SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  32
Télécharger pour lire hors ligne
Physics Online III                      http://www.pec9.com              บทที่ 10 ความรอน

                                ฟ สิ ก ส บ ทท่ี 10 ความร อ น
  ตอนที่ 1 ความรอน
     พลังงานความรอนที่ใชเปลี่ยนอุณหภูมิ หาคาไดจาก
               υQ = c m υt           หรอ ื      υQ = C υt

           เมือ
              ่      υ   Q = พลงงานความรอน (จล)
                                    ั                 ู
                          c = คาความจความรอนจาเพาะ (จล/กิโลกรัม.เคลวน)
                                        ุ          ํ     ู        ิ
                         υt = อุณหภูมิที่เปลี่ยนไป ( K หรือ oC )

                         m = มวล (กิโลกรัม)
                          C = คาความจความรอน (จล / เคลวน)
                                      ุ                ู   ิ
1. จงหาพลังงานความรอนที่ทําใหเหล็กมวล 200 กรัม ทอณหภมิ 20 องศาเซลเซียส มี
                                                  ่ี ุ ู
   อณหภมสงขนเปน 60 องศาเซลเซียส
    ุ ู ิ ู ้ึ 
        ( กําหนด คาความจุความรอนจําเพาะของเหล็กเทากับ 450 J /kg.K )          ( 3600 จล )
                                                                                        ู
วธทา
 ิี ํ



2. ใหพลังงานความรอนแกตะกั่ว 252 จล ถาตะกั่วมีมวล 1 กิโลกรัม จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเทาใด
                                    ู
   (ความจความรอนจาเพาะของตะกว = 126 จล/กิโลกรัม.เคลวน)
          ุ     ํ               ่ั           ู             ิ                (2 K(oC))
วธทา
 ิี ํ



3. ใหพลังงานความรอนขนาด 3000 จล กับเหล็กทอนหนึ่ง ปรากฏวาเหล็กมีอุณหภูมิสูงขึ้น
                                ู
   จาก 30 องศาเซลเซียส เปน 80 องศาเซลเซียส จงหามวลของเหล็กกอนนี้
                           
   (กําหนด เหลกมคาความจความรอนจาเพาะ 0.500 กิโลจูล/กิโลกรัม.เคลวน) (0.12 kg)
               ็ ี      ุ     ํ                               ิ
วธทา
 ิี ํ



                                                34
Physics Online III                  http://www.pec9.com                  บทที่ 10 ความรอน
4. น้าตก ตกจากหนาผาสูง 50 m ปรากฏวาพลังงานศักยเปลี่ยนเปนพลังงานความรอนเพียง
      ํ
   50 % ถาคาความจุความรอนจําเพาะของน้ําเทากับ 4.180 kJ/kg.k ถามวาน้ําจะมีอุณหภูมิ
   สูงขึ้นจากเดิมกี่องศาเซลเซียส                                                ( 0.059 )
วธทา
 ิี ํ




5. ยิงกระสุนปนทองแดง กระสุนกระทบเปาดวยความเร็ว 385 m/s กระสุนจะหยุดทันทีที่ชน
   เปาถา 3 ใน 4 ของพลังงานจลนเปลี่ยนเปนพลังงานความรอน จงหาวากระสุนปนจะมี
   อณหภมเิ พมเปนเทาใด ถาเดิมกระสุนมีอุณหภูมิ 27oC
      ุ ู ่ิ  
       กําหนด คาความจความรอนจาเพาะของทองแดง 0.385 kJ / kg.K
                      ุ       ํ
             และพลังงานจลนทั้งหมดเปลี่ยนเปนพลังงานความรอน           (171.38oC)
วธทา
 ิี ํ




       พิจารณาการเปลี่ยนแปลงจากน้ําแข็งเปลี่ยนเปนน้ํา และจากน้ําเดือดกลายเปนไอตอ
  อุณหภูมิระหวางการเปลี่ยนแปลงเปนดังนี้
                    อุณหภูมิ ( o )
                                                          ไอน้า
                                                              ํ
                 100


                                         น้ํา
                     0
                                                                  เวลา


                         น้ําแข็ง
                                                35
Physics Online III                     http://www.pec9.com                       บทที่ 10 ความรอน
       การเปลี่ยนแปลงจาก ของแขง ไปเปนของเหลว และจากของเหลวไปเปนไอ ทุกขันตอน
                                 ็                                        ้
          จะเปนการเปลยนแปลงแบบดดความรอน
                        ่ี         ู      
          ( ถาเปลี่ยนยอนกลับ จากไอเปนของเหลว หรือจากของเหลวเปนของแข็ง จะเปน
                                      
             การเปลี่ยนแปลงแบบคายความรอน )
       พลังงานความรอนที่ดูดเขาไปในชวงเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเปนของเหลว ( ชวง
                                                                             
        ในรูปภาพ ) จะใชไปเพื่อสลายแรงดึงดูดระหวางโมเลกุลของแข็ง ทําใหโมเลกุลของ
          แข็งถอยหางออกจากกัน แลวของแข็งจะเกิดการเปลี่ยนสถานะเปนของเหลว พลัง
          งานที่ใชเปลี่ยนสถานะชวงนี้ เรียก ความรอนแฝงสาหรบการหลอมเหลว
                                                       ํ ั
   พลังงานความรอนที่ดูดเขาไปในชวงเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเปนไอ ( ชวง ในรูป )
                                                                    
      จะใชไปเพื่อสลายแรงดึงดูดระหวางโมเลกุลของเหลว ทําใหโมเลกุลของเหลวถอยหาง
      ออกจากกัน แลวของเหลวจะเกิดการเปลี่ยนสถานะเปนไอ พลังงานที่ใชเปลี่ยนสถานะ
      ชวงนี้ เรียก ความรอนแฝงสําหรับการกลายเปนไอ
   พลังงานความรอนที่ใชเปลี่ยนสถานะ หรือ ความรอนแฝง สามารถหาคาไดจาก
                      υQ = m.L

           เมือ υQ = พลงงานความรอน (จล)
              ่                ั            ู
                  m = มวล (กิโลกรัม)
                   L = คาความรอนแฝงจําเพาะ (จล/กิโลกรัม)
                                                  ู
6. ชวงที่เกิดการหลอมเหลว สสารมีการดูดความรอนหรือไม ......... แตอุณหภูมิสสารจะไมเพิ่ม
   เพราะความรอนทดดเขาไปนนมไดใชเ พมอณหภมิ แตใชเพื่อ.................................................
                  ่ี ู    ้ั ิ  ่ิ ุ ู
7. ชวงที่เกิดการกลายเปนไอ สสารมีการดูดความรอนหรือไม ........ แตอุณหภูมิสสารจะไมเพิ่ม
   เพราะความรอนทดดเขาไปนนมไดใชเ พมอณหภมิ แตใชเพื่อ.................................................
                  ่ี ู     ้ั ิ  ่ิ ุ ู
8. น้ําแข็งมวล 5 kg อุณหภูมิ 0oC เปลี่ยนเปนน้ําที่ 0oC ตองใชพลังงานความรอนเทาใด
    กําหนด คาความรอนแฝงจาเพาะของการหลอมเหลวของนา 333 kJ / kg
                         ํ                            ํ้                 (1665 kJ)
วธทา
 ิี ํ



                                                 36
Physics Online III               http://www.pec9.com                 บทที่ 10 ความรอน
9. ถาจะทําใหน้ํา 100oC มวล 5 kg เปลี่ยนเปนไอน้ําหมดที่ 100oC ตองใชความรอนเทาใด
   กําหนด คาความรอนแฝงจําเพาะการกลายเปนไอของน้ํา 2256 kJ / kg          (11280 kJ)
วธทา
 ิี ํ

10. ใหพลังงานความรอนแกน้ําแข็ง (0oC) มวล 2 กิโลกรัม เปนปริมาณเทาไร เพอใหนาแขง
                                                                           ่ื  ํ้ ็
   กลายเปนน้ําและเหลือน้ําแข็ง 0.5 กิโลกรัม ใหความรอนแฝงจาเพาะของนาแขง 336 kJ/ kg
                                                         ํ          ํ้ ็
      1. 504 kJ         2. 336 kJ              3. 168 kJ          4. 94 kJ (ขอ 1) 
วธทา
 ิี ํ




11. กอนนาแขงมวล 1 กิโลกรัม มีอุณหภูมิศูนยองศาเซลเซียส ตกลงไปในทะเลสาปที่น้ํามี
       ํ้ ็
   อุณหภูมิศูนยองศาเซลเซียสเชนเดียวกัน ปรากฏวาน้ําแข็งละลายไป 0.01 กิโลกรัม นาแขง
                                                                                ํ้ ็
   ตกลงมาจากระดับความสูงกี่เมตร
          (ความรอนแฝงจาเพาะของการหลอมเหลวของนา = 300 x 103 J/kg )
                       ํ                              ํ้
       1. 10              2. 30             3. 300             4. 1000         (ขอ 3)
วธทา
 ิี ํ




12. กอนนาแขงมวล 10 กิโลกรัม ไถลลงจากที่สูง 10 เมตร อยากทราบวาน้ําแข็งจะละลาย
       ํ้ ็
   ไปเทาไร ถาพื้นมีอุณหภูมิ 0oC ( Lการหลอมเหลวน้าแข็ง = 333 kJ/kg )
                                                  ํ                     ( 3 กรัม)
วธทา
 ิี ํ




                                          37
Physics Online III                http://www.pec9.com                 บทที่ 10 ความรอน
13(En 44/2) จงหาปรมาณความรอนททาใหนาแขงมวล 100 กรัม อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส
                      ิ          ่ี ํ  ํ้ ็
   กลายเปนน้ํามวล 100 กรัม อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส กําหนดใหความจุความรอนจําเพาะ
   ของน้ําเทากับ 4200 จูลตอกิโลกรัม เคลวน และความรอนแฝงจําเพาะของการหลอมเหลว
                                           ิ
   ของน้ําแข็งเทากับ 333 กิโลจูลตอกิโลกรัม
      1. 33.7 kJ          2. 37.5 kJ          3. 75.3 kJ      4. 4233 kJ (ขอ 2)
วธทา
 ิี ํ




14. ตองการทาใหนาแขง 1 kg อุณหภูมิ –10o C เปลี่ยนเปนน้ํา 10oC ตองใชพลังงานความ
          ํ  ํ้ ็
   รอนเทาใด กําหนด คาความจความรอนจาเพาะของนาแขง 2.1 kJ/kg.k
                             ุ   ํ              ํ้ ็
                    คาความรอนแฝงจาเพาะการหลอมเหลวของนา 333 kJ/kg
                                  ํ                        ํ้
                    คาความจความรอนจาเพาะของนา 4.2 kJ/kg.k
                             ุ    ํ            ํ้                       (396 kJ)
วธทา
 ิี ํ




15. นําเหล็กมวล 1 kg อุณหภูมิ 60oC ใสในน้ํา 1 kg อุณหภูมิ 0oC ในเวลาตอมา
   อุณหภูมิของน้ําและเหล็กเทากัน อยากทราบวาอุณหภูมินี้มีคาเทาใด ถาความจุความรอน
   จําเพาะของน้ําและเหล็กมีคา 4180 และ 500 J/kg.k ตามลําดับ                   (6.41oC)
วธทา
 ิี ํ




                                          38
Physics Online III                http://www.pec9.com                 บทที่ 10 ความรอน
16. กอนอะลูมิเนียมมวล 200 กรัม อุณหภูมิ 300 องศาเซลเซียส อยูในภาชนะที่เปนฉนวน
   เมอเทนาแขงอณหภมิ 0 องศาเซลเซียส มวล 70 กรัม ลงในภาชนะ จากนั้นปดภาชนะดวย
     ่ื ํ้ ็ ุ ู
   ฝาฉนวน อุณหภูมิสุดทายภายในภาชนะเปนเทาใด
   ( กําหนด คาความจุความรอนจําเพาะของอลูมเิ นียม = 0.9 KJ /kg.K
            คาความจุความรอนจําเพาะของน้า = 4.2 KJ /kg.K
                                         ํ
            คาความรอนแฝงของการหลอมเหลวของนา = 333 KJ / Kg )
                                                  ํ้                          ( 64.7o )
วธทา
 ิี ํ




17. ลกแซคเปนเครองดนตรชนดหนงทใชเ ขยาเปนจงหวะ การเขยาลูกแซคจนจบเพลง
      ู       ่ื      ี ิ ่ึ ่ี         ั
   อุณหภูมิภายในลูกแซคจะเปลี่ยนแปลงหรือไม อยางไร           ( อุณหภูมิเพิ่มขึ้น )
วธทา
 ิี ํ

18. แทงเหล็กมวล 5 กิโลกรัม และ 10 กิโลกรัม จะมีคาความรอนและคาความจุความรอน
   จาเพาะเทากนหรอตางกน อยางไร
      ํ      ั ื  ั                                       ( ′Q ไมเทา แต c เทากัน )
วธทา
 ิี ํ

19. A กบ B เปนวัตถุชนิดเดียวกัน แต A มีมวลมากกวา B ถา A และ B อยในทเ่ี ดยวกนขอใดถก
       ั                                                            ู      ี ั  ู
      ก. A มความรอนมากกวา B
             ี                               ข. A และ B มีความรอนเทากัน
      ค. A และ B มอณหภมเิ ทากน
                      ีุ ู  ั                 ง. ขอ ก. และ ค. ถูก
                                                                                (ขอ ง)
วธทา
 ิี ํ

                                           39
Physics Online III                    http://www.pec9.com                บทที่ 10 ความรอน
   การนาความรอน คือ การสงผานความรอนโดยโมเลกุลของตัวกลางที่สงผานความรอนไม
       ํ       
                       ไดเคลื่อนที่ไปพรอมกับความรอนที่สงผาน
   การพาความรอน คือ การสงผานความรอนโดยโมเลกุลของตัวกลางที่สงผานความรอน
                 
                       เคลื่อนที่ไปพรอมกับความรอนที่สงผาน
   การแผรงสีความรอน คือ การสงพลังงานความรอนโดยไมตองอาศัยตัวกลาง เชน การสง
          ั                                                             
                       พลังงานความรอนขากดวงอาทิตยมาสูโลกของเรา เปนตน
                        ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦



  ตอนที่ 2 สมบตของแกส
              ั ิ   
    สมบัติของแกสจากการทดลอง
      กฏของบอยส กลาววา "เมออณหภมและมวลของแกสคงท่ี ปรมาตรของแกสจะแปรผก
                             ่ื ุ ู ิ                 ิ        
                            ผันกับความดันของแกสนั้น"
           เขียนเปนสมการจะได    P1V1 = P2V2
              เมือ P1 = ความดนตอนแรก
                 ่                ั                 V1 = ปรมาตรตอนแรก
                                                              ิ
                    P2 = ความดนตอนหลง
                                    ั      ั        V2 = ปรมาตรตอนหลง
                                                                ิ    ั
           ควรระวัง สูตรนีใชไดเมืออุณหภูมิ และ มวลแกสคงที่
                           ้          ่
       กฏของชาลล กลาววา "เมื่อความดัน และมวลของแกสคงท่ี ปริมาตรของแกสใดๆ จะ
                                                       
                             แปรผนตรงกบอณหภมเิ คลวน"
                                        ั ั ุ ู          ิ
                                       V1 V2
           เขียนเปนสมการจะได         T1 ν T2

               เมือ T1 = อุณหภูมเิ คลวินตอนแรก
                  ่                                V1 = ปรมาตรตอนแรก
                                                           ิ
                    T2 = อุณหภูมิเคลวินตอนหลัง     V2 = ปรมาตรตอนหลง
                                                             ิ     ั
               ควรระวัง สตรนใชไดเ มอ ความดัน และ มวลแกสคงที่
                         ู ้ี  ่ื
       กฏรวมของแกส
         เมอเรานากฏของบอลย และ กฏของชาลล มารวมกัน
           ่ื   ํ        
                                          PV   P2V
           จะไดกฏรวมของแกส คือ          11
                                           T = T2
                                            1
                                                  2


               ควรระวัง สูตรนี้ใชไดเมื่อมวลของแกสที่มีคงที่เทานั้น

                                                 40
Physics Online III              http://www.pec9.com               บทที่ 10 ความรอน
     หากมวลของแกสไมคงที่ ตองใชสมการ
                       P1V1 P2V2
                       m1T1 = m2T2
          เมือ P1 , P2 = ความดนตอนแรกและตอนหลง (atm , N/m2 , Pascal ,.)
                ่                   ั              ั
                  V1 , V2 = ปรมาตรตอนแรก และตอนหลัง (m3 , Lit , …)
                               ิ
                  T1 , T2 = อุณหภูมตอนแรก และตอนหลัง (K)
                                      ิ
                  m1 , m2 = มวลตอนแรก และตอนหลัง (g , kg , …)
     หากมความหนาแนนของแกสมาเกยวของ ตองใชสมการ
              ี                       ่ี 
                      P1      P
                    ⊕1T1   = ⊕2
                              2T2
         เมือ ⊕1 , ⊕2 = ความหนาแนนตอนแรก และตอนหลัง (kg/m3 , g/cm3 ,.)
            ่                             
20(มช 42) อากาศปริมาตร 2 ลูกบาศกฟุต อุณหภูมิ 17oC เคลอนผานพนผวทมอณหภมิ 77oC
                                                         ่ื  ้ื ิ ่ี ี ุ ู
   ถาความดันอากาศไมเปลี่ยนแปลงปริมาตรอากาศจะกลายเปนกี่ลูกบาศกฟุต        (ขอ 3)
                                                                              
         1. 0.4               2. 1.7            3. 2.4               4. 9.0
วธทา
 ิี ํ

21. ความดันแกสในภาชนะปดอันหนึ่งเปน 8x105 N/m2 ทอณหภมิ 27oC ถาอุณหภูมิเพิ่ม
                                                  ่ี ุ ู
   ขึ้น อก 900oC ความดันในระบบจะเปนเทาใด
         ี                                                    (32x105 N/m2)
วธทา
 ิี ํ



22(มช 45) แกสชนิดหนึ่งมีปริมาตร 1x10–3 ลูกบาศกเมตรที่ 27oC ความดัน 1 บรรยากาศ
   ขยายตวจนมปรมาตรเปน 1.5x10–3 ลูกบาศกเมตร และความดันเปน 1.1 บรรยากาศ
         ั    ี ิ       
   จงหาอุณหภูมิสุดทายของแกสนี้วาเปนกี่องศาเซลเซียส                   (ขอ 4)
                                                                           
      1. 49.5              2. 495                  3. 22.2       4. 222
วธทา
 ิี ํ


                                        41
Physics Online III                http://www.pec9.com                บทที่ 10 ความรอน
23. ที่ 0oC ความดัน 1 atm อากาศ 1 ลิตร มีมวล 1.29 g และที่อุณหภูมิ 27oC ความดัน
   2 atm อากาศมวล 2.73 g จะมีปริมาตรกี่ลิตร                            (1.16 ลิตร)
วธทา
 ิี ํ




