SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  32
Télécharger pour lire hors ligne
แผนการจัดการเรี ยนรู้ ที 2
รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว32101 ชันมัธยมศึกษาปี ที 2
หน่ วยการเรียนรู้ เรือง ชันหน้าตัดดิน เวลา 2 ชัวโมง
ผู้สอน นางแว่นแก้ว พิงคานนท์ ตําแหน่ ง ครู วิทยฐานะครู ชานาญการ โรงเรี ยนสุ รินทร์ ภกดี
ํ
ั
สาระที 6: กระบวนการเปลียนแปลงของโลก
มาตรฐาน ว 6.1 : ว6.1 เข้าใจกระบวนการต่างๆ ทีเกิดขึนบนผิวโลก และภายในโลก
ความสัมพันธ์ของกระบวนการต่างๆ ทีมีผลต่อการเปลียนแปลงภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และ
สัณฐานของโลกมีกระบวนการสื บเสาะหาความรู ้และจิตวิทยาศาสตร์ สื อสารสิ งทีเรี ยนรู ้ นํา
ความรู ้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐานการเรียนช่ วงชั* น ว 6.1-5 สํารวจตรวจสอบ อภิปรายและอธิ บายเกียวกับชันหน้าตัดดิน
สมบัติของดิน การปรับปรุ งคุณภาพของดิน และการนําไปใช้ประโยชน์
สาระที 8 : ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 8.1 : ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และจิตวิทยาศาสตร์ ในการสื บเสาะหาความรู ้
่
การแก้ปัญหา รู ้วาปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทีเกิดขึนส่ วนใหญ่มีรูปแบบทีแน่นอน สามารถ
่
อธิ บายและตรวจสอบได้ภายใต้ขอมูลและเครื องมือทีมีอยูในช่วงเวลานันๆ เข้าใจว่าวิทยาศาสตร์
้
เทคโนโลยี สังคม และสิ งแวดล้อมมีความสัมพันธ์เกียวข้องกัน
มาตรฐานการเรียนช่ วงชั* น ว 8.1.1, ว 8.1.2
1. สาระสํ าคัญ
่ ั
ดินชันบนเป็ นดินทีอยูชนนอกสุ ดของเปลือกโลก มีฮิวมัสซึ งเป็ นอินทรี ยวัตถุ ดินชันล่าง
่ ั
อยูถดจากดินชันบน มีอินทรี ยวัตถุตา ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก เราจึงควรเลือกใช้ดินให้
ํ
เหมาะสมกับการปลูกพืช
2. ผลการเรียนรู้ ทคาดหวัง
ี
อภิปรายเกียวกับชันหน้าตัดของดิน
จุดประสงค์การเรี ยนรู ้
2.1 อธิ บายลักษณะของชันหน้าตัดดิน
2.2 จําแนกลักษณะของดินชันบนและดินชันล่าง
2.3 ทดลองความเป็ นกรด-เบสของดิน
2.4 ทดลองความพรุ นของดิน
3. สาระการเรี ยนรู้
3.1 ลักษณะของดินชันบนและดินชันล่าง
3.2 ชันหน้าตัดดิน
3.3 ความเป็ นกรด-เบสของดิน
3.4 ความพรุ นของดิน
4. กิจกรรมการเรี ยนรู้
ขั*นนําเข้ าสู่ บทเรียน
4.1 นักเรี ยนร่ วมกันตอบคําถามคําถามเกียวกับลักษณะของดินชันบนและดินชันล่างดังนี
่
- ซากพืชซากสัตว์ปนอยูในดินชันใด
- ในการปลูกพืช ดินชันไหนทีทําให้พืชเจริ ญงอกงาม
- สารประกอบในดิน ทําให้ดินมีลกษณะต่างกันอย่างไร
ั
4.2 นักเรี ยนจัดกลุ่มการเรี ยน กลุ่มละ 5 คน โดยการจับฉลากทีทําไว้เป็ นฉลากหมายเลข
่
1-30 นักเรี ยนทีจับได้เลข 1-5, 6-10, 11-15, ... อยูกลุ่มเดียวกันกลุ่มละ 5 คน ตามลําดับ นักเรี ยน
ทีเป็ นเศษ ก็ให้ปัดเข้ากลุ่มต่างๆ กลุ่มละ 6 คน จนครบจํานวนนักเรี ยนในห้องเรี ยน
4.3 ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้
ขั*นจัดกิจกรรม
4.4 นักเรี ยนศึกษากิจกรรมเรื อง ชันหน้าตัดดิน โดยใช้บทเรี ยนโมดูล
ํ
4.5 สมาชิกในกลุ่มร่ วมกันอภิปรายกิจกรรมและปฎิบติกิจกรรม ตามทีครู ได้กาหนดไว้
ั
4.6 นักเรี ยนปฏิบติกิจกรรมและครู สุ่มนักเรี ยนในกลุ่ม 1-2 กลุ่ม ออกมาอภิปรายผลและ
ั
สรุ ปผลการทํากิจกรรมหน้าชันเรี ยน
ํ
4.7 ครู ชืนชมนักเรี ยนทีสามารถปฏิบติได้อย่างถูกต้องและให้กาลังใจพร้อมคําชีแนะแก่
ั
กลุ่มทียังอภิปรายผลไม่ถูกต้องหรื อยังขาดทักษะวิทยาศาสตร์ ในบางข้ออยู่
ขั*นสรุ ป
นักเรี ยนร่ วมกันอภิปรายและสรุ ป ชันหน้าตัดดิน ดังนี
- ดินแบ่งเป็ น 2 ชัน คือ ดินชันบนและดินชันล่าง ซึ งมีลกษณะแตกต่างกัน ดินต่าง
ั
ถินมีลกษณะต่างกัน เพราะดินเหล่านันมีทีกําเนิดแตกต่างกัน เนืองจากสภาพภูมิอากาศ สภาพ
ั
ภูมิประเทศ วัตถุตนกําเนิดดิน กาลเวลา และส่ วนผสมจากฮิวมัสของสิ งมีชีวตต่างๆ
้
ิ
- ความพรุ น คือ ช่องว่างระหว่างเม็ดดิน เป็ นทีสําหรับให้นาและอากาศผ่านเข้าไปในเนือ
ํ
ดิน ดินชันบนมีความพรุ นมากกว่าดินชันล่าง
่
- ความเป็ นกรด-เบสของดิน หมายถึง ปริ มาณของไฮโดรเจนทีมีอยูในดิน ความเป็ นกรดเบส กําหนดค่าเป็ นตัวเลขตังแต่ 1-14 เรี ยกค่าตัวเลขนีว่าค่า pH โดยจัดว่า
สารละลายใดทีมีค่า pH น้อยกว่า 7 สารละลายนันมีสมบัติเป็ นกรด
สารละลายใดทีมีค่า pH มากกว่า 7 สารละลายนันมีสมบัติเป็ นเบส
สารละลายใดทีมีค่า pH เท่ากับ 7 สารละลายนันมีสมบัติเป็ นกลาง
- ครู มอบหมายภาระงานให้นกเรี ยนสรุ ปความรู ้ทีได้จากการเรี ยน เป็ นแผนผังมโนมติ
ั
เรื อง ชันหน้าตัดดิน
5. สื อและแหล่ งเรี ยนรู้
สื อ
5.1 บทเรี ยนโมดูล เรื อง ชันหน้าตัดดิน
แหล่ งเรียนรู้
5.2 หนังสื อคู่มือสาระการเรี ยนรู ้พืนฐาน วิทยาศาสตร์ ม.2 โดย อุษา สิ ทธิ นาค
และนภาภรณ์ ธัญญา สํานักพิมพ์แม็ค
5.3 หนังสื อเรี ยนวิทยาศาสตร์ ม.2 โดย ดร.ยุพา วรยศ และคณะ สํานักพิมพ์อกษร
ั
เจริ ญทัศน์
5.4 หนังสื อเรี ยนวิทยาศาสตร์ ม.2 โดย ผูช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิมพันธ์ เดชะคุปต์
้
และคณะสํานักพิมพ์สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ
6. การวัดและประเมินผล
6.1 วิธีวดและประเมินผล
ั
6.1.1 สังเกตจากพฤติกรรมการปฏิบติงานภายในกลุ่ม
ั
6.1.2 ตรวจจากแบบทดสอบก่อนเรี ยน-หลังเรี ยน
6.1.3 ตรวจจากแบบบันทึกรายงานการทดลอง
6.1.4 ตรวจจากแผนผังมโนมติ
6.2 เครืองมือวัดและประเมินผล
6.2.1 แบบประเมินกระบวนการกลุ่ม
6.2.2 แบบทดสอบก่อนเรี ยน-หลังเรี ยน
6.2.3 แบบบันทึกรายงานการทดลอง
6.2.4 แบบประเมินแผนผังมโนมติ
6.3 เกณฑ์ การวัดและประเมินผล
6.3.1 แบบประเมินกระบวนการกลุ่ม ต้องได้คะแนนไม่นอยกว่าร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์
้
6.3.2 แบบทดสอบหลังเรี ยน ต้องได้คะแนนไม่นอยกว่าร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์
้
6.3.3 แบบบันทึกรายงานการทดลอง ต้องได้คะแนนไม่นอยกว่าร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์
้
6.3.4 แบบประเมินผลแผนผังมโนมติ ต้องได้คะแนนไม่นอยกว่าร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์
้
บทเรียนโมดูล
เรือง ชั*นหน้ าตัดดิน

ระดับผู้เรียน มัธยมศึกษาปี ที 2
ระยะเวลา 2 ชัวโมง
รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัส ว32101

โดย นางแว่ นแก้ ว พิงคานนท์
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทยาศาสตร์
ิ
โรงเรียนสุ รินทร์ ภกดี ตําบลแกใหญ่ อําเภอเมืองสุ รินทร์ จังหวัดสุ รินทร์
ั
คําแนะนํา
การใช้ บทเรียนโมดูล
คําชี แจง
เอกสารฉบับนี จัดทําขึนเพือเสนอเนื อหาสาระประกอบการเรี ยนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์
ว32101 เรื อง ชันหน้าตัดดิน โดยนักเรี ยนทํากิจกรรมตามบทเรี ยนโมดูลนี จะศึกษาเป็ นกลุ่มๆ
หรื อศึกษาเป็ นรายบุคคลด้วยตนเองก็ได้
แนวปฏิบัติ
1. บทเรี ยนโมดูลชุดนี มีองค์ประกอบสําคัญ 8 ส่ วนดังนี
- คําแนะนําการใช้
- หลักการและเหตุผล
- จุดประสงค์การเรี ยนรู ้
- สาระสําคัญ
- แบบทดสอบก่อนเรี ยน
- กิจกรรมการเรี ยนการสอน
- แบบทดสอบหลังเรี ยน
2. ทําแบบทดสอบก่อนเรี ยน 8 ข้อ โดยทําลงในกระดาษคําตอบทีครู แจกให้
3. ดําเนินตามกิจกรรมการเรี ยนการสอน อ่านใบความรู ้แต่ละกิจกรรม หากไม่เข้าใจให้
ถามครู ผสอนหรื ออ่านซําอีกครังหนึง เมือเข้าใจดีแล้วจึงทําการศึกษาเนือหาต่อไปได้
ู้
4. ทําแบบฝึ กหัดให้สมบูรณ์ถูกต้อง
5. ทําแบบทดสอบหลังเรี ยน 8 ข้อ โดยกลับไปทําข้อสอบชุดเดียวกับข้อสอบก่อนเรี ยน
อีกครังหนึงในกระดาษคําตอบทีครู แจกให้
6. เกณฑ์การผ่านบทเรี ยนนี ต้องทําแบบรายงานการทดลองและแบบทดสอบหลังเรี ยน
ได้ร้อยละ 80/80 (80 คะแนนแรกจากแบบฝึ กหัด 80 คะแนนหลังจากสอบหลังเรี ยน)
ชั นหน้ าตัดดิน
หลักการและเหตุผล
ดินเป็ นทรัพยากรทีเป็ นแหล่งกําเนิดทรัพยากรธรรมชาติอืนๆ เช่นการเจริ ญเติบโตของพืช
่
เป็ นแหล่งกําเนิ ดของแร่ ธาตุ เป็ นแหล่งทีอยูอาศัยของมนุษย์และสัตว์ รวมทังปั จจัยทีจําเป็ นต่อการ
ดํารงชีวิตของมนุษย์
จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. อธิ บายลักษณะของชันหน้าตัดดิน
2. จําแนกลักษณะของดินชันบนและดินชันล่าง
3. ทดลองความเป็ นกรด-เบสของดิน
4. ทดลองความพรุ นของดิน
สาระสํ าคัญ
่ ั
่ ั
ดินชันบนอยูชนนอกสุ ดของเปลือกโลก มีฮิวมัสซึ งเป็ นอินทรี ยวัตถุ ดินชันล่างอยูถดจาก
ดินชันบน มีอินทรี ยวัตถุตา ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก เราจึงควรเลือกใช้ดินให้เหมาะสมกับการ
ํ
ปลูกพืช
แบบทดสอบก่ อนเรียนหลังเรียน
เรื&อง ชั นหน้ าตัดดิน
…………………………………………
คําชี*แจง ให้นกเรี ยนกาเครื องหมาย (X) ลงในกระดาษคําตอบทีนักเรี ยนเห็นว่าถูกต้องทีสุ ด
ั
1. ดินชนิดต่างๆ มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เท่ากัน ข้อใดเรี ยงเส้นผ่านศูนย์กลางของเม็ดดินจากน้อย
ไปหามาก
ก. ดินเหนียว ดินร่ วน ดินทราย
ข. ดินร่ วน ดินเหนียว ดินทราย
ค. ดินร่ วน ดินทราย ดินเหนียว
ง. ดินทราย ดินร่ วน ดินเหนียว
2. ดินชนิดใดมีการถ่ายเทอากาศน้อยทีสุ ด
ก. ดินร่ วน
ข. ดินเหนียว
ค. ดินทราย
ง. ดินร่ วนปนทราย
3. ดินชันบนมักจะมีสีใด เพราะเหตุใด
ก. สี ดามีฮิวมัส
ํ
ข. สี เทามีขีเถ้า
ค. สี แดงมีทองแดง
ง. มีแดงมีออกไซด์ของเหล็ก
่ ั
่
4. สี ของดินขึนอยูกบอะไรทีอยูในดิน
ก. ความพรุ นของดิน
ข. แหล่งแร่ ในดิน
ค. ปริ มาณนําในดิน
ง. อินทรี ยวัตถุ
5. ลักษณะของดินทีเหมาะแก่การเพาะปลูก ควรเป็ นอย่างไร
ก. สี เข้มเกือบดํา ระบายนําได้ดี
ข. มีเนือหยาบ พรุ นมาก มีฮิวมัสน้อย
ค. มีเนือหยาบ พรุ นมาก มีฮิวมัสมาก
ง. มีเนือละเอียด อุมนําดี มีฮิวมัสมาก
้
6. ข้าวต้องการดิน pH = 5.5-6.0 แสดงว่าข้าวชอบดินอย่างไร
ก. เป็ นกรด
ข. เป็ นด่าง
ค. เป็ นเบส
ง. เป็ นกลาง
7. ดิน A มี pH = 4 ดิน B มี pH = 5 ดิน C มี pH = 8 ข้อสรุ ปใดถูกต้อง
ก. ดินทัง 3 ชนิดเป็ นกรด
ข. ดิน A และ B เป็ นกรด ดิน C เป็ นเบส
ค. ดิน A และ B เป็ นกรด ดิน C เป็ นกลาง
ง. ไม่มีขอใดถูกต้อง
้
8. ในบริ เวณทีมีซากพืชซากสัตว์ ผุพงอยูในดิน ดินนันมีลกษณะอย่างไร
ั ่
ั
ก. เป็ นกรด
ข. เป็ นด่าง
ค. เป็ นเบส
ง. เป็ นกลาง
กิจกรรม
เรือง ความพรุ นของดิน
…………………………………….
จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. ตังสมมติฐานจากปั ญหาทีกําหนดให้ได้
2. ทดลองและสรุ ปผลเรื องความพรุ นของดินได้ถูกต้อง
คําถามก่ อนทํากิจกรรม
1. การทดลองนีมีวตถุประสงค์อะไร…………………………………………………….….
ั
2. นักเรี ยนคิดว่าดินร่ วนและดินเหนียวมีความพรุ นเท่ากันหรื อไม่
…………………………………………………………………………………………...…………..
3. นําจะไหลผ่านดินชนิดใดได้เร็ วกว่ากัน
…………………………………………………………………………………………...…………..
กิจกรรม
วิธีทา
ํ
1. นําดินทีต้องการทดสอบมาตากให้แห้ง แล้วทุบให้ละเอียด
2. ใช้ผาตากกรองหุ มกระป๋ องด้านล่างซึ งเจาะรู ไว้ แล้วยกวางบนขวดปากกว้าง
้
้
3. เทดินเหนียวและดินร่ วนลงในกระป๋ องแต่ละใบ ใบละครึ งกระป๋ อง เติมนําลงในกระป๋ อง
ละ 10 cm พร้อมๆ กัน
4. เปรี ยบเทียบลักษณะการไหลของนําทีไหลผ่านดินในกระป๋ องทังสอง

