SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  11
Télécharger pour lire hors ligne
น.ส. อารีย ์   บุญแสง เลขที46 ่
 น.ส. สุภาพร     บูชาพันธ ์ เลขที37   ่
 น.ส. ณัฏฐรุจา
            ์       เพิมพร เลขที40
                       ่            ่
น.ส. วัชรมณี     ทองพันชัง เลขที38
                              ่         ่
        ชันมัธยมศึ กษาปี ท4/4
          ้                ี่
   โรงเรียนบานสวน(จันอนุ สรณ)
               ้         ่        ์
อาจารย์ฉวีวรรณ นาคบุตร
กลุ่มสาระการเรียนรูวชา วิทยาศาสตร์
                   ้ิ
เยื่อหุ้มปอดอักเสบ (pleurisy) มีลกษณะเป็ นเยื่อบุสองชัน ชันในบุเนื้ อปอด ส่วน
                                      ั                 ้ ้
ชันนอกบุผนังทรวงอก ระหว่างเยื่อหุ้มปอดทังสองชันเป็ นสารน้าหล่อลื่นปริมาณ 10-
  ้                                       ้     ้
20 มิลลิลิตร โดยปกติสารน้าในเยื่อหุ้มปอด จะมีการดูดซึมและทดแทนตลอดเวลา
โดยเซลล์บเยื่อหุ้มปอดชันนอกเป็ นหลัก...
            ุ          ้
เวลาที่เกิดการอักเสบ จะพบว่ามีการสะสมของสารน้ าในโพรงเยือหุมปอดทีผดปกติ พบการ
                                                        ่ ้        ่ ิ
เปลียนแปลงชนิดปฏิกรยาการอักเสบซึงอาจมีเซลล์ต่างๆ เข้ามาเกียวข้องด้วยเป็ นจานวน
    ่              ิิ             ่                       ่
มาก เกิดการกระตุนประสาทรับความรูสกซึงมีอยูทวทังเยือหุมปอด ทาให้เกิดอาการเจ็บ
                 ้               ้ ึ ่    ่ ั่ ้ ่ ้
หน้าอกโดยเฉพาะอย่างยิงเวลาหายใจเข้า นอกจากนี้ยงเกิดการเปลียนแปลงความดันภายใน
                      ่                         ั           ่
เยือหุมปอดอีกด้วย
  ่ ้
เยื่อหุ้มปอดอักเสบ
สาเหตุ
 1.เกิดจากการติดเชือ ไม่วาจะเป็ นเชือ
                         ้   ่             ้
แบคทีเรีย เชือไวรัส เชือรา หรือเชือปรสิต
                  ้        ้         ้
ต่างๆ ในกรณีทเี่ กิดจากการติดเชือไวรัส
                                 ้
เช่น กลุ่มเชือไวรัสทีทาให้เกิดโรคติดเชือ
              ้        ่                     ้
ของทางเดินหายใจ มักพบในคนหนุ่มสาวที่
สุขภาพทัวไปแข็งแรงดี อาการมักไม่
            ่
รุนแรงและหายได้เองภายใน 3-5 วัน ส่วน
การติดเชือค็อกแซกกีไวรัสชนิดบี ผูป่วยจะ
          ้                            ้
มีอาการไข้สง เจ็บหน้าอกนานครังละ 15-
                ู                  ้
30 นาที อาจมีอาการหายใจเร็ว มักเป็ นอยู่
นาน 2-4 วัน ในประเทศไทยพบว่าเชือวัณ      ้
โรคเป็ นสาเหตุทสาคัญอีกชนิดหนึ่ง
                    ่ี
เยื่อหุ้มปอดอักเสบ
2.เกิดจากการสูดดมสารเคมีทเี่ ป็ นพิษ เช่น แอมโมเนีย
                                      ั
3.โรคของเนื้อเยือเกียวพัน เช่น โรคลูปส โรครูมาตอยด์
                ่ ่
4.มะเร็งปอด หรือมะเร็งเต้านม แพร่กระจายไปทีเยื่อหุมปอด
                                              ่ ้
5.เกิดจากเนื้องอกของเยื่อหุมปอด
                             ้
6.เกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลว
7.โรคก้อนเลือดอุดตันเส้นเลือดไปปอด มักเกิดในผูสงอายุ คนอ้วน หญิงตังครรภ์ หรือหลังคลอดบุตร หญิง
                                                ู้                ้
                       ้ ่              ้ ่                         ้ ่ ่
    ทีกนยาคุมกาเนิด ผูปวยหลังผ่าตัด ผูปวยกระดูกสะโพกหรือต้นขาหัก ผูปวยทีนอนบนเตียงนานๆ และ
      ่ ิ
    ไม่คอยได้เคลือนไหว บางรายอาจเกิดจากน้ าคร่า ไขกระดูก หรือฟองอากาศ
          ่      ่
8.เกิดจากต่อมน้ าเหลืองอุดตัน ภาวะมีน้ าหรือหนองในโพรงเยือหุมปอด
                                                         ่ ้
9.เกิดจากการกระแทก อุบตเหตุททรวงอก กระดูกซีโครงหักตาถูกเยือหุมปอด
                           ั ิ   ่ี              ่            ่ ้
10.สาเหตุจากยาบางชนิด เช่น hydralazine, procan และ dilantin
11.เกิดจากโรคในช่องท้อง เช่น ตับแข็ง ฝีในตับ ตับอ่อนอักเสบ
12.โรคเนื้อปอดขาดเลือดไปเลียงบางส่วน
                               ้
เยื่อหุ้มปอดอักเสบ
อาการ
ผูป่วยจะมีลกษณะอาการที่เด่นชัดคือเจ็บแปลบที่
  ้            ั
บริเวณหน้าอก ตรงตาแหน่งทีเยือหุมปอดอักเสบ
                              ่ ่ ้
คล้ายเข็มแทง เฉพาะเวลาหายใจเข้าลึกๆ ไอหรือ
จาม ทังนี้เนื่องจากมีการยืดตัวของเยื่อหุมปอดทีกาลัง
       ้                                ้     ่
อักเสบ เราเรียกว่าอาการเจ็บหน้าอกในลักษณะนี้
เรียกว่า อาการเจ็บหน้าอกจากเยื่อหุมปอด ซึงมักมี
                                    ้      ่
อาการเจ็บแปลบเพียงชัวไม่กวนาทีตรงหน้าอกซีกใด
                        ่ ่ี ิ
ซีกหนึ่ง เป็ นบางครังบางคราวเฉพาะเวลาหายใจเข้า