24(En 32) ถาความหนาแนนของแกสที่อุณหภูมิ 27oC ความดัน 1 บรรยากาศ มีคาเทากับ
   1.3 กิโลกรัม/ลูกบาศกเมตร จงคานวณหาความหนาแนนของแกสนทอณหภมิ 127oC และ
                                  ํ                       ้ี ่ี ุ ู
   มีความดัน 2 บรรยากาศ                                                          (ขอ 3)
      1. 0.55 kg/m3         2. 0.81 kg/m3     3. 1.95 kg/m3        4. 2.35 kg/m3
วธทา
 ิี ํ




25. ฟองอากาศปริมาตร 20 cm3 อยูกนทะเลสาบลึก 40 m และมอณหภมิ 2oC ถาฟองอากาศ
                                                      ีุ ู
   ลอยขนสผวนาซงมอณหภมิ 27oC จงหาปริมาตรของฟองอากาศซึ่งอยูที่ผิวน้ําพอดี (109 cm3)
        ้ึ ู ิ ํ้ ่ึ ี ุ ู
   กําหนด ความหนาแนนของนา = 1x103 kg/m3 และ ความดันบรรยากาศ = 1x105 N/m2
                           ํ้
วธทา
 ิี ํ




                                          42
Physics Online III                 http://www.pec9.com                 บทที่ 10 ความรอน
       สมการทใชคานวณเกยวกบการผสมแกส
              ่ี  ํ    ่ี ั          
           Pรวม . Vรวม = P1V1 + P2 V2 + …
           nรวม . tรวม = n1t1 + n2 t2 + …
           เมือ n = จานวนโมลแกส
              ่      ํ                 และ t = อุณหภูมิ (oC)
26. ถัง A มปรมาตร 40 cc บรรจแกสความดน 80 mm–Hg และ ถัง B มปรมาตร 60 cc บรรจุ
           ี ิ               ุ         ั                           ี ิ
   แกสความดัน 70 mm-Hg โดยที่ถังทั้งสองมีทอตอกันและมีลิ้นปดเปดอยู เมือเปดทอใหแกส
                                                                           ่
   ผสมกันแลวแกสจะมีความดันเทาใด                                             (74 mm-Hg)
วธทา
 ิี ํ




27(En 42/1) แกสฮีเลียมบรรจุในถังสองใบซึ่งเชื่อมตอกันผานวาลว ถังแรกมีความดัน 2
   บรรยากาศ ปรมาตร 10 ลิตร ถังที่สองมีความดัน 3 บรรยากาศ ปรมาตร 15 ลิตร
                   ิ                                                ิ
   ถาเปดวาลวใหแกสรวมกัน โดยไมมีการถายเทความรอน จากนอกระบบความดันของแกส
   ผสมเปนกี่บรรยากาศ                                                          (2.60)
วธทา
 ิี ํ




28(มช 38) ผสมแกสฮีเลียม 2 โมล อุณหภูมิ 60oC กับแกสอารกอน 1 โมล อุณหภูมิ 30oC
   จงหาวาอุณหภูมิผสมเปนเทาใด                                           (ขอ 3)
                                                                            
      1. 40oC              2. 45oC           3. 50oC             4. 55oC
วธทา
 ิี ํ



                                           43
Physics Online III               http://www.pec9.com                 บทที่ 10 ความรอน
29. เมื่อนําแกสฮีเลียม 5 mol ที่ 40oC และแกสนีออน 3 mol ที่ 20oC กับแกสอารกอน 4 mol
   ที่ 25oC มาผสมกัน จงหาอุณหภูมิของแกสผสม                                      (30oC)
วธทา
 ิี ํ




       สมการสถานะ
          PV = n R T ถา R = คานจของแกส = 0.0821 Lit atm / mol.K
                                 ิ          
                         P = ความดันแกส (atm)
                         V = ปรมาตรแกส (Lit)
                                   ิ     
                     ถา R = คานจของแกส = 8.31 N.m / mol.K
                                  ิ           
                         P = ความดันแกส (N/m2)
                         V = ปรมาตรแกส (m3)
                                     ิ     
       g       N
    n =m =
           6.02x1023
                     g = มวล (กรัม)              1 m3 = 1000 Lit
                     m = มวลโมเลกุล              1 Lit = 1000 cm3
                     N = จานวนโมเลกล 1 atm = 1.01 x 105 N/m2
                          ํ            ุ
30. ภาชนะ 2 ลิตร บรรจแกส CO2 มความดน 20.5 atm ทอณหภมิ –23oC มกโมล
                     ุ            ี ั           ่ี ุ ู          ี ่ี
      1. 4.0 โมล       2. 3.0 โมล   3. 2.0 โมล       4. 1.0 โมล      (ขอ 3)
                                                                       
วธทา
 ิี ํ




31. แกส (ก) 1 mol กับแกส (ข) 1 mol บรรจในกลองเดยวกนซงมปรมาตร 1 m3 โดยไมทา
                                       ุ    ี ั ่ึ ี ิ                  ํ
   ปฏิกิริยากันที่ 27oC ความดนแกสในกลองเปนเทาใด
                             ั                              (4986 N/m2)
วธทา
 ิี ํ


                                          44
Physics Online III              http://www.pec9.com              บทที่ 10 ความรอน
32. มีแกสอยู 4 โมล บรรจในภาชนะ 8.31 ลิตร ถาแกสมอณหภมิ 27oC จะมความดนเทาไร
                         ุ                     ีุ ู           ี    ั 
       1. 1.0 x 106 N/m2                   2. 1.1 x 106 N/m2
       3. 1.2 x 106 N/m2                   4. 1.4 x 106 N/m2          (ขอ 3)
                                                                        
วธทา
 ิี ํ




33. แกส N2 จํานวน 4.8 x 1024 โมเลกุล บรรจในภาชนะ 67.2 ลิตร ท่ี 0oC มความดันเทาไร
                                          ุ                            ี        
      1. 3.3 atm           2. 2.6 atm         3. 2.1 atm         4. 1.6 atm (ขอ 2)
                                                                              
วธทา
 ิี ํ




34. แกส N2 100 cm3 ทอณหภมิ 0oC ความดน 2 atm มกโมเลกล
                    ่ี ุ ู             ั          ี ่ี  ุ             (ขอ 3)
                                                                         
      1. 6.02 x 1023     2. 1.25 x 1020   3. 5.37 x 1021   4. 4.20 x 1015
วธทา
 ิี ํ




35. ถังบรรจุแกสออกซิเจน 560 ลิตร อณหภมิ 273 เคลวิน ความดัน 1 บรรยากาศ จงหามวล
                                   ุ ู
   ของออกซิเจนในถงน้ี
                   ั                                                  (800 กรัม)
วธทา
 ิี ํ




                                        45
Physics Online III              http://www.pec9.com            บทที่ 10 ความรอน
36. แกสออกซเิ จนในถงทมปรมาตร 40 ลกบาศกเ ดซเิ มตร เดมมความดน 20 บรรยากาศ
                  ั ่ี ี ิ      ู                   ิ ี   ั
   และมอณหภมิ 27 องศาเซลเซียส ตอมาแกสรวไปบางสวนจนมความดน 4.0 บรรยากาศ
        ีุ ู                        ่ั                ี   ั
   และมอณหภมิ 20 องศาเซลเซียส จงหาวาแกสรวไปกกโลกรม
        ีุ ู                         ่ั       ่ี ิ ั
   ( กําหนด ออกซิเจน 1 โมลมีมวล 32 กรม )
                                     ั                            ( 0.827 กิโลกรัม)
วธทา
 ิี ํ




37(En 43/1) ถาอณหภมภายในหองเพมขนจาก 27oC เปน 37oC และ ความดันในหองไมเ ปลยน
              ุ ู ิ       ่ิ ้ึ                                            ่ี
   แปลงจะมีอากาศไหลออกจากหองกี่โมล หากเดิมมีอากาศอยูในหองจํานวน 2000 โมล
      1. 65          2. 940              3. 1620                4. 1940 (ขอ 1)
                                                                            
วธทา
 ิี ํ




                     ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦


  ตอนที่ 3 ทฤษฏจลนของแกส
               ี      
     เพอความสะดวกในการศกษาเรองราวเกยวกบแกส นกวทยาศาสตรจงไดสรางแบบ
       ่ื                         ึ      ่ื      ่ี ั  ั ิ        ึ  
 จาลองของแกสในอดมคตขน ซงมความดงน้ี
  ํ                 ุ      ิ ้ ึ ่ึ ี         ั
     1) แกสประกอบดวยโมเลกลจานวนมาก ทุกโมเลกุลมีลักษณะเปนกอนกลมที่มีขนาด
                                   ุ ํ
          เทากน มความยดหยนสง ดงนนโมเลกลเหลานจะชนผนงและกระดอนแบบยดหยน
                ั ี       ื ุ ู ั ้ ั             ุ  ้ี      ั         ื ุ
     2) ถอวาปรมาตรรวมของโมเลกลทกตวนอยมาก เมอเปรยบเทยบกบปรมาตรของกาซ
           ื  ิ                            ุ ุ ั         ่ื ี ี ั ิ
          ทงภาชนะ จงสามารถตดปรมาตรของโมเลกลทงไปได
            ้ั         ึ            ั ิ               ุ ้ิ
                                           46
Physics Online III                        http://www.pec9.com                     บทที่ 10 ความรอน
      3) ไมมแรงใดๆ กระทาตอโมเลกลไมวาจะเปนแรงผลกหรอแรงดด หรอแมกระทงแรง
             ี                      ํ          ุ                     ั ื        ู ื          ่ั
         โนมถวงโลกทกระทาตอโมเลกลดวย
                        ่ี          ํ          ุ 
      4) โมเลกลทกโมเลกลจะเคลอนทเ่ี ปนเสนตรงแบบสบสนไรทศทาง และอาจเปลยนแนว
                 ุ ุ               ุ      ่ื                        ั         ิ            ่ี
         การเคลอนทไดหากไปชนใสผนงภาชนะหรอชนกบโมเลกลแกสดวยกนเอง เรยกการ
                  ่ื ่ี                        ั            ื         ั        ุ   ั         ี
         เคลอนทแบบนวา การเคลอนทแบบบราวนเ นยน
              ่ื ่ี          ้ี             ่ื ่ี                ี
   และนกวทยาศาสตรยงสามารถหาความสมพนธระหวางความดนกบพลงานจลนเ ฉลยของ
        ั ิ            ั                            ั ั                    ั ั ั        ่ี
โมเลกุลแกสได ดงน้ีั             P V = 1 N m v2
                                          3                หรอ P V = 2 N m E k
                                                                ื                  3
38. เหตใดแกสจงฟงกระจายเตมภาชนะทบรรจุ และ สามารถบบอดใหมปรมาตรนอยลงกวา
       ุ  ึ ุ          ็          ่ี                   ี ั  ี ิ                    
   เดมไดมาก ( เพราะแรงดึงดูดระหวางโมเลกุลแกสมีนอย โมเลกุลแกสจึงฟุงกระจายไดเต็มภาชนะ
     ิ 
                     บรรจุ และ โมเลกุลแกสจะอยูหางกัน ทีวางระหวางโมเลกุลมีมาก ดังนันเมือเราทําการบีบ
                                                            ่                        ้ ่
                     อัดโมเลกุลจะเบียดชิดเขาใกลกันได จึงทําใหปริมาตรของแกสโดยรวมลดลงได )
39. เมออดแกสใหมปรมาตรลดลง ความดนของแกสจะเพมขนเพราะเหตใด
      ่ื ั   ี ิ             ั         ่ิ ้ึ      ุ
           ( เพราะเมื่อปริมาตรลดลง จะทําใหโมเลกุลพุงชนผนังภาชนะบรรจุแกสบอยขึ้น จึงทําให
               ความดันแกสที่กระทําตอภาชนะมีคาเพิ่มขึ้น )
                           ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦


   ตอนที่ 4 อตราเรวโมเลกลแกส
             ั    ็     ุ 
                                      Vrms =       v   2



                                      Vrms =    12 Ι 32 Ι 52 Ι 62
                                                        4
                                           =    1 Ι 9 Ι 25 Ι 36
                                                       4
                                           = 17.75
                                      Vrms = 4.21 m/s
                           3RT                  3kBT                            3P
           Vrms =           M         Vrms =      m         Vrms =              ″
           เมือ Vrms
              ่             =   อัตราเร็วรากทีสองของกําลังสองเฉลีย
                                              ่                  ่
                  T         =   อุณหภูมิ (K)
                  R         =   8.31 N.m/mol.K
                 kB         =   คานิจของโบสธมาล = 1.38 x 10–23 N.m/mol.K
                                                   47
Physics Online III                    http://www.pec9.com                 บทที่ 10 ความรอน
                     P   =   ความดันแกส (N/m2)
                     ″   =   ความหนาแนน (kg/m3)
                     m   =   มวลแกส 1 โมเลกุล (kg) = มวลโมเลกุล x 1.66 x 10–27 kg
                     M   =   มวลแกส 1 โมล (kg) = มวลโมเลกุล x 10–3 kg
40(En 39) สมมตวาสามารถทดลองวดคาอตราเรวของโมเลกล แตละตัวไดทงหมด 5 โมเลกุล
                 ิ                ั  ั     ็           ุ          ้ั
   ไดการกระจายอัตราเร็วโมเลกุลดังตาราง จงหาคารากทีสองของกําลังสองเฉลียของอัตราเร็ว
                                                      ่                ่
                    อตราเรวโมเลกล (เมตรตอวนาที)
                      ั   ็      ุ        ิ            3 4 5
                    จํานวนโมเลกุล                       2 2 1
      1. 3.5 m/s            2. 3.9 m/s         3. 4.2 m/s        4. 4.5 m/s (ขอ 2)
                                                                               
วธทา
 ิี ํ

41. จงหาอตราเรวของโมเลกุลแกสไฮโดรเจน (H2) ทอณหภมิ 27oC
         ั    ็                             ่ี ุ ู                                   (1934 m/s)
วธทา
 ิี ํ




42. จงหา Vrms ของโมเลกุลของแกสออกซิเจน (O2) ทีมอณหภูมิ 300 เคลวิน
                                               ่ ีุ                                  (483 m/s)
วธทา
 ิี ํ




43. อากาศทีอณหภูมปกติ มความหนาแนน 1.24 kg/m3 ทีความดัน 1 atm จงหาวาโมเลกุล
           ุ่    ิ      ี                      ่
   ของแกสจะมี Vrms เทาใด   (1 atm = 1 x 105 N/m2)            (491.87 m/s)
วธทา
 ิี ํ




                                               48
Physics Online III               http://www.pec9.com                บทที่ 10 ความรอน
44. อัตราเร็วเฉลียของโมเลกุลไฮโดรเจนเทากับ 400 m/s ที่ 27oC ถาอุณหภูมเิ ปลียนเปน
                 ่                                                           ่
   927oC อตราเรวจะเปนเทาใด
              ั    ็                                                     (800 m/s)
วธทา
 ิี ํ




45. แกสที่ 927oC แกสมีคา Vrms เปน 800 m/s ถาตองการใหแกสมีคา Vrms เปนครึงหนึง
                                                                                 ่ ่
   ของคาเดิม ตองทําใหมอณหภูมเิ ทาใด
                         ีุ                                                    (27oC)
วธทา
 ิี ํ




46. ถาอตราสวนของอตราเรวรากทสองของกาลงสองเฉลย (Vrms ) ของแกสออกซิเจนตอ
       ั         ั     ็   ่ี     ํ ั        ่ี                         
   แกสไนโตรเจนเปน 3 ตอ 2 และแกสออกซิเจนมีความดันเปน 2 เทาของแกสไนโตรเจน
                       
   อัตราสวนของความหนาแนนของแกสออกซิเจนตอกาซไนโตรเจน
       1. 2/9         2. 8/9          3. 4/3            4. 3 /4          (ขอ 2)
วธทา
 ิี ํ




                                         49
Physics Online III                    http://www.pec9.com             บทที่ 10 ความรอน
47. กระบอกสูบแกสชนิดหนึงบรรจุจานวน n โมล เมือใหความรอนจํานวนหนึงแกกระบอก
                           ่        ํ             ่                ่
      สูบ พบวา Vrms ของแกสเพมขนเปน 2 เทา และปริมาตรเพิมขึนเปน 3 เทา ความดัน
                              ่ิ ้ึ                 ่ ้           
      ของแกสจะเปลยนเปนกเ่ี ทาของความดนเดม
                  ่ี                ั ิ
        1. 3/2          2. 4 /3            3. 3/2       4. 3/4           (ขอ 2)
วธทา
 ิี ํ




                           ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦



    ตอนที่ 5 พลังงานจลนโมเลกุลแกส
                                                   3
                                         E k = 2 kB T                  3
                                                                 E k = 2 PV
                                                                          N
                                    เมือ E k = พลังงานจลนเฉลียของโมเลกุลแกส (J)
                                       ่                       ่
                                                (มคาเปนพลังงานจลนของแกส 1 โมเลกุล)
                                                    ี                
                                         kB = 1.38 x 10–23 N.m / mol.k
                                          T = อณหภมิ (K)
                                                   ุ ู
                                          P = ความดัน (N/m2)
        Ekรวม        =   N Ek
                           3              V = ปรมาตร (m3)
                                                     ิ
            U        =   N 2 kB T
                         3                N = จานวนโมเลกลแกส
                                                 ํ           ุ 
            U        =   2 PV             n คอ จํานวนโมลแกส
                                              ื
            U        =   3
                         2 nRT            R = 8.31 J / mol . K
48. พลังงานจลนเฉลียของแกส 1 โมเลกุล ทอณหภมิ 27oC มีคากีจล
                   ่                    ่ี ุ ู             ู่                    (ขอ ง)
                                                                                    
      ก. 1.38 x 10–21     ข. 2.07 x 10–21      ค. 2.67 x 10–21       ง. 6.21 x 10–21
วธทา
 ิี ํ

                                              50
Physics Online III              http://www.pec9.com               บทที่ 10 ความรอน
49. บรรจุแกสในถังทีมปริมาตร 0.2 m3 ทีความดัน 104 N/m2 ภายใตภาวะน้ี แกสนี้ 0.2 m3
                    ่ ี               ่                      
   มี 0.6x1022 โมเลกุล อยากทราบวาพลังงานจลนเฉลียของแตละโมเลกุลของแกสมีคาเทาใด
                                                 ่                           
วธทา
 ิี ํ                                                                  (5x10–19 จล)
                                                                                 ู




50. พลังงานของแกส 1 โมล ( 6.02 x 1023 โมเลกุล ) ทอณหภมิ 27oC มีคากีจล
                                                  ่ี ุ ู           ู่
      ก. 3.7 x 103       ข. 7.4 x 103      ค. 11.1 x 103     ง. 14.8 x 103 (ขอ ก)
                                                                             
วธทา
 ิี ํ



51. ณ.อณหภมิ 37oC แกสชนิดหนึง 2 โมล จะมีพลังงานเทาใด (R = 8.3 J/mol.K) (7719 J)
       ุ ู                   ่
วธทา
 ิี ํ