รู ป แสดงการทดสอบความพรุ นของดินร่ วนและดินเหนียว
บันทึกผล
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
คําถามหลังกิจกรรม
1. เพราะเหตุใดเวลาปลูกพืชจึงต้องพรวนดิน ถ้าไม่พรวนจะเป็ นอย่างไร
………………………………………………………………………………………………………
…………………………..…………………………………………………………………...………
2. ดินชนิดใดเหมาะในการปลูกข้าวมากทีสุ ด เพราะเหตุใด………………………………...
………………………………………………………………………………………………………
3. ถ้าในดินไม่มีอากาศจะมีผลอย่างไรต่อพืช
………………………………………………………………………………………………………
4. ถ้าใช้ความละเอียดของเนือดินเป็ นเกณฑ์จะแบ่งดินได้กีชนิด อะไรบ้าง
…………………………..…………………………………………………………………..………
………………………………………………………………………………………………………
5. จงบอกสถานะของสารประกอบในดิน
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
สรุ ปผลการทดลอง
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
กิจกรรม
เรือง การหาค่ า pH ของดิน
…………………………………….
จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. ตังสมมติฐานจากปั ญหาทีกําหนดให้ได้
2. ทดลองและสรุ ปผลเรื องกรด-เบสของดินได้ถูกต้อง
3. ทดสอบค่าความเป็ นกรด-เบสของดินในทีต่างๆ ได้
4. บอกสาเหตุทีทําให้ค่าความเป็ นกรด-เบสของดินในแต่ละแห่งแตกต่างกันได้
คําถามก่ อนทํากิจกรรม
1. การทดลองนีมีวตถุประสงค์อะไร.................................................................................
ั
2. นักเรี ยนคิดว่าดินจากทีสองแห่งมีค่าความเป็ นกรด-เบส (ค่า pH) เท่ากันหรื อไม่
........................................................................................................................................................
3. เมือใช้แท่งแก้วจุ่มของเหลวในกล่องพลาสติกหมายเลข 1 มาแตะกับกระดาษยูนิเวอร์
แซลอินดิเคเตอร์ แล้วจะได้สีอะไร..................................................................................................
ตารางบันทึกผลกิจกรรม
ตาราง ผลการทดสอบความเป็ นกรด-เบสของดินจากแหล่งต่างๆ โดยใช้กระดาษลิตมัสและกระดาษ
ยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์
ตัวอย่างดิน
กระดาษลิตมัส
กระดาษยูนิเวอน์แซลอินดิเคตอร์
สี แดง
สี นาเงิน
ํ
หมายเลข 1
…………………… ……………………... …………………………………….
หมายเลข 2 ……………………. ……………………… ………………………………………
คําถามหลังกิจกรรม
1. ค่า pH ของดินจากทีสองแห่งเป็ นอย่างไร ตรงตามทีคาดคะเนไว้หรื อไม่
………………………………………………………………………………………………………
2. กระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์ ทีแตะกับของเหลวในกล่องหมายเลข 1 ให้สีตรงตามที
คาดคะเนไว้หรื อไม่
………………………………………………………………………………………………………
3. นอกจากค่า pH ของดินแล้ว ปั จจัยทีสําคัญในการเจริ ญเติบโตของพืชมีอะไรอีกบ้าง
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
4. อะไรเป็ นสาเหตุทีทําให้ดินมีสภาพเป็ นกรด
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
5. ถ้าดินมีสภาพเป็ นกรด นักเรี ยนจะทําอย่างไรเพือลดความเป็ นกรดของดิน
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
6. ถ้าดินมีสภาพเป็ นเบส นักเรี ยนจะทําอย่างไรเพือเพิมความเป็ นกรดของดิน
………………………………………………………………………………………………………
สรุ ปผลการทดลอง
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
ใบความรู้
เรือง ชั* นหน้ าตัดดิน
……………………………………………..
ดินจัดเป็ นสารอนินทรี ยทีเกิดตามธรรมชาติ เกิดจากการสลายตัวของหิ น และแร่ ธาตุต่าง ๆ
์
เป็ นชิ นเล็ก ๆ รวมทังสารอินทรี ย ์ เช่น ใบไม้ ซากพืช ซากสัตว์ เมือเกิดการย่อยสลายโดยแมลงและ
แบคทีเรี ย ทําให้ดินมีสีดา เรี ยกว่า ฮิวมัส (humus) ซึ งอุดมไปด้วยแร่ ธาตุทีพืชต้องการในการ
ํ
เจริ ญเติบโต

ขันที 1
หิ นทีผุพงโดยนํา
ั
และแสงแดด
หิ นชันล่างสุ ด

ขันที 1 การผุพงเป็ นสาเหตุทาให้ชน
ั
ํ ั
หิ นแตกเป็ นหิ นก้อนใหญ่ๆ หิ นชันนี
เมือถูกแสงแดดและฝนตกก็จะ
แตกหักและผุพงเป็ นชินเล็กๆ ต่อไป
ั

ขันที 2
ฮิวมัส

ขันที 2 พืชเจริ ญงอกงามตามบริ เวณ
รอยแตกของหิ น แมลงเล็กๆ และ
หิ นทีผุพนและต่อไป
ั
จะเป็ นดินชันบน สั ตว์อืนๆ เข้า มาอาศัย ตามบริ เวณ
รอยแตก เมื อพืช และสั ตว์ตาย จะ
หิ นชันล่างสุ ด
สลาย ตัวไปเป็ นฮิวมัส

ขันที 3
ขันที 3 สัตว์เล็กๆ ในดินจะเคลือนที
ฮิวมัส
ไปมา ทําให้ฮิวมัสผสมกับเศษหิ น
ดินชันบน
หิ นทีผุพนและกลายจะ
ั
และแร่ กลายเป็ นดินทีอุดมสมบูรณ์
เป็ นดินชันล่าง
หิ นชันล่างสุ ด

เรี ยกว่า ดินชันบน
ดินแบ่งตามลักษณะและองค์ประกอบของดิน ได้ 2 ประเภท ดังนี
่ ั
1) ดินชันบน อยูชนนอกสุ ดของเปลือกโลก มีความหนาของชันดินประมาณ 6-12 นิว
ลักษณะสี เข้ม เม็ดดิ นมีขนาดใหญ่ มีฮิวมัสซึ งเป็ นอินทรี ยวัตถุ ทีเกิ ดจาการย่อยสลายของซากพืช
่
ซากสัตว์ ซึ งมีธาตุอาหารทีพืชต้องการเป็ นองค์ประกอบอยูมาก จึงเหมาะในการปลูกพืช
2) ดิ นชันล่าง อยู่ถดจากดิ นชันบนลงมา ลักษณะของดิ นมีสีอ่อน เนื อดิ นค่อนข้างแข็ง
ั
มีอินทรี ยวัตถุตา จึงมีธาตุอาหารพืชน้อย ไม่เหมาะสําหรับการปลูกพืช
ํ
ความพรุ นของดิน
ความพรุ นของดิ น หมายถึ ง ส่ วนที เป็ นช่ องว่า งทังหมดในดิ น ดิ นที มี ค วามพรุ นมาก
หมายถึง มีช่องว่างในดินนันมาก ช่องว่างในดินเป็ นทีสําหรับนําและอากาศผ่านไปได้ ดินชันบน
มีความพรุ นมากกว่าดิ นชันล่าง เมือปลูกพืชรากพืชสามารถรับแร่ ธาตุ และอากาศจากดิ นชันบน
ได้ดี ทําให้พืชเจริ ญเติบโตได้อย่างเต็มที
ความเป็ นกรด-เบสของดิน
่
ความเป็ นกรด-เบสของดิน หมายถึง ปริ มาณของไฮโดรเจนทีมีอยูในดิน ความเป็ นกรดเบส กําหนดค่าเป็ นตัวเลขตังแต่ 1-14 เรี ยกค่าตัวเลขนีว่าค่า pH โดยจัดว่า
สารละลายใดทีมีค่า pH น้อยกว่า 7 สารละลายนันมีสมบัติเป็ นกรด
สารละลายใดทีมีค่า pH มากกว่า 7 สารละลายนันมีสมบัติเป็ นเบส
สารละลายใดทีมีค่า pH เท่ากับ 7 สารละลายนันมีสมบัติเป็ นกลาง
วิธีทดสอบความเป็ นกรด-เบส
มีวธีทดสอบได้ ดังนี*
ิ
1. ใช้กระดาษลิตมัสสี นาเงินหรื อสี แดงโดยนํากระดาษลิตมัสทดสอบกับสารทีสงสัย ถ้าเป็ น
ํ
กรดจะเปลียนกระดาษลิตมัสสี นาเงินเป็ นสี แดง และถ้าเป็ นเบสจะเปลียนกระดาษลิตมัสสี แดงเป็ นสี
ํ
นําเงิน
2. ใช้กระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์ โดยนํากระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์ ทดสอบกับ
สารแล้วนําไปเทียบกับแผ่นสี ทีข้างกล่อง
3. ใช้นายาตรวจสอบความเป็ นกรด-เบส เช่น สารละลายบรอมไทมอลบลูจะให้สีฟ้าอ่อน
ํ
ในสารละลายทีมี pH มากกว่า 7 และให้สีเหลืองในสารละลายทีมี pH น้อยกว่า 7
ปั จจัยหรื อสาเหตุทีทําให้ ดินเป็ นกรด ได้แก่ การเน่ าเปื อยของสารอินทรี ยในดิน การใส่
์
ปุ๋ ยเคมีบางชนิด สารทีปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมบางประเภท
ปัจจัยทีทําให้ ดินเป็ นเบส ได้แก่ การใส่ ปูนขาว (แคลเซี ยมไฮดรอกไซด์)
ความเป็ นกรด-เบาของดินนัน มีผลต่อการเจริ ญเติบโตของพืช พืชแต่ละชนิดเจริ ญเติบโต
ได้ดีในดินทีมีค่า pH ทีเหมาะแก่พืชนันๆ ถ้าสภาพ pH ไม่เหมาะสมทําให้พืชบางชนิดไม่สามารถ
ดูดซึ มแร่ ธาตุทีต้องการทีมีใน ดินไปใช้ประโยชน์ได้
การแก้ ไขปรับปรุ งดิน
ดินเป็ นกรด แก้ไขได้โดยการเติมปูนขาว หรื อดินมาร์ ล
ดินเป็ นเบส แก้ไขได้โดยการเติมแอมโมเนียมซัลเฟต หรื อผงกํามะถัน
ดินมาร์ ล คือ ดินทีได้จากการสลายตัวของหิ นปูน ซึ งมีแคลเซี ยมคาร์ บอนเนตเป็ น
องค์ประกอบ ดินมาร์ ลมีมากในจังหวัดสระบุรี ลพบุรี และนครสวรรค์
เฉลย กิจกรรม
เรือง ความพรุ นของดิน
…………………………………….
จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. ตังสมมติฐานจากปั ญหาทีกําหนดให้ได้
2. ทดลองและสรุ ปผลเรื องความพรุ นของดินได้ถูกต้อง
คําถามก่ อนทํากิจกรรม
1. การทดลองนีมีวตถุประสงค์อะไร เพือตรวจสอบความพรุ นของดินร่ วนและดินเหนี ยว
ั
2. นักเรี ยนคิดว่าดินร่ วนและดินเหนียวมีความพรุ นเท่ากันหรื อไม่ ไม่เท่ากัน
3. นําจะไหลผ่านดินชนิดใดได้เร็ วกว่ากัน นําจะไหลผ่านในดินร่ วนได้เร็ วกว่าดินเหนียว
กิจกรรม
วิธีทา
ํ
1. นําดินทีต้องการทดสอบมาตากให้แห้ง แล้วทุบให้ละเอียด
2. ใช้ผาตากกรองหุ มกระป๋ องด้านล่างซึ งเจาะรู ไว้ แล้วยกวางบนขวดปากกว้าง
้
้
3. เทดินเหนียวและดินร่ วนลงในกระป๋ องแต่ละใบ ใบละครึ งกระป๋ อง เติมนําลงในกระป๋ อง
ละ 10 cm พร้อมๆ กัน
4. เปรี ยบเทียบลักษณะการไหลของนําทีไหลผ่านดินในกระป๋ องทังสอง