                    ้
ลึกๆ เวลาไอหรือจาม ถ้ากลันลมหายใจหรือหายใจ
                            ้
ค่อยๆ จะไม่มอาการแต่อย่างใด
                 ี
เยื่อหุ้มปอดอักเสบ
การวินิจฉัย
ลักษณะอาการเจ็บหน้ าอกจากเยือหุมปอดค่อนข้างจาเพาะเจาะจง การตรวจ
                                    ่ ้
ร่างกายระบบทางเดินหายใจ และการตรวจร่างกายทัวไปโดยละเอียดจะช่วยในการ
                                                   ่
วิเคราะห์หาสาเหตุของเยื่อหุมปอดอักเสบได้หลายกรณี
                           ้
1.การถ่ายภาพรังสีทรวงอกในท่ายืนตรง และท่านอนตะแคง ช่วยในการวินิจฉัยสาร
น้ าในเยือหุมปอด และประเมินปริมาณของสารน้ าในเยื่อหุมปอดได้จากภาพเอ็กซเรย์
         ่ ้                                           ้
2.การตรวจอัลตราซาวด์เป็ นวิธทมความไวสูงในการตรวจสารน้ าใน
                             ี ่ี ี
เยือหุมปอด
    ่ ้
3.การตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ นอกจากช่วยวินิจฉัยสารน้ าใน
เยือหุมปอดแล้ว ยังช่วยให้เห็นความผิดปกติของเนื้อเยือทีอยูรอบๆ อีกด้วย
     ่ ้                                             ่ ่ ่
4.การเจาะเอาสารน้ าในเยือหุมปอดออกมาตรวจ ถือว่ามีความสาคัญอย่างยิงในการ
                         ่ ้                                            ่
วินิจฉัยหาสาเหตุ สารน้ าอาจเป็ นชนิดทีมโปรตีนสูง น้ าตาลต่า เอ็นไซม์สง ตรวจพบ
                                        ่ ี                          ู
เซลล์เม็ดเลือดขาว หรือสารน้ าอาจเป็ นชนิดทีมระดับของสารเคมีในเกณฑ์ปกติกได้
                                            ่ ี                            ็
ลักษณะของสารน้ าในเยือหุมปอดช่วยบ่งบอกสาเหตุได้ตามสมควร
                       ่ ้
นอกจากนี้ การตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย ตรวจหาเชือวัณโรค หรือตรวจพบ
                                                 ้
เซลล์มะเร็ง
เยื่อหุ้มปอดอักเสบ
การรักษา
1.เยื่อหุมปอดอักเสบมีสาเหตุ และความรุนแรงต่างๆ กัน จึงควร
         ้
ซักถามอาการและตรวจร่างกายอย่างถีถวน ก่อนจะวินิจฉัยว่าเป็ นภาวะ
                                           ่ ้
ทีไม่รุนแรง และให้การรักษาตามอาการ ทีสาคัญต้องติดตามอาการของ
   ่                                           ่
  ้ ่
ผูปวยอย่างใกล้ชด ถ้าไม่ดขน หรือสงสัยมีความผิดปกติ ก็ควรจะส่ง
                 ิ           ี ้ึ
ตรวจพิเศษเพิมเติม
              ่
2.ถ้าเจ็บแปลบเพียงไม่กวนาทีเป็ นครังคราวไม่มอาการไข้ และหายใจ
                        ่ี ิ ่          ้        ี
เป็ นปกติ ให้ยาต้านอักเสบทีไม่ใช่   ่
สเตอรอยด์, ถ้าไอมากและทาให้เจ็บหน้าอก ให้กนยาระงับการไอ-โคเด
                                                   ิ
อิน 30 มิลลิกรัม ทุก 8 ชัวโมง, ถ้าไม่ดขนภายใน 7 วัน ควรส่ง
                           ่              ี ้ึ
เอกซเรย์ และตรวจพิเศษเพิมเติมอืนๆ ่   ่
เยื่อหุ้มปอดอักเสบ
                                 ้ ่
3.ถ้าอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง ผูปวยอยูในภาวะช็อก หรือมีไข้สง ไอเป็ นเลือด หายใจหอบเหนื่อยมาก ควร
                                       ่                       ู
    ตรวจหาสาเหตุให้แน่ชด และให้การรักษาไปตามสาเหตุทพบ
                           ั                              ่ี
4.การใช้ยาแก้ปวดช่วยบรรเทาอาการได้เป็ นอย่างดี โดยพิจารณาความรุนแรงของอาการปวดเป็ นหลัก ไม่
    ควรใช้ยาหลายขนานพร้อมๆ กัน
5.ในกรณีทมสารน้ าในเยือหุมปอดจานวนมาก อาจพิจารณาเจาะดูดออกตามสมควร แต่ตองพิจารณาเป็ น
              ่ี ี      ่ ้                                                          ้
    รายๆ ไป และต้องทาการตรวจสารน้ าในเยือหุมปอดเพื่อหาสาเหตุดวยเสมอ
                                             ่ ้                     ้
6.ในกรณีทเี่ กิดจากการติดเชือ พิจารณาให้ยาต้านจุลชีพทีเหมาะสม โดยทัวไปยาต้านจุลชีพจะถูกดูดซึม
                              ้                        ่                ่
    เข้าสูเยือหุมปอดได้เป็ นอย่างดี รวมทังยาต้านวัณโรคด้วยเช่นกัน
          ่ ่ ้                            ้
7.ถ้าพบว่ามีหนองในโพรงเยือหุมปอด แพทย์อาจพิจารณาใส่ทอระบายหนอง หรือทาการผ่าตัดรักษา
                             ่ ้                             ่
8.ในรายทีเกิดจากการกระจายของเซลล์มะเร็ง อาจพิจารณาฉีดยาบางชนิดเข้าไปในโพรงเยือหุมปอด
            ่                                                                          ่ ้
    เพือให้เกิดการระคายเคืองและกระตุนให้เกิดเนื้อเยือพังผืด จึงเป็ นการปิดโพรงเยือหุมปอดไปโดย
       ่                                 ้          ่                           ่ ้
    ปริยาย