52. จงหาพลังงานจลนเฉลียของโมเลกุลแกสที่ 30oC
                       ่                                           (6.27x10–21 จูล)
วธทา
 ิี ํ




53. จงหาพลังงานจลนของโมเลกุลแกสทังหมดซึงมีปริมาตร 2 ลิตร ความดัน 2.5 บรรยากาศ
                                    ้    ่
   (กําหนด ความดัน 1 บรรยากาศ = 1.01 x 105 N/m2)                           (ขอ ง)
                                                                             
       ก. 1.7 x 102 จล
                     ู   ข. 3.4 x 102 จล
                                       ู     ค. 3.8 x 102 จล
                                                           ู     ง. 7.6 x 102 จล
                                                                               ู
วธทา
 ิี ํ




                                        51
Physics Online III               http://www.pec9.com                บทที่ 10 ความรอน
54. ถาพลังงานจลนเฉลียของแกสในภาชนะปดเทากับ 6.3x10–21 จล และ จานวนโมเลกลตอ
                      ่                                      ู       ํ           ุ
   ปริมาตรของแกสเทากับ 2.4x1025 โมเลกุลตอลูกบาศกเมตร จงหาความดันของแกสน้ี
                                                                           
วธทา
 ิี ํ                                                             ( 1.008x105 N /m2 )




55. ทีความดัน 4x105 นวตน/ตารางเมตร แกสจะมีพลังงานกีจลตอลูกบาศกเมตร
      ่              ิ ั                            ู่                         (6x105 )
วธทา
 ิี ํ

56. ถาความดนของอากาศในหองปดหองหนงเปน a N/m2 พลังงานจลนของอากาศตอหนึง
              ั                  ่ึ                              ่
      หนวยปริมาตรเปนเทาไร
         1. 2a J/m2
            3             2. 3a J/m2
                              2         3. 2a J/m3
                                           3       4. 3a J/m3
                                                      2           (ขอ 4)
วธทา
 ิี ํ

57. แกสชนิดหนึงมีอณหภูมิ 300 K ถาจะใหแกสพลังงานจลนเฉลียของโมเลกุลเพิมเปน 2
               ่ ุ                                         ่             ่
    เทาของเดมจะตองทาใหอณหภมเิ ปนเทาใด
           ิ     ํ ุ ู                                                  (600 K)
วธทา
 ิี ํ




58. ถาพลังงานจลนเฉลียของแกสเพิมขึน 25% จากพลังงานจลน ณ อณหภมิ 31oC ขณะ
                      ่          ่ ้                        ุ ู
   นนแกสมอณหภมเิ ปนเทาไร
      ้ั  ี ุ ู                                                     (107oC)
วธทา
 ิี ํ




                                          52
Physics Online III                   http://www.pec9.com                บทที่ 10 ความรอน
59. แกสตางชนิดกัน ถามีอณหภูมเิ ทากัน พลังงานจลนเฉลียของโมเลกุลเทากันหรือไม (เทากัน)
                          ุ                             ่
วธทา
 ิี ํ


60. ถาความดันและปริมาตรของแกสเปลียนไปโดยจํานวนโมเลกุลและอุณหภูมคงตัว พลังงาน
                                   ่                             ิ
   ภายในของระบบจะเปลยนแปลงหรอไม อยางไร
                       ่ี        ื
                              ( พลังงานภายในระบบจะแปรผันตรงกับผลคูณของความดันกับปริมาตร )
วธทา
 ิี ํ



                        ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦



 ตอนที่ 6 พลังงานภายในระบบ
       3
   U = 2 NkB T เมือ
                  ่          U   =   พลังงานภายในระบบ (พลังงานจลนรวม) (J)
       3
   U = 2 PV                  N   =   จํานวนโมเลกุล
       3
   U = 2 nRT                kB   =   คาคงที่ของโบสชมาล = 1.38 x 10–23 J / mol.K
                             T   =   อุณหภูมิ (K)
                             P   =   ความดัน (N/m2)
                             V   =   ปรมาตร (m3)
                                        ิ
                           ΕQ    =   ΕU + ΕW
                           ΕW    =   งานเนองจากการขยายตวของแกส
                                           ่ื             ั      
                           ΕU    =   พลังงานภายในระบบทีเ่ พิมขึน
                                                            ่ ้
                           ΕW    =   PΕV                      3
                                                     ΕU = 2 NkB ΕT
                           ΕW = n R ΕT                    3
                                                     ΕU = 2 n R ΕT
                                                          3         3
                                                     ΕU = 2 P2 V2 – 2 P1 V1
                     เมือ P คือ ความดันแกส (N/m2)
                        ่
                       χV คือ ปริมาตรทีเ่ ปลียนแปลง
                                             ่
                       χT คือ อณหภมทเ่ี ปลยนไป ( K หรือ oC )
                                  ุ ู ิ ่ี
                          n คือ จํานวนโมล              R = 8.31 J / mol.K
                                             53
Physics Online III              http://www.pec9.com               บทที่ 10 ความรอน
61. จงหาพลังงานภายในระบบของแกสไฮโดรเจนเมื่อ
      ก. ปริมาณ 2 โมล ทอณหภมิ 27 องศาเซลเซียส
                        ่ี ุ ู                                           (7479 จูล)
      ข. ปรมาตร 10 ลิตร ความดัน 2 x 105 พาสคัล
           ิ                                                                (3x103)
วธทา
 ิี ํ




62. พลังงานภายในของแกสฮีเลียม 10 โมล จะเปลียนไปเทาใด เมออณหภมของแกสฮเี ลยม
                                            ่            ่ื ุ ู ิ    ี
   เปลียนไป 20 องศาเซลเซียส
       ่                                                            (2493 จูล)
วธทา
 ิี ํ




63. แกสโมเลกลอะตอมเดยวชนดหนงมมวล 60 กรัม เมืออุณหภูมเิ ปลียนไป 10 K พลังงาน
             ุ       ่ี    ิ ่ึ ี               ่           ่
   ของแกสนีจะเปลียนไปเทาไร กําหนดใหมวลโมเลกุลของแกสนี้ = 15
            ้     ่                                                 (498.6 J)
วธทา
 ิี ํ




64. แกสปริมาตร 2 ลูกบาศกเมตร อณหภมิ 0oC ความดัน 105 N/m2 มีปริมาตรเพิมขึนเปน
                                  ุ ู                                      ่ ้
   12 ลูกบาศกเมตร มีความดันเดิม การขยายตัวนีแกสทํางานไดกจล
                                             ้             ่ี ู              (ขอ ก)
                                                                               
      ก. 1.0 x 106         ข. 1.2 x 106        ค. 2 x 106       ง. 4.0 x 106
วธทา
 ิี ํ


                                        54
Physics Online III            http://www.pec9.com              บทที่ 10 ความรอน
65. แกสในระบบขยายตัวดวยความดันคงที่ 2x105 N/m2 ในกระบวนการนวดงานได 104 จล
                                                             ้ี ั             ู
   โดยพลงงานภายในระบบไมเ ปลยนแปลงปรมาตรของระบบเปลยนแปลงกลกบาศกเ มตร
         ั                    ่ี        ิ              ่ี       ่ี ู
      ก. 0.05            ข. 0.02             ค. 0.2               ง. 0.3 (ขอ ก)
                                                                           
วธทา
 ิี ํ




     สมการ         βQ = βU + βW
     การใชสมการนีตองคํานึงถึงคาบวก ลบ ของตวแปรทกตวดงน้ี
                  ้                        ั    ุ ั ั
   สาหรบ βQ หากความรอนเขาสูระบบ (ดูดความรอน)
    ํ ั                                                     ΕQ   มีคา +
            หากความรอนออกจากระบบ (คายความรอน)
                                                            ΕQ   มีคา –
            หากความรอนไมเ ขาหรอออก ระบบ
                                 ื                         ΕQ   มีคา 0
   สาหรบ βU หากพลังงานภายในเพิม (อุณหภูมเิ พิม)
    ํ ั                             ่        ่               ΕU   มีคา +
            หากพลงงานภายในลด (อุณหภูมลด)
                     ั                   ิ                   ΕU   มีคา –
            หากพลงงานภายในไมเ ปลยน (อุณหภูมิคงท)
                       ั              ่ี        ี่           ΕU   มีคา 0
   สาหรบ βW หากปริมาตรแกสเพิม
     ํ ั                          ่                          ΕW   มีคา +
            หากปรมาตรแกสลด
                 ิ                                          ΕW   มีคา –
            หากปรมาตรแกสคงท่ี
                   ิ                                        ΕW   มีคา 0
66. แกสในกระบอกสบรบความรอนจากภายนอก 142 จล ขณะทีแกสขยายตัวมันทํางานบน
               ู ั                         ู        ่
   ระบบภายนอก 160 จล ถามวาพลังงานภายในของแกสเพิมขึนหรือลดลงเทาใด และ
                    ู                            ่ ้
   อณหภมของแกสเพมขนหรอลดลง
      ุ ู ิ    ่ิ ้ึ ื                                          ( ลดลง 18 จล )
                                                                            ู
วธทา
 ิี ํ


67. แกสในกระบอกสบคายความรอน 240 จล ขณะทีพลังงานภายในเพิมขึน 50 จล ถามวา
                  ู            ู      ่              ่ ้      ู
    แกสหดตัวหรือขยายตัว                                          ( หดตัว )
วธทา
 ิี ํ

                                      55
Physics Online III             http://www.pec9.com              บทที่ 10 ความรอน
68. อดแกสในกระบอกสบดวยความดันคงท่ี 1x105 N/m2 ทาใหปรมาตรเปลยนลดลง 0.004 m3
      ั             ู                          ํ  ิ        ่ี
   ถาพลังงานภายในระบบของแกสในกระบอกคงที่ จงหาพลังงานความรอนที่เกิดขึ้น (400 J)
วธทา
 ิี ํ




69. เมอเพมความรอนใหแกระบบแกส 8400 จล พรอมกับทํางานใหระบบ 4000 จล พลังงาน
      ่ื ่ิ                      ู                             ู
   ภายในระบบเปลียนไปเทาใด
                 ่                                                  (12400 จูล)
วธทา
 ิี ํ




70. ในการอัดแกส 2 โมล ในกระบอกสูบตองทํางานใหระบบ 400 จล ถาระบบไมถายเท
                                                         ู             
   ความรอนเลย อยากทราบวาอุณหภูมของแกสจะสูงขึนเทาใด
                                 ิ             ้                   (16.04 K)
วธทา
 ิี ํ




71. เมอใหความรอน 64.9 จล แกแกส 0.5 โมล ทีบรรจุในกระบอกสูบ แกสทํางานได 40 จล
      ่ื                 ู               ่                                  ู
   ดันลูกสูบใหเคลือนที่ อณหภมของแกสเพมขนกเ่ี คลวน (R = 8.3 J/mol.k)
                   ่      ุ ู ิ     ่ิ ้ึ       ิ                        (4 K)
วธทา
 ิี ํ




                                       56
Physics Online III              http://www.pec9.com              บทที่ 10 ความรอน
72 ระบบหนึง เมอไดรบความรอน 8000 จล จะทําใหพลังงานภายในระบบเพิมขึน 6000 จล
           ่ ่ื  ั                 ู                            ่ ้           ู
    อยากทราบวาในการนีตองทํางานใหแกระบบหรือระบบทํางานเทาไร (ระบบทํางาน 2000 จล)
                      ้                                                         ู
วธทา
 ิี ํ



73. ใหพลังงานความรอนแกแกส 2 โมล จํานวน 830 จล แกสมีการเปลียนแปลงแบบ
                               3                   ู              ่
   ปรมาตรคงตว จงหาอุณหภูมของแกสทีเ่ พิมขึน (R = 8.3 J / mol.K)
      ิ         ั            ิ         ่ ้                              (ขอ 2)
                                                                          
        1. 10 K        2. 100 K            3. 150 K            4. 200 K
วธทา
 ิี ํ




74. แกสในกระบอกสูบมีความดัน 1 kPa และปริมาตร 2 m3 ถาแกสนีไดรับความรอน 10
                                                            ้
   kJ จนมีความดัน 2 kPa และปริมาตร 4 m3 จงหางานทีกระทําโดยแกสในกระบวนการนี้
                                                 ่
      1. 1 kJ          2. 4 kJ           3. 7 kJ              4. 8 kJ     (ขอ 1)
วธทา
 ิี ํ




75. แกสฮีเลียมจํานวน 1 โมล บรรจอยในภาชนะปดทแขงแรงมาก อยากทราบวาเมอให
                                  ุ ู     ่ี ็                  ่ื
   ความรอนเขาไป 600 จล ความดันแกสในภาชนะจะเพิมขึนจากเดิมเทาใด ถาถังมี
                       ู                        ่ ้
   ปรมาตร 0.5 ลูกบาศกเมตร
      ิ                                                                  (ขอ 2)
        1. 600 N/m2      2. 800 N/m2      3. 1000 N/m2     4. 1200 N/m2
วธทา
 ิี ํ


                                        57
Physics Online III                  http://www.pec9.com                 บทที่ 10 ความรอน
                        แบบฝกหด ฟสกส บทที่ 10 ความรอน
                             ั    ิ
 ความรอน
1. จงหาพลงงานความรอนททาใหเ หลกมวล 100 กรัม ทอณหภมิ 20 องศาเซลเซียส มี
          ั          ่ี ํ       ็           ่ี ุ ู
   อุณหภูมสงขึนเปน 60 องศาเซลเซียส
            ิ ู ้
       ( กําหนด คาความจุความรอนจําเพาะของเหล็กเทากับ 450 J /kg.K )           ( 1800 จล )
                                                                                        ู
2. ใหพลังงานความรอนแกตะกัว 252 จล ถาตะกัวมีมวล 2 กิโลกรัม จะมีอณหภูมสงขึนเทาใด
                            ่      ู        ่                      ุ    ิ ู ้
   (ความจความรอนจาเพาะของตะกว = 126 จล/กิโลกรัม.เคลวิน)
          ุ     ํ              ่ั            ู                            ( 1 K [oC] )

3. ใหพลังงานความรอนขนาด 5000 จล กับเหล็กทอนหนึง ปรากฏวาเหล็กมีอณหภูมสงขึน
                              ู                  ่                    ุ   ิ ู ้
   จาก 30 องศาเซลเซียส เปน 80 องศาเซลเซียส จงหามวลของเหล็กกอนนี้
                          
   (กาหนด เหล็กมีคาความจุความรอนจําเพาะ 0.500 กิโลจูล/กิโลกรัม.เคลวิน)
     ํ                                                                   (0.20 kg)
4. ลูกปนทองแดง อณหภมิ 10 องศาเซลเซียส ถูกยิงออกไปดวยความเร็ว 300 เมตร/วินาที
                 ุ ู
   กระทบเปา แลวหยดนงในเปา ลกปนจะมอณหภมเิ ปนเทาใด (ความจความรอนจาเพาะของ
                ุ ่ิ       ู     ีุ ู                 ุ       ํ
   ทองแดง 385 J/kg. K) (กาหนดพลงงานจลนทงหมดเปลยนเปนความรอน)
                         ํ       ั      ้ั      ่ี                  (126.88oC)
5. นาตกจากหนาผาสง 200 เมตร ถาในการเปลียนรูปของพลังงานเปลียนเปนพลังงานความ
     ํ้        ู                           ่                      ่
   รอนทังหมด ถาน้าตกถึงพืนดานลาง จะมีอณหภูมเิ พิมขึนเทาไร (ความจุความรอนจําเพาะ
         ้         ํ       ้              ุ         ่ ้
   ของนา 4.2 kJ.kg.K )
           ํ้                                                                     (0.48oC)
6. ในการทดลองการเปลียนรูปพลังงานกลเปนพลังงานความรอน โดยใชกระบอกยาว 0.4 เมตร
                     ่
    บรรจุลกกลมโลหะมีความจุความรอนจําเพาะ 500 จล / กิโลกรัม.เคลวิน มีมวล 100 กรัม
          ู                                    ู
    ทําการทดลองพลิกกลับกระบอกขึนลงใหลกกลมหลนในกระบอก 200 ครัง จงหาวา
                               ้        ู                           ้       
    อุณหภูมของลูกกลมโลหะเพิมขึนมากทีสดเทาไร
            ิ              ่ ้      ่ ุ                                       (1.6oC)
7. น้าแข็งมวล 20 กรัม อณหภมิ 0 องศาเซลเซียส ละลายกลายเปนน้าหมดที่ 0 องศา
     ํ                 ุ ู                                     ํ
   เซลเซียสจะตองใชความรอนเทาไร ( Lหลอมเหลวน้ําแข็ง = 333x103 J/kg)  (6660 จล)
                                                                               ู
8. น้ามวล 20 กรัม อณหภมิ 100 องศาเซลเซียส เดือดกลายเปนน้าหมดที่ 100 องศา
     ํ              ุ ู                                        ํ
   เซลเซียสจะตองใชความรอนเทาไร ( Lการเดือดของน้ํา = 2256x103 J/kg) (45120 จล)
                                                                               ู


                                             58
Physics Online III                http://www.pec9.com                  บทที่ 10 ความรอน
9. ใหพลงงานความรอนแกนาแขง (0o C) มวล 2 กิโลกรัม เปนปริมาณเทาไรเพือใหนาแข็ง
      ั                ํ้ ็                                           ่    ํ้
    กลายเปนน้า และเหลอนาแขง 0.5 กิโลกรัม ( ความรอนแฝงจําเพาะของน้ําแข็ง 336 kJ/kg )
              ํ       ื ํ้ ็
      1. 504 kJ          2. 336 kJ       3. 168 kJ         4. 94 kJ              (ขอ 1)
10. กอนน้าแข็งมวล 1 กิโลกรัม มีอณหภูมศนยองศาเซลเซียส ตกลงไปในทะเลสาปทีนามี
           ํ                     ุ    ิู                                ่ ํ้
   อณหภมศนยองศาเซลเซยสเชนเดยวกน ปรากฏวาน้าแข็งละลายไป 0.01 กิโลกรัม น้าแข็ง
    ุ ู ิู              ี  ี ั                ํ                            ํ
   ตกลงมาจากระดับความสูงกีเ่ มตร
   (ความรอนแฝงจําเพาะของการหลอมเหลวของน้า = 300 x 103 J/kg )
                                             ํ
       1. 10            2. 30            3. 300          4. 1000             (ขอ 3)
11. กอนน้าแข็งมวล 5 กิโลกรัม ไถลลงจากที่สูง 5 เมตร อยากทราบวาน้าแข็งจะละลายไป
          ํ                                                      ํ
   เทาไร ถาพนมอณหภมิ 0oC ( Lการหลอมเหลวน้าแข็ง= 333 kJ/kg )
             ้ื ี ุ ู                       ํ                          ( 0.75 กรัม)
12. ถาตองการใหนาแข็งมวล 1 กิโลกรัม อณหภมิ –10 องศาเซลเซียส กลายเปนนาทอณหภมิ
                  ํ้                       ุ ู                       ํ้ ่ี ุ ู
    100 องศาเซลเซียส ทังหมด จงหาวาตองใชพลังงานความรอนกีกโลจูล
                            ้                              ่ิ
    กําหนด             Cน้า = 4.18 กิโลจูล / กก.เคลวิน
                          ํ
               Cน้าแข็ง = 2.10 กิโลจูล / กก.เคลวิน
                       ํ
               Lน้าแข็ง = 333 กิโลจูล / กก.
                     ํ
       1. 231                 2. 649          3. 772      4. 793            (ขอ 3)
                                                                              