รู ป แสดงการทดสอบความพรุ นของดินร่ วนและดินเหนียว
บันทึกผล
นําจะไหลผ่านในดินร่ วนได้เร็ วกว่าดินเหนียว
คําถามหลังกิจกรรม
1. เพราะเหตุใดเวลาปลูกพืชจึงต้องพรวนดิน ถ้าไม่พรวนจะเป็ นอย่างไร เวลาปลูกพืช ต้อง
พรวนดินเพือทําให้ดินมีช่องว่างระหว่างเม็ดดินมาก อากาศและนําผ่านสะดวกทําให้รากพืช ชอนไช
ได้ดี
2. ดินชนิดใดเหมาะในการปลูกข้าวมากทีสุ ด เพราะเหตุใด ดินเหนียว เพราะอุมนําได้ดี
้
เนืองจากข้าวต้องการนํามาก
3. ถ้าในดินไม่มีอากาศจะมีผลอย่างไรต่อพืช พืชจะไม่เจริ ญเติบโต
4. ถ้าใช้ความละเอียดของเนือดินเป็ นเกณฑ์จะแบ่งดินได้กีชนิด อะไรบ้าง 2 ชนิด คือ ดิน
ละเอียดกับดินหยาบ
5. จงบอกสถานะของสารประกอบในดิน ของแข็ง ของเหลว และก๊าซ
สรุ ปผลการทดลอง
ความพรุ นของดินมีผลต่อการผ่านของนํา นําจะผ่านดินร่ วนได้เร็ วกว่าดินเหนียว
เฉลยกิจกรรม
เรือง การหาค่ า pH ของดิน
…………………………………….
จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. ตังสมมติฐานจากปั ญหาทีกําหนดให้ได้
2. ทดลองและสรุ ปผลเรื องกรด-เบสของดินได้ถูกต้อง
3. ทดสอบค่าความเป็ นกรด-เบสของดินในทีต่างๆ ได้
4. บอกสาเหตุทีทําให้ค่าความเป็ นกรด-เบสของดินในแต่ละแห่งแตกต่างกันได้
คําถามก่ อนทํากิจกรรม
1. การทดลองนีมีวตถุประสงค์อะไร เพือตรวจสอบความเป็ นกรด-เบสของดิน
ั
2. นักเรี ยนคิดว่าดินจากทีสองแห่งมีค่าความเป็ นกรด-เบส (ค่า pH) เท่ากันหรื อไม่ ไม่
เท่ากัน
3. เมือใช้แท่งแก้วจุ่มของเหลวในกล่องพลาสติกหมายเลข 1 มาแตะกับกระดาษยูนิเวอร์
แซลอินดิเคเตอร์ แล้วจะได้สีอะไร สี เหลือง
ตารางบันทึกผลกิจกรรม
ตาราง ผลการทดสอบความเป็ นกรด-เบสของดินจากแหล่งต่างๆ โดยใช้กระดาษลิตมัส และ
กระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์
กระดาษลิตมัส
ตัวอย่างดิน
กระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคตอร์
สี แดง
สี นาเงิน
ํ
หมายเลข 1 ไม่เปลียนสี
ไม่เปลียน
สี เหลือง
หมายเลข 2 ไม่เปลียนสี
เปลียนเป็ นสี แดง
สี ส้ม
คําถามหลังกิจกรรม
1. ค่า pH ของดินจากทีสองแห่งเป็ นอย่างไร ตรงตามทีคาดคะเนไว้หรื อไม่ ค่า pH ของดิน
จากทีสองแห่งไม่เท่ากัน ตรงตามทีคาดคะเนไว้
2. กระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์ ทีแตะกับของเหลวในกล่องหมายเลข 1 ให้สีตรงตามที
คาดคะเนไว้หรื อไม่ ให้สีเหลือง ตรงตามทีคาดคะเนไว้
4. นอกจากค่า pH ของดินแล้ว ปั จจัยทีสําคัญในการเจริ ญเติบโตของพืชมีอะไรอีกบ้าง แร่
ธาตุในดิน และนํา
5. อะไรเป็ นสาเหตุทีทําให้ดินมีสภาพเป็ นกรด ปุ๋ ยเคมี สารทีปล่อยจากโรงงาน
อุตสาหกรรมบางประเภท การเน่าเปื อยของสารอินทรี ยในดิน
์
6. ถ้าดินมีสภาพเป็ นกรด นักเรี ยนจะทําอย่างไรเพือลดความเป็ นกรดของดิน เติมปูนขาว
หรื อดินมาร์ ล
7. ถ้าดินมีสภาพเป็ นเบส นักเรี ยนจะทําอย่างไรเพือเพิมความเป็ นกรดของดิน เติม
สารอินทรี ยทีเน่าเปื อยหรื อฮิวมัสลงไปในดิน หรื อใส่ ปุ๋ยเคมี
์
สรุ ปผลการทดลอง
ดินจากทีต่างกันจะมีสภาพเป็ นกรด-เบสต่างกัน
เฉลยแบบทดสอบก่ อนเรี ยน-หลังเรียน
เรื&อง ชั นหน้ าตัดดิน
…………………………………………
1. ก
2. ข
3. ก
4. ง
5. ค
6. ก
7. ข
8. ก
กระดาษคําตอบ บทเรียนโมดูล
เรือง ชั* นหน้ าตัดดิน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------แบบทดสอบก่ อนเรียนหลังเรี ยน
ข้ อ
1
2
3
4
5
6
7
8
รวม

ก่ อนเรียน
ก
ข

ค

ง

ข้ อ
1
2
3
4
5
6
7
8
รวม

หลังเรียน
ก
ข

ค

ง
แบบรายงานการทดลอง เรื& อง ความพรุ นของดิน
…………………………………….
กลุ่มที........................ชั* นมัธยมศึกษาปี ที 2/...........
สมาชิ กในกลุ่ม 1..........................................................................................
2..........................................................................................
3..........................................................................................
4..........................................................................................
5..........................................................................................
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------คําถามก่ อนทํากิจกรรม
1. การทดลองนีมีวตถุประสงค์อะไร……………………………………………………….
ั
2. นักเรี ยนคิดว่าดินดินร่ วนและดินเหนียวมีความพรุ นเท่ากันหรื อไม่.....…………………..
3. นําจะไหลผ่านดินชนิดใดได้เร็ วกว่ากัน………………………………………………….
บันทึกผล
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
คําถามหลังกิจกรรม
1. เพราะเหตุใดเวลาปลูกพืชจึงต้องพรวนดิน ถ้าไม่พรวนจะเป็ นอย่างไร
………………………………………………………………………………………………..……
………………………………………………………………………………………………..……
2. ดินชนิดใดเหมาะในการปลูกข้าวมากทีสุ ด เพราะเหตุใด.................................................
3. ถ้าในดินไม่มีอากาศจะมีผลอย่างไรต่อพืช........................................................................
4. ถ้าใช้ความละเอียดของเนือดินเป็ นเกณฑ์จะแบ่งดินได้กีชนิด อะไรบ้าง ……………….
…………………………..…………………………………………………………………………..
5. จงบอกสถานะของสารประกอบในดิน………………………………………………….
สรุ ปผลการทดลอง
…………………………..…………………………………………………………………………..
…………………………..…………………………………………………………………………..
แบบรายงานการทดลอง เรื อง การหาค่ า pH ของดิน
…………………………………….
กลุ่มที........................ชั* นมัธยมศึกษาปี ที 2/...........
สมาชิ กในกลุ่ม 1..........................................................................................
2..........................................................................................
3..........................................................................................
4..........................................................................................
5..........................................................................................
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------คําถามก่ อนทํากิจกรรม
1. การทดลองนีมีวตถุประสงค์อะไร.....................................................................................
ั
2. นักเรี ยนคิดว่าดินจากทีสองแห่งมีค่าความเป็ นกรด-เบส (ค่า pH) เท่ากันหรื อไม่
................................................................................................................................................
3. เมือใช้แท่งแก้วจุ่มของเหลวในกล่องพลาสติกหมายเลข 1 มาแตะกับกระดาษยูนิเวอร์
แซลอินดิเคเตอร์ แล้วจะได้สีอะไร.......................................................................................................
ตารางบันทึกผลกิจกรรม
ตาราง ผลการทดสอบความเป็ นกรด-เบสของดินจากแหล่งต่างๆ โดยใช้กระดาษลิตมัส และ
กระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์
ตัวอย่างดิน
กระดาษลิตมัส
กระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคตอร์
สี แดง
สี นาเงิน
ํ
หมายเลข 1
…………………… ……………………... ………………………………………
หมายเลข 2 ……………………. ……………………… ………………………………………
คําถามหลังกิจกรรม
1. ค่า pH ของดินจากทีสองแห่งเป็ นอย่างไร ตรงตามทีคาดคะเนไว้หรื อไม่
………………………………………………………………………………………………………
2. กระดาษยูนิเวอร์ แซล์อินดิเคเตอร์ ทีแตะกับของเหลวในกล่องหมายเลข 1 ให้สีตรงตามที
คาดคะเนไว้หรื อไม่ ………………………………………………………………………………..
3. นอกจากค่า pH ของดินแล้ว ปั จจัยทีสําคัญในการเจริ ญเติบโตของพืชมีอะไรอีกบ้าง
………….……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………….
4. อะไรเป็ นสาเหตุทีทําให้ดินมีสภาพเป็ นกรด......………………………………………...
………………………………………………………………………………………………………
5. ถ้าดินมีสภาพเป็ นกรด นักเรี ยนจะทําอย่างไรเพือลดความเป็ นกรดของดิน..……………
………………………………………………………………………………………………………
6. ถ้าดินมีสภาพเป็ นเบส นักเรี ยนจะทําอย่างไรเพือเพิมความเป็ นกรดของดิน……………..
………………………………………………………………………………………………………
สรุ ปผลการทดลอง
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
แบบประเมินรายงานการทดลอง
เรือง.......................................................................................
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------กลุ่มที
.............................. ชั* นมัธยมศึกษาปี ที 2/..........
สมาชิ กในกลุ่ม 1. ...........................................................................................
2. ...........................................................................................
3. ...........................................................................................
4. ...........................................................................................
5. ...........................................................................................
ที

รายการประเมิน

1.

การตังสมมุติฐาน

3.

การแปลผลการทดลอง

4.

การสรุ ปผลการทดลอง

5.

0 (ปรับปรุ ง)

การเขียนจุดประสงค์การทดลอง

2.

2 (ดี)

ระดับคุณภาพ
1 (พอใช้ )

ความสมบูรณ์ของชิ นงาน
รวม
คะแนน

คะแนน
10

เกณฑ์ การให้ คะแนน
ได้ 2 คะแนน เมือมีความถูกต้อง สมบูรณ์ ชัดเจน หรื อบกพร่ องเพียงเล็กน้อย
ได้ 1 คะแนน เมือมีขอบกพร่ องไม่เกินครึ ง
้
ได้ 0 คะแนน เมือมีขอบกพร่ องมากเกินครึ งหนึงหรื อไม่ได้เขียน
้
เกณฑ์ คณภาพ
ุ
ช่ วงคะแนน
ระดับคุณภาพ
0-4
ปรับปรุ ง
5-7
พอใช้
8-10
ดี
แบบประเมินแผนผังมโนมติ
เรือง..............................................................
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------คําชี*แจง 1. นักเรี ยนประเมินผลงานตามความเป็ นจริ ง โดยพิจารณาจากเกณฑ์การประเมิน
แล้วทําเครื องหมาย √ ลงในช่องระดับคะแนนทีนักเรี ยนต้องการแล้วรวมคะแนนทีได้
2. ให้ผประเมินทําเครื องหมาย √ ลงในช่อง
ู้
ผูประเมิน
้
ครู
เพือน
ตนเอง
ระดับคะแนน
ที
รายการประเมิน
คะแนนทีได้
5 4 3 2 1
1 ความถูกต้องตามหลักวิชา
2 ความเรี ยบร้อย สมบูรณ์ของผลงาน
3 คุณลักษณะด้านความรับผิดชอบ
4 คุณลักษณะความระเอียดรอบคอบ
ในการทํางาน
รวมคะแนนทีได้
หมายเหตุ ให้นาระดับคะแนนหารด้วย 2 คะแนนทีได้จะเป็ นระดับคุณภาพ การทําแผนผัง
ํ
ความคิดของนักเรี ยน
คะแนน 9-10
ระดับคุณภาพดีมาก
คะแนน 7-8
ระดับคุณภาพดี
คะแนน 5-6
ระดับคุณภาพปานกลาง
คะแนน 3-4
ระดับคุณภาพอ่อน
คะแนน 1-2
ระดับคุณภาพต้องปรับปรุ ง
ผลการประเมิน 1. ครู ประเมิน
ดีมาก
ดี
ปานกลาง
อ่อน
ปรับปรุ ง
2. เพือนประเมิน
ดีมาก
ดี
ปานกลาง
อ่อน
ปรับปรุ ง
3. ตนเองประเมิน
ดีมาก
ดี
ปานกลาง
อ่อน
ปรับปรุ ง
สรุ ปผลการประเมิน
ดีมาก
ดี
ปานกลาง
อ่อน
ปรับปรุ ง
ลงชือ.....................................................ครู ผประเมิน
ู้
ลงชือ.....................................................เพือนผูประเมิน
้
ลงชือ.....................................................ตนเองผูประเมิน
้
เกณฑ์ การประเมิน แผนผังมโนมติ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------1. ความถูกต้ องตามหลักวิชา (5 คะแนน)
- หัวข้อย่อยครอบคลุมเรื องทีกําหนด แต่ละข้อย่อยมีขอมูลมากและเชือมโยงได้ถูกต้อง
้
(5 คะแนน)
- หัวข้อย่อยครอบคลุมเนื อหา มีขอมูลมากน้อยต่างกันในแต่ละข้อย่อย และเชื อมโยงได้
้
ถูกต้อง (4 คะแนน)
- หัวข้อย่อยไม่ครบตามเนือหา มีขอมูลน้อยและถูกต้องบ้าง (3 คะแนน)
้
- หัวข้อย่อยไม่ครบตามเนือหา มีขอมูลน้อยถูกต้องบ้าง (2 คะแนน)
้
- ขาดหัวข้อย่อยทีสําคัญของเรื อง มีขอมูลน้อยถูกต้องบ้าง (1 คะแนน)
้
2. ความเรียบร้ อยสมบูรณ์ ของผลงาน (5 คะแนน)
- เขียนชือ สกุล เลขที ตัวหนังสื ออ่านง่าย ไม่มีรอยลบ ขีดฆ่า ระบายสี สวยงาม (5 คะแนน)
- เขียนชือ สกุล เลขที ตัวหนังสื ออ่านง่าย ไม่มีรอยลบ ขีดฆ่า มีการระบายสี (4 คะแนน)
- ไม่ได้เขียนชือ สกุล เลขที ตัวหนังสื ออ่านง่าย มีรอยลบ ขีดฆ่า 1-2 แห่ ง ไม่ระบายสี
หรื อระบายสี ไม่เรี ยบร้อย (3 คะแนน)
- ไม่ได้เขียนชือ สกุล เลขที ตัวหนังสื ออ่านยาก มีรอยลบ ขีดฆ่า 2-3 แห่ง มีการระบาย
สี ไม่ระบายสี หรื อระบายสี แต่ไม่เรี ยบร้อย (2 คะแนน)
- ไม่ได้เขี ยนชื อ สกุล เลขที ตัวหนังสื ออ่านยาก มีรอยลบ ขี ดฆ่ามากกว่า 3 แห่ ง
ไม่ระบายสี หรื อระบายสี แต่ไม่เรี ยบร้อย (1 คะแนน)
3. เกณฑ์ การให้ คะแนน : คุณลักษณะ ความรับผิดชอบ ความละเอียดรอบคอบ ขยัน อดทน
(5 คะแนน)
- เอาใจใส่ ต่อการทํางาน ส่ งงานก่อนเวลาหรื อตามเวลาทีกําหนด ผลงานมีความถูกต้อง
เรี ยบร้อย สมบูรณ์ สามารถแก้ปัญหาในการทํางานได้ และทํางานโดยครู ไม่ตองเตือน (5 คะแนน)
้
- เอาใจใส่ ต่อการทํางาน ส่ งงานก่อนเวลาหรื อตามเวลาทีกําหนด ผลงานมีความถูกต้อง
เรี ยบร้อย สมบูรณ์ เมือมีปัญหาปรึ กษาครู เป็ นบางครัง (4 คะแนน)
- เอาใจใส่ ต่อการทํางาน ส่ งงานก่อนเวลาหรื อตามเวลาทีกําหนด ผลงานมีความถูกต้อง
เรี ย บร้ อ ย สมบู ร ณ์ เมื อมี ปั ญ หาปรึ ก ษาครู เ ป็ นบางครั ง และต้อ งให้ ค รู เ ตื อ นในการทํา งาน
(3 คะแนน)
- ใส่ ใ จต่ อ การทํา งาน ส่ ง งานช้า กว่า กํา หนด ผลงานมี ค วามถู ก ต้อ ง แต่ ไ ม่ เ รี ย บร้ อ ย
สมบูรณ์ เมือมีปัญหาต้องปรึ กษาครู ทุกครัง ต้องให้ครู เตือนในการทํางาน (2 คะแนน)
- ส่ งงานช้ากว่ากําหนดหลายวัน ผลงานผิดบ้างเล็กน้อย แต่ไม่เรี ยบร้อยสมบูรณ์ ไม่สนใจ
แก้ปัญหาทีพบในการทํางาน ต้องให้ครู เตือนให้ทางานบ่อยๆ (1 คะแนน)
ํ
แบบประเมินกระบวนการกลุ่ม
ครังที…………….วันที………………..เดือน…………………………..พ.ศ…………………..
ภาคเรี ยนที…………………..ชัน………………………………………..
สรุ ป

