14. คณิตศาสตร O-NET/A-NET เซต14• ตัวอยาง กําหนด E { , {0}, { }}= ∅ ∅ ใหหา P (E)ตอบ , { }, {{0}}, {{ }}, { , {0}}, { , { }}, {{0}, { }}, { , {0}, { }}∅ ∅ ∅ ∅ ∅ ∅ ∅ ∅ ∅{ }• ตัวอยาง กําหนด A, B เปนเซตซึ่ง A {1, 3, 5, 7}= และ B {1, 2, 3, 4, 5, 6, 7}= ใหหาก. จํานวนแบบของเซต X ซึ่ง X P (A)∈ตอบ คําวา X P (A)∈ ก็คือ X A⊂ดังนั้น มีเซต X ที่เปนไปไดทั้งหมด 42 16= แบบหากศึกษาบทเรียน วิธีเรียงสับเปลี่ยนและจัดหมูแลวจะทราบวิธีคํานวณอีกแบบ ดังนี้4 4 44 41 4 6 4 1 161 40 2 3⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎛ ⎞+ + + + = + + + + =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎝ ⎠ ⎝ ⎠⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠แบบข. จํานวนแบบของเซต X ซึ่ง X P (A)∈ และ n(X) 2<ตอบ คําวา X P (A)∈ ก็คือ X A⊂ ซึ่งมี 16 แบบ (ดังขอ ก.) แตขอนี้ตองการ n(X) 2< เทานั้น... หากศึกษาบทเรียน วิธีเรียงสับเปลี่ยนและจัดหมู แลวจะทราบวิธีคํานวณ ดังนี้4 441 4 6 1110 2⎛ ⎞ ⎛ ⎞⎛ ⎞+ + = + + =⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟⎝ ⎠⎝ ⎠ ⎝ ⎠แบบ ...(ถายังไมไดศึกษา ก็คงตองเขียนนับเอาโดยตรง)ค. จํานวนแบบของเซต Y ซึ่ง A Y⊂ และ Y B⊂ตอบ ตองการ A Y⊂ ก็แปลวา สมาชิก 1, 3, 5, 7 ตองอยูใน Y ครบทุกตัว ... และ Y B⊂ แปลวา2, 4, 6 จะอยูใน Y กี่ตัวก็ได หรือไมอยูเลยก็ได (เพราะมีเพียง 1, 3, 5, 7 ก็เพียงพอกับเงื่อนไขY B⊂ แลว) ... การที่ 2, 4, 6 จะอยูใน Y กี่ตัวก็ได หรือไมอยูเลยก็ได เปรียบเสมือนการหาสับเซตทุกแบบของ {2, 4, 6} นั่นเอง จึงตอบวา 32 8= แบบแบบฝึกหัด 1.1(1) กําหนด A, B เป็นเซตที่มีลักษณะ A B⊂ และ A B≠ ถ้า x A∈ และ y B∈ แล้วข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด(1.1) {x} B⊂ (1.3) {A} {B}⊂(1.2) {y} A⊄ (1.4) {A} {B}≠(2) ให้ A {{ }, a, b, {a}, {a, b}}= ∅ ข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด(2.1) { } A∅ ∈ (2.3) {{a}, b} A⊂(2.2) { } A∅ ⊂ (2.4) {a, b} A∈ และ {a, b} A⊄(3) ข้อความต่อไปนี้ถูกต้องหรือไม่(3.1) ถ้า A B⊂ และ B C⊂ แล้ว A C⊂(3.2) ถ้า A B∈ และ B C∈ แล้ว A C∈(3.3) ถ้า A B⊄ และ B C⊄ แล้ว A C⊄Math E-Book Release 2.1 (คณิต มงคลพิทักษสุข)