13. นําเหล็กมวล 1 kg อณหภมิ 60oC ใสในน้า 1 kg อณหภมิ 0oC ในเวลาตอมา
                        ุ ู                  ํ             ุ ู
   อุณหภูมของน้าและเหล็กเทากัน อยากทราบวาอุณหภูมนมคาเทาใด ถาความจุความรอน
           ิ     ํ                                ิ ้ี ี 
   จําเพาะของน้าและเหล็กมีคา 4180 และ 500 J/kg.k ตามลาดบ
               ํ                                        ํ ั            (6.41oC)
14. กอนอะลูมเิ นียมมวล 200 กรัม อณหภมิ 300 องศาเซลเซียส อยูในภาชนะทีเ่ ปนฉนวน
                                    ุ ู                       
   เมือเทน้าแข็งอุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส มวล 70 กรัม ลงในภาชนะ จากนนปดภาชนะดวย
      ่ ํ                                                         ้ั        
   ฝาฉนวน อุณหภูมสดทายภายในภาชนะเปนเทาใด
                     ิ ุ
   ( กําหนด คาความจุความรอนจําเพาะของอลูมเิ นียม = 0.9 KJ /kg.K
            คาความจุความรอนจําเพาะของน้า = 4.2 KJ /kg.K
                                         ํ
            คาความรอนแฝงของการหลอมเหลวของนา = 333 KJ / Kg )
                                                  ํ้                            ( 64.7o )



                                           59
Physics Online III               http://www.pec9.com                 บทที่ 10 ความรอน
  สมบัติของแกสจากการทดลอง
15. แกสในกระบอกสูบอักลูกสูบใหมปริมาตรลดลงจาก 10 cc เปน 5 cc ความดนเดม 1 atm
                                  ี                                   ั ิ
    จงหาความดนของแกสในกระบอกสบหลงอดแลว เมอกาหนดใหอณหภมของแกสคงตว?
                ั                  ู ั ั  ่ื ํ             ุ ู ิ           ั
       1. 4.0 atm       2. 2.0 atm       3. 1.5 atm         4. 1.0 atm      (ขอ 1)
16. แกสจํานวนหนึงปริมาณ 0.5 ลูกบาศกเมตร ทีความดัน 105 นวตน/ตารางเมตร อณหภมิ
                  ่                         ่              ิ ั             ุ ู
    0 องศาเซลเซียส ถาจะทําใหแกสนีมปริมาตร 1 ลูกบาศกเมตร โดยความดันไมเปลียน
                                    ้ ี                                      ่
    แปลง อุณหภูมสดทายเปนเทาไร
                 ิ ุ                                                        (546 k)
17. Idealgas จานวนหนงอณหภมิ 27 องศาเซลเซียส ความดัน 1 บรรยากาศ ถาความดันลดลง
              ํ       ่ึ ุ ู
    เปน 0.6 บรรยากาศ ปริมาตรเพิมเปน 2 เทา อณหภมสดทายของแกสจะเปนเทาไร (87oC)
                                   ่         ุ ู ิ ุ                  
18. แกสชนิดหนึงถูกบังคับใหมความดันคงที่ และอุณหภูมของแกสถูกทําใหเพิมขึนจาก 27o C
                ่              ี                     ิ                 ่ ้
    ไปเปน 127o C ปรมาตรของแกสจะเปลยนไปเปนอตราสวนเทาใดของปริมาตรเดม
                        ิ             ่ี         ั                       ิ
      1. 4/3              2. 3 /4          3. 127/27       4. ไมเปลียน
                                                                     ่          (ขอ 1)
19. แกสชนิดหนึงมีปริมาตรและอุณหภูมสมบูรณเพิมเปน 1.5 เทา และ 2 เทา ตามลําดับ
               ่                        ิ ั    ่                  
    จงหาวาความดนของแกสนเ้ี ปนกเ่ี ทาของความดนเดม
                ั                         ั ิ                         ( 4 เทา )
                                                                            3 
20. แกสในถังใบหนึง เมือทําใหอุณหภูมลดลงจาก 27 องศาเซลเซียส –6 องศาเซลเซียส ความ
                   ่ ่                ิ
    ดันของแกส จะเพมหรอลดลงจากเดมกเ่ี ปอรเซนต
                    ่ิ ื            ิ       ็                          (ลดลง 11%)
21. ในการทดลองเพอหาความสมพนธระหวางความดนและปริมาตรของแกสชนดหนง พบวา
                   ่ื         ั ั              ั              ิ ่ึ
    ถาเราเพิมความดันขึนเปน 3 เทาของความดนเรมตนปริมาตรของแกสในระบบจะลดลง
             ่         ้                 ั ่ิ              
   เปนครงหนง จงหาวาอณหภมของแกสควรจะเพมขนกเ่ี ปอรเซนต
       ่ึ ่ึ          ุ ู ิ                ่ิ ้ึ    ็
       1. 0%             2. 50%           3. 75%         4. 150%        (ขอ 2)
                                                                          
22. ที่ S.T.P. (0oC , 1 atm) อากาศ 1 ลิตร มีมวล 1.293 กรัม จงหาความดันของอากาศมวล
   12.93 กรัม ปรมาตร 10 ลิตร ทอณหภมิ 27 องศาเซลเซียส
                      ิ              ่ี ุ ู                                  (1.1 atm )
23. ความหนาแนนของอากาศท่ี 27 องศาเซลเซียส ความดัน 760 มิลลิเมตร ของปรอทเปน
                  
    2.5 กรัม / ลิตร ถา ณ อณหภมเิ ดยวกน ความดันเปน 860 มิลลิเมตร ของปรอท ความ
                           ุ ู ี ั
    หนาแนนของอากาศเปนเทาไร                                             (2.83 g/  )

                                          60
Physics Online III               http://www.pec9.com                บทที่ 10 ความรอน
24. หองประชุมมีอณหภูมิ 32o C เมือเปดเครืองปรับอากาศ ทําใหอณหภูมของหองเปน 26o C
                 ุ               ่        ่                  ุ     ิ
    จงหาอัตราสวนความหนาแนนของอากาศทีอณหภูมิ 26o C ตอความหนาแนนของอากาศ
                                            ุ่
    ทอณหภมิ 32o C
      ่ี ุ ู
           26
        1. 32          2. 32                3. 299          4. 305            (ขอ 4)
                           26                  305             299
25. ถาความดนบรรยากาศเทากบความดนของนาลก 10 เมตร ถาฟองอากาศใตผวน้าลึก 50
             ั         ั       ั     ํ้ ึ                     ิ ํ
   เมตร มปรมาตร 1 ลูกบาศกมลลิเมตร ลอยขนมาอยทตาแหนงตากวาระดบผวนา 10 เมตร
            ี ิ            ิ             ้ึ  ู ่ี ํ  ํ่  ั ิ ํ้
   จะมปรมาตรเทาใด
        ี ิ     
       1. 4 mm3      2. 3 mm3         3. 2 mm3         4. 1 mm3       (ขอ 2)
26. ถัง A มปรมาตร 5 ลิตร บรรจุแกสความดัน 2 บรรยากาศ ถัง B มปรมาตร 10 ลิตร
           ี ิ                                              ี ิ
    บรรจุแกสความดัน 3 บรรยากาศ นาทอเลกๆ ตอระหวาง ถัง A และ B ความดนของ
                                     ํ  ็                         ั
    แกสในถังทังสองเปนเทาใด เมืออุณหภูมไมเปลียนแปลง
               ้                 ่       ิ      ่                   (2.67 atm)
27. Idel gas ทีความดัน 1 บรรยากาศ อณหภมิ 27 องศาเซลเซียส ปรมาตร 20 ลิตร จะมี
               ่                    ุ ู                          ิ
    ปริมาณแกสกีโมล (R = 8.31 J/mol.K , 1 atm = 1.01 x 105 N/m2 )
                 ่                                                           (0.81)
28. แกส 4 โมล บรรจุในภาชนะ 8.31 ลิตร ถาแกสมีอณหภูมิ 27o C จะมีความดันเทาไร
                                                     ุ
      1. 1.0 x 106 N/m2                    2. 1.1 x 106 N/m2
      3. 1.2 x 106 N/m2                    4. 1.4 x 106 N/m2                (ขอ 3)
                                                                               
29. แกสไฮโดรเจน 10 ลิตร ความดัน 1 บรรยากาศ อณหภมิ 27 องศาเซลเซียส จะมีมวล
                                               ุ ู
    ของ แกสเทาใด ( H = 1 )                                        (0.81 กรัม)
30. ภาชนะปรมาตร 2 x 10–2 ลูกบาศกเมตร บรรจุแกส CO2 20 กรัม อณหภมิ 57 องศา
             ิ                                               ุ ู
    เซลเซียส จงหาความดันของแกส CO2 นี้ ( C = 12 , O = 16)   (6.23x104 N/m2 )
31. อากาศทความดน 105 นวตน/ตารางเมตร อณหภมิ 37 องศาเซลเซียส จะมีกโมเลกุลใน
           ่ี    ั       ิ ั               ุ ู                  ่ี
    1 ลูกบาศกเมตร ( kB = 1.38 10–23 J/K )                         (2.34x1025 )
32. มแกสอยในภาชนะ ถาตองการรจานวนโมลของแกส จะตองทราบปริมาณใดบาง
     ี  ู                  ู ํ        
      1. ความดัน , ปรมาตร , อณหภมิ
                       ิ     ุ ู    2. ความดัน , อณหภมิ
                                                   ุ ู
      3. ความดัน , ปรมาตร
                     ิ              4. ปรมาตร , อณหภมิ
                                         ิ        ุ ู                           (ขอ 1)

                                         61
Physics Online III                http://www.pec9.com                 บทที่ 10 ความรอน
33. ภาชนะบรรจุแกส ความดัน P มีอณหภูมิ T มีปริมาณ N โมเลกุล จงหาปริมาตรแกส
                                ุ
           Nk T                           2Nk T
      1. PB            2. nRT
                           P           3. PB               4. nRT
                                                               2P        (ขอ 1)

  อัตราเร็วโมเลกุลแกส
34. สมมตวาในการทดลองวดอตราเรวของโมเลกลแตละตวไดทงหมด 6 โมเลกุล ไดการ
         ิ                ั ั     ็     ุ  ั  ้ั
    กระจายอตราเรวโมเลกลดงตาราง จงหาคารากทสองของกาลงสองเฉลยของอตราเรว
            ั       ็     ุ ั             ่ี    ํ ั     ่ี   ั    ็
      อตราเรวโมเลกล (เมตร/วนาท)
       ั      ็       ุ        ิ ี   10       20     30
                จํานวนโมเลกุล          1      3      2
                                                                              (22.73 m/s )
35. จงหา vrms ของแกส H2 ที่ 0 องศาเซลเซียส (H = 1)
                                                                    (1844.7 m/s )
36. โมเลกุลของแกสออกซิเจน (O2) ที่ 27 องศาเซลเซียส จะมคาเฉลยกาลงสองของอตราเรว
                                                     ี  ่ี ํ ั       ั      ็
   เทาใด (เมตร/วนาท) ถามวลอะตอมของออกซิเจนเทากบ 15
                 ิ ี                              ั
       1. 4.2x10–27     2. 250           3. 490         4. 2.5x105         (ขอ 4)
37. ออกซิเจนมีมวลโมเลกุลเปน 16 เทาของไฮโดรเจน ถามวลโมเลกุลไฮโดรเจนเทากับ 2
    และแกสไฮโดรเจนมอณหภมเิ ปน 4 เทาของแกสออกซเิ จนอตราเรวรากทสองของกาลง
                    ีุ ู                           ั     ็    ่ี        ํ ั
    สองเฉลยของแกสไอโดรเจนตอแกสออกซเิ จนคอ
             ่ี                           ื
      1. 2 : 1         2. 4 : 1          3. 8 : 1     4. 16 : 1            (ขอ 3)
                                                                              
38. ทอณหภมิ 27 องศาเซลเซียส แกสชนดหนงมอตราเรวเฉลย 300 เมตร/วนาที ถาอณหภมิ
     ่ี ุ ู                       ิ ่ึ ี ั     ็ ่ี           ิ      ุ ู
    เปลี่ยนเปน 927 องศาเซลเซียส อยากทราบวา แกสนจะมอตราเรวเฉลยโมเลกลเปนเทาไร
                                            ้ี ี ั     ็ ่ี      ุ  
                                                                                (600 m/s)
39. ทอณหภมิ 27 องศาเซลเซียส แกสไฮโดรเจน มอตราเฉลย 2000 เมตร/วนาที อยากทราบ
      ่ี ุ ู                             ีั     ่ี           ิ
    วา ทอณหภมิ 47 องศาเซลเซียส แกสออกซิเจน จะมอตราเรวเฉลยเทาใด (H = 1 , O = 16)
      ่ี ุ ู                                ีั    ็ ่ี 
                                                                              (516.4 m/s )
40. ถาความดันของแก็สในถังใบหนึ่งเพิ่มขึ้น 21 เปอรเ ซนต อยากทราบวา อัตราเร็วเฉลียของ
                                                      ็                            ่
    แกสจะเพมหรอลดลงกเ่ี ปอรเ ซนต
            ่ิ ื              ็                                          (เพิ่มขึ้น 10%)



                                           62
เรื่องที่ 10  ความร้อน
เรื่องที่ 10  ความร้อน
เรื่องที่ 10  ความร้อน

Contenu connexe

Tendances

2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
Wijitta DevilTeacher
 
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
พัน พัน
 
การหางานจากพื้นที่ใต้กราฟ
การหางานจากพื้นที่ใต้กราฟการหางานจากพื้นที่ใต้กราฟ
การหางานจากพื้นที่ใต้กราฟ
jirupi
 
แบบทดสอบ เรื่องส่วนประกอบของพืช ป.4
แบบทดสอบ เรื่องส่วนประกอบของพืช ป.4แบบทดสอบ เรื่องส่วนประกอบของพืช ป.4
แบบทดสอบ เรื่องส่วนประกอบของพืช ป.4
Ngamsiri Prasertkul
 
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันมวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
ธงชัย ควรคนึง
 
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็ว
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็วแบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็ว
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็ว
Jariya Jaiyot
 
เรื่องที่ 15 ไฟฟ้าสถิตย์
เรื่องที่ 15  ไฟฟ้าสถิตย์เรื่องที่ 15  ไฟฟ้าสถิตย์
เรื่องที่ 15 ไฟฟ้าสถิตย์
thanakit553
 
ใบงานเรื่องงาน และพลังงาน
ใบงานเรื่องงาน และพลังงานใบงานเรื่องงาน และพลังงาน
ใบงานเรื่องงาน และพลังงาน
jirupi
 
โมเมนต์ของแรง
โมเมนต์ของแรงโมเมนต์ของแรง
โมเมนต์ของแรง
rutchaneechoomking
 
8พลังงานภายในระบบ
8พลังงานภายในระบบ8พลังงานภายในระบบ
8พลังงานภายในระบบ
Wijitta DevilTeacher
 

Tendances (20)

2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
 
ใบงานที่ 1
ใบงานที่ 1ใบงานที่ 1
ใบงานที่ 1
 
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
 
05แบบฝึกกำลัง
05แบบฝึกกำลัง05แบบฝึกกำลัง
05แบบฝึกกำลัง
 
การหางานจากพื้นที่ใต้กราฟ
การหางานจากพื้นที่ใต้กราฟการหางานจากพื้นที่ใต้กราฟ
การหางานจากพื้นที่ใต้กราฟ
 
5ความร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
5ความร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ5ความร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
5ความร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
 
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียงเฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
 
การต่อตัวเก็บประจุไฟฟ้า
การต่อตัวเก็บประจุไฟฟ้าการต่อตัวเก็บประจุไฟฟ้า
การต่อตัวเก็บประจุไฟฟ้า
 
แบบทดสอบ เรื่องส่วนประกอบของพืช ป.4
แบบทดสอบ เรื่องส่วนประกอบของพืช ป.4แบบทดสอบ เรื่องส่วนประกอบของพืช ป.4
แบบทดสอบ เรื่องส่วนประกอบของพืช ป.4
 
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันมวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
 
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็ว
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็วแบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็ว
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็ว
 
ชุดฝึกทักษะเรื่องไฟฟ้าสถิต ชุดที่ 1
ชุดฝึกทักษะเรื่องไฟฟ้าสถิต ชุดที่ 1ชุดฝึกทักษะเรื่องไฟฟ้าสถิต ชุดที่ 1
ชุดฝึกทักษะเรื่องไฟฟ้าสถิต ชุดที่ 1
 
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอดการศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
 
เรื่องที่ 15 ไฟฟ้าสถิตย์
เรื่องที่ 15  ไฟฟ้าสถิตย์เรื่องที่ 15  ไฟฟ้าสถิตย์
เรื่องที่ 15 ไฟฟ้าสถิตย์
 
ใบงานเรื่องงาน และพลังงาน
ใบงานเรื่องงาน และพลังงานใบงานเรื่องงาน และพลังงาน
ใบงานเรื่องงาน และพลังงาน
 
บรรยากาศ
บรรยากาศบรรยากาศ
บรรยากาศ
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1
 
โมเมนต์ของแรง
โมเมนต์ของแรงโมเมนต์ของแรง
โมเมนต์ของแรง
 
8พลังงานภายในระบบ
8พลังงานภายในระบบ8พลังงานภายในระบบ
8พลังงานภายในระบบ
 
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน หน่วย พลังงานไฟฟ้า
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน  หน่วย พลังงานไฟฟ้าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน  หน่วย พลังงานไฟฟ้า
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน หน่วย พลังงานไฟฟ้า
 

En vedette

เรื่องที่ 11 คลื่นกล
เรื่องที่ 11  คลื่นกลเรื่องที่ 11  คลื่นกล
เรื่องที่ 11 คลื่นกล
thanakit553
 
เรื่องที่ 6 โมเมนตัม
เรื่องที่ 6 โมเมนตัมเรื่องที่ 6 โมเมนตัม
เรื่องที่ 6 โมเมนตัม
thanakit553
 
เรื่องที่ 12 เสียง
เรื่องที่ 12  เสียงเรื่องที่ 12  เสียง
เรื่องที่ 12 เสียง
thanakit553
 
บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
thanakit553
 
เรื่องที่ 8 สภาพสมดุลยืดหยุ่น
เรื่องที่ 8   สภาพสมดุลยืดหยุ่นเรื่องที่ 8   สภาพสมดุลยืดหยุ่น
เรื่องที่ 8 สภาพสมดุลยืดหยุ่น
thanakit553
 
เรื่องที่ 18 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่องที่ 18  คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเรื่องที่ 18  คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่องที่ 18 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
thanakit553
 