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12

ยอมรับข้ อสรุ ปและผลงานของกลุ่ม
และร่ วมปรับปรุ งงาน

แสดงความคิดเห็นอย่ างมีเหตุผล

เป็ นผู้พูดและผู้ฟังทีดี

ชื อ – สกุล

ทํางานตามหน้ าทีทีได้ รับมอบหมาย

ที

การร่ วมกันวางแผนการทํางาน

รายการประเมิน

รวม
จํานวน
รายการ
ทีผ่ าน
เกณฑ์
ขั*นตํา

ผ่ าน

ไม่
ผ่ าน
13
14
เกณฑ์ การประเมินกระบวนการกลุ่ม
องค์ ประกอบที 1 การร่ วมกันวางแผนการทํางาน
4 หมายถึง ร่ วมมือวางแผนการทํางานทุกขันตอน มีขอเสนอทีเป็ นประโยชน์ในการ
้
วางแผนงานดีมาก
3 หมายถึง ร่ วมมือวางแผนการทํางานเกือบครบทุกขันตอน มีขอเสนอทีเป็ นประโยชน์
้
ในการวางแผนงานดี
2 หมายถึง ร่ วมมือวางแผนการทํางานบ้างแต่ไม่ครบทุกขันตอน มีขอเสนอทีเป็ น
้
ประโยชน์ในการวางแผนงานดีพอสมควร
1 หมายถึง ร่ วมมือวางแผนการทํางานน้อยมาก หรื อไม่มีขอเสนอแนะทีเป็ นประโยชน์
้
ในการวางแผนงาน
องค์ ประกอบที 2 ทํางานตามหน้ าทีทีได้ รับมอบหมาย
4 หมายถึง ทํางานในหน้าทีทีได้รับมอบหมายครบถ้วน เต็มความสามารถ พยายาม
แก้ปัญหาการทํางานด้วยตัวเอง และมุ่งมันจนงานสําเร็ จ
3 หมายถึง ทํางานในหน้าทีทีได้รับมอบหมายครบถ้วน แก้ปัญหาการทํางานด้วยตัวเอง
เป็ นบางครัง และทํางานจนสําเร็ จ
2 หมายถึง ทํางานในหน้าทีทีได้รับมอบหมายบ้างแต่ทาไม่ครบถ้วน แก้ปัญหาการ
ํ
ทํางานด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องได้รับความช่วยเหลือจึงจะทํางานได้สาเร็ จ
ํ
1 หมายถึง รับผิดชอบในงานทีได้รับมอบหมายน้อยมากต้องควบคุมและกระตุนเตือน
้
บ่อย ๆทํางานไม่สาเร็ จ
ํ
องค์ ประกอบที 3 เป็ นผู้พูดและผู้ฟังทีดี
4 หมายถึง มีมารยาทในการพูดการฟัง ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอืนเสมอ
ใช้คาพูดและนําเสี ยงได้เหมาะดีมาก
ํ
3 หมายถึง มีมารยาทในการพูดการฟัง ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอืนบ่อยครัง
ใช้คาพูดและนําเสี ยงได้เหมาะดี
ํ
2 หมายถึง มีมารยาทในการพูดการฟัง ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอืนเป็ นบางครัง
ใช้คาพูดและนําเสี ยงได้เหมาะสมพอใช้
ํ
1 หมายถึง มีมารยาทในการพูดการฟัง ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอืนน้อยมาก
ใช้คาพูดไม่เหมาะสม ทําให้บรรยากาศการทํางานและความรู ้สึกของผูร่วมงานไม่ดี
ํ
้
องค์ ประกอบที 4 แสดงความคิดอย่ างมีเหตุผล
4 หมายถึง ใช้เหตุผลในการแสดงความคิดเห็นได้ดีมาก และมุ่งประโยชน์เพือการพัฒนา
คุณภาพงานเป็ นสําคัญ
3 หมายถึง ใช้เหตุผลในการแสดงความคิดเห็นได้ดี
2 หมายถึง ใช้เหตุผลในการแสดงความคิดเห็นได้บางพอสมควร
้
1 หมายถึง ใช้ความรู ้สึกส่ วนตัวในการแสดงความคิดเห็นมากกว่าใช้เหตุผล
องค์ ประกอบที 5 ยอมรับข้ อสรุ ปและผลงานของกลุ่มและร่ วมปรับปรุ งงาน
4 หมายถึง มีส่วนร่ วมในการสรุ ป ยอมรับข้อสรุ ปของกลุ่มร่ วมรับผิดชอบปรับปรุ ง
แก้ไขงานของกลุ่มทังหมดด้วยความเต็มใจ
3 หมายถึง มีส่วนร่ วมในการสรุ ป ยอมรับข้อสรุ ปของกลุ่มร่ วมรับผิดชอบปรับปรุ ง
แก้ไขงานส่ วนใหญ่ของกลุ่ม
2 หมายถึง มีส่วนร่ วมในการสรุ ป ยอมรับข้อสรุ ปของกลุ่มร่ วมรับผิดชอบปรับปรุ ง
แก้ไขงานของกลุ่มพอสมควร
1 หมายถึง เกือบจะไม่มีส่วนร่ วมในการสรุ ป ยอมรับข้อสรุ ปของกลุ่มร่ วมรับผิดชอบ
ปรับปรุ งแก้ไขงานของกลุ่มเพียงเล็กน้อย
เกณฑ์ การตัดสิ น
ผูเ้ รี ยนต้องมีพฤติกรรมในแต่ละองค์ประกอบอย่างน้อยระดับ 2 ขึนไป จํานวน 3 ใน 5 รายการ
บันทึกผลหลังการจัดการเรี ยนรู้
1. ผลการจัดการเรียนรู้
ผลการจัดการเรี ยนรู ้ แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที 2 เรื อง ชันหน้าตัดดิน โดยใช้ บทเรี ยนโมดูล นักเรี ยนชันมัธยมศึกษาปี ที 2 ปี การศึกษา 2550 จํานวน 3 ห้องเรี ยน รวม 89 คน
มีผลดังนี

ชั* น
ม.2/1
ม.2/2
ม.2/3
รวม

จํานวน
นักเรี ยน
(คน)
29
29
31
89

กิจกรรมและแบบฝึ กหัด
จํานวน 30 คะแนน
คะแนนเฉลีย
ร้ อยละ
26.14
87.16
27.07
93.37
25.48
84.98
26.23
88.50

แบบทดสอบหลังการเรียน
จํานวน 8 คะแนน
คะแนนเฉลีย
ร้ อยละ
7.13
89.20
6.13
79.70
6.51
81.43
6.60
82.44

2. ปัญหาและอุปสรรค
3. ข้ อเสนอแนะและแนวทางแก้ ไข
-

(นางแว่นแก้ว พิงคานนท์)
ครู วิทยฐานะครู ชานาญการ
ํ

Contenu connexe

Tendances

วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำวัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำsavokclash
 
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมแบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมdnavaroj
 
แบบฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ เรื่อง สิ่งรอบตัวเรา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
แบบฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ เรื่อง สิ่งรอบตัวเรา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1แบบฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ เรื่อง สิ่งรอบตัวเรา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
แบบฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ เรื่อง สิ่งรอบตัวเรา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1gchom
 
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)Miss.Yupawan Triratwitcha
 
ใบงานที่ 1 mind map
ใบงานที่ 1 mind mapใบงานที่ 1 mind map
ใบงานที่ 1 mind mapkrupornpana55
 
เงามืด เงามัว
เงามืด เงามัวเงามืด เงามัว
เงามืด เงามัวPacharee Nammon
 
เล่ม 2 สมการเคมี
เล่ม 2 สมการเคมีเล่ม 2 สมการเคมี
เล่ม 2 สมการเคมีPreeyapat Lengrabam
 
แผน Stad
แผน Stadแผน Stad
แผน Stadnangnut
 
บท2ปฏิกิริยาเคมี
บท2ปฏิกิริยาเคมีบท2ปฏิกิริยาเคมี
บท2ปฏิกิริยาเคมีWichai Likitponrak
 
ใบงานที่ 4 ดิน หิน แร่
ใบงานที่ 4 ดิน หิน แร่ใบงานที่ 4 ดิน หิน แร่
ใบงานที่ 4 ดิน หิน แร่website22556
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศKhwankamon Changwiriya
 
ใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลย
ใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลยใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลย
ใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลยthnaporn999
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)dnavaroj
 
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมีใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมีwebsite22556
 
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน หน่วย พลังงานไฟฟ้า
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน  หน่วย พลังงานไฟฟ้าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน  หน่วย พลังงานไฟฟ้า
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน หน่วย พลังงานไฟฟ้าdnavaroj
 
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์สำเร็จ นางสีคุณ
 
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง สารเคมีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน+...
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง สารเคมีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน+...ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง สารเคมีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน+...
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง สารเคมีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน+...Prachoom Rangkasikorn
 

Tendances (20)

วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำวัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำ
 
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมแบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
 
แบบฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ เรื่อง สิ่งรอบตัวเรา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
แบบฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ เรื่อง สิ่งรอบตัวเรา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1แบบฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ เรื่อง สิ่งรอบตัวเรา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
แบบฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ เรื่อง สิ่งรอบตัวเรา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
 
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
 
ใบงานที่ 1 mind map
ใบงานที่ 1 mind mapใบงานที่ 1 mind map
ใบงานที่ 1 mind map
 
เงามืด เงามัว
เงามืด เงามัวเงามืด เงามัว
เงามืด เงามัว
 
เล่ม 2 สมการเคมี
เล่ม 2 สมการเคมีเล่ม 2 สมการเคมี
เล่ม 2 สมการเคมี
 
แผน Stad
แผน Stadแผน Stad
แผน Stad
 
บท2ปฏิกิริยาเคมี
บท2ปฏิกิริยาเคมีบท2ปฏิกิริยาเคมี
บท2ปฏิกิริยาเคมี
 
ใบงานที่ 4 ดิน หิน แร่
ใบงานที่ 4 ดิน หิน แร่ใบงานที่ 4 ดิน หิน แร่
ใบงานที่ 4 ดิน หิน แร่
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศ
 
ใบงานการย่อยอาหาร Version คุณครู
ใบงานการย่อยอาหาร Version คุณครูใบงานการย่อยอาหาร Version คุณครู
ใบงานการย่อยอาหาร Version คุณครู
 
7.ชุดที่ 4 การสังเคราะห์แสง
7.ชุดที่ 4 การสังเคราะห์แสง7.ชุดที่ 4 การสังเคราะห์แสง
7.ชุดที่ 4 การสังเคราะห์แสง
 
ใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลย
ใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลยใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลย
ใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลย
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
 
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมีใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
 
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน หน่วย พลังงานไฟฟ้า
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน  หน่วย พลังงานไฟฟ้าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน  หน่วย พลังงานไฟฟ้า
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน หน่วย พลังงานไฟฟ้า
 
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
 
ดิน
ดินดิน
ดิน
 
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง สารเคมีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน+...
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง สารเคมีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน+...ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง สารเคมีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน+...
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง สารเคมีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน+...
 

En vedette

เรื่องการเขียนจดหมาย
เรื่องการเขียนจดหมายเรื่องการเขียนจดหมาย
เรื่องการเขียนจดหมายjiratt
 
แผนการจัดหน่วยการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
แผนการจัดหน่วยการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ 2 ภาคเรียนที่ 2  ปีการศึกษา 2556แผนการจัดหน่วยการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ 2 ภาคเรียนที่ 2  ปีการศึกษา 2556
แผนการจัดหน่วยการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556dnavaroj
 
บทที่ 2 การฟัง
บทที่ 2 การฟังบทที่ 2 การฟัง
บทที่ 2 การฟังAj.Mallika Phongphaew
 
ใบงาน วัฎจักรหิน
ใบงาน วัฎจักรหินใบงาน วัฎจักรหิน
ใบงาน วัฎจักรหินOrawan Sripho
 
บทที่4โลกของเราม 2
บทที่4โลกของเราม 2บทที่4โลกของเราม 2
บทที่4โลกของเราม 2Wichai Likitponrak
 
สรุปเข้มฯ#7 วิทยาศาสตร์พื้นฐาน
สรุปเข้มฯ#7 วิทยาศาสตร์พื้นฐานสรุปเข้มฯ#7 วิทยาศาสตร์พื้นฐาน
สรุปเข้มฯ#7 วิทยาศาสตร์พื้นฐานPasit Suwanichkul
 
แนวข้อสอบเข้า ม.4 วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมหิดลฯและโรงเรียนจุฬาภรณ์ฯ
แนวข้อสอบเข้า ม.4 วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมหิดลฯและโรงเรียนจุฬาภรณ์ฯ แนวข้อสอบเข้า ม.4 วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมหิดลฯและโรงเรียนจุฬาภรณ์ฯ
แนวข้อสอบเข้า ม.4 วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมหิดลฯและโรงเรียนจุฬาภรณ์ฯ sawed kodnara
 
แนวข้อสอบเข้าสาธิตปทุมวัน ม.4 วิชาคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย
แนวข้อสอบเข้าสาธิตปทุมวัน ม.4 วิชาคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลยแนวข้อสอบเข้าสาธิตปทุมวัน ม.4 วิชาคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย
แนวข้อสอบเข้าสาธิตปทุมวัน ม.4 วิชาคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลยsawed kodnara
 

En vedette (12)

เรื่องการเขียนจดหมาย
เรื่องการเขียนจดหมายเรื่องการเขียนจดหมาย
เรื่องการเขียนจดหมาย
 
Pptติวonetม3
Pptติวonetม3Pptติวonetม3
Pptติวonetม3
 
แผนการจัดหน่วยการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
แผนการจัดหน่วยการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ 2 ภาคเรียนที่ 2  ปีการศึกษา 2556แผนการจัดหน่วยการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ 2 ภาคเรียนที่ 2  ปีการศึกษา 2556
แผนการจัดหน่วยการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
 