15. คณิตศาสตร O-NET/A-NET เซต15(4) ให้ A เป็นเซตใดๆ ข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด(4.1) { x | x A } {A}= = (4.3) { x | {x} A } {A}⊂ =(4.2) { x | x A } A∈ = (4.4) { x | {x} }⊂ ∅ = ∅(5) ข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด(5.1) ถ้า n(A) 5= แล้ว สับเซตของ A มีทั้งหมด 32 แบบ(5.2) ถ้า n(A) 5= แล้ว สับเซตแท้ของ A มีทั้งหมด 32 แบบ(5.3) ถ้า n(A) 5= แล้ว เพาเวอร์เซตของ A มีทั้งหมด 32 แบบ(5.4) ถ้า n(A) 5= แล้ว สมาชิกของเพาเวอร์เซตของ A มีทั้งหมด 32 ตัว(6) ถ้า A มีสับเซตแท้ 511 เซต แสดงว่า A มีสมาชิกกี่ตัวและในจํานวน 511 เซตนั้น สับเซตที่มีสมาชิกเพียง 5 ตัวมีกี่เซต(7) ข้อความต่อไปนี้ถูกต้องหรือไม่(7.1) ∅ ∈ ∅ (7.5) P ( )∅ ∈ ∅(7.2) ∅ ⊂ ∅ (7.6) P ( )∅ ⊂ ∅(7.3) { }∅ ∈ ∅ (7.7) { } P ( )∅ ∈ ∅(7.4) { }∅ ⊂ ∅ (7.8) { } P ( )∅ ⊂ ∅(8) ถ้า A { , a, {b}, {a, b}}= ∅ แล้ว ข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด(8.1) P (A)∅ ∈ (8.6) a P (A)∈(8.2) { } P (A)∅ ∈ (8.7) {a} P (A)∈(8.3) P (A)∅ ⊂ (8.8) {b} P (A)∈(8.4) { } P (A)∅ ⊂ (8.9) {{b}} P (A)∈(8.5) { , a, {b}} P (A)∅ ∈ (8.10) { , a, {b}} P (A)∅ ⊂(9) ถ้า A { , 1, 2, 3, {1}, {1, 2}, {1, 2, 3}}= ∅ แล้ว ข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด(9.1) { , {1}, {1, 2}} P (A)∅ ∈ (9.3) {{1}, {2}, {3}} P (A)∈(9.2) { , {1}, {1, 2}} P (A)∅ ⊂ (9.4) {{1}, {2}, {3}} P (A)⊂(10) [Ent’39] ให้ S {1, 2, 3, 4, 5, 6, 7}= แล้วจงหา n(X) และ n(Y)เมื่อกําหนด X { A P (S) | 1 A= ∈ ∈ และ 7 A }∉และ Y { A X |= ∈ ผลบวกของสมาชิกภายใน A ไม่เกิน 6 }1.2 แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ และการดําเนินการของเซตการแสดงเซตด้วย แผนภาพของเวนน์และออยเลอร์(Venn-Euler Diagram) ช่วยให้เห็นลักษณะของเซตชัดเจนขึ้นการเขียนแผนภาพดังกล่าวนิยมให้เอกภพสัมพัทธ์ U เป็นกรอบสี่เหลี่ยม ซึ่งภายในบรรจุรูปปิด (วงกลม วงรี ฯลฯ) ที่ใช้แทนขอบเขตของเซต A, B, C ต่างๆ โดยจะเขียนให้มีบริเวณที่เซตสองเซตซ้อนทับกัน หากว่าสองเซตนั้นมีสมาชิกร่วมกัน ดังภาพS ¨u´·Õè¼i´º‹oÂ! S¤ÇèaÇÒ´æ¼¹ÀÒ¾e«µ A æÅa B ã¹æºº·aèÇä» ¤×oãËŒÁÕÊÁÒªi¡Ã‹ÇÁ¡a¹¡‹o¹(eËÁ×o¹¡aºÃÙ»¡ÅÒ§) æŌǨҡ¹aé¹eÁ×èo·ÃҺNjҪié¹Ê‹Ç¹ã´äÁ‹ÁÕÊÁÒªi¡ ¤‹o¢մËÃ×oæÃe§Ò·ié§ä».. ·íÒ溺¹Õéoo¡Òʼi´¨a¹ŒoÂŧ¤Ãaº..Math E-Book Release 2.1 (คณิต มงคลพิทักษสุข)