Contenu connexe

Tendances

PALS manual 2009
PALS manual 2009PALS manual 2009
PALS manual 2009
taem
 
การอ่านค่า Ekg
การอ่านค่า Ekgการอ่านค่า Ekg
การอ่านค่า Ekg
techno UCH
 
การดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
การดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจการดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
การดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
techno UCH
 
โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานโรคเบาหวาน
โรคเบาหวาน
jinchuta7
 

Tendances (20)

หลักพยาธิบ.5การอักเสบ pptx
หลักพยาธิบ.5การอักเสบ pptx หลักพยาธิบ.5การอักเสบ pptx
หลักพยาธิบ.5การอักเสบ pptx
 
Case study : dengue fever
Case study : dengue feverCase study : dengue fever
Case study : dengue fever
 
ภูมิแพ้
ภูมิแพ้ภูมิแพ้
ภูมิแพ้
 
คู่มือการป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ
คู่มือการป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ คู่มือการป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ
คู่มือการป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ
 
สมุดบันทึกสุขภาพผู้สูงอายุ
สมุดบันทึกสุขภาพผู้สูงอายุสมุดบันทึกสุขภาพผู้สูงอายุ
สมุดบันทึกสุขภาพผู้สูงอายุ
 
PALS manual 2009
PALS manual 2009PALS manual 2009
PALS manual 2009
 
Central venous pressure (cvp)
Central venous pressure (cvp)Central venous pressure (cvp)
Central venous pressure (cvp)
 
ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด
ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด
ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด
 
Slide cervarix p'pin
Slide cervarix p'pinSlide cervarix p'pin
Slide cervarix p'pin
 
การตรวจสุขภาพสตรีมีครรภ์
การตรวจสุขภาพสตรีมีครรภ์การตรวจสุขภาพสตรีมีครรภ์
การตรวจสุขภาพสตรีมีครรภ์
 
อาการที่สําคัญในผู้สูงอายุ
อาการที่สําคัญในผู้สูงอายุอาการที่สําคัญในผู้สูงอายุ
อาการที่สําคัญในผู้สูงอายุ
 
ภาวะซีด
ภาวะซีดภาวะซีด
ภาวะซีด
 
คู่มือการจ่ายยาเด็ก (Drugs in Pediatrics)
คู่มือการจ่ายยาเด็ก  (Drugs in Pediatrics)คู่มือการจ่ายยาเด็ก  (Drugs in Pediatrics)
คู่มือการจ่ายยาเด็ก (Drugs in Pediatrics)
 
Ppt. stroke1
Ppt. stroke1Ppt. stroke1
Ppt. stroke1
 
วิธีการตรวจโรคเบื้องต้น การประชุม family pharmacist
วิธีการตรวจโรคเบื้องต้น การประชุม family pharmacist วิธีการตรวจโรคเบื้องต้น การประชุม family pharmacist
วิธีการตรวจโรคเบื้องต้น การประชุม family pharmacist
 
แนวเวชปฏิบัติเพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ 2557
แนวเวชปฏิบัติเพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ 2557แนวเวชปฏิบัติเพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ 2557
แนวเวชปฏิบัติเพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ 2557
 
การอ่านค่า Ekg
การอ่านค่า Ekgการอ่านค่า Ekg
การอ่านค่า Ekg
 
การดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
การดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจการดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
การดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
 
โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานโรคเบาหวาน
โรคเบาหวาน
 
การพยาบาลผู้ป่วยโรคไตเเละระบบทางเดินปัสสาวะที่มีปัญหาซับซ้อนในระยะเฉียบพลันแล...
การพยาบาลผู้ป่วยโรคไตเเละระบบทางเดินปัสสาวะที่มีปัญหาซับซ้อนในระยะเฉียบพลันแล...การพยาบาลผู้ป่วยโรคไตเเละระบบทางเดินปัสสาวะที่มีปัญหาซับซ้อนในระยะเฉียบพลันแล...
การพยาบาลผู้ป่วยโรคไตเเละระบบทางเดินปัสสาวะที่มีปัญหาซับซ้อนในระยะเฉียบพลันแล...
 