บทที่ 2 การฟัง
บทที่ 2 การฟังบทที่ 2 การฟัง
บทที่ 2 การฟัง
 
ใบงาน วัฎจักรหิน
ใบงาน วัฎจักรหินใบงาน วัฎจักรหิน
ใบงาน วัฎจักรหิน
 
บทที่4โลกของเราม 2
บทที่4โลกของเราม 2บทที่4โลกของเราม 2
บทที่4โลกของเราม 2
 
สรุปสูตร คณิตศาสตร์ ม.2
สรุปสูตร คณิตศาสตร์ ม.2สรุปสูตร คณิตศาสตร์ ม.2
สรุปสูตร คณิตศาสตร์ ม.2
 
สรุปเข้มฯ#7 วิทยาศาสตร์พื้นฐาน
สรุปเข้มฯ#7 วิทยาศาสตร์พื้นฐานสรุปเข้มฯ#7 วิทยาศาสตร์พื้นฐาน
สรุปเข้มฯ#7 วิทยาศาสตร์พื้นฐาน
 
สรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.3
สรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.3สรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.3
สรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.3
 
แนวข้อสอบเข้า ม.4 วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมหิดลฯและโรงเรียนจุฬาภรณ์ฯ
แนวข้อสอบเข้า ม.4 วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมหิดลฯและโรงเรียนจุฬาภรณ์ฯ แนวข้อสอบเข้า ม.4 วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมหิดลฯและโรงเรียนจุฬาภรณ์ฯ
แนวข้อสอบเข้า ม.4 วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมหิดลฯและโรงเรียนจุฬาภรณ์ฯ
 
แนวข้อสอบเข้าสาธิตปทุมวัน ม.4 วิชาคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย
แนวข้อสอบเข้าสาธิตปทุมวัน ม.4 วิชาคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลยแนวข้อสอบเข้าสาธิตปทุมวัน ม.4 วิชาคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย
แนวข้อสอบเข้าสาธิตปทุมวัน ม.4 วิชาคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย
 
สรุปวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
สรุปวิทยาศาสตร์พื้นฐานสรุปวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
สรุปวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
 

Similaire à แผนการจัดการเรียนรู้ที่02 เรื่องชั้นหน้าตัดดิน

เล่มที่ 1เผยแพร่
เล่มที่ 1เผยแพร่ เล่มที่ 1เผยแพร่
เล่มที่ 1เผยแพร่ Tay Chaloeykrai
 
หลักสูตรwin win1
หลักสูตรwin win1หลักสูตรwin win1
หลักสูตรwin win1kruthailand
 
กิจกรรมการพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน 4
กิจกรรมการพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน 4กิจกรรมการพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน 4
กิจกรรมการพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน 4supphawan
 
วิชาวิทยาศาสตร์ ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลก...
วิชาวิทยาศาสตร์ ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลก...วิชาวิทยาศาสตร์ ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลก...
วิชาวิทยาศาสตร์ ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลก...Kruthai Kidsdee
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609วรากร หลวงโย
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609วรากร หลวงโย
 
ชุดการเรียน
ชุดการเรียนชุดการเรียน
ชุดการเรียนKay Pakham
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-3 หน่วยที่ 4+443+dltvsocp3+T2 p1 3-u4_soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-3 หน่วยที่ 4+443+dltvsocp3+T2 p1 3-u4_socแผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-3 หน่วยที่ 4+443+dltvsocp3+T2 p1 3-u4_soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-3 หน่วยที่ 4+443+dltvsocp3+T2 p1 3-u4_socPrachoom Rangkasikorn
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-3 หน่วยที่ 4+426+dltvsocp2+T2 p1 3-u4_soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-3 หน่วยที่ 4+426+dltvsocp2+T2 p1 3-u4_socแผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-3 หน่วยที่ 4+426+dltvsocp2+T2 p1 3-u4_soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-3 หน่วยที่ 4+426+dltvsocp2+T2 p1 3-u4_socPrachoom Rangkasikorn
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ประถม 1-3 หน่วย 4+409+dltvsocp1+T2 p1 3-u4_soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ประถม 1-3 หน่วย 4+409+dltvsocp1+T2 p1 3-u4_socแผนการจัดการเรียนรู้ ประถม 1-3 หน่วย 4+409+dltvsocp1+T2 p1 3-u4_soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ประถม 1-3 หน่วย 4+409+dltvsocp1+T2 p1 3-u4_socPrachoom Rangkasikorn
 
หน่วยการเรียนรู้ประถม
หน่วยการเรียนรู้ประถมหน่วยการเรียนรู้ประถม
หน่วยการเรียนรู้ประถมPignoi Chimpong
 
ส่วนหน้าคู่มือการใช้บทเรียนมัลติมีเดีย
ส่วนหน้าคู่มือการใช้บทเรียนมัลติมีเดียส่วนหน้าคู่มือการใช้บทเรียนมัลติมีเดีย
ส่วนหน้าคู่มือการใช้บทเรียนมัลติมีเดียkrupornpana55
 
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...Kobwit Piriyawat
 

Similaire à แผนการจัดการเรียนรู้ที่02 เรื่องชั้นหน้าตัดดิน (20)

เล่มที่ 1เผยแพร่
เล่มที่ 1เผยแพร่ เล่มที่ 1เผยแพร่
เล่มที่ 1เผยแพร่
 
หลักสูตรwin win1
หลักสูตรwin win1หลักสูตรwin win1
หลักสูตรwin win1
 
กิจกรรมการพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน 4
กิจกรรมการพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน 4กิจกรรมการพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน 4
กิจกรรมการพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน 4
 
Din 1
Din 1Din 1
Din 1
 
Astroplan15
Astroplan15Astroplan15
Astroplan15
 
วิชาวิทยาศาสตร์ ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลก...
วิชาวิทยาศาสตร์ ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลก...วิชาวิทยาศาสตร์ ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลก...
วิชาวิทยาศาสตร์ ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลก...
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
 
สังคมม3
สังคมม3สังคมม3
สังคมม3
 
Astroplan10
Astroplan10Astroplan10
Astroplan10
 
ชุดการเรียน
ชุดการเรียนชุดการเรียน
ชุดการเรียน
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-3 หน่วยที่ 4+443+dltvsocp3+T2 p1 3-u4_soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-3 หน่วยที่ 4+443+dltvsocp3+T2 p1 3-u4_socแผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-3 หน่วยที่ 4+443+dltvsocp3+T2 p1 3-u4_soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-3 หน่วยที่ 4+443+dltvsocp3+T2 p1 3-u4_soc
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-3 หน่วยที่ 4+426+dltvsocp2+T2 p1 3-u4_soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-3 หน่วยที่ 4+426+dltvsocp2+T2 p1 3-u4_socแผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-3 หน่วยที่ 4+426+dltvsocp2+T2 p1 3-u4_soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-3 หน่วยที่ 4+426+dltvsocp2+T2 p1 3-u4_soc
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ประถม 1-3 หน่วย 4+409+dltvsocp1+T2 p1 3-u4_soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ประถม 1-3 หน่วย 4+409+dltvsocp1+T2 p1 3-u4_socแผนการจัดการเรียนรู้ ประถม 1-3 หน่วย 4+409+dltvsocp1+T2 p1 3-u4_soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ประถม 1-3 หน่วย 4+409+dltvsocp1+T2 p1 3-u4_soc
 
หน่วยการเรียนรู้ประถม
หน่วยการเรียนรู้ประถมหน่วยการเรียนรู้ประถม
หน่วยการเรียนรู้ประถม
 
Ppp+มิ้น+..
Ppp+มิ้น+..Ppp+มิ้น+..
Ppp+มิ้น+..
 
Plan 2
Plan 2Plan 2
Plan 2
 
ส่วนหน้าคู่มือการใช้บทเรียนมัลติมีเดีย
ส่วนหน้าคู่มือการใช้บทเรียนมัลติมีเดียส่วนหน้าคู่มือการใช้บทเรียนมัลติมีเดีย
ส่วนหน้าคู่มือการใช้บทเรียนมัลติมีเดีย
 
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...
 
