรื่องที่ 15 ไฟฟ้าสถิตย์thanakit553
 
เรื่องที่ 11 คลื่นกล
เรื่องที่ 11  คลื่นกลเรื่องที่ 11  คลื่นกล
เรื่องที่ 11 คลื่นกลthanakit553
 
02แบบฝึกพลังงาน
02แบบฝึกพลังงาน02แบบฝึกพลังงาน
02แบบฝึกพลังงานPhanuwat Somvongs
 
03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล
03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล
03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกลPhanuwat Somvongs
 
แผนการสอนงานและพลังงาน
แผนการสอนงานและพลังงานแผนการสอนงานและพลังงาน
แผนการสอนงานและพลังงานWeerachat Martluplao
 
แบบทดสอบคลื่น
แบบทดสอบคลื่นแบบทดสอบคลื่น
แบบทดสอบคลื่นrumpin
 
แบบฝึกหัดเสริม สมดุลกล.docx
แบบฝึกหัดเสริม สมดุลกล.docxแบบฝึกหัดเสริม สมดุลกล.docx
แบบฝึกหัดเสริม สมดุลกล.docxNing Thanyaphon
 
ข้อสอบวิทย์
ข้อสอบวิทย์ข้อสอบวิทย์
ข้อสอบวิทย์weerawato
 
แผนการสอนปรับพื้นฐานม.4 การเคลื่อนที่
แผนการสอนปรับพื้นฐานม.4 การเคลื่อนที่แผนการสอนปรับพื้นฐานม.4 การเคลื่อนที่
แผนการสอนปรับพื้นฐานม.4 การเคลื่อนที่เกษรา จุ้งลก
 
เรื่องที่1การวัด
เรื่องที่1การวัดเรื่องที่1การวัด
เรื่องที่1การวัดApinya Phuadsing
 
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน    หน่วย งานและพลังงานแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน    หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงานdnavaroj
 

Tendances (20)

บทที่1 บทนำ
บทที่1 บทนำบทที่1 บทนำ
บทที่1 บทนำ
 
บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
 
03 มวลแรงและการเคลื่อนที่
03 มวลแรงและการเคลื่อนที่03 มวลแรงและการเคลื่อนที่
03 มวลแรงและการเคลื่อนที่
 
เรื่องที่ 15 ไฟฟ้าสถิตย์
เรื่องที่ 15  ไฟฟ้าสถิตย์เรื่องที่ 15  ไฟฟ้าสถิตย์
เรื่องที่ 15 ไฟฟ้าสถิตย์
 
เรื่องที่ 11 คลื่นกล
เรื่องที่ 11  คลื่นกลเรื่องที่ 11  คลื่นกล
เรื่องที่ 11 คลื่นกล
 
02แบบฝึกพลังงาน
02แบบฝึกพลังงาน02แบบฝึกพลังงาน
02แบบฝึกพลังงาน
 
03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล
03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล
03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล
 
แผนการสอนงานและพลังงาน
แผนการสอนงานและพลังงานแผนการสอนงานและพลังงาน
แผนการสอนงานและพลังงาน
 
ตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงาน
ตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงานตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงาน
ตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงาน
 
แบบทดสอบคลื่น
แบบทดสอบคลื่นแบบทดสอบคลื่น
แบบทดสอบคลื่น
 
08งานและพลังงาน
08งานและพลังงาน08งานและพลังงาน
08งานและพลังงาน
 
P05
P05P05
P05
 
แบบฝึกหัดเสริม สมดุลกล.docx
แบบฝึกหัดเสริม สมดุลกล.docxแบบฝึกหัดเสริม สมดุลกล.docx
แบบฝึกหัดเสริม สมดุลกล.docx
 
คลื่นกล
คลื่นกลคลื่นกล
คลื่นกล
 
ข้อสอบวิทย์
ข้อสอบวิทย์ข้อสอบวิทย์
ข้อสอบวิทย์
 
49 ตรีโกณมิติ ตอนที่6_กฎของไซน์และโคไซน์
49 ตรีโกณมิติ ตอนที่6_กฎของไซน์และโคไซน์49 ตรีโกณมิติ ตอนที่6_กฎของไซน์และโคไซน์
49 ตรีโกณมิติ ตอนที่6_กฎของไซน์และโคไซน์
 
งานพลังงาน
งานพลังงานงานพลังงาน
งานพลังงาน
 
แผนการสอนปรับพื้นฐานม.4 การเคลื่อนที่
แผนการสอนปรับพื้นฐานม.4 การเคลื่อนที่แผนการสอนปรับพื้นฐานม.4 การเคลื่อนที่
แผนการสอนปรับพื้นฐานม.4 การเคลื่อนที่
 
เรื่องที่1การวัด
เรื่องที่1การวัดเรื่องที่1การวัด
เรื่องที่1การวัด
 
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน    หน่วย งานและพลังงานแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน    หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
 

En vedette

ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2Chakkrawut Mueangkhon
 
อิเล็กทรอนิกส์
อิเล็กทรอนิกส์อิเล็กทรอนิกส์
อิเล็กทรอนิกส์Chakkrawut Mueangkhon
 
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนการเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนChakkrawut Mueangkhon
 
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่มวลแรงกฎการเคลื่อนที่
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่Chakkrawut Mueangkhon
 
สมดุลและสภาพยืดหยุ่น
สมดุลและสภาพยืดหยุ่นสมดุลและสภาพยืดหยุ่น
สมดุลและสภาพยืดหยุ่นChakkrawut Mueangkhon
 
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่Chakkrawut Mueangkhon
 
ฟิสิกส์อะตอม
ฟิสิกส์อะตอมฟิสิกส์อะตอม
ฟิสิกส์อะตอมChakkrawut Mueangkhon
 
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าChakkrawut Mueangkhon
 
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนการเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนChakkrawut Mueangkhon
 
แสงและทัศน์ปกรณ์
แสงและทัศน์ปกรณ์แสงและทัศน์ปกรณ์
แสงและทัศน์ปกรณ์Chakkrawut Mueangkhon
 
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ฟิสิกส์นิวเคลียร์ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ฟิสิกส์นิวเคลียร์Chakkrawut Mueangkhon
 
แสงเชิงฟิสิกส์
แสงเชิงฟิสิกส์แสงเชิงฟิสิกส์
แสงเชิงฟิสิกส์Chakkrawut Mueangkhon
 
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1Chakkrawut Mueangkhon
 

En vedette (20)

ของไหล
ของไหลของไหล
ของไหล
 
โมเมนตัม
โมเมนตัมโมเมนตัม
โมเมนตัม
 
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
 
อิเล็กทรอนิกส์
อิเล็กทรอนิกส์อิเล็กทรอนิกส์
อิเล็กทรอนิกส์
 
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนการเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
 
ของไหล
ของไหลของไหล
ของไหล
 
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่มวลแรงกฎการเคลื่อนที่
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่
 
บทนำ
บทนำบทนำ
บทนำ
 
สมดุลและสภาพยืดหยุ่น
สมดุลและสภาพยืดหยุ่นสมดุลและสภาพยืดหยุ่น
สมดุลและสภาพยืดหยุ่น
 
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่
 
ฟิสิกส์อะตอม
ฟิสิกส์อะตอมฟิสิกส์อะตอม
ฟิสิกส์อะตอม
 
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
 
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนการเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
 
แสงและทัศน์ปกรณ์
แสงและทัศน์ปกรณ์แสงและทัศน์ปกรณ์
แสงและทัศน์ปกรณ์
 
ไฟฟ้าสถิต
ไฟฟ้าสถิตไฟฟ้าสถิต
ไฟฟ้าสถิต
 
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ฟิสิกส์นิวเคลียร์ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
 
แสงเชิงฟิสิกส์
แสงเชิงฟิสิกส์แสงเชิงฟิสิกส์
แสงเชิงฟิสิกส์
 
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
 
เสียง
เสียงเสียง
เสียง
 
คลื่นกล
คลื่นกลคลื่นกล
คลื่นกล
 

Similaire à การเคลื่อนที่แบบต่างๆ

เรื่องที่ 6 โมเมนตัม
เรื่องที่ 6 โมเมนตัมเรื่องที่ 6 โมเมนตัม
เรื่องที่ 6 โมเมนตัมthanakit553
 
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆเรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆApinya Phuadsing
 
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆเรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆApinya Phuadsing
 
ฟิสิกส์Cmu 57
ฟิสิกส์Cmu 57ฟิสิกส์Cmu 57
ฟิสิกส์Cmu 57Piyatida Outama
 
ฟิสิกส์ 57
ฟิสิกส์ 57 ฟิสิกส์ 57
ฟิสิกส์ 57 sugaeang
 
ข้อสอบ ฟิสิกส์
ข้อสอบ ฟิสิกส์ข้อสอบ ฟิสิกส์
ข้อสอบ ฟิสิกส์zweetiiz
 
ฟิสิกส์Cmu 57
ฟิสิกส์Cmu 57ฟิสิกส์Cmu 57
ฟิสิกส์Cmu 57Piyatida Outama
 
เรื่องที่2การเคลื่อนที่
เรื่องที่2การเคลื่อนที่เรื่องที่2การเคลื่อนที่
เรื่องที่2การเคลื่อนที่Apinya Phuadsing
 
1203261010453239 12032711110726
1203261010453239 120327111107261203261010453239 12032711110726
1203261010453239 12032711110726pumarin20012
 