16. คณิตศาสตร O-NET/A-NET เซต16UA BUA BUBAACB2 310 45 7911UUA BUA BUBAUA BUA BUBAUAUA BUA BUBAA และ B ไม่มีสมาชิกร่วมกัน A และ B มีสมาชิกร่วมกัน A เป็นสับเซตของ Bสมมติว่า A {0, 1, 2, 3, 4}=B {1, 3, 5, 7, 9}=C {2, 3, 5, 7, 11}=จะเขียนแผนภาพได้ดังนี้การดําเนินการเกี่ยวกับเซต เป็นการทําให้เกิดเซตใหม่ขึ้นจากเซตที่มีอยู่เดิม1. ยูเนียน (Union : ∪ ) ... เซต A B∪ คือเซตของสมาชิกที่อยู่ใน A หรือ B ทั้งหมดยูเนียนของ A กับ B ได้เป็น B2. อินเตอร์เซกชัน (Intersection : ∩ ) ... เซต A B∩ คือเซตของสมาชิกที่อยู่ในทั้ง A และ Bบางตําราใช้สัญลักษณ์เป็น AB (คือ ละเครื่องหมายอินเตอร์เซคชันไว้)อินเตอร์เซกชันของ A กับ B เป็นเซตว่าง อินเตอร์เซกชันของ A กับ B เป็น A3. คอมพลีเมนต์ (Complement : )เซต A คือเซตของสมาชิกที่ไม่ได้อยู่ใน Aบางตําราใช้สัญลักษณ์เป็น cA หรือ A4. ผลต่าง (Difference หรือ Relative Complement : − )B A− คือเซตของสิ่งที่อยู่ใน B แต่ไม่อยู่ใน A ... หรือ B A B A− = ∩จะเรียก B A− ว่า “คอมพลีเมนต์ของ B เมื่อเทียบกับ A” ก็ได้ข้อสังเกต โดยทั่วไป n(B A) n(B) n(A)− ≠ − แต่ n(B A) n(B) n(A B)− = − ∩Math E-Book Release 2.1 (คณิต มงคลพิทักษสุข)
17. คณิตศาสตร O-NET/A-NET เซต17สมบัติที่เกี่ยวกับการดําเนินการของเซต• การแจกแจง • คอมพลีเมนต์ และเพาเวอร์เซตA (B C) (A B) (A C)A (B C) (A B) (A C)A (B C) (A B) (A C)A (B C) (A B) (A C)∩ ∪ = ∩ ∪ ∩∪ ∩ = ∪ ∩ ∪− ∪ = − ∩ −− ∩ = − ∪ −(A B) A B (A B) A B P (A) P (B) P (A B)P (A) P (B) P (A B)∪ = ∩∩ = ∪∩ = ∩∪ ⊂ ∪หมายเหตุ ในภาษาอังกฤษบางครั้งอ่าน A B∪ ว่า A cup B และอ่าน A B∩ ว่า A cap B• ตัวอยาง กําหนด A, B เปนเซตซึ่ง A {1, 3, 5, 7}= และ B {1, 2, 3, 4, 5, 6, 7}= ใหหา(ในขอ ก. และ ข. จําเปนตองใชความเขาใจเรื่องวิธีเรียงสับเปลี่ยนและจัดหมู ดวย)ก. จํานวนแบบของเซต Y ซึ่ง A Y∩ ≠ ∅ และ Y B⊂ตอบ วิธีคิดตางจากตัวอยางที่แลว (A Y B⊂ ⊂ ) เล็กนอย ... ขอนี้ตองการ A Y∩ ≠ ∅ แสดงวาสมาชิก 1, 3, 5, 7 ตองมีอยูใน Y (มีกี่ตัวก็ได แตไมมีเลยไมไดเพราะจะทําให A Y∩ = ∅ )การอยูกี่ตัวก็ได แตไมอยูเลยไมได ก็คือการหาสับเซตทุกแบบของ {1, 3, 5, 7} ที่ไมใชเซตวาง นั่นเอง ในขั้นตอนนี้จึงได 42 1 15− = แบบ ...