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
thanakit553
 
เรื่องที่ 14 ทัศนอุปกรณ์
เรื่องที่ 14  ทัศนอุปกรณ์เรื่องที่ 14  ทัศนอุปกรณ์
เรื่องที่ 14 ทัศนอุปกรณ์
thanakit553
 
บทที่1 บทนำ
บทที่1 บทนำบทที่1 บทนำ
บทที่1 บทนำ
thanakit553
 
เรื่องที่ 13 แสง
เรื่องที่ 13  แสงเรื่องที่ 13  แสง
เรื่องที่ 13 แสง
thanakit553
 
บทที่ 2การเคลื่อนที่
บทที่ 2การเคลื่อนที่ บทที่ 2การเคลื่อนที่
บทที่ 2การเคลื่อนที่
thanakit553
 
โควต้า มช. ภาษาไทย
โควต้า มช. ภาษาไทยโควต้า มช. ภาษาไทย
โควต้า มช. ภาษาไทย
Warothai Jaiwanna
 
ข้อสอบโควตา ม.ช ปี 2554
ข้อสอบโควตา ม.ช  ปี 2554ข้อสอบโควตา ม.ช  ปี 2554
ข้อสอบโควตา ม.ช ปี 2554
Maruko Supertinger
 
ข้อสบโค้วตา มช วิชา สังคมศึกษา ปี2552
ข้อสบโค้วตา มช วิชา สังคมศึกษา ปี2552ข้อสบโค้วตา มช วิชา สังคมศึกษา ปี2552
ข้อสบโค้วตา มช วิชา สังคมศึกษา ปี2552
firstyuppedu
 
ข้อสอบวิชาฟิสิกส์ 6 ชุด สำหรับ entrance
ข้อสอบวิชาฟิสิกส์ 6 ชุด สำหรับ entranceข้อสอบวิชาฟิสิกส์ 6 ชุด สำหรับ entrance
ข้อสอบวิชาฟิสิกส์ 6 ชุด สำหรับ entrance
ติ๊บ' นะ
 
โควตา มช สังคมศึกษา
โควตา มช  สังคมศึกษาโควตา มช  สังคมศึกษา
โควตา มช สังคมศึกษา
Chalinee Tonsing
 
Pre โควตา มช.อังกฤษ
Pre โควตา มช.อังกฤษPre โควตา มช.อังกฤษ
Pre โควตา มช.อังกฤษ
yinqpant
 
ข้อสอบโค้วตา มช วิชาวิทยาศาสตร์1 ปี2552
ข้อสอบโค้วตา มช วิชาวิทยาศาสตร์1 ปี2552ข้อสอบโค้วตา มช วิชาวิทยาศาสตร์1 ปี2552
ข้อสอบโค้วตา มช วิชาวิทยาศาสตร์1 ปี2552
firstyuppedu
 

En vedette (20)

เรื่องที่ 11 คลื่นกล
เรื่องที่ 11  คลื่นกลเรื่องที่ 11  คลื่นกล
เรื่องที่ 11 คลื่นกล
 
เรื่องที่ 6 โมเมนตัม
เรื่องที่ 6 โมเมนตัมเรื่องที่ 6 โมเมนตัม
เรื่องที่ 6 โมเมนตัม
 
เรื่องที่ 12 เสียง
เรื่องที่ 12  เสียงเรื่องที่ 12  เสียง
เรื่องที่ 12 เสียง
 
บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
 
เรื่องที่ 8 สภาพสมดุลยืดหยุ่น
เรื่องที่ 8   สภาพสมดุลยืดหยุ่นเรื่องที่ 8   สภาพสมดุลยืดหยุ่น
เรื่องที่ 8 สภาพสมดุลยืดหยุ่น
 
เรื่องที่ 18 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่องที่ 18  คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเรื่องที่ 18  คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่องที่ 18 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
 
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
 
เรื่องที่ 14 ทัศนอุปกรณ์
เรื่องที่ 14  ทัศนอุปกรณ์เรื่องที่ 14  ทัศนอุปกรณ์
เรื่องที่ 14 ทัศนอุปกรณ์
 
บทที่1 บทนำ
บทที่1 บทนำบทที่1 บทนำ
บทที่1 บทนำ
 
เรื่องที่ 13 แสง
เรื่องที่ 13  แสงเรื่องที่ 13  แสง
เรื่องที่ 13 แสง
 
บทที่ 2การเคลื่อนที่
บทที่ 2การเคลื่อนที่ บทที่ 2การเคลื่อนที่
บทที่ 2การเคลื่อนที่
 
Onet5602 2
Onet5602 2Onet5602 2
Onet5602 2
 
โควต้า มช. ภาษาไทย
โควต้า มช. ภาษาไทยโควต้า มช. ภาษาไทย
โควต้า มช. ภาษาไทย
 
ข้อสอบโควตา ม.ช ปี 2554
ข้อสอบโควตา ม.ช  ปี 2554ข้อสอบโควตา ม.ช  ปี 2554
ข้อสอบโควตา ม.ช ปี 2554
 
ข้อสบโค้วตา มช วิชา สังคมศึกษา ปี2552
ข้อสบโค้วตา มช วิชา สังคมศึกษา ปี2552ข้อสบโค้วตา มช วิชา สังคมศึกษา ปี2552
ข้อสบโค้วตา มช วิชา สังคมศึกษา ปี2552
 
ข้อสอบวิชาฟิสิกส์ 6 ชุด สำหรับ entrance
ข้อสอบวิชาฟิสิกส์ 6 ชุด สำหรับ entranceข้อสอบวิชาฟิสิกส์ 6 ชุด สำหรับ entrance
ข้อสอบวิชาฟิสิกส์ 6 ชุด สำหรับ entrance
 
โควตา มช สังคมศึกษา
โควตา มช  สังคมศึกษาโควตา มช  สังคมศึกษา
โควตา มช สังคมศึกษา
 
Pre โควตา มช.อังกฤษ
Pre โควตา มช.อังกฤษPre โควตา มช.อังกฤษ
Pre โควตา มช.อังกฤษ
 
ข้อสอบโค้วตา มช วิชาวิทยาศาสตร์1 ปี2552
ข้อสอบโค้วตา มช วิชาวิทยาศาสตร์1 ปี2552ข้อสอบโค้วตา มช วิชาวิทยาศาสตร์1 ปี2552
ข้อสอบโค้วตา มช วิชาวิทยาศาสตร์1 ปี2552
 
โควต้ามช. 51
โควต้ามช. 51โควต้ามช. 51
โควต้ามช. 51
 

Similaire à เรื่องที่ 10 ความร้อน

เรื่องที่10 ความร้อน
เรื่องที่10 ความร้อนเรื่องที่10 ความร้อน
เรื่องที่10 ความร้อน
Apinya Phuadsing
 
5ความร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
5ความร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ5ความร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
5ความร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
Wijitta DevilTeacher
 
กิจกรรมที่ 10 อุณหภูมิกับการเดือด
กิจกรรมที่ 10 อุณหภูมิกับการเดือดกิจกรรมที่ 10 อุณหภูมิกับการเดือด
กิจกรรมที่ 10 อุณหภูมิกับการเดือด
krupornpana55
 
กิจกรรมที่ 9 อุณหภูมิกับการหลอมเหลว
กิจกรรมที่ 9 อุณหภูมิกับการหลอมเหลวกิจกรรมที่ 9 อุณหภูมิกับการหลอมเหลว
กิจกรรมที่ 9 อุณหภูมิกับการหลอมเหลว
krupornpana55
 
การทำอาหารแห้งโดยใช้หลักพื้นฐานวัฏภาคน้ำ
การทำอาหารแห้งโดยใช้หลักพื้นฐานวัฏภาคน้ำการทำอาหารแห้งโดยใช้หลักพื้นฐานวัฏภาคน้ำ
การทำอาหารแห้งโดยใช้หลักพื้นฐานวัฏภาคน้ำ
adriamycin
 
บทที่ 2 สารรอบตัว
บทที่ 2 สารรอบตัวบทที่ 2 สารรอบตัว
บทที่ 2 สารรอบตัว
Nang Ka Nangnarak
 

Similaire à เรื่องที่ 10 ความร้อน (19)

เรื่องที่10 ความร้อน
เรื่องที่10 ความร้อนเรื่องที่10 ความร้อน
เรื่องที่10 ความร้อน
 
03. ใบงาน 5 ปรับ
03. ใบงาน 5 ปรับ03. ใบงาน 5 ปรับ
03. ใบงาน 5 ปรับ
 
ความร้อน
ความร้อนความร้อน
ความร้อน
 
5ความร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
5ความร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ5ความร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
5ความร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
 
ความร้อน
ความร้อนความร้อน
ความร้อน
 
heat
heatheat
heat
 
กิจกรรมที่ 10 อุณหภูมิกับการเดือด
กิจกรรมที่ 10 อุณหภูมิกับการเดือดกิจกรรมที่ 10 อุณหภูมิกับการเดือด
กิจกรรมที่ 10 อุณหภูมิกับการเดือด
 
กิจกรรมที่ 9 อุณหภูมิกับการหลอมเหลว
กิจกรรมที่ 9 อุณหภูมิกับการหลอมเหลวกิจกรรมที่ 9 อุณหภูมิกับการหลอมเหลว
กิจกรรมที่ 9 อุณหภูมิกับการหลอมเหลว
 
ความร้อน.pptx
ความร้อน.pptxความร้อน.pptx
ความร้อน.pptx
 
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด B
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด Bการสอบแก้ตัวกลางภาคชุด B
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด B
 
บทที่ 8 ความร้อนและอุณหพลศาสตร์
บทที่ 8 ความร้อนและอุณหพลศาสตร์บทที่ 8 ความร้อนและอุณหพลศาสตร์
บทที่ 8 ความร้อนและอุณหพลศาสตร์
 
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด A
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด Aการสอบแก้ตัวกลางภาคชุด A
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด A
 
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด C
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด Cการสอบแก้ตัวกลางภาคชุด C
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด C
 
การทำอาหารแห้งโดยใช้หลักพื้นฐานวัฏภาคน้ำ
การทำอาหารแห้งโดยใช้หลักพื้นฐานวัฏภาคน้ำการทำอาหารแห้งโดยใช้หลักพื้นฐานวัฏภาคน้ำ
การทำอาหารแห้งโดยใช้หลักพื้นฐานวัฏภาคน้ำ
 
บทที่ 2 สารรอบตัว
บทที่ 2 สารรอบตัวบทที่ 2 สารรอบตัว
บทที่ 2 สารรอบตัว
 
P08
P08P08
P08
 
Lesson10
Lesson10Lesson10
Lesson10
 
Solid liquid-gas
Solid liquid-gasSolid liquid-gas
Solid liquid-gas
 
ความร้อน
ความร้อนความร้อน
ความร้อน
 

Plus de thanakit553

Project based learning design 12
Project based learning design 12Project based learning design 12
Project based learning design 12
thanakit553
 
การนำเสนอผลงาน12
การนำเสนอผลงาน12การนำเสนอผลงาน12
การนำเสนอผลงาน12
thanakit553
 
Project based learning design 12
Project based learning design 12Project based learning design 12
Project based learning design 12
thanakit553
 
3 d prainting for science learner 12
3 d prainting for science learner 123 d prainting for science learner 12
3 d prainting for science learner 12
thanakit553
 
Educational robotics for basic education 12
Educational robotics for basic education 12Educational robotics for basic education 12
Educational robotics for basic education 12
thanakit553
 
3 d prainting วันที่ 13
3 d prainting วันที่ 133 d prainting วันที่ 13
3 d prainting วันที่ 13
thanakit553
 
ตัวชี้วัดฯ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ปี51
ตัวชี้วัดฯ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ปี51ตัวชี้วัดฯ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ปี51
ตัวชี้วัดฯ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ปี51
thanakit553
 

Plus de thanakit553 (20)

Robotic13
Robotic13Robotic13
Robotic13
 
Project13
Project13Project13
Project13
 
Oral13
Oral13Oral13
Oral13
 
3 d13
3 d133 d13
3 d13
 
Project based learning design 12
Project based learning design 12Project based learning design 12
Project based learning design 12
 
การนำเสนอผลงาน12
การนำเสนอผลงาน12การนำเสนอผลงาน12
การนำเสนอผลงาน12
 
Project based learning design 12
Project based learning design 12Project based learning design 12
Project based learning design 12
 
3 d prainting for science learner 12
3 d prainting for science learner 123 d prainting for science learner 12
3 d prainting for science learner 12
 
Educational robotics for basic education 12
Educational robotics for basic education 12Educational robotics for basic education 12
Educational robotics for basic education 12
 
3 d prainting วันที่ 13
3 d prainting วันที่ 133 d prainting วันที่ 13
3 d prainting วันที่ 13
 
3 d prainting 12
3 d prainting 123 d prainting 12
3 d prainting 12
 
ตารางกำหนดการล่าสุด1
ตารางกำหนดการล่าสุด1ตารางกำหนดการล่าสุด1
ตารางกำหนดการล่าสุด1
 
Educational 13 ประกาศ
Educational 13 ประกาศEducational 13 ประกาศ
Educational 13 ประกาศ
 
Educational 12 (2)
Educational 12 (2)Educational 12 (2)
Educational 12 (2)
 
กำหนดการ58
กำหนดการ58กำหนดการ58
กำหนดการ58
 
แสงเชิงฟิสิกส์
แสงเชิงฟิสิกส์แสงเชิงฟิสิกส์
แสงเชิงฟิสิกส์
 
แนวข้อสอบแสงเชิงฟิสิกส์
แนวข้อสอบแสงเชิงฟิสิกส์แนวข้อสอบแสงเชิงฟิสิกส์
แนวข้อสอบแสงเชิงฟิสิกส์
 
Img004
Img004Img004
Img004
 
Img003
Img003Img003
Img003
 
ตัวชี้วัดฯ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ปี51
ตัวชี้วัดฯ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ปี51ตัวชี้วัดฯ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ปี51
ตัวชี้วัดฯ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ปี51
 