En vedette

เยื่อหุ้มปอดอักเสบ
เยื่อหุ้มปอดอักเสบเยื่อหุ้มปอดอักเสบ
เยื่อหุ้มปอดอักเสบ
Wan Ngamwongwan
 
Spontaneous pneumothorax
Spontaneous pneumothoraxSpontaneous pneumothorax
Spontaneous pneumothorax
maprangrape
 
การดูแลผู้บาดเจ็บที่ทรวงอก
การดูแลผู้บาดเจ็บที่ทรวงอกการดูแลผู้บาดเจ็บที่ทรวงอก
การดูแลผู้บาดเจ็บที่ทรวงอก
Patamaporn Seajoho
 
Pneumothorax powerpoint
Pneumothorax powerpointPneumothorax powerpoint
Pneumothorax powerpoint
Dwika Marbun
 
Chest Drains
Chest DrainsChest Drains
Chest Drains
nishad
 
คู่มือ ICD (Chest drain)
คู่มือ ICD (Chest drain)คู่มือ ICD (Chest drain)
คู่มือ ICD (Chest drain)
Weerawan Ueng-aram
 

En vedette (20)

เยื่อหุ้มปอดอักเสบ
เยื่อหุ้มปอดอักเสบเยื่อหุ้มปอดอักเสบ
เยื่อหุ้มปอดอักเสบ
 
Spontaneous pneumothorax
Spontaneous pneumothoraxSpontaneous pneumothorax
Spontaneous pneumothorax
 
Good medicine
Good medicineGood medicine
Good medicine
 
Respiratory System
Respiratory SystemRespiratory System
Respiratory System
 
9789740329831
97897403298319789740329831
9789740329831
 
Arrythmia
ArrythmiaArrythmia
Arrythmia
 
Abdominal Trauma (Thai)
Abdominal Trauma (Thai)Abdominal Trauma (Thai)
Abdominal Trauma (Thai)
 
Thai hypertension guideline 2015
Thai hypertension guideline 2015Thai hypertension guideline 2015
Thai hypertension guideline 2015
 
แนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีประเทศไทย ปี 2557
แนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีประเทศไทย ปี 2557แนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีประเทศไทย ปี 2557
แนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีประเทศไทย ปี 2557
 
EKG in ACLS
EKG in ACLSEKG in ACLS
EKG in ACLS
 
Chest drain systems
Chest drain systemsChest drain systems
Chest drain systems
 
การดูแลผู้บาดเจ็บที่ทรวงอก
การดูแลผู้บาดเจ็บที่ทรวงอกการดูแลผู้บาดเจ็บที่ทรวงอก
การดูแลผู้บาดเจ็บที่ทรวงอก
 
Pneumothorax
PneumothoraxPneumothorax
Pneumothorax
 
Thai guideline on the hypertension 2015
Thai  guideline on the hypertension 2015Thai  guideline on the hypertension 2015
Thai guideline on the hypertension 2015
 
คู่มือการดูแลผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง แบบบูรณาการ
คู่มือการดูแลผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง แบบบูรณาการคู่มือการดูแลผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง แบบบูรณาการ
คู่มือการดูแลผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง แบบบูรณาการ
 
Pneumothorax powerpoint
Pneumothorax powerpointPneumothorax powerpoint
Pneumothorax powerpoint
 
Nursing Care for Coronary Artery disease edition 111058
Nursing Care for Coronary Artery disease edition 111058Nursing Care for Coronary Artery disease edition 111058
Nursing Care for Coronary Artery disease edition 111058
 
Abdominal trauma
Abdominal traumaAbdominal trauma
Abdominal trauma
 
Chest Drains
Chest DrainsChest Drains
Chest Drains
 
คู่มือ ICD (Chest drain)
คู่มือ ICD (Chest drain)คู่มือ ICD (Chest drain)
คู่มือ ICD (Chest drain)
 

Similaire à เยื่อหุ้มปอดอักเสบ

โรคถุงลมโป่งพอง
โรคถุงลมโป่งพองโรคถุงลมโป่งพอง
โรคถุงลมโป่งพอง
Wan Ngamwongwan
 
นำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อนำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อ
pissamaiza Kodsrimoung
 
นำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อนำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อ
nuting
 
โรคที่มีสาเหตุเนื่องจากบุหรี่
โรคที่มีสาเหตุเนื่องจากบุหรี่โรคที่มีสาเหตุเนื่องจากบุหรี่
โรคที่มีสาเหตุเนื่องจากบุหรี่
Wan Ngamwongwan
 