อีกเงื่อนไขคือ Y B⊂ แปลวา 2, 4, 6 จะอยูใน Y กี่ตัวก็ได หรือไมอยูเลยก็ได (เพราะมีเพียงบางตัวของ 1, 3, 5, 7 ก็เพียงพอกับเงื่อนไข Y B⊂ แลว) ... ขั้นนี้เหมือนตัวอยางที่แลว จึงได 32 8=แบบ ... คําตอบขอนี้ตองนําสองเงื่อนไขมาประกอบกัน สรุปวาทั้งสองขั้นตอนทําใหไดผลลัพธตางๆ กันทั้งสิ้น 15 8 120× = แบบข. จํานวนแบบของเซต Z ซึ่ง {1, 2, 3} Z∩ ≠ ∅ และ Z A⊂ตอบ วิธีคิดเหมือนขอ ก. ... นั่นคือ ตองการ {1, 2, 3} Z∩ ≠ ∅ แสดงวา สมาชิก 1, 3 ตองมีอยูใน Z(มีกี่ตัวก็ได แตไมมีเลยไมไดเพราะจะทําให A Z∩ = ∅ ) ที่สําคัญคือ สมาชิก 2 หามอยูใน Z เพราะจะขัดแยงกับอีกเงื่อนไข (Z A⊂ ) ... ในขั้นตอนนี้จึงได 22 1 3− = แบบ ...อีกเงื่อนไขคือ Z A⊂ แปลวา 5, 7 จะอยูใน Z กี่ตัวก็ได หรือไมอยูเลยก็ได (เพราะมีเพียงบางตัวของ 1, 3 ก็เพียงพอกับเงื่อนไข Z A⊂ แลว) ... ขั้นนี้เหมือนตัวอยางที่แลว จึงได 22 4= แบบ... คําตอบขอนี้ตองนําสองเงื่อนไขมาประกอบกัน สรุปวาทั้งสองขั้นตอนทําใหไดผลลัพธตางๆ กันทั้งสิ้น3 4 12× = แบบค. จํานวนแบบของเซต Z ซึ่ง {1, 2, 3} Z∩ = ∅ และ Z A⊂ตอบ ขอนี้งายที่สุด เนื่องจาก ตองการ {1, 2, 3} Z∩ = ∅ แสดงวา สมาชิก 1, 2, 3 หามมีอยูใน Zเลยแมแตตัวเดียว เมื่อประกอบกับอีกเงื่อนไขคือ Z A⊂ จึงไดวา สมาชิก 5, 7 เทานั้นที่จะอยูใน Z (กี่ตัวก็ได หรือไมอยูเลยก็ได เพราะแม Z = ∅ ก็ยังทําใหเงื่อนไข Z A⊂ เปนจริงอยูดี) ... จึงไดคําตอบเปน 22 4= แบบMath E-Book Release 2.1 (คณิต มงคลพิทักษสุข)
18. คณิตศาสตร O-NET/A-NET เซต18C P(C)2 4 60• ตัวอยาง ถา C { } 0 {{ }, 0} { , {0}} {{ , {0}}}= ∅ ∅ ∅ ∅ ∅{ , , , , , } ใหหาคาของก. n(P (C))ตอบ เนื่องจาก n(C) 6= ดังนั้น 6n(P (C)) 2 64= =ข. n(P (C) C)−ตอบ n(P (C) C)− ไมไดคิดจาก 64 6 58− = ... เพราะโดยทั่วไปสมาชิกของ C นั้นไมไดอยูในP (C) ทั้งหมด การจะคิด n(P (C) C)− ตองดูวา สมาชิกของ C นั้นอยูใน P (C) กี่ตัวเริ่มพิจารณาเรียงไปทีละตัว เริ่มจาก ∅ “อยู” (เพราะ ∅ เปนสับเซตของทุกเซต นอกจากนั้นการเขียนเพาเวอรเซตใหเปนระเบียบยังมักจะเริ่มดวย ∅ ) ... ตอมา { }∅ ก็ “อยู” อยูในขั้นตอนที่หยิบสมาชิกจาก C ไปหนึ่งตัว (เซตวางที่ปรากฏในนี้เปนสมาชิกตัวแรกสุดใน C ) หรือกลาววา “อยู” เพราะC∅ ∈ ... ตอมา 0 อันนี้ “ไมอยู” เพราะไมใชเซต สิ่งที่อยูในเพาเวอรเซตใดๆ ได ตองเปนเซต!... ตอมา{{ }, 0}∅ อันนี้ “อยู” มาจากขั้นตอนที่หยิบสมาชิกจาก C ไปสองตัว (ในที่นี้เปนตัวสองกับตัวสาม) หรือกลาววา “อยู” เพราะ { } C∅ ∈ และ 0 C∈ ... ตอมา { , {0}}∅ อันนี้ “ไมอยู” เพราะ {0} C∉ ...