งานและพลังงาน
งานและพลังงานงานและพลังงาน
งานและพลังงานAon Sujeeporn
 
ข้อสอบ มข.51 v2
ข้อสอบ มข.51 v2ข้อสอบ มข.51 v2
ข้อสอบ มข.51 v2aatjima
 
Brandssummercamp 2012 feb55_physics
Brandssummercamp 2012 feb55_physicsBrandssummercamp 2012 feb55_physics
Brandssummercamp 2012 feb55_physicsNittaya Mitpothong
 
เรื่องที่5งานและพลังงาน
เรื่องที่5งานและพลังงานเรื่องที่5งานและพลังงาน
เรื่องที่5งานและพลังงานApinya Phuadsing
 

Similaire à การเคลื่อนที่แบบต่างๆ (20)

P04
P04P04
P04
 
P06
P06P06
P06
 
เรื่องที่ 6 โมเมนตัม
เรื่องที่ 6 โมเมนตัมเรื่องที่ 6 โมเมนตัม
เรื่องที่ 6 โมเมนตัม
 
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆเรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
 
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆเรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
 
12การชนและโมเมนตัม
12การชนและโมเมนตัม12การชนและโมเมนตัม
12การชนและโมเมนตัม
 
ข้อสอบวิชาฟิสิกส์
ข้อสอบวิชาฟิสิกส์ข้อสอบวิชาฟิสิกส์
ข้อสอบวิชาฟิสิกส์
 
ฟิสิกส์Cmu 57
ฟิสิกส์Cmu 57ฟิสิกส์Cmu 57
ฟิสิกส์Cmu 57
 
ฟิสิกส์ 57
ฟิสิกส์ 57 ฟิสิกส์ 57
ฟิสิกส์ 57
 
Cmu57
Cmu57 Cmu57
Cmu57
 
ข้อสอบ ฟิสิกส์
ข้อสอบ ฟิสิกส์ข้อสอบ ฟิสิกส์
ข้อสอบ ฟิสิกส์
 
Cmu 57
Cmu 57Cmu 57
Cmu 57
 
ฟิสิกส์Cmu 57
ฟิสิกส์Cmu 57ฟิสิกส์Cmu 57
ฟิสิกส์Cmu 57
 
เรื่องที่2การเคลื่อนที่
เรื่องที่2การเคลื่อนที่เรื่องที่2การเคลื่อนที่
เรื่องที่2การเคลื่อนที่
 
1203261010453239 12032711110726
1203261010453239 120327111107261203261010453239 12032711110726
1203261010453239 12032711110726
 
งานและพลังงาน
งานและพลังงานงานและพลังงาน
งานและพลังงาน
 
P02
P02P02
P02
 
ข้อสอบ มข.51 v2
ข้อสอบ มข.51 v2ข้อสอบ มข.51 v2
ข้อสอบ มข.51 v2
 
Brandssummercamp 2012 feb55_physics
Brandssummercamp 2012 feb55_physicsBrandssummercamp 2012 feb55_physics
Brandssummercamp 2012 feb55_physics
 
เรื่องที่5งานและพลังงาน
เรื่องที่5งานและพลังงานเรื่องที่5งานและพลังงาน
เรื่องที่5งานและพลังงาน
 

Plus de Chakkrawut Mueangkhon

Plus de Chakkrawut Mueangkhon (8)

กฎของคูลอมป์
กฎของคูลอมป์กฎของคูลอมป์
กฎของคูลอมป์
 
ตัวเก็บประจุและประจุไฟฟ้า
ตัวเก็บประจุและประจุไฟฟ้าตัวเก็บประจุและประจุไฟฟ้า
ตัวเก็บประจุและประจุไฟฟ้า
 
Akaranee
AkaraneeAkaranee
Akaranee
 
568
568568
568
 
ความร้อน
ความร้อนความร้อน
ความร้อน
 
heat
heatheat
heat
 
fluid
fluidfluid
fluid
 
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
แบบทดสอบเรื่องคลื่นแบบทดสอบเรื่องคลื่น
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
 