เรื่องปอดบวม
เรื่องปอดบวมเรื่องปอดบวม
เรื่องปอดบวม
Wan Ngamwongwan
 
ชีววิทยา(ม.4 4) เรื่อง โรคหลอดลมอักเสบ (1)
ชีววิทยา(ม.4 4) เรื่อง โรคหลอดลมอักเสบ (1)ชีววิทยา(ม.4 4) เรื่อง โรคหลอดลมอักเสบ (1)
ชีววิทยา(ม.4 4) เรื่อง โรคหลอดลมอักเสบ (1)
Wan Ngamwongwan
 
คำแนะนำสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยหวัด 2009
คำแนะนำสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยหวัด 2009คำแนะนำสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยหวัด 2009
คำแนะนำสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยหวัด 2009
Adisorn Tanprasert
 
Foreign Body
Foreign BodyForeign Body
Foreign Body
yinyinyin
 
งานชีวะ ,หอบหืด
งานชีวะ ,หอบหืดงานชีวะ ,หอบหืด
งานชีวะ ,หอบหืด
Wan Ngamwongwan
 

Similaire à เยื่อหุ้มปอดอักเสบ (20)

Respiratory1 2
Respiratory1 2Respiratory1 2
Respiratory1 2
 
ศูนย์ที่ 4ชุดที่ 8
ศูนย์ที่ 4ชุดที่ 8ศูนย์ที่ 4ชุดที่ 8
ศูนย์ที่ 4ชุดที่ 8
 
ศูนย์ที่ 4ชุดที่ 8
ศูนย์ที่ 4ชุดที่ 8ศูนย์ที่ 4ชุดที่ 8
ศูนย์ที่ 4ชุดที่ 8
 
Asthma
AsthmaAsthma
Asthma
 
โรคถุงลมโป่งพอง
โรคถุงลมโป่งพองโรคถุงลมโป่งพอง
โรคถุงลมโป่งพอง
 
นำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อนำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อ
 
นำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อนำเสนอโรคติดต่อ
นำเสนอโรคติดต่อ
 
ไซนัส
ไซนัส ไซนัส
ไซนัส
 
โรคที่มีสาเหตุเนื่องจากบุหรี่
โรคที่มีสาเหตุเนื่องจากบุหรี่โรคที่มีสาเหตุเนื่องจากบุหรี่
โรคที่มีสาเหตุเนื่องจากบุหรี่
 
เรื่องปอดบวม
เรื่องปอดบวมเรื่องปอดบวม
เรื่องปอดบวม
 
การรักษามะเร็งปอด
การรักษามะเร็งปอดการรักษามะเร็งปอด
การรักษามะเร็งปอด
 
ชีววิทยา(ม.4 4) เรื่อง โรคหลอดลมอักเสบ (1)
ชีววิทยา(ม.4 4) เรื่อง โรคหลอดลมอักเสบ (1)ชีววิทยา(ม.4 4) เรื่อง โรคหลอดลมอักเสบ (1)
ชีววิทยา(ม.4 4) เรื่อง โรคหลอดลมอักเสบ (1)
 
ศูนย์ที่ 2 ชุดที่ 8
ศูนย์ที่ 2 ชุดที่ 8ศูนย์ที่ 2 ชุดที่ 8
ศูนย์ที่ 2 ชุดที่ 8
 
ศูนย์ที่ 2 ชุดที่ 8
ศูนย์ที่ 2 ชุดที่ 8ศูนย์ที่ 2 ชุดที่ 8
ศูนย์ที่ 2 ชุดที่ 8
 
ศูนย์ที่ 4 ชุดที่ 7
ศูนย์ที่ 4 ชุดที่ 7ศูนย์ที่ 4 ชุดที่ 7
ศูนย์ที่ 4 ชุดที่ 7
 
โรคภูมิแพ้ 15.5.2555
โรคภูมิแพ้ 15.5.2555โรคภูมิแพ้ 15.5.2555
โรคภูมิแพ้ 15.5.2555
 
คำแนะนำสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยหวัด 2009
คำแนะนำสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยหวัด 2009คำแนะนำสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยหวัด 2009
คำแนะนำสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยหวัด 2009
 
20 อันดับโรค
20 อันดับโรค20 อันดับโรค
20 อันดับโรค
 
Foreign Body
Foreign BodyForeign Body
Foreign Body
 
งานชีวะ ,หอบหืด
งานชีวะ ,หอบหืดงานชีวะ ,หอบหืด
งานชีวะ ,หอบหืด
 

Plus de Wan Ngamwongwan

ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีล
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีลปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีล
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีล
Wan Ngamwongwan
 
1วิวัฒนาการ
1วิวัฒนาการ1วิวัฒนาการ
1วิวัฒนาการ
Wan Ngamwongwan
 
3พันธุศาสตร์ประชากร
3พันธุศาสตร์ประชากร3พันธุศาสตร์ประชากร
3พันธุศาสตร์ประชากร
Wan Ngamwongwan
 
สราวุฒิ-รณรงค์เลิกบุหรี่
สราวุฒิ-รณรงค์เลิกบุหรี่สราวุฒิ-รณรงค์เลิกบุหรี่
สราวุฒิ-รณรงค์เลิกบุหรี่
Wan Ngamwongwan
 
รณรงค์งดสูบบุหรี่
รณรงค์งดสูบบุหรี่รณรงค์งดสูบบุหรี่
รณรงค์งดสูบบุหรี่
Wan Ngamwongwan
 
----งานหลัก-----
 ----งานหลัก----- ----งานหลัก-----
----งานหลัก-----
Wan Ngamwongwan
 