เรื่องที่ 10 ความร้อน

  • 1. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน ฟ สิ ก ส บ ทท่ี 10 ความร อ น ตอนที่ 1 ความรอน พลังงานความรอนที่ใชเปลี่ยนอุณหภูมิ หาคาไดจาก υQ = c m υt หรอ ื υQ = C υt เมือ ่ υ Q = พลงงานความรอน (จล) ั  ู c = คาความจความรอนจาเพาะ (จล/กิโลกรัม.เคลวน)  ุ  ํ ู ิ υt = อุณหภูมิที่เปลี่ยนไป ( K หรือ oC ) m = มวล (กิโลกรัม) C = คาความจความรอน (จล / เคลวน)  ุ  ู ิ 1. จงหาพลังงานความรอนที่ทําใหเหล็กมวล 200 กรัม ทอณหภมิ 20 องศาเซลเซียส มี ่ี ุ ู อณหภมสงขนเปน 60 องศาเซลเซียส ุ ู ิ ู ้ึ  ( กําหนด คาความจุความรอนจําเพาะของเหล็กเทากับ 450 J /kg.K ) ( 3600 จล ) ู วธทา ิี ํ 2. ใหพลังงานความรอนแกตะกั่ว 252 จล ถาตะกั่วมีมวล 1 กิโลกรัม จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเทาใด ู (ความจความรอนจาเพาะของตะกว = 126 จล/กิโลกรัม.เคลวน) ุ  ํ ่ั ู ิ (2 K(oC)) วธทา ิี ํ 3. ใหพลังงานความรอนขนาด 3000 จล กับเหล็กทอนหนึ่ง ปรากฏวาเหล็กมีอุณหภูมิสูงขึ้น ู จาก 30 องศาเซลเซียส เปน 80 องศาเซลเซียส จงหามวลของเหล็กกอนนี้  (กําหนด เหลกมคาความจความรอนจาเพาะ 0.500 กิโลจูล/กิโลกรัม.เคลวน) (0.12 kg) ็ ี ุ  ํ ิ วธทา ิี ํ 34
  • 2. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 4. น้าตก ตกจากหนาผาสูง 50 m ปรากฏวาพลังงานศักยเปลี่ยนเปนพลังงานความรอนเพียง ํ 50 % ถาคาความจุความรอนจําเพาะของน้ําเทากับ 4.180 kJ/kg.k ถามวาน้ําจะมีอุณหภูมิ สูงขึ้นจากเดิมกี่องศาเซลเซียส ( 0.059 ) วธทา ิี ํ 5. ยิงกระสุนปนทองแดง กระสุนกระทบเปาดวยความเร็ว 385 m/s กระสุนจะหยุดทันทีที่ชน เปาถา 3 ใน 4 ของพลังงานจลนเปลี่ยนเปนพลังงานความรอน จงหาวากระสุนปนจะมี อณหภมเิ พมเปนเทาใด ถาเดิมกระสุนมีอุณหภูมิ 27oC ุ ู ่ิ   กําหนด คาความจความรอนจาเพาะของทองแดง 0.385 kJ / kg.K  ุ  ํ และพลังงานจลนทั้งหมดเปลี่ยนเปนพลังงานความรอน (171.38oC) วธทา ิี ํ พิจารณาการเปลี่ยนแปลงจากน้ําแข็งเปลี่ยนเปนน้ํา และจากน้ําเดือดกลายเปนไอตอ อุณหภูมิระหวางการเปลี่ยนแปลงเปนดังนี้ อุณหภูมิ ( o ) ไอน้า ํ 100 น้ํา 0 เวลา น้ําแข็ง 35
  • 3. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน การเปลี่ยนแปลงจาก ของแขง ไปเปนของเหลว และจากของเหลวไปเปนไอ ทุกขันตอน ็  ้ จะเปนการเปลยนแปลงแบบดดความรอน  ่ี ู  ( ถาเปลี่ยนยอนกลับ จากไอเปนของเหลว หรือจากของเหลวเปนของแข็ง จะเปน  การเปลี่ยนแปลงแบบคายความรอน ) พลังงานความรอนที่ดูดเขาไปในชวงเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเปนของเหลว ( ชวง  ในรูปภาพ ) จะใชไปเพื่อสลายแรงดึงดูดระหวางโมเลกุลของแข็ง ทําใหโมเลกุลของ แข็งถอยหางออกจากกัน แลวของแข็งจะเกิดการเปลี่ยนสถานะเปนของเหลว พลัง งานที่ใชเปลี่ยนสถานะชวงนี้ เรียก ความรอนแฝงสาหรบการหลอมเหลว  ํ ั พลังงานความรอนที่ดูดเขาไปในชวงเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเปนไอ ( ชวง ในรูป )  จะใชไปเพื่อสลายแรงดึงดูดระหวางโมเลกุลของเหลว ทําใหโมเลกุลของเหลวถอยหาง ออกจากกัน แลวของเหลวจะเกิดการเปลี่ยนสถานะเปนไอ พลังงานที่ใชเปลี่ยนสถานะ ชวงนี้ เรียก ความรอนแฝงสําหรับการกลายเปนไอ พลังงานความรอนที่ใชเปลี่ยนสถานะ หรือ ความรอนแฝง สามารถหาคาไดจาก υQ = m.L เมือ υQ = พลงงานความรอน (จล) ่ ั  ู m = มวล (กิโลกรัม) L = คาความรอนแฝงจําเพาะ (จล/กิโลกรัม) ู 6. ชวงที่เกิดการหลอมเหลว สสารมีการดูดความรอนหรือไม ......... แตอุณหภูมิสสารจะไมเพิ่ม เพราะความรอนทดดเขาไปนนมไดใชเ พมอณหภมิ แตใชเพื่อ.................................................  ่ี ู  ้ั ิ  ่ิ ุ ู 7. ชวงที่เกิดการกลายเปนไอ สสารมีการดูดความรอนหรือไม ........ แตอุณหภูมิสสารจะไมเพิ่ม เพราะความรอนทดดเขาไปนนมไดใชเ พมอณหภมิ แตใชเพื่อ.................................................  ่ี ู  ้ั ิ  ่ิ ุ ู 8. น้ําแข็งมวล 5 kg อุณหภูมิ 0oC เปลี่ยนเปนน้ําที่ 0oC ตองใชพลังงานความรอนเทาใด กําหนด คาความรอนแฝงจาเพาะของการหลอมเหลวของนา 333 kJ / kg   ํ ํ้ (1665 kJ) วธทา ิี ํ 36
  • 4. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 9. ถาจะทําใหน้ํา 100oC มวล 5 kg เปลี่ยนเปนไอน้ําหมดที่ 100oC ตองใชความรอนเทาใด กําหนด คาความรอนแฝงจําเพาะการกลายเปนไอของน้ํา 2256 kJ / kg (11280 kJ) วธทา ิี ํ 10. ใหพลังงานความรอนแกน้ําแข็ง (0oC) มวล 2 กิโลกรัม เปนปริมาณเทาไร เพอใหนาแขง ่ื  ํ้ ็ กลายเปนน้ําและเหลือน้ําแข็ง 0.5 กิโลกรัม ใหความรอนแฝงจาเพาะของนาแขง 336 kJ/ kg   ํ ํ้ ็ 1. 504 kJ 2. 336 kJ 3. 168 kJ 4. 94 kJ (ขอ 1)  วธทา ิี ํ 11. กอนนาแขงมวล 1 กิโลกรัม มีอุณหภูมิศูนยองศาเซลเซียส ตกลงไปในทะเลสาปที่น้ํามี  ํ้ ็ อุณหภูมิศูนยองศาเซลเซียสเชนเดียวกัน ปรากฏวาน้ําแข็งละลายไป 0.01 กิโลกรัม นาแขง ํ้ ็ ตกลงมาจากระดับความสูงกี่เมตร (ความรอนแฝงจาเพาะของการหลอมเหลวของนา = 300 x 103 J/kg )  ํ ํ้ 1. 10 2. 30 3. 300 4. 1000 (ขอ 3) วธทา ิี ํ 12. กอนนาแขงมวล 10 กิโลกรัม ไถลลงจากที่สูง 10 เมตร อยากทราบวาน้ําแข็งจะละลาย  ํ้ ็ ไปเทาไร ถาพื้นมีอุณหภูมิ 0oC ( Lการหลอมเหลวน้าแข็ง = 333 kJ/kg ) ํ ( 3 กรัม) วธทา ิี ํ 37
  • 5. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 13(En 44/2) จงหาปรมาณความรอนททาใหนาแขงมวล 100 กรัม อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส ิ  ่ี ํ  ํ้ ็ กลายเปนน้ํามวล 100 กรัม อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส กําหนดใหความจุความรอนจําเพาะ ของน้ําเทากับ 4200 จูลตอกิโลกรัม เคลวน และความรอนแฝงจําเพาะของการหลอมเหลว ิ ของน้ําแข็งเทากับ 333 กิโลจูลตอกิโลกรัม 1. 33.7 kJ 2. 37.5 kJ 3. 75.3 kJ 4. 4233 kJ (ขอ 2) วธทา ิี ํ 14. ตองการทาใหนาแขง 1 kg อุณหภูมิ –10o C เปลี่ยนเปนน้ํา 10oC ตองใชพลังงานความ  ํ  ํ้ ็ รอนเทาใด กําหนด คาความจความรอนจาเพาะของนาแขง 2.1 kJ/kg.k    ุ  ํ ํ้ ็ คาความรอนแฝงจาเพาะการหลอมเหลวของนา 333 kJ/kg   ํ ํ้ คาความจความรอนจาเพาะของนา 4.2 kJ/kg.k  ุ  ํ ํ้ (396 kJ) วธทา ิี ํ 15. นําเหล็กมวล 1 kg อุณหภูมิ 60oC ใสในน้ํา 1 kg อุณหภูมิ 0oC ในเวลาตอมา อุณหภูมิของน้ําและเหล็กเทากัน อยากทราบวาอุณหภูมินี้มีคาเทาใด ถาความจุความรอน จําเพาะของน้ําและเหล็กมีคา 4180 และ 500 J/kg.k ตามลําดับ (6.41oC) วธทา ิี ํ 38
  • 6. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 16. กอนอะลูมิเนียมมวล 200 กรัม อุณหภูมิ 300 องศาเซลเซียส อยูในภาชนะที่เปนฉนวน เมอเทนาแขงอณหภมิ 0 องศาเซลเซียส มวล 70 กรัม ลงในภาชนะ จากนั้นปดภาชนะดวย ่ื ํ้ ็ ุ ู ฝาฉนวน อุณหภูมิสุดทายภายในภาชนะเปนเทาใด ( กําหนด คาความจุความรอนจําเพาะของอลูมเิ นียม = 0.9 KJ /kg.K คาความจุความรอนจําเพาะของน้า = 4.2 KJ /kg.K ํ คาความรอนแฝงของการหลอมเหลวของนา = 333 KJ / Kg )  ํ้ ( 64.7o ) วธทา ิี ํ 17. ลกแซคเปนเครองดนตรชนดหนงทใชเ ขยาเปนจงหวะ การเขยาลูกแซคจนจบเพลง ู  ่ื ี ิ ่ึ ่ี   ั อุณหภูมิภายในลูกแซคจะเปลี่ยนแปลงหรือไม อยางไร ( อุณหภูมิเพิ่มขึ้น ) วธทา ิี ํ 18. แทงเหล็กมวล 5 กิโลกรัม และ 10 กิโลกรัม จะมีคาความรอนและคาความจุความรอน จาเพาะเทากนหรอตางกน อยางไร ํ  ั ื  ั ( ′Q ไมเทา แต c เทากัน ) วธทา ิี ํ 19. A กบ B เปนวัตถุชนิดเดียวกัน แต A มีมวลมากกวา B ถา A และ B อยในทเ่ี ดยวกนขอใดถก ั ู ี ั  ู ก. A มความรอนมากกวา B ี   ข. A และ B มีความรอนเทากัน ค. A และ B มอณหภมเิ ทากน ีุ ู  ั ง. ขอ ก. และ ค. ถูก  (ขอ ง) วธทา ิี ํ 39
  • 7. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน การนาความรอน คือ การสงผานความรอนโดยโมเลกุลของตัวกลางที่สงผานความรอนไม ํ  ไดเคลื่อนที่ไปพรอมกับความรอนที่สงผาน การพาความรอน คือ การสงผานความรอนโดยโมเลกุลของตัวกลางที่สงผานความรอน  เคลื่อนที่ไปพรอมกับความรอนที่สงผาน การแผรงสีความรอน คือ การสงพลังงานความรอนโดยไมตองอาศัยตัวกลาง เชน การสง ั  พลังงานความรอนขากดวงอาทิตยมาสูโลกของเรา เปนตน ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦ ตอนที่ 2 สมบตของแกส ั ิ  สมบัติของแกสจากการทดลอง กฏของบอยส กลาววา "เมออณหภมและมวลของแกสคงท่ี ปรมาตรของแกสจะแปรผก ่ื ุ ู ิ  ิ  ผันกับความดันของแกสนั้น" เขียนเปนสมการจะได P1V1 = P2V2 เมือ P1 = ความดนตอนแรก ่ ั V1 = ปรมาตรตอนแรก ิ P2 = ความดนตอนหลง ั ั V2 = ปรมาตรตอนหลง ิ ั ควรระวัง สูตรนีใชไดเมืออุณหภูมิ และ มวลแกสคงที่ ้ ่ กฏของชาลล กลาววา "เมื่อความดัน และมวลของแกสคงท่ี ปริมาตรของแกสใดๆ จะ  แปรผนตรงกบอณหภมเิ คลวน" ั ั ุ ู ิ V1 V2 เขียนเปนสมการจะได T1 ν T2 เมือ T1 = อุณหภูมเิ คลวินตอนแรก ่ V1 = ปรมาตรตอนแรก ิ T2 = อุณหภูมิเคลวินตอนหลัง V2 = ปรมาตรตอนหลง ิ ั ควรระวัง สตรนใชไดเ มอ ความดัน และ มวลแกสคงที่ ู ้ี  ่ื กฏรวมของแกส เมอเรานากฏของบอลย และ กฏของชาลล มารวมกัน ่ื ํ  PV P2V จะไดกฏรวมของแกส คือ 11 T = T2 1 2 ควรระวัง สูตรนี้ใชไดเมื่อมวลของแกสที่มีคงที่เทานั้น 40
  • 8. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน หากมวลของแกสไมคงที่ ตองใชสมการ P1V1 P2V2 m1T1 = m2T2 เมือ P1 , P2 = ความดนตอนแรกและตอนหลง (atm , N/m2 , Pascal ,.) ่ ั ั V1 , V2 = ปรมาตรตอนแรก และตอนหลัง (m3 , Lit , …) ิ T1 , T2 = อุณหภูมตอนแรก และตอนหลัง (K) ิ m1 , m2 = มวลตอนแรก และตอนหลัง (g , kg , …) หากมความหนาแนนของแกสมาเกยวของ ตองใชสมการ ี   ่ี  P1 P ⊕1T1 = ⊕2 2T2 เมือ ⊕1 , ⊕2 = ความหนาแนนตอนแรก และตอนหลัง (kg/m3 , g/cm3 ,.) ่  20(มช 42) อากาศปริมาตร 2 ลูกบาศกฟุต อุณหภูมิ 17oC เคลอนผานพนผวทมอณหภมิ 77oC ่ื  ้ื ิ ่ี ี ุ ู ถาความดันอากาศไมเปลี่ยนแปลงปริมาตรอากาศจะกลายเปนกี่ลูกบาศกฟุต (ขอ 3)  1. 0.4 2. 1.7 3. 2.4 4. 9.0 วธทา ิี ํ 21. ความดันแกสในภาชนะปดอันหนึ่งเปน 8x105 N/m2 ทอณหภมิ 27oC ถาอุณหภูมิเพิ่ม ่ี ุ ู ขึ้น อก 900oC ความดันในระบบจะเปนเทาใด ี (32x105 N/m2) วธทา ิี ํ 22(มช 45) แกสชนิดหนึ่งมีปริมาตร 1x10–3 ลูกบาศกเมตรที่ 27oC ความดัน 1 บรรยากาศ ขยายตวจนมปรมาตรเปน 1.5x10–3 ลูกบาศกเมตร และความดันเปน 1.1 บรรยากาศ ั ี ิ  จงหาอุณหภูมิสุดทายของแกสนี้วาเปนกี่องศาเซลเซียส (ขอ 4)  1. 49.5 2. 495 3. 22.2 4. 222 วธทา ิี ํ 41
  • 9. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 23. ที่ 0oC ความดัน 1 atm อากาศ 1 ลิตร มีมวล 1.29 g และที่อุณหภูมิ 27oC ความดัน 2 atm อากาศมวล 2.73 g จะมีปริมาตรกี่ลิตร (1.16 ลิตร) วธทา ิี ํ 24(En 32) ถาความหนาแนนของแกสที่อุณหภูมิ 27oC ความดัน 1 บรรยากาศ มีคาเทากับ 1.3 กิโลกรัม/ลูกบาศกเมตร จงคานวณหาความหนาแนนของแกสนทอณหภมิ 127oC และ ํ   ้ี ่ี ุ ู มีความดัน 2 บรรยากาศ (ขอ 3) 1. 0.55 kg/m3 2. 0.81 kg/m3 3. 1.95 kg/m3 4. 2.35 kg/m3 วธทา ิี ํ 25. ฟองอากาศปริมาตร 20 cm3 อยูกนทะเลสาบลึก 40 m และมอณหภมิ 2oC ถาฟองอากาศ ีุ ู ลอยขนสผวนาซงมอณหภมิ 27oC จงหาปริมาตรของฟองอากาศซึ่งอยูที่ผิวน้ําพอดี (109 cm3) ้ึ ู ิ ํ้ ่ึ ี ุ ู กําหนด ความหนาแนนของนา = 1x103 kg/m3 และ ความดันบรรยากาศ = 1x105 N/m2  ํ้ วธทา ิี ํ 42
  • 10. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน สมการทใชคานวณเกยวกบการผสมแกส ่ี  ํ ่ี ั  Pรวม . Vรวม = P1V1 + P2 V2 + … nรวม . tรวม = n1t1 + n2 t2 + … เมือ n = จานวนโมลแกส ่ ํ  และ t = อุณหภูมิ (oC) 26. ถัง A มปรมาตร 40 cc บรรจแกสความดน 80 mm–Hg และ ถัง B มปรมาตร 60 cc บรรจุ ี ิ ุ  ั ี ิ แกสความดัน 70 mm-Hg โดยที่ถังทั้งสองมีทอตอกันและมีลิ้นปดเปดอยู เมือเปดทอใหแกส ่ ผสมกันแลวแกสจะมีความดันเทาใด (74 mm-Hg) วธทา ิี ํ 27(En 42/1) แกสฮีเลียมบรรจุในถังสองใบซึ่งเชื่อมตอกันผานวาลว ถังแรกมีความดัน 2 บรรยากาศ ปรมาตร 10 ลิตร ถังที่สองมีความดัน 3 บรรยากาศ ปรมาตร 15 ลิตร ิ ิ ถาเปดวาลวใหแกสรวมกัน โดยไมมีการถายเทความรอน จากนอกระบบความดันของแกส ผสมเปนกี่บรรยากาศ (2.60) วธทา ิี ํ 28(มช 38) ผสมแกสฮีเลียม 2 โมล อุณหภูมิ 60oC กับแกสอารกอน 1 โมล อุณหภูมิ 30oC จงหาวาอุณหภูมิผสมเปนเทาใด (ขอ 3)  1. 40oC 2. 45oC 3. 50oC 4. 55oC วธทา ิี ํ 43