การเคลื่อนที่แบบต่างๆ

  • 1. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ ฟ สิ ก ส บทที่ 4 การเคลื่ อ นที่ แ บบต า งๆ ตอนที่ 1 การเคลือนทีแบบโปรเจกไตล (1) ่ ่ การเคลอนทแบบโปรเจกไตล ่ื ่ี คอ การเคลอนทในแนวโคงรปพาราโบลา เกิดจากการ เคลอนทในแนว 2 แนวพรอมกัน ื ่ื ่ี  ู ่ื ่ี 1. ขวางวัตถุไปตามแนวราบจากที่สูงแหงหนึ่ง ดวยความเรวตน  ็  3 เมตร/วินาที เมอเวลาผานไป 1 วินาที จงหาการขจด ่ื  ั วธทา ิี ํ ( 5.8 เมตร) 2. จากขอที่ผานมา จงหาความเร็วปลาย (10.4 m/s) วธทา ิี ํ 3. จากขอที่ผานมา จงหามมทแนวการเคลอนทกระทาตอแนวราบ ุ ่ี ่ื ่ี ํ  (73.3o) วธทา ิี ํ 87
  • 2. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 4(มช 41) ผลักวัตถุออกจากขอบดาดฟาตึกสูง 20 เมตร ดวยความเรวตน 15 เมตร/วินาที ตาม  ็  แนวระดับ วัตถุจะตกถึงพื้นที่ระยะหางกี่เมตรจากฐานตึก 1. 10 2. 20 3. 30 4. 40 (ขอ 3.)  วธทา ิี ํ 5. เครองบนทงระเบด บินในแนวระดับดวยความเร็ว 200 เมตรตอวนาที และสูงจากพื้นดิน ่ื ิ ้ิ ิ  ิ 2000 เมตร เมื่อทิ้งระเบิดที่ปกลงมา จงหา ก. ระเบิดตกไกลจากตําแหนงที่ทิ้งตามแนวระดับเทาไร (4000 เมตร ) ข. ระเบิดกระทบพืนดินดวยอัตราเร็วเทาไร ้ (200 2 m/s) วธทา ิี ํ 88
  • 3. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 6. คูน้ํากวาง 10 เมตร มีลักษณะดังรูป นักขี่ จกรยานยนตคนหนงตองการจะขขามคนา ั  ่ึ  ่ี  ู ํ้ A จงหา 5m ก. ความเรวทนอยทสดของจกรยานยนต ็ ่ี  ่ี ุ ั B ที่จะขามคูน้ําไดพอดี (10 เมตร) 10 m ข. ความเรวทถงฝงตรงขามพอดี (10 2 m/s) ็ ่ี ึ   วธทา ิี ํ 7. ถาถอปนทยงดวยแรงอดของสปรง  ื  ่ี ิ  ั ิ 4.0 m เล็งไปยังเปา โดยใหสปรงเล็งไปยง  ิ ั 5.0 m/s เปา โดยใหลํากลองปนขนานกับพื้น  และ สูงจากพื้น 6.0 เมตร สวนปาก 6.0 m ลํากลอง ปน หางจากเปา 4.0 เมตร h เมื่อทําการยิงลูก ปน ซึ่งเปนลูกเหล็ก กลมเคลื่อนที่ออกจากปากลํากลองปนดวยความเร็ว 5.0 เมตรตอวนาที ในขณะเดียวกันเปา  ิ ตกแบบเสรีสูพื้น จงหาวาลูกกลมเหล็กจะตกลงมาไดระยะในแนวดิ่งเทาใดขณะกระทบเปา 89
  • 4. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ วธทา ิี ํ (3.2 ม.) 8. จากขอที่ผานมา จงหาวาขณะลูกกลมเหล็กกระทบเปานั้น เปาอยูสูงจากพื้นเทาใด ( 2.8 m ) วธทา ิี ํ 9. นกเรยนคนหนงยนบนดาดฟาตกหาชนสง 75 เมตร แลวขวางกอนหินลงไปทํามุมเอียง 30o ั ี ่ึ ื  ึ  ้ั ู กบแนวระดบดวยความเรว 20 เมตร/วินาที วัตถุจะตกถึงพื้นหางจากดาดฟาตึกตามแนว ั ั  ็ ราบกเ่ี มตร ก. 30 3 ข. 20 3 ค. 10 3 ง. 3 (ขอ ก)  วธทา ิี ํ 90
  • 5. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 10. กําแพงหางจากปากกระบอกปน 10 2 เมตร โดยที่ปากกระบอกปนเอียงทํามุม 45o เมอ ่ื กระสุนถูกยิงออกจากปากกระบอกปนขึ้นไปดวยอัตราเร็ว 20 เมตร/วินาที กระสุนปนจะ กระทบกําแพงสูงจากพื้นกี่เมตร 1. 6.0 2. 6.2 3. 9.1 4. 10.6 (ขอ 3)  วธทา ิี ํ 11(En 32) นกขจกรยานยนตผาดโผน ตองการจะขขามคลอง ั ่ี ั   ่ี  ซึ่งกวาง 5 เมตร ไปยังฝงตรงขาม ถาเขาขับรถดวยอัตรา เรว 10 m/s กอนพนฝงแรก เขาจะขามได โดยไมชน ็   ฝงตรงขาม h มีคาไดมากที่สุดกี่เมตร   (2.5 เมตร) วธทา ิี ํ 91
  • 6. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 12. ชายคนหนงยนบนยอดตกขวางลกบอลออก ่ึ ื ึ  ู ไปดวยความเรว 15 เมตร/วินาที ทํามุม 45o  ็ กับแนวราบไปยังตึกที่สูงกวาอยูหางออกไป 45 เมตร อยากทราบวาขอใดถูกตอง 1. ลูกบอลกระทบตึกที่จุด A 2. ลูกบอลกระทบตึกสูงกวาจุด A 45 เมตร 3. ลูกบอลกระทบตึกต่ํากวาจุด A 45 เมตร 4. ลูกบอลตกถึงพื้นดินโดยไมกระทบตึก (ขอ 3)  วธทา ิี ํ 13(มช 37) ชายคนหนึ่งยืนอยูบนตึกสูง 15 เมตร จากพื้นดินขวางลูกบอลขึ้นไปทํามุม 30o กบแนวระดบดวยความเรว 20 เมตรตอวนาที ถามวาลูกบอลจะตกพื้นดินหางจุดขวางใน ั ั  ็  ิ แนวระดับกีเ่ มตร (51.96 m) วธทา ิี ํ ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦ 92
  • 7. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ ตอนที่ 2 การเคลือนทีแบบโปรเจกไตล (2) ่ ่ ขอนาสนใจเกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบโปรเจกไตล 1. ถาเราปลอยวัตถุใหตกจากที่สูงในแนวดิ่ง พรอม กับขวางวตถุอกกอนออกไปในแนวราบ จากจด  ั ี ุ เดียวกันวัตถุทั้งสองจะตกถึงพื้นพรอมกันเสมอ 14. ลูกบอลชนิดเดียวกัน 2 ลูก A และ B ลูกบอล A ถูกขวางออกไปในแนวราบและลูกบอล B ถูกปลอยใหตกลงในแนวดิ่งพรอมกันจากระดับสูงเดียวกัน จงพจารณาขอความตอไปน้ี ิ   แลวเลือกขอที่ถูกที่สุด ก. ลูกบอล A ตกถึงพื้นกอน B ข. ลูกบอลทั้งสองตกถึงพื้นพรอมกัน ค. ลูกบอล A จะมีอัตราเร็วสูงกวาขณะที่ตกถึงพื้น ง. ลูกบอล B จะมีอัตราเร็วสูงกวาขณะที่ตกถึงพื้น 1. ขอ ก. ถูก 2. ขอ ก. และ ค. ถูก 3. ขอ ข. และ ค. ถูก 4. ขอ ข. และ ง. ถูก (ขอ 3)  วธทา ิี ํ 2. เกี่ยวกับการโยนวัตถุจากพื้นสูอากาศแลวปลอยใหตกลงมาถึงระดับเดิม เวลาทีวตถุลอยในอากาศ (t) = ( 2U sin″ ) ่ั g ่ี ั ุ ้ึ  ู ุ 2 sin2 ระยะทางทวตถขนไปไดสงสด (sy) = ( U 2g ″ ) ระยะทางตามแนวราบเมือวัตถุตกลงมาระดับเดิม (sx) = ( U2 sin 2″) = U2 2 sin″ cos″ ่ g g 15. ขีปนาวุธถูกยิงจากพื้นดวยความเร็ว 60 m/s ในทิศทํามุม 30o กบแนวระดบขปนาวธนน ั ั ี ุ ้ั ลอยอยูในอากาศนานเทาใด จึงตกถึงพื้นและขณะที่อยูจุดสูงสุดนั้นอยูหางจากพื้นเทาไร วธทา ิี ํ (6 วินาที , 45 เมตร) 93