รณรงค์งดสูบบุหรี่1
รณรงค์งดสูบบุหรี่1รณรงค์งดสูบบุหรี่1
รณรงค์งดสูบบุหรี่1
Wan Ngamwongwan
 
หยุดสูบบุหรี่
หยุดสูบบุหรี่หยุดสูบบุหรี่
หยุดสูบบุหรี่
Wan Ngamwongwan
 
งดบุหรี่
งดบุหรี่งดบุหรี่
งดบุหรี่
Wan Ngamwongwan
 
หยุดทำร้ายผู้อื่น
หยุดทำร้ายผู้อื่นหยุดทำร้ายผู้อื่น
หยุดทำร้ายผู้อื่น
Wan Ngamwongwan
 
โรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจโรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจ
Wan Ngamwongwan
 
รณรงค์งดสูบบุหรี่
รณรงค์งดสูบบุหรี่รณรงค์งดสูบบุหรี่
รณรงค์งดสูบบุหรี่
Wan Ngamwongwan
 
กระดูกพรุน 4 3
กระดูกพรุน 4 3กระดูกพรุน 4 3
กระดูกพรุน 4 3
Wan Ngamwongwan
 
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
Wan Ngamwongwan
 

Plus de Wan Ngamwongwan (20)

2 genetic material
2 genetic material2 genetic material
2 genetic material
 
1chrmosome
1chrmosome1chrmosome
1chrmosome
 
3การแลกเปลี่ยนแก๊ส
3การแลกเปลี่ยนแก๊ส3การแลกเปลี่ยนแก๊ส
3การแลกเปลี่ยนแก๊ส
 
หน่วยที่2สิ่งมีชีวิตและการดำรงชีวิตบริเวณชายหาด
หน่วยที่2สิ่งมีชีวิตและการดำรงชีวิตบริเวณชายหาดหน่วยที่2สิ่งมีชีวิตและการดำรงชีวิตบริเวณชายหาด
หน่วยที่2สิ่งมีชีวิตและการดำรงชีวิตบริเวณชายหาด
 
หน่วยที่1ชายหาด
หน่วยที่1ชายหาดหน่วยที่1ชายหาด
หน่วยที่1ชายหาด
 
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีล
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีลปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีล
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีล
 
1วิวัฒนาการ
1วิวัฒนาการ1วิวัฒนาการ
1วิวัฒนาการ
 
3พันธุศาสตร์ประชากร
3พันธุศาสตร์ประชากร3พันธุศาสตร์ประชากร
3พันธุศาสตร์ประชากร
 
dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5
 dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5 dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5
dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5
 
สราวุฒิ-รณรงค์เลิกบุหรี่
สราวุฒิ-รณรงค์เลิกบุหรี่สราวุฒิ-รณรงค์เลิกบุหรี่
สราวุฒิ-รณรงค์เลิกบุหรี่
 
รณรงค์งดสูบบุหรี่
รณรงค์งดสูบบุหรี่รณรงค์งดสูบบุหรี่
รณรงค์งดสูบบุหรี่
 
----งานหลัก-----
 ----งานหลัก----- ----งานหลัก-----
----งานหลัก-----
 
รณรงค์งดสูบบุหรี่1
รณรงค์งดสูบบุหรี่1รณรงค์งดสูบบุหรี่1
รณรงค์งดสูบบุหรี่1
 
หยุดสูบบุหรี่
หยุดสูบบุหรี่หยุดสูบบุหรี่
หยุดสูบบุหรี่
 
งดบุหรี่
งดบุหรี่งดบุหรี่
งดบุหรี่
 
หยุดทำร้ายผู้อื่น
หยุดทำร้ายผู้อื่นหยุดทำร้ายผู้อื่น
หยุดทำร้ายผู้อื่น
 
โรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจโรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจ
 
รณรงค์งดสูบบุหรี่
รณรงค์งดสูบบุหรี่รณรงค์งดสูบบุหรี่
รณรงค์งดสูบบุหรี่
 
กระดูกพรุน 4 3
กระดูกพรุน 4 3กระดูกพรุน 4 3
กระดูกพรุน 4 3
 
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
โรคมะเร็งกล่องเสียง (1)
 