และสุดทาย {{ , {0}}}∅ อันนี้ก็ “อยู” เพราะวา { , {0}} C∅ ∈ มาจากขั้นตอนที่หยิบสมาชิกจาก C ไปหนึ่งตัว (เปนตัวที่หา) นั่นเองสรุปแลว สมาชิกของ C นั้นอยูใน P (C) 4 ตัว ดังนั้น n(P (C) C) 64 4 60− = − =ค. n(C P (C))−ตอบ n(C P (C))− ก็ไมไดคิดจาก 6 64− ... แตตองดูวา สมาชิกของ P (C) นั้นอยูใน C กี่ตัว ซึ่งมีวิธีคิดเชนเดียวกับขอ ข. คือได 4 ตัว หรือกลาววา n(C P (C)) 4∩ = ... ดังนั้น จึงทําใหn(C P (C)) 6 4 2− = − =หากดูแผนภาพประกอบจะเขาใจยิ่งขึ้นเราทราบวา (ขอ ก.) n(C) 6= และ n(P (C)) 64=จากนั้นนับในขอ ข. วา n(C P (C)) 4∩ =จึงได (ข.) n(C P (C)) 2− = และ (ค.) n(P (C) C) 60− =ง. n [(P (C) C) (C P (C))]− ∪ −ตอบ จากขอ ข. กับ ค. (หรือจากแผนภาพ) ไดคําตอบเปน 60 2 62+ =(นํามาบวกกันไดทันที เพราะสองสวนนี้ไมไดซอนทับกัน)แบบฝึกหัด 1.2(11) กําหนดให้ A B {0, 1, 2, 3, 4, 5}∪ = A B {1, 3, 5}∩ = B C {2, 3, 5}∩ =A C {0, 1, 2, 3, 5}∪ = A C {0, 3, 5}∩ = แล้ว ข้อใดผิดก. A B {0}∩ = ข. B C {1}∩ = ค. A C {1}∩ = ง. B A {2, 4}∩ =(12) ให้เขียนเซต C B ∪ แบบแจกแจงสมาชิก เมื่อกําหนดให้{ x | 1 x 10 }= ∈ < <U I เมื่อ =I เซตของจํานวนเต็มMath E-Book Release 2.1 (คณิต มงคลพิทักษสุข)
19. คณิตศาสตร O-NET/A-NET เซต19B { x | x= หาร 3 ลงตัว} และ C { x | x 5 }= <(13) [Ent’38] ถ้า A {0, 1}= และ B {0, {1}, {0, 1}}= แล้ว(13.1) ข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด A P (B)∈(13.2) ข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด {1} P (A) P (B)∈ ∩(13.3) ค่าของ n(P (A B)) n(P (A B))∪ − ∩ เป็นเท่าใด(14) ข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด(14.1) ∅ = U (14.7) A A ∩ = ∅(14.2) = ∅U (14.8) A A ∪ = U(14.3) A (A B)⊂ ∪ (14.9) A − = ∅U และ A A − =U(14.4) B (A B)⊂ ∪ (14.10) A A− ∅ = และ A∅ − = ∅(14.5) (A B) A∩ ⊂ (14.11) A A− = ∅(14.6) (A B) B∩ ⊂ (14.12) A B A B − = ∩(15) ข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด(15.1) ถ้า A B⊂ แล้ว P (A) P (B)⊂(15.2) ถ้า A B∪ = ∅ แล้ว A = ∅ และ B = ∅(15.3) ถ้า A B∩ = ∅ แล้ว A = ∅ และ B = ∅(15.4) ถ้า A B− = ∅ และ B C B− = แล้ว A C ∪ = U(15.5) ถ้า A B− = ∅ และ B C− ≠ ∅ แล้ว A C− ≠ ∅(16) สําหรับเซต A, B ใดๆ ข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด(16.1) A