  • 8. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 16(มช 43) โยนลูกบอลขึ้นไปจากพื้นดิน ดวยความเรวตน 25 เมตร/วนาที ในทิศทํามุม 37o  ็  ิ กับพื้นดิน ลกบอลนจะตกลงมาพนดนหางจากตาแหนงทโยนขนไปกเ่ี มตร ู ้ี ้ื ิ  ํ  ่ี ้ึ 1. 60 2. 70 3. 80 4. 90 (ขอ 1)  วธทา ิี ํ 17. ตวตถใหวงขนจากพนดนเปนมม 30o วตถไปตกในระดบเดยวกนหางจดเรมตน 20 3 ี ั ุ  ่ิ ้ึ ้ื ิ  ุ ั ุ ั ี ั  ุ ่ิ  เมตร จงหาความเร็วตนของวัตถุ ก. 10 m/s ข. 14 m/s ค. 10 3 m/s ง. 20 m/s (ขอ ง)  วธทา ิี ํ 3. เกี่ยวกับการโยนวัตถุจากพื้นสูอากาศแลวปลอยใหตกลงมาถึง ระดับเดิม หากมมทเ่ี อยงกระทากบแนวราบเปนมม 45o วตถุ ุ ี ํ ั  ุ ั จะไปไดไกลที่สุด (ในแนวราบ) 4. เมอขวางวตถขนจากพนเอยงทามมกบแนวราบ ่ื  ั ุ ้ึ ้ื ี ํ ุ ั ± กับ 90o – ± ดวยความเรวตนเทากน วตถุ  ็   ั ั จะไปไดไกลเทากันเสมอ 18(มช 35) ยิงโปรเจกไทลจากผิวโลก สชนบรรยากาศเหนอผวโลก ู ้ั ื ิ หากตองการใหไดระยะพิสัยมากที่สุดตองใหมุม ± เปน ก. 45o ข. นอยกวา 45o   ค. มากกวา 45o ง. ไมมีขอถูก (ขอ ก)  ตอบ 19(มช 29) นักกรีฑาขวางคอนมีความสามารถเหวี่ยงคอนไดในอัตราเร็วสูงสุด 5 เมตร/วินาที เขา จะสามารถขวางคอนไปไดไกลสุดหางจากจุดที่เขายืนอยูกี่เมตร ถาไมคิดแรงเสียดทานอากาศ และความสูงของนักกรีฑา 1. 2.75 2. 2.50 3. 1.50 4. 1.25 (ขอ 2)  วธทา ิี ํ 94
  • 9. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 5. เกี่ยวกับการโยนวัตถุจากพื้นสูอากาศแลวปลอยให ตกลงมาที่ระดับความสูงเดียวกัน อตราเรวและ ั ็ มุมที่กระทํากับแนวราบจะเทากัน 6. เวลาทใชในการเคลอนทแนวราบ แนวดิง และ ่ี  ่ื ่ี ่ เวลารวมจะเทากนเสมอ นนคอ tx = ty = tรวม  ั ่ั ื 20. ขวางกอนหนขนไปในอากาศทามม ± กบแนวราบให t1 เปนเวลาทคดการเคลอนทในแนว   ิ ้ึ ํ ุ ั  ่ี ิ ่ื ่ี ดงจากพนจนตกกลบมาทเ่ี ดม t2 เปนเวลาทคดการเคลอนทในแนวราบจากจดทขวางถงจดท่ี ่ิ ้ื ั ิ  ่ี ิ ่ื ่ี ุ ่ี  ึ ุ ตก t3 เปนเวลาทกอนหนใชในการลอยอยู  ่ี  ิ  ในอากาศทั้งหมดขอใดถูก (ขอ 1)  t3 1. t1 = t2 = t3 2. t1 = 2 t3 t2 t3 3. t1 = t2 = 2 4. t1 = 2 = 2 วธทา ิี ํ 21(En 36) เมอขวางหินกอนหนึ่งดวยความเร็วตน 20 เมตร/วินาที พบวาหินกอนนี้ตกถึงพื้นราบ ่ื ดวยความเร็วที่ทํามุม 60 องศากับแนวดิ่งหินกอนนี้จะขึ้นไปไดสูงสุดเทาใด 1. 5 m 2. 10 m 3. 15 m 4. 20 m (ขอ 1) วธทา ิี ํ Sy 1 7. Sx = 4 tan± เมอ Sy = ระยะสูงในแนวดิ่ง ่ื Sx = ระยะไกลในแนวราบ 95
  • 10. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 22(มช 40) ถาโปรเจกไทลมีการกระจัดสูงสุดในแนวดิ่ง 10 เมตร และการกระจัดที่ไปไดไกลสุด ในแนวระดับเทากับ 30 เมตร โปรเจกไทลนี้จะตองถูกยิงออกไปในแนวที่ทํามุมกี่องศากับราบ วิธทา ี ํ ( 53 o) 23(มช 33) วัตถุเคลื่อนที่แบบโปรเจกไตล โดยมีทางเดิน เปนรูปพาราโบลา และมความสมพนธระหวางระยะ ี ั ั   ทางที่เคลื่อนที่ในแนวดิ่งกับแนวระดับดังแสดงในรูป จงหามุม ± ที่ความเร็วของวัตถุทํากับแนวระดับ (ไมคิดความตานทานของอากาศ) (ขอ ข) ก. ± = tan–1(2) ข. ± = tan–1(1) ค. ± = tan–1( 1 ) 2 ง. ± = tan–1( 1 ) 4 วิธทา ี ํ ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦ ตอนที่ 3 การเคลอนทแบบวงกลม (1) ่ื ่ี คาบ (T) คือ เวลาทีใชในการเคลือนทีครบ 1 รอบ (วินาที) ่ ่ ่ ความถี่ (f) คือ จํานวนรอบทีเ่ คลือนทีไดในหนึงหนวยเวลา ่ ่ ่ (รอบ / วินาที , Hz) หาคาจาก f = จํานวนรอบ หรือ f = T เวลา 1 96
  • 11. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ อัตราเร็วเชิงเสน (v) คือ อัตราเร็วของการเคลือนทีตามเสนรอบวง (เมตร/วินาที) ่ ่ หาคาจาก v = 2° Rf หรือ v = 2℘R T การเคลื่อนที่แบบวงกลม จะมีแรงเกียวของอยางนอย 2 ่ แรง เสมอ คือ แรงเหวียงออก และแรงสูศูนยกลาง ่ Fc = mv2 และ ac = v2 R R เมือ ac = ความเรงศูนยกลาง (m/s2) ่ v = อัตราเร็วเชิงเสนของวัตถุ (m/s) R = รัศมีการเคลือนที่ (m) ่ Fc = แรงเขาสูศูนยกลาง ( N ) m = มวลวัตถุที่เคลื่อนที่เปนวงกลมนั้น (kg) 24. จากการเคลื่อนที่แบบวงกลมของวัตถุหนึ่งพบวาชวงเวลา 2 วินาที เคลือนทีได 10 รอบ ่ ่ จงหาคาความถี่ และ คาบของการเคลือนที่ ่ (5 Hz , 0.2 วินาที) วธทา ิี ํ 25. จากขอทีผานมา ถารัศมีการเคลือนทีมคา 0.2 เมตร อัตราเร็วเชิงเสนของวัตถุนจะเปนเทาไร ่ ่ ่ ี ้ี วธทา ิี ํ (6.3 เมตร/วินาที) 26. จงหาความเรงเขาสูศนยกลางของวัตถุทเ่ี คลือนทีเ่ ปนรูปวงกลมรัศมี 8 เมตร ดวยอัตราเร็ว ู ่ 20 เมตรตอวินาที และหากมวลที่เคลื่อนที่มีขนาดเทากับ 5 กิโลกรัม จงหาแรงเขาสูศูนย กลาง ( 50 m/s2 , 250 N ) วธทา ิี ํ 97
  • 12. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 27. การเคลือนทีของวัตถุเปนวงกลมดวยอัตราเร็วสม่าเสมอ ถาอัตราเร็วของการเคลือนทีเ่ พิม ่ ่ ํ ่ ่ ขึ้น เปน 2 เทา โดยทีรศมียงคงเทาเดิม จะตองใชแรงเขาสูศูนยกลาง ่ั ั 1. เทากับครึงหนึงของคาเทาเดิม ่ ่ 2. เทาเดิม 3. เพิมขึนเปน 2 เทา ่ ้ 4. เพิมขึนเปน 4 เทา ่ ้ (ขอ 4)  วธทา ิี ํ ขนตอนการคานวณเกยวกบวงกลม มีดังนี้ ้ั ํ ่ี ั 1) วาดรูปเขียนแรงกระทําทีเ่ กียวของทุกแรง ่ 2) กําหนดให แรงเขาวงกลม = แรงออกวงกลม แลวแกสมการจะไดคําตอบ โจทยตัวอยางเกี่ยวกับ แรงดนพน (N) ั ้ื 28. รถคันหนึงมีมวล 1000 กิโลกรัม เคลือนทีขนรางโคงตี ่ ่ ่ ้ึ ลังกาอันมีรัศมี 10 เมตร ดวยความเร็วคงที่ 30 เมตรตอ วินาที ตอนทีรถคันนีกาลังตีลงกาอยูทจดสูงสุดของราง ่ ้ํ ั  ่ี ุ โคง แรงปฏิกรยาทีรางกระทําตอรถมีคากีนวตัน (80000) ิิ ่  ่ ิ วธทา ิี ํ 29. รถไฟเหาะตีลังกามวล 2000 กิโลกรัม เคลือนทีบนราบโคงรัศมี 10 เมตร ขณะผานจุด ่ ่ สูงสุดดวยอัตรา 20 เมตรตอวินาที จะมีแรงปฏิกิริยาที่รางกระทําตอรถไฟเทาใด (ขอ 2) 1. 40000 นิวตัน 2. 60000 นิวตัน 3. 80000 นิวตัน 4. 100000 นิวตัน วธทา ิี ํ 98
  • 13. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 30. รถคันหนึงมีมวล 1000 กิโลกรัม เคลือนทีขนรางโคงตีลงกาอันมีรศมี 10 เมตร ดวย ่ ่ ่ ้ึ ั ั ความเร็วคงที่ 30 เมตรตอวินาที จงหาแรงปฏิกรยาทีรางกระทําตอรถตอนที่ ิิ ่ ก) รถอยูทจดลางสุดของราง  ่ี ุ (100000 N) ข) รถอยูทจดตรงกับแนวศูนยกลางรางในแนวระดับ  ่ี ุ (90000 N) วธทา ิี ํ 31. เครืองบินไอพน บินเปนวงกลมในแนวดิงรัศมี 100 เมตร และอัตราเร็วคงที่ 100 เมตร/วินาที ่ ่ นักบินมีมวล 50 กิโลกรัม อยากทราบวา แรงปฏิกรยาทีเ่ บาะนังกระทําตอนักบินเปนเทาไร ิิ ่ ขณะเครืองบินอยูทจดสูงสุด ่  ่ี ุ (ขอ 2)  1. 4000 นิวตัน 2. 4500 นิวตัน 3. 5000 นิวตัน 4. 5500 นิวตัน วธทา ิี ํ 32(En 43/2) รถยนตมวล 1200 กโลกรม กําลังวิ่งดวยอัตราความเร็ว v เมตรตอวินาที ขาม  ิ ั สะพานที่จุดสูงสุดของสะพานซึ่งมีรัศมีความโคงในระนาบดิ่ง 12 เมตร จงหาอัตราเร็ว v ท่ี พอดีทําใหรถยนตเริ่มหลุดจากความโคงของสะพาน 1. 11 m/s 2. 12 m/s 3. 13 m/s 4. 14 m/s (ขอ 1)  วธทา ิี ํ 99