เยื่อหุ้มปอดอักเสบ

  • 1.
  • 2. น.ส. อารีย ์ บุญแสง เลขที46 ่ น.ส. สุภาพร บูชาพันธ ์ เลขที37 ่ น.ส. ณัฏฐรุจา ์ เพิมพร เลขที40 ่ ่ น.ส. วัชรมณี ทองพันชัง เลขที38 ่ ่ ชันมัธยมศึ กษาปี ท4/4 ้ ี่ โรงเรียนบานสวน(จันอนุ สรณ) ้ ่ ์
  • 4. เยื่อหุ้มปอดอักเสบ (pleurisy) มีลกษณะเป็ นเยื่อบุสองชัน ชันในบุเนื้ อปอด ส่วน ั ้ ้ ชันนอกบุผนังทรวงอก ระหว่างเยื่อหุ้มปอดทังสองชันเป็ นสารน้าหล่อลื่นปริมาณ 10- ้ ้ ้ 20 มิลลิลิตร โดยปกติสารน้าในเยื่อหุ้มปอด จะมีการดูดซึมและทดแทนตลอดเวลา โดยเซลล์บเยื่อหุ้มปอดชันนอกเป็ นหลัก... ุ ้
  • 5. เวลาที่เกิดการอักเสบ จะพบว่ามีการสะสมของสารน้ าในโพรงเยือหุมปอดทีผดปกติ พบการ ่ ้ ่ ิ เปลียนแปลงชนิดปฏิกรยาการอักเสบซึงอาจมีเซลล์ต่างๆ เข้ามาเกียวข้องด้วยเป็ นจานวน ่ ิิ ่ ่ มาก เกิดการกระตุนประสาทรับความรูสกซึงมีอยูทวทังเยือหุมปอด ทาให้เกิดอาการเจ็บ ้ ้ ึ ่ ่ ั่ ้ ่ ้ หน้าอกโดยเฉพาะอย่างยิงเวลาหายใจเข้า นอกจากนี้ยงเกิดการเปลียนแปลงความดันภายใน ่ ั ่ เยือหุมปอดอีกด้วย ่ ้
  • 6. เยื่อหุ้มปอดอักเสบ สาเหตุ 1.เกิดจากการติดเชือ ไม่วาจะเป็ นเชือ ้ ่ ้ แบคทีเรีย เชือไวรัส เชือรา หรือเชือปรสิต ้ ้ ้ ต่างๆ ในกรณีทเี่ กิดจากการติดเชือไวรัส ้ เช่น กลุ่มเชือไวรัสทีทาให้เกิดโรคติดเชือ ้ ่ ้ ของทางเดินหายใจ มักพบในคนหนุ่มสาวที่ สุขภาพทัวไปแข็งแรงดี อาการมักไม่ ่ รุนแรงและหายได้เองภายใน 3-5 วัน ส่วน การติดเชือค็อกแซกกีไวรัสชนิดบี ผูป่วยจะ ้ ้ มีอาการไข้สง เจ็บหน้าอกนานครังละ 15- ู ้ 30 นาที อาจมีอาการหายใจเร็ว มักเป็ นอยู่ นาน 2-4 วัน ในประเทศไทยพบว่าเชือวัณ ้ โรคเป็ นสาเหตุทสาคัญอีกชนิดหนึ่ง ่ี
  • 7. เยื่อหุ้มปอดอักเสบ 2.เกิดจากการสูดดมสารเคมีทเี่ ป็ นพิษ เช่น แอมโมเนีย ั 3.โรคของเนื้อเยือเกียวพัน เช่น โรคลูปส โรครูมาตอยด์ ่ ่ 4.มะเร็งปอด หรือมะเร็งเต้านม แพร่กระจายไปทีเยื่อหุมปอด ่ ้ 5.เกิดจากเนื้องอกของเยื่อหุมปอด ้ 6.เกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลว 7.โรคก้อนเลือดอุดตันเส้นเลือดไปปอด มักเกิดในผูสงอายุ คนอ้วน หญิงตังครรภ์ หรือหลังคลอดบุตร หญิง ู้ ้ ้ ่ ้ ่ ้ ่ ่ ทีกนยาคุมกาเนิด ผูปวยหลังผ่าตัด ผูปวยกระดูกสะโพกหรือต้นขาหัก ผูปวยทีนอนบนเตียงนานๆ และ ่ ิ ไม่คอยได้เคลือนไหว บางรายอาจเกิดจากน้ าคร่า ไขกระดูก หรือฟองอากาศ ่ ่ 8.เกิดจากต่อมน้ าเหลืองอุดตัน ภาวะมีน้ าหรือหนองในโพรงเยือหุมปอด ่ ้ 9.เกิดจากการกระแทก อุบตเหตุททรวงอก กระดูกซีโครงหักตาถูกเยือหุมปอด ั ิ ่ี ่ ่ ้ 10.สาเหตุจากยาบางชนิด เช่น hydralazine, procan และ dilantin 11.เกิดจากโรคในช่องท้อง เช่น ตับแข็ง ฝีในตับ ตับอ่อนอักเสบ 12.โรคเนื้อปอดขาดเลือดไปเลียงบางส่วน ้
  • 8. เยื่อหุ้มปอดอักเสบ อาการ ผูป่วยจะมีลกษณะอาการที่เด่นชัดคือเจ็บแปลบที่ ้ ั บริเวณหน้าอก ตรงตาแหน่งทีเยือหุมปอดอักเสบ ่ ่ ้ คล้ายเข็มแทง เฉพาะเวลาหายใจเข้าลึกๆ ไอหรือ จาม ทังนี้เนื่องจากมีการยืดตัวของเยื่อหุมปอดทีกาลัง ้ ้ ่ อักเสบ เราเรียกว่าอาการเจ็บหน้าอกในลักษณะนี้ เรียกว่า อาการเจ็บหน้าอกจากเยื่อหุมปอด ซึงมักมี ้ ่ อาการเจ็บแปลบเพียงชัวไม่กวนาทีตรงหน้าอกซีกใด ่ ่ี ิ ซีกหนึ่ง เป็ นบางครังบางคราวเฉพาะเวลาหายใจเข้า ้ ลึกๆ เวลาไอหรือจาม ถ้ากลันลมหายใจหรือหายใจ ้ ค่อยๆ จะไม่มอาการแต่อย่างใด ี