ภาษาไทย โควตา51
ภาษาไทย โควตา51ภาษาไทย โควตา51
ภาษาไทย โควตา51
 

แผนการจัดการเรียนรู้ที่02 เรื่องชั้นหน้าตัดดิน

  • 1. แผนการจัดการเรี ยนรู้ ที 2 รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว32101 ชันมัธยมศึกษาปี ที 2 หน่ วยการเรียนรู้ เรือง ชันหน้าตัดดิน เวลา 2 ชัวโมง ผู้สอน นางแว่นแก้ว พิงคานนท์ ตําแหน่ ง ครู วิทยฐานะครู ชานาญการ โรงเรี ยนสุ รินทร์ ภกดี ํ ั สาระที 6: กระบวนการเปลียนแปลงของโลก มาตรฐาน ว 6.1 : ว6.1 เข้าใจกระบวนการต่างๆ ทีเกิดขึนบนผิวโลก และภายในโลก ความสัมพันธ์ของกระบวนการต่างๆ ทีมีผลต่อการเปลียนแปลงภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และ สัณฐานของโลกมีกระบวนการสื บเสาะหาความรู ้และจิตวิทยาศาสตร์ สื อสารสิ งทีเรี ยนรู ้ นํา ความรู ้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐานการเรียนช่ วงชั* น ว 6.1-5 สํารวจตรวจสอบ อภิปรายและอธิ บายเกียวกับชันหน้าตัดดิน สมบัติของดิน การปรับปรุ งคุณภาพของดิน และการนําไปใช้ประโยชน์ สาระที 8 : ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มาตรฐาน ว 8.1 : ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และจิตวิทยาศาสตร์ ในการสื บเสาะหาความรู ้ ่ การแก้ปัญหา รู ้วาปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทีเกิดขึนส่ วนใหญ่มีรูปแบบทีแน่นอน สามารถ ่ อธิ บายและตรวจสอบได้ภายใต้ขอมูลและเครื องมือทีมีอยูในช่วงเวลานันๆ เข้าใจว่าวิทยาศาสตร์ ้ เทคโนโลยี สังคม และสิ งแวดล้อมมีความสัมพันธ์เกียวข้องกัน มาตรฐานการเรียนช่ วงชั* น ว 8.1.1, ว 8.1.2 1. สาระสํ าคัญ ่ ั ดินชันบนเป็ นดินทีอยูชนนอกสุ ดของเปลือกโลก มีฮิวมัสซึ งเป็ นอินทรี ยวัตถุ ดินชันล่าง ่ ั อยูถดจากดินชันบน มีอินทรี ยวัตถุตา ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก เราจึงควรเลือกใช้ดินให้ ํ เหมาะสมกับการปลูกพืช 2. ผลการเรียนรู้ ทคาดหวัง ี อภิปรายเกียวกับชันหน้าตัดของดิน จุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 2.1 อธิ บายลักษณะของชันหน้าตัดดิน 2.2 จําแนกลักษณะของดินชันบนและดินชันล่าง
  • 2. 2.3 ทดลองความเป็ นกรด-เบสของดิน 2.4 ทดลองความพรุ นของดิน 3. สาระการเรี ยนรู้ 3.1 ลักษณะของดินชันบนและดินชันล่าง 3.2 ชันหน้าตัดดิน 3.3 ความเป็ นกรด-เบสของดิน 3.4 ความพรุ นของดิน 4. กิจกรรมการเรี ยนรู้ ขั*นนําเข้ าสู่ บทเรียน 4.1 นักเรี ยนร่ วมกันตอบคําถามคําถามเกียวกับลักษณะของดินชันบนและดินชันล่างดังนี ่ - ซากพืชซากสัตว์ปนอยูในดินชันใด - ในการปลูกพืช ดินชันไหนทีทําให้พืชเจริ ญงอกงาม - สารประกอบในดิน ทําให้ดินมีลกษณะต่างกันอย่างไร ั 4.2 นักเรี ยนจัดกลุ่มการเรี ยน กลุ่มละ 5 คน โดยการจับฉลากทีทําไว้เป็ นฉลากหมายเลข ่ 1-30 นักเรี ยนทีจับได้เลข 1-5, 6-10, 11-15, ... อยูกลุ่มเดียวกันกลุ่มละ 5 คน ตามลําดับ นักเรี ยน ทีเป็ นเศษ ก็ให้ปัดเข้ากลุ่มต่างๆ กลุ่มละ 6 คน จนครบจํานวนนักเรี ยนในห้องเรี ยน 4.3 ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ ขั*นจัดกิจกรรม 4.4 นักเรี ยนศึกษากิจกรรมเรื อง ชันหน้าตัดดิน โดยใช้บทเรี ยนโมดูล ํ 4.5 สมาชิกในกลุ่มร่ วมกันอภิปรายกิจกรรมและปฎิบติกิจกรรม ตามทีครู ได้กาหนดไว้ ั 4.6 นักเรี ยนปฏิบติกิจกรรมและครู สุ่มนักเรี ยนในกลุ่ม 1-2 กลุ่ม ออกมาอภิปรายผลและ ั สรุ ปผลการทํากิจกรรมหน้าชันเรี ยน ํ 4.7 ครู ชืนชมนักเรี ยนทีสามารถปฏิบติได้อย่างถูกต้องและให้กาลังใจพร้อมคําชีแนะแก่ ั กลุ่มทียังอภิปรายผลไม่ถูกต้องหรื อยังขาดทักษะวิทยาศาสตร์ ในบางข้ออยู่ ขั*นสรุ ป นักเรี ยนร่ วมกันอภิปรายและสรุ ป ชันหน้าตัดดิน ดังนี
  • 3. - ดินแบ่งเป็ น 2 ชัน คือ ดินชันบนและดินชันล่าง ซึ งมีลกษณะแตกต่างกัน ดินต่าง ั ถินมีลกษณะต่างกัน เพราะดินเหล่านันมีทีกําเนิดแตกต่างกัน เนืองจากสภาพภูมิอากาศ สภาพ ั ภูมิประเทศ วัตถุตนกําเนิดดิน กาลเวลา และส่ วนผสมจากฮิวมัสของสิ งมีชีวตต่างๆ ้ ิ - ความพรุ น คือ ช่องว่างระหว่างเม็ดดิน เป็ นทีสําหรับให้นาและอากาศผ่านเข้าไปในเนือ ํ ดิน ดินชันบนมีความพรุ นมากกว่าดินชันล่าง ่ - ความเป็ นกรด-เบสของดิน หมายถึง ปริ มาณของไฮโดรเจนทีมีอยูในดิน ความเป็ นกรดเบส กําหนดค่าเป็ นตัวเลขตังแต่ 1-14 เรี ยกค่าตัวเลขนีว่าค่า pH โดยจัดว่า สารละลายใดทีมีค่า pH น้อยกว่า 7 สารละลายนันมีสมบัติเป็ นกรด สารละลายใดทีมีค่า pH มากกว่า 7 สารละลายนันมีสมบัติเป็ นเบส สารละลายใดทีมีค่า pH เท่ากับ 7 สารละลายนันมีสมบัติเป็ นกลาง - ครู มอบหมายภาระงานให้นกเรี ยนสรุ ปความรู ้ทีได้จากการเรี ยน เป็ นแผนผังมโนมติ ั เรื อง ชันหน้าตัดดิน 5. สื อและแหล่ งเรี ยนรู้ สื อ 5.1 บทเรี ยนโมดูล เรื อง ชันหน้าตัดดิน แหล่ งเรียนรู้ 5.2 หนังสื อคู่มือสาระการเรี ยนรู ้พืนฐาน วิทยาศาสตร์ ม.2 โดย อุษา สิ ทธิ นาค และนภาภรณ์ ธัญญา สํานักพิมพ์แม็ค 5.3 หนังสื อเรี ยนวิทยาศาสตร์ ม.2 โดย ดร.ยุพา วรยศ และคณะ สํานักพิมพ์อกษร ั เจริ ญทัศน์ 5.4 หนังสื อเรี ยนวิทยาศาสตร์ ม.2 โดย ผูช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิมพันธ์ เดชะคุปต์ ้ และคณะสํานักพิมพ์สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ 6. การวัดและประเมินผล 6.1 วิธีวดและประเมินผล ั 6.1.1 สังเกตจากพฤติกรรมการปฏิบติงานภายในกลุ่ม ั 6.1.2 ตรวจจากแบบทดสอบก่อนเรี ยน-หลังเรี ยน 6.1.3 ตรวจจากแบบบันทึกรายงานการทดลอง 6.1.4 ตรวจจากแผนผังมโนมติ
  • 4. 6.2 เครืองมือวัดและประเมินผล 6.2.1 แบบประเมินกระบวนการกลุ่ม 6.2.2 แบบทดสอบก่อนเรี ยน-หลังเรี ยน 6.2.3 แบบบันทึกรายงานการทดลอง 6.2.4 แบบประเมินแผนผังมโนมติ 6.3 เกณฑ์ การวัดและประเมินผล 6.3.1 แบบประเมินกระบวนการกลุ่ม ต้องได้คะแนนไม่นอยกว่าร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์ ้ 6.3.2 แบบทดสอบหลังเรี ยน ต้องได้คะแนนไม่นอยกว่าร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์ ้ 6.3.3 แบบบันทึกรายงานการทดลอง ต้องได้คะแนนไม่นอยกว่าร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์ ้ 6.3.4 แบบประเมินผลแผนผังมโนมติ ต้องได้คะแนนไม่นอยกว่าร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์ ้
  • 5. บทเรียนโมดูล เรือง ชั*นหน้ าตัดดิน ระดับผู้เรียน มัธยมศึกษาปี ที 2 ระยะเวลา 2 ชัวโมง รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัส ว32101 โดย นางแว่ นแก้ ว พิงคานนท์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทยาศาสตร์ ิ โรงเรียนสุ รินทร์ ภกดี ตําบลแกใหญ่ อําเภอเมืองสุ รินทร์ จังหวัดสุ รินทร์ ั
  • 6. คําแนะนํา การใช้ บทเรียนโมดูล คําชี แจง เอกสารฉบับนี จัดทําขึนเพือเสนอเนื อหาสาระประกอบการเรี ยนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ว32101 เรื อง ชันหน้าตัดดิน โดยนักเรี ยนทํากิจกรรมตามบทเรี ยนโมดูลนี จะศึกษาเป็ นกลุ่มๆ หรื อศึกษาเป็ นรายบุคคลด้วยตนเองก็ได้ แนวปฏิบัติ 1. บทเรี ยนโมดูลชุดนี มีองค์ประกอบสําคัญ 8 ส่ วนดังนี - คําแนะนําการใช้ - หลักการและเหตุผล - จุดประสงค์การเรี ยนรู ้ - สาระสําคัญ - แบบทดสอบก่อนเรี ยน - กิจกรรมการเรี ยนการสอน - แบบทดสอบหลังเรี ยน 2. ทําแบบทดสอบก่อนเรี ยน 8 ข้อ โดยทําลงในกระดาษคําตอบทีครู แจกให้ 3. ดําเนินตามกิจกรรมการเรี ยนการสอน อ่านใบความรู ้แต่ละกิจกรรม หากไม่เข้าใจให้ ถามครู ผสอนหรื ออ่านซําอีกครังหนึง เมือเข้าใจดีแล้วจึงทําการศึกษาเนือหาต่อไปได้ ู้ 4. ทําแบบฝึ กหัดให้สมบูรณ์ถูกต้อง 5. ทําแบบทดสอบหลังเรี ยน 8 ข้อ โดยกลับไปทําข้อสอบชุดเดียวกับข้อสอบก่อนเรี ยน อีกครังหนึงในกระดาษคําตอบทีครู แจกให้ 6. เกณฑ์การผ่านบทเรี ยนนี ต้องทําแบบรายงานการทดลองและแบบทดสอบหลังเรี ยน ได้ร้อยละ 80/80 (80 คะแนนแรกจากแบบฝึ กหัด 80 คะแนนหลังจากสอบหลังเรี ยน)
  • 7. ชั นหน้ าตัดดิน หลักการและเหตุผล ดินเป็ นทรัพยากรทีเป็ นแหล่งกําเนิดทรัพยากรธรรมชาติอืนๆ เช่นการเจริ ญเติบโตของพืช ่ เป็ นแหล่งกําเนิ ดของแร่ ธาตุ เป็ นแหล่งทีอยูอาศัยของมนุษย์และสัตว์ รวมทังปั จจัยทีจําเป็ นต่อการ ดํารงชีวิตของมนุษย์ จุดประสงค์ การเรี ยนรู้ 1. อธิ บายลักษณะของชันหน้าตัดดิน 2. จําแนกลักษณะของดินชันบนและดินชันล่าง 3. ทดลองความเป็ นกรด-เบสของดิน 4. ทดลองความพรุ นของดิน สาระสํ าคัญ ่ ั ่ ั ดินชันบนอยูชนนอกสุ ดของเปลือกโลก มีฮิวมัสซึ งเป็ นอินทรี ยวัตถุ ดินชันล่างอยูถดจาก ดินชันบน มีอินทรี ยวัตถุตา ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก เราจึงควรเลือกใช้ดินให้เหมาะสมกับการ ํ ปลูกพืช
  • 8. แบบทดสอบก่ อนเรียนหลังเรียน เรื&อง ชั นหน้ าตัดดิน ………………………………………… คําชี*แจง ให้นกเรี ยนกาเครื องหมาย (X) ลงในกระดาษคําตอบทีนักเรี ยนเห็นว่าถูกต้องทีสุ ด ั 1. ดินชนิดต่างๆ มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เท่ากัน ข้อใดเรี ยงเส้นผ่านศูนย์กลางของเม็ดดินจากน้อย ไปหามาก ก. ดินเหนียว ดินร่ วน ดินทราย ข. ดินร่ วน ดินเหนียว ดินทราย ค. ดินร่ วน ดินทราย ดินเหนียว ง. ดินทราย ดินร่ วน ดินเหนียว 2. ดินชนิดใดมีการถ่ายเทอากาศน้อยทีสุ ด ก. ดินร่ วน ข. ดินเหนียว ค. ดินทราย ง. ดินร่ วนปนทราย 3. ดินชันบนมักจะมีสีใด เพราะเหตุใด ก. สี ดามีฮิวมัส ํ ข. สี เทามีขีเถ้า ค. สี แดงมีทองแดง ง. มีแดงมีออกไซด์ของเหล็ก ่ ั ่ 4. สี ของดินขึนอยูกบอะไรทีอยูในดิน ก. ความพรุ นของดิน ข. แหล่งแร่ ในดิน ค. ปริ มาณนําในดิน ง. อินทรี ยวัตถุ 5. ลักษณะของดินทีเหมาะแก่การเพาะปลูก ควรเป็ นอย่างไร ก. สี เข้มเกือบดํา ระบายนําได้ดี ข. มีเนือหยาบ พรุ นมาก มีฮิวมัสน้อย ค. มีเนือหยาบ พรุ นมาก มีฮิวมัสมาก ง. มีเนือละเอียด อุมนําดี มีฮิวมัสมาก ้ 6. ข้าวต้องการดิน pH = 5.5-6.0 แสดงว่าข้าวชอบดินอย่างไร ก. เป็ นกรด ข. เป็ นด่าง ค. เป็ นเบส ง. เป็ นกลาง 7. ดิน A มี pH = 4 ดิน B มี pH = 5 ดิน C มี pH = 8 ข้อสรุ ปใดถูกต้อง ก. ดินทัง 3 ชนิดเป็ นกรด ข. ดิน A และ B เป็ นกรด ดิน C เป็ นเบส ค. ดิน A และ B เป็ นกรด ดิน C เป็ นกลาง ง. ไม่มีขอใดถูกต้อง ้ 8. ในบริ เวณทีมีซากพืชซากสัตว์ ผุพงอยูในดิน ดินนันมีลกษณะอย่างไร ั ่ ั ก. เป็ นกรด ข. เป็ นด่าง ค. เป็ นเบส ง. เป็ นกลาง
  • 9. กิจกรรม เรือง ความพรุ นของดิน ……………………………………. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้ 1. ตังสมมติฐานจากปั ญหาทีกําหนดให้ได้ 2. ทดลองและสรุ ปผลเรื องความพรุ นของดินได้ถูกต้อง คําถามก่ อนทํากิจกรรม 1. การทดลองนีมีวตถุประสงค์อะไร…………………………………………………….…. ั 2. นักเรี ยนคิดว่าดินร่ วนและดินเหนียวมีความพรุ นเท่ากันหรื อไม่ …………………………………………………………………………………………...………….. 3. นําจะไหลผ่านดินชนิดใดได้เร็ วกว่ากัน …………………………………………………………………………………………...………….. กิจกรรม วิธีทา ํ 1. นําดินทีต้องการทดสอบมาตากให้แห้ง แล้วทุบให้ละเอียด 2. ใช้ผาตากกรองหุ มกระป๋ องด้านล่างซึ งเจาะรู ไว้ แล้วยกวางบนขวดปากกว้าง ้ ้ 3. เทดินเหนียวและดินร่ วนลงในกระป๋ องแต่ละใบ ใบละครึ งกระป๋ อง เติมนําลงในกระป๋ อง ละ 10 cm พร้อมๆ กัน 4. เปรี ยบเทียบลักษณะการไหลของนําทีไหลผ่านดินในกระป๋ องทังสอง รู ป แสดงการทดสอบความพรุ นของดินร่ วนและดินเหนียว
  • 10. บันทึกผล ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… คําถามหลังกิจกรรม 1. เพราะเหตุใดเวลาปลูกพืชจึงต้องพรวนดิน ถ้าไม่พรวนจะเป็ นอย่างไร ……………………………………………………………………………………………………… …………………………..…………………………………………………………………...……… 2. ดินชนิดใดเหมาะในการปลูกข้าวมากทีสุ ด เพราะเหตุใด………………………………... ……………………………………………………………………………………………………… 3. ถ้าในดินไม่มีอากาศจะมีผลอย่างไรต่อพืช ……………………………………………………………………………………………………… 4. ถ้าใช้ความละเอียดของเนือดินเป็ นเกณฑ์จะแบ่งดินได้กีชนิด อะไรบ้าง …………………………..…………………………………………………………………..……… ……………………………………………………………………………………………………… 5. จงบอกสถานะของสารประกอบในดิน ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… สรุ ปผลการทดลอง ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