  • 14. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 33(มช 34) วัตถุกลมเล็กอันหนึ่งมีมวล m วางอยูจุดบนสุดของครึ่งทรงกลมตันซึ่งมีมวล m รศมี R ั จงหาอัตราเร็วในแนวระดับทีนอยทีสดทีจะทําใหวตถุหลุดออกผิวทรงกลมโดยไมมการเลื่อน ่  ่ ุ ่ ั ี ไถลลงมาตามผิว และให N เปนแรงที่ทรงกลมกระทําตอวัตถุในแนวตั้งฉากกับผิวทรงกลม 1 Κ1 1 1 ก. (Rg) 2 ข. (Rg) 2 N ค. [(g Κ m )R] 2 N Κ ง. [(g Κ m )R] 2 (ขอ ก) วธทา ิี ํ โจทยตัวอยางเกี่ยวกับ แรงดงเชอก ึ ื 34. จากรูป มวล 5 กิโลกรัม ถูกมัดดวยเชือกยาว 1 เมตร แลวแกวงเปนวงกลมตามแนวราบ ดวยอัตราเร็วคงที่ 2 เมตรตอวินาที จงหาคาของแรงดึงในเสนเชือก ( 20 N) วธทา ิี ํ 35. จากรูปมวล m อยูบนโตะลืนผูกติดกับกอนน้าหนัก W  ่ ํ ดวยเชือกเบาสอดผานรูกลางโตะ จงหาอัตราเร็วของ m ขณะเคลื่อนที่ในแนววงกลมรัศมี r 1. 1/ mrW 2. mrW 3. m 4. rW (ขอ 4)  rW m วธทา ิี ํ 100
  • 15. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 36. วตถมวล 2 กิโลกรัม ผกดวยเชอกแลวแกวงเปนวงกลมในแนวระดบรศมี 0.3 เมตร โดย ั ุ ู  ื    ั ั เสนเชอกเอยงทามม 53 องศากบแนวราบ ถาความเรวในการแกวงคงทเ่ี ทากบ 1.5 เมตร/  ื ี ํ ุ ั  ็   ั วนาที จงหาแรงดงในเสนเชอก (กาหนด cos 53o=3/5 , sin 53o= 4/5 ) ิ ึ  ื ํ ( 25 N) วธทา ิี ํ 37. วตถกอนหนง ผกดวยเชอกแลวแกวงเปนวงกลมในแนวระดบรศมี 0.3 เมตร โดยเสน ั ุ ่ึ ู  ื    ั ั เชอกเอยงทามม 53 องศากบแนวราบ ถาแรงดงในเสนเชอกมคาเทากบ 50 นวตน ื ี ํ ุ ั  ึ  ื ี  ั ิ ั จงหามวลของวตถกอนน้ี (กาหนด cos 53o = 3/5 , sin 53o = 4/5 ) ั ุ ํ (4 kg) วธทา ิี ํ 38. จากโจทยขอทผานมา จงหาอตราเรวของการเคลอนทเ่ี ปนวงกลม   ่ี  ั ็ ่ื  (1.5 m/s) วธทา ิี ํ 101
  • 16. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 39. ผกเชอกเบาตดกบลกบอลมวล 3 กิโลกรัม แกวงเชอกใหเ ปนวงกลมในแนวดงรศมี 1 เมตร ู ื ิ ั ู  ื  ่ิ ั ดวยความเรวเชงเสน 5 เมตร/วนาที จงหาแรงดงของเชอกขณะทลกบอลอยทตาแหนงสงสด  ็ ิ  ิ ึ ื ่ี ู ู ่ี ํ  ู ุ วธทา ิี ํ ( 45 N) 40(มช 41) ผกเชอกเบาตดกบลกบอลมวล 1 กิโลกรัม แกวงเชอกใหเ ปนวงกลมในแนวดงรศมี ู ื ิ ั ู  ื  ่ิ ั 0.2 เมตร ดวยความเรวเชงเสน 4 เมตร/วนาที จงหาแรงดงของเชอกขณะทลกบอลอยท่ี  ็ ิ  ิ ึ ื ่ี ู ู ตาแหนงสงสด ํ  ู ุ (70 นิวตัน) วธทา ิี ํ 41. ผกเชอกเบาตดกบลกบอลมวล 3 กิโลกรัม แกวงเชอกใหเ ปนวงกลมในแนวดงรศมี 1 ู ื ิ ั ู  ื  ่ิ ั เมตร ดวยความเรวเชงเสน 5 เมตร/วนาที จงหาแรงดงของเชอกขณะท่ี  ็ ิ  ิ ึ ื ก) ลกบอลอยทจดตาสด ู ู ่ี ุ ํ่ ุ (105 N) ข) ลกบอลอยทจดตรงกบแนวศนยกลางวงกลมในแนวระดบ ู ู ่ี ุ ั ู  ั (75 N) วธทา ิี ํ 102
  • 17. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 42. วตถมวล 1.0 กิโลกรัม ผกตดกบเชอกยาว 5 เมตร ถาถอวตถอนนใหเ ชอกตง และอยู ั ุ ู ิ ั ื  ื ั ุ ั ้ี ื ึ ในแนวระดบกอนแลวจงปลอยใหวตถตกลงมาอยากทราบวา ั   ึ  ั ุ  ก. เมอวตถแกวงถงจดตาสดจะมอตราเรวเทาใด (10 m/s) ่ื ั ุ  ึ ุ ํ่ ุ ีั ็  ข. ทจดตาสดเชอกมแรงตงเทาใด ่ี ุ ํ่ ุ ื ี ึ  (30 N) วธทา ิี ํ 43. วตถมวล 2 กิโลกรัม ผกไวดวยเชอกเสนหนงแลวแกวงใหหมนเปนวงกลมในแนวดงมี ั ุ ู   ื  ่ึ    ุ  ่ิ รศมี 10 เมตร เมอวตถถกแกวงขนมาถงจดสงสดวตถตองมความเรวนอยทสดเทาไร วตถุ ั ่ื ั ุ ู  ้ึ ึ ุ ู ุ ั ุ  ี ็  ่ี ุ  ั จงจะยงคงเคลอนทเ่ี ปนวงกลมได ึ ั ่ื  1. 20 เมตร / วนาทีิ 2. 15 เมตร / วนาที ิ 3. 10 เมตร/ วนาที ิ 4. 5 เมตร / วนาที ิ (ขอ 3)  วธทา ิี ํ 44. หากตองการใหมวล m ซงมดดวยเชอกรศมี r สามารถแกวงตวเปนวงกลมในแนวดงได   ่ึ ั  ื ั  ั  ่ิ พอดี ความเรวทจดตาสดของวงกลมการเคลอนทอยางนอยทสดตองมคาเปนเทาใด ็ ่ี ุ ํ่ ุ ่ื ่ี   ่ี ุ  ี    ก. gr 2. 2gr 3. 4gr 4. 5gr (ขอ ง)  วธทา ิี ํ 103
  • 18. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 45(En 34) วตถมวล 0.5 กิโลกรัม ผกตดกบเชอกยาว 1.0 เมตร แกวงเปนวงกลมในแนวดง ั ุ ู ิ ั ื   ่ิ เมอเชอกทามม 60o กบแนวดงจากตาแหนงตาสดของวถทางโคจรของวตถุ จงหาความตง ่ื ื ํ ุ ั ่ิ ํ  ํ่ ุ ิี ั ึ ในเสนเชอก ถาขณะนนอตราเรวในการเคลอนททตาแหนงเปน 3.0 เมตร/วนาที (ขอ 3)  ื  ้ั ั ็ ่ื ่ี ่ี ํ   ิ  1. 2.0 นวตน ิ ั 2. 6.5 นวตน ิ ั 3. 7.0 นวตน ิ ั 4. 8.8 นวตน ิ ั วธทา ิี ํ ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦ ตอนที่ 4 การเคลอนทแบบวงกลม (2) ่ื ่ี โจทยตัวอยางเกี่ยวกับ แรงเสยดทาน ี 46. ถนนราบโคงมรศมความโคง 50 เมตร ถาสมประสทธของความเสยดทานระหวางยางกบ  ีั ี   ั ิ ์ิ ี  ั ถนนของรถคนหนง มคาเทากบ 0.2 รถคนนจะเลยวโคงไดดวยความเรวสงสดเทาไรจงจะ ั ่ึ ี   ั ั ้ี ้ี    ็ ู ุ  ึ ไมไถลออกนอกโคง   ( 10 m/s ) วธทา ิี ํ 104
  • 19. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 47. ถนนราบโคงมรศมความโคง 100 เมตร ถาสมประสทธของความเสยดทานระหวางยางกบ  ีั ี   ั ิ ์ิ ี  ั ถนนของรถคนหนง มคาเทากบ 0.4 รถคนนจะเลยวโคงไดดวยความเรวสงสดเทาไรจงจะ ั ่ึ ี   ั ั ้ี ้ี    ็ ู ุ  ึ ไมไถลออกนอกโคง   (20 m/s) วธทา ิี ํ 48(มช 30) แผนเสยงแผนหนงวางอยในแนวระดบ เมอเอาเหรยญอนหนงมาวางไวหางจาก  ี  ่ึ ู ั ่ื ี ั ่ึ   จดศนยกลางของแผนเสยงเปนระยะ 10 เซนตเิ มตร ปรากฏวาเหรยญอนนจะหมนตดไปกบ ุ ู   ี   ี ั ้ี ุ ิ ั แผนเสยงไดโดยไมไถลหลดจากโตะ ถาอตราการหมนของแผนนอยกวา 1 รอบตอวนาที  ี   ุ   ั ุ     ิ จงหาสมประสทธความเสยดทานสถตระหวางเหรยญกบแผนเสยง ั ิ ์ิ ี ิ  ี ั  ี (ขอ 3)  1. 0.2 2. 0.3 3. 0.4 4. 0.6 วธทา ิี ํ 49(En 32) เหรยญวางอยทระยะ 20 cm จากศูนยกลางแผนเสียง ถาสัมประสิทธิ์ความเสียดทาน ี ู ่ี สถตยระหวางเหรยญและแผนเสยงเปน 0.125 จงหาจานวนรอบทมากทสดใน 1 วนาที ิ   ี  ี  ํ ่ี ่ี ุ ิ ทแผนเสยงหมนแลวเหรยญยงคงอยนงเทยบกบแผนเสยง ่ี  ี ุ  ี ั ู ่ิ ี ั  ี (0.4 Hz) วธทา ิี ํ 105