  • 9. เยื่อหุ้มปอดอักเสบ การวินิจฉัย ลักษณะอาการเจ็บหน้ าอกจากเยือหุมปอดค่อนข้างจาเพาะเจาะจง การตรวจ ่ ้ ร่างกายระบบทางเดินหายใจ และการตรวจร่างกายทัวไปโดยละเอียดจะช่วยในการ ่ วิเคราะห์หาสาเหตุของเยื่อหุมปอดอักเสบได้หลายกรณี ้ 1.การถ่ายภาพรังสีทรวงอกในท่ายืนตรง และท่านอนตะแคง ช่วยในการวินิจฉัยสาร น้ าในเยือหุมปอด และประเมินปริมาณของสารน้ าในเยื่อหุมปอดได้จากภาพเอ็กซเรย์ ่ ้ ้ 2.การตรวจอัลตราซาวด์เป็ นวิธทมความไวสูงในการตรวจสารน้ าใน ี ่ี ี เยือหุมปอด ่ ้ 3.การตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ นอกจากช่วยวินิจฉัยสารน้ าใน เยือหุมปอดแล้ว ยังช่วยให้เห็นความผิดปกติของเนื้อเยือทีอยูรอบๆ อีกด้วย ่ ้ ่ ่ ่ 4.การเจาะเอาสารน้ าในเยือหุมปอดออกมาตรวจ ถือว่ามีความสาคัญอย่างยิงในการ ่ ้ ่ วินิจฉัยหาสาเหตุ สารน้ าอาจเป็ นชนิดทีมโปรตีนสูง น้ าตาลต่า เอ็นไซม์สง ตรวจพบ ่ ี ู เซลล์เม็ดเลือดขาว หรือสารน้ าอาจเป็ นชนิดทีมระดับของสารเคมีในเกณฑ์ปกติกได้ ่ ี ็ ลักษณะของสารน้ าในเยือหุมปอดช่วยบ่งบอกสาเหตุได้ตามสมควร ่ ้ นอกจากนี้ การตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย ตรวจหาเชือวัณโรค หรือตรวจพบ ้ เซลล์มะเร็ง
  • 10. เยื่อหุ้มปอดอักเสบ การรักษา 1.เยื่อหุมปอดอักเสบมีสาเหตุ และความรุนแรงต่างๆ กัน จึงควร ้ ซักถามอาการและตรวจร่างกายอย่างถีถวน ก่อนจะวินิจฉัยว่าเป็ นภาวะ ่ ้ ทีไม่รุนแรง และให้การรักษาตามอาการ ทีสาคัญต้องติดตามอาการของ ่ ่ ้ ่ ผูปวยอย่างใกล้ชด ถ้าไม่ดขน หรือสงสัยมีความผิดปกติ ก็ควรจะส่ง ิ ี ้ึ ตรวจพิเศษเพิมเติม ่ 2.ถ้าเจ็บแปลบเพียงไม่กวนาทีเป็ นครังคราวไม่มอาการไข้ และหายใจ ่ี ิ ่ ้ ี เป็ นปกติ ให้ยาต้านอักเสบทีไม่ใช่ ่ สเตอรอยด์, ถ้าไอมากและทาให้เจ็บหน้าอก ให้กนยาระงับการไอ-โคเด ิ อิน 30 มิลลิกรัม ทุก 8 ชัวโมง, ถ้าไม่ดขนภายใน 7 วัน ควรส่ง ่ ี ้ึ เอกซเรย์ และตรวจพิเศษเพิมเติมอืนๆ ่ ่
  • 11. เยื่อหุ้มปอดอักเสบ ้ ่ 3.ถ้าอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง ผูปวยอยูในภาวะช็อก หรือมีไข้สง ไอเป็ นเลือด หายใจหอบเหนื่อยมาก ควร ่ ู ตรวจหาสาเหตุให้แน่ชด และให้การรักษาไปตามสาเหตุทพบ ั ่ี 4.การใช้ยาแก้ปวดช่วยบรรเทาอาการได้เป็ นอย่างดี โดยพิจารณาความรุนแรงของอาการปวดเป็ นหลัก ไม่ ควรใช้ยาหลายขนานพร้อมๆ กัน 5.ในกรณีทมสารน้ าในเยือหุมปอดจานวนมาก อาจพิจารณาเจาะดูดออกตามสมควร แต่ตองพิจารณาเป็ น ่ี ี ่ ้ ้ รายๆ ไป และต้องทาการตรวจสารน้ าในเยือหุมปอดเพื่อหาสาเหตุดวยเสมอ ่ ้ ้ 6.ในกรณีทเี่ กิดจากการติดเชือ พิจารณาให้ยาต้านจุลชีพทีเหมาะสม โดยทัวไปยาต้านจุลชีพจะถูกดูดซึม ้ ่ ่ เข้าสูเยือหุมปอดได้เป็ นอย่างดี รวมทังยาต้านวัณโรคด้วยเช่นกัน ่ ่ ้ ้ 7.ถ้าพบว่ามีหนองในโพรงเยือหุมปอด แพทย์อาจพิจารณาใส่ทอระบายหนอง หรือทาการผ่าตัดรักษา ่ ้ ่ 8.ในรายทีเกิดจากการกระจายของเซลล์มะเร็ง อาจพิจารณาฉีดยาบางชนิดเข้าไปในโพรงเยือหุมปอด ่ ่ ้ เพือให้เกิดการระคายเคืองและกระตุนให้เกิดเนื้อเยือพังผืด จึงเป็ นการปิดโพรงเยือหุมปอดไปโดย ่ ้ ่ ่ ้ ปริยาย