  • 11. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 29. เมื่อนําแกสฮีเลียม 5 mol ที่ 40oC และแกสนีออน 3 mol ที่ 20oC กับแกสอารกอน 4 mol ที่ 25oC มาผสมกัน จงหาอุณหภูมิของแกสผสม (30oC) วธทา ิี ํ สมการสถานะ PV = n R T ถา R = คานจของแกส = 0.0821 Lit atm / mol.K  ิ  P = ความดันแกส (atm) V = ปรมาตรแกส (Lit) ิ  ถา R = คานจของแกส = 8.31 N.m / mol.K  ิ  P = ความดันแกส (N/m2) V = ปรมาตรแกส (m3) ิ  g N n =m = 6.02x1023 g = มวล (กรัม) 1 m3 = 1000 Lit m = มวลโมเลกุล 1 Lit = 1000 cm3 N = จานวนโมเลกล 1 atm = 1.01 x 105 N/m2 ํ ุ 30. ภาชนะ 2 ลิตร บรรจแกส CO2 มความดน 20.5 atm ทอณหภมิ –23oC มกโมล ุ ี ั ่ี ุ ู ี ่ี 1. 4.0 โมล 2. 3.0 โมล 3. 2.0 โมล 4. 1.0 โมล (ขอ 3)  วธทา ิี ํ 31. แกส (ก) 1 mol กับแกส (ข) 1 mol บรรจในกลองเดยวกนซงมปรมาตร 1 m3 โดยไมทา  ุ  ี ั ่ึ ี ิ  ํ ปฏิกิริยากันที่ 27oC ความดนแกสในกลองเปนเทาใด ั     (4986 N/m2) วธทา ิี ํ 44
  • 12. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 32. มีแกสอยู 4 โมล บรรจในภาชนะ 8.31 ลิตร ถาแกสมอณหภมิ 27oC จะมความดนเทาไร ุ   ีุ ู ี ั  1. 1.0 x 106 N/m2 2. 1.1 x 106 N/m2 3. 1.2 x 106 N/m2 4. 1.4 x 106 N/m2 (ขอ 3)  วธทา ิี ํ 33. แกส N2 จํานวน 4.8 x 1024 โมเลกุล บรรจในภาชนะ 67.2 ลิตร ท่ี 0oC มความดันเทาไร ุ ี  1. 3.3 atm 2. 2.6 atm 3. 2.1 atm 4. 1.6 atm (ขอ 2)  วธทา ิี ํ 34. แกส N2 100 cm3 ทอณหภมิ 0oC ความดน 2 atm มกโมเลกล  ่ี ุ ู ั ี ่ี ุ (ขอ 3)  1. 6.02 x 1023 2. 1.25 x 1020 3. 5.37 x 1021 4. 4.20 x 1015 วธทา ิี ํ 35. ถังบรรจุแกสออกซิเจน 560 ลิตร อณหภมิ 273 เคลวิน ความดัน 1 บรรยากาศ จงหามวล ุ ู ของออกซิเจนในถงน้ี ั (800 กรัม) วธทา ิี ํ 45
  • 13. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 36. แกสออกซเิ จนในถงทมปรมาตร 40 ลกบาศกเ ดซเิ มตร เดมมความดน 20 บรรยากาศ  ั ่ี ี ิ ู ิ ี ั และมอณหภมิ 27 องศาเซลเซียส ตอมาแกสรวไปบางสวนจนมความดน 4.0 บรรยากาศ ีุ ู   ่ั  ี ั และมอณหภมิ 20 องศาเซลเซียส จงหาวาแกสรวไปกกโลกรม ีุ ู   ่ั ่ี ิ ั ( กําหนด ออกซิเจน 1 โมลมีมวล 32 กรม ) ั ( 0.827 กิโลกรัม) วธทา ิี ํ 37(En 43/1) ถาอณหภมภายในหองเพมขนจาก 27oC เปน 37oC และ ความดันในหองไมเ ปลยน  ุ ู ิ  ่ิ ้ึ  ่ี แปลงจะมีอากาศไหลออกจากหองกี่โมล หากเดิมมีอากาศอยูในหองจํานวน 2000 โมล 1. 65 2. 940 3. 1620 4. 1940 (ขอ 1)  วธทา ิี ํ ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦ ตอนที่ 3 ทฤษฏจลนของแกส ี   เพอความสะดวกในการศกษาเรองราวเกยวกบแกส นกวทยาศาสตรจงไดสรางแบบ ่ื ึ ่ื ่ี ั  ั ิ ึ   จาลองของแกสในอดมคตขน ซงมความดงน้ี ํ  ุ ิ ้ ึ ่ึ ี ั 1) แกสประกอบดวยโมเลกลจานวนมาก ทุกโมเลกุลมีลักษณะเปนกอนกลมที่มีขนาด   ุ ํ เทากน มความยดหยนสง ดงนนโมเลกลเหลานจะชนผนงและกระดอนแบบยดหยน  ั ี ื ุ ู ั ้ ั ุ  ้ี ั ื ุ 2) ถอวาปรมาตรรวมของโมเลกลทกตวนอยมาก เมอเปรยบเทยบกบปรมาตรของกาซ ื  ิ ุ ุ ั  ่ื ี ี ั ิ ทงภาชนะ จงสามารถตดปรมาตรของโมเลกลทงไปได ้ั ึ ั ิ ุ ้ิ 46
  • 14. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 3) ไมมแรงใดๆ กระทาตอโมเลกลไมวาจะเปนแรงผลกหรอแรงดด หรอแมกระทงแรง  ี ํ  ุ   ั ื ู ื  ่ั โนมถวงโลกทกระทาตอโมเลกลดวย   ่ี ํ  ุ  4) โมเลกลทกโมเลกลจะเคลอนทเ่ี ปนเสนตรงแบบสบสนไรทศทาง และอาจเปลยนแนว ุ ุ ุ ่ื   ั  ิ ่ี การเคลอนทไดหากไปชนใสผนงภาชนะหรอชนกบโมเลกลแกสดวยกนเอง เรยกการ ่ื ่ี   ั ื ั ุ   ั ี เคลอนทแบบนวา การเคลอนทแบบบราวนเ นยน ่ื ่ี ้ี  ่ื ่ี ี และนกวทยาศาสตรยงสามารถหาความสมพนธระหวางความดนกบพลงานจลนเ ฉลยของ ั ิ ั ั ั   ั ั ั ่ี โมเลกุลแกสได ดงน้ีั P V = 1 N m v2 3 หรอ P V = 2 N m E k ื 3 38. เหตใดแกสจงฟงกระจายเตมภาชนะทบรรจุ และ สามารถบบอดใหมปรมาตรนอยลงกวา ุ  ึ ุ ็ ่ี ี ั  ี ิ   เดมไดมาก ( เพราะแรงดึงดูดระหวางโมเลกุลแกสมีนอย โมเลกุลแกสจึงฟุงกระจายไดเต็มภาชนะ ิ  บรรจุ และ โมเลกุลแกสจะอยูหางกัน ทีวางระหวางโมเลกุลมีมาก ดังนันเมือเราทําการบีบ ่ ้ ่ อัดโมเลกุลจะเบียดชิดเขาใกลกันได จึงทําใหปริมาตรของแกสโดยรวมลดลงได ) 39. เมออดแกสใหมปรมาตรลดลง ความดนของแกสจะเพมขนเพราะเหตใด ่ื ั   ี ิ ั  ่ิ ้ึ ุ ( เพราะเมื่อปริมาตรลดลง จะทําใหโมเลกุลพุงชนผนังภาชนะบรรจุแกสบอยขึ้น จึงทําให ความดันแกสที่กระทําตอภาชนะมีคาเพิ่มขึ้น ) ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦ ตอนที่ 4 อตราเรวโมเลกลแกส ั ็ ุ  Vrms = v 2 Vrms = 12 Ι 32 Ι 52 Ι 62 4 = 1 Ι 9 Ι 25 Ι 36 4 = 17.75 Vrms = 4.21 m/s 3RT 3kBT 3P Vrms = M Vrms = m Vrms = ″ เมือ Vrms ่ = อัตราเร็วรากทีสองของกําลังสองเฉลีย ่ ่ T = อุณหภูมิ (K) R = 8.31 N.m/mol.K kB = คานิจของโบสธมาล = 1.38 x 10–23 N.m/mol.K 47
  • 15. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน P = ความดันแกส (N/m2) ″ = ความหนาแนน (kg/m3) m = มวลแกส 1 โมเลกุล (kg) = มวลโมเลกุล x 1.66 x 10–27 kg M = มวลแกส 1 โมล (kg) = มวลโมเลกุล x 10–3 kg 40(En 39) สมมตวาสามารถทดลองวดคาอตราเรวของโมเลกล แตละตัวไดทงหมด 5 โมเลกุล ิ ั  ั ็ ุ ้ั ไดการกระจายอัตราเร็วโมเลกุลดังตาราง จงหาคารากทีสองของกําลังสองเฉลียของอัตราเร็ว ่ ่ อตราเรวโมเลกล (เมตรตอวนาที) ั ็ ุ  ิ 3 4 5 จํานวนโมเลกุล 2 2 1 1. 3.5 m/s 2. 3.9 m/s 3. 4.2 m/s 4. 4.5 m/s (ขอ 2)  วธทา ิี ํ 41. จงหาอตราเรวของโมเลกุลแกสไฮโดรเจน (H2) ทอณหภมิ 27oC ั ็ ่ี ุ ู (1934 m/s) วธทา ิี ํ 42. จงหา Vrms ของโมเลกุลของแกสออกซิเจน (O2) ทีมอณหภูมิ 300 เคลวิน ่ ีุ (483 m/s) วธทา ิี ํ 43. อากาศทีอณหภูมปกติ มความหนาแนน 1.24 kg/m3 ทีความดัน 1 atm จงหาวาโมเลกุล ุ่ ิ ี  ่ ของแกสจะมี Vrms เทาใด (1 atm = 1 x 105 N/m2) (491.87 m/s) วธทา ิี ํ 48
  • 16. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 44. อัตราเร็วเฉลียของโมเลกุลไฮโดรเจนเทากับ 400 m/s ที่ 27oC ถาอุณหภูมเิ ปลียนเปน ่ ่ 927oC อตราเรวจะเปนเทาใด ั ็   (800 m/s) วธทา ิี ํ 45. แกสที่ 927oC แกสมีคา Vrms เปน 800 m/s ถาตองการใหแกสมีคา Vrms เปนครึงหนึง ่ ่ ของคาเดิม ตองทําใหมอณหภูมเิ ทาใด ีุ (27oC) วธทา ิี ํ 46. ถาอตราสวนของอตราเรวรากทสองของกาลงสองเฉลย (Vrms ) ของแกสออกซิเจนตอ  ั  ั ็ ่ี ํ ั ่ี  แกสไนโตรเจนเปน 3 ตอ 2 และแกสออกซิเจนมีความดันเปน 2 เทาของแกสไนโตรเจน  อัตราสวนของความหนาแนนของแกสออกซิเจนตอกาซไนโตรเจน 1. 2/9 2. 8/9 3. 4/3 4. 3 /4 (ขอ 2) วธทา ิี ํ 49
  • 17. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 47. กระบอกสูบแกสชนิดหนึงบรรจุจานวน n โมล เมือใหความรอนจํานวนหนึงแกกระบอก ่ ํ ่ ่ สูบ พบวา Vrms ของแกสเพมขนเปน 2 เทา และปริมาตรเพิมขึนเปน 3 เทา ความดัน  ่ิ ้ึ   ่ ้  ของแกสจะเปลยนเปนกเ่ี ทาของความดนเดม  ่ี   ั ิ 1. 3/2 2. 4 /3 3. 3/2 4. 3/4 (ขอ 2) วธทา ิี ํ ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦ ตอนที่ 5 พลังงานจลนโมเลกุลแกส 3 E k = 2 kB T 3 E k = 2 PV N เมือ E k = พลังงานจลนเฉลียของโมเลกุลแกส (J) ่ ่ (มคาเปนพลังงานจลนของแกส 1 โมเลกุล) ี    kB = 1.38 x 10–23 N.m / mol.k T = อณหภมิ (K) ุ ู P = ความดัน (N/m2) Ekรวม = N Ek 3 V = ปรมาตร (m3) ิ U = N 2 kB T 3 N = จานวนโมเลกลแกส ํ ุ  U = 2 PV n คอ จํานวนโมลแกส ื U = 3 2 nRT R = 8.31 J / mol . K 48. พลังงานจลนเฉลียของแกส 1 โมเลกุล ทอณหภมิ 27oC มีคากีจล ่ ่ี ุ ู  ู่ (ขอ ง)  ก. 1.38 x 10–21 ข. 2.07 x 10–21 ค. 2.67 x 10–21 ง. 6.21 x 10–21 วธทา ิี ํ 50
  • 18. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 49. บรรจุแกสในถังทีมปริมาตร 0.2 m3 ทีความดัน 104 N/m2 ภายใตภาวะน้ี แกสนี้ 0.2 m3 ่ ี ่  มี 0.6x1022 โมเลกุล อยากทราบวาพลังงานจลนเฉลียของแตละโมเลกุลของแกสมีคาเทาใด ่  วธทา ิี ํ (5x10–19 จล) ู 50. พลังงานของแกส 1 โมล ( 6.02 x 1023 โมเลกุล ) ทอณหภมิ 27oC มีคากีจล ่ี ุ ู  ู่ ก. 3.7 x 103 ข. 7.4 x 103 ค. 11.1 x 103 ง. 14.8 x 103 (ขอ ก)  วธทา ิี ํ 51. ณ.อณหภมิ 37oC แกสชนิดหนึง 2 โมล จะมีพลังงานเทาใด (R = 8.3 J/mol.K) (7719 J) ุ ู ่ วธทา ิี ํ 52. จงหาพลังงานจลนเฉลียของโมเลกุลแกสที่ 30oC ่ (6.27x10–21 จูล) วธทา ิี ํ 53. จงหาพลังงานจลนของโมเลกุลแกสทังหมดซึงมีปริมาตร 2 ลิตร ความดัน 2.5 บรรยากาศ ้ ่ (กําหนด ความดัน 1 บรรยากาศ = 1.01 x 105 N/m2) (ขอ ง)  ก. 1.7 x 102 จล ู ข. 3.4 x 102 จล ู ค. 3.8 x 102 จล ู ง. 7.6 x 102 จล ู วธทา ิี ํ 51
  • 19. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 54. ถาพลังงานจลนเฉลียของแกสในภาชนะปดเทากับ 6.3x10–21 จล และ จานวนโมเลกลตอ ่ ู ํ ุ ปริมาตรของแกสเทากับ 2.4x1025 โมเลกุลตอลูกบาศกเมตร จงหาความดันของแกสน้ี  วธทา ิี ํ ( 1.008x105 N /m2 ) 55. ทีความดัน 4x105 นวตน/ตารางเมตร แกสจะมีพลังงานกีจลตอลูกบาศกเมตร ่ ิ ั ู่ (6x105 ) วธทา ิี ํ 56. ถาความดนของอากาศในหองปดหองหนงเปน a N/m2 พลังงานจลนของอากาศตอหนึง  ั    ่ึ  ่ หนวยปริมาตรเปนเทาไร 1. 2a J/m2 3 2. 3a J/m2 2 3. 2a J/m3 3 4. 3a J/m3 2 (ขอ 4) วธทา ิี ํ 57. แกสชนิดหนึงมีอณหภูมิ 300 K ถาจะใหแกสพลังงานจลนเฉลียของโมเลกุลเพิมเปน 2 ่ ุ ่ ่ เทาของเดมจะตองทาใหอณหภมเิ ปนเทาใด  ิ  ํ ุ ู   (600 K) วธทา ิี ํ 58. ถาพลังงานจลนเฉลียของแกสเพิมขึน 25% จากพลังงานจลน ณ อณหภมิ 31oC ขณะ ่ ่ ้ ุ ู นนแกสมอณหภมเิ ปนเทาไร ้ั  ี ุ ู   (107oC) วธทา ิี ํ 52
  • 20. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 59. แกสตางชนิดกัน ถามีอณหภูมเิ ทากัน พลังงานจลนเฉลียของโมเลกุลเทากันหรือไม (เทากัน) ุ ่ วธทา ิี ํ 60. ถาความดันและปริมาตรของแกสเปลียนไปโดยจํานวนโมเลกุลและอุณหภูมคงตัว พลังงาน ่ ิ ภายในของระบบจะเปลยนแปลงหรอไม อยางไร ่ี ื ( พลังงานภายในระบบจะแปรผันตรงกับผลคูณของความดันกับปริมาตร ) วธทา ิี ํ ⌫⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌫⌦⌦ ตอนที่ 6 พลังงานภายในระบบ 3 U = 2 NkB T เมือ ่ U = พลังงานภายในระบบ (พลังงานจลนรวม) (J) 3 U = 2 PV N = จํานวนโมเลกุล 3 U = 2 nRT kB = คาคงที่ของโบสชมาล = 1.38 x 10–23 J / mol.K T = อุณหภูมิ (K) P = ความดัน (N/m2) V = ปรมาตร (m3) ิ ΕQ = ΕU + ΕW ΕW = งานเนองจากการขยายตวของแกส ่ื ั  ΕU = พลังงานภายในระบบทีเ่ พิมขึน ่ ้ ΕW = PΕV 3 ΕU = 2 NkB ΕT ΕW = n R ΕT 3 ΕU = 2 n R ΕT 3 3 ΕU = 2 P2 V2 – 2 P1 V1 เมือ P คือ ความดันแกส (N/m2) ่ χV คือ ปริมาตรทีเ่ ปลียนแปลง ่ χT คือ อณหภมทเ่ี ปลยนไป ( K หรือ oC ) ุ ู ิ ่ี n คือ จํานวนโมล R = 8.31 J / mol.K 53
  • 21. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 61. จงหาพลังงานภายในระบบของแกสไฮโดรเจนเมื่อ ก. ปริมาณ 2 โมล ทอณหภมิ 27 องศาเซลเซียส ่ี ุ ู (7479 จูล) ข. ปรมาตร 10 ลิตร ความดัน 2 x 105 พาสคัล ิ (3x103) วธทา ิี ํ 62. พลังงานภายในของแกสฮีเลียม 10 โมล จะเปลียนไปเทาใด เมออณหภมของแกสฮเี ลยม ่ ่ื ุ ู ิ  ี เปลียนไป 20 องศาเซลเซียส ่ (2493 จูล) วธทา ิี ํ 63. แกสโมเลกลอะตอมเดยวชนดหนงมมวล 60 กรัม เมืออุณหภูมเิ ปลียนไป 10 K พลังงาน  ุ ่ี ิ ่ึ ี ่ ่ ของแกสนีจะเปลียนไปเทาไร กําหนดใหมวลโมเลกุลของแกสนี้ = 15 ้ ่ (498.6 J) วธทา ิี ํ 64. แกสปริมาตร 2 ลูกบาศกเมตร อณหภมิ 0oC ความดัน 105 N/m2 มีปริมาตรเพิมขึนเปน ุ ู ่ ้ 12 ลูกบาศกเมตร มีความดันเดิม การขยายตัวนีแกสทํางานไดกจล ้ ่ี ู (ขอ ก)  ก. 1.0 x 106 ข. 1.2 x 106 ค. 2 x 106 ง. 4.0 x 106 วธทา ิี ํ 54
  • 22. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 65. แกสในระบบขยายตัวดวยความดันคงที่ 2x105 N/m2 ในกระบวนการนวดงานได 104 จล ้ี ั ู โดยพลงงานภายในระบบไมเ ปลยนแปลงปรมาตรของระบบเปลยนแปลงกลกบาศกเ มตร ั ่ี ิ ่ี ่ี ู ก. 0.05 ข. 0.02 ค. 0.2 ง. 0.3 (ขอ ก)  วธทา ิี ํ สมการ βQ = βU + βW การใชสมการนีตองคํานึงถึงคาบวก ลบ ของตวแปรทกตวดงน้ี ้ ั ุ ั ั สาหรบ βQ หากความรอนเขาสูระบบ (ดูดความรอน) ํ ั  ΕQ มีคา + หากความรอนออกจากระบบ (คายความรอน)  ΕQ มีคา – หากความรอนไมเ ขาหรอออก ระบบ   ื ΕQ มีคา 0 สาหรบ βU หากพลังงานภายในเพิม (อุณหภูมเิ พิม) ํ ั ่ ่ ΕU มีคา + หากพลงงานภายในลด (อุณหภูมลด) ั ิ ΕU มีคา – หากพลงงานภายในไมเ ปลยน (อุณหภูมิคงท) ั ่ี ี่ ΕU มีคา 0 สาหรบ βW หากปริมาตรแกสเพิม ํ ั ่ ΕW มีคา + หากปรมาตรแกสลด ิ  ΕW มีคา – หากปรมาตรแกสคงท่ี ิ  ΕW มีคา 0 66. แกสในกระบอกสบรบความรอนจากภายนอก 142 จล ขณะทีแกสขยายตัวมันทํางานบน  ู ั ู ่ ระบบภายนอก 160 จล ถามวาพลังงานภายในของแกสเพิมขึนหรือลดลงเทาใด และ ู ่ ้ อณหภมของแกสเพมขนหรอลดลง ุ ู ิ  ่ิ ้ึ ื ( ลดลง 18 จล ) ู วธทา ิี ํ 67. แกสในกระบอกสบคายความรอน 240 จล ขณะทีพลังงานภายในเพิมขึน 50 จล ถามวา  ู  ู ่ ่ ้ ู แกสหดตัวหรือขยายตัว ( หดตัว ) วธทา ิี ํ 55