  • 20. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ กรณี การเลยวโคงของรถบนถนน ้ี  1) จะมีแรงเสียดทานระหวางยางรถกับพื้นถนน เปนแรง ผลักเขาสูศูนยกลาง 2) กรณรถมอเตอรไซคจะมการเอยงตวจากแนวดง เพอ ี   ี ี ั ่ ิ ่ื ใหแนวแรงลัพธของแรงเสียดทานกับแรงดันพื้นผลัก ผานจดศนยกลางมวลของมอเตอรไซด  ุ ู   tan″ = v2 gr เมอ v คอ อตราเรวของการเคลอนท่ี (m/s) ่ื ื ั ็ ่ื r คอ รศมความโคงของถนน (m) ื ั ี  ″ คอ มมทมอเตอรไซดเ อยงกระทากบแนวดง ื ุ ่ี  ี ํ ั ่ิ หรอ ″ คอ มมทพนถนนเอยงกระทากบแนวพนราบ ื ื ุ ่ี ้ื ี ํ ั ้ื 50. กาหนดใหรถจกรยานยนตเ ลยวโคงบนถนนรศมความโคง 0.1 km ดวยอตราเรว 36 km/hr ํ  ั ้ี  ั ี   ั ็ ไดอยางปลอดภย แมฝนตกทางลน คนขบตองเอยงตวทามมกบแนวดงเทาใด   ั  ่ื ั  ี ั ํ ุ ั ่ิ  (6o) วธทา ิี ํ 51(มช 41) ผขบขรถจกรยานยนตเ ลยวโคงบนถนนราบทมรศมความโคง 40 เมตร คนขบตอง ู ั ่ี ั ้ี  ่ี ี ั ี  ั  เอยงรถทามม 37o กบแนวดง ขณะนนผขบขขบรถในอตราเรวกเ่ี มตร/วนาที ี ํ ุ ั ่ิ ้ั ู ั ่ี ั ั ็ ิ (ขอ 1)  1. 17.32 2. 40.51 3. 30.67 4. 23.29 วธทา ิี ํ 52. รถยนตคนหนงแลนดวยความเรว 60 กโลเมตร/ชวโมง เมอรถคนนเ้ี ลยวโคงบนถนนมรศมี  ั ่ึ   ็ ิ ่ั ่ื ั ้ี  ีั ความโคง 150 เมตร พืนถนนควรเอียงทํามุมกับแนวระดับเทาใด รถจึงจะเลียงโคงอยางปลอดภัย ้ ้ วธทา ิี ํ (10.5o) 106
  • 21. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 53. ทางโคงของถนน ทานจะสงเกตเหนวาระดบของถนนบรเิ วณนอกสวนโคงจะมระดบสงกวา   ั ็  ั   ี ั ู  บรเิ วณในสวนโคง ทานจงใหเ หตผลวาเปนเพราะอะไร    ุ   ก. เพอตานแรงหนศนยกลาง ่ื  ีู  ข. เพอใหทศนวสยดขน ่ื  ั ิ ั ี ้ึ ค. เพอใหรปรางถนนเปนไปตามความตองการ ง. ขอ ก. และ ข. ถูก ่ื  ู     (ขอ ก)  วธทา ิี ํ โจทยตัวอยางเกี่ยวกับ แรงดึงดูดระหวางมวล 54. ดาวเทยมดวงหนงโคจรรอบโลกเปนวงกลมรศมี 8 x 106 เมตร และทความสงระดบน้ี ี ่ึ  ั ่ี ู ั แรงดงดดของโลกเทากบ 8 นวตน / กิโลกรัม จงคานวณหาความเรวในการโคจรของดาว ึ ู  ั ิ ั ํ ็ เทยมดวงน้ี ี ( 8x103 m/s ) วธทา ิี ํ 55. ดาวเทยมมวล 6 kg หมนรอบโลกเปนวงกลม รศมี 7000 km และทความสงระดบนแรง ี ุ  ั ่ี ู ั ้ี ดงดดของโลกมคาเทากบ 7 N/kg จงคานวณหาความเรวและคาบการหมนของดาวเทยมน้ี ึ ู ี  ั ํ ็ ุ ี 1) 7000 เมตร/วนาที , 5548 วนาที ิ ิ 2. 7000 เมตร/วนาที , 6283 วนาที ิ ิ 3) 8000 เมตร/วนาที , 5548 วนาที ิ ิ 4. 8000 เมตร/วนาที , 6283 วนาที ิ ิ วธทา ิี ํ (ขอ 2) 107
  • 22. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 56. ดาวเทยมเคลอนทเ่ี ปนวงกลมรอบโลก โดยมรศมวงโคจร 12.8x106 เมตร อตราเรวของ ี ่ื  ีั ี ั ็ ดาวเทยม มคากเ่ี มตรตอวนาที (กาหนด มวลโลก = 6 x 1024 kg) ี ี  ิ ํ (5.7x103 m/s) วธทา ิี ํ 57(En 33) ดาวเทยมเคลอนทเ่ี ปนวงกลมรอบโลก โดยมระยะหางจากผวโลกเทากบรศมของ ี ่ื  ี  ิ  ั ั ี โลก อตราเรวของดาวเทยมมคากเ่ี มตรตอวนาที ั ็ ี ี  ิ (ขอ 3)  ( มวลโลก = 6 x1024 kg , รศมโลก = 6.4 x 106 m) ั ี 1. 1.6x104 m/s 2. 4.0x103 m/s 3. 5.7x103 m/s 4. 11.3x103 m/s วธทา ิี ํ ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦ ตอนที่ 5 อตราเรวเชงมม ั ็ ิ ุ •=⊗t เมอ • คือ อัตราเร็วเชิงมุม (เรเดยน / วนาท) ่ื ี ิ ี ″ คือ มุมที่กวาดไป (เรเดยน) ี • = 2T℘ t คือ เวลาที่ใชกวาดมุมนั้น (วนาท) ิ ี • = 2° f T คือ คาบของการเคลอนท่ี (วนาท) ่ื ิ ี V = •R f คือ ความถของการเคลอนท่ี (Hz) ่ี ่ื ac = •2 R V คือ อัตราเร็วเชิงเสน (m/s) ac คือ อตราเรงเขาสศนยกลาง (m/s2) ั   ู ู  108
  • 23. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 58. วตถกอนหนงเคลอนทเ่ี ปนวงกลมรอบจดจดหนงดวยความถ่ี 7 รอบ/วนาที จงหาอัตราเร็ว ั ุ ่ึ ่ื  ุ ุ ่ึ  ิ เชงมมของการเคลอนทน้ี ิ ุ ่ื ่ี ( 44 rad/s ) วธทา ิี ํ 59. การหมนรอบตวของโลกรอบละ 24 ชวโมง กาหนด รัศมีโลกเทากับ 6.37 x 106 เมตร ุ ั ่ั ํ จงหา อตราเรวเชงมมทผวโลก ั ็ ิ ุ ่ี ิ ( 7.27x10–5 rad/s) วธทา ิี ํ 60. จากขอทผานมา จงหาอตราเรวของวตถทผวโลก  ่ี  ั ็ ั ุ ่ี ิ (463 m/s) วธทา ิี ํ 61. จากขอทผานมา จงหาอตราเรงสศนยกลางทเ่ี สนศนยสตร  ่ี  ั  ู ู   ู  ู (0.034 m/s2 ) วธทา ิี ํ 62(En 42/2) วตถมวล m วางบนจานกลมที่กําลังหมุน ดวยอตราเรวเชงมม 2° เรเดยน/วนาที ั ุ  ั ็ ิ ุ ี ิ ถาวัตถุวางอยูหางจากศูนยกลางของจานเปนระยะ r และขณะที่หมุนวัตถุไมมีการไถล แรงเสยดทานทกระทาตอวตถเุ ทากบเทาไร ี ่ี ํ  ั  ั  (ขอ 1)  1. 4°2 mr 2. 4°2 r2 m 3. 2°2 mr 4. 2° mr วธทา ิี ํ 109
  • 24. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 63. ถาในการทดลองเกี่ยวกับการเคลื่อนที่เปนวงกลม ขณะที่วัตถุมวล M เคลอนทดวยรศมความโคง 0.8 ่ื ่ี  ั ี  เมตรนัน น้ําหนักของวัตถุทําใหวัตถุอยูต่ํากวาปลาย ้ เชอกทแกนหมน 0.2 เมตร ดงรปอตราเรวเชงมมของ ื ่ี ุ ั ู ั ็ ิ ุ การเคลอนทจะตองเปนเทาไรในหนวยเรเดยน/วนาที ่ื ่ี     ี ิ (ขอ 1)  1. 7 2. 8 3. 9 4. 10 5. 11 วธทา ิี ํ 64(En 31) วัตถุผูกติดปลายเชือกแลวแกวงเปนวงกลมสม่ําเสมอ ตามแนวราบแบบฐานกรวย ถารัศมีของการแกวงเปนวงกลม 30 เซนติเมตร และมวลของวัตถุ 0.5 กิโลกรัม เชือกยาว 50 เซนติเมตร อตราเรวเชงมมของการแกวงเปนกเ่ี รเดยนตอวนาที ั ็ ิ ุ   ี  ิ 1. 5 2. 7.5 3. 10 4. 25 (ขอ 1)  วธทา ิี ํ 65. วตถมวล 2 กิโลกรัม ผูกดวยเชือกยาว 0.5 เมตร แลวแกวงเปน ั ุ วงกลมในระนาบระดับดวยรัศมี 0.3 เมตร จงหาอัตราเร็ว (1.5 m/s) วธทา ิี ํ 66. จากขอทผานมา จงหาแรงดงในเสนเชอก  ่ี  ึ  ื (25 N) วธทา ิี ํ 110