  • 11. กิจกรรม เรือง การหาค่ า pH ของดิน ……………………………………. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้ 1. ตังสมมติฐานจากปั ญหาทีกําหนดให้ได้ 2. ทดลองและสรุ ปผลเรื องกรด-เบสของดินได้ถูกต้อง 3. ทดสอบค่าความเป็ นกรด-เบสของดินในทีต่างๆ ได้ 4. บอกสาเหตุทีทําให้ค่าความเป็ นกรด-เบสของดินในแต่ละแห่งแตกต่างกันได้ คําถามก่ อนทํากิจกรรม 1. การทดลองนีมีวตถุประสงค์อะไร................................................................................. ั 2. นักเรี ยนคิดว่าดินจากทีสองแห่งมีค่าความเป็ นกรด-เบส (ค่า pH) เท่ากันหรื อไม่ ........................................................................................................................................................ 3. เมือใช้แท่งแก้วจุ่มของเหลวในกล่องพลาสติกหมายเลข 1 มาแตะกับกระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์ แล้วจะได้สีอะไร..................................................................................................
  • 12. ตารางบันทึกผลกิจกรรม ตาราง ผลการทดสอบความเป็ นกรด-เบสของดินจากแหล่งต่างๆ โดยใช้กระดาษลิตมัสและกระดาษ ยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์ ตัวอย่างดิน กระดาษลิตมัส กระดาษยูนิเวอน์แซลอินดิเคตอร์ สี แดง สี นาเงิน ํ หมายเลข 1 …………………… ……………………... ……………………………………. หมายเลข 2 ……………………. ……………………… ……………………………………… คําถามหลังกิจกรรม 1. ค่า pH ของดินจากทีสองแห่งเป็ นอย่างไร ตรงตามทีคาดคะเนไว้หรื อไม่ ……………………………………………………………………………………………………… 2. กระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์ ทีแตะกับของเหลวในกล่องหมายเลข 1 ให้สีตรงตามที คาดคะเนไว้หรื อไม่ ……………………………………………………………………………………………………… 3. นอกจากค่า pH ของดินแล้ว ปั จจัยทีสําคัญในการเจริ ญเติบโตของพืชมีอะไรอีกบ้าง ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 4. อะไรเป็ นสาเหตุทีทําให้ดินมีสภาพเป็ นกรด ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 5. ถ้าดินมีสภาพเป็ นกรด นักเรี ยนจะทําอย่างไรเพือลดความเป็ นกรดของดิน ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 6. ถ้าดินมีสภาพเป็ นเบส นักเรี ยนจะทําอย่างไรเพือเพิมความเป็ นกรดของดิน ……………………………………………………………………………………………………… สรุ ปผลการทดลอง ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
  • 13. ใบความรู้ เรือง ชั* นหน้ าตัดดิน …………………………………………….. ดินจัดเป็ นสารอนินทรี ยทีเกิดตามธรรมชาติ เกิดจากการสลายตัวของหิ น และแร่ ธาตุต่าง ๆ ์ เป็ นชิ นเล็ก ๆ รวมทังสารอินทรี ย ์ เช่น ใบไม้ ซากพืช ซากสัตว์ เมือเกิดการย่อยสลายโดยแมลงและ แบคทีเรี ย ทําให้ดินมีสีดา เรี ยกว่า ฮิวมัส (humus) ซึ งอุดมไปด้วยแร่ ธาตุทีพืชต้องการในการ ํ เจริ ญเติบโต ขันที 1 หิ นทีผุพงโดยนํา ั และแสงแดด หิ นชันล่างสุ ด ขันที 1 การผุพงเป็ นสาเหตุทาให้ชน ั ํ ั หิ นแตกเป็ นหิ นก้อนใหญ่ๆ หิ นชันนี เมือถูกแสงแดดและฝนตกก็จะ แตกหักและผุพงเป็ นชินเล็กๆ ต่อไป ั ขันที 2 ฮิวมัส ขันที 2 พืชเจริ ญงอกงามตามบริ เวณ รอยแตกของหิ น แมลงเล็กๆ และ หิ นทีผุพนและต่อไป ั จะเป็ นดินชันบน สั ตว์อืนๆ เข้า มาอาศัย ตามบริ เวณ รอยแตก เมื อพืช และสั ตว์ตาย จะ หิ นชันล่างสุ ด สลาย ตัวไปเป็ นฮิวมัส ขันที 3 ขันที 3 สัตว์เล็กๆ ในดินจะเคลือนที ฮิวมัส ไปมา ทําให้ฮิวมัสผสมกับเศษหิ น ดินชันบน หิ นทีผุพนและกลายจะ ั และแร่ กลายเป็ นดินทีอุดมสมบูรณ์ เป็ นดินชันล่าง หิ นชันล่างสุ ด เรี ยกว่า ดินชันบน
  • 14. ดินแบ่งตามลักษณะและองค์ประกอบของดิน ได้ 2 ประเภท ดังนี ่ ั 1) ดินชันบน อยูชนนอกสุ ดของเปลือกโลก มีความหนาของชันดินประมาณ 6-12 นิว ลักษณะสี เข้ม เม็ดดิ นมีขนาดใหญ่ มีฮิวมัสซึ งเป็ นอินทรี ยวัตถุ ทีเกิ ดจาการย่อยสลายของซากพืช ่ ซากสัตว์ ซึ งมีธาตุอาหารทีพืชต้องการเป็ นองค์ประกอบอยูมาก จึงเหมาะในการปลูกพืช 2) ดิ นชันล่าง อยู่ถดจากดิ นชันบนลงมา ลักษณะของดิ นมีสีอ่อน เนื อดิ นค่อนข้างแข็ง ั มีอินทรี ยวัตถุตา จึงมีธาตุอาหารพืชน้อย ไม่เหมาะสําหรับการปลูกพืช ํ ความพรุ นของดิน ความพรุ นของดิ น หมายถึ ง ส่ วนที เป็ นช่ องว่า งทังหมดในดิ น ดิ นที มี ค วามพรุ นมาก หมายถึง มีช่องว่างในดินนันมาก ช่องว่างในดินเป็ นทีสําหรับนําและอากาศผ่านไปได้ ดินชันบน มีความพรุ นมากกว่าดิ นชันล่าง เมือปลูกพืชรากพืชสามารถรับแร่ ธาตุ และอากาศจากดิ นชันบน ได้ดี ทําให้พืชเจริ ญเติบโตได้อย่างเต็มที ความเป็ นกรด-เบสของดิน ่ ความเป็ นกรด-เบสของดิน หมายถึง ปริ มาณของไฮโดรเจนทีมีอยูในดิน ความเป็ นกรดเบส กําหนดค่าเป็ นตัวเลขตังแต่ 1-14 เรี ยกค่าตัวเลขนีว่าค่า pH โดยจัดว่า สารละลายใดทีมีค่า pH น้อยกว่า 7 สารละลายนันมีสมบัติเป็ นกรด สารละลายใดทีมีค่า pH มากกว่า 7 สารละลายนันมีสมบัติเป็ นเบส สารละลายใดทีมีค่า pH เท่ากับ 7 สารละลายนันมีสมบัติเป็ นกลาง วิธีทดสอบความเป็ นกรด-เบส มีวธีทดสอบได้ ดังนี* ิ 1. ใช้กระดาษลิตมัสสี นาเงินหรื อสี แดงโดยนํากระดาษลิตมัสทดสอบกับสารทีสงสัย ถ้าเป็ น ํ กรดจะเปลียนกระดาษลิตมัสสี นาเงินเป็ นสี แดง และถ้าเป็ นเบสจะเปลียนกระดาษลิตมัสสี แดงเป็ นสี ํ นําเงิน 2. ใช้กระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์ โดยนํากระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์ ทดสอบกับ สารแล้วนําไปเทียบกับแผ่นสี ทีข้างกล่อง 3. ใช้นายาตรวจสอบความเป็ นกรด-เบส เช่น สารละลายบรอมไทมอลบลูจะให้สีฟ้าอ่อน ํ ในสารละลายทีมี pH มากกว่า 7 และให้สีเหลืองในสารละลายทีมี pH น้อยกว่า 7
  • 15. ปั จจัยหรื อสาเหตุทีทําให้ ดินเป็ นกรด ได้แก่ การเน่ าเปื อยของสารอินทรี ยในดิน การใส่ ์ ปุ๋ ยเคมีบางชนิด สารทีปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมบางประเภท ปัจจัยทีทําให้ ดินเป็ นเบส ได้แก่ การใส่ ปูนขาว (แคลเซี ยมไฮดรอกไซด์) ความเป็ นกรด-เบาของดินนัน มีผลต่อการเจริ ญเติบโตของพืช พืชแต่ละชนิดเจริ ญเติบโต ได้ดีในดินทีมีค่า pH ทีเหมาะแก่พืชนันๆ ถ้าสภาพ pH ไม่เหมาะสมทําให้พืชบางชนิดไม่สามารถ ดูดซึ มแร่ ธาตุทีต้องการทีมีใน ดินไปใช้ประโยชน์ได้ การแก้ ไขปรับปรุ งดิน ดินเป็ นกรด แก้ไขได้โดยการเติมปูนขาว หรื อดินมาร์ ล ดินเป็ นเบส แก้ไขได้โดยการเติมแอมโมเนียมซัลเฟต หรื อผงกํามะถัน ดินมาร์ ล คือ ดินทีได้จากการสลายตัวของหิ นปูน ซึ งมีแคลเซี ยมคาร์ บอนเนตเป็ น องค์ประกอบ ดินมาร์ ลมีมากในจังหวัดสระบุรี ลพบุรี และนครสวรรค์
  • 16. เฉลย กิจกรรม เรือง ความพรุ นของดิน ……………………………………. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้ 1. ตังสมมติฐานจากปั ญหาทีกําหนดให้ได้ 2. ทดลองและสรุ ปผลเรื องความพรุ นของดินได้ถูกต้อง คําถามก่ อนทํากิจกรรม 1. การทดลองนีมีวตถุประสงค์อะไร เพือตรวจสอบความพรุ นของดินร่ วนและดินเหนี ยว ั 2. นักเรี ยนคิดว่าดินร่ วนและดินเหนียวมีความพรุ นเท่ากันหรื อไม่ ไม่เท่ากัน 3. นําจะไหลผ่านดินชนิดใดได้เร็ วกว่ากัน นําจะไหลผ่านในดินร่ วนได้เร็ วกว่าดินเหนียว กิจกรรม วิธีทา ํ 1. นําดินทีต้องการทดสอบมาตากให้แห้ง แล้วทุบให้ละเอียด 2. ใช้ผาตากกรองหุ มกระป๋ องด้านล่างซึ งเจาะรู ไว้ แล้วยกวางบนขวดปากกว้าง ้ ้ 3. เทดินเหนียวและดินร่ วนลงในกระป๋ องแต่ละใบ ใบละครึ งกระป๋ อง เติมนําลงในกระป๋ อง ละ 10 cm พร้อมๆ กัน 4. เปรี ยบเทียบลักษณะการไหลของนําทีไหลผ่านดินในกระป๋ องทังสอง รู ป แสดงการทดสอบความพรุ นของดินร่ วนและดินเหนียว
  • 17. บันทึกผล นําจะไหลผ่านในดินร่ วนได้เร็ วกว่าดินเหนียว คําถามหลังกิจกรรม 1. เพราะเหตุใดเวลาปลูกพืชจึงต้องพรวนดิน ถ้าไม่พรวนจะเป็ นอย่างไร เวลาปลูกพืช ต้อง พรวนดินเพือทําให้ดินมีช่องว่างระหว่างเม็ดดินมาก อากาศและนําผ่านสะดวกทําให้รากพืช ชอนไช ได้ดี 2. ดินชนิดใดเหมาะในการปลูกข้าวมากทีสุ ด เพราะเหตุใด ดินเหนียว เพราะอุมนําได้ดี ้ เนืองจากข้าวต้องการนํามาก 3. ถ้าในดินไม่มีอากาศจะมีผลอย่างไรต่อพืช พืชจะไม่เจริ ญเติบโต 4. ถ้าใช้ความละเอียดของเนือดินเป็ นเกณฑ์จะแบ่งดินได้กีชนิด อะไรบ้าง 2 ชนิด คือ ดิน ละเอียดกับดินหยาบ 5. จงบอกสถานะของสารประกอบในดิน ของแข็ง ของเหลว และก๊าซ สรุ ปผลการทดลอง ความพรุ นของดินมีผลต่อการผ่านของนํา นําจะผ่านดินร่ วนได้เร็ วกว่าดินเหนียว
  • 18. เฉลยกิจกรรม เรือง การหาค่ า pH ของดิน ……………………………………. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้ 1. ตังสมมติฐานจากปั ญหาทีกําหนดให้ได้ 2. ทดลองและสรุ ปผลเรื องกรด-เบสของดินได้ถูกต้อง 3. ทดสอบค่าความเป็ นกรด-เบสของดินในทีต่างๆ ได้ 4. บอกสาเหตุทีทําให้ค่าความเป็ นกรด-เบสของดินในแต่ละแห่งแตกต่างกันได้ คําถามก่ อนทํากิจกรรม 1. การทดลองนีมีวตถุประสงค์อะไร เพือตรวจสอบความเป็ นกรด-เบสของดิน ั 2. นักเรี ยนคิดว่าดินจากทีสองแห่งมีค่าความเป็ นกรด-เบส (ค่า pH) เท่ากันหรื อไม่ ไม่ เท่ากัน 3. เมือใช้แท่งแก้วจุ่มของเหลวในกล่องพลาสติกหมายเลข 1 มาแตะกับกระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์ แล้วจะได้สีอะไร สี เหลือง
  • 19. ตารางบันทึกผลกิจกรรม ตาราง ผลการทดสอบความเป็ นกรด-เบสของดินจากแหล่งต่างๆ โดยใช้กระดาษลิตมัส และ กระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์ กระดาษลิตมัส ตัวอย่างดิน กระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคตอร์ สี แดง สี นาเงิน ํ หมายเลข 1 ไม่เปลียนสี ไม่เปลียน สี เหลือง หมายเลข 2 ไม่เปลียนสี เปลียนเป็ นสี แดง สี ส้ม คําถามหลังกิจกรรม 1. ค่า pH ของดินจากทีสองแห่งเป็ นอย่างไร ตรงตามทีคาดคะเนไว้หรื อไม่ ค่า pH ของดิน จากทีสองแห่งไม่เท่ากัน ตรงตามทีคาดคะเนไว้ 2. กระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์ ทีแตะกับของเหลวในกล่องหมายเลข 1 ให้สีตรงตามที คาดคะเนไว้หรื อไม่ ให้สีเหลือง ตรงตามทีคาดคะเนไว้ 4. นอกจากค่า pH ของดินแล้ว ปั จจัยทีสําคัญในการเจริ ญเติบโตของพืชมีอะไรอีกบ้าง แร่ ธาตุในดิน และนํา 5. อะไรเป็ นสาเหตุทีทําให้ดินมีสภาพเป็ นกรด ปุ๋ ยเคมี สารทีปล่อยจากโรงงาน อุตสาหกรรมบางประเภท การเน่าเปื อยของสารอินทรี ยในดิน ์ 6. ถ้าดินมีสภาพเป็ นกรด นักเรี ยนจะทําอย่างไรเพือลดความเป็ นกรดของดิน เติมปูนขาว หรื อดินมาร์ ล 7. ถ้าดินมีสภาพเป็ นเบส นักเรี ยนจะทําอย่างไรเพือเพิมความเป็ นกรดของดิน เติม สารอินทรี ยทีเน่าเปื อยหรื อฮิวมัสลงไปในดิน หรื อใส่ ปุ๋ยเคมี ์ สรุ ปผลการทดลอง ดินจากทีต่างกันจะมีสภาพเป็ นกรด-เบสต่างกัน
  • 20. เฉลยแบบทดสอบก่ อนเรี ยน-หลังเรียน เรื&อง ชั นหน้ าตัดดิน ………………………………………… 1. ก 2. ข 3. ก 4. ง 5. ค 6. ก 7. ข 8. ก
  • 21. กระดาษคําตอบ บทเรียนโมดูล เรือง ชั* นหน้ าตัดดิน --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------แบบทดสอบก่ อนเรียนหลังเรี ยน ข้ อ 1 2 3 4 5 6 7 8 รวม ก่ อนเรียน ก ข ค ง ข้ อ 1 2 3 4 5 6 7 8 รวม หลังเรียน ก ข ค ง
  • 22. แบบรายงานการทดลอง เรื& อง ความพรุ นของดิน ……………………………………. กลุ่มที........................ชั* นมัธยมศึกษาปี ที 2/........... สมาชิ กในกลุ่ม 1.......................................................................................... 2.......................................................................................... 3.......................................................................................... 4.......................................................................................... 5.......................................................................................... --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------คําถามก่ อนทํากิจกรรม 1. การทดลองนีมีวตถุประสงค์อะไร………………………………………………………. ั 2. นักเรี ยนคิดว่าดินดินร่ วนและดินเหนียวมีความพรุ นเท่ากันหรื อไม่.....………………….. 3. นําจะไหลผ่านดินชนิดใดได้เร็ วกว่ากัน…………………………………………………. บันทึกผล ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… คําถามหลังกิจกรรม 1. เพราะเหตุใดเวลาปลูกพืชจึงต้องพรวนดิน ถ้าไม่พรวนจะเป็ นอย่างไร ………………………………………………………………………………………………..…… ………………………………………………………………………………………………..…… 2. ดินชนิดใดเหมาะในการปลูกข้าวมากทีสุ ด เพราะเหตุใด................................................. 3. ถ้าในดินไม่มีอากาศจะมีผลอย่างไรต่อพืช........................................................................ 4. ถ้าใช้ความละเอียดของเนือดินเป็ นเกณฑ์จะแบ่งดินได้กีชนิด อะไรบ้าง ………………. …………………………..………………………………………………………………………….. 5. จงบอกสถานะของสารประกอบในดิน…………………………………………………. สรุ ปผลการทดลอง …………………………..………………………………………………………………………….. …………………………..…………………………………………………………………………..