  • 23. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 68. อดแกสในกระบอกสบดวยความดันคงท่ี 1x105 N/m2 ทาใหปรมาตรเปลยนลดลง 0.004 m3 ั  ู ํ  ิ ่ี ถาพลังงานภายในระบบของแกสในกระบอกคงที่ จงหาพลังงานความรอนที่เกิดขึ้น (400 J) วธทา ิี ํ 69. เมอเพมความรอนใหแกระบบแกส 8400 จล พรอมกับทํางานใหระบบ 4000 จล พลังงาน ่ื ่ิ    ู ู ภายในระบบเปลียนไปเทาใด ่ (12400 จูล) วธทา ิี ํ 70. ในการอัดแกส 2 โมล ในกระบอกสูบตองทํางานใหระบบ 400 จล ถาระบบไมถายเท ู  ความรอนเลย อยากทราบวาอุณหภูมของแกสจะสูงขึนเทาใด ิ ้ (16.04 K) วธทา ิี ํ 71. เมอใหความรอน 64.9 จล แกแกส 0.5 โมล ทีบรรจุในกระบอกสูบ แกสทํางานได 40 จล ่ื   ู ่ ู ดันลูกสูบใหเคลือนที่ อณหภมของแกสเพมขนกเ่ี คลวน (R = 8.3 J/mol.k) ่ ุ ู ิ  ่ิ ้ึ ิ (4 K) วธทา ิี ํ 56
  • 24. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 72 ระบบหนึง เมอไดรบความรอน 8000 จล จะทําใหพลังงานภายในระบบเพิมขึน 6000 จล ่ ่ื  ั ู ่ ้ ู อยากทราบวาในการนีตองทํางานใหแกระบบหรือระบบทํางานเทาไร (ระบบทํางาน 2000 จล) ้ ู วธทา ิี ํ 73. ใหพลังงานความรอนแกแกส 2 โมล จํานวน 830 จล แกสมีการเปลียนแปลงแบบ 3 ู ่ ปรมาตรคงตว จงหาอุณหภูมของแกสทีเ่ พิมขึน (R = 8.3 J / mol.K) ิ ั ิ ่ ้ (ขอ 2)  1. 10 K 2. 100 K 3. 150 K 4. 200 K วธทา ิี ํ 74. แกสในกระบอกสูบมีความดัน 1 kPa และปริมาตร 2 m3 ถาแกสนีไดรับความรอน 10 ้ kJ จนมีความดัน 2 kPa และปริมาตร 4 m3 จงหางานทีกระทําโดยแกสในกระบวนการนี้ ่ 1. 1 kJ 2. 4 kJ 3. 7 kJ 4. 8 kJ (ขอ 1) วธทา ิี ํ 75. แกสฮีเลียมจํานวน 1 โมล บรรจอยในภาชนะปดทแขงแรงมาก อยากทราบวาเมอให ุ ู  ่ี ็  ่ื ความรอนเขาไป 600 จล ความดันแกสในภาชนะจะเพิมขึนจากเดิมเทาใด ถาถังมี   ู ่ ้ ปรมาตร 0.5 ลูกบาศกเมตร ิ (ขอ 2) 1. 600 N/m2 2. 800 N/m2 3. 1000 N/m2 4. 1200 N/m2 วธทา ิี ํ 57
  • 25. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน แบบฝกหด ฟสกส บทที่ 10 ความรอน  ั ิ ความรอน 1. จงหาพลงงานความรอนททาใหเ หลกมวล 100 กรัม ทอณหภมิ 20 องศาเซลเซียส มี ั  ่ี ํ ็ ่ี ุ ู อุณหภูมสงขึนเปน 60 องศาเซลเซียส ิ ู ้ ( กําหนด คาความจุความรอนจําเพาะของเหล็กเทากับ 450 J /kg.K ) ( 1800 จล ) ู 2. ใหพลังงานความรอนแกตะกัว 252 จล ถาตะกัวมีมวล 2 กิโลกรัม จะมีอณหภูมสงขึนเทาใด ่ ู ่ ุ ิ ู ้ (ความจความรอนจาเพาะของตะกว = 126 จล/กิโลกรัม.เคลวิน) ุ  ํ ่ั ู ( 1 K [oC] ) 3. ใหพลังงานความรอนขนาด 5000 จล กับเหล็กทอนหนึง ปรากฏวาเหล็กมีอณหภูมสงขึน   ู ่ ุ ิ ู ้ จาก 30 องศาเซลเซียส เปน 80 องศาเซลเซียส จงหามวลของเหล็กกอนนี้  (กาหนด เหล็กมีคาความจุความรอนจําเพาะ 0.500 กิโลจูล/กิโลกรัม.เคลวิน) ํ  (0.20 kg) 4. ลูกปนทองแดง อณหภมิ 10 องศาเซลเซียส ถูกยิงออกไปดวยความเร็ว 300 เมตร/วินาที ุ ู กระทบเปา แลวหยดนงในเปา ลกปนจะมอณหภมเิ ปนเทาใด (ความจความรอนจาเพาะของ  ุ ่ิ  ู  ีุ ู   ุ  ํ ทองแดง 385 J/kg. K) (กาหนดพลงงานจลนทงหมดเปลยนเปนความรอน) ํ ั  ้ั ่ี   (126.88oC) 5. นาตกจากหนาผาสง 200 เมตร ถาในการเปลียนรูปของพลังงานเปลียนเปนพลังงานความ ํ้  ู ่ ่ รอนทังหมด ถาน้าตกถึงพืนดานลาง จะมีอณหภูมเิ พิมขึนเทาไร (ความจุความรอนจําเพาะ ้ ํ ้ ุ ่ ้ ของนา 4.2 kJ.kg.K ) ํ้ (0.48oC) 6. ในการทดลองการเปลียนรูปพลังงานกลเปนพลังงานความรอน โดยใชกระบอกยาว 0.4 เมตร ่ บรรจุลกกลมโลหะมีความจุความรอนจําเพาะ 500 จล / กิโลกรัม.เคลวิน มีมวล 100 กรัม ู ู ทําการทดลองพลิกกลับกระบอกขึนลงใหลกกลมหลนในกระบอก 200 ครัง จงหาวา ้ ู ้  อุณหภูมของลูกกลมโลหะเพิมขึนมากทีสดเทาไร ิ ่ ้ ่ ุ (1.6oC) 7. น้าแข็งมวล 20 กรัม อณหภมิ 0 องศาเซลเซียส ละลายกลายเปนน้าหมดที่ 0 องศา ํ ุ ู ํ เซลเซียสจะตองใชความรอนเทาไร ( Lหลอมเหลวน้ําแข็ง = 333x103 J/kg) (6660 จล) ู 8. น้ามวล 20 กรัม อณหภมิ 100 องศาเซลเซียส เดือดกลายเปนน้าหมดที่ 100 องศา ํ ุ ู ํ เซลเซียสจะตองใชความรอนเทาไร ( Lการเดือดของน้ํา = 2256x103 J/kg) (45120 จล) ู 58
  • 26. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 9. ใหพลงงานความรอนแกนาแขง (0o C) มวล 2 กิโลกรัม เปนปริมาณเทาไรเพือใหนาแข็ง  ั   ํ้ ็ ่ ํ้ กลายเปนน้า และเหลอนาแขง 0.5 กิโลกรัม ( ความรอนแฝงจําเพาะของน้ําแข็ง 336 kJ/kg ) ํ ื ํ้ ็ 1. 504 kJ 2. 336 kJ 3. 168 kJ 4. 94 kJ (ขอ 1) 10. กอนน้าแข็งมวล 1 กิโลกรัม มีอณหภูมศนยองศาเซลเซียส ตกลงไปในทะเลสาปทีนามี ํ ุ ิู ่ ํ้ อณหภมศนยองศาเซลเซยสเชนเดยวกน ปรากฏวาน้าแข็งละลายไป 0.01 กิโลกรัม น้าแข็ง ุ ู ิู  ี  ี ั ํ ํ ตกลงมาจากระดับความสูงกีเ่ มตร (ความรอนแฝงจําเพาะของการหลอมเหลวของน้า = 300 x 103 J/kg ) ํ 1. 10 2. 30 3. 300 4. 1000 (ขอ 3) 11. กอนน้าแข็งมวล 5 กิโลกรัม ไถลลงจากที่สูง 5 เมตร อยากทราบวาน้าแข็งจะละลายไป ํ ํ เทาไร ถาพนมอณหภมิ 0oC ( Lการหลอมเหลวน้าแข็ง= 333 kJ/kg )  ้ื ี ุ ู ํ ( 0.75 กรัม) 12. ถาตองการใหนาแข็งมวล 1 กิโลกรัม อณหภมิ –10 องศาเซลเซียส กลายเปนนาทอณหภมิ ํ้ ุ ู  ํ้ ่ี ุ ู 100 องศาเซลเซียส ทังหมด จงหาวาตองใชพลังงานความรอนกีกโลจูล ้ ่ิ กําหนด Cน้า = 4.18 กิโลจูล / กก.เคลวิน ํ Cน้าแข็ง = 2.10 กิโลจูล / กก.เคลวิน ํ Lน้าแข็ง = 333 กิโลจูล / กก. ํ 1. 231 2. 649 3. 772 4. 793 (ขอ 3)  13. นําเหล็กมวล 1 kg อณหภมิ 60oC ใสในน้า 1 kg อณหภมิ 0oC ในเวลาตอมา ุ ู ํ ุ ู อุณหภูมของน้าและเหล็กเทากัน อยากทราบวาอุณหภูมนมคาเทาใด ถาความจุความรอน ิ ํ ิ ้ี ี  จําเพาะของน้าและเหล็กมีคา 4180 และ 500 J/kg.k ตามลาดบ ํ  ํ ั (6.41oC) 14. กอนอะลูมเิ นียมมวล 200 กรัม อณหภมิ 300 องศาเซลเซียส อยูในภาชนะทีเ่ ปนฉนวน ุ ู  เมือเทน้าแข็งอุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส มวล 70 กรัม ลงในภาชนะ จากนนปดภาชนะดวย ่ ํ ้ั   ฝาฉนวน อุณหภูมสดทายภายในภาชนะเปนเทาใด ิ ุ ( กําหนด คาความจุความรอนจําเพาะของอลูมเิ นียม = 0.9 KJ /kg.K คาความจุความรอนจําเพาะของน้า = 4.2 KJ /kg.K ํ คาความรอนแฝงของการหลอมเหลวของนา = 333 KJ / Kg )  ํ้ ( 64.7o ) 59
  • 27. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน สมบัติของแกสจากการทดลอง 15. แกสในกระบอกสูบอักลูกสูบใหมปริมาตรลดลงจาก 10 cc เปน 5 cc ความดนเดม 1 atm ี  ั ิ จงหาความดนของแกสในกระบอกสบหลงอดแลว เมอกาหนดใหอณหภมของแกสคงตว? ั  ู ั ั  ่ื ํ ุ ู ิ  ั 1. 4.0 atm 2. 2.0 atm 3. 1.5 atm 4. 1.0 atm (ขอ 1) 16. แกสจํานวนหนึงปริมาณ 0.5 ลูกบาศกเมตร ทีความดัน 105 นวตน/ตารางเมตร อณหภมิ ่ ่ ิ ั ุ ู 0 องศาเซลเซียส ถาจะทําใหแกสนีมปริมาตร 1 ลูกบาศกเมตร โดยความดันไมเปลียน ้ ี ่ แปลง อุณหภูมสดทายเปนเทาไร ิ ุ (546 k) 17. Idealgas จานวนหนงอณหภมิ 27 องศาเซลเซียส ความดัน 1 บรรยากาศ ถาความดันลดลง ํ ่ึ ุ ู เปน 0.6 บรรยากาศ ปริมาตรเพิมเปน 2 เทา อณหภมสดทายของแกสจะเปนเทาไร (87oC)  ่  ุ ู ิ ุ     18. แกสชนิดหนึงถูกบังคับใหมความดันคงที่ และอุณหภูมของแกสถูกทําใหเพิมขึนจาก 27o C ่ ี ิ ่ ้ ไปเปน 127o C ปรมาตรของแกสจะเปลยนไปเปนอตราสวนเทาใดของปริมาตรเดม ิ  ่ี  ั   ิ 1. 4/3 2. 3 /4 3. 127/27 4. ไมเปลียน ่ (ขอ 1) 19. แกสชนิดหนึงมีปริมาตรและอุณหภูมสมบูรณเพิมเปน 1.5 เทา และ 2 เทา ตามลําดับ ่ ิ ั ่   จงหาวาความดนของแกสนเ้ี ปนกเ่ี ทาของความดนเดม  ั    ั ิ ( 4 เทา ) 3  20. แกสในถังใบหนึง เมือทําใหอุณหภูมลดลงจาก 27 องศาเซลเซียส –6 องศาเซลเซียส ความ ่ ่ ิ ดันของแกส จะเพมหรอลดลงจากเดมกเ่ี ปอรเซนต ่ิ ื ิ ็ (ลดลง 11%) 21. ในการทดลองเพอหาความสมพนธระหวางความดนและปริมาตรของแกสชนดหนง พบวา ่ื ั ั   ั  ิ ่ึ ถาเราเพิมความดันขึนเปน 3 เทาของความดนเรมตนปริมาตรของแกสในระบบจะลดลง ่ ้  ั ่ิ   เปนครงหนง จงหาวาอณหภมของแกสควรจะเพมขนกเ่ี ปอรเซนต  ่ึ ่ึ  ุ ู ิ  ่ิ ้ึ ็ 1. 0% 2. 50% 3. 75% 4. 150% (ขอ 2)  22. ที่ S.T.P. (0oC , 1 atm) อากาศ 1 ลิตร มีมวล 1.293 กรัม จงหาความดันของอากาศมวล 12.93 กรัม ปรมาตร 10 ลิตร ทอณหภมิ 27 องศาเซลเซียส ิ ่ี ุ ู (1.1 atm ) 23. ความหนาแนนของอากาศท่ี 27 องศาเซลเซียส ความดัน 760 มิลลิเมตร ของปรอทเปน  2.5 กรัม / ลิตร ถา ณ อณหภมเิ ดยวกน ความดันเปน 860 มิลลิเมตร ของปรอท ความ ุ ู ี ั หนาแนนของอากาศเปนเทาไร (2.83 g/ ) 60
  • 28. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 24. หองประชุมมีอณหภูมิ 32o C เมือเปดเครืองปรับอากาศ ทําใหอณหภูมของหองเปน 26o C ุ ่ ่ ุ ิ จงหาอัตราสวนความหนาแนนของอากาศทีอณหภูมิ 26o C ตอความหนาแนนของอากาศ ุ่ ทอณหภมิ 32o C ่ี ุ ู 26 1. 32 2. 32 3. 299 4. 305 (ขอ 4) 26 305 299 25. ถาความดนบรรยากาศเทากบความดนของนาลก 10 เมตร ถาฟองอากาศใตผวน้าลึก 50  ั  ั ั ํ้ ึ ิ ํ เมตร มปรมาตร 1 ลูกบาศกมลลิเมตร ลอยขนมาอยทตาแหนงตากวาระดบผวนา 10 เมตร ี ิ ิ ้ึ ู ่ี ํ  ํ่  ั ิ ํ้ จะมปรมาตรเทาใด ี ิ  1. 4 mm3 2. 3 mm3 3. 2 mm3 4. 1 mm3 (ขอ 2) 26. ถัง A มปรมาตร 5 ลิตร บรรจุแกสความดัน 2 บรรยากาศ ถัง B มปรมาตร 10 ลิตร ี ิ ี ิ บรรจุแกสความดัน 3 บรรยากาศ นาทอเลกๆ ตอระหวาง ถัง A และ B ความดนของ ํ  ็   ั แกสในถังทังสองเปนเทาใด เมืออุณหภูมไมเปลียนแปลง ้ ่ ิ ่ (2.67 atm) 27. Idel gas ทีความดัน 1 บรรยากาศ อณหภมิ 27 องศาเซลเซียส ปรมาตร 20 ลิตร จะมี ่ ุ ู ิ ปริมาณแกสกีโมล (R = 8.31 J/mol.K , 1 atm = 1.01 x 105 N/m2 ) ่ (0.81) 28. แกส 4 โมล บรรจุในภาชนะ 8.31 ลิตร ถาแกสมีอณหภูมิ 27o C จะมีความดันเทาไร ุ 1. 1.0 x 106 N/m2 2. 1.1 x 106 N/m2 3. 1.2 x 106 N/m2 4. 1.4 x 106 N/m2 (ขอ 3)  29. แกสไฮโดรเจน 10 ลิตร ความดัน 1 บรรยากาศ อณหภมิ 27 องศาเซลเซียส จะมีมวล ุ ู ของ แกสเทาใด ( H = 1 ) (0.81 กรัม) 30. ภาชนะปรมาตร 2 x 10–2 ลูกบาศกเมตร บรรจุแกส CO2 20 กรัม อณหภมิ 57 องศา ิ ุ ู เซลเซียส จงหาความดันของแกส CO2 นี้ ( C = 12 , O = 16) (6.23x104 N/m2 ) 31. อากาศทความดน 105 นวตน/ตารางเมตร อณหภมิ 37 องศาเซลเซียส จะมีกโมเลกุลใน ่ี ั ิ ั ุ ู ่ี 1 ลูกบาศกเมตร ( kB = 1.38 10–23 J/K ) (2.34x1025 ) 32. มแกสอยในภาชนะ ถาตองการรจานวนโมลของแกส จะตองทราบปริมาณใดบาง ี  ู   ู ํ  1. ความดัน , ปรมาตร , อณหภมิ ิ ุ ู 2. ความดัน , อณหภมิ ุ ู 3. ความดัน , ปรมาตร ิ 4. ปรมาตร , อณหภมิ ิ ุ ู (ขอ 1) 61
  • 29. Physics Online III http://www.pec9.com บทที่ 10 ความรอน 33. ภาชนะบรรจุแกส ความดัน P มีอณหภูมิ T มีปริมาณ N โมเลกุล จงหาปริมาตรแกส ุ Nk T 2Nk T 1. PB 2. nRT P 3. PB 4. nRT 2P (ขอ 1) อัตราเร็วโมเลกุลแกส 34. สมมตวาในการทดลองวดอตราเรวของโมเลกลแตละตวไดทงหมด 6 โมเลกุล ไดการ ิ ั ั ็ ุ  ั  ้ั กระจายอตราเรวโมเลกลดงตาราง จงหาคารากทสองของกาลงสองเฉลยของอตราเรว ั ็ ุ ั  ่ี ํ ั ่ี ั ็ อตราเรวโมเลกล (เมตร/วนาท) ั ็ ุ ิ ี 10 20 30 จํานวนโมเลกุล 1 3 2 (22.73 m/s ) 35. จงหา vrms ของแกส H2 ที่ 0 องศาเซลเซียส (H = 1)  (1844.7 m/s ) 36. โมเลกุลของแกสออกซิเจน (O2) ที่ 27 องศาเซลเซียส จะมคาเฉลยกาลงสองของอตราเรว  ี  ่ี ํ ั ั ็ เทาใด (เมตร/วนาท) ถามวลอะตอมของออกซิเจนเทากบ 15 ิ ี  ั 1. 4.2x10–27 2. 250 3. 490 4. 2.5x105 (ขอ 4) 37. ออกซิเจนมีมวลโมเลกุลเปน 16 เทาของไฮโดรเจน ถามวลโมเลกุลไฮโดรเจนเทากับ 2 และแกสไฮโดรเจนมอณหภมเิ ปน 4 เทาของแกสออกซเิ จนอตราเรวรากทสองของกาลง  ีุ ู    ั ็ ่ี ํ ั สองเฉลยของแกสไอโดรเจนตอแกสออกซเิ จนคอ ่ี    ื 1. 2 : 1 2. 4 : 1 3. 8 : 1 4. 16 : 1 (ขอ 3)  38. ทอณหภมิ 27 องศาเซลเซียส แกสชนดหนงมอตราเรวเฉลย 300 เมตร/วนาที ถาอณหภมิ ่ี ุ ู  ิ ่ึ ี ั ็ ่ี ิ  ุ ู เปลี่ยนเปน 927 องศาเซลเซียส อยากทราบวา แกสนจะมอตราเรวเฉลยโมเลกลเปนเทาไร   ้ี ี ั ็ ่ี ุ   (600 m/s) 39. ทอณหภมิ 27 องศาเซลเซียส แกสไฮโดรเจน มอตราเฉลย 2000 เมตร/วนาที อยากทราบ ่ี ุ ู  ีั ่ี ิ วา ทอณหภมิ 47 องศาเซลเซียส แกสออกซิเจน จะมอตราเรวเฉลยเทาใด (H = 1 , O = 16)  ่ี ุ ู  ีั ็ ่ี  (516.4 m/s ) 40. ถาความดันของแก็สในถังใบหนึ่งเพิ่มขึ้น 21 เปอรเ ซนต อยากทราบวา อัตราเร็วเฉลียของ ็  ่ แกสจะเพมหรอลดลงกเ่ี ปอรเ ซนต  ่ิ ื ็ (เพิ่มขึ้น 10%) 62