  • 25. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ ตอนที่ 6 การเคลือนทีแบบซิมเปลฮารโมนิค (1) ่ ่ การเคลอนทซมเปลฮารโมนคแบบสน ่ื ่ี ิ   ิ ่ั a = •2 A v = •A • = mk T = 2℘ ⊇ f = 1= ⊇ T 2℘ เมอ v ่ื = ความเร็วสูงสุด (ที่จุดสมดุลเทานั้น) a = ความเรงสูงสุด (ที่ระยะทางไกลที่สุด) • = ความเรวเชงมม (เรเดยน / วนาท) A ็ ิ ุ ี ิ ี = อมปลจด (ระยะทางไกลที่สุด) ั ิู k = คานจสปรง (N/m)  ิ ิ m = มวล (kg) T = คาบการสั่น (s) f = ความถี่การสั่น (Hz) 67(มช 34) สปรงเบาตวหนงมคานจ 25 นวตน/เมตร ผกตดกบ ิ ั ่ึ ี  ิ ิ ั ู ิ ั มวล 1 กิโลกรัม ซึ่งวางอยูบนพื้นเกลี้ยง ดงรป เมอดงสปรง ั ู ่ื ึ ิ ออกไป 20 เซนติเมตร แลวปลอยมือ มวลกอนนจะมอตรา  ้ี ี ั เรวเทาใดเมอผานตาแหนงสมดล ็  ่ื  ํ  ุ ก. 0.2 m/s ข. 1.0 m/s ค. 2.0 m/s ง. 3.0 m/s (ขอ ข)  วธทา ิี ํ 68(มช 34) สปรงเบาตวหนงมคานจ 100 นวตน/เมตร ผูกติดกับมวล 1 กิโลกรัม ซึ่งวางอยูบน ิ ั ่ึ ี  ิ ิ ั พื้นราบเกลี้ยง เมอดงสปรงออกไป 30 เซนติเมตร แลวปลอยมือ มวลกอนนจะมอตราเรง ่ื ึ ิ  ้ี ี ั  สูงสุดเทาใด ก. 10 m/s2 ข. 20 m/s2 ค. 30 m/s2 ง. 40 m/s2 (ขอ ค)  วธทา ิี ํ 111
  • 26. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 69(En 36) แขวนมวล 100 กรัม ที่ปลายหนึ่งของสปริงที่มีมวลนอยมากดึงมวลจากตําแหนง สมดุล 10 เซนติเมตร แลวปลอย อตราเรวเชงเสนขณะเคลอนทผานสมดลมคาเทาใด ถา ั ็ ิ  ่ื ่ี  ุ ี  คาบของการสั่นมีคา 2 วนาที ิ (ขอ 1)  1. 0.31 m/s 2. 0.99 m/s 3. 3.14 m/s 4. 9.9 m/s วธทา ิี ํ 70. วตถหนงเคลอนทแบบฮารมอนกอยางงาย มีอัมพลิจูด 10 เซนติเมตร มีความถี่ 2 รอบ ั ุ ่ึ ่ื ่ี  ิ   ตอวนาที วัตถุจะมีความเรงสูงสุดเทาใด  ิ (15.68 m/s2) วธทา ิี ํ 71. สปรงวางบนพนราบมคานจสปรง (2°)2 N/m ปลายขางหนึ่งผูกตรึงปลายอีกขางหนึ่ง ิ ้ื ี ิ ิ มีมวล 4 kg ตดไว เมอออกแรงดงมวลแลวปลอยมวลจะเคลอนทแบบ SHM ดวยคาบ ิ ่ื ึ ่ื ่ี กี่วินาที (2) วธทา ิี ํ 72. สปรงวางบนพนราบมคานจสปรง ±2 N/m ปลายขางหนงผกตรงปลายอกขางหนงมมวล 1 kg ิ ้ื ี ิ ิ  ่ึ ู ึ ี  ่ึ ี ติดไว เมือออกแรงดึงมวลแลวปลอยมวลจะเคลือนทีแบบ SHM ดวยคาบกีวนาที ่ ่ ่ ่ิ (2 วินาที) วธทา ิี ํ 112
  • 27. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 73(En 35) รถทดลองมวล 500 กรัม ติดอยูกับปลายสปริง ดงรป เมือดึงดวยแรง 5 นวตน ในทิศขนานกับพื้น จะ ั ู ่ ิ ั ทาใหสปรงยดออก 10 เซนติเมตร เมอปลอยรถจะเคลอนท่ี ํ  ิ ื ่ื  ่ื กลับไปมาบนพื้นเกลี้ยงแบบซิมเปลฮารโมนิกดวยคาบเทาไร (ขอ 1)  1. 0.63 s 2. 0.67 s 3. 1.60 s 4. 2.00 s วธทา ิี ํ 74(มช 42) ลวดสปรงอนหนงวางบนพนเกลยง ปลายดานหนึ่งยืดแนนกับผนังปลายที่เหลือมี ิ ั ่ึ ้ื ้ี มวล 1.0 กิโลกรัมติดไว ถาทําใหเกิดการสั่นแบบซิมเปลฮารมอนิกวัดคาบการสั่นได (2° / 5) วนาที แรงในหนวยของนวตนทกระทาตอมวลน้ี เมออยหางจากตาแหนงสมดล ิ  ิ ั ่ี ํ  ่ื ู  ํ  ุ 0.2 เมตร เปนเทาใด   (5 นวตน) ิ ั วธทา ิี ํ 75(มช 43) แขวนมวล 2 กิโลกรัม กับสปริง แลวปลอยใหสั่นขึ้นลง วดคาบของการสนได ั ่ั 1 วนาที ถาเอามวล 2 กิโลกรัม ออกสปรงจะสนกวาตอนทแขวนมวลนอยกเ่ี มตร ิ ิ ้ั  ่ี ้ี ู 1. 0.08 2. 0.12 3. 0.25 4. 0.40 (ขอ 3)  วธทา ิี ํ 113
  • 28. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 76(มช 44) แขวนมวล m กับสปริงซึ่งมีคาคงตัวสปริง k แลวทําใหสั่นขึ้นลงในแนวดิ่ง วดคาบการสนได To ถานํามวล 4m มาแขวนแทนทมวล m แลวคาบการสั่นจะเปนเทาใด ั ่ั ่ี 1. To 4 2. T2o 3. To 4. 2To (ขอ 4)  วธทา ิี ํ 77(En 43/2) หากผูกมวล m ตดกบสปรงในแนวดง ดึงมวลลงเล็กนอยแลวปลอยใหสั่นพบวา ิ ั ิ ่ิ สปริงมีคาบของการสั่น 2 วนาที ถาเพิ่มมวลเขาไปอีก 2 กิโลกรัม สปริงจะมีคาบการสั่น ิ 3 วนาที จงหาขนาดของมวล m ในหนวยกโลกรม ิ  ิ ั (1.6 kg) วธทา ิี ํ ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦ ตอนที่ 7 การเคลือนทีแบบซิมเปลฮารโมนิค (2) ่ ่ การเคลอนทซมเปลฮารโมนคแบบแกวง ่ื ่ี ิ   ิ  a = •2 A v = •A amax amax • = L g vmax T = 2℘ ⊇ A A 1 ⊇ f = T = 2℘ 114
  • 29. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ เมอ v = ความเร็วสูงสุด (ที่จุดสมดุลเทานั้น) ่ื a = ความเรงสูงสุด (ที่ระยะทางไกลที่สุด) • = ความเรวเชงมม (เรเดยน/วนาท) ็ ิ ุ ี ิ ี A = อมปลจด (ระยะทางไกลที่สุด) ั ิู L = ความยาวสายแกวง (m) T = คาบการแกวง (s) f = ความถี่การแกวง (Hz) 78. ลูกตุมแขวนดวยเชือกยาว 0.4 เมตร แกวงไปมาดวยอัมปลิจูด 0.1 เมตร จงหาความเรว ็ ขณะเคลอนผานจดสมดล ่ื  ุ ุ ( 0.5 m/s) วธทา ิี ํ 79(มช 32) ความเรวสงสดของวตถทกาลงแกวงแบบซมเปลฮารโมนคดวยคาบของการแกวง ็ ู ุ ั ุ ่ี ํ ั  ิ   ิ   0.2 วนาที และอัมปลิจูด 2 เซนติเมตร จะมีคาเทากับ ิ (ขอ ค)  ก. 5° เซนติเมตร/วนาที ิ ข. 10° เซนติเมตร/วนาที ิ ค. 20° เซนติเมตร/วนาที ิ ง. ไมสามารถหาคาไดจากขอมูลที่ใหมา วธทา ิี ํ 80. ตองการใหลกตมนาฬกาแกวงในระนาบบนพนโลกใหครบรอบภายในเวลา 2 วนาที   ู ุ ิ  ้ื  ิ จะตองออกแบบใหสายลูกตุมนาฬิกายาวเทาใด ให °2 = 10 (1 เมตร) วธทา ิี ํ 81. ลูกตุมแขวนดวยเชือกยาว 1 เมตร แกวงไปมาดวยคาบ 2 วนาที ถาลกตมแขวนดวยเชอก ิ  ู ุ  ื ยาว 9 เมตร จะแกวงดวยคาบเทาใด (6 วนาที) ิ วธทา ิี ํ 115