  • 23. แบบรายงานการทดลอง เรื อง การหาค่ า pH ของดิน ……………………………………. กลุ่มที........................ชั* นมัธยมศึกษาปี ที 2/........... สมาชิ กในกลุ่ม 1.......................................................................................... 2.......................................................................................... 3.......................................................................................... 4.......................................................................................... 5.......................................................................................... --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------คําถามก่ อนทํากิจกรรม 1. การทดลองนีมีวตถุประสงค์อะไร..................................................................................... ั 2. นักเรี ยนคิดว่าดินจากทีสองแห่งมีค่าความเป็ นกรด-เบส (ค่า pH) เท่ากันหรื อไม่ ................................................................................................................................................ 3. เมือใช้แท่งแก้วจุ่มของเหลวในกล่องพลาสติกหมายเลข 1 มาแตะกับกระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์ แล้วจะได้สีอะไร....................................................................................................... ตารางบันทึกผลกิจกรรม ตาราง ผลการทดสอบความเป็ นกรด-เบสของดินจากแหล่งต่างๆ โดยใช้กระดาษลิตมัส และ กระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคเตอร์ ตัวอย่างดิน กระดาษลิตมัส กระดาษยูนิเวอร์ แซลอินดิเคตอร์ สี แดง สี นาเงิน ํ หมายเลข 1 …………………… ……………………... ……………………………………… หมายเลข 2 ……………………. ……………………… ……………………………………… คําถามหลังกิจกรรม 1. ค่า pH ของดินจากทีสองแห่งเป็ นอย่างไร ตรงตามทีคาดคะเนไว้หรื อไม่ ……………………………………………………………………………………………………… 2. กระดาษยูนิเวอร์ แซล์อินดิเคเตอร์ ทีแตะกับของเหลวในกล่องหมายเลข 1 ให้สีตรงตามที คาดคะเนไว้หรื อไม่ ……………………………………………………………………………….. 3. นอกจากค่า pH ของดินแล้ว ปั จจัยทีสําคัญในการเจริ ญเติบโตของพืชมีอะไรอีกบ้าง ………….…………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….
  • 24. 4. อะไรเป็ นสาเหตุทีทําให้ดินมีสภาพเป็ นกรด......………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………… 5. ถ้าดินมีสภาพเป็ นกรด นักเรี ยนจะทําอย่างไรเพือลดความเป็ นกรดของดิน..…………… ……………………………………………………………………………………………………… 6. ถ้าดินมีสภาพเป็ นเบส นักเรี ยนจะทําอย่างไรเพือเพิมความเป็ นกรดของดิน…………….. ……………………………………………………………………………………………………… สรุ ปผลการทดลอง ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
  • 25. แบบประเมินรายงานการทดลอง เรือง....................................................................................... ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------กลุ่มที .............................. ชั* นมัธยมศึกษาปี ที 2/.......... สมาชิ กในกลุ่ม 1. ........................................................................................... 2. ........................................................................................... 3. ........................................................................................... 4. ........................................................................................... 5. ........................................................................................... ที รายการประเมิน 1. การตังสมมุติฐาน 3. การแปลผลการทดลอง 4. การสรุ ปผลการทดลอง 5. 0 (ปรับปรุ ง) การเขียนจุดประสงค์การทดลอง 2. 2 (ดี) ระดับคุณภาพ 1 (พอใช้ ) ความสมบูรณ์ของชิ นงาน รวม คะแนน คะแนน 10 เกณฑ์ การให้ คะแนน ได้ 2 คะแนน เมือมีความถูกต้อง สมบูรณ์ ชัดเจน หรื อบกพร่ องเพียงเล็กน้อย ได้ 1 คะแนน เมือมีขอบกพร่ องไม่เกินครึ ง ้ ได้ 0 คะแนน เมือมีขอบกพร่ องมากเกินครึ งหนึงหรื อไม่ได้เขียน ้ เกณฑ์ คณภาพ ุ ช่ วงคะแนน ระดับคุณภาพ 0-4 ปรับปรุ ง 5-7 พอใช้ 8-10 ดี
  • 26. แบบประเมินแผนผังมโนมติ เรือง.............................................................. ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------คําชี*แจง 1. นักเรี ยนประเมินผลงานตามความเป็ นจริ ง โดยพิจารณาจากเกณฑ์การประเมิน แล้วทําเครื องหมาย √ ลงในช่องระดับคะแนนทีนักเรี ยนต้องการแล้วรวมคะแนนทีได้ 2. ให้ผประเมินทําเครื องหมาย √ ลงในช่อง ู้ ผูประเมิน ้ ครู เพือน ตนเอง ระดับคะแนน ที รายการประเมิน คะแนนทีได้ 5 4 3 2 1 1 ความถูกต้องตามหลักวิชา 2 ความเรี ยบร้อย สมบูรณ์ของผลงาน 3 คุณลักษณะด้านความรับผิดชอบ 4 คุณลักษณะความระเอียดรอบคอบ ในการทํางาน รวมคะแนนทีได้ หมายเหตุ ให้นาระดับคะแนนหารด้วย 2 คะแนนทีได้จะเป็ นระดับคุณภาพ การทําแผนผัง ํ ความคิดของนักเรี ยน คะแนน 9-10 ระดับคุณภาพดีมาก คะแนน 7-8 ระดับคุณภาพดี คะแนน 5-6 ระดับคุณภาพปานกลาง คะแนน 3-4 ระดับคุณภาพอ่อน คะแนน 1-2 ระดับคุณภาพต้องปรับปรุ ง ผลการประเมิน 1. ครู ประเมิน ดีมาก ดี ปานกลาง อ่อน ปรับปรุ ง 2. เพือนประเมิน ดีมาก ดี ปานกลาง อ่อน ปรับปรุ ง 3. ตนเองประเมิน ดีมาก ดี ปานกลาง อ่อน ปรับปรุ ง สรุ ปผลการประเมิน ดีมาก ดี ปานกลาง อ่อน ปรับปรุ ง
  • 27. ลงชือ.....................................................ครู ผประเมิน ู้ ลงชือ.....................................................เพือนผูประเมิน ้ ลงชือ.....................................................ตนเองผูประเมิน ้ เกณฑ์ การประเมิน แผนผังมโนมติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------1. ความถูกต้ องตามหลักวิชา (5 คะแนน) - หัวข้อย่อยครอบคลุมเรื องทีกําหนด แต่ละข้อย่อยมีขอมูลมากและเชือมโยงได้ถูกต้อง ้ (5 คะแนน) - หัวข้อย่อยครอบคลุมเนื อหา มีขอมูลมากน้อยต่างกันในแต่ละข้อย่อย และเชื อมโยงได้ ้ ถูกต้อง (4 คะแนน) - หัวข้อย่อยไม่ครบตามเนือหา มีขอมูลน้อยและถูกต้องบ้าง (3 คะแนน) ้ - หัวข้อย่อยไม่ครบตามเนือหา มีขอมูลน้อยถูกต้องบ้าง (2 คะแนน) ้ - ขาดหัวข้อย่อยทีสําคัญของเรื อง มีขอมูลน้อยถูกต้องบ้าง (1 คะแนน) ้ 2. ความเรียบร้ อยสมบูรณ์ ของผลงาน (5 คะแนน) - เขียนชือ สกุล เลขที ตัวหนังสื ออ่านง่าย ไม่มีรอยลบ ขีดฆ่า ระบายสี สวยงาม (5 คะแนน) - เขียนชือ สกุล เลขที ตัวหนังสื ออ่านง่าย ไม่มีรอยลบ ขีดฆ่า มีการระบายสี (4 คะแนน) - ไม่ได้เขียนชือ สกุล เลขที ตัวหนังสื ออ่านง่าย มีรอยลบ ขีดฆ่า 1-2 แห่ ง ไม่ระบายสี หรื อระบายสี ไม่เรี ยบร้อย (3 คะแนน) - ไม่ได้เขียนชือ สกุล เลขที ตัวหนังสื ออ่านยาก มีรอยลบ ขีดฆ่า 2-3 แห่ง มีการระบาย สี ไม่ระบายสี หรื อระบายสี แต่ไม่เรี ยบร้อย (2 คะแนน) - ไม่ได้เขี ยนชื อ สกุล เลขที ตัวหนังสื ออ่านยาก มีรอยลบ ขี ดฆ่ามากกว่า 3 แห่ ง ไม่ระบายสี หรื อระบายสี แต่ไม่เรี ยบร้อย (1 คะแนน) 3. เกณฑ์ การให้ คะแนน : คุณลักษณะ ความรับผิดชอบ ความละเอียดรอบคอบ ขยัน อดทน (5 คะแนน) - เอาใจใส่ ต่อการทํางาน ส่ งงานก่อนเวลาหรื อตามเวลาทีกําหนด ผลงานมีความถูกต้อง เรี ยบร้อย สมบูรณ์ สามารถแก้ปัญหาในการทํางานได้ และทํางานโดยครู ไม่ตองเตือน (5 คะแนน) ้ - เอาใจใส่ ต่อการทํางาน ส่ งงานก่อนเวลาหรื อตามเวลาทีกําหนด ผลงานมีความถูกต้อง เรี ยบร้อย สมบูรณ์ เมือมีปัญหาปรึ กษาครู เป็ นบางครัง (4 คะแนน)
  • 28. - เอาใจใส่ ต่อการทํางาน ส่ งงานก่อนเวลาหรื อตามเวลาทีกําหนด ผลงานมีความถูกต้อง เรี ย บร้ อ ย สมบู ร ณ์ เมื อมี ปั ญ หาปรึ ก ษาครู เ ป็ นบางครั ง และต้อ งให้ ค รู เ ตื อ นในการทํา งาน (3 คะแนน) - ใส่ ใ จต่ อ การทํา งาน ส่ ง งานช้า กว่า กํา หนด ผลงานมี ค วามถู ก ต้อ ง แต่ ไ ม่ เ รี ย บร้ อ ย สมบูรณ์ เมือมีปัญหาต้องปรึ กษาครู ทุกครัง ต้องให้ครู เตือนในการทํางาน (2 คะแนน) - ส่ งงานช้ากว่ากําหนดหลายวัน ผลงานผิดบ้างเล็กน้อย แต่ไม่เรี ยบร้อยสมบูรณ์ ไม่สนใจ แก้ปัญหาทีพบในการทํางาน ต้องให้ครู เตือนให้ทางานบ่อยๆ (1 คะแนน) ํ
  • 29. แบบประเมินกระบวนการกลุ่ม ครังที…………….วันที………………..เดือน…………………………..พ.ศ………………….. ภาคเรี ยนที…………………..ชัน……………………………………….. สรุ ป 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 ยอมรับข้ อสรุ ปและผลงานของกลุ่ม และร่ วมปรับปรุ งงาน แสดงความคิดเห็นอย่ างมีเหตุผล เป็ นผู้พูดและผู้ฟังทีดี ชื อ – สกุล ทํางานตามหน้ าทีทีได้ รับมอบหมาย ที การร่ วมกันวางแผนการทํางาน รายการประเมิน รวม จํานวน รายการ ทีผ่ าน เกณฑ์ ขั*นตํา ผ่ าน ไม่ ผ่ าน
  • 30. 13 14 เกณฑ์ การประเมินกระบวนการกลุ่ม องค์ ประกอบที 1 การร่ วมกันวางแผนการทํางาน 4 หมายถึง ร่ วมมือวางแผนการทํางานทุกขันตอน มีขอเสนอทีเป็ นประโยชน์ในการ ้ วางแผนงานดีมาก 3 หมายถึง ร่ วมมือวางแผนการทํางานเกือบครบทุกขันตอน มีขอเสนอทีเป็ นประโยชน์ ้ ในการวางแผนงานดี 2 หมายถึง ร่ วมมือวางแผนการทํางานบ้างแต่ไม่ครบทุกขันตอน มีขอเสนอทีเป็ น ้ ประโยชน์ในการวางแผนงานดีพอสมควร 1 หมายถึง ร่ วมมือวางแผนการทํางานน้อยมาก หรื อไม่มีขอเสนอแนะทีเป็ นประโยชน์ ้ ในการวางแผนงาน องค์ ประกอบที 2 ทํางานตามหน้ าทีทีได้ รับมอบหมาย 4 หมายถึง ทํางานในหน้าทีทีได้รับมอบหมายครบถ้วน เต็มความสามารถ พยายาม แก้ปัญหาการทํางานด้วยตัวเอง และมุ่งมันจนงานสําเร็ จ 3 หมายถึง ทํางานในหน้าทีทีได้รับมอบหมายครบถ้วน แก้ปัญหาการทํางานด้วยตัวเอง เป็ นบางครัง และทํางานจนสําเร็ จ 2 หมายถึง ทํางานในหน้าทีทีได้รับมอบหมายบ้างแต่ทาไม่ครบถ้วน แก้ปัญหาการ ํ ทํางานด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องได้รับความช่วยเหลือจึงจะทํางานได้สาเร็ จ ํ 1 หมายถึง รับผิดชอบในงานทีได้รับมอบหมายน้อยมากต้องควบคุมและกระตุนเตือน ้ บ่อย ๆทํางานไม่สาเร็ จ ํ องค์ ประกอบที 3 เป็ นผู้พูดและผู้ฟังทีดี 4 หมายถึง มีมารยาทในการพูดการฟัง ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอืนเสมอ ใช้คาพูดและนําเสี ยงได้เหมาะดีมาก ํ 3 หมายถึง มีมารยาทในการพูดการฟัง ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอืนบ่อยครัง ใช้คาพูดและนําเสี ยงได้เหมาะดี ํ 2 หมายถึง มีมารยาทในการพูดการฟัง ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอืนเป็ นบางครัง ใช้คาพูดและนําเสี ยงได้เหมาะสมพอใช้ ํ
  • 31. 1 หมายถึง มีมารยาทในการพูดการฟัง ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอืนน้อยมาก ใช้คาพูดไม่เหมาะสม ทําให้บรรยากาศการทํางานและความรู ้สึกของผูร่วมงานไม่ดี ํ ้ องค์ ประกอบที 4 แสดงความคิดอย่ างมีเหตุผล 4 หมายถึง ใช้เหตุผลในการแสดงความคิดเห็นได้ดีมาก และมุ่งประโยชน์เพือการพัฒนา คุณภาพงานเป็ นสําคัญ 3 หมายถึง ใช้เหตุผลในการแสดงความคิดเห็นได้ดี 2 หมายถึง ใช้เหตุผลในการแสดงความคิดเห็นได้บางพอสมควร ้ 1 หมายถึง ใช้ความรู ้สึกส่ วนตัวในการแสดงความคิดเห็นมากกว่าใช้เหตุผล องค์ ประกอบที 5 ยอมรับข้ อสรุ ปและผลงานของกลุ่มและร่ วมปรับปรุ งงาน 4 หมายถึง มีส่วนร่ วมในการสรุ ป ยอมรับข้อสรุ ปของกลุ่มร่ วมรับผิดชอบปรับปรุ ง แก้ไขงานของกลุ่มทังหมดด้วยความเต็มใจ 3 หมายถึง มีส่วนร่ วมในการสรุ ป ยอมรับข้อสรุ ปของกลุ่มร่ วมรับผิดชอบปรับปรุ ง แก้ไขงานส่ วนใหญ่ของกลุ่ม 2 หมายถึง มีส่วนร่ วมในการสรุ ป ยอมรับข้อสรุ ปของกลุ่มร่ วมรับผิดชอบปรับปรุ ง แก้ไขงานของกลุ่มพอสมควร 1 หมายถึง เกือบจะไม่มีส่วนร่ วมในการสรุ ป ยอมรับข้อสรุ ปของกลุ่มร่ วมรับผิดชอบ ปรับปรุ งแก้ไขงานของกลุ่มเพียงเล็กน้อย เกณฑ์ การตัดสิ น ผูเ้ รี ยนต้องมีพฤติกรรมในแต่ละองค์ประกอบอย่างน้อยระดับ 2 ขึนไป จํานวน 3 ใน 5 รายการ
  • 32. บันทึกผลหลังการจัดการเรี ยนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดการเรี ยนรู ้ แผนการจัดการเรี ยนรู ้ที 2 เรื อง ชันหน้าตัดดิน โดยใช้ บทเรี ยนโมดูล นักเรี ยนชันมัธยมศึกษาปี ที 2 ปี การศึกษา 2550 จํานวน 3 ห้องเรี ยน รวม 89 คน มีผลดังนี ชั* น ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 รวม จํานวน นักเรี ยน (คน) 29 29 31 89 กิจกรรมและแบบฝึ กหัด จํานวน 30 คะแนน คะแนนเฉลีย ร้ อยละ 26.14 87.16 27.07 93.37 25.48 84.98 26.23 88.50 แบบทดสอบหลังการเรียน จํานวน 8 คะแนน คะแนนเฉลีย ร้ อยละ 7.13 89.20 6.13 79.70 6.51 81.43 6.60 82.44 2. ปัญหาและอุปสรรค 3. ข้ อเสนอแนะและแนวทางแก้ ไข - (นางแว่นแก้ว พิงคานนท์) ครู วิทยฐานะครู ชานาญการ ํ