B A B∩ ≠ ∪ (16.5) ถ้า x A∉ แล้ว x A B∉ ∪(16.2) A B B A− ≠ − (16.6) ถ้า x A∈ แล้ว x A B ∉ ∩(16.3) A B A B ∩ = − (16.7) ถ้า x A∉ แล้ว x A B ∈ ∩(16.4) (A B) B A∪ = − (16.8) ถ้า x A∈ แล้ว x (A B )∈ ∪(17) เขียนเซตต่อไปนี้ให้อยู่ในรูปที่สั้นที่สุด(17.1) A (A B)− ∩ (17.6) (A B) B∪ −(17.2) (A B) B− ∪ (17.7) (A B) B∩ −(17.3) (A B) B− ∩ (17.8) A (A B)− −(17.4) A (A B)∩ − (17.9) (A B) (B A )− ∩ −(17.5) A (A B)∪ −(18) ข้อความต่อไปนี้เป็นจริงหรือไม่(18.1) ถ้า A C B C∪ = ∪ แล้ว A B=(18.2) ถ้า A C B C∩ = ∩ แล้ว A B=(18.3) ถ้า A C B C− = − แล้ว A B=(18.4) ถ้า A B = แล้ว A B=(19) ให้บอกเงื่อนไขที่ทําให้ A B A− = อย่างน้อย 3 กรณีMath E-Book Release 2.1 (คณิต มงคลพิทักษสุข)
20. คณิตศาสตร O-NET/A-NET เซต20(20) เขียนเซตต่อไปนี้ให้อยู่ในรูปที่สั้นที่สุด(20.1) [Ent’21] (A B) (B A) (A B)− ∪ − ∪ ∩(20.2) [A (A B)] [B (B A )]∩ ∪ ∪ ∩ ∪(20.3) ( ) ( )[(A B) (B A)] A A [(A B) (B A)]− ∪ − − ∪ − − ∪ −(20.4) ( )[(A B) (B C )] [(D E) (C E )] (A E ) ∪ ∩ − ∪ − ∩ − ∪ −(21) ข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด(21.1) (A B C) (A B C) (B C )∩ ∩ ∪ ∩ ∩ ∪ ∪ = U(21.2) (A B C D ) (A C) (B C) (C D) C∩ ∩ ∩ ∪ ∩ ∪ ∩ ∪ ∩ =(21.3) P (A B) P (A B)∩ ⊂ ∪(21.4) P (A B) P (B A) { }− ∩ − = ∅(21.5) ถ้า A B⊂ แล้ว P (A B) P (A) P (B)∪ = ∪(22) ให้ A {0, 1, 2, 3}= , B {{0}, 1, 2, {3}}= และ C {0, {1}, {2}, 3}=ข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด(22.1) P (A) P (B) P (C ) { , {1}, {2}, {1, 2}}∩ ∩ = ∅(22.2) P (A) P (B ) P (C) { , {0}, {3}, {0, 3}}∩ ∩ = ∅(22.3) P (A ) P (B) P (C) { , {0}}∩ ∩ = ∅(22.4) P (A) P (B ) P (C ) { }∩ ∩ = ∅(23) ถ้า n( ) 35=U , n(A) 22= , n(B) 18=ให้หาว่า n(A B )∩ จะมีค่ามากที่สุดได้เท่าใด(24) ถ้า n(A) a= , n(B) b= , n(C) c= , n(D) d=n(A B) b∩ = , n(B C) c∩ = , n(C D) d∩ = แล้วให้หา n(A B C D)∩ ∩ ∩ และ n(A B C D)∪ ∪ ∪(25) ให้ A, B, C เป็นเซตซึ่ง P (C) { , {a}, {c}, C}= ∅ , n(P (A)) 8= , n(P (B)) 16= ,C A⊂ , C B⊂ , {b, d, e} A B⊂ ∪ และ b A B ∈ ∩ ข้อใดผิดก. d (A B )∈ ∪ ข. e (C B )∈ ∪ค. b (A B )∉ ∪ ง. {b, e} (A B)⊂ ∪(26) เมื่อ A { , 1, {1}}= ∅ และ A B ∩ = ∅ แล้ว ข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด(26.1) n [ P (A) P (B)] 8∩ = (26.3) P (A B) { }− = ∅(26.2) {1} P (A B)∈ ∩ (26.4) P (B A) { }− = ∅(27) [Ent’36] ถ้า A { , { }, 0, {0}, {1}, {0, 1}}= ∅ ∅ แล้วจงหาจํานวนสมาชิกของเซต [ P (A) A ] [ A P (A)]− ∪ −(28) มีเซต A ที่ตรงตามเงื่อนไขต่อไปนี้กี่แบบ(28.1) A B {1, 2, 3, 4, 5}∪ = และ B {1, 3, 5}=(28.2) A B {1, 2, 3, ..., 15}∪ = และ B {2, 4, 6, 8, 10}=Math E-Book Release 2.1 (คณิต มงคลพิทักษสุข)
21. คณิตศาสตร O-NET/A-NET เซต21= + -= + +- - - +·íÒ¤ÇÒÁe¢ŒÒ㨴ŒÇÂÃÙ»ÀÒ¾¡ç´Õ¹a¤Ãaº..(29) กําหนดให้ A {1, 2, 3, 4, 5, 6, 7}= และ B {1, 2, 3}= แล้วจะมีเซต X ตามเงื่อนไขต่อไปนี้ได้กี่แบบ(29.1) B X A⊂ ⊂(29.2) X A⊂ และ B X∩ ≠ ∅(30) ถ้า B A⊂ โดย n(A) 10= , n(B) 4= ให้หาค่า n(C) ในแต่ละข้อต่อไปนี้(30.1) C { S | B S A }= ⊂ ⊂(30.2) C { S A | S B }= ⊂ ∩ ≠ ∅(31) กําหนด A {0, 2, 4, 6, 8}= B {0, 1, 2}= C {1, 2, 3}= D {0, 2, 3}=ให้หาจํานวนเซต X ซึ่ง X A⊂ และตรงตามเงื่อนไขต่อไปนี้(31.1) B C X∩ ⊂ (31.3) B D X∩ ⊂(31.2) B C X∩ ⊄ (31.4) B D X∩ ⊄(32) ถ้า {1, 2, 3, 4, ..., 8}=UA {1}= −U B {2, 4, 6}= และ C {1, 7}=มีเซต D ที่เป็นไปได้กี่แบบที่ตรงตามเงื่อนไข (B C) D A− ⊂ ⊂(33) กําหนดให้ { x | 2 x 6 }= ∈ − < <U I เมื่อ =I เซตของจํานวนเต็ม2A { k | k }= ∈ U และ B { k | k }= ∈ Uจํานวนสมาชิกของเซต C { x | A B x= ∩ ⊂ และ x A B }⊂ ∪ เป็นเท่าใด(34) ให้ A {a, b, c, d, f}= และ B {a, c, d, e}=เซต X ซึ่ง X A B⊂ ∪ และ A B X∩ ∩ ≠ ∅ มีกี่เซต(35) ให้ A {1, 3, 5, 7, 9}= และ kS { B A | n(B) k }= ⊂ =ให้หาค่า n(S) เมื่อ 1 4 52 3S S S S S S= ∪ ∪ ∪ ∪(36) กําหนดเซต A, B เป็นสับเซตของ U หาก n( ) 100=U , n(A ) 40= , n(B) 55= ,n(A B ) 32∩ = แล้วค่าของ n(A B )∩ เป็นเท่าใด1.3 โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเซต• โจทย์ปัญหาที่เป็นเหตุการณ์ จะใช้แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ ช่วยในการคํานวณส่วนประกอบต่างๆและมีสูตรในการหาจํานวนสมาชิกในเซตเพิ่มเติมดังนี้สําหรับ 2 เซตn(A B) n(A) n(B) n(A B)∪ = + − ∩สําหรับ 3 เซตn(A B C) n(A) n(B) n(C) n(A B)∪ ∪ = + + − ∩n(A C) n(B C) n(A B C)− ∩ − ∩ + ∩ ∩Math E-Book Release 2.1 (คณิต มงคลพิทักษสุข)