  • 30. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 82. ถานาฬกาแบบลกตมเดนไดตรง ณ บรเิ วณพนทราบใกลระดบนาทะเล ถานานาฬกานไปใช  ิ ู ุ ิ  ้ื ่ี  ั ํ้  ํ ิ ้ี ณ บริเวณยอดเขาสูงกวาระดับน้าทะเลมาก ๆ คาบของการแกวงจะเพิมขึนหรือลดลง ํ ่ ้ (เพิ่ม) วธทา ิี ํ การหาความเรว และความเรง ณ จุดใดๆ ็  Vs = • A 2 Κ x 2 as = •2 x Vt = •A sin (• t) at = •2 A cos (• t) X เมอ Vs , ่ื as = ความเรว และ ความเรง ณ จดหางจากสมดล ็  ุ  ุ A Vt , at = ความเรว และ ความเรง ณ เวลา t จากสมดุล ็  A = อมปลจด ั ิู และ x = A sin ( • t ) เมอ x = การขจัด ณ. เวลา t ใดๆ ่ื 83. อนภาคหนงเคลอนทแบบ SHM ดวยชวงกวาง ุ ่ึ ่ื ่ี 1.5 เมตร ความถี่ 50 Hz จงหาความเรว และ็ ความเรง เมอการขจดเปน 1 เมตร  ่ื ั  วธทา ิี ํ (351 m/s , 98696 m/s2) X= 1 m A=1.5 m 84. ซมเปลฮารโมนค มีชวงกวาง 8 เซนติเมตร และคาบ 4 วนาที จงหาความเรงหลงจากท่ี ิ   ิ ิ  ั อนภาคผานจดสมดลไปได 0.5 วนาที ุ  ุ ุ ิ (0.14 m/s2) วธทา ิี ํ 116
  • 31. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ แบบฝ กหั ดฟ สิ ก ส บทที่ 4 การเคลื่ อ นที่ แ บบต า งๆ การเคลือนทีแบบโปรเจกไทล ่ ่ 1. ขวางลูกบอลจากที่สูงออกไปในแนวราบดวย อตราเรว 3 เมตร/วนาที เมอเวลาผานไป ั ็ ิ ่ื  2 วนาที จะมการขจดเทาไร ิ ี ั  (ขอ 4)  1. 6 เมตร 2. 20 เมตร 3. 17.35 เมตร 4. 436 เมตร 2. จากโจทยขอทผานมา เมอเวลาผานไป 0.4 วนาที อตราเรวทปรากฏจะเปนกเ่ี มตร/วนาที   ่ี  ่ื  ิ ั ็ ่ี  ิ 1. 5 2. 4 3. 3 4. 2 (ขอ 1)  3. จากโจทยขอทผานมาอยากทราบวา เมอเวลาผานไป 0.4 วนาที ทิศทางการเคลื่อนที่จะทํา   ่ี   ่ื  ิ มมเทาไรกบแนวเดม (แนวระดบ) ุ  ั ิ ั 1. tan –1 ( 3 ) 5 2. tan –1 ( 5 ) 3 3. tan –1 ( 4 ) 3 3 4. tan –1 ( 4 ) (ขอ 3)  4. เมอปาวตถออกไปในแนวระดบจากทสง 80 เมตร ปรากฏวาวตถตกหางจากจดปาในแนว ่ื ั ุ ั ่ี ู  ั ุ  ุ ราบ 20 เมตร จงหาอตราเรวของวตถทถกปาออกไป ั ็ ั ุ ่ี ู (Ux = 5 m/s) 5. ชายคนหนง ยืนบนหนาผาสูง 80 เมตร ขวางลกบอลออกไปในแนวราบ ดวยความเรวตน ่ึ  ู  ็  330 เมตร/วนาที ถามวาลูกบอลไปตกไกลจากหนาผาเทาไร ิ 1. 300 เมตร 2. 330 เมตร 3. 1320 เมตร 4. 2330 เมตร (ขอ 3) 6. ชายคนหนึ่งยืนอยูบนดาดฟาตึกสูง 50 เมตร แลวปากอนหินลงไปในแนวทํามุมกม 37o กบแนวระดบดวยความเรว 25 เมตรตอวินาที ั ั  ็ ก. นานเทาไรกอนหนตกถงพนดน   ิ ึ ้ื ิ (2 s) ข. กอนหนตกหางจากตวตกเทาไร  ิ  ั ึ  (40 m) 7. ตามรูปลูกบอลถูกขวางจากกําแพงดวยความเร็วตน 80 เมตร/วนาที กําแพงสูง 35 เมตร อยากทราบวา ิ  นานเทาไรลูกบอลจึงจะตกถึงพื้น 1. 8.0 วนาที ิ 2. 0.8 วนาที ิ 3. 8.8 วนาที ิ 4. 9.6 วนาที (ขอ 3) ิ  117
  • 32. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 8. จากขอทผานมา ลูกบอลจะตกหางจากจุด P ออกไปในแนวราบกเ่ี มตร  ่ี  1. 704.0 2. 609.7 3. 528.0 4. 665.1 (ขอ 2)  9. ยิงปนทํามุม 53o กบแนวระดบ ถาลกปนมอตราเรว 300 เมตรตอวินาที อยากทราบวา ั ั  ู  ีั ็  ลูกปนตกไกลจากจุดยิงเทาไร (8640 เมตร) 10. นักทุมน้ําหนักทีมชาติไทยทุมลูกเหล็กออกไปดวยความเร็ว 20 เมตรตอวินาที จะทุมได ไกลที่สุดเทาไร (40 เมตร) 11. รถคนหนงวงในแนวเสนตรงดวย ั ่ึ ่ิ   ความเรวคงท่ี 10 2 เมตร/วนาที ็ ิ หนการสกดของเจาหนาท่ี ทาใหเ จา ี ั   ํ  หนาทจาเปนตองใชปนยงสกด ปนที่  ่ี ํ     ิ ั ใชยงเปนชนดพาดบากระสนปนวงออกจากปากกระบอกความเรว 100 เมตร/วนาที เจาหนาท่ี ิ  ิ  ุ  ่ิ ็ ิ   ตงปนเอยงทามมกบแนวราบ 45o อยากทราบวาถาจะใหกระสุนตกกระทบรถยนตพอดี ้ั  ี ํ ุ ั เจาหนาทตองลนกระสนเมอรถวงหางออกไปแลวกเ่ี มตร   ่ี  ่ั ุ ่ื ่ิ   1. 800 2. 900 3. 800 2 4. 900 2 (ขอ 1)  12. ตามรป เครองบนทงระเบดกาลงบนสงจาก ู ่ื ิ ้ิ ิ ํ ั ิ ู พื้น 103 เมตร ในแนวราบดวยอตราเรวคงท่ี  ั ็ 72 เมตร/วนาที ปลดระเบด ขณะที่รถหางจาก ิ ิ จด A 125 เมตร ลกระเบดจะตกกระทบรถพอดี ุ ู ิ เมอเคลอนทดวยอตราเรวคงท่ี ถามวาความเรว ่ื ่ื ่ี  ั ็  ็ ของรถซึ่งมีคาคงที่นั้นมีคากี่เมตร/วนาที ิ 1. 31.3 2. 50.0 3. 72.0 4. 44.5 (ขอ 4) การเคลอนทแบบวงกลม ่ื ่ี 13. ยิงลูกเหล็กเล็ก ๆ ใหวงไปตามขอบโลหะโคงดงรป  ่ิ  ั ู เมอลกเหลกหลดออกจากขอบโลหะ ลูกเหล็กจะวิ่ง ่ื ู ็ ุ ไปตามเสนทาง ก. หมายเลข 1 ข. หมายเลข 2 ค. หมายเลข 3 ง. หมายเลข 4 (ขอ ค) 118
  • 33. Physics Online I http://www.pec9.com บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบตางๆ 14(En 43/1) ในการทดลองการเคลอนทแนววงกลมในระนาบระดบ ขณะที่กําลังแกวงใหจุกยาง ่ื ่ี ั หมนอยนน เชือกที่ผูกกับจุกยางขาดออกจากกัน นกเรยนคดวาขณะทเ่ี ชอกขาดภาพการ ุ ู ้ั ั ี ิ  ื เคลอนททสงเกตจากดานบนจะเปนตามรปใด ถา a เปนตาแหนงของจกยางขณะทเ่ี ชอกขาด ่ื ่ี ่ี ั   ู  ํ  ุ ื 1. 2. 3. 4. (ขอ 1)  15. มวลผกเชอกแลวแกวงใหเ คลอนทเ่ี ปนวงกลมตามแนวระดบบนพนลน เมอเชอกขาดมวล ู ื   ่ื  ั ้ื ่ื ่ื ื จะเคลอนทอยางไร ่ื ่ี  ก. วงกลม ข. สวนโคงของวงกลม ค. วงรี ง. พาราโบลา จ. เสนตรง  (ขอ จ) 16. จงหาความเรงสูศูนยกลางของวัตถุที่เคลื่อนที่แบบวงกลมรัศมี 4 เมตร ดวยอตราเรว  ั ็ 20 เมตรตอวินาที (100 m/s2) 17. รถไฟเหาะตีลังกามวล 2000 กิโลกรัม เคลอนทบนราบโคงรศมี 10 เมตร ขณะผานจด ่ื ่ี  ั  ุ สูงสดดวยอตรา 20 เมตรตอวินาที จะมแรงปฏกรยาทรางกระทาตอรถไฟกนวตน ุ  ั ี ิ ิ ิ ่ี ํ  ่ี ิ ั 1. 40000 2. 60000 3. 80000 นวตน 4. 100000 ิ ั (ขอ 2) 18. รถคนหนงมมวล 1000 กิโลกรัม เคลอนทขนรางโคงตลงกาอนมรศมี 10 เมตร ดวย ั ่ึ ี ่ื ่ี ้ึ  ีั ั ีั  ความเรวคงท่ี 30 เมตรตอวินาที จงหาแรงปฏกรยาทรางกระทาตอรถตอนท่ี ็ ิ ิ ิ ่ี ํ  ก) รถอยทจดลางสดของราง ู ่ี ุ  ุ (100000 N) ข) รถอยทจดตรงกบแนวศนยกลางรางในแนวระดบ ู ่ี ุ ั ู  ั (90000 N) 19. รถไฟเหาะตลงกาขณะเคลอนทบนรางโคงในระนาบดงรศมี 8 เมตร ขณะผานจุดสูงสุด ีั ่ื ่ี  ่ิ ั แรงทเ่ี บาะนงกระทาตอคนเปน 1 ใน 4 ของนาหนกตนเอง จงหาอตราเรวขณะผานจดสงสด ่ั ํ   ํ้ ั ั ็  ุ ู ุ (10 m/s) 20. รถไฟเหาะตลงกาขณะเคลอนทบนรางโคงในระนาบดงรศมี 5 เมตร ขณะผานจดตาสดมี ีั ่ื ่ี  ่ิ ั  ุ ํ่ ุ อตราเรว 20 เมตรตอวินาที จงหาแรงกระทาระหวางคนกบทนงมคาเปนกเ่ี ทาของนาหนก ั ็ ํ  ั ่ี ่ั ี    ํ้ ั คนนง (g = 10 เมตร/วนาท2) ่ั ิ ี (9 mg) 119